THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE...

160
รายงานการวิจัย พระอัจฉริยภาพของ ว. ณ ประมวญมารค ในนวนิยายรูปแบบจดหมาย THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE EPISTOLARY NOVELS อาจารยสุภิญญา ยงศิริ งานวิจัยนี้ไดรับทุนอุดหนุนการวิจัยจากงบประมาณเงินรายไดมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประจําป 2553 ภาควิชาภาษาไทยและภาษาตะวันออก คณะมนุษยศาสตร มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

Transcript of THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE...

Page 1: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

รายงานการวิจัย

พระอัจฉริยภาพของ ว. ณ ประมวญมารค

ในนวนิยายรปูแบบจดหมาย

THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE EPISTOLARY NOVELS

อาจารยสุภิญญา ยงศิร ิ

งานวิจยันี้ไดรับทุนอุดหนุนการวิจัยจากงบประมาณเงนิรายไดมหาวิทยาลัย

มหาวิทยาลัยศรีนครนิทรวิโรฒ ประจําป 2553

ภาควิชาภาษาไทยและภาษาตะวันออก คณะมนุษยศาสตร

มหาวิทยาลัยศรีนครนิทรวิโรฒ

Page 2: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

งานวิจยันี้ไดรับทุนอุดหนุนการวิจัยจากงบประมาณเงนิรายไดมหาวิทยาลัย

มหาวิทยาลัยศรีนครนิทรวิโรฒ ประจําป 2553

Page 3: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

ชื่อเร่ือง พระอัจฉริยภาพของ ว. ณ ประมวญมารคในนวนิยายรูปแบบจดหมาย

( THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN

THE EPISTOLARY NOVELS )

คําสําคัญ : นวนิยายไทย , นวนิยายรูปแบบจดหมายของไทย ,

ว. ณ ประมวญมารค , พระเจาวรวงศเธอ พระองคเจาวิภาวดีรังสิต , นิกกับพิม ,

รัตนาวดี

Keywords/Search Tags: Thai novel , Thai Epistolary novel , letters novel,

V. na Pramuanmarg , Her Royal Highness Princess Vibhavadi Rangsit ,

Nick Kub Pim ( Nik and Pim ) , Rattanawadee

อาจารย สุภิญญา ยงศิริ ภาควิชาภาษาไทยและภาษาตะวันออก คณะมนุษยศาสตร

มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

บทคัดยอ

งานวิจัยน้ีมีจุดประสงคสําคัญเพื่อยกยองพระเกียรติ ว. ณ ประมวญมารค หรือ

พระเจาวรวงศเธอ พระองคเจาวิภาวดีรังสิต พระผูทรงทําคุณประโยชนใหแกผืนแผนดิน

ไทยตราบจนวาระสุดทายของพระชนมชีพ ในดานการประพันธพระองคทรงเปนนักเขียน

ที่ทุกคนรูจักกันดีและทรงมีผลงานหลายเรื่อง พระองคทรงประพันธเรื่องนิกกับพิมและ

เรื่องรัตนาวดีเปนนวนิยายรูปแบบจดหมาย เรื่องนิกกับพิมพระองคทรงแตงเรื่องนี้ดวย

ความคิดที่แปลกใหมไมเหมือนกับเรื่องอ่ืนๆ ตัวละครเอกเขียนจดหมายแตเขียน

จดหมายในนามของนิกกับพิมซึ่งเปนสุนัข นิกซึ่งอยูเมืองไทยและพิมซึ่งอยูประเทศ

สวิสเซอรแลนดไดเขียนเลาชีวิตความเปนอยูของครอบครัวตลอดจนแลกเปลี่ยนทัศนะ

ความคิดเห็นของตนซึ่งสรางความประทับใจและรอยย้ิมใหกับผูอาน เมื่อไดอานเรื่องนิก

กับพิมแลวจะเกิดความรักใหกับทุกคนที่อยูรอบขางและจะเขาใจสุนัขไดดีย่ิงขึ้น และ

นวนิยายรูปแบบจดหมายทําใหการคลี่คลายปมปญหาของเนื้อเรื่องนาสนใจมากย่ิงขึ้น

เรื่องรัตนาวดีเปนเรื่องราวการเดินทางทองเที่ยวในดินแดนที่สวยงามของยุโรป พระองค

ทรงมีความรูอยางกวางขวาง และทรงถายทอดความรูวัฒนธรรมตะวันตกมารอยเรียงเปน

เรื่องรัตนาวดีไดอยางเพลิดเพลิน พระอัจฉริยภาพของพระองคที่ไดทรงประพันธเรื่อง

นิกกับพิมและเรื่องรัตนาวดีมอบทั้งความเพลิดเพลินและความรูวัฒนธรรมตะวันตกใหกับ

ผูอาน สรางความประทับใจใหกับทุกคนตราบนานเทานาน

Page 4: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

ABSTRACT The purpose of the research is to honour V. Na Pramuanmarg, or

Her Royal Highness Princess Vibhavadi-Rangsit, who dedicated her life to the

Thai motherland until her last breath. In Thai literary circles, she is well-known

for various writings. Her two most famous are the epistolary novels called Nick

Kub Pim (Nick and Pim), and Rattanawadee.

Nick Kub Pim is possibly unique in literary history, given that the main

characters conveyed the story through writing letters in the names of their dogs,

Nick and Pim. Nick lived in Thailand and Pim in Switzerland. That they both

exchanged ideas, and information about their families and lifestyles impresses

readers, and even makes them smile. The book leads us to understand the lives

of dogs, and feel greater agape towards all creatures. Using the genre of novel

solved the problem to the climax in an interesting fashion.

Likewise, Rattanawadee dealt with marvelous scenes of travelling in

Europe. The same author had wide knowledge of European cultures and

blended it elegantly into the entertaining novel. In conclusion, with HRH

Vibhavadi-Rangsit’s genius, both novels were not only pleasurable, but also

educated Thai readers about Western cultures, and left them with long-lasting

impressions.

Page 5: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

สารบัญ

พระอัจฉริยภาพของ ว. ณ ประมวญมารคในนวนิยายรูปแบบจดหมาย

บทคัดยอภาษาไทย……………………………………………………………………….จ

บทคัดยอภาษาอังกฤษ……………………………………………………….……….....ฉ

สารบัญ………………………………………………………………………………….....ช

บทท่ี 1 บทนํา

ความสําคัญและท่ีมาของปญหาที่ทําการวิจัย…………………………..……......1

การทบทวนวรรณกรรมและงานวิจัยที่เก่ียวของ…………………………………..3

วัตถุประสงคของการวิจัย………………………………………………………….7

ทฤษฎี สมมุติฐาน และกรอบแนวความคิดของการวิจัย…………………………7

ขอบเขตของการวิจัย………………………………………………………..……..9

วิธีการดําเนินการวิจัย……………………………………………………………..9

ประโยชนที่คาดวาจะไดรับ………………………………………………………10

บทท่ี 2 ความคิดอันเปนพระอัจฉริยลักษณและพระอัจฉริยภาพ

ของ ว. ณ ประมวญมารคดานการประพันธ

2.1 พระอัจฉริยภาพของ ว. ณ ประมวญมารค ในเรื่องนิกกับพิม..................................11

2.1.1 ความคิดอันเปนพระอัจฉริยลักษณ ความรัก ความผูกพันของสุนัขและ

มนุษยที่มีใหแกกันในเรื่องนิกกับพิม : พระอัจฉริยภาพท่ีถายทอดไดอยางออนโยนเขาถึง

จิตใจของผูอาน........................................................................................................12

2.1.2 พระอัจฉริยภาพของ ว. ณ ประมวญมารคดานการประพันธ :

เรื่องนิกกับพิมเปนนวนิยายรูปแบบจดหมายที่เอ้ือตอการคลี่คลายปมปญหาของเน้ือเรื่อง

...............................................................................................................................26

การใหนิกกับพิมเปนบุคคลท่ี 3 เปนผูที่สังเกตการณเรื่องราวที่เกิดขึ้น

......................................................................................................48

กลวิธีการสรางปมปญหาและการคลี่คลายปมปญหาโดยการสราง

ตัวละครปรปกษ……………………………………………………51

Page 6: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

2.1.3 ความคิดอันเปนพระอัจฉริยลักษณ : นิกกับพิม ตัวแทนของสุนัขที่แสดง

ความคิดวิพากษวิจารณมนุษย…………………………………………………………..62

2.1.3.1 วิพากษวิจารณลักษณะทางกายภาพของมนุษย…………….62

2.1.3.2 วิพากษวิจารณการกระทําของมนุษย……………...………..64

2.1.3.3 วิพากษวิจารณความชอบของมนุษยและสุนัขท่ีตางกัน…...…71

2.1.3.4 สุนัขมีความคิดเห็นไมเหมือนกับมนุษย................................76

2.2 พระอัจฉริยภาพของ ว. ณ ประมวญมารค ในเรื่องรัตนาวดี : ผูแตงทรงบรรยาย

เห็นภาพไดอยางดีย่ิง และการเปรียบเทียบวัฒนธรรมไทยกับตะวันตกเพื่อเขาใจ

ความเหมือนและความตางของสองวัฒนธรรม…………………………………………..77

2.2.1 ผูแตงทรงบรรยายภาพเห็นภาพไดอยางดีย่ิง..........................................77

2.2.2 การเปรียบเทียบวัฒนธรรมไทยกับตะวันตกเพื่อเขาใจความเหมือนและ

ความตางของสองวัฒนธรรม……………………………………………………………..81

บทท่ี 3 วัฒนธรรมตะวันตกในเร่ืองนิกกับพิมและเร่ืองรัตนาวด ี

3.1 สภาพภูมิประเทศ……………………………………………...………89

3.2 อาหารยุโรป...................................................................................93

3.3 การแตงกาย…………………………………………………………..100

3.4 สถาปตยกรรม...............................................................................100

Whispering Gallery ของวัดเซนตพอล..........................................101

กระทอมแทชรูฟบานของเชกสเปยร ................................................102

ปราสาทโบราณของยุโรป...............................................................103

รานอาหารหรูใตดินที่ประเทศอิตาล.ี................................................108

3.5 การรักษาโรค…………………………………………………………..109

3.6 การแสดง การละคร…………………………………………………..113

3.7 ผลิตภัณฑท่ีมีชื่อเสียงของเมือง………………………………………..116

3.8 การพักผอน………………………………………………………..…..118

3.9 ประเพณีของชาวสวิสเซอรแลนด……………………………………...119

Page 7: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

สถานท่ีตางๆในยุโรป…………………………………………...…..120

ประเทศอังกฤษ..............................................................................120

ประเทศฝรั่งเศส………………………………………………………..122

ประเทศสวิสเซอรแลนด………………………………………………..125

ประเทศเยอรมัน.............................................................................128

ประเทศลิกเตนสไตน…………………………………………………..129

ประเทศอิตาลี................................................................................129

บทท่ี 4 บทสรุป.....................................................................................131

บรรณานุกรม.......................................................................................................135

ภาคผนวก............................................................................................................137

ประวัติยอของผูวิจัย.............................................................................................141

Page 8: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

ประกาศคุณูปการ

รายงานการวิจัยน้ีสําเร็จไดดวยความต้ังใจมั่นของผูวิจัยท่ีตองการจะยกยอง

พระเกียรติเชิดชูคุณความดีของพระเจาวรวงศเธอ พระองคเจาวิภาวดีรังสิต หรือที่พระองค

ทรงใชนามปากกาวา ว. ณ ประมวญมารค ผูวิจัยไดทราบพระประวัติของพระองค

มาต้ังแตวัยเยาวเมื่อผูวิจัยไดอานนวนิยายเรื่อง นิกกับพิม ผูวิจัยประทับใจที่พระองคทรง

บําเพ็ญคุณประโยชนเพื่อแผนดินอยางมากมาย และน้ําพระทัยที่ทรงหวงใยทหาร

พระองคตัดสินพระทัยสั่งใหนักบินเฮลิคอปเตอรรอนลงเพื่อรับเจาหนาที่ที่บาดเจ็บ 2 นาย

เพื่อนําสงโรงพยาบาลอยางทันทวงที เปนเหตุใหผูกอการรายไดระดมยิงเฮลิคอปเตอร

กระสุนทะลุเขามาถูกพระองค ทรงไดรับบาดเจ็บสาหัสและสิ้นพระชนมในวันน้ัน น้ําพระทัย

อันงดงามของพระองคตราตรึงในความทรงจําของผูวิจัยตลอดมา

ในดานวรรณกรรม ผูวิจัยประทับใจเรื่องนิกกับพิมมาต้ังแตผูวิจัยยังอยูในวัยเยาว

เปนนวนิยายท่ีผูวิจัยประทับใจมากท่ีสุด อานนับเกือบ 10 ครั้ง และผูวิจัยจะย้ิมอยางมี

ความสุขและ “ อ่ิมใจ ” ทุกครั้งท่ีไดอาน อ่ิมใจดวยความรักและความสุขที่พระองคไดทรง

ถายทอดในเรื่องนิกกับพิม และเรื่องรัตนาวดีพระองคทรงนําผูอานสูโลกอันกวางไกล

ทองเที่ยวในดินแดนยุโรปที่งดงาม และเปนเรื่องท่ีมาจากการบันทึกการเดินทางของ

พระองค ทั้งหมดนี้ทําใหผูวิจัยเกิดแรงบันดาลใจในการทํางานวิจัยเรื่องนี้

ผูวิจัยขอขอบคุณมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒท่ีเห็นความสําคัญ และเห็น

ความต้ังใจของผูวิจัยที่ตองการจะยกยองพระเกียรติเชิดชูคุณความดีและพระอัจฉริยภาพ

ดานวรรณกรรมของพระองคทาน จึงคัดเลือกงานวิจัยน้ี ทําใหผูวิจัยไดทํางานวิจัยเรื่องนี้

สําเร็จตามความประสงค

ผูวิจัยขอกราบขอบพระคุณครูอาจารยทุกทานนับต้ังแตวัยเยาวจนกระท่ังผูวิจัยได

ศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยท่ีไดใหวิชาความรู ขอขอบคุณเพื่อนๆ ทุกคนที่มอบความรัก

มิตรภาพที่จริงใจแกผูวิจัยมาตลอดนับต้ังแตวัยเยาวจนกระทั่งถึงปจจุบัน และผูวิจัย

ขอขอบคุณคณาจารยและบุคลากรของคณะมนุษยศาสตรทั้งในอดีตและปจจุบันที่ให

ความเปนมิตรแกผูวิจัยมาโดยตลอด ท่ีสําคัญขอบคุณมิตรภาพอันงดงามท่ีลูกศิษยทุกรุน

ไดมอบใหกับผูวิจัย

ลูกขอกราบระลึกถึงพระคุณของคุณพอ คุณแมที่มอบทุกสิ่งทุกอยางที่มีคาใหแกชีวิต

ของลูก โดยเฉพาะความรัก ความหวงใยใหกับลูกเสมอมา และขอบคุณพี่และนองท่ีมอบ

ความรักใหกันมาโดยตลอด ความรักของพอ แม พี่ นองและเพื่อนเปนความรักและพลัง

ของชีวิตอันมีคาย่ิงที่ทําใหผูวิจัยมีชีวิตที่ดีตลอดมา

สุภิญญา ยงศิริ

Page 9: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

1

บทท่ี 1

บทนํา

ความสําคัญและท่ีมาของปญหาท่ีทําการวิจัย

ว. ณ ประมวญมารคเปนนามปากกาที่คนไทยรูจักกันดี ว. ณ ประมวญมารค

เปนนามปากกาของพระเจาวรวงศเธอ พระองคเจาวิภาวดีรังสิต พระองคทรงเปนผูทํา

คุณประโยชนใหแกประเทศชาติเปนอยางสูงและสิ้นพระชนมในขณะปฏิบัติหนาที่เพื่อ

บานเมือง และในฐานะที่ทรงเปนนักเขียน พระองคก็ทรงเปนนักเขียนผูมากความสามารถ

ทรงนิพนธทั้งสารคดี นวนิยาย เรื่องสั้น รวมทั้งบทละครวิทยุดวย สารคดีคือเรื่อง

ตามเสด็จปากีสถาน และนวนิยายท่ีผูอานรูจักกันดีคือเรื่องปริศนา รัตนาวดี เจาสาวของ

อานนท นี่หรือชีวิต และนิกกับพิม เปนตน

เรื่องนิกกับพิมและเรื่องรัตนาวดีแตงเปนนวนิยายรูปแบบจดหมายซึ่งมีวิธีการ

ถายทอดเรื่องราวที่แตกตางจากนวนิยายทั่วไป เพราะตัวละครเขียนจดหมายถึงกันเพื่อเลา

เรื่องราวที่เกิดขึ้นใหตัวละครท่ีไดรับจดหมายไดรับทราบ นวนิยายรูปแบบจดหมายของ

ไทยมีเพียงไมก่ีเรื่อง และ ว. ณ ประมวญมารคทรงนิพนธไว 2 เรื่องคือเรื่องนิกกับพิม

และเรื่องรัตนาวดี นวนิยายทั้ง 2 เรื่องนี้เปนที่ประทับใจของผูอานทุกคน มิใชเปน

เพียงเพราะวาเปนนวนิยายรูปแบบจดหมายท่ีมีลักษณะเดนไมเหมือนนวนิยายทั่วไป แต

เปนเพราะนวนิยายท้ัง 2 เรื่องนี้มีคุณคาในตัวเองคือ เรื่องนิกกับพิมทําใหมนุษยรักและ

เขาใจสุนัขมากย่ิงขึ้น และทําใหเราเกิดความรัก ความเมตตาในจิตใจ และพรอมที่จะ

มอบความรักนี้ใหกับทุกคนท่ีอยูรอบขาง ผูอานเรื่องนิกกับพิมยังไดรับความรูเก่ียวกับ

ประเทศสวิสเซอรแลนดอีกดวย และเรื่องรัตนาวดีทําใหคนไทยไดรูจักประเทศตางๆใน

ยุโรปเพิ่มมากขึ้น ไดเรียนรูทั้งสถานที่ ชีวิตความเปนอยูของผูคนที่ผูแตงไดกลาวไว

ในนวนิยาย ทําใหผูอานมีโลกทัศนที่กวางขวาง ไดรูจักนานาประเทศเพิ่มมากขึ้น

นิกกับพิมเปนนวนิยายที่มีเนื้อเรื่องแปลกใหมไมเหมือนนวนิยายเรื่องอ่ืนๆ ผูแตง

ทรงใหนิกซึ่งเปนสุนัขบอกเซอรอยูท่ีประเทศไทยและใหพิมซึ่งเปนสุนัขพูเด้ิลอยูที่ประเทศ

สวิสเซอรแลนด ท้ังสองไดเขียนจดหมายถึงกัน ซึ่งอันที่จริงแลวตัวละครเอกฝายชายและ

ตัวละครเอกฝายหญิงเปนผูเขียนจดหมาย แตเขียนในทํานองใหนิกกับพิมเขียนจดหมาย

ถึงกันเพื่อเลาเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตและบอกเลาความคิด ความรูสึกของนิกกับพิม

และเรื่องราวท่ีนิกกับพิมเลาในจดหมาย สวนใหญเปนเรื่องราวขําขันที่สรางรอยย้ิมและ

Page 10: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

2

เสียงหัวเราะใหกับผูอาน ดังท่ีในการพิมพครั้งที่ 6 ไดเขียนไววา

“ นวนิยายพิสดารในแบบที่ไมเคยมีนักประพันธคนใดเขียนมากอน อานแลว

ชวนใหเกิดอารมณชื่น ”

นิกกับพิมเปนนวนิยายที่มีความผสมผสานหลายประการทั้งนวนิยายรูปแบบ

จดหมาย นวนิยายที่ใชฉากตางประเทศ และหัสนิยายหรือนวนิยายแนวขําขัน ซึ่งผูแตง

ไดผสมผสานรูปแบบทั้งหมดเหลาน้ีเปนเรื่องนิกกับพิมไดอยางนาสนใจ และการใช

รูปแบบการเขียนนวนิยายที่เปนจดหมายเอ้ือตอการคลี่คลายปมปญหาของเน้ือเรื่องได

อยางนาสนใจ ซึ่งปมปญหาของเน้ือเรื่องคือ ความเขาใจของตัวละครเอกฝายชายที่

คิดวาตัวละครเอกฝายหญิงแตงงานแลว

สิ่งที่เปนจุดเดนของเรื่องนิกกับพิมอีกประการหนึ่งที่นวนิยายเรื่องอ่ืนไมมีก็คือ

การใหสุนัขมีมุมมองความคิดตอมนุษย วิพากษวิจารณมนุษย ซึ่งเปนสิ่งท่ีผูวิจัยสนใจวา

นิกกับพิมมีมุมมองความคิดตอมนุษยอยางไรบาง และสิ่งท่ีสําคัญท่ีสุดของนวนิยาย

เรื่องนี้ก็คือเรื่องนิกกับพิมไดถายทอดความรัก ความผูกพันระหวางสุนัขและมนุษย

ทําใหเราซึ่งเปนมนุษยตองยอนกลับมาถามตัวเองวา แลวตัวเรามีความรักตอเพื่อนมนุษย

และเพื่อนรวมโลกเพียงพอเหมือนนิกกับพิมหรือไม เมื่อเราไดอานนวนิยายเรื่องนี้แลว

ก็จะชวยกลอมเกลาจิตใจของเราใหมีความออนโยนมากขึ้น มีความรัก ความเมตตาตอ

เพื่อนมนุษยและเพื่อนรวมโลกมากขึ้น

และดวยองคประกอบท่ีนาสนใจทั้งหมดเหลาน้ีทําใหเรื่องนิกกับพิมเปนนวนิยายที่

สนุก แปลกใหมไมเหมือนกับนวนิยายเรื่องอ่ืน และทําใหผูอานเมื่อไดอานนวนิยาย

เรื่องนี้แลวไดรับการกลอมเกลาจิตใจใหออนโยน ไดรับรูความรักและมิตรภาพที่บริสุทธ

ของนิกกับพิมที่มีใหแกกันและความรักที่มอบใหมนุษย เปนความรักที่ใหโดยไมหวัง

สิ่งตอบแทน ทั้งหมดน้ีเปนพระอัจฉริยภาพขององคผูประพันธอยางแทจริง

ในเรื่องรัตนาวดีผูแตงพาผูอานทองเท่ียวไปในดินแดนยุโรปที่สวยงามโดยผูแตงได

สรางเรื่องราวเปนนวนิยายมีพระเอก นางเอก และตัวละครอ่ืนๆไดอยางนาสนใจ

นาติดตาม ประกอบกับผูแตงทรงมีพระอารมณขัน พระองคจึงทรงแตงเรื่องนี้ดวย

ความสนุกสนาน ผูแตงไดเขียนคํานําในการพิมพจําหนายครั้งแรกวา

Page 11: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

3

“ หนังสือเรื่อง “ รัตนาวดี” นี้ เขียนขึ้นใน พ.ศ. 2496 จากบันทึกของขาพเจา

เมื่อแตงงานใหมๆ ไปยุโรปครั้งแรกกับสามีใน พ.ศ. 2490 คือภายหลังจากสงครามเลิก

ไมนานนัก

เนื่องดวยขาพเจาอยากจะเลาเรื่องการทองเที่ยวครั้งแรกนี้สูกันฟง แตไมชอบเขียน

แบบทองเที่ยวธรรมดากลัวจะนาเบ่ือ จึงคิดหาหนทางทําใหเปนเรื่องอานเลน โดยมี

พระเอก นางเอกและตัวประกอบเรื่อง ใชการทองเที่ยวครั้งนั้นของขาพเจาท่ีจดไวในบันทึก

เปนแบ็กกราวน ”

เรื่องรัตนาวดีทําใหผูอานไดทองเที่ยวไปในดินแดนยุโรป ไดรูจักสถานที่ ไดรูจัก

ชีวิต ความเปนอยูของผูคนที่อยูอีกซีกโลกหนึ่ง ทําใหคนไทยไดเรียนรูชีวิตความเปนอยู

ของคนในยุโรป และเรื่องนิกกับพิม พิมและเจานายอยูในประเทศสวิสเซอรแลนด พิมได

เขียนจดหมายเลาเรื่องราวความเปนอยูของตนในประเทศสวิสเซอรแลนด นวนิยายท้ัง 2

เรื่องนี้จึงไดถายทอดเรื่องราวความเปนอยู วัฒนธรรมตะวันตกเมื่อประมาณ 60 ปท่ีแลว

ทําใหผูอานมีโลกทัศนท่ีกวางไกลมากย่ิงขึ้น ไดเรียนรูและเขาใจเพื่อนตางวัฒนธรรม

ศึกษาอดีตเพื่อเขาใจวัฒนธรรมตะวันตกในปจจุบัน

การทบทวนวรรณกรรมและงานวิจัยท่ีเกี่ยวของ

กุหลาบ มัลลิกะมาสกลาวถึงแนวทางการวิเคราะหนวนิยายวา อาจวิเคราะห

ออกเปนสวนๆท่ีประกอบกันเขาเปนนวนิยายเรื่องนั้นไดดังนี้คือ 1. ประเภทของวรรณคดี

เรื่องนั้น (Genres) 2. โครงเรื่องและเหตุการณในเรื่อง (Plot and Events) 3. สารัตถะ

หรือแกนเรื่อง (Theme) 4. เวลาและสถานท่ี (Setting) 5. ตัวละครในเรื่องและบทสนทนา

(Characters and Dialogues) 6. กลวิธีหรือเทคนิคในการแตง (Techniques)

7. ทวงทํานองแตงหรือสไตลการแตง(Style) 8. หางเสียงของผูแตง(Tone)

เจือ สตะเวทิน ไดกลาวถึงองคประกอบของนวนิยายวามีดังตอไปนี้คือ 1. ขอคิด

สําคัญของเรื่อง (Theme) 2. โครงเรื่อง (Plot) 3. ตัวละคร (Characters) 4. บทสนทนา

(Dialogues) 5. ฉาก (Setting) และไดกลาวถึงการจําแนกชนิดของนวนิยายตาม

ลักษณะสากล แบงไดดังน้ีคือ 1. นวนิยายสํารวจโลก (The World Survey Novel)

2. นวนิยายเชิงประวัติศาสตร (Historical Novel) 3. นวนิยายประเภทลูกทุง (Peasant

Novel) 4. นวนิยายที่ใชฉากหรือสถานท่ีตางประเทศ (Exotic Novel) 5. นิยายมหัศจรรย

Page 12: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

4

(Romance) 6. นวนิยายประเภทชีวประวัติหรืออัตตชีวประวัติ (Biographical Novel)

7. นวนิยายในแนวจิตวิทยา (Psychological Novel) 8. นวนิยายมนุษยธรรม

(Humanitarian Novel) 9. นวนิยายประเภทนักสืบและอาชญากรรม (Detective and

Crime Novel) 10. นวนิยายประเภทโรแมนติก (Romantic Novel) 11. เรื่องประเภท

ผจญภัย (Adventure Novel) 12. นวนิยายระหวางชาติ (International Novel)

13. นวนิยายประเภทครอบครัว (Family Novel)

สายทิพย นุกูลกิจไดกลาวถึงองคประกอบของนวนิยายวามีดังตอไปน้ีคือ

แกนเรื่อง โครงเรื่อง ตัวละคร บทสนทนา ฉาก และบรรยากาศ และไดกลาวถึง

การแบงนิยายวามี 3 ลักษณะคือ แบงตามแนวคิดในการเขียน แบงตามเน้ือหาของเรื่อง

และแบงตามแนวการเขียน

การแบงตามแนวคิดในการเขียนจําแนกไดเปน 1. นวนิยายแนวจินตนิยม

(Romanticism) 2. นวนิยายแนวสัจนิยม (Realism) 3. นวนิยายแนวสัจนิยมใหม (New –

Realism) 4. นวนิยายแนวธรรมชาตินิยม 5. นวนิยายแนวสัญลักษณนิยม (Symbolism)

การแบงตามเน้ือหาของเรื่อง สายทิพย นุกูลกิจไดกลาวถึงการแบงนวนิยายของ

มานูเอล คอมรอฟ ซึ่งไดแบงประเภทนวนิยายตามลักษณะของเนื้อหา แบงไดเปน 15

ประเภท ดังที่จะไดกลาวถึงในขางทายที่กลาวถึงมานูเอล คอมรอฟ

และการแบงตามแนวการเขียนก็ไดกลาวถึงการแบงนวนิยายของเสถียร จันทิมาธร

ที่ไดแบงประเภทนวนิยายไทยตามแนวการเขียนดังน้ีคือ 1. งานเขียนของกลุมพาฝน

2.งานเขียนของกลุมจินตนิยายทั้งอิงประวัติศาสตรและไมไดอิงประวัติศาสตร 3. งานเขียน

ของกลุมชีวิตครอบครัว 4. งานเขียนของกลุมนวนิยายชีวิตตางแดน 5. งานเขียนของกลุม

สะทอนชีวิตชาวชนบท 6. งานเขียนของกลุมบูลางผลาญ 7. งานเขียนในแบบอุดมคติ

ของปญญาชนเสรีนิยม 8. งานเขียนในแบบกลุมผูดีรุนใหม 9. งานเขียนในกลุมศิลปะเพื่อ

ชีวิต

ชัตสุณี สินธุสิงหกลาวถึงองคประกอบของนวนิยายในหนังสือ วรรณคดีทัศนา

วา ผูศึกษานวนิยายจะตองดูองคประกอบตอไปนี้คือเน้ือเรื่อง ตัวละคร การดําเนินเรื่อง

เหตุการณในเรื่องและโครงเรื่อง สถานที่ บรรยากาศและน้ําเสียง ภาษา สัญลักษณและ

การอางถึง แนวเรื่องหรือแกนเรื่อง และไดกลาวถึงทฤษฎีการเขาถึงวรรณคดีโดยศึกษา

ประวัติผูประพันธ การศึกษาวรรณคดีแนวน้ีมีพื้นฐานมาจากความคิดที่วา งานเปดเผย

บุคลิกเจาของงาน ชีวิตและบุคลิกของศิลปนมีอิทธิพลในการสรางสรรคผลงาน วัตถุดิบ

Page 13: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

5

ของศิลปะมาจากประสบการณของศิลปน ดังน้ันการศึกษาชีวประวัติทําใหเขาใจบุคลิก

ศิลปนและตอจากน้ันก็เขาใจศิลปะ ศิลปะน้ันมีลักษณะสากลก็จริงแตตองมี

ลักษณะเฉพาะตนดวย ไมมีเสนแบงระหวางชีวิตของศิลปนและชีวิตที่เราเสนอในผลงาน

มานูเอล คอมรอฟ แบงประเภทนวนิยายตามลักษณะของเนื้อหา แบงไดเปน

15 ประเภท ดังนี้ 1. นวนิยายเชิงชีวประวัติ (Biographical Novel) 2. นวนิยาย

สะทอนสังคม (Social Novel) 3. นวนิยายอิงประวัติศาสตร (Historical Novel)

4. นวนิยายแสดงขอคิด (Themetic Novel) 5. นวนิยายแนวลอเลียน (Satires Novel)

6. นวนิยายผจญภัย (Novel of Adventure) 7. จินตนิยาย (Novel of Fantasy)

8. อาชญนิยายและเรื่องลึกลับ (Detective and Mystery Novel) 9.นวนิยายลึกลับเหนือ

ธรรมชาติ (Horror and Supernatural Novel) 10. นวนิยายเก่ียวกับทองถ่ิน (Novel of

Soil) 11. นวนิยายเปนตอนตอเน่ืองกัน (Episodic Novel) 12. นวนิยายผูรายผูดี

(Picaresque Novel) 13. นวนิยายเชิงจิตวิทยา (Psychological Novel) 14. นวนิยาย

เชิงปญหา (Problem Novel) 15. หัสนิยาย (Humour Novel)

งานวิจัยท่ีเกี่ยวของ

ปวิวัณณ คําเจริญ ศึกษานวนิยายรูปแบบจดหมายของไทย วิทยานิพนธ

ปริญญาอักษรศาสตรมหาบัณฑิต ภาควิชาภาษาไทย บัณฑิตวิทยาลัย จุฬาลงกรณ

มหาวิทยาลัย ปการศึกษา 2543 ไดศึกษานวนิยายรูปแบบจดหมายของไทยในดาน

ความเปนมา องคประกอบกลวิธีการนําเสนอ และลักษณะเฉพาะ ในดานความเปนมา

พบวานวนิยายรูปแบบจดหมายเรื่องแรกของไทยคือจดหมายจางวางหร่ํา ซึ่งมีที่มาจาก

นวนิยายรูปแบบจดหมายของตางประเทศเรื่อง Letters from a Self-made Merchant

to His Son ของ จอรจ ฮอเรซ ลอริเมอร (George Horace Lorimer) ในดาน

องคประกอบและกลวิธีการนําเสนอ ผูวิจัยไดศึกษานวนิยายรูปแบบจดหมาย 11 เรื่องโดย

ศึกษาองคประกอบของนวนิยายไดแกแนวคิด โครงเรื่อง ตัวละคร ภาษาและ

บทสนทนา ฉาก และศึกษากลวิธีการนําเสนอของนวนิยายรูปแบบจดหมายไดแกกลวิธี

การเลาเรื่อง กลวิธีการสรางตัวละคร กลวิธีการสรางความสมจริง และกลวิธีการต้ังชื่อ

เรื่อง

ผลการวิจัยพบวา เมื่อมีการนําลักษณะของจดหมายกับลักษณะของนวนิยายมา

ผสมผสานกันเปนนวนิยายรูปแบบจดหมาย องคประกอบและกลวิธีการนําเสนอของ

Page 14: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

6

นวนิยายรูปแบบจดหมายจะมีลักษณะบางประการแตกตางจากนวนิยายทั่วไปอยาง

เดนชัดคือ มีสถานการณที่ทําใหเกิดการเขียนจดหมายเพิ่มเติมจากโครงเรื่อง มีฉากและ

บทสนทนาที่นําเสนอในลักษณะสองมิติ และมีการเลาเรื่องโดยใชมุมมองของผูเลาเรื่อง

บุรุษที่หนึ่งซึ่งกําหนดผูฟงที่เฉพาะเจาะจง ในดานลักษณะเฉพาะ ผลการวิจัยพบวา

ลักษณะเฉพาะของนวนิยายรูปแบบจดหมายไดแก การรักษารูปแบบจดหมายอยาง

สม่ําเสมอท้ังเรื่อง การนําเสนอผานมุมมองของผูเลาเรื่องบุรุษท่ีหนึ่งคือผูเขียนจดหมาย

และมีผูฟงที่เฉพาะเจาะจงคือผูรับจดหมาย มีเนื้อความจดหมายเปนบทสนทนาหลักและมี

บทสนทนาแบบนวนิยายซอนอยูภายใน มีฉากท่ีเขียนจดหมายเปนฉากที่ตัวละครผูเขียน

จดหมายกําลังประกอบพฤติกรรม ฉากท่ีเกิดเหตุการณของเรื่องจึงเปนฉากที่ตัวละคร

เลาถึงในจดหมาย นอกจากนี้ยังพบวาอาจมีผลกระทบจากการผสมผสานลักษณะ

ของจดหมายกับลักษณะของนวนิยาย เกิดขึ้นเมื่อนวนิยายรูปแบบจดหมายมีลักษณะ

ของจดหมายมากเกินไปหรือมีลักษณะของนวนิยายมากเกินไป ลักษณะเฉพาะ

เหลานี้แสดงใหเห็นวานวนิยายรูปแบบจดหมายเปนนวนิยายรูปแบบเฉพาะซึ่งตางจาก

นวนิยายรูปแบบอ่ืนอยางชัดเจน

ชุติมา นาถเสวี ศึกษาเรื่อง วิเคราะหนวนิยายของ ว. ณ ประมวญมารค ปริญญา

นิพนธการศึกษามหาบัณฑิต ภาษาไทย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปการศึกษา

2524 ไดศึกษานวนิยายท้ัง 5 เรื่องของ ว. ณ ประมวญมารคคือ เรื่องปริศนา เรื่อง

เจาสาวของอานนท เรื่องรัตนาวดี เรื่องนิกกับพิม และเรื่องนี่หรือชีวิต ผูวิจัยได

วิเคราะหนวนิยายของว. ณ ประมวญมารคในดานเนื้อเรื่อง โครงเรื่อง แกนเรื่อง ตัวละคร

ฉาก บทสนทนา และลักษณะเฉพาะในดานการใชคํา สํานวนโวหาร รวมทั้งวิเคราะห

พระบุคลิกภาพและประสบการณของ ว. ณ ประมวญมารคท่ีสะทอนในนวนิยาย

ตลอดจนวิเคราะหสภาพชีวิตความเปนอยูของคนไทยในสมัยน้ัน

ผลการวิจัยสรุปไดวานวนิยายของ ว. ณ ประมวญมารค มีเนื้อเรื่องเก่ียวกับ

ความรักและชีวิตครอบครัว โครงเรื่องจะแสดงใหเห็นความขัดแยงของตัวละครเอกในเรื่อง

ของความรัก แกนเรื่องจึงเสนอแนวคิดใหมีความอดทนและมั่นคงตอการเผชิญอุปสรรค

มีวิจารณญาณในการเลือกคูและระมัดระวังในการดําเนินชีวิต ตัวละครมีลักษณะสมจริง

บทสนทนาเหมาะสมกับฐานะทางสังคมและอารมณของตัวละครทําใหเรื่องมีความสมจริง

การเสนอฉากใหรายละเอียดที่เปนฉากตางประเทศมากกวาฉากในประเทศ กลวิธี

การแตงมีหลากหลายวิธีชวยใหเรื่องดําเนินไปอยางนาสนใจ การใชคําและสํานวนโวหาร

สวนใหญมีลักษณะเรียบงายแตกอใหเกิดมโนภาพแกผูอาน ในเหตุการณบางตอนจะ

Page 15: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

7

ปรากฎอารมณขันสอดแทรกอยู การบรรยายหรือพรรณนาความจะมีการสอดแทรก

บทรอยกรองและรอยแกวของนักประพันธคนอ่ืนๆไวบาง พระบุคลิกภาพและประสบการณ

ของผูทรงนิพนธกับนวนิยายมีความสัมพันธกันอยางใกลชิดทั้งในดานเน้ือเรื่อง ฉาก

ตัวละคร และบทสนทนา สภาพชีวิตความเปนอยูของตัวละครในเรื่องแสดงถึงการยอมรับ

อิทธิพลวัฒนธรรมตะวันตก

ในงานวิจัยเรื่องพระอัจฉริยภาพของ ว. ณ ประมวญมารคในนวนิยายรูปแบบ

จดหมาย ท่ีผูวิจัยศึกษาในครั้งนี้มีเน้ือหาเพียงบางสวนที่ผูวิจัยไดขอมูลพื้นฐานจากงานวิจัย

ของชุติมา นาถเสวีเชน พระประวัติบางสวนที่กลาวถึงความผูกพันระหวางพระองคและ

สุนัขท่ีทรงเลี้ยง เน้ือเรื่องยอของเรื่องนิกกับพิม เปนตน นอกนั้นงานวิจัยในสวนอ่ืนๆ

ผูวิจัยไดเก็บรวบรวมขอมูลและวิเคราะหดวยตนเอง

วัตถุประสงคของการวิจัย

1. เพื่อยกยองพระเกียรติคุณทางดานการประพันธของ ว. ณ ประมวญมารค

หรือพระเจาวรวงศเธอ พระองคเจาวิภาวดีรังสิต ผูทรงสรางคุณประโยชน

ใหแกผืนแผนดินไทยตราบจนวาระสุดทายของพระชนมชีพ

2. เพื่อศึกษาพระอัจฉริยภาพทางการประพันธของ ว. ณ ประมวญมารคท่ีทรงใช

การเขียนจดหมายเพื่อคลี่คลายปมปญหาของเรื่องนิกกับพิม ศึกษา

พระอัจฉริยภาพของพระองคในการแสดงมุมมองความคิดและความรูสึกของ

สุนัขที่มีตอมนุษย และเพื่อศึกษาพระอัจฉริยภาพของพระองคที่ทรง

ถายทอดความรักของมนุษยและสุนัขท่ีเปนเพื่อนรวมโลกไดอยางงดงาม

3. เพื่อศึกษาวัฒนธรรม ชีวิตความเปนอยูของชาวตะวันตกเมื่อประมาณ 60 ป

ที่แลว เพื่อเรียนรูและเขาใจเพื่อนตางวัฒนธรรม ศึกษาอดีตเพื่อเขาใจ

วัฒนธรรมตะวันตกในปจจุบัน

ทฤษฎี สมมุติฐาน และกรอบแนวความคิดของการวิจัย

สมมตุิฐาน นวนิยายเรื่องนิกกับพิมและเรื่องรัตนาวดีมีลักษณะเดนดานการเสนอ

วัฒนธรรมตะวันตก

Page 16: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

8

กรอบแนวความคิดของการวิจัย

กุหลาบ มัลลิกะมาส เจือ สตะเวทิน และสายทิพย นุกูลกิจกลาววา

การวิเคราะหนวนิยายสามารถวิเคราะหองคประกอบที่ประกอบกันเขาเปนนวนิยายไดแก

ขอคิดสําคัญของเรื่อง (Theme) โครงเรื่องและเหตุการณในเรื่อง (Plot and Events)

ตัวละคร (Characters) บทสนทนา (Dialogue) ฉาก(setting) นักวิชาการทั้ง 3 ทานนี้

อาจจะมีความคิดเรื่ององคประกอบของนวนิยายที่แตกตางกันไปบาง แตโดยรวมแลวก็ได

กลาวตรงกันวา องคประกอบที่สําคัญของนวนิยายไดแก ขอคิดสําคัญของเรื่อง

โครงเรื่องและเหตุการณในเรื่อง ตัวละคร บทสนทนา และฉาก

ชัตสุณี สินธุสิงห และคณะไดกลาวถึง การเขาถึงวรรณคดีโดยศึกษาประวัติ

ผูประพันธ ในหนังสือ วรรณคดีทัศนา ดังนี้

การศึกษาวรรณคดีแนวนี้มีพื้นฐานมาจากความคิดที่วางานเปดเผยบุคลิก

เจาของงาน ชีวิตและบุคลิกของศิลปนมีอิทธิพลในการสรางสรรคผลงาน วัตถุดิบของ

ศิลปะมาจากประสบการณของศิลปน ดังนั้นการศึกษาชีวประวัติทําใหเขาใจบุคลิกศิลปน

และตอจากนั้นก็เขาใจศิลปะ ศิลปะน้ันมีความเปนสากลก็จริงแตตองมีลักษณะเฉพาะ

อันเกิดจากความเปนปจเจกบุคคลของศิลปนดวย ซึ่งก็หมายความวาไมมีเสนแบงระหวาง

ชีวิตของศิลปนและชีวิตท่ีเขาเสนอในผลงาน

นอกจากการศึกษาเรื่องบุคลิกสรางสรรคของศิลปนและความสัมพันธระหวาง

ศิลปนกับผลงานแลว การศึกษาวรรณคดีแนวนี้ยังมีความเห็นวามีความสัมพันธฉัน

เพื่อนมนุษยระหวางนักเขียนกับนักอาน ผูอานไมเพียงแตอานบทประพันธแตยังได

สัมผัสกับจิตวิญญาณของผูเขียน เบ้ืองหลังผลงานคือกระบวนความรูสึกนึกคิดและ

ประวัติวรรณคดีคือประวัติจิตวิญญาณของมนุษย

.......................................................................

ในการศึกษาวรรณคดีแบบนี้ จะตองศึกษาชีวประวัติผูเขียนและงานเขียนอยาง

ถ่ีถวน ตอจากนั้นจะโยงชีวประวัติและยุคสมัยที่ผูเขียนมีชีวิตอยูเขากับผลงาน และใน

ที่สุด ก็นําชีวประวัติผูเขียนไปใชในการตีความ แตอยางไรก็ตาม การศึกษาชีวประวัตินี้

เนนในดานที่เก่ียวของกับจิตใจ ความรูสึกนึกคิดมากกวาการกระทํา ดังนั้น ผูศึกษา

วรรณคดีในแนวนี้จึงรวบรวมขอเท็จจริงจากแหลงขอมูลตางๆ เชน หนังสือ จดหมาย

Page 17: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

9

บันทึก ผูคน แลวนํามาศึกษาเพื่อจะไดรูจักเขาใจชีวิตของผูเขียนในสวนที่เปนจิตวิญญาณ

อันเปนท่ีมาของวรรณคดี

ขอบเขตของการวิจัย

โครงการวิจัยนี้เปนการวิจัยเชิงคุณภาพโดยวิเคราะหนวนิยายรูปแบบจดหมายของ

ว. ณ ประมวญมารค 2 เรื่อง คือนวนิยายเรื่องนิกกับพิมและนวนิยายเรื่องรัตนาวดี

วิธีการดําเนินการวิจัย

วิธีการดําเนินการวิจัยกําหนดเปน 3 ขั้นตอนคือ

1. ขั้นรวบรวมขอมูล

2. ขั้นวิเคราะหขอมูล

3. ขั้นสรุปผลและนําเสนอผลการวิจัย

ดังมีรายละเอียดดังนี้คือ

1. ขั้นรวบรวมขอมูล มีการดําเนินการดังน้ี

1.1 รวบรวมและศึกษาหนังสือที่เก่ียวกับประเทศสวิสเซอรแลนด และประเทศ

ตางๆในยุโรปที่ไดกลาวถึงในนวนิยายเรื่องนิกกับพิมและเรื่องรัตนาวดี

ตลอดจนศึกษาวัฒนธรรม ชีวิตความเปนอยูของชาวตะวันตก และ

ศึกษาพระประวัติของผูแตง

1.2 รวบรวมและศึกษาลักษณะของนวนิยายประเภทตางๆดังนี้คือ นวนิยาย

รูปแบบจดหมาย นวนิยายท่ีใชฉากตางประเทศ

1.3 ศึกษาและรวบรวมเอกสารที่เก่ียวของกับการวิเคราะหนวนิยาย

2. ขั้นวิเคราะหขอมูล

2.1 วิเคราะหการเขียนนวนิยายรูปแบบจดหมายท่ีเอ้ือตอการคลี่คลายปมปญหา

ของเนื้อเรื่องไดอยางนาสนใจในเรื่องนิกกับพิม

2.2 วิเคราะหความคิดของผูแตงที่ทรงใหนิกกับพิมมีความคิด ความรูสึกตอมนุษย

ซึ่งนิกกับพิมจะเปนตัวแทนของสุนัขที่แสดงทัศนคติตอมนุษย

2.3 ศึกษาและรวบรวมความรูสถานที่ในยุโรป ความรูดานวัฒนธรรม ชีวิต

ความเปนอยูของชาวตะวันตกท่ีปรากฏในนวนิยาย

Page 18: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

10

3. ขั้นสรุปผลและนําเสนอผลการวิจัย

สรุป อภิปรายผล และเสนอแนะ

ประโยชนท่ีคาดวาจะไดรับ

1. ทําใหเห็นพระอัจฉริยภาพดานการประพันธของ ว. ณ ประมวญมารค

2. ทําใหมนุษยไดเขาใจและมีความรักตอเพื่อนมนุษยและเพื่อนรวมโลกคือสุนัข

มากย่ิงขึ้น

3. ทําใหไดเรียนรูวัฒนธรรมของตะวันตกเพิ่มมากขึ้น

4. เปนแนวทางในการศึกษานวนิยายรูปแบบจดหมายเรื่องอ่ืนๆ ตอไป

Page 19: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

11

บทท่ี 2 ความคิดอันเปนพระอัจฉริยลักษณและพระอัจฉริยภาพ

ของ ว. ณ ประมวญมารคดานการประพันธ

พระเจาวรวงศเธอ พระองคเจาวิภาวดีรังสิต หรือ ว. ณ ประมวญมารคทรง

ประพันธเรื่องนิกกับพิมและเรื่องรัตนาวดีเปนนวนิยายรูปแบบจดหมาย ทั้งสองเรื่องนี้มี

เนื้อเรื่องที่แตกตางกัน เรื่องนิกกับพิมเปนเรื่องที่สุนัขสองตัวคือนิกกับพิมไดเขียน

จดหมายถึงกันเลาถึงชีวิตความเปนอยูของครอบครัว และเรื่องรัตนาวดีเปนนวนิยายรัก

ตางแดนเปนเรื่องราวความรักของหมอมเจารัตนาวดีและหมอมเจาดนัยวัฒนา

ปมปญหาของเรื่องนิกกับพิมคือ ความเขาใจผิดของตัวละครเอกฝายชายที่

เขาใจวาตัวละครเอกฝายหญิงแตงงานแลว การที่พระองคทรงประพันธเรื่องนิกกับพิม

เปนนวนิยายรูปแบบจดหมายจึงเอ้ือตอการคลี่คลายปมปญหาของเน้ือเรื่องและเปน

การคลี่คลายปมปญหาของเนื้อเรื่องไดอยางนาสนใจ และความคิดของพระองคอันเปน

พระอัจฉริยลักษณท่ีทรงแสดงใหเห็นในนวนิยายรูปแบบจดหมายทั้งสองเรื่องนี้ก็คือ

นวนิยายเรื่องนิกกับพิมพระองคไดทรงถายทอดความรัก ความผูกพันของสุนัขและมนุษย

ที่มีใหแกกัน พระองคทรงถายทอดไดอยางงดงามเขาถึงจิตใจของผูอาน อันจะชวย

สรางสรรคโลกนี้ใหมีความงดงาม และพระองคทรงใหนิกกับพิมแสดงความคิด

วิพากษวิจารณมนุษยในเรื่องตางๆ อันเปนความคิดที่ไมเคยปรากฏในนวนิยายเรื่องใด

มากอนจึงเปนแงมุมความคิดท่ีแปลกใหม ทําใหมนุษยไดเขาใจความคิด ความรูสึกของ

สุนัขมากย่ิงขึ้น และในเรื่องรัตนาวดีพระองคไดทรงเปรียบเทียบสิ่งที่มีอยูในวัฒนธรรม

ตะวันตกเปรียบเทียบกับสิ่งที่มีอยูในวัฒนธรรมไทยเพื่อใหผูอานเขาใจความเหมือนและ

ความแตกตางของวัฒนธรรม เนื่องดวยเวลาที่ทรงแตงเรื่องรัตนาวดีพระองคทรงแตงเมื่อ

เกือบ 60 ปที่แลว ในชวงเวลาน้ันวัฒนธรรมตะวันตกยังไมไดแพรหลายในคนหมูมากเชน

ปจจุบัน การที่พระองคไดทรงเปรียบเทียบทั้งสองวัฒนธรรมก็จะทําใหผูอานในสมัยของ

พระองคเขาใจไดงายย่ิงขึ้น

2.1 พระอัจฉริยภาพของ ว. ณ ประมวญมารค ในเร่ืองนิกกับพิม

เรื่องนิกกับพิมแสดงใหเห็นพระอัจฉริยภาพดานการประพันธและความคิดของ

พระองคอันเปนพระอัจฉริยลักษณ ในเรื่องนิกกับพิมพระองคทรงใชวิธีความคิดท่ี

แปลกใหมคือใหสุนัขสองตัวคือนิกกับพิมเขียนจดหมายคุยกัน การใหสุนัขสองตัวได

Page 20: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

12

แลกเปลี่ยนทัศนะความคิดเห็นกันเปนความคิดที่แปลกใหมอยูแลว และเมื่อนํามารวมกับ

วิธีการแตงที่ใหนิกกับพิมไดเขียนจดหมายคุยกันก็ย่ิงเปนสิ่งท่ีทําใหเรื่องนิกกับพิมมี

ความแปลกใหมมากย่ิงขึ้น นอกจากนี้แลวการเขียนนวนิยายเรื่องน้ีในรูปแบบจดหมายมี

ความพิเศษท่ีซอนอยูในเรื่องน้ี สิ่งนั้นก็คือ เรื่องนิกกับพิมเปนนวนิยายรูปแบบจดหมายที่

การเขียนจดหมายชวยเอ้ือตอการคลี่คลายปมปญหาของเนื้อเรื่อง ทําใหผูอานคอยๆได

คําตอบอันเปนปมปริศนาของเรื่อง และเรื่องนิกกับพิม นิกกับพิมเปนตัวแทนของสุนัข

ที่แสดงความคิดวิพากษวิจารณมนุษย ทําใหผูอานไดทราบความคิดที่ผูแตงทรงพยายาม

เขาไปนั่งในจิตใจของสุนัขและทรงถายทอดความคิดของสุนัขออกมาใหผูอานไดรับทราบ

ทําใหผูอานไดมุมมองความคิดที่ทําใหเขาใจสุนัขมากย่ิงขึ้น และสิ่งสําคัญที่ผูวิจัยเห็นวา

เปนหัวใจของนวนิยายเรื่องนิกกับพิมคือ ความรัก ความผูกพันของสุนัขและมนุษยท่ีมี

ใหแกกันในเรื่องนิกกับพิม ซึ่งเปนพระอัจฉริยภาพท่ีพระองคทรงถายทอดไดอยางออนโยน

เขาถึงจิตใจของผูอาน ผูวิจัยจะขอกลาวถึงในหัวขอ ความคิดอันเปนพระอัจฉริยลักษณ

ความรัก ความผูกพันของสุนัขและมนุษยที่มีใหแกกันในเรื่องนิกกับพิม : พระอัจฉริยภาพ

ที่ถายทอดไดอยางออนโยนเขาถึงจิตใจของผูอาน เปนหัวขอแรกเน่ืองดวยเปนหัวขอที่

สําคัญและถือวาเปนหัวใจสําคัญของเรื่องนิกกับพิม

2.1.1 ความคิดอันเปนพระอัจฉริยลักษณ ความรัก ความผูกพนัของ

สุนัขและมนุษยท่ีมีใหแกกันในเร่ืองนิกกับพิม : พระอัจฉริยภาพท่ี

ถายทอดไดอยางออนโยนเขาถึงจิตใจของผูอาน

พระเจาวรวงศเธอ พระองคเจาวิภาวดีรังสิต หรือ ว. ณ ประมวญมารคทรงแสดง

ใหเห็นสิ่งที่ผูวิจัยถือวาเปน “ หัวใจ “ ที่สําคัญที่สุดของเรื่องนิกกับพิมก็คือ “ ความรัก ”

พระองคทรงแตงเรี่องนิกกับพิมทําใหผูอานเมื่อไดอานแลว ไดมองเห็นความรัก

ความผูกพันของสุนัขและมนุษยท่ีมีใหตอกัน อันเปนความรักที่บริสุทธิ์ใจ พระองคทรง

แสดงพระอัจฉริยภาพถายทอดความคิด ความรูสึกอันบริสุทธิ์งดงามเปนเรื่องราวนวนิยาย

ไดอยางนาประทับใจ ผูแตงไดทรงถายทอดความรัก ความจริงใจของนิกกับพิมที่มี

ใหเจานายของตัวเองไดอยางนาชื่นชมคือความรักของนิกที่มีใหแกพิเชฐ และความรัก

ของพิมท่ีมีใหแกมนทิรา นอกจากความรัก ความจริงใจท่ีนิกกับพิมมีใหตอเจาของของ

ตัวเองแลว นิกกับพิมยังมอบความรักใหแกคนรอบขางอีกดวย ทําใหผูอานประทับใจ

ความรัก ความจริงใจที่นิกกับพิมมีใหตอทุกคน แมวาบางครั้งนิกกับพิมจะนินทา

เจานายบางเมื่อเจานายไมเขาใจตนและเจานายทําในสิ่งท่ีนิกกับพิมไมเห็นดวย ไมวาจะ

Page 21: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

13

เปนความชอบที่ไมเหมือนกัน ความคิดเห็นที่ไมตรงกัน แตถึงแมวาจะมีความชอบ

ความคิดเห็นที่ขัดแยงกันอยางไรก็ตาม แตนิกกับพิมก็รักเจานายของตัวเองมาก ซึ่ง

เปนความรักที่มาจากหัวใจอันบริสุทธิ์ของนิกกับพิม

ในเน้ือเรื่องไดกลาวถึงความรักของนิกกับพิมท่ีมีตอเจานายของตัวเองหลายตอน

ดังเชน ตอนที่พิเชฐจับนิกมาขังไวในโรงรถ เพราะนิกหนีไปหานางแดนซึ่งเปนสุนัขไมมี

เจาของและอยูแถวภูเขาหางจากบานของพิเชฐ พิเชฐจะใหรางวัลแกคนที่นํานิกมาสงคืน

และเมื่อจับมาไดแลว พิเชฐจะขังนิกไวในโรงรถ นิกเลาใหพิมฟงในจดหมายวา แมวานิก

จะไมชอบท่ีพิเชฐขังนิกไวในโรงรถ แตอยางไรก็ตาม นิกก็รักเจานายของตัวเองมาก ถา

ใครมาทํารายเจานาย นิกจะจัดการใหเจ็บตัวอยางถึงท่ีสุด และความรักที่มีใหเจานาย

ของนิกเปนความรักที่ย่ังยืน ดังเชนที่นิกเขียนจดหมายเลาใหพิมฟงวา

แกตองสอนนายของแกเหมือนฉันสอนนายของฉันนะพิม

การสอนของเรานี่แหละสําคัญนัก ฉันสอนนายของฉันต้ังแตแรกเริ่มมา

อยูๆ ดวยกัน แตบางเวลานายก็ยังไมไดดังใจฉันนัก เชนอยางเวลานี้

อยูๆ ก็เอาฉันมาขังไวในโรงรถ แตถึงนายจะเปนอยางไร ฉันก็รักเขา

ลองใครมาทํารายนายของฉันซิ ฉันจะฉีกเน้ือออกเปนชิ้นๆ

ทีเดียว ไมวานายจะดุจะตีฉันเพียงไร ฉันไมเคยคิดจะสูเขาเลย ฉัน

ทําหูตก แกลงทํากลัว (อันที่จริงไมกลัวเลย) ทั้งน้ีก็เพราะฉันรักนาย

ของฉันนั่นเอง มันเปนความรักคนละชนิดกับท่ีรักนางแดน อยางนั้น

มันเปนความรักชั่วเลน อยางรักนายนี่มันเปนความรักที่ย่ังยืน 1

หวังวาจะไดขาวจากแกเร็ว ๆ น้ีนะพิม

จากผูท่ีหอนอยางโหยหวน

นิก(ผูถูกขังในโรงรถ)

นอกจากนิกจะมีความรักใหกับเจานายของตัวเองแลว นิกยังมีความรักใหกับ

สัตวชนิดอ่ืนๆ ซึ่งนิกถือวาสัตวทุกชนิดเปนเพื่อนของนิกดวย ดังที่นิกเลาใหพิมฟงวา นิกมี

เพื่อนเปนแพะดวย ซึ่งตอนแรกแพะตัวน้ีกลัวนิกมาก แตตอนนี้ไดเปนเพื่อนเลนกันแลว

และนิกก็ตองการเปนเพื่อนเลนกับลูกแพะดวย เพราะนิกชอบเด็ก แตแมแพะกลัววานิก

1

ว. ณ ประมวญมารค, นกิกับพมิ, พิมพคร้ังท่ี 6 , ( กรุงเทพฯ : บริษัทตนออ 1999 จํากดั, 2543) ,

หนา 27 – 28.

Page 22: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

14

จะไปทํารายลูกของมันจึงไมใหนิกเลนดวย นิกบอกกับพิมวา นิกชอบเด็กมากไมวาจะ

เปนเด็กตัวเล็กๆ ลูกของสัตวอ่ืนๆ ตัวเล็กๆ นิกชอบท้ังหมด นิกตองการเลนกับลูกเปด

ลูกไกดวยแตนิกก็ไมเขาใจวา พอคาบมาเลนดวยลูกเปด ลูกไกก็จะนอนนิ่งคอพับไมยอม

เลนดวย ซึ่งนิกไมรูวาตัวเองตัวโตมากและการคาบไวในปากเชนน้ันทําใหลูกเปดลูกไก

ตายไปแลว นิกยังชอบลูกแมวท้ังๆ ที่ไมถูกกับแมวตัวโตๆ และแมวานิกจะโดนเด็กๆ

แกลง แตนิกก็ยังรักและอยากจะเลนกับเด็กๆ ดวย แสดงใหเห็นวานิกเปนสุนัขที่ใจดี ให

ความรักกับทุกคนและทุกชีวิตที่อยูรอบขาง โดยเฉพาะเด็กๆ ทั้งมนุษยและสัตวซึ่งนิกจะ

ใหความรัก ความเอ็นดูเปนพิเศษ

ฉันไมเขาใจจริงๆวา เหตุใดฉันจึงรักนายมากกวารักหมาดวยกันหรือ

สัตวอ่ืน ๆ นายไมเคยเขาใจฉันเลย แมแตแพะก็ยังเขาใจฉันมากกวา

โดยเฉพาะเจาแพะตัวขาวที่อยูกับยายแกยากจนท่ีอาศัยอยูในกระทอมผุๆ

ตรงทางเลี้ยวที่จะไปตลาด ฉันชอบเลนกับเจาแพะตัวขาวนี้ เมื่อแรกมันกลัว

ฉันตัวสั่นทีเดียว เด๋ียวนี้เราเปนเพื่อนกันแลว เวลายายแกเขามาในบาน

ของเราเพื่อของานทํา คือตัดหญา หรือเอาถังมูลฝอยไปเท หรือชวยกวาด

ลานบานแลกกับฟน อาหารหรือเงิน เจาแพะขาวมักมาดวย ฉันรีบลงจาก

เรือนไปหามัน มันก็ว่ิงเลนเอาเถิดกับฉันในสวนสนุกดี แตเวลามันมีลูกออน

มันดุชะมัด ไลขวิดฉันไมยอมใหไปใกลลูกของมัน ฉันไมไดจะไปทํา

อันตรายลูกของมันสักหนอย ฉันชอบเด็กออกจะแย เด็กเกือบทุกชนิดที่ฉัน

ชอบ มีที่ไมชอบก็คือลูกเปดลูกไก เพราะทุกครั้งที่ฉันนึกเอ็นดูไปคาบมัน

มาเลน พอฉันปลอยตัวมันออกวางที่พื้น จะเลนดวยสักหนอย มันกลับ

นอนนิ่งคอพับทํายังไง ๆ ก็ไมยอมลุก ทีหลังเจาของมันก็มาเอะอะเอากับ

นายหาวาฉันฆาลูกเปดลูกไกของเขา นายก็ตองเสียเงินใหเขาไปหลายครั้ง

ลูกแมวฉันก็ยังชอบเลย ทั้ง ๆ ที่ฉันไมถูกกับแมวโต ๆ แมกระท่ังเด็ก

มนุษยที่ชอบแกลงฉันแหยฉัน ฉันก็ยังไมเคยคิดจะทําอันตรายเขา

นับประสาอะไรกับลูกของเพื่อน คือนางแพะขาวท่ีเคยว่ิงเลนกันบอย ๆ ฉัน

เพียงแตอยากดมกลิ่นของมันและมองดูมันใกล ๆ เทานั้นเอง มันก็กันทา

ไปได ไลขวิดเอาเจ็บ ๆ ฉันก็แยนะซิ! 1

2

2

เร่ืองเดียวกัน, หนา 43 - 44

Page 23: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

15

นิกเลาใหพิมฟงวา ที่บานที่กรุงเทพฯ พอแมและพี่นองของพิเชฐ ยกเวน

นองสาวคนเล็ก ทุกคนตางกลัวนิก เพราะวานิกเปนสุนัขพันธุบอกเซอรตัวใหญทําให

ทุกคนกลัวนิก นิกบอกกับพิมวาใหเห็บและหมัดที่อยูกับนิกเปนพยานไดวานิกพยายาม

ที่จะใหพวกเขารูวา นิกตองการเปนเพื่อนดวย ตองการเลนดวย ไมตองการทําอันตราย

ใคร

ในจดหมายของแก แกเลาถึงสิ้นหนาหนาวถึงฤดูใบไมผลิ แต

ที่น่ีเปนหนารอน นายบอกวาอาทิตยหนาจะหยุดงานไปตากอากาศ

ทะเลที่หัวหินสักอาทิตยหนึ่ง แลวก็อยูบานกับครอบครัวคือพอแมพี่นองที่

กรุงเทพฯ อีกสักอาทิตยหน่ึง ฉันชอบไปตากอากาศทะเลกับนาย แต

กรุงเทพฯ ฉันไมชอบเลย ฉันถูกลามโซเกือบตลอดเวลา เพราะทุก ๆ คน

(นอกจากนองสาวคนเล็กซึ่งชื่อคุณแจว) ที่บานพอแมนายกลัวฉันเรียก

ฉันวา “หมายักษ” ทั้งที่ ๆ ที่เจาเห็บเจาหมัดทั้งหลายเปนพยานวาฉัน

พยายามเพียงไรที่จะใหเขารูวา ฉันเปนเพื่อนของเขา อยากเลนกับเขา

ไมทําอันตรายเขา 2

3

เมื่อนิกเห็นเด็กๆ เลนฟุตบอล ดวยความที่นิกรักเด็กอยูแลว และเมื่อเห็นเด็กๆ

เลนกันอยางสนุกสนาน นิกจึงเลนฟุตบอลกับเด็กๆ ดวย นิกเลาวิธีเลนฟุตบอลใหพิมฟง

อยางสั้นๆ พอใหเห็นภาพวา การเลนฟุตบอลมีวิธีการเลนอยางไร นิกทําหนาท่ีเปน

ผูรักษาประตู นิกรักษาประตูโดยเขาชนลูกฟุตบอลใหกระเด็นไปบาง ใชขาหนาทั้งสองขา

ถีบฟุตบอลใหกระเด็นไปทางอ่ืนบาง บางทีก็ใชจมูกดุน หรือไมก็ครอมลูกบอลไวไมให

กลิ้งเขาประตู จนกวาเด็กฝายเดียวกันกับนิกเขามาเขี่ยลูกฟุตบอลใหไปไกลจากไมสองอัน

ทางขางที่เปนประตูของนิก ภาพของนิกที่ทําหนาที่รักษาประตูทําใหเด็กๆ ท่ีเลนดวย

หัวเราะ และคนอ่ืนๆ ท่ีมายืนดูดวยก็จะหัวเราะดวยความชอบใจเชนกัน

ฉันรูจักเด็กชายสองคนน่ันดี เคยเลนฟุตบอลดวยกันบอย ๆ แก

รูจักการเลนฟุตบอลของพวกเด็กนักเรียนชายไหมพิม? พวกเด็ก ๆ แบงกัน

ออกเปนสองพวก ทั้งสองพวกตางมีไมสองอันก้ันอยูปลายสนาม ทําเปน

ประตูของเขา เราเรียกประตูนี้วาโกล ถาพวกหนึ่งไลเตะลูกกลม ๆ

3

เร่ืองเดียวกัน, หนา 74.

Page 24: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

16

ไปเขาประตูหรือโกลของอีกฝายหนึ่งได พวกนั้นก็ชนะ อีกฝายหนึ่งตอง

ปองกันเต็มที่ เวลาฉันเห็นเขาเลนเตะลูกกลม ๆ กัน นึกสนุกขึ้นมาก็ว่ิง

เขาไปเลนกับเขาดวย เขาก็จับไมสั้นไมยาว ถาฝายไหนจับไดไมยาว

ฝายนั้นก็จะไดฉันเปนผูรักษาประตู ฉันรักษาไดดีมาก ยังไมเคยปลอยให

ลูกบอลผานไปไดเลย เวลาฉันเลนฟุตบอลกับเด็ก ๆ ใคร ๆ ชอบยืนดู

เสียจริง เสียงฮากันดังครืน ๆ ทีเดียว บางทีผูเลนเองก็หัวเราะจนตัวงอกลิ้ง

อยูกลางสนามเลนตอไปไมไหว ฉันไมเขาใจวาเขาขันอะไรกัน ฉันก็เลน

อยางผูอ่ืน รักษาหนาที่ของฉัน ระวังไมใหลูกบอลลอดเขาไประหวางไม

สองอัน ฉันว่ิงเขาชนลูกใหกระเด็นไปบาง กระโดดเขาชนบาง ใชขาหนา

ทั้งสองขาถีบใหกระเด็นไปทางอ่ืนบาง บางทีก็ใชจมูกดุน หรือไมก็ครอม

ลูกบอลไวไมใหกลิ้งเขาประตู จนกวาเด็กฝายฉันจะชวยเขี่ยใหไปไกล

จากไมสองอันทางขางของเรา ฉันไมเขาใจจริง ๆ วาเขาหัวเราะทําไมกัน

หนักหนา 3

4

นิกจะอยูเคียงขางพิเชฐทุกครั้งที่เขาไมสบายใจ ดังจะเห็นไดจากตอนท่ี เมื่อ

พิมเลาใหนิกฟงเรื่องสมรศรีที่เขามาวุนวายสรางความเดือดรอนใหมนทิรา เมื่อพิเชฐได

ทราบ เขาก็ไมสบายใจ นิกดมกลิ่นก็รูวาพิเชฐไมสบายใจ นิกจึงเขาไปนั่งใกลๆ และ

เอาหัววางบนตักเพื่อปลอบใจเจานายของตัวเอง อันแสดงใหเห็นความรัก ความหวงใย

ของนิกที่มีตอเจานาย อยางนอยสิ่งที่นิกทําก็แสดงใหพิเชฐเห็นวา พิเชฐยังมีนิกอยู

เคียงขางไมวาจะมีเรื่องราวความทุกขอยางไรก็ตาม

โดยเฉพาะท่ีแกเลาถึงผูหญิงที่ชื่อแมสมรศรี ที่เขามาวุนวาย

ในบาน เขาทําหนาเศรา หยุดอาน นั่งตะลึงอยูเปนครูใหญ ฉันดมกลิ่น

รูวาเขาไมสบายใจเลย ฉันสงสารเขาจึงเขาไปนั่งใกล เอาหัววางลง

บนตักของเขาอยูเปนนาน เขาจึงรูสึกตัวยกมือขึ้นลูบหัวฉันเบา ๆ แลว

พูดวา “นิก นิกจะทําอยางไรดี? สงสารคุณมนทิราเหลือเกิน ถาชวยได

ฉันจะลางานขึ้นเรือบินไปหาเขาพรุงน้ีแหละ” 4

5

4

เร่ืองเดียวกัน, หนา 107 – 108. 5

เร่ืองเดียวกัน, หนา 129.

Page 25: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

17

ครั้งหนึ่งพิเชฐถูกทุกคนในบานเขาใจผิดวา พิเชฐทําใหบุญชวย คนรับใชในบาน

ทอง ซึ่งความจริงแลวบุญชวยมีทองกับผูชายอีกคนหนึ่งไมใชพิเชฐ แตบุญชวยไมกลา

บอกความจริงวาตัวเองทองกับใคร เพราะภรรยาเกาขูวาจะสาดน้ํากรดท้ังคนรักของ

บุญชวยและบุญชวย แมและนองของบุญชวยจึงสงสัยพิเชฐเพราะเปนคนที่อยูใกลชิด

บุญชวย นิกสงสารพิเชฐที่ถูกเขาใจผิด โดยที่พิเชฐไมรูตัว เมื่อพิเชฐกลับจากที่ทํางานใน

วันนั้น นิกจึงอยูใกลเจานายตลอดเวลาและนิกยังคิดหาทางชวยเหลือพิเชฐดวย ดังที่ใน

เนื้อเรื่องกลาววา

ฉันไดฟงดังนั้นรูสึกไมสูสบายใจกลัววาจะเสียแมครัว แมชวย

และเด็กชดไป เพราะเขามีกัน 3 คนแมลูกเทานี้ ทิ้งกันไมได นายแยแลว

ฉันเองก็พลอยแยไปดวย ไมชั่วแตนาย เพราะถาแมครัวและลูกท้ัง 2 คน

ไป ทั้งบานก็จะเหลือแตนายกับฉัน นายคงจะตองเปนคนทํากับขาว

ซึ่งถึงแมคงจะดีกวาฉันทํา แตก็คงไมมากนัก!

เมื่อนายกลับมาจากทํางานบายวันน้ัน ฉันก็ตรงเขาประจบนาย

ย่ิงกวาวันธรรมดา ฉันสงสารนายเหลือเกิน เมื่อพูดอะไรไมไดก็ไดแต

แสดงความรูสึกทางดวงตา นายตบหัวฉันอยางรักใคร นายไปไหน

ฉันก็เดินตามไปทุกหนทุกแหง 5

6

และในเนื้อเรื่อง นิกพยายามที่จะชวยพิเชฐคิดวาจะหาทางแกปญหาเรื่องท่ีพิเชฐ

ถูกเขาใจผิดนี้ไดอยางไร ดังที่ในเน้ือเรื่องไดกลาวถึงความคิดของนิกวา

วันนี้ฉันไมไดว่ิงตามนายไปที่ที่เขาเลนตีลูกอะไรกลมๆ ที่

มนุษยเรียกวาเทนนิสอยางเคย ฉันเดินออกทางประตูหลังบานไป

ตัวเดียว พลางคิดหาหนทางที่จะชวยนายไมใหคนใชลาออกไปหมด

ทั้งบาน แตคิดไมยักออกก็เลยเดินไปไกลจนถึงตีนเขา เผอิญไปเจอะ

ก้ิงกาเขาตัวหนึ่ง ซึ่งยืนทําตาเปงอยูใตตนไม จึงชวนมันว่ิงเลนซอนหา

อยูพักใหญ จนหามันไมเจอจริง ๆ แลวฉันก็กลับบาน นึกหาหนทาง

ที่จะชวยนายไมออกอยูนั่นเอง 6

7

6

เร่ืองเดียวกัน, หนา 216. 7

เร่ืองเดียวกัน, หนา 218.

Page 26: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

18

ในทายที่สุดนิกก็ไดกลายเปนผูแกปญหานี้ได เพราะเมื่อนิกเห็นคนรักของ

บุญชวยและบุญชวยแอบพบเจอกัน นิกก็รีบตะครุบตัวคนรักของบุญชวยไว ทําใหทุกคน

ทั้งพิเชฐ แมและนองของบุญชวยรูความจริงวา บุญชวยมีคนรักอยูแลวและกําลังต้ังทอง

กับคนรักของตน

นิกเปนสุนัขที่รักเจานายของตัวเองมาก และนิกยังรักเด็กๆ มากอีกดวย

ในนวนิยายนิกไดเขียนจดหมายเลาใหพิมฟงวา นิกรักเด็กมาก เมื่อเห็นเด็กก็อยากจะ

เขาไปเลนดวย นิกบอกวา ความเกลียดมีเหตุผล แตความรักมักไมมีเหตุผล เปนสิ่งท่ี

เกิดขึ้นจากหัวใจอยางแทจริง

แกก็รูอยูแลวพิมวาฉันรักเด็ก เห็นเด็กเขาเปนไมไดตองเขาไปหา

อยากเลนดวยไปหมด ฉันไมเขาใจเหมือนกันวาเหตุใดฉันจึงรักเด็กหนักหนา

มันคงจะอยูในสายเลือดของฉันเชนเดียวกับการตอยมวยอยางท่ีหนังสือ

เลมนั้นวากระมัง ความรักมักไมมีเหตุผล ไมเหมือนความเกลียด เรามี

เหตุผลเสมอเวลาเราเกลียดใคร อยางฉันเกลียดนายซะงาก็เพราะฉัน

ไมชอบวิธีอวดของเขา และเพราะอิจฉาเขาเรื่องกระดูกชิ้นน้ัน อยางมนุษยท่ี

เขาเกลียดกันก็เพราะอิจฉากัน กลัวเขาจะดีกวาหรือไมก็เรื่องเงิน หรือไมก็

หึงกันเก่ียวกับคูรัก หรือเรื่องกลัวจะขัดลาภหรือรูไสกัน หรือเรื่องอ่ืนคลาย ๆ

อยางนั้น ถูกแลว เกลียดมักมีเหตุผลเสมอ ลองคิดดูดี ๆ ไมหลอกตัวเองซิ

จะหาเหตุผลไดทุกครั้งวาเหตุใดจึงเกิดการเกลียดขึ้น สวนรักเลา? รักไมยัก

มีเหตุผล รักไมเก่ียวกับกระดูก เงินหรือสิ่งของอะไรเลย รักไมตองมีเหตุมีผล

อยู ๆ บางทีพอเจอะหนาครั้งแรกเกิดถูกชะตาขึ้นมาก็รักได มันออกมาจาก

ขางในตัวของเราเฉย ๆ ยังงั้นเอง หักหนาก็ไมได เหตุใดฉันจึงรักนายของฉัน

และแกรักนายผูหญิงของแกเลา ฉันตอบไมถูกดอก แกอาจจะตอบถูกบาง

กระมัง นายของเราไมเห็นสมควรแกความรักของเรา นอกจากนาน ๆ ที

โดยมากเขาเอาแตใจของเขาแลวไมคอยเห็นใจหรือนึกถึงความรูสึกของเรา

เลย แตกระนั้นเราก็รักเขา ความรักเปนสิ่งศักด์ิสิทธิ์ เปนสิ่งที่มีอํานาจ

มาก มากจนกระทั่งบางครั้งก็ชนะความยุติธรรม เหตุผล และความรูสึก

ผิดชอบ มันรุนแรงย่ิงกวาความเจ็บปวดเสียอีก 8

8

เร่ืองเดียวกัน, หนา 247 – 248.

Page 27: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

19

นิกไดเลาใหฟงวา เด็กบางคนแกลงนิกหรือเลนกับนิกเจ็บๆ แตนิกก็ไมเคยโกรธ

เด็ก แสดงใหเห็นวานิกมีความรักใหกับทุกคนรอบขาง โดยเฉพาะเด็กๆ อยางแทจริง

การที่ฉันพูดถึงความรักต้ังยืดยาวนี้ ก็เพราะฉันอธิบายไมถูกวา

เหตุใดฉันจึงรักเด็กหนักหนา เด็กบางคนไมเห็นจะนารักสักนิด พอฉันเดิน

เขาไปใกล ยังไมทันจะเลียแผล็บก็ตกใจรองไหจาหนวกหูแทบแย ผูใหญ

ของเขาไมรูเรื่องรูราวไมดูตามาตาเรือ มีอะไรใกลมือก็ความาจะตีฉันบาง

หยิบกอนอิฐขวางบาง รองเอะอะ ๆ บาง อุมเด็กว่ิงหนีเขาบานไปตอหนา

ตอตาบาง เด็กบางคนถาไมกลัวฉันแบบนี้ก็ชอบแกลงฉันตาง ๆ นานา เชน

ดึงหาง ท้ึงหู หรือหาอะไรแหลม ๆ มาท่ิมฉันเจ็บ ๆ หรือหาหนังสต๊ิกมายิง

ฉันบาง แตฉันไมเคยทํารายตอบเขาเลย อยางดีก็ว่ิงหนีเทานั้นเอง 8

9

เมื่อนิกเห็นเด็กตัวเล็กๆ นอนหลับในรถเข็น นิกซึ่งรักเด็กอยูแลวเมื่อเห็นเด็กก็

รีบกระโดดจากบานของตัวเองเขาไปดูเด็กท่ีนอนอยูในรถเข็นใกลๆ นิกเห็นเด็กก็นึกรัก

ขึ้นมาอยากจะเลียหนาเด็กดวยความรักแตก็ไมกลาเพราะกลัวจะตกใจต่ืน จึงเพียงแต

ชะโงกหนาเขาไปดูใกลๆ

เชาวันหนึ่ง ฉันมองดูจากบานเรา เห็นแมของเด็กนํารถเข็น

ออกมาไวที่ใตตนไมหนาบานตามเคย แลวก็กลับเขาไปในเรือน ฉันแลดูท่ัว

เห็นปลอดคน เด็กนอนอยูคนเดียวในรถเข็นจึงลงจากเรือนผานสนามแลว

กระโดดขามรั้วเต้ีย ๆ ซึ่งก้ันเขตระหวางบานเราและบานเขาไปในบริเวณ

บานของเขา เดินตรงไปใตตนไมหนาบานเพื่อดูเด็กในรถเข็น เห็นตัวเล็ก

นิดเดียวกําลังนอนตะแคงหลับสนิทหนาเอ็นดูดี ฉันชักจะรักตงิดๆ

อยากจะเลียแผล็บสองแผล็บก็กลัววาจะตกใจต่ืน จึงเพียงแตชะโงกดู

เพลินไปหนอย จนหนาของฉันไปชนเอารถเขา 9

10

ในเรื่องนิกกับพิมไดแสดงใหเห็นวานิกชอบเด็กหลายตอน อยางเชนตอนที่นิกเลน

ฟุตบอลกับเด็ก และตอนที่นิกเลนกับเด็กฝรั่งที่บานอยูขางโบสถฝรั่งเศส นิกและเด็กๆ

9

เร่ืองเดียวกัน, หนา 248 – 249. 10

เร่ืองเดียวกัน, หนา 249 – 250.

Page 28: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

20

เลนกันดวยความสนุกสนาน ซึ่งเด็กๆ ทุกคนมีความสุขมาก ทั้งว่ิงเลนดวยกัน และเด็กๆ

ทาแปงใหนิก หาเสื้อผา หมวก และแวนตามาใสใหนิก แลวพาไปนั่งที่เปยโนใน

หองรับแขกเอาไปปคือกลอง หรือเรียกอยางคนแถวนี้วากะบ้ังดูดยาของพอเด็กๆ มาให

นิกคาบ และใหนิกเลนเปยโน นิกก็เลนดวยกับเด็กๆ ภาพที่ผูอานจินตนาการก็จะเปน

ภาพที่นารักและอบอุนของนิกกับเด็กๆ

ตอนบายวันเดียวกันนั้น ฉันเห็นพวกเด็ก ๆ ผิวขาว 5 คนว่ิงเลนอยู

ที่สนามหนาบานเขา ก็อดรนทนอยูไมไดจึงเดินเมียงไปยืนดูริมรั้ว เด็กผูชาย

คนโตหันมาเห็นฉันเขาก็หยุดเลนเดินมายืนจองดูฉันอยูที่อีกขางหนึ่งของรั้ว

ฉันเลยกระดิกหางรับ นอง ๆ เขาอีก 4 คน ก็เดินตามมายืนเปนแถวริมรั้ว

พลางมองดูฉัน ฉันก็ย่ิงกระดิกหางแถมสายกนไปมาเล็กนอยพองาม ครั้น

เด็กผูชายคนโตเดาะปากเจาะเดียว ฉันก็โจนพรวดเดียวขามรั้วไปยืนกระดิก

หางตรงเขามาเลียมือ (คนท่ีโตหนอย) เลียหนา (คนท่ีเล็ก) เขาหมดทุกคน

เขาก็เลยหายกลัว สักครูใหญ ๆ ตอมา ฉันก็ไดว่ิงเลนเอาเถิดกับเด็กทั้ง 5 คน

อยางสนุกสนาน เสียงหัวเราะอยางครื้นเครงดังลั่น

เมื่อว่ิงเลนที่สนามจนเหนื่อยแลว เด็กทั้ง 5 คนก็ชวนฉันเขาไปใน

เรือน ตอนนี้ซิย่ิงสนุกใหญ เขาชวยกันแตงเน้ือแตงตัวใหฉัน หาแปงผัดหนา

หาเสื้อผา หมวก และแวนตาของใครมาใสใหเหนือจมูกฉัน แลวพาไปน่ังที่

เปยโนในหองรับแขกเอาไปปคือกลอง หรือเรียกอยางคนแถวน้ีวากะบ้ัง

ดูดยาของพอเขามาใหฉันคาบ เปนตน ฉันนั่งน่ิงยอมใหเขาทํากับฉัน

ทุกอยาง เขาใหเลนเปยโนก็เลน ชี้ใหดูโนตก็ดู เขาเลยสนุกใหญ เสียง

หัวเราะดังกากๆ บางคนถึงแกนอนกลิ้งไปกับพื้นหองหัวเราะจนลุกไมขึ้น

กระทั่งแมของเขาไดยินเสียงเก้ิกกากดังผิดธรรมดา ก็ออกมาดูวาลูกๆเลน

สนุกสนานอะไรกัน แตพอเขาเห็นฉันเขาเทาน้ัน การละเลนอันสนุกสนาน

ของเราก็ชะงักลง!

ฉันไมเขาใจจนแลวจนรอด วาเหตุใดผูใหญจึงไมยอมใหฉันเลนกับ

ลูกของเขา เขานาจะรูวาฉันชอบเด็ก ไมเคยคิดทําอันตรายเด็กคนไหนท่ีฉัน

เลนดวยเลย ใหขี้เรื้อนกินฉันซิ! จริง ๆ นา เด็ก ๆ ก็ชอบเลนกับฉัน

แหมมแมของเด็กผิวขาวเกลียดฉันเอามาก ถูกแลว ฉันทํากลองหรือกะบ้ัง

ดูดยาของสามีเขาตกแตก ฉันแกลงเมื่อไหรละ ก็ลูกของเขาเองนํามาใส

ปากฉันใหคาบไว ฉันก็คาบนะซิ พอเขาออกมาเห็นฉันขณะที่กําลังคาบ

Page 29: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

21

กลองนั่งดีดเปยโน อยูดี ๆเขาก็สงเสียงกรี๊ดรองลั่น ฉันตกใจเผนลงจาก

มาโดยแรงจนมาควํ่า กลองก็กระเด็นออกจากปากตกแตกตามธรรมดา จะ

มาโกรธฉันถูกรึ? 10

11

ในตอนทายเรื่องนิกไดชวยเด็กๆ ใหพนอันตรายจากสุนัขบา พิเชฐเขียนจดหมาย

เลาใหมนทิราฟงวา ตอนที่พิเชฐไปเลนเทนนิสกับเพื่อนๆ ในตอนเย็น และนิกตามไปดวย

อยางเคย ในขณะท่ีพิเชฐกําลังเลนเทนนิส และนิกกําลังเลนกับเด็กๆอยูท่ีสนามหนา

โรงเรียนน้ัน มีสุนัขบาตัวหนึ่งว่ิงเขามาหากลุมของเด็กๆ ที่เลนกันอยูท่ีสนามกวางหนา

โรงเรียน พิเชฐเรียกนิกใหมาหาตน นิกกําลังจะว่ิงไปหาพิเชฐ แตเมื่อนิกเห็นสุนัขบา

ว่ิงเขาไปหาเด็กๆ นิกก็เปลี่ยนใจหันมาปกปองเด็กๆ จากสุนัขบาตัวนั้น นิกตอสูกับ

สุนัขบาตัวนั้นเพื่อปองกันชีวิตของเด็กๆ ทุกคน ดังที่พิเชฐเขียนจดหมายเลาใหมนทิรา

ฟงวา

เราหยุดเลนเทนนิสทันที มองไปทางสนามโนนก็เห็นพวกเด็ก ๆ

ว่ิงเกรียวกราวหนีกระจัดกระจายไปคนละทิศละทาง บางคนไวหนอยก็ปนหนี

ขึ้นตนไม บางคนปนขึ้นไปนั่งอยูบนรั้ว บางคนก็หนีเขามาทางสโมสร พวก

พอแมเด็กที่อยูแถวนั้นตางก็ว่ิงไปที่สนามหนาโรงเรียนเพื่อควาลูกของตน

มาเสีย ผมมองดู เห็นหมาสีเทาหางตกทาทางไมนาไวใจตัวหนึ่งว่ิงตรงทื่อ

เขาไปที่สนาม ผมเห็นนิกอยูแถวชิงชาทางดานโนนของสนาม จึงผิวปาก

เรียกมัน มันก็ทําหูต้ังแลวต้ังทาจะว่ิงมาหาผม ก็พอดีเจาหมาทาทางพิกล

ตัวนั้นเดินไปทางชิงชาซึ่งเด็ก ๆ อีกหลายคนเพิ่งลงจากชิงชา ตางรองกรี๊ด

ดวยความตกใจ พากันว่ิงตะลีตะลานขึ้นบันไดไปบนโรงเรียนซึ่งอยูใกล

ที่สุด เหลือแตเด็กผูหญิงคนหน่ึงอายุประมาณเกาขวบ ซึ่งแกวงชิงชาใหนอง

นั่งเพลินอยู พอเขาเอะอะกันก็ตกใจพยายามจะอุมนองลงจากชิงชา

แตเพิ่งจะชวยนองลงไดเด๋ียวนั้นเองก็ฉุดมือนองลากถูลูถูกังจะว่ิงหนีตาม

คนอ่ืนไป พอดีเจาหมาบาว่ิงทื่อเขามาถึง นิกเห็นไมไดการก็เผนเขา

สกัดหนาหมาบาก้ันเด็ก 2 คนไว เจาหมาบาแยกเขี้ยวรี่เขาใสนิกแทน

เสียงขูของมันดังมาถึงหูผม ผมใจหายวาบนึกวานิกคงจะเขายืน 2 ขาขยํ้า

คอหมาบาอยางที่เคยทําเสมอ แลวก็จะตองถูกเจาหมาบากัดตอบถูกท่ีขา

11

เร่ืองเดียวกัน, หนา 251 – 252.

Page 30: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

22

หรืออะไรอยางนั้น แตหามิได พอหมาบารี่เขามาจะถึงตัว นิกก็หลบวูบ

หมาบาเลยหัวซุนถลาผานนิกไปไลเด็ก เด็กบางคนก็หนีขึ้นบันไดโรงเรียน

ไปยืนที่เฉลียงแลวบางคนกําลังอยูที่กลางบันได บางคนกําลังจะขึ้น แต

ถึงแมวาจะขึ้นไปอยูที่เฉลียงไดหมด เมื่อเจาหมาบาตามขึ้นไปก็จะพากัน

จนมุมอยูที่เฉลียงนั้น เพราะเฉลียงน้ันตัน ประตูหองเรียนปดใสกุญแจหมด

หนีตอไปไมได คุณคงจะนึกภาพโรงเรียนไมไมทาสีตามชนบทออก แต

นิกว่ิงเขาขวางหนาหมาบาไวอีก ไมยอมใหมันตามเด็กขึ้นไปบนบันได

..........................................................

กอนที่จะมีเสียงโปง นิกก็หลบวูบไปไกลจากหมาบา พอเสียง

ดังโปงเจาหมาบาก็ลมลงตายคาที่ นิกก็ว่ิงกระดิกหางเขามาหาผม

เปนอันวานิกเปน “วีรสุนัข” ใหญโตที่ชวยปองกันเด็ก ๆ แหงตําบลภูเขียวไว

ไมใหหมาบามากัดได พวกพอแมเด็กรูสึกวาเปนหนี้บุญคุณนิกที่ชวยลูก

ของเขาใหพนจากอันตราย เลยพากันมาลูบหัวลูบหูและนํากับขาวของกิน

ตาง ๆ มาใหกินมากมาย แต “วีรสุนัข” ของเราไมมีโอกาสไดขม้ําของกิน

อรอย ๆ เหลานั้น เพราะหมอมาโนชใหผมขอยืมรถ ผมกับเด็กชดก็จับนิก

ใสรถออกเดินทางกลับกรุงเทพฯ กอนคํ่าวันนั้นเอง วันรุงขึ้นตอนบายถึง

กรุงเทพฯ ผมก็นํานิกตรงไปสถานเสาวภา จนบัดนี้นิกก็ยังถูกขังอยูที่น่ัน

ผมเปนหวงนิก กลุมและเหงาเหลือเกิน คุณคนเดียวจะทราบวาผม

รักนิกเพียงไร มันเปนเพื่อนสนิทของผม ถานิกตายไปผมจะแย ถึงแมพิม

จวนจะมาอยูแลว แตมีพิมไมมีนิก ผมนึกไมออกเลย!

หวังวาคุณคงสบายดีและนึกถึงผมบาง

จากผมผูกลุมแทบจะเปนบา

พิเชฐ 12

แตทายที่สุดนิกก็ปลอดภัยทุกประการ ไมไดรับอันตรายจากการตอสูกับสุนัขบา

เพื่อปกปองเด็กๆ และนิกยังไปรับมนทิราและพิมที่สนามบินพรอมกับพิเชฐดวย ความรัก

ของนิกที่มีตอพิเชฐและที่มีตอเด็กๆ ทุกคนเปนความรักท่ีบริสุทธิ์ใจ

12

เร่ืองเดียวกัน, หนา 316 – 319.

Page 31: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

23

นอกจากความรักของนิกที่มีตอเจานายแลว ความรักของพิมที่มีตอมนทิราก็

ไมแพความรักของนิกท่ีมีตอพิเชฐ โดยเฉพาะเมื่อสมรศรีและยุพดีเขามาเก่ียวของสราง

ความวุนวายใจใหกับมนทิรา พิมท้ังรักและสงสารนายผูหญิงของตนเปนอยางมาก

เมื่อสมรศรีซึ่งเปนเพื่อนกับยุพดี พี่สะใภของมนทิรามาที่บานของมนทิรา เพื่อ

หาทางชวยใหยุพดีคืนดีกับสามี พิมดมกลิ่นสมรศรีก็รูวาผูหญิงคนน้ีไมชอบมนทิรา พิม

เลาใหนิกฟงวาพิมไดกลิ่นท้ังความเกลียดชัง ความอิจฉาของสมรศรี พิมรูสึกเศราใจมาก

ที่นายผูหญิงของพิมไมรูวาสมรศรีไมชอบเธอ

เมื่อแรกฉันคิดจะประจบขอขนมแบรตากินอยูในครัวแตขี้คราน

ฟงมนุษยผูนั้นพูดโง ๆ อีกตอไป จึงตะกายประตูครัวขอออกไปขางนอก

ใหฉันไปนั่งดมกลิ่นเหม็นของดอกกุหลาบเต็มสวนยังดีกวาฟงมนุษยที่พูดไม

ตรงกับใจ ฉันรูสึกเศราเหลือเกินที่นายผูหญิงของฉันไมรูวาใครเปนเพื่อน

ใครเปนศัตรูของเขา ยายสมรศรีเพื่อนของยุพดีนี่แหละเปนศัตรูตัวรายละ

ฉันไดกลิ่นท้ังเกลียดทั้งอิจฉาออกมาจากตัวเขาตลอดเวลา ทั้ง ๆ ที่ฉันไมรูวา

ยุพดีเปนตัวอะไร แตฉันก็พลอยเกลียดไปดวย เพราะถายุพดีดีแลว จะมี

เพื่อนเปนยายสมรศรีไมได 12

13

เมื่ออยูลับหลังมนทิรา สมรศรีจะเขาไปในหองของนายผูชาย พิมก็เขาไป

ขวางไว สมรศรีไมพอใจจึงเตะพิม และยังพูดปดกับมนทิราวาเธอเห็นพิมนารักจึง

ตองการลูบหัว แตพิมกลับขูเธอ และพิมยังไดกลิ่นความเกลียดชัง ความอิจฉา

นายผูหญิงจากสมรศรีดวย พิมจึงรูสึกสงสารนายผูหญิงของตนมากที่ไมรูวาใครเปนมิตร

เปนศัตรู

ขณะท่ีฉันนั่งคอตกหูตกอยูท่ีกอกุหลาบ (โชคดีที่ยังไมออกดอก)

เศราใจในความซื่อไมรูเทาทันคนของนายผูหญิงและเจ็บที่ซี่โครงที่ถูกยาย

สมรศรีเตะ ฉันก็เห็นนายผูหญิงแตงตัวสะสวยเดินเคียงไปกับยายสมรศรี คง

จะพากันไปจับรถทรอลลี่ตรงหัวถนนเขาไปในเมือง เพื่อไปพบนายผูชายที่

โรงพยาบาลตามท่ีนัดกันไวทางโทรศัพทเมื่อก้ีนี่ละกระมัง 13

14

13

เร่ืองเดียวกัน, หนา 124. 14

เร่ืองเดียวกัน, หนา 124.

Page 32: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

24

สมรศรีเพื่อนของยุพดีเขามาวุนวายกับครอบครัวของมนทิรา ทําใหพี่ชายของ

มนทิราไมสนใจนองสาวและลูกเหมือนเชนเคยและทําใหพี่ชายของมนทิราไมสนใจ

การทํางาน เมื่อพี่ชายและมนทิราทะเลาะกันเรื่องคาใชจายภายในบาน พี่ชายของเธอ

ไดวาพิมวาเปน “ ไอหมาเวร ” ทําใหมนทิราเสียใจ เพราะเธอรักพิมมากและพิมเปนเพื่อน

ที่ดีที่สุดท่ีเธอมีอยู

นายผูหญิงไมไดตอบทันที แตเมื่อพูดออกมา ในที่สุดเสียง

คอนขางเบาและสั่นวา “ ถาคุณใหญดูบัญชีดีๆ ก็จะเห็นวาสิ่งท่ีมนจาย

ลวนแลวแตของท่ีจําเปนท้ังนั้น โดยมากก็เปนอาหารของยายหนู

“ และของไอหมาเวรน่ี ” นายผูชายพูดตอหนาบ้ึง เคาะนิ้ว

มาทางฉัน 14

15

เมื่อพี่ชายของมนทิราวาพิมดวยถอยคําที่รุนแรง ทําใหมนทิราเสียใจมาก

น้ําเสียงที่ตอบพี่ชายของเธอเปนเสียงท่ีสั่นเครือเหมือนกับจะรองไห ทําใหผูอานได

มองเห็นวา มนทิรารักพิมมาก ในนวนิยายกลาววา

เสียงสั่นทุกที “สวนพิมที่คุณใหญเรียกวาอายหมาเวร เปน

เพื่อนอยางเดียวของมนท่ีมีอยูในเวลานี้ มันกินของเหลือ ๆ วันละ

มื้อเดียว ไมไดหมดเปลืองอะไรหนักหนา ตัวมันเล็กแคนี้เอง และหมา

ชนิดน้ีอวนแลวไมสวย ตองเลี้ยงใหผอมหนอยถึงจะถูกลักษณะพูเด้ิลท่ีดี

โธคุณใหญคะ เด๋ียวนี้คุณใหญเปนอะไรไปก็ไมรู เปลี่ยนแปลงไปมาก

มนไมรูจะทําอยางไรใหดีไปกวานี้แลว...” แลวนายผูหญิงยกมือทั้งสองขึ้น

ปดหนา ลุกขึ้นเขาหองยายหนูไป 16

พิมเปนกําลังใจใหกับมนทิราเสมอโดยไมทอดทิ้งเธอ ตอนที่นายผูชายของพิม

คอยดูแลสมรศรีและไปกับสมรศรีบอยครั้ง ปลอยใหมนทิราอยูบานอยางเศราใจ พิมก็

เขามาอยูใกลและประจบเอาใจมนทิรา เพื่อไมใหเธอเศราใจ

15

เร่ืองเดียวกัน, หนา 169. 16

เร่ืองเดียวกัน, หนา 170.

Page 33: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

25

คํ่าวันนั้นนายผูชายไมกลับบาน คงจะไปเที่ยวกับยายสมรศรี

ศัตรูของฉันตามเคย เมื่อยายหนูเขานอนแลวนายผูหญิงก็ควาหนังสือหนา

เลมหน่ึงไปนั่งท่ีเกาอ้ียาวใตโคมไฟ ฉันรีบกระโดดขึ้นไปบนเกาอ้ีดวย

หมอบลงพลางเอาหัวซบตักนายผูหญิงอยางประจบ เขาก็ยกมือขึ้นลูบหัวฉัน

ไปมาอยางใจลอย แลวบอกแกฉันวา “พิม พิม ฉันเบ่ือโลกเหลือทน

อีกหนอยเราอาจจะตองไปจากที่นี่ คุณใหญคงไมตองการฉันแลว เฮอ!”

นายผูหญิงถอนใจใหญ พลางเปดหนังสือเลมใหญน้ันขึ้นอานใหฉันฟง มัน

เปนเทพนิยายซึ่งมนุษยท่ีชื่อกริมมเปนผูแตง ชื่อเรื่อง “กําหนดชีวิต” เปนเรื่อง

เก่ียวกับสัตวตาง ๆ หลายชนิด แกคงจะสนใจบางเปนแน ฉันจะเลาใหแกฟง

ยอ ๆ ดังตอไปน้ี 17

พิมรักมนทิรานายผูหญิงของตนมาก มนทิราก็รักพิมมากเชนกัน ครั้งหนึ่งพิม

หายไปจากบานทั้งคืนคือตอนที่พิมว่ิงไลแมวจนหลงทางจากบาน พิมไมไดสวมปลอกคอ

และหลงทางไปไกลจากบานมากจนตองถูกจับตัวไวที่โรงพัก บุรุษไปรษณียที่เคยมาสง

จดหมายที่บานของพิมจําพิมไดและนําพิมมาสงใหกับมนทิรา มนทิราดีใจมากที่ไดพิม

กลับคืนมา ในเรื่องไดกลาวถึงมนทิราวา

เมื่อบุรุษไปรษณียนําฉันมาสงบาน นายผูหญิงก็ตองเสียเงิน

รางวัลเขาอีก ตอนแรกเขาไมยอมรับ แตนายผูหญิงยัดเยียดใหเขาจนได

ครั้งน้ีนายผูหญิงไมไดทําโทษฉัน กลับน้ําตาคลอ กอดฉันแนน “พิม พิม

ฉันเปนหวงแกแทบแย แกรูหรือเปลาวาฉันนอนไมหลับตลอดคืน นึกวา

แกโดนรถทับหรืออะไร ฉันเท่ียวตามหาแกที่ตาง ๆ ท่ีแกเคยไปก็ไมพบ

หมุนโทรศัพทไปตามโรงพักถามหาแกก็ไมไดเรื่อง ใจฉันไมดีเลย คิด

ไปทางราย ๆ ท้ังนั้น ทีนี้แกอยาทําอยางนี้อีกนะพิม!”

ฉันสัญญาดวยดวงตา นายผูหญิงก็ตบหัวฉันแลววา “มะ มากิน

ขาวเสียที เชาวันนี้ฉันตองอาบน้ําแกอีกแลวพิม แกไปเท่ียวอยูตามถนน

ตามโรงพักอะไรไมรู สกปรก!”

17

เร่ืองเดียวกัน, หนา 171 - 172.

Page 34: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

26

เมื่อตัวของฉันสะอาดและแหงแลว นายผูหญิงก็หยิบแปรงมา

แปรงขนฉันกอนจึงหวีใหขนหายเปนสังกะตัง 17

18

ผูแตงทรงใหนิกเปนสุนัขท่ีอยูในชนบท ไดอยูใกลชิดกับเด็กๆ และไดอยูใกลกับ

สัตวนานาชนิด ผูอานจึงเห็นไดอยางชัดเจนวานิกเปนสุนัขท่ีจิตใจดี มีความรักใหกับ

ทุกๆ คนท่ีอยูรอบขาง โดยเฉพาะเด็กๆ นิกจะรักเปนพิเศษ ไมวาจะเปนเด็กๆ ท่ีเปนคน

ลูกแพะ ลูกไก ฯลฯ สวนพิมเปนสุนัขตัวเล็กๆ ท่ีอยูในบานท่ีประเทศสวิสเซอรแลนด

พิมจึงมิไดออกไปพบกับบุคคลภายนอกมากนัก ความรักของนิกที่มอบใหตอคนอ่ืน

รอบขางจึงเปนความรักที่พิเศษนอกเหนือไปจากความรักของนิกกับพิมที่มอบใหกับเจาของ

ของตัวเองคือพิเชฐและมนทิรา และพิเชฐกับมนทิราก็รักนิกกับพิมมากเชนกัน

“ ความรัก ” เปนเสมือนหัวใจสําคัญของเรื่องนิกกับพิม อันเปนความรักที่บริสุทธิ์งดงาม

ถาหากทุกคนบนโลกใบนี้มีความรักใหแกกันและมอบความรักใหทุกสรรพชีวิตท่ีเปนเพื่อน

รวมโลกอยางเชนในเรื่องนิกกับพิม โลกใบนี้ก็คงรมเย็นมีความสุขมากกวาที่เปนอยูใน

ปจจุบัน ผูวิจัยมีความเห็นวาเรื่องนิกกับพิมนี้เปนนวนิยายท่ีมอบ“ หัวใจสีขาวในวัยเยาว ”

ใหกับผูอานทุกคน ทําใหผูอานอานแลวเกิดความรักท่ีมอบใหกับสุนัข เพื่อนมนุษยทุกคน

และทุกสรรพชีวิตที่อยูรอบขาง อันเปนคุณความดีอยางวิเศษของนวนิยายเรื่องนิกกับพิม

2.1.2 พระอัจฉริยภาพของ ว. ณ ประมวญมารคดานการประพันธ :

เร่ืองนิกกับพิมเปนนวนิยายรูปแบบจดหมายท่ีเอื้อตอการคลี่คลาย

ปมปญหาของเน้ือเร่ือง

พระอัจฉริยภาพของ ว. ณ ประมวญมารคดานการประพันธ ท่ีทรงใชรูปแบบ

การเขียนนวนิยายเรื่องนิกกับพิมเปนนวนิยายรูปแบบจดหมายชวยสรางปมปญหาของ

เรื่องใหนาสนใจมากย่ิงขึ้นและนําไปสูการคาดเดาคําตอบขอสงสัยปมปญหาของเรื่อง

และทายที่สุดนําไปสูการคลี่คลายปมปญหา ซึ่งปมปญหาของเรื่องไดปรากฎต้ังแต

ตอนตนเรื่องคือ ตัวละครเอกฝายชายเขาใจวาตัวละครเอกฝายหญิงแตงงานแลว

และความเขาใจนี้เองทําใหตัวละครเอกฝายชายรีบกลับเมืองไทยโดยไมทันไดลา หรือ

แมแตไดถามความจริงจากตัวละครเอกฝายหญิง และนําไปสูการเขียนจดหมายของทั้ง

สองคนคือพิเชฐและมนทิราโดยเขียนจดหมายในทํานองที่นิกกับพิมเขียนจดหมายคุยกัน

18

เร่ืองเดียวกัน, หนา 235 – 236.

Page 35: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

27

พระองคทรงเขียนเรื่องนิกกับพิมโดยในตอนแรกพระองคทรงเลาเรื่องแบบบรรยาย

ตัวละครเอกฝายชายคือพิเชฐไดพบกับตัวละครเอกฝายหญิงคือมนทิราที่รานขายลูกหมาที่

เมืองซูริคประเทศสวิสเซอรแลนด พิเชฐซื้อนิกซึ่งเปนลูกหมาพันธุบอกเซอรสีน้ําตาล

มนทิราซื้อพิมลูกหมาพันธุพูเด้ิลสีดํา พิเชฐรักมนทิราต้ังแตแรกพบ และมนทิราก็มี

ความรูสึกตองอัธยาศัยพิเชฐเชนกัน แมวาทั้งสองคนจะไดพูดคุยรูจักกันแตพิเชฐก็ยังคง

ไมไดรูจักมนทิรามากนัก เพราะมนทิราไมไดบอกรายละเอียดเก่ียวกับตัวเธอ และเธอ

วางตัวเปนกุลสตรีไมทําตัวสนิทสนมหรือบอกเลาเรื่องราวสวนตัวของเธอใหพิเชฐฟง

เพราะเธอคิดวาเพิ่งรูจักกับพิเชฐ ดังที่ในเนื้อเรื่องผูแตงทรงบรรยายตอนที่ท้ังสองได

บังเอิญมาพบกันอีกครั้งหลังจากที่ไดพบกันครั้งแรกที่รานขายลูกสุนัข เขาและเธอไดนั่ง

คุยกันที่รานขนมระหวางที่มนทิรารอใหทางรานตัดขนใหกับพิม

การนั่งรับประทานทารตสตรอเบอรรี่สด และด่ืมกาแฟ

และชอกเลตอยูที่โตะเดียวกันของชายหนุมและหญิงสาวคูหนึ่งซึ่งเปน

คนชาติเดียวกันในท่ีแปลกถ่ินเชนนี้ เปนเหตุใหคนทั้งสองคุนเคยกัน

อยางรวดเร็ว พิเชฐทราบวา เธอชื่อมนทิรา พึ่งมาอยูในเมืองซูริคยัง

ไมถึงสองสัปดาห แตจะอยูตอไปนานเทาไรยังไมมีกําหนด สวนมนทิรา

ก็ไดทราบวาพิเชฐเรียนวิชาเอ็นจิเนียรเพิ่มเติมจากเมืองฮันโนเวอร

เวลาน้ีเรียนจบไดปริญญาแลว กําลังจะกลับกรุงเทพฯ ในเร็วๆ น้ี 19

ในวันแรกที่พิเชฐไดรูจักและไดพูดคุยกับมนทิราก็ไดทราบเพียงชื่อ และทราบวา

เธอมาอยูที่เมืองซูริคนี้ยังไมถึงสองสัปดาห และในวันถัดมาพิเชฐก็ไดนึกถึงมนทิราและ

ไดรําลึกถึงสิ่งที่พิเชฐไดคุยกับเธอ

เธอดีกับเขา มีไมตรีตอเขาเปนพิเศษหรือ ? ก็เปลาทั้งสิ้น เขา

รูแตเพียงวาเธอชื่อมนทิรา นามสกุลอะไร มาทําอะไรอยูเมืองนี้ก็ไมรู

แมแตเธออยูที่ไหนเขาก็ยังไมทราบเลย ครั้นเขาถามเธอตรงๆวาเธออยู

ที่ไหน เธอกลับถามเขาวา “ จะทราบไปทําไมคะ ? “

“ ผมจะติดตอกับคุณไดอยางไรเลาครับ? ”

19

เร่ืองเดียวกัน, หนา 6.

Page 36: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

28

“ คุณติดตอกับดิฉันไมไดดอกคะ “ เธอตอบ “ ลากอนละนะ

คุณพิเชฐ ยินดีเหลือเกินคะที่ไดพบและรูจักคุณในวันนี้ “ วาแลวก็อุม

ลูกหมาออกไปจากรานขายสัตวเลี้ยงรานนั้น เดินออกไปจากชีวิต

ของเขา 19

20

ถาหากคํานึงถึงความเปนกุลสตรีตามแบบท่ีสังคมไทยไดอบรมตอกันมา ก็ถือไดวา

มนทิราทําในสิ่งที่ถูกตองคือ ไมยอมบอกเรื่องราวสวนตัวใหกับบุรุษท่ีเพิ่งพบกันเปน

ครั้งแรกใหไดทราบเรื่องราวสวนตัว และไมยอมใหบุรุษแปลกหนาไดมีโอกาสติดตอกับเธอ

โดยงาย แตถาหากมองในอีกดานหนึ่งในแงมุมของผูอาน ผูอานก็จะสงสัยวามนทิรา

เปนใคร และเธอมีความลับท่ีตองการปกปดหรือไมจึงไมตองการใหพิเชฐไดติดตอกับเธอ

พิเชฐต้ังใจมาเฝารอมนทิราอีกครั้งที่รานอาหารรานเดิม และพิเชฐก็ไดพบกับเธอ

เพราะมนทิรามีความจําเปนที่จะตองนําพิมมาคืนใหราน แตเจาของรานไมยอมรับคืน

และมนทิราก็รักพิมจนไมสามารถคืนใหรานไดเชนกัน พิเชฐไดซื้อนิกไวแลวในตอนนั้น

ทั้งสองคนไดนํานิกกับพิมไปจางที่รานเลี้ยงไวชั่วคราว และตอมาพิเชฐและมนทิราก็ได

พบกันทุกวันเพราะตางนัดกันไปรับนิกกับพิมไปเดินเลน ถึงแมวาทั้งสองคนจะไดพบกัน

ทุกวันและนาจะไดรูจักกันมากขึ้น แตมนทิราก็ยังไมยอมเลาเรื่องราวของเธอใหพิเชฐ

ไดรับทราบ พิเชฐก็ไดแตคาดเดาคําตอบวามนทิรามาทําอะไรที่สวิสเซอรแลนด แตก็

ไมสามารถตอบคําถามที่สงสัยไดอยูน่ันเอง ดังที่ในเนื้อเรื่องไดบรรยายวา

พิเชฐรูตัววาเขารักมนทิราอยางไมเคยรักใครมากอนในชีวิต แต

เขาตองเก็บความรูสึกที่มีตอเธอไวในใจ แสดงออกมายังไมได เพราะ

เธอชางไวตัวนี่กระไร เธอคุยกับเขาทุกเรื่องนอกจากเรื่องสวนตัวของเธอ

จนปานนี้พิเชฐก็ยังไมทราบวาเธอเปนใคร อยูที่ไหน มาทําอะไรอยูใน

เมืองน้ี ถาเขาพบเธอที่เมืองเบิรนไซร เขาก็คงพอจะเดาไดวาเธอเปน

ลูกสาวของขาราชการในสถานทูต หรืออาจจะเปนลูกสาวของทานราชทูต

เอง แตในเมืองซูริค ! เขาพยายามตะลอมถามหลายครั้งก็ไมไดเรื่อง

จนแลวจนรอดวาเธอเปนนักเรียน ฟงๆ ดูก็รูสึกวาไมไดเปน หรือเธอจะ

เปนนักดนตรี ก็ดูเหมือนไมไดเปนอีก แตเธอคงจะตองทําอะไร

20

เร่ืองเดียวกัน, หนา 8.

Page 37: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

29

สักอยางหนึ่งเปนแน แตอะไรเลา ? บางเวลาเธอก็วาเธอไมวาง มาไมได

ตองตอนนั้นตอนน้ีจึงจะวาง เปนตน เธอทําอะไรจึงไมวาง ? พิเชฐถาม

ตัวเองท้ังกลางวันและกลางคืน ก็ตอบไมถูกอยูนั่นเอง 21

ในเน้ือเรื่องไดบรรยายความคิดของมนทิราดวยเชนกันวาเธอรูสึกตอพิเชฐอยางไร

มนทิรารูสึกตองอัธยาศัยพิเชฐไมใชนอย เพราะพิเชฐเปนชายหนุมที่สุภาพ และเปนคนท่ี

นาสนใจ แตเธอไดรับการอบรมใหเปนกุลสตรีใหรักนวลสงวนตัว ไมใหไวใจผูอ่ืนโดยงาย

และไมควรคุนเคยมากเกินไปกับผูชายที่ไมรูจักหัวนอนปลายเทาโดยเฉพาะในตางประเทศ

แมวาจะเปนคนไทยดวยกัน มนทิราก็ทราบแตเพียงวาพิเชฐมาเรียนที่เยอรมัน ขณะนี้

เรียนจบแลวและกําลังจะกลับกรุงเทพฯ เธอไมกลาถามอะไรพิเชฐมากไปกวานั้นเพราะวา

ถาเธอถามเรื่องราวตัวเขาได เขาก็สามารถถามเธอไดเชนกัน

เธอก็ทราบแตเพียงวาเขาเปนนักเรียนเยอรมัน เรียนจบแลว

กําลังจะกลับกรุงเทพฯเทาน้ันเอง เขาเปนลูกเตาเหลาใคร เปนชาว

กรุงเทพฯหรือคนหัวเมือง เธอก็ไมทราบและไมกลาถาม เพราะถาเธอถาม

เขาได เขาก็ควรจะถามเธอได ฉะนั้นเธอจึงไมถามเขา เพื่อเขาจะได

ไมถามเธอ 21

22

แมวาท้ังสองคนจะไดรูจักกันมากย่ิงขึ้นตามวันเวลา แตมนทิราก็ยังไมไดบอกกับ

พิเชฐวาเธอเปนใคร เพราะเธอยึดตามคําอบรมสั่งสอนเรื่องความเปนกุสตรีของผูหญิงไทย

ที่จะไมยอมสนิทสนมคุนเคยกับบุรุษโดยงาย แตในมุมมองของผูอาน ผูอานก็จะสงสัย

มากย่ิงขึ้นวา มนทิราอาจมีความลับบางอยางก็เปนไดที่ไมตองการใหพิเชฐไดรับรู

และแลวในวันหน่ึงพิเชฐก็ไดเห็นภาพที่ทําใหเขาคิดวาตัวเองไดเขาใจมนทิราแลว

วาเพราะเหตุใดมนทิราจึงไมยอมบอกพิเชฐวาเธอเปนใครและมาทําอะไรที่สวิสเซอรแลนด

ภาพที่พิเชฐเห็นดวยความบังเอิญคือ

พิเชฐลงรถแถวบวกลี่พลัตส แลวก็เอามือท้ังสองขางซุก

กระเปากางเกง เดินคอตกไปตามถนนจะกลับบาน ก็พอดีเหลือบไปเห็น

21

เร่ืองเดียวกัน, หนา 13 – 14. 22

เร่ืองเดียวกัน, หนา 14.

Page 38: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

30

นางในฝนของเขาเดินเคียงคูมากับชายรางสูงผิวคล้ําผูหนึ่ง คงจะเปน

คนไทยเหมือนกัน ท้ังคูชวยกันเข็นรถเล็กสีนวลคันหนึ่ง ทาทางใกลชิด

สนิทสนม พิเชฐรูสึกใจหวิวเหมือนจะเปนลมขึ้นมาในทันทีทันใด ไมอยาก

ใหเธอเห็นเขาจึงหลบวูบเขาไปในรานขายดอกไมแถวนั้น แลวก็แอบหลัง

ดอกไมยืนมองเธอผานไปดวยความรูสึกที่อธิบายยาก 23

เนื้อเรื่องบรรยายความรูสึกของพิเชฐท่ีไดเห็นภาพนั้นวา

คําถามตางๆ เก่ียวกับเธอที่พิเชฐถามตัวเองบอยๆนั้น เขารูคําตอบ

ทั้งหมดทันที ในชั่วเวลาพริบตาเดียวท่ีเขาแอบเห็นเธอในวันน้ี เขานึกไมถึง

จริงๆ วาเธอแตงงานจนมีบุตรแลว รูปรางหนาตาทาทางของเธอชางออน

ไมผิดเด็กสาวๆ “ ไกแกแมปลาชอนนะซิ !” เขาคอนวาเธอในใจอยางเหลืออด

....................................................................

มินาเลาถึงทําตัวลึกลับนัก สวมแหวนเพชรเม็ดเดียวท่ีนิ้วนาง

มือขวา ซึ่งตามธรรมดาคงสวมที่มือซาย ! “ พิเชฐกัดฟนแนน บอก

ตัวเองตอไป พลางเดินเหมือนว่ิงจะกลับท่ีพัก “ ถามวาเปนใคร อยูที่ไหน

ก็ไมยอมบอก มาทําอะไรอยูในเมืองนี้ก็ไมยอมบอก ย้ิมเฉยคลายไมไดยิน

อยูได ฮึ ! ก็จะบอกยังไงวาตัวมีลูกมีผัวแลว ปลอยใหผูชายโงๆหลงรัก

สนุกกวาเปนกอง ไดสนุกโดยที่ผัวก็ไมรู ผูหญิงอะไรใจเปนอยางน้ี ! ตม

ผูชายทุกคนที่เขาใกลจนสุกหมด ! ” 24

เนื้อเรื่องบรรยายความรูสึกของพิเชฐตอไป ทําใหผูอานเห็นความเสียใจของเขา

และจากภาพทีพ่ิเชฐไดเห็นนี้ทําใหเขาตัดสินใจกลับกรุงเทพฯ ทันที

วันนั้นท้ังวัน พิเชฐนอนจมอยูในที่นอนทั้งเสื้อผา ไมลุกไป

รับประทานอาหาร กลางคืนก็นอนไมหลับ เด๋ียวเศราเด๋ียวเสียดาย ทั้งรัก

ทั้งแคน ฮึดฮัดๆอยูจนเชา ก็ลุกขึ้นแตงตัวใหมไปที่สํานักงานเรือบินเพื่อ

23

เร่ืองเดียวกัน, หนา 16. 24

เร่ืองเดียวกัน, หนา 16 - 17.

Page 39: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

31

จองต๋ัวเรือบินกลับกรุงเทพฯ โดยเร็วที่สุด บังเอิญวามีที่วางในเรือบิน

สวิสแอรท่ีจะบินไปโตเกียวในวันรุงขึ้น พิเชฐก็เลยจองที่นั้น พรอมท้ัง

จัดการเรื่องท่ีจะพานิกกลับไปกรุงเทพฯ ดวย 24

25

ผูอานเมื่ออานแลวก็รูสึกเห็นใจพิเชฐดวยเชนกัน และผูอานก็อาจจะเขาใจ

เชนเดียวกับพิเชฐวามนทิราแตงงานแลว เพราะในเนื้อเรื่องตอนตอมาที่ไดกลาวถึงมนทิรา

เนื้อเรื่องก็ไมไดกลาววาผูชายคนน้ันและเด็กที่อยูในรถเข็นที่พิเชฐไดเห็นมีความสัมพันธ

อยางไรกับมนทิรา เน้ือเรื่องบอกเพียงความรูสึกของมนทิราที่ไดทราบขาวพิเชฐกลับ

เมืองไทยวา

เมื่อมนทิราไปหาพิมในวันตอมา เธอก็ไมไดพบทั้งนิกท้ังเจาของ

ถามก็ไดความวาเจาของมาพาตัวไปแลวเพื่อไปบางกอก เธอรูสึก

ประหลาดใจย่ิงนัก รูสึกผิดหวังปนเสียใจ ในที่สุดก็นอยใจพิเชฐท่ีอยูๆ

ก็ไปเสียโดยไมบอกไมกลาว ถึงแมเขาจะมีธุระดวนจะตองไปโดย

กะทันหันจนไมมีเวลาบอกเธอ อยางนอยถามีน้ําใจสักนิด เวลามารับ

หมาของเขาไปก็นาจะเขียนหนังสือไวสักสองสามตัว ถาไมรูจะติดตอกับ

เธอไดที่ไหน ก็นาจะรูวาเธอจะตองมาที่นี่บอยๆ 26

อีกสองปตอมาพิเชฐไดเขียนจดหมายมาถึงมนทิราที่ประเทศสวิสเซอรแลนด

มนทิราบอกกับตัวเองวา จดหมายของพิเชฐน้ันมีลักษณะ “ เปนจดหมายที่ขมขื่น

ประชดประชันอยางไรพิกล ” นวนิยายไมไดกลาวถึงเนื้อความจดหมายฉบับนี้แตก็พอ

ทราบไดวาพิเชฐคงเขียนจดหมายดวยนํ้าเสียงตัดพอตอวาเธอ แตจดหมายฉบับนี้พิเชฐก็

ไมไดเขียนเลาใหมนทิราฟงวา เขาไดพบเธออยูกับชายหนุมและเด็กที่อยูในรถเข็น เพราะ

ถาพิเชฐเขียนเลาความเรื่องนี้ใหเธอฟงแลว มนทิราก็คงไดเขียนจดหมายบอกกลาวชี้แจง

ความจริงทั้งหมดวาชายหนุมและเด็กท่ีพิเชฐเห็นน้ันมีความสัมพันธอยางไรกับเธอ

และจดหมายของนิกกับพิมก็ไดเริ่มตนขึ้น เพราะมนทิราเห็นวา นิกกับพิมคงมี

เรื่องสนุกๆเลาสูกันฟงอยางแนนอน มนทิราจึงขอใหเขาและเธอเปนสายสัมพันธใหนิกซึ่ง

อยูเมืองไทยและพิมซึ่งอยูที่สวิสเซอรแลนดไดเขียนจดหมายถึงกัน ในนวนิยายได

25

เร่ืองเดียวกัน, หนา 17. 26

เร่ืองเดียวกัน, หนา 17 - 18.

Page 40: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

32

กลาววา

อีกเกือบสองปตอมา มนทิราก็ไดรับจดหมายฉบับหนึ่ง ซึ่งสงไปที่

สถานทูตไทย ณ กรุงเบิรน ทางสถานทูตสงตอมาถึงเธอที่ซูริคตามตําบลที่

เธอแจงไวที่สถานทูต เปนจดหมายมาจากเมืองไทย ลายมือท่ีหนาซองเธอ

ไมรูจัก เขียนวา ‘Khun Mondira’ เฉย ๆ ไมมีนามสกุล เปนจดหมายท่ี

ขมขื่นประชดประชันอยางไรพิกล เธอนึกสนุกจึงเขียนตอบไปวา

เมืองซูริค

หนาหนาว

เรียนคุณพิเชฐทราบ

ดิฉันแปลกใจและยินดีจนบอกไมถูกที่ไดรับจดหมายจากคุณ

อยางนอยก็แสดงวาคุณยังไมไดลืมพิม ถึงแมทั้งคุณและดิฉันตางก็ไมมี

เรื่องอะไรในโลกที่จะพูดกันอีกแลวตามท่ีคุณวา แตนิกกับพิมคงจะตองมี

เรื่องสนุก ๆ เลาสูกันฟงเปนแน ถาหมาของเราท้ังสองมีจดหมายถึงกัน

เราคงจะไดรูเรื่องแปลก ๆ ไมซ้ํากับของใคร เราชวยเปนสายสัมพันธใหหมา

ของเราจะดีไหมคะ?

เพราะฉะนั้น ถามีจดหมายมาจากบานภูเขียวอีก ดิฉันหวังวา

จะเปนจดหมายจากเจาหมาบอกเซอรนิก ถึงเจาตัวดําขนหยิกหยองพิมของ

ดิฉัน

ขอแสดงความนับถือ

มนทิรา 26

27

ในจดหมายของนิกกับพิมท่ีไดเขียนโตตอบกัน พิมไดเลาเรื่องราวของมนทิราหรือ

ที่พิมเรียกวา “ นายผูหญิง ” ใหนิกไดรับทราบ จดหมายของพิมก็จะเขียนในมุมมองของ

หมาที่พิมไดรับรู ซึ่งพิมก็จะไมรูวานายผูชายที่พิมเรียกและเด็กหญิงตัวเล็กๆ ที่อยู

27

เร่ืองเดียวกัน, หนา 18 – 19.

Page 41: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

33

ดวยนั้นมีความสัมพันธอยางไรกับมนทิรา ในตอนท่ีพิมเขียนจดหมายฉบับแรกตอบนิก

พิมเลาใหฟงวา

บัดนี้ฉันจะเลาถึงบานที่ฉันอยูใหแกไดรูอะไร ๆ เก่ียวกับฉันบาง

ในบานที่ฉันอยูเปนตึกสามชั้น (ไมนับใตถุนที่ใชเก็บของ) ชั้นหนึ่ง ๆ เปนโวนุง

4 โวนุง โวนุงหน่ึงอยูไดหนึ่งครอบครัว ฉันอยูโวนุงชั้นกลางทางดานซายสุด

ในโวนุงที่ฉันอยูมีมนุษยต้ังสี่คน คือนายผูหญิง นายผูชาย เด็กหญิงเล็ก ๆ

อายุเทาฉันคือเกือบสองขวบ แตโงพูดอะไรหรือเลนอะไรไมเปนเลย และ

คนใชผูหญิงซึ่งไมไดคางอยูในโวนุงมาแตตอนกลางวัน วันละชั่วโมงบาง

สองชัว่โมงบางวันอาทิตยไมมา

............................................................................

แกเห็นหรือยังนิกวาแกสบายกวาฉันมาก แกมีนายเพียงคนเดียว

ฉันมีต้ังสาม (ไมนับเด็ก) ฉันตองสอนกันแยทีเดียว 28

ความสัมพันธระหวางมนทิราหรือนายผูหญิงของพิมและนายผูชาย ผูอานจะเริ่ม

สงสัยความสัมพันธระหวางบุคคลทั้งสองเมื่อสมรศรีกาวเขามาในครอบครัวของมนทิรา พิม

เลาเรื่องราวในจดหมายวานายผูชายตอนรับสมรศรีเปนอยางดี และผูอานก็จะสงสัยวา

เพราะเหตุใดสมรศรีไมชอบมนทิรา แตกลับชอบยายหนู ซึ่งถาหากยายหนูเปนลูกสาว

ของมนทิรา สมรศรีก็นาจะไมชอบยายหนูดวยเชนกัน

เนื้อเรื่องกลาววา พิมดมกลิ่นของสมรศรีก็รูวาผูมาเยือนคนน้ีไมชอบนายผูหญิง

ถึงกับเกลียดและอิจฉามนทิราทีเดียว

“คุณใหญใหเชิญคุณไปพบที่โรงพยาบาลแนะคะ เวลาเท่ียงให

ดิฉันพาคุณไปพบ แลวคุณใหญจะพาไปรับประทานอาหารกลางวัน

ขางนอก”

“แหม ดีจริง” แมสมรศรีวา “คุณชางใจดีแท ๆ ด๊ันไมรบกวนคุณ

เกินไปหรือคะ”

“ไมเปนไรดอกคะ วันน้ีดิฉันวาง โชคดีท่ีแบรตามามื้อกลางวัน ดิฉัน

จะวานแบรตาปอนยายหนู และใหอยูเปนเพื่อนแกจนกวาดิฉันจะกลับมา

28

เร่ืองเดียวกัน, หนา 29 – 30.

Page 42: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

34

เวลาน้ีดิฉันตองขอลาไปสักครูเพื่อทํากับขาวเตรียมไวใหยายหนู

รับประทานตอนเท่ียง เชิญคุณตามสบายนะคะ”

“ไมตองเปนหวงด๊ันดอกคะ” แมสมรศรีย้ิมอยางออนหวานแตฉัน

ดมกลิ่นก็รูทันทีวาเขาเกลียดและอิจฉานายผูหญิง 28

29

แตความรูสึกของสมรศรีที่มีตอยายหนูกลับแสดงความเปนมิตรอยางนาประหลาดใจ

ดังที่ในเรื่องนิกกับพิมไดกลาววา

“หลับก็จะเปนไรไปคะ ขอด๊ันแอบดูหนอยเถอะ แกอยูหองไหน

ละคะ?”

“อยูหองโนนคะ” นายผูหญิงชี้มือไปทางหองที่ยายหนูนอน แลวก็

หายไปทางครัว แมสมรศรีเดินไปเปดประตูหองยายหนูแลวเขาไปทันที ฉัน

เห็นไมไดการก็ตามเขาไปดู เห็นเขากมลงดูยายหนูตัวอวนกลม ซึ่ง

นอนหลับอุตุอยูบนเตียงสีชมพูของแก แลวเอ้ือมมือลงไปจะจับแกม ฉันจึง

เขาไปใกลแลวขูแฮ ฉันมีหนาที่เฝายายหนูมาแตไหนแตไร ไมยอมให

มนุษยแปลกหนาที่มีกลิ่นเปนศัตรูจับตองยายหนูเปนอันขาด

อันท่ีจริงกลิ่นของเขาเปนมิตรขึ้นเมื่อเขามาในหองยายหนู ครั้น

ฉันขูเขา เขาก็สะดุง หดมือ ยืดตัวขึ้นมองดูฉันอยางดุแลวก็ยองออกจาก

หองยายหนูกลับไปหองรับแขกตามเดิม 29

30

นอกจากนี้แลวสมรศรียังแสดงความไมเกรงใจมนทิรา เมื่อมาบานของมนทิราก็

หยิบดูสิ่งของตางๆ อยางไมเกรงใจ และเมื่อไมพอใจของสิ่งใดก็แบะปากแสดงความไม

ถูกใจ ซึ่งเปนมารยาทท่ีไมงาม แลวยังจะเดินเขาไปในหองนอนซึ่งเปนสถานที่สวนตัวของ

นายผูชายอันเปนสิ่งที่ไมสมควรทําอีกดวย เมื่อพิมเขาไปขัดขวาง สมรศรีก็ถึงกับ

เตะพิมดวยความไมพอใจ

ฉันจึงตามกลับไปนอนสังเกตการณอยูใตโตะท่ีเขาไมทันเห็นฉัน

เขาเดินดูทั่วหอง หยิบโนนหยิบนี่ขึ้นมาดูทําทาพอใจบาง ทําปากแบะ

29

เร่ืองเดียวกัน, หนา 121. 30

เร่ืองเดียวกัน, หนา 121 – 122.

Page 43: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

35

อยางไมพอใจบาง ลองนั่งที่เกาอ้ีตัวโนนตัวน้ี ครั้นแลวก็เดินตรงไปที่

หองนอนของนายผูชายซึ่งเปดแงมอยู แลวต้ังทาจะเขาไป ฉันจึงแร

ออกจากใตโตะมากันทาไวทันที แมสมรศรีชะงักกัดฟนดาฉันในลําคอวา

“แหม ไอหมาระยํา!” แลวยกเทาขึ้นเตะฉันโดนซี่โครงดังปาบใหญ

รวดเร็วฉันไมทันรูตัว ซ้ํานึกไมถึง จึงหลบไมทัน ต้ังแตเกิดมาฉันไมเคย

โดนรองเทาสนสูงเตะ ก็ทั้งเจ็บทั้งโกรธ จึงรองแฮพลางกระโดดเขาจะกัด

แมสมรศรีก็ควากระเปาของเขาจะฟาดหัวฉัน ฉันรีบกระโดดถอยหลังหนี

พลางแฮเขาใสอีก กําลังคิดจะว่ิงรอบตัวเขา ตามแบบที่แกสอนวิธีจับแมว

ที่อยูบนตนไม เขาจะไดเวียนหัวก็พอดีนายผูหญิงไดยินฉันขูดังผิดสังเกต

จึงรีบเปดประตูกลับเขามาในหองพลางรองหาม 30

31

พิมเลาในจดหมายใหนิกฟงวา ในตอนแรกมนทิราไมรูวาสมรศรีเปนคนไมดี คิด

อิจฉานายผูหญิงของพิม แตพิมรูเพราะพิมดมกลิ่นก็รูวาสมรศรีคิดอยางไรกับมนทิรา

ทําใหพิมรูสึกสงสารนายผูหญิงของตน และพิมยังเลาถึงผูหญิงอีกคนหนึ่งที่ชื่อวา “ ยุพดี ”

ซึ่งพิมก็คาดคะเนวายุพดีคนน้ีก็คงเปนคนท่ีไมดีเชนกัน เพราะถาสมรศรีเปนคนไมดีแลว

ยุพดีก็คงเปนคนที่ไมดีดวยอยางแนนอน การเปดตัวของตัวละครอีกหนึ่งคนคือ ยุพดี

ทําใหผูอานสงสัยวา ยุพดีเปนใครและมีความสัมพันธอยางไรกับนายผูชายและมนทิรา

ในเรื่องไดกลาวถึงความรูสึกของพิมที่มีตอสมรศรีและยุพดีดังตอไปน้ี

ฉันรูสึกเศราเหลือเกินที่นายผูหญิงของฉันไมรูวาใครเปนเพื่อน

ใครเปนศัตรูของเขา ยายสมรศรีเพื่อนของยุพดีน่ีแหละเปนศัตรูตัวรายละ

ฉันไดกลิ่นท้ังเกลียดทั้งอิจฉาออกมาจากตัวเขาตลอดเวลา ทั้ง ๆ ที่ฉันไมรู

วายุพดีเปนตัวอะไร แตฉันก็พลอยเกลียดไปดวย เพราะถายุพดีดีแลว

จะมีเพื่อนเปนยายสมรศรีไมได 31

32

นอกจากนี้แลวผูอานก็อาจสงสัยวาเพราะเหตุใด มนทิราจึงยอมใหสมรศรี

มาพบกับนายผูชายของพิม ซึ่งถานายผูชายเปนสามีของมนทิราจริง มนทิราก็ไมนาจะ

31

เร่ืองเดียวกัน, หนา 122 – 123. 32

เร่ืองเดียวกัน, หนา 124.

Page 44: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

36

ยอมใหสมรศรีไดพบกับนายผูชายของพิม และนอกจากน้ีแลวมนทิรายังตอนรับสมรศรี

ที่มาเย่ียมที่บานเปนอยางดี และพิมยังแสดงความโกรธแทนเพราะนายผูหญิงพา

“ ยายรายกาจ ” ตามที่พิมเรียกไปซื้อของและมนทิราก็ตองเปนคนหอบของพะรุงพะรัง

ซึ่งพิมหรือกระท่ังผูอานก็ไมเขาใจวา เพราะเหตุใดนายผูหญิงของพิมจึงตองยอมคนท่ี

รายกาจอยางสมรศรี

ขณะท่ีฉันนั่งคอตกหูตกอยูที่กอกุหลาบ (โชคดีที่ยังไมออกดอก)

เศราใจในความซื่อไมรูเทาทันคนของนายผูหญิงและเจ็บท่ีซี่โครงท่ีถูก

ยายสมรศรีเตะ ฉันก็เห็นนายผูหญิงแตงตัวสะสวยเดินเคียงไปกับ

ยายสมรศรี คงจะพากันไปจับรถทรอลลี่ตรงหัวถนนเขาไปในเมือง เพื่อ

ไปพบนายผูชายที่โรงพยาบาลตามท่ีนัดกันไวทางโทรศัพทเมื่อก้ีนี่ละกระมัง

ทั้ง ๆ ที่นายผูหญิงของฉันโงถึงปานน้ีแตฉันก็ยังรักเขา อันที่จริง

บางทีเขาก็ฉลาดไมแพหมา ๆ ดวยกัน แตบางเวลาสตึเต็มทน เชนเวลานี้!

ต้ังแตวันนั้นเขาก็ยังยอมใหยายสมรศรีมาหาเขาเสมอ ๆ ที่โวนุง บางเวลา

เขาก็พายายรายกาจน่ันไปซื้อของ และใครเปนผูถือของหอบพะรุงพะรัง

กลับมา? นายผูหญิงของฉันนะซิ! 32

33

เมื่อพิเชฐไดอานจดหมายของพิมและไดทราบเรื่องราวที่สมรศรีทําใหมนทิราตอง

เดือดรอน พิเชฐก็ไมสบายใจ ซึ่งแสดงใหเห็นวาพิเชฐน้ันยังคงรักและหวงใยมนทิรา

อยางไมเปลี่ยนแปลง ดังที่นิกเขียนจดหมายเลาใหพิมฟงวา

.......................โดยเฉพาะท่ีแกเลาถึงผูหญิงท่ีชื่อแมสมรศรี ที่เขามาวุนวาย

ในบาน เขาทําหนาเศรา หยุดอาน นั่งตะลึงอยูเปนครูใหญ ฉันดมกลิ่นรูวา

เขาไมสบายใจเลย ฉันสงสารเขาจึงเขาไปนั่งใกล เอาหัววางลงบนตัก

ของเขาอยูเปนนาน เขาจึงรูสึกตัวยกมือขึ้นลูบหัวฉันเบา ๆ แลวพูดวา “นิก

นิกจะทําอยางไรดี? สงสารคุณมนทิราเหลือเกิน ถาชวยไดฉันจะลางาน

ขึ้นเรือบินไปหาเขาพรุงนี้แหละ” 33

34

33

เร่ืองเดียวกัน, หนา 124. 34

เร่ืองเดียวกัน, หนา 129.

Page 45: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

37

หลังจากที่สมรศรีกาวเขามาในครอบครัวของนายผูหญิงของพิม นายผูชาย

ของพิมก็เปลี่ยนไป จากครอบครัวที่อยูอยางสงบสุขก็กลับเปลี่ยนแปลง นายผูชาย

ไมมีเวลาใหกับนายผูหญิงและยายหนูอยางเดิมเพราะตองคอยดูแลสมรศรี และบางครั้ง

นายผูชายก็ยังอารมณเสียหงุดหงิดงายทําใหมนทิราตองเสียใจ

เสียงสั่นทุกที “สวนพิมที่คุณใหญเรียกวาอายหมาเวร เปนเพื่อน

อยางเดียวของมนที่มีอยูในเวลานี้ มันกินของเหลือ ๆ วันละมื้อเดียวไมได

หมดเปลืองอะไรหนักหนา ตัวมันเล็กแคนี้เอง และหมาชนิดนี้อวนแลว

ไมสวย ตองเลี้ยงใหผอมหนอยถึงจะถูกลักษณะพูเด้ิลที่ดี โธคุณใหญคะ

เด๋ียวนี้คุณใหญเปนอะไรไปก็ไมรู เปลี่ยนแปลงไปมาก มนไมรูจะทําอยางไร

ใหดีไปกวานี้แลว...” แลวนายผูหญิงยกมือทั้งสองขึ้นปดหนา ลุกขึ้น

เขาหองยายหนูไป

ยายหนูทําตาโตมองตามแลวก็ทําหนาเบพยายามปนออกจาก

เกาอ้ีสูงเพื่อจะตามไปหานายผูหญิงในหอง ฉันมองดูรูสึกเสียวไสกลัวเกาอ้ี

จะลมลง แตนายผูชายเขาก็ไมเห็นเดือดรอนกลัวลูกเขาจะเจ็บ ทันใด

นั้นเองเกาอ้ีสูงเอียงวูบลมลงพรอมกับยายหนูเสียงดังโครมสนั่น โชคดีท่ี

ยายหนูไมเจ็บเพียงแตตกใจ ก็รองไหจาใหญ ทันใดนั้นประตูก็เปดออก

นายผูหญิงน้ําตายังเต็มหนาก็ออกมาอุมยายหนูเขาไปในหองกอนท่ี

นายผูชายซึ่งน่ังอยูตรงนั้นเองจะทันชวยเหลือแตะตองลูกของเขา

นายผูชายมองดูประตูหองที่ฉันนั่งอยูอยางครุนคิด ทันใดน้ัน เขาก็

ผลนุผลันลุกขึ้น ควาผาเช็ดปากปาลงไปกลางหองเต็มแรง แลวก็เดินหาย

เขาไปในหองนอน สักครูใหญ ๆ ก็ออกมาพรอมดวยสมุดเล็ก ๆ ยาว ๆ เลมหนึ่ง

เขานั่งลงเขียนที่สมุดเล็ก ๆ นั้นสักครูก็ฉีกกระดาษแผนหน่ึงจากสมุดเอาวาง

บนโตะ หยิบถวยกาแฟมาทับไวแลวควาหมวกและเสื้อฝนท่ีขอขางประตู

เดินคอตก สีหนาไมสูดีออกประตูไป เขาคงจะไปทํางานกระมัง 34

35

สมรศรีเปนสาเหตุที่ทําใหนายผูชายและนายผูหญิงของพิมทะเลาะกันอยางหนัก

นายผูหญิงของพิมทอใจและพูดกับพิมวา ตอไปเธออาจจะตองไปจากนายผูชายของพิม

35

เร่ืองเดียวกัน, หนา 170 – 171.

Page 46: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

38

เพราะเขาไมตองการเธอแลว แตผูแตงก็ยังไมไดเฉลยวา มนทิรามีความสัมพันธอยางไร

กับนายผูชายของพิม ในนวนิยายกลาวถึงมนทิราท่ีไมสบายใจดังนี้

คํ่าวันน้ันนายผูชายไมกลับบาน คงจะไปเท่ียวกับยายสมรศรี

ศัตรูของฉันตามเคย เมื่อยายหนูเขานอนแลวนายผูหญิงก็ควาหนังสือหนา

เลมหน่ึงไปนั่งท่ีเกาอ้ียาวใตโคมไฟ ฉันรีบกระโดดขึ้นไปบนเกาอ้ีดวย

หมอบลงพลางเอาหัวซบตักนายผูหญิงอยางประจบ เขาก็ยกมือขึ้นลูบหัว

ฉันไปมาอยางใจลอย แลวบอกแกฉันวา “ พิม พิม ฉันเบ่ือโลกเหลือทน

อีกหนอยเราอาจจะตองไปจากที่นี่ คุณใหญคงไมตองการฉันแลว……” 35

36

ตอมานายผูชายของพิมก็มียุพดีเขามาเก่ียวของอีกคนหนึ่ง ต้ังแตตอนที่

นายผูชายจะไปรับยุพดี เขาก็ดูต่ืนเตนที่จะไดพบยุพดีและแสดงความกระตือรือรนที่จะ

ไปรับยุพดี แมแตพิมยังเขียนเลาในจดหมายวา พิมก็ยังสงสัยวาทําไมนายผูชายจึงตอง

หนาแดงดวย ซึ่งแสดงใหเห็นวายุพดีนาจะตองเปนคนพิเศษสําหรับนายผูชายของพิม

ดังที่พิมเลาวา

“ เหตุใดนายผูชายจึงหนาแดงทําทาพิกลเมื่อไดรับโทรเลขจากยายสมรศรี

วา ยุพดีจะมาถึงเจนีวาพรุงน้ีบาย 4 โมง? ”

ซึ่งความในตอนนี้ก็ทําใหผูอานสงสัยมากย่ิงขึ้นวา ยุพดีเปนใครและมี

ความสําคัญอยางไรตอนายผูชาย และที่นายผูชายหนาแดงเมื่อไดทราบวาเขาจะได

พบกับเธอ ก็ย่ิงแสดงใหเห็นวา ยุพดีคนนี้นาจะเปนคนที่นายผูชายรัก และผูอานก็จะ

รูสึกแปลกใจวาเพราะเหตุใดมนทิราจึงไมแสดงอาการหึงหวงนายผูชายของพิม แมแต

พิมก็ยังตองการทราบวายุพดีคนนี้เปนใคร

“คุณมนคงไมวาที่จะตองอยูตามลําพังกับยายหนูสักพักหนึ่ง“

“ไมเปนไรดอกคะ” นายผูหญิงตอบ “มนเคยชินแลว”

“เรื่องเงินทองไมตองเปนหวง จะใหไวใหพอใชทีเดียว นึก ๆ ดูก็อยากจับ

รถไฟไปเจนีวาเสียต้ังแตวันนี้ จะไดมีเวลาไปสนามบินพรุงนี้ไมกระหืดกระหอบ

36

เร่ืองเดียวกัน, หนา 171 – 172.

Page 47: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

39

ถามัวเถลไถลอยูเด๋ียวยุพดีมาถึงไมมีใครคอยรับละแยทีเดียว พูดฝรั่งเศส

เยอรมัน อะไรไมไดสักคํา ภาษาอังกฤษก็ยังออนเต็มท่ี” ประโยคสุดทายเขา

พูดเบา ๆ คลายปรารภกับตัวเอง

“เรือบินมาถึงต้ังบาย 4 โมง ไมใชหรือคะ รถไฟจากซูริคเจนีวากินเวลาเพียง

2 ชั่วโมง 45 นาทีเทาน้ันนี่คะ”

“ถูกแลว แตคนเรามันใจรอน อยากจะไปเจนีวาเสียต้ังแตวันนี้แหละ คุณมน

ไมวาไมใชหรือ?”

นายผูหญิงทําหนาเฉยบอกวาไมวา นายผูชายจองดูนายผูหญิงอยางสงสัย

สวนฉันนะไมเขาใจเลยวา เรื่องราวมันไปยังไงมายังไงกัน “ยุพดี” คือใคร

มาจากไหน เหตุใดนายผูชายจึงหนาแดงทําทาพิกลเมื่อไดรับโทรเลขจาก

ยายสมรศรีวา ยุพดีจะมาถึงเจนีวาพรุงนี้บาย 4 โมง? ฉันหวังวาคงจะรูเรื่อง

และอธิบายใหแกฟงไดตลอดในจดหมายฉบับหนา 36

37

แมแตนิกก็ยังตองการทราบวา ยุพดีเปนใคร เก่ียวของกับนายผูชายของพิม

อยางไรดังท่ีนิกเขียนจดหมายถึงพิมวา

พิมเพื่อนรัก

จดหมายของแกทําใหฉันงงไปหมด เรื่องเก่ียวกับนายผูชาย

นายผูหญิง และ “ยุพดี” อะไรนั่น ใครคือยุพดี? เก่ียวของอะไรกับ

นายผูชายของแก หวังวาแกคงอธิบายใหฉันฟงโดยแจมแจงในจดหมาย

ฉบับหนานะพิม 37

38

ตอมายุพดีไดเขามาอยูในบานของนายผูชายและนายผูหญิงของพิม ยุพดีก็ได

ออกคําสั่งใหมนทิราทําสิ่งตางๆ และยังบังคับไมใหมนทิรานําพิมเขามานอนในบานดวย

ทําใหผูอานสงสัยมากย่ิงขึ้นวา ยุพดีเปนใคร และเพราะเหตุใดมนทิรา นายผูหญิงของพิม

จึงตองยอมทําตามคําสั่งของยุพดี และยอมทําตามคําสั่งของยุพดีแมกระทั่งไมใหนําพิม

เขามานอนในบานดวย ซึ่งมนทิรารักพิมมากและสงสารพิมที่ตองนอนขางนอกบาน

ทามกลางอากาศท่ีหนาวจัด การท่ีมนทิรายอมใหยุพดีออกคําสั่งและบังคับจิตใจเชนน้ี

37

เร่ืองเดียวกัน, 190 – 191. 38

เร่ืองเดียวกัน, 192.

Page 48: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

40

ถาหากวามนทิราเปนภรรยาของนายผูชายของพิม มนทิราก็ไมนาจะยอมเชนนี้

เหตุการณท่ีเกิดขึ้นนี้ก็ย่ิงทําใหผูอานสงสัยความสัมพันธของนายผูชาย มนทิรา และยุพดี

มากย่ิงขึ้น ดังที่ในเนื้อเรื่องไดกลาวถึงตอนที่ยุพดีออกคําสั่งใชอํานาจกับมนทิราดังนี้

“ออ! ดีแลว” ยุพดีพยักหนานอย ๆ “ใหแกรีบรับประทานหนอย

นะคะ พอพี่แตงตัวเสร็จก็จะพาแกไปเดินเลนในสวนได คุณมนอยูทางนี้

เตรียมทําของเชานะคะ เด๋ียวคุณใหญจะไปทํางานไมทันถามัวชักชา”

นายผูหญิงไมไดตอบ ฉันไมเขาใจวายุพดีออกคําสั่งอะไรตาง ๆ

ทําไม ก็เมื่อกอนเขามา นายผูหญิงก็ไดทําหนาที่น้ีมากวา 2 ป เกือบเทาอายุ

ยายหนูและฉัน นายผูชายไมเคยเห็นไปทํางานสายเพราะนายผูหญิง

ทําอาหารเชาใหไมทันสักครั้งเดียว ถานายผูชายเคยไปทํางานไมทัน ก็

เพราะเขามัวเถลไถลอยูกับยายสมรศรีเพื่อนของยุพดีที่สงมาเจรจากับ

นายผูชายกอนที่จะดีกับนายผูชายนะซิ

กอนออกจากหอง ยุพดีพูดวา “ออ! อีกอยางหนึ่งคะคุณมน

หมานะอยาใหไปนอนในหองนํ้าซีคะ สกปรกแยเลย เอาไวในครัวก็ไมได

นะคะ ครัวเปนท่ีทําอาหาร ตองสะอาด หองรับแขกก็เอาไปไวไมได เพราะ

คนตองใช ท่ีอยูของหมาคือที่เฉลียงขางครัวแหงเดียวนะคะ คุณมนเขาใจ

ไมใชหรือ? เอา! เตรียมยายหนูไวใหเรียบรอยนะคะ เด๋ียวพี่จะพาแกไป

เดินเลน”

เมื่อยุพดีออกจากหองไปแลว ฉันก็เขามาในหอง นายผูหญิง

เห็นฉันเขาก็วางมือจากยายหนู กมลงมากอดฉัน ฉันเห็นนํ้าตาของเขาหยด

ลงมาตองหนาฉัน 38

39

ในตอนกลางคืนที่อากาศหนาวจัด มนทิราก็ตองยอมทําตามคําสั่งของยุพดีแมวา

จะสงสารพิมมากเพียงใดก็ตาม คือตองนําพิมออกมานอนอยูนอกบานที่อากาศหนาวจัด

แลวตองรอจนดึกท่ีทุกคนหลับหมดแลวจึงนําพิมเขาบานไปนอนดวยกัน พอถึงเวลาเชา

กอนท่ีทุกคนในบานจะต่ืนมนทิราก็ตองนําพิมมาไวท่ีนอกบานเชนเดิมเพื่อไมใหยุพดีรูวา

มนทิราฝาคืนคําสั่ง

39

เร่ืองเดียวกัน, 264 – 265.

Page 49: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

41

เมื่อคืนนี้ตอนดึก ขณะที่ฉันขดอยูในตะกราที่เฉลียงนอนไมหลับ

ตัวสั่นเพราะความหนาว นับชั่วโมงวาเมื่อไหรจะเชา นายผูหญิงสวมเสื้อคลุม

ตัวหนาก็ออกมาหาฉันท่ีเฉลียงกมลงจับตัวฉัน ฉันเลยย่ิงแกลงทําหนาว

สั่นใหญงั้ก ๆ เลยทีเดียว แถมครางอ๋ิง ๆ อีกดวย นายผูหญิงก็อุมฉันขึ้นจาก

ตะกรามากอดไวกับอก น้ําตาอุน ๆ ไหลลงมาตองหนาฉัน ครั้นแลวก็อุม

ฉันเขาไปในหองนอน ตกลงเปนอันวาฉันไดขึ้นไปนอนบนเตียงกับนายผูหญิง

แตอยูทางปลายเทา หมผาขนสัตวผืนเดียวกันหลับสบายตลอดคืน ดีกวา

เมื่อกอนถูกยุพดีเนรเทศใหไปอยูเฉลียงดวยซ้ําไป แตพอเชา ทั้ง ๆ ที่ยัง

สบายอยูนายผูหญิงก็รีบลุกขึ้นจากเตียงพาฉันออกไปท้ิงไวท่ีเฉลียง

อยางเกา 39

40

เวลาที่ยุพดีโกรธยายหนูก็จะพูดกระทบมนทิราทําใหเธอตองเสียใจ แตมนทิราก็

ไมไดโตตอบ ไดแตรองไหดวยความเสียใจ สวนนายผูชายของพิมก็ไมสามารถ

หามปรามยุพดีไมใหกาวราวมนทิราได แมแตพิมก็ยังแสดงความคิดเห็นวา นายผูชาย

หลงยุพดีจนเชื่อฟงไปหมดทุกอยาง

บางเวลายุพดีโมโหยายหนูจนหนาแดงตาเขียวแตไมรูจะทําอยางไร

กับเด็ก ก็เลยพาลเละพาลเทะไปถึงนายผูหญิง พูดประชดประชันหรือไมก็

พูดเปรยดวยถอยคําที่รุนแรงทําใหนายผูหญิงเจ็บใจบอย ๆ แตนายผูหญิงก็

มิไดโตตอบ ไดแตหนีเขาหองไปรองไหนั่งซึมอยูกับที่ หรือไมก็เขียน

จดหมาย บางทีก็น่ังอยูนาน ๆ บางทีก็รองไหพลางเขียนจดหมายพลาง

นายผูชายไมเคยมีปากเสียงอะไรเลย บางเวลาถายุพดีกาวราวนายผูหญิง

มากเกินควรไป เขาก็ทําหนาเศรารีบหนีเขาหอง ฉันรูสึกวาเขากลัวและ

เกรงใจยุพดีมาก “กลัว” และ “เกรงใจ” ดูเหมือนจะเปนคําท่ีออนไปดวยซ้ํา

ฉันวาหลงใหลเชื่อฟงยุพดีไปหมดทุกอยาง รูสึกวาจะเปนคําที่เหมาะกวา

40

41

40

เรื่องเดียวกัน, 266.

41 เร่ืองเดียวกัน, 267.

Page 50: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

42

และทายที่สุดในตอนทายเรื่อง ผูแตงก็ไดเฉลยวายุพดีเปนใคร โดยใหพิมเขียน

จดหมายเลาใหนิกฟงวา แทจริงแลวยุพดีเปนภรรยาของนายผูชายและเปนแมของยายหนู

ยุพดีมีศักด์ิเปนพี่สะใภของมนทิรานั่นเอง

อาว! ฉันยังไมไดบอกแกใชไหมวายุพดีเปนใคร ยุพดีก็คือเมีย

นายผูชายและแมของยายหนูนะซี เขาหายไปอยูไหนมาต้ังนาน จนลูก

ของเขาเองก็ไมรูจักเขา บัดน้ีเขากลับมาทําความรูจักคุนเคยกับลูกของเขา

และกวนกะละแมในบานของเรามาได 2 อาทิตยแลว

นายผูหญิงบอกแกฉันวา อีกหนอยเขาก็จะพาฉันไปจากบานบน

ภูเขาซูริชแบรกอันสุขสบาย ซึ่งฉันอยูมาต้ังแตจําความได เพราะเด๋ียวนี้

บานนั้นไมใหความสุขแกเขาและฉันอีกแลว แตจะไปไหน เมื่อไหร

นายผูหญิงยังไมรู รูแตวาจะตองไปในเร็ว ๆ นี้แหละ

ใหหมัดกัดซินิก ฉันกลุมใจเหลือเกิน! หวังวาแกคงไมมีเรื่อง

หนักใจอยางฉันบางนะ

จากเพื่อนผูแสนกลุมของแก

พิม 41

42

เมื่อพิมเขียนจดหมายเลาใหนิกฟงวา มนทิราเปนนองสาวของนายผูชายของพิม

นั่นเอง ทําใหพิเชฐดีใจมาก และเลิกเขียนจดหมายในลักษณะที่นิกเขียนถึงพิม กลับมา

เขียนจดหมายในนามของตัวเขา พิเชฐไดถามคําถามมนทิราหลายขอผานทางจดหมาย

และขอรองใหเธอตอบ และคําถามที่พิเชฐถามมนทิรานั้นก็มีคําถามที่คางคาใจพิเชฐ

มานานน่ันก็คือ มนทิราเปนใคร และเพราะเหตุใดจึงมาอยูกับคุณหมอใหญสองตอสองถึง

เมืองซูริค ซึ่งมนทิราก็ไดเขียนตอบคําถามเขาทางจดหมาย ดังนี้

อันตัวดิฉันนั้น ถามองเผิน ๆ ก็นาจะเปนอยางที่คุณคิด ดิฉันเห็นใจ

คุณท่ีเขาใจผิด ดิฉันไมถือโทษดอกคะ ตรงกันขาม ดิฉันจะขอตอบ

คําถามของคุณตามตรงดังตอไปนี้ :-

ขอ 1. และ 3. ดิฉันคือใคร เหตุผลกลใดจึงไปอยูกับ “คุณหมอ

ใหญ” สองตอสองถึงเมืองซูริค?

42

เร่ืองเดียวกัน, 267 – 268.

Page 51: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

43

ดิฉันเปนนองสาวคนที่ 2 ของคุณใหญนะซีคะ เหตุที่ดิฉันไดไป

เมืองนอกเมืองนาก็คือวา พอดิฉันเรียนวิชาพยาบาลที่กรุงเทพฯ ไดไมนาน

คุณหญิงนวลกฤษฎาฤทธิ์ ซึ่งรูจักกับครอบครัวของเราดี ก็จะพาลูกสาว

คนสุดทองของทานชื่อคุณชื่นจิตตซึ่งเปน ที.บี ไปรักษาตัวที่เมืองสวิส

คุณหญิงทานรูจักดิฉันมาต้ังแตเด็กชอบนิสัยใจคอของดิฉัน ก็เลยชวนดิฉัน

ไปเปนเพื่อนทานและลูกสาว โดยออกคาเรือบิน คาเสื้อผา คากินอยูใหแก

ดิฉันและยังแถมเงินเดือนใหอีก เดือนละ 350 แฟรงกสวิส ดิฉันอยากไป

เที่ยวเปดหูเปดตาอยูแลว เห็นเปนโอกาสดีเลยลาออกจากงานทาง

กรุงเทพฯ เดินทางมายุโรปกับทาน เราเชาแฟลตเล็กๆอยูที่ดาโวสไดปกับ

เจ็ดเดือน หมอก็บอกกับทานวาคุณชื่นจิตตหายเปนปกติแลว คุณหญิง

ดีใจ กะจะพาลูกสาวเที่ยวประเทศตางๆ 2 เดือนจึงจะพากลับกรุงเทพฯ

ทานชวนดิฉันไปดวย แตดิฉันยังไมอยากกลับกรุงเทพฯ แตจะไปเที่ยวอยาง

ทานบางก็ไมอยากเสียสตางค ดวยดิฉันคิดจะเอาเงินหลายพันแฟรงก

ที่เก็บหอมรอบริบไวไดระหวางท่ีอยูกับคุณหญิงไปเปนทุนสวนตัวสําหรับ

เรียนตอท่ีอังกฤษสักพักหน่ึง และจะพยายามด้ินรนหาทุนอ่ืนเรียนตอสัก

ปหนึ่ง ก็พอดีพี่ชายใหญของดิฉันซึ่งไดทุนรัฐบาลสวิสมาฝกงานอยูที่

โรงพยาบาลในเมืองซูริค เกิดขัดใจกับภริยาซึ่งเปนผูหญิงสมัยใหมเอาแตใจ

ตัว คิดวาการมาเที่ยวเมืองนอกนะหรูหรา หานึกไมวาการมาอยูเปน

ภริยานักเรียนเชนนี้จะทําหรูหราเที่ยวเตรสนุกสนานตามใจชอบหาไดไม ครั้น

ยุพดีมีลูกยังตองเลี้ยงลูกเอง ตองซักผาออม ทํากับขาว ลางชาม รีดผา

กวาดและทําความสะอาดบานสารพัด วันๆ แทบไมมีเวลาเปนของตัวเอง

เลย ยุพดีเปนลูกคนมีเงินชอบแตความสนุก ความสบายก็เบ่ือเต็มทน

หาเรื่องทะเลาะเลนตัวงอนกับคุณใหญตางๆนานา เพราะรูวาคุณใหญ

จะตองงอดวยกําลังรักและหลง ครั้งหนึ่งทะเลาะกันตามเคย เขาโกรธขึ้นมา

ก็ไปซื้อต๋ัวเรือบินจะไปอยูท่ีอ่ืน ครั้นคุณหมอใหญไมงอเขาก็เลยทิ้งคุณใหญ

และลูกซึ่งอายุเพียง 3 เดือนขึ้นเรือบินไปอยูกับพี่สาวของเขาซึ่งเปนภริยาทูต

ทหาร ( ทหารเรือหรือทหารอากาศ อะไรดิฉันก็ไมทราบแน ) อยูที่ลอนดอน

คุณใหญท้ังรักท้ังแคน ต้ังใจวาจะไมงอเมีย แตไมรูจะทําอยางไรกับลูก จึง

โทรศัพทไปถึงดิฉันที่เมืองดาโวส ขอใหดิฉันมาอยูชวยเขาเลี้ยงยายหนู

จนกวายุพดีจะกลับมา ดิฉันสงสารเห็นใจพี่ ก็เลยตองเปลี่ยนโปรแกรม

แทนที่จะไปอังกฤษอยางที่คิดไว ดิฉันก็เลยแยกทางกับคุณหญิงนวลและ

Page 52: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

44

ลูกสาวจับรถไฟมาซูริค เมื่อดิฉันพบคุณครั้งน้ัน ดิฉันเพิ่งยายมาอยูซูริค

ทําหนาที่เปนพี่เลี้ยงหลานไดราว 2 อาทิตยเทานั้น ตอนนั้นเราเชาหองอยูที่

โฮเต็ลถูกๆ แหงหนึ่ง ดิฉันอยูกับหลานในหอง คุณใหญนอนที่หองน่ังเลน

เพราะพอเมียไปคุณใหญก็คืนโวนุงเดิม พาลูกยายมาอยูกินเสร็จที่โฮเต็ลเล็ก

แหงนั้น เพราะเวลาคุณใหญไปทํางาน จะไดพอฝากยายหนูไวกับเจาของ

โฮเต็ลไดบางจนกวาดิฉันจะมา ดิฉันมาอยูไดไมนาน คือพอคุณหนีกลับ

กรุงเทพฯ ไดไมเทาไหร เราก็ยายมาอยูท่ีโวนุงบนเขาซูริชแบรกน้ี

ดิฉันทราบดีวาคุณนึกวายายหนูเปนลูกดิฉัน แตเมื่อคุณคิดไปเอง

เชนนั้น ไมเคยถามความจริงจากดิฉันเลย เรื่องอะไรดิฉันจะตองบอกคุณ

ปลอยใหคุณเขาใจผิดนะซิ เพราะความจริงยอมจะหนีความจริงไมพน

ดิฉันเชื่อแนวาวันใดวันหนึ่งคุณจะไดทราบความจริง และถาคุณทราบต้ังแต

ตนแลว คุณก็คงจะไมโกรธและผิดหวังในตัวดิฉัน จดหมายจากนิกถึงพิม -

พิมถึงนิกก็คงจะไมบังเกิดขึ้นจนยืดยาวครึกครื้นเชนนี้เปนแน นี่แสดงวา

ความเขาใจผิดของคุณไมไรประโยชน จริงไหมคะ? 43

มนทิราไดเลาสาเหตุที่เธอซื้อพิมวา เพราะเธอตองซื้อสุนัขใหคุณชื่นจิตต

ลูกสาวของคุณหญิงนวลที่กรุงเทพฯ แตเนื่องจากไมสะดวกท่ีจะสงพิมไปกรุงเทพฯ

มนทิราจึงตองเลี้ยงพิมไวเอง ดังที่เธอเขียนเลาในจดหมายใหพิเชฐฟงวา

เรื่องพิมก็เหมือนกัน อันที่จริงดิฉันซื้อมันใหคุณชื่นจิตตลูกสาว

คุณหญิงนวล เพื่อสงไปใหเขาที่กรุงเทพฯ ดอกคะ ลําพังตัวดิฉันเองคง

ไมมีวันท่ีจะเลี้ยงหมาดี ๆ แพง ๆ อยางนี้เปนอันขาดในชีวิต แตครั้นซื้อ

มาแลวสงไปไมสะดวกครั้งแรกก็เลยเลิกคิดสงเพราะรักมัน เลยกําแหง

เลี้ยงมันไวเองจนทุกวันนี้ ถาดิฉันสงมันไปต้ังแตครั้งนั้นก็คงจะไมมาน่ัง

ลําบากใจ รักมัน แตจําตองทิ้งมันเพราะความจําเปนบังคับอยางครั้งนี้

เปนแน

เวลาน้ีดิฉันยังไมกําหนดวาจะขามไปลอนดอนเมื่อไรอันที่จริงย่ิงเร็ว

ก็ย่ิงดี เพราะย่ิงเร็วก็จะย่ิงต้ังตนเก็บเงินไดเร็วแตที่ยังทนอยูทุกวันนี้

ก็เพราะยังไมยอมจากพิมมากกวาอ่ืน

43

เรื่องเดียวกัน, หนา 271 – 274.

Page 53: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

45

ดิฉันขอขอบคุณคุณพิเชฐเปนที่สุด ที่เปนเพื่อนที่ดีของดิฉันเสมอมา

จดหมายจากนิกถึงพิม พิมถึงนิก เปนเรื่องสนุกใหความเพลิดเพลิน

แกดิฉันย่ิงกวาสิ่งอ่ืนใด ตลอดเวลาที่ลวงมาน้ี ขอลาคุณเพียงนี้กอน

จดหมายฉบับตอไปคงจะเปนจดหมายจากอังกฤษ เมื่อดิฉันไปอยู

โนนแลว ขอความกรุณาอยาเอยถึงนิกหรือพิมอีกตอไป จะเปนพระคุณ

มาก จบกันทีเรื่องหมา พลาดจากพิมแลวดิฉันเห็นจะไมยอมเลี้ยงหมา

อีกเลยในชีวิต

จากดิฉันผูเคราะหราย

มนทิรา 44

มนทิราไดเลาใหพิเชฐฟงวาเธอตัดสินใจที่จะยกพิมใหกับแฮรเปเตอร

ผูเปนเจาของรานซึ่งมนทิราพาพิมไปตัดขนที่รานบอยๆ เพราะเธอตองไปทํางานที่อังกฤษ

เพื่อทํางานเก็บเงินเปนคาเครื่องบินกลับเมืองไทย แตพิเชฐไดชวยเหลือมนทิราเรื่องนํา

พิมกลับเมืองไทย และเมื่อพิเชฐไดทราบจากคุณสุวัณณี ภรรยาผูจัดการของโรงงานที่

พิเชฐทํางานและเปนบุคคลที่พิเชฐเคารพและนับถือวา ผูที่มนทิราจะไปทํางานดวยคือ

อาสะใภของคุณสุวัณณีชื่อคุณพิศวง ซึ่งคุณพิศวงเปนคนท่ีตระหนี่ถ่ีเหนียวอยางรายกาจ

และเปนคนใจคอโหดราย และลูกๆของคุณพิศวงทั้ง 4 คน ซึ่งคนโตอายุ 15 – 16 ป

ลวนเปนคนมีนิสัยไมดี ทําใหพิเชฐเปนหวงมนทิรามาก พิเชฐไดเขียนจดหมายในนาม

ของนิกเขียนจดหมายถึงพิมอีกครั้งและไดเขียนในตอนทายจดหมายวา

เหตุใดแกจึงไมบอกใหนายผูหญิงของแกกลับมาเมืองไทยพรอมแก

เลา ?

นายของฉันอยูทางน้ีคงจะจัดการเรื่องการเดินทางใหจนเปนท่ี

เรียบรอยทุกอยาง

นายของฉันบอกวา เขารักนายผูหญิงของแกย่ิงกวาชีวิตของเขา

เพราะฉะนั้นเขาจะทําทุกอยางเพื่อนายผูหญิงของแก ขอแตใหบอกมา

เทานั้น

ฉันกระดิกหางดวยความดีใจท่ีจะไดพบแกในเร็วๆ นี้

44

เร่ืองเดียวกัน, หนา 278 -279.

Page 54: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

46

เพื่อนของแก

นิก 44

45

และเมื่อมนทิราไดรับจดหมายจากเดือนฉายซึ่งเคยทํางานอยูกับคุณพิศวง เธอได

เลาถึงความตระหนี่ถ่ีเหนียว นิสัยใจคอที่โหดรายของคุณพิศวง และนิสัยที่รายกาจของ

ลูกคุณพิศวงทั้ง 4 คน สาเหตุสําคัญอีกประการหนึ่งที่ทําใหมนทิราตัดสินใจกลับ

กรุงเทพฯ คือ นิกถูกสุนัขบากัดเพราะปกปองเด็กๆ ไมใหถูกสุนัขบาทําราย พิเชฐกลุมใจ

เปนอยางมากจึงเขียนจดหมายมาเลาใหเธอฟง ทําใหมนทิราตัดสินใจกลับกรุงเทพฯ

พรอมกับพิมทันที และนิกโชคดีที่ปลอดภัยไมไดเปนอะไร ในตอนทายเรื่องไดบรรยาย

ภาพของพิเชฐท่ีดีใจมากเมื่อไดทราบวามนทิราจะกลับมากรุงเทพฯ พรอมพิมดังนี้

นิกจึงเดินตามไปที่หนาประตูใชเทาเขี่ยใหประตูเปดแลวก็ตาม

เขาไปในหอง พบนายนอนหงาย มือทั้งสองกําแนน หลับตาน่ิงไม

กระดุกกระดิกอยูบนเตียง กระดาษแผนที่อานอยูเมื่อก้ีวางอยูบนอก

นิกไมสูจะสบายใจ สงสัยวานายของมันเปนอะไรไป จึงเอาคางเกยบน

เตียงขางหัวนาย แลวแกลงหายใจดังฟูดฟาด นายจึงลืมตาขึ้นดู เห็น

เปนนิกก็ย้ิม นิกก็กระดิกหางตอบ เสยหนาเขาไปใกลหมอนที่นาย

หนุนอยูอีกนิดหนึ่ง นายจึงยกมือขึ้นลูบหัวมันเบา ๆ แลวบอกแกมันวา

“นิก ต้ังแตเกิดมาฉันไมเคยดีใจครั้งใดเทาครั้งน้ีเลยในชีวิต ดีใจ

จนพูดอะไรไมถูก อยากตะโกนใหทุก ๆ คนรูถึงความดีใจของฉัน อยาก

หัวเราะใหกองไปหมดแตเมื่อทําไมได ก็ไดแตนอนตัวลอยเหมือนไมไดอยู

ในโลก!”

สักครูหนึ่งตอมาก็ลุกขึ้นนั่ง “แกไมเขาใจหรือนิก! คุณมนทิรา

จะมาถึงพรอมพิมพรุงนี้เชายังไงละ ทั้ง ๆ ท่ีเธอไมเคยบอกวาเธอรักตอบ

ฉัน แตการกระทําครั้งนี้ของเธอแสดงใหเห็นอยางโจงแจงแลว เธอได

ตัดใจขายแหวนเพชรของคุณยาเธอเปนคาเรือบินมาหาเรา เพราะเธอรูวา

ฉันโศกเศราไมตองการใหเธอไปอังกฤษ แตไมเปนไรนะนิก เรามี

แหวนเพชรของคุณแมจะใหเธอแทน เราจะสวมใหที่นิ้วนางขางซายที่

ยาวเรียวของเธอแทนนิ้วนางขางขวาอยางวงกอน เขาใจหรือยังละนิก

วาเหตุใดฉันจึงดีใจจนตัวลอยอยางนี้?”

45

เร่ืองเดียวกัน, หนา 293.

Page 55: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

47

นิกไมสูจะเขาใจ แตก็อดไมไดที่จะยายกนไปมาและกระดิกหาง

อันสั้นของมันรับไปตามเรื่อง 45

46

ในตอนทายเรื่องนวนิยาย ผูแตงไดทรงบรรยายใหเห็นภาพของพิเชฐ มนทิรา

นิกกับพิมที่สนามบินดอนเมืองที่ท้ังคนและสุนัขมีความสุขท่ีไดพบกันอีกครั้งหนึ่งดังนี้

หมาสีน้ําตาลตัวใหญซึ่งชายหนุมจูงอยูเห็นหมาดําตัวเล็กเขาก็ทํา

หูรี่กระดิกหางสั้นของมันเล็กนอย พลางสงเสียงหาว ๆ เหาดัง “ฮง” 2-3

ครั้ง

ทั้งหญิงสาวผูจูงหมาเล็ก และตัวเจาหมาเล็กสีดําขนหยิกตัวนั้น

ตางชะงักฝเทาพรอมกัน มองมาทางฝูงชนที่ยืนอยูหนาทาอากาศยานก็

เหลือบเห็นชายหนุมเจาของหมาใหญซึ่งยืนเดนโดดเด่ียวอยูบนที่สูง

หญิงสาวจําไดก็ย้ิมและยกมือขึ้นโบก ชายหนุมย้ิมรับพลางยกมือขึ้น

โบกตอบทันที จองดูหญิงสาวที่จูงหมาเดินใกลเขามาทุกที ดวยสายตาที่

แสดงวายินดีจนเห็นไดชัด

ผูท่ีเห็นชายหนุมหญิงสาวคูนี้ตางก็บอกกันวา “ ออ ! เจาของ

หมาใหญเขามารับเจาของหมาเล็กน่ีเองแฮะ นึกวาเขามารับใครที่ไหน ”

ตอจากท่ีเขาพบกันหนาหองตรวจคนเขาเมืองไมนานนัก ก็มีผูเห็น

รถยนต ซึ่งมีเจาของหมาใหญเปนผูขับ เจาของหมาเล็กนั่งไปขาง ตัว

หมาใหญและหมาเล็กนั่งอยูบนเบาะขางหลัง โผลหัวออกไปนอกรถขาง

ละตัว ขณะท่ีเจาของหมาใหญพารถแลนจากดอนเมืองตรงไปกรุงเทพ

พระมหานครฯ 46

47

กลาวไดวาเรื่องนิกกับพิมซึ่งผูเขียนทรงใชรูปแบบการเขียนนวนิยายในรูปแบบ

จดหมาย นอกจากจะชวยสรางความนาสนใจใหกับนวนิยาย เพราะเปนนวนิยายที่สุนัข

สองตัวเขียนจดหมายคุยกันเลาชีวิตความเปนอยู แสดงทัศนะความคิดเห็นของตนและ

แลกเปลี่ยนทัศนะซึ่งกันและกันแลว การเขียนนวนิยายใหเปนรูปแบบจดหมายยังชวย

สรางปมปริศนาของเนื้อเรื่องใหนาสนใจมากย่ิงขึ้นวา มนทิราหรือนายผูหญิงของพิม

เปนใคร มีความสัมพันธอยางไรกับคุณหมอหรือนายผูชายของพิม และเธอมาทํา

46

เร่ืองเดียวกัน, หนา 323 – 324. 47

เร่ืองเดียวกัน, หนา 325 – 326.

Page 56: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

48

อะไรที่ประเทศสวิสเซอรแลนด และสิ่งท่ีพิเชฐคิดในตอนแรกของเน้ือเรื่องวาเธอแตงงาน

และมีลูกแลวจะเปนความจริงหรือไม พิมซึ่งเปนสุนัขของมนทิราจะคอยๆ เลาในจดหมาย

อยางตอเนื่อง เปนการเลาผานมุมมองของพิมซึ่งเปนสุนัขตัวหนึ่งและพิมก็ไมไดบอกนิก

ในจดหมายดวยวา นายผูชายและนายผูหญิงของตนมีความสัมพันธกันอยางไร ทําให

ผูอานสงสัยและติดตามตอไปเรื่อยๆวา ยุพดีที่เขามาวุนวายในครอบครัวของมนทิรา

เปนใคร และทําไมมนทิราจึงตองยอมใหยุพดีทํารายจิตใจของเธอดวย ซึ่งผูแตงก็ได

ทรงเฉลยในตอนทายเรื่องนวนิยายโดยใหพิมบอกกับนิกเลาในจดหมายในตอนใกลจบวา

คุณหมอเปนพี่ชายของมนทิรา ยุพดีเปนพี่สะใภ และยายหนูเปนหลานสาวของเธอ

นั่นเอง การเขียนนวนิยายเรื่องนิกกับพิมในรูปแบบจดหมายชวยสรางความสนใจใครรู

ใหกับผูอานต้ังแตตนจนจบอยางแทจริง ทําใหผูอานคอยลุนไปกับตัวละครเอกฝายชาย

คือพิเชฐดวยวา มนทิราแตงงานแลวหรือยัง และเมื่อทราบวาเธอเปนนองสาวของ

คุณหมอ ผูอานก็รูสึกรวมดีใจไปกับพิเชฐดวย ที่พิเชฐไดสมหวังในความรัก และ

ความรักของพิเชฐและมนทิราก็ลงเอยไดดวยดีไดอยูดวยกันพรอมหนาทั้ง พิเชฐ มนทิรา

และนิกกับพิม

การที่ผูแตงทรงผูกปมปญหาไวตนเรื่องวา มนทิรา ตัวละครเอกฝายหญิง

แตงงานแลวจริงหรือไม และผูแตงทรงคอยๆ เฉลยปมปญหาไดอยางนาสนใจดังที่ผูวิจัย

ไดกลาวไวอยางละเอียดแลวในตอนตน เมื่อวิเคราะหแลวการคลี่คลายปมปญหาของ

เรื่องนิกกับพิมมีความนาสนใจเนื่องดวย

1. การใหนิกกับพิมเปนบุคคลที่ 3 เปนผูที่สังเกตการณเรื่องราวที่เกิดขึ้น

ดวยเหตุผลนี้ทําใหการเฉลยปมปญหาวา มนทิรามีความสัมพันธอยางไรกับ

นายผูชายจึงมิไดเฉลยอยางรวดเร็ว แตผูแตงจะคอยๆเฉลยทีละนอย โดยผานมุมมอง

ความคิดของนิกกับพิม

2. สิ่งที่ผูวิจัยจะไดกลาวถึงอีกประเด็นหนึ่งซึ่งเปนประเด็นสําคัญก็คือ กลวิธีการสราง

ปมปญหาและการคลี่คลายปมปญหาโดยการสรางตัวละครปรปกษ ตัวละครปรปกษ

แมวาจะเขามาสรางปญหาใหกับมนทิรา แตตัวละครปรปกษกลับเปนผูสรางความสุข

ใหกับตัวละครเอกทั้งสองคน ทําใหเกิดการหักมุมของเน้ือเรื่อง ทําใหตัวละครเอก

ฝายชายและตัวละครเอกฝายหญิงไดสมหวังในตอนจบของเรื่อง

ซึ่งจะไดกลาวตามลําดับดังนี้

1. การใหนิกกับพิมเปนบุคคลท่ี 3 เปนผูท่ีสังเกตการณเร่ืองราวท่ีเกิดขึ้น

Page 57: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

49

นิกกับพิมไมใชมนุษย เปนเพียงสุนัขที่เลาเรื่องราวที่เกิดขึ้นใหเพื่อนอีกฝายหน่ึงฟง

นิกกับพิมจึงเลาไดเพียงในแงมุมที่สุนัขตัวหนึ่งมองเห็นเหตุการณท่ีเกิดขึ้นนั้น แตนิกกับพิม

ก็ไมไดเขาใจเหตุผลที่ทําใหเกิดเรื่องราวทั้งหมด ถาเจานายของนิกกับพิมไมไดเลาใหฟง

นิกกับพิมก็จะไมทราบความจริงท่ีเกิดขึ้น ในตอนตอนเรื่องนวนิยายนิกกับพิม พิมได

แนะนําสมาชิกในบานใหนิกไดรูจัก พิมก็บอกแตเพียงวาที่บานมีนายผูชาย นายผูหญิงคือ

มนทิรา ยายหนู และผูที่มาชวยดูแลบานชื่อ แบรตา ตลอดแทบทั้งเรื่องพิมไมไดบอก

นิกเลยวานายผูชายและมนทิรามีความสัมพันธกันอยางไร พิมบอกนิกในตอนใกลจะ

จบเรื่อง

เมื่อสมรศรีกาวเขามาในครอบครัวของมนทิรา พิมซึ่งเปนผูสังเกตการณก็รูดีวา

เพื่อนของนายผูชายที่ชื่อวาสมรศรีคิดไมดีกับมนทิรา ตอหนามนทิรา สมรศรีจะพูดจา

ออนหวานกับเธอเปนอยางดี แตเมื่ออยูลับหลังก็จะทํากิริยาท่ีไมดีตอเธอ พิมซึ่งเปน

สุนัขก็จะไดมองเห็นกิริยาที่ไมดีของสมรศรีท่ีมีตอมนทิรา และเน่ืองดวยพิมเปนสุนัข

พิมดมกลิ่นก็รูแลววา สมรศรีอิจฉามนทิราและคิดไมดีตอเธอ

“คุณใหญใหเชิญคุณไปพบที่โรงพยาบาลแนะคะ เวลาเที่ยงใหดิฉัน

พาคุณไปพบ แลวคุณใหญจะพาไปรับประทานอาหารกลางวันขางนอก”

“แหม ดีจริง” แมสมรศรีวา “คุณชางใจดีแท ๆ ด๊ันไมรบกวนคุณ

เกินไปหรือคะ”

“ไมเปนไรดอกคะ วันนี้ดิฉันวาง โชคดีที่แบรตามามื้อกลางวัน

ดิฉันจะวานแบรตาปอนยายหนู และใหอยูเปนเพื่อนแกจนกวาดิฉันจะ

กลับมา เวลานี้ดิฉันตองขอลาไปสักครูเพื่อทํากับขาวเตรียมไวใหยายหนู

รับประทานตอนเท่ียง เชิญคุณตามสบายนะคะ”

“ไมตองเปนหวงด๊ันดอกคะ” แมสมรศรีย้ิมอยางออนหวานแตฉัน

ดมกลิ่นก็รูทันทีวาเขาเกลียดและอิจฉานายผูหญิง 48

พิมซึ่งเปนผูสังเกตการณไดมองเห็นสมรศรีทํากริยาอันไมสมควรเมื่ออยูลับหลัง

มนทิรา เชน เดินหยิบของในบานขึ้นมาดูโดยไมไดขออนุญาต และแสดงสีหนาวาพอใจ

48

เร่ืองเดียวกัน, หนา 121.

Page 58: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

50

และไมพอใจของในบานมนทิรา สมรศรียังเดินไปที่หองนอนของนายผูชายอันเปนสิ่งท่ี

ไมควรกระทํา พิมก็ไดเขาขัดขวางสมรศรี

พิมไดแตเพียงรับฟงความรูสึกของมนทิรา แมพิมจะสงสัยวาสมรศรีเปนใครและ

เพราะเหตุใดนายผูชายจึงทําดีกับสมรศรีและละเลยนายผูหญิง พิมก็ไมสามารถทําได

และเมื่อยุพดีไดเขามาในบานของมนทิราอีกคน ต้ังแตเริ่มตนท่ีพิมรูวายุพดีจะมาพบ

นายผูชาย พิมซึ่งเปรียบเหมือนผูสังเกตการณก็ไดสังเกตวา นายผูชายหนาแดงเมื่อรูวาจะ

ไดพบยุพดี ซึ่งแสดงใหเห็นวา นายผูชายมีความรูสึกพิเศษกับยุพดี พิมเปนสุนัขก็

ไมสามารถถามคําถามกับนายผูชายได พิมไดเพียงแตต้ังคําถามในใจ

“ เหตุใดนายผูชายจึงหนาแดงทําทาพิกลเมื่อไดรับโทรเลขจาก

ยายสมรศรีวา ยุพดีจะมาถึงเจนีวาพรุงนี้บาย 4 โมง? ”

ยุพดีเขามากาวกายชีวิตของมนทิรา สั่งใหมนทิราทําในสิ่งที่ยุพดีตองการ แต

มนทิราก็ไมไดโตตอบ บางครั้งยุพดีทําใหมนทิราเสียใจมากจนรองไห พิมก็ไดแตแสดง

ความเห็นใจเจานายของตนเอง ถาพิมพูดไดพิมก็คงถามวา ยุพดีเปนใครและเพราะ

เหตุใดจึงทําใหนายผูหญิงของตนรองไหดวย

พิมเปนผูสังเกตการณและมองเห็นความเปนไปภายในครอบครัวทั้งหมด พิม

มองเหน็วายุพดีเปนผูหญิงที่กาวราว ทําใหมนทิราตองเสียใจ นายผูหญิงของตนเปนคนดี

ไมโตตอบผูที่หาเรื่องตน และนายผูชายเปนคนที่อยูตรงกลางไมสามารถปกปองมนทิรา

ได พิมซึ่งเปนผูที่มองเห็นเรื่องราวทั้งหมดวิเคราะหวา นายผูชายหลงใหลเชื่อฟงยุพดี

จนไมอาจชวยเหลือนายผูหญิงของพิมได

บางเวลายุพดีโมโหยายหนูแตไมรูจะทําอยางไรกับเด็ก ก็เลยพาลไปถึงนายผูหญิง

พูดประชดประชันหรือไมก็พูดเปรยดวยถอยคําที่รุนแรงทําใหนายผูหญิงเจ็บใจบอย ๆ แต

นายผูหญิงก็มิไดโตตอบ ไดแตนั่งรองไห นายผูชายของพิมก็ไมสามารถชวยเหลืออะไร

นายผูหญิงได

พิมเปนผูสังเกตการณและไดมองเห็นพฤติกรรมของบุคคลที่แวดลอม และได

แสดงความคิดเห็น ทําใหผูอานไดรับรูเรื่องราวที่เกิดขึ้น แตเนื่องดวยพิมเปนเพียงสุนัข

ดังนั้นพิมจึงไมสามารถเขาใจเรื่องราวและนํามาเลาใหนิกฟงไดทั้งหมด และเมื่อมนทิรา

ยังไมไดเลาใหพิมฟงวายุพดีและสมรศรีเปนใคร พิมก็ยังไมสามารถบอกนิกไดวาผูหญิง

ทั้งสองคนเปนใคร มีที่มาอยางไร ทําใหผูอานตองติดตามอานตอไปเพื่อที่จะหาคําตอบ

Page 59: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

51

Page 60: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

51

2. กลวิธีการสรางปมปญหาและการคลี่คลายปมปญหาโดยการสราง

ตัวละครปรปกษ

ตัวละครปรปกษคือตัวละครท่ีอยูฝายตรงขามตัวละครเอกซึ่งเปนคนไมดี ในเรื่อง

นิกกับพิมการเขามาของตัวละครท่ีเปนปรปกษเปนการสรางปมปญหาสรางความเดือดรอน

ใหกับมนทิรา จากชีวิตทีสงบสุขก็ทําใหมีเรื่องที่ทุกขใจ แตการท่ีสมรศรีและยุพดีเขามา

ในชีวิตของมนทิราไมไดมีแตผลรายแตเพียงดานเดียวเทานั้น ยังมีผลดีตอชีวิตของมนทิรา

อีกดวย ทําใหเกิดการคลี่คลายปมปญหาของเรื่องราวความเขาใจผิด ทําใหพิเชฐได

ทราบวา ความจริงแลวมนทิราเปนนองสาวของนายผูชาย ยุพดีเปนพี่สะใภของเธอ

ผูเขียนไมไดทรงบอกในทันทีวาสมรศรีและยุพดีเปนใคร พระองคทรงเลาเรื่องไปเรื่อยๆ

โดยใหพิมเปนผูเลาใหฟง เลาพฤติกรรมของสมรศรีและยุพดีวาเปนอยางไร ทําใหผูอาน

คอยๆ รับทราบวาตัวละครทั้งสองคนนี้เปนใคร

ตัวละครปรปกษคนท่ี 1 สมรศรี

ผูแตงทรงกลาวถึงสมรศรีซึ่งเขามายุงกับครอบครัวของมนทิราเปนครั้งแรกวา

เมื่ออาทิตยกอนมีผูหญิงไทยสะสวยคนหนึ่ง ชื่อสมรศรีมาหาเรา

ที่โวนุง เขาวาเขาเปนเพื่อนของยุพดี ฉันไมรูวา ”ยุพดี” คือใคร เปนผูชาย

หรือผูหญิง กลิ่นเปนอยางไร เปนคนหรือเปนสัตว แตพอแมสมรศรีผูนั้น

แนะนําตัวเองวาเปนเพื่อนของยุพดีเทาน้ัน นายผูหญิงก็ตอนรับขับสูเขา

เปนอยางดีเชิญเขาไปในโวนุงใหกินอะไรๆ แลวโทรศัพทไปบอกนายผูชาย

ที่โรงพยาบาล

“คุณใหญใหเชิญคุณไปพบท่ีโรงพยาบาลแนะคะ เวลาเท่ียงใหดิฉัน

พาคุณไปพบ แลวคุณใหญจะพาไปรับประทานอาหารกลางวันขางนอก”

“แหม ดีจริง” แมสมรศรีวา “คุณชางใจดีแท ๆ ด๊ันไมรบกวนคุณ

เกินไปหรือคะ”

“ไมเปนไรดอกคะ วันนี้ดิฉันวาง โชคดีท่ีแบรตามามื้อกลางวัน ดิฉันจะ

วานแบรตาปอนยายหนู และใหอยูเปนเพื่อนแกจนกวาดิฉันจะกลับมา

เวลาน้ีดิฉันตองขอลาไปสักครูเพื่อทํากับขาวเตรียมไวใหยายหนูรับประทาน

ตอนเที่ยง เชิญคุณตามสบายนะคะ”

Page 61: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

52

“ไมตองเปนหวงด๊ันดอกคะ” แมสมรศรีย้ิมอยางออนหวานแตฉัน

ดมกลิ่นก็รูทันทีวาเขาเกลียดและอิจฉานายผูหญิง 0

49

เมื่อผูอานไดอานมาถึงตรงนี้ก็คงสงสัยวาสมรศรีเปนใคร และเพราะเหตุใดจึงตอง

อิจฉานายผูหญิงดวย สมรศรีไดขอมนทิราเขาไปดูยายหนูที่หลับอยูในหองนอน

พิมดมกลิ่นของสมรศรีก็ไดทราบวา สมรศรีเปนมิตรกับยายหนู

สมรศรียังทําในสิ่งที่ไมเกรงใจมนทิรา หยิบของในบานของมนทิราขึ้นมาดู

ตามใจชอบ ของสิ่งใดที่ไมพอใจก็แบะปากอันเปนมารยาทที่ไมควรทํา และสิ่งท่ีไมควร

ทําเปนอยางย่ิงคือจะเขาไปในหองนอนของนายผูชาย

ฉันจึงตามกลับไปนอนสังเกตการณอยูใตโตะที่เขาไมทันเห็นฉัน เขา

เดินดูท่ัวหอง หยิบโนนหยิบนี่ขึ้นมาดูทําทาพอใจบาง ทําปากแบะอยางไมพอใจ

บาง ลองน่ังที่เกาอ้ีตัวโนนตัวน้ี ครั้นแลวก็เดินตรงไปที่หองนอนของนายผูชาย

ซึ่งเปดแงมอยู แลวต้ังทาจะเขาไป ฉันจึงแรออกจากใตโตะมากันทาไวทันที

แมสมรศรีชะงักกัดฟนดาฉันในลําคอวา “แหมไอหมาระยํา!” แลวยกเทาขึ้นเตะ

ฉันโดนซี่โครงดังปาบใหญ รวดเร็วฉันไมทันรูตัว ซ้ํานึกไมถึง จึงหลบไมทัน 1

50

พิมดมกลิ่นดูก็รูวาสมรศรีท้ังเกลียดทั้งอิจฉามนทิรา ทั้ง ๆ ที่มนทิราเห็นแก

นายผูชายของพิมยินดีอํานวยความสะดวกสบายแกสมรศรีอยางเต็มที่

สมรศรีแยงเวลาของนายผูชายไปจากครอบครัว บางครั้งนายผูชายก็ทะเลาะกับ

มนทิรา จากครอบครัวท่ีเคยอยูอยางสงบสุขก็เริ่มมีปญหา

คํ่าวันน้ันนายผูชายไมกลับบาน คงจะไปเท่ียวกับยายสมรศรี

ศัตรูของฉันตามเคย เมื่อยายหนูเขานอนแลวนายผูหญิงก็ควาหนังสือ

หนาเลมหนึ่งไปนั่งที่เกาอ้ียาวใตโคมไฟ ฉันรีบกระโดดขึ้นไปบนเกาอ้ีดวย

หมอบลงพลางเอาหัวซบตักนายผูหญิงอยางประจบ เขาก็ยกมือขึ้นลูบหัว

ฉันไปมาอยางใจลอย แลวบอกแกฉันวา

49

เร่ืองเดียวกัน, หนา 120 – 121. 50

เร่ืองเดียวกัน, 122.

Page 62: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

53

“ พิม พิม ฉันเบ่ือโลกเหลือทน อีกหนอยเราอาจจะตองไปจากที่นี่

คุณใหญคงไมตองการฉันแลว 51

นอกจากสมรศรีแลว ยุพดีเปนตัวละครปรปกษคนที่ 2 ที่เขามาสรางปมปญหาและ

คลี่คลายปมปญหาใหกับเน้ือเรื่อง

ตัวละครปรปกษคนท่ี 2 ยุพดี

ในตอนแรกท่ียุพดีจะเขามาในครอบครัวของมนทิรา พิมเลาใหนิกฟงในจดหมาย

วา นายผูชายเปนหวงยุพดีมากตองการจะไปรับที่สนามบินโดยเร็ว

“คุณมนคงไมวาที่จะตองอยูตามลําพังกับยายหนูสักพักหนึ่ง“

“ไมเปนไรดอกคะ” นายผูหญิงตอบ “มนเคยชินแลว”

“เรื่องเงินทองไมตองเปนหวง จะใหไวใหพอใชทีเดียว นึก ๆ ดูก็อยาก

จับรถไฟไปเจนีวาเสียต้ังแตวันนี้ จะไดมีเวลาไปสนามบินพรุงนี้ไม

กระหืดกระหอบ ถามัวเถลไถลอยูเด๋ียวยุพดีมาถึงไมมีใครคอยรับละ

แยทีเดียว พูดฝรั่งเศส เยอรมัน อะไรไมไดสักคํา ภาษาอังกฤษก็ยัง

ออนเต็มที่” ประโยคสุดทายเขาพูดเบา ๆ คลายปรารภกับตัวเอง

“เรือบินมาถึงต้ังบาย 4 โมง ไมใชหรือคะ รถไฟจากซูริคเจนีวา

กินเวลาเพียง 2 ชั่วโมง 45 นาทีเทาน้ันนี่คะ”

“ถูกแลว แตคนเรามันใจรอน อยากจะไปเจนีวาเสียต้ังแตวันน้ีแหละ

คุณมนไมวาไมใชหรือ?”

นายผูหญิงทําหนาเฉยบอกวาไมวา นายผูชายจองดูนายผูหญิง

อยางสงสัย สวนฉันนะไมเขาใจเลยวา เรื่องราวมันไปยังไงมายังไงกัน

“ยุพดี” คือใคร มาจากไหน เหตุใดนายผูชายจึงหนาแดงทําทาพิกลเมื่อ

ไดรับโทรเลขจากยายสมรศรีวา ยุพดีจะมาถึงเจนีวาพรุงนี้บาย 4 โมง?

ฉันหวังวาคงจะรูเรื่องและอธิบายใหแกฟงไดตลอดในจดหมายฉบับหนา

เรื่องยายพรานทําบวงดักหมอมาโนชเปนอยางไรตอไป สําเร็จ

หรือไม ขอใหเลาสูกันฟงบาง ฉันกําลังสนใจเปนท่ีสุด

51

เร่ืองเดียวกัน, 171 - 172.

Page 63: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

54

ฉันกระดิกหางดวยความคิดถึงแก

พิม 52

จากจดหมายของพิมที่เลาใหนิกฟง แสดงใหเห็นความกระตือรือรนและ

ความหวงใยที่นายผูชายมีตอยุพดี จึงตองการไปรับยุพดีอยางรวดเร็ว และพิมไดเลา

ใหฟงดวยวานายผูชายหนาแดงเมื่อไดทราบวายุพดีจะมาพบนายผูชาย ทําใหทราบวา

ยุพดีตองเปนคนสําคัญของนายผูชาย

จดหมายจากนิกถึงพิม นิกสนใจเชนกันวายุพดีเปนใคร และนิกบอกวา

ถาพิมทราบก็ขอใหเลาใหนิกฟงดวย

บานในปา ตําบลบานภูเขียว

พิมเพื่อนรัก

จดหมายของแกทําใหฉันงงไปหมด เรื่องเก่ียวกับ

นายผูชาย นายผูหญิง และ “ยุพดี” อะไรนั่น ใครคือยุพดี? เก่ียวของ

อะไรกับนายผูชายของแก หวังวาแกคงอธิบายใหฉันฟงโดยแจมแจงใน

จดหมายฉบับหนานะพิม 4

53

เมื่อพิมไดเขียนจดหมายเลาเรื่องของยุพดี นิกก็ไดแสดงความสนใจอยางมาก

วายุพดีเปนใคร และทําไมจึงเขามาเก่ียวของกับครอบครัวของมนทิรา นิกไดขอใหพิมเขียน

จดหมายเลาใหฟง

ตอนท่ีพิมหลงทางออกจากบาน เมื่อพิมกลับมาถึงบานแลว มนทิราก็ได

บอกกับพิมวา ยุพดีจะมาถึงที่บานในบายวันนี้ พิมบอกกับนิกวา แลวพิมจะเขียนมาเลา

ใหฟงวายุพดีเปนใคร

52

เร่ืองเดียวกัน, หนา 190 – 191. 53

เร่ืองเดียวกัน, 192.

Page 64: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

55

เมื่อตัวของฉันสะอาดและแหงแลว นายผูหญิงก็หยิบแปรงมา

แปรงขนฉันกอนจึงหวีใหขนหายเปนสังกะตัง เมื่อเสร็จก็หยิบปลอกคอ

มาสวมใหแลวบอกฉันวา “เวลาน้ีฉันเอายายหนูไปฝากแหมมบานโนนให

เลนอยูในสวนกับลูกเขา แกไปอยูเปนเพื่อนยายหนูนะพิม ฉันจะไดรีบจัด

หองคุณใหญเสียใหเสร็จ เขาจะกลับมาบานบายวันนี้พรอมดวยยุพดี”

ตกลงเวลาน้ีฉันยังไมรูวา “ยุพดี” คือใคร ตอนบายวันนี้แหละ

คงจะไดรู

ขอลาแกชั่วคราวกอน จะเขียนใหมในเร็วๆน้ี

คิดถึงแกเสมอ

พิม 54

และพิมก็ไดเขียนจดหมายมาเลาใหนิกฟงวายุพดีเปนอยางไร

จดหมายตอบจากพิม

บานบนเขาซูริชแบรก

นิกท่ีรัก

จดหมายของแกเลาถึงแกไปอยูท่ีเมืองใหญที่เรียกวาจังหวัดสนุกมาก

ฉันวา ครึกครื้นกวาเรื่องที่ฉันถูกตํารวจจับต้ังเปนกอง

ฉันรูแลววายุพดีคือใคร เขามาอยูกับเราได 2 อาทิตยเชาวันนี้

นายผูหญิงและฉันไมมีความสลักสําคัญอะไรในบานอีกตอไปแลว เขา

มองดูนายผูหญิงอยางชาเย็นคลายกับจะพูดวา “ฉันไมตองการแก” สวน

ฉันนั้นเขาเกลียดจนไมรูวาจะเกลียดไปถึงไหน ไหนแกวาความเกลียดมี

เหตุผลไมเหมือนความรัก “ยุพดี” เขามีเหตุผลอะไรกันละที่เกลียดฉันเอา

เกลียดฉันเอา เขามีเรื่องกับนายผูหญิงของฉันเก่ียวกับฉันต้ังแตวันแรกท่ี

เขามาถึงท่ีนี่เลย 6

55

54

เร่ืองเดียวกัน, 236. 55

เร่ืองเดียวกัน, 262.

Page 65: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

56

เรื่องที่ยุพดีไมพอใจก็คือ การที่พิมนอนอยูในบานดวย ยุพดีสั่งใหมนทิรานํา

พิมไปนอนนอกหองท้ังๆ ที่มนทิราดูแลรักษาความสะอาดพิมเปนอยางดี มนทิรา

ไมอาจคัดคานยุพดีได เธอไดเพียงแตรองไห

กอนออกจากหอง ยุพดีพูดวา “ออ! อีกอยางหนึ่งคะคุณมน หมานะ

อยาใหไปนอนในหองน้ําซีคะ สกปรกแยเลย เอาไวในครัวก็ไมไดนะคะ ครัว

เปนที่ทําอาหาร ตองสะอาด หองรับแขกก็เอาไปไวไมได เพราะคนตองใช

ที่อยูของหมาคือที่เฉลียงขางครัวแหงเดียวนะคะ คุณมนเขาใจไมใชหรือ?

เอา! เตรียมยายหนูไวใหเรียบรอยนะคะ เด๋ียวพี่จะพาแกไปเดินเลน”

เมื่อยุพดีออกจากหองไปแลว ฉันก็เขามาในหอง นายผูหญิงเห็น

ฉันเขาก็วางมือจากยายหนู กมลงมากอดฉัน ฉันเห็นนํ้าตาของเขาหยด

ลงมาตองหนาฉัน 7

56

พิมเลาใหนิกฟงตอไปวา ต้ังแตยุพดีมาอยูที่บาน มนทิราไมมีความสุขเหมือน

เมื่อกอน

หมูน้ีฉันเห็นนายผูหญิงรองไหบอย ดูเหมือนทุกวันต้ังแตยุพดีมา

ยุพดีไมชอบนายผูหญิงเลย เพราะยายหนูเปนตนเหตุสําคัญ ยายหนูติด

นายผูหญิง ไมติดไมชอบยุพดี บางทีไมยอมใหเขาจับตัว เขาจะพาไป

เดินเลนก็ไมยอมไป รองไหจาลั่นบานจะหานายผูหญิง เขาปอนขาวก็

ไมยอมรับประทาน จะใหแตนายผูหญิงปอน เขาจะอาบนํ้าแตงตัว

หรือทําอะไรใหก็ไมยอมทั้งสิ้น จนกระท่ังเขาหาซื้อตุกตาสวยๆ เสื้อผา

หรือรองเทางามๆมาใหก็ไมยอมรับ ไมยอมสวม รองไหหานายผูหญิง

ทาเดียว ก็นาเห็นใจยุพดีท่ีเขาโกรธและอิจฉานายผูหญิง และก็นาเห็นใจ

ยายหนูเหมือนกัน แกเคยรับและรูจักคุนเคยอยูแตกับนายผูหญิงซึ่งเลี้ยง

แกมาต้ังแตอายุ 3 เดือน อยูดีๆก็มีคนหนาใหมท่ีแกไมรูจักเขามาวุนวาย

กับแก แกก็ไมยอมนะซิ บางเวลายุพดีโมโหยายหนูจนหนาแดงตาเขียว

แตไมรูจะทําอยางไรกับเด็ก ก็เลยพาลเละพาลเทะไปถึงนายผูหญิง พูด

ประชดประชันหรือไมก็พูดเปรยดวยถอยคําที่รุนแรงทําใหนายผูหญิง

56

เร่ืองเดียวกัน, 265.

Page 66: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

57

เจ็บใจบอย ๆ แตนายผูหญิงก็มิไดโตตอบ ไดแตหนีเขาหองไปรองไหนั่งซึม

อยูกับที่ หรือไมก็เขียนจดหมาย บางทีก็นั่งอยูนาน ๆ บางทีก็รองไหพลาง

เขียนจดหมายพลาง 8

57

ยุพดีรังแกนายผูหญิงหรือมนทิรา แตนายผูชายไมสามารถปกปองนายผูหญิงได

นอกจากนี้ยุพดีพยายามที่จะทําดีกับยายหนูทําใหผูอานตองการทราบวา เพราะเหตุใด

ยุพดีซึ่งเปนผูหญิงรายกาจจึงตองการเอาใจยายหนู ผูอานเมื่อไดอานมาถึงตรงนี้ก็จะ

สงสัยในความสัมพันธของนายผูชาย นายผูหญิง ยุพดี และยายหนู และพิมก็ไดบอกนิก

ในทายจดหมายวา

อาว! ฉันยังไมไดบอกแกใชไหมวายุพดีเปนใคร ยุพดีก็คือเมีย

นายผูชายและแมของยายหนูนะซี เขาหายไปอยูไหนมาต้ังนาน จนลูก

ของเขาเองก็ไมรูจักเขา บัดน้ีเขากลับมาทําความรูจักคุนเคยกับลูกของเขา

และกวนกะละแมในบานของเรามาได 2 อาทิตยแลว นายผูหญิงบอกแก

ฉันวา อีกหนอยเขาก็จะพาฉันไปจากบานบนภูเขาซูริชแบรกอัน

สุขสบาย ซึ่งฉันอยูมาต้ังแตจําความได เพราะเด๋ียวน้ีบานนั้นไมใหความสุข

แกเขาและฉันอีกแลว แตจะไปไหน เมื่อไหร นายผูหญิงยังไมรู รูแตวา

จะตองไปในเร็ว ๆ นี้แหละ

ใหหมัดกัดซินิก ฉันกลุมใจเหลือเกิน! หวังวาแกคงไมมีเรื่องหนักใจ

อยางฉันบางนะ

จากเพื่อนผูแสนกลุมของแก

พิม 58

ในตอนทาย พิเชฐไดทราบความจริงวามนทิราเปนนองสาวของนายผูชายหรือ

คุณหมอใหญนั่นเอง ทําใหพิเชฐดีใจมาก สมรศรีและยุพดีซึ่งเขามาเปนผูสราง

ปมปญหาใหกับมนทิราทําใหมนทิราไมมีความสุข แตก็เปนผูชวยคลี่คลายปมปญหา

ทั้งหมด ทําใหพิเชฐและมนทิราไดเขาใจกันและไดอยูดวยกันในตอนจบ และการที่

57

เร่ืองเดียวกัน, 266 – 267. 58

เร่ืองเดียวกัน, 267 – 268.

Page 67: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

58

นวนิยายเรื่องนี้ใชรูปแบบการเขียนเปนจดหมายทําใหการคลี่คลายปมปญหาของเรื่อง

คอยๆ ดําเนินไปไดอยางนาสนใจ

พระอัจริยภาพของ ว. ณ ประมวญมารคที่ทรงแตงเรื่องนิกกับพิมเปนนวนิยาย

รูปแบบจดหมายเอ้ือตอการคลี่คลายปมปญหาของเนื้อเรื่องไดอยางนาสนใจ และการที่

พระองคทรงใหนิกกับพิมซึ่งเปนสุนัขเขียนจดหมายถึงกัน ทําใหเรื่องนิกกับพิมเปนนวนิยาย

ที่มีความแปลกใหม พระอัจริยภาพอีกประการหนึ่งของพระองคที่ทรงแสดงใหเห็นใน

นวนิยายเรื่องนี้ก็คือ การท่ีใหนิกกับพิมเปนตัวแทนของสุนัขแสดงความคิดเห็น

วิพากษวิจารณมนุษย เมื่อไดศึกษาพระประวัติของพระองคจะเห็นไดวา พระองคทรงรัก

สุนัขมาก พระองคทรงเลี้ยงและอยูใกลชิดสุนัขมาโดยตลอด ทําใหพระองคทรงทราบวา

ลักษณะนิสัย พฤติกรรม และความรูสึกนึกคิดของสุนัขนาจะเปนเชนไร และพระองคก็ได

ทรงนํามาถายทอดเปนนิกกับพิมตัวละครตัวเอกของเรื่อง

ชัตสุณี สินธุสิงห และคณะไดกลาวถึง การเขาถึงวรรณคดีโดยศึกษาประวัติของ

ผูประพันธ ในหนังสือ วรรณคดีทัศนา 10

59 ดังนี้

การศึกษาวรรณคดีแนวนี้มีพื้นฐานมาจากความคิดที่วางานเปดเผยบุคลิก

เจาของงาน ชีวิตและบุคลิกของศิลปนมีอิทธิพลในการสรางสรรคผลงาน วัตถุดิบของ

ศิลปะมาจากประสบการณของศิลปน ดังนั้นการศึกษาชีวประวัติทําใหเขาใจบุคลิกศิลปน

และตอจากนั้นก็เขาใจศิลปะ ศิลปะนั้นมีความเปนสากลก็จริงแตตองมีลักษณะเฉพาะ

อันเกิดจากความเปนปจเจกบุคคลของศิลปนดวย ซึ่งก็หมายความวาไมมีเสนแบงระหวาง

ชีวิตของศิลปนและชีวิตท่ีเขาเสนอในผลงาน

นอกจากการศึกษาเรื่องบุคลิกสรางสรรคของศิลปนและความสัมพันธระหวาง

ศิลปนกับผลงานแลว การศึกษาวรรณคดีแนวนี้ยังมีความเห็นวามีความสัมพันธฉัน

เพื่อนมนุษยระหวางนักเขียนกับนักอาน ผูอานไมเพียงแตอานบทประพันธแตยังได

สัมผัสกับจิตวิญญาณของผูเขียน เบ้ืองหลังผลงานคือกระบวนความรูสึกนึกคิดและ

ประวัติวรรณคดีคือประวัติจิตวิญญาณของมนุษย

.......................................................................

59 ชัตสุณี สินธุสิงห และคณะ, วรรณคดทีัศนา, พิมพคร้ังท่ี 3 (กรุงเทพฯ : โครงการตําราคณะ

อักษรศาสตร จุฬาลงกรณมหาวทิยาลัย, 2544), หนา 14 – 15.

Page 68: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

59

ในการศึกษาวรรณคดีแบบนี้ จะตองศึกษาชีวประวัติผูเขียนและงานเขียนอยาง

ถ่ีถวน ตอจากนั้นจะโยงชีวประวัติและยุคสมัยที่ผูเขียนมีชีวิตอยูเขากับผลงาน และใน

ที่สุด ก็นําชีวประวัติผูเขียนไปใชในการตีความ แตอยางไรก็ตาม การศึกษาชีวประวัตินี้

เนนในดานที่เก่ียวของกับจิตใจ ความรูสึกนึกคิดมากกวาการกระทํา ดังนั้น ผูศึกษา

วรรณคดีในแนวนี้จึงรวบรวมขอเท็จจริงจากแหลงขอมูลตางๆ เชน หนังสือ จดหมาย

บันทึก ผูคน แลวนํามาศึกษาเพื่อจะไดรูจักเขาใจชีวิตของผูเขียนในสวนที่เปนจิตวิญญาณ

อันเปนท่ีมาของวรรณคดี

ชุติมา นาถเสวี ไดรวบรวมพระประวัติของ ว. ณ ประมวญมารค ซึ่งรวบรวม

จากแหลงขอมูลตางๆ ในปริญญานิพนธเรื่อง วิเคราะหนวนิยายของ ว. ณ

ประมวญมารค ในพระประวัติของพระองคกลาวถึงความผูกพันของพระองคที่มีตอสุนัข

ทําใหทราบวาพระองคโปรดสุนัขมาก และพระองคทรงเติบโตมาในบานซึ่งเต็มไปดวยสุนัข

ทําใหพระองคทรงเขาใจความคิด ความรูสึกของสุนัขเปนอยางดีและนํามาถายทอดเปน

ตัวละครคือ นิกกับพิม

พระราชวรวงศเธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ หรือ น.ม.ส. พระบิดาของ ว. ณ

ประมวญมารค โปรดธรรมชาติและสัตว วังถนนประมวญจะมีสัตวตางๆ มากมาย เชน

สุนัข กวางดาว ลูกเสือดาว โดยเฉพาะสุนัขเปนสัตวที่โปรดมาก ว. ณ ประมวญมารค

จึงเปน “ ผูที่เติบโตขึ้นมาในบานซึ่งเต็มไปดวยหมา เคยเลี้ยงหมามาแลวหลายชนิด

ต้ังแตหมาฝรั่ง หมาจีน ( Chow ) จนกระท่ังหมาญี่ปุน ( Japanese Fighting Dog )”

ภายหลังจากทรงเสกสมรสกับหมอมเจาปยะรังสิตแลว ว. ณ ประมวญมารค ก็ทรงมีสุนัข

อยูใกลชิดเสมอ ประสบการณนี้ทําใหทรงแตงเรื่องนิกกับพิม อันเปนเรื่องราวชีวิต

ความเปนอยูของมนุษยที่เขียนขึ้นในทัศนะสุนัข 2 ตัว โดยทรงแสดงความคิด ความรูสึก

อารมณ ของสุนัขไดอยางละเอียดออนและสมจริง *

* ชุติมา นาถเสวี รวบรวมจาก ม.จ. พรพิมลพรรณ รัชนี นิกกับพิม โดย แดนเดือน ( นามแฝง )

หนาคํานํา.

ในพระประวัติไดกลาววา พระองคทรงโปรดสุนัขมาก และเมื่อพระองคทรงมี

เวลาวางจะทรงฝกสุนัขใหทําทาตางๆ และพระองคทรงมีสุนัขที่โปรดมากชื่อวา สีหมอก

Page 69: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

60

ว. ณ ประมวญมารค โปรดสุนัขอยางย่ิง ถาทรงมีเวลาวางจะทรงฝกสุนัขให

ทําทาตางๆ มีทานอนกลิ้ง ขยับเทาซาย – ขวา ทําเปน นอนตาย เปนตน สุนัขที่ติดตาม

ใกลชิดพระองคตัวสุดทายชื่อ “ สีหมอก ” เปนสุนัขพันธุเกรตเดนแสนรู ตาสีเทา

ของ “ สีหมอก ” เต็มไปดวยความรูสึกรักและบูชา ว. ณ ประมวญมารค พระสหาย

คนหน่ึงเลาถึง “ สีหมอก ” วา

เวลาใดที่ทานหญิงเสด็จกลับจากตางจังหวัดหรือจากตางประเทศ “ สีหมอก ” จะ

ตามทานหญิงไมใหคลาดสายตา ถาทานทรงพระอักษรในหองบรรทม สีหมอกก็จะนอน

อยูขางพระบาท ................ บางครั้งเมื่อทานหญิงทอดเนตรจากพระแกร “ สีหมอก ” จะ

กระโดดเกาะพระแกรดูบาง ตัวสีหมอกจะยืดสูงกวาองคทานหญิง คนที่อยูขางลางเคย

ถามวา “ ใครยืนอยูขางทานหญิงท่ีพระแกร เพราะแปลกหนาและผิวคล้ําจริงๆ ” เมื่อ

ไดทรงทราบในภายหลัง ทานทรงพระสรวลและโปรดมากที่ไมมีใครรูวาทานทรงยืนอยู

กับใคร *

* ชุติมา นาถเสวี รวบรวมจาก เกรส เปเรรา “ เร่ืองเกาๆ จากความทรงจาํของเพ่ือนๆ และอาจารย”

ใน วิภาวดีรังสิตานุสรณ หนา 77.

ประสบการณในการเลี้ยงสุนัข การที่ ว. ณ ประมวญมารค ทรงมีประสบการณ

เก่ียวกับการเลี้ยงสุนัขมาเปนเวลานานดังกลาวมาแลวในตอนวาดวยเน้ือเรื่อง ทําใหทรง

เขาพระทัยในความรูสึก ความคิด ทัศนะในแงมุมตางๆ ของสุนัข และทรงนํา

ประสบการณมาสรางนิกกับพิม ตัวละครสุนัขที่สามารถวิพากษวิจารณมนุษยไดอยาง

นาขัน และบางตอนแฝงไวดวยปรัชญาขอคิดอันนาสนใจ ..................................ว. ณ

ประมวญมารคทรงวาดภาพนิกกับพิมจากประสบการณการเลี้ยงสุนัขอันยาวนาน

ประกอบกับขณะทรงแตงนั้นทรงคิด “อยางหมาเกือบทั้งเรื่อง” * ดวยเหตุน้ีผูอานจะเห็น

ไดวาการแสดงความในใจนิกกับพิมของ ว. ณ ประมวญมารค เปนไปอยางสมจริง

เหมาะสมกับท่ีเปนความคิดและทัศนะของสุนัข

* ชุตมิา นาถเสวี รวบรวมจาก ม.จ. วิภาวดี รังสิต “ เมื่อขาพเจาเปนนักประพันธ” ใน ประมวญ

เร่ืองสั้น โดย ว. ณ ประมวญมารค ( นามแฝง ) หนา 417.

ว. ณ ประมวญมารคเคยรับสั่งวาเรื่องนิกกับพิม เปนเรื่องที่พระองคโปรดมาก

ที่สุดเรื่องหนึ่ง ดังที่พระองคทรงกลาวไวใน เมื่อขาพเจาเปนนักประพันธ วา

Page 70: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

61

รับสั่งวา “...นวนิยายท่ีขาพเจาสนุกมากในการเขียนอีกเลมหน่ึงก็คือเร่ือง

นิกกับพิม เร่ืองน้ีขาพเจาตองคิดอยางหมาตลอดท้ังเร่ือง...” *

* ว. ณ ประมวญมารค (ม.จ. วิภาวดี รังสิต), “เมื่อขาพเจาเปนนักประพันธ,” ประมวญเร่ืองสั้น

โดย ว. ณ ประมวญมารค ( นามแฝง ) หนา 417.

ผูอานจึงไดรับความเพลิดเพลินเต็มที่ เพราะผูเขียน ‘สนุกมากในการเขียน’

และนาจะตองไดขอเท็จจริง ในความรูสึกนึกคิดของหมา รวมทั้งทรรศนะของหมาที่มี

ตอคน เพราะผูเขียน ‘คิดอยางหมาเกือบตลอดทั้งเรื่อง’ จะหานักเขียนคนใดท่ีประกาศ

ความในใจอยาง ว. ณ ประมวญมารค จะหานักเขียนคนใดที่จินตนาการเรื่องหมาได

อยาง ว. ณ ประมวญมารคและจะหานักเขียนสักก่ีคนที่รักหมาและเลี้ยงหมาตราบชั่วชีวิต

อยาง ว. ณ ประมวญมารค เพราะเปนท่ีรูๆกันวา “ว. ณ ประมวญมารคโปรดสุนัขมาก

และตลอดพระชนมชีพของทาน ทานจะมีสุนัขติดตามใกลชิดเสมอไมเคยขาด ถาทานทรง

มีเวลา ทานจะทรงฝกใหมันทําทาตางๆ ...ดวยความเขาพระทัยในนิสัยและอารมณของ

สุนัข...” *

‘นิกกับพิม’ จึงเปนเรื่องแนวแปลกไมซ้ําแบบใคร ผูเขียนเองก็ทรงยอมรับวา

‘โปรดเรื่องนิกกับพิมมากที่สุด’ ** ดังนั้นนักอานจึงไมควรพลาด ผูที่รักหมาอยูแลวถาได

อานเรื่องน้ีจะมีความเขาใจและรักหมาของทานย่ิงขึ้น สวนผูที่ไมเคยเลี้ยงและรักหมาเลย

อาจจะเปลี่ยนใจก็ได

1 เกรส เปเรรา, เร่ืองเดิม, หนา 76. 2 นิตยา มาศะวิสุทธิ์, เร่ืองเดิม, หนา 30.

จากพระประวัติของพระองคทําใหเห็นไดวา ว. ณ ประมวญมารคทรงมี

ความผูกพันใกลชิดกับสุนัข ทําใหพระองคทรงเขาใจความคิด ความรูสึกของสุนัข และ

ทําใหพระองคไดทรงถายทอดความคิดเห็นของสุนัขที่มีตอมนุษยในเรื่องนิกกับพิมในแงมุม

ตางๆ ไดอยางนาสนใจ ดังน้ี

Page 71: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

62

2.1.3 ความคิดอันเปนพระอัจฉริยลักษณ : นิกกับพิม ตัวแทนของสุนัขท่ีแสดง

ความคิดวิพากษวิจารณมนุษย

ในนวนิยายเรื่องนิกกับพิม ว. ณ ประมวญมารคไดทรงแสดงใหเห็นพระอัจฉริยภาพ

ทางดานความคิดเห็นในการวิพากษวิจารณมนุษย พระองคทรงใหสุนัขคือนิกกับพิม

แสดงความคิดเห็นตอมนุษยอยางอิสระเสรี เปนการนําเสนอความคิดที่ผูแตงไดเขียน

เปนนวนิยายท่ีอานเพลิดเพลิน อานแลวตลกขบขันไปกับความคิดของนิกกับพิม แต

ในขณะเดียวกันก็ไดขอคิดคติเตือนใจดวยในเรื่องที่นิกกับพิมไดกลาวถึงการกระทําที่ไมดี

ที่มนุษยไมควรทํา

ผูแตงทรงวิพากษวิจารณลักษณะทางกายภาพของมนุษยที่มีลักษณะบางอยาง

ออนดอยกวาสุนัขเชน ตาของมนุษยไมวองไว จมูกสูดกลิ่นไมมีประสิทธิภาพเทาสุนัข

หรือมนุษยไมสามารถดมกลิ่นเพื่อรับรูความรูสึกของอีกฝายไดอยางสุนัข เปนตน

การวิพากษวิจารณการกระทําของมนุษยทั้งที่เห็นวาเปนการกระทําที่แปลกประหลาด เชน

มนุษยสามารถรับประทานไดทุกอยางแมแตงู และวิพากษวิจารณการกระทําของมนุษย

ที่เห็นวาเปนสิ่งท่ีไมดี ไมควรกระทํา ซึ่งผูแตงไดทรงแสดงความคิดนี้ใหผูอานไดฉุกคิด

และผูแตงทรงวิพากษวิจารณความชอบ และความคิดของมนุษยและสุนัขที่ตางกัน ทําให

ผูอานทราบทัศนะของสุนัขวาชอบหรือไมชอบอะไร ทําใหมนุษยมองสุนัขดวยความเขาใจ

มากย่ิงขึ้น จะไดไมบังคับสุนัขใหทําตามใจอยางท่ีมนุษยตองการแตเพียงฝายเดียว

2.1.3.1 วิพากษวิจารณลักษณะทางกายภาพของมนุษย

ในนวนิยายนิกกับพิมไดวิจารณลักษณะทางกายภาพของมนุษยและสุนัขที่มี

ความแตกตางกัน ซึ่งในเนื้อเรื่องนิกและพิมจะประหลาดใจลักษณะบางประการท่ีมนุษย

และสุนัขไมเหมือนกัน เชนตาของมนุษยไมวองไว จมูกไมสามารถดมกลิ่นเพื่อรับรู

ความรูสึกของอีกฝายไดเหมือนสุนัข เปนตน

เปรียบเทียบอายุของมนุษยและสุนัขวามีความแตกตางกัน

ในเรื่องนิกกับพิม นิกไดเลาใหพิมฟงถึงเด็กรับใชในบานที่ชื่อชด นิกบอกกับ

พิมวา อายุ 16 ปของชด ถาเปนสุนัขก็แกมากๆ แลว

บางทีเวลาในครัวขาดเหลืออะไรก็ใหเด็กชดลูกแมครัวว่ิงไปหา

Page 72: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

63

มาได เด็กชดผูน้ีเปนผูชายอายุราว 16 ป (ถาเปนหมาก็แกหงําควร

ตายแลว แตสําหรับมนุษย 16 ป ยังเด็กมาก) ตัวสูง รางสมารท ไมดูถูก

คนจน ชอบธรรมชาติ ฯลฯ เปนลูกนองคนสําคัญของนาย ชวยทํางาน

ทุกอยางในบาน 11

60

สุนัขมีความคิดวา ตาของมนุษยไมวองไว จมูกสูดกลิ่นไมมี

ประสิทธิภาพ

ดังที่นิกเลาใหพิมฟงดวยความประหลาดใจวา นิกยืนอยูใกลนายแทๆ แตนาย

กลับไมไดกลิ่นของนิก ซึ่งนิกคิดวาจมูกของนายนาจะมีประสิทธิภาพเทากับจมูกของ

นิกซึ่งเปนสุนัข

มนุษยนะนะพิม นอกจากไมมีหลักเกณฑ คือเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา

ตามใจชอบจนเราทําอะไรไมถูกบอย ๆ แลวยังตาไมไว แถมจมูกดาน

ใชสูดกลิ่นไมไดอีกดวย

“นิก นิก” นายตะโกนเรียกเสียงกอง “นิก” แปลกแท ๆ เขาไมยัก

ไดกลิ่นวาฉันยืนอยูขางหลังเขาน่ันเอง 12

61

มนุษยไมสามารถดมกลิ่นเพ่ือรับรูวาสุนัขคิดอยางไรได

สุนัขสามารถดมกลิ่นเพื่อรับรูความคิดของอีกฝายได แตมนุษยไมสามารถทํา

เชนนั้นได ดังที่พิมเลาใหนิกฟงวา นายผูหญิงไมเขาใจพิมเลยวา พิมรูสึกอยางไร

คิดอยางไร ไดรับความทุกขใจอยางไร เพราะนายผูหญิงไมสามารถดมกลิ่นและรับรู

ไดวาพิมคิดอยางไร ซึ่งถาเปนสุนัขดวยกัน เพียงแคดมกลิ่นก็รูแลววาพิมรูสึกและคิด

อยางไร

บานบนเขาซูริซแบรก

นิกท่ีรัก

60

ว. ณ ประมวญมารค, นกิกับพมิ, หนา 23. 61

เร่ืองเดียวกัน, หนา 27.

Page 73: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

64

แกคิดวานายผูหญิงของฉันฉลาดรึ แกผิดถนัด เขาเพียงแตคิดวา

เขาฉลาดเทานั้นเอง อันท่ีจริงไมไหวเลย เขาไมเขาใจฉันแมแตนอย ฉันจะ

รูสึกอยางไร คิดอยางไร ไดรับความทรมานใจอยางไร เขาไมไดกลิ่นสักนิด

จริงอยูเขาไมเคยขังฉันไวในโรงรถ เพราะเขาไมมีโรงรถที่จะขังฉัน และเขา

ไมตีฉันดวยแสเพราะตัวของฉันเล็กนิดเดียว แตเขามีกฎสําหรับหามฉันไมให

ทําโนนทํานี่มากมายเหลือเกิน ฉันยอมถูกขังในโรงรถ และถูกตีดวยแส

มากกวาอยูในกฎเกณฑอะไรตาง ๆ ของเขา อยางแกโดนอยางฉันบาง

เปนคลั่งแนนอน แกนะเฮี้ยวเกงออก เพียงแตโดนแมสาวขางบานเรียก

ไอหนูเทานั้นแกก็ดึงเขาจนตัวปลิวเปนวาวทีเดียว 62

สุนัขคิดวามนุษยมีขนตามรางกายนอยมาก

ดังท่ีในเนื้อเรื่องนวนิยาย นิกเลาใหพิมฟงวา เมื่อเวลานายกินโดยไมสนใจนิก

นิกจะชอบเอาหัววางบนตักของนายแลวปลอยใหน้ําลายไหล นายจะไดรูวานิกอยากกิน

ดวย และนิกก็ไดแสดงความคิดเห็นของตนวามนุษยมีขนแตที่หัวท่ีเรียกวาผมเยอะที่เดียว

เทานั้น สวนตามที่ตางๆ ของรางกายมีขนนอยมาก ย่ิงผูหญิงแลวขนตามรางกายแทบ

ไมมีเลย

บางทีเวลานายนั่งกินเฉยอยูไมเห็นหรือไมเอาใจใสตอฉัน ฉันมัก

เอาหัววางลงบนตักเขา แลวแกลงปลอยใหนํ้าลายไหลลงไปบนผาเช็ดปาก

ที่ปูอยูท่ีตัก บางทีน้ําลายเปยกทะลุผาเช็ดปากไปโดนขาของเขา เพราะเขา

นุงกางเกงขาสั้นเสมอ มนุษยน่ีแปลกแท ๆ มีขนแตที่หัวเทาน้ัน ตรงแขน

ขามีนอยเต็มที ย่ิงผูหญิงย่ิงไมมีเลย เกลี้ยงเกลาเปนหมาขี้เรื้อน (ชนิดแหง)

ทีเดียว 14

63

2.1.3.2 วิพากษวิจารณการกระทําของมนุษย

ในหัวขอนี้แบงไดเปนการวิพากษวิจารณการกระทําของมนุษยที่เห็นวาเปน

62

เร่ืองเดียวกัน, หนา 55. 63

เร่ืองเดียวกัน, หนา 69.

Page 74: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

65

การกระทําที่แปลก ประหลาด คือสามารถรับประทานไดทุกอยาง และวิพากษวิจารณ

การกระทําของมนุษยที่เห็นวาเปนสิ่งที่ไมดี ไมควรกระทํา ซึ่งผูแตงไดทรงบอกไว

หลายประการดวยกันในนวนิยาย ผูแตงทรงตองการบอกกับผูอานวา การกระทําท่ีไมดี

ตางๆ เหลานี้ มนุษยไมควรทํา เพราะจะทําใหการอยูรวมกันในสังคมไมมีความสงบสุข

ซึ่งผูแตงก็ไดทรงแสดงความคิดเห็นนี้ใหผูอานเมื่อไดอานแลวเกิดฉุกคิดดวยตัวเองในขณะ

ที่อานเรื่องนิกกับพิม

วิพากษวิจารณการกระทําของมนุษยท่ีเห็นวาแปลกประหลาด คือ

มนุษยสามารถกินสิ่งท่ีสุนัขคิดวาไมนาจะกินได

ทัศนะความคิดของสุนัขที่มองเห็นวามนุษยกินไดทุกอยาง ซึ่งสุนัขอยาง

นิกคิดวาไมนาจะกินไดอยางเชนงู ดังเชนที่นิกเลาใหพิมฟงวา คนงานไดฆางูท่ีมาเลนกับ

นิกแลวนําเอาไปดองเหลากิน นิกยอมรับวาตัวเองเปนหมาตะกละ แตนิกก็ยังไมกลากิน

งูอยางมนุษย

ครั้งหนึ่ง เมื่อเรายายจากบานในกรุงเทพฯ มาอยูที่น่ีใหม ๆ นาย

ของฉันแทบรัดคอฉันตายเพราะความกลัวอยางไมเขาเรื่องเขาราวของเขา

เพราะอะไรหรือ? เพราะฉันว่ิงเลนหยอกลอกับเจางูตัวใหญท่ีชอบชูคอขึ้น

แลวทําเสียงฟอ ๆ ที่ปาก ฉันกําลังกระโดดโลดเตนอยูรอบตัวมันทีเดียว มันขู

ดังฟอ ๆ พลางไลฉกฉันพลาง ยังฉกไมทันถูกสักครั้ง นายของฉันก็

กระหืดกระหอบมาลากคอฉันไปเสีย ทําใหฉันอดสนุกเปลา ๆ ปลี้ ๆ ฝายเจางู

เคราะหรายตัวนั้นถูกคนงานตีหัวคนละตุบสองตุบจนนอนนิ่งไมกระดุกกระดิก

แลวทีหลังเขาก็ลากตัวมัน ไดยินวาเอาไปดองเหลากิน มนุษยนี่รายกาจ

มากกินไดทุกอยาง ไมวาสัตวชนิดไหน ตนไมใบไมทั้งท่ีขึ้นในดินในน้ํา

กินท้ังนั้น เราชาวสัตวท้ังหลายยอมแพมนุษยก็ตอนกินน่ีเอง มีอยางเดียวที่

เรากินไดเขาไมได! นอกน้ันแพเขาทั้งนั้น เชนงูเหางี้ ฉันเองทั้ง ๆ ที่

แสนตะกละก็ไมสู จะดองในเหลาหรือในไหนก็ตามทีเถิด 64

64

เร่ืองเดียวกัน, หนา 21- 22.

Page 75: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

66

วิพากษวิจารณการกระทําของมนุษยท่ีเห็นวาเปนสิ่งท่ีไมควรกระทํา

ในนวนิยายผูแตงทรงใหนิกกับพิมวิพากษวิจารณการกระทําของมนุษยท่ีไมควร

กระทําหลายประการ ทําใหผูอานอานแลวไดขอคิดเตือนใจที่จะไมทําสิ่งที่ไมดีงามเหลานี้

ซึ่งในนวนิยายไดกลาวไวหลายประการ ดังน้ี

มนุษยมีความไมยุติธรรม

นิกเลาใหพิมฟงวา นิกไปประกวดสุนัขและไดรับรางวัล แตท้ังๆท่ีตัวเองเปนผูเขา

ประกวด แตวานายกลับเปนผูขึ้นรับรางวัลคือ ถวยเงินแทน ซึ่งนิกคิดวา มนุษยมี

ความไมยุติธรรม เพราะนิกเปนผูเขาประกวดนาจะเปนผูขึ้นรับรางวัลมากกวาที่จะเปน

เจานาย

เออนะ พิมเพื่อนรัก ฉันยังไมไดเลาใหแกฟงใชไหมวาฉันเคยไป

ประกวดความงามสองครั้งแลว ครั้งหนึ่งที่บางเขนอีกครั้งหนึ่งที่เขาดิน ฉัน

ไดรางวัลที่หนึ่งทั้งสองครั้ง ครั้งแรกนายของฉันเปนผูรับถวยเงิน ซึ่งไม

เปนการยุติธรรมเลย มีอยางรึ ฉันเปนผูเขาประกวด แตนายเปนผูได

รางวัล ครั้งที่สองคอยยังชั่วหนอย กรรมการเอาเหรียญทองกับโบสีแดงมา

ผูกคอฉัน แลวนายก็จูงฉันไปรอบ ๆ ใหคนดู มีเสียงตบมือเปาะแปะ

แลวพวกเหย่ียวขาว (เปนคน) ก็มาถายรูปฉันมากมายฉันเลยต้ังทาอยาง

สงาใหเขาถายรูปหลายรูป ทีหลังรูปของฉันลงในหนังสือพิมพ เด็กชด

ยังเอามาใหฉันดู 65

มนุษยทําในสิ่งท่ีไมตรงกับใจ

ในเรื่องนิกกับพิม ทั้งนิกและพิมพูดถึงมนุษยวาทําในสิ่งที่ไมตรงกับใจไว

หลายตอน คือในใจโกรธกัน แตภายนอกกลับย้ิมใหกัน หรือภายในใจคิดอิจฉาริษยา

แตภายนอกกลับย้ิมใหอยางออนหวาน

อยางเชนตอนท่ีพิมเลาใหนิกฟงวา พิมกัดเจาไฮนี่ซึ่งเปนสุนัขตัวใหญกวาและ

สามารถเอาชนะไดทําใหเจาของเจาไฮนี่โกรธมากที่กัดแพสุนัขตัวเล็กๆ อยางพิม เจาของ

65

เร่ืองเดียวกัน, หนา 23.

Page 76: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

67

เจาไฮน่ีและนายผูชายของพิมจับมือกัน โดยนายผูชายเปนฝายขอโทษ และเจานายของ

เจาไฮน่ีก็ใหอภัย แตเมื่อพิมดมดูก็รูวา ทั้งสองคนยังโกรธกันอยูมาก ยังไมใหอภัยกัน

ทําใหพิมประหลาดใจมากท่ีมนุษยจับมือกัน ย้ิมใหกันไดทั้งท่ีใจยังโกรธกัน

เจาหมาของบานนั้นชื่อเจาไฮนี่ ศัตรูของฉันจับฉันได ตัวของมัน

โตกวาตัวฉันสักสองเทา มันจิกขนฉันที่กลางหลังไดก็ดึงเสียจนหนังแทบถลอก

เจ็บกวาตอนถูกตัดขนที่รานสักรอยเทา ฉันโมโหขึ้นมาเต็มแกก็เตรียมสูตาย

หันมางับขามันไวเต็มเหนี่ยว ตัวของฉันเล็ก งับไดเพียงขามันเทาน้ันเอง

ไอเจาศัตรูตกใจรองเองปลอยตัวฉันทันที ทั้งสะบัดท้ังด้ินใหหลุดจากฉัน แตก็

ไมหลุด เพราะฉันหลับหูหลับตางับขามันไวแนน ไมยอมปลอย ไอยักษใหญ

สิ้นคิดเจ็บปวดเต็มทนไดแตรองครวญคราง นายของมันรีบออกมาชวย

พรอมท้ังแชงดาพึมไปเลย ดาฉันที่บังอาจเขามากัดหมาของเขาถึงในบาน

และดาไอเจาไฮนี่ที่ตัวใหญเสียเปลา แตกัดแพหมาตัวเล็ก ๆ อยางฉัน

นายผูชายของฉันก็ตองขามรั้วมาชวยฉัน เขาตองขอโทษเจาของไฮนี่ เพราะ

ฉันผิดที่เขาไปกัดมันในที่ของเขา

เจาของไฮนี่พูดตอบอยางกิริยาดีวา “ไมเปนไร มิได” แลวเขาท้ังสอง

ก็จับมือกัน ฉันดมกลิ่นก็รูทันทีวา คนทั้งสองโกรธแทบจะฆากัน แตมนุษยนี่

ประหลาด ชางไมทําอะไรตรงกับใจอยางพวกเราเลย อยู ๆ ก็จับมือกัน ย้ิม

แลวก็โคงตัวเขาหากันทั้ง ๆ ที่อยากจะฆากัน! 17

66

และอีกตอนหนึ่งที่แสดงใหเห็นวามนุษยแสดงออกไมตรงกับสิ่งที่ใจคิด คือใน

ตอนที่คุณมาริลีนซึ่งเปนเพื่อนบานของนายแตงตัวสวยกวาทุกคน ผูหญิงคนอ่ืนๆตางก็

พากันกลาวชมวาคุณมาริลีนแตงตัวสวย แตเมื่อนิกดมกลิ่นดู นิกก็รูวาผูหญิงเหลาน้ัน

อิจฉาที่เธอแตงตัวสวยกวา นิกคิดวาทุกคนไมไดกลาวชมดวยความจริงใจ เพราะวาใจ

ที่จริงแลวอิจฉากันมากกวา

คุณมาริลินแตงกายสวยกวาเพื่อน (แมบุญชวยวา) มนุษย

ผูหญิงอ่ืน ๆ พากันชมเชยเสียงจอกแจก แตฉันดมกลิ่นรูวาเขาอิจฉา ไมไดชม

66

เร่ืองเดียวกัน, หนา 34.

Page 77: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

68

อยางจริงใจดอก คุณมาริลินแกอวดวากระโปรงของแกเปนกระโปรงพลี้ตจาก

อเมริกา แกซื้อมาจากกรุงเทพฯ ราคาแพงลิบ 18

67

ในตอนท่ีนายมากซึ่งเปนเพื่อนบานของนายของนิกขอยืมโรงรถของพิเชฐเพื่อเก็บ

รถ แตพิเชฐไมใหยืมเน่ืองดวยเห็นวา บานของนายมากมีอาณาบริเวณกวางขวางและมี

อุปกรณตางๆ ท่ีจะสรางโรงรถได และพิเชฐตองการความเปนสวนตัวจึงไมยอมให

นายมากยืมโรงรถ ทําใหนายมากโกรธมาก นิกรูวานายมากโกรธนายของนิกมาก แตก็

พูดกับพิเชฐดวยกิริยาอันดี ซึ่งนิกเห็นวาเปนการกระทําที่ไมตรงกับใจ

ต้ังแตวันน้ันนายของฉันกับนายมากก็ไมมองดูกันดวยสายตาที่เปน

มิตรอีก ถาจะพูดกันอยางเรา ๆ ก็ตองวาเหมือนหมาที่เปนศัตรูตอกัน ถา

นายมากกับนายมีขนที่หลังอยางเรา ๆ แทนมีเสื้อผา ขนที่หลังคงจะลุกชัน

ทุกครั้งท่ีพบกัน แตมนุษยนี่ชางแปลกแท ๆ ทั้ง ๆ ที่เกลียดกัน เมื่อพบกันก็

ยังพูดจากันโดยดี เชนเวลาที่นายเขาไปซื้อของในรานนายมาก นายมากก็

ลุกออกมาตอนรับอยางตอนรับเพื่อน ชางไมเหมือนพวกเราเลย เมื่อเรา

ไมชอบใครเราไมกระดิกหางแตยิงฟนและแฮเขาใสซึ่งกันและกัน การแสดง

กิริยาที่ไมตรงกับใจของมนุษยนะฉันไมเขาใจเลย แลวก็เบ่ือเหลือทน 19

68

ตอนที่สมรศรีเพื่อนของภรรยานายผูชายพูดกับมนทิรา สมรศรีพูดดวย

ความไพเราะออนหวานและย้ิมอยางออนหวาน แตพิมดมกลิ่นดูก็รูวาสมรศรีอิจฉา

นายผูหญิงของพิม ซึ่งเปนการกระทําท่ีไมตรงกับใจ

“คุณใหญใหเชิญคุณไปพบที่โรงพยาบาลแนะคะ เวลาเที่ยงใหดิฉัน

พาคุณไปพบ แลวคุณใหญจะพาไปรับประทานอาหารกลางวันขางนอก”

“แหม ดีจริง” แมสมรศรีวา “คุณชางใจดีแท ๆ ด๊ันไมรบกวนคุณ

เกินไป หรือคะ”

“ไมเปนไรดอกคะ วันนี้ดิฉันวาง โชคดีที่แบรตามามื้อกลางวัน ดิฉัน

จะวานแบรตาปอนยายหนู และใหอยูเปนเพื่อนแกจนกวาดิฉันจะกลับมา

67

เร่ืองเดียวกัน, หนา 70 – 71. 68

เร่ืองเดียวกัน, หนา 96 – 97.

Page 78: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

69

เวลาน้ีดิฉันตองขอลาไปสักครูเพื่อทํากับขาวเตรียมไวใหยายหนูรับประทาน

ตอนเที่ยง เชิญคุณตามสบายนะคะ”

“ไมตองเปนหวงด๊ันดอกคะ” แมสมรศรีย้ิมอยางออนหวานแตฉัน

ดมกลิ่นก็รูทันทีวาเขาเกลียดและอิจฉานายผูหญิง 20

69

มนุษยไมยอมทําตามกฎเกณฑในสิ่งท่ีไดวางกฎระบียบไว

ดังเชนท่ีนิกเลาใหพิมฟงวา นายออกกฎหามไมใหฆาตัวคางเพื่อเอาเลือดมา

ทํายากิน แตคนงานก็กลับทําในสิ่งที่ตองหามเมื่ออยูลับหลัง นิกจึงใหความหมายของ

การหามและใหพิมเขาใจคําวา “ หาม ” ของมนุษยวา “ การหามของมนุษย ” คือ

การกระทําลับหลังโดยท่ีผูหามไมรู ”

คางน้ันฉันเคยเห็นแตเพียงครั้งเดียว แตตายแลว คนงานฆามัน

จะเอาเลือดมาทํายากิน นายของฉันเห็นเขาก็รองเอ็ดตะโร บอกวามันเหมือน

คน หามไมใหฆาคางอีก พวกคนงานก็ยังฆาอยูดีถามีโอกาสชั่วแตเขาทํา

ลับหลังนายเทานั้น “การหามของมนุษย คือการกระทําลับหลังโดยที่ผูหาม

ไมรู” ขอใหแกเขาใจไว 21

70

ลักษณะหนาตาและทาทางของมนุษยท่ีพูดจาประจบผูอื่นเพ่ือหา

ผลประโยชนใสตัว มีหนาตาและกิริยาท่ีคลายลิง

นิกไดแสดงความคิดเห็นวามนุษยท่ีพูดจาประจบผูอ่ืนในเวลาที่ตองการพูดเพื่อ

ตองการผลประโยชนใหกับตนเองมีหนาตาและกิริยาที่คลายกับลิงซึ่งเปนสัตวปา ซึ่งผูแตง

ทรงตองการประชดประชันผูที่มีนิสัยเชนนี้วา ถาไมตองการหนาตาเหมือนลิง ก็ควรจะเลิก

นิสัยที่ไมดีเชนน้ี ดังเชนที่นิกเลาความคิดของตนในเรื่องนี้ใหพิมฟงวา

นายของฉันเคยอธิบายใหฉันฟงวามนุษยทั้งหลายมีกําเนิดมาจากลิง

เขาอานมาจากหนังสืออะไรเลมหนึ่ง แตเขาสั่นหัวไปมาอยางไมเชื่อ ฉันเองก็ไมรู

วาจะเชื่อดีหรือไมเชื่อดี ถาไมมีเคามูลเหตุใดใครจึงเขียนไวเปนตุเปนตะ

69

เร่ืองเดียวกัน, หนา 121. 70

เร่ืองเดียวกัน, หนา 45.

Page 79: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

70

ในหนังสือเลา แตฉันเห็นหนามนุษยบางคน เห็นทาทาง วิธีพูดจา ยิงฟน

พยายามประจบประแจงมนุษยอ่ืนเพื่อใหเขารักใครพอใจตัวเพื่อประโยชนจาก

เขาแลว ฉันรูสึกวามนุษยชนิดนี้ไมผิดกวาเจาลิงทั้งหลายเลย ที่วามนุษยมี

กําเนิดมาจากลิง ฉันก็เกือบ ๆ จะเชื่อ 22

71

มนุษยประเภทท่ีนาตําหนิคือ มนุษยท่ีอวดดี ยกตนขมทาน

พิมไดตําหนินิกวา นิกไมควรคุยโมโออวดวาตัวเองดีเดน แมวาตัวเองจะดีจริง

แตใหผูอ่ืนเปนผูออกปากชื่นชมจะเหมาะสมกวา และพิมก็ไดบอกกับนิกวา นิกเปนสุนัข

ก็คงไมมีใครวาอะไรมากนัก แตถานิกเปนคนแลว นิกจะถูกคนอ่ืนตอวาเปนอยางมาก

เพราะการอวดดี ยกตนขมทานเปนสิ่งที่ไมดี เปนสิ่งที่นาตําหนิมากเทียบเทากับ ความชั่ว

ความโลภ และความไมจริงใจของมนุษย

นิกท่ีรัก

ไดรับจดหมายและรูปถายของแกแลวขอบใจมาก รูปแกเปนรูปที่

สวยเก ทาทางสงานาเกรงขามก็จริงอยู แตฉันวาแกควรจะปลอยใหฉันเปน

ผูวาไมใชแก แกออกจะอวดดีต่ืนตัวมากไปสักหนอย นิสัยแบบแกนี้เปน

เพียงหมาก็พอจะทําเนา แตถาแกเปนมนุษยแลวมีนิสัยอยางน้ีละกอ แก

จะตองแยมาก มนุษยอ่ืนเขาจะตองเกลียดแก ชังนํ้าหนาไมคบแกทนแก

ไมไดแนนอน อะไรที่นาเกลียดไปกวาการเหอต่ืนตัวยกตนขมทาน และอวดดี

เห็นจะไมมี นอกจากความชั่ว ความโลภ และความไมจริงใจ 23

72

มนุษยพูดไมจริงบอยท่ีสุด

ดังเชนท่ีนิกเลาใหพิมฟงวา คนขับรถแอบเขาหาบุญชวย ลูกสาวแมครัวของ

พิเชฐ นิกบอกกับพิมวา แมวาผูเปนแมจะจับไดวาลูกสาวของตนไมไดอยูในหองแต

71

เร่ืองเดียวกัน, หนา 47. 72

เร่ืองเดียวกัน, หนา 80.

Page 80: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

71

แอบไปหาชายคนรัก แตวาลูกสาวก็คงพูดเท็จเอาตัวรอดจนได ซึ่งนิกบอกกับพิมวา

มนุษยจะชอบพูดไมจริงบอยที่สุด

คือฉันกําลังเลาถึงลูกชายสองคนของคนรถบานผูจัดการที่แอบ

ดอดเขามาหาแมบุญชวยคืนที่เกิดเหตุเรื่องเสือ แตพอเอะอะกันขึ้นเขาก็หายตัว

ไป สงสัยวาแมครัวคงจับไมไดวาลูกสาวไมไดอยูในหอง ถึงแกรูแมบุญชวยก็คง

แกตัวเท็จ ๆ ไปตามเรื่อง จนแมสิ้นสงสัย แกคงไมรูดอกพิม พวกมนุษยนะพูด

ไมจริงบอยที่สุด 24

73

2.1.3.3 วิพากษวิจารณความชอบของมนุษยและสุนัขท่ีตางกัน

จากเรื่องนิกกับพิม ทําใหผูอานไดทราบทัศนะของสุนัขวา สุนัขชอบหรือไมชอบ

อะไร เปนการแลกเปลี่ยนทัศนะความคิดเห็น ที่เรียกวาทําใหทราบใจเขาใจเรา ทําให

มนุษยมองสุนัขดวยความเขาใจมากย่ิงขึ้น จะไดไมบังคับสุนัขใหทําตามใจอยางที่

มนุษยตองการแตเพียงฝายเดียว เนื่องดวยผูแตงทรงเลี้ยงสุนัขและทรงใกลชิดสุนัข ทําให

พระองคทรงเขาใจความคิด ความรูสึกของสุนัขเปนอยางดีวา ชอบหรือไมชอบอะไร

พระองคจึงไดนํามาถายทอดในนวนิยาย ทําใหผูอานไดทราบและเขาใจความคิด

ความรูสึกของสุนัขมากย่ิงขึ้น

สุนัขไมชอบการอาบนํ้าถูสบู และไมชอบแชมพูอาบนํ้าท่ีฆาเห็บหมัด

มนุษยและสุนัขมีความชอบท่ีตางกัน ดังเชนการอาบน้ําใหสุนัข มนุษยชอบให

สุนัขมีกลิ่นกายท่ีหอมจึงชอบอาบนํ้า ถูสบูให แตในความคิดของสุนัข สุนัขไมชอบ

การอาบนํ้าและไมชอบการถูสบู เพราะสุนัขไมชอบกลิ่นสบูที่ติดตัว กลิ่นของสบูที่

มนุษยคิดวาหอมแตสุนัขกลับคิดวาเหม็น

การแปรงขนออกจะจั๊กกะจี้ แตการอาบน้ํา........ใหหมัดกัดซิ............

การอาบน้ํานี่รายกาจมาก ทั้ง ๆ ที่คนอาบนํ้าก็พยายามระวังไมใหฟองสบู

73

หนาเดยีวกัน, 108 – 109.

Page 81: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

72

เขาจมูกเรา แตเราก็ไมสบายเลย หนาวจนคางสั่นตัวสั่นทุกครั้ง พอเสร็จแลว

เรารูสึกสะอาดเกินไป กลิ่นก็เหม็นไมเปนตัวเราอยูนาน 25

74

ซึ่งนิกก็ไมชอบการอาบน้ําถูสบูเชนเดียวกันกับพิม นิกเลาถึงนางแดนซึ่งนิกชอบ

ใหพิมฟงวา นางแดนไมใชหมาท่ีสวยถูกใจนิก แตที่นิกชอบนางแดนมากๆ เพราะนางแดน

มีกลิ่นกายท่ีหอมเพราะไมเคยถูกจับอาบน้ําถูสบู และยังชอบนอนแถวกองขยะ

พูดถึงนายทําใหฉันอดนินทาไมได มีอยางรึ ฉันเคยนําชื่อเสียงมาให

เขา แลวเขาขอบใจสักนิดรึ! ก็เปลา กลับเอาฉันมาขังไวในโรงรถ เพราะอะไร

หรือ? เพราะฉันหนีไปหานางแดนหนอยเทานั้นเอง อันที่จริงนางแดนน้ันมันก็

ไมคอยสวยเทาใดนักดอก เปนขี้เรื้อนสักครึ่งตัวเห็นจะไดกระมัง แตกลิ่นของ

เจาหลอนชางหอมยวนใจนี่กระไร ก็จะไมหอมอยางไรเจาหลอนไมเคยโดนใคร

อาบน้ําเอากอนอะไรที่ถูกน้ําแลวเปนฟองใสตัวเลยในชีวิต แลวเจาหลอนยัง

ชอบนอนอยูแถวกองขยะหลังวัดเสมอ ๆ กลิ่นของเจาหลอนจะไมหอมถูกจมูก

ฉันอยางไรได 26

75

สุนัขไมชอบการอาบน้ําและไมชอบแชมพูอาบน้ําท่ีฆาเห็ดหมัดดังที่นิกเลาใหฟงวา

เมื่อนายเห็นนิกเกาหนักเขา ก็จะอาบน้ําใหและจะเอาแชมพูอาบน้ํามาอาบน้ําใหนิก

ซึ่งนิกไมชอบกลิ่นของแชมพูน้ี รูสึกวาไมเปนกลิ่นของตัวเองจึงไปนอนกลิ้งคลุกกับ

ของเสียของมาและวัวที่นิกชอบ ทําใหนิกตองโดนจับอาบน้ําเปนครั้งที่ 2

แตพอนายเห็นฉันเกาหนัก ๆ เขามักจัดการอาบน้ําใหฉัน แลวทา

ไอฟอง ๆ ในขวดท่ัวตัวฉัน ไอฟอง ๆ นี้รายนัก นายวาฝรั่งทําพิเศษสําหรับฆา

หมัดและเห็บ พออาบนํ้าเสร็จฉันเลยไมมีหมัดหรือเห็บเหลืออยูเลยรูสึก

ไมสบาย เพราะไมมีอะไรมาทําใหเจ็บ ๆ คัน ๆ กลิ่นอายของฉันก็พิกล

ฉันรูสึกไมเปนตัวของตัวเอง จึงรีบออกไปนอนกลิ้งของเหลือ ๆ จากวัวและมา

ที่ถนนนอกบาน พอกลับมาเลยถูกดุถูกตี แลวโดนอาบน้ําซ้ําอีก เด๋ียวน้ีเลยเข็ด

74

เร่ืองเดียวกัน, หนา 32. 75

เร่ืองเดียวกัน, หนา 23 - 24.

Page 82: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

73

ไมกลาไปนอนกลิ้งคลุกของพวกนั้นแลว เพราะแทนที่จะโดนอาบน้ําเพียง

หนเดียว โดนเขาไป 2 ครั้งรวด แลวยังแถมเจ็บอีกเลา 76

สุนัขไมชอบการถูกตัดขน

พิมเปนสุนัขพันธพูเด้ิล จึงตองถูกจับตัดขนใหสวยงาม ในความคิดของมนุษย

การตัดขนสุนัขพันธุพูเด้ิล ทําใหสุนัขพันธุน้ีมีความนารัก สวยงาม แตในความคิดของพิม

แลว การถูกจับตัดขนเปนการทรมานสุนัขอยางมาก เพราะตองถูกจับปาก ถูกรวบขา

และถูกจับใหอยูในทาตางๆ ซึ่งพิมไมชอบการตัดขนเลย และพิมอยากใหคนตัดขน

เล็มหนวดใหเพราะเวลาที่พิมขโมยกินอาหารจะไดไมถูกจับไดเพราะหนวดเปอน แต

คนตัดขนก็ไมยอมเล็มหนวดใหพิมอยางท่ีพิมตองการ ดังเชนที่ในนวนิยายกลาววา

การถูกตัดขนนี่รายกาจนัก นายผูหญิงพาฉันเขาไปในรานในเมือง

แลวทิ้งใหอยูที่นั่น พอนายผูหญิงลับตัวไปผูชายหัวเถิกในรานก็เอาแปรง

มาแปรงฉัน แลวก็หวี แลวก็ดึงขน แลวก็เอากรรไกรมาตัด แลวยังแถมเอา

อะไรมาไสที่ตัวฉันดังจิ๊ก ๆ จิ๊ก ๆ ฉันมักด้ินเต็มที่ ไมยอมใหเขารังแกฉันงาย ๆ

ดอก เขาเลยตองเรียกกันออกมาชวยจับตัวฉันต้ัง 3 คน ท้ังผูหญิง เด็ก ทั้ง

ผูชายอีกคนหนึ่ง ฉันโดนเขาจับหัวไวแนนจนกระดิกไมไหว ปากก็ถูกจับไวให

หุบสนิทจนหายใจแทบไมออก ขาหนาก็ถูกรวบ ขาหลังก็ถูกเขากดตัวใหฉันนั่ง

ใหนอน ใหหมอบ ใหตะแคง ใหหงายทองสารพัด หวังวาในเมืองไทยของแก

คงไมมีรานอะไรที่ทําบา ๆ แกหมาอยางน้ีเปนแน เขาตัดผมฉันจนมองดูเปน

ผมจุก แลวก็ตัดขนท่ีหนา ที่หู ท่ีตัว สวนหนวดของฉันเขาปลอยไวรุงรัง

อยางดีก็เล็มใหเขารูป ฉันนะอยากใหเขาตัดหนวดใหเกรียนอยางเดียว

เทานั้น เขากลับไมตัด เพราะเจาหนวดของฉันนี่มันรายนัก มันฟองเกง ฉัน

ขโมยกินแยมหรืออะไรอรอย ๆ ทีไรเปนถูกจับไดทุกที! 28

77

76

เร่ืองเดียวกัน, หนา 73. 77

เร่ืองเดียวกัน, หนา 32 - 33.

Page 83: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

74

เมื่อมนุษยใชสายจูงสุนัข มนุษยชอบใหสุนัขเดินอยางเรียบรอย แตสุนัข

ตองการเดินอยางตามใจตัวเองมากกวา

ดังที่นิกเลาวา เมื่อนายใชสายจูงใหนิกเดินนําหนา นายตองการใหนิกเดินอยาง

เรียบรอยและคอยฟงคําสั่งของนาย ซึ่งนิกก็ตองยอมทําตามคําสั่ง นิกบอกกับพิมวา

สําหรับนายเรียกวา “กิริยาดี” แตนิกเรียกวาเปนการ “แกลงทํา” เพราะนิกตองการเดิน

อยางอิสระอยางท่ีตัวเองตองการมากกวา ดังที่นิกเดินกับคุณเพียงเพ็ญ ในนวนิยายได

กลาววา

ฉันเดินเคียงคุณเพียงเพ็ญอยางเรียบรอย เดินไมชาเกินไปไมเร็ว

เกินไป ไมดึงสายจูงตามที่นายตองการใหฉันเดิน นายเรียกการเดินเรียบรอย

นี้วา “กิริยาดี” แตฉันเรียกวา “แกลงทํา” เวลานายพาฉันไปเดินเลน ฉันตองเดิน

อยางนี้มิฉะนั้นนายเปนขยับแส ฉันกลัวมันจะเคว้ียวลงมากลางหลังก็เลยตอง

“แกลงทํา” เสียหนอย

ฉัน “แกลงเดิน” เรียบรอยจนเราไปถึงที่เปลี่ยวตีนเขาไมไกลจาก

หลังบานของเราเทาไรนัก ฉันก็ว่ิงหอขึ้นเขาไปทันทีลากคุณเพียงเพ็ญเธอถูลูถูกัง

มาขางหลัง ตัวเธอชางเบานี่กระไร แลวไมมีแรงอะไรเลยท่ีจะตอตานกําลัง

ของฉัน ฉันลากเธอขึ้นเขาไปต้ังไกล ก็เผอิญจมูกของฉันเกิดไว ไดกลิ่นตัวตุน

ในรู จึงว่ิงไลหาตัวตุนพักใหญ คุณเพียงเพ็ญเธอก็ว่ิงถลาไปถลามาอยูขางหลัง

นี่แหละ ตอมาฉันไดกลิ่นกระตายปาเขาอีก ก็เที่ยวว่ิงดมหาที่โนนท่ีนี่ ขึ้นบาง

ลงบาง เร็วบาง ชาบาง ตามความพอใจของฉัน คุณเพียงเพ็ญเธอก็ตามติดมา

ดวยกับสายจูงทุกหนทุกแหง เธอลมลุกคลุกคลานหอบแฮก ๆ แตก็สูตายคือ

ไมยักยอมปลอยสายจูง ในที่สุดเธอก็ทําเสียงหงิง ๆ ซึ่งมนุษยเรียกวา “รองไห”

บอกแกฉันวา “ไอหนูนิก อยางว่ิงนักเลย ไหวละ ฉันทนไมไหวแลว

ฮือ ๆ!” 29

78

สาเหตุที่นิกเดินตามความพอใจของตนเชนนี้และทําใหคุณเพียงเพ็ญตองเจ็บตัว

เนื่องจากวาคุณเพียงเพ็ญเรียกนิกวา “ไอหนู” ทําใหนิกไมพอใจ และนิกก็ไมตองการ

ใหเธอเรียกนิกวา “ไอหนู” ดวยความเอ็นดูอีกตอไป นิกจึงตองแกลงคุณเพียงเพ็ญ

เพื่อใหเธอเลิกเอ็นดูดังที่นิกบรรยายความรูสึกของตัวเองใหพิมฟงวา

78

เร่ืองเดียวกัน, หนา 50 – 51.

Page 84: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

75

พิมเอย ฉันถูกเรียกวา “ไอหนู” ฉัน! บอกเซอรนิกซึ่งตัวใหญแข็งแรง

กวาหมาท้ังหลายในละแวกบานภูเขียว! ฉันผูเคยตอสูกับหมาหมูเจ็ดตัว

แตกกระจายพายแพจนคุมกันไมติด! ฉันซึ่งใคร ๆ ถือวาเปนนักเลงโตหมายเลข

1 ประจําหมูบาน กลับถูกเรียกวา “ไอหนู” คําสตึ ๆ สําหรับเรียกสัตวเล็ก ๆ

ตํ่า ๆ ไมมีคา ที่แอบอยูใตถุนบานของแก และใตโรงอะไรรก ๆ ท่ีนี่ ฉันเจ็บใจ

เหลือเกิน!

ผูที่เรียกฉันวา “ไอหนู” นี้คือมนุษยผูหญิงสาว (อายุ 17 ป แต

สําหรับมนุษย 17 ปยังไมแก) ซึ่งเปนลูกสาวของมนุษยที่ใคร ๆ เรียกวา

คุณพร ผูเปนชางอีกคนหนึ่งประจําโรงงาน มีบานอยูถัดจากบานของเราไป

ลูกสาวของคุณพรท่ีมีชื่อคุณเพียงเพ็ญ 30

79

มนุษยและสุนัขมีความคิดเร่ือง ความหอมและความเหม็นท่ีแตกตางกัน

ดังเชนตอนท่ีพิมเลาใหนิกฟงวา พิมไปคาบหนูตายตัวอวนหอมมาใหทุกคน

ในบาน ทุกคนตางพากันไมชอบ แตน้ําหอมที่พิมกลับวาเหม็น นายผูหญิงชอบและยัง

ฉีดใหพิมดมดวย เมื่อพิมดมแลวก็รูสึกวากลิ่นเหม็นเหมือนกับดอกไม ซึ่งพิมไมชอบเลย

นอกจากความเห็นไมตรงกันเรื่องเก่ียวกับธรรมชาติแลว ยังมีเรื่อง

กลิ่นอีกอยางหนึ่ง ทุกอยางท่ีเราหอม มนุษยเปนตองเหม็น เชนวันหนึ่งฉันคาบ

หนูตายอวนหอมที่อุตสาหไปคนพบริมรั้วมาใหเขาในบาน เขารองเอ็ดตะโร

พาฉันลงไปขางลางแลวจางคนสวนขุดหลุมฝงหนูตัวนั้นเปนการใหญ สวนสิ่งที่

มนุษยเขาหอมกันเราเหม็นแทบแย อยู ๆ นายผูหญิงก็เอานํ้าอะไรในขวดเล็ก ๆ

ฉีดที่ผมของเขา บางทีก็ใสขางหูและท่ีมือ แลวเอามือมาใหฉันดม ฉันไมทันรูตัว

สูดเขาไปเต็มท่ี โอโฮ! เหม็นอะไรอยางนั้น กลิ่นราวกับดอกไม! ฉันผงะหงาย

เซถลาไปชนโตะเล็กลมดังตึง ที่เขี่ยบุหรี่ของนายผูชายตกแตกกระจาย หูของ

ฉันตก หางตก ว่ิงจูดหนีไปแอบอยูใตตูทันที เสียงนายผูหญิงหัวเราะรวน

พลางรองเรียกฉัน 31

80

79

เร่ืองเดียวกัน, หนา 47 – 48. 80

เร่ืองเดียวกัน, หนา 57 – 58.

Page 85: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

76

ความหอมและความเหม็นที่มนุษยและสุนัขชอบตางกันเห็นไดอยางชัดเจนใน

อีกตอนหน่ึง คือตอนที่พิมเลาใหนิกฟงวา ตนกุหลาบในสวนกําลังออกดอกบานสะพรั่ง

พิมบอกกับนิกวาดอกกุหลาบสงกลิ่นเหม็นกระจายไปท่ัวสวน

เด๋ียวนี้ฉันลงไปว่ิงเลนในสวนไมไดอีกแลว เพราะคนสวนของ

เจาของบานที่เราเชาอยูกําลังเลี้ยงดูตนกุหลาบ ซึ่งอีกไมนานคงจะออกดอก

สีแดง สีชมพู สีขาว สีเหลือง สีแสด ดอกโตกวาที่ปลูกในกรุงเทพฯ (ตามที่

นายผูหญิงวา) 2-3 เทา สงกลิ่นเหม็นกระจายไปทั่วท้ังสวนตลอดหนารอนอยาง

เมื่อปกอน จะตองทนดมกลิ่นเหม็นของดอกกุหลาบฉันก็ไมวาละ ขอแตใหมีท่ี

สําหรับว่ิงเลนบางเถอะ 32

81

2.1.3.4 สุนัขมีความคิดเห็นไมเหมือนกับมนุษย

สุนัขจะมีความคิดวานํ้าลายของสุนัขเปนยาที่ใชรักษาบาดแผลของตัวเองได

ดังเชนตอนท่ีนายกับนิกไปเดินสํารวจภูเขาเพื่อจัดเตรียมสถานท่ีถายทําภาพยนตร นิก

เดินตามเจานายไปตามทางเดินที่เปนหินขรุขระทําใหเทาเปนแผล นิกพยายามเลียที่เทา

เพราะนิกเชื่อวานํ้าลายของตัวเองเปนยาที่ดีท่ีสุด แตนายของนิกไมยอมใหนิกเลียแผล

นายเอายามาทาใหนิกและเอาปลาสเตอรมาปดแผลให เพราะนายเชื่อวาวิธีการนี้จะ

ทําใหแผลของนิกดีขึ้นมากกวาที่นิกจะหายดวยน้ําลายของตัวเองที่นิกเชื่อวาเปนยา ดังท่ี

ในเน้ือเรื่องกลาววา

นอกจากกระหายน้ําแลวฉันยังเจ็บเทาหนาทั้ง 2 เทาอีกดวย การปนเขา

ที่เปนหินขรุขระเปนเวลานานเชนนั้น ทําใหเทาหนาของฉันกรอนท้ัง 2 ขาง ฉัน

พยายามรักษามันดวยการเลีย แตนายไมยอมใหรักษาแผลวิธีของฉัน กลับเอา

ยาอะไรมาทา ยาน่ันรายกาจมากขมปจนฉันเลียแทบไมไหว ซ้ํายังเอาแผน

เหนียว ๆ ที่นายเรียกวาปลาสเตอรมาปดท่ีแผลทั้ง 2 ขาง ทําไมหนอมนุษยจึง

ไมรูวาน้ําลายของเราเปนยาท่ีวิเศษที่สุดสําหรับรักษาแผลชนิดน้ี ฉันจะตอง

พยามแทะเจาเหนียว ๆ นั่นออกใหได ฉันพยายามต้ังแตอยูบนยอดเขา แตไม

สําเร็จเพราะนายไมยอมใหแทะ 33

82

81

เร่ืองเดียวกัน, หนา 118. 82

เร่ืองเดียวกัน, หนา 136 - 137.

Page 86: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

77

นิกกับพิมเปนตัวแทนของสุนัขที่แสดงความคิดเห็นวิพากษวิจารณมนุษย

บางอยางเปนความคิดท่ีชวนใหขบขันคือ ความคิดของสุนัขเรื่องอายุของคนเปรียบเทียบ

กับสุนัข จมูกของมนุษยสูดกลิ่นไดไมดีเทากับสุนัข เปนตน การวิพากษวิจารณ

การกระทําของมนุษยซึ่งมีทั้งความคิดเห็นวาพฤติกรรมของมนุษยบางอยางเปนสิ่งที่สราง

ความนาอัศจรรยใจในความคิดของสุนัข เชนมนุษยสามารถกินไดหมดแทบทุกอยาง และ

ความคิดเห็นของสุนัขที่เห็นวาการกระทําของมนุษยเชนนี้เปนสิ่งที่ไมดีไมควรทํา เพราะ

ทําใหผูอ่ืนไดรับความเดือดรอน การวิพากษวิจารณมนุษยในเรื่องน้ีเปนเสมือนกระจก

สะทอนที่ทําใหผูอานไดฉุกคิดวา การกระทําเชนน้ีเปนการกระทําท่ีไมดี ไมควรกระทําซึ่ง

ผูแตงก็ไดทรงกลาวไวหลายประการในนวนิยาย และมีขอวิพากษวิจารณความชอบของ

มนุษยและสุนัขที่มีความชอบตางกันดวย เชนสุนัขไมชอบการอาบนํ้าถูสบู เปนตน และ

ความคิดของสุนัขบางประการท่ีผูแตงไดถายทอดในนวนิยายเชน สุนัขจะคิดวา น้ําลาย

ของตัวเองเปนยา ทั้งหมดน้ีเปนสิ่งที่ทําใหผูอานไดมองเห็นความคิดเห็นที่หลากหลายที่

ผูแตงไดทรงสมมุติใหสุนัขเปนฝายที่มองมนุษยบาง ทําใหผูอานเปดใจกวางยอมรับฟง

ความคิดเห็นที่หลากหลายและแตกตาง โดยเฉพาะแงมุมของสุนัขที่มีตอมนุษยซึ่งเปน

มุมมองความคิดท่ีแปลกใหมในเรื่องนิกกับพิม

2.2 พระอัจฉริยภาพของ ว. ณ ประมวญมารค ในเร่ืองรัตนาวดี : ผูแตงทรง

บรรยายเห็นภาพไดอยางดีย่ิง และการเปรียบเทียบวัฒนธรรมไทยกับ

ตะวันตกเพ่ือเขาใจความเหมือนและความตางของสองวัฒนธรรม

2.2.1 ผูแตงทรงบรรยายภาพเห็นภาพไดอยางดีย่ิง

เรื่องรัตนาวดี ผูแตงทรงบรรยายภาพประเทศยุโรปไดอยางดีย่ิง ทําใหผูอาน

สามารถจินตนาการเห็นภาพในขณะท่ีอาน ผูอานจะมองเห็นภาพทิวทัศนของประเทศ

ตางๆในยุโรปทั้งประเทศอังกฤษ ฝรั่งเศส สวิสเซอรแลนด เยอรมัน ลิกเตนสไตน

อิตาลี ไดเห็นสภาพชีวิตความเปนอยูของผูคนที่ผูแตงทรงบรรยายไดอยางดีย่ิง

เหมือนกับวาผูอานไดติดตามตัวละครทองเที่ยวไปยังสถานที่ตางๆดวย ยกตัวอยางเชน

ตอนทีท่ั้งหมดไดเดินทางออกจากเมือง Luzern มายังเมือง Engelberg สองขางทางมี

ความสวยงามเปนอยางย่ิงดังที่หมอมเจารัตนาวดีกลาวชมวา ทิวทัศนสวยงามเหมือนกับ

ภาพในโปสการด สองขางทางที่ผานเต็มไปดวยดอกไมสีสวยๆ เมื่อถึงเมือง Engelberg

Page 87: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

78

ผูแตงบรรยายภาพน้ําตกเล็กๆ ที่มีน้ําใสและน้ําเย็นมาก และมีดอกไมปาหลากสี

สวยงาม

ตอนเชาวันรุงขึ้นจากคืนนั้นเราก็มา Luzern อีกวันหนึ่ง คือวันนี้

ตอนสายก็น่ังรถออกจาก Luzern ขึ้นเขาตรงมาท่ีนี่ คณะเก็จกํางงไมไดมาดวย

เพราะเขาไปเท่ียวกันจนดึกเลยต่ืนสาย เราออกไปต้ังแตเขายังไมลงมากัน

นัยวาเราจะแยกทางกันเสียที เขาจะไปปารีส ฝายเรากลับโลซาน เราคือ

คุณสรอย นองหญิง กับ นายเล็กคนขับรถตามเคย นองหญิงนั่งขรึมอยูกับ

คุณสรอยขางหลังรถ แตแลวก็ทําขรึมตอไปไมไหว ทางสวยเหลือเกิน นองหญิง

บอกวาเหมือนโปสตการดสี ดอกไมทุง ดอกไมปาเต็มไปทุกหนทุกแหง

เราไปถึง Engelberg * ก็เอาผาปูบนเนินเขาใตตนไม ไมหางจากน้ําตกเต้ียๆซึ่ง

ไหลจอกๆเปนลําธารใสแจวและเย็นเจี๊ยบนัก เรานั่งกินปกนิกซึ่งทางโฮเต็ล

Luzern จัดใสถุงมาใหคนละถุงจนอ่ิมหนําสําราญแลว หมอมก็งัดเครื่องมือ

ประจํารถ คือเตาเมตาของหมอมออกมาตมกาแฟกินกัน ใชน้ําใสในลําธาร

นั้นเองตม รสชาติรูสึกวาอรอยกวากาแฟทั้งหลายที่ไดกินมาทั้งสิ้น พอกินเสร็จ

คุณสรอยก็นั่งพิงกอนหินหลับตา ฟงเสียงน้ําไหลและนกรอง นองหญิงลุกขึ้นไป

เก็บดอกไมปาสีตางๆแถวนั้น ในท่ีสุดก็ลงไปเดินทองน้ําเย็นเจี๊ยบเลนในลําธาร

หมอมนึกถึงเรื่องอิเหนาขึ้นมาได (อิเหนาอีกแลว!ทานคงวา) ก็ไปเที่ยวเก็บ

ดอกไมสีตางๆไดหอบใหญแลวเด็ดกานเหลือแตดอกยองไปทางตนน้ํา 83

* อานวา เอิงเกิลแบก

ยกตัวอยางอีกตอนหนึ่งท่ีแสดงใหเห็นภาพของปราสาทชื่อวา ปราสาท Castello

bel Sole ที่เมือง Ascona ไดบรรยายปราสาทที่สวยงามและปราสาทแหงนี้ได

กลายเปนโรงแรมที่พัก และไดบรรยายภาพเมืองวามีความสวยงาม หมอมเจารัตนาวดี

เขียนจดหมายเลาใหปริศนาพี่สะใภฟงวาเปนที่ที่สวยงามที่สุดอีกแหงหนึ่งทีเดียว ผูแตง

บรรยายวาเมือง Ascona มีทะเลสาบสีสวย ตามไหลเขามีบานสวยหลายหลังต้ังอยู และ

เห็นภาพถนนเปนทางคดเค้ียวขึ้นไป มีดอกไมสีสวยสดใสเต็มภูเขา มองเห็นเมือง

83

ว. ณ ประมวญมารค, รัตนาวดี, พิมพคร้ังท่ี 1 , ( กรุงเทพฯ :นานมีบุคสพับลิเคชั่นส , 2548) ,

หนา 143 - 144.

Page 88: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

79

Locarno ซึ่งอยูเมืองตรงขาม ในยามคํ่าคืนเมือง Locarno จะเปดไฟสวางไสวไปท่ัว

ทั้งเมืองอยางสวยงาม

จดหมายหมอมเจารัตนาวดี ถึงหมอมปริศนา พ่ีสะใภ

Castello bel Sole

Ascona

วันท่ี 6 กรกฎาคม

คุณปริศนาท่ีรักย่ิง

หญิงไดมาอยูในที่ท่ีสวยที่สุดอีกแหงหนึ่งแลว โฮเต็ลของเราชื่อวา

“ปราสาทพระอาทิตย” เกไหมคะ? ชื่อเสียงยังกับเทพนิยาย เมืองนี้ชาง

นาเอ็นดูเหลือเกิน มีทะเลสาบสีแปรด มีบานสวยๆอยูตามไหลเขา มีทาง

คดเค้ียวขึ้นไป ดอกไมสีสดเต็มไปทุกหนทุกแหง เมือง Locarno อยูตรงกันขาม

กับเมืองน้ี กลางคืนมองไปเห็นเมือง Locarno จุดไฟพราวราวกับเฉลิม เมืองน้ี

คนสบายใจรองเพลงกันทั้งเมือง เสียงเพราะยังกับรองโอเปราโดยมาก 35

84

หมอมเจารัตนาวดีเขียนจดหมายถึงหมอมเจาพจนปรีชา เลาใหฟงวาทะเลสาบ

Leman ของประเทศสวิสเซอรแลนด สีน้ําทะเลสาบสดใสเหมือนกับภาพในโปสตการด

และเห็นภูเขา Mont Blanc อยูไกลๆ หลังจากออกจากเมือง Evian ซึ่งเปนเมืองน้ําแร ก็ได

เดินทางตอไปทาง Montreux แลวขึ้นเขา หมอมเจารัตนาวดีเลาใหฟงวา ทางสวยมาก

ดอกไมปาสีตาง ๆ ขึ้นเต็มทุง ทุงดอกนาซิสซัสบนเขาท่ีเรียกวา Les Pleiades มี

ดอกไมขึ้นเต็มไปหมดบนภูเขาทุกลูกจนสุดลูกหูลูกตา ดอกไมสงกลิ่นหอมมาแตไกล

มองดูไกลๆ ดอกไมสีขาวนี้เหมือนหิมะปกคลุมภูเขาอยู ดอกฟอรเกตมีนอตก็ขึ้นเต็มไป

หมด ออกดอกเปนสีฟาสีสวย

84 เร่ืองเดียวกัน, 165.

Page 89: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

80

จดหมายจากหมอมเจารัตนาวดี ถึงหมอมเจาพจนปรีชา

กรุงเทพฯ

Geneva

วันท่ี 23 พฤษภา

ทูลเจาพ่ีทรงทราบ

เวลาน้ีหญิงกําลังน่ังอยูริมทะเลสาบ Leman * แหม สีมันชาง

สวยสดงดงามอยางกับรูปโปสตการดสี ภูเขา Mont Blanc ก็เห็นไดชัดจาก

ที่น่ีถาอากาศดี ต้ังแตเรามาก็เผอิญอากาศดีขึ้นเรื่อยเสียดวย หญิงเลยชัก

ติดใจอยากจะไปดู Mont Blanc ใกล ๆ อีกหนอย เห็นจะตองไปคางท่ี

Chamonix สักคืน ๒ คืน จะไดดูใหพอใจ

………………………………………………

เมื่อผาน Evian ใหปาไดชมเมืองนํ้าแรของปา แลวเราก็เขาเมือง

สวิสอีกไปทาง Montreux แลวขึ้นเขาทางสวยมากดอกไมปาสีตาง ๆ ขึ้น

เต็มทุง หญิงขอใหนายเล็กหยุดรถเพื่อหญิงจะไดว่ิงลงไปเก็บดอกไม ๒-๓ ครั้ง

เด๋ียวนี้ไมวาหญิงไปไหนตองมีกระปองเล็ก ๆ ใสน้ํามาในรถดวย สําหรับแช

ดอกไมท่ีเก็บไดกลางทาง ไปถึงโฮเต็ลจะไดไมเหี่ยวแหง

นายเล็กขับรถพาเราไปเที่ยวทุงดอกนาซิสซัสบนเขาที่เรียกวา Les

Pleiades แหมเจาพี่คะ ต้ังแตเกิดมาหญิงยังไมเคยเห็นดอกไมอะไรมากมาย

อยางนี้ เต็มเขาทุกลูกก่ีสิบลูกตอก่ีสิบลูก จนสุดลูกหูลูกตา สงกลิ่นหอม

แตไกล มองดูไกล ๆ ขาวเต็มไปหมดเหมือนสโนว มันขึ้นของมันเองตาม

ธรรมชาติ บานอยูไมก่ีวันก็หมดไปโชคดีเหลือเกินที่ไดมาเห็น หญิงว่ิงขึ้นเขา

ลงเขาเก็บจนเต็มออมแขน แตนายเล็ก สอนวาตองเก็บดอกตูม ๆ ถึงจะดี

อีก ๒-๓ วันมันก็จะบานเต็ม แลวอยูทน ที่น่ัน ดอกฟอรเกตมีนอตก็ขึ้นเต็มคะ

ออกดอกเปนสีฟาไปทั้งนั้น นารักเหลือเกิน หญิงเก็บจนเต็มออมแขน

เหมือนกัน มันขึ้นเปนดอกหญาเทียว ที่กรุงเทพฯ เราตองถนอมกันแทบแย

กวาจะออกดอกมาใหดูกันสักนิด เวลานี้หญิงสนใจใจดอกไมเมืองฝรั่ง

มากมาย ถึงแกลงทุนซื้อหนังสือเลมหน่ึงชื่อ “ดอกไมแหงภูเขาแอลป” เปน

ตําราดอกไมตาง ๆ เลมละต้ัง ๑๕ ฟรังก ทีนี้พอเห็นดอกอะไรเปดตําราดูเปน

Page 90: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

81

รูจักชื่อหมด แตโดยมากเปนชื่อละตินยืดยาวอาน ๕ หนยังจําไมได เชน ดอก

Edelweiss ** ฝรั่งเศสเรียกวา “Etoile d’ Argent” แตหนังสือของหญิงเรียกวา

Leontopodium alpinum เปนตน บางทีหญิงก็ไปเก็บดอกอะไรมาสีแดง ๆ

สวยดีไปเปดตําราดูไดความวาชื่อดอก Hedysarum obscurum เลย

หมดความสนใจ! เคราะหดีที่นายเล็กรูชื่อดอกไมตาง ๆ เปนภาษาอังกฤษบาง

เชน ดอกแพนซีปา *** ในตําราเรียกวา Viola cenisia หญิงก็งงเตก

จนกระท่ังนายเล็กบอกวา แพนซีปาเราน่ีเอง ก็เลยพอเขาใจ 85

* เรียกอยางอังกฤษวา ทะเลสาบเจนีวา

** อานวา เอเดิลไวซ เปนสัญลักษณของดอกไมแอลไพนท้ังหลาย ดอกเปนแฉก ๆ กลีบคลาย

สําลี ขึ้นอยูขางซอกหินบนยอดเขาสูง ๆ ตองเปนนักไตเขาจึงจะเห็นดอกไมชนิดน้ีขึ้นอยูตามถิ่นของมัน

*** ปา ในท่ีน้ีหมายถงึ wild คือ ชนิดท่ีขึ้นเองตามธรรมชาต ิ

2.2.2 การเปรียบเทียบวัฒนธรรมไทยกับตะวันตกเพ่ือเขาใจความเหมือน

และความตางของสองวัฒนธรรม

ในเรื่องรัตนาวดี ผูแตงทรงมีการเปรียบเทียบวัฒนธรรมระหวางของไทยและ

ตะวันตกในบางตอน โดยการเปรียบเทียบสิ่งของที่มีอยูในสองวัฒนธรรม บางอยาง

อาจจะไมเหมือนกันอยางสิ้นเชิง แตก็เปนสิ่งท่ีคลายกัน ในเรื่องรัตนาวดีไดกลาวถึงละคร

กลางแจงที่เมืองฝรั่งแสดง ตัวละครกลาววาก็เหมือนกับโขนกลางแปลงของไทย นํ้าหอม

ซึ่งผูแตงทรงเรียกวาน้ําอบ โรงนาของตะวันตกซึ่งตัวละครในนวนิยายกลาววามี

ความคลายคลึงโรงนาของเมืองไทย และรองเทาไมหรือเก๊ียะที่คนจีนในเมืองไทยนิยมใส

ที่เมืองฝรั่งก็มีรองเทาไมดวยเชนกัน ดังนี้

ละครกลางแจง

หมอมเจารัตนาวดีเขียนจดหมายถึงปริศนาพี่สะใภ เลาใหฟงวาไดมาดูละคร

เรื่องโรมิโอและจูเลียต ตัวละครแสดงความคิดเห็นวา ละครที่เลนน้ีเปนละครท่ีแสดง

กลางแจงมิไดเลนภายในอาคาร จึงมีลักษณะที่คลายกับการเลนโขนกลางแปลงท่ีเลน

กลางแจงเชนเดียวกัน หมอมเจารัตนาวดีเลาใหฟงวามีคนชมละครเยอะมาก คนเขาคิว

85

เร่ืองเดียวกัน, หนา 79 – 80.

Page 91: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

82

เพื่อซื้อต๋ัวชมละครเปนแถวยาว ทุกคนแสดงไดดีท้ังหมดและพูดชัดมาก ทําใหประทับใจ

การแสดงครั้งนี้มาก

ตอนทุมครึ่งเราไปดูละครเรื่องโรมิโอและจูเลียต หญิงจําไดวาเมื่อ

คุณปริศนามากับเจาพี่ คุณปริศนาดูเรื่อง Hamlet คืนหนึ่ง และ The Winter

‘s Tale อีกคืนหน่ึง เพราะคุณปริศนามาคางอยู ๒ คืน คุณปริศนาคงนึกภาพ

Shakespeare ‘s Memorial Theatre ซึ่งทําคลายละครกลางแจงที่เลน

เมื่อครั้งเชกสเปยรได หญิงวามันก็ทํานองเดียวกับโขนกลางแปลงของเรา

แหละคะ คืนท่ีหญิงมาดูก็คงเหมือนคืนท่ีคุณปริศนามา คนแนนตามเคย ตอง

เขาคิวยาวตีต๋ัว ปาเหนื่อยไมอยากจะดูแตหญิงจะไปใหไดก็จําตองไปดวย

ไมยอมใหหญิงไปกับนายเล็กตามลําพัง ไปถึงไปนั่งโงกหงุบๆ นานๆ ต่ืนขึ้นดู

เสียที สวนหญิงติดใจแทบแย เลนดีทุกตัวและพูดชัดจัง 86

นํ้าหอมของฝร่ัง

วันนี้นายเล็กพาเราไปซื้อของ เชนน้ําอบและเสื้อผา เขาแนะนําวา

น้ําอบของ Caron ชื่อ Bellodgia คงจะสมกับผูหญิง หญิงลองดมดูก็ติดใจ

เลยลองซื้อไปขวดหน่ึง ใชไปใชมาเกิดชอบ ตกลงใชเปนน้ําอบประจําตัวแลว

เลยตองมีแปงผัดหนา โลชั่น และโอเดอตัวเล็ตเขาชุด เสียสตางคใหญเลย

สวนปาไมสนใจของหอมๆ ในฝรั่งเศส สนใจแตเสื้อผา ซื้อเสื้อไดตัวหนึ่ง

สวยมาก 87

ผูแตงทรงใชคําวา น้ําอบ เรียกนํ้าหอมของฝรั่ง ไทยมีน้ําหอมแบบไทยซึ่งมีทั้ง

น้ําอบ น้ําปรุง ที่ใชกันมาต้ังแตสมัยโบราณ เมื่อผูแตงทรงใชคําวา นํ้าอบ ทําใหผูอาน

ในสมัยน้ันซึ่งบางคนอาจจะยังไมรูจักนํ้าหอมของฝรั่ง เพราะยังไมไดใชกันอยางแพรหลาย

เชนในปจจุบัน ไดทราบวาน้ําหอมของฝรั่งก็มีกลิ่นหอมคลายน้ําอบที่มีกลิ่นหอมของไทย

นั่นเอง หมอมเจารัตนาวดีซื้อนํ้าอบของฝรั่งและชอบน้ําอบน้ีมาก

86

เร่ืองเดยีวกัน, หนา 29. 87

เร่ืองเดียวกัน, หนา 36.

Page 92: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

83

โรงนาท่ีประเทศฝร่ังเศส

หมอมเจารัตนาวดีและปาสรอยตองมานอนอยูโรงนาท่ีประเทศฝรั่งเศส เพราะ

มีผูที่กลั่นแกลงนายเล็กหรือหมอมเจาดนัยวัฒนาและหมอมเจารัตนาวดีโดยการแอบสูบ

น้ํามันออกจากรถทําใหนํ้ามันหมดกลางทางในหมูบานซึ่งเปนชนบทของประเทศฝรั่งเศส

นายเล็กหรือหมอมเจาดนัยวัฒนาไดหาที่พักเปนบานของชาวนา หมอมเจารัตนาวดีและ

ปาสรอยไดมานอนอยูในโรงนาซึ่งเมื่ออานแลวก็คลายกับโรงนาในชนบทของไทย ท้ังสอง

คนนอนบนกองฟาง ปาสรอยซึ่งเปนพี่เลี้ยงดูแลหมอมเจารัตนาวดีกลาววา โรงนา

เมืองไทยยังไมเคยนอน แตตองกลับมานอนโรงนาของประเทศฝรั่งเศส ในนวนิยาย

กลาวถึงตัวละครท้ังสองคนดังน้ี

ในที่สุดนายเล็กก็หาที่พักใหเราจนได ตาชาวนายอมใหเราไปนอนพัก

ที่โรงนาของแก พอลมตัวลงนอนหญิงก็แทบจะหลับทันทีดวยความเหนื่อยออน

กอนหลับ ไดยินเสียงปาสรอยบนพึมพําวา “เออเจาประคุน เกิดมาจาก

ทองพอทองแมก็ไมเคยนอนกลางดินกินกลางทรายอยางนี้” ประเด๋ียวก็ไดยิน

เสียงสวด อิติปโส

พอหญิงรูสึกตัวต่ืนขึ้นมาก็เปนเวลาเชาแลว หญิงลืมไปสนิทถึงเรื่อง

เมื่อคืนน้ี ลืมตาขึ้นพบตัวเองนอนอยูบนกองฟางก็ตกใจ นึกวาฝนไป เปนนาน

จึงนึกขึ้นไดวาไมไดฝน นอนอยูในโรงนาเมืองฝรั่งเศสจริงๆ จึงรีบลุกขึ้นน่ัง

ดวยความประหลาดใจ เห็นปานอนทั้งเสื้อโอเวอรโคตหลับฟอยูขางๆ ก็เลย

คอยๆลุกออกไปขางนอกพบนายเล็กเอารถจอดคอยอยูใกลโรงนา พอต่ืนกันก็

จะไปไดทันที นายเล็กไดล่ําลาชาวนาและใหคาปวยการแกเรียบรอยแลว

ไดความวานายเล็กแทบไมไดนอนท้ังคืน พอพาเรามาสงท่ีโรงนาแลวก็กลับไป

ด่ืมเหลาองุนคุยกับตาชาวนา คอยลูกชายคนโตของแกอยูกวา ๒ ยาม ตานั่น

จึงกลับมา นายเล็กจึงขี่หลังรถมอเตอรไซคบุโรท่ังของแกเขาในเมือง Amboise

ซื้อน้ํามันมาดวยปบหน่ึงไปเติมรถแลวก็ขับรถมาที่น่ี น่ังเอนๆอยูในรถครูเดียว

ก็พอดีเชา

หญิงยังขันปาไมหาย ขณะที่น่ังรถไปจากบานชาวนาเชาวันนั้น

ปาน่ังกมหนากมตาดึงฟางออกจากเสื้อคลุมที่ละเสน ไมเอาใจใสกับอะไรอ่ืน

หญิงจึงถามวา “นอนสบายไหมคะปาเมื่อคืนนี้?”

ปาเงยหนาขึ้นทําตาเขียวกับหญิง แลวตอบวา “สบาย ฮึ!”

Page 93: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

84

“เอะ ไมสบายดอกหรือคะปา?” หญิงถามอยางประหลาดใจ

“จะสบายเสบยอะไรกัน หลับเสียเมื่อไหรละ!”

“อาว นอนไมหลับทําไมกรนละคะปา?” หญิงแกลงเยา

ปาทําคอแข็งตอบอยางโกรธจัดวา “จะไมกรนไดยังไงละ เหน่ือย

แทบจะสิ้นชีวิต มีอยางรึ อยูดีไมวาดีตองลุกขึ้นมาเดินทางไกลกลางดึก

หนาวจนชาไปทั้งตัว แลวยังตองนอนฟาง อยางกับวัวอยางกับควาย โรงนา

ในไทยเรายังไมเคยอยู ไพลมาอยูโรงนาเมืองฝรั่ง ฮึ!” แลวก็คอนหญิงเสียวง

เบอเรอ

ดูเถอะคะเจาพี่ ปาเปนเสียเชนนี้เจาพี่จะวาอยางไร? หญิงขันเต็มที

ก็หัวเราะออกมาดังๆ สวนนายเล็กรูสึกวากลั้นหัวเราะเสียแทบแย 88

แกวเบียรท่ีใชดื่มเบียรของชาวเยอรมัน

ชาวเยอรมันไดชื่อวาเปนชนชาติที่ชอบด่ืมเบียรมากที่สุดในโลก แกวท่ีใชด่ืมเบียรของ

ชาวเยอรมันจึงมีขนาดใหญมาก ผูแตงทรงเรียกวา “ ถวยเบียรใหญยังกับโอง ” ซึ่งเปน

ความเปรียบแบบงายๆ ที่ทําใหเห็นภาพไดวา แกวเบียรมีขนาดใหญกวาแกวขนาดธรรมดา

ทั่วไปมาก

เราทั้ง 2 คนเปนผูแตงตัวโกที่สุดในราน นองหญิงแตงชุดสีกรมทา

ซึ่งซื้อมาจากราน CHANEL ที่ปารีส กลัดเข็มกลัดเพชรเปนรูปเกือกมาอัน

เล็กๆ งามไปทั้งองค หมอมไมสามารถจะถอนสายตาไปจากเธอได เรานั่ง

ตรงกันขามโตะซึ่งไมไดปูผา เครื่องใชลวนแตเปนของชาวบานแตสะอาด

สะอาน ถวยเบียรใหญยังกับโอง แสงไฟสลัวๆ สองไปที่พักตรนองหญิง ทําให

เห็นเงาขนเนตรที่ปรางทั้งสองขาง ทําไมเธอนารักเชนนี้หนอ อรชรออนแอนไป

ทั้งองค ย่ิงพิศก็ย่ิงเพลิน 40

89

88

เร่ืองเดียวกัน, หนา 54-55. 89

เร่ืองเดียวกัน, หนา 103 – 104..

Page 94: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

85

กลิ่นของเนยแข็ง

ผูแตงไดทรงเลาใหฟงวา กลิ่นของเนยแข็งมีกลิ่นแรงมากเพียงใด ผูแตง

ทรงใหหมอมเจารัตนาวดีเขียนจดหมายเลาใหปริศนาฟงวา ไดไปเที่ยวที่เมือง

Appenzell ประเทศเยอรมัน และไดเขาไปรานเนยแข็ง

คนเมืองน้ีสุขภาพดีจัง แกมแดงกลมโดยมาก เห็นจะเปนเพราะ

หนาหนาวหนาวจัด และมีอาหารดีๆ เชน นม เนย กินมากมาย มีโรงทํา

เนยแข็งหลายแหง เราเขาไปรานหนึ่งตองผานที่เก็บเนยแข็งกอนโตเทาหินโม

อันใหญๆ ต้ังเรียงไวเปนแถวเต็มหอง สงกลิ่นรายแรงเหลือเกิน ตลาดทุเรียน

และปลาราของเราออกจะแพๆ ไมทันรูตัวโผลก๊ักเขาไปลมแทบใสแนะคะ เรา

เลยขอดูวิธีทํา เขาก็พาไปใหดู ต้ังแตเกิดมาไมเคยเห็นครีมมากเทาวันนี้

ถังใหญเปนถังๆ มีพอสําหรับทุกคนลงอาบแชในอาง 90

หมอมเจารัตนาวดีไดกลาววา กลิ่นของเนยแข็งสงกลิ่นรายแรงมาก และได

เปรียบเทียบอาหารที่มีกลิ่นแรงมากๆ ของไทยคือทุเรียนและปลารา ทุเรียนและปลารา

ของไทยที่มีกลิ่นแรงมาก แตก็ยังแพกลิ่นของเนยแข็งของชาวตะวันตก ทําใหคนไทย

ในยุคสมัยของผูแตงที่อาจจะยังไมรูจักเนยแข็ง ไดทราบวากลิ่นของเนยแข็งนี้มีกลิ่นที่

แรงมาก กลิ่นแรงกวาทุเรียนและปลาราของไทยเสียอีกดังที่ตัวละครไดกลาวไว

รองเทาท่ีเรียกวาเกี๊ยะฝร่ัง

ที่ประเทศอิตาลี หมอมเจารัตนาวดีเขียนจดหมายถึงปริศนา เลาใหฟงวาเมือง

Ascona เปนเมืองท่ีคนชอบรองเพลงกันท้ังเมือง และเปนเมืองที่ตองการจะทําสิ่งใด

ก็ทําไดตามใจชอบ และหมอมเจารัตนาวดีไดกลาวถึงเก๊ียะฝรั่งวา

เมืองน้ีเปนเมืองที่กวี นักประพันธ ศิลปน และคนประหลาดๆ

ชอบมาอยู เปนเมืองที่ฟรี ไมมีการทําเปนระเบียบแบบแผน ใคร

อยากจะทําอะไรก็ทําไดตามใจชอบ ................ใครชอบใจจะแตงตัวอยางไร

ก็ไมมีใครวา จะสวมกางเกงสั้นไมใสรองเทา หรือจะสวมเสื้ออาบน้ํา

90

เร่ืองเดียวกัน, หนา 113.

Page 95: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

86

ตัวเดียว เดินลากเก๊ียะโครมๆ มาซื้อของกลางเมือง ท่ีเรียกเก๊ียะนี้ไมใชวา

เก๊ียะจีนแตเปนเก๊ียะฝรั่ง เปนไมรูปรางคลายเก๊ียะที่เราใสๆ แตแบบเกกวา 91

หมอมเจารัตนาวดีเลาวาเมืองนี้เปนเมืองท่ีทุกคนสามารถทําทุกสิ่งไดตามใจชอบ

จะสวมเสื้อผาอยางไรก็ได และเลาวาจะใสเก๊ียะซึ่งเปนรองเทาไมใสสบายๆ มาซื้อของ

กลางเมืองซึ่งมีผูคนมากมายก็สามารถทําได และไดเลาวาเก๊ียะของเมืองฝรั่งก็เหมือนกับ

เก๊ียะแบบจีนที่ใสในเมืองไทย แตวาเก๊ียะของเมืองฝรั่งจะดูสวยเกกวา ทําใหผูอานที่

ไมเคยเห็นเก๊ียะของฝรั่งจินตนาการเห็นภาพและทราบวา เก๊ียะแบบฝรั่งและเก๊ียะ

แบบจีนที่ใสในเมืองไทยทําจากไมเหมือนกัน แตการออกแบบอาจจะแตกตางกันไปบาง

ว. ณ ประมวญมารคทรงบรรยายภาพไดเหมือนจริง ทําใหผูอานเมื่อไดอานแลว

เหมือนกับวาไดติดตามผูแตงไปสถานที่นั้นดวย และผูอานไดเปรียบเทียบสิ่งที่มีอยูใน

วัฒนธรรมตะวันตกกับสิ่งที่มีอยูในเมืองไทยของเราเพื่อใหผูอานที่อาจจะยังไมรูจักสิ่งนั้น

เนื่องดวยยังเปนสิ่งใหมสําหรับคนไทยในสมัยน้ัน ไดเห็นภาพสิ่งของในจินตภาพไดอยาง

ชัดเจนมากย่ิงขึ้น

เรื่องนิกกับพิมเปนนวนิยายที่สรางความประทับใจใหกับคนอานดวยมิตรภาพอัน

บริสุทธิ์ของคนและสุนัข ซึ่งเปนหัวใจสําคัญของเรื่องนิกกับพิม ทําใหผูอานเกิด

ความรักและมอบความรักนี้ใหกับเพื่อนมนุษยและเพื่อนรวมโลก ผูแตงทรงใสความคิด

ความรูสึกของสุนัขในนวนิยาย สรางความเพลิดเพลินและสรางรอยย้ิมใหแกผูอาน และ

ทําใหผูอานไดมุมมองความคิดที่ทําใหเขาใจสุนัขเพิ่มมากขึ้น และดวยกลวิธีการแตงที่

เปนรูปแบบจดหมายนี้เปนสิ่งสําคัญที่ชวยคลี่คลายปมปญหาที่ผูแตงทรงผูกปมเรื่องไว

ต้ังแตตอนตน และจดหมายที่นิกกับพิมเขียนจดหมายถึงกันนี้จะชวยเฉลยทีละนอย

ไดอยางนาสนใจ และเรื่องรัตนาวดีซึ่งเปนนวนิยายรูปแบบจดหมายนําผูอานสูโลก

จินตนาการทองเที่ยวยุโรป ผูแตงทรงบรรยายไดอยางดีย่ิงทําใหผูอานเหมือนไดทองเที่ยว

ไปในดินแดนที่สวยงามพรอมกับผูแตง และผูแตงทรงกลาวเปรียบเทียบเพื่อใหผูอานได

เขาใจสิ่งของที่มีอยูในยุโรป เนื่องดวยเมื่อประมาณเกือบ 60 ปที่แลว ของสิ่งนั้นอาจยัง

เปนสิ่งของที่ใหมสําหรับคนไทยเชน นํ้าหอมของยุโรป ผูแตงทรงเรียกวา นํ้าอบ ซึ่งเปน

91

เร่ืองเดียวกัน, หนา 166.

Page 96: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

87

สิ่งของของไทย ท้ังหมดนี้กลาวไดวาเปนพระอัจฉริยภาพของผูแตงที่ทรงสรรคสรางไวใน

เรื่องนิกกับพิมและเรื่องรัตนาวดี

Page 97: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

88

บทท่ี 3 วัฒนธรรมตะวันตกในเร่ืองนิกกับพิมและเร่ืองรัตนาวดี

เรื่องรัตนาวดีแตงในป พ.ศ. 2496 สวนเรื่องนิกกับพิมไมสามารถคนหาปที่

พิมพครั้งแรกได ผูแตงไดทรงเลาถึงวัฒนธรรมตะวันตกในนวนิยายท้ังสองเรื่อง เรื่องนิก

กับพิม พิมอยูกับนายผูหญิงที่ประเทศสวิสเซอรแลนด พิมไดเลาชีวิตความเปนอยู

ของตนและครอบครัวตามที่อยูท่ีพิมเขียนในจดหมายวา ที่บานบนเขาซูริชแบรก และ

เรื่องรัตนาวดีเปนการเลาเรื่องการเดินทางทองเท่ียวยุโรปของหมอมเจาดนัยวัฒนาและ

หมอมเจารัตนาวดี ทําใหผูอานไดมองเห็นภาพทิวทัศนบรรยากาศของประเทศในยุโรปทั้ง

ประเทศอังกฤษ ฝรั่งเศส สวิสเซอรแลนด เยอรมัน ลิตเตนสไตน ประเทศที่เล็ก

ที่สุดในยุโรป และ อิตาลี ผูอานไดเห็นภาพวิถีชีวิตความเปนอยูของผูคนในยุโรปทั้ง

เรื่องอาหารการกิน การแตงกาย ที่อยูอาศัย การรักษาโรค การละคร ฯลฯ ผูอานซึ่ง

อยูในปปจจุบัน พ.ศ. 2554 ก็จะไดเห็นภาพชีวิตความเปนอยูของชาวยุโรปเมื่อเกือบ

60 ปที่แลว ซึ่งผูแตงไดทรงถายทอดความรูสูนวนิยายทั้งสองเรื่องนี้ไดอยางสละสลวย

ไปกับเนื้อเรื่องนวนิยายที่นาติดตาม

เรื่องนิกกับพิม ความรักและมิตรภาพของนิกกับพิม นิกท่ีอยูเมืองไทย

และพิมที่อยูท่ีประเทศสวิสเซอรแลนด และความรักท่ีเริ่มตนดวยความเขาใจผิดของพิเชฐ

และมนทิรา เรื่องรัตนาวดี ความรักของหมอมเจาดนัยวัฒนาและหมอมเจารัตนาวดี

ความรักของหมอมเจาดนัยวัฒนาที่ปลอมตัวเปนนายเล็กมหาดเล็กผูตํ่าตอย ผูเปนเพียง

คนขับรถและผูนําเที่ยวพาหมอมเจารัตนาวดีและปาสรอยเดินทางทองเท่ียวไปยังสถานที่

ตางๆ ที่สวยงามของทวีปยุโรป ผูอานไดรับทั้งความรูและความเพลิดเพลินใน

นวนิยายเรื่องนิกกับพิมและเรื่องรัตนาวดี กลาวไดวาเปนพระอัจฉริยภาพของ ว. ณ

ประมวญมารคที่ทรงเลาความรูตางๆ พรอมกับความเพลิดเพลินของเน้ือเรื่องนวนิยาย

วัฒนธรรมตะวันตกที่ปรากฏในนวนิยายเรื่องนิกกับพิมและเรื่องรัตนาวดี

มีดังตอไปนี้

3.1 สภาพภูมิประเทศ

3.2 อาหารยุโรป

3.3 การแตงกาย

3.4 สถาปตยกรรม

3.5 การรักษาโรค

Page 98: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

89

3.6 การแสดง การละคร

3.7 ผลิตภัณฑท่ีมีชื่อเสียงของเมือง

3.8 การพักผอน

3.9 ประเพณีของชาวสวิสเซอรแลนด

3.1 สภาพภมูิประเทศ

เรื่องนิกกับพิม เจานายของพิมคือมนทิราอยูท่ีประเทศสวิสเซอรแลนดตามที่อยู

ที่พิมเขียนในจดหมายวา ที่บานบนเขาซูริชแบรก พิมเลาใหนิกฟงวา เมืองท่ี

พิมอยูเปนอยางไรบาง และพิมเลาใหนิกฟงวาหิมะหรือสโนวเปนอยางไร เพราะตอนที่

นิกกลับมาเมืองไทยพรอมกับพิเชฐเจานาย นิกยังเล็กมากจึงจําไมไดวาหิมะเปนอยางไร

พิมจึงเลาใหนิกฟง

เรื่องรัตนาวดี หมอมเจาดนัยวัฒนา หมอมเจารัตนาวดี และปาสรอยพี่เลี้ยงได

เดินทางทองเที่ยวยุโรป โดยหมอมเจาดนัยวัฒนาไดปลอมตัวเปนมหาดเล็กของพระองคที่

ชื่อวา นายเล็ก เนื่องดวยหมอมเจารัตนาวดีเขาใจผิดต้ังแตแรกวา หมอมเจาดนัยวัฒนา

คือนายเล็ก และตัวละครเอกฝายชายก็ไมตองการใหตัวละครเอกฝายหญิงตองอายท่ี

เขาใจผิดเชนน้ัน จึงปลอมตัวเปนมหาดเล็กเรื่อยมา หมอมเจาดนัยวัฒนาหรือนายเล็กได

พาหมอมเจารัตนาวดีและปาสรอยเดินทางทองเท่ียวในยุโรปโดยรถยนต ท้ังประเทศ

อังกฤษ ฝรั่งเศส สวิสเซอรแลนด เยอรมัน ลิตเตนสไตน ประเทศที่เล็กที่สุดในยุโรป

และอิตาลี

เรื่องนิกกับพิม พิมเลาใหนิกฟงวา บานของพิมและเมืองที่พิมอยูที่บานบนเขา

ซูริชแบรก มีปาสน ปาบนเขามีตนไมและดอกไมท่ีสวยงาม และยังมีกระตายปา กวาง

อีกดวย

ที่บนเขาซูริชแบรกนี้มีปาสนที่นาดูมาก เวลาฤดูใบไมผลิมีดอกไมที่ขึ้น

เปนกลุมหนาปลอยใหเกสรของมันติดตามขนของฉัน มีเสียอยูอยางเดียว

การกระทําเชนน้ัน เวลากลับไปบานโดนนายผูหญิงแปรงขนแทบแยจนแสบ

ไปท้ังตัว

ในปาบนเขาเล็กลูกน้ี นอกจากมีตนไมสวย ดอกไมปาทิวทัศนงดงาม

(ตามที่นายผูหญิงวา ไมใชฉัน) แลวยังมีกระตายปาและกวางอีกดวย ฉันไมสู

Page 99: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

90

ชอบกวางนัก แตฉันอยากว่ิงไลกระตายปาใจจะขาด แตไมสามารถที่จะทําได

เพราะที่น่ีมีกฎหมายวาหมาที่ขึ้นมาบนเขานี้จะตองมีเจาของจูงตลอดเวลา

มิฉะนั้นจะถูกปรับอยางหนัก 92

พิมไดเลาถึงตอนฤดูใบไมรวง ใบไมเปนสีตางๆ เชน สีแดง สีเหลือง สีน้ําตาล

เมื่อถึงฤดูใบไมผลิ อากาศจะเริ่มเย็นสบาย ไมหนาว หิมะในสวนละลาย และหิมะ

จะยังคงมีแตตามภูเขา

แกนะเฮี้ยวเกงออก เพียงแตโดนแมสาวขางบานเรียกไอหนูเทานั้น แก

ก็ดึงเขาจนตัวปลิวเปนวาวทีเดียว ฉันเขาใจความหมายของแกดีเรื่องวาว ฉันก็

รูจักวาวเหมือนกันเพราะเด็กผูชายที่เมืองนี้ชอบเลนวาว แตเลนตอนฤดูใบไม

รวง คือเวลาใบไมกลายเปนสีตางๆ เชน สีแดง สีเหลือง สีน้ําตาล หนานี้

เขาไมไดเลนกัน เพราะเวลานี้เปนเวลาฤดูใบไมผลิ

ถูกแลวเวลาน้ีเปนฤดูใบไมผลิ หิมะในสวนละลายหมดแลว อากาศก็

ไมสูหนาวอยางแตกอน หิมะขาวอยูแตตามภูเขาเทานั้น 44

93

พิมไดเลาใหนิกฟงวา หิมะเปนอยางไร เพราะนิกมาอยูที่เมืองไทยต้ังแตเล็กจึง

จําไมไดวาหิมะเปนอยางไร พิมจึงเลาใหฟงวา เมื่อเวลาหิมะตกที่บานของพิม บาน

ของพิมจะเปนสีขาวเต็มไปหมด และเมื่อมีหิมะคนก็จะเลนสกี

กอนท่ีจะลงไปแสดง “ฝมือ” หรือ “ฝปาก” ในการจับหนู ฉันจะตอง

อธิบายเรื่องหิมะหรือสโนวใหแกฟงสักหนอย แปลกแทๆท่ีแกไมยักรูจัก ไมเคย

เห็นหิมะ ออ ถูกแลว แกไปจากเมืองซูริคต้ังแตอายุไดไมก่ีเดือน แต

เมืองไทยนาจะมีน่ีนา เจาสโนวหรือหิมะนี้ มันมาท่ีนี่ตอนหนาหนาวทุกป

บางปก็มามาก บางปก็มานอยหนอย มันเปนอะไรเบาๆขาวๆ ที่ปลิวลงมา

จากทองฟาเวลาอากาศหนาว บางทีมันก็ตกลงมากองท่ีพื้นสูงกวาขาของฉัน

อีก ฉันเลยตองกระโดดหย็องๆอยางกระตายปา เมื่อปกอนมันตกลงมาสูง

เกือบเทาหลังเจาไฮน่ีศัตรูของฉันแนะ

92

ว. ณ ประมวญมารค. นกิกับพมิ. หนา 39. 93

เร่ืองเดียวกัน, หนา 55.

Page 100: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

91

หิมะน้ีออนนุม นุมกวาเกาอ้ียาว แลวก็เย็นเจี๊ยบ ไมนาเชื่อท่ีแก

ไมเคยเห็น บนภูเขาเวลาหิมะตกมากๆ ขาวไปหมด มนุษยตองใชไมยาวๆ

สวมนอกรองเทาทั้งสองขางเดินบนหิมะเพราะเขากระโดดหย็องๆ อยางเรา

ไมเปน การสวมไมยาวๆเดินบนหิมะนี้มนุษยเรียกวา “สกี” บางคนที่

ดัดจริตหนอยเรียกวา “ชี” บางคนเดินบนไมนี้ไดวองไวมาก แตบางคนก็

ลมลุกคลุกคลาน นายผูหญิงของฉันเด๋ียวนี้เกงแลว เมื่อแรกก็ลมลุก

คลุกคลานเหมือนกัน 45

94

เรื่องรัตนาวดีไดบรรยายภาพภูมิทัศนของประเทศตางๆ ในยุโรป ยกตัวอยาง

ประเทศอังกฤษ หมอมเจาดนัยวัฒนาหรือนายเล็ก หมอมเจารัตนาวดี และปาสรอยน่ังรถ

ทองเที่ยวไปยังเมืองตางๆ ในชนบทท่ีมีความสวยงาม และมีที่พักเล็กๆ สําหรับผูเดินทาง

หมอมเจารัตนาวดีไดเลาวาเมือง Bibury มีน้ําตกและลําธารเลี้ยวคดเค้ียวไปมาระหวาง

ดอกไมอยางสวยงาม ที่ Stratford-on-Avon บานเกิดของเชกสเปยร ทั้งหมดไดมาพัก

ที่ Welcombe Hotel โฮเต็ลนี้เมื่อกอนคงเปนปราสาทเกาแกของขุนนางโบราณครั้งสมัย

ของเชกสเปยร ปราสาทอยูกลางสวน ทางเขาเปนทางคดเค้ียวในสวนซึ่งเหมือนปา ทาง

เปนเนินเต้ียๆ หลายเนิน รถตองแลนขึ้นๆ ลงๆ ผานตนไมใหญและทะเลสาบ รถตองแลน

เปนเวลานานจึงแลนมาถึงโฮเต็ล

คืนนั้นเรากินขาวที่ Oxford นั่นเอง ในรานชื่อ White ’s แลวนั่งรถไป

Woodstock คางที่ท่ีพักคนเดินทางเล็กๆ นารักชื่อ Bear Hotel ซึ่งอยูใกลกับ

Blenheim Palace บานเกิดของนายกรัฐมนตรี เซอรวินสตัน เชอรชิลล

เชาขึ้นเราเขาดู Blenheim Palace แลวก็ไปตอไปถึงหมูบานเล็กๆ ซึ่งเกา

ที่สุดแตสวยเหมือนเมืองในฝน เมืองนารักของหญิงน้ีมีชื่อวา Bibury มี

น้ําตกและลําธารเลี้ยวไปเลี้ยวมาคดเค้ียวระหวางดอกไม เราแวะกินน้ําชาและ

ขนมปงแกหิวที่ inn โบราณเล็กๆ ชื่อ “รังนกพิราบ” หญิงจะพักแรมที่นี่สักคืน

เพราะรักเหลือเกิน ( รูแลวละคะวาเหมือนอะไร เหมือนวิวในหนังแฮนส

แอนเดอรซัน ซึ่งแดนนี่ เคยเลนน่ันเอง ) แตนายเล็กไมเห็นดวย บอกวา

ถาเสียเวลามาพักแรมอยูที่นี่ก็ไมเห็นของดีย่ิงกวาน้ี ตกลงเปนอันวายอมไปตอ

แวะกินขาวกลางวันกลางทางแลวขับรถตอไป ถึงบานเกิดของเชกสเปยรท่ี

94

เร่ืองเดียวกัน, หนา 83 – 84.

Page 101: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

92

Stratford-on-Avon ตอนบาย 4 โมงครึ่ง พักที่โฮเต็ลหรูหางจากเมืองต้ังไมล

Welcombe Hotel โฮเต็ลนี้เมื่อกอนคงเปนปราสาทเกาแกของขุนนางโบราณ

ครั้งเชกสเปยร อาจจะเปนแหงเดียวกับที่เชกสเปยรมาดักสัตวในบริเวณน้ีแลว

ถูกจับไดก็เปนได ปราสาทก็อยูกลางปารก ทางเขาเปนทางคดเค้ียวใน

ปารกซึ่งเหมือนปา ทางเปนเนินเต้ียๆ หลายเนิน รถตองแลนขึ้นๆ ลงๆ ผาน

ตนไมใหญและทะเลสาบ เปนนานจึงแลนมาถึงโฮเต็ล ซึ่งมองดูขางนอก

เกาแก ขางในเรี่ยม มีเครื่องใชสะดวกสบายทุกอยาง 46

95

ยกตัวอยางเชน ประเทศเยอรมัน ผูแตงบรรยายปาดํา หมูบานและทะเลสาบ

Titisee วามีทิวทัศนท่ีสวยงาม มีตนสนทุกหนทุกแหง ทะเลสาบนํ้าใสแจวจนเห็นพื้นดิน

กนทะเลสาบ มีกรวดหลากสีและเห็นปลาวายนํ้าอยูจํานวนมาก น้ําเย็นมาก เปนเรื่องที่

นาแปลก ทะเลสาบอยูในปาดํา สีของทะเลสาบจึงดูกลายเปนสีเทา

ออกจาก Freiburg เราก็นั่งรถขึ้นไปทางปาดําอีก วิวสวยขึ้นทุกที

ราวบาย 4 โมงก็ไปถึงหมูบานริมทะเลสาบ Titisee * หมูบานนั้นชื่อเหมือน

ทะเลสาบ มีตนสนเขียวแกทุกหนทุกแหง โฮเต็ลที่เราอยูก็อยูริมทะเลสาบ

เรากินน้ําชากันริมน้ําแลวก็ไปลงเรือเลน ทะเลสาบแหงน้ีน้ําใสแจวแลเห็นกน

มีกรวดสีตาง ๆ และสวนธรรมชาติอยูใตน้ํา เห็นปลาวายไปวายมา แตมองดู

ไกล ๆ เปนสีเทาไปทั้งนั้น ตักน้ําขึ้นมาดูก็ใสสะอาดเหมือนน้ําฝน ไมผิดกับ

น้ําในทะเลสาบที่เมืองสวิส ชั่วแตน้ําเย็นเจี๊ยบย่ิงกวา ราวกับน้ําในขวดในตู

น้ําแข็ง แตกระน้ันก็ยังมีคนอาบ หญิงเพียงแตเอานิ้วจุมยังสั่นสะทานเลย

แปลกจริง อยูในปาดํา ทะเลสาบเลยกลายเปนสีเทาไปได อันท่ีจริงวิวของ

ปาดําจากทะเลสาบควรจะสวยกวานี้ แตบังเอิญเขาบางเขาหัวโลนเสียแลว

เพราะตนสนถูกตัดไปหมด ที่ปลูกใหมก็ยังขึ้นไมทัน ชาวเยอรมันแถวน้ันเขา

เจ็บใจมาก เพราะที่นั่นเปนโซนซึ่งฝรั่งเศสครอง ฝรั่งเศสตัดตนสนของเขา

สงไปใชในประเทศของตนปละมาก ๆ มิหนําซ้ําไมตัดแตตามที่ท่ีควรตัดอยางที่

เขาตัดของเขาอยูเสมอแถวนี้ พี่แกเลนตัดเตียนท้ังเขาเลย มองดูไกล ๆ เลยมี

95

เร่ืองเดียวกัน, หนา 28.

Page 102: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

93

เขาหัวโลนเปนหลายเขา ทําใหวิวเสียไปหนอย แตกระน้ันก็ยังวิเศษ

ไดมาเห็นเชนนี้ไมเสียชาติเกิด 96

* อานวา ติตีเ้ช

เมื่อผูอานไดอานเรื่องนิกกับพิมและเรื่องรัตนาวดี ทําใหผูอานไดมองเห็นภาพ

ของภูมิประเทศของยุโรปท่ีสวยงาม และผูแตงทรงบรรยายใหผูอานเห็นภาพอยางดีย่ิง

ทําใหผูอานไดเห็นภาพตามที่ผูแตงไดทรงกลาวถึง มองเห็นภาพในจินตนาการของตนได

อยางชัดเจน

3.2 อาหารยุโรป

เรื่องนิกกับพิมและเรื่องรัตนาวดีกลาวถึงอาหารของยุโรปหลายอยาง และ

โดยเฉพาะอยางย่ิงเรื่องรัตนาวดี หมอมเจาดนัยวัฒนาและหมอมเจารัตนาวดีไดเดินทาง

ทองเที่ยวไปยังสถานที่ตางๆของยุโรปและไดชิมอาหารตางๆ ทั้งอาหารคาว อาหารหวาน

ผลไม

เรื่องนิกกับพิมกลาวถึงรานขนมที่มีชื่อเสียงของประเทศสวิสเซอรแลนดชื่อราน

“ฮูกะแน็ง” พิเชฐและมนทิราไดสั่งกาแฟ ชอกเลต และทารตสตรอเบอรี่

ถึงราน “ฮูกะแน็ง” ซึ่งเปนรานขายขนมท่ีมีชื่อเสียงของเมืองซูริค

จึงตรงเขาไปหาที่นั่ง หันไปทางประตูที่โตะซึ่งวางอยู แลวก็สั่งกาแฟและทารต

สตรอเบอรี่มารับประทาน พอหญิงรับใชเดินลับตัวไปยังไมทันไร หญิงสาว

ที่เขานึกถึงก็เดินเขามาในราน

..................................................................

“ คุณรับประทานอะไรครับ ผมจะสั่งให ” พิเชฐถามอยางกิริยาดี

ลงนั่งตรงกันขามพรอมทั้งหันไปมองหาหญิงรับใช

“ ขอบคุณคะ ชอกเลตสักถวยหน่ึง แลวก็ขนมอะไรสักชิ้นจากรถเข็น

นั่นแหละคะ”

96

ว. ณ ประมวญมารค. รัตนาวดี . หนา 99-100.

Page 103: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

94

ทันใดน้ันหญิงเสิรฟโตะก็นํากาแฟและทารตที่พิเชฐสั่งมาต้ังใหที่โตะ

หญิงสาวชําเลืองดูก็รองวา “ อุย สตรอเบอรี่สด ! เขาทําทารตสวย

นารับประทานนะคะ มีครีมใหราดดวย ”

“รับประทานไหมละครับ ? ผมจะไดสั่งให ผมรับรองวาอรอยแน

“ ดีเหมือนกันคะ ขอบคุณ ”

การนั่งรับประทานทารตสตรอเบอรี่สด และด่ืมกาแฟและชอกเลตอยูที่

โตะเดียวกันของหญิงสาวและชายหนุมคูหนึ่งซึ่งเปนคนชาติเดียวกัน ในท่ี

แปลกถ่ินเชนนี้เปนเหตุใหคนทั้งสองคุนเคยกันอยางรวดเร็ว 48

97

เรื่องรัตนาวดีซึ่งเปนการเดินทางในประเทศตางๆของยุโรปคือ ประเทศอังกฤษ

ฝรั่งเศส สวิสเซอรแลนด เยอรมัน ลิตเตนสไตน ประเทศที่เล็กที่สุดในยุโรป อิตาลี

นายเล็กหรือหมอมเจาดนัยวัฒนาและหมอมเจารัตนาวดีแวะทานอาหารที่รานอาหาร

ในประเทศตางๆ ดังนี้

ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส นายเล็กหรือหมอมเจาดนัยวัฒนาพาไปทานอาหาร

ที่รานอาหารหรูของกรุงปารีสชื่อราน Chez Oncle Jean หมอมเจารัตนาวดีเขียน

จดหมายเลาใหปริศนาฟงวา รานอาหารนี้เปนรานอาหารที่หรูมาก และอาหารอรอยมาก

ที่รานอาหารนี้ไดลองทานอาหารท่ีแปลกๆ เชนขากบ สมองวัวทอดกรอบและหอยเอสคาโก

หรือหอยทากของฝรั่งเศส

ถึง Dieppe * บาย 2 โมง 55 นาที ลงจากเรือไดก็เดินทางตอไปทาง

Rouen, Mantes แวะดูพระราชวัง St. Germain แลวก็ตรงไปปารีส ถึงปารีส

2 ทุมครึ่ง หาที่พักไดแลวก็ตรงไปกินอาหารท่ีนายเล็กพาไปที่รานเรียกวา

Chez Oncle Jean เปนรานหรูมาก กับขาวอรอยที่สุด เราลองกินของแปลกๆ

เชน ขากบ สมองวัวทอดกรอบ และหอยเอสคาโกเปนตน คืนน้ันเราหิวจัดเลย

กินจุจนสิ้นเงินไปหลายพันฟรังก ** 49

98

* อานวา เดี๊ยพ

** ฟรังกเกา ซึ่ง 100 ฟรังก เทากับ 1 ฟรังกในสมัยน้ี

97

ว. ณ ประมวญมารค. นกิกับพมิ. หนา 4-6. 98

ว. ณ ประมวญมารค. รัตนาวดี . หนา 35.

Page 104: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

95

ที่ประเทศฝรั่งเศส ตอนที่นายเล็กหรือหมอมเจาดนัยวัฒนา หมอมเจารัตนาวดี

และปาสรอยถูกกลั่นแกลง รถนํ้ามันหมดและตองพักแรมที่บานของชาวนาฝรั่งเศส

อาหารที่ภรรยาของชาวนาฝรั่งเศสทํานั้นอาจจะเปนอาหารที่ดูธรรมดา แตหมอมเจา

รัตนาวดีชื่นชมวาเปนอาหารที่อรอยมาก

ในท่ีสุดเราก็ไปถึงบานซึ่งเห็นแสงไฟริบหรี่จากที่จอดรถ บานนั้น

อยูโดดเด่ียว พอไปถึงนายเล็กก็จัดการใหปานั่งพักอยูบนตอไมแถวนั่นกอน

ตนเองเขาไปเคาะประตูบาน สักครูก็มีคนมาเปด มีเสียงพูดกันสักครู

นายเล็กก็กลับมาหาเราพูดวา “เชิญเสด็จกระหมอม เชิญครับ เจาของบาน

ใจดีเหลือเกิน บอกวาเขาพอจะมีอาหารเผื่อเราแกหิวไปพลางๆกอน”

อาหารวันน้ันอรอยอยางประหลาดท่ีสุด ของชาวบานแทๆ แต

ชางวิเศษจริง จะเปนเพราะหญิงหิวจัด หรือเมียชาวนาทํากับขาวเกงไมให

เสียชื่อชาวฝรั่งเศสก็ไมรูได มีซุปหัวหอม ไขเจียวไสเห็ด ขนมปงปอนด

ยาวเฟอย และเนยแข็งเทานั้นเอง ออ มีเหลาแดงเหยือกโตเหยือกหนึ่งดวย

แกหนาว ไอซุปนั้นมีขนมปงมีกลิ่นกระเทียมฉุยลอยท้ังแผน มีเนยแข็งเขละๆ

ปนกับหัวหอมอยูในน้ัน รอนจี๋จนควันขึ้นโขมงเทียวคะ เพียงไดกลิ่นก็น้ําลาย

แทบหกแลว แหมมันชางอรอยน่ีกระไร ยังกับอาหารทิพย เรากินกันเสีย

ยกใหญ เจาของบานทั้งผัวเมียอมย้ิม ดูเราสวาปาม ของหวานมีลูกเชอรรี่

สดๆ หวานฉ่ําเก็บจากสวนของเขาเองเมื่อตอนเย็นวันนั้น 99

อาหารที่ชาวนาฝรั่งเศสทํามีซุปหัวหอม ซุปนี้มีขนมปง มีกลิ่นกระเทียมอยูดวย มี

เนยแข็งปนกับหัวหอม กลิ่นซุบหัวหอมรอนๆ กลิ่นหอมมาก และมีไขเจียวไสเห็ด

ขนมปงปอนดและเนยแข็ง เครื่องด่ืมคือเหลาแดงเหยือกโต ด่ืมเพื่อแกความหนาว และ

ทานเชอรรี่ดวย

ที่ประเทศฝรั่งเศส ณ ปราสาทโบราณของเมอซิเออรและมาดามปองตินยัก

เพื่อนของหมอมเจาดนัยวัฒนา หมอมเจาดนัยวัฒนาทราบวาหมอมเจารัตนาวดีชอบ

ปราสาทโบราณของยุโรปมาก จึงขอใหเพื่อนชาวฝรั่งเศสผูเปนเจาของปราสาทโบราณ

อนุญาตใหหมอมเจารัตนาวดีและปาสรอยมาคางแรมที่ปราสาทของตน และเลี้ยง

99

เร่ืองเดียวกัน, หนา 53.

Page 105: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

96

อาหารเย็นเปนการเลี้ยงตอนรับ ทุกคนประทับใจในไมตรีจิตของมิตรทั้งสองน้ีมาก

เมอซิเออรและมาดามไดเลี้ยงอาหารเย็น บรรยากาศจัดไดอยางหรูหราและอาหารรสเลิศ

ที่หญิงติดใจที่สุดคือหองกินขาวของเขา มันโบราณดี โตะไมโอก

ใหญไมปูผา ใชผาผืนเล็ก ๆ ปกฝมือดีปูเปนแหงๆ ในหองกินขาวไมใชไฟฟา

เขาจุดเทียนไขไวกลางโตะ ใชเชิงเทียนหรู ดูก็รูวาโบราณ เครื่องใชทุกอยางก็

โบราณและหรู กับขาวก็อรอยท่ีสุด มี 2 อยางเทาน้ันคือซุปและเนื้อ อยูที่นี่

ซุปรอน ๆ นะอรอยเสมอ สวนเน้ือของเขาก็เน้ือสันในทอดอยางที่เรากินๆ แต

เขาใสโรสแมรี่ห่ันฝอย ๆ ทําใหมีกลิ่นแปลก ๆ อรอยดี กินกับมันและผัก

หลายอยาง ของหวานก็ไมมีมีแตผลไมและเนยแข็งสัก 5 ชนิด กินกับ

เหลาแดงแถวนั้นเอง แหม หญิงกินเสียแทบลุกไมขึ้นเทียวคะ หญิงเปน

นักเลงกินเนยแข็งอยูแลว ชนิดกลิ่นเนาๆ ชนิดราขึ้นอะไรตออะไร หญิงลองชิม

ดูแลวก็ชอบเสียดวย นายเล็กถึงกับออกปากชมวาหญิงเปนนักเลงแท enjoy

ทุกๆ อยาง ต้ังแตอาหารเครื่องด่ืมไปจน...ทุกอยาง! 100

เจาของปราสาทไดจัดหองอาหารอยางหรูหรา บรรยากาศเปนแบบโบราณ โตะ

ไมโอกตัวใหญ ปูผาปกอยางงดงามเปนแหงๆ มีเชิงเทียนหรูแบบโบราณ จุดเทียนไข

กลางโตะ กับขาวมีซุบรอนๆ และเน้ือสันในทอดใสโรสแมรี่หั่นฝอย กินกับมันและ

ผักนานาชนิด ของหวานมื้อน้ีไมมี มีแตผลไมและเนยแข็ง เครื่องด่ืมคือเหลาแดง

ที่ประเทศเยอรมัน นายเล็กหรือหมอมเจาดนัยวัฒนาไดสอบถามจากพนักงาน

ของโรงแรม จึงไดทราบวามีรานอาหารเล็กๆ ขายอาหารเยอรมันแท ๆ อรอยมาก

นายเล็กจึงพาหมอมเจารัตนาวดีไปทานอาหารที่รานน้ี

หมอมพึ่งกลับมาจากพานองหญิงไปเสวยขาว หมอมสืบไดความ

จากสาวใชของโฮเต็ลที่นี่เองวา มีเรสเตอร็องเล็กๆ ขายแตเบียร ไสกรอก

Sauerkraut* มันตมทั้งเปลือก และซี่โครงหมูยาง ท่ีเรียกวา ripli ** ของหวาน

ก็มีอยางเดียว กินกับกาแฟถวยใหญ หมอมรูสึกวาเขาที ก็เลยพานองหญิงไป

100

เร่ืองเดียวกัน, หนา 67-68.

Page 106: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

97

คนที่ไปรานน้ันโดยมากเปนชาวบาน คนโกๆเขาไมไปกัน เขากิน

ที่อ่ืนที่หรูหรากวาน้ี หมอมสงสัยวาถึงจะหรูหราเพียงไหนก็คงไมอรอยไปกวา

เรสเตอร็อง Krebs *** ของเราไดเปนอันขาด

เราทั้ง 2 คนเปนผูแตงตัวโกที่สุดในราน นองหญิงแตงชุดสีกรมทาซึ่ง

ซื้อมาจากราน CHANEL ที่ปารีส กลัดเข็มขัดเพชรเปนรูปเกือกมา

อันเล็กๆ งามไปท้ังองค หมอมไมสามารถจะถอนสายตาไปจากเธอได เรา

นั่งตรงกันขามโตะซึ่งไมไดปูผา เครื่องใชลวนแตเปนของชาวบานแต

สะอาดสะอาน ถวยเบียรใหญยังกับโอง แสงไฟสลัวๆ สองไปท่ีพักตร

นองหญิง ทําใหเห็นเงาขนเนตรที่ปรางทั้งสองขาง ทําไมเธอนารักเชนนี้หนอ

อรชรออนแอนไปท้ังองค ย่ิงพิศก็ย่ิงเพลิน

.................................................................

“ ไหนนายเล็กวามีทารตทําดวยแปงครึ่ง อัลมอนดครึ่ง ไสเปนผลไม

กวนแบบออสเตรียอยางไรละ ” นองหญิงก็เสียงออนลงเหมือนกัน

“ ออ Linzer torte หมอมจะสั่งถวายเด๋ียวนี้ ” แลวหมอมก็เรียกบอย

สั่ง Linzer torte 2 ที่ และกาแฟ 2 ถวย 52

101

* กะหลํ่าปลีห่ันเปนชิ้นเล็กๆ ดองเปร้ียว

** ริปล่ี

*** แปลวา กุง

คนเยอรมันชอบด่ืมเบียรมาก และไสกรอกเยอรมันเปนอาหารที่ขึ้นชื่อของประเทศนี้

ที่รานอาหารนี้ ทั้งสองไดด่ืมเบียร ทานไสกรอก ผักกะหล่ําปลีหั่นเปนชิ้นเล็กๆ ดองเปรี้ยว

ที่เรียกในภาษาเยอรมันวา Sauerkraut มันท่ีตมท้ังเปลือก และซี่โครงหมูยางที่เรียกวา

ripli และมีขนมหวานที่เรียกวา Linzer torte เปนขนมทารตทําดวยแปงครึ่งหน่ึงและ

อัลมอนดครึ่งหนึ่ง ไสของขนมเปนผลไมกวนแบบออสเตรีย และด่ืมกาแฟทานกับขนม

ในตอนน้ีที่ไดยกมาไดกลาวถึงถวยเบียรวามีขนาดใหญมาก หมอมเจาดนัยวัฒนาได

เปรียบเทียบวา “ถวยเบียรใหญยังกับโอง” แกวเบียรมีขนาดใหญมาก

ใหญกวาแกวธรรมดาท่ัวไป

101

เร่ืองเดียวกัน, หนา 103 - 105.

Page 107: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

98

คนยุโรปนิยมทานเนยมาก ทุกคนไดไปที่เมือง Appenzell หมอมเจารัตนาวดี

เขียนจดหมายเลาใหปริศนาฟงวา ไดไปทานเนยแข็งที่รานอาหารรานหนึ่งซึ่งเปน

รานอาหารแบบชาวบาน ดังนี้

เมื่อดูแลวเราก็ขึ้นกระไดไปชั้นบน ซึ่งเปนเรสเตอร็องแบบชาวบาน

มีขายแตเนยแข็ง ขนมปงกินกับกาแฟใสครีมหรือเหลาองุนเทาน้ัน เขาถามวา

เราตองการเนยแข็งชนิดไหน ออกชื่อภาษาสวิสเยอรมันดังขึกขักต้ังยืดยาว

เรางงไปหมด ในท่ีสุดหญิงจึงลุกขึ้นไปชี้ชนิดท่ีตองการ เขาก็ตัดมาใหชิ้นโต

เทาหนังสือเลมหนาๆ แลวเขาก็เอาขนมปงชิ้นเทายักษ และเนยกอนเทา

กําปนมาต้ังใหพรอมดวยจานและมีด หญิงรูสึกวาเทานี้ก็พอสําหรับ 6 คน

อาจจะมีเหลือพอกลับบานชิ้นไมเล็กนักสักชิ้นดวยซ้ํา แตหามิได เทาน้ันเปน

สวนสําหรับกินคนเดียว เขาเอามาใหอีก 6 สวนเทากัน ยังไมทันจะกิน

เพียงแตเห็นก็ออกจะอ่ิมๆ

ปา หญิง และนายเล็ก กินเนยแข็งกับเหลาแดงซึ่งอรอยที่สุด คณะ

เก็จกํางงกินกับกาแฟถวยเทาโองขนคลั่ก ถากินหมดถวยนากลัวหนูอาดนอน

ไมหลับตลอดคืน

..................................................................

วันนั้นเรากินขนมปงทาเนยกับเนยแข็งกอนใหญ และด่ืมเหลาแดง

สามคนหนึ่งเหยือกจนอ่ิมแทบจะจุก แลวหญิงเกิดนึกขึ้นไดถึงครีมสดมากมาย

ขางลาง ก็อยากกินสตรอเบอรี่กับครีมขึ้นมาเต็มแก จึงใหนายเล็กสง

ภาษาเยอรมันสั่งมากิน ยายเจาของรานบอกวาครีมมีมาก แตสตรอเบอรี่

ไมมี ยายลูกสาวรุนสาวแกมแดงกลมของแกซึ่งกําลังชงกาแฟอยูใกลๆ

รองบอกแมวาในสวนมี ยายแมก็เลยใหไปเก็บ สักครูลูกสาวก็กลับมา ถือ

กระเชามา 2 ใบ มีสตรอเบอรี่ 2 ชนิด อยางที่ขึ้นเองลูกนิดๆที่นองๆไปเก็บมา

จากปาหลังบานเมื่อบายวันน้ันเอง กับชนิดลูกโตๆแดงแปรดสดนากินที่

พอปลูกไวในสวนที่บาน คนอ่ืนๆตรงเขาใสลูกโตแดงซึ่งรูจักดีกวา สวนหญิง

ลองลูกเล็กๆที่ขึ้นเอง แลวกลับชอบมากกวาเพราะกลิ่นหอมแรงและมี

รสแหลมกวาลูกใหญๆ มองดูนายเล็กเห็นเขากินลูกเล็กๆอยางหญิงเหมือนกัน

เจาของรานตักครีมมาใหเต็มชามใหญ เรากินเสียจนกินไมไหว 53

102

102

เร่ืองเดียวกัน, หนา 113 - 115.

Page 108: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

99

คนขายตัดเนยแข็งชิ้นโตมีความหนาเทากับหนังสือเลมหนาๆ และใหทานคูกับ

ขนมปงชิ้นใหญมาก และมีเนยกอนเทากําปน หมอมเจารัตนาวดีเลาใหปริศนาฟงวา

ทั้งเนย เนยแข็งและขนมปงชิ้นโต คิดวาสําหรับคน 6 คน แตวาท้ังหมดนี้สําหรับคนเดียว

เทานั้น และไดทานกับเหลาแดง หรือจะทานกับกาแฟก็อรอยเชนกัน และนมยังมาทํา

เปนครีมสด นํามาทานกับผลไมเชนสตรอเบอรี่

ที่ประเทศสวิสเซอรแลนด หมอมเจาดนัยวัฒนาพาหมอมเจารัตนาวดีไปทาน

อาหารที่ Ellikon ใกลกับเขตแดนประเทศเยอรมัน มีรานอาหารเล็กๆ อยูริมแมนํ้าไรน

……..………ครั้นแลวนองหญิงบอกวากลางคืนอยากไปเสวยอะไร

อรอยๆในที่ที่ยังไมเคยไป หมอมก็เลยพาไป Ellikon ใกลกับเขตแดนเยอรมัน มี

เรสเตอร็องเล็กๆอยูริมแมน้ําไรน ขายแต Friture du lac กินกับ mayonnaise

อยางเดียว ถาไมใชหนาที่มีปลาเล็กๆ เรสเตอร็องน้ีดูเหมือนปดเลย ทางจาก

Winterthur ไป Ellikon นี้สวยมาก ผานทางเปนเขาคดเค้ียวซึ่งเปนปา มี

กระตายปาตัวโตๆ ว่ิงผานหนาหลายครั้ง มีกวางสีแดงยืนทาทางสงาดูเราจาก

ชายปาเปนตน กลับมาถึงซูริกราว 5 ทุม ปาสรอยบนใหญวาของดีๆ ที่ซูริกมี

ถมเถ อุตสาหถอรางไปกินถึงริมแมน้ําไรนใกลเขตแดนเยอรมัน ตองขึ้นรถไป

ต้ังไกล เสียเงินและเวลาโดยเปลาประโยชน สวนนองหญิงชมเชยหมอมใหญ

วาเลือกที่เกง ทําไมจึงรูที่กินดีๆเชนน้ี หมอมก็เลยรับสารภาพวาไดถามเพื่อนท่ี

Winterthur เขาบอกใหจึงไปถูก 54

103

รานอาหารนี้ขายแตปลาตัวเล็กทอดกรอบที่เรียกวา Friture du lac กินกับ

mayonnaise หมอมเจาดนัยวัฒนาเลาใหหมอมเจาพจนปรีชาฟงวา รานอาหารนี้

ขายแตปลาตัวเล็กทอดกรอบนี้อยางเดียวเทานั้น ถาไมใชฤดูที่มีปลาตัวเล็กๆ ก็ปดราน

ไมขายอาหาร ซึ่งหมอมเจารัตนาวดีประทับใจรานอาหารรานนี้มาก

อาหารเปนวัฒนธรรมประจําชาติ เปนเอกลักษณของแตละชาติ จากที่ผูแตงได

ทรงเลาไวในเรื่องนิกกับพิมและเรื่องรัตนาวดีทําใหผูอานไดทราบอาหารของชาวยุโรปท้ัง

อาหารคาว อาหารหวาน ผลไม และเครื่องด่ืม

103

เร่ืองเดียวกัน, หนา 135.

Page 109: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

100

3.3 การแตงกาย

เรื่องรัตนาวดีไดกลาวถึงเสื้อผาการแตงกายที่เปนเอกลักษณของทองถ่ิน

ดังเชนท่ีหมอมเจาดนัยวัฒนาเขียนจดหมายเลาใหหมอมเจาพจนปรีชาฟงวา หมอมเจา

ดนัยวัฒนาพาหมอมเจารัตนาวดีไปเที่ยวที่เมือง Lindau ซึ่งเปนเมืองในประเทศเยอรมัน

เปนเมืองท่ีสวยมาก อยูริมทะเลสาบ Boden เมืองน้ีทั้งชาย หญิงยังคงแตงกายที่

รักษาเอกลักษณของทองถ่ิน ดังนี้

หมอมพาไปเมือง Lindau * ทุกๆ คนต่ืนเตนเมืองน้ีมากมาย เพราะ

เปนเมืองสวยอยูริมทะเลสาบ Boden ผูคนก็แตงตัวเขาที ไมไดแตงอยาง

แหมมฝรั่งธรรมดาอยางที่เห็นๆ ผูหญิงที่เห็นตามถนนก็ลวนแตงตัวแบบ

ชาวเขาแถบน้ันคือ นุงกระโปรงฟูๆ มีผากันเปอนทับและใสเสื้อแขนพอง

เปนตน ผูชายก็แตงตัวแบบชาวทิรอล หรือบาวาเรีย คือนุงกางเกงหนัง

สวมหมวกมีขนนกปก 55

104

* อานวาลินเดา เปนเมืองในเยอรมัน

หมอมเจาดนัยวัฒนาเลาใหหมอมเจาพจนปรีชาฟงวา ผูหญิงที่เมือง Lindau นี้

ไมไดแตงกายอยางชุดสากลทั่วไป แตยังคงรักษาเอกลักษณการแตงกายแบบด้ังเดิม

เอาไวตามแบบผูหญิงในชนบทคือ นุงกระโปรงฟูๆ สวยงาม มีผากันเปอนทับ และใสเสื้อ

แขนพอง ผูชายก็แตงตัวตามแบบเอกลักษณด้ังเดิม ซึ่งหมอมเจาดนัยวัฒนาเรียกวา

ผูชายก็แตงตัวแบบชาวทิรอล หรือบาวาเรีย คือ ผูชายนุงกางเกงหนัง สวมหมวกที่มี

ขนนกปก ซึ่งเปนการแตงกายที่มีเอกลักษณเฉพาะของทองถ่ินที่ดูแปลกตาและงดงามท้ัง

ผูชายและผูหญิง

3.4 สถาปตยกรรม

ในงานวิจัยนี้จะกลาวถึงสถาปตยกรรมอันโดดเดนที่ผูแตงไดทรงกลาวไวใน

นวนิยายไดแก

104

เร่ืองเดียวกัน, หนา 109.

Page 110: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

101

Whispering Gallery ของวัดเซนตพอล กระทอมแทชรูฟบานของเชกสเปยร

ปราสาทโบราณของยุโรป และรานอาหารหรูใตดินที่ประเทศอิตาล ี

Whispering Gallery ของวัดเซนตพอล

หมอมเจารัตนาวดีไดไปเย่ียมชมที่วัดเซนตพอล ไดเขียนจดหมายเลาให

หมอมเจาพจนปรีชาฟงวา ขึ้นบันได 655 ขั้น และขึ้นไปบน Whispering Gallery

ของวัดเซนตพอล ที่โดมนี้ออกแบบใหมีความพิเศษ นั่งกันคนละมุมและพูดตรง

ฝาผนังจะไดยินเสียงสะทอน

จดหมายจากหมอมเจารัตนาวดี ถึงหมอมเจาพจนปรีชา

ลอนดอน

วันท่ี 28 เมษายน

ทูลเจาพ่ีทรงทราบ

เวลาน้ีหญิงใชเวลาเที่ยวเตรขนาดหนัก เขามีอะไรกันดีๆท่ีไหน

หญิงเปนไมยอมขาด ฟงคอนเสิรตหรือไมก็ดูละครทุกคืนเลย โอเปรา บัลเลต

ไอซรีวิว ละครพูด musical comedy หญิงดูแลวทั้งนั้น แมแตเซอรลอเรนซ

ออลิเวียร และจอน กิลกูด หญิงก็เคยไดเห็นตัวจริง

ที่ตางๆที่ควรจะดูเชน Tower of London Westminster

Abbey ปาลิเมนต มิวเซียมสําคัญๆ ระเบียงรูปภาพ มิวเซียมขี้ผึ้ง

สวนสัตว แฮมตันคอรต ปราสาทวินดเซอร อะไรพวกนั้น หญิงไปดูทั่วแลว

วันนี้เปนวันอาทิตย วิมลซึ่งมาคางกับหญิงต้ังแตวันเสาร ( เขามา

คางทุกเสารถามาได) ชวนไปดูอะไรๆกันอีก ตกลงกันไมถูกวาจะไปไหนดี ก็

พอดีคุณนพแวนตาโตเพื่อนคุณปริศนาแตโบราณมาชวนไปดูวัดเซนตพอล เรา

ก็เลยตกลง ........................คุณนพพาเราขึ้นกระไดต้ัง 655 ขั้น (เรานับ

ดวยกันทุกคน) ขึ้นไปบน Whispering Gallery ของวัดเซนตพอล แลวไป

นั่งกันคนละแหง คุยกันตรงฝาใหเสียงสะทอน สนุกจัง หัวเราะกันก๊ิกก๊ักคลาย

เด็กนักเรียนหนีไปเที่ยว มีกระไดท่ีไหนเราไตขึ้นไปหมดเพื่อไปดูวิวเมือง

Page 111: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

102

ลอนดอน ครั้นแลวเราก็ลงไปใน crypt * ไปเย่ียมท่ีฝงศพเวลลิงตัน เนลสัน

และคริสโตเฟอร เร็น ผูสรางวัดน้ี 105

* อานวา คริพท หมายถึงหองหรือวัด คือ Chaple เล็ก ใตวัดใหญ สําหรับใชฝงศพ

กระทอมแทชรูฟบานของเชกสเปยร

หมอมเจารัตนาวดีไดเดินทางไปที่บานกวีเอกของโลกชาวอังกฤษ เชกสเปยร และ

บานภรรยาของเชกสเปยร แอนน แฮทาเว บานของเชกสเปยรเปนกระทอมแทชรูฟ

หมอมเจารัตนาวดีไมไดเลาถึงบานของเชกสเปยรใหปริศนาฟงมากนัก เพราะ

ปริศนาเคยมาท่ีบานหลังน้ีแลวตอนท่ีมาเที่ยวกับหมอมเจาพจนปรีชา หมอมเจารัตนาวดี

จึงเลาใหฟงถึงความประทับใจที่มีตอบานของเชกสเปยรอยางสั้นๆ วา

ครั้นแลวเราก็ลงมาตามหานายเล็กใหเขาขับรถพาไปดูเมือง ไปดู

บานของเชกสเปยร และบานแมแอนน แฮทาเว เมียของเขา เปนตน

บานเชกสเปยรสวยมาก เปนกระทอมแทชรูฟ * แสนจะนารัก มีตนกุหลาบ

เลื้อยหอยทุกหนทุกแหง กําลังออกดอกสีตางๆเต็มไปหมด โผลหนาตางออกมา

ก็เอ้ือมมือออกไปเก็บดอกกุหลาบไดทันที หญิงจะไมเลามากเพราะ

คุณปริศนาก็เคยมาเที่ยวที่น่ีแลว 106

* Thatch คือ ฟางขาวหรือหญาแหง หรือใบไมแหงสําหรับมงุหลังคา คลายหลังคาจากของเรา

บานของเชกสเปยรเปนบานกระทอมแทชรูฟ ผูแตงทรงเขียนเชิงอรรถอธิบาย

ใหฟงวา หลังคาบานมุงดวยฟางขาวหรือหญาแหง หรือใบไมแหง คลายหลังคาจาก

ของกระทอมเมืองไทย หมอมเจารัตนาวดีชอบกระทอมแทชรูฟน้ีมากและเรียกวา “ แสน

จะนารัก ” ตัวบานมีตนกุหลาบเลื้อยหอยอยูทุกหนทุกแหง ประดับตกแตงบานใหดูงดงาม

เปนอยางย่ิง และในขณะที่ไปเที่ยวเปนชวงที่ดอกกุหลาบกําลังผลิบานอยางงดงาม

ออกดอกสีตางๆ เต็มไปหมด เมื่อเย่ียมหนาออกจากหนาตางก็เอ้ือมมือออกไปเก็บ

ดอกกุหลาบได

105

เร่ืองเดียวกัน, หนา 24 - 25. 106

เร่ืองเดียวกัน, หนา 29.

Page 112: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

103

ปราสาทโบราณของยุโรป

หมอมเจาดนัยวัฒนาพาหมอมเจารัตนาวดีไปท่ีปราสาท Chambord ปราสาทนี้

มีความใหญโตหรูหรามาก มีหอคอยหลายสิบอันซึ่งรูปรางไมเหมือนกันเลย และ

ความพิเศษของปราสาทนี้อยูท่ีบันไดของปราสาทที่มีศิลปะในการสรางมาก ที่คนขึ้น

และลงบันไดไมสามารถเจอกันได

นองหญิงยังไมทันจะวากระไรตอไป ก็พอดีเราไปถึงปราสาท แม

คุณปาสรอยก็ยังต่ืนเตนในความใหญโตหรูหราของปราสาทน้ี ซึ่งเหมือนกับ

เมืองท้ังเมืองย่ิงกวาบานคน ถึงแมจะเปนพระราชวังก็ตาม มีหอคอย

หลายสิบอัน ซึ่งรูปรางไมเหมือนกันจนอันเดียว บันไดของปราสาทน้ี

ประหลาดท่ีสุด มีศิลปะมากในการสราง คนขึ้นและคนลงหาเจอกันไม แลวก็

ไอลงมาอยูท่ีเดียวกันนั่นเอง เมื่อตอนกบฏใหญฝรั่งเศส พวกกบฏกรูกันขึ้นมา

จะฆาเจาของปราสาท เจาของเห็นจะพอหลบพนเพราะบันไดวิเศษอันนี้

นายวิศาลกับนายพุธซุบซิบกันสักครู นายวิศาลก็เขาไปอธิบายให

นองหญิงและคุณปาสรอยฟงวา ปราสาทนี้สรางขึ้นโดยพระเจาหลุยสที่ 14

เมื่อศตวรรษที่ 18

หมอมเห็นสีพักตรของนองหญิงแลวอดหัวเราะเกือบไมได เธอ

ตรงไปชี้ตราจิ้งเหลนทรงเครื่องท่ีอยูทั่วทุกหนทุกแหงในปราสาทน้ี แลวถาม

หมอมวา “ไหน นายเล็ก ลองบอกซิวานั่นตัวอะไร?”

หมอมจึงอธิบายวา นั่นคือตราของพระเจาฟรานซิสที่ 1 หรือ

เรียกอยางฝรั่งเศสวา ฟรองซัวที่ 1 ผูสรางปราสาทนี้ต้ังแตศตวรรษท่ี 16

สรางขึ้นบนที่รางแหงนี้ เพราะคูรักคนหน่ึงของพระองค ชื่อ เคาเตส เดอ ทูรี่

เคยอยูใกลที่นี่ แลวหมอมก็อธิบาย Renaissance* Architecture ของฝรั่งเศส

ใหญโต ในที่สุดลงทายวา Pierre Neveu ผูคิดแบบปราสาทนี้ ต้ังใจจะให

เปนแบบโบราณครึ่งหนึ่ง เปนวิลลาแบบอิตาเลียนครึ่งหนึ่ง เมื่อ 2 อยางมา

รวมกันเขาก็เลยรูปรางเปนปราสาท Chambord นี้ แลวหมอมก็พานองหญิง

และคณะไปดูตอนที่พระเจาเฮนรี่ที่ 2 โปรดใหเสริมขึ้นใหมตอจากที่เกา ซึ่งมี

พระนาม H สลักไวทุกหนทุกแหง 107

107

เร่ืองเดียวกัน, หนา 42 – 43.

Page 113: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

104

* หมายถึงการฟนฟูและขยายตวัคร้ังใหญของภาษา ศิลปะ และวทิยาการตางๆในยุโรปภายหลัง

ยุคกลางคือนับตัง้แตปลายศตวรรษท่ี 15 เปนตนมา

หมอมเจาดนัยวัฒนา หมอมเจารัตนาวดีและปาสรอยไดไปเย่ียมชมปราสาท

โบราณอีกหลายแหงดังน้ี

ออกจากปราสาท Blois เราไปหาอาหารกลางวันกินตามทาง แลวก็

แวะไปดูปราสาทที่ Fougeres และ Cheverny ปราสาท Cheverny นี้ไมได

สรางในสมัยเดียวกับปราสาทอ่ืนที่ไดดูมาริมแมน้ําลัวร แตสรางในสมัยท่ี

เรียกวา Classical period คือเมื่อศตวรรษท่ี 17 และ 18 ตอจากนั้นเราก็

ยอนกลับไปทางเกาดูปราสาท Chaumont (ศตวรรษที่ 16) 59

108

หมอมเจารัตนาวดีชอบปราสาทโบราณเปนอยางมาก นายเล็กหรือหมอมเจา

ดนัยวัฒนาจึงพาหมอมเจารัตนาวดีไปชมปราสาทโบราณอีกหลายแหง หมอมเจา

รัตนาวดีทรงเลาใหหมอมเจาพจนปรีชาฟงวา ที่ Amboise ประเทศฝรั่งเศส มี

ปราสาทโบราณในบริเวณนี้หลายแหง

จดหมายจากหมอมเจารัตนาวดี ถึงหมอมเจาพจนปรีชา

Tours

วันท่ี 17 พฤษภาคม

ทูลเจาพ่ีทรงทราบ

หมูน้ีเจาพี่ไดรับจดหมายจากหญิงบอย เพราะหญิงกําลังขยันเขียน

มันมีเรื่องท่ีจะเขียนมากมายน่ีคะ หญิงอยูท่ี Amboise 2 วันแลวก็มาน่ี ต้ังใจ

จะคางสัก 2 คืน เพื่อตอนกลางวันจะไดขับรถไปดูปราสาทแถวใกลๆ น้ีคือ

ปราสาท Luynes, Vouvray, Langeais, Azay-le-Rideau, Chinon และ

Loches นี่ก็ไดมาคาง 2 วันตามที่กะแลว ไดดูปราสาทที่ตองการดูท่ัวหมด

พรุงนี้จะออกแตเชาตรงไป Limoges ผาน Châteauroux

108

เร่ืองเดียวกัน, หนา 49.

Page 114: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

105

ปราสาทท่ีหญิงสนใจมากคือ Chenonceau เพราะเก่ียวกับ

ควีนแคทเธอรีน (de Medici) ของหญิงอีก ปราสาทนี้เด๋ียวนี้เปนของเศรษฐี

ฝรั่งเศส ซึ่งมีบานอยูที่ปารีส เคราะหดีหนอยที่ใจคอกวางขวางไมหวง

เราเลยมีโอกาสไดเขาไปชมตามสบาย

เมื่อแรกหญิงไมคอยสนใจกับปราสาท Tours นัก แตนายเล็กบอกวา

Balzac เขียนไววาปราสาทนี้เปนอนุสรณซึ่งงดงามที่สุดแหงหนึ่งของฝรั่งเศส

ครั้นนายเล็กรูวาคุณปริศนาชอบ Balzac มาก ก็เลยพาหญิงไปดูบานเกิด

ของเขาเพื่อจะไดเก็บไวอวดโอกับคุณปริศนาทีหลัง ครั้นแลวเราก็ไปดูวัด

และเมืองเกา หญิงชอบเมืองเกาที่สุด มันชางโรแมนติกนี่กระไร หญิงซื้อ

หนังสือชื่อ Curè Tours ของ Balzac มาไดเลมหนึ่งเปนภาษาฝรั่งเศส ต้ังใจจะ

อานใหสนุกเพราะไหน ๆ กําลังอยูในเมือง Tours ทั้งที จะไดนึกเห็นภาพ

ตรงโนนตรงนี้ไดถนัด ถาเขาพูดถึงวัดเราจะไดนึกถึงวัดกอทิกท่ีไปดูมาวันน้ีเอง

แตแหมภาษาของพี่แกยากสิ้นดี ทุกประโยคตองไมเขาใจเสีย 2 - 3 คํา

เปนอยางนอย เลยยอมแพ เก็บหอจะสงไปใหคุณปริศนาอาน ตัวหญิงเอง

ลุกขึ้นนั่งเขียนถวายเจาพี่สนุกกวา 60

109

หมอมเจารัตนาวดีไดเลาใหหมอมเจาพจนปรีชาฟงเรื่องที่ไดไปเที่ยวปราสาท

Langeais ปราสาทนี้เปนปอมสีเทาๆ มีสะพานยกขึ้นลงได และไดเลาวาปราสาท

โบราณท่ีประเทศฝรั่งเศสซื้อไดในราคาที่ไมแพงมากเทาใดนัก

ปาไปแลว หญิงก็หยิบหอของของนายเล็ก ซึ่งหญิงซอนไวขางหลัง

เพราะไมอยากใหปาเห็นมาเปดดู ในหอนั้นมีหนังสือชื่อ Duchesse de

Langeais ของ Balzac ภาษาอังกฤษ แหม นายเล็กน่ีแกชางคิดดีเหลือเกิน

เพราะวันนี้เองท่ีเราไปดูปราสาท Langeais มา

ปราสาทนี้เปนปอมสีเทาๆ มีสะพานยกขึ้นลงได เราขับรถออกไป

เกือบถึงประตู เกือบตรงกันขามกับทางเขาของปราสาท

...........................................

ปราสาท Langeais น้ี เด๋ียวนี้ก็เปนของเศรษฐีชาวฝรั่งเศส

เหมือนกัน เศรษฐีผูนั้นตามธรรมดาอยูปารีส พอหนารอนก็ยายมาอยูที่

109

เร่ืองเดียวกัน, หนา 57 - 58.

Page 115: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

106

ปราสาทนี้ เปนคนใจกวางขวางดีมาก อุตสาหยอมเสียเงินมากมายซอมแซม

ปราสาท และรักษาไวอยางดีเหมือนเมื่อครั้งกระโนน คือครั้งพระเจาหลุยสท่ี

11 และชาลสที่ 8 เครื่องใชทุกอยางก็เหมือนอยางแตกอน สวยก็สวยไมมีที่ติ

แกอนุญาตใหคนดูไดทุกหอง จนกระทั่งหองนอนของแกเอง หญิงไดเห็นหอง

วิวาหของ Anne of Brittany กับพระเจาชาลสดวยคะ

ไดยินวาปราสาทเกาๆแถวนี้พอจะหาซื้อไดดวยราคาไมสูงมากนัก

เรามาเขาหุนกันซื้อไวสักหลังจะดีไหมคะ แตไดยินวาคาซอมนะที่แพงมาก

เขาวาบานเล็กๆ ซิหาซื้อยากกวาปราสาท เพราะปราสาทไมมีคนตองการ

หญิงนะอยากจะมีอยูสักหลังเหลือเกิน 61

110

หมอมเจาดนัยวัฒนาเขียนจดหมายเลาใหหมอมเจาพจนปรีชาฟงวาไดพา

หมอมเจารัตนาวดีและปาสรอยไปเท่ียวที่ปราสาทตางๆ เพิ่มเติม ดังนี้

จดหมายจากหมอมเจาดนัยวัฒนา ถึงหมอมเจาพจนปรีชา

Limoges

วันท่ี 18 พฤษภา

ทานพจนเพ่ือนรัก

วันนี้เราเดินทางระยะทางไกลมาก กวาจะมาถึงนี่ก็กินเวลาทั้งวัน

เราออกจาก Tours แตเชาตรู แวะดูปราสาท Chatillon sur Indre,

Buzancais และ Châteauroux แลวก็ตรงมา Limoges กวาจะถึงก็คํ่า

กินอาหารแลวตางคนก็ตางขึ้นหองนอน เพราะเพลียเต็มทน 111

หมอมเจาดนัยวัฒนาไดพาหมอมเจารัตนาวดีและปาสรอยไปพักคางคืนที่

ปราสาท Sègur - le – Château หมอมเจารัตนาวดีเขียนจดหมายเลาใหหมอมเจา

พจนปรีชาฟงวาปราสาทนี้อยูบนยอดเขา เจาของปราสาทเลาใหหมอมเจารัตนาวดี

ฟงวาภายในปราสาทเย็นมากเพราะทําดวยหิน

110

เร่ืองเดียวกัน, หนา 60 - 61. 111

เร่ืองเดียวกัน, หนา 62.

Page 116: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

107

ปราสาทของเขานี้อยูบนยอดเขาดวยคะ เหมือนปราสาทของ

นางเอกในนวนิยายอิงประวัติศาสตรท่ีหญิงเคยอานไมมีผิด มองลงไปเปน

หมูบาน หลังคาสีน้ําตาล มีธารน้ําไหล มีสะพานโคงขาม ดอกไมปาและ

ตนเกาลัดเต็มไปหมด

................................................................

มาดามปองตินยักเลาวา แกอยูปราสาทนี้ไดแตตอนสปริงปลายๆ

และหนารอนเทานั้น หนาหนาวที่นี่หนาวเกินไป ทําอยางไรก็ไมอุนพอ

เพราะปราสาทโบราณอยางนี้เปนหินทั้งน้ัน หองกวางเกินไปทําใหอุนยาก

คนโบราณเจาของปราสาททาจะหนังเหนียว และเลือดขนทนหนาวเกงกวา

คนสมัยนี้ น้ําทาคงไมอาบเลยตลอดเวลาที่หนาว แมตอนหนารอน ถาฝนตก

ติดกันสัก 3 วันก็ชื้น ตองใชเตาผิงเสียแลว เคราะหดีที่เวลาเรามาอากาศอุน

สบาย แตกระน้ันตอนกลางคืนก็ตองสวมเสื้อหนาๆ ............................

ที่หญิงติดใจที่สุดคือหองกินขาวของเขา มันโบราณดี โตะ

ไมโอกใหญไมปูผา ใชผาผืนเล็ก ๆ ปกฝมือดีปูเปนแหงๆ ในหองกินขาวไมใช

ไฟฟา เขาจุดเทียนไขไวกลางโตะ ใชเชิงเทียนหรู ดูก็รูวาโบราณ เครื่องใช

ทุกอยางก็โบราณและหรู กับขาวก็อรอยที่สุด 63

112

หมอมเจารัตนาวดีเลาใหฟงวา ปราสาท Chateau Bonneval หรูหราและ

ใหญโตมาก และมี draw bridge หรือสะพานยกขึ้นลงได และยังมีชองใหญอยูที่พื้น

ในสมัยโบราณใชสําหรับเททรายค่ัวรอน ๆ นํ้าเดือด ๆ หินกอนโต ๆ น้ํามันรอน ๆ ลงไปใส

ขาศึก เวลาขาศึกพยายามจะยึดปราสาท ใชบันไดพาดปนกําแพงขึ้นมา

นอกจากนี้แลวหญิงสนุกขึ้นทุกวัน จากปราสาทโบราณมาอยูบนเขา

แสนจะสบาย เมื่อวานเจาของปราสาท Sègur พาเที่ยวตลอดเชา ไปดู

ปราสาทสมัยยุคกลางแถวนั้นชื่อปราสาท Pompadour แลวดูวัดชื่อเดียวกัน

และปราสาทมโหฬารอีกปราสาทหน่ึงชื่อ Chateau Bonneval * ซึ่งเปน

ปราสาทสุดทายที่เราจะดูในขณะน้ี ปราสาทสุดทายนี่หรูมาก ใหญโตมโหฬาร

พระมหากษัตริยหลายสมัยเคยเสด็จมา

112

เร่ืองเดียวกัน, หนา 66 – 67.

Page 117: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

108

ประทับเปนแขกของเจาของปราสาท มี draw bridge ** มหึมา หญิงปนขึ้นไป

ดูบนปอมยอดปราสาทเพื่อดูวิว เห็นมีชองใหญอยูตรงพื้น ถามวาอะไร

ไดความวาเปนชองซึ่งเมื่อครั้งโบราณใชสําหรับเททรายค่ัวรอน ๆ นํ้าเดือด ๆ

หินกอนโต ๆ นํ้ามันรอน ๆ ลงไปใสขาศึก เวลาขาศึกพยายามจะยึดปราสาท

ใชบันไดพาดปนกําแพงขึ้นมาอยางท่ีเราเคยดูบอย ๆ ในหนัง 113

* อานวา บ็อนนิวาล

** สะพานยกขึ้นลงได ถาหมุนขึน้ใหยกเสียก็ไมมใีครเขาไปในปราสาทได เพราะมีคูรอบกาํแพง

รานอาหารหรูใตดินท่ีประเทศอิตาลี

ที่ประเทศอิตาลีมีรานอาหารที่แปลกไมเหมือนที่ใด เปนรานอาหารที่

ออกแบบอยางหรูหราอยูใตดิน หมอมเจาดนัยวัฒนาพาหมอมเจารัตนาวดีไปทานอาหาร

ที่รานน้ี หมอมเจารัตนาวดีไดบรรยายวาทางเขาเปนหองเล็กๆ อยูบนถนน เมื่อเดินผาน

หองแคบนั้นจะกลายเปนทางลงไปอุโมงค และจะพบรานอาหารที่ออกแบบอยางหรูหรา

ภายในประดับดวยคบไฟและไฟฟาซึ่งทําเหมือนเทียนไขใหแสงสวาง และมีหญิงสาวสวย

แตงตัวแบบโรมันโบราณรองเพลงและมีคนเลนดนตรีอยางไพเราะ และทั้งสองไดเตนรํา

ดวยกัน ณ ท่ีแหงน้ี

เราจนแตมไมรูจะตอบวากระไร ก็พอดีรถมาแลนกอกๆมาถึงถนน

แหงหน่ึงใกลๆกับแถวโรมันฟอรุม พี่ดนัยบอกใหรถหยุด แลวหันมาบอกเราวา

“ที่วิเศษของพี่ดูเหมือนอยูแถวนี้แหละคะ เรามาเดินหาดวยกันเถิด ไมได

มานานแลวชักลืมๆ” ทานกระโดดลงมาจากรถมา ย่ืนกรมาใหเราเกาะ ครั้งนี้

เรายอมเกาะโดยดี แลวเดินควงกันไปตามถนน

ที่ท่ีพี่ดนัยพาเราไปเปนหองเล็กๆแสนจะแคบ อยูบนถนน แตพอ

ทะลุหองแคบนั้นเขาไป กลายเปนทางลงไปในอุโมงค เปนรานอาหารหรูที่สุด

ที่เคยเห็นมา อยูใตดิน จัดอยางมโหฬารอยางที่เคยเห็นมาในรูปหรือหนัง

บอยๆ พี่ดนัยอธิบายวารานนี้เมื่อครั้งโบราณของชาวโรมัน เมื่อสัก 2 - 3

ศตวรรษมาแลว ที่น่ีเปลี่ยนจากไนตคลับโบราณของชาวโรมันมาเปนวัด *

113

เร่ืองเดียวกัน, หนา 72.

Page 118: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

109

ต้ังแตศตวรรษกอนก็ไดเปลี่ยนกลับมาเปนไนตคลับอยางหรูมาจนถึงทุกวันน้ี

แตเปนไนตคลับชั้นคลาสสิก บรรยากาศที่เคยเปนไนตคลับโบราณก็ยังอยู

เขายังใชคบไฟและไฟฟาซึ่งทําเหมือนเทียนไข ใหสองแสงแตเพียงดวงละ

หน่ึงดวงเทียนเชนเดียวกัน

เราไดนั่งแลวก็สั่งอาหารอิตาเลียนอยางดี เหลาองุน และแชมเปญ

มาด่ืม ระหวางรับประทานอาหารก็มีคนมาสีซอตามโตะ มีผูหญิงสาวสวย

คนหน่ึง แตงตัวแบบโรมันโบราณ แตไมไดรวบผม ปลอยใหยาวเฟอยยืนพิง

ฝาหินนิ่งเหมือนตุกตาปน เรารูวาเจาหลอนเปนคนก็ตอเมื่อเจาหลอนสงเสียง

รองเพลงแหลมไพเราะคลอเสียงดนตรี ชางดูนาฟงอะไรเชนนั้น เราตองหยิก

ตัวเองเปนหลายครั้ง เพื่อเตือนตัวเองวาไมไดฝนไป

พอเพลงเตนรําขึ้น พี่ดนัยก็ลุกขึ้นขอเราเตนรํา เปนครั้งแรกที่เรา

เตนรําดวยกันต้ังแตรูจักกันมา 114

* Monastery

สถาปตยกรรมยุโรปที่ไดกลาวถึงนี้มีความพิเศษโดดเดนไดแก Whispering

Gallery ของวัดเซนตพอล แบบบานของคนยุโรปในสมัยกอน เชนกระทอมแทชรูฟ

บานของเชกสเปยรกวีเอกของโลก ปราสาทโบราณของยุโรปที่ไดสรางมาต้ังแตครั้งอดีต

มีมากมายหลายแหง และรานอาหารหรูใตดินท่ีประเทศอิตาลี

3.5 การรักษาโรค

เรื่องรัตนาวดีกลาวถึงเมืองชื่อวา La Bourboule ประเทศฝรั่งเศส หมอมเจา

ดนัยวัฒนาเลาใหหมอมเจารัตนาวดีฟงวา เปนเมืองท่ีคนมารักษาโรคหืด พอเชาเขาเอา

ผาหนาๆ คลุมหัวคลุมตัวเหลือแตหนา พากันเดินไปอาบน้ํารอน สูดน้ําแรเพื่อรักษาหืด

ต้ังแตเดือนพฤษภาคมไปจนตลอดหนารอนมีคนมารักษาโรคหืดกันมาก มาจากประเทศ

ตางๆ ทั่วโลก

114

เร่ืองเดียวกัน, หนา 194.

Page 119: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

110

Mont Dore*

เวลาน้ีหญิงมาอยูบนเขาแลว สูงกวาหกพันฟุต อากาศสบาย แต

คอนขางหนาว ( ปานะถึงกับงัดถุงมือหนาๆ ออกมาใสและคางสั่นดวย

ความหนาว ) เรามาถึงต้ังแตเมื่อคืน พอมาถึงก็กินอาหารที่โฮเต็ล

กับขาวอรอยตามเคย แตคนเดินโตะลวนมีผาพันคอทุกคน คนท่ีนั่งกินอาหาร

ก็กระแอมกระไอมากกวาธรรมดา แตเราก็ไมไดเอาใจใส พอกินเสร็จก็เขา

หองนอนเลย อาจจะเหน็ดเหน่ือยเมื่อยลาพอใช

รุงเชา หญิงต่ืนขึ้นมาก็รีบแตงเนื้อแตงตัว ลงมาขางลาง นึกจะไป

เดินเลนใกลๆ และดูวิวภูเขาคนเดียวกอนปาต่ืน พอออกประตูโฮเต็ลก็ตกใจ

นึกวาตาฝาดไป เพราะเห็นคนเดินถนนทุกคนมีผาคลุมหัวคลุมตัวเหลือแต

หนายังกับเมืองอาหรับ คนเหลานั้นตางก็หันมามองดูหญิงอยางประหลาดใจ

คลายกับวาหญิงเปนคนแปลกหนาพลัดมาในหมูของเขา แลวตางก็พากันเดิน

ไปทางเดียวกัน หรือไมก็เดินสวนมาจากทางเดียวกัน หญิงย่ิงงง พอดีไดยิน

เสียงทักวา “ทมต่ืนแตเชาเทียวหรือกระหมอม?”

หญิงหันไปก็เห็นนายเล็กยืนอยูใกลๆ จึงถามวา “ไหนบอกมา

หนอยซินายเล็ก วาท่ีนี่มันเมืองอะไรกันแน นึกวาอยูเมืองฝรั่งเศส แตทําไมจึง

กลายเปนเมืองอาหรับไป เรามาถึงเมืองอาหรับต้ังแตเมื่อไหร?”

นายเล็กหัวเราะ (นายเล็กคนนี้เวลาหัวเราะหรือย้ิมละกอหนาด๊ีดีคะ

เห็นจะเปนเพราะฟนของเขาสวย หญิงก็พึ่งสังเกตดีๆ เขาวันนี้เอง) แลว

ตอบวา “เราอยูเมืองฝรั่งเศสหมอม เผอิญเปนเมืองที่คนมารักษาโรคหืด

พอเชาเขาก็เอาผาหนาๆ คลุมหัวคลุมตัวเหลือแตหนา พากันเดินไป

อาบน้ํารอน สูดน้ําแรเพื่อรักษาหืดต้ังแตเดือนนี้ไปจนตลอดหนารอนมีคนมา

รักษาโรคหืดกันมาก คนทุกชนิดมาจากประเทศตางๆ ทั่วโลก ตอนเชาเขาก็

รักษาโรคกันไป ตอนกลางคืนก็เขากาสิโนเลนการพนันแกเหงาบาง เมืองน้ี

ไมคอยมีคนมาเที่ยว มีก็แตคนที่มารักษาโรคหืดหรือคนท่ีผานมาอยางเรา

แตกระนั้นโฮเต็ลยังเต็มทุกโฮเต็ล แมบอยที่โฮเต็ลก็เปนคนมารักษาหืด แต

ไมอยากเสียเงิน จึงหางานทําพลาง รักษาหืดพลาง การรักษาของเขา

กินเวลาไมตํ่ากวา 3 อาทิตย หมอผูเชี่ยวชาญทางโรคปอดที่มีชื่อเสียงก็มา

ประจําอยูที่น่ีหลายคน” หญิงพยักหนาหงึกๆ อยางเขาใจ นายเล็กเลาตอไป

“เลยไปจากที่นี่หนอยหน่ึง เราผานเมื่อคืนน้ีตอนมืดแลวเลยมองไมเห็น เห็น

Page 120: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

111

แตแสงไฟก็ไมรูวาเปนอะไร อันที่จริงเปนเมืองชื่อ La Bourboule เปนแหลง

รักษาเด็กท่ีเปนหืด”

“พาฉันไปดูหนอยไดไหมนายเล็ก กอนที่ปาจะต่ืน?”

“ดวยความยินดีอยางย่ิง แตตองเสด็จรถ”

“เอะ ไหนวาใกลนิดเดียวยังไง?” หญิงแสดงความโงถามออกมา

“ใกลนิดเดียวทางรถ ถาจะทรงดําเนินเห็นจะหลายชั่วโมง ทาง

เปนเขาทั้งน้ัน”

เพราะไมอยากจะใหคนเห็นประหลาด อยู ๆ มีชายหนุมหนาตาโก

ขับรถ หญิงสาวไพลไปนั่งปอหลออยูขางหลัง ใครจะมารูวาคนหนึ่งเปน

นาย อีกคนหนึ่งเปนคนใชเขาก็จะตองนึกวาคนหนาสีน้ําตาล 2 คนน่ีทําอะไร

แปลกๆ หรือไมก็คิดวาโกรธกันมาแตครั้งไหนจึงไปนั่งคนละแหงอยางน้ัน

หญิงจึงเปดประตูรถขางหนา แลวนั่งคูกับนายเล็กตรงไป La Bourboule **

แหม เมืองนี้นากลุมใจจังเลยคะ เด็กท้ังนั้นเลย เอาผาคลุมหัว

คลุมตัวพากันเดินไปสูดน้ําแร อาบน้ํารอน รักษาหืด เด็กบางคนก็มีผูใหญ

พาไป บางคนก็ไปกันเอง ท้ังเมืองเต็มไปดวยเด็กคลุมหัว เด็กทุกขนาด มี

ต้ังแตขนาดเดินยังไมได ผูใหญตองอุมไป ขนาดเดินเตาะแตะ ขนาด 6-7

ขวบ จนขนาดโตเกือบเปนหนุม เปนสาวก็มี ทุกคนมุงหนาไปทาง

เดียวกัน หญิงไมนึกเลยวาในตอนเชาวันเดียวกันจะไดเห็นคนเปนหืดมากมาย

ถึงเพียงนี้ 115

* อานวา ม็องดอร

** อานวา ลาบูรบุล

ผูแตงไดกลาวถึงการอาบน้ําแรของชาวยุโรป เพื่อรักษาอาการปวดเมื่อยและ

น้ําแรชวยรักษาโรคอ่ืนๆ อีกดวย เมือง Baden เปนเมืองท่ีอยูไมไกลจากเมืองซูริก

ประเทศสวิสเซอรแลนดเปนเมืองที่คนเดินทางไปเพื่ออาบน้ําแร

หมูน้ีปาบนวาปวดเมื่อย นายเล็กก็เลยพานั่งรถไปเมือง Baden

ซึ่งอยูไกลจากเมืองซูริกสถานีเดียวทางรถไฟ เปนที่ที่คนมารักษาตัวและ

115

เร่ืองเดียวกัน, หนา 69 - 71.

Page 121: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

112

อาบน้ําแร โฮเต็ลเกือบทุกโฮเต็ลในเมืองน้ีมีทอไขนํ้ารอนธรรมชาติเขาไปใน

หองน้ําได เราไปถึงก็เชาหองในโฮเต็ลวันหนึ่งสําหรับใหปาพักและลองอาบน้ํา

แตนํ้าเมืองนี้มันไมเหมือนน้ําในบอน้ํารอนที่เราเคยอาบที่ศรีราชานี่คะ มันเปน

น้ําแรกลิ่นแรงยังกับไขเนา ปาบนสักกระบุงจะไมยอมอาบทาเดียว

ปา “นี่มันเรื่องอะไรถึงจะเกณฑใหหมอมฉันอาบน้ําเหม็นๆ

อยางนี้ละ ทานหญิง ? ”

หญิง “ อาว ไหนวาจะรักษาความปวดความเมื่อยไมใชหรือคะ ”

ปา “ ถูกแลวเพคะ แตไมอยากรักษาดวยนํ้าเหม็นๆ ”

หญิง “ น้ําหอมๆ มันจะรักษาไดอยางไร จะรักษาหรือไมรักษา

ก็วามา ถาไมรักษาจะไดกลับไปซูริก แลวทีหลังปวดเมื่อยละกออยามาบน

ใสหญิงนะคะ หญิงจะอุดหู แลวไมนวดใหอีกเปนอันขาด ปลอยใหครางฮือๆ

คนเดียวเสียใหเข็ด ”

ตกลงปายอมอาบ ทาจะกลัวคําขูของหญิง พุทโธ ใครๆ คงจะ

นึกวาการที่หญิงมาเที่ยวท่ีนี่นะ คงจะมีความสุขสนุกสบาย มันสนุกถูกแลว

แตบางทีก็ไมสบายนักดอก บางทีนั่งรถมาตลอดวัน พอถึงโฮเต็ลนึกวาจะได

พักผอนบาง หนอย ปาเกิดตีหนานาสงสาร ใหหญิงตองทาน้ํามันและนวดให

เสียแลว บางทีหญิงเพลียจนเกือบจะหลับคาปาแนะคะ อยางไรก็ตามเมื่อปา

ไดอาบนํ้ารอนธรรมชาติที่ Baden แลวก็ชักจะติดใจ บอกวาอาบไปอาบมา

เลยไมเหมือนไขเนา เพราะจมูกเคยชิน เราเลยคางอยู 3 วัน กับ 2 คืน ให

ปาไดแชน้ําวันละ 2 หน หนละนานๆ

ตอนเย็นวันแรก หญิงออกจากโฮเต็ลไปเดินเลนคนเดียว คนใน

เมืองน้ีราว 70 เปอรเซ็นต ขาโขยกเขยกหรือเจ็บปวยประการใดประการหน่ึง

มีที่ดี ๆ 30 เปอรเซ็นต คือพวกที่มากับคนเจ็บปวยอยางหญิงนี้ 67

116

การอาบนํ้าแรเปนการรักษาโรคของคนยุโรปมาต้ังแตสมัยโบราณและก็ยังคง

เปนอีกทางเลือกหนึ่งของการรักษาโรคมาจนกระท่ังถึงทุกวันนี้

116

เร่ืองเดียวกัน, หนา 128 - 129.

Page 122: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

113

3.6 การแสดง การละคร

การแสดง การละครเปนสิ่งบันเทิงของทุกวัฒนธรรม หมอมเจารัตนาวดี

เลาใหหมอมเจาพจนปรีชาฟงวาไดไปชมการแสดงที่ขึ้นชื่อของยุโรปเมื่อแรกมาถึงประเทศ

อังกฤษ

จดหมายจากหมอมเจารัตนาวดี ถึงหมอมเจาพจนปรีชา

ลอนดอน

วันท่ี 28 เมษายน

ทูลเจาพ่ีทรงทราบ

เวลาน้ีหญิงใชเวลาเที่ยวเตรขนาดหนัก เขามีอะไรกันดีๆท่ีไหน

หญิงเปนไมยอมขาด ฟงคอนเสิรตหรือไมก็ดูละครทุกคืนเลย โอเปรา

บัลเลต ไอซรีวิว ละครพูด musical comedy หญิงดูแลวท้ังนั้น แมแต

เซอรลอเรนซ ออลิเวียร และจอน กิลกูด หญิงก็เคยไดเห็นตัวจริง

ที่ตางๆที่ควรจะดูเชน Tower of London Westminster

Abbey ปาลิเมนต มิวเซียมสําคัญๆ ระเบียงรูปภาพ มิวเซียมขี้ผึ้ง สวนสัตว

แฮมตันคอรต ปราสาทวินดเซอร อะไรพวกนั้น หญิงไปดูทั่วแลว 117

ในเรื่องรัตนาวดีหมอมเจาดนัยวัฒนา หมอมเจารัตนาวดีและปาสรอยไดไป

ชมละคร ซึ่งเปนโรงละครกลางแจงคลายกับ Shakespeare ‘s Memorial Theatre ซึ่ง

ทําคลายละครกลางแจงที่เลนเมื่อครั้งเชกสเปยร

ตอนทุมครึ่งเราไปดูละครเรื่องโรมิโอและจูเลียต หญิงจําไดวาเมื่อ

คุณปริศนามากับเจาพี่ คุณปริศนาดูเรื่อง Hamlet คืนหนึ่ง และ The Winter

‘s Tale อีกคืนหน่ึง เพราะคุณปริศนามาคางอยู ๒ คืน คุณปริศนาคงนึกภาพ

Shakespeare ‘s Memorial Theatre ซึ่งทําคลายละครกลางแจงที่เลนเมื่อครั้ง

เชกสเปยรได หญิงวามันก็ทํานองเดียวกับโขนกลางแปลงของเราแหละคะ

117

เร่ืองเดียวกัน, หนา 24.

Page 123: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

114

คืนที่หญิงมาดูก็คงเหมือนคืนท่ีคุณปริศนามา คนแนนตามเคย ตองเขาคิวยาว

ตีต๋ัว ปาเหนื่อยไมอยากจะดูแตหญิงจะไปใหไดก็จําตองไปดวย ไมยอม

ใหหญิงไปกับนายเล็กตามลําพัง ไปถึงไปนั่งโงกหงุบๆ นานๆ ต่ืนขึ้นดูเสียที

สวนหญิงติดใจแทบแย เลนดีทุกตัวและพูดชัดจัง 118

ที่ประเทศฝรั่งเศส ทุกคนไดไปชมบัลเลตที่โรงละคร Opera Comique

หมอมเจารัตนาวดีเลาใหปริศนา พี่สะใภฟงวาละครที่ไดไปชมเปนดังนี้

กลางคืนไปดูบัลเลตที่โรง Opera Comique วิเศษมาก ไมได

เปนเรื่องใหญเชน Sleeping Beauty หรือ Swan Lake ที่เคยดูท่ีลอนดอน

เปนฉากไมยาวนัก ๔ ฉาก โดยนักแตงเพลงตางๆกัน

ฉาก ๑ ชื่อ Les Sylphides. Chopin เปนผูแตงเพลง ท้ังเพราะ

ทั้งงดงามเพลิดเพลินมาก

ฉาก ๒ La Valse. แตงเพลงโดย Ravel

ฉาก ๓ Khamma. Debussy แตงเพลง ชิ้นนี้หญิงไมรูจักเลย

เรื่องก็แปลกเปนเรื่องเมืองอียิปต ต้ังตนเรื่องในโบสถของเทวรูป Amun Ra

เมืองกําลังถูกขาศึกลอม พลเมืองจึงพากันไปออนวอนขอใหเทวรูปชวย มิให

เมืองของตนเปนอันตราย เทวรูปบอกวาจะชวย ถาพลเมืองเอาผูหญิงสาว

มาบูชายัญ Khamma เปนชื่อของหญิงงามท่ีถูกนําเขามาบูชายัญ พอเขามา

ในโบสถก็เตนรํา เทวรูปเห็นนางเขาก็นึกรัก จึงสงวิญญาณออกมาในรางของ

ชายหนุมแลวเตนรําดวยกัน และฆาคูรักของนางซึ่งตามมาสงนางที่โบสถเสีย

ครั้นแลวก็พานางหายไปในเทวรูป

ฉาก ๔ เปนตอนหนึ่งในเรื่อง Casse Noisette ของ Tchaikowsky

นักแตงเพลงที่หญิงชอบนักหนา 119

ทุกคนไดไปชมการแสดงที่เมือง Chambord หมอมเจาดนัยวัฒนาเลาให

หมอมเจาพจนปรีชาฟงวา การแสดงนี้เปนการแสดงที่แปลกใหม ไมมีผูแสดง มีแต

เสียงดนตรีโบราณ มีแสงไฟที่ฉายไปยังตัวปราสาท และมีเสียงคนเลาเรื่อง

118 เร่ืองเดยีวกัน, หนา 29. 119

เร่ืองเดียวกัน, หนา 36 - 37.

Page 124: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

115

จดหมายจากหมอมเจาดนัยวัฒนา ถึงหมอมเจาพจนปรีชา

Chambord *

วันท่ี 11 พฤษภาคม

ทานพจนท่ีรัก

หมอมกําลังเบ่ือตัวเองเหลือเกิน เวลาน้ีดึกแลว แตหมอมยังน่ังอยูที่

โฮเต็ลติดกับปราสาท Chambord ซึ่งประดับประดางดงามดวยไฟฟา เมื่อ

ตอนหัวคํ่าเขามีการแสดงเลาถึงประวัติของปราสาท คนนั่งดูอยูกลางแจง

ตามสนามริมสระ อากาศเย็นขึ้นทุกที คุณปาสรอยของนองหญิงหนาวจน

คางสั่น หมอมตองไปขนผาหมมาใหคลุมทับโอเวอรโคต และเอากระเปา

น้ํารอนมาใหกอด จึงคอยยังชั่ว

การแสดงคืนนี้เปนการแสดงที่ประหลาด ไมมีคนเลย มีแต

เสียงดนตรีโบราณ มีแสงไฟเด๋ียวสวางเด๋ียวมืดที่ปราสาท และเสียงคนเลาเรื่อง

เทานั้น แตก็จับใจเปนที่สุด เขาเลาประวัติต้ังแตปราสาทสรางใหมๆ มี

งานใหญฉลองเสียงคึกคัก เปดไฟสวาง มีเสียงดนตรี เรานั่งดูอยูขางนอก

จนเกือบจะลืมไป นึกวาเขากําลังมีงานในปราสาทจริงๆ พอเลาถึงตอน

กษัตริยประชวร บรรยากาศเศราสลด พอสิ้นพระชนมไฟมืดหมด มีเสียงดนตรี

ฟงแลวขนลุก เด๋ียวเริ่มรัชกาลใหมไฟสวางพรึบขึ้นมาเปนดานๆ ดนตรีดัง

กังวาน ฟงแลวขนลุกอีก แตขนลุกเพราะรูสึกวามีหวัง มีแสงสวางขึ้นใน

ยามมืดอยางไรพิกล

บัดนี้การแสดงไฟและดนตรีที่ปราสาทจบลงแลว หมอมพานองหญิง

และคุณสรอยไปสงที่บันไดขึ้นไปหอง แลวหมอมก็มาหองของหมอม เขียน

จดหมายถึงทาน หมอมนอนไมหลับจนกวาจะไดเลาถวายทาน 120

* อานวา ชอมบอ

ละครและการแสดงของยุโรปที่ผูแตงไดทรงกลาวไวในนวนิยายอยางสั้นๆ มี

หลายประเภททั้ง โอเปรา บัลเลต ไอซรีวิว ละครพูด musical comedy และ

120

เร่ืองเดียวกัน, หนา 38.

Page 125: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

116

การแสดงแสง สี เสียงที่ไมมีผูแสดง มีแตเสียงผูเลาเรื่องและเสียงดนตรีประกอบที่ปราสาท

Chambord ที่ประเทศฝรั่งเศส

3.7 ผลิตภัณฑท่ีมีช่ือเสยีงของเมือง

เรื่องรัตนาวดีไดกลาวถึงผลิตภัณฑที่มีชื่อเสียงของเมือง ทําใหผูอานไดรับความรู

ดังนี้ น้ําแรเมือง Evian ของที่ระลึกของประเทศสวิสเซอรแลนด ผาลูกไมสวิส

เครื่องกระเบ้ืองโรเซ็นทาล ที่เมือง St. Gallen

นํ้าแร Evian

เมื่อเชาวานหญิงเขามาในเมืองฝรั่งเศสอีก น่ังรถเรื่อยไปตาม

ทะเลสาบผานเมือง Thonon และ Evian พอเอยถึง Evian ปาสรอยเกิด

ซึมซาบขึ้นมาทันที อยากเห็นเมืองนี้นัก เมืองอ่ืนเปนกายเปนกองก็ไมอยาก

เห็น เมืองเจนีวาเองก็เปนเมืองท่ีมีชื่อเสียง อานหนังสือพิมพพบขาววาเขามา

ประชุมกันออกบอย ๆ ปากลับไมต่ืนเตน มาต่ืนเตนเมือง Evian ซึ่งเล็ก

นิดเดียว แทบไมมีอะไรนอกจากกาสิโน ซักไปซักมาไดความวาที่ต่ืนเตน

เมืองน้ีนักก็เพราะเอเวียงมีน้ําแร ซึ่งครั้งกระโนนเจานายในวังเคยสั่งมา

เสวยกันเปนหีบ ๆ แกโรคภัยไขเจ็บและปวดเมื่อย ครั้งนั้นปาด่ืมน้ําแร

พลางสงสัยวาเมืองที่มีน้ําแรน้ีเปนอยางไรหนอ อยากจะเห็น ไมนึกเลยวา

จะไดมาเห็นจริง ๆ ถึงไดต่ืนเตนนักหนา

เมื่อผาน Evian ใหปาไดชมเมืองนํ้าแรของปา แลวเราก็เขาเมือง

สวิสอีกไปทาง Montreux แลวขึ้นเขาทางสวยมากดอกไมปาสีตาง ๆ ขึ้น

เต็มทุง หญิงขอใหนายเล็กหยุดรถเพื่อหญิงจะไดว่ิงลงไปเก็บดอกไม 2 - 3 ครั้ง

เด๋ียวนี้ไมวาหญิงไปไหนตองมีกระปองเล็ก ๆ ใสน้ํามาในรถดวย สําหรับแช

ดอกไมท่ีเก็บไดกลางทาง ไปถึงโฮเต็ลจะไดไมเหี่ยวแหง 121

ผูแตงไดทรงเลาวา เมือง Evian เปนเมืองท่ีมีน้ําแร และน้ําแรของเมือง Evian นี้

เจานายในวังในสมัยกอนไดสั่งมาเสวย แกโรคภัยไขเจ็บและปวดเมื่อย

121

เร่ืองเดียวกัน, หนา 79 - 80.

Page 126: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

117

ของท่ีระลึกของประเทศสวิสเซอรแลนด

หมอมเจาดนัยวัฒนาเลาใหหมอมเจาพจนปรีชาฟงเปนขอความสั้นๆ วา ท่ี

เมือง Interlaken หมอมเจารัตนาวดีไดซื้อของเลน ของที่ระลึกของประเทศ

สวิสเซอรแลนดหลายอยาง

นองหญิงซื้อของเลนสนุกใหญ ตุกตาไมสลัก กระทอมสวิสอันเล็กๆ

พอเปดหลังคาก็มีเพลงดังออกมา เข็มกลัดและอะไรตออะไรมากมาย 73

122

ผาลูกไมสวิส

เมือง St. Gallen เปนเมืองท่ีทําผาลูกไมสวิส ผูแตงทรงกลาวไวในนวนิยายวา

ผาลูกไมสวิสนี้คนไทยชอบใสกันมาก และที่เมืองนี้ผาลูกไมสวิสสวยและลวดลายแปลกใหม

กวาที่นําเขามาขายที่กรุงเทพฯ

............. จาก Lindau ผานเขาออสเตรียเสียหนอย ผาน

Bregenz และ Dornbirn * ตรงมา St. Gallen เมืองทําผาลูกไมสวิสที่

คนไทยชอบใสกันมาก ( ตามคําบอกเลาของหนูอาด ) คุณสรอยกับหนูอาดซื้อ

กันใหญ บอกวาสวยและแปลกกวาที่มีขายในกรุงเทพฯ ท้ังน้ัน 74

123

* อานวา ดอนเบียน

เคร่ืองกระเบื้องโรเซ็นทาล ท่ีประเทศเยอรมัน

ผูแตงไดทรงกลาวถึงเครื่องกระเบ้ืองโรเซ็นทาล ที่ประเทศเยอรมัน ผูแตงไดทรงเขียน

เชิงอรรถอธิบายเพิ่มเติมวา เครื่องกระเบ้ืองโรเซ็นทาล ถือกันวาดีมีชื่อเสียงท่ีสุดย่ีหอหน่ึง

ของเยอรมัน

122

เร่ืองเดียวกัน, หนา 87. 123

เร่ืองเดียวกัน, หนา 111.

Page 127: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

118

นอกจากนั้นเมืองนี้ยังมีรานเล็กๆ เต็มไปหมด ขาวของนาซื้อมากมาย

กายกอง ราคาถูก คุณสรอยเองยังซื้อกระเปาต้ัง 3 – 4 ใบ หนังอยางดี

ฝมือดี แบบเกๆ ราคาถูกกวาในสวิสเพียง 1 ใน 3 เทานั้น ถวยชามย่ีหอ

โรเซ็นทาล * สีและลายตางๆ มีทุกชนิด มีขายแทบทุกรานยังกับที่สําเพ็ง

( ตามหนูอาดวา ) ราคาถูกอยางไมนาเชื่อ ถาหมอมซื้อเอาไปท่ีลอนดอน

คงหรูพิลึก ซ้ําราคาก็ถูกยังกับไดเปลาๆ ท่ีหมอมอยากไดที่สุดก็คือชุดกาแฟ

สําหรับ 12 คน มี 2 ชุด ที่ถูกใจมาก ชุดสีดํากับทอง และสีพยับหมอกกับเงิน

หมอมยังตกลงใจไมถูกวาจะเลือกชุดไหน จะเลือกพี่ก็ยังเสียดายนองอยู ก็

พอดีนึกขึ้นไดวาคนอยางนายเล็กซื้อของพรรคนี้ไปก็ถูกสงสัยเทานั้น คนอยาง

นายเล็กตองไมรูจักใชถวยกาแฟหรู หมอมก็เลยไดแตทําตาปริบๆ กลืน

ความอยากไดไวในใจ ตอนนี้เราตองยอมอดเปรี้ยวไวคอยกินหวาน หมอมนะ

อยากไดชุดกาแฟถึงขนาดเห็นภาพของมันวางไวท่ีตูกระจกมุมหองในแฟลต

ของหมอมที่ลอนดอนเรียบรอยแลว 75

124

* ถือกันวาดีมชีื่อเสียงท่ีสุดยี่หอหน่ึงของเยอรมัน

3.8 การพักผอน

ในเรื่องนิกกับพิม พิมเขียนจดหมายเลาใหนิกฟงวา พิมรูจักวาวเหมือนกัน เพราะ

บานของพิมที่ประเทศสวิสเซอรแลนดก็มีการเลนวาวเหมือนที่เมืองไทย เด็กๆ ท่ีประเทศ

สวิสเซอรแลนดเลนวาวกันในฤดูใบไมรวง และเมื่อมีหิมะชาวยุโรปจะเลนสกีกัน พิม

เลาใหนิกฟงอยางสั้นๆ ดังนี้

.....................จริงอยูเขาไมเคยขังฉันไวในโรงรถ เพราะเขาไมมี

โรงรถที่จะขังฉัน และเขาไมตีฉันดวยแสเพราะตัวของฉันเล็กนิดเดียว แตเขา

มีกฎสําหรับหามฉันไมใหทําโนนทํานี่มากมายเหลือเกิน ฉันยอมถูกขังใน

โรงรถ และถูกตีดวยแสมากกวาอยูในกฎเกณฑอะไรตางๆของเขา อยางแก

โดนอยางฉันบางเปนคลั่งแนนอน แกนะเฮี้ยวเกงออก เพียงแตโดนแมสาว

ขางบานเรียกไอหนูเทาน้ัน แกก็ดึงเขาจนตัวปลิวเปนวาวทีเดียว ฉันเขาใจ

124

เร่ืองเดียวกัน, หนา 109 - 110.

Page 128: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

119

ความหมายของแกดีเรื่องวาว ฉันก็รูจักวาวเหมือนกันเพราะเด็กผูชายที่เมืองน้ี

ชอบเลนวาว แตเลนตอนฤดูใบไมรวง คือเวลาใบไมกลายเปนสีตางๆ เชน

สีแดง สีเหลือง สีน้ําตาล หนานี้เขาไมไดเลนกัน เพราะเวลานี้เปนฤดูใบไมผลิ

ถูกแลวเวลาน้ีเปนฤดูใบไมผลิ หิมะในสวนละลายหมดแลว อากาศ

ก็ไมสูหนาวอยางแตกอน หิมะขาวอยูแตตามภูเขาเทาน้ัน

เวลานายของฉันขัดสกีเตรียมไปเลนบนภูเขา ฉันรูวาเขาไปกันเพียง

สามคน คือ นายผูหญิง นายผูชาย และลูกของเขา เขาใหฉันอยูเฝา

โวนุงกับแบรตา แบรตาผูน้ีตามธรรมดาคางตอนนายไมอยูเทาน้ัน นายผูชาย

บอกวาอากาศบนภูเขาหนาวเกินไปสําหรับฉัน เขาไมยักรูวาฉันทนหนาวได

ดีกวาเขาเปนกอง ฉันเปนหมาขนยาวนี่นะ เวลานี้อากาศไมสูจะหนาว

นักแลว 76

125

3.9 ประเพณีของชาวสวิสเซอรแลนด

ผูแตงไดทรงกลาวถึงประเพณีของชาวสวิสเซอรแลนด แมวาตัวละคร หมอมเจา

ดนัยวัฒนา หมอมเจารัตนาวดีและปาสรอยจะไมไดอยูรวมงานดังกลาว เพราะเลย

ชวงเวลาท่ีจัดงานมาแลว แตผูแตงก็ไดใหหมอมเจารัตนาวดีเลาประเพณีนี้ใหปริศนาฟง

ดังนี้

จดหมายจากหมอมเจารัตนาวดี ถึงหมอมปริศนา พ่ีสะใภ

Zurich

18 มิถุนายน

คุณปริศนาท่ีรัก

หญิงมาอยูที่นี่หลายวันแลว ออกจะชอบ เมืองใหญโตดี มีที่เที่ยว

และท่ีซื้อของมาก วิวก็สวย นายเล็กพาเราไปกินอาหารแปลกๆ ทุกมื้อ

กับขาวอิตาเลียนบาง กับขาวเสปนบาง กับขาวสวิสบาง ไอเนยแข็งละลาย

กับเหลาจิ้มขนมปงที่เรียกวา Fondue ซึ่งคุณปริศนาชอบนักหนา หญิงก็เคย

125

ว. ณ ประมวญมารค, นกิกับพมิ, หนา 55 – 56.

Page 129: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

120

กินแลวละคะ หญิงเสียดายที่ไมไดมาอยูท่ีนี่ตอนกลางเดือนเมษา ราววันที่

21 เขามีแหประจําปของเมืองนี้ ต้ังตนต้ังแตบาย 3 โมงจนคํ่า ขบวน

ยาวเหยียดไปริมทะเลสาบแถว Bellevue พอไดฤกษคือยํ่าคํ่า เขาก็ตีระฆังขึ้น

พรอมกันท่ัวเมือง และเผาสโนวแมนตัวใหญซึ่งทําดวยสําลีบรรจุดินปนขางใน

เสียงระเบิดลั่นกอง ที่เผาสโนวแมนเสียน้ีก็เพื่อแสดงวาเลิกหนาวกันที จะ

ต้ังตนหนารอนทีละ กลางคืนเขาก็ตกแตงหนาตางหรือเฉลียงของทุกบาน

งดงามดวยโคมน้ํามันออลีฟ ซึ่งเหมือนโคมน้ํามันมะพราวของเรา มองดูเปน

แสงหิ่งหอยไปทั่วเมือง คงจะนาเอ็นดูดี 77

126

ประเพณนีี้เปนประเพณีของชาวสวิสเซอรแลนด เพื่อแสดงวาฤดูหนาวไดหมดไปแลว

จัดขึ้นประมาณวันที่ 21 เมษายน ของทุกป

สถานท่ีตางๆ ในยุโรป

เรื่องรัตนาวดีไดกลาวถึงสถานท่ีตางๆในประเทศอังกฤษ ฝรั่งเศส

สวิสเซอรแลนด เยอรมัน อิตาลี หลายแหง และประเทศท่ีเล็กท่ีสุดในโลกคือประเทศ

ลิกเตนสไตน ซึ่งเปนความรูท่ีจะทําใหผูอานมีความรูที่กวางขวางมากย่ิงขึ้น ยกตัวอยาง

เชน

ประเทศอังกฤษ

ประเทศอังกฤษเปนประเทศแรกของการเดินทางในเรื่องรัตนาวดี หมอมเจา

รัตนาวดีไดเดินทางทองเท่ียวทั้งในกรุงลอนดอนและเมืองตางๆของประเทศอังกฤษ

สถานท่ีที่หมอมเจารัตนาวดีชื่นชอบมากคือ ชนบทของประเทศอังกฤษ

หมอมเจารัตนาวดีเขียนจดหมายเลาใหหมอมเจาพจนปรีชาฟงวา หมอมเจา

รัตนาวดีไดไปเที่ยวสถานที่ทองเท่ียวสําคัญๆในลอนดอนและใกลกรุงลอนดอนหลายแหง

แลว ดังน้ี

126

ว. ณ ประมวญมารค, รัตนาวดี, หนา 126.

Page 130: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

121

ที่ตางๆ ที่ควรจะดูเชน Tower of London Westminster Abbey

ปาลิเมนต มิวเซียมสําคัญๆ ระเบียงรูปภาพ มิวเซียมขี้ผึ้ง สวนสัตว

แฮมตันคอรต ปราสาทวินดเซอร อะไรพวกนั้น หญิงไปดูทั่วแลว 78

127

หมอมเจาดนัยวัฒนาหรือนายเล็กไดขับรถพาหมอมเจารัตนาวดีไปเที่ยวนอกเมือง

กรุงลอนดอน ภาพทิวทัศนสวยงามมากสรางความประทับใจใหกับหมอมเจารัตนาวดีเปน

อยางย่ิง และไดไปเที่ยวชม college ตางๆ ของมหาวิทยาลัย Oxford ดวย

หญิงจึงบอกวาอยากไปเที่ยวนอกเมือง นายเล็กวาจะเอารถ

ทานดนัยมาพาไปวันรุงขึ้น หญิงเห็นวาไหนๆ จะไปทั้งที ไปคางท่ี

ไหนๆ สักคืน 2 คืนคงดีพิลึก ปาเห็นดวย เพราะโปรดทานดนัย

เปนอันวาวันรุงขึ้นแตเชานายเล็กก็เอารถมารับเราไปทาง Bath ผาน

Cotswold Hills ซึ่งสวยที่สุด แวะกินอาหารกลางวันที่ Cheltenham

แลวตรงไป Oxford แวะดู college ตางๆ นายเล็กนี่เกงมาก อธิบาย

อะไรตออะไรใหเราฟงราวกับผูนําเที่ยว …………...

คืนนั้นเรากินขาวที่ Oxford นั่นเอง ในรานชื่อ White ’s แลว

นั่งรถไป Woodstock คางที่ที่พักคนเดินทางเล็กๆ นารักชื่อ Bear Hotel

ซึ่งอยูใกลกับ Blenheim Palace บานเกิดของนายกรัฐมนตรี

เซอรวินสตัน เชอรชิลล เชาขึ้นเราเขาดู Blenheim Palace แลวก็

ไปตอไปถึงหมูบานเล็กๆ ซึ่งเกาที่สุดแตสวยเหมือนเมืองในฝน เมือง

นารักของหญิงนี้มีชื่อวา Bibury มีนํ้าตกและลําธารเลี้ยวไปเลี้ยวมา

คดเค้ียวระหวางดอกไม 79

128

ทุกคนไดเดินทางไปทางเมือง Warwick หมอมเจารัตนาวดีชื่นชมวาทิวทัศน

สวยมาก เต็มไปดวยดอกไมสีสวยนานาชนิด และไดไปเที่ยวชมเมือง Cambridge

เที่ยวชมมหาวิทยาลัย Cambridge ตอนที่ไปที่มหาวิทยาลัย Cambridge

มีการแขงเรือระหวางคอลเลจตางๆ พอดีจึงไดชมการแขงเรือดวย

127

เร่ืองเดียวกัน, หนา 24. 128

เร่ืองเดียวกัน, หนา 27 – 28.

Page 131: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

122

วันรุงขึ้นเราออกจากเมืองเชกสเปยร ไปทาง Warwick สวยมาก

หญิงตองขอใหนายเล็กหยุดรถหลายครั้งเพื่อเก็บดอกไมริมทาง มี

ดอกบัตเตอรคัพ เดซี่ และดอกอะไรสีสวยๆ อีกหลายชนิดที่หญิงไม

รูจักชื่อ กลางวันแวะกินที่ St Neots มีซุปรอนๆ แกหนาวดีนัก บายก็

รอนๆ ของหวานคือแอปเปลทารตใสครีมสด ต้ังแตมาอยูเมืองฝรั่ง

น้ําหนักหญิงขึ้น 4 ปอนดแลวละคะ และมีทาวาจะขึ้นตอไปอีกดวย

บายเรากินนํ้าชาท่ี Cambridge เผอิญเขามีการแขงเรือระหวาง

คอลเลจตางๆ เลยไปว่ิงตามดูริมนํ้าพักใหญ กินขาวกลางคืนกลางทาง

กวาจะถึงลอนดอนต้ัง 5 ทุม สนุกสบายเหลือเกิน ต้ังแตวันนั้นหญิงก็

เลยติดใจชนบทเมืองอังกฤษ 80

129

ประเทศฝร่ังเศส

ในเรื่องรัตนาวดี หมอมเจาดนัยวัฒนาและหมอมเจารัตนาวดีไดเที่ยวชม

ปราสาทโบราณของประเทศฝรั่งเศสหลายแหง กลาวไดวาในเรื่องรัตนาวดีประเทศ

ฝรั่งเศสมีจุดเดนที่สําคัญคือ ปราสาทโบราณ ยกตัวอยางเชน

ที่ประเทศฝรั่งเศสทุกคนเดินทางมาถึงเมือง Dieppe และเดินทางตอไปยัง

Rouen, Mantes แวะชมพระราชวัง St. Germain หลังจากน้ันจึงเดินทางตอไปที่กรุง

ปารีส และทานอาหารที่รานอาหารหรู Chez Oncle Jean วันตอมาเดินทางไปเท่ียว

ชมพระราชวังแวรซายสซึ่งเปนพระราชวังสําคัญอีกแหงหนึ่งของประเทศฝรั่งเศส

ถึง Dieppe บาย 2 โมง 55 นาที ลงจากเรือไดก็เดินทางตอไปทาง

Rouen, Mantes แวะดูพระราชวัง St. Germain แลวก็ตรงไปปารีส ถึงปารีส

2 ทุมครึ่ง หาที่พักไดแลวก็ตรงไปกินอาหารท่ีนายเล็กพาไปที่รานเรียกวา

Chez Oncle Jean เปนรานหรูมาก กับขาวอรอยที่สุด เราลองกินของแปลกๆ

เชน ขากบ สมองวัวทอดกรอบ และหอยเอสคาโกเปนตน คืนน้ันเราหิวจัดเลย

กินจุจนสิ้นเงินไปหลายพันฟรังก...............ตอนบายเราไปพระราชวังแวรซายส

เดินดูจนทั่ว หญิงจะไมเลาเพราะคุณปริศนาเคยเห็นแลว 81

130

129

เร่ืองเดียวกัน, หนา 29 – 30. 130

เร่ืองเดียวกัน, หนา 35 - 36.

Page 132: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

123

นอกจากพระราชวังแวรซายสแลว ทุกคนยังไดเที่ยวชมพระราชวัง Fontainebleau

และเท่ียวชม Orleans และเย่ียมชม Notre- Dame de Cléry ที่ Meung หลังจากนั้น

ไดไปท่ี Chambord เพื่อแวะชมปราสาท

เราออกจากปารีสต้ังแตเชา แวะดูพระราชวัง Fontainebleau

แลวตรงไป Orleans เมืองโจนออฟอารค แวะดูเมือง วัด แลวไปตอ

แมน้ําลัวรออกจะสูงกําลังดี ไมเห็นทรายท้ัง 2 ฝงขางเหมือนตอนหนารอน

ทิวทัศนงดงาม ............. ขณะท่ีรถกําลังแลนเลย Meung หมอมหันไปเห็น

วัด Notre- Dame de Cléry อยูอีกฟากแมน้ํา ก็ชี้ใหนองหญิงดู พรอมกับ

บอกวา “นั่นไงหมอม วัด Cléry ซึ่งมีพระศพพระเจาหลุยสที่ 11 ฝงอยู ทรง

เรื่อง Quentin Durward * หรือเปลากระหมอม? วัดนี้นาดูมาก ถาไมได

ทอดพระเนตรละกอนาเสียดาย ”

.................................................

เราไปถึง Chambord ตอนเย็น เมื่อแรกเรากะวาจะแวะดูปราสาท

แลวก็ไปตอ และคางที่ Blois ** แตพอไปถึง ไดขาววากลางคืนที่นี่มีจุดไฟ

และดนตรี เลยคิดจะพักเสียท่ีโฮเต็ลใกลกับปราสาทนั้นเอง เพื่อดูอะไร

ก็ตามที่เขามีใหดูคืนนี้ 82

131

* นวนิยายอิงประวตัิศาสตรของเซอรวอลเตอร สกอตต

** อานวา บลัว

ทุกคนไดแวะเที่ยวชมปราสาทโบราณของประเทศฝรั่งเศสอีกหลายแหงดังนี้

ออกจากปราสาท Blois เราไปหาอาหารกลางวันกินตามทาง

แลวก็แวะไปดูปราสาทที่ Fougeres และ Cheverny ปราสาท Cheverny นี้

ไมไดสรางในสมัยเดียวกับปราสาทอ่ืนที่ไดดูมาริมแมน้ําลัวร แตสรางในสมัย

ที่เรียกวา Classical period คือเมื่อศตวรรษที่ ๑๗ และ ๑๘ ตอจากนั้นเราก็

ยอนกลับไปทางเกาดูปราสาท Chaumont (ศตวรรษที่ ๑๖) 83

132

131

เร่ืองเดียวกัน, หนา 39 – 40. 132

เร่ืองเดียวกัน, หนา 49 .

Page 133: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

124

หมอมเจาหญิงรัตนาวดีชอบปราสาทโบราณของยุโรปมากจึงไดไปเที่ยว

ชมอีกหลายแหงดังนี้

ตอจากปราสาทสมัย Renaissance ริมแมน้ําลัวรและตามที่ตางๆ

แถวนั้นเทาที่ดูได หญิงยังคิดจะไปดูปราสาทสมัยยุคกลาง แถว Corrèze อีก

เจาพี่ดูเหมือนไมไดเสด็จใชไหมคะ? นายเล็กเองก็ไมเคย แตไปอานพบเขา

ใน guide book และจะพาหญิงไป ทาจะวิเศษ

เอาละนะคะจะเลาเรื่องตอ รุงขึ้นจากคืนนี้เราไปคางที่โฮเต็ลเล็กๆ

ใกลปราสาท Chambord แตเชามืดเราก็ออกเดินทางกอนท่ีนายวิศาลและ

นายพุธต่ืน เราแวะไปดูปราสาทที่ Blois ที่ Fougere, Cheverny, Chaumont

ไถลดูตามสบาย ดูกันทั้งวันทีเดียว ต้ังใจจะไปกินขาวกลางคืนและคางที่

Amboise 133

ปราสาทโบราณท่ีประเทศฝรั่งเศสยังมีอีกหลายแหง ดังที่ทุกคนไดไปเย่ียมชม

คือปราสาท Chatillon sur Indre , Buzancais และ Châteauroux ดังนี้

จดหมายจากหมอมเจาดนัยวัฒนา ถึงหมอมเจาพจนปรีชา

Limoges

วันท่ี 18 พฤษภา

ทานพจนเพ่ือนรัก

วันนี้เราเดินทางระยะไกลมาก กวาจะมาถึงนี่ก็กินเวลาทั้งวัน เรา

ก็ออกจาก Tours แตเชาตรู แวะดูปราสาท Chatillon sur Indre , Buzancais

และ Châteauroux แลวก็ตรงมา Limoges กวาจะถึงก็คํ่า กินอาหารแลวตางคน

ก็ตางขึ้นหองนอน เพราะเพลียเต็มทน 85

134

133

เร่ืองเดียวกัน, หนา 50. 134

เร่ืองเดียวกัน, หนา 62.

Page 134: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

125

ประเทศสวิสเซอรแลนด

ประเทศสวิสเซอรแลนดเปนประเทศที่มีธรรมชาติสวยงาม หมอมเจารัตนาวดี

เขียนจดหมายเลาใหหมอมเจาพจนปรีชาฟงถึงสถานที่ที่สวยงามหลายแหงของประเทศ

สวิสเซอรแลนดท่ีเปนภูเขา ดอกไม เห็นเปนภาพทิวทัศนที่งดงาม

จากทะเลสาบ Leman หรือทะเลสาบเจนีวาในวันที่อากาศดีจะมองเห็น ภูเขา

Mont Blanc ทุกคนไดแวะผานเมือง Thonon และ เมืองนํ้าแร Evian ทางไป Montreux

ขึ้นเขา ทางสวยมาก มีดอกไมปาสีตางๆ ขึ้นเต็มทุง ไดไปเท่ียวทุงดอกนาซิสซัสบนเขาที่

เรียกวา Les Pleiades ภูเขาไมวาก่ีสิบลูกลวนเต็มไปดวยดอกไม และสงกลิ่นหอมแตไกล

จดหมายจากหมอมเจารัตนาวดี ถึงหมอมเจาพจนปรีชา

กรุงเทพฯ

Geneva

วันท่ี 23 พฤษภาคม

ทูลเจาพ่ีทรงทราบ

เวลาน้ีหญิงกําลังน่ังอยูริมทะเลสาบ Leman * แหม สีมันชาง

สวยสดงดงามอยางกับรูปโปสตการดสี ภูเขา Mont Blanc ก็เห็นไดชัดจาก

ที่น่ีถาอากาศดี ต้ังแตเรามาก็เผอิญอากาศดีขึ้นเรื่อยเสียดวย หญิงเลยชัก

ติดใจอยากจะไปดู Mont Blanc ใกล ๆ อีกหนอย เห็นจะตองไปคางท่ี

Chamonix สักคืน 2 คืน จะไดดูใหพอใจ

เมื่อเชาวานหญิงเขามาในเมืองฝรั่งเศสอีก น่ังรถเรื่อยไปตาม

ทะเลสาบผานเมือง Thonon และ Evian ................ เมื่อผาน Evian ใหปา

ไดชมเมืองน้ําแรของปา แลวเราก็เขาเมืองสวิสอีกไปทาง Montreux แลวขึ้นเขา

ทางสวยมากดอกไมปาสีตาง ๆ ขึ้นเต็มทุง หญิงขอใหนายเล็กหยุดรถเพื่อหญิง

จะไดว่ิงลงไปเก็บดอกไม 2-3 ครั้ง เด๋ียวนี้ไมวาหญิงไปไหนตองมีกระปอง

Page 135: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

126

เล็ก ๆ ใสน้ํามาในรถดวย สําหรับแชดอกไมที่เก็บไดกลางทาง ไปถึงโฮเต็ลจะได

ไมเหี่ยวแหง

นายเล็กขับรถพาเราไปเที่ยวทุงดอกนาซิสซัสบนเขาที่เรียกวา Les

Pleiades แหมเจาพี่คะ ต้ังแตเกิดมาหญิงยังไมเคยเห็นดอกไมอะไรมากมาย

อยางนี้ เต็มเขาทุกลูกก่ีสิบลูกตอก่ีสิบลูก จนสุดลูกหูลูกตา สงกลิ่นหอม

แตไกล มองดูไกล ๆ ขาวเต็มไปหมดเหมือนสโนว มันขึ้นของมันเองตาม

ธรรมชาติ บานอยูไมก่ีวันก็หมดไปโชคดีเหลือเกินที่ไดมาเห็น หญิงว่ิงขึ้นเขา

เก็บจนเต็มออมแขน แตนายเล็กสอนวาตองเก็บดอกตูม ๆ ถึงจะดี อีก 2-3 วัน

มันก็จะบานเต็ม แลวอยูทน ที่นั่นดอกฟอรเกตมีนอตก็ขึ้นเต็มคะ ออกดอก

เปนสีฟาไปทั้งน้ัน นารักเหลือเกิน หญิงเก็บจนเต็มออมแขนเหมือนกัน มันขึ้น

เปนดอกหญาเทียว ที่กรุงเทพฯ เราตองถนอมกันแทบแยกวาจะออกดอกมา

ใหดูกันสักนิด เวลาน้ีหญิงสนใจใจดอกไมเมืองฝรั่งมากมาย ถึงแกลงทุนซื้อ

หนังสือเลมหนึ่งชื่อ “ดอกไมแหงภูเขาแอลป” เปนตําราดอกไมตาง ๆ เลมละ

ต้ัง 15 ฟรังก ทีนี้พอเห็นดอกอะไรเปดตําราดูเปนรูจักชื่อหมด 86

135

* เรียกอยางอังกฤษวา ทะเลสาบเจนีวา

ทุกคนไดมาพักที่โรงแรมใกลกับภูเขา Jungfrau ของประเทศสวิสเซอรแลนด

หมอมเจารัตนาวดีชื่นชมที่น่ีวามีความสวยงามมาก

คืนนี้เดือนหงายเสียดวย จากหองหมอมเห็นยอดเขา Jungfrau ซึ่ง

ขาวไปดวยหิมะเกือบชัด ..........................

อีกชั่วโมงหนึ่งภายหลัง

หมอมไปเดินเลนชมจันทรชมเขาอยูคนเดียว ตามองขึ้นไปบนฟา

สุดแลวแตเทาจะพาไป .................... “ นายเล็ก ขอบใจเหลือเกินที่พาฉัน

มาใหเห็นท่ีสวยๆ อยางนี้ สวยจนฉันนึกวาฝนไป ทะเลสาบ 2 ทะเลสาบที่

เมืองน้ีอยูระหวางนะ ชื่อทะเลสาบอะไรบางจะ ”

“Thuner See * กับ Brienzer See ** กระหมอม มีเมืองชื่อ Thun

กับ Brienz อยูตรงริม เมือง Interlaken นี้อยูตรงกลางระหวางทะเลสาบ

ทั้งสอง”

135

เร่ืองเดียวกัน, หนา 79 – 80.

Page 136: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

127

“ทําไมนายเล็กถึงรูจักที่สวยๆ มากนักหนอ?” นองหญิงตรัสเปนเชิง

ปรารภกับองคเอง

หมอมอดไมไดที่จะตอบวา “หมอมเคยมาครั้งหนึ่งนานแลว และ

หมอมมี guide book และแผนที่ ก็พอจะทราบวาที่ไหนเปนยังไง มีอะไร

นอกจากนี้หมอมรูจักฝาบาทพอที่จะทราบวาโปรดอะไรบาง จึงสามารถ

นําเสด็จมาในที่ท่ีถูกทัย” 87

136

* อานวา ทูนเนอเซ

** เบรียนเซอรเซ เซ แปลวา ทะเลสาบ (เยอรมัน)

หมอมเจาดนัยวัฒนาพาทุกคนมาที่ยอดเขาชื่อวา Signal de Bourget ซึ่งหมอมเจา

รัตนาวดีชื่นชมวาเปนวิวที่สวยท่ีสุด มองเห็นทิวเขา Mont Blanc อยูเบ้ืองหนา

วิมลเขาอยากเห็นภูเขาสวยๆนักหนา หญิงก็นําความไปปรึกษา

นายเล็กเมื่อบายวานนี้เขาเลยพาไปเมือง Morges ไปทางเจนีวา แตไปสัก

ครึ่งทางเทานั้นก็ขึ้นเขาไปถึงยอดเขาแหงหนึ่งชื่อวา Signal de Bourget ซึ่ง

วิวสวยที่สุด ทิวเขามี Mont Blanc อยูตรงหนา มีโฮเต็ลและรานขายน้ําชา

อยูบนน้ัน เราน่ังกลางแจงดูวิวพลางสั่งขนมมากินกับน้ําชา 88

137

ทุกคนไดมาเท่ียวชมน้ําตก ซึ่งผูแตงทรงกลาววาเปนน้ําตกที่ใหญที่สุดในยุโรป

น้ําตกนี้ชื่อวา Rheinfall อยูที่เมือง Schaffhausen ในประเทศสวิสเซอรแลนด และท่ี

น้ําตกนี้มีรานอาหารอยูริมน้ําตก

หญิงไดเห็นน้ําตกใหญที่สุดในยุโรปแลวละคะ ชื่อวา Rheinfall

ที่เมือง Schaffhausen ในประเทศสวิส วันน้ีเราเท่ียวเกะกะกันใหญ เด๋ียวเขา

เมืองน้ัน เด๋ียวเขาเมืองน้ี เมื่อแรกเริ่มเดิมทีก็อยูเมืองเยอรมัน อยูดีๆ ก็เขาไป

ขับรถเลนในเมืองสวิสเสียหนอย พอตอนกลางวันเกิดนึกอยากนั่งกินตรงท่ีไหน

ที่สวยๆ นายเล็กก็เลยพาไปกินอาหารกลางวันที่ขางนํ้าตกแหงน้ี เพราะเรา

กําลังเกะกะอยูไมไกลจาก Schaffhausen นัก เปนบุญตาเหลือเกินที่

136

เร่ืองเดียวกัน, หนา 88. 137

เร่ืองเดียวกัน, หนา 156.

Page 137: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

128

ไดมาเห็นน้ําตกมหึมา มีเรสเตอร็องสบายสบายอยูริมนํ้าตก เราไปนั่งอยู

กลางแจงตรงกันขามกับน้ําตกแลวสั่งอาหารมากิน พอลมพัดที นํ้าจากน้ําตก

ก็กระเซ็นมาเปยกเรานิดๆ สบายดีจังคะ 89

138

ประเทศเยอรมัน

เรื่องรัตนาวดีไดกลาวถึงปาดําของประเทศเยอรมัน หมูบานและทะเลสาบ

Titisee วามีทิวทัศนที่สวยงาม มีตนสนทุกหนทุกแหง ทะเลสาบนํ้าใสแจวจนเห็นพื้นดิน

กนทะเลสาบ มีกรวดหลากสีและเห็นปลาวายน้ําอยูจํานวนมาก น้ําเย็นมาก ดังที่

กลาวไวในหัวขอภูมิประเทศของยุโรป และผูแตงทรงเลาถึงตนน้ําของแมน้ําสายสําคัญ

ของยุโรปคือ แมน้ํา Danube แหลงกําเนิดของแมน้ํา Danube อยูท่ีประเทศเยอรมัน ที่

หมอมเจารัตนาวดีทรงกลาววา “ แมน้ําซึ่งเกิดจากบอนี้ไปเลี้ยงเมืองตางๆน้ัน ยาวก่ีพัน

ตอก่ีพันกิโลเมตร ” นับเปนความมหัศจรรยของธรรมชาติที่ตนกําเนิดของแมน้ําสาย

สําคัญสายนี้เกิดจากบอน้ําที่เล็กมาก

ผูแตงทรงกลาวถึงตนนํ้าแมนํ้า Danube แมนํ้าสายสําคัญในยุโรป ตนน้ํา

Danube เปนบอคอนกรีตกลมๆ น้ําไมคอยใสนัก และมีใบไมรวงเต็ม ดังนี้

วันนี้เราเที่ยวปาดําแลวแวะดูเมืองเกาๆ ปราสาทโบราณและวัด

แถวนั้น 2 – 3 แหง เราไปดูตนน้ํา Danube ดวยคะ ที่เมืองดังคลายๆ

โดเนาเอชชิงเงน ( สะกดเปนภาษาเยอรมันอยางไร หญิงจนปญญา แคสะกด

เปนไทยยังแทบแยแลวเลย ! ) เมืองชื่อพิสดารนี้อยูไมไกลจากเมืองไฟรบวก

นัก ตนน้ํา Danube เปนบอคอนกรีตกลมๆ น้ําไมคอยใสนัก มีใบไมรวงเต็ม

มีปายเขียนไวที่บอวา “Donauqelle” มีคําอธิบายวาบอน้ีสูงจาก

ระดับน้ําทะเล 678 เมตร แมน้ําซึ่งเกิดจากบอนี้ไปเลี้ยงเมืองตางๆ นั้น ยาว

ก่ีพันตอก่ีพันกิโลเมตร นึกไมถึงวาบลูแดนูปที่แสนโรแมนติกจะเกิดจากบอ

กลมๆ ที่น่ันเอง และเกิดจากเมืองเยอรมัน ไมยักใชเกิดจากเมืองออสเตรีย 90

139

138

เร่ืองเดียวกัน, หนา 107. 139

เร่ืองเดียวกัน, หนา 106 - 107.

Page 138: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

129

ประเทศลิกเตนสไตน

ประเทศ Liechtenstein เปนประเทศที่เล็กที่สุดในยุโรป มีเมืองหลวงชื่อวา

Vaduz หมอมเจารัตนาวดีชอบประเทศน้ีมาก กลาววาเหมือนเมืองตุกตา มีทิวทัศนที่

สวยงาม

................ขับตรงไป Liechtenstein เขาเมืองไปไมทันไรก็ถึง

Vaduz เมืองหลวง ซึ่งเหมือนหมูบานเล็กๆ แหงหนึ่งเทานั้นเอง นองหญิงจะ

คางคืนในประเทศท่ีเล็กที่สุดในยุโรปใหจงได โชคดีท่ีเราหาได 2 หองในที่พัก

คนเดินทางนิดเดียวที่เนินเขา ............................

หมอมยืนนิ่งทําทาสํารวม เธอก็เดินตรงเขามาใกลแลวพูดตอไป

“คนอ่ืนๆ เขาเหนื่อยกันหมด เลยนอนพักผอนกอนกินอาหารคํ่า ฉันออกจะ

เพลียๆ เหมือนกัน แตไมยอมพัก อยากจะ enjoy เมืองน้ีใหมากท่ีสุด ชอบ

เหลือเกิน เหมือนเมืองตุกตา วิวก็สวย เราเดินพูดกันจะดีไหม ?” 91

140

ประเทศอิตาลี

ประเทศอิตาลีเปนประเทศสุดทายของการเดินทางทองเที่ยวยุโรปในเรื่อง

รัตนาวดี หมอมเจารัตนาวดีไดไปเท่ียวชมวัดเซนตปเตอรและวาติกัน

แตมาวันนี้ทานหญิงแตงองคสวยต้ังแตเชา มาเคาะประตูหอง

ดิฉันซึ่งอยูกับคุณปา ชวนออกไปเท่ียวดูเมือง เราไมกลาทูลทานวาเรา

หนีออกไปสนุกมาครั้งหนึ่งแลว รีบลุกขึ้นแตงเน้ือแตงตัว พอเสร็จก็ขึ้นแท็กซี่

ไปดูที่สําคัญๆ 2-3 แหง แลวก็ไปซื้อของ ตอนบายไปดูวัดเซนตปเตอรและ

วาติกัน เราเดินเสียขาแทบฉิ่งตลอดบาย ทานหญิงทานมีหนังสือตําราของ

ทานเลมหนึ่ง แลวดูสถานที่ตางๆอยางไมเหน็ดเหนื่อย ไดยินรับสั่งวาพรุงนี้จะ

กลับไปทอดเนตรอีก คุณปาสรอยกับดิฉันขาลากดินทีเดียว ทานหญิงทานต่ืน

รูปหินออนประหลาดๆที่เรียกวา Laocoon และ Apollo Belvedere และ

140

เร่ืองเดียวกัน, หนา 122.

Page 139: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

130

รูปภาพของราฟาเอล มีเกลันเจโล และเลโอนาโด ดา วินชีอะไรพวกนั้น

กวาจะกลับมาถึงโฮเต็ลก็เย็นแลว 141

ที่กรุงโรมหมอมเจาดนัยวัฒนาและหมอมเจารัตนาวดีน่ังรถมาชมเมืองในตอน

กลางคืน และไดไปเท่ียวชม Colosseum ซึ่งเปนสถานที่สําคัญของกรุงโรม

ครั้นเดินพลางคุยพลางอยางมีความสุขท่ีสุดจนเมื่อยขาแลว พี่ดนัย

ก็เรียกรถมามาอีกคันหนึ่ง ทานบอกวาอยูที่นี่ตอนกลางคืน ตองนั่งรถมาจึง

จะโบราณสมกับกรุงโรม ทานพาเรานั่งรถมาว่ิงกอกๆไปตามถนนอีกนาน จึง

พาเราไปดู Colosseum ตอนท่ีพระจันทรโผลออกมาจากกลุมเมฆสีเทา และ

ทองฟาสีดําทะมึน โรมนี่ชางเปนเมืองโบราณที่โรแมนติกและเต็มไปดวย

ความหลังอะไรเชนน้ี ถูกอยางพี่ดนัยวา เราคงลืมคืนน้ีของกรุงโรมไมได

เปนอันขาด มันเปนคืนที่วิเศษที่สุดในชีวิตของเราทีเดียว 142

จากที่ผูแตงไดทรงถายทอดชีวิตความเปนอยูของชาวยุโรป และสถานที่สําคัญ

ของยุโรปเมื่อประมาณเกือบ 60 ปที่แลว ผูอานไดรับทั้งความรูและความเพลิดเพลิน

ไปพรอมกับเน้ือเรื่องนวนิยายเรื่องนิกกับพิมและเรื่องรัตนาวดี ผูอานไดทราบสภาพ

ภูมิประเทศของยุโรป ไดทราบเก่ียวกับอาหาร การแตงกาย ที่อยูอาศัย การรักษาโรค

การแสดง การละคร ผลิตภัณฑที่มีชื่อเสียงของเมือง เปนตน ผูอานไดมองเห็นภาพของ

ยุโรปเมื่อเกือบ 60 ปที่แลวเพื่อท่ีจะไดเขาใจยุโรปในปจจุบัน และผูวิจัยไดยกตัวอยาง

สถานท่ีตางๆ ในยุโรปท่ีผูแตงไดทรงกลาวถึงในนวนิยายเรื่องรัตนาวดี ทําใหผูอานไดรูจัก

สถานท่ีตางๆ ในยุโรปเพิ่มมากขึ้น ผูอานรูสึกเหมือนไดติดตามผูแตงทองเที่ยวไปใน

ดินแดนที่สวยงามของประเทศในยุโรปและไดรับความรูที่ผูแตงไดทรงกลาวไวในนวนิยาย

ว. ณ ประมวญมารคทรงมีความรูท่ีกวางขวางและทรงนําความรูตางๆ มารอยเรียงเปน

นวนิยายรูปแบบจดหมายไดอยางนาสนใจ เปนพระอัจฉริยภาพขององคผูประพันธ

ผูอานจึงไดรับความรูไปพรอมกับเรื่องราวความรักและมิตรภาพในเรื่องนิกกับพิม และ

เรื่องราวความรักในตางแดนในเรื่องรัตนาวดี นวนิยายที่สรางความประทับใจใหกับผูอาน

ทุกคน

141

เร่ืองเดียวกัน, หนา 183 - 184. 142

เร่ืองเดียวกัน, หนา 197.

Page 140: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

131

บทท่ี 4

บทสรุป

งานวิจัยนี้จัดทําขึ้นเพื่อยกยองพระเกียรติ ว. ณ ประมวญมารค หรือ

พระเจาวรวงศเธอ พระองคเจาวิภาวดีรังสิต ผูทรงสรางคุณประโยชนใหแกผืนแผนดินไทย

พระองคทรงตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัว สมเด็จพระนางเจาฯพระบรมราชินีนาถ

และพระบรมวงศานุวงศ และทรงชวยแบงเบาพระราชภารกิจของทุกพระองคดูแล

ความทุกขสุขของราษฎร จวบจนกระท่ังวาระสุดทายของพระชนมชีพ นอกจากพระภารกิจ

ที่ทรงปฏิบัติแลว พระองคยังทรงโปรดการแตงหนังสือเปนอยางมาก และนวนิยายของ

พระองคสรางความประทับใจใหแกผูอานมาทุกยุคทุกสมัย

ว. ณ ประมวญมารค ทรงแตงเรื่องนิกกับพิมและเรื่องรัตนาวดีเปนนวนิยาย

รูปแบบจดหมาย เรื่องนิกกับพิมคนใกลชิดของพระองคไดเลาวา พระองคโปรดเรื่องนี้

มากท่ีสุด พระองคทรงเลี้ยงและทรงเขาใจความคิด ความรูสึกของสุนัขเปนอยางดีจึง

ทรงถายทอดเปนนวนิยายเรื่องนิกกับพิมไดอยางนาประทับใจ เรื่องนิกกับพิมเปนนวนิยาย

ที่มีความแปลกใหม มนทิราและพิเชฐเขียนจดหมายในนามของนิกและพิม และใหนิก

กับพิมไดเขียนจดหมายเลาชีวิตความเปนอยูของตน ไดแลกเปลี่ยนทัศนะความคิดเห็น ซึ่ง

ความคิดหลายอยางของนิกกับพิมไดสรางรอยย้ิมใหกับผูอาน สิ่งสําคัญท่ีเปนหัวใจของ

เรื่องนิกกับพิมก็คือ เมื่อผูอานไดอานแลวจะเกิดความรัก ความเมตตาใหกับสุนัขและ

มอบความรักใหกับทุกคนที่อยูรอบขาง

เรื่องนิกกับพิม นิกกับพิมรักเจานายของตนมากและพรอมที่จะปกปองเจานาย

ของตนดวยชีวิต พิมซึ่งอยูกับมนทิราที่ประเทศสวิสเซอรแลนดเปนสุนัขตัวเล็กพันธุ

พูเด้ิลถูกเลี้ยงอยูในบาน จึงไมคอยไดออกไปขางนอกบานเทาใดนัก แตนิกซึ่งเปนสุนัข

พันธุบอกเซอรเปนสุนัขตัวใหญ จึงไดไปตามที่ตางๆ และไดพบปะบุคคลมากมาย นิกเปน

สุนัขที่รักเด็กมากและพรอมที่จะใหความรักกับทุกคน ผูแตงทรงถายทอดความรักของนิก

กับพิมท่ีมอบใหกับทุกคนไดอยางออนโยนเขาถึงจิตใจของผูอาน ผูอานจะประทับใจใน

ความรักของนิกกับพิม และพระอัจฉริยภาพของ ว. ณ ประมวญมารคดานการประพันธ

เรื่องนิกกับพิมเปนนวนิยายรูปแบบจดหมายท่ีเอ้ือตอการคลี่คลายปมปญหาของเรื่องได

อยางนาสนใจ ปมปญหาของเรื่องที่ผูแตงทรงผูกปมไวต้ังแตตอนตนคือ พิเชฐเขาใจวา

มนทิราแตงงานแลว การแตงนวนิยายโดยใชรูปแบบจดหมายของนิกกับพิมชวย

คลี่คลายปมปญหาน้ีไปทีละนอย และสรางความนาสนใจใหกับเนื้อเรื่องวาพิเชฐและ

มนทิราจะสมหวังในความรักหรือไม

Page 141: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

132

สิ่งที่เปนความแปลกใหมของเรื่องนิกกับพิมคือ นิกกับพิมแสดงความคิด

วิพากษวิจารณมนุษย ความคิดบางอยางของนิกกับพิมเมื่อผูอานไดอานแลวสรางรอยย้ิม

ใหกับผูอาน ซึ่งมีทั้งวิพากษวิจารณลักษณะทางกายภาพของมนุษยเชน เปรียบเทียบ

อายุของมนุษยและสุนัขวามีความแตกตางกัน วิพากษวิจารณการกระทําของมนุษย

เชน วิจารณการกระทําของมนุษยที่เห็นวาเปนสิ่งที่ไมควรกระทําไดแก มนุษยไมยอม

ทําตามกฎเกณฑในสิ่งที่ไดวางกฎระบียบไว มนุษยประเภทที่นาตําหนิคือ มนุษยที่อวดดี

ยกตนขมทาน เปนตน ซึ่งผูแตงทรงตองการบอกกับผูอานวา เราไมควรทําเชนนี้เพราะ

เปนสิ่งไมดี ไมควรกระทํา วิพากษวิจารณความชอบของมนุษยและสุนัขที่ตางกัน

ยกตัวอยางเชน สุนัขไมชอบการอาบน้ําถูสบู และไมชอบแชมพูอาบน้ําที่ฆาเห็บหมัด แต

มนุษยตองการใหสุนัขสะอาด นอกจากนี้แลวสุนัขมีความคิดเห็นบางอยางไมเหมือนกับ

มนุษยเชนที่นิกเลาใหพิมฟงวา นิกตองการใชนํ้าลายเลียแผลเพราะนิกคิดวา น้ําลาย

เปนยาท่ีดีท่ีสุด แตเจานายของนิกเห็นวาการใชปลาสเตอรปดแผลจะชวยรักษาบาดแผล

ของนิกไดดีกวา ท้ังหมดนี้เมื่อผูอานไดอานแลวจะไดเปดใจกวางยอมรับฟงความคิดเห็นที่

แตกตางจากความคิดของตน

เรื่องรัตนาวดีผูแตงทรงเขียนนวนิยายเรื่องน้ีจากบันทึกการเดินทางที่ผูแตงได

ทรงบันทึกไวเมื่อไดไปทองเที่ยวยุโรป ดังที่ผูแตงทรงเขียนไวในคํานําเรื่องรัตนาวดีวา

หนังสือเรื่อง “รัตนาวดี” นี้ เขียนขึ้นใน พ.ศ. 2496 จากบันทึก

ของขาพเจาเมื่อแตงงานใหมๆไปยุโรปครั้งแรกกับสามีใน พ.ศ. 2490 คือ

ภายหลังจากสงครามเลิกไมนานนัก

เนื่องดวยขาพเจาอยากจะเลาเรื่องการทองเที่ยวครั้งแรกนี้สูกันฟง

แตไมชอบเขียนแบบทองเที่ยวธรรมดากลัวจะนาเบ่ือ จึงคิดหาหนทางทําให

เปนเรื่องอานเลน โดยมีพระเอกนางเอกและตัวประกอบเรื่อง ใช

การทองเท่ียวครั้งนั้นของขาพเจาที่จดไวในบันทึกเปนแบ็กกราวน

เรื่องรัตนาวดีผูแตงทรงนําบันทึกการเดินทางทองเท่ียวของพระองคมาถายทอดสู

นวนิยาย สถานที่ตางๆ ที่ไดทรงกลาวถึงในนวนิยายเปนสถานที่ท่ีผูแตงเคยทรงแวะเที่ยวชม

มาแลวและพระองคทรงมีความรูเก่ียวกับสถานที่น้ันเปนอยางดี พระองคจึงทรงเลา

ความรูตางๆในเรื่องรัตนาวดี พระองคทรงบรรยายสถานที่ตางๆ ไดอยางดีย่ิง ผูอาน

สามารถมองเห็นภาพทิวทัศนที่สวยงามอยางชัดเจนในมโนภาพ และพระองคทรง

เปรียบเทียบวัฒนธรรมไทยกับตะวันตกเพื่อใหผูอานเขาใจความเหมือนและความตางของ

Page 142: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

133

สองวัฒนธรรมเพื่อใหผูอานรูจักสิ่งของสิ่งนั้นไดงายย่ิงขึ้น เพราะสิ่งนั้นอาจจะเปนสิ่งใหม

สําหรับคนไทยในยุคสมัยนั้น เชน หมอมเจารัตนาวดีเขียนจดหมายถึงปริศนาพี่สะใภ

เลาใหฟงวาไดมาดูละครเรื่องโรมิโอและจูเลียต หมอมเจารัตนาวดีแสดงความคิดเห็น

วา ละครท่ีแสดงนี้เปนละครที่แสดงกลางแจงมิไดแสดงภายในอาคาร จึงมีลักษณะที่

คลายกับการแสดงโขนกลางแปลงที่แสดงกลางแจงเชนเดียวกัน ทําใหผูอานมองเห็นภาพ

ของละครยุโรปที่แสดงในมโนภาพอยางชัดเจน

เรื่องนิกกับพิมและเรื่องรัตนาวดีเปนเรื่องที่เกิดขึ้นในยุโรป เรื่องนิกกับพิม

นิกอยูกับเจานายที่เมืองไทย พิมอยูกับเจานายท่ีประเทศสวิสเซอรแลนด พิมจะเขียน

จดหมายเลาใหนิกฟงวา ครอบครัวของนายผูหญิงเปนอยางไรบาง และเลาชีวิต

ความเปนอยูของครอบครัวที่ประเทศสวิสเซอรแลนด และเรื่องรัตนาวดีซึ่งเปนการเดินทาง

ทองเที่ยวไปในดินแดนท่ีสวยงามของยุโรปหลายประเทศไดแก ประเทศอังกฤษ ประเทศ

ฝรั่งเศส ประเทศสวิสเซอรแลนด ประเทศเยอรมัน ประเทศลิกเตนสไตน ประเทศ

อิตาลี ผูแตงทรงบรรยายภาพไดอยางดีย่ิงจนผูอานจินตนาการเห็นภาพทิวทัศนที่สวยงาม

ของยุโรป ภาพภูเขาที่ทอดตัวเปนแนวยาวและเต็มไปดวยดอกไมที่สวยงามนานาชนิด

ภาพของยอดเขาที่มีหิมะปกคลุมเปนสีขาวต้ังตระหงานสูงเสียดฟา เปนตน

ผูแตงทรงกลาวถึงสิ่งตางๆ ทําใหผูอานไดรับความรูและความเพลิดเพลิน

ทั้งอาหารยุโรปนานาชนิด การแตงกายแบบยุโรปด้ังเดิมของผูคนท่ีเมือง Lindau

ที่ยังคงรักษาเอกลักษณการแตงกายแบบสมัยกอนเอาไว ผูหญิงนุงกระโปรงฟูๆ สวยงาม

มีผากันเปอนทับ และใสเสื้อแขนพอง ผูชายแตงตัวตามแบบเอกลักษณด้ังเดิมแบบ

ชาวทิรอล หรือบาวาเรีย คือ นุงกางเกงหนัง สวมหมวกที่มีขนนกปก ซึ่งเปนการแตงกาย

ที่มีเอกลักษณเฉพาะของทองถ่ินที่ดูแปลกตาและงดงามทั้งผูชายและผูหญิง ดาน

สถาปตยกรรมผูวิจัยไดยกตัวอยางสถาปตยกรรมที่มีลักษณะโดดเดนไดแก Whispering

Gallery ของวัดเซนตพอล ที่กําแพงของบริเวณยอดโดม เมื่อหันหนาเขาหากําแพงและ

พูด ผูที่นั่งอีกฝงหนึ่งที่อยูหางออกไปจะไดยินเสียงดวย กระทอมแทชรูฟบานของ

เชกสเปยร ปราสาทโบราณที่ใหญโตของยุโรปซึ่งตัวละครไดไปเย่ียมชมหลายแหง

ปราสาทโบราณบางแหงมีลักษณะพิเศษเชนมีบันไดกล ที่คนขึ้นและลงบันไดจะไม

สามารถพบกันได รานอาหารหรูใตดินที่ประเทศอิตาล ี และนอกจากนี้ผูอานยังไดรับ

ความรูเรื่องการรักษาโรคของชาวยุโรปโดยการใชน้ําแร

นอกจากนี้ผูอานยังไดรับความรูเรื่องการแสดง การละครของยุโรป

ผลิตภัณฑท่ีมีชื่อเสียงของเมือง การพักผอนของชาวยุโรปในนวนิยายไดกลาวถึงการเลน

สกี และในยุโรปก็มีการเลนวาวเชนเดียวกับที่เมืองไทยดังท่ีพิมเขียนจดหมายเลาใหนิกฟง

Page 143: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

134

และผูอานยังไดทราบประเพณีของชาวสวิสเซอรแลนดอีกดวย ตอนกลางเดือนเมษายน

ราววันที่ 21 มีแหประจําปต้ังตนต้ังแตบาย 3 โมงจนคํ่า ขบวนยาวไปริมทะเลสาบแถว

Bellevue พอไดฤกษคือยํ่าคํ่า ก็ตีระฆังขึ้นพรอมกันท่ัวเมือง และเผาสโนวแมนตัวใหญซึ่ง

ทําดวยสําลีบรรจุดินปนขางใน เสียงระเบิดลั่นกอง ที่เผาสโนวแมนนี้เพื่อแสดงวาหมดฤดู

หนาวและเขาสูฤดูรอน กลางคืนตกแตงหนาตางหรือเฉลียงของทุกบานงดงามดวย

โคมน้ํามันออลีฟ และผูวิจัยไดกลาวถึงสถานที่ตางๆ ท่ีตัวละครไดไปเที่ยวชมใน

นวนิยาย ผูแตงทรงใหความรูของสถานที่น้ันเพิ่มเติมดวย ว. ณ ประมวญมารค หรือ

พระเจาวรวงศเธอ พระองคเจาวิภาวดีรังสิตทรงมีความรูที่กวางขวางและทรงนําความรู

ตางๆนั้นมารอยเรียงเปนนวนิยายที่สนุกสนาน นับเปนพระอัจฉริยภาพขององคผูประพันธ

ที่ทรงสรรคสรางเรื่องนิกกับพิม เรื่องรัตนาวดี และนวนิยายเรื่องอ่ืนๆ ที่พระองคได

ทรงประพันธที่สรางความประทับใจใหกับผูอานทุกคนอยางไมมีวันเสื่อมคลาย

Page 144: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

135

บรรณานกุรม

กุหลาบ มัลลิกะมาส , ศาสตราจารย . วรรณคดีวิจารณ. พิมพครั้งที่ 9 . กรุงเทพฯ :

สํานักพิมพมหาวิทยาลัยรามคําแหง, 2538.

เจตนา นาควัชระ. ทฤษฎีเบื้องตนแหงวรรณคดี. พิมพครั้งที่ 2 . กรุงเทพฯ : สํานักพิมพ

ศยาม, 2542.

เจตนา นาควัชระ และ บุญเหลือ เทพยสุวรรณ ,หมอมหลวง . วรรณคดี. กรุงเทพฯ :

โครงการตําราสังคมศาสตรและมนุษยศาสตร สมาคมสังคมศาสตรแหงประเทศ

ไทย , 2520.

เจือ สตะเวทิน. วรรณคดีวิจารณ. กรุงเทพฯ : สุทธิสารการพิมพ, 2518.

ชมพูนุท กองชนะ และคณะ. ดินแดนในฝน สวิตเซอรแลนด. พิมพครั้งที่ 2 . กรุงเทพฯ

: สํานักพิมพอทิตต, 2543.

ชัตสุณี สินธุสิงห และคณะ. วรรณคดีทัศนา. พิมพครั้งที่ 3 กรุงเทพฯ : โครงการตํารา

คณะอักษรศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย, 2544.

ชุติมา นาถเสวี. วิเคราะหนวนิยายของ ว. ณ ประมวญมารค. ปริญญานิพนธ

การศึกษามหาบัณฑิต ภาษาไทย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ , 2524 .

ตรีศิลป บุญขจร. นวนิยายกับสังคมไทย ( 2475 – 2500 ). กรุงเทพ : บางกอกการพิมพ

, 2523.

ทิพยวรรณ ธรรมผุสนา อาโบลด. คูมือนักเดินทางสวิสเซอรแลนด. กรุงเทพฯ :

สํานักพิมพอทิตต, 2541.

นวลจันทร รัตนากร ชุติมา สัจจานนท และ มารศรี ศิวรักษ. ว . ณ ประมวญมารค

พระเจาวรวงศเธอ พระองคเจาวิภาวดีรังสิต. กรุงเทพฯ : โรงพิมพรุงเรือง

รัตน, 2520.

บุญเหลือ เทพยสุวรรณ, ม.ล. แนะแนวทางการศึกษาวรรณคด.ี กรุงเทพฯ :

มหาวิทยาลัยศิลปากร, 2511.

ปวิวัณณ คําเจริญ . นวนิยายรูปแบบจดหมายของไทย . วิทยานิพนธปริญญา

อักษรศาสตรมหาบัณฑิต ภาควิชาภาษาไทย บัณฑิตวิทยาลัย จุฬาลงกรณ

มหาวิทยาลัย , 2543.

ปยะรังสิต รังสิต, ม.จ. ( ผูจัดพิมพ ). อนุสาวรียวิภาวดีรังสิต. กรุงเทพฯ : บูรณาศิลป

การพิมพ, 2522

Page 145: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

136

ปยะรังสิต รังสิต, ม.จ. ( ผูจัดพิมพ ). วิภาวดีรังสิตานุสรณ. กรุงเทพฯ : โรงพิมพรุงเรือง

รัตน, 2520.

ยุพดี ปานบุปผา. สวีท สวิตเซอรแลนด. กรุงเทพฯ : สํานักพิมพบุคแบงค , 2541.

ว. ณ ประมวญมารค. นิกกับพิม. พิมพครั้งที่ 6 . กรุงเทพฯ : สํานักพิมพตนออ 1999

จํากัด , 2543.

ว. ณ ประมวญมารค. รัตนาวด.ี พิมพครั้งที่ 1 กรุงเทพฯ :นานมีบุคสพับลิเคชั่นส ,

2548 .

วิทย ศิวะศริยานนท. วรรณคดีและวรรณคดีวิจารณ. พิมพครั้งที่ 3 กรุงเทพ : สมาคม

ภาษาและหนังสือแหงประเทศไทย, 2504.

วิภาวดี รังสิต, ม.จ. “ เมื่อขาพเจาเปนนักประพันธ ” ใน ประมวญเร่ืองสั้น โดย ว. ณ

ประมวญมารค ( นามแฝง) กรุงเทพ : แพรพิทยา, 2516.

วิภาวดีรังสิต, มูลนิธิ. วิภาวดีรังสิตรําลึก. กรุงเทพ : มูลนิธิวิภาวดีรังสิต, 2521.

สายทิพย นุกูลกิจ. วรรณกรรมไทยปจจุบัน. พิมพครั้งท่ี 4 . กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัย

ศรีนครินทรวิโรฒ 2543.

สุพรรณี วราทร. ประวัติการประพันธนวนิยายไทย. กรุงเทพฯ : เจริญวิทยการพิมพ,

2519.

เสริมศักด์ิ สารชวนะกิจ , พลอากาศตร.ี สวิตเซอรแลนดแดนสวรรค. กรุงเทพฯ : บริษัท

เคล็ดไทย จํากัด , 2543.

Cuddon, J.A. A Dictionary of Literary Term and Literary Theory. 4 th ed.

Oxford : Blackwell, 1988.

Komroff, Manuel. How to Write a Novel. Boston : The Writer Inc, 1950.

Page 146: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

137

ภาคผนวก

Page 147: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

138

ประวัติของ ว. ณ ประมวญมารค *

พระเจาวรวงศเธอ พระองคเจาวิภาวดีรังสิต ทรงมีพระนามเดิมวาหมอมเจา

วิภาวดี รังสิต ทรงเปนพระธิดาในพระราชวรวงศเธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ (พระองคเจา

รัชนีแจมจรัส) ตนราชสกุล รัชนี และหมอมเจาพรพิมลพรรณ รัชนี ประสูติเมื่อวันเสารท่ี

20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2463 มีพระอนุชาหนึ่งองค คือ หมอมเจาภีศเดช รัชนี

พระองคเจาวิภาวดีรังสิต ทรงเริ่มการศึกษาชั้นตนที่โรงเรียนผดุงดรุณีและ

โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย แลวทรงยายไปเรียนท่ีโรงเรียนมาแตรเดอีวิทยาลัย จนจบชั้น

มัธยมศึกษาปที่ 6 ทรงศึกษาหลักสูตรพิเศษที่โรงเรียนน้ีเพิ่มเติมอีก 3 ป ทรงสําเร็จ

การศึกษา เมื่อ พ.ศ. 2485

ภายหลังที่พระองคหญิงทรงสําเร็จการศึกษาแลว ไดทรงรับใชพระบิดาอยาง

ใกลชิด กรมหมื่นพิทยาลงกรณเปนท่ีรูจักกันดีในวงการหนังสือในพระนามวา “น.ม.ส.”

ทรงไดรับการยกยองวาเปน “กวีเอก” ผูหน่ึงของกรุงรัตนโกสินทร พระองคหญิงทรงแสดง

พระปรีชาสามารถทางอักษรศาสตรต้ังแตยังทรงพระเยาว ทรงเขียนเรื่องสําหรับเด็กเมื่อ

ชันษาเพียง 14 ป และทรงใชนามปากกาวา “ว. ณ ประมวญมารค” ทรงนิพนธนวนิยาย

เรื่อง ปริศนา รัตนาวดี เจาสาวของอานนท นี่หรือชีวิต นิกกับพิม อีกท้ังสารคดีเรื่อง

ตามเสด็จปากีสถาน ตอมาทรงนิพนธนวนิยายอิงประวัติศาสตรเรื่อง พระราชินีนาถ

วิกตอเรีย คลั่งเพราะรัก ฤทธีราชินีสาว นอกจากนั้นยังไดทรงนิพนธเรื่องสั้น รวมท้ัง

บทละครวิทยุดวย

พระองคเจาวิภาวดี รังสิต ทรงเสกสมรสกับหมอมเจาปยะรังสิต รังสิต เมื่อ

วันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2489 โดยไดรับพระราชทานน้ําพระมหาสังขจาก

พระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัวอานันทมหิดล ทรงมีธิดา 2 คน คือ หมอมราชวงศ

วิภานันท รังสิต และหมอมราชวงศปรียนันทนา รังสิต

พระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัวและสมเด็จพระนางเจาฯ พระบรมราชินีนาถ

ทรงพระกรุณาโปรดเกลาฯ ใหพระองคหญิงรับราชการสนองพระเดชพระคุณอยาง

ใกลชิดทั้งในประเทศ และเมื่อเสด็จพระราชดําเนินตางประเทศ ทั้งยังโปรดเกลาฯ ใหทรง

นําสิ่งของพระราชทานไปเย่ียมบํารุงขวัญเจาหนาที่ ตํารวจ ทหาร พลเรือน สมาชิก

กองอาสาสมัครรักษาดินแดนอีกดวย พระองคหญิงเสด็จเย่ียมเยียนประชาชนในทองที่

*

ว. ณ ประมวญมารค, รัตนาวดี, พิมพคร้ังท่ี 1 , ( กรุงเทพฯ : นานมีบุคสพับลิเคชั่นส , 2548) ,

หนา คํานํา ประวัติของ ว. ณ ประมวญมารค.

Page 148: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

139

ทุรกันดาร พรอมกับหนวยพระราชทานติดตอกันเปนเวลายาวนานนับสิบป โดยเฉพาะ

ทางทองท่ีภาคใต พระองคหญิงทรงเสียสละความสุขสวนพระองคนานาประการ เพราะ

ทรงต้ังพระทัยที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนใหดีขึ้นดวยการใหการศึกษา แนะนํา

การงานอาชีพ และการอนามัยแกประชาชนทุกหมูเหลา ทรงมีพระทัยกลาหาญและ

เด็ดเด่ียวย่ิงนักแมในเขตท่ีมีผูกอการรายปฏิบัติการอยางรุนแรง ก็ยังทรงพระอุตสาหะ

เสด็จเย่ียมเยียนบํารุงขวัญเจาหนาที่ถึงแนวหนา

จนกระทั่งวันที่ 16 กุมภาพันธ พ.ศ.2520 ระหวางทางเสด็จโดย

เฮลิคอปเตอร เพื่อนําสิ่งของพระราชทานไปตรวจเย่ียมบํารุงขวัญเจาหนาท่ีที่อําเภอ

เวียงสระ จังหวัดสุราษฎรธานี ทรงทราบจากวิทยุวามีตํารวจตระเวนชายแดนไดรับ

บาดเจ็บจากกับระเบิด 2 นาย ดวยความท่ีทรงหวงใยผูบาดเจ็บ ทรงเกรงวาจะไดรับ

การรักษาพยาบาลไมทันทวงที จึงรับสั่งใหนักบินเฮลิคอปเตอรรอนลงเพื่อรับเจาหนาท่ีที่

บาดเจ็บ 2 นายนั้นไปสงโรงพยาบาล ขณะนักบินนําเครื่องรอนลงตํ่าใกลบานเหนือคลอง

อําเภอเวียงสระ จังหวัดสุราษฎรธานี ผูกอการรายไดระดมยิงเฮลิคอปเตอรกระสุนทะลุ

เขามาถูกพระองคเจาวิภาวดี ทรงไดรับบาดเจ็บสาหัสและสิ้นพระชนมในวันน้ัน

พระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัว จึงมีพระบรมราชโองการดํารัสสั่งใหสถาปนา

หมอมเจาวิภาวดี รังสิต เปนพระเจาวรวงศเธอ พระองคเจาวิภาวดีรังสิต เมื่อวันที่ 4

เมษายน พุทธศักราช 2520 นับจนถึงวันน้ี เสด็จพระองคหญิงไดสิ้นพระชนมไปเปน

เวลาย่ีสิบแปดปแลว แตพระราชกรณียกิจที่ไดทรงปฏิบัติเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย

ยังคงอยูในความทรงจําของชาวไทยตลอดมา

Page 149: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

140

คํานํา **

( ของ ว. ณ ประมวญมารค เขียนในโอกาสท่ีพิมพจําหนายครั้งแรก )

หนังสือเรื่อง “รัตนาวดี” นี้ เขียนขึ้นใน พ.ศ. 2496 จากบันทึกของ

ขาพเจาเมื่อแตงงานใหมๆไปยุโรปครั้งแรกกับสามีใน พ.ศ. 2490 คือภายหลังจาก

สงครามเลิกไมนานนัก

เน่ืองดวยขาพเจาอยากจะเลาเรื่องการทองเท่ียวครั้งแรกนี้สูกันฟง แตไมชอบ

เขียนแบบทองเที่ยวธรรมดากลัวจะนาเบ่ือ จึงคิดหาหนทางทําใหเปนเรื่องอานเลน โดย

มีพระเอกนางเอกและตัวประกอบเรื่อง ใชการทองเที่ยวครั้งนั้นของขาพเจาที่จดไวใน

บันทึกเปนแบ็กกราวน

การเขียนเรื่องทองเที่ยวใหเปนนวนิยาย ไมไดเปนของใหม ขาพเจาเคย

อานในหนังสือโบราณเลมหนึ่งนานมาแลว จึงคิดเอาอยางโดยนําตัวสําคัญจาก

นวนิยายเรื่องแรกของขาพเจาคือเรื่อง “ปริศนา” เขามาในเรื่อง ผูที่ไมเคยอานเรื่อง

“ปริศนา” และเรื่อง “เจาสาวของอานนท” ก็จะไมรูจักตัวละครนี้มาต้ังแตตน ผูที่เคยอาน

แลว เมื่อไดมาอานเรื่องนี้ก็จะรูสึกเหมือนพบเพื่อนเกา เพราะเรื่อง ‘รัตนาวดี’ เปนเรื่อง

สุดทายในนวนิยายชุด “ปริศนา”

ว. ณ ประมวญมารค

15 มิถุนายน 2512

**

ว. ณ ประมวญมารค, รัตนาวดี, พิมพคร้ังท่ี 1 , ( กรุงเทพฯ : นานมีบุคสพับลิเคชั่นส , 2548) ,

หนา คํานํา ของ ว. ณ ประมวญมารค.

Page 150: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

141

ประวัติยอของผูวจิยั

ชื่อ - สกุล นางสาว สุภิญญา ยงศิริ

วัน เดือน ปเกิด 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2519

สถานท่ีเกิด จังหวัดบุรีรัมย

สถานท่ีอยูปจจุบัน 471 / 26 พญาไทเพลส ถนนศรีอยุธยา

แขวงทุงพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ

คุณวุฒิ อักษรศาสตรมหาบัณฑิต ( วรรณคดีไทย )

ตําแหนงทางวิชาการ อาจารย

หนวยงาน ภาควิชาภาษาไทยและภาษาตะวันออก คณะมนุษยศาสตร

มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

ประวัติการศึกษา

พ.ศ. 2545 ระดับปริญญาโท

อักษรศาสตรมหาบัณฑิต ( วรรณคดีไทย )

ภาควิชาภาษาไทย คณะอักษรศาสตร จุฬาลงกรณ

มหาวิทยาลัย

พ.ศ. 2541 ระดับปริญญาตรี

อักษรศาสตรบัณฑิต ( ภาษาไทย )

ภาควิชาภาษาไทย คณะอักษรศาสตร จุฬาลงกรณ

มหาวิทยาลัย

พ.ศ. 2537 ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย

โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา

Page 151: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

1

บทสรุปผูบริหาร

ชื่อโครงการ

(ภาษาไทย) พระอัจฉริยภาพของ ว. ณ ประมวญมารคในนวนิยาย

รูปแบบจดหมาย

(ภาษาอังกฤษ) ( THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN

THE EPISTOLARY NOVELS )

วัตถุประสงคของการวิจัย

1. เพื่อยกยองพระเกียรติคุณทางดานการประพันธของ ว. ณ ประมวญมารค หรือพระเจาวรวงศเธอ

พระองคเจาวิภาวดีรังสิต ผูทรงสรางคุณประโยชนใหแกผืนแผนดินไทยตราบจนวาระสุดทาย

ของพระชนมชีพ

2. เพื่อศึกษาพระอัจฉริยภาพทางการประพันธของ ว. ณ ประมวญมารคที่ทรงใชการเขียน

จดหมายเพื่อคลี่คลายปมปญหาของเรื่องนิกกับพิม ศึกษาพระอัจฉริยภาพของพระองค

ในการแสดงมุมมองความคิดและความรูสึกของสุนัขที่มีตอมนุษย และเพื่อศึกษา

พระอัจฉริยภาพของพระองคที่ทรงถายทอดความรักของมนุษยและสุนัขที่เปนเพื่อนรวมโลก

ไดอยางงดงาม

3. เพื่อศึกษาวัฒนธรรม ชีวิตความเปนอยูของชาวตะวันตกเมี่อประมาณ 60 ปท่ีแลว เพื่อ

เรียนรูและเขาใจเพื่อนตางวัฒนธรรม ศึกษาอดีตเพื่อเขาใจวัฒนธรรมตะวันตกในปจจุบัน

ที่มาของการวิจัย

ว. ณ ประมวญมารคเปนนามปากกาที่คนไทยรูจักกันดี ว. ณ ประมวญมารคเปน

นามปากกาของพระเจาวรวงศเธอ พระองคเจาวิภาวดีรังสิต พระองคทรงเปนผูทําคุณประโยชนใหแก

ประเทศชาติเปนอยางสูงและสิ้นพระชนมในขณะปฏิบัติหนาที่เพื่อบานเมือง และในฐานะท่ีทรงเปน

นักเขียน พระองคก็ทรงเปนนักเขียนผูมากความสามารถ ทรงนิพนธทั้งสารคดี นวนิยาย เรื่องสั้น

Page 152: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

2

รวมทั้งบทละครวิทยุดวย สารคดีคือเรื่องตามเสด็จปากีสถาน และนวนิยายที่ผูอานรูจักกันดีคือเรื่อง

ปริศนา รัตนาวดี เจาสาวของอานนท นี่หรือชีวิต และนิกกับพิม เปนตน

เรื่องนิกกับพิมและเรื่องรัตนาวดีแตงเปนนวนิยายรูปแบบจดหมายซึ่งมีวิธีการถายทอดเรื่องราวที่

แตกตางจากนวนิยายทั่วไป เพราะตัวละครเขียนจดหมายถึงกันเพื่อเลาเรื่องราวที่เกิดขึ้นใหตัวละครที่ไดรับ

จดหมายไดรับทราบ นวนิยายรูปแบบจดหมายของไทยมีเพียงไมก่ีเรื่อง และ ว. ณ ประมวญมารคทรง

นิพนธไว 2 เรื่องคือเรื่องนิกกับพิมและเรื่องรัตนาวดี นวนิยายทั้ง 2 เรื่องน้ีเปนที่ประทับใจของผูอาน

ทุกคน มิใชเปนเพียงเพราะวาเปนนวนิยายรูปแบบจดหมายที่มีลักษณะเดนไมเหมือนนวนิยายท่ัวไป

แตเปนเพราะนวนิยายท้ัง 2 เรื่องนี้มีคุณคาในตัวเองคือ เรื่องนิกกับพิมทําใหมนุษยรักและเขาใจสุนัขมาก

ย่ิงขึ้น และทําใหเราเกิดความรัก ความเมตตาในจิตใจ และพรอมที่จะมอบความรักน้ีใหกับทุกคนที่อยู

รอบขาง ผูอานเรื่องนิกกับพิมยังไดรับความรูเก่ียวกับประเทศสวิสเซอรแลนดอีกดวย และเรื่องรัตนาวดี

ทําใหคนไทยไดรูจักประเทศตางๆในยุโรปเพิ่มมากขึ้น ไดเรียนรูท้ังสถานท่ี ชีวิตความเปนอยูของผูคนที่

ผูแตงไดกลาวไวในนวนิยาย ทําใหผูอานมีโลกทัศนที่กวางขวาง ไดรูจักนานาประเทศเพิ่มมากขึ้น

นิกกับพิมเปนนวนิยายที่มีเนื้อเรื่องแปลกใหมไมเหมือนนวนิยายเรื่องอ่ืนๆ ผูแตงทรงใหนิกซึ่งเปน

สุนัขบอกเซอรอยูที่ประเทศไทยและใหพิมซึ่งเปนสุนัขพูเด้ิลอยูที่ประเทศสวิสเซอรแลนด ท้ังสองไดเขียน

จดหมายถึงกัน ซึ่งอันที่จริงแลวตัวละครเอกฝายชายและตัวละครเอกฝายหญิงเปนผูเขียนจดหมาย แต

เขียนในทํานองใหนิกกับพิมเขียนจดหมายถึงกันเพื่อเลาเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตและบอกเลาความคิด

ความรูสึกของนิกกับพิม และเรื่องราวที่นิกกับพิมเลาในจดหมาย สวนใหญเปนเรื่องราวขําขันที่สราง

รอยย้ิมและเสียงหัวเราะใหกับผูอาน ดังที่ในการพิมพครั้งที่ 6 ไดเขียนไววา

“ นวนิยายพิสดารในแบบที่ไมเคยมีนักประพันธคนใดเขียนมากอน อานแลวชวนใหเกิดอารมณ

ชื่น ”

นิกกับพิมเปนนวนิยายที่มีความผสมผสานหลายประการทั้งนวนิยายรูปแบบจดหมาย นวนิยายที่

ใชฉากตางประเทศ และหัสนิยายหรือนวนิยายแนวขําขัน ซึ่งผูแตงไดผสมผสานรูปแบบทั้งหมดเหลานี้เปน

เรื่องนิกกับพิมไดอยางนาสนใจ และการใชรูปแบบการเขียนนวนิยายที่เปนจดหมายเอ้ือตอการคลี่คลาย

ปมปญหาของเนื้อเรื่องไดอยางนาสนใจ ซึ่งปมปญหาของเนื้อเรื่องคือ ความเขาใจของตัวละครเอก

ฝายชายที่คิดวาตัวละครเอกฝายหญิงแตงงานแลว

สิ่งที่เปนจุดเดนของเรื่องนิกกับพิมอีกประการหนึ่งที่นวนิยายเรื่องอ่ืนไมมีก็คือ การใหสุนัขมี

มุมมองความคิดตอมนุษย วิพากษวิจารณมนุษย ซึ่งเปนสิ่งที่ผูวิจัยสนใจวานิกกับพิมมีมุมมองความคิด

ตอมนุษยอยางไรบาง และสิ่งที่สําคัญที่สุดของนวนิยายเรื่องนี้ก็คือเรื่องนิกกับพิมไดถายทอดความรัก

ความผูกพันระหวางสุนัขและมนุษย ทําใหเราซึ่งเปนมนุษยตองยอนกลับมาถามตัวเองวา แลวตัวเรามี

ความรักตอเพื่อนมนุษยและเพื่อนรวมโลกเพียงพอเหมือนนิกกับพิมหรือไม เมื่อเราไดอานนวนิยาย

Page 153: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

3

เรื่องนี้แลวก็จะชวยกลอมเกลาจิตใจของเราใหมีความออนโยนมากขึ้น มีความรัก ความเมตตาตอเพื่อน

มนุษยและเพื่อนรวมโลกมากขึ้น

และดวยองคประกอบท่ีนาสนใจทั้งหมดเหลาน้ีทําใหเรื่องนิกกับพิมเปนนวนิยายที่สนุก แปลกใหม

ไมเหมือนกับนวนิยายเรื่องอ่ืน และทําใหผูอานเมื่อไดอานนวนิยายเรื่องนี้แลวไดรับการกลอมเกลาจิตใจ

ใหออนโยน ไดรับรูความรักและมิตรภาพที่บริสุทธของนิกกับพิมที่มีใหแกกันและความรักท่ีมอบใหมนุษย

เปนความรักที่ใหโดยไมหวังสิ่งตอบแทน ทั้งหมดนี้เปนพระอัจฉริยภาพขององคผูประพันธอยางแทจริง

ในเรื่องรัตนาวดีผูแตงพาผูอานทองเท่ียวไปในดินแดนยุโรปที่สวยงามโดยผูแตงไดสรางเรื่องราว

เปนนวนิยายมีพระเอก นางเอก และตัวละครอ่ืนๆไดอยางนาสนใจ นาติดตาม ประกอบกับผูแตง

ทรงมีพระอารมณขัน พระองคจึงทรงแตงเรื่องนี้ดวยความสนุกสนาน

เรื่องรัตนาวดีทําใหผูอานไดทองเที่ยวไปในดินแดนยุโรป ไดรูจักสถานที่ ไดรูจักชีวิต ความเปนอยู

ของผูคนที่อยูอีกซีกโลกหน่ึง ทําใหคนไทยไดเรียนรูชีวิตความเปนอยูของคนในยุโรป และเรื่องนิกกับพิม

พิมและเจานายอยูในประเทศสวิสเซอรแลนด พิมไดเขียนจดหมายเลาเรื่องราวความเปนอยูของตนใน

ประเทศสวิสเซอรแลนด นวนิยายทั้ง 2 เรื่องนี้จึงไดถายทอดเรื่องราวความเปนอยู วัฒนธรรมตะวันตก

เมื่อประมาณ 60 ปที่แลว ทําใหผูอานมีโลกทัศนท่ีกวางไกลมากย่ิงขึ้น ไดเรียนรูและเขาใจเพื่อนตาง

วัฒนธรรม ศึกษาอดีตเพื่อเขาใจวัฒนธรรมตะวันตกในปจจุบัน

การดําเนินงานและผลงานที่ไดรับจากการวิจัย (โดยสังเขป) พรอมภาพประกอบ

งานวิจัยน้ีมีจุดประสงคเพื่อศึกษาพระอัจฉริยภาพทางการประพันธของ ว. ณ ประมวญมารค

ที่ทรงใชการเขียนจดหมายเพื่อคลี่คลายปมปญหาของเรื่องนิกกับพิม ศึกษาพระอัจฉริยภาพของพระองค

ในการแสดงมุมมองความคิดและความรูสึกของสุนัขที่มีตอมนุษย และเพื่อศึกษาพระอัจฉริยภาพของ

พระองคที่ทรงถายทอดความรักของมนุษยและสุนัขท่ีเปนเพื่อนรวมโลกไดอยางงดงาม จุดประสงคที่

สําคัญอีกประการหนึ่งของการวิจัยเพื่อศึกษาวัฒนธรรม ชีวิตความเปนอยูของชาวตะวันตกเมื่อประมาณ

60 ปที่แลว เพื่อเรียนรูและเขาใจเพื่อนตางวัฒนธรรม ศึกษาอดีตเพื่อเขาใจวัฒนธรรมตะวันตกใน

ปจจุบัน

ผลการวิจัยพบวา ว. ณ ประมวญมารคทรงถายทอดความรักของมนุษยและสุนัขที่เปนเพื่อน

รวมโลกไดอยางงดงาม ดังที่ผูวิจัยไดกลาวไวในงานวิจัย

พระเจาวรวงศเธอ พระองคเจาวิภาวดีรังสิต หรือ ว. ณ ประมวญมารคทรงแสดงใหเห็น

สิ่งที่ผูวิจัยถือวาเปน “ หัวใจ “ ที่สําคัญที่สุดของเรื่องนิกกับพิมก็คือ “ ความรัก ” พระองคทรงแตงเรี่องนิก

Page 154: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

4

กับพิมทําใหผูอานเมื่อไดอานแลว ไดมองเห็นความรัก ความผูกพันของสุนัขและมนุษยท่ีมีใหตอกัน

อันเปนความรักที่บริสุทธิ์ใจ พระองคทรงแสดงพระอัจฉริยภาพถายทอดความคิด ความรูสึกอันบริสุทธิ์

งดงามเปนเรื่องราวนวนิยายไดอยางนาประทับใจ ผูแตงไดทรงถายทอดความรัก ความจริงใจของ

นิกกับพิมที่มีใหเจานายของตัวเองไดอยางนาชื่นชมคือความรักของนิกท่ีมีใหแกพิเชฐ และความรัก

ของพิมท่ีมีใหแกมนทิรา นอกจากความรัก ความจริงใจที่นิกกับพิมมีใหตอเจาของของตัวเองแลว นิก

กับพิมยังมอบความรักใหแกคนรอบขางอีกดวย ทําใหผูอานประทับใจความรัก ความจริงใจที่นิกกับพิมมี

ใหตอทุกคน แมวาบางครั้งนิกกับพิมจะนินทาเจานายบางเมื่อเจานายไมเขาใจตนและเจานายทําในสิ่งที่

นิกกับพิมไมเห็นดวย ไมวาจะเปนความชอบที่ไมเหมือนกัน ความคิดเห็นท่ีไมตรงกัน แตถึงแมวาจะ

มีความชอบ ความคิดเห็นที่ขัดแยงกันอยางไรก็ตาม แตนิกกับพิมก็รักเจานายของตัวเองมาก ซึ่ง

เปนความรักที่มาจากหัวใจอันบริสุทธิ์ของนิกกับพิม

ผูแตงทรงใหนิกเปนสุนัขท่ีอยูในชนบท ไดอยูใกลชิดกับเด็กๆ และไดอยูใกลกับสัตวนานาชนิด

ผูอานจึงเห็นไดอยางชัดเจนวานิกเปนสุนัขท่ีจิตใจดี มีความรักใหกับทุกๆ คนที่อยูรอบขาง โดยเฉพาะ

เด็กๆ นิกจะรักเปนพิเศษ ไมวาจะเปนเด็กๆ ที่เปนคน ลูกแพะ ลูกไก ฯลฯ สวนพิมเปนสุนัขตัวเล็กๆ ที่

อยูในบานที่ประเทศสวิสเซอรแลนด พิมจึงมิไดออกไปพบกับบุคคลภายนอกมากนัก ความรักของนิกที่

มอบใหตอคนอ่ืนรอบขางจึงเปนความรักที่พิเศษนอกเหนือไปจากความรักของนิกกับพิมท่ีมอบใหกับ

เจาของของตัวเองคือพิเชฐและมนทิรา และพิเชฐกับมนทิราก็รักนิกกับพิมมากเชนกัน “ ความรัก ”

เปนเสมือนหัวใจสําคัญของเรื่องนิกกับพิม อันเปนความรักท่ีบริสุทธิ์งดงาม ถาหากทุกคนบนโลกใบนี้มี

ความรักใหแกกันและมอบความรักใหทุกสรรพชีวิตที่เปนเพื่อนรวมโลกอยางเชนในเรื่องนิกกับพิม โลก

ใบนี้ก็คงรมเย็นมีความสุขมากกวาที่เปนอยูในปจจุบัน ผูวิจัยมีความเห็นวาเรื่องนิกกับพิมนี้เปนนวนิยายที่

มอบ“ หัวใจสีขาวในวัยเยาว ” ใหกับผูอานทุกคน ทําใหผูอานอานแลวเกิดความรักท่ีมอบใหกับสุนัข

เพื่อนมนุษยทุกคน และทุกสรรพชีวิตที่อยูรอบขาง อันเปนคุณความดีอยางวิเศษของนวนิยายเรื่องนิก

กับพิม

และผลการวิจัยพบวา พระอัจฉริยภาพของ ว. ณ ประมวญมารคดานการประพันธ ที่

ทรงใชรูปแบบการเขียนนวนิยายเรื่องนิกกับพิมเปนนวนิยายรูปแบบจดหมายชวยสรางปมปญหาของเรื่อง

ใหนาสนใจมากย่ิงขึ้นและนําไปสูการคาดเดาคําตอบขอสงสัยปมปญหาของเรื่อง และทายที่สุดนําไปสู

การคลี่คลายปมปญหา ซึ่งปมปญหาของเรื่องไดปรากฎต้ังแตตอนตนเรื่องคือ ตัวละครเอกฝายชาย

เขาใจวาตัวละครเอกฝายหญิงแตงงานแลว และความเขาใจน้ีเองทําใหตัวละครเอกฝายชายรีบกลับ

เมืองไทยโดยไมทันไดลา หรือแมแตไดถามความจริงจากตัวละครเอกฝายหญิง และนําไปสูการเขียน

จดหมายของทั้งสองคนคือพิเชฐและมนทิราโดยเขียนจดหมายในทํานองที่นิกกับพิมเขียนจดหมายคุยกัน

Page 155: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

5

การที่ผูแตงทรงผูกปมปญหาไวตนเรื่องวา มนทิรา ตัวละครเอกฝายหญิงแตงงานแลวจริง

หรือไม และผูแตงทรงคอยๆ เฉลยปมปญหาไดอยางนาสนใจดังท่ีผูวิจัยไดกลาวไวอยางละเอียดแลวใน

ตอนตน เมื่อวิเคราะหแลวการคลี่คลายปมปญหาของเรื่องนิกกับพิมมีความนาสนใจเนื่องดวย

1. การใหนิกกับพิมเปนบุคคลที่ 3 เปนผูที่สังเกตการณเรื่องราวที่เกิดขึ้น

ดวยเหตุผลนี้ทําใหการเฉลยปมปญหาวา มนทิรามีความสัมพันธอยางไรกับนายผูชายจึงมิไดเฉลย

อยางรวดเร็ว แตผูแตงจะคอยๆเฉลยทีละนอย โดยผานมุมมองความคิดของนิกกับพิม

2. สิ่งที่ผูวิจัยจะไดกลาวถึงอีกประเด็นหนึ่งซึ่งเปนประเด็นสําคัญก็คือ กลวิธีการสรางปมปญหาและ

การคลี่คลายปมปญหาโดยการสรางตัวละครปรปกษ ตัวละครปรปกษแมวาจะเขามาสรางปญหาใหกับ

มนทิรา แตตัวละครปรปกษกลับเปนผูสรางความสุขใหกับตัวละครเอกท้ังสองคน ทําใหเกิดการหักมุม

ของเนื้อเรื่อง ทําใหตัวละครเอกฝายชายและตัวละครเอกฝายหญิงไดสมหวังในตอนจบของเรื่อง

ผูวิจัยพบวาเรื่องนิกกับพิมมีลักษณะเดนอันเปนเอกลักษณไมเหมือนนวนิยายเรื่องใดคือ

ความคิดอันเปนพระอัจฉริยลักษณ : นิกกับพิม ตัวแทนของสุนัขท่ีแสดงความคิดวิพากษวิจารณ

มนุษย

ซึ่งนิกกับพิมวิพากษวิจารณมนุษยในเรื่องตางๆ ดังนี้

หัวขอใหญ

หัวขอยอย

2.1.3.1 วิพากษวิจารณลักษณะทางกายภาพ

ของมนุษย

เปรียบเทียบอายุของมนุษยและสุนัขวามี

ความแตกตางกัน

สุนัขมีความคิดวา ตาของมนุษยไมวองไว จมูก

สูดกลิ่นไมมีประสิทธิภาพ

มนุษยไมสามารถดมกลิ่นเพื่อรับรูวาสุนัขคิดอยางได

สุนัขคิดวามนุษยมีขนตามรางกายนอยมาก

Page 156: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

6

2.1.3.2 วิพากษวิจารณการกระทําของมนุษย

วิพากษวิจารณการกระทําของมนุษยท่ีเห็นวาแปลก

ประหลาด คือมนุษยสามารถกินสิ่งท่ีสุนัข

คิดวาไมนาจะกินได

วิพากษวิจารณการกระทําของมนุษยท่ีเห็นวาเปนสิ่ง

ที่ไมควรกระทํา

1. มนุษยมีความไมยุติธรรม

2. มนุษยทําในสิ่งท่ีไมตรงกับใจ

3. มนุษยไมยอมทําตามกฎเกณฑในสิ่งท่ีไดวาง

กฎระบียบไว

4. ลักษณะหนาตาและทาทางของมนุษยที่

พูดจาประจบผูอ่ืนเพื่อหาผลประโยชนใสตัว

มีหนาตาและกิริยาที่คลายลิง

5. มนุษยประเภทที่นาตําหนิคือ มนุษยที่อวดดี

ยกตนขมทาน

6. มนุษยพูดไมจริงบอยที่สุด

2.1.3.3 วิพากษวิจารณความชอบของมนุษย

และสุนัขท่ีตางกัน

สุนัขไมชอบการอาบน้ําถูสบู และไมชอบแชมพู

อาบน้ําที่ฆาเห็บหมัด

สุนัขไมชอบการถูกตัดขน

เมื่อมนุษยใชสายจูงสุนัข มนุษยชอบใหสุนัขเดิน

อยางเรียบรอย แตสุนัขตองการเดินอยางตามใจ

ตัวเองมากกวา

มนุษยและสุนัขมีความคิดเรื่อง ความหอมและ

ความเหม็นที่แตกตางกัน

Page 157: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

7

2.1.3.4 สุนัขมีความคิดเห็นไมเหมือนกับ

มนุษย

สุนัขจะมีความคิดวานํ้าลายของสุนัขเปนยาที่ใช

รักษาบาดแผลของตัวเองได

2.2 พระอัจฉริยภาพของ ว. ณ ประมวญมารค ในเร่ืองรัตนาวดี : ผูแตงทรงบรรยายเห็น

ภาพไดอยางดีย่ิง และการเปรียบเทียบวัฒนธรรมไทยกับตะวันตกเพ่ือเขาใจความเหมือน

และความตางของสองวัฒนธรรม

หัวขอใหญ หัวขอยอย

2.2.1 ผูแตงทรงบรรยายภาพเห็นภาพไดอยางดีย่ิง

2.2.2 การเปรียบเทียบวัฒนธรรมไทยกับตะวันตก

เพื่อเขาใจความเหมือนและความตางของสอง

วัฒนธรรม

1.ละครกลางแจง

2. น้ําหอมของฝรั่ง

3. โรงนาที่ประเทศฝรั่งเศส

4. แกวเบียรที่ใชด่ืมเบียรของชาวเยอรมัน

5.กลิ่นของเนยแข็ง

6. รองเทาท่ีเรียกวา เก๊ียะฝรั่ง

บทท่ี 3 วัฒนธรรมตะวันตกในเร่ืองนิกกับพิมและเร่ืองรัตนาวดี เรื่องนิกกับพิมกลาวถึง

ประเทศสวิสเซอรแลนด เรื่องรัตนาวดีกลาวถึงประเทศในยุโรปไดแก ประเทศอังกฤษ ฝรั่งเศส

สวิสเซอรแลนด เยอรมัน อิตาลี และประเทศที่เล็กที่สุดในโลกคือประเทศลิกเตนสไตน ผูวิจัยได

ศึกษาวัฒนธรรมตะวันตกที่ปรากฏในนวนิยายท้ัง 2 เรื่อง และแยกวัฒนธรรมดานตางๆ ไดเปนท้ังหมด

9 ดาน ดังนี้

หัวขอใหญ หัวขอยอย

3.1 สภาพภูมิประเทศ

3.2 อาหารยุโรป

3.3 การแตงกาย

3.4 สถาปตยกรรม Whispering Gallery ของวัดเซนตพอล

กระทอมแทชรูฟบานของเชกสเปยร

Page 158: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

8

ปราสาทโบราณของยุโรป

รานอาหารหรูใตดินที่ประเทศอิตาลี

3.5 การรักษาโรค

3.6 การแสดง การละคร

3.7 ผลิตภัณฑท่ีมีชื่อเสียงของเมือง

น้ําแร Evian

ของที่ระลึกของประเทศสวิสเซอรแลนด

ผาลูกไมสวิส

เครื่องกระเบ้ืองโรเซ็นทาล ที่ประเทศเยอรมัน

3.8 การพักผอน

3.9 ประเพณีของชาวสวิสเซอรแลนด

การนําผลงานวิจัยไปประยุกตใช

ผลของงานวิจัยชิ้นนี้สามารถนําไปใชไดในการเรียนวิชาวรรณกรรมปจจุบัน ไดแกนวนิยาย

และสามารถนําเรื่องนิกกับพิมไปใชในการเรียนวิชา วรรณกรรมสําหรับเด็กและเยาวชน รายงานการวิจัย

ชิ้นนี้จะชวยใหผูสอนและผูเรียนมีความรูท่ีกวางขวางมากย่ิงขึ้น ทั้งในเรื่องกลวิธีการแตงนวนิยายที่ใช

รูปแบบจดหมาย และความรูวัฒนธรรมตะวันตกอันเปนการเปดโลกทัศนใหกับทุกคน

นอกจากจะมีประโยชนตอการเรียนแลว ยังมีประโยชนตอผูท่ีจะเปนนักเขียน เพราะเรื่อง

นิกกับพิมมีกลวิธีการเขียนท่ีแปลกใหมแตกตางจากนวนิยายเรื่องอ่ืน คือเปนนวนิยายที่ใหสุนัข 2 ตัวคือ

นิกกับพิมเขียนจดหมายคุยกัน ซึ่งถือไดวาเปนเรื่องราวที่แปลกใหมไมซ้ําแบบเรื่องอ่ืน และนิกกับพิมไดให

มุมมองที่แปลกใหม และสรางรอยย้ิมใหกับผูอาน เพราะนิกกับพิมไดเขียนจดหมายคุยกัน แลกเปลี่ยน

ทัศนะความคิดเห็นกัน ซึ่งเรื่องนิกกับพิมนี้สามารถเปนแรงบันดาลใจใหนักเขียนคิดสรางสรรคนวนิยาย

ของตนในรูปแบบที่แปลกใหม อันจะเปนการสรางปรากฏการณใหมใหเกิดขึ้นในบรรณพิภพ

ผลงานวิจัย/ผลผลิต สิ่งประดิษฐ นวัตกรรม หรืออื่น ๆ ที่ไดจากการทําวิจัย

และมี Impact ตอสังคม, ประเทศชาติไดรับประโยชนอะไร

เรื่องนิกกับพิมชวยกลอมเกลาจิตใจผูอานใหมีความออนโยน มีความรัก ความเมตตาตอเพื่อน

มนุษย สุนัข และทุกสรรพชีวิต ซึ่งผูวิจัยถือวาเปนคุณความดีอยางวิเศษของเรื่องนิกกับพิม มีผูที่เคย

ต้ังคําถามวา สายมนุษยศาสตรใหประโยชนสิ่งใดกับมนุษยชาติ เรื่องนิกกับพิมก็คงเปนคําตอบท่ีดีไดอีก

เรื่องหนึ่ง เรื่องนิกกับพิม นวนิยายเรื่องนี้สอนใหมนุษยมีความรัก ความเมตตาใหแกกัน ซึ่งถาหากทุกคน

Page 159: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

9

ไดอานเรื่องนิกกับพิม หรือนวนิยายเรื่องอ่ืนๆท่ีเมื่อไดอานแลว ผูอานไดซึมซับความออนโยน ทําใหผูอาน

มีดวงใจอันออนละมุน ที่พรอมจะมอบความรักใหแกทุกสรรพชีวิต โลกใบนี้ก็คงมีความสงบสุขรมเย็น

ซึ่งกลาวไดวาเรื่องนิกกับพิมนี้จะชวยสรางคนใหมีจิตใจที่ออนโยน มีความรัก ความเมตตาเพิ่มมากข้ึน

ทําใหเปนคนดีเพิ่มมากขึ้น นับไดวาเปนประโยชนอยางมหาศาลอันประมาณคามิได และ

นอกจากนี้ความรูเก่ียวกับวัฒนธรรมตะวันตกอันเปนความรูที่ไดจากการวิจัยนี้ ถือไดวาเปนอาวุธทาง

ปญญาที่สําคัญย่ิงที่จะทําใหคนไทยมีความรูที่กวางไกล และอยูในสังคมโลกไดอยางมีความสุขอยางผูท่ี

รูจักเพื่อนตางวัฒนธรรม นวนิยายท้ัง 2 เรื่องนี้ไดประพันธขึ้นเมื่อเกือบ 60 ปที่แลว ก็ย่ิงเปนประโยชน

กับทุกคน ที่จะทําใหเราไดรูจักยุโรปมาต้ังแตอดีตเพื่อที่เขาใจยุโรปในปจจุบันไดอยางชัดเจนมากย่ิงขึ้น

นอกจากนี้งานวิจัยเรื่องนี้ โดยเฉพาะอยางย่ิงเรื่องนิกกับพิมอาจเปนแรงบันดาลใจใหนักเขียนได

สรางสรรคงานเขียนของตนในแนวใหมท่ีสรางความแปลกใหมใหแกวงวรรณกรรมก็ถือไดวา วงวรรณกรรม

ไทยอาจจะไดนวนิยายรูปแบบใหม นับไดวาเปนนวัตกรรมใหมของนวนิยายไทย

ปญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้นจากการทําวิจัย

ปญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้นจากการทําวิจัยมีเพียงเหตุผลประการเดียวที่คลายคลึงกับอาจารย

ทานอ่ืนๆ คือ เวลาของผูที่เปนครูอาจารยที่ตองแบงเวลาใหกับงานอ่ืนๆ ทําใหงานวิจัยไมสามารถทําได

ตามเวลาที่ตองการ

ความคิดเห็นและขอเสนอแนะ

งานวิจัยนี้เปนแนวทางใหกับการศึกษานวนิยาย ซึ่งเปนงานเขียนวรรณกรรมปจจุบัน

เรื่องนิกกับพิมเปนนวนิยายท่ีแปลกใหม ไมเหมือนกับนวนิยายเรื่องอ่ืนๆ จึงถือวาเปนจุดเดนของนวนิยาย

เรี่องนี้ ผูวิจัยทานอ่ืนอาจจะเลือกศึกษานวนิยายเรื่องอ่ืนที่ผูแตงมีวิธีการเขียนที่แปลกใหมเพื่อเปดโลกทัศน

ใหมของบรรณพิภพ

นวนิยายที่ไดกลาวถึงวัฒนธรรมของตางชาติทําใหผูวิจัยและผูอานมีความรูที่กวางไกล

มากย่ิงขึ้น นับไดวาเปนงานวิจัยอีกแนวทางหนึ่งที่นาสนใจ ทําใหเราทุกคนไดรูจักเพื่อนตางวัฒนธรรม

เพิ่มมากขึ้น อันจะชวยสรางความเขาใจอันดีแกกันและทําใหเราทุกคนท่ีตางวัฒนธรรมไดอยูรวมกันอยาง

มีความสุข

Page 160: THE WISDOM OF V. NA PRAMUANMARG IN THE ...thesis.swu.ac.th/swufac/Hum/Supinya_Y_R421068.pdfรายงานการว จ ย พระอ จฉร ยภาพของ ว.ณ

10

งานวิจัยที่คาดวาจะดําเนินการตอไป

งานวิจัยเรื่องน้ีไดจบสมบูรณแลวเปนอยางดี งานวิจัยเรื่องตอไปท่ีผูวิจัยสนใจศึกษา

คนควาคือนวนิยายอิงประวัติศาสตรซึ่งเปนความสนใจของผูวิจัย และผูวิจัยก็มองเห็นประโยชนที่จะ

เกิดขึ้นแกประเทศชาติของเราสืบตอไป เพราะนวนิยายอิงประวัติศาสตรเปนนวนิยายท่ีผูเขียนไดให

ความรูทางประวัติศาสตรแกผูอาน พระราชพงศาวดาร บันทึกประวัติศาสตรตางๆ อาจใหไดเพียงขอมูล

ทางประวัติศาสตรที่เปนขอเท็จจริงแตเพียงเทาน้ัน แตนวนิยายอิงประวัติศาสตรผูแตงไดใหทั้งความคิด

ความรูสึกของบุคคลท่ีอยูในเหตุการณน้ัน ทําใหนวนิยายอิงประวัติศาสตรใหภาพที่ชัดเจนแกผูอานมาก

ย่ิงขึ้น และที่สําคัญนวนิยายอิงประวัติศาสตรทําใหเราคนไทยไดรับรูเรื่องราวที่มาของชาติไทยของเรา

คณะผูทําวิจัย

1. ชื่อ- สกุล อาจารยสุภิญญา ยงศิริ หัวหนาโครงการวิจัยผูรับทุน

สังกัด ภาควิชาภาษาไทยและภาษาตะวันออก คณะมนุษยศาสตร

มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

ท่ีตั้ง สุขุมวิท 23 เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110

โทรศัพทท่ีทํางาน 02 – 6641000 ตอ 6271

อีเมลล suphinyay @ swu.ac.th และ suphinya_yongsiri @ yahoo.com

2. ชื่อสกุล นาย/นาง/นางสาว/อ่ืน ๆ.....................................................

สังกัด คณะ/สถาบัน/สํานัก...................................................

มหาวิทยาลัย.............................................................

ที่ตั้ง..........................................................................

โทรศัพทที่ทํางาน............................................... โทรสาร...........................................................

อีเมลล.............................................................

ทุนสนับสนุน

ไดรับทุนสนับสนุนจากเงินงบประมาณเงินรายไดมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

ประจําปงบประมาณ 2553

เริ่มงานวิจัย ป 2553

สิ้นสุดงานวิจัย ป 2554