© 2006 Prentice Hall, Inc. 12 – 1
บทที ่8 การจัดการสินค้าคงคลงั
© 2006 Prentice Hall, Inc. 12 – 2
Types of Inventory
วัตถุดิบ
จัดซ้ือมาเพือ่ใช้ในกระบวนการผลติ
งานระหว่างท า
วัตถุดิบทีเ่ปลีย่นสภาพแล้วแต่ยงัไม่เป็นสินค้าส าเร็จรูปโดยสมบูรณ์
วัสดุซ่อมบ ารุง วัสดุหรืออะไหล่ทีมี่ส ารองไว้เพือ่การซ่อมบ ารุง เพือ่ป้องกนัไม่ให้เกดิ
ภาวะอะไหล่ขาดแคลน
สินค้าส าเร็จรูป
สินค้าทีผ่่านกระบวนการผลติขั้นสุดท้ายออกมาเป็นผลติภัณฑ์ส าเร็จรูป
© 2006 Prentice Hall, Inc. 12 – 3
วัตถุประสงค์ของการบริหารสินค้าคงคลัง
มีสินค้าบริการลกูค้าในปริมาณทีเ่พยีงพอต่อความต้องการตลาด เพือ่รักษาส่วนแบ่งตลาด และสร้างโอกาสในการขาย
สามารถลดระดบัการลงทุนในสินค้าคงคลงัต ่าทีสุ่ดเท่าที่จะท าได้ เพือ่ท าให้ต้นทุนการผลติต ่าลงด้วย
© 2006 Prentice Hall, Inc. 12 – 4
1) ตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั้งใน และนอกฤดูกาล
2) รักษาการผลติให้มีคงที ่เพือ่รักษาการจ้างแรงงาน การเดินเคร่ืองจักร ฯลฯ เกบ็สินค้าทีข่ายไม่หมดไว้ขายตอนช่วงขายด ี
3) ได้ส่วนลดปริมาณจากการจัดซ้ือจ านวนมากต่อคร้ัง ป้องกนัการเปลีย่นแปลงราคาและผลกระทบเงินเฟ้อ
4) ป้องกนัของขาดมือด้วยสินค้าเผือ่ขาดมือ เมื่อเวลารอคอยล่าช้าหรือบังเอญิได้ค าส่ังซ้ือเพิม่ขึน้กรทนัหัน
5) ท าให้กระบวนการผลติด าเนินการต่อเน่ือง ไม่หยุดชะงัก เพราะของขาดมือจนเกดิความเสียหายแก่กระบวนการผลติซ่ึงจะท าให้คนงานว่างงาน เคร่ืองจักรถูกปิด ผลติไม่ทนัค าส่ังซ้ือของลูกค้า
ประโยชน์ของสินค้าคงคลัง
© 2006 Prentice Hall, Inc. 12 – 5
ต้นทุนสินค้าคงคลัง Inventory Cost
ค่าใช้จ่ายในการส่ังซ้ือ Ordering Cost
ค่าใช้จ่ายในการเกบ็รักษา Holding Cost
ค่าใช้จ่ายเน่ืองจากสินค้าขาดแคลน Shortage Cost
ค่าใช้จ่ายในการตั้งเคร่ืองจักรใหม่ Setup Cost
© 2006 Prentice Hall, Inc. 12 – 6
ระบบการควบคมุสินค้าคงคลัง
ระบบสินค้าคงคลงัอย่างต่อเน่ือง Continuous
Inventory System Perpetual
มีการบันทกึตันทุนสินค้าคงคลงัทุกคร้ังทีมี่การรับและการจ่ายของ เป็นระบบทีมี่ค่าใช้จ่ายด้านเอกสาร และการจ้างพนักงานสูง
ระบบสินค้าคงคลังเมื่อส้ินงวด Periodic
Inventory System
มีการบันทกึต้นทุนสินค้าคงคลงัเฉพาะช่วงเวลาทีก่ าหนดไว้เท่าน้ัน เหมาะกบัสินค้าทีม่ีการเบิกใช้ในช่วงเวลาที่แน่นอน
© 2006 Prentice Hall, Inc. 12 – 7
ระบบการจ าแนกสินค้าคงคลังเป็นหมวด ABC
A ปริมาณน้อย (5-15%) แต่มูลค่ารวมสูง (70-80%)
B ปริมาณปานกลาง (30%) มูลค่ารวมปานกลาง (15%)
C ปริมาณมาก (50-60%) มูลค่ารวมต ่า (5-10%)
© 2006 Prentice Hall, Inc. 12 – 8
ช้ินส่วน ราคาขายต่อหน่วย อุปสงค์ต่อปี มูลค่า
1 1.5 5,000 7,500
2 8.0 1,500 12,000
3 10.5 10,000 105,000
4 2 6,000 12,000
5 0.5 7,500 3,700
6 13.6 6,000 81,600
7 0.75 5,000 3,750
8 1.25 4,500 5,625
9 2.5 7,000 17,500
10 2 3,000 6,000
© 2006 Prentice Hall, Inc. 12 – 9
ช้ินส่วน มูลค่ารวม %ของมูลค่ารวม หมวด
103 105,000 41.22 A
106 81,600 32.04
109
102
17,500
12,000
6.87 B
4.71
104 12,000 4.71
101
110
7,500
6,000
2.94
2.36
108 5,625 2.21 C
107 3,750 1.47
105 3,700 1.45
รวม 254,725 100
© 2006 Prentice Hall, Inc. 12 – 10
กลุ่ม รหัสสินค้า % ของสอนค้า % ของมูลค่ารวม
A 103,106 2/10 = 20% 73.26%
B 102,104,109 3/10 = 30% 16.25%
C 101,105,107,
108,110
5/10 = 50% 10.45%
© 2006 Prentice Hall, Inc. 12 – 11
ระบบการส่ังซ้ือทีป่ระหยดัทีสุ่ด
Economic Order Quantity (EOQ)
1. ทราบปริมาณอปุสงค์อย่างชัดเจนและอปุสงค์คงที ่
2. ได้รับสินค้าที่ส่ังซ้ือพร้อมกนัทัง้หมด 3. ระยะเวลาทีใ่ช้ต้ังแต่การออกใบส่ังซ้ือจนกระทัง่ได้รับวสัดุ
หรือสินค้าที่มีค่าคงที่สม ่าเสมอ
4. ต้นทุนการเกบ็รักษาสินค้าและต้นทุนการส่ังซ้ือคงที ่
5. ราคาที่ส่ังซ้ือคงที่
6. ไม่มีสภาวะสินค้าขาดแคลน
1 ปริมาณการส่ังซ้ือทีป่ระหยดัทีสุ่ดทีอ่ปุสงค์คงที่และสินค้าคงคลังไม่ขาดมือ
© 2006 Prentice Hall, Inc. 12 – 12
The EOQ Model
EOQ = ปริมาณการส่ังซ้ือต่อคร้ังทีป่ระหยดั (Q*)
Q = ปริมาณการส่ังซ้ือต่อคร้ัง (หน่วย) D = ความต้องการสินค้าต่อปี (หน่วย) S = ต้นทุนการส่ังซ้ือต่อคร้ัง (บาท)
H = ต้นทุนการเกบ็รักษาต่อหน่วยต่อปี (บาท)
3. จ านวนคร้ังของการส่ังซ้ือทีป่ระหยดัทีสุ่ด
4. รอบการส่ังซ้ือทีป่ระหยดัทีสุ่ด
= D
Q* days
จ านวนคร้ังในการส่ังซ้ือ =
1. ปริมาณการส่ังซ้ือทีป่ระหยดัทีสุ่ด Q* = 2DS
H
2. ต้นทุนรวมทีต่ ่าทีสุ่ด TC = S + H D
Q
Q
2
© 2006 Prentice Hall, Inc. 12 – 13
An EOQ Example
D = 10,000 ช้ิน
S = 150 บาทต่อคร้ัง H = 0.75 ต่อช้ิน
Q* = 2DS
H
Q* = 2(10,000)(150)
0.75 = 4,000,000
= 2,000 ช้ิน
© 2006 Prentice Hall, Inc. 12 – 14
An EOQ Example
D = 10,000 ช้ิน Q* = 2000 ช้ิน
S = 150 บาทต่อคร้ัง
H = 0.75 ต่อช้ิน
ต้นทุนรวม = ต้นทุนการส่ังซ้ือต่อปี + ต้นทุนการเกบ็รักษาต่อปี
TC = S + H D
Q
Q
2
TC = (150) + (.75) 10,000
2000
2000
2
TC = (5)(150) + (1000)(.75) = 750 + 750 = 1,500
© 2006 Prentice Hall, Inc. 12 – 15
An EOQ Example
= จ านวนคร้ังของการส่ังซ้ือทีป่ระหยดัทีสุ่ด
D
Q*
N = = 5 คร้ังต่อปี 10,000
2,000
D = 10,000 ช้ิน Q* = 2000 ช้ิน
S = 150 บาทต่อคร้ัง
H = 0.75 ต่อช้ิน
© 2006 Prentice Hall, Inc. 12 – 16
An EOQ Example
= รอบเวลาการส่ังซ้ือ Day
จ านวนคร้ังในการส่ังซ้ือ
= = 62.2 วนั 311
5
D = 10,000 ช้ิน Q* = 2000 ช้ิน
S = 150 บาทต่อคร้ัง N = 5
H = 0.75 ต่อช้ิน Day = 311 วัน
© 2006 Prentice Hall, Inc. 12 – 17
Reorder Points
EOQ เป็นการตอบค าถามว่าจะซ้ือด้วยจ านวนเท่าใด
The reorder point (ROP) เป็นการตอบค าถามว่าจะซ้ือเมื่อใด
ROP = เวลาน าในการส่งมอบ ปริมาณความต้องการต่อวัน
= d x L
d = D
จ านวนวันท างานใน 1 ปี
© 2006 Prentice Hall, Inc. 12 – 18
Reorder Point Example
ความต้องการ = 10,000 ช้ิน ต่อปี
จ านวนวนัท างาน = 250 วนั
เวลาน าในการส่งมอบ = 3 วันท าการ
ROP = d x L
= 10,000/250 = 40 ช้ิน
= 40 ช้ินต่อวัน x 3 days = 120 ช้ิน
d = D
จ านวนวันท างานใน 1 ปี
© 2006 Prentice Hall, Inc. 12 – 19
จดุส่ังซ้ือใหม่ทีป่ริมาณสินค้าเพือ่ความปลอดภยั Safety Stock
ใช้เมื่อความต้องการของสินค้ามีความไม่แน่นอน
ใช้ปริมาณสินค้าเพือ่ความปลอดภัยเพือ่ป้องกนัสินค้าขาดแคลน
ROP = d x L + ss
โดยที่ SS คอืปริมาณสินค้าเพือ่ความปลอดภัย
© 2006 Prentice Hall, Inc. 12 – 20
Reorder Point with Safety Stock
ความต้องการ = 25,000 ช้ิน ต่อปี
จ านวนวนัท างาน = 250 วนั
เวลาน าในการส่งมอบ = 5 วันท าการ สินค้าเพือ่ความปลอดภัย = 80 ช้ิน
ROP = d x L+SS
= 25,000/250 = 100 ช้ิน
= 100 ช้ินต่อวัน x 5 days + 80 = 580 ช้ิน
d = D
จ านวนวันท างานใน 1 ปี
Top Related