Banmi flood

17
ประสบการณสํารวจพื้นที่น้ําทวม .บานหมี.ลพบุรี 20-25 ตุลาคม 2553 º·eÃÕ¹¨Ò¡ โดย ศิรินันต สุวรรณโมลี

description

Banmi flood

Transcript of Banmi flood

ประสบการณสํารวจพื้นที่นํ้าทวม อ.บานหมี่ จ.ลพบุรี

20-25 ตุลาคม 2553

º·eÃÕ¹¨Ò¡

โดย

ศิรินันต สุวรรณโมล ี

"ขาวหนึ่งกโิล กินได 2 วันกวาๆ" "ขาว 5 กิโล กินไดไมถึงสัปดาห"

นี่ เปนสิ่งที่เรียนรูจากการพูดคุยกับครูเกง บานแหลม เพชรบุร ีลูกสาวผูใหญบาน อาสาสมัครน้ําทวมบานหมี่เราพบความรูดานความตองการ วา คน 3 คน ใชขาว 1 กิโล กินได 3 มื้อ เทียบอัตราบริโภคได

5 มื้อ ใชขาว 2 กิโล (2 วัน)

10 มื้อ ใชขาว 4 กิโล (3 วันกวาๆ)

12 มื้อ ใชขาว 5 กิโล (4 วัน)

ดังนั้นการประทังชพีสําหรับชาวบานในชุมชน WaterWorld ซึ่งไมสามารถออกไปหาซื้อขาวของ เพราะไมมีเรือ และ โดนน้ําขังไวหมด (หนําซ้ํารานคาขาวก็ทวมเองซะดวย)ถาน้ําทวมแลวลดลงภายใน 3 วันทันที คงไมมีปญหา

แตน้ําจากคลองชัยนาท-ปาสักจะยังคงไหลมาเดิมอีกหลายรอบ เพือ่ระบายน้ําที่เต็มจากชวงบนลงมาซึ่งนอกจากจะทําใหน้ําในคลองไมมีทีไ่ปแลว น้ําในชุมชนจะยังคงขังตอไปอีกมากกวา 1 เดือน

เราจึงขอคอนเฟรมวาทีน่ี่ยังตองการขาวอยางตอเนื่อง

การบริจาคขาวจึงควรจะจัดใหขาวถุงละ 5 กิโล เปนอยางต่ําสุด

เพื่อใหคน 2 คน อยูรอดได 1 อาทิตย (แบบกินนอยๆๆ)

บทเรียนจากน้าํ นํ้า : ตอนที่ 1

ขาวสารกับความตองการของผูประสบภัย จัดยังไงใหพอ

แหม ที่จริงพยายามจะโพสรูปนาขาวนะ แตพอดีมันมีแตน้ํา เพราะขาวมันจมน้ําไปหมดแลว

ชาว บานในชุมชนทีน่้ําลดแลวก็จัดการตนเองในการทํากับขาวไดระดับหนึ่ง แตเงินที่จะซื้อ

ขาวก็แทบจะไมมีแลว เพราะขาวทีจ่ะเกี่ยวก็จมน้ําไปหมดแลว

สิ่ง ที่ทําไดก็คือ ชวยตัวเอง แลวชีวิตคงจะดีข้ึนบางถามีคนเอาสิ่งที่ตองการเขามาชวย และมี

การปรับปรงุนโยบายในการจัดการน้ํา ที่แบงรับแบงสูกันมากขึ้น

เมื่อ เราเหนื่อย เรายังหนีออกมากินหมูกระทะ แลวนอนตากแอรได เพราะเราโชคดี ที่ที่มีที่แหงใหเราหนีไปนอนนอกชุมชน แตสําหรับชาวบาน เขายังตองอยูที่นั่น บานที่น้ําลอยคอนั่นคือบานของเขา ที่มีเรื่องในชุมชนที่ตองแกปญหา มีอีกหลายปากทองอีกหลายคนที่ตองเลี้ยง เราขอยืนยันวา เรายังเหน่ือยเพียงเสี้ยวที่ชาวบานไดรับ เราขอนั...บถือหัวใจของชาวบานทุกคนที่สูอยางสุด มือ แลวเราจะรีบกลับไป เพื่อแบงปนโชคดีของเรา

เรื่องของจําเปนและไมจําเปนในถุง เนี่ย

ประสบการณที่ผานมาพบวา ถุงของบางองคกรมีตนทุนถึง 500 บาท และในถุงนั้นมีของที่ไมไดใชในภาวะฉุกเฉินจากนั้นทวม คือ

มี แปรงสีฟน ยาสีฟน สบู ขันน้ํา รองเทาแตะชางดาว ฯลฯ ก็ไมใชวามนัจะใชไมไดคือการใหมันก็ดี เพิ่งแต ถาเอามูลคาของของที่วานี่มารวมกัน(เอาแบบของธรรมดาราคาถูกแบบปกติแลว นะ)จะพบวา

แปรงสีฟน 20 บาท

ยาสีฟน 40 บาท

สบู 20 บาท

ขันน้ํา 20 บาท

รองเทาแตะชางดาว 60 บาท

ทั้งหมดรวมเปนเงิน 160 บาท

เงิน 160 บาท เนี่ย สําหรับภาวะปกติ ก็ถือวาไมมาก แตถามาลองคิดดูวา เงิน 160 เนี่ย

ซื้อขาวสารถุงละ 5 กิโล ซึ่งมันถุงละ 80 ไดตั้ง 2 ถุง ก็ผูประสบภัยเองก็ซาบซึ้งใจในความหวังด ี

บทเรียนจากน้าํ นํ้า : ตอนที่ 2 การจัดถุงยังชีพ

เร่ืองของน้ําใจท่ีตองใชสมองเยอะ

เพียงแตถา 160 บาทนี้จะซื้อขาวสารไปใหบานที่ยังไมมีใครเขาไปถึง

เพียงแตถาเงิน 160 บาท จะไปซือ้โทนาฟ สัก 3 หลอด ซื้อพาราสัก 3 แผง

เงินนั้นจะมคีุณคามากๆ

คนใหก็เต็มใจให คนรับกเ็ต็มใจรับนะ ไมปฏิเสธเลย

เพียงแตในใจแอบคิดวา เอารองเทาแตะกับยาสีฟนอะ ไปแลกผาอนามัยไดปะ

หรือเอาเกิบแตะเนี่ยไปแลกมามาไดมั้ย สัก 4 หอก็ยังดี

เออจะวาไปในถุงยังชีพเนี่ย ใสโจกซองแบบเทน้าํรอน

ปนแทนมามามาก็ได เพราะลูกเล็กเนี่ย กินโจกได

(สวนตัวผูเขียนแคอยากจะบอกเล็กๆ วา เพราะงานนี้มันเปนน้ําทวม ไมใชสึนามิทีน่้ําซัดไปทั้งหมดไง

สบู ยาสีฟน รองเทามันยังอยู หนวยงานที่จัดใหตองมีการปรับตัว เรื่องการจัดการความรู

อยายึดติดการประสบการณที่เคยมี จนมองไมเห็นความจําเปนที่แทจริงในหนางาน

เพราะวาชาวบานตองการกินขาว ไมไดตองการกินยาสีฟน ชวยเอาเงินที่เคาชวยกันบริจาค

ดวยความศรัทธาและความเชื่อมั่นวา คุณจะชวยชาวบานไดมีประสิทธิภาพที่สุด

ไปใชใหเกิดประสิทธิภาพที่สุดดวยเถิด)

นอกจากปญหาการเดินทางที่ขาดเรือ และ เดินทางดวยเรือไดทางเดียวเทานั้น

เรายังเจอปญหาเรื่องการจัดการของบริจาควา ถาไมมีแกนนาํ อาสาสมัครหรือ ผูนําชมุชนออกมารบัของ

"คนในหมูบาน ก็จะไมไดรับของบริจาค"

ก็อยางที่บอก เพราะวาไมมีคนมาขนไปนั่นแหละ

และเนื่องจากชุมชนจะอยูลึกเขาไปจากถนนคันคลองเสนหลัก ที่ตองขามสะพานมาอีกที การจะเขาออกมนัก็ยาก

หนาเขานูนยังมีอีกหมูบานนึง

บทเรียนจากน้ํา น้ํา : ตอนที่ 3 : อยากบริจาคอะไปไหนดี

เลยสะพานนี่ไปนูนนนน ลิบๆ ก็ยังมีอีกหมูบานนึง

และที่เห็นแคหอประปานี่ยังเรียกวาชุมชนทีอ่ยูใกลถนนนะ

และอยางที่รูเวลาของบริจาคมาลงในชุมชน ของมันมาพอครบจํานวนกบัคนทั้งตําบลในครั้งเดียวซะเมื่อไร ทีนี้ผูใหญบานไหนไมอยูตอนของมาลงก็ขามไป ผูใหญบานไหนอยูตรงศูนยรับนั่นก็ไดไป

ที่จริงมันก็ไมใชความผดิของผูใหญที่อยู หรือ คนที่ไมอยูรอรับของ

เพราะในขณะนั้น ใครจะยอมใหลูกตัว ลูกบานตัวอดโซ

ชีวิต มันตองเจอปญหาทั้งในบานและหนาบาน ไหนน้ําจะทวมของ ไหนจะกลัวของหาย ไหนจะตอนววัข้ึนที่สูง ไหนจะคอยคุมเด็กที่บานไมใหเลนน้ําเนากันจนเปอย

แลวจะแยกรางที่ไหนมารับงานทั้งสองหนางานได

แคคิดก็เหนื่อยแทน

สิ่งเหลานี้ ปญหายังกอใหเกิดความขัดแยงระหวางหมูบาน

การไดของไมเทากัน มนัมีทั้งไดไมครบทุกบาน

และถึงไดครบทุกบาน พอบานอื่นมาเห็นอีกหมูบาน

ไดถุงยังชีพที่มีตนทุนสูงกวา อีกบานก็เคืองกันอกี

ผูใหญแกบางทานดวยการตัดปญหา (ตัดใจ) ปลอยไป ไมเขาไปวุนวายหัวใจ จายของตอไปตามทะเบียนบานใหครบ วาไป..

แลวเราจะชวยใหเขาลดปญหาพวกนี้ไดยังไง

อืม ไมควรไปแจกตรง?

ผูบริจาคควรเอาของไวที่กองกลาง (เตนทตรงตนีสะพานหรอืทางเขาหมูบานนั่นแหละ) เพื่อใหแกนนําหรือตัวแทน รับไปจดัการจายของใหเทาเทียมกัน (จงเชื่อใจและไวใจ แมวาจะไมคอยเขาใจก็ตาม)

คือ ถาทีมคณุมีของมากพอสําหรับหนึ่งหมูบาน (300 ชุด ข้ึนไป) ก็วากัน

แตถาคุณมีไมถึง แลวคณุแจกบานนี้ๆ บานโนน บานนั่น แลว อาว บานตอไปหมดพอด ี

เปนบานเรา เราก็นอยใจนะวา ไมวะ ทําไม ไมถึงบานเรา ฝนตกไมทั่วฟาอีกแลวต ู

จะโทษเทวดาองคไหนดี

ที่จริง หลังจากนี้เราวา เราควรจะสรางวัฒนธรรมการบริจาคใหมีแบบแผน คือ สะทอนบทเรียนใหผูบริจาคเขาใจปญหาที่มันตามมาอะนะ

ในขณะเดียวกัน ชมุชนเองก็ตองมีระบบกองกลางที่ซื่อตรง ทําหนาที่รับมือสําหรับคนที่ไมรูจะไปบรจิาคปลายทางที่ไหน ที่จะรับเอาของมาลงที่สวนกลาง

แลวก็ชวยกันคัดแยก จัดการของบรจิาคของตวัเองใหเทาเทียมกันตอไป

ชวยคํานวนให (อีกละ)

ถา จะบริจาคลงพื้นที่เลยตองคิดวาจะใหในระดับใด เพื่อที่จะใหกระจายไปไดถวนทั่วและถึงเร็ว เพราะผูใหญบานจะตองแจกของใหชาวบานไดเทากันและไดพรอมกนั ดังนั้นคํานวณใหฟง หนึ่งหมูบาน (ขนาดกลาง)

จะมจีํานวนครอบครัว ประมาณ 300- 400 ครัวเรือน นี่แปลวา ของประมาณ 400 ชุด จะใหคนไดประมาณ 1 หมูบาน เพื่อลดความปวดกบาลของแกนนําชุมชน และลดการจัดการ เราควรจะจัดของเปนชุดใหเรียบรอย (ขาวสาร มามา ปลากระปอง ใสถุงมัดจัดใหเสร็จสําหรับหนึ่งครอบครัวใหพอ ) แลวนําไปบริจาคที่ผุใหญบานหรือแกนนําทีละหมูไปเลย หรือถามีสายปานใหญกวานั้นกบ็ริจาคใหระดับตําบลไปเลย

หนึ่ง ตําบลจะมีประมาณ 7-12 หมูบาน ประชากรก็ 2,000 คน โดยประมาณออ แตเช็คกอนก็ดีกวา ตําบลนี้โดนน้ําทวมกี่หมู เดี๋ยวจะระดมไปเกอ

เอ แตถาเกอก็ไมเปนไร ขนไปใหตําบลอื่นตอไปก็ได

ถามีรถบรรทุกก็ขนมาลงที่เต็นทประจําตําบลแลวแจงกํานัน ผุใหญ หรือแกนนําชุมชนใหประกาศเสียงตามสายเรียกลูกบานมารับไดเลย

...จัดไป......................

แทบทุกหมูบานที่บานหมี่ จะมีเตนท (ยืมวัดมา)มาตั้งเพื่อประสานความชวยเหลือ และรับของบริจาคแบบนี้แหละ

เขาไปในเกือบทุกชมุชน เราก็จะไดพบชมุชนบาน waterworld แบบนีแ้หละ เออ ไปๆ มาๆ คนที่มาแถวนี้เคาเรียกฝงที่น้ําทวมวา waterworld กันจนเปนคําธรรมดาไปหมดแลว

สมตํา ขาวเหนียว ไขเจียวภาพนี้ ขโมยมาจากอัลบั้มของเอก กระจกเงา ตองขอขอบคุณไว ณ ที่นี้ แมสมตําจานนี้จะไมไดกินในหองหรู แตขอบอกวา อรอยน้ําใจ ของแมบานผูประสบภัยที่ตําใหกินอยางเหลือประมาณ (ขนาดปกติไมกินปลาราอะ ยังสอยกินอยางเอร็ด)

น้ําทวมงวดนี้ แนนอนวา ไมใชเรื่องที่ภาครัฐจะจัดการแตเพียงฝายเดียว แตก็ไมใชวาจะโทษเทวดาแตฝายเดียวก็ตองรับมือดวยกันทุกฝาย ทั้งชาวบาน พ่ีมารค และเทวดา

เขาเรื่อง

เมื่อคืนกอน เพื่อนถามวา

บทเรียนจากน้าํ นํ้า ตอนที่ 4 : ก็อยากทํากับขาวเองเหมือนกัน

แตครัวมันอยูใตนํ้า เลยตองทําโรงครัวหมูบาน

"การที่เราเขาไปใหของหรือชวยทําโรงครัวชุมชนแบบที่ทํามานี่ มันถือเปนการแทรกแซงรึเปลา(วะ)"

เราตอบวา"ที่จริงแลว ระบบหรือแบบแผนที่มีเนี่ยมันก็ถูกของมันนะ แตเมื่อสภาพความเปนจริงมันเกินคาด

เราวา เราก็จําเปนจะตองเขาไปทําในสวนที่มันนอกเหนือจากที่คาดไว (วะ) คะ "

ขอเลาภาพการจัดการของที่บานใหฟงวา

ที่อําเภอจะมีศูนยรับบริจาค ที่ทางอําเภอและกิ่งกาชาดประจําอําเภอ เปนผูบริหารจัดการ

พอของบริจาคมา ของก็จะมาลงที่นี่ พอขาวกลองเสร็จ คนก็จะมาเอาจากที่นี่โดยจะจายของไปเมื่อผูนําชุมชน ไดแก อบต. หรือ กํานนั หรือ ผูใหญบานแจงความตองการของบริจาคและความชวยเหลือมารับเอาไป

แนนอนวา ของนะพอ

แตการจัดการไมมีวันพอ เพราะปญหามันไมมีวันหยุด เสาร - อาทิตย เหมือนคนทํางาน

ก็เหตุการณมันใหญและกวางเกินที่มือของคนใหญที่อยูขางนอกจะไปควาไวถึง

ดังนั้นใครที่อยูใกลมือ หรือ อยูในชุมชนเองพวกเขานั่นแหละที่จะตองจัดการ ชวยตัวเองกอนและการที่เราไปสนับสนุนใหเขาชวยตัวเองได มันก็เปนการหนุนเสริมที่ถูกตอง

ไมเห็นจะผิดตรงไหน

หรือถาจะเรียกวา เปนการแทรกแซง ก็เปนการแทรกแซงที่บริสุทธิ์ใจ เพื่อมนุษยธรรมอยางศูนยขาวกลอง หรือ โรงครัวชมุชน ที่เราไปชวยชาวบานตั้งเนี่ย

มีคําถามวาเปนการแทรกแซงชุมชน หรือ แทรกแซงการจัดการของภาครัฐมั้ย เราก็ตองมองยอนปญหากลับที่ดู วา ชาวบานเองอยากทํากับขาวเองเหมือนกัน แตครัวมันอยูใตน้ํา แลวจะใหทําไงเตาก็อยูใตน้ํา แกสก็จม ถานก็เปยก ทางออกที่ทําไดคือ ไปใชครัวที่วัด เพราะที่วัดมีหมอพรอม มีเตาพรอม มีถานพรอม มจีานพรอม ชอนพรอม พอที่จะรองรับคนจํานวนมากกกกกก ไดอยูแลว

ยอดเลย

ที่นี่แหละทําโรงครัวหมูบานไดเลย เพราะความจําเปนแรกในชีวิตก็คือ การมีขาวกินนี่แหละ มีขาวกิน มีเพื่อนที่มารวมตัวกัน ชวยกนัคิดหาทางที่จะลงแรง แกปญหากันตอไปนี่แหละเราพบวา มันเปนการตอบโจทยย้ํา วาความตองการขอความชวยเหลืออันดับแรกๆ ตองเปนเรื่องอะไร

\

เรื่องที่จะเลาตอไปนี้ ถาไมทิ้งชวงเวลาไวสักพัก ก็คงจะนึกไมออก มองไมเห็นวาที่จริงมันก็เปนปญหา

มันเริ่มมาจากตั้งแต 15- 18 ตุลาคมทีผ่านมา บานที่ อ.บานหมี่ จ.ลพบุรี เจอฝนตกหนักตอกนั 3 วันติด ฟามันปดซะจนเรานึกวาจานดาวเทียมเสีย พอก็บนวา เถาวมันเทศของแมแก มันไปพันจานแดงของพอ (ในขณะที่จานเหลืองของแมไมยักกะมีปญหาสักเทาไร) เราดูภาพถายดาวเทียมก็เห็นแลวแหละ วาเมฆมันหนาซะขนาดนั้นสัญญาณมันจะผานลงมาหาจานแกไดยังไง แลวฉันก็หนีกลับไปกรุงเทพ พรอมกบัขาวที่วิ่งตามมาวา น้ําทวมที่จังหวัดซึ่งอยูตนน้ําและทวมอําเภอเราเกิดดวย

ปนี้แลงนาน แตพอฝนมา ฝนก็ลงซะแรงเลย ชาวบานไมมีใครคิดวาเมฆกอนนั้น มันจะทําให บานเราแบงเปนฝงแหงและฝง waterworld ครึง่ๆกันไดขนาดนี้ ฉันกลับบานอีกครั้งใน 2 วันถัดมา ซึ่งเปนวันที่น้าํเขาสูงสุดจนถนนถูกปด เพราะน้ําเชี่ยวเซาะเอาคอสะพานทรุด ทีมเพื่อน 2 ทีม ที่มาดวย ไดทําใหฉันเกิดจุดเปล่ียนทางความคิด ทีมแรกซึ่งเปนทีม survey และกูวิกฤตชวีิตในชวง 1-3 วันแรก อันนี้ขอขามไปกอน ทีมที่ทําใหฉันตองเขียนบทความนี ้คือ ทีมที่สองซึ่งเปนทีมกูวิกฤตอาหาร (Food crisis) ในชวง 3-7 วันถัดมา การกลับบานในมุมมองใหมครั้งนี้ ทําใหฉันไดเห็นทั้งเรื่องดีและเรื่องที่เปนดาบสองคมในบานของฉันเอง มีหมูบานสองหมูบานที่ฉันและทีมเพือ่นเอาถุงยังชีพไปลงในชุมชน ทั้งสองหมูบานเหมือนกันตรงที่มอีาชีพหลัก คือ ทํานา และอยูไกลถนนใหญ

เร่ืองเลาทิ้งทาย น้ําทวมงวดนี้จะสปอยลจนหนูเสียนิสัย หรือ จะสอนใหหนูลงมือเอง

หมูบานแรก ฉันกาวเขาไปผานสายสัมพันธของนาซึ่งเปนพี่เล้ียงสมัยเด็กๆ หมูบานที่สอง ฉันและเพื่อนกาวเขาไปผานขอความรองขอความชวยเหลือ จากนองคนหนึ่งซึ่งก็ไมรูจักกันมากอนได Facebook และโทรศัพทที่รองขอใหมา (แลวก็ไดรูตอนตัววา นองเคาเปนรุนนองที่จบมัธยมโรงเรียนเดียวกับเรา) เมื่อกาวลงไปถึงก็พบวา หมูบานที่สองมีทีมแมบานที่ตั้งโรงครัวชุมชนตัง้แตวันแรก มีทีมพอบานที่จัดระบบของบริจาคและระดมแจกจายไดเพียงพอตอสมาชิกในชุมชน วางายๆคือ มีการจัดการตนเองไดอยางดี ในขณะที่หมูบานแรก พอข้ึนไปบนศาลาวัดก็เห็นน้ําบริจาควางอยู 6 แพค และกวาจะเริ่มตั้งโรงครวัชุมชนได กวาจะมรีะบบจัดการของบริจาค ทั้งหมูบานก็โดนน้ําขังปาเขาไป 5 วันแลว สิ่งที่ทําให 2 หมูบานตางกันออกไปก็คือ ผูนําทีม่ีอยูในชุมชน สาเหตุที่หมูบานแรก มนี้ําบริจาควางอยูแค 6 แพค นั่นเพราะ ผูใหญบานของเขาไมไดอาศัยอยูในชุมชน จึงไมสะดวกที่จะเขามาทํางานใหกับชุมชน และตัวลูกบานเองก็มีแตผูหญิงกับเด็กที่มีภาระในบาน เลยขยับอะไรไมไดมากนัก สวนอีกหมูบานนั้นไมรูวาเชิงลึกนั้นผูใหญบานเขามีบทบาทมากนอยแคไหน แตเทาที่เห็น ลูกบานที่นี่เขาฟตกันทั้งทีม ทํางานเขาขากันเปนอยางดี ในภาวะที่การคมนาคมทางกายภาพถูกตัดขาด พวกเขาใชชองทางใดสื่อสารใหโลกภายนอกไดยินเสียงรองขอความชวยเหลือ หมูบานแรก นาใช Social Capital (ทุนทางสังคม) ดึงสัมพันธระหวางคนรูจัก ที่อยูในอําเภอเดียวกันฝงที่แหง มาชวยฝงที่เปยก หมูบานที่สอง มี gen Y ที่ใช Social Network เรียกคนที่ไมเคยรูจัก ใหเขามารูจักและมาชวยหมูบานของตัวเอง ตอนนี้หมูบานที่เปนหวงไมใชหมูบานแรก ฉันกลับเปนหวงหมูบานที่สองมากกวา แมวาทั้งพอบานและแมบานที่นี่จะเขาฟตและทาํงานเขาขากันเปนอยางดี แตไมรูวา gen Y รุนถัดมา จะสปอยลไปแคไหนแลวไมรู เพราะ พฤตกิรรมบน Social Network กับน้ําทวมในครั้งนี ้

มันมีจุดที่นาสังเกตอยูวา คนที่ตะโกนดังสุด คนที่ TWIT ถี่สุด คนที่ Tag เคาเยอะสุด คนโพส Facebook แรงสุด คนนัน้จะไดความชวยเหลือเขาไปเยอะสุด มันนาตกใจตรงที่วา "เฮย นี่เรากําลังโหวต AF หรือชวยน้ําทวมกันวะเนี่ย" เอา แลวหมูบานที่โดนตัดไฟ โทรศัพทหาย ไมมีอินเตอรเนท ไมมี BB ใชนี่จะทําไงกันวะเนี่ย แลวคิดยังไง ถึงไดเรียกคนที่ไมรูจักเขามาในบานกันเต็มไปหมดเลย ทําไมตอง Twit กันไปขอขาวจากกรงุเทพ ทั้งๆที่รุนพี่ของเราในสมาคมศิษยเกาก็มีทั้งเจาของโรงสีและสมาชิกหอการคาสารพัด ทั้งๆที่ เรามีเพื่อน มีพี่นอง มญีาติบานใกลในฝงที่ไมโดนน้ําทวมกันอยูตัง้มากตั้งมาย เรากลับลืมที่จะใชทุนทางสังคมเหลานี้ ในขณะเดียวกัน เราวา ผูที่มีทุนทางสังคมเหลานี้ก็อาจจะถกูสปอยลไปแลวดวยไมตางกัน ก็เพราะมีเรือ่งน้ําทวมขึน้มา ขาวของทั้งของหลวงและของราษฏร นานาคันรถ ก็ตางขนกันเขามาเสียจนเถาแกกงสีที่อีกบานแทบไมตองปนอะไรไป จนเดี๋ยวนี้ เวลามีชาวบานมาบอกวา โดนน้ําทวมอยูตรงไหน ขาดอะไร คนแถวบานเราซึ่งไมเปยกก็บอกวา "แลวจะบอกตอๆไปใหนะ" เราก็ เอา เฮย ไมใชตองชวยลงแรง เอาขาวไปสง ไปลงของใหหรอกเหรอ ทั้งหมดนี้ไมไดจะบอกวา การใหของจากกรุงเทพมันไมดีนะ การแบงปนโชคดีของเราจากฝงที่น้ําไมทวม ไปให เพื่อน พอ แม พี่ นอง ที่แบงรบัแบงสูกันอยูขางหนามันดีอยูแลว เพียงแตอยากเรียกรองบางอะไรบางวา อยาสปอยหนู และที่เลามานี่ เราแคกําลังเตือนคนรุนเราวา อยาลืมวานอกจากเราตองดูแลตัวเราเองแลว คนที่มีสัมพนัธในสังคมใกลบานเราก็ยังมีอยูนะ เขาเองมีกําลังที่จะชวยเราไมตางกัน และคนใกลบานก็ตองไมลืมนะ วาบานนั้นกับเราก็อยูใกลกันแคนี้เอง ความชวยเหลือจากเรามันไมไกล ไปไดไวและยังไดใจวาเราชวยกัน