บทที่ 1 พันธุกรรม (2)

29

Transcript of บทที่ 1 พันธุกรรม (2)

Page 1: บทที่ 1 พันธุกรรม (2)
Page 2: บทที่ 1 พันธุกรรม (2)

คือสิ่งท่ีใชค้วบคมุลกัษณะทางพนัธกุรรม อยู่ในแตล่ะนวิเคลยีสของเซลล ์

สารพนัธกุรรม

โดยในสภาวะปกต ิโครโมโซมจะคลายตวัเปน็เสน้บางยาว เรียกวา่ โครมาตนิ

ประกอบดว้ยดเีอน็เอ และโปรตนี เหมอืนดา้ยพนัอยูบ่นลกูปดั

ในระยะเซลลแ์บง่ตวัจะหดสัน้ลงเปน็แท่งคลา้ยปาทอ่งโก ๋เรียกวา่ โครโมโซม

Page 3: บทที่ 1 พันธุกรรม (2)

สารพนัธกุรรม

Page 4: บทที่ 1 พันธุกรรม (2)

สารพนัธกุรรม

Page 5: บทที่ 1 พันธุกรรม (2)

สารพนัธกุรรม

Page 6: บทที่ 1 พันธุกรรม (2)

ยีน/DNA ควบคมุลกัษณะทางพนัธกุรรมโดยการสรา้งโปรตนี ดังนี ้

การควบคมุลกัษณะทางพนัธกุรรม

ยีน คือ DNA ที่ประกอบดว้ยหนว่ยยอ่ยทีเ่รยีกวา่ “ นิวคลโีอไทด์ ” แบ่งตามชนิดของเบส คือ อะดีนีน (A) ,ไทมีน (Thymine), ไซโทซนี (Cytosine) และกวันนี (G)

Page 7: บทที่ 1 พันธุกรรม (2)

การควบคมุลกัษณะทางพนัธกุรรม

Page 8: บทที่ 1 พันธุกรรม (2)

การควบคมุลกัษณะทางพนัธกุรรม

Page 9: บทที่ 1 พันธุกรรม (2)

การควบคมุลกัษณะทางพนัธกุรรม

Page 10: บทที่ 1 พันธุกรรม (2)

การควบคมุลกัษณะทางพันธกุรรม

Page 11: บทที่ 1 พันธุกรรม (2)

การควบคมุลกัษณะทางพันธกุรรม

Page 12: บทที่ 1 พันธุกรรม (2)

นิวคลโีอไทดเ์รยีงตวัเปน็สายยาว โดยเรยีงตอ่กนั 3 ตัวจะได ้1 รหัสพันธกุรรม

การควบคมุลกัษณะทางพนัธกุรรม

รหัสพนัธกุรรม จะเปน็ตวัก าหนดชนดิของกรดอะมโิน (หนว่ยยอ่ยของโปรตีน)

Page 13: บทที่ 1 พันธุกรรม (2)

G-C-C-G-G-A-C-T

ตัวอยา่งการแปลรหสัของรหสัพนัธกุรรม

1

Ala

2

Gly

Page 14: บทที่ 1 พันธุกรรม (2)

A-U-G-C-U-U-A-A-A-T-A-C-G-C-C-C-T-A-G-U-A-T-U-C

ตัวอยา่งการแปลรหสัของรหสัพนัธกุรรม

1 2 3 4 5 6 7 8

Page 15: บทที่ 1 พันธุกรรม (2)

การควบคมุลกัษณะทางพันธกุรรม

Page 16: บทที่ 1 พันธุกรรม (2)

การควบคมุลกัษณะทางพันธกุรรม

Page 17: บทที่ 1 พันธุกรรม (2)

การควบคมุลกัษณะทางพันธกุรรม

Page 18: บทที่ 1 พันธุกรรม (2)

การควบคมุลกัษณะทางพันธกุรรม

Page 19: บทที่ 1 พันธุกรรม (2)

ลักษณะทางพนัธุกรรมเกดิจากโครงสร้างของโปรตนี

การควบคมุลกัษณะทางพนัธกุรรม

ซึ่งจะแตกตา่งกนัท่ีจ านวนและล าดับการเรยีงของกรดอะมโิน

ถ้าจ านวนและการเรยีงตวัเปลีย่น ลักษณะทางพนัธกุรรมกจ็ะเปลีย่นไปดว้ย

Page 20: บทที่ 1 พันธุกรรม (2)

การควบคมุลกัษณะทางพันธกุรรม

Page 21: บทที่ 1 พันธุกรรม (2)

แมว

ตัวอยา่งการควบคมุลกัษณะทางพนัธกุรรม

ลาย เทา ขาว ของ นาย แดง สวย

1 2 3 4 5 6 7 8

ให้นักเรยีนสรปุลักษณะทางพนัธุกรรมของบคุคลตอ่ไปนี ้

แบบ ก. มีล าดับกรดอะมโินดงันี ้ 2 7 3 5 1 6 4 8

แบบ ข. มีล าดับกรดอะมโิน ดังนี้ 2 1 5 6 8 4 3 7

แบบ ค. มีล าดับกรดอะมโิน ดังนี้ 1 2 3 5 6 8

Page 22: บทที่ 1 พันธุกรรม (2)

ยีนควบคมุลกัษณะทางพนัธกุรรม โดยก าหนดชนดิและล าดบัของกรดอะมโิน

การควบคมุลกัษณะทางพนัธกุรรม

โดยใชร้หสัพนัธกุรรม (Codon)

Page 23: บทที่ 1 พันธุกรรม (2)

การคดัลอกสาย DNA

คัดลอกเพือ่เพิ่มจ านวน DNA

ยึดหลกั A คู่กับ T (พันธะคู)่ และ C คู่กับ G (พันธะสาม)

แม่แบบ A – T – C – A – G – G- C – A – A – C – T - A

สาย Copy T – A – G – T – C – C- G – T – T – G – A - T

จาก DNA DNA

Page 24: บทที่ 1 พันธุกรรม (2)

คัดลอกเพือ่สรา้งโปรตนี

จาก DNA RNA

ยึดหลกั A คู่กับ T (พันธะคู)่ และ C คู่กับ G (พันธะสาม) เหมอืนเดมิ

แม่แบบ A – T – C – A – G – G- C – A – A – C – T - A

สาย DNA T – A – G – T – C – C- G – T – T – G – A - T

แต่ทีส่าย RNA ต้องเปลีย่น T เป็น U

สาย RNA U – A – G – U – C – C- G – U – U – G – A - U

Page 25: บทที่ 1 พันธุกรรม (2)

คัดลอกเพ่ือสรา้งโปรตีน

สาย RNA จะออกจากนวิเคลยีส เพื่อแปลรหสัเปน็โปรตนี

โดยเบสทีเ่รยีงตอ่กนั 3 ตัว จะแปลรหสัได ้1 กรดอะมโิน (ตามตาราง)

Page 26: บทที่ 1 พันธุกรรม (2)

แบบฝกึหดั

จากสาย DNA ที่ก าหนดให ้ หากตอ้งการ Copy เพื่อเพิ่มจ านวน DNA และ Copy สาย RNA จะได้แบบใด

แม่แบบ C – T – G – G – A – T - G – T – C – G – A - A

สาย DNA

สาย RNA

Page 27: บทที่ 1 พันธุกรรม (2)

แบบฝกึหดั

จากสาย DNA ที่ก าหนดให ้ หากตอ้งการ Copy เพื่อเพิ่มจ านวน DNA และ Copy สาย RNA จะได้แบบใด

แม่แบบ C – T – G – G – A – T - G – T – C – G – A - A

สาย DNA G – A – C – C – T – A - C – A – G – C – T - T

สาย RNA G – A – C – C – U – A - C – A – G – C – U - U

Page 28: บทที่ 1 พันธุกรรม (2)

สาย RNA ที่ได้จากขอ้ 1 จะสามารถแปลรหสัไดก้รดอะมโินแบบใดบ้าง

สาย RNA G – A – C – C – U – A - C – A – G – C – U - U

Page 29: บทที่ 1 พันธุกรรม (2)

สาย RNA ที่ได้จากขอ้ 1 จะสามารถแปลรหสัไดก้รดอะมโินแบบใดบ้าง

สาย RNA G – A – C – C – U – A - C – A – G – C – U - U