บทคัดย่อ - Khon Kaen Universityresjournal.kku.ac.th/abstract/17_6_895.pdf · The...
Transcript of บทคัดย่อ - Khon Kaen Universityresjournal.kku.ac.th/abstract/17_6_895.pdf · The...
895KKU Res. J. 2012; 17(6)
การทำาแผนที่การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากกิจกรรมมนุษย์ กรณีศึกษาเทศบาลเมืองแสนสุข อำาเภอเมือง จังหวัดชลบุรีMapping of Carbon Dioxide Emission from Human Activities: A Case Study of Saensuk Municipality, Mueng District, Chon Buri Province
ณรงค์ พลีรักษ์Narong Pleerux
คณะภูมิสารสนเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ตำาบลแสนสุข อำาเภอเมือง จังหวัดชลบุรีCorrespondent author: [email protected]
บทคัดย่อ
การวจิยันีม้วีตัถปุระสงคเ์พือ่ประเมนิปรมิาณการปลอ่ยกา๊ซเรอืนกระจกในรปูของกา๊ซคารบ์อนไดออกไซด์
เทียบเท่า และจัดทำาแผนที่ปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ถูกปล่อยออกมาจากกิจกรรมหลัก 2ประเภท ได้แก่
การใช้พลังงานและเชื้อเพลิงประกอบด้วยการใช้ไฟฟ้านำ้ามันและแก๊สหุงต้มและการบริโภคประกอบด้วยการ
รับประทานข้าวเนื้อไก่เนื้อวัวเนื้อหมูและการดื่มนมพื้นที่ศึกษาได้แก่เทศบาลเมืองแสนสุขอำาเภอเมืองจังหวัด
ชลบุรีจากการศึกษาพบว่าปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์รวมในเขตเทศบาลเมืองแสนสุขเท่ากับ5.00
พนัเมตรกิตนัคารบ์อน/เดอืนหรอืประมาณ60.04พนัเมตรกิตนัคารบ์อน/ปีจำาแนกเปน็กจิกรรมการใชพ้ลงังานและ
เชื้อเพลิงเท่ากับ4.42พันเมตริกตันคาร์บอน/ปีและกิจกรรมการบริโภคเท่ากับ0.58พันเมตริกตันคาร์บอน/ปีโดยมี
ปรมิาณการปลอ่ยกา๊ซคารบ์อนไดออกไซดเ์ฉลีย่ตอ่คนเทา่กบั304.21กโิลคารบ์อน/เดอืนหรอืประมาณ3,650.52กโิล
คารบ์อน/ปีโดยกจิกรรมทีม่กีารปลอ่ยกา๊ซคารบ์อนไดออกไซดม์ากทีส่ดุไดแ้ก่การใชน้ำา้มนัดเีซลสำาหรบัรถยนต์ซึง่
ลกัษณะหรอืรปูแบบการประกอบอาชพีและการใชป้ระโยชนท์ีด่นิมผีลตอ่ปรมิาณการปลอ่ยกา๊ซคารบ์อนไดออกไซด์
เฉลี่ยต่อคนและปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์รวมของแต่ละชุมชนขึ้นอยู่กับจำานวนประชากรที่อาศัย
อยู่โดยชุมชนที่มีปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์รวมมากที่สุดได้แก่ชุมชนดอนบน
Abstract
Theobjectivesofthisresearchweretoestimategreenhousegasemissionsincarbondioxideequivalent
(CO2e)andmakethecarbondioxideemissionmaps.Thisresearchfocusedontwomainhumanactivitiesnamely,
energyandfuelconsumptions(electricity,diesel,petrolandcookinggas)andfoodconsumptions(rice,chicken,
meat,porkandmilk).Saensukmunicipality,Muengdistrict,ChonBuriprovincewasselectedasstudyarea.The
totalCO2inSaensukmunicipalitywasemitted5.00thousandmetrictonsCO
2e/monthor60.04thousandmetric
KKU Res. J. 2012; 17(6):895-910http : //resjournal.kku.ac.th
896 KKU Res. J. 2012; 17(6)
tonsCO2e/year.CO
2emissionsfromtheenergyandfuelconsumptionsandfoodconsumptionscontributedabout
4.42 and0.58 thousandmetric tonsCO2e/month, respectively.The average of carbondioxide emissions per
personwas304.21kilogramsCO2e/monthor3,650.52kilogramsCO
2e/year.Themostcarbondioxidewasemitted
fromtheuseofdieselforcar.Inaddition,occupationandlandusedirectlyaffectedtheaverageofCO2emissions
perperson.ThetotalCO2emissionsineachcommunitiesdependedonnumberofpopulation.IncomparingCO
2
emissionsacrossdifferentcommunities,themaximumofCO2emissionswasfoundinDonboncommunity.
คำ�สำ�คัญ: กิจกรรมมนุษย์,ก๊าซเรือนกระจก,ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์,เทศบาลเมืองแสนสุข
Keywords: humanactivity,greenhousegas,carbondioxide,Sanesukmunicipality
1. บทนำ�
ภาวะโลกร้อนเป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิ
อากาศของโลกทีก่ำาลงัเปน็ประเดน็สำาคญัทีป่ระเทศตา่งๆ
ทั่วโลกให้ความสนใจ โดยมีตัวแปรสำาคัญที่ทำาให้เกิด
ภาวะโลกร้อนหรือการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศคือการ
เพิ่มขึ้นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2)ซึ่งเป็นก๊าซ
เรือนกระจกชนิดหนึ่งส่งผลให้เกิดอุบัติภัยหลายอย่างที่
ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างหนักต่อชีวิตและทรัพย์สิน
ของประชากรบนโลกเพิม่จำานวนขึน้เรือ่ยๆ อาทิสขุภาพ
สิ่งแวดล้อมเกษตรกรรมและเศรษฐกิจในช่วงศตวรรษ
ที่ผ่านมาประเทศต่างๆมีการพัฒนามากขึ้นในทุกด้าน
ทั้งการคมนาคมขนส่งอุตสาหกรรมซึ่งกิจกรรมเหล่านี้
ต้องใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลเช่นนำ้ามันก๊าซธรรมชาติและ
ถ่านหินมาเป็นวัตถุดิบในการผลิตสินค้าและสร้างสิ่ง
อำานวยความสะดวกต่างๆ ให้กับมนุษย์นอกจากนี้ทุกๆ
ผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ใช้อุปโภคและบริโภคกันในทาง
ออ้มกท็ำาใหเ้กดิการปลอ่ยกา๊ซเรอืนกระจกกา๊ซเหลา่นีม้า
จากกระบวนการผลติการใชพ้ลงังานไฟฟา้เพือ่ใหท้ำางาน
ได้ รวมไปถึงการเดินทางขนส่งและซื้อสินค้า และการ
กำาจัดทิ้งดังนั้นผลิตภัณฑ์และบริการจึงเป็นสาเหตุของ
การปล่อยก๊าซเรือนกระจกแทบทั้งสิ้น
วิกฤติสภาพภูมิอากาศนี้เกิดจากวิถีการดำารง
ชีวิตของมนุษย์ที่ก่อผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยพบ
ว่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น จาก
สถิติการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในปี 2551พบ
ว่าประเทศจีนมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มาก
ที่สุดในโลกประมาณ 7.55พันล้านเมตริกตัน รองลง
มาคือประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งปล่อยออกมาประมาณ
5.69พันล้านเมตริกตัน(1)ก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออก
สูบ่รรยากาศกำาลงัทำาใหอ้ณุหภมูขิองโลกเปลีย่นแปลงไป
ซึ่งเชื่อกันว่ามีสาเหตุมาจากกิจกรรมของมนุษย์ (2)ทั้ง
ทางตรงและทางอ้อมรวมกันเป็นระดับหน่วยงานหรือ
สามารถแยกย่อยเป็นระดับกิจกรรมในชีวิตประจำาวันได้
เช่นกัน โดยเรียกปริมาณหรือขนาดของการปล่อยก๊าซ
เรือนกระจกว่ารอยเท้าคาร์บอน(Carbonfootprint)
นอกจากนี้การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสามารถ
เกิดขึ้นได้ในกระบวนการผลิตอาหารตั้งแต่ขั้นตอนการ
เพาะปลูก การขนส่งวัตถุดิบ จนถึงขั้นตอนการผลิต
สินค้าหรือผลิตภัณฑ์ (3)จากการวิจัยพบว่าผลกระทบ
จากการบริโภคอาหารโดยทั่วไปจะมุ่งประเด็นไปที่การ
ใช้พลังงานและปริมาณของเสียที่เกิดขึ้นจนนำาไปสู่การ
ปล่อยก๊าซเรือนกระจก ทั้งก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
มีเทนและไนตรัสออกไซด์(4)โดย18%ของการปล่อย
ก๊าซเรือนกระจกทั่วโลกมาจากผลิตภัณฑ์ที่ทำามาจาก
สัตว์ (5) นอกจากนี้ยังมีการศึกษาเกี่ยวกับการปล่อย
ก๊าซเรือนกระจกจากการผลิตไฟฟ้าซึ่งวิธีการคำานวณค่า
สัมประสิทธิ์การปล่อยก๊าซเรือนกระจกมีหลายวิธีและ
แตกตา่งกนัจงึทำาใหป้รมิาณการลดกา๊ซเรอืนกระจกจาก
การจำาหน่ายไฟฟ้าที่คำานวณได้มีค่าแตกต่างกันไปด้วย
โดยวิธีการที่เหมาะสมสำาหรับประเทศไทยซึ่งแนะนำา
โดยองค์การบริหารก๊าซเรือนกระจก (6)คือAnnex14
MethodologicalTool (Version02) “Tool to calculate
theemissionfactorforanelectricsystem”
897KKU Res. J. 2012; 17(6)
การเก็บบันทึกข้อมูลรอยเท้าคาร์บอนของ
กจิกรรมสว่นบคุคลจนถงึระดบัหนว่ยงานเปน็การเริม่ตน้
ก้าวแรกของการเฝ้าระวังและติดตามปริมาณก๊าซ
เรือนกระจกที่ปล่อยออกมาจากกิจกรรมมนุษย์อย่างมี
ประสิทธิภาพและหาแนวทางการแก้ไขปัญหาที่มาจาก
สาเหตุที่แท้จริงอีกด้วย เช่นสินค้าที่จะส่งเข้าไปขายใน
กลุ่มประเทศอียู (EU) จะต้องมีการออกแบบเชิงนิเวศ
เศรษฐกิจ โดยคำานึงถึงผลต่อสิ่งแวดล้อมตลอดวัฏจักร
ของผลิตภัณฑ์ หรือสายการบินที่บินเข้าออกในกลุ่ม
ประเทศอียูจะต้องเข้าระบบCO2 Emission Trading
Scheme เป็นต้น (7) การตรวจวัดรอยเท้าคาร์บอนจาก
กิจกรรมต่างๆของมนุษย์โดยเฉพาะการใช้พลังงานใน
กิจวัตรประจำาวัน กระบวนการผลิตสินค้าหรือบริการ
และการกำาจัดของเสีย (3)สามารถดำาเนินการได้หลาย
วิธีเช่นการประเมินปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
จากกิจกรรมโดยใช้เครื่องมือคำานวณที่เรียกว่า carbon
calculatorผ่านทางเวบไซต์ได้(8)
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษากิจกรรม
มนุษย์ที่ส่งผลต่อการปล่อยก๊าซเรือนกระจก2ประเภท
ได้แก่การใช้พลังงานและเชื้อเพลิงประกอบด้วยการใช้
ไฟฟ้านำ้ามันและแก๊สหุงต้มและการบริโภคประกอบ
ด้วยการรับประทานข้าวเนื้อไก่เนื้อวัวเนื้อหมูและการ
ดื่มนมซึ่งทำาการสำารวจโดยใช้แบบสอบถาม จากนั้น
ทำาการประเมินปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกใน
รูปของคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า และแสดงผลการ
คำานวณเป็นแผนที่รายชุมชนพื้นที่ศึกษาได้แก่เทศบาล
เมืองแสนสุข ตั้งอยู่ในเขตอำาเภอเมือง จังหวัดชลบุรี
รวมพื้นที่ทั้งสิ้น 20.27ตารางกิโลเมตร (12,668 ไร่) มี
ประชากรตามข้อมูลทะเบียนราษฎร์ทั้งสิ้น 43,670คน
(9)พื้นที่ศึกษาแบ่งออกเป็น20ชุมชนได้แก่ชุมชนเขา
สามมุขบ้านแหลมแท่นมุขแสนเจริญวัดแสนสุขโชคดี
สมใจนกึบางเปง้วดักลางดอนแสนสขุทา้ยตลาดรว่มใจ
พัฒนาบางแสนบนมาบมะยมหาดวอนนภาดอนบน
มณีแก้วตาลล้อมบ้านเหมืองพัฒนา2และมหาวิทยาลัย
บูรพา โดยในการวิจัยครั้งนี้ไม่ได้นำาชุมชนมหาวิทยาลัย
บูรพามาพิจารณา เนื่องจากประชากรไม่ได้อาศัยอยู่ใน
พื้นที่แบบถาวร และการคาดการณ์จำานวนประชากร
ที่แท้จริงเป็นไปได้ยาก
2. วิธีวิจัย
2.1 ข้อมูลที่ใช้ในก�รวิจัย
2.1.1 ข้อมูลก�รใช้พลังง�นและเชื้อเพลิง
และก�รบริโภค
ข้อมูลการใช้พลังงานและเชื้อเพลิง และ
การบริโภคของประชาชน ได้จากการสอบถามกลุ่ม
ตวัอยา่งในพืน้ที่และนำามาคำานวณปรมิาณการปลอ่ยกา๊ซ
คาร์บอนไดออกไซด์มีรายละเอียดดังนี้
2.1.1.1 ข้อมูลการใช้พลังงานและ
เชื้อเพลิงประกอบด้วยปริมาณการใช้ไฟฟ้า (กิโลวัตต์-
ชัว่โมง/เดอืน/คน)การใชน้ำา้มนัดเีซลสำาหรบัรถยนต์และ
นำ้ามันเบนซินสำาหรับรถยนต์และรถจักรยานยนต์(ลิตร/
เดือน/คน)และแก๊สหุงต้ม(กิโลกรัม/เดือน/คน)
2.1.1.3 การบริโภค ประกอบด้วย
การรับประทานข้าว (จาน/เดือน/คน) เนื้อไก่ (กิโลกรัม/
เดอืน/คน)เนือ้ววั(กโิลกรมั/เดอืน/คน)เนือ้หมู(กโิลกรมั/
เดือน/คน)และการดื่มนม(แก้ว/เดือน/คน)
2.1.2 ข้อมูลตัวคูณ หรือ CO2 emission
factors
ข้อมูลตัวคูณใช้แปลงปริมาณการใช้
พลังงานและเชื้อเพลิงและการบริโภคของมนุษย์ให้เป็น
ปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ซึ่งได้ทำาการ
รวบรวมจากหน่วยงานต่างๆ(10-12)ดังตารางที่1
898 KKU Res. J. 2012; 17(6)
ต�ร�งที่ 1. ค่าของข้อมูลตัวคูณ(CO2emissionfactors)ที่ใช้แปลงปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้อยู่ในรูป
ของก๊าซคาร์บอนด์ออกไซด์เทียบเท่าในแต่ละประเภทกิจกรรม
กิจกรรม ปริม�ณก�รปล่อยก๊�ซเรือนกระจก (กิโลค�ร์บอน)
1. กิจกรรมการใช้พลังงานและเชื้อเพลิง
1.1 ไฟฟ้า(กิโลวัตต์-ชั่วโมง)1,2 0.56
1.2 นำ้ามันดีเซลสำาหรับรถยนต์(ลิตร)1 2.19
1.3 นำ้ามันเบนซินสำาหรับรถยนต์(ลิตร)1 2.74
1.4 นำ้ามันเบนซินสำาหรับรถจักรยานยนต์(ลิตร)2 2.74
1.5 แก๊สหุงต้ม(กิโลกรัม)2 3.11
2. กิจกรรมการบริโภค
2.1 ข้าว(จาน)3 0.02
2.2 เนื้อวัว(กิโลกรัม)3 14.80
2.3 เนื้อหมู(กิโลกรัม)3 3.80
2.4 เนื้อไก่(กิโลกรัม)3 1.10
2.5 นม(แก้ว)3 0.271(10),2(11),3(12)
2.2 เครื่องมือที่ใช้สำ�หรับก�รวิจัย
2.2.1 แบบสอบถ�ม
เครื่องมือที่ใช้สำาหรับการวิจัยนี้ ได้แก่
แบบสอบถามซึง่ถกูสรา้งขึน้เพือ่ใชส้อบถามกลุม่ตวัอยา่ง
ที่อยู่ในเขตเทศบาลเมืองแสนสุขเกี่ยวกับปริมาณการใช้
พลังงานและเชื้อเพลิงและการบริโภค
2.2.2 ประช�กรและกลุ่มตัวอย่�ง
2.2.2.1 ประชากร
ประชากรที่อาศัยอยู่ในเทศบาลเมือง
แสนสขุตามขอ้มลูทะเบยีนราษฎร์มทีัง้สิน้43,670คน(9)
2.2.2.2 กลุ่มตัวอย่าง
การคำานวณขนาดของกลุ่มตัวอย่าง
โดยใช้สูตรของทาโรยามาเน่(TaroYamane)ดังนี้
n=N/(1+Ne2)
เมื่อ nคือขนาดของกลุ่มตัวอย่าง
Nคือขนาดของประชากร
e คือ ค่าความคลาดเคลื่อนของการสุ่มกลุ่ม
ตัวอย่าง(samplingerror)กำาหนดให้มีค่าเท่ากับ+/-0.05
ภายใต้ความเชื่อมั่น95%
จากการคำานวณโดยใชส้ตูรของทาโรยามาเน่ได้
ขนาดของกลุม่ตวัอยา่งเทา่กบั396.36โดยในการวจิยัครัง้
นีไ้ดท้ำาการเกบ็ขอ้มลูจากกลุม่ตวัอยา่งทัง้สิน้400ตวัอยา่ง
โดยแบง่จำานวนกลุม่ตวัอยา่งตามชมุชนไดด้งันี้ชมุชนเขา
สามมุข8ตัวอย่างบ้านแหลมแท่น22ตัวอย่างมุขแสน
เจรญิ17ตวัอยา่งวดัแสนสขุ14ตวัอยา่งโชคดี15ตวัอยา่ง
สมใจนึก25ตัวอย่างบางเป้ง41ตัวอย่างวัดกลางดอน
9ตัวอย่างแสนสุข 16ตัวอย่างท้ายตลาด11ตัวอย่าง
ร่วมใจพัฒนา10ตัวอย่างบางแสนบน11ตัวอย่างมาบ
มะยม10ตัวอย่างหาดวอนนภา29ตัวอย่างดอนบน56
ตัวอย่างมณีแก้ว25ตัวอย่างตาลล้อม34ตัวอย่างบ้าน
เหมือง26ตัวอย่างและพัฒนา220ตัวอย่าง
2.3 วิธีดำ�เนินก�รวิจัย
2.3.1 ก�รเก็บข้อมูลและก�รจัดก�รข้อมูล
เก็บข้อมูลการใช้พลังงานและเชื้อเพลิง
และการบรโิภคจากกลุม่ตวัอยา่งทีอ่ยูใ่นเขตเทศบาลเมอืง
แสนสุขโดยใช้แบบสอบถาม จากนั้นนำาเข้าข้อมูลจาก
แบบสอบถามในMicrosoft Excel เพื่อนำาไปวิเคราะห์
899KKU Res. J. 2012; 17(6)
ทางสถิติด้วยโปรแกรมSPSS
2.3.2 ปริม�ณก�รใช้พลังง�นและและเชื้อ
เพลิง และก�รบริโภค
2.3.2.1 ค่าเฉลี่ยต่อคน
คำานวณค่าเฉลี่ยปริมาณการใช้ไฟฟ้า
นำ้ามันดีเซลและเบนซิน และแก๊สหุงต้ม และการรับ
ประทานข้าว เนื้อไก่ เนื้อวัว เนื้อหมู และนมของกลุ่ม
ตวัอยา่งจากแบบสอบถามในแตล่ะชมุชนโดยใชส้ตูรดงันี้
aUic=sU
ic/n
c
เมื่อ aUic คือปริมาณการใช้พลังงานและเชื้อเพลิง
และการบรโิภคเฉลีย่จากกจิกรรมi(หนว่ย/เดอืน/คน)ใน
ชุมชนc
sUic คือปริมาณการใช้พลังงานและเชื้อเพลิง
และการบริโภครวมจากกิจกรรม i จากกลุ่มตัวอย่าง
ทั้งหมดในชุมชนc
ncคือจำานวนกลุ่มตัวอย่างในชุมชนc
2.3.2.2 ปริมาณรวม
คำานวณปรมิาณการใชไ้ฟฟา้นำา้มนัดี
เซลและเบนซนิและแกส๊หงุตม้และการรบัประทานขา้ว
เนื้อไก่เนื้อวัวเนื้อหมูและนมรวมในแต่ละชุมชนโดยใช้
สูตรดังนี้
tUic=aU
ic*N
c
เมื่อ tUicคือ ผลรวมปริมาณการใช้พลังงานและ
เชื้อเพลิงและการบริโภคของประชากรทั้งหมดในพื้นที่
(หน่วย/เดือน)จากกิจกรรมiในชุมชนc
Ncคือจำานวนประชากรในชุมชนc
2.3.3 ปริม�ณก�รปล่อยก๊�ซค�ร์บอนได
ออกไซด์
2.3.3.1 ค่าเฉลี่ยต่อคน
คำ านวณปริมาณการปล่อยก๊ าซ
คาร์บอนไดออกไซด์เฉลี่ยในแต่ละกิจกรรมได้แก่การใช้
ไฟฟา้นำา้มนัดเีซลและเบนซนิและแกส๊หงุตม้และการรบั
ประทานข้าวเนื้อไก่เนื้อวัวเนื้อหมูและนมโดยใช้สูตร
ดังนี้
aCO2Eic=aU
ic*CO
2ei
เมื่อ aCO2Eic คือปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอน
ไดออกไซด์เฉลี่ยจากกิจกรรมi(กิโลคาร์บอน/เดือน/คน)
ในชุมชนc
CO2ei คือ ข้อมูลตัวคูณหรือCO
2 emission
factorsของกิจกรรมi
2.3.3.2 ปริมาณรวม
คำ านวณปริมาณการปล่อยก๊ าซ
คาร์บอนไดออกไซด์รวมในแต่ละกิจกรรมรายชุมชน
ได้แก่การใช้ไฟฟ้านำ้ามันดีเซลและเบนซินและแก๊สหุง
ต้มและการรับประทานข้าวเนื้อไก่เนื้อวัวเนื้อหมูและ
นมโดยใช้สูตรดังนี้
tCO2Eic=aCO
2U
ic*N
c
เมื่อ tCO2Eicคือ ปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอน
ไดออกไซดร์วมจากกจิกรรมiในชมุชนc(กโิลคารบ์อน/
เดือน)
2.3.4 จัดทำ�แผนที่ปริม�ณก�รปล่อยก๊�ซ
ค�ร์บอนไดออกไซด์
จดัทำาแผนทีป่รมิาณการปลอ่ยกา๊ซคารบ์อน
ไดออกไซด์จากกิจกรรมมนุษย์รายชุมชนในเขตเทศบาล
เมืองแสนสุข โดยใช้โปรแกรมระบบสารสนเทศทาง
ภูมิศาสตร์ArcGISDesktop10
3. ผลก�รวิจัย
3.1 ปริม�ณก�รใช้พลังง�นและเชื้อเพลิง และ
ก�รบริโภค
3.1.1ค่าเฉลี่ยต่อคน
การคำานวณค่าเฉลี่ยจากการใช้พลังงาน
และเชื้อเพลิงต่อคนของกลุ่มตัวอย่างในพื้นที่ศึกษาพบ
ว่า มีปริมาณการใช้ไฟฟ้าเฉลี่ยเท่ากับ 65.17 กิโลวัตต์-
ชั่วโมง/เดือน ปริมาณการใช้นำ้ามันดีเซลและเบนซิน
สำาหรับรถยนต์เฉลี่ยเท่ากับ 46.50 และ 36.29 ลิตร/
เดือนตามลำาดับปริมาณการใช้นำ้ามันเบนซินสำาหรับรถ
จักรยานยนต์เฉลี่ยเท่ากับ 9.53ลิตร/เดือนและปริมาณ
การใช้แก๊สหุงต้มเฉลี่ยเท่ากับ 3.20 กิโลกรัม/เดือน
ดังตารางที่ 2 โดยชุมชนที่มีปริมาณการใช้ไฟฟ้านำ้ามัน
900 KKU Res. J. 2012; 17(6)
ดเีซลสำาหรบัรถยนต์นำา้มนัเบนซนิสำาหรบัรถยนต์นำา้มนั
เบนซนิสำาหรบัรถจกัรยานยนต์และแกส๊หงุตม้เฉลีย่มาก
ทีส่ดุไดแ้ก่ชมุชนบางเปง้(89.20กโิลวตัต-์ชัว่โมง/เดอืน)
วัดแสนสุข (104.20ลิตร/เดือน)มณีแก้ว (62.73ลิตร/
เดือน)สมใจนึก (17.40ลิตร/เดือน)และวัดกลางดอน
(8.10กิโลกรัม/เดือน)ตามลำาดับ
ในขณะที่กลุ่มตัวอย่างในพื้นที่ศึกษา
รบัประทานขา้วเฉลีย่ตอ่คนเทา่กบั85.71จาน/เดอืนสว่น
การรับประทานเนื้อไก่ เนื้อวัว และเนื้อหมูเฉลี่ยต่อคน
เท่ากับ0.41, 0.54และ0.60กิโลกรัม/เดือนตามลำาดับ
และการดื่มนมเฉลี่ยต่อคนเท่ากับ 43.13แก้ว/เดือนดัง
ตารางที่2ซึ่งชุมชนที่มีปริมาณการรับประทานข้าวเนื้อ
ไก่ เนื้อวัว เนื้อหมู และการดื่มนมเฉลี่ยมากที่สุด ได้แก่
ชุมชนหาดวอนนภา (100.34 จาน/เดือน)บางแสนบน
(0.67กิโลกรัม/เดือน)มาบมะยม (1.71กิโลกรัม/เดือน)
ท้ายตลาด(0.88กิโลกรัม/เดือน)และมณีแก้ว(67แก้ว/
เดือน)ตามลำาดับ
3.1.2ปริมาณรวม
จากการคำานวณปริมาณการใช้พลังงาน
และเชื้อเพลิง และการบริโภครวมของประชากรใน
พื้นที่ พบว่าปริมาณการใช้ไฟฟ้าเท่ากับ 2,956,612.39
กิโลวัตต์-ชั่วโมง/เดือนปริมาณการใช้นำ้ามันดีเซลและ
นำ้ามันเบนซินสำาหรับรถยนต์เท่ากับ 607,920.12 และ
77,236.56ลิตร/เดือนตามลำาดับปริมาณการใช้นำ้ามัน
เบนซินสำาหรับรถจักรยานยนต์เท่ากับ248,135.40ลิตร/
เดือนและปริมาณการใช้แก๊สหุงต้มเท่ากับ 124,720.13
กิโลกรัม/เดือน ในขณะที่ปริมาณการรับประทานข้าว
เท่ากับ 3,731,612.81 จาน/เดือน การรับประทาน
เนื้อไก่ เนื้อวัวและเนื้อหมูเท่ากับ 12,630.15, 4,747.40
และ21,411.68กิโลกรัม/เดือนตามลำาดับส่วนปริมาณ
การดื่มนมเท่ากับ1,263,758.64แก้ว/เดือนดังตารางที่2
ต�ร�งที่ 2. ปริมาณการใช้พลังงานและเชื้อเพลิง และการบริโภคเฉลี่ย และรวมต่อเดือนในแต่ละกิจกรรมของ
ประชากรในเขตเทศบาลเมืองแสนสุข
กิจกรรมปริม�ณก�รใช้ในแต่ละกิจกรรม
ค่�เฉลี่ย (ต่อคน) รวม
1. การใช้พลังงานและเชื้อเพลิง
1.1การใช้ไฟฟ้า(กิโลวัตต์-ชั่วโมง/เดือน) 65.17 2,956,612.39
1.2รถยนต์-ดีเซล(ลิตร/เดือน) 46.50 607,920.12
1.3รถยนต์-เบนซิน(ลิตร/เดือน) 36.29 77,236.56
1.4จักรยานยนต์-เบนซิน(ลิตร/เดือน) 9.53 248,135.40
1.5แก๊สหุงต้ม(กิโลกรัม/เดือน) 3.20 124,720.13
2. การบริโภค
2.1ข้าว(จาน/เดือน) 85.71 3,731,612.81
2.2เนื้อไก่(กิโลกรัม/เดือน) 0.41 12,630.15
2.3เนื้อวัว(กิโลกรัม/เดือน) 0.54 4,747.40
2.4เนื้อหมู(กิโลกรัม/เดือน) 0.60 21,411.68
2.5นม(แก้ว/เดือน) 43.13 1,263,758.64
901KKU Res. J. 2012; 17(6)
3.2 ปรมิ�ณก�รปลอ่ยก�๊ซค�รบ์อนไดออกไซด์
3.2.1ค่าเฉลี่ยต่อคน
หลังจากคำานวณค่าเฉลี่ยและปริมาณ
การใช้พลังงานและเชื้อเพลิง และการบริโภครวมแล้ว
ขั้นตอนต่อมาเป็นการคำานวณปริมาณการปล่อยก๊าซ
คาร์บอนไดออกไซด์จากกิจกรรมดังกล่าวดังนี้
จากการคำานวณปริมาณการปล่อยก๊าซ
คาร์บอนไดออกไซด์เฉลี่ยต่อคนจากการใช้พลังงานและ
เชื้อเพลิง และการบริโภคของประชากรในพื้นที่ศึกษา
พบว่า มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการใช้
ไฟฟ้าเฉลี่ยเท่ากับ 36.50กิโลคาร์บอน/เดือน โดยชุมชน
ทีม่ปีรมิาณการปลอ่ยกา๊ซคารบ์อนไดออกไซดจ์ากการใช้
ไฟฟ้าเฉลี่ยมากที่สุดได้แก่ชุมชนบางเป้ง เท่ากับ49.95
กิโลคาร์บอน/เดือนการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
จากการใช้นำ้ามันดีเซลและเบนซินสำาหรับรถยนต์เฉลี่ย
เท่ากับ127.42และ79.47กิโลคาร์บอน/เดือนตามลำาดับ
ชมุชนทีม่ปีรมิาณการปลอ่ยกา๊ซคารบ์อนไดออกไซดจ์าก
การใช้นำ้ามันดีเซลสำาหรับรถยนต์เฉลี่ยมากที่สุด ได้แก่
ชมุชนวดัแสนสขุเทา่กบั285.51กโิลคารบ์อน/เดอืนและ
ชุมชนที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการใช้
นำา้มนัเบนซนิสำาหรบัรถยนตเ์ฉลีย่มากทีส่ดุไดแ้ก่ชมุชน
มณแีกว้เทา่กบั137.39กโิลคารบ์อน/เดอืนในขณะทีก่าร
ใชน้ำา้มนัเบนซนิสำาหรบัรถจกัรยานยนตม์กีารปลอ่ยกา๊ซ
คาร์บอนไดออกไซด์เฉลี่ยเท่ากับ 20.86 กิโลคาร์บอน/
เดือนซึ่งชุมชนที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
จากการใชน้ำา้มนัเบนซนิสำาหรบัรถจกัรยานยนตเ์ฉลีย่มาก
ที่สุดได้แก่ชุมชนสมใจนึกเท่ากับ38.10กิโลคาร์บอน/
เดือน และการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการ
ใช้แก๊สหุงต้มเฉลี่ยเท่ากับ9.94กิโลคาร์บอน/เดือน โดย
ชุมชนที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการ
ใช้แก๊สหุงต้มเฉลี่ยมากที่สุด ได้แก่ ชุมชนวัดกลางดอน
เท่ากับ25.20กิโลคาร์บอน/เดือนดังตารางที่3
การคำานวณปรมิาณการปลอ่ยกา๊ซคารบ์อน
ไดออกไซด์เฉลี่ยต่อคนจากการบริโภค ได้แก่ การ
รับประทานข้าวมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
เฉลี่ยเท่ากับ1.71กิโลคาร์บอน/เดือนโดยชุมชนที่มีการ
ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการรับประทานข้าว
เฉลีย่มากทีส่ดุไดแ้ก่ชมุชนหาดวอนนภาเทา่กบั2.01กโิล
คาร์บอน/เดือนส่วนการรับประทานเนื้อไก่มีการปล่อย
ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เฉลี่ยเท่ากับ0.45กิโลคาร์บอน/
เดือนชุมชนที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จาก
การรับประทานเนื้อไก่เฉลี่ยมากที่สุด ได้แก่ ชุมชนบาง
แสนบนเทา่กบั0.73กโิลคารบ์อน/เดอืนการรบัประทาน
เนื้อวัวมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เฉลี่ยเท่ากับ
13.96กิโลคาร์บอน/เดือน โดยชุมชนที่มีการปล่อยก๊าซ
คารบ์อนไดออกไซดจ์ากการรบัประทานเนือ้ววัเฉลีย่มาก
ที่สุดได้แก่ชุมชนมาบมะยมเท่ากับ25.31กิโลคาร์บอน/
เดือน ส่วนการรับประทานเนื้อหมูมีการปล่อยก๊าซ
คารบ์อนไดออกไซดเ์ฉลีย่เทา่กบั2.28กโิลคารบ์อน/เดอืน
ซึ่งชุมชนที่มีปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
จากรับประทานเนื้อหมูเฉลี่ยมากที่สุดได้แก่ชุมชนท้าย
ตลาด เท่ากับ 3.34 กิโลคาร์บอน/เดือน ในขณะที่การ
ดื่มนมมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เฉลี่ยเท่ากับ
11.65กิโลคาร์บอน/เดือนโดยชุมชนวัดกลางดอนมีการ
ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เฉลี่ยมากที่สุดเท่ากับ
18.23กิโลคาร์บอน/เดือนดังตารางที่3
902 KKU Res. J. 2012; 17(6)
ต�ร�งที่ 3. การเปรยีบเทยีบปรมิาณการปลอ่ยกา๊ซคารบ์อนไดออกไซดเ์ฉลีย่รายชมุชนกบัคา่เฉลีย่ของประเทศไทย
จากกิจกรรมต่างๆ
ชุมชนค่�เฉลี่ยก�รปล่อยก๊�ซค�ร์บอนไดออกไซด์ (กิโลค�ร์บอน/เดือน)
ไฟฟ้� ดีเซล เบนซิน ก๊�ซหุงต้ม ข้�ว เนื้อไก่ เนื้อวัว เนื้อหมู นม
วัดกลางดอน 40.46 40.35 21.51 25.20 1.65 0.32 0 2.79 18.23
ท้ายตลาด 40.27 91.36 14.32 6.74 1.75 0.30 0 3.35 9.26
หาดวอนนภา 49.05 113.60 77.01 17.50 2.01 0.57 8.23 1.98 12.15
บ้านเหมือง 41.80 137.05 13.76 7.94 1.80 0.38 0 2.53 9.84
ตาลล้อม 30.70 87.69 91.26 13.80 1.66 0.59 0 2.69 11.05
แสนสุข 27.98 131.97 17.43 12.37 1.80 0.33 3.70 1.79 15.46
ดอนบน 36.27 117.25 72.33 9.37 1.80 0.60 9.15 2.44 14.52
พัฒนา2 34.09 113.29 90.82 11.37 1.92 0.27 0 1.84 9.26
เขาสามมุก 21.60 228.41 18.74 6.62 1.80 0.61 8.63 2.90 8.10
บ้านแหลมแท่น 31.19 181.97 113.85 7.32 1.61 0.39 4.60 1.76 8.84
มุขแสนเจริญ 41.23 79.94 115.10 7.24 1.59 0.47 10.57 2.57 13.37
วัดแสนสุข 38.75 285.51 27.56 5.60 1.54 0.40 3.17 1.76 9.11
โชคดี 21.60 35.53 9.80 5.34 1.52 0.48 12.03 2.25 9.84
สมใจนึก 44.87 129.74 104.04 6.35 1.50 0.36 5.43 1.33 11.67
ร่วมใจพัฒนา 32.44 111.46 15.34 8.02 1.93 0.51 7.46 2.57 12.60
บางแสนบน 43.34 111.67 27.05 12.67 1.64 0.73 4.81 2.64 9.26
มณีแก้ว 33.73 279.63 155.95 6.98 1.55 0.40 4.33 1.66 18.09
มาบมะยม 34.16 91.36 19.12 10.99 1.93 0.25 25.28 1.50 9.84
บางเป้ง 49.95 53.14 26.98 7.38 1.58 0.52 4.26 2.88 10.80
ประเทศ 72.85 100.74 133.36 23.72 0.60 1.25 3.50 3.80 16.20
903KKU Res. J. 2012; 17(6)
3.2.2ปริมาณรวม
จ ากการคำ านวณปริ ม าณการปล่ อ ย
ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการใช้ไฟฟ้ารวมในเขต
เทศบาลเมืองแสนสุขมีค่าเท่ากับ 1,655,702.94 กิโล
คาร์บอน/เดือน โดยชุมชนที่มีปริมาณการปล่อยก๊าซ
คาร์บอนไดออกไซด์จากการใช้ไฟฟ้ารวมมากและน้อย
ที่สุดได้แก่ชุมชนบางเป้งและชุมชนเขาสามมุกเท่ากับ
226,290.35 และ 16,671.52 กิโลคาร์บอน/เดือนตาม
ลำาดบัปรมิาณการปลอ่ยกา๊ซคารบ์อนไดออกไซดจ์ากการ
ใช้นำ้ามันดีเซลสำาหรับรถยนต์รวมเท่ากับ 1,665,701.12
กิโลคาร์บอน/เดือน ชุมชนที่มีปริมาณการปล่อยก๊าซ
คาร์บอนไดออกไซด์จากการใช้นำ้ามันดีเซลสำาหรับ
รถยนต์รวมมากและน้อยที่สุด ได้แก่ ชุมชนมณีแก้ว
และมาบมะยม เท่ากับ 340,934.33และ9,806.38กิโล
คาร์บอน/เดือนตามลำาดับขณะที่ปริมาณการปล่อยก๊าซ
คาร์บอนไดออกไซด์จากการใช้นำ้ามันเบนซินสำาหรับ
รถยนต์รวมเท่ากับ 169,148.06กิโลคาร์บอน/เดือนซึ่ง
ชมุชนทีม่ปีรมิาณการปลอ่ยกา๊ซคารบ์อนไดออกไซดจ์าก
การใช้นำ้ามันเบนซินสำาหรับรถยนต์รวมมากที่สุด ได้แก่
ชมุชนมณแีกว้เทา่กบั60,911.55กโิลคารบ์อน/เดอืนจาก
การสอบถามกลุ่มตัวอย่างในแต่ละชุมชนพบว่า ในบาง
ชมุชนมกีลุม่ตวัอยา่งทีไ่มใ่ชน้ำา้มนัเบนซนิสำาหรบัรถยนต์
โดยชมุชนทีม่ปีรมิาณการปลอ่ยกา๊ซคารบ์อนไดออกไซด์
จากการใช้นำ้ามันเบนซินสำาหรับรถยนต์รวมน้อยที่สุด
ไดแ้ก่ชมุชนหาดวอนนภาเทา่กบั6,353.92กโิลคารบ์อน/
เดือนปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จาก
การใช้นำ้ามันเบนซินสำาหรับรถจักรยานยนต์รวมเท่ากับ
543,416.54กิโลคาร์บอน/เดือนชุมชนที่มีปริมาณการ
ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการใช้นำ้ามันเบนซิน
สำาหรับรถจักรยานยนต์รวมมากและน้อยที่สุด ได้แก่
ชมุชนบางเปง้และโชคดีเทา่กบั68,550.15และ7,366.20
กิโลคาร์บอน/เดือนตามลำาดับส่วนปริมาณการปล่อย
กา๊ซคารบ์อนไดออกไซดจ์ากการใชแ้กส๊หงุตม้รวมเทา่กบั
387,879.60กโิลคารบ์อน/เดอืนซึง่ชมุชนทีม่ปีรมิาณการ
ปลอ่ยกา๊ซคารบ์อนไดออกไซดจ์ากการใชแ้กส๊หงุตม้รวม
มากและน้อยที่สุดได้แก่ชุมชนดอนบนและเขาสามมุก
เทา่กบั56,558.77และ5,111.35กโิลคารบ์อน/เดอืนตาม
ลำาดับดังรูปที่1
904 KKU Res. J. 2012; 17(6)
รูปที่ 1.ปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์รวมจากการใช้พลังงานและเชื้อเพลิง(กิโลคาร์บอน/เดือน)
905KKU Res. J. 2012; 17(6)
จากการคำานวณปริมาณการปล่อยก๊าซ
คาร์บอนไดออกไซด์จากการบริโภครวมในเขตเทศบาล
เมืองแสนสุข ได้แก่การรับประทานข้าว เนื้อไก่ เนื้อวัว
เนื้อหมู และการดื่มนมพบว่า ปริมาณการปล่อยก๊าซ
คาร์บอนไดออกไซด์จากการรับประทานข้าวรวมมีค่า
เท่ากับ74,632.58กิโลคาร์บอน/เดือนโดยชุมชนที่มีการ
ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการรับประทานข้าว
รวมมากและนอ้ยทีส่ดุไดแ้ก่ชมุชนดอนบนและเขาสาม
มุกเท่ากับ11,057.40และ1,389.60กิโลคาร์บอน/เดือน
ตามลำาดับปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
จากการรับประทานเนื้อไก่รวมเท่ากับ 13,893.17
กิโลคาร์บอน/เดือน โดยชุมชนที่มีการปล่อยก๊าซ
คาร์บอนไดออกไซด์จากการรับประทานเนื้อไก่รวม
มากและน้อยที่สุด ได้แก่ชุมชนดอนบนและท้ายตลาด
เท่ากับ 3,205.70และ237.69กิโลคาร์บอน/เดือนตาม
ลำาดับส่วนการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการ
รับประทานเนื้อวัวรวมเท่ากับ70,261.49กิโลคาร์บอน/
เดือนชุมชนที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จาก
การรับประทานเนื้อวัวรวมมากและน้อยที่สุด ได้แก่
ชุมชนดอนบน และแสนสุข เท่ากับ 22,093.23 และ
412.78กิโลคาร์บอน/เดือนตามลำาดับในขณะที่ปริมาณ
การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการรับประทาน
เนื้อหมูรวมเท่ากับ 81,364.39 กิโลคาร์บอน/เดือนซึ่ง
ชุมชนที่มีปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
จากการรับประทานเนือ้หมรูวมมากและนอ้ยที่สดุไดแ้ก่
ชุมชนดอนบนและมาบมะยม เท่ากับ 13,631.87และ
1,285.23กิโลคาร์บอน/เดือนตามลำาดับและปริมาณการ
ปลอ่ยกา๊ซคารบ์อนไดออกไซดจ์ากการดืม่นมรวมเทา่กบั
341,214.83กิโลคาร์บอน/เดือน โดยชุมชนที่มีปริมาณ
การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการดื่มนมรวม
มากและน้อยที่สุดได้แก่ชุมชนดอนบนและเขาสามมุก
เทา่กบั84,411.40และ1,786.63กโิลคารบ์อน/เดอืนตาม
ลำาดับดังรูปที่2
906 KKU Res. J. 2012; 17(6)
รูปที่ 2.ปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์รวมจากการบริโภค(กิโลคาร์บอน/เดือน)
907KKU Res. J. 2012; 17(6)
4. อภิปร�ยผล
ปริมาณการใช้พลังงานและเชื้อเพลิงของกลุ่ม
ตัวอย่างที่อยู่ในเขตเทศบาลเมืองแสนสุขมีปริมาณน้อย
กว่าค่าเฉลี่ยของประเทศไทยอาทิปริมาณการใช้ไฟฟ้า
เฉลีย่ตอ่คนกลุม่ตวัอยา่งมกีารใชไ้ฟฟา้เฉลีย่เทา่กบั65.17
กิโลวัตต์-ชั่วโมง/เดือนหรือ 782.04 กิโลวัตต์-ชั่วโมง/
ปี ซึ่งน้อยกว่าค่าสถิติของจังหวัดชลบุรีซึ่งมีค่าเท่ากับ
991.06กิโลวัตต์-ชั่วโมง/ปี(13)เนื่องจากจำานวนสมาชิก
ทีใ่ชไ้ฟฟา้ในครวัเรอืนทีต่า่งกนัมผีลตอ่อตัราการใชไ้ฟฟา้
ต่อคนส่งผลให้ปริมาณการใช้ไฟฟ้าเฉลี่ยต่อคนในพื้นที่
ศึกษาน้อยกว่าค่าสถิติของจังหวัดชลบุรี หากพิจารณา
กลุ่มตัวอย่างที่มีผู้ใช้ไฟฟ้าหนึ่งคนพบว่าปริมาณการใช้
ไฟฟ้าเฉลี่ยเท่ากับ158กิโลวัตต์-ชั่วโมง/เดือนหรือ1,896
กิโลวัตต์-ชั่วโมง/ปี ซึ่งสูงกว่าค่าสถิติของจังหวัดชลบุรี
ประมาณ2เท่าเมื่อทำาการวิเคราะห์เป็นรายชุมชนพบว่า
มหีลายชมุชนทีม่ปีรมิาณการใชไ้ฟฟา้สงูกวา่คา่เฉลีย่เชน่
ชุมชนบางเป้งเท่ากับ89.20กิโลวัตต์-ชั่วโมง/เดือนหรือ
1,070.40กิโลวัตต์-ชั่วโมง/ปีรวมทั้งชุมชนหาดวอนนภา
และสมใจนกึเปน็ตน้สว่นปรมิาณการใชน้ำา้มนัดเีซลของ
กลุม่ตวัอยา่งในเขตเทศบาลเมอืงแสนสขุมคีา่ใกลเ้คยีงกบั
ค่าสถิติจังหวัดชลบุรีโดยปริมาณการใช้นำ้ามันดีเซลของ
กลุม่ตวัอยา่งเทา่กบั546ลติร/ปีสว่นจากสถติขิองจงัหวดั
ชลบุรีเท่ากับ558ลิตร/ปี(13)ซึ่งมีปริมาณการใช้สูงกว่า
กลุ่มตัวอย่างในพื้นที่ศึกษาเล็กน้อย
ส่วนปริมาณการบริโภคของกลุ่มตัวอย่างใน
เขตเทศบาลเมืองแสนสุขส่วนใหญ่มีความสอดคล้อง
และคล้ายคลึงกับพฤติกรรมการบริโภคของประชากร
โดยทัว่ไปอาทิปรมิาณการรบัประทานขา้วเฉลีย่ตอ่เดอืน
ของประชากรในพืน้ทีศ่กึษาเทา่กบั85.71จาน/เดอืนหรอื
ประมาณ2.86จาน/วันซึ่งเป็นปริมาณการรับประทาน
ข้าวเฉลี่ยโดยทั่วไปคือ วันละ 2-3 จาน ในขณะที่การ
รับประทานเนื้อสัตว์ของประชากรในพื้นที่ศึกษาบาง
ประเภทยังมีปริมาณน้อยกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศไทย
เช่น เนื้อหมู ในพื้นที่ศึกษามีการรับประทานเนื้อหมู
เฉลีย่ตอ่เดอืนเทา่กบั0.60กโิลกรมัในขณะทีค่า่เฉลีย่ของ
ประชากรในประเทศไทยเท่ากับ1กิโลกรัม(14)อย่างไร
ก็ดีหากพิจารณาเป็นรายชุมชนพบว่า ชุมชนที่มีการ
รบัประทานเนือ้หมเูฉลีย่ตอ่เดอืนใกลเ้คยีงกบัคา่เฉลีย่ของ
ประเทศไทยเช่นชุมชนท้ายตลาดเท่ากับ0.88กิโลกรัม
และชุมชนบางเป้งและเขาสามมุกเท่ากับ0.76กิโลกรัม
เป็นต้น
ปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
เฉลีย่ตอ่คนรวมทกุกจิกรรมเทา่กบั304.21กโิลคารบ์อน/
เดือนหรือประมาณ3,650.52กิโลคาร์บอน/ปี เปรียบ
เทียบกับค่าเฉลี่ยของประเทศไทยมีค่าเท่ากับ4,410กิโล
คาร์บอน/ปี(15)เนื่องจากในการวิจัยนี้ได้ทำาการคัดเลือก
เฉพาะบางกิจกรรมมาคำานวณซึ่งยังไม่ครอบคลุมถึง
กิจกรรมอื่นๆที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเช่นการรับประทาน
ผักและผลไม้ ตลอดจนการเดินทางรูปแบบต่างๆ เช่น
การเดินทางโดยรถโดยสารสาธารณะและการเดินทาง
โดยเครื่องบิน เป็นต้น ดังนั้นปริมาณการปล่อยก๊าซ
คาร์บอนไดออกไซด์จึงมีค่ามากกว่าการประเมินในการ
วิจยันี้เมือ่พิจารณากิจกรรมการใชพ้ลงังานและเชื้อเพลงิ
พบว่าการใช้นำ้ามันมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
มากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้นำ้ามันดีเซลสำาหรับ
รถยนต์ที่มีค่าเฉลี่ยต่อเดือนสูงถึง 127.42กิโลคาร์บอน
หรือประมาณร้อยละ 42.73 ของปริมาณการปล่อย
ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทั้งหมดจากทุกกิจกรรม ซึ่ง
กิจกรรมด้านการเดินทางและขนส่งก่อให้เกิดการปล่อย
ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกสู่ชั้นบรรยากาศมากที่สุด
ประมาณร้อยละ 69.60 (16)สำาหรับปริมาณการปล่อย
ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากกิจกรรมการบริโภคพบ
ว่า การรับประทานเนื้อวัวก่อให้เกิดการปล่อยก๊าซ
คารบ์อนไดออกไซดม์ากทีส่ดุเทา่กบั13.96กโิลคารบ์อน/
เดือน เนื่องจากวงจรชีวิตของวัวก่อนที่จะนำามาแปรรูป
เปน็อาหารนัน้ยาวนานกวา่สิง่มชีวีติชนดิอืน่เชน่ไก่หรอื
หมูดังนั้นในกระบวนการเลี้ยงวัวตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงโรง
ฆา่สตัวจ์งึมกีารใชป้จัจยัตา่งๆ ทีก่อ่ใหเ้กดิการปลอ่ยกา๊ซ
คาร์บอนไดออกไซด์ในปริมาณมากเช่นเดียวกับปริมาณ
การปลอ่ยกา๊ซคารบ์อนไดออกไซดจ์ากการดืม่นมซึง่มคีา่
เท่ากับ11.65กิโลคาร์บอน/เดือนโดยนมที่ผู้บริโภคนิยม
ดื่มส่วนใหญ่มาจากนมวัวทั้งสิ้น
908 KKU Res. J. 2012; 17(6)
ลักษณะหรือรูปแบบการประกอบอาชีพและ
การใช้ประโยชน์ที่ดินมีผลต่อปริมาณการใช้พลังงาน
เช่นชุมชนบางเป้งมีปริมาณการใช้ไฟฟ้าเฉลี่ยมากที่สุด
(89.20กโิลวตัต-์ชัว่โมง/เดอืน)เนือ่งจากชมุชนนีต้ัง้อยูร่มิ
ถนนสขุมุวทิมลีกัษณะเปน็ชมุชนเมอืงทำาการคา้ขายและ
การพาณิชย์เป็นส่วนใหญ่ดังนั้นปริมาณการใช้ไฟฟ้าจึง
สูงมากกว่าชุมชนอื่นๆ เช่นเดียวกับชุมชนหาดวอนนภา
มีปริมาณการใช้ไฟฟ้าเฉลี่ยมากเช่นกัน(87.59กิโลวัตต์-
ชัว่โมง/เดอืน)เนือ่งจากชมุชนในบรเิวณนีม้สีถานบนัเทงิ
รา้นคา้และรา้นอาหารจำานวนมากสว่นปจัจยัดา้นจำานวน
ประชากรมีผลต่อปริมาณการใช้พลังงานและการปล่อย
กา๊ซคารบ์อนไดออกไซดเ์ชน่กนัอาทิชมุชนเขาสามมกุที่
มปีระชากรอาศยัอยูเ่บาบางปรมิาณการใชไ้ฟฟา้จงึมนีอ้ย
ตามไปด้วยอย่างไรก็ตามจำานวนประชากรไม่ใช่ปัจจัย
สำาคัญที่ทำาให้ชุมชนนั้นมีปริมาณการใช้พลังงานหรือ
การบริโภคเฉลี่ยมากหรือน้อยแต่ลักษณะหรือรูปแบบ
การประกอบอาชพีและการใชป้ระโยชนท์ีด่นิเปน็ปจัจยัที่
มคีวามสำาคญัมากกวา่เชน่ชมุชนบางเปง้และชมุชนหาด
วอนนภา ไม่ได้มีจำานวนประชากรมากที่สุดแต่มีการใช้
พลงังานไฟฟา้เฉลีย่มากทีส่ดุในขณะทีช่มุชนดอนบนทีม่ี
ประชากรมากที่สุด(6,143คน)แต่มีปริมาณการใช้ไฟฟ้า
เฉลี่ยเท่ากับ64.76กิโลวัตต์-ชั่วโมง/เดือน
ในทางตรงกันข้ามลักษณะชุมชนหรือรูปแบบ
การประกอบอาชีพ และการใช้ประโยชน์ที่ดินไม่มีผล
ตอ่ปรมิาณการบรโิภคเชน่การรบัประทานขา้วในแตล่ะ
ชุมชนมีค่าเฉลี่ยใกล้เคียงกันตลอดจนการรับประทาน
เนือ้ไก่เนือ้หมูและการดืม่นมยกเวน้การรบัประทานเนือ้
วัวจากการเก็บข้อมูลพบว่ามี5ชุมชนที่กลุ่มตัวอย่างไม่
รบัประทานเนือ้ววัไดแ้ก่ชมุชนกลางดอนทา้ยตลาดบา้น
เหมืองตาลล้อมและพัฒนา2โดยในชุมชนดังกล่าวที่ไม่
รับประทานเนื้อวัวจะมีปริมาณการรับประทานเนื้อสัตว์
ประเภทอืน่สงูกวา่ชมุชนอืน่ๆ เชน่ชมุชนทา้ยตลาดเปน็
ชุมชนที่มีปริมาณการรับประทานเนื้อหมูเฉลี่ยมากที่สุด
ในพื้นที่ศึกษา(0.88กิโลกรัม/เดือน)
จากสถิติการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
ของประเทศไทยในปีพ.ศ.2552พบว่าประเทศไทยจัด
อยูใ่นลำาดบัที่22โดยมกีารปลอ่ยกา๊ซคารบ์อนไดออกไซด์
เท่ากับ 285,733 พันเมตริกตันคาร์บอน/ปี หรือ
ประมาณร้อยละ 0.95 ของปริมาณการปล่อยก๊าซ
คาร์บอนไดออกไซด์รวมของโลก (15) จากการคำานวณ
ปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์รวมในพื้นที่
ศกึษาพบวา่มปีรมิาณเทา่กบั5.00พนัเมตรกิตนัคารบ์อน/
เดือน หรือประมาณ 60.04 พันเมตริกตันคาร์บอน/
ปีหรือคิดเป็นร้อยละ 0.02ของปริมาณการปล่อยก๊าซ
คาร์บอนไดออกไซด์ของประเทศไทย โดยจำาแนกเป็น
ปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากกิจกรรม
การใช้พลังงานเท่ากับ 4.42 พันเมตริกตันคาร์บอน/
เดือนและกิจกรรมการบริโภคเท่ากับ0.58พันเมตริกตัน
คาร์บอน/เดือน
5. สรุป
ปรมิาณการใชพ้ลงังานขึน้อยูก่บัลกัษณะชมุชน
หรอืรปูแบบการประกอบอาชพีรวมทัง้การใชป้ระโยชน์
ที่ดินอาทิเช่นชุมชนบางเป้งและชุมชนหาดวอนนภามี
ปริมาณการใช้ไฟฟ้าเฉลี่ยต่อเดือนมากที่สุดเป็นลำาดับที่
หนึง่และสองตามลำาดบัโดยชมุชนบางเปง้เปน็ชมุชนทีต่ัง้
อยูใ่นเขตเมอืงและมรีา้นคา้จำานวนมากสง่ผลใหม้ปีรมิาณ
การใช้ไฟฟ้าสูงมาก ในขณะที่ชุมชนหาดวอนนภามีร้าน
ค้าและสถานบันเทิงจำานวนมากทำาให้มีปริมาณการใช้
ไฟฟ้าสูงมากเช่นเดียวกันส่วนปริมาณการบริโภคนั้นไม่
ขึน้อยูก่บัลกัษณะชมุชนหรอืรปูแบบการประกอบอาชพี
รวมทั้งการใช้ประโยชน์ที่ดิน
จากการคำานวณปรมิาณการปลอ่ยกา๊ซคารบ์อน
ไดออกไซด์พบว่า ชุมชนที่มีปริมาณการปล่อยก๊าซ
คารบ์อนไดออกไซดม์ากทีส่ดุไดแ้ก่ชมุชนดอนบนสว่น
ชุมชนที่มีปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
น้อยที่สุด ได้แก่ ชุมชนโชคดี หากทำาการจำาแนกตาม
ประเภทของกิจกรรมพบว่า กิจกรรมการใช้พลังงาน
มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากกว่ากิจกรรม
การบริโภค โดยเฉพาะการใช้นำ้ามันดีเซลสำาหรับรถยนต์
มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากที่สุด ดังนั้น
เทศบาลเมืองแสนสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรมี
มาตรการเพื่อลดการใช้รถยนต์และส่งเสริมให้มีการใช้
909KKU Res. J. 2012; 17(6)
บรกิารรถโดยสารสาธารณะหรอืรถจกัรยานเพิม่ขึน้สว่น
กิจกรรมการบริโภค ได้แก่ การดื่มนมมีการปล่อยก๊าซ
คาร์บอนไดออกไซด์มากที่สุด อย่างไรก็ตามการวิจัยนี้
ไมไ่ดน้ำาทกุกจิกรรมมาคำานวณจงึทำาใหป้รมิาณการปลอ่ย
ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่อคนในพื้นที่ศึกษาตำ่ากว่าค่า
เฉลี่ยของประเทศไทย
6. กิตติกรรมประก�ศ
โครงการวิจัยนี้ ได้รับทุนอุดหนุนการวิจัย
ประจำาปี พ.ศ. 2554 จากคณะภูมิสารสนเทศศาสตร์
มหาวิทยาลัยบูรพา
7. เอกส�รอ้�งอิง
(1) PBLNetherlandsEnvironmentalAssessment
Agency.GlobalCO2emissions:annualincrease
halvesin2008[Internet].2009[updated2009Jun
25;cited2011Dec10].Availablefrom:http://
www.pbl.nl/en/publications/2009/Global-CO2-
emissions-annual-increase-halves-in-2008
(2) Intergovernmental Panel onClimateChange
(IPCC)ContributionofWorkingGroupItothe
FourthAssessmentReportoftheIntergovernmental
Panel on Climate Change, 2007 [Internet].
2007 [updated 2010 Jan 20; cited 2011 Jan
26]. Available from: http://www.ipcc.ch/
publications_and_data/ar4/wg1/en/contents.html
(3) PathakH,JainN,BhatiaA,PatelJ,Aggarwal
PK.Carbon footprints of Indian food items.
Agriculture, Ecosystems and Environment.
2010;139:66-73.
(4) KramerKJ,MollHC,NonhebelS,WiltingHC.
GreenhousegasemissionsrelatedtoDutchfood
consumption.EnergyPolicy.1999;27:203-16.
(5) Steinfeld,H.,Gerber,P.,Wassenaar,T.,Castel,
V., Rosales,M.,Haan, C. Livestock’s long
shadow [Internet]. 2006 [updated 2010 Jan
20;cited2011Jan26].Availablefrom:www.
virtualcentre.org/on/library/key.pub,AO701EOO.pdf
(6) Thailand Greenhouse Gas Management
Organization (PublicOrganization) (TGO).
Summary Report The Study of emission
factor for an electricity system in Thailand
2009 [Internet]. 2009 [updated 2011Dec 30;
cited2012Jan20].Availablefrom:http://www.
tgo.or.th/english/index.php?option=com_co
ntent&view=article&id=165:thailand-grid-
emission-2009-report&catid=50:tgos-research-
projects&Itemid=40.Thai.
(7) JirajariyawetA.Carbon footprint of products
(CFP). NationalMetal andMaterials and
TechnologyCenter(MTEC);2010.Thai.
(8) KimB,NeffR.Measurementandcommunication
of greenhouse gas emissions formU.S. food
consumptionviacarboncalculators.Ecological
Economics.2009;69:186-96.
(9) Saensukmunicipality.Populationstatistic;2010.
(10) ElectricityGeneratingAuthority of Thailand
(EGAT). Carbon dioxide emission 2010
[Internet].2010[updated2011Feb;cited2011
May5].Availablefrom:http://www.egat.co.th/
wwwthai/index.php?option=com_content&view
=article&id=345&Itemid=829. Thai.
(11) Thailand Greenhouse Gas Management
Organization(PublicOrganization)(TGO). Web
basedThaicarbonfootprintcalculator[Internet].
2009[updated2010;cited2010Dec10].Available
from: http://thaicfcalculator.tgo.or.th/. Thai.
(12) SupappanP.Carbonfootprintandglobalwarming.
Thailand Greenhouse Gas Management
Organization (PublicOrganization) (TGO);
2010.Thai.
910 KKU Res. J. 2012; 17(6)
(13) NationalStatisticalOfficeThailand.Statistical
data[Internet].2011[update2011;cited2012
Feb9].Availablefrom:http://web.nso.go.th/en/
stat.htm. Thai.
(14) SwineProducersandProcessorsforExporting
Association.Porkconsumptionperperson-year
[Internet]. 2010 [update2010; cited2012Feb
19].Availablefrom:http://hypnos.cpportal.net/.
Thai.
(15) UnitedNationsStatisticsDivision.Millennium
DevelopmentGoal Indicators [Internet]. 2010
[update 2010; cited 2012Feb 19].Available
from: http://mdgs.un.org/unsd/mdg/Data.aspx.
Thai.
(16) Multilateral Environmental Agreements
Knowledge andStrategicDevelopmentThink
Tank Project. [Internet]. 2011 [update 2011,
cited2012Feb10].Availablefrom:http://www.
measwatch.org/.Thai.