ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู

60
¸¸¸¸¸¸¸¸¸¸¸¸¸¸¸¸¸¸¸¸¸¸¸¸¸¸¸ ตําราพิชัยสงคราม สิบสามบท ของ ซุนวู เรียบเรียงจาก ตําราพิชัยสงคราม ของ ซุนจู และ เงาคีฉบับแปลโดย พิชัย วาศนาสง -- มีนาคม ๒๕๓๑ ¸¸¸¸¸¸¸¸¸¸¸¸¸¸¸¸¸¸¸¸¸¸¸¸¸¸¸

description

ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู ฉบับแปลโดย คุณพิชัย วาศนาส่ง

Transcript of ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู

Page 1: ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู

ËËËËËËËËËËËËËËËËËËËËËËËËËËË ตําราพิชัยสงคราม

สิบสามบท ของ ซุนวู

เรียบเรียงจาก

“ตําราพิชัยสงคราม ของ ซุนจู และ เงาคี้” ฉบับแปลโดย

พิชัย วาศนาสง -- มีนาคม ๒๕๓๑

ËËËËËËËËËËËËËËËËËËËËËËËËËËË

Page 2: ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู

- 2 -

ส า ร บ า ญ

๑. การประมาณสถานการณ ๒. การทําศึก ๓. ยุทธศาสตรการรบรุก ๔. ทาที ๕. กําลังพล ๖. ความออนแอและความเขมแข็ง ๗. การดําเนินกลยุทธ ๘. สิ่งซ่ึงแปรผันไดเกาประการ ๙. การเดินทัพ ๑๐. ภูมิประเทศ ๑๑. พื้นที่ตางกันเกาอยาง ๑๒. ไฟ ๑๓. สายลับ

[[[[[[[[[[[[

Page 3: ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู

- 3 -

๑. การประมาณสถานการณ ซุนจูกลาววา ¥ สงครามเปนเรื่องสําคัญที่สุดของบานเมือง เปนเรื่องถึงเปนถึงตาย เปนหนทางเพื่อความอยูรอด หรือความพินาศฉิบหาย จึงเปนอาณัติที่จะตองศึกษาใหถองแท. ¥ ฉน้ัน จงวางกําหนดขีดความสามารถดวยหลักมูลฐานสําคัญ ๕ ประการ และเปรียบเทียบองคประกอบอีก ๗ ประการที่จะกลาวถึงตอไป แลวทานจะประเมินความจําเปนและความสําคัญไดถูกตอง. ¥ หลักมูลฐานสําคัญ ประการแรก เก่ียวกับ ขวัญ ประการที่สอง เก่ียวกับ ลมฟาอากาศ ประการที่สาม เก่ียวกับ ภูมิประเทศ ประการที่สี่ เก่ียวกับ การบังคับบัญชา ประการที่หา เก่ียวกับ ฟา(กฎเกณฑและวิธีการ). ¥ ขวัญน้ัน ขาพเจาหมายถึง สิ่งที่จะทําใหประชาชนมีความกลมเกลียวเปนอันหน่ึงอันเดียวกับผูนํา ประชาชนยอมรวมทางกับผูนํา แมจะตองไปก็ไมกลัวอันตราย ไมเสียดายแมแตชีวิต. ¥ ลมฟาอากาศน้ัน ขาพเจาหมายถึง ภาวะความเปลี่ยนแปลง อันเน่ืองมาจากอิทธิพลของธรรมชาติ ผลของความเยือกเย็นในฤดูหนาว ความรอนระอุของฤดูรอน และปฏิบัติการทางทหารที่จะใหเกิดความเหมาะสมกับฤดูกาล. ¥ ยุทธภูมิน้ัน ขาพเจาหมายถึง

Page 4: ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู

- 4 -

ระยะทาง ความยากงายของพื้นที่ที่จะตองเดินทัพขาม เปนพื้นที่เปด หรือพื้นที่ปดลอม และโอกาสของความเปนความตาย. ¥ การบังคับบัญชาน้ัน ขาพเจาหมายถึง คุณสมบัติของแมทัพ อันจะตองประกอบดวย ความมีสติปญญา ความมีมนุษยธรรม มีความมานะพยายาม และมีความเครงครัด. ¥ ฟา (กฎเกณฑและวิธีการ) น้ัน ขาพเจาหมายถึง การจัดขบวนทัพ การควบคุม การมอบหมายงานใหเหมาะสมกับตําแหนงหนาที่ของผูอยูใตบังคับบัญชา การวางเสนทางลําเลียงอาหารไดสมํ่าเสมอ และการจัดหายุทโธปกรณสําคัญที่กองทัพมีความจําเปนตองใช. ¥ ไมมีแมทัพคนใดที่ไมเคยไมไดยินสาระสําคัญทั้ง ๕ ประการน้ี ใครที่เคยปฏิบัติไดดีครบถวนทุกอยางยอมเปนผูชนะ ใครที่ปฏิบัติมิไดยอมพายแพ. ¥ ฉน้ัน ในการวางแผนจึงตองเปรียบเทียบสิ่งตางๆ ตอไปน้ี ดวยการประมาณคุณคาอยางระมัดระวังที่สุดเสียกอน. ¥ ถาทานจะถามผูปกครองคนใด ที่มีอิทธิพลตอขวัญของผูคน ผูบังคับบัญชาคนใด มีความสามารถเหนือกวากองทัพ อยางไหนที่จะไดเปรียบ ในการใชภูมิประเทศและธรรมชาติ กฎเกณฑและคําสั่งอยางไร ที่ปฏิบัติแลวจะดีกวา ขบวนศึกอยางไร จะเขมแข็งกวา. ¥ ผูใดที่มีนายทหารและไพรพลที่ไดรับการฝกหัดมาดีกวา ปูนบําเหน็จรางวัลและลงโทษอยางไรไดผลดีกวากัน ขาพเจาสามารถพยากรณไดวา ฝายใดจะมีชัยชนะ และฝายใดจะพายแพ. ¥ ถาไดตัวแมทัพที่เอาใจใสยุทธศาสตรของขาพเจา ก็แนใจไดวาตองเปนผูชนะ

Page 5: ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู

- 5 -

รักษาแมทัพผูน้ันไว ถาไดตัวแมทัพปฏิเสธ ไมเชื่อฟงยุทธศาสตรของขาพเจา ก็แนใจไดวาตองพายแพ ปลดแมทัพน้ันเสีย. ¥ เม่ือเอาใจใส และมองเห็นความไดเปรียบจากแผนของขาพเจาแลว แมทัพจะตองสราง ”สถานการณ” อันจะอํานวยใหเกิดผลดีในทางปฏิบัติ. ¥ คําวา “สถานการณ” น้ัน ขาพเจา หมายถึง แมทัพจะตองปฏิบัติตามความเหมาะสมใหสอดคลองไปกับจังหวะที่ไดเปรียบ และสามารถควบคุมใหเกิดความสมดุลได. ¥ สงครามทุกรูปแบบ ต้ังอยูบนพื้นฐานของกลอุบาย ฉน้ัน… ¥ เม่ือมีความสามารถ จงทําเสมือน ไรความสามารถ. ¥ เม่ือคลองตัว จงแสรงทําเปน ไมคลองตัว. ¥ เม่ือเขาใกล ทําใหปรากฏเหมือนดัง ยังอยูไกล. ¥ เม่ืออยูไกล จงทําประหน่ึง อยูใกล. ¥ วางเหยื่อลอขาศึก แสรงทําสับสนอลหมาน แลวโจมตีขาศึก. ¥ เม่ือขาศึกรวมพลไวหนาแนนเตรียมสู หรือที่ใดของขาศึกเขมแข็ง ใหหลีกเลี่ยงเสีย. ¥ ทําใหแมทัพของขาศึกเกิดความโมโห และหัวหมุนวุนวายใจ. ¥ แสรงทําเปนออนแอกวา แลวยั่วยุใหขาศึกเกิดความหยิ่งยโส. ¥ ทําใหแมทัพของขาศึกตองเครงเครียดอยูเสมอ และทําใหออนกําลัง. ¥ เม่ือขาศึกรวมตัวกันติด ใหแยกกันเสีย. ¥ โจมตีที่จุดซ่ึงขาศึกมิไดเตรียมการปองกัน

Page 6: ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู

- 6 -

ใชความฉับไวโจมตี ในขณะที่ขาศึกมิไดคาดคิด. ¥ สิ่งเหลาน้ีคือ กุญแจอันจะนําไปสูชัยชนะของนักยุทธศาสตร เปนเรื่องยากแกการนํามาพิจารณากอนหนาน้ี.

[[[[[[[[[[[[

Page 7: ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู

- 7 -

๒. การทําศึก ซุนจูกลาววา ¥ โดยทั่วไปปฏิบัติการศึกจะตองมี รถมาศึกเทียบมาสี่ฝตีนด ี หน่ึงพันคัน เกวียนเกราะหนังเทียมมาสี่ หน่ึงพันคัน และทหารสวมเสื้อเกราะ หน่ึงแสนคน. ¥ ชัยชนะเปนความมุงหมายใหญที่สุดในการทําสงคราม ถาการทําสงครามถูกหนวงเหน่ียวใหลาชาเพียงใด อาวุธจะสิ้นคม จิตใจของทหารจะหดหู เม่ือยกกําลังเขาตีเมือง กําลังของทหารจะสิ้นไป. ¥ เม่ือกองทัพจําเปนตองทําศึกเรื้อรัง ทรัพยสินในทองพระคลังจะไมเพียงพอ. ¥ เม่ืออาวุธสิ้นคม เสื้อเกราะเปยกชื้น กําลังทหารอิดโรย ทรัพยสินก็ใชจายหมดสิ้น ผูครองอาณาจักรขางเคียงจะฉวยโอกาส ที่ทานเพลีย่งพล้ํา ซํ้าเติมทาน และแมทานจะมีคณะที่ปรึกษาสามารถเพียงใด ก็จะไมมีผูใดสามารถวางแผนที่ดีสําหรับอนาคตใหได. ¥ ดวยเหตุน้ี เราจึงไดยินแต การทําสงครามที่รวดเร็วและฉับพลัน เราไมเคยเห็น ปฏิบัติการสงครามที่ฉลาดครั้งใด กระทําโดยยืดเยื้อ. ¥ ไมปรากฏวา ประเทศใดเคยไดรับประโยชนจาก การทําสงครามยืดเยื้อ. ¥ ดวยเหตุน้ี ผูที่ไมสามารถเขาใจอันตราย อันเกิดจากใชกําลังทหารฉันใด ยอมไมสามารถเขาใจถึงความไดเปรียบของ การใชกําลังทหารไดฉันน้ัน. ¥ ผูชํานาญการศึก ไมตองการกําลังหนุนสวนที่สอง และไมตองการ เสบียงอาหารเกินกวาครั้งเดียว.

Page 8: ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู

- 8 -

¥ กองทัพขนยุทโธปกรณ ไปจากบานเมืองของตน และอาศัยเสบียงอาหาร ของขาศึก ดวยเหตุน้ีกองทัพจึงมีเสบียงอาหารมากมาย ไมขัดสน. ¥ เม่ือประเทศตองขัดสน เพราะการทําศึก เหตุก็เน่ืองมาจากการลําเลียง มีระยะไกล กองเกวียนตองขนเสบียง ดวยระยะทางไกลมาก จนทําใหประชาชนเดือดรอน. ¥ กองทัพไปต้ังอยูที่ใด ราคาของจะสูงขึ้น ความสมบูรณพูนสุขของประชาชน จะหมดสิ้นไป เม่ือความสมบูรณ ลดลง ประชาชนก็จะเดือดรอน เพราะจะตองมีการเรียกเก็บภาษียามฉุกเฉิน. ¥ เม่ือกําลัง ลดถอยลง ความม่ันคงบริบูรณ ถูกใชสิ้นไป ครอบครัวที่อยูสวนกลาง ก็จะประสบความทุกขยาก ทรัพยสินเจ็ดในสิบสวนของประชาชน จะหมดสิ้นไป. ¥ เก่ียวกับการใชจายของรัฐน้ัน เกิดจาก รถมาศึกชํารุด มาสิ้นกําลัง ความชํารุดทรุดโทรมของเสื้อเกราะและหมวกทหาร ลูกธนู เกาทัณฑ หนาไม หอก โลกําบังมือ โลกําบังตัว สัตวลากจูง และเกวียนบรรทุก ความเสียหายจะตกหกในสิบสวนของจํานวนทั้งสิ้น. ¥ ดวยเหตุน้ี แมทัพที่ชาญฉลาดจึงดําเนินการเพื่อใหกองทัพของตนอยูได ดวยเสบียงของขาศึก ขาวของขาศึกหน่ึงถัง มีคาเทากับ ขาวของตนเองยี่สิบถัง หญาเลี้ยงมาของขาศึกหน่ึงเกวียน เทากับ หญาของตนเองยี่สิบเกวียน. ¥ เหตุที่ทหารฆาฟนศัตร ู ก็เพราะ ความโกรธแคน. ¥ ทหารเก็บทรัพยสินของขาศึก เพราะ อยากม่ังมี. ¥ ดวยเหตุน้ี เม่ือใชรถศึกเขารบ แลวจับรถศึกของขาศึกไดสิบคันขึ้นไป

Page 9: ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู

- 9 -

ใหรางวัลทหารคนแรกที่ยึดรถได เอาธงและปายของฝายทาน ขึ้นปกบนรถแทนของขาศึก แลวเอารถที่จับไดใชปะปนไปกับรถของทาน. ¥ เม่ือจับเชลยศึกได ปฏิบัติดูแลใหดี. ¥ อยางน้ีเรียกวา “ชนะศึกแลวเขมแข็งขึ้น”. ¥ บัดน้ีเปนที่ชัดเจนแลววา สิ่งสําคัญในการทําศกึ คือ ชัยชนะ มิใช ปฏิบัติการที่ยืดเยื้อ ฉน้ัน แมทัพที่เขาใจเรื่องราวของสงคราม จึงเปนผูกําชะตากรรมของพลเมือง เปนผูชี้ขาดอนาคตของชาติ.

[[[[[[[[[[[[

Page 10: ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู

- 10 -

๓. ยุทธศาสตรการรบรุก ซุนจูกลาววา ¥ โดยปกติธรรมดาในการทําสงคราม นโยบายดีที่สุด คือ การเขายึดบานเมืองของขาศึกโดยมิใหบอบช้ํา การทําใหเกิดความพินาศฉิบหายยอมดอยกวา. ¥ การลอมจับกองทัพขาศึกไดยอมดีกวาการทําลาย การจับทหารไดทั้งกองพันโดยไมบอบช้ํา จับไดทั้งกองรอยหรือหมูหาคน ยอมดีกวาการทําลายขาศึก. ¥ ชัยชนะรอยครั้ง จากการทําศึกรอยครั้ง มิไดแสดงวา ฝมือดีเยี่ยม การทําใหขาศึกยอมแพ โดยไมตองสูรบ แสดงวา มีฝมือยอดเยี่ยม. ¥ ฉน้ัน ความสําคัญสูงสุดในการทําสงคราม จึงอยูที่การโจมตี ที่แผนยุทธศาสตรของขาศึก. ¥ ที่ดีเยี่ยมรองลงมา คือ การทําใหขาศึกแตกแยกกับพันธมิตร. ¥ ที่ดีรองลงมาอีก คือ การโจมตีกองทัพของขาศึก. ¥ นโยบายที่เลวที่สุด คือ การตีตัวเมือง การเขาตีตัวเมือง จะกระทํากันก็ตอเม่ือไมมีทางเลือกเปนอยางอ่ืน. ¥ การตระเตรียมเกราะใหกองเกวียน และเตรียมศาสตราวุธที่จําเปนใหครบถวน ตองใชเวลาอยางนอยสามเดือน ถาจะตองสรางทางลาดดวยการพูนดินเขาหากําแพงเมือง จะตองใชเวลาเพิ่มขึ้นอยางนอยอีกสามเดือน. ¥ แมทัพที่ไมอาจควบคุมความอดทนของตนไวได แลวสั่งทหารใหเขาปนกําแพงเมืองเหมือนมดปลวก

Page 11: ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู

- 11 -

ทหารหน่ึงในสามจะลมตายโดยไมอาจยึดเมืองได น่ีคือ ความยอยยับของการเขาตีตัวเมือง. ¥ ดวยเหตุน้ี แมทัพผูชํานาญการศึกจึงเอาชนะขาศึกโดยไมตองสูรบ ยึดเมืองไดโดยไมตองใชกําลังเขาตี และลมอาณาจักรศัตรูไดโดยทําการรบไมเรื้อรัง. ¥ เปาหมายของทาน คือ ยึดทุกอยางภายใตฟาใหไดโดยไมบอบช้ํา แลวกองทหารของทานจะไมทรุดโทรม ประโยชนที่ทานไดรับจะสมบูรณ น่ีคือ ศิลปของการรุกรบ. ¥ เทาที่ปรากฏ ศิลปในการใชขบวนศึก มีอยูดังน้ี. ¥ เม่ือมีกําลังอยูเหนือกวาขาศึกสิบเทา ใหลอมขาศึกไว. ¥ เม่ือมีกําลังเหนือกวาหาเทา ใหโจมตีขาศึก. ¥ ถามีกําลังเปนสองเทา แยกกําลังของขาศึกออก. ¥ ถามีกําลังรบทัดเทียมกัน ทานอาจเขารบโดยตรงได. ¥ ถามีทหารจํานวนนอยกวา ตองมี ความสามารถในการถอยทัพ. ¥ และถาไมทัดเทียมกันในทุกแงทุกมุม เม่ือมีกําลังนอยกวาตองสามารถหลบเลี่ยงขาศึกใหได แตตองเขาตีเม่ือมีกําลังเหนือกวา. ¥ ถือกันวา แมทัพเปนผูปองกันบานเมือง ถาการปองกันดีพรอมทุกสิ่งทุกอยาง บานเมืองยอมเขมแข็งแนนอน ถาการปองกันหละหลวม เปนการแนนอนวา บานเมืองยอมออนแอ. ¥ หนทางที่ผูมีอํานาจในแผนดิน จะนําโชครายมาใหกองทัพของตน มีอยูสามประการ.

Page 12: ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู

- 12 -

¥ เม่ือโงเขลาเบาปญญา ไมรูวา กองทัพยังไมควรรุกก็สั่งใหรุก. เม่ือโงเขลาเบาปญญา ไมรูวา ยังไมควรสั่งใหถอยก็สั่งใหถอย กองทัพใดมีปญหาเชนน้ี ก็เทากับ ถูกมัดขา. ¥ เม่ือผูโงเขลาในกิจการทหาร เขามายุงเก่ียวในงานฝายบริหารของกองทัพ ผลที่เกิดขึ้นก็คือ บรรดาแมทัพนายกองเกิดความสับสนงงงวย. ¥ เม่ือขาดความรูในสายการบังคับบัญชา ปญหาที่เกิดขึ้นก็คือ ความรับผิดชอบในหนาที ่ เหตุเชนน้ี ทําใหเกิด ความสงสัยขึ้นในจิตใจของแมทัพนายกอง. ¥ ถาเกิดความสงสัยและสับสนขึ้นในกองทัพ เจานครขางเคียงจะกอเรื่องยุงยากขึ้น น่ีก็คือ ความหมายที่กลาววา “กองทัพที่สับสนยอมนําชัยชนะใหผูอ่ืน”. ¥ มีสิ่งแวดลอมอยู หาประการ ที่จะชวยให ทํานายชัยชนะได. ¥ ผูที่รูวา เม่ือใดควรรบ และ เม่ือใดไมควรรบ จะเปนผูชนะ. ¥ ผูที่รูจักวา จะใชกองทหารขนาดใหญและขนาดเล็ก อยางไร จะเปนผูชนะ. ¥ ผูที่มี นายและไพรพลกลมเกลียวเหนียวแนนในการทําศึก จะเปนผูชนะ. ¥ ผูที่มี วิจารณญาณแลวสงบน่ิง คอยขาศึกผูขาดวิจารณญาณ จะเปนผูชนะ. ¥ ผูที่มี แมทัพเปนผูมีความสามารถ และไมถูกรบกวนแทรกแซง จากผูมีอํานาจปกครองแผนดินสงูสุด จะเปนผูชนะ. ¥ ทั้งหาประการที่กลาวมาน้ี คือ หนทางที่จะทําใหมีชัยชนะได. ¥ ฉน้ัน ขาพเจาจึงกลาววา ¥ “รูจักขาศึก และรูจักตัวของทานเอง ในการรบรอยครั้ง ทานไมมีวันประสบอันตราย”.

Page 13: ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู

- 13 -

¥ “เม่ือไมรูจักขาศึกดีพอ แตยังรูจักตัวเอง โอกาสที่ทานจะแพหรือชนะ มีอยูเทาๆกัน”. ¥ “ถาไมรูจักใหดีพอทั้งขาศึกและตัวของทานเอง ทานแนใจไดเลยวา ในการศึกทุกครั้งทานจะประสบอันตราย”.

[[[[[[[[[[[[

Page 14: ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู

- 14 -

๔. ทาที ซุนจูกลาววา ¥ ในสมัยโบราณน้ัน สิ่งที่นักรบผูชํานาญพึงปฏิบัติ คือ ทําใหตนเองอยูในฐานะที่ไมมีผูใดเอาชนะได แลวคอย จนถึงเวลาที่ขาศึกตกอยูในฐานะเสียเปรียบ. ¥ การทํามิใหมีผูใดเอาชนะได อยูกับตัวเอง ความเสียเปรียบของขาศึก อยูที่ตัวของเขาเอง. ¥ อธิบายวา สําหรับผูชํานาญสงครามน้ัน ยอมทําใหตัวเองอยูในฐานะที่ไมมีผูใดเอาชนะได แตไมอาจสรางเหตุใหแนใจไดวา ขาศึกเกิดความเสียเปรียบ. ¥ ฉน้ัน จึงกลาวกันวา อาจมีผูรูวิธีจะเอาชนะไดอยางไร แตไมจําเปนเสมอไปวาจะทําได. ¥ การที่ไมมีผูใดเอาชนะไดขึ้นอยูกับการปองกัน ทางที่อาจมีชัยชนะไดอยูที่การโจมตี. ¥ เม่ือไมมีกําลังเพียงพอก็ปองกันตัว เม่ือมีกําลังเหลือเฟอจึงโจมตี. ¥ ผูที่ชํานาญในการปองกัน ซอนตัวเองอยูใตดินลึกเกาชั้น ผูที่ชํานาญในการโจมตี รุกรวดเร็วดังลมจากสวรรคชั้นเกา ดวยเหตุน้ี บรรดาผูชํานาญจึงสามารถทั้งการปองกันตัวเองและการเอาชนะขั้นเด็ดขาดได. ¥ การคาดคะเนชัยชนะไดเชนเดียวกับที่คนธรรมดาสามัญก็อาจคาดคะเนได ไมถือวาเปนความชํานาญสูงสุด. ¥ มีชัยชนะในการทําศึก จนคนทั่วไปยกยองสรรเสริญวา “เชี่ยวชาญ” ยังถือมิไดวา เปนความชํานาญสูงสุด ยกก่ิงไมหักในฤดูใบไมรวง ไมตองใชเรี่ยวแรงอะไรนัก

Page 15: ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู

- 15 -

มองเห็นวาพระอาทิตยแตกตางจากพระจันทรได มิใชแสดงวา สายตาด ี ไดยินเสียงฟารอง มิใชแสดงวา เปนคนหูไว. ¥ สมัยโบราณ ผูเชี่ยวชาญการศึก คือ ผูที่เอาชนะขาศึกไดโดยงาย. ¥ ฉน้ัน ชัยชนะที่ปรมาจารยทางสงครามไดรับ จึงไมเกิดผลดีใดๆ ไมวาทางชื่อเสียงวา มีสติปญญา หรือมีเกียรติคุณกลาหาญ. ¥ ชัยชนะจึงเกิดขึ้นไดโดยมิตองวาวุน “มิตองวาวุน” หมายถึง ไมวาจะปฏิบัติสิ่งใดยอมประกันไดวา ตองมีชัยชนะเขา เอาชนะขาศึกที่แพอยูแลว. ¥ ฉน้ัน แมทัพผูชํานาญจึงตกอยูในฐานะที่แพใครมิได และจะไมพลาดโอกาสที่จะเอาชนะขาศึก. ¥ ฉน้ัน กองทัพที่ไดชัยชนะ จึงมีชัยกอนที่จะลงมือทําการรบ กองทัพที่เห็นทางแพแนชัด จึงตอสูดวยความหวังวาจะมีชัยชนะ. ¥ ผูที่ชํานาญการทําศึกจึงยึดม่ันในหลักการของเตา รักษาฟา(กฎเกณฑ)แลวจึงสามารถกําหนดแนวที่จะนําชัยชนะมาได. ¥ องคประกอบในการพิชยัสงครามน้ัน ขอแรกทีเดียว คือ การวัดพื้นที่ ขอที่สอง คือ การประมาณปริมาณ ขอที่สาม คือ การคิดคํานวณ ขอที่สี่ คือ การเปรียบเทียบ ขอที่หา คือ โอกาสที่จะมีชัยชนะ. ¥ การวัดพื้นที่ เกิดมาจากการตรวจด ู“สนามรบ”. ¥ ปริมาณ เกิดจาก การวัดตัวเลขตางๆ ไดจากปริมาณของสิ่งตางๆ การเปรียบเทียบตัวเลขตางๆ ชัยชนะยอมไดมาจากการเปรียบเทียบ.

Page 16: ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู

- 16 -

¥ ดวยเหตุเชนน้ี กองทัพที่มีชัยชนะ จึงเปรียบดัง เอาขาวทั้งเกวียนขึ้นตาชั่ง ถวงกับขาวเพียงเมล็ดเดียว กองทัพที่แพ คือ ขางหน่ึงเมล็ดที่เอาขึ้นชั่ง เปรียบเทียบกับขาวทั้งเกวียน. ¥ ดวยเหตุที่แมทัพผูชนะศึกรูจักวิธีปฏิบัติตอผูอ่ืน

และคิดถึงทุกสิ่งทุกอยางโดยถี่ถวน

จึงสามารถทําใหคนของตนสูศึกไดสุดกําลัง

เปรียบไดดังนํ้าที่ขังไว แลวเปดประตูก้ันนํ้าออก ใหนํ้าโจนลงสูที่ตํ่าอันล้ําลึก.

[[[[[[[[[[[[

Page 17: ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู

- 17 -

๕. กําลังพล ซุนจูกลาววา ¥ โดยทั่วไปน้ัน การจัดการคนจํานวนมาก

ก็อยางเดียวกับการจัดการคนสองสามคน

ทั้งน้ีขึ้นอยูกับการจัดระเบียบบริหาร.

¥ การควบคุมคนจํานวนมาก

เหมือนกับควบคุมคนสองสามคน

ทั้งน้ียอมขึ้นอยูกับรูปขบวนและสัญญาณ.

¥ จึงเปนการแนนอนวา

กองทัพยอมตานทานการโจมตีของขาศึกไดโดยไมพายแพ

เพราะรูจักวิธีใชกําลังโดยรูปพิศดาร และรูปธรรมดา.

¥ กําลังที่ทุมเทตีขาศึก

เปรียบดังโมหินบดไข

เปนอยางในการเอาของแข็งกระแทกลงตรงที่วาง.

¥ โดยทั่วไปในการทําศึก

ใชกําลังรูปธรรมดาเขาปะทะกับขาศึก

แลวใชกําลังรูปพิศดารเพื่อเอาชนะ.

Page 18: ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู

- 18 -

¥ สําหรับผูชํานาญในการศึกน้ัน

ความสามารถในการใชกําลังรูปพิศดารมีอยูไมรูจบรูสิ้น

เชนแผนดินแผนฟา

ไมมีวันหมดสิ้นดังนํ้าในมหานทีที่ไหลวนอยูไมขาด.

¥ เม่ือใชจบแลวก็ต้ังตนใหม หมุนเวียนกันไป

ดังการโคจรของดวงอาทิตยและดวงจันทร

ตกแลวก็กลับขึ้นมาใหม หมุนเวียนกันไป เชนฤดูกาลตางๆ.

¥ ตัวโนตของดนตรีมีอยูเพียงหาเสียง

แตสามารถแตงออกเปนทํานองเพลงไดมากมายไมมีใครรูครบ.

¥ แมสีมีอยูเพียงหาสี

แตการผสมผสานของสีมีอยูมิรูจบสิ้น ไมมีผูใดสามารถเห็นไดครบทุกส.ี

¥ รสชาติของอาหารมีเพียงหารส

แตการผสมปรุงแตงใหอาหารมีรสแตกตางกันออกไป

มีมากมายจนไมมีผูใดสามารถลิ้มรสไดครบทุกรส.

¥ การทําศึกมีอยูเพียงรูปธรรมดาและรูปพิศดาร

แตสามารถสลับสับเปลี่ยนวนเวียนใชไดโดยไมซํ้า

ไมมีผูใดสามารถเขาใจไดครบถวน.

Page 19: ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู

- 19 -

¥ การใชกําลังทั้งสองรูปน้ี

ตางใหผลชวยเหลือซ่ึงกันและกันโดยไมรูจบสิ้น

ดังวงแหวนที่คลองกันอยู

ใครเลาจะสามารถพิจารณาไดวา ต้ังตนคลองกันตรงไหน และไปสิ้นสุดตรงไหน.

¥ เม่ือกระแสนํ้าเชี่ยวพุงเขาชนทํานบทะลายลง

น่ันก็เพราะ มีพลังรวมของการเคลื่อนที่ดวยความรวดเร็ว.

¥ เม่ือเหยี่ยวโฉบลงมาฉวยไดตัวนกกระจอก

น่ันเปนเพราะ จังหวะ.

¥ ฉน้ัน พลังรวมอันเกิดจากการเคลื่อนตัวของมวล

โดยผูชํานาญในการสงครามจึงมากมายเหลือลน

และการเขาโจมตีของเขาก็อยูในภาวะควบคุมอยางแมนยํา.

¥ ความหนักหนวงในการเขาตี

เปรียบไดดั่ง หนาไมที่ขึงตึงที่สุด

จังหวะของเขาอยูที่การเหน่ียวไก.

¥ ทามกลางความสับสนและเสียงอ้ืออึง

การรบดูดังจะระส่ําระสาย

แตก็ไมปราศจากความเปนระเบียบ

ขบวนศึกปรากฏเหมือนวิ่งวนเวียนเปนวงกลม

แตไมมีผูใดทําใหแพได.

Page 20: ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู

- 20 -

¥ สิ่งที่ปรากฏเปนความสับสนน้ัน

เปนผลจากการออกคําสั่งที่ด.ี

¥ ที่ปรากฏเปนความขลาด ที่จริง คือ ความกลาหาญ

ที่ปรากฏเหมือนออนแอ หมายถึง กําลัง.

¥ ความมีระเบียบและขาดระเบียบ ขึ้นอยูกับ การจัดรูปบริหาร.

ความกลาหาญและความขลาดกลัว ขึ้นอยูกับ ภาวะแวดลอม.

มีกําลังหรือออนแอ ขึ้นอยูกับ ทาทีของขาศึก.

¥ ดวยเหตุน้ี

ผูที่ชํานาญในการทําใหขาศึกตองเคลื่อนที ่

จึงปฏิบัติดวยวิธีสรางสถานการณใหอํานวยประโยชนแกตนเสียกอน

แลวลวงขาศึกดวยบางสิ่งบางอยางที่คิดวา

ขาศึกพึงและคิดจะทําใหมีความไดเปรียบ

ขณะเดียวกันก็ซอนกําลังไวขยี้ขาศึก.

¥ ฉน้ัน แมทัพผูชํานาญศึกจึงแสวงหาชัยชนะจากสถานการณ

โดยไมเรียกรองชัยชนะจากผูอยูใตบังคับบัญชา.

¥ แมทัพเปนผูเลือกคน

แลวปลอยมือใหคนของเขาหาประโยชนเอาจากสถานการณ.

Page 21: ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู

- 21 -

¥ ผูที่ถือเอาสถานการณเปนสําคัญ ยอมใชกําลังทหารเขาสูรบ

เชนเดียวกับการกลิง้ทอนซุงหรือกอนหิน

ธรรมชาติของซุงและหินน้ัน

ถาแผนดินราบเรียบมันก็หยุดอยูน่ิง

ถาแผนดินไมราบเรียบมันก็กลิ้งงาย

ถาซุงหรือหินเปนรูปเหลี่ยม มันก็ไมกลิ้ง ถากลมก็กลิ้งไดงาย.

¥ ฉน้ัน ความสามารถของกองทัพที่มีแมทัพเปนผูสามารถ

จึงเปรียบไดดังการผลักหินกลมใหกลิ้งลงจากภูเขาสูง.

[[[[[[[[[[[[

Page 22: ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู

- 22 -

๖. ความออนแอและความเขมแข็ง ซุนจูกลาววา ¥ โดยทั่วไปน้ัน ผูที่ต้ังคายในสนามรบไดกอน และคอยทีขาศึกอยู ยอมไมเครงเครียด ผูที่มาถึงภายหลังแลวรีบเรงเขาทําการรบยอมอิดโรย. ¥ ผูชํานาญการสงครามจึงชักจูงใหขาศึกเดินเขามาสูสนามรบ มิใชใหขาศึกนําตนเขาสูสนามรบ.

¥ ผูที่สามารถนําขาศึกเขาสูสนามรบไดตามความตองการของตน

เสนอใหขาศึกรูสึกวาเขามาแลวไดเปรียบ

ผูที่สามารถปองกันมิใหขาศึกเขาถึงสนามรบ ใชวิธีตีสกัดขาศึก.

¥ เม่ือขาศึกสบาย จงรังความใหเกิดความอิดโรย

เม่ืออ่ิมทองตองทําใหหิว เม่ือหยุดพัก ตองทําใหเคลื่อนที่.

¥ ปรากฏตัวในที่ๆ จะทําใหขาศึกเกิดความสับสนอลหมาน

เคลื่อนที่เขาตีอยางรวดเร็วในที่ๆ ขาศึกไมคาดวาทานจะเขาถึงได.

¥ ทานอาจเดินทัพไกลพันลี้โดยไมอิดโรย

เพราะเดินทางในเขตที่ไมมีขาศึก.

¥ เพื่อใหแนใจวาเขาตีจุดใด ยอมยึดไดที่น้ัน

จงเขาตีจุดที่ขาศึกขาดการปองกัน

Page 23: ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู

- 23 -

เพื่อใหแนใจวาจะปองกันที่ต้ังไวได

จงปองกันพื้นที่ซ่ึงขาศึกจะไมเขาตี.

¥ ฉน้ันสําหรับผูที่ชํานาญในการเขาตี ขาศึกจะไมรูวาควรปองกันที่ใด

สวนผูที่ชํานาญในการปองกันน้ัน ขาศึกก็มิรูวาจะเขาตีที่ใด.

¥ ความฉลาดและไหวพริบ

ชวยใหผูเชี่ยวชาญละทิ้งพื้นที่ โดยไมทิ้งรองรอย

หายไปอยางลึกลับราวเทวดา ไมมีเสียงใหผูใดไดยิน

ดวยเหตุน้ีเขาจึงเปนเจาของชะตากรรมของขาศึก.

¥ ผูที่รุกดวยการทุมเทกําลังที่ไมมีผูใดตานทานได

ลงตรงจุดออนของขาศึก

ผูที่ถอยทัพโดยมิใหผูใดติดตามได

จะกระทําอยางรวดเร็วฉับพลันจนไมมีผูใดไลไดทัน.

¥ เม่ือขาพเจาปรารถนาจะเปดการรบ

แมขาศึกจะมีกําแพงสูงและคูเมืองปองกัน

ก็ไมอาจหลีกเลี่ยงขาพเจาได

ขาพเจาโจมตี ณ จุดที่ขาศึกตองการความชวยเหลือ.

¥ เม่ือขาพเจาปรารถนาจะหลีกเลี่ยงการรบ

ขาพเจาอาจปองกันตัวเองงายๆ ดวยการขีดเสนลงบนพื้นดิน

ขาศึกก็ไมอาจโจมตีขาพเจาได

Page 24: ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู

- 24 -

เพราะขาพเจาจะเปลี่ยนมิใหขาศึกมุงไปยังที่เขาประสงคจะไป.

¥ ถาขาพเจาจะสามารถคอยพิจารณาดูทาทีของขาศึก

ขณะเดียวกันขาพเจาก็ซอนเรนทาทีของขาพเจา

ขาพเจาก็จะสามารถรวมกําลัง โดยขาศึกตองแบงกําลัง

และถาขาพเจารวมกําลังได ในขณะที่ขาศึกแบงแยกกําลัง

ขาพเจาก็สามารถใชกําลังทั้งหมดขยี้กําลังยอยของขาศึกได

เพราะขาพเจามีจํานวนทหารมากกวา

ฉน้ัน

เม่ือสามารถใชกําลังเหนือกวาโจมตีผูมีกําลังดอยกวา ณ จุดที่ขาพเจาเปนผูกําหนด

ใครที่ตองสูกับขาพเจาจะเสมือนดงอยูในชองแคบอันเต็มไปอันตราย.

¥ ขาศึกจะตองไมรูวา ขาพเจาจะเปดการรบ ณ ที่ใด

เม่ือไมรูวาขาพเจาต้ังใจจะรบที่ใด

ขาศึกก็ตองเตรียมตัวรับในที่ตางๆ กันหลายแหง

เม่ือขาศึกตองเตรียมรับในที่หลายแหง

ณ จุดที่ขาพเจาตองการเปดการรบ กําลังของขาศึกจึงมีอยูเพียงเล็กนอย.

¥ ถาขาศึกเตรียมรับทางดานหนา ดานหลังก็จะออนแอ

ถาเตรียมรับทางดานหลัง ดานหนาก็จะบอบบาง

ถาเตรียมรับทางปกซาย ปกขวาก็จะเปนอันตรายไดงาย

ถาเตรียมรับทางปกขวา ปกซายก็จะมีกําลังเพียงเล็กนอย

และถาเตรียมรับหมดทุกดานก็จะออนแอหมดทุกดาน.

Page 25: ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู

- 25 -

¥ ผูมีกําลังนอยตองเตรียมรับขาศึก

ผูมีกําลังมากตองทําใหขาศึกคอยเตรียมรับตน.

¥ ถาผูใดรูวาจะเปดการรบที่ใด เม่ือใด

กองทหารของเขาก็จะสามารถเดินทางหน่ึงพันลี ้และพบกันในสนามรบได

แตถาไมรูวาจะรบที่ใด เม่ือใด

ปกซายก็ไมอาจชวยเหลือปกขวา หรือปกขวาก็ไมอาจชวยปกซาย

กองหนาไมอาจชวยกองหลัง หรือกองหลังก็ชวยกองหนาไมได

อันตรายยอมเกิดขึ้นไดหลายประการ

เม่ือแตละหนวยตองแยกกันอยูหางเปนสิบๆ ลี้ หรือแมแตเพียงสองสามลี.้

¥ แมวา ขาพเจาประเมินกําลังของเมืองหยวยไวมาก

แตความเหนือกวาจะใหผลดีอะไรไดบาง ถาคิดกันถึงผลในขั้นสุดทาย.

¥ ดวยเหตุน้ี ขาพเจาจึงกลาววา ชัยชนะเปนสิ่งที่ทําใหเกิดขึ้นได

แมวาขาศึกจะมีกําลังมากกวา ขาพเจาก็สามารถปองกันมิใหขาศึกเขาทําการรบได.

¥ ฉน้ัน จงพิจารณาที่แผนของขาศึกเสียกอน

แลวทานจึงรูวาควรใชแผนยุทธศาสตรใดจึงจะไดผล และแผนใดไมไดผล.

¥ กวนขาศึกใหปนปวน แลวดูรูปขบวนความเคลื่อนไหวของขาศึกใหแนชัด.

¥ พิจารณาทาทีของขาศึก แลวศึกษาลักษณะของสมรภูมิใหถองแท.

¥ ตรวจสอบและศึกษาใหรูวา กําลังของขาศึกสวนใดเขมแข็งและสวนใดบอบบาง.

Page 26: ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู

- 26 -

¥ สิ่งสําคัญในการวางรูปขบวนศึกอยูที่การไมกําหนดรูปรางใหแนชัด

เพื่อมิใหสายลับของขาศึกที่แอบแฝงอยูอานรูปขบวนออก

ขาศึกแมจะมีสติปญญาเพียงใดก็ไมสามารถวางแผนทําลายทานได.

¥ ขาพเจาวางแผนเพื่อเอาชนะตามรูปขบวนที่ขาพเจากําหนดขึ้น

แตคนทั่วไปตีความไมแตกและไมเขาใจ

แมวาทุกคนจะสามารถเห็นรูปการณภายนอก

แตไมมีใครเขาใจทางที่ขาพเจาวางไวเพื่อใหไดชัยชนะ.

¥ ฉน้ัน เม่ือขาพเจาไดชัยชนะครั้งหน่ึงแลว ขาพเจาจะไมใชยุทธวิธีน้ันซํ้าอีก

แตจะยึดถือเอาสภาวะแวดลอม ในลักษณะที่ผิดแปลกแตกตางออกไปไมรูจบสิ้น.

¥ กองทัพหรือขบวนศึก ก็เหมือนนํ้า

ในลักษณะของการไหล หลีกเลี่ยงที่สูง ไหลลงที่ลุม

ขบวนศึกก็เชนเดียวกัน

หลีกเลี่ยงจุดที่มีกําลัง แลวตีตรงจุดออน.

¥ เชนเดียวกันนํ้า

ที่มีรูปทรงตามสัณฐานของพื้นดิน

กองทัพมีชัยชนะก็ดวยการปรับตัวไปตามสภาพของขาศึก.

¥ นํ้ามีสัณฐานไมคงที ่

ในการทําสงครามก็ไมมีภาวะใดคงที.่

Page 27: ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู

- 27 -

¥ ดวยเหตุน้ี

ผูที่สามารถเอาชนะได ดวยการรูจักปรับปรุงเปลี่ยนยุทธวิธีของตน

ไปตามสถานภาพของขาศึก

จึงไดรับการยกยองวา สามารถ.

¥ ทั้งหาประการน้ี ไมมีประการใดประการหน่ึงที่สําคัญที่สุดไดเสมอ

ฤดูกาลทั้งสี ่ไมมีฤดูใดยืนยาวไดตลอด

บางฤดูกลางวันสั้น บางฤดูกลางวันยาว

ดวงจันทรบางวันแจมใส บางวันมืดมัว.

[[[[[[[[[[[[

Page 28: ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู

- 28 -

๗. การดําเนินกลยุทธ

ซุนจูกลาววา ¥ โดยปรกติธรรมดาน้ันในการจัดขบวนศึก

แรกทีเดียว แมทัพรับบัญชาจากผูมีอํานาจปกครองสูงสุดในแผนดิน

แมทัพจึงเริ่มรวบรวมไพรพลและกะเกณฑประชาชน

ตอมาจึงดําเนินการผสมผสานวางรูปกําลังใหกลมกลืนกัน.

¥ ไมมีอะไรจะยากเกินไปกวาศิลปในการดําเนินกลยุทธ

ความยากลําบากของการดําเนินกลยุทธอยูที ่

การทําใหเสนทางคดเคี้ยวเลี้ยวลด กลายเปนเสนทางตรงที่สุด

กลับโชครายใหกลายเปนความไดเปรียบ.

¥ ดวยเหตุน้ี

จงเดินทัพโดยทางออม

แลวเปลี่ยนทิศทางขาศึก ดวยการวางเหยื่อลอ ใหขาศึกเกิดความสนใจ

ดวยวิธีดังกลาว

ทานอาจเคลื่อนขบวนศึกทีหลัง แตถึงที่หมายกอนขาศึก

ที่สามารถปฏิบัติเชนน้ีได

ยอมเขาใจยุทธวิธีแบบตรงและแบบออม.

¥ ทั้งความไดเปรียบและอันตราย เปนผลสืบเน่ืองมาจากการใชกลยุทธ.

Page 29: ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู

- 29 -

¥ ผูที่เคลื่อนทัพขบวนเพื่อติดตามหาความไดเปรียบ

จะไมมีวันรับความไดเปรียบ.

¥ ถาเขาทิ้งคายเพื่อแสงหาความไดเปรียบ

สัมภาระจะเกิดความเสียหาย.

¥ สิ่งที่ตามมา คือ เม่ือเก็บเกราะ แลวเดินทางดวยความรีบเรง

เดินทางไมหยุดยั้งทั้งกลางวันและกลางคืน

เรงความเร็วขึ้นเทาตัว เพื่อใหทางไกลหน่ึงรอยลี้

นายกองสามคนจะถูกจับได

กองทหารที่เขมแข็งจะเดินมาถึงไดกอน

สวนพวกออนแอจะลากสังขารมาถึงภายหลัง

ถาใชวิธีการเชนน้ี

ทหารเพียงหน่ึงในสิบของกําลังทั้งหมดเทาน้ันที่จะบรรลุเปาหมาย.

¥ เม่ือเรงเดินทัพโดยรวดเร็ว ใหไดระยะทางหาสิบลี้

ผูบังคับกองทหารจะหมดกําลัง

และการเกินทัพดวยวิธีน้ี ทหารจะถึงที่หมายเพียงก่ึงหน่ึง

ถาเรงทัพใหเดินทางสามสิบลี ้ทหารจะถึงที่หมายสองในสาม.

¥ ผลที่ตามมาก็คือ

กองทัพจะขาดอาวุธยุทโธปกรณหนัก

เชน เสื้อเกราะ อาหารเลี้ยงมา เสบียงอาหารและสัมภาระอ่ืนๆ จะสูญเสีย.

Page 30: ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู

- 30 -

¥ ผูที่ไมรูจักสภาพของปา ที่รกอันเต็มไปดวยอันตราย

พื้นที่ชื้นแฉะ และพื้นที่ของปาชายเลน

จะไมสามารถนําทัพเดินทางได.

¥ ผูที่ไมรูจักใชมัคคุเทศกพื้นเมือง

จะไมอาจแสวงหาความไดเปรียบไดจากพื้นที.่

¥ รากฐานของการทําสงคราม คือ กลอุบาย

เคลื่อนที่เม่ือมีทางไดเปรียบ

แลวสรางสถานการณใหเกิดความเปลี่ยนแปลง โดยแยกกําลัง และรวมกําลัง.

¥ เม่ือลงมือเขาตี ตองรวดเร็ว ราวลมพัด

เม่ือเดินทัพ ใหมีความสงา ดังปาไม

เม่ือบุกทลวง ก็ใหเหมือน ดังไฟไหม

เม่ือหยุดยืน ก็ใหม่ันคง ดังขุนเขา

มิใหผูใดหยั่งเชิงได ดังเมฆ

เม่ือเคลื่อนที่ ก็รวดเร็ว ดังสายฟาฟาด.

¥ เม่ือรุกเขาไปในชนบท แบงกําลังออก

เม่ือยึดดินแดนใดได แบงปนผลกําไร.

¥ ชั่งนํ้าหนักของสถานการณเสียกอน แลวจึงเคลื่อนทัพ.

¥ ผูที่เขาใจศิลปของการเขาตี โดยวิธีตรงและวิธีออม จะมีชัยชนะ

Page 31: ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู

- 31 -

น่ีคือ ศิลปในการดําเนินกลยุทธ.

¥ ตําราบริหารการทัพระบุวา

ระหวางทําการรบน้ัน

ใชเสียงสั่งการยอมไดยินไมทั่วถึง จึงตองใชกลองและมาลอ

ทหารหนวยตางๆ เห็นกันไดไมชัดเจน จึงตองใชธงและแถบแพรสีตางๆ เปนสัญญาณ.

¥ มา ลอ กลอง แถบแพรสี และธงน้ัน ใชเพื่อเปนจุดรวมความสนใจของทหาร

หนวยทหารตางๆ จะรวมตัวกันติด

ผูกลาหาญไมอาจรุกไปไดโดยลําพัง

ผูขยาดหวาดกลัวก็ถอยมิได

น่ีคือ ศิลปในการบังคับกองทหาร.

¥ การรบกลางคืน ตองอาศัยคบไฟและเสียงกลอง

การรบกลางวัน ใชแถบแพรสีและธงทิวเปนจํานวนมาก

เพื่อชวยการมองเห็นและการไดยินของทหารฝายเรา.

¥ กองทัพอาจถูกทําใหเสียขวัญได

และแมทัพก็อาจหมดมานะได.

¥ ตอนเชาตรู จิตใจแจมใส

ระหวางกลางวัน ทหารเกิดความอิดโรย

พอตกถึงเวลาเย็น ก็คิดถึงบาน.

Page 32: ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู

- 32 -

¥ ดวยเหตุน้ี

ผูชํานาญการศึกจึงหลีกเลี่ยงขาศึก เม่ือเวลาที่มีจิตใจฮึกเหิม

เขาตีเม่ือเวลาที่ขาศึกอิดโรย ทหารพากันคิดถึงบาน

น่ีคือ การควบคุมภาวะของอารมณ.

¥ เม่ือกองทัพที่อยูในระเบียบ

ต้ังคอยทีทัพขาศึกที่ขาดระเบียบ

ในความสงบเงียบน้ันคือจิตใจที่กระหายจะสูรบ

น่ีคือ การควบคุมภาวะจิตใจ.

¥ ที่ใกลกับยุทธภูมิ เฝาคอยขาศึกที่เดินทางมาจากไกล

เม่ือขาศึกหยุดพัก ทําใหขาศึกอิดโรย

เม่ือขาศึกมีอาหารกินไมเพียงพอ ทําใหเกิดความหิวโหย

น่ีคือ การควบคุมทางกายภาพ.

¥ เม่ือเห็นขาศึกรุกคืบหนา

โดยมีธงทิวและแถบแพรสีดูเปนระเบียบ ขบวนศึกก็ถูกตองนาด ู

เชนน้ีไมพึงเขารบกับขาศึก

น่ีคือ การควบคุมความเปลี่ยนแปลงตามภาวะแวดลอม.

¥ ดวยเหตุดังกลาว

ศิลปของการใชกําลังทหาร จึงอยูที่

ไมเผชิญหนากับขาศึกทีอ่ยูบนที่ดอน

เม่ือขาศึกยึดไดเนินเขา ยันดานหลังของกองทัพอยู ก็อยาเขาทําการรบดวย

Page 33: ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู

- 33 -

เม่ือขาศึกแสรงแตกหนี อยาติดตาม

อยาเขาตีกองทหารทลวงฟนของขาศึก

อยากลืนเหยื่อที่ขาศึกเสนอให

อยาขัดขวางขาศึกที่กําลังเดินทางกลับบานเมือง

เม่ือลอมขาศึกไวได จงเปดทางหนีไว

อยารังแกขาศึกจนมุม

น่ีคือ วิธีการดําเนินกลยุทธ.

[[[[[[[[[[[[

Page 34: ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู

- 34 -

๘. สิ่งซึ่งแปรผันไดเกาประการ ซุนจูกลาววา ¥ โดยปรกติธรรมดาน้ัน ระบบของการจัดขบวนศึก คือ การที่แมทัพรับบัญชาจากผูมีอํานาจปกครองสูงสุด ใหระดมพลจากประชาชนแลวรวบรวมขึ้นเปนกองทัพ. ¥ ทานจะตองไมต้ังคายในที่ลุม. ¥ ในพื้นที่ซ่ึงมีการติดตอสะดวก จงรวมกับพันธมิตร. ¥ ถาทานจะตองวกเวียน ในพื้นที่ปองกันตัวไดยาก ในพื้นที่คับขัน ตองเตรียมตัวใหพรอมทุกอยาง. ¥ ในพื้นที่ตาย ใหสู. ¥ มีทางบางเสนที่ไมควรเกินตาม หนวยทหารบางหนวยที่ไมควรเขาตี เมืองบางเมืองไมควรเขายึด พื้นที่บางแหงไมควรทําการรบ. ¥ แมทัพเขาถึงถองแทใน ความไดเปรียบของการใชหลักของสิ่งที่ผันแปรไดเกาประการ ยอมรูวาจะใชขบวนศึกอยางไร. ¥ แมทัพผูไมเขาใจ ความไดเปรียบจากการใชหลักของสิ่งที่ผันแปรไดเกาประการ จะไมสามารถใชพื้นที่เพื่อความไดเปรียบ แมจะมักคุนกับพื้นที่น้ันดี. ¥ อํานวยงานปฏิบัติการทางทหารน้ัน ผูที่ไมเขาใจเลือก ยุทธวิธีอันเหมาะสมกับความผันแปรไดเกาประการ จะไมสามารถใชกําลังทหารอยางไดผลด ี แมแตถาเขาจะเขาใจ “ความไดเปรียบหาประการ”

Page 35: ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู

- 35 -

¥ ดวยเหตุน้ี แมทัพผูฉลาด เม่ือจะตองแกปญหาตางๆ จึงตองพิจารณาปจจัยทั้งที่เปนคุณและโทษ. ¥ เม่ือพิจารณาปจจัยตางๆ อันเปนคุณแลว แมทัพยอมกําหนดแผนที่จะใชปฏิบัติได โดยเอาปจจัยที่เปนโทษมารวมพิจารณาดวย แมทัพจึงอาจขจัดปดเปาความยากลําบากทั้งมวลได. ¥ การจะทําใหเมืองขางเคียงเกิดความยําเกรง ยอมปฏิบัติไดดวย การนําเรื่องเดือดรอนมาให. ¥ เขาทําใหขาศึกกะปลกกะเปลี้ย ดวยการทําใหขาศึกมีเรื่องตองแกไขอยูตลอดเวลา ทําใหขาศึกตองวุนวายไปมา โดยเสนอสิ่งที่ทําใหดูไดเปรียบอยางแลวอยางเลา. ¥ กฎของสงครามมีอยูประการหน่ึง คือ อยาคะเนวาขาศึกจะไมมา แตควรจะคิดวา เราพรอมจะเผชิญหนาขาศึกอยูเสมอ อยาคิดเสียวาขาศึกจะไมเขาตี แตใหถือวา ตองทําใหไมมีผูใดทําลายได. ¥ มีคุณสมบัติอยู หาประการ ที่เปนอันตรายตอบุคคลิกภาพของแมทัพ ¥ ถาประมาท อาจถูกฆา ถาขลาดกลัว จะถูกจับ ถาโมโหฉุนเฉียวงาย จะถูกหลอกใหโงไดงาย ถาออนไหวในความรูสึกเรื่องเกียรติยศ ยอมจะถูกสบประมาทใหโกรธไดงาย ถาเปนคนขี้สงสาร ยอมถูกรบกวนความรูสึกไดงาย. ¥ บุคคลิกภาพทั้งหาประการน้ี เปนอันตรายรายแรงสําหรับผูเปนแมทัพ และเม่ือลงมือปฏิบัติการทางทหารยอมเกิดความหายนะ.

Page 36: ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู

- 36 -

¥ ความพินาศของกองทัพ ความตายของแมทัพ ยอมเกิดขึ้นได เพราะผลของบุคคลิกภาพเหลาน้ี จึงตองพิจารณากันใหลึกซ้ึง.

[[[[[[[[[[[[

Page 37: ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู

- 37 -

๙. การเดินทัพ ซุนจูกลาววา ¥ โดยทั่วไปน้ัน เม่ือเขาที่ต้ังและเผชิญหนากับขาศึก หลังจากที่ไดเดินทัพขามเขามาแลว ใหอยูใกลหุบเขา ต้ังคายบนที่ดอน หันหนารับแสงตะวัน. ¥ รบลงจากเนิน อยาปนเขาเพื่อเขาตี. ¥ เรื่องต้ังทัพในภูเขา มีเพียงเทาน้ี. ¥ หลังจากขามแมนํ้าแลว ทานตองเคลื่อนทัพใหหางจากริมแมนํ้า. ¥ เม่ือแมทัพขาศึกรุกขามแมนํ้า อยาปะทะที่ริมนํ้า หนทางไดเปรียบคือ ยอมใหกําลังของขาศึกก่ึงหน่ึงขามแมนํ้ากอน แลวเขาตี. ¥ ถาทานปรารถนาจะเปดการรบ อยาเผชิญหนากับขาศึกใกลนํ้า ต้ังทัพบนที่ดอนหันหนารับแสงแดด อยาอยูในตําแหนงใตกระแสนํ้า. ¥ เรื่องต้ังทัพใกลแมนํ้า มีเพียงเทาน้ี. ¥ เม่ือขามดินเค็มชายทะเล ใหขามโดยรวดเร็ว อยาวกวนอยูในพื้นที่เชนน้ี ถาตองปะทะกับขาศึกกลางพื้นดินเค็ม

Page 38: ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู

- 38 -

ใหหาตําแหนงต้ังทัพใกลพงหญาและนํ้า โดยมีตนไมอยูเบ้ืองหลัง. ¥ เรื่องต้ังทัพในพื้นที่ดินเค็มชายทะเล มีเพียงเทาน้ี. ¥ บนพื้นที่ราบ ตองเขายึดบริเวณที่จะอํานวยความสะดวกในการรบ ใหที่สูงอยูดานหลังและดานขวา สนามรบอยูเบ้ืองหนา แลวเบ้ืองหลังจะปลอดภัย. ¥ เรื่องต้ังทัพบนพื้นที่ราบ มีเพียงเทาน้ี. ¥ โดยทั่วไปการต้ังทัพตามสภาวการณทั้งสี่ที่กลาวมาแลวน้ี ยอมทําใหเกิดความไดเปรียบ พระเจาอ้ืงต่ีฮองเตใชในการทําศึก มีชัยชนะไดสี่แควน. ¥ กองทัพชอบที่ดอนมากกวาที่ลุม พอใจแสงตะวันไมชอบรมเงา เม่ือทหารมีพลานามัยสมบูรณ กองทัพก็ยึดครองพื้นที่ไดม่ันคง กองทัพที่ไมมีความเจ็บปวนดวยโรคภัยทั้งหลาย ยอมมีชัยชนะแนนอน. ¥ เม่ืออยูใกลเนินดิน ตีนเขา คันก้ันนํ้า หรือฝงแมนํ้า ทานตองต้ังทัพในตําแหนงที่รับแสงแดด ใหสวนขวาและสวนหลังต้ังบนที่สูงเหลาน้ัน. ¥ วิธีการเหลาน้ีเปนทางไดเปรียบของกองทัพ และไดอาศัยประโยชนจากพื้นที่เขาชวย. ¥ ที่ใดมีนํ้าไหลเชี่ยวจากที่สูงชัน มี “บอสวรรค” “กรงสวรรค” “กับดักสวรรค” “ตาขายสวรรค” และ “รอยราวสวรรค” ทานตองรีบเดินทัพออกจากที่เหลาน้ีโดยเร็วที่สุด อยาเขาไปใกล. ¥ ขาพเจาอยูหางจากสถานที่เชนน้ี แลวลอใหขาศึกเขาไปในที่เชนน้ี ขาพเจาเผชิญหนาขาศึก แลวทําใหขาศึกหันหลังหาสถานที่เชนน้ี.

Page 39: ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู

- 39 -

¥ เม่ือดานขางของกองทัพ เปนปารกชัฎอันตราย หรือหนองนํ้าปกคลุมดวยหญาและพงออ ดงเสือหมอบ หรือปาลึก ใกลเขาโคนไมปกคลุมดวยเถาวัลย ทานจะตองคนดวยความระมัดระวัง เพราะสถานที่เชนน้ี ขาศึกมักซุมโจมตีและสายลับมักซุมซอน. ¥ เม่ือขาศึกอยูใกล แตสงบน่ิงอยู ขาศึกอาศัยที่ต้ังที่เหมาะสม เม่ือขาศึกอยูไกล แตทาทายหมายยั่วใหทานรุกเขาหา ขาศึกยอมอยูในพื้นที่เหมาะสม และอยูในตําแหนงที่ไดเปรียบ. ¥ เม่ือเห็นตนไมเคลื่อนไหว หมายถึง ขาศึกกําลังรุก. ¥ เม่ือมีเครื่องกีดขวางอยูมากตามดงทึบ หมายถึง ขาศึกมุงหลอกลอง. ¥ เม่ือฝูงนกบินขึ้นดวยความตระหนกตกใจ เปนสัญญาณใหรูวา ขาศึกซุมคอยเพื่อลอบโจมตี เม่ือสัตวปาแตกต่ืนหนีกระเจิง หมายถึง ขาศึกพยายามจะเจาตีโดยมิใหทานรูตัว. ¥ เม่ือผงฝุนกระจายขึ้นเบ้ืองสูงเปนลํา หมายถึง รถศึกของขาศึกกําลังเขามาใกล เม่ือผงฝุนกระจายแผเต้ียเปนบริเวณกวาง หมายถึง ทหารกําลังรุกเขาหา. ¥ เม่ือผงฝุนฟุงขึ้นเปนจุดหลายบริเวณ หมายถึง ขาศึกกําลังนําเชื้อไฟมา เม่ือฝุนเปนกระจุยเล็กๆ กระจายอยูมาก หมายถึง ขาศึกกําลังต้ังคาย. ¥ เม่ือทูตของขาศึกพูดดวยความออนนอมถอมตน ขณะเดียวกันก็จัดเตรียมกองทัพของตนอยู หมายถึง ขาศึกคิดรุก. ¥ เม่ือวาจาของขาศึกฟงดูเปนกลลวงใหเชื่อ แตขาศึกแสรงทําเปนรุก หมายถึง ขาศึกจะถอย. ¥ เม่ือทูตของขาศึกพูดจาในลักษณะขออภัย หมายถึง ขาศึกปรารถนาจะถวงเวลา หาทางผอนปรน.

Page 40: ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู

- 40 -

¥ ถาปราศจากการทําความเขาใจลวงหนามากอนแลว ขาศึกขอเจรจาสงบศึก หมายถึง ขาศึกกําลังคิดอุบาย. ¥ เม่ือรถมาศึกขนาดเบาออกแนว โดยอยูในตําแหนงขางของทัพ หมายถึง ขาศึกจัดรูปขบวนเพื่อเขารบ. ¥ เม่ือทัพของขาศึกเดินเร็ว และรถมาศึกก็เรียงคันเปนขบวน หมายถึง ขาศึกกําลังหมายจะไปที่จุดนัดพบกับกําลังหนุน. ¥ เม่ือกําลังของขาศึกก่ึงหน่ึงรุก อีกก่ึงหน่ึงถอย หมายถึง ขาศึกพยายามใชกลลวง. ¥ เม่ือทหารของขาศึกยืนอิงศาสตราวุธ หมายถึง ขาศึกกําลังอิดโรยเพราะหิวกระหาย. ¥ เม่ือคนตักนํ้าของขาศึกดื่มนํ้ากอนที่จะนํานํ้ากลับไปคาย หมายถึง ทหารของขาศึกกําลังกระหายนํ้า. ¥ เม่ือถึงทีรุกไดแตไมรุก หมายถึง ทหารขาศึกหมดกําลัง. ¥ เม่ือฝูงนกบินวอนอยูเหนือบริเวณของขาศึก หมายถึง คายวางเปลา. ¥ เวลากลางคืน เกิดเสียงอ้ืออึงขึ้นในคายของขาศึก หมายถึง ขาศึกกําลังหวาดกลัว. ¥ เม่ือกองทหารขาศึกขาดระเบียบ แมทัพก็หมดศักดิ์ศรี. ¥ เม่ือธงทิวและแถบแพรสีตางๆ ของขาศึก เปลี่ยนตําแหนงไปมาอยูเสมอๆ หมายถึง กําลังของขาศึกเริ่มระส่ําระสาย. ¥ ถานายทหารหงุดหงิดโมโหงาย

Page 41: ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู

- 41 -

ทุกคนกําลังอิดโรยออนเพลีย. ¥ เม่ือขาศึกเลี้ยงมาดวยขาวเปลือก เลี้ยงทหารดวยเน้ือสัตว และเม่ือขาศึกไมแขวนภาชนะหุงหาอาหาร ทหารก็ไมเขากระโจมพกั หมายถึง ขาศึกกําลังพะวาพะวัง. ¥ เม่ือทหารจับกลุมกันเปนหมูยอยๆ แลวพูดจากระซิบกัน หมายถึง หมดความไววางใจในตัวแมทัพ. ¥ การปูนบําเหน็จรางวัลบอยเกินไป แสดงวา แมทัพกําลังหมดหนทาง การลงโทษบอยเกินไป หมายถึง แมทัพอารมณเสียเปนประจํา. ¥ แรกทีเดียวถานายทัพดุดันกับลูกทัพ แลวตอมากลับกลัว วินัยของทหารยอมถึงขีดจํากัดแลว. ¥ เม่ือทัพของขาศึกมีความคึกคะนอง และเผชิญอยูเบ้ืองหนาทัพของทาน อยาเขาทําการรบดวยเวลานานหรือผละไป ทานตองตรวจสอบสถานการณใหถี่ถวน. ¥ ในการทําศึก จํานวนทหารอยางเดียวมิไดแสดงถึงความไดเปรียบ อยารุกโดยถือเอาอํานาจทหารเปนสําคัญ. ¥ ประมาณสถานภาพของขาศึกใหถูกตองก็เปนการเพียงพอแลว รวมกําลังของทานจับขาศึกใหได ไมมีอะไรมากไปกวาน้ี ผูที่ขาดสายตาไกลประมาณกําลังของขาศึกผิดพลาด จะถูกขาศึกจับได. ¥ ถาทหารของทานถูกลงโทษ กอนจะดูใหแนถึงความจงรักภักดี ทหารจะหมดความเชื่อถือในคําสั่ง ถาทหารไมเชื่อฟงก็ยากจะใชงาน ถาทหารมีความจงรักภักดี แตไมมีการลงโทษเม่ือทําผิดก็ใชวานมิได เชนกัน. ¥ ฉน้ัน จงบังคับบัญชาทหารดวยความยุติธรรม ใหกําลังใจ อยางสมํ่าเสมอ

Page 42: ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู

- 42 -

มีการปูนบําเหน็จและเลื่อนตําแหนงใหสมควร อาจพูดไดวา ชัยชนะเปนของแนนอน. ¥ ถาคําสั่งใดใชไดผลเสมอ ทหารจะเชื่อฟง คําสั่งใดไมปรากฏผลดีเปนที่แนชัด ทหารก็จะไมเชื่อฟงคําสั่ง. ¥ เม่ือคําสั่งเปนที่เชื่อถือไดสมํ่าเสมอแนนอน ทหารก็ปฏิบัติตาม ความสัมพันธระหวางแมทัพกับลูกทัพอยูในเกณฑที่นาพอใจ.

[[[[[[[[[[[[

Page 43: ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู

- 43 -

๑๐. ภูมิประเทศ ซุนจูกลาววา ¥ พื้นที่อาจแยกประเภทไดตามลักษณะของธรรมชาติ คือ เขาออกได เปนกับดัก ไมแนนอน บีบรัด สูงชัน และมีระยะทาง. ¥ พื้นที่ซ่ึงทั้งฝายเราและฝายขาศึก สามารถเดินทางผานเขาออกไดดวยความสะดวกเทาๆ กัน

เชนน้ีเรียกวา พื้นที่เขาออกได ในพื้นที่เชนน้ี ผูที่เลือกไดดานที่รับแดด และมีเสนทางลําเลียงสะดวกกอน จะสามารถทําการรบอยางไดเปรียบ. ¥ พื้นที่ซ่ึงยกกําลังเขาไปไดงาย แตยากที่จะถอนตัวกลับ เชนน้ีเรียกวา พื้นที่เปนกับดัก ธรรมชาติของพื้นที่เชนน้ี ถาขาศึกมิไดเตรียมตัวไว แลวทานกําลังเขาตีอยางรวดเร็ว ทานอาจทําลายขาศึกได ถาขาศึกเตรียมรับ ทานยกกําลังเขารบแตไมชนะ ยากที่จะถอยกลับ เชนน้ี ไมมีประโยชนอันใด. ¥ พื้นที่ซ่ึงเม่ือเขาไปแลวเกิดความเสียเปรียบเทาๆ กัน ทั้งฝายเราและฝายศัตรู เชนน้ีเรียกวา พื้นที่ไมแนนอน ธรรมชาติของพื้นที่เชนน้ี แมขาศึกจะวางเหยื่อลอไว ขาพเจาก็จะไมรุกเขาไป แตจะลวงใหขาศึกเคลื่อนตัวออกมา เม่ือขาพเจาดึงทัพของขาศึกออกมาไดแลวครึ่งหน่ึง ขาพเจาจะเขาโจมตีอยางไดเปรียบ. ¥ ถาขาพเจาเปนฝายแรกที่ตกอยูใน พื้นที่บีบรัด ขาพเจาตองปดทางผานเขาออกแลวคอยทีขาศึก ถาขาศึกเปนฝายแรกที่เขายึดพื้นที่เชนน้ันได แลวปดทางผานเขา ขาพเจาจะไมติดตามขาศึก

Page 44: ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู

- 44 -

ถาขาศึกมิไดปดเสียจนสิ้นหนทาง ขาพเจาก็อาจรุกเขาไปได. ¥ ถาเปนพื้นที่สูงชัน ขาพเจาจะเลือกต้ังทัพในที่สูงรับแสงตะวันคอยทีขาศึก ถาขาศึกเขายึดพื้นที่เชนน้ันไดกอน ขาพเจาจะลอใหขาศึกเคลื่อนที่ออก ขาพเจาไมติดตามขาศึก. ¥ เม่ืออยูในระยะทางหางจากขาศึกที่มีกําลังทัดเทียมกัน เปนการยากที่จะยั่วยุใหเกิดการรบ และไมมีประโยชนอันใดที่จะเขาทําการรบกับขาศึก ในพื้นที่ซ่ึงขาศึกเปนผูเลือกไดกอน. ¥ น่ีคือหลักที่เก่ียวของกับ ประเภทของพื้นที่แตกตางกัน หกประการ เปนความรับผิดชอบสูงสุดของแมทัพ ที่จะตองรูจักพื้นที่ตางๆ แลวพิจารณาดวยความระมัดระวัง. ¥ เม่ือทหารแตกทัพไมเชื่อฟงคําสั่ง ขวัญเสียสิ้นกําลัง หมดความเปนระเบียบ และกระดางกระเดื่อง ความผิดตกอยูที่แมทัพ ความพินาศฉิบหาย ดวยเหตุเหลาน้ีจะอางวา เปนเหตุทางธรรมชาติมิได. ¥ ภาวะอยางอ่ืนก็เชนเดียวกัน ถากําลังรบหนวยใด ตองเขาตีหนวยที่ใหญกวาสิบเทา ผลก็คือ ตองแตกทัพ. ¥ เม่ือทหารเขมแข็ง และนายทหารออนแอ กองทัพก็ขาดระเบียบ. ¥ เม่ือนายทหารมีความฮึกเหิม และไพรพลไมกระตือรือรน กองทัพก็หมดความสามารถ. ¥ เม่ือนายทหารชั้นผูใหญโกรธและไมเชื่อฟงคําสั่ง และเม่ือตองเขาสูรบกับขาศึก ก็เรงรีบเขาทําการรบ โดยไมเขาใจ ผลไดผลเสีย ของการปะทะ

Page 45: ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู

- 45 -

และไมคอยฟงคําสั่งจากผูบังคับบัญชา กองทัพอาจอยูในฐานะยับเยินได. ¥ เม่ือจิตใจของแมทัพออนแอ การรักษาระเบียบวินัยไมเครงครัด เม่ือคําสั่งและแนวทางปฏิบัติของแมทัพ ไมสรางความเชื่อม่ัน และปราศจากระเบียบและขอบังคับที่เด็ดขาด เพื่อเปนแนวทางสําหรับนายและไพรพล รูปขบวนทัพก็สับสน หมายถึง กองทัพยอมเกิดความระส่ําระสาย. ¥ เม่ือผูบัญชาการไมสามารถประมาณกําลังของขาศึก ใชกําลังนอยเขาสูกําลังมาก ใชกําลังออนแอเขาตีกําลังเขมแข็ง หรือไมสามารถเลือกหนวยทลวงฟนใหกองทัพ ผลก็คือ แพ. ¥ เม่ือภาวะอยางใดอยางหน่ึง ในหกประการน้ี เกิดขึ้น หมายถึง กองทัพมีหนทางพายแพ จึงเปนความรับผิดชอบสูงสุดของแมทัพที่จะตองตรวจสอบปญหาดวยความระมัดระวัง. ¥ รูปลักษณะของพื้นที่ภูมิประเทศ มีสวนชวยในการทําสงครามเปนอยางยิ่ง ฉน้ัน การประมาณภาวะของขาศึก คํานวณดูระยะทาง และพิจารณาดูความยากงายของพื้นที่ภูมิประเทศ เพื่อควบคุมใหเกิดชัยชนะ จึงเปนคุณลักษณะของแมทัพที่มีฝมือเหนือกวา ผูที่ทําสงครามดวยความรอบรูถึงปจจัยตางๆ ดังไดกลาวมาแลว ยอมแนนอนวา จะมีชัยชนะ ผูที่ไมเอาใจใส ยอมพายแพ แนนอน. ¥ ถาสถานการณ แสดงถึง ชัยชนะ แตผูมีอํานาจปกครองแผนดินสูงสุดออกคําสั่งมิใหรบ แมทัพอาจตัดสินใจเขารบได ถาสถานการณ แนชัดวา จะเอาชนะมิได แตผูมีอํานาจปกครองแผนดินสูงสุดออกคําสั่งใหรบ

Page 46: ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู

- 46 -

แมทัพไมจําเปนตองทําตาม. ¥ ฉน้ัน แมทัพที่นําทัพรุกโดยไมใฝหาชื่อเสียงเฉพาะตัว และเม่ือถอยทัพ ก็ไมหวงใยหลีกเลี่ยงการลงโทษ แตดวยความมุงหมายเพียงตองการปองกันประชาชน และเสริมสรางผลประโยชนดีที่สุด ใหกับผูมีอํานาจปกครองแผนดิน แมทัพเชนน้ีถือเปนมณีมีคายิ่งของบานเมือง. ¥ เพราะ แมทัพเชนน้ี ถือวา คนของตน เหมือนดั่ง ทารกแรกเกิด ทหารจะเดินตามเขาไปในหุบเขาลึกที่สุด แมทัพเชนน้ี ดูแลทหาร ปาน บุตรสุดที่รักของตน ทหารจะตายกับแมทัพ. ¥ ถาแมทัพสามารถทําใหทหารพอใจได แตใชงานทหารมิได ถาเขารักทหาร แตไมสามารถบังคับใหทหารทําตามคําสั่งได ถากองทัพไมอยูในระเบียบวินัย และแมทัพก็ไมสามารถควบคุมทหารได ทหาร ก็เปรียบไดดัง ลูกเหลือขอ และไมมีประโยชนอันใด. ¥ ถา ขาพเจาทราบวา กองทัพของขาพเจาสามารถตีขาศึกได แต ไมทราบวา เม่ือลงมือตีแลวไมอาจทําใหขาศึกแพได โอกาสชนะของขาพเจา มีเพียงครึ่งเดียว. ¥ ถาขาพเจาทราบวา ขาศึกจะพายแพเม่ือเขาตี แต ไมทราบวา ทหารของขาพเจาไมมีขีดความสามารถที่จะเขาตีขาศึกได แต ไมทราบวา สัณฐานของธรรมชาติไมอํานวย ขาพเจาไมควรเขาตี โอกาสที่ขาพเจาจะมีชัยชนะ มีอยูครึ่งเดียว. ¥ ฉน้ัน เม่ือผูเชี่ยวชาญการสงครามลงมือปฏิบัติการ ก็จะไมมีอะไรผิดพลาด เม่ือลงมือแลว ก็มีสติปญญาทํางานตอเน่ืองไดไมจํากัด. ¥ ขาพเจาจึงวา “รูจักขาศึก รูจักตนเอง ชัยชนะของทานก็จะไมเปนอันตราย รูจักพื้นภูมิประเทศ รูจักภูมิอากาศ ชัยชนะก็เปนเรื่องเบ็ดเสร็จ”.

[[[[[[[[[[[[

Page 47: ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู

- 47 -

๑๑. พื้นที่ตางกันเกาอยาง ซุนจูกลาววา ¥ ในเรื่องที่เก่ียวกับการใชขบวนศึกน้ัน ใหพิจารณาแบงลักษณะของพื้นที่ออกตางๆ กันดังน้ี กระจัดกระจาย, หนาดาน, หัวใจ, คมนาคม, ใจกลาง, เครงเครียด, ยากลําบาก, ปดลอม, และ ตาย. ¥ เม่ือเจานครตองทําศึก ในเขตแควนของตนเอง เขาอยูใน พื้นที่กระจัดกระจาย. ¥ แมทัพนําทัพแทรก เปนแนวแคบเขาไปในดินแดนของขาศึก เขาอยูใน พื้นที่หนาดาน. ¥ พื้นที่ซ่ึง ทั้งสองฝายตางมีทางไดเปรียบ ถือเปน พื้นที่หัวใจ. ¥ พื้นที่ซ่ึง ออกไปได ทั้งทัพของขาศึกและของขาพเจา ถือเปน พื้นที่คมนาคม. ¥ เมืองใดก็ตามถูกลอม อยูดวยเมืองอ่ืนๆ อีกสามเมือง เมืองเชนน้ี ถือเปน พื้นที่ใจกลาง ผูที่สามารถเขาควบคุมไดกอน จะไดรับความสนับสนุนจากทุกอยางที่อยูใตฟา. ¥ เม่ือกองทัพเจาะลึกเขาไปในดินแดนของขาศึก ทิ้งเมืองเล็กเมืองนอยไวเบ้ืองหลังหลายเมือง พื้นที่เจาะลึกเขาไปได ถือเปน พื้นที่เครงเครียด. ¥ เม่ือกองทัพเดินทางขามเขา ผานปา พื้นที่สูงชัน หรือเดินทางผานที่รกชัฏ ที่เปยกชื้น หนองนํ้า หรือพื้นที่ใดก็ตาม ที่ผานไดดวยความยากลําบาก ถือเปน พื้นที่ยากลําบาก.

Page 48: ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู

- 48 -

¥ พื้นที่ใดทางเขาจํากัด ทางออกก็ยาก และกองทหารขนาดเล็กของขาศึก สามารถเขาตีกําลังขนาดใหญกวาได เชนน้ี ถือเปน พื้นที่ปดลอม. ¥ พื้นที่ซ่ึง กองทัพจะเอาตัวรอดไดทางเดียว คือ ตองตอสู ดวยความมานะและสุดกําลังเชนน้ี ถือเปน พื้นที่ตาย. ¥ ฉน้ัน จงอยาทําการสูรบ ในพื้นที่กระจัดกระจาย อยาหยุดยั้ง ณ พื้นที่หนาดานชายแดน อยาโจมตีขาศึก ผูยึดครอง พื้นที่หัวใจ ในพื้นที่คมนาคม อยาใหขบวนทัพของทานแตกแยกกัน ในพื้นที่ใจกลาง ผูกมิตรกับเมืองขางเคียง ในพื้นที่ลึก ตองหักหาญ ในพื้นที่ยากลําบาก ตองบากบ่ัน ในพื้นที่ปดลอม ใหหายุทธวิธี ในพื้นที่ตายใหสู ในพื้นที่กระจัดกระจาย ขาพเจาจะรวบรวมความต้ังใจม่ันของกองทัพใหเปนอันหน่ึงอันเดียวกัน. ในพื้นที่หนาดาน ขาพเจาจะคอยระวังใหกําลังทหารของขาพเจาตอเชื่อมใกลชิดกัน. ในพื้นที่หัวใจ ขาพเจาจะเรงความเร็วของกําลังสวนหลัง. ในพื้นที่คมนาคม ขาพเจาจะเอาใจใสกับการปองกันตัวเอง. ในพื้นที่ใจกลาง ขาพเจาจะสงเสริมไมตรีกับพันธมิตร.

Page 49: ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู

- 49 -

ในพื้นที่เครงเครียด ขาพเจาตองจัดการใหแนนอน วา เสบียงสงไดตอเน่ืองไมขาดมือ. ในพื้นที่ยากลําบาก ขาพเจาจะเรงรีบเดินทาง. ในพื้นที่ปดลอม ขาพเจาจะปดทางเขาและทางออก ¥ ในพื้นที่ตาย ขาพเจาสามารถแสดงดวยประจักษพยานวา ไมมีทางเอาตัวรอดไดเลย โดยธรรมชาติของทหารน้ัน จะตานทาน เม่ือถูกลอม จะสูจนตัวตาย เม่ือไมมีทางเลือกเปนอยางอ่ืน เม่ือสิ้นหนทาง ทหารจะปฏิบัติตามคําสั่งอยางเครงครัด. ¥ ตองเลือกยุทธวิธีตางๆ กัน ใชใหเหมาะสมกับลักษณะของพื้นที่ทั้งเกาชนิด ความไดเปรียบเสียเปรียบของการรวมและการกระจายกําลัง และหลักธรรมชาติของมนุษย สิ่งตางๆ เหลาน้ี แมทัพจะตองพิจารณาดวยความระมัดระวังมากที่สุด. ¥ ในสมัยโบราณน้ัน ผูที่ถือวาชํานาญการศึก จะสามารถทําใหกองหนาและกองหลังของกองทัพขาศึกรวมตัวกันไมติด สวนหนาตางๆ ของตนเองน้ัน ไมวาเล็กหรือใหญจะรวมมือซ่ึงกันและกัน หนวยที่เขมแข็งกวา ชวย หนวยที่ออนแอ หนวยที่มีกําลังมาก ชวย หนวยที่มีกําลังนอย ทุกหนวยตางชวยกัน. ¥ เม่ือกําลังของขาศึกกระจัดกระจาย ก็สามารถปองกันมิใหขาศึกรวมกันติด เม่ือขาศึกรวมกันไดก็ทําใหเกิดความสับสนอลหมาน. ¥ ผูชํานาญการศึก จะรวมกําลังเปนปกแผน และเม่ือเห็นความไดเปรียบแลวจึงเคลื่อนกําลัง เม่ือไมไดเปรียบก็หยุดยัง้. ¥ หากมีผูถามวา

Page 50: ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู

- 50 -

“ขาพเจาจะทําอยางไรกับกองทัพขาศึกที่ขบวนทัพเปนระเบียบด ี และกําลังจะเขาตีขาพเจา” ขาพเจาตอบวา “ขายึดอะไรสักอยางหน่ึงที่ขาศึกหวงแหน แลวขาศึกจะยินยอมนอมตามปรารถนาของทาน”. ¥ ความรวดเร็ว เปน สิ่งสําคัญในการสงคราม ถือเอาความไดเปรียบจาก การมิไดเตรียมตัวของขาศึก เดินทางดวย เสนทางที่ขาศึกคาดไมถึง แลวเขาโจมตี ตรง จุดที่ขาศึกมิไดมีความระมัดระวัง. ¥ หลักการโดยทั่วไป ของกองทัพที่รุกเขาไปในดินแดนของขาศึก เม่ือทัพของทานรุกเขาไปในเขตของขาศึก กองทัพของทานตองรวมกันแนนแฟน ฝายปองกันไมสามารถเอาชนะทานได. ¥ หักหาญเขายึดถิ่นที่มีความอุดมสมบูรณ เพื่อใหกองทัพไดเสบียงมากไว. ¥ พึงระมัดระวัง เลี้ยงดูทหารใหอ่ิมพอ อยาใหทหารตองอิดโรยโดยไมจําเปน รวมกําลังขวัญใหม่ันคง ถนอมกําลังของทหาร คิดอานแผนศกึที่ไมมีใครสามารถหยั่งรู เพื่อการเคลื่อนไหวของขบวนศึก. ¥ ทุมเทกําลังทหาร ลงในที่ซ่ึงไมมีทางหนีได และแมจะตองเผชิญหนากับความตาย ทหารก็จะไมหนีทัพ ถาเตรียมตัวตายแลวอะไรบางเลาที่ทําไมได ทั้งนายและไพรพลจึงตองใชความพยายามจนสุดกําลัง เม่ือไมมีทางออก ทหารทุกคนก็ยืนหยัดม่ันคง เม่ือเห็นวาสิ้นหนทางแลว ทหารไมกลัวอะไรทั้งสิ้น เม่ืออยูลึกเขาไปในดินแดนของศัตรู ทหารก็ผูกพันกันม่ันคง และเม่ืออยูในที่ซ่ึงไมสามารถเลือกทางอ่ืนได ทหารก็จะเขารบกับขาศึกถึงขั้นตะลุมบอน. ¥ ดวยเหตุน้ี

Page 51: ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู

- 51 -

กองทหารดังกลาวจึงไมตองการสิ่งใดมายั่วยุใหฮึกหาญ ไมตองเรียกรองขอความสนับสนุน แมทัพก็ไดรับความสนับสนุน ไมตองขอใหทหารรัก ทหารก็รัก ไมตองเรียกรองใหทหารเชื่อ ทหารก็เชื่อ. ¥ นายทหารของขาพเจา ไมร่ํารวยเหลือเฟอ แตมิใช เพราะ เขาปฏิเสธโลกทรัพย ทหารของขาพเจา ไมคิด มีชีวิตยืนยาว แตมิใชชอบ ความมีอายุยืนยาว. ¥ เม่ือวันที่มีคําสั่งใหเคลื่อนขบวนศึก ผูที่น่ัง นํ้าตาชุมปกคอเสื้อ ผูที่นอนอยู นํ้าตารินไหลอาบแกม. ¥ เม่ือสงทหารเขาไปอยูในภาวะการณที่ไมมีหนทางหนีได ทหารจะแสดงความกลาหาญเด็ดเดี่ยว อันเปนอมตะ เชน ฉวนจู และ เฉาไขว. ¥ กองทหารของแมทัพผูชํานาญศึก จะใชงานไดวองไว ดวยความรูสึกตอเน่ือง เชน อสรพิษแหงเขาจาง เม่ือตีตรงหัว หางก็แวงกัด เม่ือตีที่หาง หัวก็กัดได เม่ือตีกลางตัว ทั้งหัวและหางชวยกันกัด. ¥ ถามีผูถามวา “มีทางทําใหกองทหารวองไวรอบตัว เชนน้ันไดหรือไม” ขาพเจาตอบวา “ทําได แมวา ทหารของหงอและหยวย จะชิงชังกันปานใดก็ตาม ถาหากจับใสลงไปในเรือลําเดียวกัน เม่ือเรือตองพายุรายแรง ทหารของทั้งสองเมือง จะรวมมือกันดังมือขวากับมือซาย”. ¥ ถือกันวา หาเปนการเพียงพอไม ถาผูใดจะคิดพึ่งพาอาศัย มาขาหัก หรือ รถศึกที่ลอติดหลม. ¥ การจะสรางความกลาหาญใหมีระดับสมํ่าเสมอ คือ จุดมุงหมาย ในการบริหารงานทางทหาร

Page 52: ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู

- 52 -

และก็ดวยการจัดใชพื้นที่ดวยความเหมาะสม ประกอบกับทั้ง การใชกองทหารทลวงฟนและกองทหารที่ปรับตัวได จึงจะไดเปรียบมากที่สุด. ¥ เปนกิจของแมทัพ ที่จะตองมี ความสงบระงับ ไมหวั่นไหว ไมลําเอียง และสามารถคุมสติตัวเองไดด.ี ¥ แมทัพจะตองสามารถปองกัน มิใหนายทัพนายกอง ลวงรูใน แผนการตางๆ ของตน. ¥ แมทัพตองหามการเชื่อถือโชคลาง เพื่อเปนการตัดความสงสัยในกองทัพ แมจนกระทั่งถึงเวลาตาย ก็จะไมมีเรื่องยุงยากอันใด. ¥ แมทัพเปลี่ยนวิธีการและพลิกแพลงแผนการณ เพื่อมิใหผูใดลวงรู ไดวา เขากําลังทําอะไรอยู. ¥ เขาพลิกแพลงเปลี่ยนที่ต้ังคาย และเดินทัพในเสนทางหลบหลีก เพื่อมิใหผูอ่ืนมีทางเขาใจ ความมุงหมายที่แทจริงของเขา. ¥ การรวมกําลัง แลวทุมเทลงไป ในภาวะที่ดูเหมือนหมดหนทาง เปนภาระกิจของแมทัพ. ¥ เขานําทัพรุกเขาไป ในดินแดนของศัตร ู แลวจึง ”ลั่นไก”. ¥ เขาเผาเรือ ทุบหมอขาวหมอแกง ของเขา เขาเรงรัดทหารทั้งทัพ ประหน่ึง ตอนฝูงแกะ เดี๋ยวไปทางน้ี เดี๋ยวไปทางอ่ืน ไมมีใครรูไดวา เขาจะไปทางไหน. ¥ เขากําหนดวันนัดพบรวมกําลัง และเม่ือกําลังรวมไดแลว ก็ตัดทางถอยกลับเสีย ดุจดังรื้อบันไดเบ้ืองลาง.

Page 53: ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู

- 53 -

¥ ถาไมรูถึง แผนของนครขางเคียง ยอมไมสามารถตระเตรียมผูกไมตรีไดทันทวงท ี ถาขาดความรอบรูเก่ียวกับ ภาวะของภูเขา ปา ที่รกชัฏ หนองนํ้า และที่ลุมมีนํ้าขัง ยอมไมสามารถอํานวยการเดินทัพได ถาไมรูจัก การใชมัคคุเทศกพื้นเมือง ยอมไมสามารถหาความไดเปรียบไดจากพื้นที่ได แมทัพที่ขาดความรอบรู แมขอใดขอหน่ึงในสามขอน้ี ยอมไมเหมาะที่จะ บังคับบัญชา กองทัพของเจานครระดับอองได. ¥ เม่ือเจาเมืองระดับออง เขาตีนครที่มีพลังแข็งกลา เขายอมทําใหขาศึกรวมกําลังกันไมติด เขาทําขาศึกใหเกิดความเกรงกลัว และปองกันมิใหเมืองที่เปนมิตรกับขาศึกเขาชวย. ¥ ประการตอมาก็คือ เขาไมทําศึกกับกลุมที่รวมกําลังกันไดเขมแข็ง หรือไมใชอํานาจบีบบังคับอํานาจของเมืองหรือนครอ่ืนๆ เขายึดถือความบรรลุเปาหมาย ดวยสมรรถภาพที่จะสรางความยําเกรงใหฝายตรงขาม แลวเขาก็สามารถเขายึดเมืองตางๆ ของขาศึก และลมนครของขาศึกได. ¥ ปูนบําเหน็จรางวัล โดยไมยึดถือขนบประเพณี ออกคําสั่ง โดยมิเห็นแกหนาผูใด ทําไดเชนน้ี จะใชทหารทั้งกองทัพได ดุจดังใชคนๆ เดียว. ¥ สงกองทหารออกปฏิบัติภาระกิจ โดยมิตองบอกใหรูความมุงหมายของทาน ใชทหารเพื่อความไดเปรียบ โดยมิตองเปดเผยใหรูอันตรายที่จะเกิดขึ้น สงทหารเขาไปสูสถานการณ อันเต็มไปดวยการเสี่ยงอันตราย แลวทหารจะรอดตายได สงทหารเขาไปในพื้นที่ตาย ทหารก็เอาชีวิตรอดได

Page 54: ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู

- 54 -

เม่ือใดที่กองทัพตองตกอยูในฐานะเชนน้ัน ก็จะทําให ความพายแพ กลับกลาย เปนชยัชนะได. ¥ หลักมูลฐานของการปฏิบัติงานทางทหาร อยูที่ ความสามารถปรับตัวเอง ใหสอดคลองไปกับ แผนของขาศึก. ¥ รวมกําลังของทาน ใหเปนปกแผน เพื่อสูขาศึก จากระยะทางหาง ถึง หน่ึงพันลี้ ทาน ก็สามารถฆา แมทัพของขาศึกได. ¥ วันใดที่นโยบายการเขาตีลงมือปฏิบัติ ปดทางผานทุกทาง เก็บหนังสืออนุญาตผานแดน ตัดความสัมพันธใดๆ กับทูตของขาศึก แลวรายงานคณะมนตรีสงครามถึงแผนศึก. ¥ เม่ือใดที่ขาศึกเปดโอกาส จงฉวยเอาความไดเปรียบโดยเร็ว พยายามยึดสิ่งใดก็ตามที่มีคาของขาศึก แลวดําเนินการ ตามวันเวลาที่กําหนดแนนอน และ เปนความลับ. ¥ กฎของสงคราม อยูที่การติดตามสถานการณ ทางดานขาศึก เพื่อการตัดสินใจเขาทําการรบ. ¥ ฉน้ัน เม่ือแรกเริ่ม เอียงอาย ดุจสาวบริสุทธ เม่ือขาศึกเปดชองให ตองวองไวปราดเปรียว ดุจกระตายปา แลวขาศึกจะไมสามารถตานทานทานได.

[[[[[[[[[[[[

Page 55: ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู

- 55 -

๑๒. ไฟ ซุนจูกลาววา ¥ การโจมตีดวยไฟ มีอยูหาวิธี ขอแรก เผาคน ขอสอง เผาคลังเสบียง ขอสาม เผายุทโธปกรณ ขอสี่ เผาคลังสรรพาวุธ และขอหา ใชอาวุธลูกไฟตางๆ. ¥ ในการใชเพลิงเผา จะตองอาศัยสื่อกลางบางอยางดวย. ¥ อุปกรณสําหรับจุดไฟ ตองมีไวในมืออยูเสมอ. ¥ การวางเพลิง ตองเลือกเวลาที่เหมาะสม และวันอันสมควร. ¥ เวลาที่เหมาะสม หมายถึง ขณะเม่ืออากาศรอนอบอาวจัด. ¥ วันอันสมควร หมายถึง เม่ือดวงจันทรเขาสูราศีกันย เม่ือมีกลุมดาวอัลฟาราทซ กลุมดาวอ้ี กลุมดาวเฉิน วันตางๆ เหลาน้ี มีลมจัด. ¥ การโจมตีดวยไฟน้ัน ผูใชจะตองพิจารณา ใหสอดคลองกับ การเปลี่ยนแปรของสถานการณ. ¥ เม่ือเพลิงไหมขึ้นในคายของขาศึก ทันทีน้ัน ทานจะประสานการปฏิบัติจากภายนอกของทาน แตถาทหารของขาศึกยังคงสงบ ตองรอเวลาดูทาท ี อยาเขาตี. ¥ เม่ือไฟลุกโชติชวงแลว ตามตี ถาทําได ถาทําไมได ใหคอย.

Page 56: ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู

- 56 -

¥ ถาสามารถกอไฟขึ้นภายนอกคายของขาศึกได ก็ไมจําเปนตองรอใหไฟเริ่มขึ้นขางใน เลือกเวลาจุดไฟใหเหมาะสม. ¥ เม่ือไฟลุกทางดานเหนือลม อยาโจมตีจากดานใตลม. ¥ วันใดลมจัดตอนกลางวัน จะอับลมในตอนกลางคืน. ¥ ขาศึกเองก็ยอมรูจักใชไฟโจมตีหาประการ และรูภาวะที่จะเกิดขึ้น ขาศึกยอมระมัดระวังรอบคอบเสมอ. ¥ ผูที่ใชไฟ เขาชวยในการโจมตีได ถือวา ฉลาด สวนผูที่สามารถใชนํ้าทําลายขาศึกได ถือวา มีอํานาจ. ¥ นํ้าสามารถตัดขาศึกใหอยูโดดเดี่ยวได แตไมสามารถทําลายเสบียงและยุทโธปกรณได. ¥ การชนะขาศึกไดทุกอยางตามความมุงหมาย แตไมสามารถใชประโยชนได ถือเปนโชคราย และอาจอธิบายไดวา เปนเรื่องลาชาไรประโยชน. ¥ ฉน้ัน จึงกลาวกันวา ผูปกครองที่ฉลาดยอมหารือ เม่ือวางแผน แลวใหแมทัพที่ดี นําไปปฏิบัติ. ¥ ถามิใชเพื่อผลประโยชนของบานเมือง อยาทํา ถาทําแลว มิอาจสามารถสําเร็จได อยาใชกองทหาร ถาไมตกอยูในอันตราย อยารบ. ¥ ผูมีอํานาจปกครองสูงสุดไมสามารถจัดขบวนศึกได เพราะ ความเคืองแคน แมทัพยอมรบไมได เพราะ โมโหชั่วขณะหน่ึง ผูอยูในอารมณโกรธ อาจเกิดความสบายใจ ผูที่เคืองแคน ก็อาจพึงพอใจ

Page 57: ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู

- 57 -

บานเมืองเม่ือพินาศยอยยับไปแลว ไมอาจซอมแซมไดดังเดิม คนที่ตายแลว ยอมทําใหคืนชีพอีกไมได. ¥ ฉน้ัน ผูปกครองที่ฉลาด จึงมีการตัดสินใจดี แมทัพที่ดี ยอมระวังไมปฏิบัติการฉาบฉวย บานเมืองยอมรักษาไดม่ันคง กองทัพดํารงอยูได.

[[[[[[[[[[[[

Page 58: ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู

- 58 -

๑๓. สายลับ ซุนจูกลาววา ¥ เม่ือมีการจัดขบวนศึกดวย กําลังทหารหน่ึงแสนคน เพื่อสงออกไปทําศึกในระยะไกล คาใชจายที่ตกเปนภาระของประชาชน และการจายจากทองพระคลัง จะตกเปนจํานวน ทองคําวันละหน่ึงพันลิ่ม ความสิ้นเปลืองน้ี จะเปนที่รบกวนตอเน่ืองกันไป ทั้งในบานเมืองและตางแดน ประชาชนพากันอิดโรย เพราะตองทํางานลําเลียงขนสง กิจการปรกติของครอบครัวตางๆ จํานวนเจ็ดแสนครอบครัว จะเกิดความขัดของ. ¥ ผูใดที่เผชิญหนากับขาศึก อยูแรมป โดยหวังตอสู เพื่อชัยชนะขั้นเด็ดขาด ถาผูน้ันตระหน่ีในการใหตําแหนง ใหเกียรติ และใหทองคําสองสามรอยลิ่ม ยังคงไมมีทางลวงรูถึงสถานการณทางดานขาศึกได เขายอมไมรูจักธรรมชาติของมนุษยโดยสิ้นเชิง ยอมเปนแมทัพมิได เก้ือหนุนผูมีอํานาจปกครองแผนดินมิได เปนผูพิชิตมิได. ¥ เหตุผลที่เจานครผูฉลาดและแมทัพผูมีสติปญญา เอาชนะขาศึกได ไมวาทําศึกเม่ือใด และผลสําเร็จอยูเหนือคนธรรมดาสามัญ คือ รูการณลวงหนา. ¥ ที่เรียกวา รูการณลวงหนาน้ัน มิไดหมายถึง การทรงเจาเขาผี หรือเทวดามาบอก หรือจากตํานานเรื่องราวในอดีต หรือมิไดรูโดยการคิดคํานวณ ความรูดังกลาวจะตองไดจาก ผูมีความรูเก่ียวกับภาวการณของขาศึก. ¥ สายซ่ึงใชงานไดมีอยูหาประเภท คือ สายลับพื้นเมือง สายลับภายใน สายลับสองหนา สายลับกําจัดได สายลับมีชีวิต. ¥ เม่ือสายลับทั้งหาประเภท ลงมือทํางาน ตางก็ปฏิบัติภารกิจของตนไปพรอมๆ กัน โดยไมมีผูใดลวงรูวิธีหาขาวของสายลับเหลาน้ี

Page 59: ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู

- 59 -

เขาเรียกคนพวกน้ีวา “เทวปกษี” เปนสมบัติมีคาของผูมีอํานาจปกครองสูงสุดในแผนดิน. ¥ สายลับพื้นเมือง คือ คนทองถิ่นของขาศึก ที่เราเอามาใชงานได. ¥ สายลับภายใน คือ นายทหารของขาศึก ที่เราเอามาใชงานได. ¥ สายลับสองหนา คือ สายลับของขาศึก ที่เรามาใชงานได. ¥ สายลับกําจัดได คือ สายลับของฝายเรา ที่เราสงเขาไปในดินแดนของขาศึก เพื่อสรางขาวลวงขึ้น. ¥ สายลับมีชวีิต คือ สายลับที่กลับมาได พรอมกับขาว. ¥ ในบรรดาผูอยูใกลชิดผูบัญชาการทัพ ใครก็ไมสนิทสนมยิ่งไปกวา สายลับ ในบรรดาผูที่ไดรับปูนบําเหน็จรางวัล ใครก็ไมควรไดมากไปกวา สายลับ ในบรรดาเรื่องตางๆ ไมมีเรื่องใดเปนความลับมากกวาเรื่องที่เก่ียวกับ การสืบราชการลับ. ¥ ผูที่ไมสามารถถึงขั้นเซียน และมีสติปญญา มีความเปนมนุษย และมีความยุติธรรม จะไมสามารถใชสายลับได ผูที่ไมละเอียดลออ และปราศจากไหวพริบ ก็จะไมสามารถเอาความจริง จากสายลับได. ¥ เปนเรื่องที่จะตอง ละเอียดถี่ถวนจริงๆ ไมมีที่ใด ที่ไมใช การสืบราชการลับ. ¥ ถาแผนเก่ียวกับงานสืบราชการลับ แตกออกเสียกอนจะลงมือกระทําการ ทั้งสายลับและทุกคนที่รูเรื่องราว นําไปพูดถึง จะถูกประหารชีวิตหมด. ¥ โดยทั่วไปน้ัน ในกรณีของกองทัพที่ทานปรารถนาจะเขาตี เมืองที่ทานปรารถนาจะเขาบุก บุคคลที่ทานปรารถนาจะฆาตกรรม ทานตองรูจักชื่อเสียงของ ผูบังคับการนายทหาร ฝายเสนาธิการ นายทหารติดตอ นายดาน และ องครักษ ทานตองสั่งการใหสายลับของทาน สืบใหรู เรื่องราวของบุคคลเหลาน้ีใหได โดยละเอียดที่สุด.

Page 60: ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู

- 60 -

¥ เปนเรื่องสําคัญที่จะตองคนใหพบ สายลับของขาศึก ที่มาสืบราชการลับของทาน แลวติดสินบน ใหกลับทํางานเพื่อทาน สั่งงาน แลวดูแลดวยความระมัดระวัง ดวยวิธีน้ี จะไดสายลับสองหนาไวใช. ¥ โดยวิธีการใชสายลับสองหนา ก็จะจัดหา สายลับภายใน และ สายลับพื้นเมือง มาใชงานได. ¥ และดวยสายลับสองหนา จะสามารถสง สายลับกําจัดได นําขาวลวง ไปถึงขาศึกได. ¥ ดวยวิธีดังกลาว จะสามารถ ใชสายลับมีชีวิตไดดวย ในจังหวะอันเหมาะสม. ¥ ผูมีอํานาจปกครองแผนดินสูงสุด ตองรูทันทุกฝกาว เก่ียวกับ การปฏิบัติงานของสายลับทั้งหาประเภท ความรูเทาทันเหลาน้ี ตองมาจากสายลับสองหนา ฉน้ัน จึงถือเปนกฎบังคับวา พึงตองปฏิบัติตอ สายลับสองหนา โดยอิสระที่สุด. ¥ สมัยโบราณ เมืองเอียนเติบโตได เพราะ อ้ีจ๊ิ ซ่ึงแตแรกเปนขุนนางเมืองเสีย เมืองโจวเติบโตได เพราะ ลูยู ขุนนางเมืองเอียน. ¥ ฉน้ัน เจานครผูมีเดชบารมีและแมทัพผูสามารถเทาน้ัน ที่จะสามารถใชงานคนมีสติปญญามาก เปน สายลับ เพื่อผลสําเร็จของงานใหญได งานราชการลับ เปน เรื่องสําคัญในการทําสงคราม ดวยสายลับ กองทัพไดอาศัย ดําเนินงานศึกไดทุกระยะ.

[[[[[[[[[[[[