Physics บทที่ 19 ฟิสิกส์อะตอม ......หากตอ...
Transcript of Physics บทที่ 19 ฟิสิกส์อะตอม ......หากตอ...
http://www.pec9.com Physics บทท่ี 19 ฟิสิกสอ์ะตอม
1
เฉลยตะลุยข้อสอบเข้ามหาวิทยาลยั บทที่ 19 ฟิสิกส์อะตอม
1. ตอบข้อ 2 แนวคิด จาก Ek = 21 m v2 ( แทนค่า v = B
E ) จะได ้ Ek = 21 m ( B
E ) 2
2. ตอบข้อ 3. แนวคิด โจทยบ์อก V = 100 โวลต ์ , m = 8 x 10–16 kg , d = 0.8 cm = 0.008 m
e = 1.6 x 10–19 C , n = ?
หยดน ้ามนัน้ีจะถูกแรงกระท า 2 แรง ดงัรูป เน่ืองจากหยดน ้ามนัลอยน่ิงจึงไดว้า่ Fข้ึน = Fลง q d
V = m g ( แทนค่า q = n e ) n e ( d
V ) = m g n (1.6 x 10–19) ( 0.008
100 ) = ( 8 x 10–16) (10) n = 4 อิเล็กตรอน นัน่คือหยดน ้ามนัน้ีมีอิเล็กตรอนอยู ่ 4 อิเล็กตรอน
3. ตอบข้อ 4. แนวคิด จาก rn = 5.3 x 10–11 n2
จะได ้ 1r4r = 2(1) 115.3x10
2(4) 115.3x10
r4 = 16 r1 นัน่คือรัศมีวงโคจรท่ีส่ีมีขนาดเป็น 16 เท่าของรัศมีวงโคจรท่ีหน่ึง
+ + + + +
– – – – –
น ้ำหนกัน ้ ำมนั = m g
แรงทำงไฟฟ้ำ = q dV
e e
e e
e
e e
http://www.pec9.com Physics บทท่ี 19 ฟิสิกสอ์ะตอม
2
4. ตอบข้อ 2. แนวคิด ขั้นที ่ 1 หา E3 และ E2 จาก En = – 2n
13.6
จะได ้ E3 = – 2313.6 = –1.51 eV
E2 = 2213.6 = –3.40 eV
ขั้นที ่ 2 หาพลงังานท่ีคายออกมา ( E ) จาก E = Ef – Ei จะได ้ E = E2 – E3 E = (–3.40) – (–1.51) E = –1.89 eV นัน่คือจะมีการคายพลงังาน 1.89 อิเล็กตรอนโวลต์
5. ตอบข้อ 3. แนวคิด โปรดจ าวา่ อิเล็กตรอนท่ีอยูร่ะหวา่งขั้วบวกลบความต่างศกัย ์ 13.2 โวลต ์จะเคล่ือนท่ี ไปหาขั้วบวกและมีพลงังานจลน์เท่ากบั 13.2 อิเล็กตรอนโวลตด์ว้ย เม่ืออิเล็กตรอนภายนอกน้ีพุ่งชนอิเล็กตรอนในอะตอมไฮโดรเจน จะมีการถ่ายโอน พลงังานแลว้ท าให้อิเล็กตรอนของไฮโดรเจนถูกกระตุน้ให้เคล่ือนท่ีจากระดบัพลงังานท่ี 1 ข้ึนไปอยูช่ั้นบนๆ ซ่ึงสมมุติใหเ้ป็นชั้นท่ี n และเราหาค่า n น้ีไดโ้ดย E = Ef – Ei 13.2 = En – E1 ( แทนค่า En = 2n
13.6 )
13.2 = ( 2n13.6 ) – (–13.6)
–0.4 = 2n13.6
n2 = 34 n = 5.8 จะเห็นวา่อิเล็กตรอนไฮโดรเจนจะข้ึนไปไดสู้งสุดเพียงชั้นท่ี 5 เท่านั้น
ไม่สามารถข้ึนชั้นท่ี 6 ได ้ เพราะมีพลงังานไม่เพียงพอ
E2
E3 E = ?
e
http://www.pec9.com Physics บทท่ี 19 ฟิสิกสอ์ะตอม
3
6. ตอบข้อ 4. แนวคิด ในตอนแรก อิเล็กตรอนไฮโดรเจนอยูใ่นชั้นท่ี 1 หากตอ้งการไอออไนซ์ จะตอ้ง ยา้ยอิเล็กตรอนน้ีออกไปชั้นท่ี ( หลุดออกไปนอกอะตอม )
จะไดว้า่ Ei = – 2n1E = – 21
1E = –E1
Ef = – 2n1E = – 2
1E = 0
จาก E = Ef – Ei = 0 – ( –E1) = E1
7. ตอบข้อ 2. แนวคิด ปกติอิเล็กตรอนไฮโดรเจนจะอยูใ่นชั้นท่ี 1 หากถูกกระตุน้อนัดบัแรกจะกระโดด ข้ึนไปอยูใ่นชั้นท่ี 2 ดงันั้น Ei = 2n
13.6 = 2213.6 = –3.4 eV
หากตอ้งการไอออไนซ์ตอ้งยา้ยอิเล็กตรอนน้ีออกไปนอกอะตอม (ชั้นท่ี n = ) ดงันั้น Ef = 2n
13.6 = 213.6 = 0
สุดทา้ยจะได ้ E = Ef – Ei = 0 – (–3.4) = 3.4 eV
8. ตอบข้อ 4. แนวคิด โจทยบ์อก เส้นทางท่ี 1 คายรังสีความยาวคล่ืน 200 nm ( 200 x 10–9 m )
เส้นทางท่ี 2 คายรังสีความยาวคล่ืน 300 nm ( 300 x 10–9 m ) เส้นทางท่ี 3 คายรังสีความยาวคล่ืน ( ) = ?
จาก E = λ eCh
จะได ้ Eเสน้ทาง1 = )910x (200 )1910x (1.6)810x )(33410x (6.6
= 6.188 อิเล็กตรอนโวลต ์
Eเสน้ทาง2 = )910x (300 )1910x (1.6)810x )(33410x (6.6
= 4.125 อิเล็กตรอนโวลต์
และจะไดว้า่ Eเสน้ทาง3 = Eเสน้ทาง1 – Eเสน้ทาง2 Eเสน้ทาง3 = 6.188 – 4.125 Eเสน้ทาง3 = 2.063 อิเล็กตรอนโวลต ์
http://www.pec9.com Physics บทท่ี 19 ฟิสิกสอ์ะตอม
4
สุดท้าย หาความยาวคล่ืน ( ) ของรังสีท่ีคายจากเส้นทางท่ี 3 จาก E =
λ eCh
Eเสน้ทาง3 = λ eCh
2.063 = )19(1.6x10
)810x )(3 3410x (6.6
= 600 x 10–9 เมตร = 600 นาโนเมตร นัน่คือรังสีท่ีคายออกมาจากเส้นทาง 3 จะมีความยาวคล่ืน 600 นาโนเมตร
9. ตอบข้อ 1.
แนวคิด จาก 1 = R
2fn
12fn
1
กรณีที ่1 พิจารณาการเปล่ียนชั้นจาก ni = 2 ไป nf = 1
1
1
= R
221
211 = R 43
กรณีที ่ 2 พิจารณาการเปล่ียนชั้นจาก ni = 4 ไป nf = 2
2
1
= R
24
1221 = R 16
3
น า )1 / 1 ()2 / 1 (
λ
λ = )43R(
)163R(
21
= 4
1
1 = 41 2
นัน่คือความยางคล่ืนในกรณีท่ี 1 มีค่าเป็น 41 ของความยางคล่ืนในกรณีท่ี 2
10. ตอบข้อ 2. แนวคิด ขอ้ท่ีถูกคือ ก. และ ข. เท่านั้น
http://www.pec9.com Physics บทท่ี 19 ฟิสิกสอ์ะตอม
5
11. ตอบข้อ 4. แนวคิด พลงังานจลน์ของอิเล็กตรอน ( Ek ) จะแปรผนักบัพลงังานแสง , ความถ่ีแสง และ จะแปรผกผนัความยาวคล่ืนแสง กบัพลงังานยดึเหน่ียว (W) ของขั้วแคโทด ไม่เก่ียวกบั ชนิดของขั้วแอโนด
12. ตอบข้อ 2. แนวคิด หาพลงังานแสง โดย = 400 nm = 400 x 10–9 m , Eแสง = ?
จาก Eแสง = eCh = )9x10 )(40019(1.6x10
)810x )(3 3410x (6.6
= 3.1 eV
เน่ืองจากปรากฏการณ์โฟโตอิเล็กทริกจะเกิดไดก้็ต่อเม่ือ Eแสง > พลงังานยดึเหน่ียว ( หรือฟังกช์นังาน )
ขอ้น้ี Eแสง มีขนาดมากกวา่ฟังชนังานของ Cs (w = 1.8) และ Ba (w = 2.5) ดงันั้น Cs และ Ba จึงเกิดปรากฏการณ์โฟโตอิเล็กทริกได ้
13. ตอบข้อ 5. แนวคิด หากพลงังานโฟตอนต ่ากวา่พลงังานยดึเหน่ียว อิเล็กตรอนจะไม่หลุดมา แต่ถา้พลงังานโฟตอนสูงกวา่พลงังานยดึเหน่ียว อิเล็กตรอนจะหลุดออกมาได ้ ดงันั้นขอ้น้ีอิเล็กตรอนอาจจะหลุดหรือไม่ก็ได ้
14. ตอบข้อ 2. เหตุผล จาก Ek = Eแสง – W เน่ืองจาก A มีพลงังานยึดเหน่ียว ( W ) มากกว่า B ดงันั้นพลงังานจลน์ (Ek) ของ โฟโตอิเล็กตรอนของ A จึงเหลือนอ้ยกวา่ของ B นัน่คือ Ea < Eb
แต่จ านวนโฟโตอิเล็กตรอนจะมากหรือนอ้ยข้ึนกบัความเขม้ของแสงเพียงอยา่งเดียว ดงันั้นถา้แสงมีความเขม้เท่ากนั จ านวนโฟโตอิเล็กตรอนจะเท่ากนัดว้ย นัน่คือ na = nb
http://www.pec9.com Physics บทท่ี 19 ฟิสิกสอ์ะตอม
6
15. ตอบข้อ 1. แนวคิด โจทยบ์อก W = 6.0 eV , = 100 nm = 100 x 10–9 m , Vo = ? จาก W + Vo =
eCh
จะได ้ 6.0 + Vo = )9x10 (100 )19x10 (1.6)810x (3 )3410x (6.6
Vo = 12.4 – 6.0 Vo = 6.4 eV
นัน่คือโฟโตอิเล็กตรอนจะมีพลงังานจลน์มากท่ีสุด 6.4 อิเล็กตรอนโวลต ์
16. ตอบข้อ 1.
แนวคิด โจทยบ์อก W = 3.2 x 10–19 จูล = )19(1.6x10) 1910x (3.2
eV = 2.0 eV
= 4 x 10–7 เมตร , Vo = ? จาก W + Vo =
eCh
จะได ้ 2.0 + Vo = )7x10(4 )19x10 (1.6)810x (3 )3410x (6.6
Vo = 3.09 – 2.0 Vo = 1.09 โวลต ์ นัน่คือความต่างศกัยห์ยดุย ั้งมีค่าเท่ากบั 1.09 โวลต ์
17. ตอบข้อ 1. แนวคิด ขั้นที ่ 1 คิดโลหะแพททินมั เพื่อหาพลงังานแสง โจทยบ์อก W = 5.6 eV , Vo = 1.2 eV , Eแสง = ? จาก Eแสง = W + Vo = 5.6 + 1.2 = 6.8 eV
ขั้นที ่ 2 คิดโลหะเงิน เพื่อหาความต่างศกัยห์ยดุย ั้ง จะไดว้า่ W = 4.7 eV , Eแสง = 6.8 eV , Vo = ? จาก Eแสง = W + Vo จะได ้ 6.8 = 4.7 + Vo Vo = 2.1 โวลต ์
http://www.pec9.com Physics บทท่ี 19 ฟิสิกสอ์ะตอม
7
นัน่คือตอ้งใชค้วามต่างศกัยห์ยดุย ั้ง 2.1 โวลต ์
18. ตอบข้อ 3. แนวคิด ขั้นที ่ 1 หาพลงังานยดึเหน่ียว
โจทยบ์อก ถา้ใช ้ f = 5 x 1014 Hz , Vo = 0.8 V , W = ? จาก W + Vo = efh
จะได ้ W + 0.8 = )19x10 (1.6)1410x (5 )3410x (6.6
W = 1.26 อิเล็กตรอนโวลต ์
ขั้นที ่ 2 หาพลงังานจลน์อิเล็กตรอน เม่ือ f = 1 x 1015 Hz , W = 1.26 eV , Vo = ?
จาก W + Vo = efh
จะได ้ 1.26 + Vo = )19x10 (1.6)1510x (1 )3410x (6.6
Vo = 2.85 eV นัน่คือพลงังานจลน์อิเล็กตรอนมีค่าเท่ากบั 2.85 อิเล็กตรอนโวลต ์
19. ตอบข้อ 2. แนวคิด ขั้นที ่ 1 หาพลงังานยดึเหน่ียว
โจทยบ์อก ถา้ใช ้ f = 8.0 x 1014 Hz , Vo = 1.1 V , W = ? จาก W + Vo = efh
จะได ้ W + 1.1 = )19x10 (1.6)1410x (8 )3410x (6.6
W = 2.2 อิเล็กตรอนโวลต ์
ขั้นที ่ 2 หาความถ่ีขีดเร่ิม โดย W = 2.2 eV , fo = ?
หากใชค้วามถ่ีขีดเร่ิม พลงังานจลน์ของโฟโตอิเล็กตรอน ( Vo ) จะมีค่าเป็น 0
http://www.pec9.com Physics บทท่ี 19 ฟิสิกสอ์ะตอม
8
จาก W + Vo = efh
จะได ้ 2.2 + 0 = )19x10 (1.6f )3410x (6.6
f = 5.3 x 1014 Hz
นัน่คือความถ่ีขีดเร่ิมมีค่าเท่ากบั 5.3 x 1014 เฮิรตซ์
20. ตอบข้อ 2. แนวคิด โจทยบ์อก f1 = 5.48 x 1014 Hz , Vo1 = 0.79 V
f2 = 7.39 x 1014 Hz , Vo2 = 1.55 V h = ? ( ขอ้น้ีก าลงัใหห้า h จึงแทน h = 6.6 x 10–34 J . s ไม่ได ้)
จาก W + Vo = efh จะได ้ W = efh – Vo
ตอน 1 W = )1910x (1.6)1410x (5.48h
– 0.79
ตอน 2 W = )1910x (1.6)1410x (7.39h
– 1.55
เน่ืองจากใชโ้ลหะชนิดเดียวกนั W ทั้งสองตอนมีค่าเท่ากนั
จะได ้ )1910x (1.6)1410x (7.39h
– 1.55 = )1910x (1.6)1410x (5.48h
– 0.79
)1910x (1.6)1410x (7.39h
– )1910x (1.6)1410x (5.48h
= 1.55 – 0.79
)1910x (1.6)1410x (1.91h
= 0.76
h = 6.37 x 10–34 J . s
21. ตอบข้อ 4. แนวคิด โจทยบ์อก = 660 nm = 660 x 10–9 m , n = 7 x 1022 โฟตอน
mน ้า = 200 g = 0.2 kg , cน ้า = 4200 J / kg.K , T = ?
จาก พลงังานแสง 40 % เปล่ียนเป็นพลงังานความร้อน จะได ้ 100
40 Eแสง = Q ( แทน Eแสง = nCh และ Q = c m T )
10040 ( n
Ch ) = c m T
http://www.pec9.com Physics บทท่ี 19 ฟิสิกสอ์ะตอม
9
10040 (7x1022) )9x10 (660
)810x (3 )3410x (6.6
= (4200) (0.2) T
T = 10oC นัน่คืออุณหภูมิของน ้าจะเพิ่มข้ึน 10 องศาเซลเซียส
22. ตอบข้อ 1. แนวคิด โจทยบ์อก = 663 nm = 663 x 10–9 m , P = 60 วตัต ์
t = 500 ชัว่โมง = 500 x 3600 วนิาที , n = ? เน่ืองจากพลงังานไฟฟ้า 90% เปล่ียนเป็นพลงังานแสง จึงไดว้า่ 90% Eไฟฟ้ำ = Eแสง ( แทน Eไฟฟ้ำ = P t , Eแสง = n
Ch )
10090 P t = n
Ch
10090 (60) (500 x 3600) = n )9x10 (663
)810x (3 )3410x (6.6
n = 3.25 x 1026 โฟตอน n = 325 x 1024 โฟตอน
โจทยก์ าหนดให ้ n = A x 1024 โฟตอน ดงันั้น A = 325
23. ตอบข้อ 2. แนวคิด คอมป์ตนั (Arthur H. Compton) และ
ดีบาย (Peter Debye) ท าการทดลองฉายรังสี เอกซ์ไปชนผลึกกราไฟต ์ ปรากฏวา่มีอิเล็ก- ตรอนและรังสีเอกซ์กระเจิงออกมา ดงัรูป ความยาวคล่ืน และพลงังานของรังสีเอกซ์ท่ี กระเจิงออกมา จะแปรผนัตามมุมท่ีกระเจิงซ่ึงเป็นไปตามกฎอนุรักษพ์ลงังานและกฎอนุรักษ์
โมเมนตมั แสดงวา่การชนระหวา่งโฟตอนของรังสีเอกซ์กบัอิเล็กตรอนในแท่งกราไฟต ์เป็น การชนกนัของอนุภาค การทดลองของคอมป์ตนัน้ี สนบัสนุนแนวคิดของไอน์สไตลท่ี์วา่ คล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้าสามารถประพฤติตวัเป็นอนุภาคได ้
24. ตอบข้อ 2.
http://www.pec9.com Physics บทท่ี 19 ฟิสิกสอ์ะตอม
10
25. ตอบข้อ 1. แนวคิด โจทยบ์อก E = 5 x 10–19 จูล ขนาดวตัถุท่ีจะศึกษาตอ้งมีขนาดใหญ่กวา่หรือ เท่ากบัความยาวคล่ืน ( ) หากตอ้งการหาขนาดวตัถุเล็กสุด จึงตอ้งหา = ?
จาก E = λCh
จะได ้ 5 x 10–19 = λ
)8(3x10 )34(6.6x10
= 396 x 10–9 เมตร = 396 นาโนเมตร
26. ตอบข้อ 1. แนวคิด โจทยบ์อก Ek = 858.5 keV = 858.5 x 103 x 1.6 x 10–19 จูล
m = 9 x 10–31 kg , = ?
จาก = kEm 2
h = )1910x 1.6x 10x 858.5 ( )3110x (9 2
3410x 6.6
3 = 1.33 x 10–12 เมตร
27. ตอบข้อ 1. แนวคิด โจทยบ์อก = 0.10 nm = 0.1 x 10–9 m , m = 9 x 10–31 kg , Ek = ? จาก =
kEm 2h
จะได ้ 0.1 x 10–9 = kE )3110x (9 2
3410x 6.6
( ยกก าลงัสองทั้งสองขา้ง )
(0.1 x 10–9)2 = kE )3110x (9 2
2)3410x (6.6
Ek = 2.4 x 10–17 จูล
http://www.pec9.com Physics บทท่ี 19 ฟิสิกสอ์ะตอม
11
28. ตอบข้อ 3. แนวคิด สมมุติ mB = x จะไดว้า่ mA = 4
1 x ( เป็น 41 เท่าของ B )
จาก = kEm 2
h
จะได ้ BAλ
λ =
B kEm 2h
A kEm 2h
( 2 , h , Ek คงท่ีจึงตดัทอนได ้)
BAλ
λ =
AmBm
BAλ
λ =
x 41x
A = 2 B
นัน่คือความยาวคล่ืนเดอบรอยลข์องอนุภาค A เป็น 2 ของอนุภาค B
29. ตอบข้อ 4. แนวคิด โจทยบ์อก ตอนแรก V1 = V1 , 1 = 1
ตอนหลงั V2 = ? , 2 = 21 (มีค่าเป็นคร่ึงหน่ึงของตอนแรก)
จาก = kEm 2
h ( แทนค่า Ek = q V)
จะได ้ = q Vm 2h
และ 1λ2λ =
1q Vm 2h
2q Vm 2h
( ค่า 2 , h , m , q คงท่ีจึงตดัทอนได ้)
1λ2λ =
2V1V
http://www.pec9.com Physics บทท่ี 19 ฟิสิกสอ์ะตอม
12
1λ
21λ
= 2V1V
21 =
2V1V ( ยกก าลงั 2 ทั้งสองขา้ง )
41 =
2V1V
V2 = 4 V1 นัน่คือตอ้งใชค้วามต่างศกัยใ์นตอนหลงัเป็น 4 เท่าของตอนแรก