แผนการจัดการเรียนรู ที่ 1 ความหมายของอวัยวะและอวัยวะภายนอก ... · สื่อการเรียนรู
แผนการจัดการเรียนรู ที่ หน วย ... · 2019. 11....
Transcript of แผนการจัดการเรียนรู ที่ หน วย ... · 2019. 11....
1
แผนการจัดการเรียนรูที่ - หนวยท่ี - (ครั้งท่ี -)
รายวิชา พลศึกษาเพ่ือพัฒนาสุขภาพ(รหัส 2000-1601) เวลาเรียนรวม 36 คาบ
ช่ือหนวย หนวยท่ี 1-10 สอนครั้งท่ี - /18
สาระสําคัญ
การเริ่มตนในการเรียน รายวิชา พลศึกษาเพ่ือพัฒนาสุขภาพ(รหัส 2000-1601)กอนเรียนนักเรียนตอง
ทราบแนวทางในการเรียนรู ท้ังนี้เพ่ือใหนักเรียนไดเรียนรูรายวิชานี้อยางมีความสุข ซ่ึงรายวิชานี้เปนรายวิชาท่ี
มีเนื้อหาเปนภาคปฏิบัติ ดังนั้นการเรียนจึงตองมีขอตกลงกัน เพ่ือใหกระบวนการเรียนรูเปนไปดวยความราบรื่น
จุดประสงครายวิชา เพ่ือให
1. เขาใจหลักการเสริมสรางสมรรถภาพทางกายเพ่ือความพรอมในการประกอบอาชีพ
2. สามารถเสริมสรางสมรรถภาพทางกายตามหลักการบริโภคอาหารและโภชนาการ หลักการ ออก
กําลังกายและหลักการดูและเลนกีฬาไทย/กีฬาสากล
3. มีเจตคติและกิจนิสัยท่ีดีในการเสริมสรางสมรรถภาพทางกายดวยความมีวินัย มีน้ําใจนักกีฬา
ความสามัคคี เคารพกฎกติกาและมีมารยาท
สมรรถนะรายวิชา
1. แสดงความรูเก่ียวกับหลักการเสริมสรางสมรรถภาพทางกาย หลักการบริโภคอาหารและโภชนาการ
หลักการออกกําลังและหลักการดูและเลนกีฬา
2. บริโภคอาหารตามหลักโภชนาการเพ่ือเสริมสรางสมรรถภาพทางกาย
3. ออกกําลังเพ่ือพัฒนาบุคลิกภาพและสมรรถภาพตามหลักการและกระบวนการ
4. ดูและเลนกีฬาไทย/ กีฬาสากล ตามกฎ กติกา มารยาท
5. ใชคาดัชนีมวลกายวางแผนปรับปรุงบุคลิกภาพและสุขภาพ
6. ปฏิบัติโครงงานเก่ียวกับสุขภาพและกีฬา
คําอธิบายรายวิชา
ปฏิบัติเก่ียวกับ หลักการเสริมสรางสมรรถภาพทางกาย อาหารและโภชนาการท่ีเสริมสรางสมรรถภาพ
ทางกาย การทดสอบสมรรถภาพทางกาย การหาคาดัชนีมวลกาย หลักการและรูปแบบการออกกําลังกายดวย
กีฬาไทย / กีฬาสากล มีวินัย มีน้ําใจนักกีฬา เคารพกฎกติกา มีมารยาทในการดูและเลนกีฬา เลือกและ
ปฏิบัติการออกกําลังกายอยางเหมาะสม มีความสุขภายใตหลักความพอเพียง พรอมท่ีจะประกอบอาชีพไดอยาง
มีประสิทธิภาพ
2
สอนครั้งท่ี -/18
1. ข้ันการนําเขาสูบทเรียน
1.1 ครูกลาวถึงรูปแบบการเรียนการสอน รายวิชา พลศึกษาเพ่ือพัฒนาสุขภาพ
(รหัส 2000-1601) โดยบอกถึงรูปแบบการเรียนท้ังในหองเรียนและนอกหองเรียน โดย
การใชหนังสือเรียน รายวิชา พลศึกษาเพ่ือพัฒนาสุขภาพ(รหัส 2000-1601) เปนสื่อ
1.2 ครูกลาวถึงการนําคุณลักษณะอันพึงประสงค ตามแนวคานิยม 12 ประการ มาใชใน
กระบวนการเรียนการสอนโดยชี้แจงวาเปนสวนหนึ่งของการเรียน
1.3 ครูกลาวถึง แนวทางในการทดสอบในรายวิชานี้
2. ข้ันการสอน
2.1 ครูชี้แจงเรื่องแนวทางในการทดสอบในรายวิชานี้โดยกลาวถึงจุดประสงคในการทํา
ทดสอบฯดังกลาว
2.2 ครู แจงแนวทางในการทดสอบในรายวิชานี้โดยใหนักเรียนเลือกทักษะทางการพลศึกษา
มา 1 ชนิดในการเรียนครั้งสุดทาย โดยใหนักเรียนเปนผูเลือกทักษะการทดสอบเอง
2.3 นักเรียนบันทึกผลการตกลงกันในการเรียนรู
3. ข้ันสรุป
3.1 ครูกลาวถึงแนวทางในการทดสอบในรายวิชานี้ท่ีสําคัญเปนขอ ๆ
3.2 ครูเสริมแรง และเพ่ิมเติมและใหกําลังใจนักเรียนในการเรียนรูตลอดท้ังภาคเรียน
4. ข้ันวัด และประเมินผล
4.1 ครูสุมเลือกนักเรียนเพ่ือทดสอบขอตกลงท่ีมีรวมกันระหวางครูและนักเรียน
4.2 นักเรียนรวมวิพากษและแสดงความคิดเห็นโดยครูใหขอมูล
4.3 กอนหมดเวลา ครูกลาวถึงการเรียนรูในครั้งตอไป โดยเนนย้ําเรื่องชุดการแตงกาย
ในการเรียนรู รายวิชา พลศึกษาเพ่ือพัฒนาสุขภาพ(รหัส 2000-1601) นี้
สื่อการเรียนรู
1. เนื้อหาความรู ในหนังสือเรียน รายวิชา พลศึกษาเพ่ือพัฒนาสุขภาพ (รหัส 2000-1601)
2. แนวทางในการทดสอบในรายวิชานี้
การวัดผล และประเมินผล
เครื่องมือ และเกณฑการประเมิน
1. แนวทางในการทดสอบในรายวิชานี้
2. แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค ตามแนวคานิยม 12 ประการ
(การผานเกณฑ ผาน 10 ใน 12 ขอ)
3
บันทึกหลงัการสอน
1. ผลการใชแผนการจัดการเรียนรู
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
2. ผลการเรียนของนักเรียน/ผลการสอนของครู/ปญหาท่ีพบ
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
3. แนวทางการแกปญหา
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
ลงชื่อ...............................................
(.............................................)
ครูผูสอน
4
แบบประเมิน คุณลักษณะอันพึงประสงค
ตามแนวคานิยม 12 ประการ
ชื่อ…………………………………………………..ชั้น……………………เริ่มเวลา.......................เสร็จเวลา...............
คําช้ีแจง
แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค ตามแนวคานิยม 12 ประการ นี้ ใชประเมินคุณลักษณะอันพึง
ประสงคท้ัง 12 ประการ ไดแก
1. มีความรักชาติ ศาสน กษัตริย
2. มีความซ่ือสัตยสุจริต
3. กตัญูตอพอแมครูอาจารย
4. ใฝหาความรู หม่ันศึกษาเลาเรียน ท้ังทางตรงและทางออม
5. รักษาวัฒนธรรม ประเพณีไทย
6. มีศีลธรรม รักษาความสัตย
7. เขาใจ เรียนรูการเปนประชาธิปไตย
8. มีระเบียบ วินัย เคารพกฎหมาย ผูนอยรูจักเคารพผูใหญ
9. มีสติ รูตัว รูคิด รูทํา
10. รูจักดํารงตนอยูโดยใชหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
11. มีความเขมแข็งท้ังรางกาย และจิตใจไมยอมแพตออํานาจ ฝายต่ํา
12. คํานึงถึงผลประโยชนของสวนรวม และของชาติมากกวาผลประโยชนของตนเอง
โดยในแตละคุณลักษณะตามแนวคานิยม 12 ประการ จะประกอบไปดวยตัวชี้วัด และตัวชี้วัด
แตละตัว จะมีพฤติกรรมบงชี้ ท่ีจําแนกตามระดับคะแนน ดังนี้
3 หมายถึง มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับ ดี
2 เทากับ มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับ ปานกลาง
1 เทากับ มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับพอใช
0 เทากับ มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับ ตองปรับปรุง
5
คุณลักษณะอันพึงประสงคตาม
แนวคานิยม 12 ประการ และตัวชี้วัด
ระดับคุณภาพ
3 2 1 0
1. รักชาติ ศาสน กษัตริย ตัวชี้วัด เปนพลเมืองดีของชาติ ธํารงไวซึ่งความเปนไทย มีความศรัทธายึดมั่น
ปฏิบัติตนตามหลักของศาสนา และเคารพเทิดทูนสถาบนัพระมหากษัตริย
2. ซื่อสัตย สุจริต ตัวชี้วัด ประพฤติตนตรงตามความเปนจริงตอตนเอง และผูอ่ืนทัง้ทางกาย วาจา ใจ
3. กตัญูตอพอแมครูอาจารย ตัวชี้วัด เอาใจใส ดูแลชวยเหลือภารกิจ การงาน ปฏิบัตตินตามคาสัง่สอนที่ถูกตอง และเหมาะสม
4. ใฝหาความรู หม่ันศึกษาเลาเรียน ทั้งทางตรง และทางออม ตัวชี้วัด ตั้งใจเพียรพยายาม ในการเรียน และเขารวมกิจกรรม แสวงหาความรูจาก แหลงเรียนรูตางๆทั้งภายใน และภายนอกโรงเรียนดวยการเลือกใชสื่ออยางเหมาะสม สรุปเปนองคความรู สามารถนําไปใชในชีวิตประจําวันได
5. รักษาวัฒนธรรม ประเพณีไทย ตัวชี้วัด ภาคภูมิใจในขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปวฒันธรรมไทยและม ีความกตัญูกตเวทีเห็นคุณคา และใชภาษาไทยในการสื่อสารไดอยางถูกตองเหมาะสม และอนุรักษ สืบทอด ภูมิปญญาไทย
6. มีศีลธรรม รักษาความสัตย ตัวชี้วัด ปฏิบัติโดยยึดตามกติกา ขอตกลง/กฎ/ระเบียบของโรงเรียน
7. เขาใจ เรียนรูการเปนประชาธิปไตย ตัวชี้วัด เขารวมกิจกรรมเก่ียวกับประชาธิปไตย
8. มีระเบียบ วินัย เคารพกฎหมาย ผูนอยรูจักเคารพผูใหญ ตัวชี้วัด ตรงตอเวลา ปฏิบัติตามขอตกลง กฎเกณฑ ระเบียบ ขอบังคับ
ของครอบครัว โรงเรียนและสังคม
9. มีสติ รูตัว รูคิด รูทํา ตัวชี้วัด คิดดี พูดดี ทําดีสุภาพเรียบรอย ออนนอมถอมตนรอบคอบเหมาะสมกับวัย
10.รูจักดํารงตนอยูโดยใชหลักปรัชญาของเศรษฐกจิพอเพียง ตัวชี้วัด ดําเนินชีวิตอยางพอประมาณ มีเหตุผล รอบคอบ มีคุณธรรม รวมทั้งมีภูมิคุมกัน
ในตัวที่ดี ปรับตัวเพื่ออยูในสังคมไดอยางมีความสุข
11. มีความเขมแข็งทั้งรางกาย และจิตใจไมยอมแพตออํานาจ ฝายต่ํา ตัวชี้วัด รักษาสุขภาพรายกายตามสุขอนามัย ไมเก่ียวของกับอบายมุข
12. คํานึงถึงผลประโยชนของสวนรวม และของชาติมากกวาผลประโยชนของตนเอง ตัวชี้วัด มีจิตอาสา อุทิศตนเพื่อประโยชนตอสังคม และสวนรวม ทําประโยชนแกผูอ่ืน
คะแนนที่ได
คะแนนรวม
6
เกณฑ ผานตัวช้ีวัด
28-36 เทากับ ดี
19-27 เทากับ ปานกลาง
10-18 เทากับ พอใช
0-9 เทากับ ตองปรับปรุง
ผูประเมิน.............................................. (...............................................................)
ระดับคะแนนท่ีได
1
แผนการจัดการเรียนรูที่ 1 หนวยท่ี 1 (ครั้งท่ี 1)
รายวิชา พลศึกษาเพ่ือพัฒนาสุขภาพ(รหัส 2000-1601) เวลาเรียนรวม 36 คาบ
ช่ือหนวย หนวยท่ี 1 สมรรถภาพทางกายกับการออกกําลังกาย สอนครั้งท่ี 1 /18
สาระสําคัญ
การออกกําลังกายเปนกิจกรรมท่ีใชในการสรางสมรรถภาพทางกายใหมีความสมบูรณแข็งแรง
เพ่ือใหดํารงชีวิตและประกอบภารกิจประจําวัน ไดอยางมีความสุข ปจจัยและลักษณะของการสรางสมรรถภาพ
ทางกายเพ่ือสุขภาพและสมรรถภาพทางกลไก เปนแนวทางปฏิบัติเพ่ือนําไปสูการมีสุขภาพรางกายท่ีดี
สาระการเรียนรู
1. ความหมายของสมรรถภาพทางกาย
2. 0ความหมายของการออกกําลังกาย
3. ความสัมพันธกันระหวางสมรรถภาพทางกายกับการออกกําลังกาย
4. การเสริมสรางสมรรถภาพทางกาย
5. สมรรถภาพทางกายเพ่ือสุขภาพ
6. ปจจัยการออกกําลังกายเพ่ือพัฒนาสมรรถภาพทางกาย
7. ลักษณะการออกกําลังกายเพ่ือสงเสริมสมรรถภาพทางกายแบบตางๆ
8. กิจกรรมการพัฒนาสมรรถภาพทางกายเพ่ือสุขภาพ
9. กิจกรรมการพัฒนาสมรรถภาพทางกลไก
จุดประสงคเชิงพฤติกรรม
1. บอกความหมายของสมรรถภาพทางกาย ได
2. อธิบายการออกกําลังกายท่ีสามารถเพ่ิมสมรรถภาพทางกายเพ่ือสุขภาพไดถูกตอง
3. ระบุคาดัชนีกิจกรรมออกกําลังกาย ได
4. บอกลักษณะการออกกําลังกายได
5. บอกวิธีการควบคุมน้ําหนักตัวท่ีถูกตองตามหลักวิชาการได
6. บริหารรางกายขณะเรียนอยูในชั้นเรียนได
สมรรถนะประจําหนวย
1 แสดงความรูเก่ียวกับหลักการเสริมสรางสมรรถภาพทางกาย
2 ปฏิบัติกิจกรรมพัฒนาสมรรถภาพทางกายเพ่ือสุขภาพ
2
สอนครั้งท่ี 1/18
1. ข้ันการนําเขาสูบทเรียน
1.1 ครูกลาวถึงกระบวนการเรียนรูในรายวิชาพลศึกษาเพ่ือพัฒนาสุขภาพ (รหัส 2000-1601)
1.2 ครูกลาวถึง หนังสือเรียนท่ีใชเปนสื่อการเรียนการสอน และ กลาวถึงวิธีการเรียน การแตงกาย
1.3 ครูชี้แจง เรื่อง การประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค ตามแนวคานิยม 12 ประการ โดยแจง
ถึงผลท่ีนักเรียนจะไดรับ คือ เพ่ือใหนักเรียนเปนคนดี
1.4 ครูนําเขาสูบทเรียนโดยใชคําถามวา “สมรรถภาพทางกายกับการออกกําลังกายมี
ความสัมพันธกันอยางไร”
1.5 นักเรียนและครูรวมกันสนทนา เรื่อง สมรรถภาพทางกายกับการออกกําลังกาย
2. ข้ันการสอน
ในหองเรียน
2.1 นักเรียนทุกคนเปดหนังสือรายวิชาพลศึกษาเพ่ือพัฒนาสุขภาพ (รหัส 2000-1601)
2.2 ครูกลาวถึง ความหมายของคําวา “สมรรถภาพทางกาย” และ “การออกกําลังกาย”
โดยใชหนังสือ เปนสื่อในการเรียนรู
2.3 ครูบรรยายตอถึงความสัมพันธกันระหวางสมรรถภาพทางกายกับการออกกําลังกาย
2.4 นักเรียนรวมกลุมกัน 4 กลุม รวมกันศึกษา ประเด็นหัวขอ ดังนี้
กลุมท่ี 1 ประเด็นหัวขอ การเสริมสรางสมรรถภาพทางกาย
กลุมท่ี 2 ประเด็นหัวขอ สมรรถภาพทางกายเพ่ือสุขภาพ
กลุมท่ี 3 ประเด็นหัวขอ ปจจัยการออกกําลังกายเพ่ือพัฒนาสมรรถภาพทางกาย
กลุมท่ี 4 ประเด็นหัวขอ ลักษณะการออกกําลังกายเพ่ือสงเสริมสมรรถภาพทางกายแบบตางๆ
2.5 แตละกลุมนําเสนอสิ่งท่ีกลุมตนเองเรียนรู โดยครูใหขอมูลเพ่ิมเติม
2.6 นักเรียนบันทึกผลการเรียนรู
3. ข้ันสรุป
3.1 ครูและนักเรียนรวมกันสรุปเนื้อหา โดยใชหนังสือเรียนเปนสื่อ
3.2 ครูเสริมแรง และเพ่ิมเติมประเด็นท่ีขาดหาย เพ่ือเติมเต็มผลการเรียนรู
3.3 ครูสรุปภาพรวมท้ังหมดในเรื่อง หนวยท่ี 1 และ กลาวถึงการเรียนในครั้งตอไป
4. ข้ันวัด และประเมินผล
4.1 ครูสุมถามนักเรียนในประเด็นหัวขอท่ีเรียนรู
4.2 ครูกลาวถึงการเรียนรูในครั้งตอไป โดยใหนักเรียนเปลี่ยนชุดพลศึกษาตามขอตกลง
4.3 นักเรียนทําแบบทดสอบหลังเรียน หนวยการเรียนรูท่ี 1
4.4 ครูและนักเรียนรวมกันเฉลยแบบทดสอบหลังเรียน หนวยการเรียนรูท่ี 1
3
สื่อการเรียนรู
1. เนื้อหาความรู ในหนังสือวิชาพลศึกษาเพ่ือพัฒนาสุขภาพ (รหัส 2000-1601) หนวยท่ี 1
เรื่อง สมรรถภาพทางกายกับการออกกําลังกาย
2. แบบทดสอบหลังเรียนท่ี 1
การวัดผล และประเมินผล
เครื่องมือ และเกณฑการประเมิน
1. หนังสือวิชาพลศึกษาเพ่ือพัฒนาสุขภาพ (รหัส 2000-1601)
3. เฉลยแบบทดสอบหลังเรียนท่ี 1
4. แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค ตามแนวคานิยม 12 ประการ
(การผานเกณฑ ผาน 10 ใน 12 ขอ)
บันทึกหลงัการสอน
1. ผลการใชแผนการจัดการเรียนรู
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
2. ผลการเรียนของนักเรียน/ผลการสอนของครู/ปญหาท่ีพบ
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
3. แนวทางการแกปญหา
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
ลงชื่อ...............................................
(.............................................)
ครูผูสอน
4
แบบประเมิน คุณลักษณะอันพึงประสงค
ตามแนวคานิยม 12 ประการ
ชื่อ…………………………………………………..ชั้น……………………เริ่มเวลา.......................เสร็จเวลา...............
คําช้ีแจง
แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค ตามแนวคานิยม 12 ประการ นี้ ใชประเมินคุณลักษณะอันพึง
ประสงคท้ัง 12 ประการ ไดแก
1. มีความรักชาติ ศาสน กษัตริย
2. มีความซ่ือสัตยสุจริต
3. กตัญูตอพอแมครูอาจารย
4. ใฝหาความรู หม่ันศึกษาเลาเรียน ท้ังทางตรงและทางออม
5. รักษาวัฒนธรรม ประเพณีไทย
6. มีศีลธรรม รักษาความสัตย
7. เขาใจ เรียนรูการเปนประชาธิปไตย
8. มีระเบียบ วินัย เคารพกฎหมาย ผูนอยรูจักเคารพผูใหญ
9. มีสติ รูตัว รูคิด รูทํา
10. รูจักดํารงตนอยูโดยใชหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
11. มีความเขมแข็งท้ังรางกาย และจิตใจไมยอมแพตออํานาจ ฝายต่ํา
12. คํานึงถึงผลประโยชนของสวนรวม และของชาติมากกวาผลประโยชนของตนเอง
โดยในแตละคุณลักษณะตามแนวคานิยม 12 ประการ จะประกอบไปดวยตัวชี้วัด และตัวชี้วัด
แตละตัว จะมีพฤติกรรมบงชี้ ท่ีจําแนกตามระดับคะแนน ดังนี้
3 หมายถึง มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับ ดี
2 เทากับ มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับ ปานกลาง
1 เทากับ มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับพอใช
0 เทากับ มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับ ตองปรับปรุง
5
คุณลักษณะอันพึงประสงคตาม
แนวคานิยม 12 ประการ และตัวชี้วัด
ระดับคุณภาพ
3 2 1 0
1. รักชาติ ศาสน กษัตริย ตัวชี้วัด เปนพลเมืองดีของชาติ ธํารงไวซึ่งความเปนไทย มีความศรัทธายึดมั่น
ปฏิบัติตนตามหลักของศาสนา และเคารพเทิดทูนสถาบนัพระมหากษัตริย
2. ซื่อสัตย สุจริต ตัวชี้วัด ประพฤติตนตรงตามความเปนจริงตอตนเอง และผูอ่ืนทัง้ทางกาย วาจา ใจ
3. กตัญูตอพอแมครูอาจารย ตัวชี้วัด เอาใจใส ดูแลชวยเหลือภารกิจ การงาน ปฏิบัตตินตามคาสัง่สอนที่ถูกตอง และเหมาะสม
4. ใฝหาความรู หม่ันศึกษาเลาเรียน ทั้งทางตรง และทางออม ตัวชี้วัด ตั้งใจเพียรพยายาม ในการเรียน และเขารวมกิจกรรม แสวงหาความรูจาก แหลงเรียนรูตางๆทั้งภายใน และภายนอกโรงเรียนดวยการเลือกใชสื่ออยางเหมาะสม สรุปเปนองคความรู สามารถนําไปใชในชีวิตประจําวันได
5. รักษาวัฒนธรรม ประเพณีไทย ตัวชี้วัด ภาคภูมิใจในขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปวฒันธรรมไทยและม ีความกตัญูกตเวทีเห็นคุณคา และใชภาษาไทยในการสื่อสารไดอยางถูกตองเหมาะสม และอนุรักษ สืบทอด ภูมิปญญาไทย
6. มีศีลธรรม รักษาความสัตย ตัวชี้วัด ปฏิบัติโดยยึดตามกติกา ขอตกลง/กฎ/ระเบียบของโรงเรียน
7. เขาใจ เรียนรูการเปนประชาธิปไตย ตัวชี้วัด เขารวมกิจกรรมเก่ียวกับประชาธิปไตย
8. มีระเบียบ วินัย เคารพกฎหมาย ผูนอยรูจักเคารพผูใหญ ตัวชี้วัด ตรงตอเวลา ปฏิบัติตามขอตกลง กฎเกณฑ ระเบียบ ขอบังคับ
ของครอบครัว โรงเรียนและสังคม
9. มีสติ รูตัว รูคิด รูทํา ตัวชี้วัด คิดดี พูดดี ทําดีสุภาพเรียบรอย ออนนอมถอมตนรอบคอบเหมาะสมกับวัย
10.รูจักดํารงตนอยูโดยใชหลักปรัชญาของเศรษฐกจิพอเพียง ตัวชี้วัด ดําเนินชีวิตอยางพอประมาณ มีเหตุผล รอบคอบ มีคุณธรรม รวมทั้งมีภูมิคุมกัน
ในตัวที่ดี ปรับตัวเพื่ออยูในสังคมไดอยางมีความสุข
11. มีความเขมแข็งทั้งรางกาย และจิตใจไมยอมแพตออํานาจ ฝายต่ํา ตัวชี้วัด รักษาสุขภาพรายกายตามสุขอนามัย ไมเก่ียวของกับอบายมุข
12. คํานึงถึงผลประโยชนของสวนรวม และของชาติมากกวาผลประโยชนของตนเอง ตัวชี้วัด มีจิตอาสา อุทิศตนเพื่อประโยชนตอสังคม และสวนรวม ทําประโยชนแกผูอ่ืน
คะแนนที่ได
คะแนนรวม
6
เกณฑ ผานตัวช้ีวัด
28-36 เทากับ ดี
19-27 เทากับ ปานกลาง
10-18 เทากับ พอใช
0-9 เทากับ ตองปรับปรุง
ผูประเมิน.............................................. (...............................................................)
ระดับคะแนนท่ีได
1
แผนการจัดการเรียนรูที่ 1 หนวยท่ี 1 (ครั้งท่ี 2)
รายวิชา พลศึกษาเพ่ือพัฒนาสุขภาพ(รหัส 2000-1601) เวลาเรียนรวม 36 คาบ
ช่ือหนวย หนวยท่ี 1 สมรรถภาพทางกายกับการออกกําลังกาย สอนครั้งท่ี 2 /18
สาระสําคัญ
การออกกําลังกายเปนกิจกรรมท่ีใชในการสรางสมรรถภาพทางกายใหมีความสมบูรณแข็งแรง
เพ่ือใหดํารงชีวิตและประกอบภารกิจประจําวัน ไดอยางมีความสุข ปจจัยและลักษณะของการสรางสมรรถภาพ
ทางกายเพ่ือสุขภาพและสมรรถภาพทางกลไก เปนแนวทางปฏิบัติเพ่ือนําไปสูการมีสุขภาพรางกายท่ีดี
สาระการเรียนรู
1. ความหมายของสมรรถภาพทางกาย
2. 0ความหมายของการออกกําลังกาย
3. ความสัมพันธกันระหวางสมรรถภาพทางกายกับการออกกําลังกาย
4. การเสริมสรางสมรรถภาพทางกาย
5. สมรรถภาพทางกายเพ่ือสุขภาพ
6. ปจจัยการออกกําลังกายเพ่ือพัฒนาสมรรถภาพทางกาย
7. ลักษณะการออกกําลังกายเพ่ือสงเสริมสมรรถภาพทางกายแบบตางๆ
8. กิจกรรมการพัฒนาสมรรถภาพทางกายเพ่ือสุขภาพ
9. กิจกรรมการพัฒนาสมรรถภาพทางกลไก
จุดประสงคเชิงพฤติกรรม
1. บอกความหมายของสมรรถภาพทางกาย ได
2. อธิบายการออกกําลังกายท่ีสามารถเพ่ิมสมรรถภาพทางกายเพ่ือสุขภาพไดถูกตอง
3. ระบุคาดัชนีกิจกรรมออกกําลังกาย ได
4. บอกลักษณะการออกกําลังกายได
5. บอกวิธีการควบคุมน้ําหนักตัวท่ีถูกตองตามหลักวิชาการได
6. บริหารรางกายขณะเรียนอยูในชั้นเรียนได
สมรรถนะประจําหนวย
1 แสดงความรูเก่ียวกับหลักการเสริมสรางสมรรถภาพทางกาย
2 ปฏิบัติกิจกรรมพัฒนาสมรรถภาพทางกายเพ่ือสุขภาพ
2
สอนครั้งท่ี 2/18
1. ข้ันการนําเขาสูบทเรียน
1.1 ครูและนักเรียนรวมกันทบทวนผลการเรียนรูในครั้งท่ีแลว
1.2 ครูเนนย้ําเรื่องการแตงกายท่ีใชในการปฏิบัติกิจกรรม และกลาวถึงการประเมินคุณลักษณะ
อันพึงประสงค ตามแนวคานิยม 12 ประการ โดยแจงถึงผลท่ีนักเรียนจะไดรับ คือ เพ่ือให
นักเรียนเปนคนดี
1.4 ครูนําเขาสูบทเรียนโดยกลาวถึงการออกกําลังกายโดยใชทากายบริหาร
1.5 นักเรียนและครูใชใบปฏิบัติกิจกรรมท่ี 1 เปนสื่อ
2. ข้ันการสอน
ในหองเรียน
2.1 ครูใหนักเรียนนั่งประจําท่ี โดยอธิบายใหทราบวา การออกกําลังกายสามารถทําไดทุกท่ี
ทุกเวลา สําหรับวันนี้ เราจะออกกําลังกายในหองเรียน
2.2 นักเรียนทุกคนเปดหนังสือวิชาพลศึกษาเพ่ือพัฒนาสุขภาพ (รหัส 2000-1601) ศึกษาจาก
ใบปฏิบัติกิจกรรมท่ี 1 และปฏิบัติทากายบริหาร โดยครูนําและนักเรียนปฏิบัติตาม ดังรูป
กายบริหารทาท่ี 1 นั่งเหยียดแขนประสานมือ
วิธีปฏิบัติ
1. เตรียมตัวในทานั่ง
2. ประสานมือแลวเหยียดไปขางหนา ยืดออกไปใหสุดแขน
3. ดันคางไว 10-20 วินาที ทํา 2ครั้ง
4. ผลท่ีไดจากการบริหารคือบริเวณกลามเนื้อหลังสวนบน
3
กายบริหารทาท่ี 2 ยืนเหยียดแขนประสานมือเหนือหัว
กายบริหารทาท่ี 3 นั่งยืดอกแอนตัวไปหลัง
วิธีปฏิบัติ
1. เตรียมตัวในทายืน
2. ประสานมือแลวยกเหนือหัว ยืดออกไปใหสุดแขน
3. ดันคางไว 10-20 วินาที ทํา 2ครั้ง
4. ผลท่ีไดจากการบริหารคือบริเวณกลามเนื้อหลังสวนบนและตนแขน
วิธีปฏิบัติ
1. เตรียมตัวในทานั่ง
2. ยืดอกข้ึนแอนตัวไปขางหลัง
3. ดันคางไว 20 วินาที ทํา 2 ครั้ง
4. ผลท่ีไดจากการบริหารคือบริเวณกลามเนื้อกลามเนื้อหลังสวนลาง และอก
4
กายบริหารทาท่ี 4 นั่งไขวหางมือยันเขา
กายบริหารทาท่ี 5 ยืนมือไขวหลังเอียงคอ
(ท่ีมา : http://www.girlsfriendclub.com/stretch/)
วิธีปฏิบัติ
1. เตรียมตัวในทานั่งไขวหาง ใชมือดันเขา
2. บิดตัวไปดานตรงขามท่ีไดมากท่ีสุด ขณะบิดตัว มือท่ีดันเขาก็ดันเพ่ิม
3. ดันคางไว 20 วินาที ทํา 2ครั้ง
4. ผลท่ีไดจากการบริหารคือบริเวณกลามเนื้อขางลําตัว และสะโพก
วิธีปฏิบัติ
1. เตรียมตัวในทายืน
2. เอามือไขวหลังจับขอมือไว กมหนาลงหลังจากนั้นเอียงคอไปดานขวาพรอมกับดึงมือ
ซายไปทางขวาตามรูป
3. คางไว 10 วินาที ทําขางละ 2ครั้ง
4. ผลท่ีไดจากการบริหารคือบริเวณกลามเนื้อคอ บา ไหล
5
3. ข้ันสรุป
3.1 ครูและนักเรียนรวมกันสรุปเนื้อหาทากายบริหารทาตางๆ ท้ัง 5 ทา
3.2 ครูเสริมแรง และชมเชยนักเรียนท่ีตั้งใจปฏิบัติ
3.3 ครูสรุปภาพรวมท้ังหมดในเรื่อง หนวยท่ี 1 และ กลาวถึงการเรียนในครั้งตอไป
3.4 ครูมอบหมายใหนักเรียนไปศึกษา เนื้อหาในหนวยท่ี 2 ลวงหนา เรื่อง การหาคาดัชนีมวลกาย
-ความหมายและความสําคัญของการทดสอบสมรรถภาพทางกาย
-ผลท่ีไดจากการทดสอบสมรรถภาพทางกาย
-ขอควรปฏิบัติในการทดสอบสมรรถภาพทางกาย
-ขอบขายของการทดสอบสมรรถภาพทางกาย
3.5 ครูแจงใหนักเรียนนําเสนอเนื้อหาท่ีมอบหมายในการเรียนครั้งตอไป โดยอธิบายใหนักเรียน
ทราบวา จะไดมีเวลาในการทดสอบสมรรถภาพทางกาย ในการเรียนครั้งตอไป
4. ข้ันวัด และประเมินผล
4.1 ครูสุมถามนักเรียนในประเด็นหัวขอท่ีเรียนรูเก่ียวกับเนื้อหาทากายบริหารทาตางๆ ท้ัง 5 ทา
4.2 ครูกลาวถึงการเรียนรูในครั้งตอไป โดยใหนักเรียนเปลี่ยนชุดพลศึกษาตามขอตกลง
สื่อการเรียนรู
1. เนื้อหาความรู ในหนังสือวิชาพลศึกษาเพ่ือพัฒนาสุขภาพ (รหัส 2000-1601) หนวยท่ี 1
เรื่อง สมรรถภาพทางกายกับการออกกําลังกาย
2. ใบปฏิบัติกิจกรรมท่ี 1
การวัดผล และประเมินผล
เครื่องมือ และเกณฑการประเมิน
1. หนังสือวิชาพลศึกษาเพ่ือพัฒนาสุขภาพ (รหัส 2000-1601)
2. แบบประเมินผลการปฏิบัติกิจกรรมท่ี 1
3. แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค ตามแนวคานิยม 12 ประการ
(การผานเกณฑ ผาน 10 ใน 12 ขอ)
6
บันทึกหลงัการสอน
1. ผลการใชแผนการจัดการเรียนรู
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
2. ผลการเรียนของนักเรียน/ผลการสอนของครู/ปญหาท่ีพบ
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
3. แนวทางการแกปญหา
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
ลงชื่อ...............................................
(.............................................)
ครูผูสอน
7
แบบประเมิน คุณลักษณะอันพึงประสงค
ตามแนวคานิยม 12 ประการ
ชื่อ…………………………………………………..ชั้น……………………เริ่มเวลา.......................เสร็จเวลา...............
คําช้ีแจง
แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค ตามแนวคานิยม 12 ประการ นี้ ใชประเมินคุณลักษณะอันพึง
ประสงคท้ัง 12 ประการ ไดแก
1. มีความรักชาติ ศาสน กษัตริย
2. มีความซ่ือสัตยสุจริต
3. กตัญูตอพอแมครูอาจารย
4. ใฝหาความรู หม่ันศึกษาเลาเรียน ท้ังทางตรงและทางออม
5. รักษาวัฒนธรรม ประเพณีไทย
6. มีศีลธรรม รักษาความสัตย
7. เขาใจ เรียนรูการเปนประชาธิปไตย
8. มีระเบียบ วินัย เคารพกฎหมาย ผูนอยรูจักเคารพผูใหญ
9. มีสติ รูตัว รูคิด รูทํา
10. รูจักดํารงตนอยูโดยใชหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
11. มีความเขมแข็งท้ังรางกาย และจิตใจไมยอมแพตออํานาจ ฝายต่ํา
12. คํานึงถึงผลประโยชนของสวนรวม และของชาติมากกวาผลประโยชนของตนเอง
โดยในแตละคุณลักษณะตามแนวคานิยม 12 ประการ จะประกอบไปดวยตัวชี้วัด และตัวชี้วัด
แตละตัว จะมีพฤติกรรมบงชี้ ท่ีจําแนกตามระดับคะแนน ดังนี้
3 หมายถึง มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับ ดี
8
2 เทากับ มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับ ปานกลาง
1 เทากับ มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับพอใช
0 เทากับ มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับ ตองปรับปรุง
คุณลักษณะอันพึงประสงคตาม
แนวคานิยม 12 ประการ และตัวชี้วัด
ระดับคุณภาพ
3 2 1 0
1. รักชาติ ศาสน กษัตริย ตัวชี้วัด เปนพลเมืองดีของชาติ ธํารงไวซึ่งความเปนไทย มีความศรัทธายึดมั่น
ปฏิบัติตนตามหลักของศาสนา และเคารพเทิดทูนสถาบนัพระมหากษัตริย
2. ซื่อสัตย สุจริต ตัวชี้วัด ประพฤติตนตรงตามความเปนจริงตอตนเอง และผูอ่ืนทัง้ทางกาย วาจา ใจ
3. กตัญูตอพอแมครูอาจารย ตัวชี้วัด เอาใจใส ดูแลชวยเหลือภารกิจ การงาน ปฏิบัตตินตามคาสัง่สอนที่ถูกตอง และเหมาะสม
4. ใฝหาความรู หม่ันศึกษาเลาเรียน ทั้งทางตรง และทางออม ตัวชี้วัด ตั้งใจเพียรพยายาม ในการเรียน และเขารวมกิจกรรม แสวงหาความรูจาก แหลงเรียนรูตางๆทั้งภายใน และภายนอกโรงเรียนดวยการเลือกใชสื่ออยางเหมาะสม สรุปเปนองคความรู สามารถนําไปใชในชีวิตประจําวันได
5. รักษาวัฒนธรรม ประเพณีไทย ตัวชี้วัด ภาคภูมิใจในขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปวฒันธรรมไทยและม ีความกตัญูกตเวทีเห็นคุณคา และใชภาษาไทยในการสื่อสารไดอยางถูกตองเหมาะสม และอนุรักษ สืบทอด ภูมิปญญาไทย
6. มีศีลธรรม รักษาความสัตย ตัวชี้วัด ปฏิบัติโดยยึดตามกติกา ขอตกลง/กฎ/ระเบียบของโรงเรียน
7. เขาใจ เรียนรูการเปนประชาธิปไตย ตัวชี้วัด เขารวมกิจกรรมเก่ียวกับประชาธิปไตย
8. มีระเบียบ วินัย เคารพกฎหมาย ผูนอยรูจักเคารพผูใหญ ตัวชี้วัด ตรงตอเวลา ปฏิบัติตามขอตกลง กฎเกณฑ ระเบียบ ขอบังคับ
ของครอบครัว โรงเรียนและสังคม
9. มีสติ รูตัว รูคิด รูทํา ตัวชี้วัด คิดดี พูดดี ทําดีสุภาพเรียบรอย ออนนอมถอมตนรอบคอบเหมาะสมกับวัย
10.รูจักดํารงตนอยูโดยใชหลักปรัชญาของเศรษฐกจิพอเพียง
9
ตัวชี้วัด ดําเนินชีวิตอยางพอประมาณ มีเหตุผล รอบคอบ มีคุณธรรม รวมทั้งมีภูมิคุมกันในตัวที่ดี ปรับตัวเพื่ออยูในสังคมไดอยางมีความสุข
11. มีความเขมแข็งทั้งรางกาย และจิตใจไมยอมแพตออํานาจ ฝายต่ํา ตัวชี้วัด รักษาสุขภาพรายกายตามสุขอนามัย ไมเก่ียวของกับอบายมุข
12. คํานึงถึงผลประโยชนของสวนรวม และของชาติมากกวาผลประโยชนของตนเอง ตัวชี้วัด มีจิตอาสา อุทิศตนเพื่อประโยชนตอสังคม และสวนรวม ทําประโยชนแกผูอ่ืน
คะแนนที่ได
คะแนนรวม
เกณฑ ผานตัวช้ีวัด
28-36 เทากับ ดี
19-27 เทากับ ปานกลาง
10-18 เทากับ พอใช
0-9 เทากับ ตองปรับปรุง
ผูประเมิน.............................................. (...............................................................)
ระดับคะแนนท่ีได
1
แผนการจัดการเรียนรูที่ 3 หนวยท่ี 2 (ครั้งท่ี 3)
รายวิชา พลศึกษาเพ่ือพัฒนาสุขภาพ(รหัส 2000-1601) เวลาเรียนรวม 36 คาบ
ช่ือหนวย หนวยท่ี 2 การทดสอบสมรรถภาพทางกายและการหาคาดัชนีมวลกาย สอนครั้งท่ี 3 /18
สาระสําคัญ
จุดมุงหมายของการทดสอบสมรรถภาพทางกายสําหรับบุคลท่ัวไปนั้น เพ่ือใหทราบความสมบูรณ
แข็งแรงของรางกายในการทํางานและการใชชีวิตประจําวัน เพ่ือเปนแนวทางการเลือกกิจกรรมการออกกําลัง
กายท่ีเหมาะสมใหกับตนเอง และพัฒนาขีดความสามารถใหสูงข้ึน ตลอดจนใชเปนเครื่องมือเพ่ือวัดสมรรถภาพ
ทางกายและหาขอบกพรองของนักกีฬาเพ่ือชวยเพ่ิมประสิทธิภาพในการแขงขันของนักกีฬา ในประเภทตาง ๆ
สาระการเรียนรู
1. ความหมายและความสําคัญของการทดสอบสมรรถภาพทางกาย
2. ผลท่ีไดจากการทดสอบสมรรถภาพทางกาย
3. ขอควรปฏิบัติในการทดสอบสมรรถภาพทางกาย
4. ขอบขายของการทดสอบสมรรถภาพทางกาย
5. แบบทดสอบสมรรถภาพทางกายมาตรฐานระหวางประเทศ
6. การหาคาดัชนีมวลกาย
จุดประสงคเชิงพฤติกรรม
1. บอกผลท่ีไดรับจากการทดสอบสมรรถภาพทางกายได
2. อธิบายจุดมุงหมายของการทดสอบสมรรถภาพทางกายได
3. ระบุขอบขายการทดสอบสมรรถภาพทางกลไกได
4. บอกปจจัยในการทดสอบโครงสรางของรางกาย ได
5. คํานวณหาคาดัชนีมวลกาย
6. ปฏิบัติการทดสอบสมรรถภาพทางกายมาตรฐานระหวางประเทศได
สมรรถนะประจําหนวย
1. ปฏิบัติการทดสอบสมรรถภาพทางกายมาตรฐานระหวางประเทศ
2. คํานวณหาคาดัชนีมวลกาย
2
สอนครั้งท่ี 3/18
1. ข้ันการนําเขาสูบทเรียน
1.1 ครูกลาวถึงงานท่ีมอบหมายใหศึกษาลวงหนา โดยครูเริ่มประเด็นท่ีการหาคาดัชนีมวลกาย
1.2 นักเรียนและครูรวมกันสนทนา คาดัชนีมวลกายโดยใชหนังสือเรียนเปนสื่อการเรียนการสอน
1.3 ครูเนนย้ํา เรื่อง การประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค ตามแนวคานิยม 12 ประการ
2. ข้ันการสอน
ในหองเรียน
2.1 ครูกลาวถึง การหาคาดัชนีมวลกาย โดยกลาวถึง ความหมายและวิธีการหาคาดัชนีมวลกาย
2.3 ครูบรรยายตอถึงความสัมพันธกันระหวางน้ําหนักและความสูงของตัวเอง
2.4 นักเรียนรวมกลุมกัน 4 กลุม รวมกันศึกษา ประเด็นหัวขอ ดังนี้
กลุมท่ี 1 ประเด็นหัวขอ ผลท่ีไดจากการทดสอบสมรรถภาพทางกาย
กลุมท่ี 2 ประเด็นหัวขอ ขอควรปฏิบัติในการทดสอบสมรรถภาพทางกาย
กลุมท่ี 3 ประเด็นหัวขอ ขอบขายของการทดสอบสมรรถภาพทางกาย
กลุมท่ี 4 ประเด็นหัวขอ แบบทดสอบสมรรถภาพทางกายมาตรฐานระหวางประเทศ
2.5 แตละกลุมนําเสนอสิ่งท่ีกลุมตนเองเรียนรู โดยครูใหขอมูลเพ่ิมเติม
2.6 นักเรียนบันทึกผลการเรียนรู
ในหองเรียน
2.7 นักเรียนลงสนามเพ่ือทดสอบสมรรถภาพทางกาย โดยครูใหนักเรียนจัดแถวเปนรูปครึ่งวงกลม
2.8 ครูขออาสาสมัครนักเรียนนําอบอุนรางกาย
2.9 ครูอธิบายและสาธิตแบบทดสอบสมรรถภาพทางกายแตละอยาง ดังนี้
1. วิ่งเร็ว 50 เมตร
2. ยืนกระโดดไกล
3. แรงบีบมือ
4. ลุก-นั่ง 30 วินาที
5. ก. ดึงขอ (ชายอายุ 12 ปข้ึนไป)
ข. งอแขนหอยตัว (ชายอายุต่ํากวา12 ปและหญิงทุกอายุ)
นักเรียน
ครู
3
6. วิ่งเก็บของ
7. ความออนตัว
8. วิ่งระยะไกล : ก.ชายอายุ 12 ปข้ึนไป ระยะ 1,000 เมตร
ข. หญิงอายุ 12 ปข้ึนไป ระยะ 800 เมตร
2.10 ครูเลือกนักเรียนท่ีอาสาสมัครในการเปนผูนําในการทดสอบ การยืนกระโดดไกล,แรงบีบมือ
และ ลุก-นั่ง 30 วินาที โดยแบงนักเรียนเปน 3 กลุมในการทดสอบ
กลุมการยืนกระโดดไกล กลุมแรงบีบมือ กลุม ลุก-นั่ง 30 วินาที
2.11 ครูคอยใหคําแนะนํานักเรียนในแตละกลุมในการทําแบบทดสอบสมรรภาพทางกาย
2.12 นักเรียนอาสาสมัครท่ีเปนผูนําในการทดสอบบันทึกผลการทดสอบแตละกลุม
2.13 นักเรียนเวียนกลุมฐานจนครบท้ัง 3 ฐาน หากไมครบใหทดสอบท่ีเหลือในการเรียนครั้งตอไป
3. ข้ันสรุป
3.1 เม่ือนักเรียนทดสอบจนครบท้ัง 3 ฐานแลว ครูเรียกนักเรียนรวม เพ่ือสรุป
3.2 ครูเสริมแรง และชมเชยอาสาสมัครท่ีเปนผูนํา และนักเรียนท่ีตั้งใจปฏิบัติ
3.3 ครูสรุปภาพรวมท้ังหมดในเรื่องการทดสอบการยืนกระโดดไกล,แรงบีบมือและ ลุก-นั่ง 30
วินาที และ กลาวถึงการเรียนในครั้งตอไป
4. ข้ันวัด และประเมินผล
4.1 ครูสุมถามนักเรียนในประเด็นหัวขอท่ีเรียนรู
4.2 ครูกลาวถึงการเรียนรูในครั้งตอไป โดยใหนักเรียนเปลี่ยนชุดพลศึกษาตามขอตกลง
สื่อการเรียนรู
1. เนื้อหาความรู ในหนังสือวิชาพลศึกษาเพ่ือพัฒนาสุขภาพ (รหัส 2000-1601) หนวยท่ี 2
เรื่อง สมรรถภาพทางกายกับการออกกําลังกาย
2. ใบปฏิบัติกิจกรรมท่ี 2 กิจกรรมปฏิบัติท่ี 1 และ 2
4
การวัดผล และประเมินผล
เครื่องมือ และเกณฑการประเมิน
1. หนังสือวิชาพลศึกษาเพ่ือพัฒนาสุขภาพ (รหัส 2000-1601)
2. แบบประเมินผลการปฏิบัติกิจกรรม
3. แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค ตามแนวคานิยม 12 ประการ
(การผานเกณฑ ผาน 10 ใน 12 ขอ)
บันทึกหลงัการสอน
1. ผลการใชแผนการจัดการเรียนรู
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
2. ผลการเรียนของนักเรียน/ผลการสอนของครู/ปญหาท่ีพบ
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
3. แนวทางการแกปญหา
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
ลงชื่อ...............................................
(.............................................)
ครูผูสอน
5
แบบประเมิน คุณลักษณะอันพึงประสงค
ตามแนวคานิยม 12 ประการ
ชื่อ…………………………………………………..ชั้น……………………เริ่มเวลา.......................เสร็จเวลา...............
คําช้ีแจง
แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค ตามแนวคานิยม 12 ประการ นี้ ใชประเมินคุณลักษณะอันพึง
ประสงคท้ัง 12 ประการ ไดแก
1. มีความรักชาติ ศาสน กษัตริย
2. มีความซ่ือสัตยสุจริต
3. กตัญูตอพอแมครูอาจารย
4. ใฝหาความรู หม่ันศึกษาเลาเรียน ท้ังทางตรงและทางออม
5. รักษาวัฒนธรรม ประเพณีไทย
6. มีศีลธรรม รักษาความสัตย
7. เขาใจ เรียนรูการเปนประชาธิปไตย
8. มีระเบียบ วินัย เคารพกฎหมาย ผูนอยรูจักเคารพผูใหญ
9. มีสติ รูตัว รูคิด รูทํา
10. รูจักดํารงตนอยูโดยใชหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
11. มีความเขมแข็งท้ังรางกาย และจิตใจไมยอมแพตออํานาจ ฝายต่ํา
12. คํานึงถึงผลประโยชนของสวนรวม และของชาติมากกวาผลประโยชนของตนเอง
โดยในแตละคุณลักษณะตามแนวคานิยม 12 ประการ จะประกอบไปดวยตัวชี้วัด และตัวชี้วัด
แตละตัว จะมีพฤติกรรมบงชี้ ท่ีจําแนกตามระดับคะแนน ดังนี้
3 หมายถึง มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับ ดี
2 เทากับ มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับ ปานกลาง
1 เทากับ มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับพอใช
0 เทากับ มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับ ตองปรับปรุง
6
คุณลักษณะอันพึงประสงคตาม
แนวคานิยม 12 ประการ และตัวชี้วัด
ระดับคุณภาพ
3 2 1 0
1. รักชาติ ศาสน กษัตริย ตัวชี้วัด เปนพลเมืองดีของชาติ ธํารงไวซึ่งความเปนไทย มีความศรัทธายึดมั่น
ปฏิบัติตนตามหลักของศาสนา และเคารพเทิดทูนสถาบนัพระมหากษัตริย
2. ซื่อสัตย สุจริต ตัวชี้วัด ประพฤติตนตรงตามความเปนจริงตอตนเอง และผูอ่ืนทัง้ทางกาย วาจา ใจ
3. กตัญูตอพอแมครูอาจารย ตัวชี้วัด เอาใจใส ดูแลชวยเหลือภารกิจ การงาน ปฏิบัตตินตามคาสัง่สอนที่ถูกตอง และเหมาะสม
4. ใฝหาความรู หม่ันศึกษาเลาเรียน ทั้งทางตรง และทางออม ตัวชี้วัด ตั้งใจเพียรพยายาม ในการเรียน และเขารวมกิจกรรม แสวงหาความรูจาก แหลงเรียนรูตางๆทั้งภายใน และภายนอกโรงเรียนดวยการเลือกใชสื่ออยางเหมาะสม สรุปเปนองคความรู สามารถนําไปใชในชีวิตประจําวันได
5. รักษาวัฒนธรรม ประเพณีไทย ตัวชี้วัด ภาคภูมิใจในขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปวฒันธรรมไทยและม ีความกตัญูกตเวทีเห็นคุณคา และใชภาษาไทยในการสื่อสารไดอยางถูกตองเหมาะสม และอนุรักษ สืบทอด ภูมิปญญาไทย
6. มีศีลธรรม รักษาความสัตย ตัวชี้วัด ปฏิบัติโดยยึดตามกติกา ขอตกลง/กฎ/ระเบียบของโรงเรียน
7. เขาใจ เรียนรูการเปนประชาธิปไตย ตัวชี้วัด เขารวมกิจกรรมเก่ียวกับประชาธิปไตย
8. มีระเบียบ วินัย เคารพกฎหมาย ผูนอยรูจักเคารพผูใหญ ตัวชี้วัด ตรงตอเวลา ปฏิบัติตามขอตกลง กฎเกณฑ ระเบียบ ขอบังคับ
ของครอบครัว โรงเรียนและสังคม
9. มีสติ รูตัว รูคิด รูทํา ตัวชี้วัด คิดดี พูดดี ทําดีสุภาพเรียบรอย ออนนอมถอมตนรอบคอบเหมาะสมกับวัย
10.รูจักดํารงตนอยูโดยใชหลักปรัชญาของเศรษฐกจิพอเพียง ตัวชี้วัด ดําเนินชีวิตอยางพอประมาณ มีเหตุผล รอบคอบ มีคุณธรรม รวมทั้งมีภูมิคุมกัน
ในตัวที่ดี ปรับตัวเพื่ออยูในสังคมไดอยางมีความสุข
11. มีความเขมแข็งทั้งรางกาย และจิตใจไมยอมแพตออํานาจ ฝายต่ํา ตัวชี้วัด รักษาสุขภาพรายกายตามสุขอนามัย ไมเก่ียวของกับอบายมุข
12. คํานึงถึงผลประโยชนของสวนรวม และของชาติมากกวาผลประโยชนของตนเอง ตัวชี้วัด มีจิตอาสา อุทิศตนเพื่อประโยชนตอสังคม และสวนรวม ทําประโยชนแกผูอ่ืน
คะแนนที่ได
คะแนนรวม
7
เกณฑ ผานตัวช้ีวัด
28-36 เทากับ ดี
19-27 เทากับ ปานกลาง
10-18 เทากับ พอใช
0-9 เทากับ ตองปรับปรุง
ผูประเมิน.............................................. (...............................................................)
ระดับคะแนนท่ีได
1
แผนการจัดการเรียนรูที่ 4 หนวยท่ี 2 (ครั้งท่ี 4)
รายวิชา พลศึกษาเพ่ือพัฒนาสุขภาพ(รหัส 2000-1601) เวลาเรียนรวม 36 คาบ
ช่ือหนวย หนวยท่ี 2 การทดสอบสมรรถภาพทางกายและการหาคาดัชนีมวลกาย สอนครั้งท่ี 4 /18
สาระสําคัญ
จุดมุงหมายของการทดสอบสมรรถภาพทางกายสําหรับบุคลท่ัวไปนั้น เพ่ือใหทราบความสมบูรณ
แข็งแรงของรางกายในการทํางานและการใชชีวิตประจําวัน เพ่ือเปนแนวทางการเลือกกิจกรรมการออกกําลัง
กายท่ีเหมาะสมใหกับตนเอง และพัฒนาขีดความสามารถใหสูงข้ึน ตลอดจนใชเปนเครื่องมือเพ่ือวัดสมรรถภาพ
ทางกายและหาขอบกพรองของนักกีฬาเพ่ือชวยเพ่ิมประสิทธิภาพในการแขงขันของนักกีฬา ในประเภทตาง ๆ
สาระการเรียนรู
1. ความหมายและความสําคัญของการทดสอบสมรรถภาพทางกาย
2. ผลท่ีไดจากการทดสอบสมรรถภาพทางกาย
3. ขอควรปฏิบัติในการทดสอบสมรรถภาพทางกาย
4. ขอบขายของการทดสอบสมรรถภาพทางกาย
5. แบบทดสอบสมรรถภาพทางกายมาตรฐานระหวางประเทศ
6. การหาคาดัชนีมวลกาย
จุดประสงคเชิงพฤติกรรม
1. บอกผลท่ีไดรับจากการทดสอบสมรรถภาพทางกายได
2. อธิบายจุดมุงหมายของการทดสอบสมรรถภาพทางกายได
3. ระบุขอบขายการทดสอบสมรรถภาพทางกลไกได
4. บอกปจจัยในการทดสอบโครงสรางของรางกาย ได
5. คํานวณหาคาดัชนีมวลกาย
6. ปฏิบัติการทดสอบสมรรถภาพทางกายมาตรฐานระหวางประเทศได
สมรรถนะประจําหนวย
1. ปฏิบัติการทดสอบสมรรถภาพทางกายมาตรฐานระหวางประเทศ
2. คํานวณหาคาดัชนีมวลกาย
2
สอนครั้งท่ี 4/18
1. ข้ันการนําเขาสูบทเรียน
1.1 ครูกลาวถึงการทดสอบสมรรถภาพทางกายในการเรียนครั้งท่ีแลว
1.2 นักเรียนและครูรวมกันสนทนา การทดสอบสมรรถภาพทางกาย
รายการ ดึงขอ (ชายอายุ 12 ปข้ึนไป) รายการงอแขนหอยตัว (ชายอายุต่ํากวา12 ปและ
หญิงทุกอายุ) และรายการ วิ่งเก็บของ
1.3 ครูเนนย้ํา เรื่อง การประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค ตามแนวคานิยม 12 ประการ
2. ข้ันการสอน
นอกหองเรียน
2.1 นักเรียนลงสนามเพ่ือทดสอบสมรรถภาพทางกาย โดยครูใหนักเรียนจัดแถวเปนรูปครึ่งวงกลม
2.2 ครูขออาสาสมัครนักเรียนนําอบอุนรางกาย
2.3 ครูอธิบายและสาธิตแบบทดสอบสมรรถภาพทางกายแตละอยาง ดังนี้
รายการ ดึงขอ (ชายอายุ 12 ปข้ึนไป) รายการงอแขนหอยตัว (ชายอายุต่ํากวา12 ปและ
หญิงทุกอายุ) และรายการ วิ่งเก็บของ
2.10 ครูเลือกนักเรียนท่ีอาสาสมัครในการเปนผูนําในการทดสอบ โดยแบงนักเรียนเปน 3 กลุมใน
การทดสอบ
กลุมดึงขอ กลุมงอแขนหอยตัว กลุม วิ่งเก็บของ
2.11 ครูคอยใหคําแนะนํานักเรียนในแตละกลุมในการทําแบบทดสอบสมรรภาพทางกาย
2.12 นักเรียนอาสาสมัครท่ีเปนผูนําในการทดสอบบันทึกผลการทดสอบแตละกลุม
2.13 นักเรียนเวียนกลุมฐานจนครบท้ัง 3 ฐาน หากไมครบใหทดสอบท่ีเหลือในการเรียนครั้งตอไป
นักเรียน
ครู
3
3. ข้ันสรุป
3.1 เม่ือนักเรียนทดสอบจนครบท้ัง 3 ฐานแลว ครูเรียกนักเรียนรวม เพ่ือสรุป
3.2 ครูเสริมแรง และชมเชยอาสาสมัครท่ีเปนผูนํา และนักเรียนท่ีตั้งใจปฏิบัติ
3.3 ครูสรุปภาพรวมท้ังหมดในเรื่องการทดสอบรายการ ดึงขอ (ชายอายุ 12 ปข้ึนไป) รายการงอ
แขนหอยตัว (ชายอายุต่ํากวา12 ปและหญิงทุกอายุ) และรายการ วิ่งเก็บของ และ กลาวถึง
การเรียนในครั้งตอไป
4. ข้ันวัด และประเมินผล
4.1 ครูสุมถามนักเรียนในประเด็นหัวขอท่ีเรียนรู
4.2 ครูกลาวถึงการเรียนรูในครั้งตอไป โดยใหนักเรียนเปลี่ยนชุดพลศึกษาตามขอตกลง
สื่อการเรียนรู
1. เนื้อหาความรู ในหนังสือวิชาพลศึกษาเพ่ือพัฒนาสุขภาพ (รหัส 2000-1601) หนวยท่ี 2
เรื่อง สมรรถภาพทางกายกับการออกกําลังกาย
2. ใบปฏิบัติกิจกรรมท่ี 2 กิจกรรมปฏิบัติท่ี 1 และ 2
การวัดผล และประเมินผล
เครื่องมือ และเกณฑการประเมิน
1. หนังสือวิชาพลศึกษาเพ่ือพัฒนาสุขภาพ (รหัส 2000-1601)
2. แบบประเมินผลการปฏิบัติกิจกรรม
3. แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค ตามแนวคานิยม 12 ประการ
(การผานเกณฑ ผาน 10 ใน 12 ขอ)
4
บันทึกหลงัการสอน
1. ผลการใชแผนการจัดการเรียนรู
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
2. ผลการเรียนของนักเรียน/ผลการสอนของครู/ปญหาท่ีพบ
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
3. แนวทางการแกปญหา
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
ลงชื่อ...............................................
(.............................................)
ครูผูสอน
5
แบบประเมิน คุณลักษณะอันพึงประสงค
ตามแนวคานิยม 12 ประการ
ชื่อ…………………………………………………..ชั้น……………………เริ่มเวลา.......................เสร็จเวลา...............
คําช้ีแจง
แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค ตามแนวคานิยม 12 ประการ นี้ ใชประเมินคุณลักษณะอันพึง
ประสงคท้ัง 12 ประการ ไดแก
1. มีความรักชาติ ศาสน กษัตริย
2. มีความซ่ือสัตยสุจริต
3. กตัญูตอพอแมครูอาจารย
4. ใฝหาความรู หม่ันศึกษาเลาเรียน ท้ังทางตรงและทางออม
5. รักษาวัฒนธรรม ประเพณีไทย
6. มีศีลธรรม รักษาความสัตย
7. เขาใจ เรียนรูการเปนประชาธิปไตย
8. มีระเบียบ วินัย เคารพกฎหมาย ผูนอยรูจักเคารพผูใหญ
9. มีสติ รูตัว รูคิด รูทํา
10. รูจักดํารงตนอยูโดยใชหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
11. มีความเขมแข็งท้ังรางกาย และจิตใจไมยอมแพตออํานาจ ฝายต่ํา
12. คํานึงถึงผลประโยชนของสวนรวม และของชาติมากกวาผลประโยชนของตนเอง
โดยในแตละคุณลักษณะตามแนวคานิยม 12 ประการ จะประกอบไปดวยตัวชี้วัด และตัวชี้วัด
แตละตัว จะมีพฤติกรรมบงชี้ ท่ีจําแนกตามระดับคะแนน ดังนี้
3 หมายถึง มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับ ดี
2 เทากับ มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับ ปานกลาง
1 เทากับ มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับพอใช
0 เทากับ มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับ ตองปรับปรุง
6
คุณลักษณะอันพึงประสงคตาม
แนวคานิยม 12 ประการ และตัวชี้วัด
ระดับคุณภาพ
3 2 1 0
1. รักชาติ ศาสน กษัตริย ตัวชี้วัด เปนพลเมืองดีของชาติ ธํารงไวซึ่งความเปนไทย มีความศรัทธายึดมั่น
ปฏิบัติตนตามหลักของศาสนา และเคารพเทิดทูนสถาบนัพระมหากษัตริย
2. ซื่อสัตย สุจริต ตัวชี้วัด ประพฤติตนตรงตามความเปนจริงตอตนเอง และผูอ่ืนทัง้ทางกาย วาจา ใจ
3. กตัญูตอพอแมครูอาจารย ตัวชี้วัด เอาใจใส ดูแลชวยเหลือภารกิจ การงาน ปฏิบัตตินตามคาสัง่สอนที่ถูกตอง และเหมาะสม
4. ใฝหาความรู หม่ันศึกษาเลาเรียน ทั้งทางตรง และทางออม ตัวชี้วัด ตั้งใจเพียรพยายาม ในการเรียน และเขารวมกิจกรรม แสวงหาความรูจาก แหลงเรียนรูตางๆทั้งภายใน และภายนอกโรงเรียนดวยการเลือกใชสื่ออยางเหมาะสม สรุปเปนองคความรู สามารถนําไปใชในชีวิตประจําวันได
5. รักษาวัฒนธรรม ประเพณีไทย ตัวชี้วัด ภาคภูมิใจในขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปวฒันธรรมไทยและม ีความกตัญูกตเวทีเห็นคุณคา และใชภาษาไทยในการสื่อสารไดอยางถูกตองเหมาะสม และอนุรักษ สืบทอด ภูมิปญญาไทย
6. มีศีลธรรม รักษาความสัตย ตัวชี้วัด ปฏิบัติโดยยึดตามกติกา ขอตกลง/กฎ/ระเบียบของโรงเรียน
7. เขาใจ เรียนรูการเปนประชาธิปไตย ตัวชี้วัด เขารวมกิจกรรมเก่ียวกับประชาธิปไตย
8. มีระเบียบ วินัย เคารพกฎหมาย ผูนอยรูจักเคารพผูใหญ ตัวชี้วัด ตรงตอเวลา ปฏิบัติตามขอตกลง กฎเกณฑ ระเบียบ ขอบังคับ
ของครอบครัว โรงเรียนและสังคม
9. มีสติ รูตัว รูคิด รูทํา ตัวชี้วัด คิดดี พูดดี ทําดีสุภาพเรียบรอย ออนนอมถอมตนรอบคอบเหมาะสมกับวัย
10.รูจักดํารงตนอยูโดยใชหลักปรัชญาของเศรษฐกจิพอเพียง ตัวชี้วัด ดําเนินชีวิตอยางพอประมาณ มีเหตุผล รอบคอบ มีคุณธรรม รวมทั้งมีภูมิคุมกัน
ในตัวที่ดี ปรับตัวเพื่ออยูในสังคมไดอยางมีความสุข
11. มีความเขมแข็งทั้งรางกาย และจิตใจไมยอมแพตออํานาจ ฝายต่ํา ตัวชี้วัด รักษาสุขภาพรายกายตามสุขอนามัย ไมเก่ียวของกับอบายมุข
12. คํานึงถึงผลประโยชนของสวนรวม และของชาติมากกวาผลประโยชนของตนเอง ตัวชี้วัด มีจิตอาสา อุทิศตนเพื่อประโยชนตอสังคม และสวนรวม ทําประโยชนแกผูอ่ืน
คะแนนที่ได
คะแนนรวม
7
เกณฑ ผานตัวช้ีวัด
28-36 เทากับ ดี
19-27 เทากับ ปานกลาง
10-18 เทากับ พอใช
0-9 เทากับ ตองปรับปรุง
ผูประเมิน.............................................. (...............................................................)
ระดับคะแนนท่ีได
1
แผนการจัดการเรียนรูที่ 5 หนวยท่ี 2 (ครั้งท่ี 5)
รายวิชา พลศึกษาเพ่ือพัฒนาสุขภาพ(รหัส 2000-1601) เวลาเรียนรวม 36 คาบ
ช่ือหนวย หนวยท่ี 2 การทดสอบสมรรถภาพทางกายและการหาคาดัชนีมวลกาย สอนครั้งท่ี 5 /18
สาระสําคัญ
จุดมุงหมายของการทดสอบสมรรถภาพทางกายสําหรับบุคลท่ัวไปนั้น เพ่ือใหทราบความสมบูรณ
แข็งแรงของรางกายในการทํางานและการใชชีวิตประจําวัน เพ่ือเปนแนวทางการเลือกกิจกรรมการออกกําลัง
กายท่ีเหมาะสมใหกับตนเอง และพัฒนาขีดความสามารถใหสูงข้ึน ตลอดจนใชเปนเครื่องมือเพ่ือวัดสมรรถภาพ
ทางกายและหาขอบกพรองของนักกีฬาเพ่ือชวยเพ่ิมประสิทธิภาพในการแขงขันของนักกีฬา ในประเภทตาง ๆ
สาระการเรียนรู
1. ความหมายและความสําคัญของการทดสอบสมรรถภาพทางกาย
2. ผลท่ีไดจากการทดสอบสมรรถภาพทางกาย
3. ขอควรปฏิบัติในการทดสอบสมรรถภาพทางกาย
4. ขอบขายของการทดสอบสมรรถภาพทางกาย
5. แบบทดสอบสมรรถภาพทางกายมาตรฐานระหวางประเทศ
6. การหาคาดัชนีมวลกาย
จุดประสงคเชิงพฤติกรรม
1. บอกผลท่ีไดรับจากการทดสอบสมรรถภาพทางกายได
2. อธิบายจุดมุงหมายของการทดสอบสมรรถภาพทางกายได
3. ระบุขอบขายการทดสอบสมรรถภาพทางกลไกได
4. บอกปจจัยในการทดสอบโครงสรางของรางกาย ได
5. คํานวณหาคาดัชนีมวลกาย
6. ปฏิบัติการทดสอบสมรรถภาพทางกายมาตรฐานระหวางประเทศได
สมรรถนะประจําหนวย
1. ปฏิบัติการทดสอบสมรรถภาพทางกายมาตรฐานระหวางประเทศ
2. คํานวณหาคาดัชนีมวลกาย
2
สอนครั้งท่ี 5/18
1. ข้ันการนําเขาสูบทเรียน
1.1 ครูกลาวถึงการทดสอบสมรรถภาพทางกายในการเรียนครั้งท่ีแลว
1.2 นักเรียนและครูรวมกันสนทนา การทดสอบสมรรถภาพทางกาย วิ่งเร็ว 50 เมตร
1.3 ครูเนนย้ํา เรื่อง การประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค ตามแนวคานิยม 12 ประการ
2. ข้ันการสอน
นอกหองเรียน
2.1 นักเรียนลงสนามเพ่ือทดสอบสมรรถภาพทางกาย โดยครูใหนักเรียนจัดแถวเปนรูปครึ่งวงกลม
2.2 นักเรียนทุกคนอบอุนรางกาย โดยมีนักเรียนอาสาสมัครเปนผูนํา
2.3 ครูอธิบายและสาธิตแบบทดสอบสมรรถภาพทางกาย รายการวิ่งเร็ว 50 เมตร
2.4 ครูใหนักเรียนทดสอบตามหมายเลข
START FINISH
วิ่งเร็ว 50 เมตร
2.11 ครูคอยใหคําแนะนํานักเรียนในแตละกลุมในการทําแบบทดสอบสมรรภาพทางกาย
2.12 นักเรียนอาสาสมัครท่ีเปนผูนําในการทดสอบบันทึกผลการทดสอบแตละกลุม
2.13 นักเรียนเวียนกลุมฐานจนครบท้ัง 3 ฐาน หากไมครบใหทดสอบท่ีเหลือในการเรียนครั้งตอไป
3. ข้ันสรุป
3.1 เม่ือนักเรียนทดสอบจนครบทุกคนแลวครูเรียกนักเรียนรวม เพ่ือสรุป
3.2 ครูเสริมแรง และชมเชยอาสาสมัครท่ีเปนผูนํา และนักเรียนท่ีตั้งใจปฏิบัติ
3.3 ครูสรุปภาพรวมท้ังหมดในเรื่องการทดสอบรายการ วิ่ง 50 เมตร
4. ข้ันวัด และประเมินผล
4.1 ครูสุมถามนักเรียนในประเด็นหัวขอท่ีเรียนรู
นักเรียน
ครู
3
4.2 ครูกลาวถึงการเรียนรูในครั้งตอไป โดยใหนักเรียนเปลี่ยนชุดพลศึกษาตามขอตกลง
สื่อการเรียนรู
1. เนื้อหาความรู ในหนังสือวิชาพลศึกษาเพ่ือพัฒนาสุขภาพ (รหัส 2000-1601) หนวยท่ี 2
เรื่อง สมรรถภาพทางกายกับการออกกําลังกาย
2. ใบปฏิบัติกิจกรรมท่ี 2 กิจกรรมปฏิบัติท่ี 1 และ 2
การวัดผล และประเมินผล
เครื่องมือ และเกณฑการประเมิน
1. หนังสือวิชาพลศึกษาเพ่ือพัฒนาสุขภาพ (รหัส 2000-1601)
2. แบบประเมินผลการปฏิบัติกิจกรรม
3. แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค ตามแนวคานิยม 12 ประการ
(การผานเกณฑ ผาน 10 ใน 12 ขอ)
บันทึกหลงัการสอน
1. ผลการใชแผนการจัดการเรียนรู
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
2. ผลการเรียนของนักเรียน/ผลการสอนของครู/ปญหาท่ีพบ
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
3. แนวทางการแกปญหา
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
ลงชื่อ...............................................
(.............................................)
ครูผูสอน
4
แบบประเมิน คุณลักษณะอันพึงประสงค
ตามแนวคานิยม 12 ประการ
ชื่อ…………………………………………………..ชั้น……………………เริ่มเวลา.......................เสร็จเวลา...............
คําช้ีแจง
แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค ตามแนวคานิยม 12 ประการ นี้ ใชประเมินคุณลักษณะอันพึง
ประสงคท้ัง 12 ประการ ไดแก
1. มีความรักชาติ ศาสน กษัตริย
2. มีความซ่ือสัตยสุจริต
3. กตัญูตอพอแมครูอาจารย
4. ใฝหาความรู หม่ันศึกษาเลาเรียน ท้ังทางตรงและทางออม
5. รักษาวัฒนธรรม ประเพณีไทย
6. มีศีลธรรม รักษาความสัตย
7. เขาใจ เรียนรูการเปนประชาธิปไตย
8. มีระเบียบ วินัย เคารพกฎหมาย ผูนอยรูจักเคารพผูใหญ
9. มีสติ รูตัว รูคิด รูทํา
10. รูจักดํารงตนอยูโดยใชหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
11. มีความเขมแข็งท้ังรางกาย และจิตใจไมยอมแพตออํานาจ ฝายต่ํา
12. คํานึงถึงผลประโยชนของสวนรวม และของชาติมากกวาผลประโยชนของตนเอง
โดยในแตละคุณลักษณะตามแนวคานิยม 12 ประการ จะประกอบไปดวยตัวชี้วัด และตัวชี้วัด
แตละตัว จะมีพฤติกรรมบงชี้ ท่ีจําแนกตามระดับคะแนน ดังนี้
3 หมายถึง มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับ ดี
2 เทากับ มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับ ปานกลาง
1 เทากับ มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับพอใช
0 เทากับ มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับ ตองปรับปรุง
5
คุณลักษณะอันพึงประสงคตาม
แนวคานิยม 12 ประการ และตัวชี้วัด
ระดับคุณภาพ
3 2 1 0
1. รักชาติ ศาสน กษัตริย ตัวชี้วัด เปนพลเมืองดีของชาติ ธํารงไวซึ่งความเปนไทย มีความศรัทธายึดมั่น
ปฏิบัติตนตามหลักของศาสนา และเคารพเทิดทูนสถาบนัพระมหากษัตริย
2. ซื่อสัตย สุจริต ตัวชี้วัด ประพฤติตนตรงตามความเปนจริงตอตนเอง และผูอ่ืนทัง้ทางกาย วาจา ใจ
3. กตัญูตอพอแมครูอาจารย ตัวชี้วัด เอาใจใส ดูแลชวยเหลือภารกิจ การงาน ปฏิบัตตินตามคาสัง่สอนที่ถูกตอง และเหมาะสม
4. ใฝหาความรู หม่ันศึกษาเลาเรียน ทั้งทางตรง และทางออม ตัวชี้วัด ตั้งใจเพียรพยายาม ในการเรียน และเขารวมกิจกรรม แสวงหาความรูจาก แหลงเรียนรูตางๆทั้งภายใน และภายนอกโรงเรียนดวยการเลือกใชสื่ออยางเหมาะสม สรุปเปนองคความรู สามารถนําไปใชในชีวิตประจําวันได
5. รักษาวัฒนธรรม ประเพณีไทย ตัวชี้วัด ภาคภูมิใจในขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปวฒันธรรมไทยและม ีความกตัญูกตเวทีเห็นคุณคา และใชภาษาไทยในการสื่อสารไดอยางถูกตองเหมาะสม และอนุรักษ สืบทอด ภูมิปญญาไทย
6. มีศีลธรรม รักษาความสัตย ตัวชี้วัด ปฏิบัติโดยยึดตามกติกา ขอตกลง/กฎ/ระเบียบของโรงเรียน
7. เขาใจ เรียนรูการเปนประชาธิปไตย ตัวชี้วัด เขารวมกิจกรรมเก่ียวกับประชาธิปไตย
8. มีระเบียบ วินัย เคารพกฎหมาย ผูนอยรูจักเคารพผูใหญ ตัวชี้วัด ตรงตอเวลา ปฏิบัติตามขอตกลง กฎเกณฑ ระเบียบ ขอบังคับ
ของครอบครัว โรงเรียนและสังคม
9. มีสติ รูตัว รูคิด รูทํา ตัวชี้วัด คิดดี พูดดี ทําดีสุภาพเรียบรอย ออนนอมถอมตนรอบคอบเหมาะสมกับวัย
10.รูจักดํารงตนอยูโดยใชหลักปรัชญาของเศรษฐกจิพอเพียง ตัวชี้วัด ดําเนินชีวิตอยางพอประมาณ มีเหตุผล รอบคอบ มีคุณธรรม รวมทั้งมีภูมิคุมกัน
ในตัวที่ดี ปรับตัวเพื่ออยูในสังคมไดอยางมีความสุข
11. มีความเขมแข็งทั้งรางกาย และจิตใจไมยอมแพตออํานาจ ฝายต่ํา ตัวชี้วัด รักษาสุขภาพรายกายตามสุขอนามัย ไมเก่ียวของกับอบายมุข
12. คํานึงถึงผลประโยชนของสวนรวม และของชาติมากกวาผลประโยชนของตนเอง ตัวชี้วัด มีจิตอาสา อุทิศตนเพื่อประโยชนตอสังคม และสวนรวม ทําประโยชนแกผูอ่ืน
คะแนนที่ได
คะแนนรวม
6
เกณฑ ผานตัวช้ีวัด
28-36 เทากับ ดี
19-27 เทากับ ปานกลาง
10-18 เทากับ พอใช
0-9 เทากับ ตองปรับปรุง
ผูประเมิน.............................................. (...............................................................)
ระดับคะแนนท่ีได
1
แผนการจัดการเรียนรูที่ 6 หนวยท่ี 2 (ครั้งท่ี 6)
รายวิชา พลศึกษาเพ่ือพัฒนาสุขภาพ(รหัส 2000-1601) เวลาเรียนรวม 36 คาบ
ช่ือหนวย หนวยท่ี 2 การทดสอบสมรรถภาพทางกายและการหาคาดัชนีมวลกาย สอนครั้งท่ี 6 /18
สาระสําคัญ
จุดมุงหมายของการทดสอบสมรรถภาพทางกายสําหรับบุคลท่ัวไปนั้น เพ่ือใหทราบความสมบูรณ
แข็งแรงของรางกายในการทํางานและการใชชีวิตประจําวัน เพ่ือเปนแนวทางการเลือกกิจกรรมการออกกําลัง
กายท่ีเหมาะสมใหกับตนเอง และพัฒนาขีดความสามารถใหสูงข้ึน ตลอดจนใชเปนเครื่องมือเพ่ือวัดสมรรถภาพ
ทางกายและหาขอบกพรองของนักกีฬาเพ่ือชวยเพ่ิมประสิทธิภาพในการแขงขันของนักกีฬา ในประเภทตาง ๆ
สาระการเรียนรู
1. ความหมายและความสําคัญของการทดสอบสมรรถภาพทางกาย
2. ผลท่ีไดจากการทดสอบสมรรถภาพทางกาย
3. ขอควรปฏิบัติในการทดสอบสมรรถภาพทางกาย
4. ขอบขายของการทดสอบสมรรถภาพทางกาย
5. แบบทดสอบสมรรถภาพทางกายมาตรฐานระหวางประเทศ
6. การหาคาดัชนีมวลกาย
จุดประสงคเชิงพฤติกรรม
1. บอกผลท่ีไดรับจากการทดสอบสมรรถภาพทางกายได
2. อธิบายจุดมุงหมายของการทดสอบสมรรถภาพทางกายได
3. ระบุขอบขายการทดสอบสมรรถภาพทางกลไกได
4. บอกปจจัยในการทดสอบโครงสรางของรางกาย ได
5. คํานวณหาคาดัชนีมวลกาย
6. ปฏิบัติการทดสอบสมรรถภาพทางกายมาตรฐานระหวางประเทศได
สมรรถนะประจําหนวย
1. ปฏิบัติการทดสอบสมรรถภาพทางกายมาตรฐานระหวางประเทศ
2. คํานวณหาคาดัชนีมวลกาย
2
สอนครั้งท่ี 6/18
1. ข้ันการนําเขาสูบทเรียน
1.1 ครูกลาวถึงการทดสอบสมรรถภาพทางกายในการเรียนครั้งท่ีแลว
1.2 นักเรียนและครูรวมกันสนทนา การทดสอบสมรรถภาพทางกาย วิ่งระยะไกล
1.3 ครูเนนย้ํา เรื่อง การประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค ตามแนวคานิยม 12 ประการ
2. ข้ันการสอน
นอกหองเรียน
2.1 นักเรียนลงสนามเพ่ือทดสอบสมรรถภาพทางกาย โดยครูใหนักเรียนจัดแถวเปนรูปครึ่งวงกลม
2.2 นักเรียนทุกคนอบอุนรางกาย โดยมีนักเรียนอาสาสมัครเปนผูนํา
2.3 ครูอธิบายและสาธิตแบบทดสอบสมรรถภาพทางกาย รายการวิ่งเร็ว 50 เมตร
2.4 ครูใหนักเรียนทดสอบตามหมายเลข
START FINISH
วิ่งระยะไกล
2.11 ครูคอยใหคําแนะนํานักเรียนในแตละกลุมในการทําแบบทดสอบสมรรภาพทางกาย
2.12 นักเรียนอาสาสมัครท่ีเปนผูนําในการทดสอบบันทึกผลการทดสอบแตละกลุม
2.13 นักเรียนเวียนกลุมฐานจนครบท้ัง 3 ฐาน หากไมครบใหทดสอบท่ีเหลือในการเรียนครั้งตอไป
3. ข้ันสรุป
3.1 เม่ือนักเรียนทดสอบจนครบทุกคนแลวครูเรียกนักเรียนรวม เพ่ือสรุป
3.2 ครูเสริมแรง และชมเชยอาสาสมัครท่ีเปนผูนํา และนักเรียนท่ีตั้งใจปฏิบัติ
3.3 ครูสรุปภาพรวมท้ังหมดในเรื่องการทดสอบรายการ วิ่ง ระยะไกล
4. ข้ันวัด และประเมินผล
4.1 ครูสุมถามนักเรียนในประเด็นหัวขอท่ีเรียนรู
4.2 ครูกลาวถึงการเรียนรูในครั้งตอไป โดยใหนักเรียนเปลี่ยนชุดพลศึกษาตามขอตกลง
นักเรียน
ครู
3
สื่อการเรียนรู
1. เนื้อหาความรู ในหนังสือวิชาพลศึกษาเพ่ือพัฒนาสุขภาพ (รหัส 2000-1601) หนวยท่ี 2
เรื่อง สมรรถภาพทางกายกับการออกกําลังกาย
2. ใบปฏิบัติกิจกรรมท่ี 2 กิจกรรมปฏิบัติท่ี 1 และ 2
การวัดผล และประเมินผล
เครื่องมือ และเกณฑการประเมิน
1. หนังสือวิชาพลศึกษาเพ่ือพัฒนาสุขภาพ (รหัส 2000-1601)
2. แบบประเมินผลการปฏิบัติกิจกรรม
3. แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค ตามแนวคานิยม 12 ประการ
(การผานเกณฑ ผาน 10 ใน 12 ขอ)
บันทึกหลงัการสอน
1. ผลการใชแผนการจัดการเรียนรู
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
2. ผลการเรียนของนักเรียน/ผลการสอนของครู/ปญหาท่ีพบ
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
3. แนวทางการแกปญหา
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
ลงชื่อ...............................................
(.............................................)
ครูผูสอน
4
แบบประเมิน คุณลักษณะอันพึงประสงค
ตามแนวคานิยม 12 ประการ
ชื่อ…………………………………………………..ชั้น……………………เริ่มเวลา.......................เสร็จเวลา...............
คําช้ีแจง
แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค ตามแนวคานิยม 12 ประการ นี้ ใชประเมินคุณลักษณะอันพึง
ประสงคท้ัง 12 ประการ ไดแก
1. มีความรักชาติ ศาสน กษัตริย
2. มีความซ่ือสัตยสุจริต
3. กตัญูตอพอแมครูอาจารย
4. ใฝหาความรู หม่ันศึกษาเลาเรียน ท้ังทางตรงและทางออม
5. รักษาวัฒนธรรม ประเพณีไทย
6. มีศีลธรรม รักษาความสัตย
7. เขาใจ เรียนรูการเปนประชาธิปไตย
8. มีระเบียบ วินัย เคารพกฎหมาย ผูนอยรูจักเคารพผูใหญ
9. มีสติ รูตัว รูคิด รูทํา
10. รูจักดํารงตนอยูโดยใชหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
11. มีความเขมแข็งท้ังรางกาย และจิตใจไมยอมแพตออํานาจ ฝายต่ํา
12. คํานึงถึงผลประโยชนของสวนรวม และของชาติมากกวาผลประโยชนของตนเอง
โดยในแตละคุณลักษณะตามแนวคานิยม 12 ประการ จะประกอบไปดวยตัวชี้วัด และตัวชี้วัด
แตละตัว จะมีพฤติกรรมบงชี้ ท่ีจําแนกตามระดับคะแนน ดังนี้
3 หมายถึง มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับ ดี
2 เทากับ มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับ ปานกลาง
1 เทากับ มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับพอใช
0 เทากับ มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับ ตองปรับปรุง
5
คุณลักษณะอันพึงประสงคตาม
แนวคานิยม 12 ประการ และตัวชี้วัด
ระดับคุณภาพ
3 2 1 0
1. รักชาติ ศาสน กษัตริย ตัวชี้วัด เปนพลเมืองดีของชาติ ธํารงไวซึ่งความเปนไทย มีความศรัทธายึดมั่น
ปฏิบัติตนตามหลักของศาสนา และเคารพเทิดทูนสถาบนัพระมหากษัตริย
2. ซื่อสัตย สุจริต ตัวชี้วัด ประพฤติตนตรงตามความเปนจริงตอตนเอง และผูอ่ืนทัง้ทางกาย วาจา ใจ
3. กตัญูตอพอแมครูอาจารย ตัวชี้วัด เอาใจใส ดูแลชวยเหลือภารกิจ การงาน ปฏิบัตตินตามคาสัง่สอนที่ถูกตอง และเหมาะสม
4. ใฝหาความรู หม่ันศึกษาเลาเรียน ทั้งทางตรง และทางออม ตัวชี้วัด ตั้งใจเพียรพยายาม ในการเรียน และเขารวมกิจกรรม แสวงหาความรูจาก แหลงเรียนรูตางๆทั้งภายใน และภายนอกโรงเรียนดวยการเลือกใชสื่ออยางเหมาะสม สรุปเปนองคความรู สามารถนําไปใชในชีวิตประจําวันได
5. รักษาวัฒนธรรม ประเพณีไทย ตัวชี้วัด ภาคภูมิใจในขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปวฒันธรรมไทยและม ีความกตัญูกตเวทีเห็นคุณคา และใชภาษาไทยในการสื่อสารไดอยางถูกตองเหมาะสม และอนุรักษ สืบทอด ภูมิปญญาไทย
6. มีศีลธรรม รักษาความสัตย ตัวชี้วัด ปฏิบัติโดยยึดตามกติกา ขอตกลง/กฎ/ระเบียบของโรงเรียน
7. เขาใจ เรียนรูการเปนประชาธิปไตย ตัวชี้วัด เขารวมกิจกรรมเก่ียวกับประชาธิปไตย
8. มีระเบียบ วินัย เคารพกฎหมาย ผูนอยรูจักเคารพผูใหญ ตัวชี้วัด ตรงตอเวลา ปฏิบัติตามขอตกลง กฎเกณฑ ระเบียบ ขอบังคับ
ของครอบครัว โรงเรียนและสังคม
9. มีสติ รูตัว รูคิด รูทํา ตัวชี้วัด คิดดี พูดดี ทําดีสุภาพเรียบรอย ออนนอมถอมตนรอบคอบเหมาะสมกับวัย
10.รูจักดํารงตนอยูโดยใชหลักปรัชญาของเศรษฐกจิพอเพียง ตัวชี้วัด ดําเนินชีวิตอยางพอประมาณ มีเหตุผล รอบคอบ มีคุณธรรม รวมทั้งมีภูมิคุมกัน
ในตัวที่ดี ปรับตัวเพื่ออยูในสังคมไดอยางมีความสุข
11. มีความเขมแข็งทั้งรางกาย และจิตใจไมยอมแพตออํานาจ ฝายต่ํา ตัวชี้วัด รักษาสุขภาพรายกายตามสุขอนามัย ไมเก่ียวของกับอบายมุข
12. คํานึงถึงผลประโยชนของสวนรวม และของชาติมากกวาผลประโยชนของตนเอง ตัวชี้วัด มีจิตอาสา อุทิศตนเพื่อประโยชนตอสังคม และสวนรวม ทําประโยชนแกผูอ่ืน
คะแนนที่ได
คะแนนรวม
6
เกณฑ ผานตัวช้ีวัด
28-36 เทากับ ดี
19-27 เทากับ ปานกลาง
10-18 เทากับ พอใช
0-9 เทากับ ตองปรับปรุง
ผูประเมิน.............................................. (...............................................................)
ระดับคะแนนท่ีได
1
แผนการจัดการเรียนรูที่ 7 หนวยท่ี 3 (ครั้งท่ี 7)
รายวิชา พลศึกษาเพ่ือพัฒนาสุขภาพ(รหัส 2000-1601) เวลาเรียนรวม 36 คาบ
ช่ือหนวย หนวยท่ี 3 อาหารและโภชนาการเพ่ือสุขภาพ สอนครั้งท่ี 7 /18
สาระสําคัญ
โภชนาการท่ีดีชวยสงเสริมสุขภาพพลานามัยและสรางสมรรถภาพทางกายดานสุขภาพใหมี
ความสมบูรณแข็งแรง โภชนาการจึงมีความสําคัญตอสุขภาพและคุณภาพชีวิต รางกายมีความตองการ
สารอาหาร เพ่ือชวยใหเซลลทําหนาท่ีไดอยางสมบูรณ ความตองการสารอาหารข้ึนอยู กับการรักษาดุลยภาพ
ภายในรางกาย ผูท่ีออกกําลังกายเพ่ือสรางสมรรถภาพทางกาย จะมีการบริโภคอาหารท่ีไมแตกตางไปจากคน
ปกติ เพียงแตตอง ใชพลังงานเพ่ิมข้ึนจึงมีความจําเปนตองไดรับปริมาณอาหารมากข้ึน เพ่ือรางกายจะไดมี
พละกําลังสามารถออกกําลังกายหรือแขงขันไดนาน จนมีสุขภาพทางกายท่ีสูงข้ึน
สาระการเรียนรู
1. ความหมายของ อาหาร โภชนาการ และสารอาหาร
2. สารอาหารกับการออกกําลังกายเพ่ือสรางสมรรถภาพทางกาย
3. โภชนาการสําหรับวัยรุน
4. สารอาหารท่ีตองการในวัยรุน
จุดประสงคเชิงพฤติกรรม
1. ใหความหมายของโภชนาการได
2. อธิบายสารอาหารท่ีใหพลังงานและไมใหพลังงานได
3. ระบุพลังงานท่ีไดจากสารอาหารประเภทตางๆได
4. บอกสารอาหารท่ีรางกายตองการในแตละวัน ได
5. ประเมินตนเองดานพฤติกรรมการบริโภคอาหารได
สมรรถนะประจําหนวย
1. แสดงความรูเก่ียวกับการรับประทานอาหารเพ่ือสรางสมรรถภาพทางกาย
2. รับประทานอาหารถูกหลักโภชนาการตามความตองการของรางกาย
2
สอนครั้งท่ี 7/18
1. ข้ันการนําเขาสูบทเรียน
1.1 ครูกลาวถึงการทดสอบสมรรถภาพทางกายในการเรียนครั้งท่ีแลว
1.2 นักเรียนและครูรวมกันสนทนา เรื่อง อาหารและโภชนาการเพ่ือสุขภาพ
1.3 ครูนําเขาสูเนื้อหาบทเรียนดวยคําถามท่ีวา “อาหารมีผลตอสุขภาพรางกายของเราอยางไร”
2. ข้ันการสอน
ในหองเรียน
2.1 นักเรียนทุกคนเปดหนังสือรายวิชาพลศึกษาเพ่ือพัฒนาสุขภาพ (รหัส 2000-1601)
2.2 ครูกลาวถึง ความหมายของคําวา “โภชนาการ” และ “สารอาหาร”
โดยใชหนังสือ เปนสื่อในการเรียนรู
2.3 ครูบรรยายตอถึงความสัมพันธกันระหวาง“โภชนาการ” และ “สารอาหาร”
2.4 นักเรียนจับคูกันตามความสมัครใจ รวมกันศึกษา ประเด็นหัวขอ ดังนี้
ประเด็นหัวขอท่ี 1 สารอาหารกับการออกกําลังกายเพ่ือสรางสมรรถภาพทางกาย
ประเด็นหัวขอท่ี 2 โภชนาการสําหรับวัยรุน
ประเด็นหัวขอท่ี 3 สารอาหารท่ีตองการในวัยรุน
2.5 นักเรียนแตละคูบันทึกผลการเรียนรู โดยครูใหขอมูลเพ่ิมเติม
2.6 นักเรียนบันทึกผลการเรียนรู
2.7 นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมท่ี 3 โดยทําแบบประเมินพฤติกรรมการบริโภคอาหารเพ่ือสุขภาพ
3. ข้ันสรุป
3.1 ครูและนักเรียนรวมกันสรุปเนื้อหา โดยใชหนังสือเรียนเปนสื่อ
3.2 ครูเสริมแรง และเพ่ิมเติมประเด็นท่ีขาดหาย เพ่ือเติมเต็มผลการเรียนรู
3.3 ครูสรุปภาพรวมท้ังหมดในเรื่อง หนวยท่ี 3 และ กลาวถึงการเรียนในครั้งตอไป
4. ข้ันวัด และประเมินผล
4.1 ครูสุมถามนักเรียนในประเด็นหัวขอท่ีเรียนรู
4.2 ครูกลาวถึงการเรียนรูในครั้งตอไป โดยใหนักเรียนเปลี่ยนชุดพลศึกษาตามขอตกลง
4.3 นักเรียนทําแบบทดสอบหลังเรียน หนวยการเรียนรูท่ี 3
4.4 ครูและนักเรียนรวมกันเฉลยแบบทดสอบหลังเรียน หนวยการเรียนรูท่ี 3
สื่อการเรียนรู
1. เนื้อหาความรู ในหนังสือวิชาพลศึกษาเพ่ือพัฒนาสุขภาพ (รหัส 2000-1601) หนวยท่ี 3
2. แบบทดสอบหลังเรียนท่ี 3
3. ใบปฏิบัติกิจกรรมท่ี 3 โดยทําแบบประเมินพฤติกรรมการบริโภคอาหารเพ่ือสุขภาพ
3
การวัดผล และประเมินผล
เครื่องมือ และเกณฑการประเมิน
1. หนังสือวิชาพลศึกษาเพ่ือพัฒนาสุขภาพ (รหัส 2000-1601)
2. เฉลยแบบทดสอบหลังเรียนท่ี 3
3. แบบประเมินใบปฏิบัติกิจกรรมท่ี 3 โดยทําแบบประเมินพฤติกรรมการบริโภคอาหารเพ่ือสุขภาพ
4. แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค ตามแนวคานิยม 12 ประการ
(การผานเกณฑ ผาน 10 ใน 12 ขอ)
บันทึกหลงัการสอน
1. ผลการใชแผนการจัดการเรียนรู
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
2. ผลการเรียนของนักเรียน/ผลการสอนของครู/ปญหาท่ีพบ
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
3. แนวทางการแกปญหา
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
ลงชื่อ...............................................
(.............................................)
ครูผูสอน
4
แบบประเมิน คุณลักษณะอันพึงประสงค
ตามแนวคานิยม 12 ประการ
ชื่อ…………………………………………………..ชั้น……………………เริ่มเวลา.......................เสร็จเวลา...............
คําช้ีแจง
แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค ตามแนวคานิยม 12 ประการ นี้ ใชประเมินคุณลักษณะอันพึง
ประสงคท้ัง 12 ประการ ไดแก
1. มีความรักชาติ ศาสน กษัตริย
2. มีความซ่ือสัตยสุจริต
3. กตัญูตอพอแมครูอาจารย
4. ใฝหาความรู หม่ันศึกษาเลาเรียน ท้ังทางตรงและทางออม
5. รักษาวัฒนธรรม ประเพณีไทย
6. มีศีลธรรม รักษาความสัตย
7. เขาใจ เรียนรูการเปนประชาธิปไตย
8. มีระเบียบ วินัย เคารพกฎหมาย ผูนอยรูจักเคารพผูใหญ
9. มีสติ รูตัว รูคิด รูทํา
10. รูจักดํารงตนอยูโดยใชหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
11. มีความเขมแข็งท้ังรางกาย และจิตใจไมยอมแพตออํานาจ ฝายต่ํา
12. คํานึงถึงผลประโยชนของสวนรวม และของชาติมากกวาผลประโยชนของตนเอง
โดยในแตละคุณลักษณะตามแนวคานิยม 12 ประการ จะประกอบไปดวยตัวชี้วัด และตัวชี้วัด
แตละตัว จะมีพฤติกรรมบงชี้ ท่ีจําแนกตามระดับคะแนน ดังนี้
3 หมายถึง มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับ ดี
2 เทากับ มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับ ปานกลาง
1 เทากับ มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับพอใช
0 เทากับ มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับ ตองปรับปรุง
5
คุณลักษณะอันพึงประสงคตาม
แนวคานิยม 12 ประการ และตัวชี้วัด
ระดับคุณภาพ
3 2 1 0
1. รักชาติ ศาสน กษัตริย ตัวชี้วัด เปนพลเมืองดีของชาติ ธํารงไวซึ่งความเปนไทย มีความศรัทธายึดมั่น
ปฏิบัติตนตามหลักของศาสนา และเคารพเทิดทูนสถาบนัพระมหากษัตริย
2. ซื่อสัตย สุจริต ตัวชี้วัด ประพฤติตนตรงตามความเปนจริงตอตนเอง และผูอ่ืนทัง้ทางกาย วาจา ใจ
3. กตัญูตอพอแมครูอาจารย ตัวชี้วัด เอาใจใส ดูแลชวยเหลือภารกิจ การงาน ปฏิบัตตินตามคาสัง่สอนที่ถูกตอง และเหมาะสม
4. ใฝหาความรู หม่ันศึกษาเลาเรียน ทั้งทางตรง และทางออม ตัวชี้วัด ตั้งใจเพียรพยายาม ในการเรียน และเขารวมกิจกรรม แสวงหาความรูจาก แหลงเรียนรูตางๆทั้งภายใน และภายนอกโรงเรียนดวยการเลือกใชสื่ออยางเหมาะสม สรุปเปนองคความรู สามารถนําไปใชในชีวิตประจําวันได
5. รักษาวัฒนธรรม ประเพณีไทย ตัวชี้วัด ภาคภูมิใจในขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปวฒันธรรมไทยและม ีความกตัญูกตเวทีเห็นคุณคา และใชภาษาไทยในการสื่อสารไดอยางถูกตองเหมาะสม และอนุรักษ สืบทอด ภูมิปญญาไทย
6. มีศีลธรรม รักษาความสัตย ตัวชี้วัด ปฏิบัติโดยยึดตามกติกา ขอตกลง/กฎ/ระเบียบของโรงเรียน
7. เขาใจ เรียนรูการเปนประชาธิปไตย ตัวชี้วัด เขารวมกิจกรรมเก่ียวกับประชาธิปไตย
8. มีระเบียบ วินัย เคารพกฎหมาย ผูนอยรูจักเคารพผูใหญ ตัวชี้วัด ตรงตอเวลา ปฏิบัติตามขอตกลง กฎเกณฑ ระเบียบ ขอบังคับ
ของครอบครัว โรงเรียนและสังคม
9. มีสติ รูตัว รูคิด รูทํา ตัวชี้วัด คิดดี พูดดี ทําดีสุภาพเรียบรอย ออนนอมถอมตนรอบคอบเหมาะสมกับวัย
10.รูจักดํารงตนอยูโดยใชหลักปรัชญาของเศรษฐกจิพอเพียง ตัวชี้วัด ดําเนินชีวิตอยางพอประมาณ มีเหตุผล รอบคอบ มีคุณธรรม รวมทั้งมีภูมิคุมกัน
ในตัวที่ดี ปรับตัวเพื่ออยูในสังคมไดอยางมีความสุข
11. มีความเขมแข็งทั้งรางกาย และจิตใจไมยอมแพตออํานาจ ฝายต่ํา ตัวชี้วัด รักษาสุขภาพรายกายตามสุขอนามัย ไมเก่ียวของกับอบายมุข
12. คํานึงถึงผลประโยชนของสวนรวม และของชาติมากกวาผลประโยชนของตนเอง ตัวชี้วัด มีจิตอาสา อุทิศตนเพื่อประโยชนตอสังคม และสวนรวม ทําประโยชนแกผูอ่ืน
คะแนนที่ได
คะแนนรวม
6
เกณฑ ผานตัวช้ีวัด
28-36 เทากับ ดี
19-27 เทากับ ปานกลาง
10-18 เทากับ พอใช
0-9 เทากับ ตองปรับปรุง
ผูประเมิน.............................................. (...............................................................)
ระดับคะแนนท่ีได
1
แผนการจัดการเรียนรูที่ 8 หนวยท่ี 4 (ครั้งท่ี 8)
รายวิชา พลศึกษาเพ่ือพัฒนาสุขภาพ(รหัส 2000-1601) เวลาเรียนรวม 36 คาบ
ช่ือหนวย หนวยท่ี 4 การออกกําลังกายภายใตความพอเพียง สอนครั้งท่ี 8 /18
สาระสําคัญ
การดูแลสุขภาพดวยตนเอง พ่ึงพาตนเองดานสุขภาพโดยมีองคประกอบของการดูแลตนเอง
แบบ5 อ. คือ การกินอาหาร การออกกําลังกาย การอยูในสิ่งแวดลอมท่ีมีอากาศบริสุทธิ์ การอุจจาระใหเปน
เวลา และ การมีอารมณดี เปนรูปแบบการออกกําลังกายท่ีมีความเหมาะสมและพอเพียง ตามเพศ
วัย และชนิดของการออกกําลังกาย
สาระการเรียนรู
1. แนวคิดความพอเพียงของการออกกําลังกาย
2. ความพอเพียงกับสุขภาพ
3. การประยุกตการเรียนพลศึกษาภายใตความพอเพียง
4. การบริหารกายในการประกอบอาชีพภายใตความพอเพียง
5. โครงงานเก่ียวกับสุขภาพและกีฬา
จุดประสงคเชิงพฤติกรรม
1. บอกแนวคิดความพอเพียงของการออกกําลังกายได
2. เลือกรับประทานอาหารท่ีถูกหลักโภชนาการ ตรงกับความพอเพียงได
3. ระบุกระบวนการข้ันพ้ืนฐานในการดูแลสุขภาพดวยตนเอง ได
4. ประยุกตการเรียนพลศึกษาภายใตความพอเพียงได
5. เขียนโครงงานเก่ียวกับสุขภาพและกีฬา
6. ออกกําลังกายไดตามความเหมาะสมและพอเพียง
สมรรถนะประจําหนวย
ออกกําลังกายไดตามความเหมาะสมและพอเพียงตามเพศ วัย และชนิดของการออกกําลังกาย
2
สอนครั้งท่ี 8/18
1. ข้ันการนําเขาสูบทเรียน
1.1 ครูกลาวถึงการทดสอบสมรรถภาพทางกายในการเรียนครั้งท่ีแลว
1.2 นักเรียนและครูรวมกันสนทนา เรื่อง หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
1.3 ครูกลาวถึง องคประกอบของหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 3 หวง 2 เง่ือนไข คือ
ความพอประมาณ ความมีเหตุผล และ การมีภูมิคุมกัน
1.4 ครูนําเขาสูบทเรียนโดยตั้งคําถามวา “เราสามารถนําหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช
ในการออกกําลังกายไดอยางไร
1.5 นักเรียนและครูรวมกันสนทนาเก่ียวกับการนําหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช
ในการออกกําลังกาย
2. ข้ันการสอน
ในหองเรียน
2.1 นักเรียนทุกคนเปดหนังสือรายวิชาพลศึกษาเพ่ือพัฒนาสุขภาพ (รหัส 2000-1601)
2.2 ครูกลาวถึง แนวคิดความพอเพียงของการออกกําลังกายโดยใชหนังสือ เปนสื่อในการเรียนรู
2.3 ครูบรรยายเรื่องความพอเพียงกับสุขภาพ
2.4 นักเรียนศึกษาดวยตนเอง ประเด็นหัวขอ ดังนี้
ประเด็นหัวขอท่ี 1 การประยุกตการเรียนพลศึกษาภายใตความพอเพียง
ประเด็นหัวขอท่ี 2 การบริหารกายในการประกอบอาชีพภายใตความพอเพียง
ประเด็นหัวขอท่ี 3 โครงงานเก่ียวกับสุขภาพและกีฬา
2.5 นักเรียนแตละคูบันทึกผลการเรียนรู โดยครูใหขอมูลเพ่ิมเติม
2.6 นักเรียนบันทึกผลการเรียนรู
2.7 ครูกลาวถึงหลักการและวิธีการเขียนโครงงานท่ีถูกตอง
2.8 นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมท่ี 4 โดยศึกษาหลักการและวิธีการเขียนโครงงานท่ีถูกตองเก่ียวกับ
การออกกําลังกายภายใตความพอเพียง
3. ข้ันสรุป
3.1 ครูและนักเรียนรวมกันสรุปเนื้อหา โดยใชหนังสือเรียนเปนสื่อ
3.2 ครูเสริมแรง และเพ่ิมเติมประเด็นท่ีขาดหาย เพ่ือเติมเต็มผลการเรียนรู
3.3 ครูสรุปภาพรวมท้ังหมดในเรื่อง หนวยท่ี 4 และ กลาวถึงการเรียนในครั้งตอไป
4. ข้ันวัด และประเมินผล
4.1 ครูสุมถามนักเรียนในประเด็นหัวขอท่ีเรียนรู
4.2 ครูกลาวถึงการเรียนรูในครั้งตอไป โดยใหนักเรียนเปลี่ยนชุดพลศึกษาตามขอตกลง
4.3 นักเรียนทําแบบทดสอบหลังเรียน หนวยการเรียนรูท่ี 4
3
4.4 ครูและนักเรียนรวมกันเฉลยแบบทดสอบหลังเรียน หนวยการเรียนรูท่ี 4
4.5 ครูกลาวถึงการเรียนรูในครั้งตอไป โดยใหนักเรียน รวมกลุมกันเขียนโครงงานท่ีตนเองสนใจ
ตามหัวขอท่ีกําหนด พรอมนํามาเสนอในการเรียนครั้งหนา ดังนี้
1. โครงงานพัฒนาสิ่งแวดลอมในโรงอาหารของสถานศึกษา
2. โครงงานเก็บขยะมูลฝอยในสถานศึกษา
3. โครงงานศึกษาความพึงพอใจในการใชบริการหองพยาบาล
4. โครงงานพัฒนาสุขภาพรางกายของนักเรียนนักศึกษาโดยใชกิจกรรมการเตนแอโรบิก
5. โครงงานพัฒนาสุขภาพรางกายของนักเรียนนักศึกษาโดยใชกิจกรรมกีฬาสีภายใน
สื่อการเรียนรู
1. เนื้อหาความรู ในหนังสือวิชาพลศึกษาเพ่ือพัฒนาสุขภาพ (รหัส 2000-1601) หนวยท่ี 4
2. แบบทดสอบหลังเรียนท่ี 4
3. ใบปฏิบัติกิจกรรมท่ี 4
การวัดผล และประเมินผล
เครื่องมือ และเกณฑการประเมิน
1. หนังสือวิชาพลศึกษาเพ่ือพัฒนาสุขภาพ (รหัส 2000-1601)
2. เฉลยแบบทดสอบหลังเรียนท่ี 4
3. แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค ตามแนวคานิยม 12 ประการ
(การผานเกณฑ ผาน 10 ใน 12 ขอ)
บันทึกหลงัการสอน
1. ผลการใชแผนการจัดการเรียนรู
..............................................................................................................................................................................
2. ผลการเรียนของนักเรียน/ผลการสอนของครู/ปญหาท่ีพบ
..............................................................................................................................................................................
3. แนวทางการแกปญหา
..............................................................................................................................................................................
ลงชื่อ...............................................
(.............................................)
ครูผูสอน
4
แบบประเมิน คุณลักษณะอันพึงประสงค
ตามแนวคานิยม 12 ประการ
ชื่อ…………………………………………………..ชั้น……………………เริ่มเวลา.......................เสร็จเวลา...............
คําช้ีแจง
แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค ตามแนวคานิยม 12 ประการ นี้ ใชประเมินคุณลักษณะอันพึง
ประสงคท้ัง 12 ประการ ไดแก
1. มีความรักชาติ ศาสน กษัตริย
2. มีความซ่ือสัตยสุจริต
3. กตัญูตอพอแมครูอาจารย
4. ใฝหาความรู หม่ันศึกษาเลาเรียน ท้ังทางตรงและทางออม
5. รักษาวัฒนธรรม ประเพณีไทย
6. มีศีลธรรม รักษาความสัตย
7. เขาใจ เรียนรูการเปนประชาธิปไตย
8. มีระเบียบ วินัย เคารพกฎหมาย ผูนอยรูจักเคารพผูใหญ
9. มีสติ รูตัว รูคิด รูทํา
10. รูจักดํารงตนอยูโดยใชหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
11. มีความเขมแข็งท้ังรางกาย และจิตใจไมยอมแพตออํานาจ ฝายต่ํา
12. คํานึงถึงผลประโยชนของสวนรวม และของชาติมากกวาผลประโยชนของตนเอง
โดยในแตละคุณลักษณะตามแนวคานิยม 12 ประการ จะประกอบไปดวยตัวชี้วัด และตัวชี้วัด
แตละตัว จะมีพฤติกรรมบงชี้ ท่ีจําแนกตามระดับคะแนน ดังนี้
3 หมายถึง มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับ ดี
2 เทากับ มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับ ปานกลาง
1 เทากับ มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับพอใช
0 เทากับ มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับ ตองปรับปรุง
5
คุณลักษณะอันพึงประสงคตาม
แนวคานิยม 12 ประการ และตัวชี้วัด
ระดับคุณภาพ
3 2 1 0
1. รักชาติ ศาสน กษัตริย ตัวชี้วัด เปนพลเมืองดีของชาติ ธํารงไวซึ่งความเปนไทย มีความศรัทธายึดมั่น
ปฏิบัติตนตามหลักของศาสนา และเคารพเทิดทูนสถาบนัพระมหากษัตริย
2. ซื่อสัตย สุจริต ตัวชี้วัด ประพฤติตนตรงตามความเปนจริงตอตนเอง และผูอ่ืนทัง้ทางกาย วาจา ใจ
3. กตัญูตอพอแมครูอาจารย ตัวชี้วัด เอาใจใส ดูแลชวยเหลือภารกิจ การงาน ปฏิบัตตินตามคาสัง่สอนที่ถูกตอง และเหมาะสม
4. ใฝหาความรู หม่ันศึกษาเลาเรียน ทั้งทางตรง และทางออม ตัวชี้วัด ตั้งใจเพียรพยายาม ในการเรียน และเขารวมกิจกรรม แสวงหาความรูจาก แหลงเรียนรูตางๆทั้งภายใน และภายนอกโรงเรียนดวยการเลือกใชสื่ออยางเหมาะสม สรุปเปนองคความรู สามารถนําไปใชในชีวิตประจําวันได
5. รักษาวัฒนธรรม ประเพณีไทย ตัวชี้วัด ภาคภูมิใจในขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปวฒันธรรมไทยและม ีความกตัญูกตเวทีเห็นคุณคา และใชภาษาไทยในการสื่อสารไดอยางถูกตองเหมาะสม และอนุรักษ สืบทอด ภูมิปญญาไทย
6. มีศีลธรรม รักษาความสัตย ตัวชี้วัด ปฏิบัติโดยยึดตามกติกา ขอตกลง/กฎ/ระเบียบของโรงเรียน
7. เขาใจ เรียนรูการเปนประชาธิปไตย ตัวชี้วัด เขารวมกิจกรรมเก่ียวกับประชาธิปไตย
8. มีระเบียบ วินัย เคารพกฎหมาย ผูนอยรูจักเคารพผูใหญ ตัวชี้วัด ตรงตอเวลา ปฏิบัติตามขอตกลง กฎเกณฑ ระเบียบ ขอบังคับ
ของครอบครัว โรงเรียนและสังคม
9. มีสติ รูตัว รูคิด รูทํา ตัวชี้วัด คิดดี พูดดี ทําดีสุภาพเรียบรอย ออนนอมถอมตนรอบคอบเหมาะสมกับวัย
10.รูจักดํารงตนอยูโดยใชหลักปรัชญาของเศรษฐกจิพอเพียง ตัวชี้วัด ดําเนินชีวิตอยางพอประมาณ มีเหตุผล รอบคอบ มีคุณธรรม รวมทั้งมีภูมิคุมกัน
ในตัวที่ดี ปรับตัวเพื่ออยูในสังคมไดอยางมีความสุข
11. มีความเขมแข็งทั้งรางกาย และจิตใจไมยอมแพตออํานาจ ฝายต่ํา ตัวชี้วัด รักษาสุขภาพรายกายตามสุขอนามัย ไมเก่ียวของกับอบายมุข
12. คํานึงถึงผลประโยชนของสวนรวม และของชาติมากกวาผลประโยชนของตนเอง ตัวชี้วัด มีจิตอาสา อุทิศตนเพื่อประโยชนตอสังคม และสวนรวม ทําประโยชนแกผูอ่ืน
คะแนนที่ได
คะแนนรวม
6
เกณฑ ผานตัวช้ีวัด
28-36 เทากับ ดี
19-27 เทากับ ปานกลาง
10-18 เทากับ พอใช
0-9 เทากับ ตองปรับปรุง
ผูประเมิน.............................................. (...............................................................)
ระดับคะแนนท่ีได
1
แผนการจัดการเรียนรูที่ 9 หนวยท่ี 4 (ครั้งท่ี 9)
รายวิชา พลศึกษาเพ่ือพัฒนาสุขภาพ(รหัส 2000-1601) เวลาเรียนรวม 36 คาบ
ช่ือหนวย หนวยท่ี 4 การออกกําลังกายภายใตความพอเพียง สอนครั้งท่ี 9 /18
สาระสําคัญ
การดูแลสุขภาพดวยตนเอง พ่ึงพาตนเองดานสุขภาพโดยมีองคประกอบของการดูแลตนเอง
แบบ5 อ. คือ การกินอาหาร การออกกําลังกาย การอยูในสิ่งแวดลอมท่ีมีอากาศบริสุทธิ์ การอุจจาระใหเปน
เวลา และ การมีอารมณดี เปนรูปแบบการออกกําลังกายท่ีมีความเหมาะสมและพอเพียง ตามเพศ
วัย และชนิดของการออกกําลังกาย
สาระการเรียนรู
1. แนวคิดความพอเพียงของการออกกําลังกาย
2. ความพอเพียงกับสุขภาพ
3. การประยุกตการเรียนพลศึกษาภายใตความพอเพียง
4. การบริหารกายในการประกอบอาชีพภายใตความพอเพียง
5. โครงงานเก่ียวกับสุขภาพและกีฬา
จุดประสงคเชิงพฤติกรรม
1. บอกแนวคิดความพอเพียงของการออกกําลังกายได
2. เลือกรับประทานอาหารท่ีถูกหลักโภชนาการ ตรงกับความพอเพียงได
3. ระบุกระบวนการข้ันพ้ืนฐานในการดูแลสุขภาพดวยตนเอง ได
4. ประยุกตการเรียนพลศึกษาภายใตความพอเพียงได
5. เขียนโครงงานเก่ียวกับสุขภาพและกีฬา
6. ออกกําลังกายไดตามความเหมาะสมและพอเพียง
สมรรถนะประจําหนวย
ออกกําลังกายไดตามความเหมาะสมและพอเพียงตามเพศ วัย และชนิดของการออกกําลังกาย
2
สอนครั้งท่ี 9/18
1. ข้ันการนําเขาสูบทเรียน
1.1 ครูกลาวถึงงานท่ีมอบหมายการเขียนโครงงานท่ีสนใจในการเรียนครั้งท่ีแลว
1.2 นักเรียนและครูรวมกันสนทนา เรื่อง โครงงาน
1.3 ครูกลาวถึง องคประกอบโครงงานท่ียึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 3 หวง 2 เง่ือนไข
1.4 ครูนําเขาสูบทเรียนโดยกลาวถึงโครงงานท่ีนักเรียนสนใจในการออกกําลังกาย
1.5 นักเรียนและครูรวมกันสนทนาเก่ียวกับการนําโครงงานมาปฏิบัติตามหลักปรัชญาของ
เศรษฐกิจพอเพียง
2. ข้ันการสอน
ในหองเรียน
2.1 นักเรียนทุกกลุมนําเสนอโครงงานของตนเองท่ียึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
2.2 ครูกลาวเสริมการจัดทําโครงงานของแตละกลุม
2.3 นักเรียนแตละคูบันทึกผลการเรียนรู โดยครูใหขอมูลเพ่ิมเติม
2.4 นักเรียนบันทึกผลการเรียนรู
2.5 ครูเนนย้ําหลักการและวิธีการเขียนโครงงานท่ีถูกตองของแตละกลุม
2.6 นักเรียนบันทึกการเขียนหลักการและวิธีการเขียนโครงงานท่ีถูกตองเก่ียวกับ
การออกกําลังกายภายใตความพอเพียง
3. ข้ันสรุป
3.1 ครูและนักเรียนรวมกันสรุปเนื้อหา โดยใชหนังสือเรียนเปนสื่อ
3.2 ครูเสริมแรง และเพ่ิมเติมประเด็นท่ีขาดหาย เพ่ือเติมเต็มผลการเรียนรู
3.3 ครูสรุปภาพรวมท้ังหมดในเรื่อง หนวยท่ี 4 และ กลาวถึงการเรียนในครั้งตอไป
4. ข้ันวัด และประเมินผล
4.1 ครูสุมถามนักเรียนในประเด็นหัวขอท่ีเรียนรู
4.2 ครูกลาวถึงการเรียนรูในครั้งตอไป โดยใหนักเรียนเปลี่ยนชุดพลศึกษาตามขอตกลง
สื่อการเรียนรู
1. เนื้อหาความรู ในหนังสือวิชาพลศึกษาเพ่ือพัฒนาสุขภาพ (รหัส 2000-1601) หนวยท่ี 4
2. ใบปฏิบัติกิจกรรมท่ี 4
การวัดผล และประเมินผล
เครื่องมือ และเกณฑการประเมิน
1. หนังสือวิชาพลศึกษาเพ่ือพัฒนาสุขภาพ (รหัส 2000-1601)
2. แบบประเมินใบปฏิบัติกิจกรรมท่ี 4 โดยทําแบบประเมินผลการปฏิบัติ
3
4. แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค ตามแนวคานิยม 12 ประการ
(การผานเกณฑ ผาน 10 ใน 12 ขอ)
บันทึกหลงัการสอน
1. ผลการใชแผนการจัดการเรียนรู
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
2. ผลการเรียนของนักเรียน/ผลการสอนของครู/ปญหาท่ีพบ
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
3. แนวทางการแกปญหา
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
ลงชื่อ...............................................
(.............................................)
ครูผูสอน
4
แบบประเมิน คุณลักษณะอันพึงประสงค
ตามแนวคานิยม 12 ประการ
ชื่อ…………………………………………………..ชั้น……………………เริ่มเวลา.......................เสร็จเวลา...............
คําช้ีแจง
แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค ตามแนวคานิยม 12 ประการ นี้ ใชประเมินคุณลักษณะอันพึง
ประสงคท้ัง 12 ประการ ไดแก
1. มีความรักชาติ ศาสน กษัตริย
2. มีความซ่ือสัตยสุจริต
3. กตัญูตอพอแมครูอาจารย
4. ใฝหาความรู หม่ันศึกษาเลาเรียน ท้ังทางตรงและทางออม
5. รักษาวัฒนธรรม ประเพณีไทย
6. มีศีลธรรม รักษาความสัตย
7. เขาใจ เรียนรูการเปนประชาธิปไตย
8. มีระเบียบ วินัย เคารพกฎหมาย ผูนอยรูจักเคารพผูใหญ
9. มีสติ รูตัว รูคิด รูทํา
10. รูจักดํารงตนอยูโดยใชหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
11. มีความเขมแข็งท้ังรางกาย และจิตใจไมยอมแพตออํานาจ ฝายต่ํา
12. คํานึงถึงผลประโยชนของสวนรวม และของชาติมากกวาผลประโยชนของตนเอง
โดยในแตละคุณลักษณะตามแนวคานิยม 12 ประการ จะประกอบไปดวยตัวชี้วัด และตัวชี้วัด
แตละตัว จะมีพฤติกรรมบงชี้ ท่ีจําแนกตามระดับคะแนน ดังนี้
3 หมายถึง มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับ ดี
2 เทากับ มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับ ปานกลาง
1 เทากับ มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับพอใช
0 เทากับ มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับ ตองปรับปรุง
5
คุณลักษณะอันพึงประสงคตาม
แนวคานิยม 12 ประการ และตัวชี้วัด
ระดับคุณภาพ
3 2 1 0
1. รักชาติ ศาสน กษัตริย ตัวชี้วัด เปนพลเมืองดีของชาติ ธํารงไวซึ่งความเปนไทย มีความศรัทธายึดมั่น
ปฏิบัติตนตามหลักของศาสนา และเคารพเทิดทูนสถาบนัพระมหากษัตริย
2. ซื่อสัตย สุจริต ตัวชี้วัด ประพฤติตนตรงตามความเปนจริงตอตนเอง และผูอ่ืนทัง้ทางกาย วาจา ใจ
3. กตัญูตอพอแมครูอาจารย ตัวชี้วัด เอาใจใส ดูแลชวยเหลือภารกิจ การงาน ปฏิบัตตินตามคาสัง่สอนที่ถูกตอง และเหมาะสม
4. ใฝหาความรู หม่ันศึกษาเลาเรียน ทั้งทางตรง และทางออม ตัวชี้วัด ตั้งใจเพียรพยายาม ในการเรียน และเขารวมกิจกรรม แสวงหาความรูจาก แหลงเรียนรูตางๆทั้งภายใน และภายนอกโรงเรียนดวยการเลือกใชสื่ออยางเหมาะสม สรุปเปนองคความรู สามารถนําไปใชในชีวิตประจําวันได
5. รักษาวัฒนธรรม ประเพณีไทย ตัวชี้วัด ภาคภูมิใจในขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปวฒันธรรมไทยและม ีความกตัญูกตเวทีเห็นคุณคา และใชภาษาไทยในการสื่อสารไดอยางถูกตองเหมาะสม และอนุรักษ สืบทอด ภูมิปญญาไทย
6. มีศีลธรรม รักษาความสัตย ตัวชี้วัด ปฏิบัติโดยยึดตามกติกา ขอตกลง/กฎ/ระเบียบของโรงเรียน
7. เขาใจ เรียนรูการเปนประชาธิปไตย ตัวชี้วัด เขารวมกิจกรรมเก่ียวกับประชาธิปไตย
8. มีระเบียบ วินัย เคารพกฎหมาย ผูนอยรูจักเคารพผูใหญ ตัวชี้วัด ตรงตอเวลา ปฏิบัติตามขอตกลง กฎเกณฑ ระเบียบ ขอบังคับ
ของครอบครัว โรงเรียนและสังคม
9. มีสติ รูตัว รูคิด รูทํา ตัวชี้วัด คิดดี พูดดี ทําดีสุภาพเรียบรอย ออนนอมถอมตนรอบคอบเหมาะสมกับวัย
10.รูจักดํารงตนอยูโดยใชหลักปรัชญาของเศรษฐกจิพอเพียง ตัวชี้วัด ดําเนินชีวิตอยางพอประมาณ มีเหตุผล รอบคอบ มีคุณธรรม รวมทั้งมีภูมิคุมกัน
ในตัวที่ดี ปรับตัวเพื่ออยูในสังคมไดอยางมีความสุข
11. มีความเขมแข็งทั้งรางกาย และจิตใจไมยอมแพตออํานาจ ฝายต่ํา ตัวชี้วัด รักษาสุขภาพรายกายตามสุขอนามัย ไมเก่ียวของกับอบายมุข
12. คํานึงถึงผลประโยชนของสวนรวม และของชาติมากกวาผลประโยชนของตนเอง ตัวชี้วัด มีจิตอาสา อุทิศตนเพื่อประโยชนตอสังคม และสวนรวม ทําประโยชนแกผูอ่ืน
คะแนนที่ได
คะแนนรวม
6
เกณฑ ผานตัวช้ีวัด
28-36 เทากับ ดี
19-27 เทากับ ปานกลาง
10-18 เทากับ พอใช
0-9 เทากับ ตองปรับปรุง
ผูประเมิน.............................................. (...............................................................)
ระดับคะแนนท่ีได
1
แผนการจัดการเรียนรูที่ 10 หนวยท่ี 5 (ครั้งท่ี 10)
รายวิชา พลศึกษาเพ่ือพัฒนาสุขภาพ(รหัส 2000-1601) เวลาเรียนรวม 36 คาบ
ช่ือหนวย หนวยท่ี 5 กายบริหารเพ่ือสุขภาพ สอนครั้งท่ี 10 /18
สาระสําคัญ
กายบริหารเปนกิจกรรมการเคลื่อนไหวของรางกายท่ีชวยเสริมสรางสุขภาพและความแข็งแรงของ
อวัยวะตางๆ กายบริหารชวยเสริมสรางความแข็งแรงของกลามเนื้อทุกสวน คือ คอ ไหล อก ลําตัว หลังสะโพก
ตนขา แขน ขอมือ และนิ้วมือ รวมท้ังระบบไหลเวียนโลหิต ทําใหเกิดระบบภูมิคุมกันและ ชวยปองกัน
โรคตางๆ ตลอดจนเพ่ือลดความเครียด เพ่ือสรางสุขภาพทางกายและจิตใหสมบูรณ จนมีสมรรถภาพทางกายท่ี
ดี
สาระการเรียนรู
1.ทากายบริหารกลามเนื้อคอและไหล
2. ทากายบริหารกลามเนื้ออก
3. ทากายบริหารกลามเนื้อลําตัวและหลัง
4. ทากายบริหารกลามเนื้อสะโพกและตนขา
5. ทากายบริหารกลามเนื้อแขน ขอมือ และนิ้วมือ
จุดประสงคเชิงพฤติกรรม
บริหารรางกายเพ่ือสุขภาพได
สมรรถนะประจําหนวย
บริหารอวัยวะทุกสวนเพ่ือสรางสมรรถภาพทางกาย
สอนครั้งท่ี 10/18
1. ข้ันการนําเขาสูบทเรียน
1.1 ครูทบทวนเรื่องการเขียนโครงงานท่ีสนใจในการเรียนครั้งท่ีแลว
1.2 นักเรียนและครูรวมกันสนทนา เรื่อง กายบริหารรางกายเพ่ือสุขภาพ
1.3 ครูกลาวถึง ทากายบริหารในสวนตางๆของรางกาย
1.4 ครูนําเขาสูบทเรียนโดยถามถึง “ทากายบริหารในสวนตางๆของรางกาย” ท่ีนักเรียนรูจัก
1.5 นักเรียนและครูรวมกันสนทนาเก่ียวกับทากายบริหารท่ีนาสนใจ ดังนี้
2
ทาท่ี 1.ทากายบริหารกลามเนื้อคอและไหล
ทาท่ี 2. ทากายบริหารกลามเนื้ออก
ทาท่ี 3. ทากายบริหารกลามเนื้อลําตัวและหลัง
ทาท่ี 4. ทากายบริหารกลามเนื้อสะโพกและตนขา
ทาท่ี 5. ทากายบริหารกลามเนื้อแขน ขอมือ และนิ้วมือ
2. ข้ันการสอน
นอกหองเรียน
2.1 นักเรียนลงสนามเพ่ือปฏิบัติทากายบริหารตาง ๆ โดยครูใหนักเรียนจัดแถวเปนรูปครึ่งวงกลม
2.2 นักเรียนทุกคนอบอุนรางกาย โดยมีนักเรียนอาสาสมัครเปนผูนํา
2.3 ครูอธิบายและสาธิตทากายบริหาร
2.4 ครูใหนักเรียนปฏิบัติทากายบริหาร ตามท่ีครูอธิบาย ดังนี้
1. ทากายบริหารกลามเนื้อคอและไหล
ทาท่ี 1 กายบริหารกลามเนื้อคอดานขาง (หมุน)
วิธีการปฏิบัติ
ทาเตรียม นั่งบนเกาอ้ี ลําตัวตรง หลังตรง
1. หันศีรษะไปทางขวาชา ๆ คางไว นับ 1 - 5
นักเรียน
ครู
3
2. หันกลับมาหนาตรง หยุดพักสักครู
3. หันศีรษะไปทางซายชา ๆ คางไว นับ 1 - 5
4. ปฏิบัติซํ้าขอ 1 - 3 จํานวน 5 - 10 ครั้ง
ทาท่ี 2 กายบริหารกลามเนื้อคอดานขาง (เอียง)
วิธีการปฏิบัติ
ทาเตรียม นั่งบนเกาอ้ี ลําตัวตรง หลังตรง
1. เอียงคอไปดานขวา พยายามใหหูเขาใกลไหล (อยายกไหลข้ึนมา)คางไว นับ 1 - 5
2. เอียงคอกลับในดานศีรษะตรงหยุดพักสักครู
3. เอียงคอไปดานซาย ปฏิบัติเชนกัน คิดเปน 1 รอบ
4. ปฏิบัติซํ้า ขอ 1 - 3 จํานวน 5 รอบ
ทาท่ี 3 กายบริหารกลามเนื้อคอดานหนาและดานหลัง
วิธีการปฏิบัติ
ทาเตรียม นั่งบนเกาอ้ี ลําตัวตรง หลังตรง
4
1. กมศีรษะ พยายามใหคางสัมผัสอกหยุดคางไว นับ 1 - 5
2. เงยหนาข้ึนชา ๆ ไปดานหลัง เทาท่ีจะทําได
3. ปฏิบัติซํ้าขอ 1 - 2 ซํ้า จํานวน 5 ครั้ง
ทาท่ี 4 กายบริหารกลามเนื้อไหล (ยันฝามือ)
วิธีการปฏิบัติ
ทาเตรียม นั่งบนเกาอ้ี ลําตัวตรง หลังตรง
1. ยกแขน 2 ขางออกนอกลําตัว งอขอศอก ขนานกับพ้ืนฝามือประสานกัน
2. ออกแรงดันตานกัน คางไวนับ 1 - 5
3. ปฏิบัติซํ้า 5 ครั้ง
ทาท่ี 5 กายบริหารกลามเนื้อไหล(ยกไหล)
วิธีการปฏิบัติ
ทาเตรียม นั่งบนเกาอ้ี ลําตัวตรง หลังตรง
1. ยกแขน 2 ขางออกนอกลําตัว งอขอศอก ขนานกับพ้ืนฝามือประสานกัน
2. ออกแรงดันตานกัน คางไวนับ 1 - 5
5
3. ปฏิบัติซํ้า 5 ครั้ง
ทาท่ี 6 กายบริหารกลามเนื้อไหลและสะบัก(หมุน)
วิธีการปฏิบัติ
ทาเตรียม นั่งบนเกาอ้ีหรือยืน ลําตัวตรง หลังตรง
1. แขนท้ังสองเหยียดตรงกางออกขางลําตัว
2. หมุนขอไหลใหเปนวงกลมกวางท่ีสุดเทาท่ีจะกวางได
3. หมุนไปดานหนา
4. หมุนยอนกลับไปดานหลัง
5. ปฏิบัติดานละ 5 - 10 ครั้ง
ทาท่ี 7 กายบริหารกลามเนื้อไหลและสะบัก(ยืดแขนไปหนา)
วิธีการปฏิบัติ
ทาเตรียม นั่งบนเกาอ้ี ลําตัวตรง หลังตรง
1. ประสานมือไวระดับหนาอก
2. หันฝามือออกยืดแขนไปดานหนา คางไวนับ 1 - 5
3. ปฏิบัติซํ้าขอ 1 - 2 จํานวน 5 ครั้ง
6
2. ทากายบริหารกลามเนื้ออก
ทาท่ี 8 กายบริหารกลามเนื้ออก (เหยียดไปหลัง)
วิธีการปฏิบัติ
ทาเตรียม นั่งบนเกาอ้ี ลําตัวตรง หลังตรง
1. เหยียดแขนไปดานหลัง ประสานมือท้ังสองขางเขาดวยกัน หันฝามือออกนอกลําตัว
2. ยืดหดบริเวณขอศอกชาๆ และพยายามใหแขนท้ังสองขางเหยียดตรง (ฝามือยังคง
ประสานกันอยู)
3. นั่งใหลําตัวตรง บริเวณหนาอกตั้ง คางไวนับ 1 – 5
ทาท่ี 9 กายบริหารกลามเนื้ออก(กางแขนออก)
วิธีการปฏิบัติ
ทาเตรียม นั่งบนเกาอ้ี ลําตัวตรง หลังตรง
1. นั่งตัวตรง กางแขนระดับไหลดังรูป (1)
2. นําแขนชิดกันดังรูป (2) แลวกางออก
3. ปฏิบัติซํ้า 10 - 15 ครั้ง
7
ทาท่ี 10 กายบริหารกลามเนื้ออก (ดันตัว)
วิธีการปฏิบัติ
ทาเตรียม กมตัววางแขนกวางชวงไหลกับโตะจัดลําตัวใหตรง เขาตึงยกสนเทาข้ึน
1. ดันตัวกับโตะทํางาน งอศอกข้ึนลงชาๆ
2. ปฏิบัติ 10 - 15 ครั้ง
3. ทากายบริหารกลามเนื้อลําตัวและหลัง
ทาท่ี 11 กายบริหารกลามเนื้อลําตัวดานขาง(ชูแขนเอียงตัว)
วิธีการปฏิบัติ
ทาเตรียม นั่งบนเกาอ้ี ลําตัวตรง หลังตรง
1. นั่งตัวตรง กางแขนระดับไหลดังรูป (1)
2. นําแขนชิดกันดังรูป (2) แลวกางออก
3. ปฏิบัติซํ้า 10 - 15 ครั้ง
8
ทาท่ี 12 กายบริหารกลามเนื้อลําตัว (ยกสองแขน)
วิธีการปฏิบัติ
ทาเตรียม นั่งบนเกาอ้ี ลําตัวตรง หลังตรง
1. ยกแขน 2 ขางข้ึน มือประสานไวท่ีเหนือศีรษะ
2. ยืดแขน 2 ขางเหนือศีรษะเต็มท่ี คางไวนับ 1 - 5
3. ปฏิบัติซํ้า 5 ครั้ง
ทาท่ี 13 กายบริหารกลามเนื้อหลังสวนลาง
วิธีการปฏิบัติ
ทาเตรียม นั่งบนเกาอ้ี ลําตัวตรง หลังตรง
1. กมตัวลงเอาปลายนิ้วมือแตะพ้ืน จนกระท่ังเริ่มมีอาการตึงหลัง
2. คางไวนับ 1 - 5 แลวกลับสูทาเริ่มตน
3. ปฏิบัติ 5 ครั้ง
9
ทาท่ี 14 กายบริหารกลามเนื้อหลังสวนบน
วิธีการปฏิบัติ
ทาเตรียม นั่งบนเกาอ้ี ลําตัวตรง หลังตรง
1. ประสานมือไวบริเวณดานหลังศรีษะ
2. ขอศอกท้ังสองดานกางออกนอกลําตัว
3. คอยๆดึงไหลเขา - ออก พรอมกัน คางไวนับ 1 - 5
4. ปฏิบัติ 5 ครั้ง
ทาท่ี 15 กายบริหารกลามเนื้อลําตัวดานขาง
วิธีการปฏิบัติ
ทาเตรียม นั่งบนเกาอ้ี ลําตัวตรง หลังตรง
1. บิดลําตัวไปดานขวา มือหันไปจับพนักเกาอ้ี
2. คางไวนับ 1 - 5 ทําสลับขาง
3. ปฏิบัติขางละ 5 ครั้ง
10
4. ทากายบริหารกลามเนื้อสะโพกและตนขา
ทาท่ี 16 กายบริหารกลามเนื้อตนขาดานหนา
วิธีการปฏิบัติ
ทาเตรียม นั่งบนเกาอ้ี ลําตัวตรง หลังตรง งอเขา
1. มือจับเกาอ้ีขางลําตัว เหยียดเขาใหขาเหยียดตึง ปลายเทาชี้ข้ึนอยูในแนวตรง
2. คางไวนับ 1 - 5 กลับสูทาเตรียม
3. ปฏิบัติสลับขาง ขางละ 5-10 ครั้ง
ทาท่ี 17 กายบริหารกลามเนื้อตนขาดานหลัง
วิธีการปฏิบัติ
ทาเตรียม นั่งบนเกาอ้ี ลําตัวตรง หลังตรง
1. ยกเขาขวามือจับใตเขา ดึงเขาหาอก (ลําตัวตรง)
2. คางไวนับ 1 - 5 กลับสูทาเตรียม
3. ปฏิบัติสลับขาง ขางละ 5 - 10 ครั้ง
11
ทาท่ี 18 กายบริหารกลามเนื้อสะโพกและตนขา
วิธีการปฏิบัติ
ทาเตรียม ยืนตรง แยกเทากวางหนึ่งชวงไหล
1. ยอตัวนั่งกนแตะเกาอ้ี
2. ยืนข้ึนกลับสูทาเริ่มตน (ปฏิบัติตอเนื่อง)
3. ปฏิบัติ 5 - 10 ครั้ง
ทาท่ี 19 กายบริหารกลามเนื้อสะโพก
วิธีการปฏิบัติ
ทาเตรียม นั่งบนเกาอ้ีในลักษณะไขวหางพาดขาซายไวบนขาขวา
1. วางมือขวาไวบนเขาซาย ใหแขนซายพาดบนพนักเกาอ้ี
2. บิดตัวไปทางดานซาย คางไวนับ 1 - 5
3. ปฏิบัติสลับขาง ขางละ 3 - 5 ครั้ง
12
ทาท่ี 20 กายบริหารกลามเนื้อสะโพกและตนขา (เตะขาไปหลัง)
วิธีการปฏิบัติ
ทาเตรียม ยืนมือจับเกาอ้ี ยืนเทาดานหนึ่งเปนหลัก
1. เตะขาขางท่ีเหยียดตรงไปดานหนาและดานหลัง
2. ปฏิบัติจํานวน 5 - 10 ครั้ง/รอบ
3. ปฏิบัติสลับขาง ขางละ 5 รอบ
ทาท่ี 21 กายบริหารกลามเนื้อนอง (นั่งเหยียด)
วิธีการปฏิบัติ
ทาเตรียม นั่งหลังตรงยกขาเหยียดเทาไปดานหนา
1. กระดกปลายเทาข้ึน - ลงชา
2. ปฏิบัติ 10 - 20 ครั้ง
13
ทาท่ี 22 กายบริหารกลามเนื้อนอง(ยืนเขยง)
วิธีการปฏิบัติ
ทาเตรียม ยืนตรง แยกเทากวางเล็กนอย เอามือจับเกาอ้ี
1. เขยงขาข้ึนลงชาๆ
2. ปฏิบัติ 10 - 20 ครั้ง
ทาท่ี 23 กายบริหารกลามเนื้อนอง (ถอยเทาไปหลัง)
วิธีการปฏิบัติ
ทาเตรียม ยืนตรง เทาหางจากโตะเล็กนอย
1. ถอยเทาขวาไปดานหลัง งอเขาซาย
2. กดสนเทาขวาแนบกับพ้ืน
3. คางไวนับ 1 - 5
4. จากนั้นสลับขางปฏิบัติในลักษณะเดียวกัน
14
5. ทากายบริหารกลามเนื้อแขน ขอมือ และนิ้วมือ
ทาท่ี 24 กายบริหารกลามเนื้อแขน
วิธีการปฏิบัติ
ทาเตรียม นั่งบนเกาอ้ี ลําตัวตรง
1. ยกแขนขวา สูงระดับศีรษะ งอศอกขวา ผานดานหลังศีรษะ
2. ใชมือซายจับบริเวณ ขอศอกขวา ออกแรงดึงขอศอกขวา ไปทางดานหลัง คางไว นับ 1 - 5
3. ปฏิบัติซํ้า 5 - 10 ครั้ง แลวสลับขาง
ทาท่ี 25 กายบริหารกลามเนื้อแขนและขอมือ(แบมือ)
วิธีการปฏิบัติ
ทาเตรียม นั่งบนเกาอ้ี ลําตัวตรง
1. แบมือกระดกขอมือข้ึนและลง
2. พยายามเคลื่อนไหวใหไดชวงการเคลื่อนไหวท่ีมากท่ีสุดเทาท่ีจะทําได
3. ปฏิบัติชาๆ 20 ครั้ง4. จากนั้นสลับขางปฏิบัติในลักษณะเดียวกัน
15
ทาท่ี 26 กายบริหารกลามเนื้อแขนและขอมือ(ควํ่า-หงายขอมือ)
วิธีการปฏิบัติ
ทาเตรียม นั่งบนเกาอ้ี แขนเหยียดตรงไปดานหนา
1. คว่ํามือขางท่ีตองการบริหารลง ใชมืออีกขางจับหลังมือ แลวคอยๆ
กดหลังมือลงชาๆ จนรูสึกตึงบริเวณขอมือ คางไวนับ 1 - 5
2. เลื่อนมือมาจับบริเวณนิ้วมือท้ัง 4 นิ้วของมือขางท่ีตองการจะยืด แลวคอยๆยืดใน
ทิศทางท่ีขอมือกระดกข้ึน โดยท่ีนิ้วท้ัง 4 เหยียดตรงยืดจนรูสึกตึงบริเวณขอมือ คางไวนับ 1 - 5
3. ท้ังสองทาปฏิบัติสลับกันชาๆ 10 ครั้ง
ทาท่ี 27 กายบริหารนิ้วมือ
วิธีการปฏิบัติ
ทาเตรียม นั่งบนเกาอ้ี ลําตัวตรง แบมือ
1. งอนิ้วมือโดยใหปลายนิ้วแตะบริเวณโคนนิ้วท้ัง 4 ชาๆ ซ่ึงอุงมือจะตองไมกําเขามาจนสุด
2. คอยๆคลายออกใหนิ้วเหยียดตรง สลับขาง
3. ปฏิบัติขางละ 10 ครั้ง
16
2.5 ครูคอยใหคําแนะนํานักเรียนในการทําทากายบริหาร
3. ข้ันสรุป
3.1 ครูและนักเรียนรวมกันสรุปเนื้อหา โดยใชหนังสือเรียนเปนสื่อ
3.2 ครูเสริมแรง และเพ่ิมเติมประเด็นท่ีขาดหาย เพ่ือเติมเต็มผลการเรียนรู
3.3 ครูสรุปภาพรวมท้ังหมดในเรื่อง หนวยท่ี 5 และ กลาวถึงการเรียนในครั้งตอไปโดยใหนักเรียน
ปฏิบัติทากายบริหารอีกครั้ง
4. ข้ันวัด และประเมินผล
4.1 ครูสุมถามนักเรียนในประเด็นหัวขอท่ีเรียนรู
4.2 ครูกลาวถึงการเรียนรูในครั้งตอไป โดยใหนักเรียนเปลี่ยนชุดพลศึกษาตามขอตกลง
สื่อการเรียนรู
1. เนื้อหาความรู ในหนังสือวิชาพลศึกษาเพ่ือพัฒนาสุขภาพ (รหัส 2000-1601) หนวยท่ี 5
2. ใบปฏิบัติกิจกรรมท่ี 5
การวัดผล และประเมินผล
เครื่องมือ และเกณฑการประเมิน
1. หนังสือวิชาพลศึกษาเพ่ือพัฒนาสุขภาพ (รหัส 2000-1601)
2. แบบประเมินใบปฏิบัติกิจกรรมท่ี 5 โดยทําแบบประเมินผลการปฏิบัติ
4. แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค ตามแนวคานิยม 12 ประการ
(การผานเกณฑ ผาน 10 ใน 12 ขอ)
บันทึกหลงัการสอน
1. ผลการใชแผนการจัดการเรียนรู
..............................................................................................................................................................................
2. ผลการเรียนของนักเรียน/ผลการสอนของครู/ปญหาท่ีพบ
..............................................................................................................................................................................
3. แนวทางการแกปญหา
..............................................................................................................................................................................
ลงชื่อ...............................................
(.............................................)
ครูผูสอน
17
แบบประเมิน คุณลักษณะอันพึงประสงค
ตามแนวคานิยม 12 ประการ
ชื่อ…………………………………………………..ชั้น……………………เริ่มเวลา.......................เสร็จเวลา...............
คําช้ีแจง
แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค ตามแนวคานิยม 12 ประการ นี้ ใชประเมินคุณลักษณะอันพึง
ประสงคท้ัง 12 ประการ ไดแก
1. มีความรักชาติ ศาสน กษัตริย
2. มีความซ่ือสัตยสุจริต
3. กตัญูตอพอแมครูอาจารย
4. ใฝหาความรู หม่ันศึกษาเลาเรียน ท้ังทางตรงและทางออม
5. รักษาวัฒนธรรม ประเพณีไทย
6. มีศีลธรรม รักษาความสัตย
7. เขาใจ เรียนรูการเปนประชาธิปไตย
8. มีระเบียบ วินัย เคารพกฎหมาย ผูนอยรูจักเคารพผูใหญ
9. มีสติ รูตัว รูคิด รูทํา
10. รูจักดํารงตนอยูโดยใชหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
11. มีความเขมแข็งท้ังรางกาย และจิตใจไมยอมแพตออํานาจ ฝายต่ํา
12. คํานึงถึงผลประโยชนของสวนรวม และของชาติมากกวาผลประโยชนของตนเอง
โดยในแตละคุณลักษณะตามแนวคานิยม 12 ประการ จะประกอบไปดวยตัวชี้วัด และตัวชี้วัด
แตละตัว จะมีพฤติกรรมบงชี้ ท่ีจําแนกตามระดับคะแนน ดังนี้
3 หมายถึง มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับ ดี
2 เทากับ มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับ ปานกลาง
1 เทากับ มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับพอใช
0 เทากับ มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับ ตองปรับปรุง
18
คุณลักษณะอันพึงประสงคตาม
แนวคานิยม 12 ประการ และตัวชี้วัด
ระดับคุณภาพ
3 2 1 0
1. รักชาติ ศาสน กษัตริย ตัวชี้วัด เปนพลเมืองดีของชาติ ธํารงไวซึ่งความเปนไทย มีความศรัทธายึดมั่น
ปฏิบัติตนตามหลักของศาสนา และเคารพเทิดทูนสถาบนัพระมหากษัตริย
2. ซื่อสัตย สุจริต ตัวชี้วัด ประพฤติตนตรงตามความเปนจริงตอตนเอง และผูอ่ืนทัง้ทางกาย วาจา ใจ
3. กตัญูตอพอแมครูอาจารย ตัวชี้วัด เอาใจใส ดูแลชวยเหลือภารกิจ การงาน ปฏิบัตตินตามคาสัง่สอนที่ถูกตอง และเหมาะสม
4. ใฝหาความรู หม่ันศึกษาเลาเรียน ทั้งทางตรง และทางออม ตัวชี้วัด ตั้งใจเพียรพยายาม ในการเรียน และเขารวมกิจกรรม แสวงหาความรูจาก แหลงเรียนรูตางๆทั้งภายใน และภายนอกโรงเรียนดวยการเลือกใชสื่ออยางเหมาะสม สรุปเปนองคความรู สามารถนําไปใชในชีวิตประจําวันได
5. รักษาวัฒนธรรม ประเพณีไทย ตัวชี้วัด ภาคภูมิใจในขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปวฒันธรรมไทยและม ีความกตัญูกตเวทีเห็นคุณคา และใชภาษาไทยในการสื่อสารไดอยางถูกตองเหมาะสม และอนุรักษ สืบทอด ภูมิปญญาไทย
6. มีศีลธรรม รักษาความสัตย ตัวชี้วัด ปฏิบัติโดยยึดตามกติกา ขอตกลง/กฎ/ระเบียบของโรงเรียน
7. เขาใจ เรียนรูการเปนประชาธิปไตย ตัวชี้วัด เขารวมกิจกรรมเก่ียวกับประชาธิปไตย
8. มีระเบียบ วินัย เคารพกฎหมาย ผูนอยรูจักเคารพผูใหญ ตัวชี้วัด ตรงตอเวลา ปฏิบัติตามขอตกลง กฎเกณฑ ระเบียบ ขอบังคับ
ของครอบครัว โรงเรียนและสังคม
9. มีสติ รูตัว รูคิด รูทํา ตัวชี้วัด คิดดี พูดดี ทําดีสุภาพเรียบรอย ออนนอมถอมตนรอบคอบเหมาะสมกับวัย
10.รูจักดํารงตนอยูโดยใชหลักปรัชญาของเศรษฐกจิพอเพียง ตัวชี้วัด ดําเนินชีวิตอยางพอประมาณ มีเหตุผล รอบคอบ มีคุณธรรม รวมทั้งมีภูมิคุมกัน
ในตัวที่ดี ปรับตัวเพื่ออยูในสังคมไดอยางมีความสุข
11. มีความเขมแข็งทั้งรางกาย และจิตใจไมยอมแพตออํานาจ ฝายต่ํา ตัวชี้วัด รักษาสุขภาพรายกายตามสุขอนามัย ไมเก่ียวของกับอบายมุข
12. คํานึงถึงผลประโยชนของสวนรวม และของชาติมากกวาผลประโยชนของตนเอง ตัวชี้วัด มีจิตอาสา อุทิศตนเพื่อประโยชนตอสังคม และสวนรวม ทําประโยชนแกผูอ่ืน
คะแนนที่ได
คะแนนรวม
19
เกณฑ ผานตัวช้ีวัด
28-36 เทากับ ดี
19-27 เทากับ ปานกลาง
10-18 เทากับ พอใช
0-9 เทากับ ตองปรับปรุง
ผูประเมิน.............................................. (...............................................................)
ระดับคะแนนท่ีได
1
แผนการจัดการเรียนรูที่ 11 หนวยท่ี 5 (ครั้งท่ี 11)
รายวิชา พลศึกษาเพ่ือพัฒนาสุขภาพ(รหัส 2000-1601) เวลาเรียนรวม 36 คาบ
ช่ือหนวย หนวยท่ี 5 กายบริหารเพ่ือสุขภาพ สอนครั้งท่ี 11 /18
สาระสําคัญ
กายบริหารเปนกิจกรรมการเคลื่อนไหวของรางกายท่ีชวยเสริมสรางสุขภาพและความแข็งแรงของ
อวัยวะตางๆ กายบริหารชวยเสริมสรางความแข็งแรงของกลามเนื้อทุกสวน คือ คอ ไหล อก ลําตัว หลังสะโพก
ตนขา แขน ขอมือ และนิ้วมือ รวมท้ังระบบไหลเวียนโลหิต ทําใหเกิดระบบภูมิคุมกันและ ชวยปองกัน
โรคตางๆ ตลอดจนเพ่ือลดความเครียด เพ่ือสรางสุขภาพทางกายและจิตใหสมบูรณ จนมีสมรรถภาพทางกายท่ี
ดี
สาระการเรียนรู
1.ทากายบริหารกลามเนื้อคอและไหล
2. ทากายบริหารกลามเนื้ออก
3. ทากายบริหารกลามเนื้อลําตัวและหลัง
4. ทากายบริหารกลามเนื้อสะโพกและตนขา
5. ทากายบริหารกลามเนื้อแขน ขอมือ และนิ้วมือ
จุดประสงคเชิงพฤติกรรม
บริหารรางกายเพ่ือสุขภาพได
สมรรถนะประจําหนวย
บริหารอวัยวะทุกสวนเพ่ือสรางสมรรถภาพทางกาย
สอนครั้งท่ี 10/18
1. ข้ันการนําเขาสูบทเรียน
1.1 ครูทบทวนเรื่องการปฏิบัติกายบริหารในการเรียนครั้งท่ีแลว
1.2 นักเรียนและครูรวมกันสนทนา เรื่อง กายบริหารรางกายเพ่ือสุขภาพ
1.3 นักเรียนและครูรวมกันสนทนาเก่ียวกับทากายบริหารท่ีนาสนใจ อีกครั้ง โดยครั้งนี้ ครูแบง
นักเรียนออกเปน 5 กลุม โดยแตละกลุม ครูขออาสาสมัครเปนผูนําในการปฏิบัติกายบริหาร
ทาท่ี 1.ทากายบริหารกลามเนื้อคอและไหล
ทาท่ี 2. ทากายบริหารกลามเนื้ออก
2
ทาท่ี 3. ทากายบริหารกลามเนื้อลําตัวและหลัง
ทาท่ี 4. ทากายบริหารกลามเนื้อสะโพกและตนขา
ทาท่ี 5. ทากายบริหารกลามเนื้อแขน ขอมือ และนิ้วมือ
2. ข้ันการสอน
นอกหองเรียน
2.1 นักเรียนลงสนามเพ่ือปฏิบัติทากายบริหารตาง ๆ โดยครูใหนักเรียนจัดแถวเปนรูปครึ่งวงกลม
2.2 นักเรียนทุกคนอบอุนรางกาย โดยมีนักเรียนอาสาสมัครเปนผูนํา
2.3 ครูอธิบายและสาธิตทากายบริหาร อีกครั้ง
2.4 ครูใหนักเรียนปฏิบัติทากายบริหาร ตามฐานตาง ๆ โดยแบงเปน 5 ฐาน ดังนี้
2.5 ครูคอยใหคําแนะนํานักเรียนในการทําทากายบริหารท้ัง 5 ฐานกายบริหาร ดังรูป
นักเรียนอาสาสมัคร คร ู
ทาท่ี 1.ทากายบริหารกลามเนื้อคอและไหล ทาท่ี 2. ทากายบริหารกลามเนื้ออก
ทาท่ี 3. ทากายบริหารกลามเนื้อลําตัวและหลัง ทาท่ี 4. ทากายบริหารกลามเนื้อสะโพกและตนขา
นักเรียน
ครู
3
ทาท่ี 5. ทากายบริหารกลามเนื้อแขน ขอมือ และนิ้วมือ
2.6 นักเรียนใชวิธีการเวียนฐานในการปฏิบัติทากายบริการ จาก ฐาน 1 -> ฐาน 2 -> ฐาน 3->
ฐาน 3-> ฐาน 4 -> ฐาน 5 -> ฐาน 1
3. ข้ันสรุป
3.1 ครูและนักเรียนรวมกันสรุปเนื้อหา โดยใชหนังสือเรียนเปนสื่อ
3.2 ครูเสริมแรง และเพ่ิมเติมประเด็นท่ีขาดหาย เพ่ือเติมเต็มผลการเรียนรู
3.3 ครูสรุปภาพรวมท้ังหมดในเรื่อง หนวยท่ี 5 และ กลาวถึงการเรียนในครั้งตอไปโดยใหนักเรียน
ศึกษาหลักการและรูปแบบการออกกําลังกายดวยกีฬา
4. ข้ันวัด และประเมินผล
4.1 ครูสุมถามนักเรียนในประเด็นหัวขอท่ีเรียนรู
4.2 ครูกลาวถึงการเรียนรูในครั้งตอไป โดยใหนักเรียนเปลี่ยนชุดพลศึกษาตามขอตกลง
สื่อการเรียนรู
1. เนื้อหาความรู ในหนังสือวิชาพลศึกษาเพ่ือพัฒนาสุขภาพ (รหัส 2000-1601) หนวยท่ี 5
2. ใบปฏิบัติกิจกรรมท่ี 5
การวัดผล และประเมินผล
เครื่องมือ และเกณฑการประเมิน
1. หนังสือวิชาพลศึกษาเพ่ือพัฒนาสุขภาพ (รหัส 2000-1601)
2. แบบประเมินใบปฏิบัติกิจกรรมท่ี 5 โดยทําแบบประเมินผลการปฏิบัติ
4. แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค ตามแนวคานิยม 12 ประการ
(การผานเกณฑ ผาน 10 ใน 12 ขอ)
4
บันทึกหลงัการสอน
1. ผลการใชแผนการจัดการเรียนรู
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
2. ผลการเรียนของนักเรียน/ผลการสอนของครู/ปญหาท่ีพบ
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
3. แนวทางการแกปญหา
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
ลงชื่อ...............................................
(.............................................)
ครูผูสอน
5
แบบประเมิน คุณลักษณะอันพึงประสงค
ตามแนวคานิยม 12 ประการ
ชื่อ…………………………………………………..ชั้น……………………เริ่มเวลา.......................เสร็จเวลา...............
คําช้ีแจง
แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค ตามแนวคานิยม 12 ประการ นี้ ใชประเมินคุณลักษณะอันพึง
ประสงคท้ัง 12 ประการ ไดแก
1. มีความรักชาติ ศาสน กษัตริย
2. มีความซ่ือสัตยสุจริต
3. กตัญูตอพอแมครูอาจารย
4. ใฝหาความรู หม่ันศึกษาเลาเรียน ท้ังทางตรงและทางออม
5. รักษาวัฒนธรรม ประเพณีไทย
6. มีศีลธรรม รักษาความสัตย
7. เขาใจ เรียนรูการเปนประชาธิปไตย
8. มีระเบียบ วินัย เคารพกฎหมาย ผูนอยรูจักเคารพผูใหญ
9. มีสติ รูตัว รูคิด รูทํา
10. รูจักดํารงตนอยูโดยใชหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
11. มีความเขมแข็งท้ังรางกาย และจิตใจไมยอมแพตออํานาจ ฝายต่ํา
12. คํานึงถึงผลประโยชนของสวนรวม และของชาติมากกวาผลประโยชนของตนเอง
โดยในแตละคุณลักษณะตามแนวคานิยม 12 ประการ จะประกอบไปดวยตัวชี้วัด และตัวชี้วัด
แตละตัว จะมีพฤติกรรมบงชี้ ท่ีจําแนกตามระดับคะแนน ดังนี้
3 หมายถึง มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับ ดี
2 เทากับ มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับ ปานกลาง
1 เทากับ มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับพอใช
0 เทากับ มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับ ตองปรับปรุง
6
คุณลักษณะอันพึงประสงคตาม
แนวคานิยม 12 ประการ และตัวชี้วัด
ระดับคุณภาพ
3 2 1 0
1. รักชาติ ศาสน กษัตริย ตัวชี้วัด เปนพลเมืองดีของชาติ ธํารงไวซึ่งความเปนไทย มีความศรัทธายึดมั่น
ปฏิบัติตนตามหลักของศาสนา และเคารพเทิดทูนสถาบนัพระมหากษัตริย
2. ซื่อสัตย สุจริต ตัวชี้วัด ประพฤติตนตรงตามความเปนจริงตอตนเอง และผูอ่ืนทัง้ทางกาย วาจา ใจ
3. กตัญูตอพอแมครูอาจารย ตัวชี้วัด เอาใจใส ดูแลชวยเหลือภารกิจ การงาน ปฏิบัตตินตามคาสัง่สอนที่ถูกตอง และเหมาะสม
4. ใฝหาความรู หม่ันศึกษาเลาเรียน ทั้งทางตรง และทางออม ตัวชี้วัด ตั้งใจเพียรพยายาม ในการเรียน และเขารวมกิจกรรม แสวงหาความรูจาก แหลงเรียนรูตางๆทั้งภายใน และภายนอกโรงเรียนดวยการเลือกใชสื่ออยางเหมาะสม สรุปเปนองคความรู สามารถนําไปใชในชีวิตประจําวันได
5. รักษาวัฒนธรรม ประเพณีไทย ตัวชี้วัด ภาคภูมิใจในขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปวฒันธรรมไทยและม ีความกตัญูกตเวทีเห็นคุณคา และใชภาษาไทยในการสื่อสารไดอยางถูกตองเหมาะสม และอนุรักษ สืบทอด ภูมิปญญาไทย
6. มีศีลธรรม รักษาความสัตย ตัวชี้วัด ปฏิบัติโดยยึดตามกติกา ขอตกลง/กฎ/ระเบียบของโรงเรียน
7. เขาใจ เรียนรูการเปนประชาธิปไตย ตัวชี้วัด เขารวมกิจกรรมเก่ียวกับประชาธิปไตย
8. มีระเบียบ วินัย เคารพกฎหมาย ผูนอยรูจักเคารพผูใหญ ตัวชี้วัด ตรงตอเวลา ปฏิบัติตามขอตกลง กฎเกณฑ ระเบียบ ขอบังคับ
ของครอบครัว โรงเรียนและสังคม
9. มีสติ รูตัว รูคิด รูทํา ตัวชี้วัด คิดดี พูดดี ทําดีสุภาพเรียบรอย ออนนอมถอมตนรอบคอบเหมาะสมกับวัย
10.รูจักดํารงตนอยูโดยใชหลักปรัชญาของเศรษฐกจิพอเพียง ตัวชี้วัด ดําเนินชีวิตอยางพอประมาณ มีเหตุผล รอบคอบ มีคุณธรรม รวมทั้งมีภูมิคุมกัน
ในตัวที่ดี ปรับตัวเพื่ออยูในสังคมไดอยางมีความสุข
11. มีความเขมแข็งทั้งรางกาย และจิตใจไมยอมแพตออํานาจ ฝายต่ํา ตัวชี้วัด รักษาสุขภาพรายกายตามสุขอนามัย ไมเก่ียวของกับอบายมุข
12. คํานึงถึงผลประโยชนของสวนรวม และของชาติมากกวาผลประโยชนของตนเอง ตัวชี้วัด มีจิตอาสา อุทิศตนเพื่อประโยชนตอสังคม และสวนรวม ทําประโยชนแกผูอ่ืน
คะแนนที่ได
คะแนนรวม
7
เกณฑ ผานตัวช้ีวัด
28-36 เทากับ ดี
19-27 เทากับ ปานกลาง
10-18 เทากับ พอใช
0-9 เทากับ ตองปรับปรุง
ผูประเมิน.............................................. (...............................................................)
ระดับคะแนนท่ีได
1
แผนการจัดการเรียนรูที่ 12 หนวยท่ี 6 (ครั้งท่ี 12)
รายวิชา พลศึกษาเพ่ือพัฒนาสุขภาพ(รหัส 2000-1601) เวลาเรียนรวม 36 คาบ
ช่ือหนวย หนวยท่ี 6 หลักการและรูปแบบการออกกําลังกายดวยกีฬา สอนครั้งท่ี 12 /18
สาระสําคัญ
การเลนกีฬาและการออกกําลังกายตามรูปแบบอยางสมํ่าเสมอ มีคุณประโยชนตอรางกาย
เพราะจะเปนยาอายุวัฒนะอยางหนึ่งท่ีมีคุณประโยชนตอรางกายซ่ึงจะทําใหสุขภาพกายและจิต
แข็งแรง สมรรถภาพของหัวใจและปอดดีข้ึน ทําใหผูปฏิบัติมีคุณภาพชีวิตท่ีดี ปลอดจากโรคภัยไขเจ็บ และ
ดํารงชีวิตอยางมีความสุข
สาระการเรียนรู
1. ประโยชนของการออกกําลังกาย
2. หลักการออกกําลังกายเเละเลนกีฬา
3. กีฬาไทย
4. ประโยชนและคุณคาของกีฬาไทย
5. กีฬาสากล
6. หลักปฏิบัติสําหรับการออกกําลังกายและการเลนกีฬาเพ่ือสุขภาพ
7. รูปแบบการออกกําลังกาย
จุดประสงคเชิงพฤติกรรม
1. บอกประโยชนของการออกกําลังกายได
2. อธิบายหลักการออกกําลังกายได
3. ระบุหลักปฏิบัติการออกกําลังกายและการเลนกีฬาเพ่ือสุขภาพได
4. บอกประโยชนของกีฬาไทยและกีฬาสากลได
5. ออกกําลังกายและการเลนกีฬาเพ่ือสุขภาพตามรูปแบบการออกกําลังกาย
สมรรถนะประจําหนวย
ออกกําลังกายและการเลนกีฬาเพ่ือสุขภาพตามรูปแบบการออกกําลังกาย
2
สอนครั้งท่ี 12/18
1. ข้ันการนําเขาสูบทเรียน
1.1 ครูทบทวนเรื่องกายบริหารท่ีเรียนรูไปในครั้งท่ีแลว
1.2 ครูกลาวถึงหลักการและรูปแบบการออกกําลังกาย
1.2 นักเรียนและครูรวมกันสนทนา เรื่อง หลักการและรูปแบบการออกกําลังกาย
1.3 ครูนําเขาสูเนื้อหาบทเรียนดวยคําถามท่ีวา “นักเรียนมีหลักการและรูปแบบการออกกําลังกาย
อยางไร”
2. ข้ันการสอน
ในหองเรียน
2.1 นักเรียนทุกคนเปดหนังสือรายวิชาพลศึกษาเพ่ือพัฒนาสุขภาพ (รหัส 2000-1601)
2.2 ครูกลาวถึง ประโยชนของการออกกําลังกายและหลักการออกกําลังกายเเละเลนกีฬา
รวมท้ัง รูปแบบการออกกําลังกาย โดยใชหนังสือ เปนสื่อในการเรียนรู
2.3 นักเรียนจับคูกันตามความสมัครใจ รวมกันศึกษา ประเด็นหัวขอ ดังนี้
ประเด็นหัวขอท่ี 1 กีฬาไทย
ประเด็นหัวขอท่ี 2 ประโยชนและคุณคาของกีฬาไทย
ประเด็นหัวขอท่ี 3 กีฬาสากล
ประเด็นหัวขอท่ี 4 หลักปฏิบัติสําหรับการออกกําลังกายและการเลนกีฬาเพ่ือสุขภาพ
2.5 นักเรียนแตละคูบันทึกผลการเรียนรู โดยครูใหขอมูลเพ่ิมเติม
2.6 นักเรียนบันทึกผลการเรียนรู
2.7 นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมท่ี 6 กิจกรรมท่ี 1
2.8 นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมท่ี 6 กิจกรรมท่ี 2
กายบริหารทาท่ี 1 ยืนเหยียดพรอมกํามือแกวงแขนข้ึนลง
วิธีปฏิบัติ
1. เตรียมตัวในทายืน
2. เหยียดแขนท้ังสองขางไปขางหนาขนานกับพ้ืน
3. กํามือแนนสลับกัน
4. แกวงแขนข้ึนลง 50 ครั้ง
3
กายบริหารทาท่ี 2 ยืนเหยียดพรอมกํามือคว่ําหงาย
กายบริหารทาท่ี 3 ยืนเหยียดพรอมกํามือชกลมสลับซาย-ขวา
กายบริหารทาท่ี 4 ยืนเหยียดพรอมกํามือชกลมบน-ลาง
วิธีปฏิบัติ
1. เตรียมตัวในทายืน
2. เหยียดแขนท้ังสองขางไปขางหนาขนานกับพ้ืน
3. กํามือแนคว่ําหงายสลับกัน 50 ครั้ง
วิธีปฏิบัติ
1. เตรียมตัวในทายืน
2. เหยียดแขนกําหมัด
3. ชกลมไปขางหนาสลับซาย-ขวาสลับกัน 50 ครั้ง
4
กายบริหารทาท่ี 5 ยืนกางแขนหมุนหนา-หลัง
กายบริหารทาท่ี 6 ยืนกระโดดตบเหนือศีรษะ
วิธีปฏิบัติ
1. เตรียมตัวในทายืน
2. เหยียดแขนกําหมัดไปเหนือหัวดานบน
3. ชกลมข้ึนบน บน-ลาง สลับกัน 50 ครั้ง
วิธีปฏิบัติ
1. เตรียมตัวในทายืน
2. กางแขนออกจากขางลําตัว
3. หมุนแขนไปหนา-หลัง สลับกัน 50 ครั้ง โดยใชหัวไหลเปนจุดหมุน
วิธีปฏิบัติ
1. เตรียมตัวในทายืน
2. กางแขนออก ประกบดานบน
3. กระโดดตบเหนือศีรษะ 50 ครั้ง
5
กายบริหารทาท่ี 7 ยืนแกวงแขน บน-ลาง
กายบริหารทาท่ี 8 ยืนกมศีรษะ กม-เงย
กายบริหารทาท่ี 9 ยืนหันศีรษะ ซาย-ขวา
วิธีปฏิบัติ
1. เตรียมตัวในทายืน
2. กางแขนออก เพ่ือแกวงแขนโดยใชหัวไหลเปนจุดหมุน
3. แกวงแขนข้ึนลง 50 ครั้ง
วิธีปฏิบัติ
1. เตรียมตัวในทายืน
2. แขนแนบชิดลําตัว กมหนาข้ึน-ลงสลับกัน
3. เงยหนาใหสุด กมลงใหคางชิดอกสลับกัน ข้ึน-ลง 50 ครั้ง
6
กายบริหารทาท่ี 10 ยืนกมเงย เขาตึง
กายบริหารทาท่ี 11 ยืนกมบิดลําตัว
วิธีปฏิบัติ
1. เตรียมตัวในทายืน
2. หันศีรษะไปทางซาย คางไว 5 วินาที แลวหันกลับ
3. หันศีรษะไปทางขวา คางไว 5 วินาที แลวหันกลับ
วิธีปฏิบัติ
1. เตรียมตัวในทายืน
2. ยืนตัวตรง ยกแขนท้ังสองขางข้ึนตั้งตรง
3. โนมตัวไปขางหนาใหลําตัวขนานพ้ืนคางไว 5 วินาที แลวกลับสูทาเดิม
4. เอนตัวไปดานหลังพอประมาณ แลวกลับสูทาเดิม ทําสลับกันไป – มา
วิธีปฏิบัติ
1. เตรียมตัวในทายืนตรง
2. โนมตัวไปขางหนาใหลําตัวขนานพ้ืน
3. บิดลําตัวไปทางขวา จนถึงขางลําตัว แลวคอยๆ ยกลําตัวข้ึนกลับสูทาเดิม
4. ทําสลับ ซาย – ขวา
7
กายบริหารทาท่ี 12 บริหารอก
กายบริหารทาท่ี 13 เขยงเทา นั่งยอ
วิธีปฏิบัติ
1. เตรียมตัวในทายืนตรง
2. ยกแขนท้ังสองขาง ทําทาคลายปกไก
3. เหวี่ยงขอศอกท้ังสองขางออกดานหลังแลวกลับทาเดิม ทํา 3 ครั้ง พอครั้งท่ี 4
ใหเหวี่ยงแขนออกไปดานหลังจนสุด นับเปน 1 ชุด ทําซํ้าๆ 10 ชุด
วิธีปฏิบัติ
1. เตรียมตัวในทายืนตรง เขยงปลายเทา
2. เหยียดแขนตรงไปขางหนาขนานกับพ้ืน ยอตัวลง
3. คอยๆ ยืนข้ึนในทาเดิม เอาสนเทาลงแลวกลับสูทาเดิม
8
กายบริหารทาท่ี 14 ทายืนเตะขา
(ท่ีมา : https://health.mthai.com/howto/6301.html)
3. ข้ันสรุป
3.1 ครูและนักเรียนรวมกันสรุปเนื้อหา โดยใชหนังสือเรียนเปนสื่อ
3.2 ครูเสริมแรง และเพ่ิมเติมประเด็นท่ีขาดหาย เพ่ือเติมเต็มผลการเรียนรู
3.3 ครูสรุปภาพรวมท้ังหมดในเรื่อง หนวยท่ี 3 และ กลาวถึงการเรียนในครั้งตอไป
4. ข้ันวัด และประเมินผล
4.1 ครูสุมถามนักเรียนในประเด็นหัวขอท่ีเรียนรู
4.2 ครูกลาวถึงการเรียนรูในครั้งตอไป โดยใหนักเรียนเปลี่ยนชุดพลศึกษาตามขอตกลง
4.3 นักเรียนทําแบบทดสอบหลังเรียน หนวยการเรียนรูท่ี 3
4.4 ครูและนักเรียนรวมกันเฉลยแบบทดสอบหลังเรียน หนวยการเรียนรูท่ี 3
สื่อการเรียนรู
1. เนื้อหาความรู ในหนังสือวิชาพลศึกษาเพ่ือพัฒนาสุขภาพ (รหัส 2000-1601) หนวยท่ี 6
2. แบบทดสอบหลังเรียนท่ี 6
3. ใบปฏิบัติกิจกรรมท่ี 6
วิธีปฏิบัติ
1. ยืนตรงในทาเตรียม
2. เตะขาซาย พรอมกับเหยียดแขนขวาออกมาดานหนา พยายามใหปลายเทาแตะ
กับปลายนิ้วมือ
3. ทําสลับซาย – ขวา
9
การวัดผล และประเมินผล
เครื่องมือ และเกณฑการประเมิน
1. หนังสือวิชาพลศึกษาเพ่ือพัฒนาสุขภาพ (รหัส 2000-1601)
2. เฉลยแบบทดสอบหลังเรียนท่ี 6
3. แบบประเมินใบปฏิบัติกิจกรรมท่ี 6
4. แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค ตามแนวคานิยม 12 ประการ
(การผานเกณฑ ผาน 10 ใน 12 ขอ)
บันทึกหลงัการสอน
1. ผลการใชแผนการจัดการเรียนรู
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
2. ผลการเรียนของนักเรียน/ผลการสอนของครู/ปญหาท่ีพบ
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
3. แนวทางการแกปญหา
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
ลงชื่อ...............................................
(.............................................)
ครูผูสอน
10
แบบประเมิน คุณลักษณะอันพึงประสงค
ตามแนวคานิยม 12 ประการ
ชื่อ…………………………………………………..ชั้น……………………เริ่มเวลา.......................เสร็จเวลา...............
คําช้ีแจง
แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค ตามแนวคานิยม 12 ประการ นี้ ใชประเมินคุณลักษณะอันพึง
ประสงคท้ัง 12 ประการ ไดแก
1. มีความรักชาติ ศาสน กษัตริย
2. มีความซ่ือสัตยสุจริต
3. กตัญูตอพอแมครูอาจารย
4. ใฝหาความรู หม่ันศึกษาเลาเรียน ท้ังทางตรงและทางออม
5. รักษาวัฒนธรรม ประเพณีไทย
6. มีศีลธรรม รักษาความสัตย
7. เขาใจ เรียนรูการเปนประชาธิปไตย
8. มีระเบียบ วินัย เคารพกฎหมาย ผูนอยรูจักเคารพผูใหญ
9. มีสติ รูตัว รูคิด รูทํา
10. รูจักดํารงตนอยูโดยใชหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
11. มีความเขมแข็งท้ังรางกาย และจิตใจไมยอมแพตออํานาจ ฝายต่ํา
12. คํานึงถึงผลประโยชนของสวนรวม และของชาติมากกวาผลประโยชนของตนเอง
โดยในแตละคุณลักษณะตามแนวคานิยม 12 ประการ จะประกอบไปดวยตัวชี้วัด และตัวชี้วัด
แตละตัว จะมีพฤติกรรมบงชี้ ท่ีจําแนกตามระดับคะแนน ดังนี้
3 หมายถึง มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับ ดี
2 เทากับ มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับ ปานกลาง
1 เทากับ มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับพอใช
0 เทากับ มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับ ตองปรับปรุง
11
คุณลักษณะอันพึงประสงคตาม
แนวคานิยม 12 ประการ และตัวชี้วัด
ระดับคุณภาพ
3 2 1 0
1. รักชาติ ศาสน กษัตริย ตัวชี้วัด เปนพลเมืองดีของชาติ ธํารงไวซึ่งความเปนไทย มีความศรัทธายึดมั่น
ปฏิบัติตนตามหลักของศาสนา และเคารพเทิดทูนสถาบนัพระมหากษัตริย
2. ซื่อสัตย สุจริต ตัวชี้วัด ประพฤติตนตรงตามความเปนจริงตอตนเอง และผูอ่ืนทัง้ทางกาย วาจา ใจ
3. กตัญูตอพอแมครูอาจารย ตัวชี้วัด เอาใจใส ดูแลชวยเหลือภารกิจ การงาน ปฏิบัตตินตามคาสัง่สอนที่ถูกตอง และเหมาะสม
4. ใฝหาความรู หม่ันศึกษาเลาเรียน ทั้งทางตรง และทางออม ตัวชี้วัด ตั้งใจเพียรพยายาม ในการเรียน และเขารวมกิจกรรม แสวงหาความรูจาก แหลงเรียนรูตางๆทั้งภายใน และภายนอกโรงเรียนดวยการเลือกใชสื่ออยางเหมาะสม สรุปเปนองคความรู สามารถนําไปใชในชีวิตประจําวันได
5. รักษาวัฒนธรรม ประเพณีไทย ตัวชี้วัด ภาคภูมิใจในขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปวฒันธรรมไทยและม ีความกตัญูกตเวทีเห็นคุณคา และใชภาษาไทยในการสื่อสารไดอยางถูกตองเหมาะสม และอนุรักษ สืบทอด ภูมิปญญาไทย
6. มีศีลธรรม รักษาความสัตย ตัวชี้วัด ปฏิบัติโดยยึดตามกติกา ขอตกลง/กฎ/ระเบียบของโรงเรียน
7. เขาใจ เรียนรูการเปนประชาธิปไตย ตัวชี้วัด เขารวมกิจกรรมเก่ียวกับประชาธิปไตย
8. มีระเบียบ วินัย เคารพกฎหมาย ผูนอยรูจักเคารพผูใหญ ตัวชี้วัด ตรงตอเวลา ปฏิบัติตามขอตกลง กฎเกณฑ ระเบียบ ขอบังคับ
ของครอบครัว โรงเรียนและสังคม
9. มีสติ รูตัว รูคิด รูทํา ตัวชี้วัด คิดดี พูดดี ทําดีสุภาพเรียบรอย ออนนอมถอมตนรอบคอบเหมาะสมกับวัย
10.รูจักดํารงตนอยูโดยใชหลักปรัชญาของเศรษฐกจิพอเพียง ตัวชี้วัด ดําเนินชีวิตอยางพอประมาณ มีเหตุผล รอบคอบ มีคุณธรรม รวมทั้งมีภูมิคุมกัน
ในตัวที่ดี ปรับตัวเพื่ออยูในสังคมไดอยางมีความสุข
11. มีความเขมแข็งทั้งรางกาย และจิตใจไมยอมแพตออํานาจ ฝายต่ํา ตัวชี้วัด รักษาสุขภาพรายกายตามสุขอนามัย ไมเก่ียวของกับอบายมุข
12. คํานึงถึงผลประโยชนของสวนรวม และของชาติมากกวาผลประโยชนของตนเอง ตัวชี้วัด มีจิตอาสา อุทิศตนเพื่อประโยชนตอสังคม และสวนรวม ทําประโยชนแกผูอ่ืน
คะแนนที่ได
คะแนนรวม
12
เกณฑ ผานตัวช้ีวัด
28-36 เทากับ ดี
19-27 เทากับ ปานกลาง
10-18 เทากับ พอใช
0-9 เทากับ ตองปรับปรุง
ผูประเมิน.............................................. (...............................................................)
ระดับคะแนนท่ีได
1
แผนการจัดการเรียนรูที่ 13 หนวยท่ี 7 (ครั้งท่ี 13)
รายวิชา พลศึกษาเพ่ือพัฒนาสุขภาพ(รหัส 2000-1601) เวลาเรียนรวม 36 คาบ
ช่ือหนวย หนวยท่ี 7 กีฬาไทยนารู สอนครั้งท่ี 13 /18
สาระสําคัญ
กีฬาไทยเปนการละเลนพ้ืนบานท่ีเด็กๆนิยมเลนกันในอดีต กีฬาไทยไดถูกถายทอดมาจากบรรพบุรุษมี
การเลนสืบตอๆกันมาโดยไมมีการเรียนการสอน กีฬาไทยทุกชนิดกอใหเกิดการเคลื่อนไหวผูเลนไดออกกําลัง
กายเกิดความคลองแคลววองไวเปนการฝกความอดทน ฝกการเปนผูนําและผูตามท่ีดีฝกการสังเกตมีปฏิภาณ
ไหวพริบ สรางความสามัคคีในหมูคณะ และยังเปนการสืบสานศิลปวัฒนธรรมไดอีกดวย
สาระการเรียนรู
1. กีฬาไทยกับการละเลนพ้ืนบาน
2. กีฬาไทยบางชนิดท่ีนาสนใจ
3. มารยาทของการเลนกีฬาไทย
4. มารยาทของผูชมกีฬาไทยท่ีดี
จุดประสงคเชิงพฤติกรรม
เลนกีฬาไทยไดอยางนอย 3 ชนิดกีฬา
สมรรถนะประจําหนวย
1. เรียนรูการเลนกีฬาไทย
2. แสดงความรูเก่ียวกับ กฎ กติกา มารยาทของผูเลนและมารยาทของผูชมกีฬาไทย
สอนครั้งท่ี 13/18
1. ข้ันการนําเขาสูบทเรียน
1.1 ครูทบทวนเรื่อง กายบริหารท่ีปฏิบัติแลวในการเรียนครั้งท่ีแลว
1.2 ครูเนนย้ําเรื่องการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค ตามแนวคานิยม 12 ประการ โดยแจง
ถึงผลท่ีนักเรียนจะไดรับ คือ เพ่ือใหนักเรียนเปนคนดี
1.3 ครูนําเขาสูบทเรียนโดยใชคําถามวา “ใหนักเรียนกลาวถึงกีฬาไทยท่ีนักเรียนรูจักมาสัก
3 กีฬา”
1.4 นักเรียนและครูรวมกันสนทนาเรื่อง กีฬาไทยนารู
2
2. ข้ันการสอน
นอกหองเรียน
2.1 นักเรียนเขาแถวตอน พรอม อบอุนรางกายกอนการเรียนรู ดังรูป
2.2 ครูกลาวถึงมายาทของการเลนกีฬาไทย และ มารยาทของผูชมกีฬาไทย
2.3 ครูใหนักเรียนทุกคนศึกษาจากใบปฏิบัติกิจกรรมท่ี 7 และปฏิบัติตาม
2.4 นักเรียนเลือกกีฬาไทย มา 3 กีฬาไทย
2.5 นักเรียนจัดหองเปนแบบครึ่งวงกลม ดังรูป
2.9 ครูสาธิตตามใบปฏิบัติกิจกรรมท่ี 7 กิจกรรมปฏิบัติท่ี 1 และใหนักเรียนปฏิบัติ
2.10 ครูอธิบายและสาธิตกีฬาไทยท่ีนักเรียนเลือกและขอนักเรียนอาสาสมัคร
2.11 ครูใหนักเรียนเลนกีฬาไทย ตามฐานตาง ๆ โดยแบงเปน 3 ฐาน ดังนี้
2.12 ครูคอยใหคําแนะนํานักเรียนเลนกีฬาท้ัง 3 ฐานกีฬาไทย ดังรูป
นักเรียนอาสาสมัคร คร ู
กีฬาไทยชนิดท่ี 1 กีฬาไทยชนิดท่ี 2 กีฬาไทยชนิดท่ี 3
นักเรียน
ครู
นักเรียน
ครู
3
3. ข้ันสรุป
3.1 ครูสรุปเนื้อหา และผลการปฏิบัติ โดยใชหนังสือเรียนเปนสื่อ
3.2 ครูเสริมแรง และเพ่ิมเติมประเด็นท่ีขาดหาย เพ่ือเติมเต็มผลการเรียนรู
3.3 ครูสรุปภาพรวมท้ังหมดในเรื่อง หนวยท่ี 7 กีฬาไทย
4. ข้ันวัด และประเมินผล
4.1 ครูสุมนักเรียนใหสาธิตกีฬาไทยท่ีเรียนรูมาแลว
4.2 ครูกลาวถึงการเรียนรูในครั้งตอไป โดยครูจะใหนักเรียนเลนกีฬาไทยท้ัง 3 กีฬาอีกครั้ง
สื่อการเรียนรู
1. เนื้อหาความรู ในหนังสือวิชาพลศึกษาเพ่ือพัฒนาสุขภาพ (รหัส 2000-1601) หนวยท่ี 7
เรื่อง หลักการและรูปแบบการออกกําลังกาย
2. ใบปฏิบัติกิจกรรมท่ี 7 กิจกรรมปฏิบัติท่ี 1 หนวยการเรียนรูท่ี 7
การวัดผล และประเมินผล
เครื่องมือ และเกณฑการประเมิน
1. หนังสือวิชาพลศึกษาเพ่ือพัฒนาสุขภาพ (รหัส 2000-1601)
2. แบบประเมินใบปฏิบัติกิจกรรมท่ี 7 กิจกรรมปฏิบัติท่ี 1 หนวยการเรียนรูท่ี 7
3. แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค ตามแนวคานิยม 12 ประการ
(การผานเกณฑ ผาน 10 ใน 12 ขอ)
4
บันทึกหลงัการสอน
1. ผลการใชแผนการจัดการเรียนรู
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
2. ผลการเรียนของนักเรียน/ผลการสอนของครู/ปญหาท่ีพบ
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
3. แนวทางการแกปญหา
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
ลงชื่อ...............................................
(.............................................)
ครูผูสอน
5
แบบประเมิน คุณลักษณะอันพึงประสงค
ตามแนวคานิยม 12 ประการ
ชื่อ…………………………………………………..ชั้น……………………เริ่มเวลา.......................เสร็จเวลา...............
คําช้ีแจง
แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค ตามแนวคานิยม 12 ประการ นี้ ใชประเมินคุณลักษณะอันพึง
ประสงคท้ัง 12 ประการ ไดแก
1. มีความรักชาติ ศาสน กษัตริย
2. มีความซ่ือสัตยสุจริต
3. กตัญูตอพอแมครูอาจารย
4. ใฝหาความรู หม่ันศึกษาเลาเรียน ท้ังทางตรงและทางออม
5. รักษาวัฒนธรรม ประเพณีไทย
6. มีศีลธรรม รักษาความสัตย
7. เขาใจ เรียนรูการเปนประชาธิปไตย
8. มีระเบียบ วินัย เคารพกฎหมาย ผูนอยรูจักเคารพผูใหญ
9. มีสติ รูตัว รูคิด รูทํา
10. รูจักดํารงตนอยูโดยใชหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
11. มีความเขมแข็งท้ังรางกาย และจิตใจไมยอมแพตออํานาจ ฝายต่ํา
12. คํานึงถึงผลประโยชนของสวนรวม และของชาติมากกวาผลประโยชนของตนเอง
โดยในแตละคุณลักษณะตามแนวคานิยม 12 ประการ จะประกอบไปดวยตัวชี้วัด และตัวชี้วัด
แตละตัว จะมีพฤติกรรมบงชี้ ท่ีจําแนกตามระดับคะแนน ดังนี้
3 หมายถึง มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับ ดี
2 เทากับ มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับ ปานกลาง
1 เทากับ มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับพอใช
0 เทากับ มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับ ตองปรับปรุง
6
คุณลักษณะอันพึงประสงคตาม
แนวคานิยม 12 ประการ และตัวชี้วัด
ระดับคุณภาพ
3 2 1 0
1. รักชาติ ศาสน กษัตริย ตัวชี้วัด เปนพลเมืองดีของชาติ ธํารงไวซึ่งความเปนไทย มีความศรัทธายึดมั่น
ปฏิบัติตนตามหลักของศาสนา และเคารพเทิดทูนสถาบนัพระมหากษัตริย
2. ซื่อสัตย สุจริต ตัวชี้วัด ประพฤติตนตรงตามความเปนจริงตอตนเอง และผูอ่ืนทัง้ทางกาย วาจา ใจ
3. กตัญูตอพอแมครูอาจารย ตัวชี้วัด เอาใจใส ดูแลชวยเหลือภารกิจ การงาน ปฏิบัตตินตามคาสัง่สอนที่ถูกตอง และเหมาะสม
4. ใฝหาความรู หม่ันศึกษาเลาเรียน ทั้งทางตรง และทางออม ตัวชี้วัด ตั้งใจเพียรพยายาม ในการเรียน และเขารวมกิจกรรม แสวงหาความรูจาก แหลงเรียนรูตางๆทั้งภายใน และภายนอกโรงเรียนดวยการเลือกใชสื่ออยางเหมาะสม สรุปเปนองคความรู สามารถนําไปใชในชีวิตประจําวันได
5. รักษาวัฒนธรรม ประเพณีไทย ตัวชี้วัด ภาคภูมิใจในขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปวฒันธรรมไทยและม ีความกตัญูกตเวทีเห็นคุณคา และใชภาษาไทยในการสื่อสารไดอยางถูกตองเหมาะสม และอนุรักษ สืบทอด ภูมิปญญาไทย
6. มีศีลธรรม รักษาความสัตย ตัวชี้วัด ปฏิบัติโดยยึดตามกติกา ขอตกลง/กฎ/ระเบียบของโรงเรียน
7. เขาใจ เรียนรูการเปนประชาธิปไตย ตัวชี้วัด เขารวมกิจกรรมเก่ียวกับประชาธิปไตย
8. มีระเบียบ วินัย เคารพกฎหมาย ผูนอยรูจักเคารพผูใหญ ตัวชี้วัด ตรงตอเวลา ปฏิบัติตามขอตกลง กฎเกณฑ ระเบียบ ขอบังคับ
ของครอบครัว โรงเรียนและสังคม
9. มีสติ รูตัว รูคิด รูทํา ตัวชี้วัด คิดดี พูดดี ทําดีสุภาพเรียบรอย ออนนอมถอมตนรอบคอบเหมาะสมกับวัย
10.รูจักดํารงตนอยูโดยใชหลักปรัชญาของเศรษฐกจิพอเพียง ตัวชี้วัด ดําเนินชีวิตอยางพอประมาณ มีเหตุผล รอบคอบ มีคุณธรรม รวมทั้งมีภูมิคุมกัน
ในตัวที่ดี ปรับตัวเพื่ออยูในสังคมไดอยางมีความสุข
11. มีความเขมแข็งทั้งรางกาย และจิตใจไมยอมแพตออํานาจ ฝายต่ํา ตัวชี้วัด รักษาสุขภาพรายกายตามสุขอนามัย ไมเก่ียวของกับอบายมุข
12. คํานึงถึงผลประโยชนของสวนรวม และของชาติมากกวาผลประโยชนของตนเอง ตัวชี้วัด มีจิตอาสา อุทิศตนเพื่อประโยชนตอสังคม และสวนรวม ทําประโยชนแกผูอ่ืน
คะแนนที่ได
คะแนนรวม
7
เกณฑ ผานตัวช้ีวัด
28-36 เทากับ ดี
19-27 เทากับ ปานกลาง
10-18 เทากับ พอใช
0-9 เทากับ ตองปรับปรุง
ผูประเมิน.............................................. (...............................................................)
ระดับคะแนนท่ีได
1
แผนการจัดการเรียนรูที่ 14 หนวยท่ี 7 (ครั้งท่ี 14)
รายวิชา พลศึกษาเพ่ือพัฒนาสุขภาพ(รหัส 2000-1601) เวลาเรียนรวม 36 คาบ
ช่ือหนวย หนวยท่ี 7 กีฬาไทยนารู สอนครั้งท่ี 14 /18
สาระสําคัญ
กีฬาไทยเปนการละเลนพ้ืนบานท่ีเด็กๆนิยมเลนกันในอดีต กีฬาไทยไดถูกถายทอดมาจากบรรพบุรุษมี
การเลนสืบตอๆกันมาโดยไมมีการเรียนการสอน กีฬาไทยทุกชนิดกอใหเกิดการเคลื่อนไหวผูเลนไดออกกําลัง
กายเกิดความคลองแคลววองไวเปนการฝกความอดทน ฝกการเปนผูนําและผูตามท่ีดีฝกการสังเกตมีปฏิภาณ
ไหวพริบ สรางความสามัคคีในหมูคณะ และยังเปนการสืบสานศิลปวัฒนธรรมไดอีกดวย
สาระการเรียนรู
1. กีฬาไทยกับการละเลนพ้ืนบาน
2. กีฬาไทยบางชนิดท่ีนาสนใจ
3. มารยาทของการเลนกีฬาไทย
4. มารยาทของผูชมกีฬาไทยท่ีดี
จุดประสงคเชิงพฤติกรรม
เลนกีฬาไทยไดอยางนอย 3 ชนิดกีฬา
สมรรถนะประจําหนวย
1. เรียนรูการเลนกีฬาไทย
2. แสดงความรูเก่ียวกับ กฎ กติกา มารยาทของผูเลนและมารยาทของผูชมกีฬาไทย
สอนครั้งท่ี 14/18
1. ข้ันการนําเขาสูบทเรียน
1.1 ครูทบทวนเรื่อง การเลนกีฬาไทยท่ีนารูท่ีปฏิบัติแลวในการเรียนครั้งท่ีแลว
1.2 ครูเนนย้ําเรื่องการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค ตามแนวคานิยม 12 ประการ โดยแจง
ถึงผลท่ีนักเรียนจะไดรับ คือ เพ่ือใหนักเรียนเปนคนดี
1.3 นักเรียนและครูรวมกันสนทนาเรื่อง กีฬาไทยนารูอีกหลาย ๆ กีฬา
2. ข้ันการสอน
นอกหองเรียน
2.1 นักเรียนเขาแถวตอน พรอม อบอุนรางกายกอนการเรียนรู ดังรูป
2
2.2 ครูเนนย้ําเรื่องมารยาทของการเลนกีฬาไทย และ มารยาทของผูชมกีฬาไทย
2.3 ครูชี้แจงใหนักเรียนทุกคนทราบวาการเรียนครั้งนี้เปนการเลนกีฬาไทย 3 กีฬา
2.4 นักเรียนจัดหองเปนแบบครึ่งวงกลม ดังรูป
2.5 ครูขออาสาสมัครมาจัดกีฬาไทย แตละชนิด โดยใหนักเรียนเลนกีฬาไทยพรอมกันท้ังหอง
3. ข้ันสรุป
3.1 ครูสรุปเนื้อหา และผลการปฏิบัติ โดยใชหนังสือเรียนเปนสื่อ
3.2 ครูเสริมแรง และเพ่ิมเติมประเด็นท่ีขาดหาย เพ่ือเติมเต็มผลการเรียนรู
3.3 ครูสรุปภาพรวมท้ังหมดในเรื่อง หนวยท่ี 7 กีฬาไทย อีกครั้งโดยย้ําเนนเรื่อง มารยาในการเลน
และดูกีฬาไทย
4. ข้ันวัด และประเมินผล
4.1 ครูสุมนักเรียนใหสาธิตกีฬาไทยท่ีเรียนรูมาแลว
4.2 ครูกลาวถึงการเรียนรูในครั้งตอไป เก่ียวกับกีฬาสากลนารู
สื่อการเรียนรู
เนื้อหาความรู ในหนังสือวิชาพลศึกษาเพ่ือพัฒนาสุขภาพ (รหัส 2000-1601) หนวยท่ี 7
เรื่อง หลักการและรูปแบบการออกกําลังกาย
นักเรียน
ครู
นักเรียน
ครู
3
การวัดผล และประเมินผล
เครื่องมือ และเกณฑการประเมิน
1. หนังสือวิชาพลศึกษาเพ่ือพัฒนาสุขภาพ (รหัส 2000-1601)
2. แบบประเมินใบปฏิบัติกิจกรรมท่ี 7 กิจกรรมปฏิบัติท่ี 1 หนวยการเรียนรูท่ี 7
3. แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค ตามแนวคานิยม 12 ประการ
(การผานเกณฑ ผาน 10 ใน 12 ขอ)
บันทึกหลงัการสอน
1. ผลการใชแผนการจัดการเรียนรู
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
2. ผลการเรียนของนักเรียน/ผลการสอนของครู/ปญหาท่ีพบ
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
3. แนวทางการแกปญหา
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
ลงชื่อ...............................................
(.............................................)
ครูผูสอน
4
แบบประเมิน คุณลักษณะอันพึงประสงค
ตามแนวคานิยม 12 ประการ
ชื่อ…………………………………………………..ชั้น……………………เริ่มเวลา.......................เสร็จเวลา...............
คําช้ีแจง
แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค ตามแนวคานิยม 12 ประการ นี้ ใชประเมินคุณลักษณะอันพึง
ประสงคท้ัง 12 ประการ ไดแก
1. มีความรักชาติ ศาสน กษัตริย
2. มีความซ่ือสัตยสุจริต
3. กตัญูตอพอแมครูอาจารย
4. ใฝหาความรู หม่ันศึกษาเลาเรียน ท้ังทางตรงและทางออม
5. รักษาวัฒนธรรม ประเพณีไทย
6. มีศีลธรรม รักษาความสัตย
7. เขาใจ เรียนรูการเปนประชาธิปไตย
8. มีระเบียบ วินัย เคารพกฎหมาย ผูนอยรูจักเคารพผูใหญ
9. มีสติ รูตัว รูคิด รูทํา
10. รูจักดํารงตนอยูโดยใชหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
11. มีความเขมแข็งท้ังรางกาย และจิตใจไมยอมแพตออํานาจ ฝายต่ํา
12. คํานึงถึงผลประโยชนของสวนรวม และของชาติมากกวาผลประโยชนของตนเอง
โดยในแตละคุณลักษณะตามแนวคานิยม 12 ประการ จะประกอบไปดวยตัวชี้วัด และตัวชี้วัด
แตละตัว จะมีพฤติกรรมบงชี้ ท่ีจําแนกตามระดับคะแนน ดังนี้
3 หมายถึง มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับ ดี
2 เทากับ มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับ ปานกลาง
1 เทากับ มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับพอใช
0 เทากับ มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับ ตองปรับปรุง
5
คุณลักษณะอันพึงประสงคตาม
แนวคานิยม 12 ประการ และตัวชี้วัด
ระดับคุณภาพ
3 2 1 0
1. รักชาติ ศาสน กษัตริย ตัวชี้วัด เปนพลเมืองดีของชาติ ธํารงไวซึ่งความเปนไทย มีความศรัทธายึดมั่น
ปฏิบัติตนตามหลักของศาสนา และเคารพเทิดทูนสถาบนัพระมหากษัตริย
2. ซื่อสัตย สุจริต ตัวชี้วัด ประพฤติตนตรงตามความเปนจริงตอตนเอง และผูอ่ืนทัง้ทางกาย วาจา ใจ
3. กตัญูตอพอแมครูอาจารย ตัวชี้วัด เอาใจใส ดูแลชวยเหลือภารกิจ การงาน ปฏิบัตตินตามคาสัง่สอนที่ถูกตอง และเหมาะสม
4. ใฝหาความรู หม่ันศึกษาเลาเรียน ทั้งทางตรง และทางออม ตัวชี้วัด ตั้งใจเพียรพยายาม ในการเรียน และเขารวมกิจกรรม แสวงหาความรูจาก แหลงเรียนรูตางๆทั้งภายใน และภายนอกโรงเรียนดวยการเลือกใชสื่ออยางเหมาะสม สรุปเปนองคความรู สามารถนําไปใชในชีวิตประจําวันได
5. รักษาวัฒนธรรม ประเพณีไทย ตัวชี้วัด ภาคภูมิใจในขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปวฒันธรรมไทยและม ีความกตัญูกตเวทีเห็นคุณคา และใชภาษาไทยในการสื่อสารไดอยางถูกตองเหมาะสม และอนุรักษ สืบทอด ภูมิปญญาไทย
6. มีศีลธรรม รักษาความสัตย ตัวชี้วัด ปฏิบัติโดยยึดตามกติกา ขอตกลง/กฎ/ระเบียบของโรงเรียน
7. เขาใจ เรียนรูการเปนประชาธิปไตย ตัวชี้วัด เขารวมกิจกรรมเก่ียวกับประชาธิปไตย
8. มีระเบียบ วินัย เคารพกฎหมาย ผูนอยรูจักเคารพผูใหญ ตัวชี้วัด ตรงตอเวลา ปฏิบัติตามขอตกลง กฎเกณฑ ระเบียบ ขอบังคับ
ของครอบครัว โรงเรียนและสังคม
9. มีสติ รูตัว รูคิด รูทํา ตัวชี้วัด คิดดี พูดดี ทําดีสุภาพเรียบรอย ออนนอมถอมตนรอบคอบเหมาะสมกับวัย
10.รูจักดํารงตนอยูโดยใชหลักปรัชญาของเศรษฐกจิพอเพียง ตัวชี้วัด ดําเนินชีวิตอยางพอประมาณ มีเหตุผล รอบคอบ มีคุณธรรม รวมทั้งมีภูมิคุมกัน
ในตัวที่ดี ปรับตัวเพื่ออยูในสังคมไดอยางมีความสุข
11. มีความเขมแข็งทั้งรางกาย และจิตใจไมยอมแพตออํานาจ ฝายต่ํา ตัวชี้วัด รักษาสุขภาพรายกายตามสุขอนามัย ไมเก่ียวของกับอบายมุข
12. คํานึงถึงผลประโยชนของสวนรวม และของชาติมากกวาผลประโยชนของตนเอง ตัวชี้วัด มีจิตอาสา อุทิศตนเพื่อประโยชนตอสังคม และสวนรวม ทําประโยชนแกผูอ่ืน
คะแนนที่ได
คะแนนรวม
6
เกณฑ ผานตัวช้ีวัด
28-36 เทากับ ดี
19-27 เทากับ ปานกลาง
10-18 เทากับ พอใช
0-9 เทากับ ตองปรับปรุง
ผูประเมิน.............................................. (...............................................................)
ระดับคะแนนท่ีได
1
แผนการจัดการเรียนรูที่ 15 หนวยท่ี 8 (ครั้งท่ี 15)
รายวิชา พลศึกษาเพ่ือพัฒนาสุขภาพ(รหัส 2000-1601) เวลาเรียนรวม 36 คาบ
ช่ือหนวย หนวยท่ี 8 กีฬาสากลนารู(กีฬาฟุตบอล) สอนครั้งท่ี 15 /18
สาระสําคัญ
กีฬาฟุตบอลเปนกีฬาท่ีมีผูนิยมเลนและชมกันท่ัวโลก การเรียนรูพ้ืนฐานการเลนเบื้องตน ตลอดจนรูจัก
กฎ กติกา มารยาท ท้ังมารยาทในการเลนและมารยาทในการชมจะทําใหเลนและชม กีฬาฟุตบอลไดอยาง
สนุกสนาน
สาระการเรียนรู
1. ความเปนมาของกีฬาฟุตบอล
2. สมรรถภาพทางกายกับการเลนกีฬาฟุตบอล
3. มารยาทในการเลนกีฬาฟุตบอล
4. มารยาทของผูชมกีฬาฟุตบอลท่ีดี
5. การบํารุงรักษาอุปกรณในกีฬาฟุตบอล
6. ทักษะเบื้องตนท่ีจําเปนในการเลนกีฬาฟุตบอล
7. 0กติกาฟุตบอลโดยสรุป
จุดประสงคเชิงพฤติกรรม
1. บอกประวัติความเปนมาของกีฬาฟุตบอลได
2. อธิบายกติกาการเลนกีฬาฟุตบอลได
3. ปฏิบัติทักษะพ้ืนฐานการเลนกีฬาฟุตบอลได
สมรรถนะประจําหนวย
1. ปฏิบัติทักษะพ้ืนฐานในการเลนกีฬาฟุตบอล
2. แสดงมารยาทในการเลนกีฬาฟุตบอล
3. แสดงมารยาทในการชมกีฬาฟุตบอล
4. เลนกีฬาฟุตบอลตามกติกา
2
สอนครั้งท่ี 15/18
1. ข้ันการนําเขาสูบทเรียน
1.1 ครูทบทวนเรื่อง กีฬาไทย ท่ีปฏิบัติแลวในการเรียนครั้งท่ีแลว
1.2 ครูเนนย้ําเรื่องการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค ตามแนวคานิยม 12 ประการ โดยแจง
ถึงผลท่ีนักเรียนจะไดรับ คือ เพ่ือใหนักเรียนเปนคนดี
1.3 ครูนําเขาสูบทเรียนโดยใชคําถามวา “ใหนักเรียนกลาวถึงกีฬาสากลยอดนิยมท่ีนักเรียนรูจัก
มาสัก 3 กีฬา”
1.4 นักเรียนและครูรวมกันสนทนาเรื่อง กีฬาสากลนารู คือ กีฬาฟุตบอล กีฬาฟุตซอล และ
กีฬาวอลเลยบอล
2. ข้ันการสอน
นอกหองเรียน
2.1 นักเรียนเขาแถวตอน พรอม อบอุนรางกายกอนการเรียนรู ดังรูป
1.2 ครูกลาวถึงกีฬาฟุตบอล ตามประเก็นหัวขอ ดังนี้
ความเปนมาของกีฬาฟุตบอล
สมรรถภาพทางกายกับการเลนกีฬาฟุตบอล
มารยาทในการเลนกีฬาฟุตบอล
มารยาทของผูชมกีฬาฟุตบอลท่ีดี
การบํารุงรักษาอุปกรณในกีฬาฟุตบอล
1.3 ครูใหนักเรียนทุกคนศึกษาจากใบปฏิบัติกิจกรรมท่ี 8 และปฏิบัติตาม
1.5 นักเรียนจัดหองเปนแบบครึ่งวงกลม ดังรูป
นักเรียน
ครู
นักเรียน
ครู
3
2.9 ครูสาธิตตามใบปฏิบัติกิจกรรมท่ี 8 กิจกรรมปฏิบัติท่ี 1 และใหนักเรียนปฏิบัติเปนฐาน 5 ฐาน
ดังนี้
ฐานท่ี 1 พ้ืนฐานการเลนลูกปลายเทา หลังเทา ขางเทาดานใน นอก
ฐานท่ี 2 พ้ืนฐานการเลี้ยงลูกดวย ขางเทาดานใน นอก
ฐานท่ี 3 พ้ืนฐานการโหมงลูกบอลอยูกับท่ี กระโดดโหมง และ วิ่งโหมง
ฐานท่ี 4 พ้ืนฐานการเปนผูรักษาประตู
ฐานท่ี 5 พ้ืนฐานการเลนฟุตบอลดวยทักษะพ้ืนฐาน ตามกติกาสากล
2.10 ครูอธิบายและสาธิตทักษะพ้ืนฐานท่ีและขอนักเรียนอาสาสมัครมาจัดกิจกรรมปฏิบัติ
2.11 ครูใหนักเรียนเลนกีฬาไทย ตามฐานตาง ๆ โดยแบงเปน 5 ฐาน ดังนี้
2.12 ครูคอยใหคําแนะนํานักเรียนเลนกีฬาท้ัง 5 ฐาน ดังรูป
นักเรียนอาสาสมัคร คร ู
ทักษะพ้ืนฐานท่ี 1 ทักษะพ้ืนฐานท่ี 2 ทักษะพ้ืนฐานท่ี 3
ทักษะพ้ืนฐานท่ี 4 ทักษะพ้ืนฐานท่ี 5
3. ข้ันสรุป
3.1 ครูสรุปเนื้อหา และผลการปฏิบัติ โดยใชหนังสือเรียนเปนสื่อ
3.2 ครูเสริมแรง และเพ่ิมเติมประเด็นท่ีขาดหาย เพ่ือเติมเต็มผลการเรียนรู
3.3 ครูสรุปภาพรวมท้ังหมดในเรื่อง หนวยท่ี 8 กีฬาฟุตบอล
4. ข้ันวัด และประเมินผล
4.1 ครูสุมนักเรียนใหสาธิตกีฬาไทยท่ีเรียนรูมาแลว
4.2 ครูกลาวถึงการเรียนรูในครั้งตอไป โดยครูจะใหนักเรียนศึกษาเก่ียวกับฟุตซอลมาลวงหนา
กอนเขาชั้นเรียน
สื่อการเรียนรู
1. เนื้อหาความรู ในหนังสือวิชาพลศึกษาเพ่ือพัฒนาสุขภาพ (รหัส 2000-1601) หนวยท่ี 8
4
เรื่อง หลักการและรูปแบบการออกกําลังกาย
2. ใบปฏิบัติกิจกรรมท่ี 8 กิจกรรมปฏิบัติท่ี 1 หนวยการเรียนรูท่ี 8
การวัดผล และประเมินผล
เครื่องมือ และเกณฑการประเมิน
1. หนังสือวิชาพลศึกษาเพ่ือพัฒนาสุขภาพ (รหัส 2000-1601)
2. แบบประเมินใบปฏิบัติกิจกรรมท่ี 8 กิจกรรมปฏิบัติท่ี 1 หนวยการเรียนรูท่ี 8
3. แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค ตามแนวคานิยม 12 ประการ
(การผานเกณฑ ผาน 10 ใน 12 ขอ)
บันทึกหลงัการสอน
1. ผลการใชแผนการจัดการเรียนรู
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
2. ผลการเรียนของนักเรียน/ผลการสอนของครู/ปญหาท่ีพบ
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
3. แนวทางการแกปญหา
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
ลงชื่อ...............................................
(.............................................)
ครูผูสอน
5
แบบประเมิน คุณลักษณะอันพึงประสงค
ตามแนวคานิยม 12 ประการ
ชื่อ…………………………………………………..ชั้น……………………เริ่มเวลา.......................เสร็จเวลา...............
คําช้ีแจง
แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค ตามแนวคานิยม 12 ประการ นี้ ใชประเมินคุณลักษณะอันพึง
ประสงคท้ัง 12 ประการ ไดแก
1. มีความรักชาติ ศาสน กษัตริย
2. มีความซ่ือสัตยสุจริต
3. กตัญูตอพอแมครูอาจารย
4. ใฝหาความรู หม่ันศึกษาเลาเรียน ท้ังทางตรงและทางออม
5. รักษาวัฒนธรรม ประเพณีไทย
6. มีศีลธรรม รักษาความสัตย
7. เขาใจ เรียนรูการเปนประชาธิปไตย
8. มีระเบียบ วินัย เคารพกฎหมาย ผูนอยรูจักเคารพผูใหญ
9. มีสติ รูตัว รูคิด รูทํา
10. รูจักดํารงตนอยูโดยใชหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
11. มีความเขมแข็งท้ังรางกาย และจิตใจไมยอมแพตออํานาจ ฝายต่ํา
12. คํานึงถึงผลประโยชนของสวนรวม และของชาติมากกวาผลประโยชนของตนเอง
โดยในแตละคุณลักษณะตามแนวคานิยม 12 ประการ จะประกอบไปดวยตัวชี้วัด และตัวชี้วัด
แตละตัว จะมีพฤติกรรมบงชี้ ท่ีจําแนกตามระดับคะแนน ดังนี้
3 หมายถึง มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับ ดี
2 เทากับ มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับ ปานกลาง
1 เทากับ มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับพอใช
0 เทากับ มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับ ตองปรับปรุง
6
คุณลักษณะอันพึงประสงคตาม
แนวคานิยม 12 ประการ และตัวชี้วัด
ระดับคุณภาพ
3 2 1 0
1. รักชาติ ศาสน กษัตริย ตัวชี้วัด เปนพลเมืองดีของชาติ ธํารงไวซึ่งความเปนไทย มีความศรัทธายึดมั่น
ปฏิบัติตนตามหลักของศาสนา และเคารพเทิดทูนสถาบนัพระมหากษัตริย
2. ซื่อสัตย สุจริต ตัวชี้วัด ประพฤติตนตรงตามความเปนจริงตอตนเอง และผูอ่ืนทัง้ทางกาย วาจา ใจ
3. กตัญูตอพอแมครูอาจารย ตัวชี้วัด เอาใจใส ดูแลชวยเหลือภารกิจ การงาน ปฏิบัตตินตามคาสัง่สอนที่ถูกตอง และเหมาะสม
4. ใฝหาความรู หม่ันศึกษาเลาเรียน ทั้งทางตรง และทางออม ตัวชี้วัด ตั้งใจเพียรพยายาม ในการเรียน และเขารวมกิจกรรม แสวงหาความรูจาก แหลงเรียนรูตางๆทั้งภายใน และภายนอกโรงเรียนดวยการเลือกใชสื่ออยางเหมาะสม สรุปเปนองคความรู สามารถนําไปใชในชีวิตประจําวันได
5. รักษาวัฒนธรรม ประเพณีไทย ตัวชี้วัด ภาคภูมิใจในขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปวฒันธรรมไทยและม ีความกตัญูกตเวทีเห็นคุณคา และใชภาษาไทยในการสื่อสารไดอยางถูกตองเหมาะสม และอนุรักษ สืบทอด ภูมิปญญาไทย
6. มีศีลธรรม รักษาความสัตย ตัวชี้วัด ปฏิบัติโดยยึดตามกติกา ขอตกลง/กฎ/ระเบียบของโรงเรียน
7. เขาใจ เรียนรูการเปนประชาธิปไตย ตัวชี้วัด เขารวมกิจกรรมเก่ียวกับประชาธิปไตย
8. มีระเบียบ วินัย เคารพกฎหมาย ผูนอยรูจักเคารพผูใหญ ตัวชี้วัด ตรงตอเวลา ปฏิบัติตามขอตกลง กฎเกณฑ ระเบียบ ขอบังคับ
ของครอบครัว โรงเรียนและสังคม
9. มีสติ รูตัว รูคิด รูทํา ตัวชี้วัด คิดดี พูดดี ทําดีสุภาพเรียบรอย ออนนอมถอมตนรอบคอบเหมาะสมกับวัย
10.รูจักดํารงตนอยูโดยใชหลักปรัชญาของเศรษฐกจิพอเพียง ตัวชี้วัด ดําเนินชีวิตอยางพอประมาณ มีเหตุผล รอบคอบ มีคุณธรรม รวมทั้งมีภูมิคุมกัน
ในตัวที่ดี ปรับตัวเพื่ออยูในสังคมไดอยางมีความสุข
11. มีความเขมแข็งทั้งรางกาย และจิตใจไมยอมแพตออํานาจ ฝายต่ํา ตัวชี้วัด รักษาสุขภาพรายกายตามสุขอนามัย ไมเก่ียวของกับอบายมุข
12. คํานึงถึงผลประโยชนของสวนรวม และของชาติมากกวาผลประโยชนของตนเอง ตัวชี้วัด มีจิตอาสา อุทิศตนเพื่อประโยชนตอสังคม และสวนรวม ทําประโยชนแกผูอ่ืน
คะแนนที่ได
คะแนนรวม
7
เกณฑ ผานตัวช้ีวัด
28-36 เทากับ ดี
19-27 เทากับ ปานกลาง
10-18 เทากับ พอใช
0-9 เทากับ ตองปรับปรุง
ผูประเมิน.............................................. (...............................................................)
ระดับคะแนนท่ีได
1
แผนการจัดการเรียนรูที่ 16 หนวยท่ี 9 (ครั้งท่ี 16)
รายวิชา พลศึกษาเพ่ือพัฒนาสุขภาพ(รหัส 2000-1601) เวลาเรียนรวม 36 คาบ
ช่ือหนวย หนวยท่ี 9 กีฬาสากลนารู(กีฬาฟุตซอล) สอนครั้งท่ี 16 /18
สาระสําคัญ
กีฬาฟุตซอลและกีฬาฟุตบอลเปนกีฬาท่ีใชทักษะการเลนดวยเทา มีทักษะพ้ืนฐานใกลเคียงกันมีผูนิยม
เลนและชมกันท่ัวโลก การเรียนรูพ้ืนฐานการเลนเบื้องตน ตลอดจนรูจักกฎ กติกา มารยาท ท้ังมารยาทในการ
เลนและมารยาทในการชมจะทําใหเลนและชม กีฬาฟุตซอลไดอยางสนุกสนาน
สาระการเรียนรู
1. ประวัติฟุตซอล
2. สมรรถภาพทางกายกับการเลนกีฬาฟุตซอล
3. มารยาทในการเลนกีฬาฟุตซอล
4. มารยาทของผูชมกีฬาฟุตซอล
5. ทักษะเบื้องตนท่ีจําเปนในการเลนกีฬาฟุตซอล
6. กฎกติกาฟุตซอลนารู
จุดประสงคเชิงพฤติกรรม
1. บอกประวัติความเปนมาของกีฬาฟุตซอลได
2. อธิบายกติกาการเลนกีฬาฟุตซอลได
3. ปฏิบัติทักษะพ้ืนฐานการเลนกีฬาฟุตซอลได
สมรรถนะประจําหนวย
1. ปฏิบัติทักษะพ้ืนฐานในการเลนกีฬาฟุตซอล
2. แสดงมารยาทในการเลนกีฬาฟุตซอล
3. แสดงมารยาทในการชมกีฬาฟุตซอล
4. เลนกีฬาฟุตซอลตามกติกา
2
สอนครั้งท่ี 16/18
1. ข้ันการนําเขาสูบทเรียน
1.1 ครูทบทวนเรื่อง กีฬาฟุตบอล ท่ีปฏิบัติแลวในการเรียนครั้งท่ีแลว
1.2 ครูเนนย้ําเรื่องการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค ตามแนวคานิยม 12 ประการ โดยแจง
ถึงผลท่ีนักเรียนจะไดรับ คือ เพ่ือใหนักเรียนเปนคนดี
1.3 ครูนําเขาสูบทเรียนโดยใชคําถามวา “นอกจากกีฬาฟุตบอลแลว กีฬาอะไรอีกท่ีเปนท่ีนิยมใน
ปจจุบัน”
1.4 นักเรียนและครูรวมกันสนทนาเรื่อง กีฬาฟุตซอล ตามท่ีครูมอบหมายใหไปศึกษาในการเรียน
ครั้งท่ีแลว
2. ข้ันการสอน
นอกหองเรียน
2.1 นักเรียนเขาแถวตอน พรอม อบอุนรางกายกอนการเรียนรู ดังรูป
2.2 ครูกลาวถึงกีฬาฟุตซอล ตามประเก็นหัวขอ ดังนี้
ประวัติฟุตซอล
สมรรถภาพทางกายกับการเลนกีฬาฟุตซอล
มารยาทในการเลนกีฬาฟุตซอล
มารยาทของผูชมกีฬาฟุตซอล
2.3 ครูใหนักเรียนทุกคนศึกษาจากใบปฏิบัติกิจกรรมท่ี 8 และปฏิบัติตาม
2.4 นักเรียนจัดหองเปนแบบครึ่งวงกลม ดังรูป
นักเรียน
ครู
3
2.5 ครูสาธิตตามใบปฏิบัติกิจกรรมท่ี 9 กิจกรรมปฏิบัติท่ี 1 และใหนักเรียนปฏิบัติเปนฐาน 5 ฐาน
ดังนี้
ฐานท่ี 1 พ้ืนฐานการหยุดบอลดวยฝาเทา ขางเทา
ฐานท่ี 2 พ้ืนฐานการหยุดบอลดวยหลังเทา
ฐานท่ี 3 พ้ืนฐานการหยุดบอลดวยหนาอก
ฐานท่ี 4 พ้ืนฐานการเคลื่อนท่ีไปทางซาย-ขวา
ฐานท่ี 5 พ้ืนฐานการเคลื่อนท่ีไปหนา-ถอยหลัง
2.10 ครูอธิบายและสาธิตทักษะพ้ืนฐานท่ีและขอนักเรียนอาสาสมัครมาจัดกิจกรรมปฏิบัติ
2.11 ครูใหนักเรียนเลนกีฬาไทย ตามฐานตาง ๆ โดยแบงเปน 5 ฐาน ดังนี้
2.12 ครูคอยใหคําแนะนํานักเรียนเลนกีฬาท้ัง 5 ฐาน ดังรูป
นักเรียนอาสาสมัคร คร ู
ทักษะพ้ืนฐานท่ี 1 ทักษะพ้ืนฐานท่ี 2 ทักษะพ้ืนฐานท่ี 3
ทักษะพ้ืนฐานท่ี 4 ทักษะพ้ืนฐานท่ี 5
3. ข้ันสรุป
3.1 ครูสรุปเนื้อหา และผลการปฏิบัติ โดยใชหนังสือเรียนเปนสื่อ
3.2 ครูเสริมแรง และเพ่ิมเติมประเด็นท่ีขาดหาย เพ่ือเติมเต็มผลการเรียนรู
นักเรียน
ครู
4
3.3 ครูสรุปภาพรวมท้ังหมดในเรื่อง หนวยท่ี 9 กีฬาฟุตซอล
4. ข้ันวัด และประเมินผล
4.1 ครูสุมนักเรียนใหสาธิตกีฬาไทยท่ีเรียนรูมาแลว
4.2 ครูกลาวถึงการเรียนรูในครั้งตอไป โดยครูจะใหนักเรียนศึกษาเก่ียวกับกีฬาวอลเลยบอล
มาลวงหนากอนเขาชั้นเรียน
สื่อการเรียนรู
1. เนื้อหาความรู ในหนังสือวิชาพลศึกษาเพ่ือพัฒนาสุขภาพ (รหัส 2000-1601) หนวยท่ี 9
กีฬาฟุตซอล
2. ใบปฏิบัติกิจกรรมท่ี 9 กิจกรรมปฏิบัติท่ี 1 หนวยการเรียนรูท่ี 9
การวัดผล และประเมินผล
เครื่องมือ และเกณฑการประเมิน
1. หนังสือวิชาพลศึกษาเพ่ือพัฒนาสุขภาพ (รหัส 2000-1601)
2. แบบประเมินใบปฏิบัติกิจกรรมท่ี 9 กิจกรรมปฏิบัติท่ี 1 หนวยการเรียนรูท่ี 9
3. แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค ตามแนวคานิยม 12 ประการ
(การผานเกณฑ ผาน 10 ใน 12 ขอ)
บันทึกหลงัการสอน
1. ผลการใชแผนการจัดการเรียนรู
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
2. ผลการเรียนของนักเรียน/ผลการสอนของครู/ปญหาท่ีพบ
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
3. แนวทางการแกปญหา
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
ลงชื่อ...............................................
(.............................................)
ครูผูสอน
5
แบบประเมิน คุณลักษณะอันพึงประสงค
ตามแนวคานิยม 12 ประการ
ชื่อ…………………………………………………..ชั้น……………………เริ่มเวลา.......................เสร็จเวลา...............
คําช้ีแจง
แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค ตามแนวคานิยม 12 ประการ นี้ ใชประเมินคุณลักษณะอันพึง
ประสงคท้ัง 12 ประการ ไดแก
1. มีความรักชาติ ศาสน กษัตริย
2. มีความซ่ือสัตยสุจริต
3. กตัญูตอพอแมครูอาจารย
4. ใฝหาความรู หม่ันศึกษาเลาเรียน ท้ังทางตรงและทางออม
5. รักษาวัฒนธรรม ประเพณีไทย
6. มีศีลธรรม รักษาความสัตย
7. เขาใจ เรียนรูการเปนประชาธิปไตย
8. มีระเบียบ วินัย เคารพกฎหมาย ผูนอยรูจักเคารพผูใหญ
9. มีสติ รูตัว รูคิด รูทํา
10. รูจักดํารงตนอยูโดยใชหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
11. มีความเขมแข็งท้ังรางกาย และจิตใจไมยอมแพตออํานาจ ฝายต่ํา
12. คํานึงถึงผลประโยชนของสวนรวม และของชาติมากกวาผลประโยชนของตนเอง
โดยในแตละคุณลักษณะตามแนวคานิยม 12 ประการ จะประกอบไปดวยตัวชี้วัด และตัวชี้วัด
แตละตัว จะมีพฤติกรรมบงชี้ ท่ีจําแนกตามระดับคะแนน ดังนี้
3 หมายถึง มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับ ดี
2 เทากับ มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับ ปานกลาง
1 เทากับ มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับพอใช
0 เทากับ มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับ ตองปรับปรุง
6
คุณลักษณะอันพึงประสงคตาม
แนวคานิยม 12 ประการ และตัวชี้วัด
ระดับคุณภาพ
3 2 1 0
1. รักชาติ ศาสน กษัตริย ตัวชี้วัด เปนพลเมืองดีของชาติ ธํารงไวซึ่งความเปนไทย มีความศรัทธายึดมั่น
ปฏิบัติตนตามหลักของศาสนา และเคารพเทิดทูนสถาบนัพระมหากษัตริย
2. ซื่อสัตย สุจริต ตัวชี้วัด ประพฤติตนตรงตามความเปนจริงตอตนเอง และผูอ่ืนทัง้ทางกาย วาจา ใจ
3. กตัญูตอพอแมครูอาจารย ตัวชี้วัด เอาใจใส ดูแลชวยเหลือภารกิจ การงาน ปฏิบัตตินตามคาสัง่สอนที่ถูกตอง และเหมาะสม
4. ใฝหาความรู หม่ันศึกษาเลาเรียน ทั้งทางตรง และทางออม ตัวชี้วัด ตั้งใจเพียรพยายาม ในการเรียน และเขารวมกิจกรรม แสวงหาความรูจาก แหลงเรียนรูตางๆทั้งภายใน และภายนอกโรงเรียนดวยการเลือกใชสื่ออยางเหมาะสม สรุปเปนองคความรู สามารถนําไปใชในชีวิตประจําวันได
5. รักษาวัฒนธรรม ประเพณีไทย ตัวชี้วัด ภาคภูมิใจในขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปวฒันธรรมไทยและม ีความกตัญูกตเวทีเห็นคุณคา และใชภาษาไทยในการสื่อสารไดอยางถูกตองเหมาะสม และอนุรักษ สืบทอด ภูมิปญญาไทย
6. มีศีลธรรม รักษาความสัตย ตัวชี้วัด ปฏิบัติโดยยึดตามกติกา ขอตกลง/กฎ/ระเบียบของโรงเรียน
7. เขาใจ เรียนรูการเปนประชาธิปไตย ตัวชี้วัด เขารวมกิจกรรมเก่ียวกับประชาธิปไตย
8. มีระเบียบ วินัย เคารพกฎหมาย ผูนอยรูจักเคารพผูใหญ ตัวชี้วัด ตรงตอเวลา ปฏิบัติตามขอตกลง กฎเกณฑ ระเบียบ ขอบังคับ
ของครอบครัว โรงเรียนและสังคม
9. มีสติ รูตัว รูคิด รูทํา ตัวชี้วัด คิดดี พูดดี ทําดีสุภาพเรียบรอย ออนนอมถอมตนรอบคอบเหมาะสมกับวัย
10.รูจักดํารงตนอยูโดยใชหลักปรัชญาของเศรษฐกจิพอเพียง ตัวชี้วัด ดําเนินชีวิตอยางพอประมาณ มีเหตุผล รอบคอบ มีคุณธรรม รวมทั้งมีภูมิคุมกัน
ในตัวที่ดี ปรับตัวเพื่ออยูในสังคมไดอยางมีความสุข
11. มีความเขมแข็งทั้งรางกาย และจิตใจไมยอมแพตออํานาจ ฝายต่ํา ตัวชี้วัด รักษาสุขภาพรายกายตามสุขอนามัย ไมเก่ียวของกับอบายมุข
12. คํานึงถึงผลประโยชนของสวนรวม และของชาติมากกวาผลประโยชนของตนเอง ตัวชี้วัด มีจิตอาสา อุทิศตนเพื่อประโยชนตอสังคม และสวนรวม ทําประโยชนแกผูอ่ืน
คะแนนที่ได
คะแนนรวม
7
เกณฑ ผานตัวช้ีวัด
28-36 เทากับ ดี
19-27 เทากับ ปานกลาง
10-18 เทากับ พอใช
0-9 เทากับ ตองปรับปรุง
ผูประเมิน.............................................. (...............................................................)
ระดับคะแนนท่ีได
1
แผนการจัดการเรียนรูที่ 17 หนวยท่ี 10 (ครั้งท่ี 17)
รายวิชา พลศึกษาเพ่ือพัฒนาสุขภาพ(รหัส 2000-1601) เวลาเรียนรวม 36 คาบ
ช่ือหนวย หนวยท่ี 10 กีฬาสากลนารู(วอลเลยบอล) สอนครั้งท่ี 17 /18
สาระสําคัญ
กีฬาวอลเลยบอลเปนกีฬาท่ีมีผูนิยมเลนท้ังหญิงและชาย เปนกีฬาท่ีนิยมเลนกันกันท่ัวโลก การเรียนรู
พ้ืนฐานการเลนเบื้องตน ตลอดจนรูจักกฎ กติกา มารยาท ท้ังมารยาทในการเลนและมารยาทในการชมจะทําให
เลนและชม กีฬาวอลเลยบอลไดอยางสนุกสนาน
สาระการเรียนรู
1. ประวัติกีฬาวอลเลยบอล
2. สมรรถภาพทางกายกับการเลนกีฬาวอลเลยบอล
3. มารยาทผูเลนกีฬาวอลเลยบอล
4. มารยาทของผูชมกีฬาวอลเลยบอล
5. ทักษะเบื้องตนท่ีจําเปนในการเลนกีฬาวอลเลยบอล
6. กฎกติกาวอลเลยบอลนารู
จุดประสงคเชิงพฤติกรรม
1. บอกประวัติความเปนมาของกีฬาวอลเลยบอลได
2. อธิบายกติกาการเลนกีฬาวอลเลยบอลได
3. ปฏิบัติทักษะพ้ืนฐานการเลนกีฬาวอลเลยบอลได
สมรรถนะประจําหนวย
1. ปฏิบัติทักษะพ้ืนฐานในการเลนกีฬาวอลเลยบอล
2. แสดงมารยาทในการเลนกีฬาวอลเลยบอล
3. แสดงมารยาทในการชมกีฬาวอลเลยบอล
4. เลนกีฬาวอลเลยบอลตามกติกา
2
สอนครั้งท่ี 17/18
1. ข้ันการนําเขาสูบทเรียน
1.1 ครูทบทวนเรื่อง กีฬาฟุตซอล ท่ีปฏิบัติแลวในการเรียนครั้งท่ีแลว
1.2 ครูเนนย้ําเรื่องการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค ตามแนวคานิยม 12 ประการ โดยแจง
ถึงผลท่ีนักเรียนจะไดรับ คือ เพ่ือใหนักเรียนเปนคนดี
1.3 ครูนําเขาสูบทเรียนโดยใชคําถามวา “นอกจากกีฬาฟุตบอล และกีฬาฟุตซอลแลว กีฬาอะไร
อีกท่ีเปนท่ีนิยมในปจจุบันอีก”
1.4 นักเรียนและครูรวมกันสนทนาเรื่อง กีฬาวอลเลยบอล ตามท่ีครูมอบหมายใหไปศึกษา
ในการเรียนครั้งท่ีแลว
2. ข้ันการสอน
นอกหองเรียน
2.1 นักเรียนเขาแถวตอน พรอม อบอุนรางกายกอนการเรียนรู ดังรูป
2.2 ครูกลาวถึงกีฬาวอลเลยบอล ตามประเก็นหัวขอ ดังนี้
ฐานท่ี 1 พ้ืนฐานการเคลื่อนท่ีและการเลนลูกมือลาง
ฐานท่ี2 พ้ืนฐาน การแตะชูลูกบอลสองมือบน
ฐานท่ี 3 พ้ืนฐานการสง(เสิรฟ)ลูกวอลเลยบอลมือลาง
ฐานท่ี 4 พ้ืนฐานการสง(เสิรฟ)ลูกวอลเลยบอลมือบน
ฐานท่ี 5 พ้ืนฐานการเลนกีฬาวอลเลยบอล
2.3 ครูใหนักเรียนทุกคนศึกษาจากใบปฏิบัติกิจกรรมท่ี 10 และปฏิบัติตาม
2.4 นักเรียนจัดหองเปนแบบครึ่งวงกลม ดังรูป
นักเรียน
ครู
3
2.5 ครูสาธิตตามใบปฏิบัติกิจกรรมท่ี 10 กิจกรรมปฏิบัติท่ี 1 และใหนักเรียนปฏิบัติเปนฐาน 5
ฐานดังนี้
ฐานท่ี 1 พ้ืนฐานการเคลื่อนท่ีและการเลนลูกมือลาง
ฐานท่ี 2 พ้ืนฐาน การแตะชูลูกบอลสองมือบน
ฐานท่ี 3 พ้ืนฐานการสง(เสิรฟ)ลูกวอลเลยบอลมือลาง
ฐานท่ี 4 พ้ืนฐานการสง(เสิรฟ)ลูกวอลเลยบอลมือบน
ฐานท่ี 5 พ้ืนฐานการเลนกีฬาวอลเลยบอล
2.10 ครูอธิบายและสาธิตทักษะพ้ืนฐานท่ีและขอนักเรียนอาสาสมัครมาจัดกิจกรรมปฏิบัติ
2.11 ครูใหนักเรียนเลนกีฬาไทย ตามฐานตาง ๆ โดยแบงเปน 5 ฐาน ดังนี้
2.12 ครูคอยใหคําแนะนํานักเรียนเลนกีฬาท้ัง 5 ฐาน ดังรูป
นักเรียนอาสาสมัคร คร ู
ทักษะพ้ืนฐานท่ี 1 ทักษะพ้ืนฐานท่ี 2 ทักษะพ้ืนฐานท่ี 3
ทักษะพ้ืนฐานท่ี 4 ทักษะพ้ืนฐานท่ี 5
3. ข้ันสรุป
3.1 ครูสรุปเนื้อหา และผลการปฏิบัติ โดยใชหนังสือเรียนเปนสื่อ
3.2 ครูเสริมแรง และเพ่ิมเติมประเด็นท่ีขาดหาย เพ่ือเติมเต็มผลการเรียนรู
นักเรียน
ครู
4
3.3 ครูสรุปภาพรวมท้ังหมดในเรื่อง หนวยท่ี 10 กีฬาวอลเลยบอล
4. ข้ันวัด และประเมินผล
4.1 ครูสุมนักเรียนใหสาธิตกีฬาวอลเลยบอลท่ีเรียนรูมาแลว
สื่อการเรียนรู
1. เนื้อหาความรู ในหนังสือวิชาพลศึกษาเพ่ือพัฒนาสุขภาพ (รหัส 2000-1601) หนวยท่ี 10
กีฬาฟุตซอล
2. ใบปฏิบัติกิจกรรมท่ี 10 กิจกรรมปฏิบัติท่ี 1 หนวยการเรียนรูท่ี 10
การวัดผล และประเมินผล
เครื่องมือ และเกณฑการประเมิน
1. หนังสือวิชาพลศึกษาเพ่ือพัฒนาสุขภาพ (รหัส 2000-1601)
2. แบบประเมินใบปฏิบัติกิจกรรมท่ี 10 กิจกรรมปฏิบัติท่ี 1 หนวยการเรียนรูท่ี 10
3. แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค ตามแนวคานิยม 12 ประการ
(การผานเกณฑ ผาน 10 ใน 12 ขอ)
บันทึกหลงัการสอน
1. ผลการใชแผนการจัดการเรียนรู
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
2. ผลการเรียนของนักเรียน/ผลการสอนของครู/ปญหาท่ีพบ
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
3. แนวทางการแกปญหา
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
ลงชื่อ...............................................
(.............................................)
ครูผูสอน
5
แบบประเมิน คุณลักษณะอันพึงประสงค
ตามแนวคานิยม 12 ประการ
ชื่อ…………………………………………………..ชั้น……………………เริ่มเวลา.......................เสร็จเวลา...............
คําช้ีแจง
แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค ตามแนวคานิยม 12 ประการ นี้ ใชประเมินคุณลักษณะอันพึง
ประสงคท้ัง 12 ประการ ไดแก
1. มีความรักชาติ ศาสน กษัตริย
2. มีความซ่ือสัตยสุจริต
3. กตัญูตอพอแมครูอาจารย
4. ใฝหาความรู หม่ันศึกษาเลาเรียน ท้ังทางตรงและทางออม
5. รักษาวัฒนธรรม ประเพณีไทย
6. มีศีลธรรม รักษาความสัตย
7. เขาใจ เรียนรูการเปนประชาธิปไตย
8. มีระเบียบ วินัย เคารพกฎหมาย ผูนอยรูจักเคารพผูใหญ
9. มีสติ รูตัว รูคิด รูทํา
10. รูจักดํารงตนอยูโดยใชหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
11. มีความเขมแข็งท้ังรางกาย และจิตใจไมยอมแพตออํานาจ ฝายต่ํา
12. คํานึงถึงผลประโยชนของสวนรวม และของชาติมากกวาผลประโยชนของตนเอง
โดยในแตละคุณลักษณะตามแนวคานิยม 12 ประการ จะประกอบไปดวยตัวชี้วัด และตัวชี้วัด
แตละตัว จะมีพฤติกรรมบงชี้ ท่ีจําแนกตามระดับคะแนน ดังนี้
3 หมายถึง มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับ ดี
2 เทากับ มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับ ปานกลาง
1 เทากับ มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับพอใช
0 เทากับ มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงคตามคานิยมในระดับ ตองปรับปรุง
คุณลักษณะอันพึงประสงคตาม ระดับคุณภาพ
6
แนวคานิยม 12 ประการ และตัวชี้วัด 3 2 1 0
1. รักชาติ ศาสน กษัตริย ตัวชี้วัด เปนพลเมืองดีของชาติ ธํารงไวซึ่งความเปนไทย มีความศรัทธายึดมั่น
ปฏิบัติตนตามหลักของศาสนา และเคารพเทิดทูนสถาบนัพระมหากษัตริย
2. ซื่อสัตย สุจริต ตัวชี้วัด ประพฤติตนตรงตามความเปนจริงตอตนเอง และผูอ่ืนทัง้ทางกาย วาจา ใจ
3. กตัญูตอพอแมครูอาจารย ตัวชี้วัด เอาใจใส ดูแลชวยเหลือภารกิจ การงาน ปฏิบัตตินตามคาสัง่สอนที่ถูกตอง และเหมาะสม
4. ใฝหาความรู หม่ันศึกษาเลาเรียน ทั้งทางตรง และทางออม ตัวชี้วัด ตั้งใจเพียรพยายาม ในการเรียน และเขารวมกิจกรรม แสวงหาความรูจาก แหลงเรียนรูตางๆทั้งภายใน และภายนอกโรงเรียนดวยการเลือกใชสื่ออยางเหมาะสม สรุปเปนองคความรู สามารถนําไปใชในชีวิตประจําวันได
5. รักษาวัฒนธรรม ประเพณีไทย ตัวชี้วัด ภาคภูมิใจในขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปวฒันธรรมไทยและม ีความกตัญูกตเวทีเห็นคุณคา และใชภาษาไทยในการสื่อสารไดอยางถูกตองเหมาะสม และอนุรักษ สืบทอด ภูมิปญญาไทย
6. มีศีลธรรม รักษาความสัตย ตัวชี้วัด ปฏิบัติโดยยึดตามกติกา ขอตกลง/กฎ/ระเบียบของโรงเรียน
7. เขาใจ เรียนรูการเปนประชาธิปไตย ตัวชี้วัด เขารวมกิจกรรมเก่ียวกับประชาธิปไตย
8. มีระเบียบ วินัย เคารพกฎหมาย ผูนอยรูจักเคารพผูใหญ ตัวชี้วัด ตรงตอเวลา ปฏิบัติตามขอตกลง กฎเกณฑ ระเบียบ ขอบังคับ
ของครอบครัว โรงเรียนและสังคม
9. มีสติ รูตัว รูคิด รูทํา ตัวชี้วัด คิดดี พูดดี ทําดีสุภาพเรียบรอย ออนนอมถอมตนรอบคอบเหมาะสมกับวัย
10.รูจักดํารงตนอยูโดยใชหลักปรัชญาของเศรษฐกจิพอเพียง ตัวชี้วัด ดําเนินชีวิตอยางพอประมาณ มีเหตุผล รอบคอบ มีคุณธรรม รวมทั้งมีภูมิคุมกัน
ในตัวที่ดี ปรับตัวเพื่ออยูในสังคมไดอยางมีความสุข
11. มีความเขมแข็งทั้งรางกาย และจิตใจไมยอมแพตออํานาจ ฝายต่ํา ตัวชี้วัด รักษาสุขภาพรายกายตามสุขอนามัย ไมเก่ียวของกับอบายมุข
12. คํานึงถึงผลประโยชนของสวนรวม และของชาติมากกวาผลประโยชนของตนเอง ตัวชี้วัด มีจิตอาสา อุทิศตนเพื่อประโยชนตอสังคม และสวนรวม ทําประโยชนแกผูอ่ืน
คะแนนที่ได
คะแนนรวม
7
เกณฑ ผานตัวช้ีวัด
28-36 เทากับ ดี
19-27 เทากับ ปานกลาง
10-18 เทากับ พอใช
0-9 เทากับ ตองปรับปรุง
ผูประเมิน.............................................. (...............................................................)
ระดับคะแนนท่ีได