กฎหมาย ระเบียบ ท่ีเก่ียวข้อง

พระราชกฤษฎีกาค่าเช่าบา้นข้าราชการ พ.ศ. ๒๕๔๗

พระราชกฤษฎีกาค่าเช่าบา้นข้าราชการ (ฉบบัท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๐

พระราชกฤษฎีกาค่าเช่าบา้นข้าราชการ (ฉบบัท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๕๒

พระราชกฤษฎีกาค่าเช่าบา้นข้าราชการ (ฉบบัท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๕๖

กฎหมาย ระเบียบท่ีเก่ียวข้อง

ระเบียบกระทรวงการคลงัว่าด้วยหลกัเกณฑแ์ละวิธีการเก่ียวกบัการเบิกจ่ายเงินค่าเช่าบ้านข้าราชการ พ.ศ. ๒๕๔๙

ระเบียบกระทรวงการคลงัว่าด้วยหลกัเกณฑแ์ละวิธีการเก่ียวกบัการเบิกจ่ายเงินค่าเช่าบ้านข้าราชการ (ฉบบัท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๒

หลกัเกณฑแ์ละวิธีปฏิบติัในการจดัขา้ราชการเข้าพกัอาศยัในท่ีพกัของทางราชการ พ.ศ. ๒๕๕๑

หนังสือเวียนแนวทางปฏิบติัต่างๆ

บุคคลยา้ย ม.๗ ส านกังานยา้ย ม.๘

หลกัการเกิดสิทธิ

เช่าบา้น เช่าซ้ือหรอืผ่อนช าระเงินกูเ้พือ่ช าระราคาบา้น

ซ้ือบา้นในทอ้งท่ี

(ม.๑๗)

ใชสิ้ทธิซ้ือบา้นตอ่เน่ือง

(ม.๑๘)

การใชส้ทิธ ิ

ใชส้ทิธเิช่าบา้น

ม.๑๔

ใชสิ้ทธิเช่าบา้นตอ่เน่ือง

(ม.๑๕)

การเกิดสิทธิได้รบัค่าเช่าบา้น พ.ร.ฎ.ค่าเช่าบา้นข้าราชการ พ.ศ. ๒๕๔๗ และท่ีแก้ไขเพ่ิมเติม มาตรา ๗ ข้าราชการผู้ใดได้รบัค าสัง่ให้เดินทางไปประจ าส านักงานในต่างท้องท่ีมีสิทธิได้รบัค่าเช่าบ้านข้าราชการเท่าท่ีต้องจ่ายจริงตามท่ีสมควรแก่สภาพแห่งบ้าน แต่อย่างสงู ไม่เกินจ านวนเงินท่ีก าหนดไว้ตามบญัชีอตัราค่าเช่าบ้านข้าราชการท้ายพระราชกฤษฎีกาน้ี ทัง้น้ี เว้นแต่ผูนั้น้ (๑) ทางราชการได้จดัท่ีพกัอาศยัให้ตามหลกัเกณฑท่ี์กระทรวงการคลงั (๒) มีเคหสถานอันเป็นกรรมสิทธ์ิของตนเองหรือคู่สมรสในท้องท่ีท่ีไปประจ าส านักงานใหม่โดยไม่มีหน้ีค้างช าระกบัสถาบนัการเงิน (๓) ได้รบัค าสัง่ให้เดินทางไปประจ าส านักงานใหม่ในต่างท้องท่ีตามค าร้องขอของตนเอง ความในวรรคหน่ึง ให้ใช้บงัคบัแก่ข้าราชการผู้ได้รบัค าสัง่ให้เดินทางไปประจ าส านักงานในต่างท้องท่ีท่ีเป็นท้องท่ีท่ีเร่ิมรบัราชการครัง้แรกหรือท้องท่ีท่ีกลบัเข้ารบัราชการใหม่ด้วย

หมายถึง

๑. ข้าราชการพลเรือน ๒. ข้าราชการฝ่ายตลุาการ ๓. ข้าราชการฝ่ายอยัการ ๔. ข้าราชการพลเรือน ในมหาวิทยาลยั ๕. ข้าราชการฝ่ายรฐัสภา ๖. ข้าราชการต ารวจ

๗. ข้าราชการทหาร ๘. ข้าราชการคร ู

ข้าราชการ (มาตรา ๔)

ท้องท่ีท่ีได้รบัการบรรจแุละแต่งตัง้ให้ปฏิบติัราชการ หรอืมีค าสัง่ให้ไปปฏิบติัราชการ และได้มีการรายงานตวัเพื่อปฏิบติัราชการตามพระราชกฤษฎีกาน้ีเป็นครัง้แรก (มาตรา ๔)

“ท้องท่ีท่ีเร่ิมรบัราชการครัง้แรก”

“ท้องท่ีท่ีกลบัเข้ารบัราชการใหม่” ท้องท่ีท่ีกลบัเข้ารบัราชการเป็นข้าราชการตามพระราชกฤษฎีกาน้ี (มาตรา ๔)

สิทธิของข้าราชการผูท่ี้ได้รบัค าสัง่ให้เดินทางไปประจ าส านักงานในท้องท่ีท่ีเร่ิมรบัราชการครัง้แรกหรอืท้องท่ีท่ีกลบัเข้ารบัราชการใหม่ ให้เร่ิมมีสิทธิการได้รบัค่าเช่าบ้านข้าราชการเมื่อได้ร ับค าสัง่ให้เดินทางไปประจ าส านักงานใน ต่างท้องท่ีตัง้แต่วนัท่ีพระราชกฤษฎีกาน้ีมีผลใช้บงัคบั

มีผลใชบ้งัคบัวนัท่ี ๑๑ ธนัวาคม ๒๕๕๐

ย้ายกลับมาในท้องที่บรรจุครัง้แรกก่อนวันที่ ๑๑ ธ.ค. ๕๐ ไม่เกิดสิทธิ

ย้ายกลับมาในท้องที่บรรจุครัง้แรกตัง้แต่วันที่ ๑๑ ธ.ค. ๕๐ เกิดสิทธิ

๑๑ ธ.ค. ๕๐

ข้าราชการประเภทอ่ืนโอน

พระราชกฤษฎีกาค่าเช่าบา้นข้าราชการ (ฉบบัท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๕๖ มาตรา ๗/๑ ในกรณีเจ้าหน้าท่ีของรฐัซ่ึงไม่ใช่ขา้ราชการตามพระราชกฤษฎีกาน้ีโอนมาเป็นข้าราชการไม่ว่าครัง้ใดก็ตาม การบรรจุและแต่งตัง้ผู้โอนมาเป็นข้าราชการนัน้ในท้องท่ีใด ให้ถือว่าเป็นการบรรจุและแต่งตัง้ในท้องท่ีท่ีเร่ิมรบัราชการครัง้แรกตามพระราชกฤษฎีกาน้ี และไม่มีสิทธิได้ร ับค่าเช่าบ้านข้าราชการ จนกว่าจะได้รบัค าสัง่ให้เดินทางไปประจ าส านักงานในต่างท้องท่ีตามมาตรา ๗

(มีผลใช้บงัคบัตัง้แต่วนัท่ี ๑๐ ต.ค.๒๕๕๖)

เมือง ปราจีนบรีุ

เมือง นครนายก

ค าถาม นายภาคภมิู ได้รบัการบรรจุแต่งตัง้ให้ด ารงต าแหน่งท่ีกรุงเทพฯ ตามค าสัง่ท่ี ๓๔/๒๕๕๒ ลงวนัท่ี ๑๐ มีนาคม ๒๕๕๒ ในวนัเดียวกนักรม ได้ออกค าสัง่ท่ี ๓๕/๒๕๕๒ ให้ไปปฏิบติัราชการประจ าท่ี อ. เมือง จ. นครนายก

กรงุเทพฯ

ค าถาม นายเขม ได้รบัค าสัง่และบรรจุแต่งตัง้ให้ด ารงต าแหน่งท่ีกรุงเทพฯ ตามค าสัง่ท่ี ๓๔/๒๕๔๗ ลงวนัท่ี ๑ มีนาคม ๒๕๔๗ ในวนัเดียวกนักรมได้ออกค าสัง่ท่ี ๓๕/๒๕๔๗ ให้ไปปฏิบติัราชการประจ าท่ี อ. เมือง จ. นครนายก ซ่ึงนายเขม ได้ไปรายงานตวัและปฏิบติัราชการท่ี อ.เมือง จ. นครนายก ต่อมาได้รบัค าสัง่ให้ย้ายใไปปฏิบติัราชการท่ี อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี และเมื่อวนัท่ี ๑ มกราคม ๒๕๕๐ ได้รบัค าสัง้ให้ย้ายกลับไปปฏิบติัราชการท่ี อ.เมือง จ.นครนายก นายเขม จะมีสิทธิได้รบัค่าเช่าบ้านหรือไม่ ?

ข้อยกเว้นท าให้ไม่มีสิทธิได้รบัค่าเช่าบา้น

มาตรา ๗(๑)

ทางราชการได้จดัท่ีพกัอาศยัให้ตาม หลกัเกณฑท่ี์กระทรวงการคลงัก าหนด

หลกัเกณฑใ์นการจดัที่พกัของทางราชการ

ความจ าเป็นและเหมาะสม ความประหยดัและประโยชน์ของทางราชการเป็นส าคญั สามารถปรบัเปล่ียนได้ (ข้อ ๓ วรรคแรก)

หลกัเกณฑก์ารจดัท่ีพกั ข้อ ๓(๑)

ข้าราชการประเภททัว่ไป ระดบัอาวโุส ประเภทวิชาการ ระดบัช านาญการพิเศษ ขึน้ไป ประเภทอ านวยการ ประเภทบริหาร หรอืระดบั ๗ ขึน้ไปหรอืเทียบเท่า ทหารยศพนัโท นาวาโท นาวาอากาศโท ขึน้ไป ต ารวจยศพนัต ารวจโทขึน้ไป เมื่อถกูจดัต้องเข้าพกัอาศยั

• ไม่ว่าข้าราชการผูจ้ะมีสิทธิเบิกค่าเช่าบา้นหรอืไม่ • ไม่ว่าจะเป็นผูใ้ช้สิทธิเบิกค่าเช่าซ้ือหรอืผอ่นช าระเงินกู้อยู่ก่อนแล้วหรอืไม ่

ข้าราชการประเภททัว่ไป ระดบัช านาญงาน ประเภทวิชาการระดบัช านาญการ ลงมา หรือระดบั ๖ ลงมา หรือเทียบเท่า ทหารยศพนัตรี นาวาตรี นาวาอากาศตรีลงมา ต ารวจยศพนัต ารวจตรีลงมา

• ผูมี้สิทธิได้รบัค่าเช่าบา้น

หลกัเกณฑก์ารจดัท่ีพกั ข้อ ๓(๒)

การจดัท่ีพกัให้กบัข้าราชการตาม ข้อ๓(๒) หากข้าราชการผู้มีสิทธิได้รบัค่าเช่าบ้านและอยู่ระหว่างใช้สิทธิเบิกค่าเช่าซ้ือหรือผอ่นช าระเงินกู้เพ่ือช าระราคาบา้นอยู่ ตามมาตรา ๑๗ หรือมาตรา ๑๘ ในท้องท่ีท่ีปฏิบติัราชการนัน้ ผู้มีอ านาจจดัท่ีพกัไม่ต้องจดัข้าราชการ ผูนั้น้เข้าท่ีพกั

• ย้ายไปประจ าส านักงานใหม่ซ่ึงอยู่ในท้องท่ีเดียวกนั ไม่ต้องจดัท่ีพกัให้ • ย้ายต่างท้องท่ี แม้ท้องท่ีนัน้เป็นท้องท่ีเดิมเคยใช้สิทธิเบิกค่าเช่าซ้ือหรือผ่อนช าระเงินกู้

สามารถจดัเข้าท่ีพกัได้

หลกัเกณฑก์ารจดัท่ีพกั ข้อ ๓(๓)

การจดัข้าราชการเข้าท่ีพกั

• จดัให้กบัข้าราชการบรรจคุรัง้แรกและเดือดร้อนในเรื่องท่ีอยู่อาศยัได้ ตามข้อ ๓(๔)

• ข้าราชการถกูจดัท่ีพกั ต่อมาท่ีพกัมีสภาพช ารุด ทรุดโทรม มีลกัษณะ ไม่ปลอดภยัต่อชีวิต ร่างกายและทรพัยสิ์นของผูเ้ข้าอยู่อาศยั หรือมีเหตุสดุวิสยั เช่น ไฟไหม้ น ้าท่วม จนไม่สามารถเข้าอยู่อาศยัได้ หากผูมี้สิทธิได้รบัค่าเช่าบา้นจ าเป็นต้องเช่าบา้นและอาศยัอยู่จริงให้เบิกค่าเช่าบ้านได้จนกว่าจะซ่อมแซมท่ีพักเสร็จ หรือเหตุสุดวิสัยได้รับการแก้ไข ตามข้อ ๖ วรรคสอง

การสละสิทธิการเข้าท่ีพกั

จดัท่ีพกัให้แล้วไม่เข้าพกัอาศยัในท่ีพกัถือวา่สละสิทธิการเข้าพกัอาศยัย่อมไม่มีสิทธิได้รบัค่าเช่าบา้น ตามข้อ ๓(๖) วรรคสอง

ผู้ท่ีสละสิทธิฯ สิทธิกลบัคืนมาเม่ือส่วนราชการรือ้ถอนท่ีพกัทัง้หมดตามข้อ ๕ หรือจดัเข้าท่ีพกัเสียใหม่ทัง้หมดตามข้อ ๑๐

ค าถาม นายเพชร นิติกรช านาญการ รบัราชการอยู่ท่ี อ.เมือง จ. เพชรบูรณ์ และได้ใช้สิทธิน าหลกัฐานการผ่อนช าระเงินกู้เพ่ือช าระราคาบ้านมาเบิกค่าเช่าบ้าน ต่อมาได้รบัค าสัง่ย้ายให้ไปปฏิบติัราชการท่ี อ.เมอืง จ.เชียงราย ส่วนราชการมีบ้านพกัว่างอยู่ ส่วนราชการสามารถจดัท่ีพกัให้นายเพชรเข้าพกัอาศยัได้หรือไม ่? ต่อมานายเพชรได้รับค าสัง่ให้ย้ายกลับให้มาปฏิบติัราชการท่ี อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ซ่ึงส่วนราชการได้จดัท่ีพกัให้ แต่นายเพชรไมเ่ข้าาพกัอาศยัและได้ยื่นหลกัฐานการผ่อนช าระเงินกู้ฯ บ้านหลงัเดิมมาเบิกค่าเช่าบ้าน โดยอ้างว่าได้เคยใช้สิทธิอยู่ก่อนแล้วตามหลกัเกณฑ์ฯ ข้อ ๓(๓) ได้หรือไม ่?

เมือง เพชรบรูณ์

เมือง เชียงราย

ข้อยกเว้นท าให้ไม่มีสิทธิได้รบัค่าเช่าบ้าน

มาตรา ๗(๒)

มีเคหสถานอนัเป็นกรรมสิทธ์ิของตนเองหรือคู่สมรสในท้องท่ีท่ีไปประจ าส านักงานใหม่ โดยไม่มีหน้ีค้างช าระกบัสถาบนัการเงิน

ค าถาม นายตลุย ์รบัราชการประจ าอยู่ท่ีกรงุเทพฯ บิดาได้โอนกรรมสิทธ์ิบ้าน ท่ีตัง้อยู่ในท้องท่ี อ.เมือง จ. พิจิตร ให้ ต่อมาได้รบัค าสัง่ให้ไปปฏิบติัราชการท่ี อ.เมือง จ. พิจิตร ต่อมาภายหลงันายตุลย์ได้รื้อบ้านหลงัดงักล่าว แล้วกู้เงินจากสถาบนัการเงินเพื่อช าระค่าจ้างปลูกสร้างบ้านหลงัใหม่แทน นายตุลย์จะมีสิทธิได้รบั ค่าเช่าบา้นหรือไม่ ?

กรงุเทพฯ เมือง พิจิตร

รือ้

เมือง สพุรรณบรุ ี

ด่านช้าง สพุรรณบรีุ

ค าถาม นายธนัวารบัราชการประจ าอยู่ท่ี อ.เมือง สุพรรณบุรี ได้รบัค าสัง่ให้ไปปฏิบติัราชการประจ าท่ี อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี เป็นผู้มีสิทธิได้รบัค่าเช่าบ้าน ต่อมาบิดาของ คู่สมรสได้เสียชีวิต โดยได้ท าพินัยกรรมยกกรรมสิทธ์ิเฉพาะท่ีดินใน อ.ด่านช้าง ให้แก่ คู่สมรส ส่วนบ้านบนท่ีดินยกกรรมสิทธ์ิให้มารดาของคู่สมรส ต่อมาได้รื้อบ้านหลังดงักล่าวแล้วนายธนัวาได้ท าสญัญากู้เงินจากธนาคารเพ่ือจ้างปลูกสร้างบ้านหลงัใหม่โดย ใช้บ้านเลขท่ีเดิม นายธนัวาจะมีสิทธิได้รบัค่าเช่าบ้านหรือไม่ ?

รือ้

มาตรา ๙ ข้าราชการผูใ้ดรบัราชการหรือได้รบัค าสัง่ให้ไปรบัราชการในท้องท่ีใด และไม่มีสิทธิได้รบัค่าเช่าบา้นข้าราชการเพราะเหตท่ีุมีเคหสถานอนัเป็นกรรมสิทธ์ิของตนเอง หรือคู่สมรสตามมาตรา ๗(๒) แม้ว่ากรรมสิทธ์ิในเคหสถานได้โอนไปด้วยเหตุใด กไ็ม่ท าให้เกิดสิทธิท่ีจะได้รบัค่าเช่าบ้านข้าราชการในระหว่างรบัราชการในท้องท่ีนัน้ เว้นแต่ เคหสถานนัน้ถกูท าลาย หรือเสียหายเน่ืองจาก ภยัพิบติัจนไม่สามารถพกัอาศยัได้

ภยัพิบติั หมายความว่า ภยัธรรมชาติหรือความเสียหายอย่างใด ๆ ซ่ึงเกิดขึน้โดยท่ีผูซ่ึ้งได้รบัความเสียหายนัน้ ไม่มีส่วนท่ีจะต้องร่วมรบัผิดด้วย (มาตรา ๔)

ค าถาม นายตะวนั รบัราชการครัง้แรกท่ี อ.เมือง จ. แพร่ ในขณะท่ีรบัราชการอยู่ในท้องท่ีดงักล่าวคู่สมรสได้ซ้ือบ้านระหว่างสมรสท่ีตัง้อยู่ใน อ.เมือง จ.น่าน ซ่ึงไม่มีหน้ีค้างช าระ ต่อมาปี พ.ศ. ๒๕๕๐ นายตะวนัได้รบัค าสัง่ย้ายให้ไปรบัราชการประจ าในท้องท่ี อ.เมือง จ. น่าน ต่อมาปี พ.ศ. ๒๕๕๒ ส านักงานบงัคบัคดีจงัหวดัน่านได้ยึดกรรมสิทธ์ิบ้านหลงัดงักล่าว และขายทอดตลาดไป นายตะวนัได้ท าสญัญากู้เงินจากสถาบนัการเงินเพ่ือซ้ือบ้านหลงัใหม่ ในท้องท่ีดงักล่าว นายตะวนัจะมีสิทธิได้รบัค่าเช่าบา้นหรือไม่ ?

เมือง แพร่

เมือง น่าน ถูกขายทอดตลาด

ได้รบัค าสัง่ให้เดินทางไปประจ าส านักงานใหม่ในต่างท้องท่ีตามค าร้องขอของตนเอง

มาตรา ๗(๓) ข้อยกเว้นท าให้ไม่มีสิทธิได้รบัค่าเช่าบ้าน

การร้องขอย้ายไปในท้องท่ีใดแล้ว ส่วนราชการมีค าสัง่ให้ย้ายตามค าร้องท่ีแจ้งความประสงค ์ย่อมให้ไม่เกิดสิทธิค่าเช่าบา้น เว้นแต่เป็นการย้ายไป ไม่ตรงกบัท่ีได้แจ้งความประสงคไ์ว้

การร้องขอย้ายในค าสัง่ย้ายไม่ได้ระบุค าว่า “ย้ายตามค าร้อง” แต่ข้อเทจ็จริง มีการร้องขอย้ายท่ีเกิดจากตวัข้าราชการ ย่อมไม่เกิดสิทธิค่าเช่าบา้น

การโอนไปรบัราชการอีกส่วนราชการหน่ึงไม่ถือเป็นการย้ายตามค าร้องขอของตามหนังสือเวียน ด่วนท่ีสดุ ท่ี กค ๐๕๒๖.๕/ว ๑๐๙ ลว ๒๐ ธ.ค. ๒๕๔๒

การสอบเล่ือนระดบั แล้วให้แจ้งความประสงคเ์ลือกท้องท่ีไม่ถือเป็นการร้องของย้าย กรณีร้องขอย้ายในท้องท่ีเดิมสิทธิไม่เปล่ียนแปลง กรณีย้ายตามค าร้องขอก่อนท่ีพระราชกฤษฎีกาค่าเช่าบา้นข้าราชการ (ฉบบัท่ี ๖)

พ.ศ.๒๕๔๑ มีผลบงัคบัใช้ ๒๖ มิ.ย.๔๑เป็นผูมี้สิทธิได้รบัค่าเช่าบา้นอยู่ก่อนวนัท่ี ๒๖ มิ.ย.๔๑ กใ็ห้มีสิทธิได้รบั ค่าเช่าบา้นต่อไปได้ (หนังสือเวียน ด่วนท่ีสดุ ๐๔๐๙.๕/ ว ๑๙ ลว. ๑๓ มี.ค. ๒๕๔๙

ค าถาม นายโลมา รบัราชการครัง้แรกอยู่ท่ี อ.เมือง จ.ภเูกต็ ต่อมาได้รบัค าสัง่ให้ไปช่วยราชการประจ าท่ี อ.หาดใหญ่ ทัง้น้ี ตัง้แต่บดัน้ีเป็นต้นไป ขณะท่ีนายโลมา ร ับราชการอยู่ ท่ี อ.หาดใหญ่ ก็ได้เขียนค าร้องขอย้ายไปรับราชการประจ าท่ี อ.หาดใหญ่ ต่อมาทางราชการกไ็ด้มีค าสัง่ย้ายไปรบัราชการประจ าท่ี อ.หาดใหญ่ นายโลมาจะมีสิทธิได้รบัค่าเช่าบา้นข้าราชการหรือไม่ ?

เมือง ภเูกต็

หาดใหญ่ สงขลา

ข้าราชการผู้ใดต้องไปปฏิบติัราชการประจ าส านักงานในต่างท้องท่ีเน่ืองจากส านักงานท่ีปฏิบัติราชการประจ าอยู่เดิมได้ย้ายสถานท่ี ท าการไปตัง้ในท้องท่ีใหม่มีสิทธิได้รบัค่าเช่าบ้านข้าราชการตาม พระราชกฤษฎีกาน้ีเช่นเดียวกบัข้าราชการซ่ึงได้รบัค าสัง่ให้เดินทางไปประจ าส านักงานในต่างท้องท่ีตามมาตรา ๗ เว้นแต่ท้องท่ีใหม่ ท่ีส านักงานได้ย้ายไปนัน้อยู่ใกล้เคียงกบัท้องท่ีท่ีตัง้ส านักงานเดิมตามหลกัเกณฑท่ี์กระทรวงการคลงัก าหนด

การเกิดสิทธิไดรบัค่าเช่าบ้าน กรณีส านักงานย้าย

(มาตรา ๘)

ท้องท่ีใกล้เคียงของกรงุเทพฯ

๓. จังหวดัสมุทรปราการ ๓.๑ อ าเภอเมืองสมุทรปราการ ๓.๒ อ าเภอบางบ่อ ๓.๓ อ าเภอบางพล ี ๓.๔ อ าเภอพระประแดง ๓.๕ อ าเภอพระสมุทรเจดย์ี ๔. จังหวดัสมุทรสาคร ๔.๑ อ าเภอเมืองสมุทรสาคร ๕. จังหวดันครปฐม ๕.๑ อ าเภอพุทธมณฑล

๑. จังหวดันนทบุรี ๑.๑ อ าเภอเมืองนนทบุรี ๑.๒ อ าเภอบางกรวย ๑.๓ อ าเภอบางบัวทอง ๑.๔ อ าเภอบางใหญ่ ๑.๕ อ าเภอปากเกร็ด ๒. จังหวดัปทุมธานี ๒.๑ อ าเภอเมืองปทุมธานี ๒.๒ อ าเภอคลองหลวง ๒.๓ อ าเภอธัญบุรี ๒.๔ อ าเภอล าลูกกา

กรณีส านักงานได้ย้ายท่ีตัง้ส านักงานภายในจงัหวดัเดียวกนัหรือระหว่างจังหวดั ต้องเป็นเขตท้องท่ีติดต่อกนัและมีขนส่งสาธารณะประจ าทางให้บริการ

ท้องท่ีใกล้เคียง กรณีต่างจงัหวดั

ค าถาม นายสุขสนัต์รบัราชการครัง้แรกอยู่ท่ีกรงุเทพฯ ต่อมาส านักงานได้ย้ายไปตัง้อยู่ท่ี อ. เมือง จ.นนทบุรี ต่อมาวนัท่ี ๑ มกราคม ๒๕๕๖ ได้รบัค าสัง่ย้ายรบัราชการท่ี อ. บางบวัทอง และต่อมาวนัท่ี ๑ เมษายน ๒๕๕๘ นายสุขสนัตไ์ด้โอนไปรบัราชการต่างกรมในท้องท่ีกรงุเทพฯ จะมีสิทธิได้รบัค่าเช่าบ้านหรอืไม่ ?

กรงุเทพฯ เมือง นนทบรุี

โอน

บางบวัทอง นนทบรุี

ข้าราชการและคู่สมรสรบัราชการในท้องท่ีเดียวกนัและต่างมีสิทธิได้รบัค่าเช่าบ้านข้าราชการ ให้เบิกจ่ายได้เฉพาะคนใดคนหน่ึง

ข้าราชการผู้ใดมีสิทธิได้รบัค่าเช่าบ้านข้าราชการตามพระราชกฤษฎีกาน้ีและ มีคู่สมรสเป็นข้าราชการกรงุเทพมหานคร พนักงานส่วนท้องถ่ิน หรือพนักงานหรือลูกจ้างของรฐัวิสาหกิจ หรือพนักงานหรือเจ้าหน้าท่ีองค์กรอิสระตามรฐัธรรมนูญ หรือองค์การมหาชน ถ้าคู่สมรสของผู้นัน้ได้ใช้สิทธิเบิกค่าเช่าบ้าน หรือข้าราชการ ผู้นัน้ได้อยู่ในท่ีพกัอาศยัท่ีทางราชการจดัให้แก่คู่สมรสในท้องท่ีเดียวกนั ข้าราชการ ผู้นัน้ไม่มีสิทธิเบิกค่าเช่าบ้านข้าราชการ

การเกิดสิทธิได้รบัค่าเช่าบ้านทัง้สองฝ่ายมาตรา ๑๐

• การลดหรืองดเบิกจ่ายเงินเดือนแก่ข้าราชการผู้ใด เน่ืองจากการถกูตดัเงินเดือนหรือการลาโดยไม่มีสิทธิได้รบัเงินเดือน ไม่กระทบต่อสิทธิการได้รบัค่าเช่าบ้าน และผู้นัน้ให้มีสิทธิได้รบัค่าเช่าบ้านข้าราชการเสมือนหน่ึงไม่มีการลดหรืองดเบิกจ่ายเงินเดือน

• เว้นแต่เป็นการลาติดตามคู่สมรสซ่ึงย้ายไปรบัราชการในต่างประเทศ

การถกูตดัเงินเดือนหรือการลา มาตรา ๑๒

ค าถาม นายสหรฐัรบัราชการอยู่ท่ี อ.เมือง จ.ชลบุรี และได้ใช้สิทธิเบิกค่าเช่าบ้าน ต่อมานายสหรฐัได้รบัอนุญาตให้ลาศึกษาต่อท่ีกรุงเทพฯ เป็นระยะเวลา ๑ ปี และได้เช่าบ้านในกรุงเทพฯ เพื่ออยู่อาศยั นายสหรฐัจะใช้สิทธิเบิกค่าเช่าบ้าน ท่ี อ.เมือง จ.ชลบุรี ได้หรอืไม่ และมีสิทธิเบิกค่าเช่าบ้านท่ีกรงุเทพฯ ได้หรอืไม่ ?

เมือง ชลบรีุ

กรงุเทพฯ

ข้าราชการผู้ใดซ่ึงมีสิทธิได้รบัค่าเช่าบ้านข้าราชการถกูสัง่พกัราชการหรือถกูสัง่ให้ออกจากราชการไว้ก่อน หรือมีกรณีอ่ืนใด อนัเป็นเหตุให้ถกูงดเบิกจ่ายเงินเดือน ให้งดเบิกจ่ายค่าเช่าบ้านข้าราชการ เมื่อกรณีถึงท่ีสุด ถ้าปรากฏว่าผูนั้น้มีสิทธิได้รบัเงินเดือนในระหว่างกรณีเช่นว่านัน้ส าหรบัเดือนใด ให้มีสิทธิได้รบัค่าเช่าบา้น

ให้ข้าราชการมีสิทธิได้รบัเงินค่าเช่าบ้านข้าราชการตัง้แต่วนัท่ีข้าราชการ ผู้นัน้ได้เช่าอยู่จริง แต่ไม่ก่อนวันท่ีรายงานตัวเพื่อเข้ารบัหน้าท่ีและให้ส้ินสุดในวนัท่ีขาดจากอตัราเงินเดือนหรือวนัท่ีอยู่ในข่ายหมดสิทธิได้รบั ค่าเช่าบ้านข้าราชการ ...

วนัท่ีเร่ิมมีสิทธิทธิและหมดสิทธิได้รบัค่าเช่าบ้านมาตรา ๑๔

เมือง ตาก

เมือง พะเยา

ค าถาม นายสายฟ้า รบัราชการอยู่ท่ี อ.เมือง จ.ตาก และได้ใช้สิทธิเบิกค่าเช่าบ้าน ต่อมาวันท่ี ๑ มิถนุายน ๒๕๕๗ กรมได้มีค าสัง่ให้ไปปฏิบติัราชการประจ าท่ี อ.เมือง จ.พะเยา และได้ไปเช่าบ้านท่ี อ.เมือง จ.พะเยา ตัง้แต่วนัท่ี ๑ มิถนุายน ๒๕๕๗ โดยนายสายฟ้าได้ไปรายงานตวัเพ่ือปฏิบติังานในท้องท่ีใหม่ตัง้แต่วนัท่ี ๑๕ มิถนุายน ๒๕๕๗ ต่อมาเม่ือวนัท่ี ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ นายสายฟ้าได้เสียชีวิตลง นายสายฟ้ามีสิทธิเบิกค่าเช่าบ้านในท้องท่ีใหม่ตัง้แต่วนัท่ีเท่าไร และหมดสิทธิเบิกค่าเช่าบ้านตัง้แต่วนัท่ีเท่าไร?

ในกรณีท่ีข้าราชการซ่ึงได้รบัค่าเช่าบ้านข้าราชการอยู่แล้วในท้องท่ีหน่ึงและต่อมาได้รบัแต่งตัง้ให้ไปรบัราชการในท้องท่ีอ่ืนซ่ึงตนมีสิทธิได้รบัค่าเช่าบ้านข้าราชการตามพระราชกฤษฎีกาน้ี ให้ข้าราชการผู้นัน้มีสิทธิน าหลกัฐานการช าระค่าเช่าบ้านในท้องท่ีเดิมมาเบิกค่าเช่าบ้านข้าราชการในท้องท่ีใหม่ได้ ถ้าคู่สมรสหรือบุตรซ่ึงอยู่ในอปุการะของข้าราชการผู้นัน้ไม่อาจติดตามข้าราชการผู้นัน้ไปได้และมีความจ าเป็นต้องอาศยัอยู่ในบ้านในท้องท่ีเดิมต่อไป

การใช้สิทธิเบิกค่าเช่าบ้านต่อเน่ือง มาตรา ๑๕

ข้าราชการต้องมีสิทธิได้รบัค่าเช่าบา้น

ได้เช่าซ้ือหรอืผอ่นช าระเงินกู้เพื่อช้ือบา้น ต้องเป็นบ้านท่ีตัง้อยู่ในท้องท่ีท่ีไปประจ าส านักงานใหม ่ ต้องใช้เป็นท่ีอยู่อาศยัและได้อาศยัอยู่จริง

หลกัเกณฑก์ารเบิกค่าเช่าซ้ือหรือค่าผ่อนช าระเงินกู้ มาตรา ๑๗

เงื่อนไขการใช้สิทธิเบิกค่าเช่าซ้ือ

(๑) ตนเอง หรือคู่สมรส ได้ท าการผ่อนช าระค่าเช่าซ้ือหรือผ่อนช าระเงินกู้เพ่ือช าระราคาบ้านในท้องท่ีนัน้ จะเบิกจ่ายได้เฉพาะบ้านหลงัแรกเท่านัน้ เว้นแต่บ้านหลงัท่ีเคยใช้สิทธิถกูท าลายหรือเสียหายเน่ืองจากภยัพิบติัจนไม่สามารถพกัอาศยัอยู่ได้ ม. ๑๗ (๑)

(๒) หากเช่าซ้ือหรือกู้เงินเพ่ือช าระราคาบ้านร่วมกบับุคคลอ่ืนซ่ึงไม่ใช่คู่สมรสและ มีกรรมสิทธ์ิรวมกบับคุคลอ่ืนในบ้านนัน้ จะเบิกจ่ายค่าเช่าซ้ือหรือค่าผ่อนช าระเงินกู้ได้ตามสดัส่วนแห่งกรรมสิทธ์ิส าหรบับ้านหลงัดงักล่าวม. ๑๗(๒)

เง่ือนไขการใช้สิทธิเบิกค่าเช่าซ้ือฯ

(๓) จะต้องเป็นการผ่อนช าระกบัสถาบนัการเงิน และสญัญาเช่าซ้ือหรือสญัญาเงินกู้ต้องเป็นไปตามหลกัเกณฑแ์ละวิธีการท่ีกระทรวงการคลงัก าหนด ม.๑๗(๓)

(๔) จะต้องไม่เคยใช้สิทธิน าหลกัฐานการช าระค่าเช่าซ้ือหรือค่าผ่อนช าระเงินกู้ส าหรบับ้านหลงัหน่ึงหลงัใดในท้องท่ีนัน้มาแล้ว เว้นแต่เป็นกรณีท่ีได้รบัแต่งตัง้ให้กลับไปรบัราชการในท้องท่ีท่ีเคยใช้สิทธินั้นอีก และเป็นการใช้สิทธิน าหลกัฐานการช าระค่าเช่าซ้ือหรือค่าผ่อนช าระเงินกู้ตามท่ีได้เคยใช้สิทธิมาแล้ว หรือขณะท่ีย้ายมารบัราชการในท้องท่ีนัน้บ้านท่ีเคยใช้สิทธิได้โอนกรรมสิทธ์ิไปแล้ว ม.๑๗(๔)

(๕) หากเงินกู้เพ่ือช าระราคาบ้านสูงกว่าราคาบ้าน ให้น าค่าผ่อนช าระเงินกู้มาเบิกค่าเช่าบ้านข้าราชการได้ โดยให้ค านวณตามหลักเกณฑ์และวิธีการท่ีกระทรวงการคลงัก าหนด ม.๑๗(๕)

เง่ือนไขการใช้สิทธิเบิกค่าเช่าซ้ือฯ

สถาบนัการเงิน (ระเบยีบฯ ข้อ ๑๔)

(๑) ธนาคารพาณิชยต์ามกฎหมายว่าด้วยธนาคารพาณิชย ์(๒)รฐัวิสาหกิจท่ีมีวตัถปุระสงคเ์พ่ือด าเนินกิจการเก่ียวกบัการเคหะ (๓) สหกรณ์ท่ีจดทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยสหกรณ์และมีวตัถปุระสงคเ์พ่ือด าเนิน กิจการเก่ียวกบัการเคหะ (๔) กองทุนบ าเหน็จบ านาญข้าราชการตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนฯ (๕) ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยตามกฎหมายว่าด้วยธนาคารอิสลามฯ (๖) บริษทับริหารสินทรพัยต์ามพระราชก าหนดบริษทับริหารสินทรพัย ์พ.ศ.๒๕๔๑ ซ่ึงด าเนินกิจการรบัซ้ือหรือรบัโอนสินทรพัยด้์อยคณุภาพของสถาบนัการเงินตาม (๑) (๗) นิติบคุลท่ีมีวตัถปุระสงคเ์พ่ือด าเนินกิจการเก่ียวกบัการเคหะ

วงเงินในสญัญาซ้ือขายต า่กว่าสญัญากู้เงิน (ระเบยีบฯ ข้อ ๗ วรรคสอง)

หากวงเงินในสญัญาซ้ือขายบ้าน หรอืสญัญาซ้ือขายบ้านพรอ้มท่ีดิน หรือสัญญาจ้างปลูกสร้างบ้าน ต ่ากว่าสัญญากู้ เ งิน ข้าราชการผู้ใช้สิทธิต้องยื่นหลกัฐานท่ีสถาบนัการเงินรบัรองว่า หากมีการกู้วงเงินตามวงเงินในสญัญาดงักล่าว จะต้องมีการผอ่นช าระรายเดือนเป็นจ านวนเท่าใด

ให้น าบทบญัญติัมาตรา ๙ ถึงมาตรา ๑๔ มาใช้บงัคบักบั การเช่าซ้ือหรือการผอ่นช าระเงินกู้เพ่ือช าระราคาบ้าน โดยอนุโลม ตาม ม.๑๗ วรรคสอง

หลกัเกณฑก์ารเบิกค่าเช่าซ้ือหรือค่าผ่อนช าระเงินกู้ มาตรา ๑๗

• คู่สมรสของผู้มีสิทธิท าสญัญาซ้ือขายบ้าน หรือสญัญาจ้างปลูกสร้างบ้าน และสัญญากู้ เงิน ในระหว่างสมรสเพียงฝ่ายเดียว ผูมี้สิทธิสามารถน าหลกัฐานมาเบิกค่าเช่าบ้านจากทางราชการได้

• ซ้ือคอนโด ๒ ห้องเจาะทะลุฝาเป็นท่ีอยู่อาศยัในลกัษณะ ๑ หลงั ท าสญัญาในคราวเดียวกนัและสญัญาซ้ือขายฉบบัเดียวกนัเบิกได้ในวงเงินท่ีซ้ือ ๒ ห้อง

ประเดน็ส าคญัมาตรา ๑๗

• การท าสญัญากู้เงินฉบบัใหม่จะเบิกจ่ายตามวงเงินและระยะเวลาท่ีเหลืออยู่ตามสญัญาฉบบัแรก

• ซ้ือบา้น ๒ หลงัมาในคราวเดียวกนั เลือกหลงัท่ีใช้พกัอาศยั • ท าสญัญาซ้ือบา้นพร้อมท่ีดิน ซ่ึงมีโฉนดท่ีดิน จ านวน ๒ แปลง ติดกนั โดยบา้นตัง้อยู่บนท่ีดินแปลงเดียว

ประเดน็ส าคญัมาตรา ๑๗

• กู้เงินเพื่อช าระค่าปลูกสร้างบ้านหลายครัง้ เพราะบ้านยงัไม่แล้วเสรจ็ ให้ถือจ านวนเงินค่าสร้างจนถึงวันท่ีเข้าอยู่อาศัยบ้านหลงันั้นจริง เป็นหลกั ไม่ว่าจะกู้ครัง้เดียวหรือหลายครัง้ แต่การกู้เพ่ิมเติมภายหลงัจากสร้างบ้านเสร็จแล้วถือว่าไม่ใช่การกู้เงินเพื่อช าระราคาบ้าน ด่วนมาก ๐๕๐๒/ว ๔๙ ลว. ๒๙ มี.ค.๒๕๓๔

• บ้านท่ียงัมีหน้ีค้างช าระซ่ึงเป็นทรพัยสิ์นส่วนตวัของคู่สมรส ไม่สามารถน ามาเบิกค่าเช่าบ้านได้

• เบิกค่าเช่าซ้ือหรือค่าผ่อนช าระเงินกู้ ขณะเดียวกนักแ็บ่งห้องในบ้านหลงัดงักล่าวให้ผู้อ่ืนเช่าอาศยัอยู่ด้วย สามารถน าเบิกค่าเช่าบ้านได้ โดยไม่ต้องหกัเงินค่าเช่าท่ีได้รบั

ประเดน็ส าคญัมาตรา ๑๗

ค าถาม นายสายลมรบัราชการอยู่ท่ี อ.เมือง จ.ภเูก็ต เป็นผู้มีสิทธิได้รบั ค่าเช่าบ้าน ต่อมาได้จดทะเบียนสมรส กบั น.ส. สายรุ้ง ซ่ึงสายรุ้งได้ท าสัญญากู้เงินจากสถาบนัการเงินเพื่อซ้ือบ้านในท้องท่ีดงักล่าวไว้ก่อน จดทะเบียนสมรส ต่อมานายสายลมได้เพ่ิมช่ือเป็นผู้กู้ร่วมในสญัญากู้เงินนายสายลมจะสามารถน าหลกัฐานการผ่อนช าระเงินกู้ บ้านหลงัดงักล่าวมาเบิกได้ค่าเช่าบ้านได้หรอืไม่ ?

จดทะเบียนสมรส

เมือง ภเูกต็

ค าถาม นายปลาวาฬ รบัราชการอยู่ท่ี อ.ชะอ า จ.เพชรบุรี ได้ท าสญัญากู้เงินจากธนาคารร่วมกบัน้องชาย เม่ือวนัท่ี ๑ มกราคม ๒๕๕๐ จ านวน ๕ ล้านบาท ระยะเวลาผ่อนช าระ ๒๕ ปี เพ่ือซ้ือท่ีดินในท้องท่ีดงักล่าว ในราคา ๒ ล้านบาท และช าระราคาค่าจ้างปลูกสร้างบ้าน จ านวน ๒ ล้านบาท โดยได้ปรากฏช่ือน้องชายในสญัญาซ้ือขาย โฉนดท่ีดิน และสญัญาจ้างปลูกสร้างบ้าน ต่อมาพ.ศ. ๒๕๕๘ ได้ท าสญัญากู้เงินฉบบัท่ี ๒ กู้เงิน ๑ ล้านบาท ระยะเวลาผ่อนช าระ ๓๐ ปี เพ่ือต่อเติมและซ่อมแซมบ้าน นายเปลาวาฬจะสามารถน าหลกัฐานการผอ่นช าระเงินกู้ฯ ได้ภายในวงเงินและระยะเวลาเท่าไร ?

ชะอ า เพชรบรีุ

หลกัเกณฑก์ารใช้สิทธิเช่าช้ือต่อเน่ือง มาตรา ๑๘

• ในท้องท่ีเดิมข้าราชการต้องเคยได้ใช้สิทธิน าหลกัฐานการช าระ ค่าเช่าซ้ือฯ มาเบิกค่าเช่าบา้นตามมาตรา ๑๗

• ย้ายไปในท้องท่ีใหม่ตนเองมีสิทธิได้รบัค่าเช่าบา้น • มีสิทธิน าหลกัฐานในท้องท่ีเดิมมาเบิกค่าเช่าบา้นในท้องท่ีใหม่ได้

ค าถาม นายภผูา รบัราชการอยู่ท่ีกรงุเทพฯ ใช้สิทธิน าหลกัฐานการผอ่นช าระเงินกู ้ เพื่อช าระราคาบ้านมาเบิกค่าเช่าบ้าน ต่อมาได้รบัค าสัง่ให้ไปปฏิบติัราชการท่ี อ. เมือง จ. แม่ฮ่องสอน ซ่ึงเป็นผู้มีสิทธิได้รบัค่าเช่าบ้าน นายภูผาจะน าหลกัฐาน การผอ่นเงินกู้ฯในท้องท่ีเดิมมาเบิกค่าเช่าบ้านในท้องท่ีใหม่ได้หรอืไม่ ? และเมื่อผอ่นช าระเงินกู้จนครบวงเงินกู้ นายภผูาได้ท าสญัญากู้เงินเพื่อซ้ือบ้านหลงัใหม่ในท้องท่ี อ. เมือง จ.แม่ฮ่องสอน นายภูผาจะสามารถน าหลกัฐาน การผอ่นช าระเงินกู้ฯ มาเบิกค่าเช่าบ้านได้หรอืไม?่

กรงุเทพฯ เมือง

แม่ฮ่องสอน

ขั้นตอน/วิธีการเบิกค่าเช่าบา้นตามระเบียบฯ

๑.ยื่นแบบขอรบัค่าเช่าบา้น (แบบ ๖๐๐๕)

๒.รบัรอง

๔.อนุมติั

ยื่นแบบขอเบิกเงินค่าเช่าบา้น (แบบ ๖๐๐๖)

๓.คณะกรรมการ

สญัญาเช่าบา้น สญัญาเช่าซ้ือ

หรือสญัญากูเ้งินเพือ่ช าระ

ราคาบา้นและเอกสารที่เกี่ยวขอ้ง

หลกัฐานการช าระเงิน

• ยื่นแบบขอรบัค่าเช่าบ้าน (แบบ ๖๐๐๕) พร้อมสญัญาเช่า สญัญาเช่าซ้ือ สญัญาเงินกู้ และหลกัฐานอ่ืนๆ และยื่นแบบขอเบิกเงินค่าเช่าบ้าน (แบบ ๖๐๐๖) พรอ้มหลกัฐานการช าระเงิน ณ ส านักงานท่ีข้าราชการผู้นัน้ปฏิบติัราชการ(ระเบียบฯ ข้อ ๖,๗, ๑๑)

• ไปช่วยราชการประจ า ยื่นแบบ ๖๐๐๕ ณ ส านักงานท่ีไปช่วยปฏิบติัราชการ ให้บุคคลตามข้อ ๘ เป็นผู้รองสิทธิ แล้วส่งแบบดงักล่าวไปให้บุคคลตาม ข้อ ๑๐ ท่ีส านักงานท่ีเบิกเงินเดือนเป็นผู้อนุมัติในแบบ ๖๐๐๕ และ แบบ ๖๐๐๖ (ระเบียบฯ ข้อ ๑๕ (๒)

•ยื่นแบบแบบ ๖๐๐๕ ไว้แล้ว แต่ยงัไม่ได้รบัอนุมติั ต่อมาได้รบัค าสัง่เดินทางไปประจ าส านักงานใหม่ในสงักดัเดิม ให้ยื่นแบบ ๖๐๐๕ และแบบ ๖๐๐๖ พร้อมหลกัฐานในช่วงเวลาท่ีตนมีสิทธิ ณ ส านักงานเดิมท่ีส านักงานใหม่ •หากได้รบัอนุมติัในแบบ ๖๐๐๕ ไว้แล้ว แต่ยงัไม่ได้ยื่นแบบ ๖๐๐๖ หรือยื่นไว้แล้วแต่ยงัไม่ได้รบัอนุมติั ให้ยื่นแบบ ๖๐๐๖ ใหม่ พร้อมหลกัฐานท่ีส านักงานใหม่ ส าหรับแบบ ๖๐๐๕ ท่ีได้รับอนุมัติไว้แล้วจัดส่งให้ส านักงานใหม่โดยเรว็

(ระเบียบฯ ข้อ ๑๘)

ข้าราชการผู้ มี สิทธิได้รับค าสัง่ ให้โอนไปรับราชการประจ าส านักงานใหม่โดยเปล่ียนสงักดั แต่ยงัไม่ได้ย่ืนขอรบัค่าเช่าบ้านหรือยงัไม่ได้ย่ืนขอเบิกเงินค่าเช่าบ้านในช่วงเวลาท่ีตนมีสิทธิ ณ ส านักงานเดิม ให้ย่ืนแบบ ๖๐๐๕ และแบบ ๖๐๐๖ ท่ีส านักงานเดิม

(ระเบียบฯ ข้อ ๑๙)

- โอนย้ายโดยเปล่ียนสงักดั หรือเปล่ียนส านักเบิกเงินเดือน - ได้รบัค าสัง่ให้เดินทางไปประจ าส านักงานในต่างท้องท่ีโดยไม่เปล่ียนส านักเบิกเงินเดือน -เปล่ียนแปลงสญัญาเช่าบา้น หรือเช่าซ้ือ หรือสญัญาเงินกู้

(ระเบียบฯ ข้อ ๑๕)

ข้าราชการผู้มีสิทธิได้รบัเงินเดือนหรือเล่ือนต าแหน่งสูงขึ้น ซ่ึงมีสิทธิเบิกค่าเช่าบ้านในอตัราท่ีเพ่ิมขึ้น ให้ย่ืนหลกัฐานท่ีเก่ียวข้อง โดยไม่ต้องย่ืนแบบ ๖๐๐๕ ใหม่

(ระเบียบฯ ข้อ ๑๗)

กรณีถึงแก่กรรม ให้ทายาทของข้าราชการผู้ นั ้นยื่นค าขอ ณ ส านักงานท่ีรบัราชการครัง้สุดท้าย กรณีเกษียณอายุราชการหรือลาออกจากราชการ ให้ข้าราชการ ผู้นั ้น ยื่นค าขอ ณ หน่วยงานผู้เบิกบ านาญ หรือส านักงานท่ีรับราชการครัง้สุดท้าย แล้วแต่กรณี

(ระเบียบฯ ข้อ ๒๐)

ค่าเช่าบา้นถือเป็นรายจ่ายท่ีเกิดขึน้ เม่ือส่วนราชการได้รบัแบบ ๖๐๐๖ และให้เบิกจ่ายงบประมาณปีท่ีได้รบัแบบดงักล่าว

(ระเบียบฯ ข้อ ๑๒)

กรณีท่ีมีการขยายเงินกู้หรือขยายระยะเวลาการผ่อนช าระเงินกู้ เพ่ือช าระราคาบา้นให้น าหลกัฐานการผ่อนช าระมาเบิกค่าเช่าบา้นได้ตามจ านวนเงินกู้และระยะเวลาการผ่อนช าระท่ีเหลืออยู่ของสญัญาเงินกู้ฉบบัแรก

(ระเบียบฯ ข้อ ๒๓)

๒. การอนุมัต ิอนุมติัให้เบิกจ่ายเงินค่าเช่าบา้นไดต้ามสิทธิ ตั้งแต่วนัท่ี............. เดือน ........................... พ.ศ. .................. (ลงช่ือ)......................................................... (….............................................................) ต าแหน่ง................................................................. วนัท่ี ..........เดือน........................... พ.ศ. ............ ๓. การรับเงนิ

ไดรั้บเงินค่าเช่าบา้นจ านวน ....………........... บาท (..............................................................) ไว้ถูกตอ้งแลว้ (ลงช่ือ) ....................................................................... ผูรั้บเงิน (.....................................................................)

วนัท่ี..............เดือน........................ พ.ศ. .................. (ลงช่ือ) ..................................................................... ผูจ่้ายเงิน

(.....................................................................)

....เดือน........................ พ.ศ. ..................

แบบ๖๐๐๖