เป ด...

195
ตําราศาสนศาสตร อันดับ 1 เปด พันธสัญญาใหม วิทยาลัยพระคริสตธรรม แหง สภาคริสตจักรในประเทศไทย 1963

Transcript of เป ด...

Page 1: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

ตําราศาสนศาสตร อันดับ 1

เปด

พันธสัญญาใหม

วิทยาลัยพระคริสตธรรม

แหง

สภาคริสตจักรในประเทศไทย 1963

Page 2: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

ตําราศาสนศาสตร อันดับ 1

วิทยาลัยพระคริสตธรรม

แหงสภาคริสตจักรในประเทศไทย

เชียงใหม

เปด

พันธสัญญาใหม

แปลโดย

ส.ชัยรัตน

1963

2

Page 3: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

แปลจาก

OPENING

THE NEW TESTAMENT

By

Floyd V. Filson

Translated and Printed by Permission Of the

Westminster Press Philadelphia, Penn., U.S.A

3

Page 4: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

คํานํา วิทยาลัยศาสนศาสตรแหงประเทศไทยมีความยินดีท่ีจะเสนอหนังสือเลมท่ีสองของชุด

“ตําราศาสนศาตร” แกมหาชนนักอาน ในประเทศไทย หนังสือชุดนี้เดิมตั้งใจไวเพื่อสําหรับบรรดานักศึกษาศาสนศาสตรกอนอ่ืน แตจะเปนประโยชนแกบรรดาผูสนใจในพระคริสตธรรมคัมภีร ผูแตงศาสตราจารย วิชาพันธสัญญาใหมในวิทยาลัยศาสนศาสตรแม็คคอรมิค นครชิคาโก มลรัฐอิลลินอยส ส.ร.อ. และเปนผูแตงท่ีมีช่ือในสาขาวิชานี้

วิทยาลัยศาสนศาสตรขอแสดงความขอบคุณตอกองทุนศึกษาศาสนศาสตร ในการอนุเคราะหจัดพิมพหนังสือเลมนี้

อี. จอหน แฮมลิน

ประธานบรรณาธิการ เชียงใหม, 12 ตุลาคม 1963

4

Page 5: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

PREEACE It is with pleasure that Thailand Theological Seminary presents this second volume of the

“Theological Textbook Series” to readers in Thailand. The series is intended primarily for theological students, but it will be useful for all who are interested in the Bible. The author is professor of New Testament at McCormick Theological Seminary, Chicago, Illinois, USA, and is a well known author in this field.

The seminary grateful to the theological Education Fund for its aid in the publication of this book.

E. JOHN HAMLIN General Editor

Chiangmai, Octoter, 12, 1963

5

Page 6: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

สารบัญ หนา

บทท่ี 1 เร่ืองท่ีเขาเลา .................................................................................................................. 7

บทท่ี 2 เขาเลาเร่ืองนั้นอยางไร ................................................................................................. 15

บทท่ี 3 กิตติคุณ มาระโก.......................................................................................................... 24

บทท่ี 4 กิตติคุณมัทธิว .............................................................................................................. 34

บทท่ี 5 กิตติคุณ ลูกา ................................................................................................................ 44

บทท่ี 6 กิตติคุณ ยอหน............................................................................................................. 53

บทท่ี 7 หนังสือกิจการ ............................................................................................................. 62

บทท่ี 8 คริสเตียนผูเขียนจดหมาย............................................................................................ 72

บทท่ี 9 จดหมายสองฉบับถึงชาวเธสะโลนิกา.......................................................................... 82

บทท่ี 10 จดหมายถึงชาวกาลาเทีย ............................................................................................ 89

บทท่ี 11 โครินธ ฉบับตน......................................................................................................... 97

บทท่ี 12 “โครินธ ฉบับท่ีสอง” .............................................................................................. 107

บทท่ี 13 จดหมายถึงชาวโรม.................................................................................................. 114

บทท่ี 14 ฟเลโมนและโคโลสี................................................................................................. 124

บทท่ี 15 จดหมายท่ีเรียกวา “เอเฟซัส” ................................................................................... 132

บทท่ี 16 จดหมายถึงชาวฟลิปป.............................................................................................. 139

บทท่ี 17 จดหมายสามฉบับท่ีมีถึงศิษยาภบิาล ........................................................................ 146

บทท่ี 18 จดหมายท่ีถึงชนชาติฮีบรู ......................................................................................... 154

บทท่ี 19 จดหมายของยากอบ................................................................................................. 162

บทท่ี 20 จดหมายฉบับตนของเปโตร..................................................................................... 168

บทท่ี 21 ยูดาหและเปโตรฉบับท่ีสอง..................................................................................... 175

บทท่ี 22 จดหมายสามฉบับของยอหน ................................................................................... 181

บทท่ี 23 พระธรรมวิวรณ ....................................................................................................... 187

6

Page 7: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

บทที่ 1 เรือ่งที่เขาเลา 0

ชายสองคนไดถูกผูครอบครองชาติยูดาหสองคน เขาท้ังสองไดทําผิดอะไร เขาไดประกาศขาวใหม ๆ กลาวถึงพระเยซูชาวนาซาเร็ธเขาไดแสดงฤทธ์ิอํานาจอันนาอัศจรรยในการรักษาคนงอยคนหนึ่ง ในพระวิหารในพระนามของพระองค และผูครอบครองเหลานั้นพากันขัดเคืองท่ีคนสามัญเหลานี้ ผูไมมีอํานาจหนาท่ีไดบังอาจมาส่ังสอนและกระทําอะไร ๆ ในพระวิหารโดยพลการ ผูครอบครองเหลานั้นไดส่ังหามปรามไมใหคน ท้ังสองทําการประกาศตอไปอีก แตเปโตรและยอหนไดตอบเขาวา “เราจะไมพูดตามท่ีไดเห็นและไดยินก็หามิได (กิจการ 4:20)

ชายคนหนึ่งช่ือ สเทฟาโน ไดถูกนําตัวมายังหัวหนาพวกยูดาหในกรุงเยรูซาเล็ม ทานเปนอีกคนหนึ่งท่ีประกาศขาวเดียวกันนี้ ประชาชนก็พาขัดวางทาน แต “คนเหลานั้นเถียงคําท่ีกลาวอันประกอบดวยสติปญญาและพระวิญญาณบริสุทธ์ิไมได” (กิจการ 6:10) ดังนั้นเขาจึงจับทานพาไปหาบรรดาหัวหนา เม่ือทานไมยอมแกตัวหรือปฏิเสธความเช่ือของทาน ฝูงชนจึงไดฉุดลากทานออกจากเมืองและเอาหินขวางทานจนตายกอนท่ีทานจะตายทานไดอธิษฐานเผื่อเขาท้ังหลายวา “โอ องคพระผูเปนเจา ขอโปรดอยาลงโทษแกเขา เพราะความผิดนี้” (กิจการ 7:60)

พวกมิตรสหายของเปาโลไดเตือนทานวา ถาทานนําทานไปใหคริสเตียนผูขัดสนในกรุงเยรูซาเล็ม ทานจะถูกจับขังคุก เปาโลไดทราบอยูแลววา การที่จะถูกขมเหงนั้นเปนอยางไร ทานไดเคยถูกขังคุก ถูกตีดวยแสและไมเรียว ถูกขวางดวยหิน และถูกขับไลจากหลาย ๆ เมืองโดยฝูงคนท่ีปองรายหรือผูครองเมือง ทานทราบดีวาคําเตือนนั้นมิใชเปนเร่ืองไรสาระ แตถึงกระนั้นทานยังไดตอบเพื่อนท่ีหวงใยทานไปทันทีวา “ขาพเจาเต็มใจพรอมท่ีจะไปใหเขาผูกมัดไวอยางเดียวก็หามิได แตเต็มใจพรอมจะตายท่ีในกรุงเยรูซาเล็มดวย เพราะเห็นแกพระนามของพระเยซูคริสตเจา” (กิจการ 21:13)

ตอมาไมกี่วัน ขณะท่ีเปาโลอยูในพระวิหารที่กรุงเยรูซาเล็มพรอมกับเพื่อนคริสเตียนอีกหลายคน ผูกลาวหาเท็จคนหนึ่งไดยุยงประชาชนใหทํารายทาน เขาไดจับทานตีและจะฆาทานเสีย ถาหากพวกทหารโรมันไมไดชวยทานไวทัน ขณะท่ีทหารไดพาทานไปที่บันไดท่ีจะเขาไปในปอม ทานเปาโลไดคิดอยางไร ทานกระตือรือรนท่ีจะรีบเขาไปในปอมเพื่อจะหนีเอาตัวรอดหรือ เปลาไมใชอยางนั้น ขณะท่ีเขาพาทานไป ทานไดขอรองนายพันวา “ขออนุญาตใหขาพเจาพูดกับประชาชน” (กิจการ 21:39) ทานมีความปรารถนาแตเพียงอยางเดียวคือท่ีจะหาโอกาสเลาเร่ืองของทานอีกคร้ังหนึ่ง

คําสอนใหญอันประกอบดวยฤทธิ์เดช

นี่เร่ืองอะไร คือเร่ืองท่ีคนอดอยูไมไดท่ีจะตองบอกกลาว ถึงแมวาจะตองเสียชีวิต

7

Page 8: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

คือเปนเร่ืองเบ้ืองหลังของภาคพันธสัญญาใหมของเรา เปนเร่ืองท่ีผูเขียนพันธสัญญาใหมทุกคนเขียนข้ึนตามวิธีของตน แตกอนท่ีพระธรรมภาคพันธสัญญาใหมจะมีผูรอบรวมเสร็จ กอนท่ีใคร ๆ จะเขียนพระธรรมเลมหนึ่งเลมใดข้ึน เร่ืองท่ีเขาเขียนไวก็ชนะความจงรักภักดีและเปล่ียนชีวิตของคนมากข้ึนทุกทีคร้ังแรกก็มีจํานวนนอย ถาจะเทียบกับมาตรฐานของโลกแลว พวกเหลานี้ก็ไมใชคนใหญโตอะไร แมวาเขาท้ังหลายจะถูกเยาะเยย ถูกขังคุก ถูกเฆ่ียนตี และถูกกอนหินขวางก็ตาม เขาก็ยังทองเท่ียวจากเมืองหน่ึงไปยังอีกเมืองหน่ึงเพื่อเผยแพรขาวของเขา เขาไดบอกเลา ไดดําเนินชีวิตและไดทนทุกขลําบากเพ่ือขาวนี้มากอนที่เขาจะไดเขียนลงไว ดังนั้นเม่ือเขาเขียนข้ึน เขาจึงไดเขียนดวยความรอนรนและดวยฤทธ์ิเดช ซ่ึงปรากฏตลอดคําบอกเลาของเขา

พระเจาไดทรงประกอบกจิในพระครสิต

แลวบรรดานักเทศนท่ีกลาหาญไมยนยอเหลานี้ไดกลาววากระไรเขากลาวซํ้าแลวซํ้าอีกใหผูฟงของเขาฟงเร่ือยไปวา พระเจาไดทรงกระทํากิจทางบุคคลผูหนึ่งอยางไร เขาท้ังหลายไดบอกมิใชแตเพียงท่ีจะใหกฎการดําเนินชีวิต หรือใหคําแนะนําคนท่ีตกทุกขไดยากเทานั้น เขาบอกกลาวเรื่องพระเยซูชาวนาซาเร็ธ แมวาเขาจะบอกกลาวดวยวิธีตาง ๆ กันตามวิธีของนักเทศนแตละคนก็ตาม เขาก็ยังพูดอยูเสมอวา พระเยซูเปนบุคคลผู เปนหัวใจสําคัญแหงขาวของเขา และเปนบุคคลสําคัญท่ีสุดแหงประวัติศาสตรดวย เขาไมยนยอท่ีจะอางวาพระเจาเองไดทรงเขามาในชีวิตของมนุษยทางบุคคลผูนี้ เขากลาท่ีจะประกาศวา ชาหรือเร็วทุก ๆ คนจะตองใหการกับพระเยซูชาวนาซาเร็ธ

คนขางนอกกลุมคริสเตียนโดยมากเห็นวาพระเยซูไมเปนบุคคลที่สําคัญอะไรเลย พระองคไมไดเปนกษัตริย มหาปุโรหิต แมทัพ คนม่ังมีหรือนักปราชญผูมีช่ือเสียงของโลก ในสายตาของบรรดาหัวหนาในสมัยของพระองค เห็นวาพระองคไมไดเปนอะไรเลย พระองคไมมีตําแหนงในทางราชการ พระองคมาจากครอบครัวท่ีดีก็จริง แตก็เปนเพียงครอบครัวท่ีไมหรูหรา ท่ีมีสัมมาอาชีวะอาศัยอยูในเมืองเล็ก ๆ ท่ีไมสําคัญเมืองหนึ่งของแคแควนกาลิลี อันเปนแควนท่ีคนเหยียดหยาม เปนสมาชิกของพลเมืองท่ีข้ึนแกโรม เปนลูกชางไมท่ีมีการศึกษาอยางสามัญ พระองคทรงเคยทํางานหาเล้ียงชีพดวยพระหัตถพระองคเอง พระองคดูเปนผูท่ีไมนาจะมีใครนับถือหรือเอาใจใสเปนพิเศษ ชีวิตในบ้ันปลายของพระองคดูเหมือนจะออนแอไมนาจับใจอะไรเลย เพราะวาภายหลังท่ีทองเที่ยวไปเปนครูสอนท่ีปราศจากบานชองท่ีพักอาศัยแลว บรรดาผูครอบครองชาวโรมันไดตรึงพระองคเสียที่กางเขน ตามคําเรียบรองของบรรดาหัวหนาของพวกยิว พระองคทรงตองถูกฆาในสภาพท่ีโหดรายทารุณอัปยศ เหมาะแกผูเปนนักโทษและพวกกบฏ ดูเหมือนพระองคจะเส่ือมความนับถืออยางส้ินเชิง

แลวทําไมเลาบรรดาคริสเตียนจึงกระตือรือรน และยินดีท่ีจะวางใจในพระเยซู ทําไมเขาท้ังหลายจึงพรอมท่ีจะทนทุกขเพื่อความเชื่อนี้ ในพระองคเขาท้ังหลายไดเห็นส่ิงท่ีคนอ่ืนไมเห็น ใน

8

Page 9: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

พระองคเขาไดเห็นพระเจาทรงกระทํากิจอยางท่ีไมเคยกระทํามากอน เขาท้ังหลายไดบอกวา “พระเจาไดทรงเจิมพระเยซูชาวนาซาเร็ธโดยพระวิญญาณบริสุทธ์ิและโดยฤทธานุภาพและพระองคไดเสด็จไปกระทําคุณและรักษาบรรดาคนซ่ึงถูกมารเบียดเบียนเพราะวาพระเจาไดทรงสถิตอยูกับพระองค” (กิจการ 10:38) เขาท้ังหลายไดเห็นเคร่ืองหมายแหงพระราชกิจใหม ๆ ของพระเจาท่ีมีตอมนุษยในการที่ทรงเปนเพื่อนกับชนทุกช้ัน ทรงสอนทุกคนท่ียินดีฟง ทรงรักษาคนเจ็บ ทรงรวบรวมผูท่ีปฏิญาณถวายตัวจะทํางานของพระเจาเขามาเปนพี่นองกัน ดังนั้นเขาท้ังหลายไดติดสอยหอยตามพระเยซูไป โดยเชื่อวาพระองคทรงเปนพระอาจารย เขาท้ังหลายไดผูกพันกันเขาเปนประชาคมใหม มีพระองคเปนหัวหนาและเปนประมุข

เขาท้ังหลายทําเชนนี้ไดอยางไรในเม่ือเขาท้ังหลายทราบแลววาในบ้ันปลายชีวิตพระเยซูนั้น บรรดาหัวหนาของชนชาติของพระองคไดปฏิเสธพระองคเสียแลวพระองคทรงถูกตรึงไวท่ีกางเขน

พระเจาทรงใหพระเยซูคืนพระชนม

เรามาถึงหัวใจของเร่ืองท่ีคริสเตียนพวกเราไดกลาวไว ตรงนี้เราเรียนรูวาทําไมบรรดาผูท่ีติดตามพระเยซู จึงดําเนินงานของเขาตอมาไดดวยความซ่ือสัตยและดวยฤทธ์ิเดชเชนนั้น กุญแจท่ีไขขาวของเขาท้ังหลายก็คือวาพระเจาทรงใหพระเยซูคืนพระชนมและทรงต้ังพระองคไวใหเปนองคพระผูเปนเจาของคริสตจักรของพระองค เขาท้ังหลายไมไดติดตามผูนําท่ีตายแลวและละท้ิงเขาท้ังหลายไวโดยไมมีอะไรเหลือเลย นอกจากความทรงจําในคําสอนและในชีวิตส้ัน ๆ ซ่ึงส้ินสุดลงอยางรวดเร็ว เขาท้ังหลายไมไดติตตามผูนําท่ีไดผละจากเขาไปเสียและปลอยใหเขาท้ังหลายพ่ึงกําลังของเขาท้ังหลายเอง แตเขาท้ังหลายไดรับใชพระเยซูคริสต องคพระผูเปนเจาผูคืนพระชนม ผูซ่ึงความมรณาไมสามารถยึดพระองคไวได

เดี๋ยวนี้เขาท้ังหลายไดมองเห็นทุกส่ิงดวยความเขาใจใหม เม่ือเขาทํางานรวมกับพระเยซูนั้น เขารูจักพระองควาเปนเพียงคนสําคัญ และคนดีคนหนึ่ง เขาเช่ือดวยความดีใจวา พระองคทรงเปนผูยิ่งใหญท่ีสุดท่ีพระเจาสงมา ยิ่งใหญกวาผูนําใด ๆ ท่ีชนชาติของพระองคไดเคยมีมาแลว เขาทั้งหลายยอมรับวาพระองคมีสิทธ์ิท่ีจะเรียกเอาความจงรักภักดีอันเต็มเปยมและจะยอมรับใชพระองคดวยความเต็มใจ เม่ือคนไดตรึงพระองคท่ีกางเขนนั้นเขาก็พากันงงงวยและหดหูอยูพักหนึ่ง แตเม่ือพระเจาทรงใหพระองคคืนพระชนมแลว มิใชวาเขาท้ังหลายจะไดความเช่ือเดิมกลับคืนมาเทานั้น แตเดี๋ยวนี้เขาเช่ือในพระอาจารยของเขาตามแนวใหม ซ่ึงแตกอนจะเช่ืออยางนี้ไมได ในท่ีสุดเขาท้ังหลายก็เขาใจแจมแจงวา พระเจากําลังทรงประกอบกิจอันใดทางพระเยซูและเม่ือพระวิญญาณของพระเจาเสด็จลามาบนเขาท้ังหลายในวันเพ็นเทคอสต เขาท้ังหลายจึงจําตองพูดถึงเร่ืองพระเยซูใหประชาชนฟง นั่นแหละเปนคร้ังแรกท่ีจะเลาเร่ืองพระเยซูไดอยางครบครัน

9

Page 10: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

พระเจาทรงกระทําใหพระสัญญาของพระองคสําเร็จ

อัครทูตเหลานี้มีขาวใหมท่ีจะเทศนาส่ังสอน ไมมีอะไรเหมือนกับชีวิต ความมรณา และการคืนพระชนมของพระเยซูไดเคยเกิดข้ึนมากอนแตเขาเขาใจเชนเดียวกับท่ีองคพระเยซูเองไดทรงเขาพระทัย (มัทธิว 5: 17) วาพระเยซูไดทรงดําเนินพระราชกิจของพระเจาท่ีไดทรงกระทําเพื่อชาติอิสราเอลในอดีตนั้นใหสําเร็จ บรรดาผูนําคริสเตียนสมัยกอนไดมาพูดกับประชาชนผูท่ีซาบซ้ึงในพระราชกิจของพระเจาในอดีตวา “พระเยซูไมเคยปฏเสธบัญญัติของทานและคําท่ีบรรดาผูพยากรณของทานไดกลาวไว พระองคไมไดหม่ินประมาทส่ิงท่ีพระเจาไดทรงกระทํามาแลว พระองคมิไดมาเหยียดหยามและไมรับรูพระราชกิจยิ่งใหญ และของประทานของพระเจาท่ีใหแกชาติอิสราเอล แตมาเพื่อเสริมสรางตอไป และทําใหพระสัญญาของพระเจาท่ีทําไวกับคนสมัยกอนสําเร็จ เพ่ือจะทําใหน้ําพระทัยดีของพระเจาดําเนินตอไปจนถึงหลักชัย”

นี่เปนจุดสําคัญจุดหนึ่งในการเทศนาของคริสเตียนสมัยแรก พระเจาไดทรงกระทําใหพระสัญญาของพระองคท่ีมีตอชาติอิสราเอลสําเร็จในองคพระเยซู บรรดาสาวกไดเขาใจเร่ืองนี้แตราง ๆ กอนการมรณาและการคืนพระชนมของพระเยซู แตเม่ือพระองคทรงคืนพระชนมแลว เขาท้ังหลายจึงเขาใจดีข้ึนมาก เขาไดความเขาใจใหม ๆ เกี่ยวกับพระคัมภีรของชนชาติของเขาท้ังหลาย (พระคริสตธรรมคัมภีรภาคพันธสัญญาเดิมของเรา) เขาอานพระคัมภีรภาคนั้นดวยความสนใจอยางใหม และไดใชในคําเทศนาส่ังสอนของคริสตศาสนา

พระเจาทรงไถชนชาติของพระองคโดยพระคริสต

กอนท่ีพระเยซูไดทรงคืนพระชนม บรรดาสาวกหวังใจวาพระองคจะทรงทําอะไรตอไปในตอนเย็นวันคืนพระชนมนั้นเราไดฟงมาวา สาวกสองคนไดเดินไปตามถนนเปล่ียวสายหนึ่งโดยไมทราบวาพระเยซูไดทรงคืนพระชนมแลว เม่ือคนแปลกหนาไดตามมาทันเขาท้ังสอง เขาก็ไมรูวานั้นคือองคพระเยซู เขาไดเลาความหวังและความผิดหวังของเขาใหพระองคฟงวา “เราท้ังหลายไดหวังใจวาจะเปนทานผูนั้นท่ีจะไถพลอิสราเอล” (ลูกา 24:21) แตบันนี้ดูเหมือนจะไมเปนไปตามนั้นเสียแลว

ทรงไถพลอิสราเอล คํานี้พวกยิวถือวา สําคัญนักทีเดียวหนอ เขาท้ังหลายไดใฝฝนมานานวาพระเจาจะเสด็จมาไถ ชวยชีวิตชวยกูชนชาติอิสราเอล เขาท้ังหลายคิดวาพระเจาจะทรงชวยพวกเขาทางใดทางหนึ่งจากเคราะหรายและปลดปลอยเขาใหพนจากอํานาจฤทธ์ิของศัตรู เขาทั้งหลายไดคิดอยางนี้วา ในสมัยโบราณพระเจาไดทรงชวยกูพวกเขาใหพนจากชาวอียิปตอยางไร ในสมัยนี้พระองคก็คงทรงชวยพวกเขาใหพนจากอันตรายและความทุกขลําบาก และทรงนําพาชาติของเขาเขาสูยุคใหมอยางนั้นหลาย

10

Page 11: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

คนไดมองหาผูรับใชหรือผูส่ือขาวพิเศษของพระเจา คือพระมาซียาหรือพระคริสต ผูท่ีพระเจาทรงเจิมไวเพื่อมาชวยพวกเขาใหพนความทุกขยากลําบาก

กอนท่ีกิจจานุกิจของพระเยซูจะส้ินสุดลง บรรดาสาวกของพระองคไดมองเห็นวา พระองคคือพระคริสตท่ีเขารอคอยนั้น (มาระโก 8: 27-30) ภายหลังการถูกตรึงท่ีกางเขนแลว คร้ังแรกพวกเขาเขาใจวา พระเยซูไมไชเปนอะไรเลยแมแตผูชวยกูชาติดังท่ีคิด แตพอถึงเวลาท่ีคืนพระชนม ตาของพวกเขาก็เบิกออกและมองเห็นวา พระองคไดทรงพิสูจนใหเห็นวาพระองคทรงเปนผูนั้นท่ีจะไถชนชาติอิสราเอล ตามนัยท่ีลึกซ้ึงกวาท่ีเขาไดคาดไว แทจริงพระองคทรงเปนพระคริสตและพระผูไถ เพราะพระองคทรงชวยมนุษยใหพนอํานาจฤทธ์ิของบาปท่ีทําลายชีวิตมนุษย โดยพระองคเขาไดรับการอภัยโทษความผิด

ทุกอยางท่ีผามมาแลว และพรอมกันนั้นก็ไดรับสติปญญาและกําลังท่ีจะทําสิงท่ีถูกตองในอนาคต พระองคทรงเปดทางดําเนินชีวิตใหมสําหรับผูท่ีเช่ือในพระองค ดังนั้นพวกอัครทูตจึงประกาศแกผูท่ีเปนทุกขใจ เพราะไดประสบความลมเหลววา โดยพระเยซูคริสตชีวิตของเขาจะถูกสรางข้ึนใหมได พระองคทรงประทานการชวยเหลือไถใหพนจากบาป ขาวท่ีเหลาสาวกไดประกาศน้ันเกี่ยวของกับความทุกขยากของมนุษยโดยตัดรากแหงความทุกขยากน้ันทีเดียว คือ บาบท่ีเห็นแกตัวเองซ่ึงอยูในใจและในชีวิตของมนุษย

กางเขนเปนทางท่ีพระเจาทรงนําไปสูชัยชนะ

บัดนี้เหลาสาวกเขาใจความหมายอันแทจริงของพระชนมชีพ และมรณภาพของพระเยซูแลว กอนมรณภาพของพระองค เขารูสึกถึงฤทธ์ิอํานาจและความย่ิงใหญแหงคําสอนของพระองค พลังแหงพระชนมชีพท่ีถอมสุภาพของพระองค การท่ีพระองคเต็มพระทัยชวยคนตกทุกขไดยากพระองคทรงพบเห็น และฤทธ์ิเดชอันแปลกประหลาดในการรักษาคนเจ็บปวยใหหาย ถึงกระนั้นเขาก็ยังไมพนจากความคิดท่ีวา คําสอนของพระองคและชีวิตท่ีชวยเหลือของพระองคเทานั้น เปนการเพียงพอท่ีจะตั้งยุคท่ีดีกวาสําหรับมนุษย เขาท้ังหลายหวังวาคุณความดีท่ีแทจริงของพระองคจะยึดเหนี่ยวสติและความจงรักภักดีของบรรดาผูท่ีรูจักพระองคเหลานั้นไว ทําไมจําเปนนักหรือท่ีพระองคตองทนทุกขทรมาน เม่ือมนุษยไดตรึงพระองคท่ีกางเขน สาวกของพระองคถูกทดลองใหรูสึกวา ไมใชแตพวกเขาเทานั้นท่ีพายแพ แตพระเยซูและแมแตพระจาก็พายแพดวย

เม่ือพระเยซูทรงคืนพระชนมแลวเขาท้ังหลายไดรูดีขึ้น เขาท้ังหลายไดมองเห็นความจริงในคําสอนและในชีวิตของพระเยซูท่ีพระองคทรงแสดงอยูเสมอวา “พระเจาทรงหวงใยชนชาติของพระองค พระองคจะเสด็จมาหาเขาท้ังหลายในเวลาที่เขาท้ังหลายตองการ ถึงแมวาเขาท้ังหลายจะไดกระทําผิด พระองคทรงกระทําการชวยเหลือเขาท้ังหลาย พระองคประทานพระเยซูมากระทําส่ิงท่ีเขาทั้งหลายทําเองไมไดใหเขา พระเยซูทรงยอมถอมพระทัย ดําเนินชีวิตเสียสละ และทนทุกขทรมานโดยไมเห็นแก

11

Page 12: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

พระองคเพื่อทรงกระทําพระราชกิจของพระเจา และทรงชวยบุตรของพระเจาดวยเต็มพระทัย ทางนี้ทางเดียวเทานั้นท่ีเปนทางดําเนินชีวิตท่ียิ่งใหญจริง ๆ นี่เปนการดําเนินชีวิตซ่ึงจะมีชัยชนะ โดยน้ําพระทัยของพระเจาในโลกของพระองค

กอนการคืนพระชนม บรรดาสาวกไมเคยเขาใจความยิ่งใหญของการดําเนินชีวิตอยางเสียสละ คือการเปนอยูเพื่อผูอ่ืนแทนท่ีจะอยูเพื่อตนเองเขาท้ังหลายก็มองไมเห็นดวยเหมือนกันวา ฝายพระเยซูนั้นเหตุใดน้ําพระทัยเชนนี้จะตองนําใหพระองคตองสละชีวิตของพระองคเพื่อใหพระราชกิจของพระเจาสําเร็จ และใหมนุษยไดรับส่ิงท่ีไมสมบูรณในชีวิตของเขา การคืนพระชนมไดนําเขาท้ังหลายใหมองเห็นวา พระเจาไดทรงกระทํากิจโดยพระเยซูในทุกส่ิงท่ีพระเยซูทรงกระทํา สอนเขาใหรูวาทางท่ีพระองคทรงดําเนินนั้นเปนทางท่ีพระเจาจะมาถึงมนุษยและชวยไถมนุษยได ดังนั้นดวยความเขาใจท่ีการคืนพระชนมคลุมไปถึงราชกิจจานุกิจ และการส้ินพระชนมของพระเยซู เขาท้ังหลายไดเลาเร่ืองนี้ท้ังหมด และบอกดวยวาเร่ืองนี้มีความหมายอะไรสําหรับเขาและสําหรับคนอ่ืน พระราชกิจจนุกิจการส้ินพระชนมการคืนพระชนม ท้ังหมดเปนเร่ืองเดียวกัน กลาวถึงบุคคลที่เปนคนสําคัญยิ่งท่ีพระเจาทรงประกอบกิจในพระองคนั้น

พระเยซูคริสตทรงเปนองคพระผูเปนเจา

แตบรรดาคริสเตียนไมไดยุติลงดวยเร่ืองราวแตหนหลัง เพราะเขามิไดกลาวแตเพียงวาพระเจาทรงกระทําใหพระสัญญาของพระองคท่ีมีตอชาติอิสราเอลสําเร็จ หรือวาในพระเยซูพระองคไดทรงกระทําการไถมนุษยเทานั้น แตไดกลาววา องคพระเยซูท่ีคืนพระชนมเดี๋ยวนี้ยังอยู “ท่ีพระหัตถเบ้ืองขวาของพระเจา” (กิจการ 2:33) คือวา พระเจาทรงยกพระองคข้ึนมาสูฤทธ์ิเดชและสิทธิอํานาจ และทรงแตงต้ังใหเปนประมุขของชนชาติของพระองค พระเยซูทรงเปนองคพระผูเปนเจา เปนองคพระผูเปนเจาของคริสตจักร เปนองคพระผูเปนเจาของชนชาติของพระเจาทุกคน

นี่หมายหมายวาพระองคมีสิทธ์ิท่ีจะเรียกรองความไววางใจและความเช่ือฟงของมนุษยทุกคน ไมใชแตเพียงพวกยิวเทานั้น เพราะบรรดาสาวกไดตระหนักแนแลววา พระคริสตผูทรงคืนพระชนมนั้นเปนประมุขของชนชาติของพระเจาทุกคน เขาไดสํานึกวา พระองคมีความชวยเหลือท่ีจะประทานใหแกพวกยิวหรือคนตางชาติตางศาสนาไดเหมือนกัน พระองคมิใชเปนองคพระผูเปนเจาของชนชาติอิสราเอลเทานั้น แตทรงเปนของคนอ่ืนท้ังหมดดวยเชนกัน

องคพระคริสตเจาจะทรงพิพากษามนุษยทุกคน

บรรดาผูนําคริสเตียนไดประกาศวา ในท่ีสุดเร่ืองท่ีวาพระเยซูทรงเปนองคพระผูเปนเจานี้จะเปนท่ีทราบแกโลกจักรวาลในยุคสุดทาย นักเทศนสมัยกอนมิใชเพียงบอกกลาววาพระเจาไดทรงกระทําให

12

Page 13: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

พระสัญญาของพระองคสําเร็จในพระราชกิจของพระเยซู และในตําแหนงท่ีพระคริสตผูทรงคืนพระชมนเปนองคพระผูเปนเจาในปจจุบันเทานั้น เขาท้ังหลายยังมีขาวสําหรับอนาคตอีกดวย เพราะฉะน้ันเขาท้ังหลายจึงไดพูดถึงความสําเร็จของแผนการณของพระเจาซ่ึงกําลังจะมาถึง และเขาเขาใจวาจะมาถึงในไมชา เขาท้ังหลายไดบอกวาพระคริสตจะทรงทําใหพระราชกิจของพระเจาสัมฤทธ์ิผลและจะพิพากษามนุษยทุกคนในวาระสุดทาย “พระเจาไดทรงเจิม พระองคไวเปนผูพิพากษาคนท้ังหลายท้ังคนเปนและคนตาย” (กิจการ 10:42)

ท่ีมิใชเพียงบุคคลสามัญ มิใชเพียงมนุษยท่ีผิดธรรดา นี่คือชีวิตมนุษยอยางเรา แตเปนชีวิตท่ีองคพระเจาเองเสด็จมาและทรงกระทํากิจอยูภายใน นี่เปนหัวใจสําคัญแหงประวัติศาสตร เปนบุคคลใหญยิ่งท่ีสุดของทุกยุคทุกสมัย เปนบุคคลที่มนุษยทุกคนตองใหการกับพระองคในท่ีสุดฉะนั้นจึงไมตองสงสัยเลยท่ีพวกสาวกตองประกาศขาวการไถบาปซ่ึงประทานโดยพระคริสต อยางต้ังใจจริงไมยนยอและอยางเรงดวน

กลับใจใหม – เชื่อถือ – ติดตาม

ทําไมพวกสาวกจึงบอกเลาเร่ืองนี้ มิใชเพ่ือจะหาชื่อเสียงสําหรับตัวเอง มิใชเพ่ือใหความพอใจแกผูท่ีอยากรูอยากเห็นในเร่ืองบุคคลผูท่ีผิด ธรรมดาคนหนึ่ง ผูซ่ึงทําความรูสึกตรึงใจแกผูติดตามอยางเต็มท่ี มิใชแตเพียงเพื่อจะใหตัวอยางซ่ึงดลใจสักอยางหน่ึงเทานั้น แตเขาท้ังหลายบอกเลาดวยความหวังและการอธิษฐาน เพื่อวาพระเจาจะทรงเปล่ียนชีวิตของมนุษยเหมือนกับชีวิตของเขาทั้งหลายไดถูกเปล่ียนโดยการรูจักพระเยซู และมอบความไววางใจกับพระองค

ดังนั้นเขาท้ังหลายไมเคยบอกเลาโดยปราศจากใหจิตสามัญสํานึกของมนุษยรูสึกวาเขาผูเปนมนุษยตองทําส่ิงทันทีเกี่ยวกับขาวนี้ เขาท้ังหลายคะยั้นคะยอวาคนเหลานั้นท่ีไดฟงเร่ืองของเขาแลวตองตัดสินใจอยางใดอยางหน่ึง “กลับใจใหม” คือเปล่ียนความคิดเห็นของตนเสียใหม กลับจากความช่ัวราย อยาเปนทาสของความเห็นแกตัวของตนอีกตอไปเลย ยอมกระทําตามพระเจาและยอมตนอยูใตบังคับบัญชาของพระองค “เช่ือถือ” คือรับขาวดีท่ีวาพระเจาโดยพระคริสตไดทรงประทานการไถตนใหพนความช่ัวรายท่ีไดยิ่งตนไวนั้น มอบความไววางใจใวในพระคริสตอยางพระผูไถและองคพระผูเปนเจาของตน ใหพระองคเปนหัวใจสําคัญในชีวิตของตนและเปนผูบังคับบัญชาความคิดของตน คําพูดและการกระทําทุกอยางของตนและเปนผูบังคับบัญชาความคิดของตน “ติดตาม” คือ ดําเนินในทางของพระองค แบกกางเขนของตนในชีวิตประจําวัน ทําตามนํ้าพระทัยของพระเจาโดยฤทธ์ิเดชของพระวิญญาณผูซ่ึงพระเจาไดทรงประทานแกคนเหลานั้นท่ีเช่ือถือ บอกเลาแกคนอ่ืน ๆ ถึงเร่ืองท่ีพระเจาไดทรงกระทําอะไรแกตนโดยทางพระคริสตเจา และพระองคก็พรอมท่ีจะทรงกระทําเพื่อเขาท้ังหลายตามทํานองเดียวกัน แสวงหาความปล้ืมปติในความเช่ือใหมนี้และในมิตรภาพในระหวางผูท่ีมีความเชื่ออยาง

13

Page 14: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

เดียวกันกาวหนาไปในความหวัง เพราะทานทราบแลววาพระเจาทรงเปนผูดูแลรักษาอนาคต พระจาผูทรงสงพระคริสตมาเพื่อชวยทานใหพนจากส่ิงท่ีทานกําลังเปนอยูในปจจุบันนี้ และทรงกระทําใหทานกลับเปนบุคคลท่ีทานควรจะเปน

นี่เปนเร่ืองราวท่ีผูติดตามพระเยซูไดบอกเลา นี่เปนขาวท่ีกระทําใหเขามีความต้ังใจจริงและฤทธ์ิเดช บนกิตติคุณเองพระเจาไดกอสรางคริสตจักรข้ึน การที่เขาเขียนภาคพันธสัญญาข้ึนก็เพราะเพื่อจะบอกเลาเร่ืองสําคัญนี้ และเพื่อจะแพรความเช่ือและความสัมพันธของคริสเตียนนี่เอง

แนะการอาน อานดูเพื่อใหทราบวานักเทศนคริสเตียนสมัยแรกไดกลาวอะไรไว อานสรุปความของคําเทศนาบางเรื่องท่ีพระธรรมกิจการบันทึกไว ในการทําดังนั้นจงดูหัวขอท่ีเราจดไวในบทนี้คือ พระเจาไดทรงกระทําใหพระสัญญาของพระองคตอชาติอิสราเอลสําเร็จ ฤทธ์ิเดชของพระเจาท่ีปรากฏในพระราชกิจของพระเยซู เร่ืองกางเขนการคืนพระชนมเร่ืองท่ีพระคริสตทรงเปนองคพระผูเปนเจา การพิพากษาท่ีจะมาถึงในภายหนา การทรงเรียกใหกลับใจใหมและใหเช่ือถือ

ตั้งตนท่ีพระธรรมกิจการ 10:34-43 เปนเร่ืองส้ันและมีคําสอนดี แลวอานตอไปในกิจการ 2:14-36; 13:16-41; 17:23-31; 26:1-23

14

Page 15: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

บทที่ 2 เขาเลาเรื่องนั้นอยางไร

เร่ืองท่ีดีท่ีสุดก็ตองเลาอยางดีดวย คริสเตียนในสมัยแรกมีกิตติคุณอันประเสริฐยิ่งท่ีจะประกาศใหทราบ แตมีอยางเดียวไมสามารถอธิบายไดวาทําไมเขาจึงชักชวนคนมากมายอยางนั้นใหฟงได เขาสามารถจะเลาเร่ืองของเขาใหนาฟงดวย ผูฟงใหม ๆ รูสึกประทับใจและผูท่ีเคยไดฟงแลวมักจะอยากใหฟงตอไปอีก ในการท่ีจะเขาใจเร่ืองความสําเร็จของนักเทศนเหลานี้ เราจําเปนตองเรียนรูวาเขาท้ังหลายใชวิธีเลาอยางไรแลวเราก็จําเปนตองรูวาเขาท้ังหลายใชเร่ืองนั้นเพื่อประกอบในการรวมกันอยางไร เม่ือเราเขาใจเร่ืองนี้แลวเราก็จะเร่ิมเขาใจดวยวาเขาเขียนกิตติคุณท้ังส่ีข้ึนทําไมและเขียนข้ึนอยางไร

เปนภาษาที่คนเขาใจ

คนท่ีเลาเร่ืองก็ตองการใหคนฟงเขาใจเขา เพื่อจะใหไดผลดังนี้ ผูเลาเร่ืองตองพูดภาษาของผูฟง ถาคนท้ังหลายพูดภาษาเดียวกันก็ไมมีปญหาอะไรเกิดข้ึนในเร่ืองนี้ แตในศตวรรษแรกก็เหมือนกันในสมัยนี้คือมีภาษาตาง ๆ มากมายท่ีใชกันอยู ในปาเลสไตนเม่ือพระเยซูและอัครทูตทําการสอนนั้น ภาษาท่ีใชกันแพรหลายมีสองภาษาคือ ภาษาอรามและภาษากรีก พวกยิวผูคนแกเรียนมากคนอานภาษาฮีบรูได ซ่ึงเปนภาษาท่ีใชเขียนพันธสัญญาเดิมเกือบท้ังหมด แตพวกยิวไมไดใชภาษานี้พูดกันเปนประจําเสียแลว ขาราชการโรมันในปาเลสไตนอาจจะใชภาษาลาตินในการเขียนเอกสารของรัฐบาล แตในการสนทนากันเขาใชภาษากรีก

ภาษาท่ีใชแพรหลายมากท่ีสุดคือภาษาอารามซ่ึงเปนภาษาคลายคลึงกับภาษาฮีบรูมาก ถึงแมวากิตติคุณของเราที่เขียนนั้นเปนภาษากรีกก็ยังมีคําและวลีภาษาอรามอยูบาง ตัวอยางในมาระโกเขียนวา พระเยซูตรัสวา “ทาลิธาคูมิ” “เด็กหญิงเอยจงลุกข้ึนเถิด” (มาระโก 5:41) “เอ็ฟฟาธา” จงเปดออก” (มาระโก 3:34) และ “อับบา” “พระบิดา” (มาระโก 14:36) ขอความอยางนี้และความเปนจริงท่ีวา “ฝายประชาชนไดฟงพระองคดวยความยินดี” (มาระโก 12: 37) แสดงวาตามธรรมดาพระเยซูตรัสภาษาอรามซ่ึงเปนภาษาที่คริสเตียนสมัยแรกสวนมากใหพูดจากันประชาชนใชพูดมิใชในประเทศปาเลสไตนเทานั้นแตในประเทศขางเคียงดวยคือ ในฟอยนิเค ซีเรีย และเมโซโพทาเมีย

แตภาษากรีกก็เปนภาษาสามัญของพลเมืองสวนมากตลอดท่ัวอาณาจักรโรม ถึงแมวาภาษาลาตินจะเปนภาษาพื้นเมืองของโรมก็จริงแตภาษากรีกก็เปนภาษาสามัญในทุกภาคของจักรภพโรม อัครทูตเปาโลน้ันเขียนจดหมายเปนภาษากรีกท้ังนั้น ถึงแมวาจะเขียนไปถึงคริสตจักรในกรุงโรม เม่ือคริสตจักรในกรุงโรมเขียนจดหมายไปถึงคริสตจักรเมืองโครินธประมาณ ใน ค.ศ. 96 เขาก็เขียนเปนภาษากรีกดวยเหมือนกันในประเทศปาเลสไตนก็เหมือนกันภาษากรีกเปนภาษากลางอยางนอยในสิบ

15

Page 16: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

สองหัวเมือง แลวพวกยิวท่ีอยูภายนอกประเทศปาเลสไตนก็มากกวาท่ีอยูภายในประเทศดวย และยิวสวนมากท่ีอยูตางประเทศไดเรียนพูดภาษากรีก แลวเขายังไดแปลพระคัมภีรภาษาฮีบรูของเขาเปนภาษากรีกเพื่อใชอานและใชในการนมัสการ คริสตจักรไดรับชวงพระคัมภีรฉบับภาษากรีกนี้ ซ่ึงเรียกกันวาฉบับเสปตัวยินต และนักเทศนกับผูเขียนพระคริสตธรรมภาคพันธสัญญาใหม ก็ไดใชเสปตัวยินตนี้ในท่ี ๆ มีคนพูดภาษากรีก

ไมตองสงสัยเลยวาพระเยซูเองก็ตรัสภาษากรีกไดบาง ในแควนกาลิลีซ่ึงมีท้ังคนตางชาติและพวกยิวอาศัยอยูพระองคพระองคตองไดทรงมีโอกาสฟงและทรงเร่ืองภาษากลางน้ี และถึงแมวาพระองคไดทรงสอนเปนภาษาอรามตามปกติ คนท่ีรูท้ังภาษาอรามและภาษากรีกและไดฟงพระองคแลวก็คงไปบอกเลาใหคนอ่ืนฟงเปนภาษากรีกอยูบอย ๆ วา พระเยซูไดตรัสอะไรบาง คริสตจักรท่ีกรุงเยรูซาเล็ม ตองมีสาวกท่ีพูดภาษากรีกไดรวมอยูตั้งแตแรกเร่ิมมาอยางแนนอน ท้ังนี้เราไดจากพระธรรมกิจการท่ี 6 ซ่ึงบอกเราวา “พวกเฮเลน” หรือคริสเตียนท่ีพูดภาษากรีกอยูในคริสตจักรท่ีนั่น และเรารูไดจากความจริงท่ีวา บารนาบา ซ่ึงเปนสมาชิกคนหนึ่งในคริสตจักรแรกน้ีพูดภาษากรีกได เปนภาษาที่เขาใชเทศนาตอมาในจักรภพโรม (กิจการ 4:36; 11:22; 13:2)

ดังนั้นเขาไดประกาศกิตติคุณในสมัยแรกอยางนอยเปนสองภาษาคือภาษาอรามและภาษากรีก ทุก ๆ ปก็มีคริสเตียนท่ีพูดภาษากรีกเพิ่มข้ึนในคริสตจักร และเม่ือถึงสมัยทานเปาโลออกสอนส้ินสุดลงคริสเตียนสวนมากก็เปนคนท่ีใชภาษากรีกเปนภาษาของตน

บรรดาคริสเตียนไดประกาศพระกิตติคุณเปนภาษาที่คนจะเขาใจไดตลอดเวลาและท่ัวทุกหนทุกแหง เขาใชถอยคําท่ีคนทุกช้ันจะเขาใจไดนี่เปนส่ิงท่ีประจักษชัดจากขอเท็จจริงซ่ึงวา ตั้งแตแรกเร่ิมมาคริสเตียนสวนใหญของคริสตจักรเปนคนธรรมดาสามัญ บรรดาคริสเตียนไดสนใจมิใชแตเพียงคนท่ีมีการศึกษาดีหรือคนสําคัญเทานั้น แตสนใจท้ังผูชายผูหญิงและเด็กนอย ดังนั้นเขาท้ังหลายจึงเลาเร่ืองของเขาเปนภาษาที่ฟงเขาใจงายและซ่ึงเปนคติเตือนใจแกผูฟงท่ีสนใจทุก ๆ คน

มิไดเขียนไวไดแตเลาใหฟง

สมัยนี้ศึกษากันมากจากหนังสือขาวสารและหนังสือพิมพ เราอานรายงานการประชุมและสุนทรพจนจากหนังสือพิมพรายวันบอย ๆ บุคคลหลายคนขณะที่ฟงสุนทรพจนหรือปาฐกถาเขาจดลงไว เพื่อเขาจะสามารถทบทวนความทรงจําของเขาเองในภายหลังไดวาผูพูดไดกลาวอะไรบาง

พวกยิวสมัยโบราณมิไดใชวิธีใหม ๆ อยางนี้ เขาพึ่งส่ิงท่ีเขาจําจากส่ิงท่ีเขาไดยินมามากกวา จิตใจของเขาเคยตอการสนใจฟง ส่ิงท่ีเขาไดยินผูกลาวพูดก็ติดแนนอยูในความทรงจําของเขา

ตัวอยางเชน หนังสือกิตติคุณบอกเราเกี่ยวกับ “คําสอนของบรรพบุรุษ” (มาระโก 7:5) คําสอนของบรรพบุรุษนี้ก็คือขอปญบัติอันเกิดจากธรรมบัญญัติของโมเสสซ่ึงพวกฟาริสีไดจัดทําข้ึนเปนพิเศษ

16

Page 17: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

เขาท้ังหลายไดบอกเลาตอ ๆ กันมา ในเม่ือพวกยิวคุนเคยตอคําสอนของบรรพบุรุษอยางนี้แลว ผูท่ีฟงพระเยซูมิไดคิดท่ีจะบันทึกคําสอนหรือกิจวัตรประจําวันของพระองคไว เขาจําพระดํารัสและเหตุการณตาง ๆ แลวก็บอกเลาแกคนอ่ืน ๆ ตอไป

คําบอกเลาถึงพระราชกิจของพระเจาท่ีทรงกระทําตอมนุษย โดยทางพระคริสตเหลานี้ ไดบอกผานจากคนหน่ึงไปยังอีกคนหนึ่ง คําบอกเลาเหลานี้ถูกตองแนนอนหรือ ถูกทีเดียว เราเช่ือไดแนนอนวาสาระสําคัญทุกอยางท่ีเขาไดบอกนั้นถูกตอง ผูฟงพวกแรกจําแมนยํามาก แลวเขารูดวยวาเร่ืองนี้เปนเร่ืองท่ีสําคัญ เพราะฉะน้ันเขาจะตองเลาอยางถูกตองนอกจากนั้นพวกพยานท่ีเห็นดวยตามีอยูตามหัวเมืองและเมืองสําคัญของประเทศปาเลสไตนหลายเมือง เพราะวาพวกเหลานี้ไดอยูกับพระเยซู จึงสามารถท่ีจะสอบทานคําสอนของคริสเตียนคนอ่ืนไดวาถูกตอง คนท่ียังมีชีวิตอยูอีกมากคนท่ีสามารถจะบอกไดวา อะไรไดบังเกิดขึ้นเกี่ยวกับคําสอนท่ีเปดเผยและกิจวัตรของพระเยซู สวนเร่ืองอ่ืน ๆ ก็มีสาวกท้ังสิบสองนั้นหรืออยางนอยก็สวนหนึ่งของพวกนี้สามารถท่ีจะบอกไดวาเร่ืองนี้ถูกตองหรือไม

เลาดวยมีจุดประสงค

เร่ืองน้ีไดเลาตอจากคนหนึ่งไปยังอีกคนหนึ่งอยางไร แนนอนทีเดียวคนเลาคงไมไดเลาโดยวิธีเดียวกันเหมือนอยางท่ีพระธรรมกิตติคุณของเราเสนอนั้น คริสตจักรเก็บรักษาเร่ืองนี้ไวเพราะเปนเร่ืองท่ีชวยผูฟงและผูท่ีเช่ือทุกคน บรรดานักเทศนและครูไดบอกเลาเร่ืองนี้เพื่อสนองความตองการของผูฟงและเพื่อจะสงเสริมความเช่ือและการดําเนินชีวิตแบบคริสเตียน

จําไววาเร่ืองนี้ไมใชเปนชีวประวัติธรรมดาท่ีคริสเตียนบอกเลา ไมใชเปนนิทานท่ีเลาซํ้าแลวซํ้าอีกเพื่อสนองความอยากรูยากเห็นถึงเร่ืองคนท่ีนาสนใจคนหนึ่งแตเปนเร่ืองสําคัญยิ่งกวานั้นคือเปนขาวท่ีกลาวถึงส่ิงท่ีพระเจาไดทรงกระทําในพระเยซูคริสต เพื่อชวยคนใหพนจากความผิดและพนจากการเปนทาสของความปรารถนาของตนเอง และเพื่อจะทรงนําและใหฤทธ์ิเดชท่ีจะดําเนินชีวิตท่ีเช่ือฟงตามน้ําพระทัยของพระเจา การท่ีพระเจาทรงกระทํานี้ทําใหพระราชกิจแตแรกเร่ิมและพระสัญญาท่ีมีตอชาติอิสราเอลสําเร็จลง ทําใหพระเยซูเปนจุดศูนยกลางของประวัติศาสตร และดังนั้นเร่ืองนี้จึงเนนส่ิงท่ีไดอธิบายไวในบทแรก คือกิจจานุกิจของพระคริสต การมรณา และการคืนพระชนม การที่ทรงเปนองคพระผูเปนเจาในปจจุบันนี้ และพระราชกิจในอานาคตคือการพิพากษาและการทรงไถในวาระสุดทายเม่ือบอกเลาเร่ืองน้ีแกคนท่ีทํากรรมชั่ว เรียกรองใหเขาเปล่ียนการดําเนินทุกอยางของเขา และใหวางใจในบุคคลผูเดียวท่ีสามารถจะชวยใหการเปล่ียนแปลงนี้เกิดข้ึนได

ดังนั้นเขาจึงบอกเลาเร่ืองนี้ดวยจุดประสงคท่ีรอนรนอยางแทจริงจุดประสงคอันนี้ชวยพวกคริสเตียนใหจําเคามูลท่ีสําคัญท่ีสุดของเรื่องของพระคริสตและชวยนําเขาในการบอกเลา นี่มิไดหมายความวาเม่ือเขาอยากใหการประกาศของเขาเปนท่ีนาสนใจยิ่งข้ึนเขาก็รูสึกมีอิสระท่ีจะเปล่ียนเร่ืองไดตามใจ

17

Page 18: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

ปรารถนา ตรงกันขาม เพราะเร่ืองน้ีเปนเร่ืองท่ีเกี่ยวกับการกระทําของพระเจาในพระคริสต เขาจะตองเลาดวยความซ่ือสัตย แตเขาพยายาม่ีจะทําใหเกิดผลเพ่ือจะนําคนท้ังหลายเทาท่ีจะทําไดใหเช่ือในกิตติคุณอันจูงใจซ่ึงเปนประวัติศาสตรท่ีแทจริง เปนคําสอนท่ีทรงสอนแท ๆ และเปนคําเรียกรองในปจจุบันของพระคริสต เขาเลาเร่ืองนี้ตามวิธีท่ีจะใหเร่ืองชัดเจนและชนะใจคนอยางมากเทาท่ีจะทําได

ในการเลาเร่ืองนี้ เขาไมไดบอกเลาตามลําดับเหตุการณท่ีเกิดข้ึนถาเราพิจารณาดูการที่นักเทศนไดกระทําทุกวันนี้เราก็จะเขาใจเร่ืองนี้ไดถาเขาอยากจะอางถึงคําพูดหรือเหตุการณสักอยางหน่ึงในหนังสือกิตติคุณเขามิไดเลาถึงทุกส่ิงท่ีมีมากอน หรือท่ีมีมาภายหลังขอพระธรรมท่ีเขายกมากลาวนั้น เขาจะกลาวทันทีถึงเหตุการณหรือคําสอนท่ีจะชวยผูฟงของเขา และเขาอาจจะไมไดอธิบายก็ไดวาเร่ืองนี้เกิดข้ึนเม่ือไร ท่ีไหนเขาจะทบทวนเหตุการณท่ีเปนไปซ่ึงสอนถึงเร่ืองการอธิษฐานโดยไมบอกวาอะไรมากอนและอะไรมาทีหลัง อะไรเกิดข้ึนท่ีไหน เม่ือไร ส่ิงนั้นเกิดข้ึนแลวและจะสอนชุมนุนชนสมัยใหมถึงเร่ืองความจริงท่ีสําคัญเพ่ือชวยสงเสริมความเช่ือและการอธิษฐานของเขาได เขาจึงเลาเร่ืองนี้ตามจุดมุงหมายน้ัน

โดยเหตุผลอยางเดียวกันอัครทูตและอาจารย สมัยกอนจึงไมไดใหรายละเอียดถึงเร่ือง สถานท่ี และลําดับเหตุการณและคําสอนเขาบอกเลาเร่ืองนี้และสอนกิตติคุณตามความตองการของผูฟงในขณะนั้นดังนั้นเม่ือเขาเขียนกิตติคุณข้ึนในเวลาตอมา จึงไมสามารถบอกไดวาหลายเหตุการณเกิดข้ึนท่ีไหนเม่ือไร ถึงบอกอยางนี้ไมไดก็ไมเปนส่ิงจําเปนเพราะจุดประสงคของกิตติคุณก็คือเพื่อชวยสงเสริมความเช่ือวางใจในพระเยซูคริสตและนําทางในการดําเนินชีวิตของคริสเตียน เรายินดีท่ีจะทราบรายละเอียดของสถานท่ีเวลาและลําดับเหตุการณทุกเร่ืองท่ีไดจดจําไวนั้นและเราเรียนมาพอที่จะไดเคาโครงแหงพระราชกรณียกิจของพระคริสต แตเหตุการณและคําสอนอ่ืน ๆ ชวยเรามาก ถึงแมวาเราไมทราบวาเร่ืองเหลานั้นเกิดข้ึนเม่ือไรที่ไหน

การใชเรื่องในการนมัสการ

เร่ืองกิตติคุณเขาใชกันหลายทาง การใชท่ีสําคัญวิธีหนึ่งคือใชในการนมัสการ เม่ือพวกคริสเตียนมารวมนมัสการนั้นเปนการกระทําในพระนามของพระคริสต เขาทั้งหลายเปนสาวกของพระองคซ่ึงมาประชุมกันโดยมีพระองคเปนองคพระผูเปนเจา และยอมรับเช่ือในพระองค ในคําอธิษฐานของเขาท้ังหลาย เขาอางส่ิงท่ีพระเจาไดทรงกระทําเพื่อเขาโดยทางพระคริสต และทบทวนรายละเอียดเร่ืองกิตติคุณซ่ึงเขาทูลวิงวอนโดยมีจิตกตัญูในพระองค ในการเทศนานักเทศนก็ไดเลาถึงเหตุการณและคําสอนท่ีเปนคติเตือนใจจากชีวประวัติของพระเยซู และไดพูดถึงเร่ืองเหลานี้กับผูฟงของเขาในการอานพระคริสตธรรมคัมภีรของเขา คือพระคริสตธรรมภาคพันธสัญญาเดิมของเรานั้น เขาทบทวนเร่ืองพันธสัญญาของพระเจาท่ีไดเขียนไวในหนังสือนั้นวาเปนไปจริงในพระคริสตอยางไร

18

Page 19: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

แนนอนทีเดียว ความสนใจของเขามิใชสักแตมุงอยูกับเร่ืองราวท่ีผานมาแลวเทานั้น เขาไดคิดทบทวนถึงการคืนพระชนม การที่ทรงเปนองคพระผูเปนเจาและสิทธิอํานาจของพระองคในกาลปจจุบันและอนาคตดวยในการนมัสการทุกคร้ังพวกคริสเตียนไดระลึกถึงแนวทางการดําเนินชีวิตและพระราชกิจของพระคริสต โดยเฉพาะอยางยิ่งเขาไดคิดถึงมรณภาพและการคืนพระชนมของพระองค การท่ีพวกคริสเตียนในสมัยกอนมารวมรับประทานอาหารกันตามธรรมดาน้ัน เขาไดคิดคร้ังแลวคร้ังเลาถึงการเล้ียงคร้ังสุดทายท่ีหองช้ันบน และดังนั้นจึงทําใหความเชื่อและความเขาใจในพระคริสตลึกซ้ึงยิ่งข้ึน

เทศนาส่ังสอนเพื่อใหคนกลับใจใหม

คริสตจักรดํารงอยูทําไมกัน ไมใชตั้งอยูเพ่ือตนเองเหมือนอยางบางองคการ แตตั้งอยูเพื่อรับใชพระคริสตและนําคนมาเช่ือพึ่งในพระองคคริสตจักรไดรับคําส่ังจากองคพระคริสตวา “จงเปนพยานฝายเรา............จนถึงท่ีสุดปลายแผนดินโลก” (กิจการ 1:8) นับจากวันเพ็นเทศเตเปนตนมาบรรดาคริสเตียนก็ไดดําเนินของเขา เร่ิมแรกทําในกรุงเยรูซาเล็มกอน และแลวก็ขยายตัวออกไป ในการประกาศน้ีเขาไดใชเร่ืองกิตติคุณนี้เสมอ เขาบอกเลาวาพระเจาไดทรงกระทําใหพระสัญญาสําเร็จ โดยชวยเขาใหพนจากนิสัยเดิมนั้น เพื่อวาจะเขาจะพบเปาหมายและความหมายแหงชีวิตอยางใหมในพระคริสตได เขาท้ังหลายไดเรียกรองใหคนมาเช่ือในพระคริสตและเขาสวนในมิตรภาพของคริสตจักร และทําบริการเพื่อคริสตจักร

เราไดอานแลววาคริสตจักรเจริญข้ึนเพราะการประกาศนี้ พระวิญญาณของพระเจาไดใชนักเทศนเหลานี้ จํานวนผูท่ีเช่ือไดทวีข้ึนจากหนึ่งรอยยี่สิบไปถึงสามพันคน แลวถึงหาพันคน ถึงหลายหม่ืนคน และยังทวีข้ึนไปอีก (กิจการ 1:15; 2:41; 4:4; 21:20) คริสตจักรไดขยายตัวจากประชาคมหนึ่งไปถึงอีกประชาคมหน่ึง คร้ังแรกก็ขยายในเขตแควนยิวและประชาชนชาติยิวกอน และแลวจึงขยายออกไปทานกลางดินแดนคนตางชาติตางศาสนาดวย ตลอดระยะน้ีบรรดาคริสเตียนกําลังบอกเลาเร่ืองของเขาแกคนอ่ืน ๆ ในท่ี ๆ ผูคนอยูมากเขาก็ทําบอยคร้ังหนอย แตเขาทําตัวตอตัวบอยเหมือนกัน มีนักเทศนและพวกพยานมากมาย และเขาท้ังหลายตองเลาเร่ืองนี้หลายวิธีดวยกัน แตก็เปนเร่ืองเดียวกันเสมอ รายละเอียดของส่ิงท่ีพระเยซูไดทรงกระทําและไดตรัสไวเขาใชเสมอ เพื่อเปนภาพประกอบขอสําคัญของกิตติคุณคริสเตียนใหผูฟงเขาใจลึกซ้ึง

สั่งสอนส่ิงสารพัด

การบอกกลาวแกประชาชนเพียงวา เช่ือในพระคริสตและเขาอยูในคริสตจักรเทานั้นไมเปนการเพียงพอ เขาตองการทราบวาเขากําลังทําอะไร นั่นเปนเหตุผลท่ีคริสเตียนใชเร่ืองกิตติคุณในการเพียร

19

Page 20: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

สอนผูท่ีสนใจอยากจะเรียนรูถึงพระเยซูคริสต และสิทธิตําแหนงของพระองคมากยิ่งข้ึนครูซ่ึงเราไดอานพบหลายคร้ังในพันธสัญญาใหม (ดังตัวอยางในกิจการ 13:1 โครินธฉบับตน 12:28) ไมใชเพียงแตเพิ่มเติมรายละเอียดถึงพระราชกรณียกิจและการส่ังสอนของพระเยซูเทานั้น แตไดอธิบายความหมายของคําสอนและการกระทําของพระเยซูเทานั้น แตไดอธิบายความหมายของคําสอนและการกระทําของพระองคดวย บรรดาคริสเตียนสมัยแรกสนใจท่ีจะนําคนจํานวนมากเทาท่ีจะทําไดมาถึงความเช่ือแบบ

คริสเตียนแตเขาไมประสงคใหคนหนึ่งคนใดเขามาเปนคริสเตียนนอกจากคนน้ันจะเขาใจความหมายและมีความรอนรนขวนขวายหา ดังนั้นเขาจึงตองหม่ันสอนเร่ืองพระเยซูและคําส่ังสอนของพระองคเพื่อใหผูฟงเขาใจกระจางชัดวาขาวพระกิตติคุณหมายความวาอะไร และเรียกรองอะไร

แมคนท่ีเขามาเปนคริสเตียนแลวเขาก็ยังอยากจะรูเกี่ยวกับองคพระคริสตและนํ้าพระทัยของพระองคท่ีมีตออยูท่ีติดตามมากข้ึน ดังนั้นพวกครูจะตองใหคําสอนเร่ืองกิตติคุณอยางเต็มท่ีแกบรรดาสมาชิกของคริสตจักรดวย ซ่ึงคริสตจักรจะหยุดส่ังสอนนั้นคงไมมีแน

ความสวางในเรื่องปญหาการดํารงชีวิต

ปญหาใหม ๆ เกิดข้ึนเร่ือย ๆ ในชีวิต เราไมสามารถแกปญหาเหลานี้โดยใชกฏขอบังคับท่ีตายตัวหรือทําตามรายงานท่ีคนอ่ืนไดกระทํามาแลวไดเลย มิใชเม่ือคนใดมาเปนคริสเตียนแลวปญหาชีวิตเหลานี้จะส้ินสุดลง เขาตองเผชิญกับสถานการณใหม ๆ แตละอยางและเลือกทางดําเนินชีวิตของเขาโดยการอนุเคราะหของพระวิญญาณของพระเจา แตสําหรับคนท่ีงงงวยวาจะดําเนินชีวิตคริสเตียนของเขาอยางไรดีนั้น ไมมีคําแนะนําใดดีกวาส่ิงท่ีพระเยซูตรัสและท่ีไดทรงกระทํา ดังนั้นนับแตเร่ิมต้ังคริสตจักรมาผูนําท่ีฉลาดไดใชพระกิตติคุณเปนเคร่ืองมือท่ีจะใหคําแนะนําแกคนเหลานั้นท่ีกําลังเผชิญกับสถานการณยุงยากตาง ๆ ปญหาเร่ืองการอธิษฐาน เร่ืองการใชเงิน การแสดงทาทีตอศัตรู การดําเนินชีวิตภายในบานและปญหาอ่ืน ๆ อีกมากมายก็ไดรับความสวางจากเร่ืองกิตติคุณ มิใชวาคริสเตียนจะมีพระวิญญาณของพระเจาทรงนําเขาเทานั้น แตมีท้ังตัวอยางและคําสอนของพระเยซูคริสตท่ีจะสองสวางไป ในวิถีชีวิตของเขาท้ังหลายดวย

ในการตอตานเพ่ือพระคริสตและกิตติคุณ

คริสเตียนสมัยกอนไมนิยมท่ีจะถกเถียงและโตวาทีกัน งานสําคัญอันดับแรกของเขาคือการเปนพยาน พยานคือท่ีพูด ไมใชพูดถึงตัวเองหรือพูดถึงความคิดเห็นของตนเอง แตพูดถึงคนอ่ืนหรือพูดถึงอะไร ๆ ท่ีไดเกิดข้ึน เปนธรรมดาอยูเองที่เขาจะตองทําใหคนอ่ืนเช่ือและเห็นจริงวาตัวเขาเองไดตระหนักใจในความจริงท่ีเขากําลังพูดถึงอยู งานข้ันมูลฐานของคริสเตียนรุนแรก คือบอกเลาเร่ืองกิตติ

20

Page 21: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

คุณแสดงใหเขาใจแจมแจงวาเขาท้ังหลายเองไดเช่ือกิตติคุณนี้ และบอกใหรูวากิตติคุณนี้มีความหมายอยางไรแกเขา และเรงเราใหคนอ่ืนเช่ือในพระคริสต

แตสมัยนั้นก็เหมือนสมัยนี้ พวกปฏิปกตไดพูดหลายส่ิงหลายอยางคัดคานพระเยซูและพวกคริสเตียน เขาพากันเยาะเยยหรือกลาวโทษความเช่ือใหม ๆ นี้ เขากลาวหาอยางไมมีมูลความจริงเกี่ยวกับความเชื่อและเกี่ยวกับพวกสาวก การโตเถียงอยางเผ็ดรอนมักจะไมสามารถนําคนอ่ืนใหมารับพระกิตติคุณได และท่ีจะเกลียดชังตอบแทนการเกลียดชังจะทําใหความเปนคริสเตียนหมดไป แตบางทีเราอาจจะแกไขคํากลาวเท็จ และปองกันช่ือเสียงของพระคริสตจากการปายรายได ดังนั้นผูนําคริสเตียนมักจะตองใชเร่ืองพระกิตติคุณมาโตเถียงกันนาน ๆ บอย ๆ และบอกความจริงถึงเร่ืองพระคริสตเพ่ือใหคําตอบท่ีถูกตองแกขอกลาวหาท่ีผิด ๆ ท่ีคนอ่ืนทําข้ึน

การตอตานน้ีเห็นจะเร่ิมดวยเร่ืองกางเขน ผูนําพวกยิวไมยอมรับพระเยซูและปลาตไดตรึงพระองคในขอหาวาพระองคทรงเปนกบฏและผูกระทําผิด ดังนั้นพวกปฏิปกษจึงพูดไดวาพระเยซูทรงเปนผูท่ีไมนาเช่ือถือและพระเหตุนั้นจึงไมควรมีใครเช่ือถือและติดตามพระองค การตอบขออางนี้ทางคริสตจักรตองเลาเร่ืองวันสุดทายของชีวิตของพระเยซู อันมีสาระพอท่ีจะแสดงใหเห็นวาพระองคไมไดทําความผิดอะไรเลย แตพระองคสมัครท่ีจะทนทุกขตอการอยุติธรรม ดังนั้นพวกคริสเตียนไดช้ีแจงวาในการคืนพระชนมนี้พระเจาไดทรงลบลางการกระทําผิดอันนี้ของมนุษย

การโตเถียงเร่ืองอ่ืนก็เกิดข้ึนอยางหลีกเล่ียงไมได ตัวอยางเชนพวกยิวทักทวงวาพระเยซูไมนําพาและไดทําลายกฎของการปฏิบัติตามพิธีทางศาสนาของเขา ดังนั้นเพื่อจะอางเหตุผลสนับสนุนคําเร่ืองรองท่ีพวกยิวควรจะติดตามพระเยซู คริสเตียนตองกลาวซํ้าคําวิจารณของพระเยซูและสนับสนุนพระองคเร่ืองกฎหมายของพวกยิวและการถือวันสะบาโต นี่เปนวิธีท่ีดีท่ีสุดท่ีจะอางเหตุผลสนับสนุนทัศนคติท่ีคริสเตียนจะปฏิบัติหรือไมปฏิบัติตามกฎประเพณีของพวกยิวไดอยางเสรี ดังนั้นถึงแมวาการโตเถียงนี้จะไมใชวิธีอันเคยปฏิบัติตามปกติหรือไมใชหลักใหญของคริสเตียน ซ่ึง ความต้ังใจเดิมของเขาตองการจะเปนพยานเร่ืองพระกิตติคุณดวยการบอกเลาของเขาเอง เขาก็มักจะตองปองกันช่ือเสียงและเหตุผลของพระคริสตโดยโตตอบขอกลาวหาและบอกเลาเร่ืองกิตติคุณอยางถูกตอง

ความจําเปนที่ตองบันทึกเรื่องราวไว

ในเวลาไมชาก็ประจักษวา การเลาเร่ืองกิตติคุณปากเปลาไมสามารถสนองความตองการของคริสตจักรได คริสตจักรของออกมากชนทุกป พยานท่ีเห็นดวยตาก็นอยลง ๆ ในขณะท่ีจํานวนคริสเตียนกลับทวีข้ึนเร่ือย ๆ และพวกนิยมกรีกไมคุนกับเราใชเลาดวยปากเหมือนอยางพวกยิว นักเทศนและครูจํานวนมากตองการส่ิงท่ีถาวรและแนนอนมากกวาการเลาดวยปากที่จะชวยสอนเขาในเร่ืองกิตติคุณ และท่ีจะชวยแนะนําในการทํางานของเขา ยิ่งกวานั้นอีกเฉพาะขอท่ีพันธสัญญาเดิมมีเร่ืองเขียนไวอัน

21

Page 22: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

เปนข้ันตนของเร่ืองการไถบาปของมนุษยซ่ึงพระเจาไดทรงทําไวแลวนั้นกระทําใหรูสึกวานาจะเขียนเร่ืองอันบอกถึงเหตุการณท่ีสําคัญท่ีสุด คือการงานของพระเจาท่ีทรงกระทําทางพระเยซูคริสต

คริสเตียนไดเร่ิมเขียนเร่ืองนี้มานานสักเทาใดแลว เราบอกกําหนดแนนอนลงไปไมได ทานลูกาบอกเราวากอนที่ทานจะเขียนกิตติคุณเลมของทานนั้นมีหลายไดเรียบเรียงเร่ืองราวของพระเยซูไวกอนแลว (ลูกา 1:1) นี่ยอมแสดงวา พระเยซูส้ินพระชนมไปแลวไมเกินช่ัวชีวิตคน ๆ หนึ่ง มีผูไดเร่ิมเขียนอยางนอยสวนหน่ึงของเร่ืองลงแลว และนี่ก็หมายความวาประมาณ ค.ศ. 50 คนกําลังเขียนคําสอนและกิจวัตรของพระเยซูลงไว

การเขียนเรื่องพระคริสตลงไว

บันทึกท่ีเขียนข้ึนคร้ังแรกบรรจุเร่ืองอะไรไวบาง บางทีบันทึกแบบหนึ่งเปนเพียงคัดขอพระคัมภีรบางขอท่ีเลือกจากพระธรรมภาคพันธสัญญาเดิมมาเขียนลงไว เชนท่ีเราพบมียกมาอางไวท่ีนี่ท่ีนั่นในกิตติคุณมัทธิวขอพระคัมภีรเหลานี้เปนขอท่ีทางคริสตจักรเห็นจริงวา สําเร็จในพระคริสตแลว นาจะรวบรวมเร่ืองนี้ไวเพื่อนําไปใชไดบอย ๆ

ยิ่งกวานั้นบางคนคงไดรวบรวมเร่ืองคําสอนของพระเยซูเขาคงไดรวบรวมคําสอนและคําอุปมาท่ีสําคัญท่ีสุดของพระเยซูไวดวยกันเพื่อสะดวกแกครูและผูนําในคริสตจักรจะนําไปใช ปรากฏวาผูเขียนกิตติคุณมัทธิวและลูกาก็ไดใชเร่ืองที่รวบรวมไวนี้ อาจจะมีหนังสือส้ัน ๆ ชนิดนี้หลายเลมก็ได

บันทึกท่ีเขียนกันไวกอนอาจเปนเร่ืองการจับกุม การพิจารณาไตสวน การตรึงท่ีกางเขนและการคืนพระชนมได เพื่อจะตอตานคํากลาวหาเท็จเร่ืองท่ีวาพระเยซูทรงเปนผูกบฏและเปนผูกระทําผิดนั้น เร่ืองท่ีตองการก็คือเร่ืองพระชนมชีพบ้ันปลายของพระองค พึงสังเกตวา แตละกิตติคุณไดบันทึกเร่ืองเกี่ยวกับสัปดาหสุดทายของชีวประวัติของพระคริสตไวเกินกวาเศษหนึ่งสวนส่ิงของแตละกิตติคุณ เร่ืองราวท่ีละเอียดถ่ีถวนท่ีแสดงวาพระเยซูทรงถูกประหารชีวิต โดยอยุติธรรมนั้นอาจจะมีเขียนไวกอนทานมาระโกเรียบเรียงกิตติคุณก็ได

แตกิตติคุณเลมเดิม ๆ อยางนี้ไมมีเหลืออยู เราไมมีเร่ืองราวท่ีเขียนไวกอนกิตติคุณท้ังส่ีท่ีเราพบในพันธสัญญาใหม กอนกิตติคุณมาระโกซ่ึงเปนกิตติคุณเลมแรกในกิตติคุณท้ังส่ีของเราท่ีมีเขียนไวนั้น เราถือไดวามีเอกสารอ่ืน ๆ ท่ีไมใครครบถวนท่ีเขียนเสร็จแลวและผูเขียนกิตติคุณของเราทราบและไดใชเอกสารเหลานั้น ถาเปนดังนั้นเอกสารเหลานั้นก็ไมมีอยูเพราะกิตติคุณท่ีเราเรียนรูบริบูรณกวาและเหมาะสมมากกวา ดังนั้นเร่ืองท่ีเขียนข้ึนกอน ๆ นั้นไมชาก็เลิกใชกันไป และเพราะเอกสารเหลานั้นไดเขียนบนวัตถุท่ีเสียงายจึงสูญเสียไป เราไมตองการเอกสารเหลานั้นอีกแลว แตถึงอยางไรเราก็คงจะสนใจอยากเห็นเพราะวาตัวอยางไมกี่เร่ืองซ่ึงมีเร่ืองคําสอนเบ็ดเตล็ดของพระเยซูเขียนไวบนกระดาษพาไพรัสโบราณซ่ึงเราพบในประเทศอียิปต เปนส่ิงท่ีนาสนใจย่ิง แตเราก็มีส่ิงท่ีตองการแลวกิตติคุณท้ังส่ี

22

Page 23: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

เลมของเราไดรวบรวมเร่ืองราวไวอยางเพียงพอท่ีจะใหเราเช่ือเรียนรู และดําเนินชีวิตคริสเตียนของเราได

เขาไดรวบรวมเร่ืองของพระเยซูไวในท่ีหลายแหง ไดบอกเลาตอ ๆ กันมา และในท่ีสุดก็ไดเขียนลงไว โดยใชภาษามากกวาหนึ่งภาษาเม่ือพิจารณาวิธีการน้ี มีส่ิงหนึ่งท่ีเห็นเดนชัด คือความสนใจของคริสจักรในการใชเร่ืองกิตติคุณอยางจริงจัง

พวกคริสเตียนมีความสนใจในคําสอนและการกระทําของพระเยซูมาก เพราะวาความจริงเหลานี้ชวยใหเขามองเห็นวาพระเจาไดทรงกระทําอะไรเพื่อเขา เพราะฉะน้ันเขาควรจะทําอะไร เร่ืองนี้ไดถูกเลาซํ้าแลวซํ้าอีกและเก็บรักษาไว แลวไดเขียนลง คร้ังแรกก็เขียนเปนตอน ๆ แลวตอมาก็ตอเติมเนื้อความใหเปนเร่ืองราวท่ีครบดีข้ึน เพราะเหตุท่ีเปนเร่ืองเดียวท่ีทุกคนตองการจะรูเพื่อความเช่ือและการดําเนินชีวิตของตนเอง คริสตจักรต้ังรากฐานอยูบนกิตติคุณนี้ และคริสเตียนทุกคนตองคนหาคําตอบเร่ืองความตองการของเขาจากกิตติคุณนี้ ผูฟงกิตติคุณทุกคนจะพบพระดํารัสของพระเจาและความหวังในความรอดในกิตติคุณนี้ ผูท่ีเช่ือทุกคนจะตองคนหาเร่ือย ๆ ไปถึงคําสอนและการทรงนําท่ีเขาตองการ ในข้ันแรกผูท่ีเช่ือไดบอกเลาเร่ืองราวแกคนอ่ืน แลวในที่สุดไดเขียนกิตติคุณเหลานี้ลงไวเพื่อจะเรียกรองใหคนอ่ืนมาเช่ือ และเพ่ือจะสงเสริมใหคริสเตียนเจริญข้ึนในความเช่ือท่ีเขาไดยอมรับไวแลวนั้น

แนะการอาน เพื่อจะดูวา คริสเตียนสมัยกอนคงจะไดใชเร่ืองกิตติคุณในการดําเนินชีวิตและการงานของเขาอยางไร อานขอความตอไปนี้และถามตัวทานเองวา ขอความเหลานั้นจะชวยคริสตจักรและคริสเตียนไดอยางไร

ในการนมัสการ มัทธิว 6:1-18 โครินธฉบับตน 11:17-26 ในการเทศนาใหกลับใจ ลูกาบท 15 ยอหน 1:35-51 ในการสอนเร่ืองพระคริสตและการดําเนิน

ช่ัวชีวิตคริสเตียน มาระโก 8:27-38 ลูกา 10:25-37 ในการโตเถียงกับผูท่ีวิพากษวิจารณพระเยซู มาระโก 2:1 ถึง 3:6

23

Page 24: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

บทที่ 3 กิตติคุณ มาระโก 2

คําวา “กิตติคุณ” แตเดิมนั้นหมายความวา ขาวประเสริฐ และขาวดีแตพวกคริสเตียนไดใหความหมายใหมแกคําเกานี้ คําวา ขาวดี สําหรับเขามีความหมายวา พระเจาไดทรงประกอบกิจในพระคริสตเพื่อชวยมนุษยใหรอด ทรงรวบรวมเขาไวในมิตรภาพ คริสเตียนและทรงประทานฤทธ์ิเดชและความหวังใหแกเขาทั้งหลาย (มาระโก 1:15) เขาท้ังหลายไดใชคําวา “กิตติคุณ” ใหมีความหมายเฉพาะเจาะจงวา เร่ืองพระราชกิจจานุกิจมรณาภาพ และการคืนพระชนมของพระเยซู (มาระโก 1:1) ดวย เปนเร่ืองชีวประวัติของพระคริสตผูซ่ึงพระเจาทรงใชสําแดงพระประสงคของพระองคท่ีผูนําคริสเตียนไดบอกเลา

ถึงเวลาแลวท่ีเร่ืองนี้ตองเขียนลงไวเพื่อสนองความตองการของคริสตจักร ดังนั้นในท่ีสุดคํา “กิตติคุณ” ไดนํามาใชในความหมายถึงบันทึกชีวประวัติของพระคริสตซ่ึงเปนขาวประเสริฐแกผูท่ีเช่ือทุกคน การใชคํา “กิตติคุณ” ในความหมายนี้อันเปนท่ีรูจักกันดีในปจจุบัน ไดเร่ิมมีข้ึนภายหลังการเขียนพระคัมภีรภาคพันธสัญญาใหมแลว

มาระโกเปนกิตติคุณสมบูรณเลมแรกที่สุด

ยอหนมาระโกเปนคร้ังแรกท่ีเขียนเร่ืองกิตติคุณดังนี้ นาจะเปนไปไดอยางท่ีสุดวากอนท่ีทานมาระโกเขียนเร่ืองกิตติคุณ ไดมีคนอ่ืน ๆ เขียนเร่ืองการสอนของพระเยซูไวแลว เขาเหลานั้นอาจจะเขียนเร่ืองราวบางอยางท่ีพระองคไดทรงกระทําไวดวย แตตามท่ีเราทราบ เร่ืองชวีประวัติของพระเยซูท่ีครบถวนของทานมาระโกเปนกาวใหมของวรรณคดีประวัติศาสตรการริเร่ิมท่ีทานกระทําข้ึนนี้มีอิทธิพลอยางมากในคริสตจักร เม่ือเราไดศึกษาคนควาในกิตติคุณมัทธิวและลูกา ซ่ึงเปนกิตติคุณท่ีเขียนในเวลาตอมา เราพบวามีหลายตอนในกิตติคุณเหลานั้นท่ีเหมือนกับกิตติคุณมาระโกกิตติคุณท้ัง 2 เลมนั้นไดรวบรวมเหตุการณและคําสอนเกือบท้ังหมดท่ีทานมาระโกไดเขียนไว ตามปกติเขาท้ังสองเรียงเร่ืองของตนตามอันดับของทาน เขาเลาเร่ืองเหลานี้ดวยคํากรีกคําเดียวกันเปนสวนมากนี่แหละคือเหตุผลท่ีเขาเรียกกิตติคุณท้ังสามน้ีวา “กิตติคุณสัมพนธ” คําวา “สัมพันธ” (ซินอปติค) แปลวา “ใหทัศนะรวมกัน” ในเร่ืองชีวประวัติและพระราชกิจของพระคริสต ในกิตติคุณท้ังสามนี้มาระโกมีมากอนเพื่อน ปรากฏวาผูเขียนกิตติคุณมัทธิวและลูกาไดใชกิตติคุณมาระโกเปนแหลงสําคัญการคัดลอกนี้ในสมัยนั้นไมถือวาเปนการผิด

โดยท่ีเขาท้ังสองใชกิตติคุณมาระโกอยางกวางขวางนี้เปนพยานวาเขาลงความเห็นวา กิตติคุณนี้เปนหนังสือท่ีสําคัญอยางยิ่ง ท้ังสองไดเพ่ิมขอความเขาไปมาก แตก็พบวางานของทานมาระโกมีคาเกิน

24

Page 25: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

กวาท่ีเขาจะตัดท้ิงไป จึงเปนการสมควรแลวท่ีเราจะศึกษาคนควาเร่ืองกิตติคุณมาระโกดวยความละเอียดถวนถีและความสนใจ

ทําไมทานมาระโกจึงเหมาะสมที่จะเขียน

ทําไมทานยอหนมาระโกเปนคนแรกท่ีไดเขียนเร่ืองกิตติคุณท่ีครบถวนและใชได ซ่ึงใชเปนรากฐานแหงความเช่ือของคริสตจักร ชีวิตของทานถูกเตรียมไวเพื่อการนี้ ทานเปนบุตรของนางมาเรียผูเปนคริสเตียนชาวกรุงเยรูซาเล็มท่ีกระตือรือรนท่ีสุด พวกสาวกไดใชบานของนางเปนท่ีไปรวมนมัสการ ทานมาระโกจึงรูจักผูนําของคริสตจักรในสมัยเดิมนั้นไดดีอัครทูตเปโตรเปนคนหนึ่งซ่ึงเปนท่ีรูจักกันดีในบานของทานมาระโก (กิจการ 12:12) ถึงแมวาจะไมทราบแนนอนนักก็ยังมีบางคนเสนอความเห็นวาคนหนุมผูท่ีเขาไปในสวนเกทเสมนีเพื่อจะเตือนพระเยซูใหทราบเร่ืองการจับกุมนั้นคือทานยอหนมาระโก (มาระโก 14:51,52) และเขาใจกันวาการเล้ียงครั้งสุดทายของพระเยซูกับพวกสาวกก็อาจกระทําในบานของทานยอหนมาระโกน้ี

ทานยอหนมาระโกไดรูจักคริสเตียนผูท่ีมีช่ือคนอ่ืน ๆ ดวย ทานเปนลูกพี่ลูกนองของบารนาบา (โคโลสี 4:10) เม่ือบารนาบากับเปาโลกลับมายังเมืองอันทิโอเฆีย ภายหลังจากท่ีไดนําทานไปใหแกคริสตจักรท่ีขัดสนในกรุงซาเล็มในคราวท่ีเกิดกันดารอาหารแลว เขาไดพามาระโกไปกับเขาดวย (กิจการ 12:25) ในการเดินทางออกประกาศคร้ังแรกมาระโกไดไปเมืองไซปรัสกับเขาดวย แตเม่ือเขาท้ังหลายเร่ิมจะเขาไมในใจกลางเอเชียไมเนอรมาระโกก็ไดกลับไปเสีย เราไมทราบเหตุผลของทานแตเปาโลคิดวามาระโกเปนคนท่ีละท้ิงหนาท่ี (กิจการ 13:5,13) และไมยอมพาทานไปในการเดินทางออกประกาศครั้งตอไป ถึงอยางไรบารนาบาก็ยังมีความเชื่อในตัวมาะโก และในการเดินทางไปยังเมืองไซปรัสคร้ังท่ีสองก็ไดพาทานไปดวย (กิจการ 15:37-39)

เรารูความจริงอันสําคัญบางประการท่ีเกี่ยวกับชีวิตตอนหลัง ๆ ของทานมาระโก ตอมาภายหลังหลายปเปาโลไดพูดถึงมาระโกดวยความพอใจแทจริงมาระโกไดกระทําดีข้ึนแลว และเปาโลยินดีท่ีจะรับรองความจริงขอนี้ (2 ทิโมธิ 4:11) แมแตเปโตรผูรูจักมาระโกในกรุงเยรูซาเล็มไดพูดถึงทานเหมือนอยางทานเปนบุตรของตนดวย (1 เปโตร 5:13) นี่แสดงใหเขาใจวาเปโตรทําไดทําใหมาระโกกลับใจมามีความเช่ือแบบคริสเตียนและแสดงวาในตอนปลายชีวิตมาระโกไดทํางานรวมกับเปโตรดวย

จึงเปนท่ีกระจางวามาระโกไดรวมทํางานกับผูนําท่ียิ่งใหญท่ีสุดของคริสตจักรแหงสมัยแรกเร่ิมนั้นจริง ๆ ทานไดทองเท่ียวไปหลายหนหลายแหง และทราบดีถึงกิตติคุณท่ีอัครทูตเทศนาส่ังสอน แทจริงทานไดมีสวนในการสอนเร่ืองนี้ตั้งหลายป แลวใครละจะเขียนกิตติคุณไดดีกวาทาน

25

Page 26: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

เขียนท่ีกรุงโรม

กิตติคุณนี้มิไดบอกวาใครเปนผูเขียน และไมบอกวาเขียนเมื่อไรท่ีไหน หรือทําไมจึงเขียน หัวเร่ืองและคําอธิบายท่ีพระคัมภีรฉบับภาษาอังกฤษบางเลมมีไวนั้นไดเพิ่มเติมกันข้ึนภายหลังมาก แตตามตํานานโบราณท่ีเช่ือถือไดบอกวา มาระโกไดเขียนเร่ืองกิตติคุณนี้ภายหลังท่ีเปโตรไดถูกประหารชีวิตโดยจัดรพรรดินีโรในคราวท่ีเกิดการขมเหงพวกคริสเตียนท่ีกรุงโรม ทานไดมองเห็นความจําเปนท่ีจะตองเขียนบันทึกส่ิงท่ีพระเยซูทรงปฏิบัติและตรัสสอนไว ซ่ึงพวกอัครทูตไดเลา โดยเหตุนี้จึงกําหนดวาเขียนท่ีกรุงโรมในราว ค.ศ. 65 ถึง 70

เหตุผลนี้ชวยใหเรามองเห็นจุดประสงคของมาระโก ทานเปนครูคริสเตียนทานกระหายท่ีจะใหใคร ๆ มายึดถือความเช่ืออันเดียวกันทานใหมากท่ีสุดเทาท่ีทานสามารถจะทําได ทานตองการสอนคริสเตียนท่ีรูนอยและอยากจะใหบันทึกนี้แกผูท่ีเช่ือทุกคน โดยเฉพาะอยางยิ่งแกผูนําเพื่อจะนําไปใชในงานของคริสตจักร หลายคนอาจใชเร่ืองราวเชนนี้ในการอานและการศึกษาสวนตัว ทุกคนจะใชบันทึกนี้ไดในการประชุมท่ีคริสเตียนจัดข้ึนเพื่อการนมัสการและการส่ังสอน

มาระโกทราบวาความเช่ือตองตั้งรากฐานอยูบนส่ิงท่ีพระเจาทรงกระทําทางพระเยซูคริสตเพ่ือมนุษย และเพราะเหตุนั้นมนุษยจึงตองการบันทึกเร่ืองพระราชกิจจานุกิจของพระคริสตท่ีเช่ือถือได ดังนั้นทานจึงไดเขียนเร่ืองกิตติคุณนี้ลงไวตามซ่ึงทานไดฟงอยูบอย ๆ ขณะท่ีทานทํางานอยูกับผูนําผูยิ่งใหญของคริสตจักร

ไมไดประดิษฐเรื่องน้ีขึ้นแตเปนรายงาน

ในการทํางานหนักนี้มาระโกมีหนาท่ีจะคิดประดิษฐเร่ืองราวข้ึนนี่ไมใชเร่ืองสวนตัวของทานแตเปนเร่ืองอันเปนรากฐานท่ีตั้งความเช่ือและชีวิตของคริสตจักร หนาท่ีของมาระโกไมใชเปนการประดิษฐเร่ืองข้ึนแตเปนการรายงานเร่ือง ทานตองแสดงฝมือของทานไมใชโดยการเสกสรรคเร่ืองข้ึน แตโดยการเสนอเร่ืองท่ีทานไดรับมา อยางแจมแจงและใหไดประโยชนเทาท่ีทานสามารถจะทําได ทานไดทํางานนี้เปนผลสําเร็จจริง ๆ ผูเขียนกิตติคุณมัทธิวและลูกาก็คิดเห็นวาสําเร็จจริง เขาท้ังสองจึงไดใชเกือบทุกขอความท่ีมาระโกรวบรวมไว พวกคริสเตียนผูเลือกเฟนรวบรวมเนื้อหาของพันธสัญญาใหมไดคิดเห็นดังนั้นดวยเขาจึงไดรวมกิตติคุณมาระโกไวในพระคริสตธรรมคัมภีร

อยางนอยท่ีสุดมาระโกไดอาศัยขอความจากคําพูดท่ีไดยินมาสวนมากเปนหลักในการเขียนกิตติคุณ เพราะทานไดอยูและทํางานกับผูนํายิ่งใหญหลายคน ทานทราบดีถึงเร่ืองท่ีเขาเหลานั้นไดสอน ความจริงนักเขียนคริสเตียนในสมัยโบราณ คนหนึ่งไดกลาวไววา มาระโกไดจดบันทึกคําเทศนาของเป

26

Page 27: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

โตรไวในกิตติคุณ เร่ืองนี้มีความจริงแมวาอาจไมใชท้ังหมด กิตติคุณของทานสวนมากทานไดฟงจากคําสอนของพวกอัครทูต

มาระโกอาจจะใชเร่ืองท่ีมีเขียนไวแลวเพื่อบอกเลาบางเร่ืองท่ีทานเขียนก็เปนได เชนเราพบวาการโตเถียงระหวางพระเยซูกับพวกปรปกษทานมาระโกไดรวบรวมไวแหงเดียวกันในกิตติคุณมาระโก 2:1 ถึง 3:6 หมวดคําอุปมาไดรวบรวมไวดวยกันในกิตติคุณมาระโก 4:1-34 เร่ืองเวลาท่ีสุดปลายของโลกก็ปรากฏในมาระโกบทท่ี 13 ไดรวบรวมเร่ืองวันสุดทายของพระเยซูไวอยางละเอียดละออกวาเร่ืองอ่ืนในกิตติคุณ ปรากฏในมาระโก 14:1-16:8 ท่ีวาเร่ืองเหลานี้ไดมีผูเขียนไวแลว และมาระโกไดใชขอเขียนนั้นเปนเหลงยอมเปนได แตก็ไมแนนอนทีเดียว ถึงเปนไดดังนั้นจริงก็ยังมีความจริงอยูท่ีวา แหลงสําคัญของการเขียนขอความของทานไดมาจากการสอนดวยปากท่ีคริสเตียน ผูนํายิ่งใหญเหลานั้นท่ีทานรูจักไดสอนไว

ขอบเขตของเรื่องของทาน

มาระโกไดรวบรวมคําเทศนาอยางเปดเผยของคริสตจักรโดยสังเขปเทานั้นไวในเร่ืองของทาน สังเขปความน้ีกินความไปไกลแคไหนเราตองศึกษาจากกิจการ 1:22 และ 10:34-43 ขอพระธรรมเหลานี้ไดกลาวถึงกิจการของยอหนผูใหรับบัพติศมา แลวขอพระธรรมเหลานี้ไดบอกเลาถึงการรับบัพติศมา พระราชกิจจานุกิจ มรณาภาพ และการคืนพระชนมของพระเยซู นี่เปนแนวเร่ืองของมาระโกทีเดียว เพื่อจะใหเปนท่ีจุใจคริสตจักร ผูเขียนรุนหลัง ๆ จึงไดบอกบางอยางถึงการกําเนิดและวัยทารกของพระครสิตไวดวย แตมาระโกก็เจาะจงแนวแนท่ีจะรักษาเร่ืองท่ีคริสตจักรประกาศขาวไว มาระโกไดบอกอยางเดียวกับท่ีนักเทศนผูมีช่ือไดบอกถึงพระราชกิจจานุกิจ การชวยใหรอด และฤทธ์ิเดชอันมีชัยของพระคริสตนี่เปนเร่ืองท่ีใชเราใจคนใหเกิดความเช่ือ นี่เปนเร่ืองท่ีทานเลาไวไดเปนอยางดี

เร่ืองเกิดข้ึนโดยบังเอิญในสมัยกอนไดทําใหเร่ืองของทานส้ันลงกวาทีแรก กิตติคุณของทานเทาท่ีเรามีขณะน้ีจบลงดวยมาระโก 16: 8 สําเนาตนฉบับเดมิของพระธรรมมาระโก ไดบอกไวอยางนี้คือ มาระโก 16:9 -20 ไดเพิ่มเติมข้ึนทีหลัง เปนการยากท่ีจะเขาใจเอาวากิตติคุณนี้เหมาะท่ีจะจบลงแค

มาระโก 16:8 มาระโกลืมเลาถึงเร่ืองการที่พระคริสตผูคืนพระชนมพบปะกับสาวกของพระองคอยางนั้นหรือ พระองคไดทรงสัญญาวาจะพบกับเขาท้ังหลาย (มาระโก 14:28;16:7) เราก็หวังจะใหมาระโกบอกเราเขาท้ังหลายไดพบพระองคจริง แลวคําทายของมาระโก 16:8 วา “เขาท้ังหลายมิไดพูดกับผูใดเพราะเขากลัว” มิไดสอใหเห็นความปติยินดีและความวางใจอยางยิ่งดีซ่ึงเราหวังวาจะจบลงอยางนั้น จึงสมเหตุสมผลแลวท่ีจะสรุปวา มาระโกไดจบเร่ืองของทานโดยบอกเลาวา พระคริสตผูทรงเปนข้ึนมาไดทรงพบกับสาวกของพระองคท่ีกาลิลี ในสมัยกอนนั้นตอนจบไดหายไปและบางคนไดเพิ่มมาระโก 16:9-20 เขามาแทน ความจิรงสวนใหญยังปรากฏชัดอยู มาระโกไดเร่ิมตนอยางท่ีเขาเทศนากันอยาง

27

Page 28: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

เปดเผย คือดวยคําสอนของยอหนผูใหบัพติศมา และการท่ีพระเยซูรับบัพติศมา และจบลงดวยการคืนพระชนม

เรื่องราวสําคัญย่ิงท่ีเลากันอยางรีบดวน

อะไรเปนลักษณะสําคัญของกิตติคุณมาระโก ประการแรกคือกิตติคุณนี้บอกเลาเร่ืองท่ีนาฟงไวอยางกะทัดรัด สามารถอานไดงายใชเวลานอยกวาสองช่ัวโมง แตละเร่ืองเลาไวอยางส้ัน ๆ พระดํารัสแตละเร่ืองเลาไวอยางสังเขป มีหลายหัวขอรวมอยูดวยกันแตใชคําพูดนอย

มาระโกเพงเอาส่ิงที่สําคัญ ๆ ทานไมหยุดมาคํานึงวาเร่ืองอาจเปนไปอยางอ่ืน ทานใชเวลาแตนอยท่ีจะเลาถึงพ้ืนฐานของเร่ือง และมักจะท้ิงใหผูอานเก็บคําสอนใจเอาเองจากเร่ืองของทาน ทานใหความสนใจคนอื่น ๆ แตนอยเม่ือเทียบกับท่ีทานสนใจในพระเยซู เพราะพระเยซูเปนจุดศูนยกลางของเร่ือง และมาระโกกลาวถึงคนอ่ืน ๆ เฉพาะแตเร่ืองท่ีพระเยซูเขาไปเกี่ยวของกับชีวิตของเขาเหลานั้นเทานั้น

คําวา “ในทันใดน้ัน” หรือ “ทันที” มีบอย ๆ แสดงใหเห็นความเคล่ือนไหวเร่ือยไปของเร่ืองมาระโกไมเลนสํานวนหรือไมยึดเร่ืองราวของเขาออกไป พอทานรายงานคําสอนท่ีรวบรัดหรือคําอธิบายเหตุการณอยางส้ัน ๆ แลว ทานก็จะเลาถึงอีกเร่ืองหนึ่งตอไปทีเดียว

เรื่องสาระสําคัญท่ีสังเขปไวชัดแจง

สังเขปความท่ีชัดแจงและงายเปนลักษณะประการที่สองของพระธรรมมาระโก เม่ือพระเยซูเสด็จจากแมน้ําจอรแดนและจากถ่ินทุรกันดารภายหลังการรับบัพติศมาจากยอหนและการทรงถูกทดลองแลว (มาะโก 1: 1-13) พระองคเสด็จไปที่ประทับของพระองคในแควนกาลิลี ท่ีนั่นพระองคไดดําเนินพระราชกิจของพระองคตอไปโดยใชคาฟารนาอูมเปนสํานักกลาง (มาระโก 1:14-7:23) เม่ือการขัดขวางรุนแรงข้ึน พระองคก็จะเสด็จเที่ยวไปอยางอิสระยิ่งข้ึน แตพระองคไมเคยออกไปไกลจากแควนกาลิลี การเดินทางระยะส้ัน ๆ เขาไปในเขตใกลเคียงคือเมืองฟอยนิเคซีซาเรยาฟลิปป และท่ีทศบุรี เปนเวลาท่ีพระองคเสด็จอยูลําพังเพื่อจะสอนพวกสาวกและพระองคก็เสด็จกลับไปยังแควนกาลิลีอยูเสมอ (มาระโก 7:24-50) ในท่ีสุดตอนปลายแหงพระราชกิจของพระองค พระองคไดเสด็จไปกรุงเยรูซาเล็มเพื่อประกาศขาวและทรงวิงวอนใหกลับใจเปนคร้ังสุดทาย (มาระโบบท 10) กาลิลีเปนสถานท่ีท่ีกระทําพระราชกิจอยางเปดเผยตามท่ีมาระโกบอก แตเยรูซาเล็มเปนศูนยกลางแหงชีวิตการศาสนาของพวกยูดาห และพระเยซูตองทรงวิงวอนเปนคร้ังสุดทายใหประชาชนของพระองคและพวกผูนําของเขาที่นั่นกลับใจ หนึ่งในสามสวนคือตอนสุดทายของกิตติคุณไดเลาถึงสัปดาหสุดทาย และกลาวโดยเฉพาะเร่ืองการเล้ียงคร้ังสุดทาย การทรงถูกจับ การทรงถูกไตสวน การทรงถูกตรึงการฝง และการทรงคืนพระชนม

28

Page 29: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

(มาระโก 11: 1-16; 8)

ความกลาหาญและฤทธิ์เดชของพระเยซู

ลักษณะท่ีสามซ่ึงเราสังเกตเห็น อันเปนลักษณะสําคัญของพระธรรมมาระโกคือความอิสระ ความกลาหาญ และฤทธ์ิเดช ท่ีพระเยซูทรงสําแดงในพระราชกิจจานุกิจของพระองค พระองคไมไดรับความชวยเหลือสนับสนุนจากผูนําฝายการเมืองหรือฝายศาสนาเลย ผูนําฝายการเมืองเฉยเมยหรือมีความสงสัยบาง ผูนําฝายศาสนามีความริษยาหวงแหนตําแหนงของตน และมุงรายตอพระดํารัสสอนของพระองค พระองคทรงทําพระราชกิจของพระองคโดยปราศจากการสนับสนุนตามทางการ ฤทธ์ิเดชของพระเจาปรากฏในพระราชกิจของพระองค

สามัญชนสังเกตเห็นขอนี้ไดอยางรวดเร็ว เขาท้ังหลายเรียกพระองควาเปนศาสดาพยากรณ (มาระโก 8:28) เขารูสึกกวาพระองคตรัสอยางมีสิทธิอํานาจและไมใชสอนเหมือนอยางเอาของเกามาเลาตอกันไปเชนพวกธรรมาจารย ซ่ึงเปนผูแปลความหมายธรรมบัญญัติของพวกยูดาห (มาระโก 1:22) เขาท้ังหลายรูวาในพระองคนั้นมีแรงหนุนและฤทธ์ิเดชของพระเจา เขาอาจจะไมเขาใจพระองคอยางถ่ีถวน แตหลายคนไดเช่ือวาพระองคมาจากพระเจา ถอยคําท่ีมีฤทธ์ิเดชของพระองคเขากันกับการกระทําอันประกอบดวยฤทธ์ิเดชของพระองค พระองคทรงรักษาคนเจ็บปวยและโดยการกระทําอันประกอบดวยฤทธ์ิเดช พระองคไดทรงแสดงใหเห็นประจักษแจงวาสิทธิอํานาจของพระองคมาจากพระเจาผูทรงกระทํากิจอยูในพระองค

ความหวงใยอันสําคัญของพระองคอยูที่ประชาชน

พระเยซูทรงหวงใยเสมอถึงความตองการของมนุษยเปนสาระสําคัญขอท่ีส่ีท่ีกิตติคุณมาระโกเนน พระเยซูไมเคยทรงปกความสนใจของพระองคในเร่ืองพระวิหารหรือการถวายบูชาหรือการถือวันสะบาโต พระองคไมเคยอางกฎขอบังคับหรือประเพณีนิยมเปนส่ิงแรก พระองคสนพระทัยอยู ท่ีประชาชน พระองคทรงยอมทําผิดประเพณีเชนการถือวันสะบาโต (มาระโก 2: 27) และทรง ยอมละเมิดกฎขอบังคับในเร่ืองส่ิงท่ีมลทินหรือส่ิงท่ีปราศจากมลทิน (มาระโก 2: 16; 7:1-23) เพื่อจะชวยคนท่ีอับจนดวยจิตวินิจฉัยท่ีไมผิดพลาดวาอะไรสําคัญอะไรไมสําคัญพระองคทรงทราบวาเม่ือไรควรจะเมินเฉยตอกฎท่ีเปนประโยชนอยางท่ีเคยทํานั้นเสีย พระองคนําเอาความรักท่ีแสดงดวยการกระทํามาแทนจารีตประเพณีท่ีทําใหชีวิตยุงเหยิง (มาระโก 12:28-34)

29

Page 30: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

ขออางดวนของพระเยซู

ลักษณะท่ีเดนท่ีสุดของพระธรรมเลานี้คือ ความเรงรีบท่ีจะใหปรากฏชัดวาพระเยซูทรงเรียกรองใหประชาชนจงรักภักดีตอพระองค พระเยซูทรงเรียกคนใหติดตามพระองค

(เชนมาระโก 1: 17, 20) พระองคทรงขอใหบางคนถวายเวลาท้ังหมดของเขาเพ่ือรับใชพระองค และเพื่อใหวัตถุประสงคของพระองคสําเร็จ แมพระองคทรงใหเกียรติแกสถาบันบานและครอบครัว แตไมทรงถือวาสําคัญเทากับขาวท่ีพระองคทรงนํามาและพระราชกิจท่ีพระองคจะทรงกระทํา

(มาระโก 3: 31-35) ความจงรักภักดีตอพระเจาและพระคริสตทําใหเกิดมิตรภาพอยางใหมอันเปนส่ิงสําคัญอันดับแรกและถาถึงเวลาเลือก ตองถือวาพระคริสตทรงเปนเจาของชีวิตของตนกอนอ่ืน ภายใตพระองคความจงรักภักดีที่แทจริงทุกอยางจะกลายเปนความปติยินดีและพระพร แตไมมีความจงรักภักดีอ่ืนใดจะมาเปนคูแขงหรือเทียบเทาขออางของพระคริสตท่ีวาพระองคทรงเปนเจาของ

ฉะนั้นภาพของพระเยซูคริสตจึงเปนส่ิงสําคัญท่ีสุดในกิตติคุณมาระโกเขียนอยางท่ีตนเปนคริสเตียน ทานทราบวาฝูงชนเขาใจวาพระเยซูทรงเปนศาสดาพยากรณ และคร้ังหนึ่งพระเยซูไดเคยตรัสถึงพระองคเองในทํานองนั้น (มาระโก 6: 4) แตมาระโกยังทราบอีกวา เร่ืองไมหมดเพียงเทานั้น ทานไดช้ีแจงบทบาทของพระเยซูท่ีผิดกวาใคร ๆ ท้ังหมด โดยถวายตําแหนงอันนาคิดแดพระองคส่ีตําแหนง

พระบุตรของพระเจา

ตําแหนงแรกและสําคัญท่ีสุดคือ “พระบุตรของพระเจา” ตําแหนงนี้มาระโกเขียนไวในประโยคแรกท่ีเร่ิมตน (มาระโก 1:1) และพระสุรเสียงขณะท่ีรับบัพติศมาก็ใชคํานี้ (มาระโก 1:11) หัวใจสําคัญของกิตติคุณเร่ืองพระเยซูปรากฏในมาระโก 15:39 เม่ือนายรอยท่ีกําลังยืนอยูใกลกางเขนประกาศวา “แทจริงทานผูนี้เปนพระราชบุตรของพระเจา”

นี่เปนความเช่ืออยางแนนแฟนของมาระโก พระเยซูทรงเปนมนุษยจริง ๆ ทรงรูจักการทดลองและความทุกขลําบากในชีวิตของมนุษย พระองคทรงเปนมนุษยผูยิ่งใหญท่ีสุดท่ีเคยมีมา แตพระองคทรงเปนยิ่งกวานั้น โดยสัมพันธติดสนิทเปนอันหนึ่งอันเดียวกับพระเจา พระองคไดทรงเปนและยังเปนพระราชบุตรของพระเจาอยู มาระโกไดเช่ือเชนนี้เหมือนกับพวกคริสเตียนอ่ืน ๆ และความเช่ือนี้เกิดจากพระดํารัสของพระเยซูเอง (มาระโก 13: 32) ในฐานะท่ีเปนสาวกท่ีสัตยซ่ือมาระโกไมสามารถพูดถึงพระอาจารยของทานเองใหต่ํากวาท่ีพระอาจารยตรัสนั้นได

30

Page 31: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

บุตรมนุษย

เพื่อแสดงความจริงเร่ืองพระเยซูใหครบถวนยิ่งข้ึน มาระโกไดใชตําแหนงอ่ืน ๆ อีก 3 อยางดังท่ีใชกันอยูในปจจุบันนี้ ทานชอบวิธียกเอาพระดํารัสของพระเยซูท่ีตรัสถึงพระองคเองวาเปน “บุตรมนุษย” นอกจากท่ีปรากฏในกิจการ 7:56 ตําแหนงนี้ปรากฏในพันธสัญญาใหมในกิตติคุณท้ังส่ีเทานั้น ท่ีปรากฏจากพระดํารัสของพระเยซูเอง

ตําแหนงนี้สําหรับพระองคมีความหมายอะไรบาง ไมตองสังสัยเลย วาตองรวมความจริงท่ีวาพระองคมีสวนในสภาพของมนุษยเชน พระองคทรงหิวโหย ทรงทนทุกขยากลําบาก และกลาวโดยท่ัวไปแลวพระองคทรงอยูใตความตองการของรางกายและตองถูกทดลองอยางมนุษย แตตําแหนงนี้สําหรับพระองคมีความหมายมากยิ่งกวานี้ เราพบหนังสือของพวกยูดาหสมัยกอนท่ีพรรณาถึงบุตรมนุษยวาเปนเทวมนุษยผูกระทํากิจเพื่อพระเจา พระเยซูทรงใชช่ือนี้ในความหมายทํานองเดียวกัน พระองคไมเพียงแตทรงทนทุกขเพื่อมนุษยตามน้ําพระทัยของพระเจาเทานั้น (มาระโก 10: 45) พระองคยังจะทรงไดรับเกียรติและการสรรเสริญกับพระบิดา และภายหลังจะกลับมาเพื่อตั้งแผนดินของพระเจา ซ่ึงในขณะท่ีพระองคทรงกระทํากิจการอยูในโลก พระองคไดเร่ิมกอต้ังข้ึนไว (มาระโก 14:62)

ช่ือบุตรมนุษยนี้หมายถึงชีวิตท่ีต่ําตอย อยูใตอํานาจความตองการของกายและการทนทุกข จึงรวมกับความคิดท่ีกวางออกไปวาพระบุตรของพระเจาผูซ่ึงทรงประทานชีวิตของพระองคเพื่อมนุษยไดรับเกียรติจากพระบิดา นําแผนงานของพระเจาไปสูชัยชนะ และจะรับการสรรเสริญจากบรรดาส่ิงท่ีพระเจาทรงสรางท้ังส้ิน

พระคริสตแหงชนชาติอิสราเอล

ท่ีวาพระเยซูทรงเปนพระคริสตนั้น พวกสาวกของพระองคเขาใจชา โดยการดลใจของพันธสัญญาเดิมพวกยูดาหคอยพบผูนําท่ียิ่งใหญคือ “ผูถูกเจิมไว” (นี่คือความหมายของคําภาษาฮีบรู “มาซียา” และคําภาษากรีก “พระคริสต”) เขาท้ังหลายหวังวาพระเจาจะทรงเลือกและจัดเตรียมและสงพระองคลงมาเปนผูชวยของเขาและเปนกษัตริย ตามปกติเขาท้ังหลายคิดวาพระองคทรงเปนเหมือนกษัตริยในโลกนี้ ผูซ่ึงจะเปนผูนําท่ีฉลาดและปรากฏของชนชาติของพระองค และทรงเปนผูนําทางศาสนาดวย พระองคจะปลดปลอยเขาใหเปนอิสระและปกครองกับนําเขาท้ังหลายไป

เพราะเหตุวาพวกยูดาหคอยหาผูนําเพื่อจะแสดงฤทธ์ิเดชและสิทธิอํานาจทางฝายการเมืองมากกวาทางฝายจิตวิญญาณ เขาจึงไมสังเกตเห็นวา พระเยซูทรงเปนพระมาซียาท่ีทรงสัญญาไวพวกสาวก ภายหลังท่ีไดอยูกับพระองคและเรียนรูจากพระองค ในท่ีสุด ไดมองเห็นวาพระองคทรงเปนพระ

31

Page 32: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

มาซียาจริง ๆ และเปโตรไดกลาวความเช่ือของสาวกออกมา (มาระโก 8: 27-30) พระเยซูทรงเปนผูนําท่ีพระเจาทรงเลือกไวสําหรับชนชาติของพระองค

แมกระนั้นอัครทูตท้ังสิบสองก็ยังเห็นวาเปนการยากท่ีจะเขาใจทางที่พระเยซูไดทรงเลือก พระองคไมทรงพยายามที่จะชนะใจชนชาติอิสราเอลโดยวิถีการเมืองและโดยการทหาร พระองคประกาศน้ําพระทัยของพระเจาพระองคทรงประกาศวา พระเจาทรงกระทําการอยูและมนุษยควรจะตอบสนองดวยความเช่ือไววางใจ พระองคทรงเพียรประกอบกิจดวยความไมเห็นแกตัวและดวยการทนทุกขท่ีมีคาตอนปลายพระราชกิจจานุกิจ พระองคไดใชเวลาสวนมากส่ังสอนพวกสาวกของพระองควา พระองคจะตองทนทุกขเพื่อชนชาติของพระองค เพ่ือเอาชนะมารช่ัวและตั้งอาณาจักรของพระเจาแตเขาไมเขาใจจนกระทั่งหลังจากการคืนพระชนนแลวเขาจึงเขาใจพระองคอยางแจมแจงและไดทํางานของเขาดวยฤทธ์ิเดช แลวมาระโกไดพบความจริงเหมือนอ่ืน ๆ ทานไดเสนอพระเยซูวาเปนพระคริสตของชนชาติของพระองค ผูซ่ึงในพระราชกิจจานุกิจและการทนทุกขทรมานทําใหความหวังอยางลึกซ้ึงของชนชาติอิสราเอลสําเร็จ และดังนั้นสมควรจะไดรับความเช่ือใววางใจของชนชาติอิสราเอล

ผูรับใชที่ทนทุกข

แตความทุกขทรมานเปนวิถีทางของพระเจาท่ีจะทําใหพระประสงคของพระองคสําเร็จ และชวยมนุษยหรือ เราทุกคนตามสัญชาตญาณยอมมองหาทางท่ีสะดวกสบาย ท่ีงายกวา คนในสมัยของพระเยซูก็เชนเดียวกัน แมพวกสาวกของพระองคก็เห็นวาเปนการยากท่ีจะเชื่อวา “บุตรมนุษย” จะตองทนทุกขทรมานหลายประการ (มาระโก 8:31) ฝายปรปกษของพระองคพูดตรง ๆ วา การที่พระองคทรงถูกตรึงเปนขอพิสูจนวาพระองคไมไดมาจากพระเจา ตรงกันขามพระเยซูทรงพยายามท่ีจะแสดงแกสาวกของพระองค ดังท่ีมาระโกเลาอยางแจมแจงชัดเจนวา โดยทางนี้เทานั้นท่ีพระประสงคของพระเจาจะสําเร็จได

พันธสัญญาเดิมกลาวถึงผูรับใชของพระเจาผูซ่ึงจะตองทนทุกขเพ่ือชนชาติของพระเจา ฉะนั้นจึงทรงอวยพรใหเขา พระธรรมตอนสําคัญท่ีกลาวถึงเร่ืองนี้คือในอิสยาห 53 จากการลมเหลวและหันเหรวนเรของชนชาติอิสราเอล ศาสดาพยากรณผูเขียนภาคหลังของหนังสืออิสยาห (บท 40-66) ไดชักบทเรียนซ่ึงพระเจากําลังสอนทางประวัติศาสตรวามนุษยไมไดรอดโดยธรรมบัญญัติหรือโดยคําตักเตือนท่ีดี แตไดรับความชวยเหลือจากคนเหลานั้นท่ีจะอยูรวมกับมนุษยดวยกัน ทนทุกขดวยกันและแมจะทุกขเพ่ือเพื่อนมนุษยก็ยอม และเสียสละทุกอยางเพื่อจะชวยคนอื่นอยางไมเห็นแกตัว ผูท่ีเปนชนชาติอิสราเอลแทจะตองเปนผูรับใชท่ีทนทุกขเพื่อเพ่ือนมนุษยของเขา

ความจริงขอนี้จะพบในองคพระเยซูครบบริบูรณอยางหาท่ีเปรียบมิได วาในฐานะท่ีทรงเปนบุตรมนุษย และทรงเปนพระมาซียาแหงชนชาติของพระเจา ทางของพระองคท่ีจะนําเขาท้ังหลายมาถึง

32

Page 33: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

พระเจาและมีชีวิตท่ีเช่ือฟงตองเปนทางแหงการเปนเพื่อน การเห็นอกเห็นใจ และการทนทุกขเพื่อเขาท้ังหลาย พระองคจึงเปนผูรับใชท่ีทนทุกข เปนท่ีผูเหมาะสมตามภาพท่ีศาสดาพยากรณไดวาดไว ชัยชนะของพระเยซูมาจากการทนทุกขของพระองคและบริการท่ีต่ําตอยและมรณาภาพ การคืนพระชนมหลังจากการถูกตรึงท่ีกางเขน

นี่เปนภาพของพระเยซูท่ีมาระโกไดเขียนไวอยางตรงตามความจริงเปนพระบุตรของพระเจา บุตรมนุษย และพระคริสต ก็ถูกแลว แตตําแหนงท้ังหมดเหลานี้ไดรับความหมายใหมเม่ือควบเขากับความหยั่งรูท่ีวาพระเยซูทรงเปนผูรับใชท่ีทนทุกขของพระเจา

ความถอมและชีวิตท่ีทนทุกขมิไดเปนอุปสรรคขัดขวางพระเยซูไมใหเปนบุตรของพระเจา ขอบเขตของความเปนมนุษยและความออนแอมิทําใหพระองคขาดฤทธ์ิเดชและสิทธิอํานาจ พระองคทรงเปนพระบุตรแทแนนอนของพระบิดาผูแสวงหาปวงชน ก็เพราะพระองคทรงเอาใจใสดูแลมนุษยจริง ๆ พระองคทรงแสวงหามนุษยดวยยอมพลีชีวิตอันคาสูงสุดเพ่ือใหไดเขามาถึงพระเจาและนําเขามาสูความเช่ือและปฏิบัติตามพระองคทรงเปนพระบุตรของพระบิดาผูทรงมหิทธิฤทธ์ิก็เพราะฤทธ์ิเดชท่ีชนะใจมนุษยนั้นเปนฤทธ์ิเดชแหงความรักท่ียอมเสียสละและท่ีไมเห็นแกตัว พระเยซูมิไดทรงขออภัย มาระโกไมขออภัย คริสเตียนท่ีกตัญูไมขออภัย ในเร่ืองการงเขนการท่ีพระคริสตทรงถูกตรึงท่ีกางเขนมิไดขัดขวางพระองคมิใหไดรับเกียรติ พระองคไดรับเกียรติและไดชัยชนะก็เพราะเสด็จสูกางเขนดวยความจงรักภักดี และรับเอาความทุกขทรมานอยางถึงขนาด เพื่อกระทําตามน้ําพระทัยของพระเจาและไถมนุษยท้ังปวง (มาระโก 10: 45)

แนะการอาน กิตติคุณเลมนี้ไมยาวกวาเร่ืองส้ัน ๆ หลายเร่ืองในวารสารสมัยใหม มาระโกไดเขียนกิตติคุณนี้ข้ึนโดยไมไดแบงเปนบทและขอ (การแบงเปนบท ทําใน ค.ศ. 1228 แบงเปนขอ ใน

ค.ศ. 1551) ทานมุงหมายใหอานเปนเร่ืองเดียว ขอทานท้ังหลายอานรวดเดียวใหจบจะไดผลคุมคา

สังเกตวาพระเยซูเทศนาเร่ืองแผนดินของพระเจาในมาระโก 1: 14, 15; 4:1-34 สังเกตดวยวา เร่ืองราวน้ันนําไปถึงกางเขน และเรียกใหสาวกเดินตามทางเดียวกันนั้นใน มาระโก 3: 6; 8:27-38; 9:30-41; 10:32-45 ขอสําคัญ ๆ ท่ีควรคิดถึง ใน มาระโก 1: 38; 2:17,2: 27, 28; 8:34; 9:35; 10: 45; 11: 25 ขอใดใน

พระธรรมนี้ท่ีชวยทานมากท่ีสุดก็ใหขีดเสนใตไว

33

Page 34: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

บทที่ 4 กิตติคุณมัทธิว 3

ปจจุบันนี้คริสเตียนสวนใหญเปนคนตางชาติไมใชชาติยิว ถึงแมคริสตจักรจะมีชนชาติยิวอยูดวยก็เปนจํานวนนอย สาวกของพระเยซูในสมัยปจจุบันนี้ท่ีเปนเช้ือชาติยิวอาจจะไมถึงหนึ่งในรอย ชางแตกตางกับสมัยเร่ิมแรกมาก องคพระเยซูเองเปนชาติยิว สาวกรุนแรกของพระองคท้ังหมดก็เปนชาติยิวดวย วัฒนธรรมเบ้ืองหลังของพระเยซูและผูติดตามของพระองคเปนแบบลัทธิยิว

เหมาะทีเดียวท่ีกิตติคุณมัทธิวเปนพระธรรมเลมแรกในพระคัมภีรภาคพันธสัญญาใหมของเรา เพราะชวยใหคํานึงถึงพระคัมภีรภาคพันธสัญญาเดิมซ่ึงเปนรากฐานและการผูกพันระหวางลัทธิยิวกับความเชื่อของเรา ตัวผูเขียนกิตติคุณเลมนี้เองก็เปนคริสเตียนชาติยิว และทานมีความประสงคแรงกลาท่ีจะคําถึงของประทานอันใหญยิ่งของพระเจาซ่ึงตกแกชาติอิสราเอลชนชาติท่ีถูกเลือกสรรของพระองค ไมมีใครเหมาะมีแตคริสเตียนชาติยิวนี้เทานั้นท่ีควรเขียนกิตติคุณเลมนี้ ทานพยายามเนนใหเห็นเบ้ืองหลังอันเปนผิวของกิตติคุณนี้ ทานแสดงใหเห็นความต้ังใจอันแรงกลาท่ีจะนํามิตรสหายชาติยิวมาเช่ือในพระคริสต

กิตติคุณสําหรับพวกยิว

เร่ิมตนของกิตติคุณนี้เปนเร่ืองลําดับวงศวาร นั่นคือรายช่ือบรรพบุรุษของพระเยซู (มัทธิว 1: 1-12) สําหรับพวกเราเห็นวา การข้ึนตนเร่ืองทํานองนี้ไมนาสนใจอะไรเลย แต

สําหรับผูเขียนเร่ืองท่ีความมุงหมายในการสืบสาวประวัติของวงศวาน ตามประวัติพงศพันธุแสดงวาพระเยซูไมใชเปนแตเพียงชาติยิวธรรมดาเทานั้น แตสืบเช้ือสายมาจากกษัตริยบรรพบุรุษของพระองคสืบเช้ือสายมาจากกษัตริยดาวิด และสืบตอไปถึงอับราฮัมผูเปนพอหมู

ดูตามเทือกเถาเหลากอพระเยซูทรงเหมาะสมกับตําแหนงพิเศษของพระองคตามประวัติศาสตรของชาตินี้ ในฐานะท่ีเปนบุตรของดาวิดพระองคมีสิทธ์ิอันชอบธรรมท่ีจะเปน “กษัตริยของชาติยิว”

(มัทธิว 2: 2, 27:37) กิตติคุณเลมอ่ืน ๆ พูดถึงความจริงขอนี้ไวอยางกวาง ๆ แตผูเขียนกิตติคุณมัทธิวไดเนนขอนี้ ทานทําดังนี้เพื่อจะบอกพวกยิวใหทราบวาเขาควรเช่ือวา พระเยซูทรงเปนผูท่ีทําใหพระสัญญาของพระเจาท่ีมีตอเขาทั้งหลายสําเร็จ

ผูเขียนไดเนนหลายอยางวา พระเยซูทรงเปนผูทําใหความหวังของชาติอิสราเอลสําเร็จ ทานอางขอความในพระคัมภีรภาคพันธสัญญาเดิมบอย ๆ เพื่อแสดงใหเห็นวา การท่ีพระเยซูเสด็จมาและการกระทําพระราชกิจทําใหพระสัญญาในพระคัมภีรของพวกยิวสําเร็จ (มัทธิว 3: 3 เปน ตัวอยาง) ขาวประเสริฐท่ีพระเยซูทรงนํามา ทําใหพระคัมภีรภาคพันธสัญญาเดิมสําเร็จ พระเยซูมิไดเสด็จมา “กระทํา

34

Page 35: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

ใหธรรมบัญญัติและคําของศาสดาพยากรณเปนโมฆะ แตมาเพ่ือจะใหสําเร็จตามนั้น” (มัทธิว 5:17) ชาวยิวผูท่ีคนหาพระวจนะของพระเจาในพระคัมภีรของเขาจะตองเช่ือวาพระเยซูคือผูท่ีพระคัมภีรของเขาไดกลาวถึง

กิตติคุณนี้ยังเนนตอไปอีกวาพระเยซูทรงเจาะจงท่ีจะทําพระราชกิจของพระองคตอชาติอิสราเอลเทานั้น พระองคไดทรงอุทิศตนเพื่อประเทศของพระองค และชนชาติของพระองคไมบอยคร้ังนักและไมนานนักท่ีพระองคเสด็จขามเขตแดนประเทศของพระองค แมเม่ือถูกออนวอนใหมาชวยหญิงตางชาติคนหน่ึงผูปรารถนาใหพระองคทรงรักษาลูกสาวของเขา พระองคก็ทรงรีรออยู พระองคทรงประกาศวา ตามแผนงานของพระเจา พระองคตองตั้งหนาต้ังตาทําเพื่อเฉพาะแตชนชาติของพระองคเทานั้น “เรามิไดรับใชมาหาผูใดเวนแตแกะวงศวานอิสราเอลท่ีหายไปนั้น” (มัทธิว 15:24) ในการใชอัครทูตสิบสองคนท่ีเปนชาติยิวออกไป พระองคทรงส่ังสอนเขาท้ังหลายใหไปหาเพ่ือนรวมชาติ “อยาไปทางท่ีไปสูพวกตางชาติและอยาเขาไปในบานเมืองของชาวสะมาเรีย แตวาจะไปหาแกะวงศวานอิสราเอลท่ีหายไปนั้นก็ดีกวา” (มัทธิว 10:5,6) พระองคทรงรักษาโรคคนตางชาติเพียงสองคร้ังเทานั้น และท่ีทรงกระทําก็เพราะคําออนวอนอยางเจาะจง และทรงรักษาทางไกล ท้ังหมดนี้ผูอานท่ีเปนชาติยิวควรจะเห็นวาพระเยซูไดเสด็จมาหาเขาท้ังหลายกอนคนอ่ืน และควรจะวางใจในพระองค และดําเนินชีวิตอยางเปนสาวกของพระองค

ความเชื่อสําหรับคนท่ัวไป

แตพระประสงคของพระเจามุงถึงชาติอ่ืนดวยนอกจากชาติอิสราเอล และคริสเตียนผูเขียนกิตติคุณมัทธิวก็พูดอยางนั้น พระเยซูทรงจํากัดปฏิบัติภารกิจของพระองคแตเฉพาะชนชาติของพระองคเทานั้น ท่ีเปนดังนี้ก็เพื่อเหตุผลทางแผนงาน จุดเร่ิมตนคือชนชาติท่ีพระเจาไดทรงเลือกสรร และผูท่ีพระองคไดทรงประทานพระคัมภีรและศาสดาพยากรณให แตพระเยซูไดเสด็จมาหาชาติอิสราเอลเพ่ือจะทรงเตรียมการเผยแพรพระกิตติคุณใหกวางยิ่งข้ึนโดยชาติอิสราเอล

พวกนักปราชญท่ีมาจากทิศตะวันออกเปนคนตางชาติ ในการที่เขามาหาพระเยซูนั้น (มัทธิว 2: 1) ผูเขียนไดมองเห็นวี่แววต้ังแตตน ๆ วา การกําเนิดของพระเยซูจะเปนประโยชนแก

ชนท่ัวโลก เพื่อคนตางชาติและเพื่อชาติยิวดวย ยิ่งกวานั้นการสืบเช้ือสายทางกายเทานั้นไมเปนการเพียงพอดวย ความรอดมาถึงพวกยิวท่ีสืบเช้ือสายจากอับราฮัมกอน แตการสืบเช้ือสายนี้ไมรับรองวาจะไดรับพระพรของพระเจา ความเชื่อและการเช่ือฟงพระเจาเปนมูลฐาน เพราะฉะนั้นพระเยซูทรงกระทําอยางยอหนผูใหรับบัพติศมาผูมากอนพระองค (มัทธิว 3:7-10) คือไดประกาศวายิวทุกคนท่ีไมเช่ือจะพินาศและคนตางชาติจากทุกแควนท่ีเช่ือฟงจะไดรับพระพรในแผนดินสวรรค (มัทธิว 8:11-12) พระคริสตผูทรงคืนพระชนมไดตรัสส่ังอัครทูตของพระองคใหนําขาวประเสริฐไปประกาศแกชนทุกชาติ

35

Page 36: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

(มัทธิว 28: 19) และใหทุกคนที่เช่ือรับบัพติศมาและเขารวมสามัคคีภายในคริสตจักร ความเชื่อท่ีเหมาะสําหรับคนท้ังโลกตองมีจุดรวมอันเดียวกัน ขอผูกพันของมิตรภาพใหมนี้

ไมใชอยูท่ีประเทศปาเลสไตนแผนดินท่ีทรงสัญญาไวหรือกรุงเยรูซาเล็มเมืองบริสุทธ์ินั้น ไมใชพระวิหารหรือธรรมศาลาหรือวรรณเดียวกัน หรือสิทธิอํานาจของพวกปุโรหิตและพวกอาจารย ศูนยกลางใหมนี้ก็คือ องคพระเยซูเอง เม่ือพระองคทรงเรียกคนใหติดตามพระองคไปนั้น พระองคทรงสรางมิตรภาพใหมนี้เปนข้ันแรก ผูติดตามพระองคยังไมเขาใจแจมชัดวา กลุมนี้ตองรวมคนทุกชาติเขาดวย แตก็แจมชัดแลววา จุดรวมและสิทธิอํานาจของกลุมนั้นคือองคพระเยซูผูทรงเปนพระอาจารยของเขา

ตอมาไมชาพระเยซูทรงเลือกผูติดตามสิบสองคนใหรับผิดชอบโดยเฉพาะ (มัทธิว 10: 2-4) แมกระน้ันก็ไมปรากฏชัดวาเร่ืองนี้จะนําไปสูสากลคริสตจักร อัครทูตสิบสองคนทําใหคิดถึงชาติอิสราเอลท้ังสิบสองตระกูล แตส่ิงท่ีเปนมูลฐานในชีวิตและการงานของเขาท้ังหลายคือความจงรักภักดีตอพระคริสต ถาลัทธิยิวไมยอมติดตามพระองค อัครทูตสิบสองคนนี้ก็พรอมท่ีจะนํามิตรภาพทางศาสนาซ่ึงเกิดข้ึนใหมนี้อยูแลว

การแตกแยกแบบเดียวกันคงไดเกิดข้ึนกับเจาหนาท่ีของลัทธิยิวเพราะเปโตรและพรรคพวกท้ังสิบสองคนไดรับรองวาพระเยซูเปนพระมาซียาที่พวกยิวคอยอยู (มัทธิว 16: 16) เขาหวังกันวาพระมาซียาจะทรงนําพวกยิว แทจริงพระองคควรจะเปนผูมีสิทธิอํานาจสูงสุดสําหรับพวกยิวท่ีแทจริงทุกคน แตพระองคก็จะทรงปกคอรงทุกชาติดวย แมวารูผูนําอ่ืน ๆ ในชาติอิสราเอลไมยอมรับและติดตามพระองค แตคนท่ีเช่ือในพระองคเหลานั้นก็จะเชิดชูพระองคเปนองคสําคัญสูงสุด เขาท้ังหลายจําตองแตกแยกจากเจาหนาท่ีชาติยิวท่ีเปนปฏิปกษ ดําเนินชีวิตอยางเปนศูนยกลางแหงมิตรภาพของพระคริสตและรับภาระหนักกระทําการในโลกท่ัวไป

คร้ังแรกพวกสาวกยังไมเขาใจหลายส่ิงกระจางชัด แตเขาท้ังหลายรูวาพระเยซูเปนพระคริสตเปนสิทธิอํานาจของเขาท้ังหลาย และรูวาพระองคเปนบุคคลผูยิ่งใหญของโลกที่เขาท้ังหลายตองปรนนิบัติ

พระคริสตและคริสตจักรของพระองค

พระเยซูตรัสถึงคริสตจักรวาอยางไรบาง พระองคไดตรัสนอยเต็มท่ีเปนท่ีนาประหลาดใจ กิตติคุณมัทธิวเลมเดียวเทานั้นท่ีใชคําวา “คริสตจักร” และมีคํานี้เพียงสองแหงเทานั้น (มัทธิว 16:18; 18:17) ทําไมจึงเปนเชนนั้น ก็เพราะวาพระเยซูตองทรงปกพระทัยจนส้ินพระชมนชีพในการเขาถึงและเอาชนะจิตใจชนชาติของพระองค พระองคไดตรัสกับเขาท้ังหลายถึงเร่ืองแผนดินสวรรคหรือแผนดินของพระเจา ซ่ึงมีความหมายอยางเดียวกัน พระองคไดทรงสอนถึงน้ําพระทัยของพระเจาใหแกชนชาติท่ีพระเจาทรงเลือกสรรไว พระองคไดทรงช้ีชวนใหเขาท้ังหลายเห็นวาพระเจาทรงกระทํากิจอยูทามกลางเขา

36

Page 37: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

ท้ังหลาย และเขาท้ังหลายควรจะรับพระองควาเปนผูท่ีพระเจาทรงใชมา พระองคไมไดทรงใชเวลากอต้ังคริสตจักรแยกจากการดําเนินชีวิตทางศาสนาของชนชาติท่ีถูกเลือกสรร พระองคตองใหชาติอิสราเอลมีโอกาสที่จะเปนจุดศูนยกลางท่ีคริสตจักรท่ัวโลกจะกอตั้งข้ึน

นาน ๆ คร้ังหนึ่งพระองคไดตรัสกับสาวกถึงเร่ืองคริสตจักรของพระองคคือคณะผูท่ีติดตามพระองค คริสตจักรนี้ควรทําทุกส่ิงท่ีจะทําไดเพื่อจะใหสาวกท่ีมักโตเถียงกันกลับคืนดีกัน

(มัทธิว 18: 17) ทายท่ีสุดจึงจะบังคับกันดวยระเบียบวินัย ท่ีสําคัญกวานั้นก็คือ คริสตจักรวางรากฐานอยูบนความเช่ือในพระเยซูในขอท่ีวา “พระคริสตพระบุตรของพระเจาผูทรงพระชนมอยู” (มัทธิว 16:16) เปนความเช่ือท่ีทานเปโตรเปนผูพูดคนแรก

จากท้ังพระธรรมกิตติคุณและกิจการปรากฏชัดเจนวาเปโตรเปนนักพูดแทนและเปนหัวหนาในกลุมสาวกสิบสองคนนั้น พระเยซูทรงหวังจะใหทานเปนผูนําจริง ๆ และทําการสอนดวยความแข็งขันและดวยสิทธิอํานาจแนละขอนี้มิไดหมายความวาพระเยซูทรงตั้งทานเปโตรเปนพระสังฆราชองคแรก เพราะเหตุผลขอหนึ่งคือ พระองคไมไดตรัสถึงผูจะสืบตําแหนงจากเปโตรเลย พระองคไมไดตั้งระบบปุโรหิต (หรือระบบคณะสงฆ) เหตุผลขอท่ีสองคือ ไมมีกิตติคุณเลมอ่ืน ๆ อางถึงคริสตจักรหรือสิทธิอํานาจในการสั่งสอนของทานเปโตรเลย และพระธรรมกิจการและจดหมายฝากตาง ๆ ก็ไมแสดงวาอัครทูตคนอ่ืน ๆ ไดนับถือทานเปโตรเปนผูปกครองสูงสุดของคริสตจักร ตรงกันขามในการประชุมท่ี

กรุงเยซูเล็ม (กิจการ 15) ผูท่ีทําหนาท่ีเปนประธานไมใชทานเปโตรแตเปนทานยากอบผูเปนนองชายขององคพระผูเปนเจา และท่ีเมืองอันทิโอเปยทานเปาโลก็ไดตอวาทานเปโตรอยางไมเกรงใจ เม่ือทาน

เปโตรกระทํางานดวยใจรวนเรและใจแคบ (กาลาเทีย 2: 11-21) เปนท่ีแจงชัดทีเดียวคริสตจักรในสมัยแรกไมไดสอนวา บทบาทอันสําคัญซ่ึงทานเปโตรไดรับจากพระเยซูนั้นพระองคทรงมอบสิทธิอํานาจสิทธ์ิขาดและความเปนใหญใหดวย

แมในกิตติคุณมัทธิวเองพระเยซูทรงมอบสิทธิอํานานในการสั่งสอนและการบริหารคริสตจักรแกสาวกอ่ืน ๆ (มัทธิว 18: 18) เชนเดียวกับใหแกทานเปโตร (มัทธิว 16:19) แทจริงพระองคทรงสัญญาวาถามีสองหรือสามคนท่ีจงรักภักดีรวมใจกันขอส่ิงหนึ่งส่ิงใด พระบิดาของเราผูอยูในสวรรคจะทรงกระทําให (มัทธิว 18:19)

ทานเปโตรเปนสาวกและผูนําท่ียิ่งใหญหนึ่ง เราเปนหนี้บุญคุณของทานสําหรับบทบาทการนําของทานในสมัยเร่ิมแรกนั้น แตแมในกิตติคุณมัทธิวก็ไมปรากฏวาพระเยซูตรัสอะไร ถึงปุโรหิตผูมี

อํานาจสิทธ์ิขาดหามสาวกคนอ่ืน ๆ มีเสียงในการแนะนําทางของคริสตจักร พระเยซูมีพระประสงคใหผูติดตามพระองคผูกพันเปนอันหนึ่งอันเดียวกันโดยความเช่ือในพระองค พระองคทรง

37

Page 38: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

ทราบวา ถาเจาหนาท่ีของลัทธิยิวไมยอมรับการทรงนําของพระองคและไมเช่ือในพระองคแลว เร่ืองนี้จะทําใหเกิดการแตกแยกข้ึน ในกลุมของพระองคจะมีหัวหนา และคนท้ังสิบสองโดยเฉพาะทานเปโตรจะตองทํางานท่ีสําคัญและตองมีอิทธิพลเขมแข็งในการบริหารงานผูเขียนกิตติคุณมัทธิวไดมองเห็นวา พระเยซูไดทรงวางหลักเกณฑของคริสตจักรแหงอัครทูตท่ีทานสังกัดอยู และทานเขียนเหมือนอยางวาทานเปนสมาชิกคนหนึ่งของคริสตจักรนั้นและการมองไกลถึงเร่ืองการเผยแพรสากลท่ีกําลังจะเปดกวางออกไป

การจัดคําสอนไวเปนชุด ๆ

ผูเขียนกิตติคุณมัทธิวรูวาคริสตจักรท่ีจะเปนคริสเตียนท่ีแทจริงตองจดจําและเขาใจคําท่ีพระเยซูตรัส ดังนั้นจึงรวบรวมคําสอนของพระเยซูไวมากกวาท่ีทานมาระโกไดกระทํา และทานไดจัดเรียบเรียงการเขียนของทานอยางระมัดระวัง เพื่อใหไดประโยชนและเปนระเบียบเทาท่ีจะทําไดทานไมใชคนแรกท่ีเอาใจใสทํานองนี้ พระเยซูเองก็ไดใชวิธีสอนอยางงาย ๆ ชัดเจนและนาจับใจ แตผูเขียนผูนี้ไดใชฝมือทุกอยางท่ีจะจัดคําสอนนั้นเพื่อจะใหชัดเจนและจํางายดวย

วิธีหนึ่งท่ีชวยผูอานก็คือ การจัดเปนหัวเร่ือง ๆ ละสาม หา และเจ็ด ดังตัวอยางในหนังสือมัทธิว 6: 1-18 พูดถึงการดําเนินชีวิตทางศาสนาสามอยาง กันไมใหกระทําเพื่ออวดคือ การใหทาน การอธิษฐานและการถืออดอาหาร การที่พระเยซูทรงถูกการทดลองก็มีสามประการดวย (มัทธิว 4:1-11) คําอธิษฐานสามคร้ังในสวนเกทเสมนี (มัทธิว 26:39-44) ทานเปโตรปฏิเสธสามคร้ัง (มัทธิว 26:69-75)

คําสอนสวนมากของพระเยซูก็จัดไวเปนหาชุด คือคําเทศนาบนภูเขา (มัทธิว 5-7) คําส่ังมอบหมายหนาท่ีใหอัครสาวกท้ังสิบสอง (มัทธิว 10) คําอุปมาเกี่ยวกับแผนดินสวรรค (มัทธิวบท 13) คําสอนเกี่ยวกับความเปนใหญและการยกโทษ (มัทธิวบท 18) คําสอนเกียวกับเวลาสุดทายแหงยุดนี้ (มัทธิวบท 24,25) มีคําอุปมาเจ็ดเร่ืองในพระธรรม มัทธิวบท 13 และวิบัติเจ็ดประการที่จะเกิดแกพวกธรรมาจรรยและพวกฟาริสี มีในมัทธิวบท 23 การจัดคําสอนแตละหมวดอยางนี้ชวยผูอานใหเขาใจและจําคําสอนท่ีพระเยซูตรัสไวได

ผูเขียนไดจัดหมวดหมูคําสอนเหลานี้ตามหัวขอเร่ืองมากกวาที่จะเขียนตามอันดับเวลาท่ีพระองคตรัส คําสอนบางเร่ืองผูเขียนไดบอกตนกรณีแตความสนใจท่ีแทจริงของทานก็คือ จะรวบคําสอนของพระเยซูเปนหัวขอ ๆ เพื่อความสะดวก

ตัวอยางในมัทธิวบท 5:17-48 เราพบขอความท่ีกลาวติดตอกันเปนชุด ๆ เร่ืองคําสอนของพระเยซูเกี่ยวกับคําสอนของพระคริสตธรรมคัมภีรภาคพันธสัญญาเดิม พระเยซูตรัสเร่ืองเหลานี้ท้ังหมดในเวลาเดียวกันหรือ ในกิตติคุณลูกามีบางเร่ืองพองกับในกิตติคุณมัทธิว แตเขียนแยกไวหลายแหง ฉะนั้นกิตติคุณมัทธิวจึงไดเก็บรวบรวมขอความตาง ๆ ซ่ึงไมไดจัดไวเปนหมูในขอเขียน และคําบอกเลาเดิมท่ี

38

Page 39: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

ทานลูกาใชเปนหลักไวดวยกันตามหัวเร่ือง การจัดตามหัวเร่ืองเหลานี้สังเกตเห็นไดชัดในกิตติคุณมัทธิวโดยเฉพาะ ท่ีเปนดังนี้ก็เพื่อความสะดวกในการสอนและการเรียน นี่แสดงใหเห็นวาจิตใจของทานผูเขียนกิตติคุณมัทธิวมีลักษณะครูอยู

กิตติคุณมัทธิวไมใชประมวลกฎหมาย

การจัดคําสอนของพระเยซูใหเปนระเบียบดังนี้ทําใหฟงดูคลาย ๆ เปนกฎขอบังคับ ฟงดูคลาย ๆ กับพระเยซูประทานกฎหมายท่ีแบงแยกเปนประเภทท่ีกลาวถึงเร่ืองมนุษยตองดํารงชีวิตอยางไร ท่ีจริงนักศึกษาบางคนท่ีศึกษากิตติคุณนี้ก็มีความคิดวา ผูเขียนเร่ืองนี้เสนอคําสอนของพระเยซูเปนเหมือนกฎหมายใหม ซ่ึงดีกวาธรรมบัญญัติของโมเสสจึงผูกมัดชนท้ังมวล เขาวาคําสอนท่ีสําคัญหาชุดนั้นไดจัดรวบรวมไวเพื่อผูอานท่ีปราดเปร่ืองจะสังเกตไดงาย และเห็นพระธรรมหาเลมของโมเสสตองเปนรองจากกฎหมายของพระเจาท่ีกลาวไวใหมนี้ ซ่ึงเปนส่ิงประทานมาทางคําสอนของพระเยซู

ความคิดนี้ผิด แมในกิตติคุณมัทธิวก็ยังมีคําสอนของพระเยซูอยูอีกมากมายจากคําสอนหาชุดท่ีกลาวแลว คําสอนเปนชุดเหลานี้รวมกันไวไมใชจะใหเปนกฎหมาย แตเพ่ือจะชวยในการสอนและการเรียน ถาเรามองดูคําสอนนี้ เราเห็นไดทันทีวาเราถือเปนกฎหมายไมได พระเยซูทรงเรียกใหสํานึกในความคิดและมีความเชื่อ เหลานี้ข้ึนอยูกับใจและกําลังใจและกฎหมายบังคับส่ิงท้ังสองนี้ไมได พระองคทรงเสนอใหรักพระเจาและรักเพื่อนบานความรักมาจากใจ และจะพบการแสดงออกไมใชโดยทางกฎขอบังคับ แตจะพบไดในเวลาท่ีเกิดโอกาสใหม ๆ ข้ึน พระเยซูเองไดละกฎขอบังคับและประเพณีเสีย เม่ือส่ิงเหลานั้นขอขวางความเช่ือท่ีแทจริงและการดําเนินชีวิตอยางฉันเพื่อน พระองคทรงประสงคใหผูติดตามพระองคกระทําดังนั้นเหมือนกัน

การจัดคําสอนเปนระเบียบในกิตติคุณมัทธิวชวยเราในการเรียนคําสอนของพระเยซู อยาใหเราตองคิดไปวาพระเยซูทรงเปนผูออกกฎหมายผูซ่ึงพยายามบงการชีวิตดวยกฎขอบังคับภายนอกท่ีตายตัว

แหลงท่ีมาของเรื่อง

ทานผูเขียนกิตติคุณมัทธิวไดเก็บเร่ืองราวมาจากไหน ทานเปนครูในคริสตจักร และอะไร ๆ ท่ีทานเขียนลงไปไมเปนส่ิงใหมสําหรับทานบางเร่ืองท่ีทานเขียนทานคงไดฟงมาจากพยานท่ีเห็นดวยตาและจากครูท่ีสอนเร่ืองกิตติคุณ แตเม่ือเรานํากิตติคุณมัทธิวไปเปรียบกับกิตติคุณมาระโกและลูกา และสังเกตวาพระธรรมเหลานี้พองกันในเร่ือง การจัดอันดับและการใชคําภาษากรีกแทบจะแนใจไดวา เบ้ืองหลังของกิตติคุณเหลานี้มีขอเขียนเปนเหลงภาษากรีกอยู แหลงสําคัญอันหนึ่งก็คือ กิตติคุณมาระโกมีอยูในกิตติคุณมัทธิวมากท่ีสุด แมวามักจะเขียนยอกวา นอกจากกิตติคุณมาระโกแลวยังมีแหลงคําเขียนอ่ืนอีก ซ่ึงบรรจุคําสอนของพระเยซู ท่ีผูเขียนกิตติคุณท้ังมัทธิวและลูกาไดนํามาใช บางทีผูเขียนกิตติคุณ

39

Page 40: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

มัทธิวอาจจะไดยกขออางมาจากประมวลท่ีเรียกวา “หลักฐาน” ยกขอความในพระคริสตธรรมคัมภีรภาคพันธสัญญาเดิมท่ีคริสเตียนเห็นวาสําเร็จแลวในพระชนมชีพและพระราชกิจจานุกิจของพระคริสต เร่ืองลําดับวงศวานในมัทธิวบทท่ีหนึ่ง และเร่ืองชีวประวัติระหวางเปนทารกท้ังหมดในสองบทแรก ผูเขียนคงไดมาจากลายลักษณอักษร ฉะนั้นเบ้ืองหลังของกิตติคุณนี้อยางนอยก็มีแหลงคําเขียนสองเหลงคือ กิตติคุณมาระโกและประมวลคําสอนของพระเยซู และผูเขียนอาจจะใชเอกสารส้ัน ๆ อ่ืน ๆ อีก ยิ่งไปกวานั้นไมตองสงสัยเลยวาผูเขียนไดรับจากเร่ืองอ่ืน ๆ ซ่ึงทานไดยินจากการบอกเลา

ผูเขียนคือ ครูยิวท่ีเปนคริสเตียน

ใครเขียนกิตติคุณมัทธิว ตามตํานานของคริสเตียนเขาใจวาผูเขียนคือทานมัทธิวคนหนึ่งในสิบสองคนน้ันผูท่ีเคยเปนคนเก็บภาษีมากอนท่ีทานละท้ิงงานของทานเพื่อติดตามพระเยซู (มัทธิว 9: 9) ไมปรากฏวามีใครใหช่ือผูเขียนคนอ่ืนอีก ดังนั้นจึงมีเหตุผลลงความเห็นไดวามัทธิวมีสวนเกี่ยวของในการเขียน อยางไรก็ตามผูเขียนกิตติคุณมัทธิวก็ไดใชกิตติคุณของมาระโกผูซ่ึงไมใชอัครทูต แตเปนผูท่ีอาศัยทานเปโตรและคนอ่ืนท่ีบอกเร่ืองให เราคงไมคาดวาผูเขียนกิตติคุณมัทธิวจะทําอยางนั้นในเม่ือทานเองก็เปนอัครทูตคนหนึ่ง ทําไมทานจึงใชการเขียนของคนท่ีไมไดเปนผูรวมงานกับพระเยซูเปนรากฐานการเขียนของทาน

ตํานานโบราณไดใหขอคิดเร่ืองการแกปญหาความยุงยากนี้อยางนาเช่ือ รายงานท่ีเกาท่ีสุดเร่ืองผูเขียนไดมาจากบาบีอัส ในกลางศตวรรษท่ีสองทานกลาววา “ทานมัทธิวไดรวบรวมโลเกีย (คําพูดหรือพระวจนะ) ในภาษาฮีบรู” (หรือภาษาอราม) ตางคนตางก็ตีความเทาท่ีจะสามารถทําได นี่อาจจะหมายความวาทานมัทธิวไดเก็บรวบรวมขอพระธรรมในพระคริสตธรรมคัมภีรภาคพันธสัญญาเดิมเหมือนอยางท่ีผูเขียนกิตติคุณมัทธิวของเราอางถึงบอย ๆ หรือทานมัทธิวอาจจะรวบรวมและเขียนคําสอนของพระเยซูไวเปนรูปเลมท่ีผูเขียนกิตติคุณมัทธิวและลูกาใชเปนแหลงท่ีมา ขอนี้อธิบายไดวา ช่ือของทานมัทธิวมาเกี่ยวของกับกิตติคุณเลมนี้อยางไร คือผูเขียนไดใชแหลงท่ีมาท่ีทานมัทธิวไดเรียบเรียงไว ฉะนั้นช่ือของผูเขียนคนสุดทายของ “กิตติคุณมัทธิว” จึงไมมีใครรูจัก ทานเปนชาวยิวท่ีเปนครู

คริสเตียนผูฉลาดหลักแหลมและจงรักภักดี กิตติคุณมัทธิวนี้เขียนเสร็จเม่ือไร โดยเหตุท่ีไมมีกิตติคุณเลมใดบอกวาไดเขียนข้ึนเม่ือไร เราจึง

บอกวันท่ีท่ีแนนอนไมได ท่ีสรุปความไดอยางชัดแจงวา ผูเขียนกิตติคุณไดใชกิตติคุณมาระโก กิตติคุณมัทธิวจึงเขียนข้ึนภายหลังกิตติคุณมาระโก เพราะเหตุนี้จึงคิดวา คงเปนภายหลังปคริสตศักราช 70 บางทีจะเปนใน ค.ศ. 80 หรือประมาณ ค.ศ. 90 ก็เปนได

40

Page 41: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

พระเยซูชาวยิว

กิตติคุณท่ีผูเขียนไดบอกกลาวไมใชเปนเร่ืองสวนตัวของทานเปนขาวประเสริฐท่ีกลาวถึงพระเยซูคริสต เปนเร่ืองท่ีเปนมูลฐานและเปนคําสอนของคริสตจักร ดังนั้นผูเขียนจึงกระทําอยางสุดฝมือท่ีจะใหความกระจางในเร่ืองพระเยซูคริสตทรงรับภารกิจจากพระเจา และคําเรียกรองตอชนชาติยิวและมนุษยทุกคนใหมาภักดีตอพระองค อะไรเปนลักษณะท่ีเดนในภาพองคพระคริสตนี้

มีการย้ํามากมายในความจริงท่ีวาพระเยซูทรงเปนชนชาติยิว ท่ีพระองคเสด็จมาเปนชาวยิวและประกาศพระองคแกพวกยิวและประกาศพระองคแกพวกยิวก็มีเนนอยูหลายประการคือ โดยการลําดับวงศวานของพระองคท่ีเกี่ยวโยงไปถึงเทือกเถาเหลากอยอนหลังไปทางเช้ือสายของกษัตริยชาติยิวจนถึงพอหมูชาวยิวคืออับราฮัม พูดทางภูมิศาสตรก็แสดงวาสถานท่ีเกิดเหตุของเร่ืองเกือบตลอดท้ังหมดท่ีเขตจํากัดอยูในประเทศปาเลสไตน โดยการใชพระคัภมีรของลัทธิยิวอยูบอย ๆ โดยการรวบรวมอัครทูตสิบสองคนซ่ึงเปนชาวยิวท้ังหมดโดยการท่ีพระเยซูทรงเพียรพยายามและทรงกระทําพระราชกิจตอพวกยิวโดยเฉพาะ พระองคทรงรับวาพระธรรมคัมภีรของยิวเปนพระธรรมคัมภีรของพระองคดวย ภารกิจของพระองคไมใชมา “เพื่อทําใหเปนโมฆะแตมาเพ่ือจะใหสําเร็จ” ตามท่ีพระธรรมคัมภีรนั้นไดกลาวไว (มัทธิว 5:17) พระองคไดทรงดําเนินงานท่ีพระเจาทรงกระทําเพื่อชนชาติอิสราเอลตอไปจนถึงข้ันท่ีสุด ความท่ีพระเยซูทรงเปนยิวนี้ปรากฏชัดในทุกกิตติคุณ แตสําหรับในกิตติคุณมัทธิวนี้ไดเนนอยางหนักแนนเพื่อเสนออยางแข็งขันใหพวกยิวเช่ือในพระคริสต

พระเยซูทรงเปนพระมาซียาชาวยิว

ผูเขียนกิตติคุณมัทธิวเห็นวา เร่ืองพระเยซูทรงเปนพระมาซียาชาวยิวนี้เปนเร่ืองสําคัญอยางยิ่ง พระองคทรงเปน “ราชบุตรของดาวิด” (มิทธิว 1:1;21:9) พระองคทรงเปน “กษัตริยของชนชาติยิว” (มัทธิว 2:2;27:37) เพราะฉะน้ันชนชาติยิวทุกคนควรจะวางใจและเช่ือฟงพระองคผูเขียนเช่ือวาพระเยซูทรงเปน “พระบุตรของพระเจา” จริงทีเดียว ทานไดเสนอวา ตําแหนงนี้เปนตอนหนึ่งของตําแหนงพระมาซียาท่ีทานเปโตรไดกลาวข้ึนท่ีเมืองซีซาเรยา ฟลิปป (มัทธิว 16: 16) ทานไดเสนอบอย ๆ วา พระเยซูไดตรัสถึงพระองคเองวาเปน “บุตรมนุษย” ดวย ทรงรับใชอยูดวยความถอมสุภาพ แตพระเจาทรงกําหนดใหทนทุกขทรมานเพ่ือจะชวยมนุษยและเพื่อจะเอาชัยชนะโดยฤทธ์ิเดชและประสงคของพระเจาฉะนั้นก็เชนเดียวกับทานมาระโก ทานไดเสนอพระคริสตเปนผูรับใชท่ีทนทุกขท่ีผูเขียนพระธรรม

อิสยาหบท 53 ไดกลาวถึง แตผูเขียนกิตติคุณมัทธิวไดเนนอยางพิเศษถึงความจริงท่ีวาพระเยซูไดทรงทําใหความหวังของ

ชนชาติอิสราเอลสําเร็จ อันเปนความหวังท่ียึดม่ันกันมานานแลววา พระเจาจะทรงสงผูสืบเช้ือสายท่ีถูก

41

Page 42: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

เลือกสรรของดาวิดเพ่ือจะมาชวยและปกครองและนําชมชาติของพระองค พระเยซูทรงเปน “บุตรของดาวิด” องคนั้น พระองคทรงเปนกษัตริยของอิสราเอลโดยชอบธรรม เพราะฉะน้ันชนชาติอิสราเอลควรจะเปนสาวกของพระองค คนช้ันผูปกครองและคนสามัญควรจะยินดีมาเปนผูติดตามพระองคเชนเดียวกัน

พระเยซูทรงเปนพระบรมคร ู

ในเร่ืองสมรรถภาพเปนครูท่ีพระเยซูทรงมีอยูนั้นไมเคยมีปญหาเกิดข้ึน ท่ีมนุษยเรียกพระองควา “พระบรมครู” นั้นถูกตองแลว พระองคไดตรัสดวยสิทธิอํานาจและทรงสอนดวยฤทธ์ิเดช กิตติคุณเลมนี้ไดรวบรวมคําสอนท่ีสําคัญท่ีสุดของพระองคในลักษณะตามอันดับและเปนสมบัติใหญยิ่งท่ีสุดของมนุษยชาติ ท่ีสําคัญมิใชเพราะเปนเร่ืองชาญฉลาดแต อยางเดียวเทานั้น แตเพราะเปนเร่ืองจริงดวย เพราะกลาวถึงเร่ืองราวท่ีสําคัญท่ีสุดไวอยางชัดเจนและอยางบังเกิดผลดี คือชีวิตของมนุษยตอพระพักตรพระเจา เปนเร่ืองสําแดงถึงพระราชกิจของพระเจาและน้ําพระทัยของพระองค เผยใหเห็นกระจางถึงสภาพของมนุษย ความตองการของเขา ความสัมพันธของเขาอันมีตอพระเจา และหนาท่ีตาง ๆ ของเขา

คําสอนอยางไมมีอะไรเปรียบไดนี้เปนเร่ืองสําคัญยิ่งสําหรับผูเขียนกิตติคุณนี้ มิใชเพราะวาเปนเร่ืองมาจากครูหรืออาจารยท่ีสามารถและดีคนหนึ่งคนใด แตเปนพระดํารัสของพระคริสต พระบรมครู พระเปนเจาแหงชนชาติของพระองค พระองคผูจะเปนผูพิพากษาโลก เพราะทานเช่ือวาชีวิตท่ีแทโลกนี้และในโลกท่ีจะมีมาในภายหนานั้น ยอมข้ึนอยูกับความสัมพันธอยางถูกตองกับพระเจาโดยพระคริสต ผูเขียนกิตติคุณใชความพยายามทุกอยางท่ีจะใหความกระจางวาพระเยซูทรงสอนอะไร

พระเยซูทรงเปนพระสหายและเปนผูที่นาเกรงขาม

คนจะเชื่อฟงพระเยซูหรือไมนั้นมีอะไรแตกตางกันหรือ บางทีคนพูดวา พระเยซูทรงเปนสภาพบบุรุษและเปนคนถอมดั่งวาพระองคไมเคยลงโทษคนใดเลย ในกิตติคุณมัทธิวและกิตติคุณอ่ืน ๆ ก็เหมือนกัน ท่ีกลาววา พระเยซูทรงสําแดงความเห็นอกเห็นใจกับทุกคนท่ีขัดสนพระองคยิ่งทรงเห็นใจคนท่ีเจ็บปวด โศกเศราหรือขาดแคลน พระองคทรงพรอมอยูเสมอท่ีจะตรัสคําใหอภัยและใหความหวังแกคนใด ๆ ซ่ึงพรอมท่ีจะเปล่ียนทีทาของตน และเลิกการกระทําช่ัวทุกอยาง

แตพระเยซูไมเคยตรัสบอกมนุษยวา เขาจะดํารงชีวิตอยางไรก็ไดไมแปลกอะไรสําหรับพระเจา ตรงกันขาม พระองคทรงประนามคนท่ีแข็งแรงดางตอมโนธรรม ทําผิดเร่ือยไป หรือกระทําตอเพ่ือน

บานอยางไร ความเมตตากรุณา (มัทธิว 18:21-35; 23;23-28) พระองคทรงกลาวโทษบรรดาคนท่ีทําใหศาสนาเปนแตเพียงพิธีการภายนอก หรือผูใชศาสนาหาประโยชนเปนสวนตัวหรือเพื่อผดุงความหยิ่งผยองของตน (มัทธิว 4:1-18) พระองคทรงเตือนวา การฟงแลวละท้ิงคําสอนของพระองคจะนําภัย

42

Page 43: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

พิบัติมาถึงเขาอยางแนแท (มัทธิว 7:26,27) กิตติคุณมัทธิวมีเร่ืองคําเตือนถึงการทรงพิพากษาลงโทษการกระทําช่ัว และกลาวถึงเคราะหกรรมของบรรดาคนที่ดื้อปฏิเสธทอดท้ิงคํากลาวอางของพระคริสตมากกวากิตติคุณอ่ืนใด กิตติคุณท้ังส่ี กลาวเร่ืองนี้ก็จริง แตกิตติคุณมัทธิวเนนไวดวย ผูเขียนต้ังใจใหผูอานเห็นวาการเลือกระหวางความเช่ือและความไมเช่ือนั้นสําคัญยิ่งปานใด คนท่ีปฏิเสธพระเยซูก็มุงหนาตรงไปหาวิบัติมิใชเพราะพระคริสตไมทรงยอมชวยเขา แตเพราะการตัดสินใจของคนในเร่ืองอันเกี่ยวกับคําอางของพระคริสตช้ีทางใหและปนอนาคตของคนน้ันใครท่ีดื้อปฏิเสธไมยอมรับการทรงอุปถัมภของพระเจาท่ีทรงสงมาทางพระคริสตยอมปดประตูกั้นตัวเอง และขาดจากผลดีซ่ึงกิตติคุณนํามาใหอยางไมคิดมูลคานั้น

แนะการอาน อานกิตติคุณมัทธิวใหจบ จงสนใจพิเศษถึงชุดคําสอนของพระเยซูหาชุดท่ีสําคัญ คือ คําเทศนาบนภูเขา (มัทธิว 5-7) พระดํารัสกําชับอัครทูตท้ังสิบสอง (มัทธิว บท 10) คําอุปมาเกี่ยวกับแผนดินของพระเจา (มัทธิว บท 13) คําสอนเกี่ยวกับการเปนใหญและการใหอภัย (มัทธิว บท 18) คําสอนอันเกี่ยวกับเวลาสุดทายแหงยุคนี้ (มัทธิว บท 24 และ 25)

43

Page 44: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

บทที่ 5 กิตติคุณ ลูกา 4

ทําไมคริสตจักรจึงบรรจุหนังสือยี่สิบเจ็ดเลมไวในพระธรรมภาคพันธสัญญาใหม ทําไมจึงไมจบลงเพียงแตหนังสือกิตติคุณส่ีเลม พระเยซูทรงเปนบุคคลสําคัญสูงสุดของพระธรรมภาคพันธสัญญาใหม และพระธรรมภาคนี้มุงความเช่ือและความคิดท้ังหมดตรงไปยังพระองค อะไร ๆ ท่ีพระเจาไดทรงกระทําเพื่อมนุษยทางพระเยซูคริสตเปนหัวใจของขาวของคริสเตียน หนังสือกิตติคุณท้ังส่ีกลาวถึงเร่ืองรากฐานท่ีความเช่ือของพระคริสเตียนและคริสตจักรต้ังอยู แตคริสตจักรก็ยังไดรับการทรงนําจากพระเจาใหเพิ่มหนังสืออ่ืน ๆ ดวย ดังตัวอยางท่ีรวมพระธรรมกิจการเขาไวดวยทําไมจึงทําอยางนั้น

มีเรื่องท่ีจะตองบอกอีกมาก

หนังสือกิตติคุณท้ังส่ีเลมชี้ไปขางหนา ไมมีผูเขียนกิตติคุณสักคนหนึ่งท่ีคิดวาเขาไดเลาเร่ืองจบบริบูรณแลว แตละคนจบเร่ืองราวของเขาดวยการเปนพยานท่ีแจมแจงถึงเร่ืองการคืนพระชนมของพระเยซู และการคืนพระชนมนั้นหมายความวา พระเยซูทรงเปนพระคริสตผูทรงพระชมนอยูและเปนองคพระผูเปนเจาท่ีทรงทํางานอยูแหงคริสตจักรของพระองค ดวยเหตุนี้แตละกิตติคุณไดช้ีไปขางหนา ใหเห็นพระราชกิจข้ันตอไปของพระคริสตและพระราชกิจของพระเจาท่ีทรงทําขางหนา เร่ืองนั้นตองกลาวถึงดวย คริสตจักรสมัยตอมาตองการทราบวาพระคริสตไดทรงสงพระวิญญาณบริสุทธ์ิลงมา พระวิญญาณบริสุทธ์ิประทานฤทธ์ิเดชและการทรงทํางานแกพวกสาวกขณะเม่ือพวกเขาไดกอตั้งคริสตจักรและเผยแพรพระกิตติคุณใหแผไพศาลออกไป

แลวเราควรจําไวดวยวา พวกสาวกเหลานี้แหละท่ีใหเร่ืองกิตติคุณแกเราที่จะเขาใจพระราชกิจของพระคริสตได เราจําเปนจะตองดูพระราชิจทั่ว ๆ ไปท้ังหมดของพระองค เขาใจอยางนี้ไดก็ตอภายหลังการส้ินพระชนมและการคืนพระชนมของพระเยซูตอเม่ือถึงตรงนั้นแหละคริสตจักรจึงจะเลาเร่ืองกิตติคุณท่ีสมบูรณได ภายหลังท่ีพระเจาทรงบรรดาลใหพระเยซูคืนพระชนมและประทานพระวิญญาณบริสุทธ์ิแกคริสตจักรแลวคนเหลานั้นท่ีไดอยูกับพระเยซูจึงเร่ิมกลาวคําพยานอยางครบบริบูรณอันเปนหลักฐานท่ีความเช่ือของคริสตจักรจะกอต้ังข้ึนตลอดมา

เพราะฉะน้ันก็เห็นไดอยางแจมแจงวากิจการของนักเทศนและครูในสมัยของอัครทูตสําคัญมากคร้ังนั้นแหละคริสตจักรไดจัดใหเปนระเบียบข้ึนเร่ืองกิตติคุณถูกบอกเลาอยางครบบริบูรณ และมีคนเขียนกิตติคุณท้ังส่ีข้ึน เร่ืองราวท่ีพระเจาทรงกอต้ังคริสตจักรข้ึนโดยการเปนพยานภายใตการทรงนําของพระวิญญาณและงานของสาวกของพระคริสตเปนสวนสําคัญในขาวของคริสเตียน

44

Page 45: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

แตกิตติคุณไมไดกลาวถึงเร่ืองราวตอนหลังนี้ เราไดเรียนรูบางส่ิงเกี่ยวกับความเช่ือและคําสอนในสมัยของอัครทูต แตความมุงหมายของเขาท้ังหลายตองการจะกลาวถึงเร่ืองหัวใจสําคัญของการเผยแพรศาสนาและพระราชกิจของพระเยซูอยางละเอียด เขาท้ังหลายชี้ไปขางหนา แตเขาท้ังหลายไมกลาวถึงเร่ืองตอไปหลังจากการคืนพระชนมแลว

ชายคนหนึ่งไดมองเห็นความตองการและก็จัดสนองความตองการนั้น ทานจึงบรรยายเร่ืองกิตติคุณนี้ตอไปเพื่อจะรวบรวมเร่ืองท่ีพวกสาวกไดกระทําตอมาเขาไวดวย ทานไดเขียนท้ังพระราชกิจของพระเยซูและภารกิจท่ีพวกสาวกของพระองคไดกระทําตอมาไวเปนเร่ืองเดียวกัน สมัยนี้เรามีเร่ืองของทานแยกกันอยู คือ กิตติคุณลูกาเราพบอยูในหมวดกิตติคุณแตภาคท่ีสองอันเปนหนังสือกิจการซ่ึงใหเร่ืองราวในสมัยของอัครทูต จัดเขาอันดับภายหลังเพื่อจะเตรียมทางสําหรับจดหมายฝากท่ีจะมีตอไป นี่เปนการจัดลําดับไวอยางเหมาะสม แตเราตองพิจารณาดูวาผูเขียนกิตติคุณลูกาและหนังสือกิจการเดิมทําอะไร ทานไดบอกถึงเร่ืองท่ีติดตอเปนเร่ืองเดียวกัน ซ่ึงเราควรเรียกวา ลูกา – กิจการ เพ่ือจะบอกวาเปนเร่ืองเดียวซ่ึงตอกัน

ทานไดเขียนเร่ืองเดียวเปนสองภาค ถึงแมในสมัยนี้ผูเขียนมักจะพิมพเร่ืองยาว ๆ เปนสองเลม ในสมัยกอน เม่ือเคร่ืองใชในการเขียนไมทนทาน ผูเขียนไดแบงการเขียนเร่ืองยาวออกเปนสองภาคหรือสองเลมหรือมากกวานั้น เขาเร่ิมเร่ืองของเขาในภาคแรกดวยอารัมภบทท่ัวไป ในอารัมภบทนี้เขาไดแถลงความประสงคของเขาแลวในภาคท่ีสองและภาคอื่น ๆ ท่ีเขียนตอไป ทีแรกเขาจะเทาความเร่ืองที่เขาไดเขียนมาแลวอยางยอ ๆ และรีบหันไปกลาวเร่ืองตอนตอไปของเขา เราเห็นวาในหนังสือลูกา – กิจการเปนอยางนั้นทีเดียว กิตติคุณลูกาเร่ิมตนดวยคํานําอยางแบบวรรณคดี เพื่อจะช้ีแจงถึงเหตุผลในการเขียนและเร่ืองท่ีจะเลา (ลูกา 1: 1-4) หนังสือกิจการเร่ิมตนดวยการเทาความเร่ืองท่ีหนังสือกิตติคุณ ลูกาไดกลาวไว (กิจการ 1:1) แลวจึงดําเนินเร่ืองตอไป

“ลูกาผูเปนแพทยที่รัก”

ลูกาคือผูท่ีเขียนเร่ืองสองภาคนี้ ในหนังสือไมไดบอกขอนี้ โดยปกติผูเขียนเร่ืองจะไมบอกช่ือของเขา (หัวเร่ืองของหนังสือท่ีปรากฏในพระคัมภีรภาษาไทยของเราน้ันไมใชเปนการเขียนท่ีมีมาแตเดิม) แตหนังสือ ลูกา – กิจการแสดงถึงความสนใจและความสามารถทางวรรณคดี หนังสือนี้เปดฉากดวยคํานําตามระเบียบวรรณคดี (ลูกา 1:1-4) ช่ือของผูเขียนคงเปนท่ีรูจักกันเม่ือหนังสือไดเขียนข้ึนแลว ตามตํานานโบราณวาลูกาเปนผูเขียนและไมมีใครเสนอช่ืออ่ืน ๆ ข้ึนมาอีก “ลูกาผูเปนแพทยท่ีรัก” (โคโลสี 4:14) เพื่อนรวมงานออกประกาศของทานเปาโลเปนผูเขียนหนังสือ ลูกา – กิจการ

ทานลูกาไดออกประกาศกับทานเปาโลมากกวาหนึ่งเท่ียว ความจริงขอนี้เราจะพบไดชัดเจนปรากฏในหนังสือกิจการส่ีแหงท่ีทานลูกาไดใชคําวา “เรา” แสดงวาทานอยูกับทานเปาโลดวย

45

Page 46: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

(กิจการ 16:10-17; 20:5-15; 21:1-18; 27:1 ถึง 28:16) ทานอยูกับทานเปาโลระหวางท่ีติดคุกอยางนอยก็

2 คร้ัง คร้ังหนึ่งเม่ือทานเปาโลไดเขียนจดหมายฝากโคโลสี (โคโลสี 4:14) และฟเลโมน (ฟเลโมน 24) และอีกคร้ังหนึ่งท่ีทานเขียนไวในทิโมธีฉบับสอง 4:11 วา “ลูกาคนเดียวอยูกับขาพเจา”

มักจะพูดกับบอย ๆ วาคนท่ีเขียนหนังสือลูกา – กิจการตองเปนนายแพทย หลายคนอางวาเปนภาษาซ่ึงคนท่ีเปนหมอชอบใช พยานหลักฐานไมไดบังคับใหลงความเห็นนี้ แตลงรอยกันไดดี เอาตํานานคริสเตียนและภาษาของการเขียนรวมกันเขาทําใหเขาใจกระจางชัดวา “ลูกาผูเปนแพทยท่ีรัก” (โคโลสี 4:14) เปนเพื่อนรวมงานของทานเปาโลและเปนคริสเตียนตางชาติ ไดเขียนเรื่องกิตติคุณท่ีสมบูรณรูปเลมนี้

ทานเปนผูเขียนกิตติคุณเพียงคนเดียวท่ีบอกเราถึงเร่ืองสภาพการณในเร่ืองท่ีทานเขียน สวนกิตติคุณอ่ืน ๆ บอกแตเฉพาะเร่ืองท่ีเขาเลา ผูเขียนกิตติคุณเหลานี้ไมไดแสวงหาความนิยมทางวรรณคดี เพราะเขารูวาเร่ืองท่ีเขาเลานี้ไมใชเร่ืองของเขาเองแตเปนเร่ืองของคริสตจักรมากกวา แมวาทานลูกาก็สนใจกับเร่ืองกิตติคุณมากกวาความนิยมทางวรรณคดี แตทานก็มาทํางานของทานโดยมีพื้นเพทางวัฒนธรรมของคนตางชาติซ่ึงผูเขียนกิตติคุณคนอ่ืน ๆ ไมมี และโดยการเร่ิมตนดวยอารัมภบททางวรรณคดี (ลูกา 1: 1-4) ทานไดบอกเราหลายส่ิงวาทานไดเขียนข้ึนอยางไร

ลูกาเรียนรูเรื่องน้ีไดอยางไร

ทานลูกาไมไดเปนเพื่อนรวมงานกับพระเยซู ทานไมสามารถพูดไดอยางพยานท่ีเห็นกับตนเอง ความมุงหมายของทานก็คือ จะเลาอยางแจมแจงและอยางถูกตองแนนอน และตามลําดับท่ีพยานผูเห็นกับตาไดมอบใหแกคริสตจักร ทานลูกาไมไดเปนผูนําทางศาสนาหรือนักเทศน พวกนักเทศนท่ีทานอยูดวยได บอกทานตามที่พยานท่ีเห็นกับตาไดพูด ยิ่งกวานั้นอีกทานลูกาไดบอกตรง ๆ วาทานไมใชเปนคนแรกที่เขียนเรื่องกิตติคุณ ทานไดเร่ิมลงมือเขียนเร่ืองท่ีละเอียดกวา โดยบรรยายต้ังแตกําเนิดของยอหนผูใหรับบัพติศมาและพระเยซูและจบลงท่ีงานของทานเปาโล แตมีหลายคนกอนทานไดเขียนรายละเอียดเร่ืองงานของพระเยซูไวแลว ทานทราบเร่ืองราวของเขาท้ังหลายเหลานั้น และตามทางวรรณาคดีของสมัยนั้น ทานไดใชหนังสือเหลานั้นอยางมากเทาท่ีหนังสือนั้นจะชวยทานได

แตทานลูกาไมไดรูเร่ืองตามบันทึกท่ีทานไดรับมาเทานั้น ตัวทานเองอยูดวยในเหตุการณท่ีสําคัญ ๆ หลายอยาง ขณะท่ีทานอยูกับทานเปาโล ทานไดยินอัครทูตเปาโลเลาถึงเร่ืองพระคริสตและเร่ืองกิตติคุณ ท้ังเร่ืองคริสตจักรในสมัยแรกท่ีสุดหลายอยางหลายประการ ทานไดยินอาจารยคนอ่ืน ๆ ชวยทานเปาโลแนะนําผูมาไตถามและผูเช่ือในสาระสําคัญของเร่ืองของคริสเตียน เม่ือทานเปาโลไดไปท่ีกรุงเยรูซาเล็มคร้ังสุดทาย (กิจการ 21:17 )ทานลูกาไดไปกับทานและอยูกับทาน ปรากฏวาเปนเวลา

46

Page 47: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

ระหวางสองปท่ีทานเปาโลถูกจําคุกอยูท่ีเมืองซีซาเรยาในประเทศปาเลสไตน (กิจการ 24:27) ในสองปท่ีประเทศปาเลสไตนนี้ทานไดมีโอกาสพูดกับคริสเตียนหลายคน ไมตองสงสัยเลยวาบางคนเหลานั้นไดเห็นและไดยินพระเยซูตรัสมาแลว และอีกหลายคนสามารถท่ีจะเลาเร่ืองคริสตจักรในสมัยแรกได จึงไมประหลาดอะไรเลยที่ทานลูการูสึกวาทานสามารถเขียนเรื่องราวท่ีถูกตองตามลําดับเร่ืองได พื้นเพของทานสอใหเห็นวา ทานจะเขียนเร่ืองท่ีเช่ือได

ไมแปลกอะไรเลยท่ีทานลูกาใชกิตติคุณมาระโกเปนแหลงหนึ่งของทาน ทานรูจักมาระโก เราไดยินถึงสองครั้งวาท้ังทานลูกาและมาระโกอยูกับทานเปาโล (โคโลสี 4:10,14 2 ทิโมธี 4:11) ทานรูเร่ืองบันทึกรวมพระดํารัสสอนของพระเยซูท่ีผูเขียนกิตติคุณมัทธิวไดใชดวยซ่ึงอัครทูตมัทธิวอาจจะไดเขียนไวก็ได ทานไดเร่ืองราวจากแหลงอ่ืน ๆ อีก ไมตองสังสัยเลยวาบางเร่ืองทานพบในระหวางท่ีพักอยูในประเทศปาเลสไตน เร่ืองเหลานี้รวมท้ังคําอุปมาท่ีมีชื่อกับเร่ืองอ่ืน ๆ ซ่ึงทานลูกาคนเดียวไดใหแกเรา นอกจากนั้นมีคนบอกทานถึงการกําเนิดและชีวิตวัยเด็กของยอหนผูใหรับบัพติศมา ซ่ึงไมมีกิตติคุณเลมอ่ืนเขียนไว ทานไดทราบเร่ืองท่ีนาฟงคือเร่ืองการกําเนิดและชีวิตในวัยตน ๆ ของพระเยซูเองเรื่องเหลานี้มีคามากเกินที่จะขามไปเสียได

ดังนั้นทานลูกาไดใชแหลงเร่ืองตาง ๆ ท้ังท่ีเขียนไวและท่ีเลาใหฟงแตการเขียนและเรียบเรียงเปนงานของทานเอง นักศึกษาคนหนึ่งไดเรียกช่ือกิตติคุณของทานวา “หนังสือดีท่ีสุดที่เคยเขียนมา” ทานลูกาไดรวบรวมอะไร ๆ ท่ีทานไดทราบมาดวยความเช่ือของคริสเตียนและดวยความฉลาดไหวพริบใหเขาเปนเร่ืองท่ีสําคัญและหาคามิได เปนเร่ืองท่ีกลาวถึงพระราชกิจของพระเจาท่ีทรงไถมนุษยและงานสรางคริสตจักรทางพระคริสตและทางวิญญาณบริสุทธ์ิ

ทานลูกาไดเขียนขึ้นเมื่อไร

ทานลูกาไดเขียนกิตติคุณข้ึนเม่ือไร ในเมื่อทานไดใชกิตติคุณมาระโกเปนเคาเร่ืองเลมหนึ่งสําหรับเขียนกิตติคุณของทาน ก็เห็นไดชัดวาทานตองเขียนภายหลังทานมาระโก ถาเรากําหนดวากิตติคุณมาระโกเขียนข้ึนระหวางป ค.ศ. 65 และ 70 ดังนั้นกิตติคุณลูกาตองเขียนภายหลังหลายป บางทีอาจจะเปนระหวางป ค.ศ. 80-90

จะมีใครอางเหตุผลวาเร่ืองนี้เขียนไวเร็วกวานั้นก็ได หนังสือกิจการไดจบลงตอนทานเปาโลถูกคุมขังอยูในคุกท่ีโรม เร่ืองไมไดบอกวาอะไรบังเกิดกับทานเปาโลภายหลังสองปลวงไปแลว

(กิจการ 28: 30) ทําไมทานลูกาจึงจบเร่ืองของทานตรงนั้นเอง เราอยากจะทราบวาทานเปาโลไดทําอะไรอีกตอไป และทานไดส้ินชีวิตเม่ือไร เปนไปไดไหมวาทานลูกาไดเขียนข้ึนกอนท่ีวาระสุดทายของทานเปาโลมาถึง และดังนั้นจึงไมสามารถจะบอกอะไรใหมากไปกวาท่ีทานไดทําแลว ถาเปนดังนั้นจริง หนังสือกิจการคงเขียนข้ึนประมาณ ค.ศ. 63 และกิตติคุณลูกาคงจะเขียนกอนหนาน้ันสักหนอย

47

Page 48: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

ความยุงยากท่ีสําคัญเกี่ยวกับความเห็นอันนี้ก็คือจะทําใหเรากําหนดเวลาการเขียนกิตติคุณมาระโก ซ่ึงทานลูกาใชเปนแหลงเร่ืองถอยหลังมาเปน ค.ศ. 50-60 ความเห็นอันนี้ถาจะขัดกับตํานานของคนสมัยกอนวากิตติคุณมาระโกไดเขียนข้ึนภายหลังท่ีทานเปโตรไดตายแลวและดังนั้นจึงไมเขียนกอน

ค.ศ. 65-70 จากเหตุผลอันนี้กิตติคุณลูกา – กิจการนาจะเขียนข้ึนใน ค.ศ. 80-90

“มนุษยทั้งปวงจะไดเห็นความรอดของพระเจา”

ทานลูกาก็เหมือนกับผูเขียนกิตติคุณอ่ืน คือเขียนข้ึนอยางผูท่ีมีความเช่ือถือ ความประสงคอันแทจริงไมใชตองการเอาช่ือเสียงโดงดังเปนนักเขียน ทานตองการจะชวยคริสตจักรและตองการจะแพรความเช่ืออยางคริสเตียนใหกวางขวางออกไป ทานไดจาหนาเร่ืองถึงทานเธียวฟโลในคํานําก็จริง ชายคนนี้ชะรอยจะเปนคริสเตียนตางชาติท่ีมีอันจะกินทีเดียวบางท่ีเขาอาจจะเปนขาราชการชาติโรมท่ีสําคัญคนหนึ่ง แตความมุงหมายของทานลูกาไมใชท่ีจะทําใหถูกใจหรือชวยคนเดียว ไมวาเขาจะสําคัญเพียงใด ทานตองการที่จะเตรียมบันทึกที่จะเปนประโยชนในการนมัสการและชีวิตของคริสตจักรและใหอยูในมือของครูของคริสตจักรทานไดเขียนในฐานะเปนคริสเตียนเพื่อปฏิบัติพระราชกิจของพระคริสต

ทานลูกานักเขียนตางชาติคนเดียวระหวางนักเขียนกิตติคุณท้ังหลายทานมองเห็นความสัมพันธท่ีผูกพันความเช่ือของคริสเตียนกับพระธรรมภาคพันธสัญญาเดิมและชนชาติอิสราเอลชัดเจนเพียงใด ทานมองเห็นส่ิงเหลานั้นอยางแจมแจง ทานยกขอความในภาคพันธสัญญาเดิมมาอางเหมือนเปนพระธรรม ทานบรรยายไวอยางตรงไปตรงมาวาพระราชกิจของพระเยซูนั้นกระทําทามกลางชนชาติยิว ถาทานทราบถึงพระราชกิจท่ีทรงกระทําตอคนตางชาติ ทานคงยินดีท่ีจะบอกเปนแน แตทานรูวาในการท่ีพระเยซูทรงวางรากฐานของคริสตจักรนั้น พระองคทรงเจตนาจะทําพระราชกิจของพระองคเฉพาะในชนชาติของพระองค ตามคําบรรยายเร่ืองพระเยซูในวัยทารก ทานแสดงภาพงดงามเรื่องชีวิตของคนชาติยิวในศตวรรษแรกท่ีศรัทธาในศาสนา บทเพลงสรรเสริญแสดงความเชื่อท่ีมีช่ือเขียนไวตามภาษาและแนวพระธรรมของพวกอิสราเอล มีอยูแตเพียงในกิตติคุณลูกาเทานั้น คือเพลงสรรเสริญของนางมาเรีย (ลูกา 1: 46-55) คําพยากรณ (ลูกา 1:68-79) บทถวายรังสีความยิ่งใหญแดพระเจาในท่ีสูงสุด

(ลูกา 2:14) และบทเพลงสรรเสริญลาตาย (ลูกา 2:29-32) (บทเพลงเหลานี้รูจักกันแพรหลายตามภาษาลาตินตามลําดับเร่ืองดังนี้ The Magnificut, The Benedictus, The Gloria in Excelsis, The Nunc Dimittis)

แตคูกับความรูสึกอยางซาบซ้ึงในโครงเร่ืองแบบยิวของกิตติคุณก็มีคําช้ีแจงติดตอกันไปวาเปนกิตติคุณสําหรับมนุษยทุกคน พระเยซูทรงเปน “สวางสองแสงแกคนตางชาติ” เชนเดียวกับเปน “ศักดิ์ศรีของพวกอิสราเอลชนชาติของพระองค” (ลูกา 2:32) ในขอพระธรรมที่ยกมาอางจากพระธรรมอิสยาหเกี่ยวกับเร่ืองยอหนผูให รับบัพติศมานั้น ทานลูกาไดเทาความไปไกลวากิตติคุณเลมอ่ืน ๆ คือเทาความ

48

Page 49: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

ไปจนถึงคําสัญญาในสมัยกอนท่ีวา “มนุษยท้ังปวงจะไดเห็นความรอดของพระเจา” (ลูกา 3:6) ทานไดเขียนการสืบเช้ือสายของพระเยซูไมใชเพียงถึงดาวิดและอับรามฮัมบรรพบุรุษของพวกยูดาหเทานั้น ดังท่ีปรากฏในกิตติคุณมัทธิว แตสืบไปจนถึงอาดามซ่ึงเปนบรรพบุรุษของมนุษยชาติ (ลูกา 3:38) พระเยซูมิไดสงแตเพียงสาวกสิบสองคนท่ีออกไปหาพวกอิสราเอล (ลูกา 9:1-6) แตทรงสงอีกเจ็ดสิบคนออกไปดวยนี่ดูเหมือนแสดงใหเห็นวาเปนกิตติคุณสําหรับมนุษยชาติซ่ึงตํานานในสมัยโบราณไดแบงออกเปนเจ็ดสิบชาติ (ลูกา 10:1) การกลาวถึงชาวสะมาเรียในแงดีจะพบไดในกิตติคุณเลมนี้เดียวเทานั้น นี่ก็แสดงวาความเช่ือนั้นควรจะหมายรวมถึงคนอ่ืน ๆ ดวยมิใชเพียงพวกยิว (ลูกา 10:33 ; 17:15,16) กติติคุณของพระคริสตเปนกิตติคุณสําหรับมนุษยทุกคนดังท่ีทานลูกไดกลาวตอไปในหนังสือกิจการ

พระเยซูทรงเปนคนของโลก ทานลูกาซ่ึงเปนคนตางชาติมีความรูสึกคมคายในความจริงขอนี้ ไมตองสงสัยเลยวามีหลายคนไดคิดวา พระราชกิจของพระเยซูเปนเร่ืองไมสําคัญ เกิดข้ึนทามกลางคนท่ีไมสําคัญในสถานท่ีซ่ึงอยูนอกลูนอกทาง ทานลูกายืนยันวา การเหลานั้นมิไดกระทํากันในท่ีลับล้ี (กิจการ 26:26) วิธีท่ีทานไดกําหนดเหตุการณในการเร่ิมตนเร่ืองของทานนั้น ทานมุงหมายจะบอกวา นี่แหละเปนการบรรยายถึงเร่ืองอันสําคัญของโลก ตอนเร่ิมตนเร่ืองวัยทารก ทานไมไดบอกแตเพียงวา

เฮโรคเปนกษัตริยของยูดาหเทานั้น (ลูกา 1:5) ทานยังกลาวอางถึงคําส่ังของซีซารออกัสตัส อีกดวย

(ลูกา 2:1) การเร่ิมตนเร่ืองการทํางานของยอหนผูใหรับบัพติศมาน้ันทานไดบอกช่ือท้ังผูครอบครองทองถ่ินและผูครอบครองโลก (ลูกา 3:1,2) การท่ีทานทําเชนนี้ก็เพ่ือจะบอกวาเร่ืองกิตติคุณเปนเร่ืองท่ีทําใหเกิดยุคท่ีสําคัญ โลกและผูครอบครองจะทําเปนไมรูเร่ืองพระกําเนิดพระราชกิจของพระเยซูองคนี้ไมได บางคราวเขาท้ังหลายก็พยายามจะทําอยางนั้น แตทานลูกาไดพิสูจนนานแลววาท่ีทานวาไวนั้นถูกตองแลว

ลักษณะพิเศษในกิตติคุณลูกา

เกือบครั้งหนึ่งของเร่ืองท่ีเราไดพบในกิตติคุณลูกาไมมีในกิตติคุณเลมอ่ืน เร่ืองใหม ๆ นี้ก็มีคําบรรยายเร่ืองวัยทารกและเร่ืองราวอีกหลายเร่ือง มีพระดํารัสและคําอุปมาเร่ืองใหม ๆ สวนมากทานลูกาไดเขียนไวในเร่ืองราวพระเยซูเดินทางไปกรุงเยรูซาเล็ม (ลูกา 9: 51 ถึง 19:27) ในคําบรรยายการเดินทางคร้ังนี้ทานลูกาไดรวบรวมเรื่องใหม ๆ ท่ีเห็นวาเหมาะท่ีสุดท่ีจะรวมไวในตอนนี้ เม่ือใดก็ตามถาทําไดทานก็จะใหหลักฐานทางประวัติศาสตรท่ีแนนอนสําหรับคําพูดและเหตุการณแตละอยาง แตในบางกรณีคนท่ีบอกเร่ืองแกทานหรือหลักฐานท่ีทานใชไมทราบวาเหตุการณนั้นเกิดข้ึนท่ีไหนหรือเม่ือใด หรือพระดํารัสนั้นตรัสเม่ือใดหรือท่ีไหน

49

Page 50: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

ความสนใจท่ีสําคัญของลูกาไมใชอยูท่ีการเรียบเรียงลําดับเหตุการณแตอยูท่ีพระดํารัสสอนของพระเยซูและพระเยซูและพระราชกิจของพระอาจารยท่ีทรงกระทําเพื่อมนุษย ลักษณะท่ีสําคัญเปนพิเศษหกประการของงานนั้นในกิตติคุณเลมนี้คือ

1. บทบาทของสตรีปรากฏเดนในกิตติคุณเลมนี้มากกวาในกิตติคุณเลมอ่ืน ๆ การเลาเร่ืองการกําเนิดและวัยทารกก็มาจากแงคิดของสตรีมีนางมาเรีย นางเอลีซาเบ็ธ และนางอันนา เฉพาะลูกาเทานั้นมีบอกถึงเร่ืองคณะสตรีท่ีไดชวยพระเยซูในพระราชกิจของพระองคและชวยสงเสียใหความสะดวกในการเดินทางของพวกสาวก (ลูกา 8:1-3) ทานไดบอกถึงเร่ืองหญิงมายชาวนาอ่ืน (ลูกา 7:11,12) เร่ืองหญิงช่ัวท่ีรูสึกเสียใจในบาปของเธอและพระเยซูทรงรับรองวายกบาปของเธอ (ลูกา 7:36-50) เร่ืองมาเรีย มารธาสองพ่ีนอง (ลูกา 10:38-42) และพวกผูหญิงรองไหสงสารเม่ือพระเยซูทรงถูกพาไปตรึงท่ีกางเขน (ลูกา 23:27) เฉพาะลูกาเทานั้นท่ีเลาคําอุปมาเร่ืองผูหญิงท่ีกวาดหาเงินเหรียญท่ีหายไป เหมือนอยางพระเยซูทรงแสวงหาคนที่หลงหายไป (ลูกา 15:8-10) เฉพาะในกิตติคุณลูกาเทานั้นท่ีเราพบคําอุปมาเร่ืองแมมายท่ีมารบกวนผูพิพากษาอธรรมจนกระท่ังเขาตองตัดสินใจใหความยุติธรรมแกนาง (ลูกา 18:1-8) การท่ีพระเยซูทรงเขาใจจิตใจของสตรีและความเห็นใจในความตองการของเขาประทับใจทานลูกายิ่งนัก

2. เร่ืองท่ีพระเยซูทรงหวงใยคนจนมีเดนในกิตติคุณเลมนี้ ทานลูกาไดรวบรวมเร่ืองทํานองนี้และเลาเร่ืองท่ีกิตติคุณเลมอ่ืน ๆ ก็มีเหมือนกัน แตนอกจากนั้นทานไดกลาวถึงพระดํารัสสอนสําคัญท่ีเราหาไมพบท่ีไหนเลยทานไดใหกฎของความสุขและความวิบัติท่ีจะตอสูแทนและเปนมิตรกับคนจน

(ลูกา 6: 20-26) ในคําอุปมาหลายเร่ืองเชนเร่ืองเศรษฐีหนาโง (ลูกา 12:16-20) และเร่ืองเศรษฐีกับลาศะโรคนขอทาน (ลูกา 16: 19-31) พระเยซูทรงช้ีใหเห็นวาทรัพยสมบัติสามารถครอบงําและเปล่ียนชีวิตของคนเราไดอยางไร พระองคทรงเตือนและประณามคนมั่งมี และทรงประกาศอยางแข็งแรงวาพระเจาทรงเห็นอกเห็นใจคนจน ซ่ึงคนม่ังมีกลับกลายเปนคนใจดําเฉยเมยไมเอาใจใส ทานลูกาไดเนนถึงเร่ืองพระดํารัสสอนเหลานี้ ไมใชเพื่อจะกอใหเกิดการแบงช้ันวรรณะ แตเตือนวาทรัพยสมบัติทําใหเกิดความเสียหายอยางรายแรงแกชีวิตทางวิญญาณจิตของคนเราได และเพ่ือจะยันยืนวาคริสตจักรจะตองรับภาระชวยคนท่ีอัตคัดขัดสนและมีความทุกขลําบาก

3. ในคําสอนของพระเยซูปรากฏชัดวา พระองคทรงเอาใจใสอยางฉันมิตรกับคนท่ีสังคมรังเกียจ พระองคทรงหวงใย “บรรดาคนเก็บภาษีและพวกคนบาป” (ลูกา 15:1) คนเก็บภาษีคือคนท่ีทํางานอยูใตกฎหมายของชาติโรม เขาถูกเกลียดชังก็เพราะเขาเปนตัวแทนอยูใตอิทธิพลของคนนอกศาสนายิว “พวกคนบาป” รวมท้ังคนท่ีไมรักษากฎพิธีการทางศาสนาของลัทธิยิว ท้ังคนท่ีทําผิดทุกชนิด ผูนําทางศาสนาดูถูกคนชนิดนี้ท้ังหมด

50

Page 51: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

ส่ิงท่ีนาพิศวงก็คือวา พระเยซูไมไดทรงลดระดับศีลธรรมของพระองคลงต่ําไปตามพวกสังคมรังเกียจเหลานั้น แตพระองคทรงเปนมิตรของเขาท้ังหลายและเขาท้ังหลายก็รู พระองคทรงใชความหวังแกเขาทั้งหลายในเร่ืองชีวิตใหมและการนับถือตนเอง ในคําอุปมาเร่ืองหนึ่งพระองคไดเลาถึงเร่ืองชาวสะมาเรียคนหนึ่งท่ีคนยิวดูถูก ไดใหความชวยเหลือคนเดินทางท่ีไดรับบาดเจ็บซ่ึงปุโรหิตท่ีนานับถือและพวกเลวีไมยอมชวยเหลืออยางไร (ลูกา 10:25-37) อีกเร่ืองบุตรนอยท่ีสุรุยสุรายใชเงินเปนเบ้ียจนส้ินเนื้อประดาตัวและรูสึกอับอายกําลังกลับบาน เขาไดรับการตอนรับอยางนาช่ืนชมจากบิดาของเขา

(ลูกา 15:11-32) ในคําสอนเหลานั้นพระเยซูทรงแสดงใหเห็นวา พระองคทรงเห็นทางสําเร็จใจคนท่ีเขาใจวาหมดหวังแลว และพระองคทรงประกาศวา พระเจาทรงยินดีตอนรับทุกคนไมวาชีวิตท่ีผานมาแลวของเขาจะช่ัวชาอยางไร ถาเขาหันกลับมาหาพระเจาดวยความเสียใจในบาปของเขาอยางจริงใจและท่ีความปรารถนาอยางสุจริตท่ีจะทําตามน้ําพระทัยของพระบิดาของเขาการท่ีจะเขียนขาวนี้ใหเขาใจงายเปนความมุงหมายประการหนึ่งของทานลูกา

4. มีบันทึกเร่ืองความปล้ืมปติของคริสเตียนอยูตลอดกิตติคุณนี้บทเพลงของพวกทูตสวรรคท่ีสรรเสริญพระเจาในลูกา 2: 14 กอใหเกิดแนวของเร่ือง คนท่ีมีพระเยซูเปนเพื่อนและพบชีวิตใหมในพระองคก็มีชีวิตอยูในความยินดีตอไป มิใชแตมนุษยจะช่ืนชมยินดีเทานั้น ชาวสวรรคและพระเจาเองก็ทรงรวมช่ืนชมยินดีเพราะคนบาปคนเดียวท่ีกลับใจเสียใหมและพบชีวิตใหมดวย (ลูกา 15:7, 10, 24, 32) งานอะไร ๆ ท่ีพระเจาทรงกระทําเพื่อมนุษยโดยพระคริสตก็เปนส่ิงท่ีนาท่ึงและนาซาบซ้ึงตอคนเหลานั้นท่ีเช่ือ ไมนาประหลาดใจท่ีเร่ืองนี้จบลงดวยเร่ืองพวกสาวกอยูในพระวิหารสรรเสริญพระเจา

(ลูกา 24: 53) นี่เปนกิตติคุณของความปลื้มปติ เปนเร่ืองท่ีนําความปติยินดีมาสูผูเขียนและนําความปติยินดีมาสูผูท่ีเชื่อทุกคน

5. กิตติคุณลูกาเนนถึงเร่ืองการอธิษฐาน ทานลูกาบอกถึงเร่ืองการอธิษฐานของพระเยซูมากกวากิตติคุณเลมอ่ืน ๆ พระเยซูทรงอธิษฐานเม่ือรับบัพติศมา (ลูกา 3: 21) ภายหลังเม่ือไดทรงรักษาคนโรคเร้ือนพระองคก็เสด็จเขาไปในท่ีเปล่ียวและอธิษฐาน (ลูกา 5:16) พระองคอธิษฐานตลอดคืนกอนท่ีทรงเลือกอัครทูตสิบสองคนและใหความรูแกเขาท้ังหลาย (ลูกา 6:12) ชีวิตแหงการอธิษฐานของพระองคชักนําใหผูติดตามของพระองคขอรองใหพระองคสอนเขาใหอธิษฐาน (ลูกา 11:1) พระองคทรงอธิษฐานเผ่ือเปโตรและเผ่ือคนเหลานั้นท่ีตรึงพระองคเหมือนอยางท่ีอธิษฐานเพื่อพระองคเอง

(ลูกา 22:32; 23:34,46) การอธิษฐานเปนส่ิงธรรมดาและส่ิงสําคัญแกชีวิตของพระเยซูอยางท่ีสุด และการท่ีทานลูกาเนนความจริงเร่ืองนี้ก็แสดงวา ทานเองเห็นดวยวาการอธิษฐานเปนหัวใจของขาวกิตติคุณและเปนส่ิงจําสําหรับคริสเตียน

51

Page 52: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

6. พระราชกิจของพระวิญญาณบริสุทธ์ิปรากฏเดนชัดในกิตติคุณลูกามากกวากิตติคุณเลมอ่ืน ๆ ท่ีเปนดังนี้ก็เพื่อจะเตรียมสําหรับหนังสือกิจการ ซ่ึงอาศัยการทรงนําและฤทธ์ิเดชของพระวิญญาณบริสุทธ์ิเปนส่ิงสําคัญมาก พระเยซูทรง “ประกอบดวยพระวิญญาณบริสุทธ์ิ” จากการรับบัติศมา “พระวิญญาณไดทรงนําพระองคไปในถ่ินทุรกันดาร ทรงเร่ิมพระราชกิจ “ดวยเดชพระวิญญาณ” “ทรงมีความเปรมปรีดิ์ในพระวิญญาณบริสุทธ์ิ” ขณะท่ีพระองคทรงดําเนินพระราชกิจของพระองค (ลูกา 4:1, 2, 14; 10: 21) ดวยเหตุนี้พระเยซูจึงตองติดสนิทกับพระบิดาเปนพิเศษและไดรับฤทธ์ิเดชสําหรับทําพระราชกิจของพระองค

วาระสุดทายของพระเยซูทรงส่ังผูติดตามพระองควา เขาทั้งหลายจะตองดําเนินงานของพระองคตอไปดวยฤทธ์ิเดชของพระวิญญาณองคเดียวกัน ยอหนผูรับใชบัพติศมาไดสัญญาไววา พระคริสตจะทรงประทานพระวิญญาณบริสุทธ์ิ และพระคริสตผูทรงคืนพระชนมไดช้ีใหเห็นลวงหนาวาคําสัญญานั้นเปนความจริง และพระวิญญาณบริสุทธ์ิไดเสด็จมาในวันเพ็นเทคอสต (ลูกา 3: 6, 24:49) ทาน

ลูกาไดเขียนข้ึนภายหลังท่ีเห็นวาคริสตจักรไดรับสมจริงตามพระสัญญานี้เปนเวลาหลายป ทานเปนพยานวาพระราชกิจของพระเยซูและผูติดตามของพระองคไดกระทําไปภายใตการทรงนําและโดยฤทธ์ิเดชของพระวิญญาณของพระเจา

ขาวกิตติคุณนั้นไมไดกอต้ังข้ึนดวยงานของมนุษย ถาจะพูดใหถูกตองก็วาเปนพระราชกิจของพระเจา หลักฐานอางอิงของทานลูกาท่ีกลาวอางอยูบอยคร้ังถึงเร่ืองพระวิญญาณบริสุทธ์ินําใหเห็นความจริงขอนี้ขออางเหลานั้นชวยใหผูอานกิตติคุณของทานจดจําวา ท้ังผูเขียนและผูอานตองพึ่งพระราชกิจและฤทธ์ิเดชของพระเจา ข้ันแรกก็อานทางพระคริสตและแลวผานทางพระวิญญาณในคริสตจักร

แนะการอาน ในการอานสองบทแรก ใหมีความสนใจเปนพิเศษในเร่ืองบทเพลงคือ บทเพลงสรรเสริญของมาเรีย (ลูกา 1: 46-55) คําพยากรณ (ลูกา 1:68-79) บทถวายรังสีความยิ่งใหญแดพระเจาในท่ีสูงสุด (ลูกา 2:14) บทเพลงสรรเสริญลาตาย (ลูกา 2:29-32) บทเพลงแหงนี้แสดงความปล้ืมปติ ทําใหรําลึกถึงวาพระเจาไดทรงใหพระสัญญาของพระองคท่ีมีตอชาติอิสราเอลสําเร็จในพระคริสต และแสดงใหเห็นการที่กิตติคุณออกไปสูโลก (ลูกา 2:14, 32)

ขอความและคําอุปมาที่ควรจดจํา พระกุมารเยซูในพระวิหาร (ลูกา 2: 41-52) คําเทศนาบนท่ีราบ (ลูกา 6:20-49) ชาวสะมาเรียผูใจดี (ลูกา 10:25-37) แกะหาย เงินเหรียญหาย และบุตรหายไป

(ลูกา บท 15) เศรษฐีกับสาศะโร (ลูกา 16:19-31) หญิงมายท่ีเพียรพยายาม (ลูกา 18:1-8) คนฟาริสีและคนเก็บภาษี (ลูกา 18:9-14) การเดินทางไปเอมมาอู (ลูกา 24:13-35)

ไมมีอะไรดีเทากับการอานกิตติคุณตลอดท้ังเลม ความมุงหมายของหนังสือนี้และคําแนะการอานเหลานี้ก็เพื่อจะชวยใหทานไดผลอยางมากท่ีสุดจากการอานพระคัมภีรภาคพันธสัญญาใหม

52

Page 53: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

บทที่ 6 กิตติคุณ ยอหน 5

ตอนสําคัญสุดยอดของละครเรื่องใหญ ๆ ตัวละครยอย ๆ ก็จะออกไปจากเวทีเหลือแตเพียงตัวสําคัญ ๆ แสดงอยูเทานั้น ท่ีเปนดังนี้ก็เพราะผูเขียนบทละครไมตองการใหความสนใจของผูดูเล่ือนลอยไป เขาตองการใหรวมอยูท่ีละครท่ีเดนในเร่ืองและบทบาทตอนสําคัญท่ีละครเร่ืองนั้นกําหนดไว

ผูเขียนกิตติคุณยอหนก็มุงเฉพาะแตหัวใจสําคัญของเร่ืองของทานในวิธีเดียวกัน ทานเวนส่ิงสําคัญ ๆ หลายส่ิงท่ีกิตติคุณสามเลมอ่ืนมีอยูทานไมเสียเวลาที่จะเขียนเหตุการณหลายอยางท่ีเกิดข้ึนในพระชนมชีพของพระเยซูและคําสอนมากมายของพระองค ทานรวมจุดสนใจต้ังแตเร่ิมเร่ืองเฉพาะแตหัวใจของขาวคริสเตียนไวแทน ทานจงใจเลือกแตเหตุการณและคําสอนท่ีเหมาะสมท่ีสุดจะทําใหขาวนี้แจมแจง

เราสงสัยไมไดวาเปนเชนนั้นจริง ตัวผูเขียนเองก็พูดอยางนั้น ในตอนอวสานของเร่ืองกิตติคุณของทาน ทานแจงจุดประสงคของทานวา “พระเยซูทรงกระทําหมายสําคัญอ่ืน ๆ หลายประการตอหนาสาวกเหลานั้นซ่ึงมิไดบันทึกไวในหนังสือเลมนี้ แตไดบันทึกเหตุการณเหลานี้ไวเพื่อทานท้ังหลายจะไดเช่ือวา พระเยซูเปนพระคริสตพระบุตรของพระเจา และเม่ือมีความเช่ือแลวทานจะไดชีวิตโดยพระนามของพระองค” (ยอหน 20:30, 31) ทานไดเลือกเหตุการณเหลานั้นซ่ึงจะชวยใหความมุงหมายของทานบรรลุผลอยางดีท่ีสุด ท่ีจะบอกวาพระเยซูคือผูใด เหตุฉะนั้นมนุษยควรจะทําประการใด และการตอบสนองของมนุษยจะไดรับผลอะไร

พระเยซูคือผูใด

ความมุงหมายท่ีเปนรากฐานของผูเขียนคือเพื่อจะแจงใหทราบอยางนาเช่ือถือไดวาพระเยซูคือผูใด ขณะท่ีทานเทศนาและสอนในปลายศตวรรษแรก ทานพบคนท่ีมีความคิดเห็นในเร่ืองพระเยซูผิดพลาดไปไมถูกตอง ซ่ึงทําใหความเช่ือของคริสเตียนเปนส่ิงท่ีเปนไปไมได ตัวอยางเชนพวกยิวสวนมากไมยอมเช่ือพระเยซู ไมใชพวกยิวท้ังหมดท่ีไมเช่ือ สาวกพวกแรกเปนพวกยิว ตัวผูเขียนกิตติคุณเลมนี้เองก็เปนพวกยิว แตหัวหนาพวกยิวและพวกยิวสวนมากปฏิเสธพระเยซูไมยอมเชื่อถือและเช่ือฟงพระองค “ชาวบานชาวเมืองของพระองคไมตองรับพระองค” (ยอหน 1:11) พระองคก็ยังเปนพระคริสตและกษัตริยของเขาท้ังหลาย (ยอหน 1:41, 49)

นอกจากนั้นมีบางคนําไมใชมีอยูเพียงในประเทศปาเลสไตนเทานั้นแตมีอยูในท่ีอ่ืน ๆ ดวยเชนท่ีเมืองเอเฟซัส (กิจการ 18: 25; 19: 3) ผูท่ีเช่ือวายอหนผูใหรับบัพติศมาเปนใหญกวาพระเยซู ยอหนได

53

Page 54: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

ปรากฏตัวกอนพระเยซู ทานไดใหพระเยซูรับบัพติศมา ดังนั้นบางคนจึงคิดวาในสองคนนี้ทานยอหนเปนใหญกวา แตตัวทานยอหนเองยังไดมองเห็นวาพระเยซู “ทรงเปนอยูกอนขาพเจา” (ยอหน 1:30)

ยังมีแงคิดอีกอยางหนึ่งท่ีปรากฎข้ึนตอนปลายศตวรรษแรก มีคนท่ียอมรับนับถือพระเยซูอยางยิ่ง แตเปนไปในทางที่ผิด เขามักจะอายในการที่พระเยซูเปนผูท่ีถอมใจและเปนผูทนทุกข และดังนั้นเขาจึงไมยอมรับวาพระองคทรงเปนมนุษยจริง ๆ เขาท้ังหลายพูดวาพระองคเปนพระและดูเหมือนเปนมนุษยเทานั้น พระองคไมไดทรง “บังเกิดเปนเนื้อหนัง” (เทียบยอหน 1:14) พระองคไมทรงรูสึก “เหนื่อย” (ยอหน 4:6) พระองคไมทรงไดรับความทรมานและตายบนกางเขนจริง ๆ เขาท้ังหลายพูดวา พระองคดูเหมือนเปนดังนั้นเทานั้น แตกระน้ันพระองคไดทรงเกิดเปนเนื้อหนังดําเนินชีวิตอยางมนุษยและทรงมรณาดวยความเจ็บปวด นอกจากทาทีท่ีคัดคานและท่ีไมสมควรท่ีมีตอพระเยซูแลวผูเขียนยังเผชิญกับความโงเขลาของคนอีกมากท่ีรูเร่ืองพระเยซูแตเพียงนิดหนอยหรือไมรูอะไรเลย มนุษยควรตองเรียนขอเท็จจริงเร่ืองพระองคแลวก็คิดดวยเหตุผลเขาท้ังหลายควรจะรูวาพระองคคือผูใด ดังนั้นเราจึงจะแสดงทาทีตอพระองคไดถูกตอง

ความเชื่อของผูเขียนเองนั้นแจมแจงตั้งแตเร่ิมตน พระเยซูไดทรงดําเนินชีวิตในสภาพของมนุษย แตพระองคยังเปนยิ่งกวามนุษยอีก พระองคทรงเปนอาจารยและศาสดาพยากรณเหมือนอยางยอหนผูใหรับบบัพติศมาแตคําเรียกอยางนี้ไมไดอธิบายอยางละเอียดวาพระองคทรงเปนผูใดพระองคไมทรงซํ้าแบบใคร พระองคเกี่ยวของกับพระเจาในการดําเนินชีวิตและในสภาพธรรม พระองคทรงสภาพเปนพระเจา

เพื่อจะขจัดความสงสัยเกี่ยวกับสภาพเปนพระเจานี้และความสําคัญอยางสูงสุดของพระเยซู ผูเขียนเร่ิมสะสมคําเรียกพระเยซูไวมากมายในบทแรกทีเดียว ทานไมคอยเหมือนอยางทานมาระโก ทานมาระโกแสดงวามนุษยเขาใจวาพระเยซูเปนผูใดไปทีละข้ัน ๆ ทานใหคําตอบอยางสมบูรณทันทีและไดเนนเร่ืองนั้นไปจนตลอดกิตติคุณ ในบทแรกนี้ พระเยซูทรงไดรับคําเรียกวา “พระวาทะ” ของพระเจา นั่นคือการสําแดงสภาพธรรมและพระประสงคของพระเจาอยางบริบูรณในการดําเนินชีวิตของมนุษยอยางแจมแจง (ยอหน 1:1,14) เพราะพระองคทรงไดรับพระนามพระจาก็ถูกตองดีแลว (ยอหน 1:1) พระองคทรงสภาพเปนพระเจาพระองคทรงเปน “พระเมษโปดกของพระเจา ผูทรงรับความผิดบาปของโลกไปเสีย” โดยการวายชนมอยางเสียสละของพระองค (ยอหน 1:29,36) พระองคทรงเปน

“พระมาซียา” หรือ”พระคริสต”เปน “กษัตริยของชนชาติอิสรเอล” ผูท่ีพวกยูดาหกําลังคอยอยู (ยอหน 1:41,49) พระองคทรงเปนบุตรมนุษย (ยอหน 1:49) เร่ืองราวอันนาทึงเหลานี้ไดเปดเผย

ตั้งแตตอนเร่ิมตนของกิตติคุณเลมนี้ไดกลาวซํ้าติดตอกันไปในบทหลัง ๆ ตอนสุดยอดของเร่ืองราว

54

Page 55: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

ท้ังส้ินก็คือตอนเม่ือโธมา ผูข้ีสงสัยทูลพระคริสตผูคืนพระชนมอยางนอบนอมวา “พระองคพระผูเปนเจาของขาพระองค และพระเจาของขาพระองค” (ยอหน 20:28)

มนุษยเราควรจะทําประการใด

เม่ือมนุษยเราไดเผชิญหนากับพระบุตรของพระเจาผูทรงสภาพเปนพระเจาซ่ึงไดทรงกําเนิดมาและทรงดํารงชีวิตอยูและทรงวายพระชนมและทรงคืนพระชนมเพื่อเขาท้ังหลาย ก็ใหมนุษยท้ังปวงตอบสนองดวยความไววางใจอยางครบบริบูรณเทานั้น กิตติคุณยอหนบอกถึงเร่ืองคนเชื่อหรือไมเชื่ออยางไร บางคนถูกหลอกโดยความดึงดูดท่ีหลอกลวงของความบาป เขาท้ังหลาย “ไดรักความมืดมากกวารักความสวาง เพราะกิจการของเขาท้ังหลายช่ัว” (ยอหน 3:19) สวนคนอ่ืนถูกความเห็นแกตัวดึงเขากลับไปเหมือนอยางพวกฉอโกงราษฎรที่พระเยซูไลออกไปจากโบสถ (ยอหน 2:15) หลายคนปญญาทึบเกินไปในการท่ีจะเห็นวามีพฤติการณใหม ๆ ของพระเจา และคําทาชวนใหม ๆ กับของประทานจากพระเจาท่ีมีมาถึงมนุษยในพระเยซู

แตคนอ่ืน ๆ เชนเปโตรและคนตาบอด (ยอหน 6: 68, 69; 9:35-38) สามารถรับคําสงสอนไดเขาท้ังหลายเห็นวาพระวาทะท่ีพระเยซูไดตรัสนั้นเปนความจริงของพระเจา และในมหกิจท่ีพระองคทรงกระทําเขาท้ังหลายไดเห็นหมายสําคัญวาฤทธ์ิเดชของพระเจามีอยูและกําลังทํากิจการอยู ดังนั้นเขาท้ังหลายจึงปฏิบัติตามท่ีพระเจาทรงมีพระประสงคจะใหเขาท้ังหลายกระทํา เขาท้ังหลายไดเช่ือถือ เขาท้ังหลายไดไววางใจในพระเยซูและดําเนินชีวิตอยางสาวกของพระองค เขาท้ังหลายประจักษวาพระองคไดทรงสนองความตองการของเขา

พระคริสตทรงประทานอะไรแกคนเหลาน้ันที่เชื่อถือ

เขาท้ังหลายตองการอะไร เขาท้ังหลายตองการชีวิตท่ีเท่ียงแทของประทานท่ีพระเจาทรงประทานแกคนเหลานั้นท่ีเช่ือโดยทางพระคริสตคือชีวิตนิรันดร กิตติคุณเลานี้ไมไดกลาวถึงเร่ืองแผนดินของพระเจาบอยคร้ังเหมือนอยางกิตติคุณเลมอ่ืน ๆ แตกิตติคุณเลมนี้พูดถึง “ชีวิต” หรือ “ชีวิต

นิรันดร” คํานี้หมายความวาอะไร คํานี้ไมไดกลาวถึงความเปนอยูทางฝายรางกายเทานั้น คํานี้มีความหมายมากกวาการใหรางกายมีชีวิตอยูได แตหมายถึงชีวิตชนิดท่ีถูกตองคือเปนชีวิตท่ีดําเนินอยางสนิทสนมกับพระเจาและพระคริสต “นี่แหละเปนชีวิตนิรันดร คือท่ีเขาจะรูจักพระองคผูเปนพระเจาเท่ียงแทองคเดียว และรูจักพระเยซูคริสตผูท่ีพระองคทรงใชมา (ยอหน 17:3) ชีวิตนี้จะดํารงตอไปสมควรจะยืนยงและผูเช่ือท่ีจงรักภักดีจะแนใจไดวาชีวิตน้ันจะดํารงเชนนั้น

ชีวิตนิรันดรเร่ิมตนต้ังแตเดี๋ยวนี้ ผูเขียนไดเนนขอความอันนี้ “ผูท่ีวางใจในพระบุตรมีชีวิตนิรันดร” ในบัดนี้ ผูท่ีปฏิเสธไมยอมเช่ือก็ตัดตัวเขาเองออกจากของประทานและการเปนศิษยของพระเจา

55

Page 56: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

(ยอหน 3:36) การท่ีจะวางใจในพระเยซูคริสตเปนการกระทําท่ีสําคัญยิ่งยวดในชีวิตของมนุษย คือเปนการกระทําเด็ดขาดในเร่ืองชีวิตนิรันดร เปนการกระทําท่ีจะนําเขาเขาไปสัมพันธอยางถูกตองกับพระเจาและพระคริสต จนแมความตายและการพิพากษาคร้ังสุดทายจะกลายเปนเหตุการณท่ีสําคัญนอยกวาการท่ีจะถวายชีวิตของตนนี้แดพระเจา จะเกิดประสบการณอยางใหมและสิทธิตาง ๆ อันเพิ่มข้ึนในโอกาสท่ีจะมาถึงแตสิทธิสําคัญยิ่งคือการดําเนินกับพระเจาโดยทางพระคริสตนั้นไดทรงประทานแกทุกคนทันทีท่ีเขาตกลงใจอยางเด็ดขาดท่ีจะมอบความไววางใจในพระคริสตอยางส้ินเชิงและตลอดไป

นี่เปนขาวท่ีเปนหัวใจสําคัญของกิตติคุณยอหน พระเยซูทรงเปนพระคริสตพระบุตรของพระเจา เพราะฉะนั้นพระองคจึงทรงมีสิทธิอันชอบธรรมท่ีจะเรียกรองความไววางใจและความจงรักภักดีของทุกคน ทุกคนท่ีวางใจในพระคริสตพระเจาจะทรงประทานชีวิตท่ีครบบริบูรณหรือชีวิตนิรันดรใหเขาทันทีและเปนของประทานถาวร

ผูเขียนไดทํางานของเขาอยางไร

เพื่อจะตรึงความสนใจใหอยูกับขาวท่ีเปนหัวใจสําคัญนี้ ผูเขียนจึงขามหลายส่ิงท่ีกิตติคุณเลมอ่ืนไดเขียนไวแลว เขาเลาถึงเหตุการณท่ีเกิดขึ้นแตเพียงนิดหนอยและบันทึกเร่ืองการอัศจรรยเพียงนอยเร่ือง เพื่อตองการหนากระดาษไวอธิบายความหมายของเหตุการณท่ีเกิดข้ึนนั้นมากกวาเขาเกือบจะไมไดบรรยายถึงอุปมาท่ีพระเยซูไดตรัสเสียเลย เขารวบรวมคําสอนอันเจาะจงไมกี่ขอซ่ึงพระเยซูทรงสอนพวกสาวกของพระองคเพ่ือเขาท้ังหลายจะไดนําไปปฏิบัติในการดําเนินชีวิตประจําวัน กิตติคุณเลมนี้มีขอความสอดคลองกับกิตติคุณเลมอ่ืน ๆ ประมาณแปดเปอรเซ็นตเทานั้น

เกือบตลอดสิบเจ็ดบทแรกเปนขอความใหม ๆ บทท่ีเหลืออยูนั้นซ่ึงเลาถึงเร่ืองการจับกุม การพิพากษา การวายพระชนม และการคืนพระชนมมีขอความหลายตอนท่ีกลาวไวซ่ึงไมพบในท่ีอ่ืนเลย แตบทกอน ๆ เกือบจะเปนขาวใหมเกือบหมด เร่ิมเร่ืองดวยคํานํา (ยอหน 1: 1-18) ซ่ึงช้ีแจงวาบุคคลผูท่ี “ไดบังเกิดเปนเนื้อหนัง” ในพระเยซูชาวนาซาเร็ธนั้นเปนอ่ืนไปไมไดนอกจากเปนพระวาทะ พระบุตร

นิรันดรของพระเจา เร่ืองพระราชกิจจานุกิจท่ัวไป (ยอหน 1:19 ถึง 12:50) สวนใหญบันทึกงานของพระเยซูในแควนยูดาหและโดยเฉพาะท่ีกรุงเยรูซาเล็ม ดูเหมือนจะเปนจะเปนท่ีประจักษชัดจากกิตติคุณเลมอ่ืนอยูแลววาพระเยซูทรงกระทําพระราชกิจของพระองคสวนมากในและรอบ ๆ แควนกาลิลี แตในกิตติคุณเลมท่ีส่ีนี้กลับหันไปเอาใจใสในการเสด็จไปกรุงเยรูซาเล็มในการเล้ียงของพวกยิวมากท่ีสุดเมืองนั้นเปนเมืองน้ันเปนเมืองศูนยกลางของลัทธิยิว และท่ีนั่นเองพระเยซูไดทรงเสนอแกหัวหนาของประชาชนของพระองคโดยตรง ดังนั้นเหตุการณท่ีไดบังเกิดข้ึนท่ีกรุงเยรูซาเล็มจึงไดรับความสนใจเปนพิศษ

56

Page 57: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

บางทีลักษณะท่ีเดนท่ีสุดของกิตติคุณเลมนี้คือมีบันทึกพระดํารัสยาว ๆ ของพระเยซูมากตอน ในกิตติคุณเลมอ่ืน ๆ พระดํารัสของพระองคมักจะส้ันและรวบรัด พระดํารัสหลายเร่ืองในกิตติคุณเลมนี้ก็เชนเดียวกันแตก็มีเหตุการณหรือการชุมนุมท่ีมีการอภิปรายยืดยาวบอย ๆ ดังตัวอยางในยอหนบทที่ 6 เร่ืองการเล้ียงคนหาพันไดนําไปถึงพระดํารัสเร่ืองพระเยซูเปนทิพยอาหารแหงชีวิต พระดํารัสเหลานี้ท้ังหมดมีขออางอิงของพระเยซูเปนหัวขอสําคัญอยูหัวขอเดียว เสนอใหเลือกวาจะเช่ือหรือไมเช่ือพระเยซูคือใหเลือกวาจะเอาชีวิตนิรันดรหรืออาคารพินาศ บางทีพระดํารัสเหลานี้แสดงใหเห็นวาคนเหลานั้นท่ีมีตาและมองเห็นจะเห็นวาการอัศรรย คือ “เคร่ืองหมาย” แหงสภาพทรงเปนพระเจาของพระคริสตและพระราชกิจของพระองค

พระดํารัสเหลานี้เปนแบบเดียวกัน เหมือนอยางการบรรยายเร่ืองและการใหความคิดเห็นของผูเขียน เขาคิดไปยืดยาวถึงเร่ืองความหมายของพระชนมชีพและพระราชกิจของพระเยซู เขาไดสอนเร่ืองกิตติคุณบอย ๆ และสอนวามีความหมายเกี่ยวกับความเช่ืออยางไร ขณะท่ีเขาเขียนเขาไดเลือกเหตุการณท่ีใหคําสอนและตอเติมดวยการตีความหมายของเร่ือง จึงทําใหเกิดความหมายอยางครบถวนวาพระเยซูตรัสอะไรพระองคคือผูใด

ไมมีพระธรรมตอนใดท่ีจะเปนท่ียึดม่ันในคริสตจักรยิ่งกวายอหนบทท่ี 13 ถึง 17 อันเปนคําอําลาของพระเยซูตอพวกสาวกในคืนสุดทายท่ีพระองคทรงมีชีวิตเปนมนุษยอยูโลก ตอนน้ีแหละท่ีปรากฏเดนชัดวาพระองคทรงมีความสําคัญอยางไรตอพวกสาวกของพระองค พระเจามาหาเขาโดยทางพระองคแลว พระองคไดประทานความจริงและวิธีดําเนินชีวิตดวยความเช่ือแกเขาท้ังหลาย พระองคไดทรงใหเขาท้ังหลายอยูดวยกันดวยความรักพระองคทรงสัญญาจะประทานพระวิญญาณบริสุทธ์ิใหเปนองคผูชวยเขาทั้งหลายในการกระทําทุกอยาง พระวิญญาณจะทรงสอนเขาทรงสอนเขาท้ังหลายใหเขาใจแจมแจงยิ่งข้ึน ในเร่ืองความหมายของพระชมนชีพและพระราชกิจของพระคริสต (เหมือนอยางท่ีไดทรงกระทํากับผูเขียนกิตติคุณเลมนี้) พระเยซูทรงรักพวกเขามาแลวฉันใดพวกเขาก็ตองรูสึกซาบซ้ึง และรักซ่ึงกันและกัน และรับใชพระองคดวยความซ่ือสัตยฉันนั้น ขอปลีกยอยเร่ืองพวกเขาจะดําเนินชีวิตอยางไรตอกันไมไดมีกลาวไว ขอท่ีเดนก็คือความจงรักภักดีตอพระคริสตท่ีเปนหัวใจสําคัญ มิตรภาพอันยิ่งใหญในความรักของคริสเตียนและงานสําคัญคือการนําคนอ่ืนมาเช่ือในพระบุตรของพระเจา มรณาภาพของพระองคจะไมทําลายมิตรภาพนั้นหรือทําลายพระประสงคของพระองคเสีย พระคริสตผูคืนพระชมนจะทรงกลับมาหาพวกเขาและจะทรงประทานพระวิญญาณใหพวกเขาและเขาท้ังหลายจะเปนอยูกับพระองคและพระบิดาเปนนิตย

57

Page 58: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

ขอเพ่ิมเสริมพระกิตติคุณ

การเขียนพระกิตติคุณยอหนเปนเหตุการณทางประวัติศาสตรอันยิ่งใหญอยางหนึ่งแปลกพอดูทีเดียว ท่ีสมัยเร่ิมแรกนั้นกิตติคุณท่ีเปนตนฉบันไดถูกขยายความ โครงเร่ืองของกิตติคุณนาจะจบลงดวยเร่ืองการคืนพระชนมปรากฏในยอหนบทท่ี 20 สุดยอดของกิตติคุณอยูท่ีคํายอมรับของโธมาท่ีวา “องคพระผูเปนเจาของขาพระองคและพระเจาของขาพระองค” (ยอหน 20:28) คําซ่ึงนาจะเปนตอนจบท่ี

วิจิตงดงามอยูตอนปลายของบทนี้ (ยอหน 20: 30, 31) ฉะนั้นบทท่ี 21 จึงเปนภาพผนวกอยางหนึ่งเพิ่มเสริมกิตติคุณตนฉบับ สําเนาตนฉบับทุกฉบับบทนี้ จึงแนชัดวาไดเขียนเพิ่มข้ึนไวตั้งแตเร่ิมแรก และกิตติคุณนี้จึงสงตอกันไปโดยไมขาดสวนท่ีเพิ่มข้ึนนี้ตั้งแตแรก

บทนี้ไดเพิ่มเสริมข้ึนโดยมิตรสหายของผูท่ีเปนพยานซ่ึงคําพยานของเขาไดเขียนไวในกิตติคุณนี้ ดังปรากฏชัดในยอหน 21: 24 วา “เรารูวาคําพยานของเขาเปนความจริง” ในขอนี้คําวา “เรา” หมายถึงเพื่อนของผูเขียน ดูเหมือนเขาท้ังหลายไดเพิ่มเสริมบทนี้ข้ึนภายหลังท่ีผูเขียนไดตายไปไมนานนัก

คริสเตียนบางคนคิดวาพระเยซูไดสัญญาวาสาวกคนนี้จะไมตาย (ยอหน 21:23) และจุดประสงคขอหนึ่งในการเพิ่มเสริมบทนี้ข้ึนก็เพื่อจะแกความเขาใจผิดในพระดํารัสของพระเยซู

ขอเพิ่มเสริมท่ีตางกับขอเพิ่มเสริมขางบนน้ีมากทีเดียวอยูท่ีบท 7 ขอ 53 ถึงบทท่ี 8 ขอ 11 เร่ืองผูหญิงท่ีถูกจับขณะทําผิดประเวณีนี้ไมมีอยูในสําเนาตนฉบับเดิมของกิตติคุณยอหน แตคริสตจักรเหน็วามีประโยชน ไมอยากจะใหสูญหายไปเสียจึงไดเขียนไวในสําเนาตนฉบับของกิตติคุณยอหนฉบับหลัง ๆ สําเนาตนฉบับบางฉบับเพิ่มไวในกิตติคุณลูกา

กิตติคุณยอหนฉบับเดิมไดเขียนในเวลาจวนส้ินศตวรรษแรกและชะรอยจะเปนกิตติคุณเลมสุดทายในกิตติคุณทั้งส่ีเลมท่ีเขียนข้ึน ผูเขียนก็คงจะรูจักกิตติคุณเลมอ่ืน ๆ แตเขาก็มีแหลงท่ีมาแหงความรูของเขาเองเหมือนกัน เขาเปนคริสเตียนท่ีหลักแหลมมีความคิดตามลําพังและรูสึกวาไมตองการที่จะลอกเร่ืองราวจากเอกสารเลมหนึ่งเลมใด ไมวาเอกสารนั้นจะมีประโยชนมากเพียงใด กิตติคุณของเขาเขียนข้ึนจากความรูของเขาเองในเร่ืองพระชนมชีพของพระองคเปนสวนใหญ คําเขียนของเขาตีความวาพระชนมชีพนั้นมีความหมายอยางไรตอความเช่ือของเรา คือพระเยซูทรงเปนพระคริสตพระบุตรของพระเจาผูทรงประทานชีวิตนิรันดรใหแกทุกคนท่ีเช่ือ

ใครเปนผูเขียนกิตติคุณยอหน

เปนท่ียอมรับกันท่ัวไปวาผูเขียนเปนยิวคริสเตียน และก็เปนดังนั้นจริง ๆ แตเขาไมไดเปนคนใจแคบเขาขางยิวชาติเดียวโดยเฉพาะ เขารูวาในพระกรุณาของพระเจา “ความรอดน้ันมาจากพวกยิว”

58

Page 59: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

(ยอหน 4:22) แตเขายังเปนพยานดวยวา “แตวันเวลานั้นก็มาแลวและถึงเดี๋ยวนี้ คือเม่ือผูท่ีนมัสการอยางถูกตองจะนมัสการพระบิดาโดยจิตวิญญาณและความจริง” เขาท้ังหลายไมตองมาท่ี “ภูเขานี้”

ในสะมาเรีย หรือนมัสการ “ในกรุงเยรูซาเล็ม” (ยอหน 4:21,23) “พระเจาทรงรักโลกจนไดทรงประทานพระบุตรองคเดียวของพระองค เพื่อทุกคนท่ีวางใจในพระบุตรนั้นจะมิไดพินาศแตมีชีวิตนิรันดร” (ยอหน 3:16) “ทุกคน” หมายถึงคนยิวและคนตางชาติท่ีอยูในประเทศปาเลสไตนหรือในดินแดนอ่ืน ๆ มาดวาผูเขียนมีความภูมิใจท่ีเปนชาติยิว เหมือนอยางพระเยซูก็ตาม “แตเขาก็ไดมองเห็นวามนุษยทุกคนมีความตองการอยางเดียวกัน และเห็นวาพระคริสตสามารถสนองความตองการของทุกคนได และดังนั้นเขาจึงสามารถขามพนอุปสรรคตาง ๆ ในเร่ืองดินแดนและเช้ือชาติหรือวรรณะและประกาศกิตติคุณสากลทั่วโลก

คริสเตียนชาติยิวผูนี้ตามตํานานโบราณวา เปนทานยอหนบุตรของเซเบดายเปนคนหนึ่งในพวกอัครทูตสิบสองคนนั้น ตามเร่ืองกลาววา ทานอาศัยอยูในเมืองเอเฟซัสในระหวาง ค.ศ. 65-100 และ ณ ท่ีนั่นเองในวัยชราทานไดเขียนหนังสือไมใชเพียงกิตติคุณเลมนี้เทานั้น แตไดเขียนจดหมายฝากยอหนสามฉบับและวิวรณดวย

หนังสือกิตติคุณเองไมไดบอกช่ือผูเขียน ภาคท่ีเพิ่มเสริมของหนังสือยอหนบท 21: 24 บงวาทานเปน “สาวกท่ีทรงรัก” ผูท่ีไดถูกอางถึงคร้ังแรกในยอหน 13:23 ขณะท่ีอยูกับพระเยซูในการเล้ียงคร้ังสุดทายทานปรากฏในอีกยอหน 19: 26; 20: 2; 21: 7, 20 แตก็ปรากฏชัดวาทานไดเปนผูติดตามพระเยซูมานานแลวกอนคืนสุดทาย

“สาวกท่ีทรงรัก” นี้คือใคร อาจเปนยอหนบุตรของเซเบดายตามที่ตํานานกลาวไวก็ได แตถาชาวประมงแควนกาลิลีเขียนกิตติคุณอยางท่ีกลาวทําไมกิตติคุณนี้จึงมีศูนยกลางอยูท่ีกรุงเยรูซาเล็ม และทําไมไมอยูในกาลิลีเมืองท่ีทานยอหนอาศัยอยูและไดทํางานอยางมากมายกับพระเยซูแทบจะไมกลาวถึงพระราชกิจจานุกิจในแควนกาลิลีและเมืองท่ีเปนศูนยกลางคือคาฟารนาอูม อาจจะเปนไดไหมวาสาวกชาวยูดาหจากกรุงเยรูซาเล็มหรือเมืองเบธาเนียไดเขียนหนังสือเลมนี้

เรารูวาตํานานนั้นมีผูคัดคานไมเห็นดวย ถอยแถลงท่ีแจมแจงประการแรกท่ีบงวาทานยอหนไดเขียนกิตติคุณนี้ไดมาตอนปลายศตวรรษท่ีสอง แตในเวลาเดียวกันคริสเตียนคนอื่นไมยอมรับวาทานยอหนไดเขียนไวยิ่งกวานั้นตามท่ีตํานานบอกวาทานยอหนไดเขียนพระธรรมหาเลม แตพระธรรมวิวรณมีภาษา สํานวนโวหาร และแนวคิดตางกับกิตติคุณยอหนมากไมนาเปนไปไดอยางท่ีสุดวาหนังสือท้ังสองเลมนี้มาจากผูเขียนคนเดียวกันดังนั้นจึงยากท่ีจะเช่ือวาตํานานน้ันถูกตองเสมอไป จดหมายฝากของทานยอหนท้ังสามฉบับเขียนโดยผูเขียนคนเดียวกับท่ีเขียนกิตติคุณยอหน แตไมมีสักเลม ท่ีบอกช่ือ

59

Page 60: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

ผู เขียน (หัวเร่ืองนั้นมาเพิ่มข้ึนภายหลัง) ในจดหมายฝากส้ัน ๆ สองฉบับผู เขียนเรียกตัวเองวา “ผูปกครอง” เปนช่ือท่ีช้ีวาเขาเปนผูนําคริสเตียนท่ีสําคัญคนหนึ่งท่ีมีอายุแลว

มีรองรอยท่ีนาเช่ือถือไดตรงนี้หรือ ในศตวรรษท่ีส่ี ยูซีเบียสไดอางคําของปาบีอัส ซ่ึงอยูในศตวรรษท่ีสองวามีท้ังอัครทูตยอหนและผูปกครองยอหน เราจะลงความเห็นจากหนังสือยอหนฉบับสองและฉบับสามไดหรือไมวาผูปกครองยอหน เปนผูเขียนกิตติคุณยอหนไมใชอัครทูตยอหนเปนผูเขียน

เราตอบปญหานี้อยางแนใจไมได อัครทูตยอหนอาจจะเปนผูเขียนไดหรือศิษยคนหนึ่งของทานอาจจะเขียนเรื่องกิตติคุณของทานไวก็ได ผูปกครองยอหนอาจจะเขียนกิตติคุณนั้นก็ได แลวตํานานตอมาเอาอัครทูตยอหนไปปะปนเขากับยอหนผูปกครอง เขาจะเปนทานยอหนหรือเปนศิษยของทานยอหนหรือยอหนผูปกครอง หรือคนหนึ่งคนใดอีกก็ตาม ผูเขียนก็นาจะอาศัยอยูในหรืออยูใกลกรุงเยรูซาเล็มกอนท่ีจะพบพระเยซู และภายหลังไดยายไปเมืองเอเฟซัสกอนเขียนกิตติคุณนี้

พยานท่ีแทจริงของพระคริสต

ถึงแมวาเรารูแนนอนไมไดวาใครเปนผูเขียนกิตติคุณนั้น เราก็ยังรูวาเปนคนชนิดไหนและเขาไดทําอะไร เขาเปนประจักษพยานในพระราชกิจของพระเยซูอยางมาก หรืออยางนอยเขาไดเขียนคําของประจักษพยานคนหนึ่งคนใดลงไว ผูเขียนหนังสือนี้เปนผูท่ีมีความรอบรูและความเขาใจอยางลึกซ้ึงซ่ึงมีมิตรภาพท่ีแนนแฟนเปนมูลฐาน ผูเขียนรูจักขนบประเพณีและความเช่ือของพวกยิว รูจักประชาชนและสถานที่ตาง ๆ ของประเทศปาเลสไตนดี ถึงแมเขาจะไปเขียนในตางประเทศและเขียนเปนภาษากรีกก็ตาม บรรยากาศของบานเกิดเมืองนอนของพระเยซูก็ยังมีอยูในแนวเขียนของเขา

เขาไมไดแตเพียงประจักษพยานเทานั้น เขายังเปนผูตีความหมายดวย เขารูความจริงถึงเร่ืองพระราชกิจของพระเยซู แตเขาเปนยิ่งกวาผูส่ือขาว คือเขาหวงใยในการที่จะใหเร่ืองจริงนั้นกระจางแจง พระเจาทรงประทานพระบุตรของพระองคเพื่อจะประทานชีวิตแกมนุษย เพราะพระเยซูทรงเปนพระคริสต พระบุตรของพระเจามนุษยจึงสามารถจะมีชีวิตโดยมีความเช่ือในพระองคอยางเขมแข็งและจริงใจได เร่ืองกิตติคุณจึงเปนเร่ืองท่ีเสนอความรอด เปนพื้นฐานม่ันคงแหงความหวัง ผูเขียนคนนี้ไดบรรยายเร่ืองไวอยางแจมแจงใหผูอานเห็นพระคริสตเดนชัดวา พระองคไดทรงกระทําอะไรและทรงเปนผูใด

ในการใหคําพยานนี้ผูเขียนบอกกลาวถึงความเช่ือตามพันธสัญญาใหมอยางท่ัว ๆ ไปดวยฝมือท่ีปราดเปร่ือง ไมมีคนหนึ่งคนใดพูดไดวาเขาแนะนําความคิดเห็นโดยเฉพาะของเขาเอง ไมมีใครอางไดวาเขาเปล่ียนแปลงกิตติคุณ เขาทําดังนั้นก็เพื่อชักชวนคนตางชาติท่ีเขากําลังทํางานดวยแตเปนขาวอันเดียวกับท่ีกิตติคุณเลมอ่ืน ๆ ไดกลาวไว และพระธรรมภาคพันธสัญญาใหมสวนอ่ืนก็สนับสนุนอยางหนักแนน

60

Page 61: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

ดวยเหตุนี้กิตติคุณยอหนจึงพูดไวแทนคริสตจักรในสมัยนั้นและทุก ๆ ยุค จึงไมประหลาดใจท่ี คริสเตียนไดจัดใหหนังสือเลมนี้อยูในข้ันสูงสุด เฉพาะพระธรรมนี้เลมเดียวจะเปนภาคพันธ

สัญญาใหมของเราไมไดคําสอน ตัวอยาง คําตักเตือน คําสนับสนุน คําสัญญา และความหวังไดมาถึงเราจากพระธรรมเลมอ่ืน ๆ ในทางที่เราขาดเสียไมได แตหัวใจของกิตติคุณอยูตรงนี้ “เพราะวาพระเจาทรงรักโลกจนไดทรงประทานพระบุตรองคเดียวของพระองค เพื่อทุกคนท่ีวางใจในพระบุตรนั้นจะมิไดพินาศแตมีชีวิตนิรันดร” (ยอหน 3:16) และสุดยอดของกิตติคุณนี้อยูท่ีคําตอบสนองท่ีแทจริวเกี่ยวกับความเช่ือในองคพระเยซูท่ีวา “องคพระผูเปนเจาของขาพระองคและพระเจาของขาพระองค” (ยอหน 20:28)

แนะการอาน ทําบัญชีช่ือตําแหนงของพระเยซูตามท่ีมีปรากฏในยอหนบทที่ 1 ท่ีเหลือนอกนั้นในพระธรรมนี้มีช่ืออยางอ่ืนอะไรอีกกี่ช่ือท่ีกลาวถึงพระองค

เร่ืองท่ีควรจํา พระเยซูและนิโคเดโม (ยอหน 3: 1-21) พระเยซูกับผูหญิงชาวสะมาเรีย (ยอหน 4:1-42) การทรงรักษาคนตาบอดแตกําเนิด (ยอหนบท 9) การที่ทรงเรียกลาศะโรใหคืน

ชีวิต (ยอหน 11:1-53) พระเยซูคืออาหารแหงชีวิตเปนความสวางของโลก เปนประตู เปนผูเล้ียงท่ีดี เปนเหตุใหคนเปนข้ึนและมีชีวิต เปนทางน้ัน เปนสัจจะและชีวิต เปนเถาองุนแท

(ยอหน 6: 35; 8:12,10:7,11; 11;25; 14:6;15:1) ขอท่ีควรรู ยอหน 1: 14; 3:16,36; 4:23,24; 7:17 ; 8:31,32 (ไมใชขอ 32 ขอเดียว) 13:34,35

20:30,31 อานและทบทวนเร่ืองสุดทายพระเยซูตรัสกับพวกสาวกของพระองคและคําอธิษฐานของ

พระองคสําหรับสาวก (ยอหน 13 ถึง 17) สังเกตคําสัญญาท่ีจะสงพระวิญญาณบริสุทธ์ิ (ยอหน 14: 16, 17, 26; 15:26; 16:7, 13)

61

Page 62: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

บทที่ 7 หนังสือกิจการ 6

คริสตจักรสมัยอัครทูตไดใหกิตติคุณส่ีเลมแกเรา แตมีหนังสือกิจการเพียงเลมเดียว เปนเร่ืองเดียวท่ีติดตอกันในยุคอัครทูต แนทีเดียวในศตวรรษหลัง ๆ ตอมาคนท่ีมีความคิดคํานึงมากวา มีความรอบรูขอเท็จจริงไดเขียนหนังสือท่ีเขาท้ังหลายเรียกวา “หนังสือกิจการ” ไว นั่นคือผูเขียนตางก็อยากเลาเร่ืองของอัครทูตบางคนท่ีตนชอบตัวอยางเชนมีหนังสือเลมหนึ่งผูเขียนอางวาเปนเร่ือง “กิจการของทานเปาโล” แตไมมีหนังสือเลมหนึ่งเลมใดในหนังสือรุนหลังเหลานี้ท่ีเช่ือถือไดหนังสือเหลานี้บรรจุแตเร่ืองนิยายมากกวาความจริง ตอมาพวกผูนําคริสเตียนไดเร่ิมเขียนประวัติศาสตรของคริสตจักรสมัยโบราณเร่ิมตนในยุคของอัครทูต งานของเขาทั้งหลายมีคา แตสําหรับความรูเร่ืองยุคของอัครทูตเขาตองอาศัยหนังสือกิจการของเรา

หนังสือเลมนี้เลมเดียวเปนเร่ืองท่ีเช่ือถือไดซ่ึงการศึกษาของคริสเตียนรุนตอมาของเราท้ังหมดตองกอข้ึนบนนี้ ถาไมไดหนังสือเลมนี้แลวเราจะไมสามารถบอกเร่ืองราวของปแรกแหงคริสตจักรไดอยาางชัดเจนหนังสือเลมนี้บอกเราถึงเหตุการณสําคัญท่ีเกิดข้ึน ใหเนื้อเร่ืองคําเทศนาของนักเทศนคริสเตียนคนแรกแกเรา หนังสือนี้เปนคูมือชวยใหเขาในจดหมายฝากของทานเปาโลชวยใหเราเห็นวาคริสตจักรสมัยเร่ิมแรกเร่ิมตนและเจริญข้ึนมาอยางไร

กิจการของพระวิญญาณบริสุทธิ ์

แตนี่ไมใชเร่ืองท่ีแสดงถึงส่ิงใหญโตท่ีคนฉลาดหลักแหลมทําได มิไดเขียนไวเพื่อสรรเสริญความสามารถและความเฉลียวฉลาดของมนุษย อันที่จริงช่ือของหนังสือท่ีใชวา “กิจการของอัครทูต” ทําใหเขาผิดไดสองประการ ประการแรกทีเดียวก็แนะวา นี่เปนเร่ืองการกระทําของอัครทูตท้ังสิบสองคน หนังสือนี้ไดกลาวถึงอัครทูตสิบเอ็ดคน (ไมนับยูดาหคนทรยศ) หนังสือนี้ไดบอกดวยวาอัครทูตคนท่ีสิบสองท่ีช่ือ มัทธิว นั้นไดถูกเลือกเขารับตําแหนงแทนยูดาหอยางไร (กิจการ 1:26) ช่ือของอัครทูตสวนมากในสิบสองนั้นไดถูกกลาวถึงเพียงคร้ังเดียว (กิจการ 1:13) และมีนอยคร้ังท่ีจะกลาวถึงท้ังคณะสิบสองคน ทานเปโตรเปนอัครทูตคนเดียวที่มีบทบาทสําคัญในเร่ืองท่ีบรรยายไวสวนผูนําท่ีเดนอ่ืน ๆ ในกิจการหาใชเปนสมาชิกในคณะอัครทูตสิบสองคนนั้นไม

แต “กิจการของอัครทูต” เปนหัวเร่ืองท่ีทําใหเขาใจผิดอยางสําคัญ เพราะดูเหมือนวาจะใหเกียรติแตมนุษยท่ีเปนหัวหนาคริสตจักรเสียจนหมดส้ิน เร่ืองในหนังสือกิจการนั้นมุงความสนใจตรงไปยังทางท่ีพระวิญญาณของพระเจาทรงนําพวกสาวกในกิจการทุกอยางท่ีเขากระทํา พระคริสตผูคืนพระชนม กอนท่ีพระองคจะจากผูติดตามของพระองคไปสูสวรรคนั้น ทรงสัญญาจะสงพระวิญญาณบริสุทธ์ิ

62

Page 63: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

มานําและสนับสนุนเขาท้ังหลาย ในวันเพนเทคศเตพระองคไดทรงสงพระวิญญาณมายังคริสตจักรท่ีกําลังรอคอยและเฝานมัสการอยู และตั้งแตบัดนั้นไปพระวิญญาณไดทรงนําเขาท้ังหลาย เร่ืองไดอางถึงการทรงนําของพระองคทุก ๆ ยางกาวท่ีสําคัญแทจริงหนังสือนี้ควรจะเรียกวา “กิจการของพระวิญญาณบริสุทธ์ิ” ผูซ่ึงปฏิบัติการของพระเจา โดยผานทางมนุษยซ่ึงเปนตัวแทนใหบรรลุผลสําเร็จ

ความหมายของวันเพนเทคศเต

เพระพระวิญญาณทรงเปนองคผูแสดงนําของหนังสือเลมนี้ เร่ืองวันพนเทศเตก็เหมาะสมตั้งแตเร่ิมตน รายละเอียดเรื่องนี้ซ่ึงอยูในกิจการบทท่ีสอง ไดบอกถึงเร่ืองท่ีทําใหตื่นเตนอยางใหญหลวงเม่ือพวกสาวกเต็มไปดวยพระวิญญาณ จากผลที่ไดเกิดข้ึน คริสเตียนหลายคนคิดวาอะไร ๆ ท่ีเกิดข้ึนนั้นเปนแตเพียงประสบการณแหงความรูสึกของอารมณท่ีตื่นเตนเทานั้น ซ่ึงไดใหความปติยินดีแกพวกสาวกเปนอยางยิ่ง แทจริงก็เปนดังนั้น แตมิใชเทานั้น และบนทึกเร่ืองความยินดีก็มีกลาวถึงบอย ๆ ในหนังสือกิจการ (กิจการ 16: 34) แมวาจะมีการขมแหงก็ไมไดทําใหความยินดีและกําลังใจของผูติดตามพระคริสตหยอนลง (กิจการ 5:41) แตเนื้อหาที่แทจริงของเร่ืองก็คือวาพระเจาไดทรงประทานพระวิญญาณของพระองคมายังคริสตจักร และต้ังแตนั้นมาคริสตจักรก็ไดประกาศและทําการดวยความกลาหาญและดวยฤทธ์ิเดช

พวกสาวกไดรอคอยอยูแลว เขายังไมไดเร่ิมจับงานอันแข็งขันของพระคริสตแลวพระวิญญาณไดเสด็จมา เขาทั้งหลายเปนคนแขงแรงกระปร้ีประเปราไมมีใครสามารถปดปากผูนําของเขาใหเงียบหรือขูเขาไดผลพระวิญญาณไดทรงประทานฤทธ์ิเดชใหเขาพูด เขากระทํา เขาบําบัดโรคและใหเขาอดกล้ัน เขาไมไดเผชิญกับโลกหรือทํางานของเขาดวยกําลังลําแขงของเขาเอง พระวิญญาณของพระเจาสถิตอยูกับเขาเพ่ือเขาจะประทานความยินดีและฤทธ์ิเดชและการทรงนํา วันเพนเทศเตไดเปล่ียนกลุมสาวกท่ีรอคอยใหเปนคริสตจักรของพระคริสตท่ีมีชีวิตชีวาข้ึนมา

การนมัสการของคริสเตียน

แลวชีวิตของคริสเตียนในสมัยกอนโนนเปนอยางไร เร่ืองจากกิตติคุณลูกาแสดงถึงสาระสําคัญสามประการของคริสตจักรท่ีมีชีวิตและทํางานคือ

สาระสําคัญขอแรกคือการนมัสการดวยความรูสึกขอบพระคุณตอเนื่องกันเร่ือยไป งานของเหลาสาวกเจริญข้ึนไดนั้นก็ดวยการนมัสการดวยความตั้งใจและดวยความเชื่ออยางแทจริง เรารําลึกไดวาตอนเร่ิมตนท่ีเขาท้ังหลายไดรับพระวิญณาณนั้นก็เปนขณะท่ีเขารอคอยและนมัสการอยูขณะท่ีทาน

เปโตรและทานยอหนไดไปท่ีโบสถเพื่อจะรวมในการนมัสการพระเจาตามแบบของพวกยิว เขาก็ไดพบโอกาสที่จะทําการรักษาโรคเปนคร้ังแรก (กิจการ 3:1) เม่ือทานผูนําท้ังสองน้ีถูกขูเข็ญจากพวกผู

63

Page 64: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

ครอบครองชาติยิว ไดกลับมาหาพวกสาวกแลว คริสตจักรตอบสนองการขูเข็ญและอันตรายดวยการอธิษฐานและมอบชีวิตของเขาท้ังหลายไวกับพระเจา (กิจการ 4:23-31) เม่ือทานเปโตรหลุดพนมาจากคุกไดก็เปนขณะที่คริสตจักรกําลังอธิษฐานอยูท่ีบานของมาเรียมารดาของมาระโก (กิจการ 12:12) เมื่อผูนําของคริสตจักรเมืองอันทิโอเปยกําลังอธิษฐานอยูก็ไดรับการทรงเรียกใหสงบารนาบาและเซาโลไปทําการประกาศเผยแพร (กิจการ 13:2) ตลอดประวัติศาสตรของคริสตจักรสมัยอัครทูตการนมัสการพระเจาดวยความรูสึกขอบพระคุณเปนรากฐาน ทุกส่ิงท่ีพวกสาวกสามารถกระทําไดนั้นงอกงามมาจากการนมัสการดวยความยินดีและดวยเคารพคารวะตอพระเจา พระบิดาของพระเยซูคริสตพระผูเปนเจา

เราควรสังเกตวานี่เปนการนมัสการรวมกันอันเปนกิจวัตร มีบางคราวท่ีตางก็อธิษฐานตามลําพัง เชนทานเปโตร เพราะทานอธิษฐานบนดาดฟาหลังคาตึกท่ีเมืองยัฟฟา (กิจการ 10: 9) จึงไดรับการทรงนําใหไปเมืองซีซาเรยาและเทศนาใหคนตางชาติในครัวเรือนของโคระเนลิโอฟง แตการปฏิบัติตามปกติก็คือการอธิษฐานและการสรรเสริญพระเจารวมกันการอธิษฐานสวนตัวไมเคยนํามาใชแทนการประชุมประจํารวมกับคริสเตียนอ่ืน ๆ เพื่อนมัสการพระเจารวมกัน

มิตรภาพของคริสเตียน

มิตรภาพอยางสนิทสนมระหวางพวกสาวกเปนส่ิงสําคัญเชนเดียวกับการนมัสการ การแสดงออกของมิตรภาพประการแรกในการนมัสการรวมกันบอย ๆ นั้น เปนเร่ืองท่ีนาสังเกตมาก เพราะวาอันตรายแหงการขมเหงอาจจะใหพวกคริสเตียนลังเลในการท่ีจะแสดงความจงรักภักดีในการเปนคริสเตียนของเขาใหคนอ่ืนเห็น แตเขาท้ังหลายไมทอถอยหรือหลบซอนเขาท้ังหลายไดมาพบปะกันเพื่อนนมัสการอยางสมํ่าเสมอ การประชุมเหลานี้เม่ือมีโอกาสจะทําได เขาก็รวมรับประทานอาหารดวยกันซ่ึงพระคัมภีรเขียนวา “การหักขนมปง” (กิจการ 2:42) เปนการใหระลึกการวายพระชนมของพระคริสตและระลึกถึงการเสด็จมา และมรณภาพของพระองความีความหมายอยางไรถึงความรอดของเขา

มิตรภาพเชนนี้ไดใหความเปนเพื่อนแกผูท่ีเช้ือตามท่ีเขาตองการคนภายนอกหลายคนมักจะสงสัยและยังคัดคานเสียอีก และการท่ีมีเพื่อนซ่ึงม่ันคงใกลชิดกับเขาเปนเคร่ืองปลอบใจและเปนเหลงแหลงแหงกําลังแกพวกสาวกแนนอนทีเดียว พวกคริสเตียนเหลานี้มีเร่ืองออนแอของตน นี่เปนเร่ืองนาประหลาดหรือ จําไววาเราเปนคนชนิดไหน จงระลึกวาไมใชคนดีวิเศษแตคนบางซ่ึงกิตติคุณนั้นไดเชิญชวนใหละท้ิงทางผิดเสียและเขามาในคริสตจักรเพื่อจะสรางชีวิตข้ึนใหมในความจงรักภักดีตอพระคริสต คริสเตียนรุนแรกก็ไมใชคนดีรอบคอบอะไร แตพวกสาวกรูวาจะพบความชวยเหลือไดท่ีไหนจะพบไดท่ีพระเจาและในหมูประชาชนพระคริสต คนภายนอกคริสตจักรเหลานั้นไมไดเปนแหลงแหง

64

Page 65: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

กําลังสําหรับความเช่ือหรือชีวิต เขาเปนคนเฉยเมยหรือเปนปรปกษกับพระคริสตเจา มิตรภาพท่ีเปนประโยชนและดีจริง ๆ นั้นคือมิตรภาพระหวางผูท่ีติดตามพระอาจารย

นี่คือมิตรภาพในการเรียนรู พวกสาวกตองการเรียนรูถึงพระชนมชีพและพระราชกิจของพระคริสตใหมากข้ึน เรียนใหมากข้ึนถึงเร่ืองความจริงเหลานั้นที่สอนเร่ืองความเช่ือและการดําเนินชีวิต ดังท่ีเขาท้ังหลาย “ไดขะมักเขมนฟงคําสอนของจําพวกอัครทูตและรวมสามัคคีธรรม” (กิจการ 2:42) เม่ือเวลาผานไปก็มีพวกอาจารยทําการ เชนตัวอยางท่ีเมืองอันทิโอเปย มี “ผูพยากรณและอาจารย”

(กิจการ 13:1) บารนาบาและเซาโลสองคนน้ีก็อยูในพวกน้ี การเปนคริสเตียนคือจะตองเจริญข้ึนในความรูเร่ืองพระคริสตและความสวางซ่ึงกิตติคุณสองออกไปในชีวิตประจําวันขอนี้ทําใหมิตรภาพในการเรียนรูเปนส่ิงจําเปน

มิตรภาพนี้ไดนําไปถึงการเแบงปนอาหารกับพวกสาวกท่ีขัดสนการชวยเหลือคนอดอยากน้ีบางทีก็ถูกเรียกวา “ลัทธิคอมมิวนิสคริสเตียน” แตคํานี้ทําใหเกิดความเขาใจผิดอยางมาก ปจจุบันนี้คําวา

“ลัทธิคอมมิวส” หมายวาปฏิเสธวาพระเจาไมไดทรงพระชมนอยู สอนใหเห็นวารัฐมีอํานาจบังคับทุกส่ิงทุกอยางในชีวิตอยางเด็ดขาด และโดยเฉพาะอยางยิ่งก็คือรัฐผูกขาดในการผลิตและแจกจายสินคาท้ังส้ิน สภาพการณของคริสตจักรในสมัยกอนตางกับลัทธิคอมมิวนิสโดยส้ินเชิง อะไรไดบัเกิดข้ึน

นครเยรูซาเล็มไมเคยเล้ียงตัวเองไดเลย พวกคริสเตียนรุงแรก ๆ สวนมากเปนชาวกาลิลี เปนคนท่ีไมมีธุรกิจกิจการงานผูกพันในกรุงเยรูซาเล็มอันใหเขาสามารถมีอาชีพอยูได ความเคียดแคนชิงชังและการขมเหงกระทําใหการเงินของเขาท้ังหลายยุงยากมากข้ึน แตมาภายหลังจากกันดารอาหารกระทําใหพวกเหลานี้ขัดสนหนักข้ึนไปอีก ยุงยากเทานี้ไมพอเพราะต้ังแตเดิมนั้นไดประกาศขาวประเสริฐแกคนยากจน พระเยซูทรงเห็นอกเห็นใจคนจนเหลานี้มาก และพวกสาวกก็ตอนรับคนเหลานี้เขามาในคริสตจักร แตมาภายหลังเม่ือขาวประเสริฐแผแพรออกไปท่ัวออกไปท่ัวอาณาจักรโรม พวกคริสเตียนไดเสนอขาวนี้ตอชนทุกช้ัน รวมท้ังพวกทาสดวย เราเห็นคนจนเปนอันมากและพวกทาสจํานวนไมนอยในหมูคริสเตียน

ส่ิงเหลานี้อธิบายวามีอะไรเกิดข้ึน สาวกในกรุงเยรูซาเล็มสวนมากเปนคนจน พวกคริสเตียนท่ีพอมีอันจะกินก็มีใจเปนคริสเตียนมากไมยอมใหพวกคริสเตียนเหลานั้นอดอยาก พวกเขาใหเงินและขาวของและบางทีถึงกับขายทรัพยสินของตน (กิจการ 4: 34-37) เอามาชวยคนยากจนในพวกของเขา จริงอยูเขาไมไดคิดการไกล และเขาคิดวายุคของเขาน้ันจะไมยืนยาวไปอีกเทาใด แตขอสําคัญก็ประจักษ คือความเช่ือก็ใหเกิดมิตรภาพอันสําคัญยิ่งซ่ึงเขาเต็มใจชวยบรรดาคนท่ีขัดสน

65

Page 66: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

การยินดีตอนรับขับสูเปนการสําแดงออกอีกประการหนึ่งของมิตรภาพคริสเตียน ขณะเมื่อคริสตจักรขยายตัวออกไป พวกผูนําของเขาด่ังทานเปาโลเปนตัวอยางไดทองเท่ียวจากท่ีนี่ไปท่ีโนน และพวกคริสเตียนก็ทองเท่ียวไปเพราะธุระการงานดวย โยกยายจากท่ีหนึ่งไปสูอีกท่ีหนึ่ง ดั่งท่ีนางพริซคิลลาและอะคูลาไดกระทําเม่ือถูกบังคับใหยายออกจากกรุงโรมไปยังโครินธ แลวตอมาก็ยายไปอยูท่ี

เอเฟซัส (กิจการ 18: 2, 18, 19) โรงแรมมักเปนสถานท่ีไรศีลธรรม เหตุฉะนั้นพวกคริสเตียนตามทองถ่ินจึงตองรับคริสเตียนผูเยี่ยมเยียมเหลานั้น ใหเขาพักอยูในบานของตน เปนงานปฏิบัติท่ีชวยผูกมัดใหคริสตจักรในทองถ่ินเปนอันหนึ่งอันเดียวกันในภราดรภาพของพระคริสต ชวยใหแตละหมูสํานึกวาตนเปนสวนหนึ่งของคริสจักรสากล

พยานของคริสเตียน

คริสตจักรสมัยอัครทูตมีการเปนพยานอยางสัตยซ่ือตอขาวประเสริฐเปนเปาหมายของตนของคริสตจักรนั้นมิไดตั้งข้ึนมาดวยความปรารถนาตามความตองการของตนเปนท่ีตั้ง งานของคริสตจักรภายใตการทรงนําของพระวิญญาณบริสุทธ์ิ คือกรเปนพยานฝายพระคริสตและการท่ีมีจํานวนสมาชิกเพิ่มข้ึนพรอมท้ังเจริญข้ึนในความเช่ือ คริสตจักรอาจพบการตอตานและพายแพเปนคร้ังคราวอาจถูกการขมเหง และบางทีก็ดูเหมือนลมเหลว แตคริสตจักรจะตองบอกคนอ่ืนถึงขาวประเสริฐของพระคริสตโดยมีความเช่ือวาองคพระผูเปนเจาจะทรงเพ่ิมบรรดาคนท่ีรับคําพยานของคริสเตียนเขามาในคริสตจักรตามพระปญญาและนํ้าพระทัยของพระองคเร่ือย ๆ (กิจการ 2: 47)

บรรดาอัครทูตเปนบุคคลจําพวกแรกท่ีทํางานอันนี้ (กิจการ 1: 1-8) เขาตองประกาศไปวา พระเจาทรงกระทําอะไรเพื่อมนุษยทางพระคริสตการท่ีเขากระทําการนี้เขาจะตองเลาเร่ืองต้ังแตยอหนผูใหรับบัพติศมาปรากฏตัวจนถึงพระเยซูทรงคืนพระชนม และการเปนพยานในเร่ืองพระเยซูทรงคืนพระชนมนั้นเปนเร่ืองสําคัญ (กิจการ 1:22) บรรดาอัครทูตไดใหพยานในเร่ืองนี้ดวยฤทธ์ิเดช (กิจการ 4:33) เขาถึงกับไมยอมเอาชีวิตไปคลุกคลีกับงานอยางอ่ืนไมวาจะสําคัญปานใด (กิจการ 6:1-4)

แตยังมีคนอ่ืน ๆ นอกเหนือสิบสองคนนั้นท่ีเปนพยานในทํานองเดียวกัน แม “เจ็คคน” ท่ีถูกเลือกตั้งไวเพื่อดูแลคนยากจน เราก็เห็นสเทฟาโนเปนคนแรก ตอมาก็มีฟลิปซ่ึงทํากรเทศนาอยางแข็งขัน (กิจการ 6:9, 10; 8:5) ยังมีคนอ่ืน ๆ ท่ีเราไมทราบช่ือไดนําขาวประเสริฐออกไปเผยแพรใหกวางขวางยิ่งข้ึน ตัวอยางพวกท่ีถูกขับไลออกจากกรุงเยรูซาเล็มดวยการขมเหงไดไปเทศนาส่ังสอนท่ีฟอยนิเค ไซปรัส และอันธิโอเปย (กิจการ 11:19, 20)

66

Page 67: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

ผังสังเขปของพระธรรมกิจการ

ถาเราเตรียมผังสังเขปของพระธรรมกิจการ เราจะเห็นวาเขาเปนพยานกันอยางไร มีมากกวาหนึ่งวิธีท่ีจะทําผังนี้ และแตละวิธีก็สอนเราถึงบางส่ิงท่ีสําคัญ

1. ในสิบสองบทแรก ทานเปโตรเปนตัวชูโรง และแผนดินปาเลสไตนเปนสถานท่ีสําคัญ ตอนทายสิบหกบท ทานเปาโลเปนตัวชูโรงและงานประกาศไดแผออกจากอันทิโอเปยในประเทศซีเรียเปนศูนยกลาง

2. เราอาจรางโครงความเจริญของคริสตจักรอยางถูกตองใกลชิดกวาไดดวยเดินตามงานของผูนําสําคัญหกคน ทานเปโตรมากอน มิใชทานจะเปนพูดแข็งขันใน “พวกสิบสองคน” เทานั้น แตพูดเพื่อพวกในกรุงเยรูซาเล็มท้ังหมดดวย ทานยืนหยัดตอสูการขมขู การโบยตีการจําขัง ทานชูโรงอยูในหาบทแรกและมาเดนในบทที่เกาถึงสิบสอง ใน “พวกสิบสองคน” ก็มีทานคนเดียวที่มีบทบาทสวนตัวอยางสําคัญในเร่ืองราวของพระธรรมกิจการ สวนอีกสิบเอ็ดคนน้ันก็เปนผูนําท่ีดีและมีประโยชนแตเราไดยินถึงการกระทําแตลําพังของทานเปโตรเทานั้น

ในการที่คริสตจักรจะปรนนิบัติตอพวกยิวท่ีพูดภาษากรีกและชวยคนยากจน พวกอัครทูตไดแนะนําคริสตจักรใหเลือก “พวกเจ็ดคน” (กิจการบท 6) ในพวกนี้มีสองคนคือ สเทฟาโนและฟลิปท่ีทํางานเดน สเทฟาโนเอาการเอางานท่ีสุดและกลาพูดกวาเพื่อน (กิจการ 6:8 ถึง 8:1) ทานจับความจริงจากพระเยซูไดวา พระวิหารซึ่งเปนท่ีเคารพอยางสมควรนั้นไมใชส่ิงท่ีจําเปนในการนมัสการที่แท ทานเตรียมทางเพื่อใหคริสตจักรปฏิบัติงานไดกวางขวางกวานั้น ทานเองไมไดมีโอกาสทําตามท่ีพูด แตยังไมทันไรก็ส้ินชีวิตเพราะความเช่ือขอนี้ ฟลิปไดเทศนาในสะมาเรียและตามทองถ่ินชายฝงของประเทศปาเลสไตน (กิจการ 8:5-40) ไดเร่ิมงานท่ีขยายกวางออกคือพาเอาคริสตจักรออกไปกวางกวาท่ีจะอยูในกลุมพวกยิวเทานั้น

ผูนําคนสําคัญท่ีส่ีคือ บารนาบา แมวาทานไมเปนนักพูดท่ีดีฤทธ์ิเดช ทานเปนคนมีความเช่ืออันลึกซ้ึงและยอมลงทุนสวนตัวเพื่อชวยเหลือคนยากจน (กิจการ 4:36,37) ทานเห็นวาการกลับใจของทานเปาโลเปนความจริงและยอมรับรองทานเปาโล (กิจการ 9:27) คริสตจักรเยรูซาเล็มไวใจทานใชใหไปอันทิโอเปยเพื่อดูวาการท่ีชาวตางชาติกลับใจมาเช่ือนั้นเปนดวยความจริงใจหรือเปลา และคริสตจักรอันทิโอเปยไดรับทานใหเปนผูนําของเขา (กิจการ 11:22-26) ตัวทานไมใชทานเปาโลที่มีช่ือเปนผูนําพวกทองเท่ียวออกสอนคร้ังแรกท่ีไปจากอันทิโอเปย (กิจการ 13:2) เม่ือทองเท่ียวไปนั้นทานเปาโลออกหนากวา แตเม่ือกลับมากรุงเยรูซาเล็มทานบารนาบาเปนหัวหนาในการโตตอบสนับสนุนเร่ืองการรับพวกตางชาติเขามาในวงงานคริสตจักร (กิจการ 15:12,25) ตอมาไมชาทานก็หายไปจากสายตาของเรา

67

Page 68: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

แตทานเปนผูนํารุนกรุยทางท่ีเฉล่ียวฉลาดและไววางใจไดท่ีสุด ทานเปนคนแรกท่ีชวยนําคริสตจักรในยุคท่ีขยายตัวจากแหลงชาวดินแดนปาเลสไตนของพวกยิวเขาไปสูจักรภพโรมท่ีกวางกวา

ในพวกยิวท่ีเปนคริสเตียนผูยังจงรักภักดีตอบทบัญญัติและขนบธรรมเนียมของพวกยิวนั้นผูนําท่ีเดนก็คือ ยากอบ นองชายขององคพระผูเปนเจาบางคนคิดวาทานเปนคนหนึ่งในพวกสิบสองคน ความเขาใจอยางนี้ไมนาจะถูกตองทานไดอยูในคริสตจักรต่ังแตสมัยแรกเริ่ม แมวาทานไมไดเปนสาวกของพระเยซูในเม่ือพระองคทรงปฏิบัติพันธกิจในโลก (ยอหน 7:5) ทานก็เปนคนหนึ่งท่ีเห็นพระเยซูเม่ือทรงคืนพระชนม (1 โครินธ 15:7) และเปนสมาชิกคนหนึ่งของคริสตจักรเยรูซาเล็มต้ังแตแรกเร่ิม

(กิจการ 1:13) ตอนแรก “พวกสิบสองคน” มีทานเปโตรเปนคนเดน ไดเปนผูนําคริสตจักร แตมีขออางเปนพิเศษถึงยากอบในกิจการ 12:17 แสดงวาตอนนั้นทานยากอบเปนท่ีรูจักกันวาเปนผูนําคนหนึ่ง และเม่ือมีการประชุมกันในเร่ืองวาพวกตางชาติจะมีตําแหนงใดในคริสตจักร ทานยากอบเปนประธานของท่ีประชุมและกลาวมติท่ีไดตกลงกัน (กิจการ 15:13-21) เม่ือทานเปาโลเยี่ยมกรุงเยรูซาเล็มเปนคร้ังสุดทาย ปรากฏวาทานยากอบเปนผูนําอยูในตอนนั้น (กิจการ 21:18) เขาเรียกทานวาเปนยากอบผูยุติธรรม เปน

คริสเตียนท่ีม่ันคงและสัตยซ่ือ ทานไดส้ินชีพดวยการถูกประหารเพราะความเช่ือในราว ค.ศ. 62 แตทานมีความเขาใจเร่ืองฝายวิญญาณท่ีคอนขางจํากัดหนอย ทานเห็นวาพวกตางชาติ มีสวนอยูไดในคริสตจักรแตทานไมตองการใหพวกยิวท่ีเปนคริสเตียนไปคบกับคนเหลานี้ไดอยางเสรี

(กาลาเทีย 2: 11) ทานไมมีสวนในการขยายงานเผยแพรออกไปสูชนชาติตาง ๆ โดยท่ัวไป ทานเองยังคงปฏิบัติตามพวกยิวหัวโบราณอยู ทานเปนคนสําคัญ เปนหัวหนาผูเปนท่ีนับถือ แตทานไมเห็นอยางแทจริงวาขาวประเสริฐนั้นใหเสรีและเปนของสากลเพียงใด

คนท่ีมีความเขาใจแจมกระจาง มีความรอนรนจริงจัง มีความอดทนอยางไมยนยอ และเปนพยานอยางฤทธ์ิเดชกระทําใหกระบวนการคริสเตียนเปนพลังสากลก็คือทานอัครทูตเปาโล แมทาน

เปโตร ผูไดนําครัวเรือนของโคระเนลิโอผูเปนชนตางชาติใหเขามาในคริสตจักร ทานยังเปนคนรี ๆ รอ ๆ และทานทํางานสวนใหญอยูในหมูพวกยิว ดั่งท่ีทานเปาโลไดกลาวไว (กาลาเทีย 2: 9, 12) ทานเปาโล เปนยิวท่ีรักชนชาติของทาน และเม่ือชนชาติของทานเปนอันมากไมยอมรับพระเยซูทานกอ็กหัก ทานเปนคนท่ีผลักดันงานเสนอพระกิตติคุณไปสูโลกเมดิเตอเรเนียนอยางท่ัวถึง งานของทานพรอมกับนิมิตสากลของทานเปนเร่ืองใจกลางแหงความสนใจของพระธรรมกิจการตอนคร้ังหลัง ในพวกผูนําท้ังหมดคนนี้ ทานเปนคนเห็นงานแจมกระจางท่ีสุด

3. ยังมีอีกวิธีหนึ่งท่ีจะทําผังสังเขปของพระธรรมกิจการได คือเดินตามการขยายตัวตามภูมิศาสตร เร่ิมแรกมีเร่ืองคริสตจักรท่ีกรุงเยรูซาเล็ม (กิจการ 1: 1 ถึง 6:7) แลวกลาวถึงเร่ืองการเผยแพร

68

Page 69: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

ออกไปทั่วประเทศปาเลสไตน (กิจการ 6:8 ถึง 9:31) ตอนที่สามกลาวถึงการขยายตัวไปถึงคริสตจักรอันทิโอเปยในซีเรีย (กิจการ 9:32 ถึง 12:24) สวนท่ีส่ีคริสตจักรแผกวางไปถึงอาเซียไมเนอร (กิจการ 12:24 ถึง 16:20) สวนท่ีหาบอกถึงการขยายตัวไปถึงมาคะโดเนียและกรีกในทวีปยุโรป (กิจการ 16:6 ถึง 19:20) สวนสุดทายบอกเร่ืองทานเปาโลผูเปนนักโทษไปถึงกรุงโรมพรอมกับขาวประเสริฐ (กิจการ 19:21 ถึง 28:31)

ถายึดเปนภาพท่ัว ๆ ไปแลว ผังสังเขปนี้ก็ใชไดดี แตการแบงไมคงท่ีและมีหลายช้ันท่ีมิไดกลาวถึง ตัวอยางมีคริสตจักรแลวในเมืองดัมเมเษ็ขกอนท่ีทานเปาโลไปถึงท่ีนั่น (กิจการ 9: 2, 19) และพระธรรมกิจการก็มิไดบอกวาใครนําขาวประเสริฐไปถึงท่ีนั่น ในกรุงโรมก็เชนเดียวกัน และยังมีในนครตาง ๆ ในประเทศอิตาลีดวย ซ่ึงมีคริสตจักรอยูกอนท่ีทานเปาโลไปถึงทองถ่ินนั้น ๆ (กิจการ 28:13-15) แตพระธรรมกิจการมิไดบันทึกไววาขาวประเสริฐไปถึงอิตาลีโดยสถานใด

พระธรรมกิจการจบลงดวยเร่ืองทานเปาโลเทศนาอยูในกรุงโรมการที่ทานเทศนาเผยแพรอยูในนครหลวงของอาณาจักรนี้เปนสัญญลักษณของความจริงท่ีวาขาวประเสริฐกําลังไปท่ัวทุกสวนของโลก การแผไพศาลไปท่ัวโลกนั้นแจงกระจางแลว กําลังไปถึง “ท่ีสุดปลายแผนดินโลก” (กิจการ 1:8)

ทานลูกาเขียนพระธรรมกิจการอยางไร

ในการศึกษาถึงกิตติคุณท้ังส่ีเราเห็นวาพระธรรมลูกากิจการเดิมเปนงานช้ินเดียวเปนเร่ืองท่ีบรรยายถึงการเร่ิมตนของคริสตศาสนา ตั้งตนจากกําเนิดของยอหนผูใหรับบัพติศมา และการประสูติของพระเยซูถึงทานเปาโลไปถึงกรุงโรม ผูแตงคือลูกาแพทยท่ีรักทานลูกาเปนเพื่อนรวมเดินทางกับทานเปาโลและเปนผูไปเยี่ยมประเทศปาเลสไตนอยางนอยสองป ทานจึงไดมีโอกาสศึกษาเร่ืองราวของพระคริสตและสมัยเร่ิมแรกของคริสตจักรไดดี

ทานลูกาพบเอกสารท่ีมีบันทึกไวเพ่ือชวยทานในการเขียนพระธรรมกิจการหรือชะรอยทานจะมี และทางท่ีทานใชเอกสารเหลานั้นในการเขียนกิตติคุณ แสดงวาถาทานมีอยางดีทานคงใชประกอบการเขียนของทานขอความตอนที่มีคําวา “เรา” ในพระธรรมกิจการซ่ึงปรากฏวาผูเขียนไดเอาตัวเองรวมเขากับคนเหลานั้นท่ีอยูกับทานเปาโลดวย (กิจการ 16:10-17; 20:5-15; 21:1-18 และ 27:1 ถึง 28:16) อาจมาจากสมุดบันทึกท่ีทานลูกาเองเขียนไวเม่ือคร้ังเดินทางอยูกับทานอัครทูตก็ได มีส่ิงหนึ่งท่ีเห็นไดชัดเจน คือเร่ืองราวตอนตน ๆ ซ่ึงทานลูกาทราบมาทางออมไมใครจะครบถวนดี สวนใหญบทหลัง ๆ ซ่ึงบอกเรื่องทานเปาโล ทานลูกาเขียนไวดวยความรูสึกละเอียด และกลาวเร่ืองปะติดปะตอกันไดดีกวามาก

ลูกาเขียนพระธรรมกิจการเมื่อไร บางคนคิดวาทานเขียนตอนปลายของสองปท่ีทานเปาโลอยูในเรือนจําท่ีกรุงโรม (กิจการ 28: 30) กอนท่ีจะรูกันถึงผลของการตัดสินคดีทานเปาโล วันกําหนดของ

69

Page 70: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

พระธรรมกิจการจึงนาจะเปนราว ค.ศ. 63 แตทานลูกาเม่ือเขียนกิตติคุณไดใชพระธรรมมาระโกเปนแหลงเราจึงจําตองกําหนดวันของลูกา – กิจการภายหลังวันของพระธรรมมาระโก ตํานานโบราณบอกเราวา มาระโกเขียนข้ึนหลังจากท่ีทานเปโตรส้ินชีพ (ค.ศ. 64 หรือ 67) เหตุฉะนั้นก็ยากท่ีจะกําหนดกิตติคุณของทานใหเร็วกวา ค.ศ. 65 ถึง 70 กําหนดวันของพระธรรมลูกาและกิจการตองลากวานั้นเราจึงกําหนดเวลาเขียนพระธรรมกิจการไวในราว ค.ศ. 85

ความประสงคของทานลูกา

ความประสงคสําคัญของทานลูกาก็กระจางอยู ทานกลาวเร่ืองการเร่ิมและกระจายขาวประเสริฐจนขาวนั้นเปนความเช่ือของสากลทานไดติดตามเร่ืองไปจนขาวประเสริฐไดสถาปนาในกรุงโรมและกําลังขยายตัวตลอดอาณาจักรโรมและนอกออกไปอีก ในการท่ีทานกลาวเร่ืองวาพระเจาทรงกระทํากิจทางพระคริสตและพระวิญญาณบริสุทธ์ิอยางไรแลว ทานก็มุงท่ีจะมอบบันทึกอันนาเช่ือถือแกบรรดา คริสเตียนถึงเร่ืองราวซ่ึงความเช่ือและความหวังของเขาท้ังหลายจะอิงอยู

แตทานลูกายังมีความประสงคยอยลงมาอีกดวย ทานพยายามช้ีใหเห็นวาบรรดาคริสเตียนเชนเดียวกับพระเยซูไมมีกรรมช่ัวของการกระทําผิดใด ๆ บรรดาศัตรูของพวกคริสเตียนมักจะใสรายวาเขาท้ังหลายเปนพวกกบฏตอกรุงโรม และเปนพวกกอกวนสันติสุข ทานลูกาช้ีวาบรรดาสาวกและโดยเฉพาะอยางยิ่งพวกผูนําเปนคนท่ียงธรรมและควรท่ีชาวโรมจะนับถือและใหความคุมครอง แนใจไดวาขาวประเสริฐที่พวกเขานํามานั้นเปล่ียนมนุษยและขาวนั้นชวยเขาทั้งหลายใหรอดและนาํใหเขาดาํเนนิชีวิตดีกวาเดิมฉะน้ันจึงไมมีใครท่ีจะลงโทษเขาได

ลูกายังย้ําไวดวยวา คริสตศาสนาก็คือลัทธิยิวท่ีถูกตองนั่นเองพระเยซูทรงเปนพระคริสตตามความหวังของพวกยิว พวกสาวกเปนพวกยิวท่ีสัตยซ่ือ เขาท้ังหลายตองการที่จะนมัสการพระเจาตอไปในพระวิหารและธรรมศาลา แตความเปนศัตรูและการขมเหงอยางขมข่ืนเทานั้นท่ีเขาไดรับจากพวกยิวซ่ึงไมเช่ือถือ ไดขับไลใหเขาออกไปและนมัสการและอยูตางหาก คริสตจักรเปนไปตามพระคัมภรของพวกยิว เพราะฉะน้ันดวยวาคริสตจักรดําเนินงานของพระเจาอันตอจากพวกอิสราเอลตอไป อาณาจักรโรมควรจะคุมครองคริสตจักร ดั่งไดคุมครองลัทธิยิว

แตเร่ืองเหลานี้เปนขอเล็กนอย ความประสงคอันสําคัญของลูกาคือ บอกเร่ืองขาวประเสริฐอยางแจมกระจาง และแสดงวาขาวนี้มิใชเปนเพียงลัทธิยิวท่ีแทจริงเทานั้นแตเปนความเช่ืออันถูกตองสําหรับปวงมนุษยดวย ทานใหคําพยานของทานตอผูอานท้ังปวงวา ในเม่ือพระเจาทรงกระทํางานในพระคริสตเพ่ือเห็นแกความรอดของเขาท้ังหลายแลว มิตรภาพแหงคริสตจักรสากลจึงไดเปดออกแกบรรดาผูท่ีจะเช่ือท้ังหลาย และทานเตือนคริสตจักรวาการงานของคริสตจักรก็คือการนําขาวประเสริฐของพระคริสตเขาไปในโลกท้ังส้ิน

70

Page 71: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

แนะการอาน ในการอานกิจการ พึงจําไววาท่ีนี่ทานลูกาไดเลาเร่ืองตอจากท่ีทานไดตั้งตนไวแลวในกิตติคุณ ตอนนี้ก็เปนพระราชกิจการไถของพระเจาดวย ระลึกถึงกิจการ 1: 8

ศึกษาเร่ืองราวท่ีขาวประเสริฐขยายตัว โดยสังเกตตอนทั้งหกของหนังสือนี้และความสรุปตอนปลายทุกตอน (กิจการ 6: 7; 9:31; 12:24; 16:5; 19:20; 28:30, 31)

เร่ืองพิเศษ วันเพนเทคศเต (กิจการ 2: 1-41) เร่ืองสเทฟาโน (กิจการ 6:1 ถึง 8:3) การกลับใจของทานเปาโล (กิจการ 9:1-22) เปโตรและโคระเนลิโอ (กิจการ 10:1 ถึง 11:18) การประชุมท่ีกรุงเยรูซาเล็ม (กิจการ 15:1-35) พัสดีเรือนจําท่ีฟลิปปกลับใจ (กิจการ 16:16-34 ทานเปาโลเรือแตก (กิจการ 27)

71

Page 72: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

บทที่ 8 คริสเตียนผูเขียนจดหมาย 7

ไมมีคนใด ๆ ท่ีทําเปนไมรูจักทานเปาโลได คริสตจักรในสมัยเร่ิมแรกก็รูดี เพราะทานไดขมเหงเขา เม่ือทานเปนคริสเตียนแลว พวกยิวท่ีอยูในนครนี้นครโนนเห็นวาทานไมยอมใหเขาอยูเฉย ๆ ได ทานคะยั้นคะยอใหเขาเผชิญกับขอกลาวอางแหงขาวประเสริฐของพระคริสต ไมวาทานจะไปท่ีไหนจะตองกระทําใหประชาชนฟงทาน ทานเข็มแข็งมากทานไมเคยอยูเปนกลาง ทานเช่ืออยางไรทานก็ยืนหยัดอยางส้ินกําลังอยางนั้น คนโตเถียงกับทาน ประณามทาน จําขัง โบยตี และเอาหินขวางทานแตเขาท้ังหลายเห็นวาจะทําเปนไมรูจักทานไมได

พระธรรมกิจการชวยการะทําใหความจริงอันนี้กระจางในพระธรรมน้ีทานเปาโลเปนคนหนึ่งในคนสําคัญสองคนในสมัยคริสตจักรยุคอัครทูต พระธรรมกิจการกลาวถึงการงานของทานในฐานะเปนนักเทศนและเปนศาสนทูตมากกวากลาวถึงอัครทูตคนอื่น ๆ หมด อีกประการหนึ่งประมาณเกือบคร่ึงหนึ่งของพระคริสตธรรมคัมภีรภาคพันธสัญญาใหมเปนขอเขียนมาจากปากกาของทาน ทานไมเคยนึกฝนเลยวาเราท้ังหลายจะยังอานหนังสือของทานหลังจากท่ีทานเขียนไวประมาณหนึ่งพันเการอยปมาแลว ความจริงขอนี้สอใหเห็นอีกวาทานเปาโลเปนคนท่ีมนุษยจะตองสนใจ

โดยเฉพาะอยางยิ่งจดหมายเหลานี้เองกระทําใหทานเปาโลเปนคนสําคัญในคริสตจักรสมัยปจจุบัน เราตองศึกษาหนังสือของทานเพื่อจะเขาใจทานไดดี โดยท่ัว ๆ ไปจดหมายมักเกิดข้ึนมาเนื่องจากสถานการณท่ีเราจะเขาใจจดหมายนั้นเราตองทราบถึงผูเขียนจดหมายและสถานการณขณะท่ีเขียนเพราะเหตุนี้เราจึงตองสํารวจงานชีวิตของทานเปาโลอยางส้ัน ๆ ทําอยางนี้จะชวยใหเราทราบและทาน หวังวาจดหมายน้ันจะเกิดผลอะไรบาง จดหมายเหลานี้เกิดมาจากงานคริสเตียนซ่ึงทานกระทําอยู

เซาโลชาวยิว

ทานเปาโลมีสองช่ือ แตละช่ืนสะทอนใหเห็นเบ้ืองหลังแหงชีวิตของทาน บิดามารดาของทานผูเปนพวกยิวอยูทิศตะวันออกเฉียงใตของอาเซียไมเนอร ในเมืองทารโซ อันเปนเมืองของชนชาติ

(กิจการ 22: 3) ไดตั้งช่ือทาน ตามพระนามของปฐมกษัตริยแหงอิสราเอล แตทวาออกเสียงเปนสําเนียงกรีกวาเซาโล บิดามารดาของทานจงรักภักดีตอความเช่ือของพวกยิว จึงไดอบรมทานใหเติบใหญ ข้ึนมีความจงรักภักดีเชนกัน (ฟลิปป 3:5) เพราะทานอยูในนครของชนชาติ ทานจึงเรียนรูภาษากรีกขอนี้เองเตรียมใหทานทํางานจาริกในเวลาตอมาไดดี แตทานก็เรียนรูภาษาฮีบรูอันเปนภาษาที่พันธสัญญาเดิมเขียนไว และทานยังรูภาษาอรามเปนภาษาที่คนในประเทศปาเลสไตนใชพูดจากันดวย เม่ือยังเยาวอยูทานไปศึกษาวิชาอยูท่ีกรุงเยรูซาเล็ม โดยท่ีทานจงรักภักดีตอความเช่ือของบรรพบุรุษอยาง

72

Page 73: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

เครงครัดและหาวหาญ ทานจึงเปนพวกฟาริสีตามซ่ึงบิดาของทานไดเปนอยูแลวนั้น (กิจการ 23:6) โดยท่ีทานอยูในเมืองทารโซและโดยท่ีเดินทางเสมอ ๆ ทานจึงทราบถึงชีวิตและศาสนาอ่ืนได แตขอนี้ยิ่งกระทําใหทานปกใจภักดีตอความเช่ือของพวกยิวอยางครบถวน ชีวิตท่ีกระตือรือรนของทานกระทําใหทานเปนคนยิวท่ีเดนมากคนหน่ึง (กาลาเทีย 1:13,14)

เปาโลเปนนามโรมัน เปนนามท่ีทานใชเม่ือออกประกาศศาสนานามนี้กระทําใหระลึกถึงวาทานเปนคนสัญชาติโรม ดั่งท่ีบิดาของทานก็เปนเหมือนกัน (กิจการ 16: 37; 22:25-28) ครอบครัวของทานไดสัญชาตินี้มาอยางไรเราไมทราบ แตสัญชาตินี้เปนประโยชนแกทาน เม่ือมีเจาหนาท่ีดุรายจะกระทําตอทานอยางผิดกฎหมาย ทานก็ใชสัญชาตินี้ยับยั้งไวได (กิจการ 16:37-39; 22:25-28; 25:11) แตความภาคภูมิใจอยางสุดซ้ึงในสัญชาติของทานไมเคยทําใหทานรูสึกอับอายเนื่องดวยลัทธิยิว ทานมีความจงรักภักดีอยางสุดซ้ึงอยางเดียวคือตอพระเจาของอิสระเอลและตอบทบัญญัติของโมเสส

ผูขมเหง

เม่ือเซาโลคนฟาริสีหนุมคนน้ีพบพวกคริสเตียนเปนคร้ังแรกทานเห็นวาพวกเหลานี้เปนพวกท่ีเปนภัยตอลัทธิศาสนายิว ทานจับความจริงไดวาการท่ีจะถือพระคริสตเปนท่ีตั้งนั้นยอมเปล่ียนชีวิตทางแนวนิวนิยม ชะรอยทานจะมองเห็นแลววา ชีวิตแบบนี้จะเปดทางใหพวกชนตางชาติเขามารับสวนในขาวประเสริฐ เพราะฉะน้ันทานจึงสูรบปรบมือกับพวกคริสเตียนทานไมใชคนท่ีทําอะไรคร่ึง ๆ กลาง ๆ ทานเร่ิมดวยความพยายามอยางใหญหลวงท่ีจะกวาดลางคริสตจักรใหม (กาลาเทีย 1: 13) ทานอยูในเวลาท่ีสเทฟาโนตาย ท่ีประชาชนฆาเขาทานก็เห็นชอบดวย ทานไปเที่ยวหาพวกคริสเตียนลากเขาออกมาจําขังไว (กิจการ 8:1-3)

ทานกระทําเชนนี้ในกรุงเยรูซาเล็ม แลวก็ยังไมยอมหยุด ทานทราบวากระบวนการคริสเตียนไดขยายตัวออกและหยั่งรากลงในเมืองดัมเมเษ็ขทานจึงตัดสินใจไปสูรบปรบมือกับเขาท่ีนั่น ในเม่ือเมืองดัมเมษ็ธไมใชทองถ่ินของพวกยิว ทานจึงขอหนังสือจากมหาปุโรหิตถึงผูครอบครองดัมเมเษ็ข และออกเดินทางไป (กิจการ 9: 1-2)

กลับใจเปนคริสเตียนและเปนนักเทศน

ทานออกเดินทางในฐานเปนผูขมเหงคริสตจักร แตทานไปถึงเมืองนั้นในฐานะเปนคริสเตียน พระคริสตผูทรงคืนพระชมนไดพบกับทานกลางทาง และทานเซาโลผูขมเหงก็ยอมมอบชีวิตของตนแกพระเยซูผูซ่ึงทานไดประณามอยางไมมีช้ินดีนั้น (กิจการ 9: 1-19) ทานเรียนรูแลววาคริสเตียนเหลานี้ไมใชคนโงท่ีละเมอเพอฝนแตเปน “คริสตจักรของพระเจา” (1 โครินธ 15:9) ทานเปนคนทําอะไรแข็งขันและทันทวงที ทานจึงเขาเปนพรรคพวกของพวกท่ีทานไปขมเหงนั้นเอง

73

Page 74: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

ทานมิไดกระทําแตเพียงเทานี้ ทานออกไปในประเทศอาระเบียทางทิศใตของเมืองดัมเมเษ็ธ อยูไมนาน (กาลาเทีย 1:17) ชะรอยตอนที่ทานอยูนี่เอง ทานเร่ิมการเทศนา แนทีเดียวพอทานกลับมาเมืองดัมเมเษ็ข ทานไดเทศนาอยางกลาหาญใหพวกยิวชนชาติของทานฟงวาพระเยซูทรงเปนพระคริสต และวาบรรดาพวกยิวควรจะเช่ือถือพระองค (กิจการ 9:20-22) คนท่ีไดยินทานก็ขูจะทํารายทานอยางท่ีทานไดตั้งใจจะกระทําตอพวกคริสเตียนท่ีเมืองดัมเมเษ็ข เขาท้ังหลายปองหาทางที่จะกําจัดทานเสีย แตทานทราบเร่ืองนี้ทานก็หนีไป ดวยความชวยเหลือของพวกคริสเตียนสหายของทาน ผูชวยหยอนทานออกไปทางหนาตางท่ีบนกําแพงเมือง (กิจการ 9:23-25 ; 2 โครินธ 11:32 ; 33)

ทานก็ไมยอมหาท่ีเงียบหรือท่ีปลอดภัย ทาน กลับไปยังกรุงเยรูซาเล็มท่ีนั่นทานไดเคยขมเหงพวกสาวก คราวนี้ทานตองการจะไปรวมกับเขาตองการจะพบเปโตร (กาลาเทีย 1: 18, 19) และบอกพวกยิวชนชาติของทานวาความเช่ือของคริสเตียนนั้นเปนของจริง การกระทําอยางนี้เปนอันตรายแตทานถือวาท่ีทําอยางนั้นเปนหัวหนาท่ีของคริสเตียน เม่ือทานกลับมาเชนนั้นกระทําใหพวกสาวกแปลกใจ เขาท้ังหลายกลัววาจะเปนเลหเหล่ียมอีกแบบหนึ่งของผูขมเหงคนกอน จนบารนาบาไดรับรองกับเขาท้ังหลายวา การกลับใจของทานเปาโลนั้นเปนไปดวยความจริงใจ (กิจการ 9:26-30) ภายในระยะสองสัปดาหความดุรายของพวกยิวผูไดยินเขาเทศนาส่ังสอนก็เพิ่มความรุนแรงข้ึน จนพวกเพื่อน ๆ ท่ีเปน

คริสเตียนใหม ๆ ของทานไดพาทานไปท่ีเมืองซีซาเรยาและสงทานกลับไปเมืองทารโซ เร่ืองนี้มิไดกระทําใหงานของทานหยุดชงักลง ทานจะอยูเงียบ ๆ ไมทําอะไรไมได ภายหลังเรา

ไดยินถึงคริสตจักรในคิลิเคีย (กิจการ 15:41) เห็นไดชัดวาทานเปาโลเทศนาในเมืองทารโซและสถานที่ใกลเคียงอยางมีผลสําเร็จ ในคราวนั้นบารนาบาก็ไมลืมทาน ไมตองสงสัยวาเขาไดยินเร่ืองการเทศนาของทานเปาโล (กาลาเทีย 1:23) และเม่ือคริสตจักรใหมท่ีอันทิโอเปยในประเทศซีเรียตองการความชวยเหลือ บารนาบาไดไปยังเมืองทารโซเกล้ียกลอมใหเปาโลเห็นวาทานควรจะไปทํางานท่ีอันทิโอเปย ในประเทศซีเรียตองการความชวยเหลือ บารนาบาไดไปยังเมืองทารโซเกล้ียกลอมใหเปาโลเห็นวาทานควรจะไปทํางานท่ีอันทิโอเปย ทานเปาโลไปท่ีนั่นและไดเปนผูนํา เปนผูพยากรณและอาจารย

(กิจการ 13:1)

สงศาสนทูตไปจากอันทิโอเปย

หลังจากท่ีไดเยี่ยมกรุงเยรูซาเล็มในเวลาเล็กนอยเพ่ือนําของบรรเทาทุกขไมใหในเมื่อมีการอดอยากขูเข็ญคริสเตียนท่ีนั่น (กิจการ 11: 27-30) พระวิญญาณของพระเจาไดทรงนําทานเปาโลใหทํางานออกประกาศกวางขวางยิ่งข้ึน การตัดสินใจซ่ึงจะเปล่ียนสภาพของโลกน้ันมิใชมาจากอัครทูตท้ังสิบสองคน แตมาจาก “ผูพยากรณและอาจารย” ท่ีเมืองอันทิโอเปยในระหวางการนมัสการพระเจาทรงนําเขาใหแยกต้ังบารนาบาผูนําท่ีอาวุโสและเปนท่ีไววางใจของเขากับเซาโลผูทํางานท่ีหนุมกวา และเขมแข็งให

74

Page 75: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

เปนคนเทศนาในถ่ินอ่ืน ๆ จึงเหมือนกับอับราฮัมในกาลนานมาแลวท่ี “ออกไปหารูไมวาจะออกไปทางไหน” (ฮีบรู 11:8) บารนาบาและเซาโลกับ ยอหน – มาระโกผูชวยก็ไดออกเดินทาง

เขาท้ังสามไดออกไปยังทองถ่ินท่ีทานบารนาบารูจัก คือไปท่ีเกาะไซปรัสซ่ึงเปนบานเกิดของทานเอง (กิจการ 4: 36) เขาเทศนาในตอนแรก ๆ ใหพวกยิวท่ีนั่นฟง ตอมาเม่ือเขาท้ังสามขามอาเซียไมเนอรและเดินลึกเขาไปในแผนดินใหญถึงอันทิโอเปยในพิซีเคีย การขัดขวางของพวกยิวไดนําใหเขาท้ังหลาย “บายหนาไปหาคนตางชาติ” (กิจการ 13:46) ท่ีใดท่ีพวกยิวยินดีฟง เขาก็ไมหยุดยั้งท่ีจะเทศนา แตพวกศาสนาทูตเหลานี้ก็ถูกขับไลออกไปจากธรรมศาลาหนแลวหนเลา และเขาก็ไปพูดกับคนตางชาติตามถนนหนทาง ตามบานหรือตามหองเชา

เม่ือออกจากไซปรัสไปเอเชียไมเนอร ทานเปาโลไดกาวข้ึนมาเปนผูนํา คงเปนเพราะความไมพอใจในทานเปาโล มาระโกจึงกลับไปบานเสียศาสนทูตท้ังสองประสบการณการขัดขวางและแมการขมเหงในนครตาง ๆ แตเขาก็เทศนาในเมืองอันทิโอเปย อิโคนิโอน สุซทรา และเดรเบในอาเซียไมเนอรตอนกลางกอนท่ีเขาจะมาถึงฝงทะเลตอนใต แลวเขากลับไปยังอันทิโอเปยในซีเรีย เพื่อรายงานความสําเร็จท่ีนําคนมาถึงพระคริสต (กิจการบท 13 และ 14)

คริสตจักรเดียวสําหรับทกุคน

ท่ีเมืองอันทิโอเปยนั้นพวกยิวและชนตางชาติรวมกันอยูในคริสตจักรเดียว เม่ือทานเปาโลและบารนาบาออกเทศนาส่ังสอนนั้นทานเห็นวาพวกชนตางชาติยินดีพรอมใจตอนรับขาวประเสริฐมากกวาพวกยิว กําลังจะเปนท่ีแจมแจงวาขาวประเสริฐนั้นสําหรับคนท่ัวไป แตสําหรับพวกยิวเร่ืองนี้ทําใหเกิดปญหาอยางหนัก คือ ปญหาธรรมบัญญัติของพวกยิว พวกยิวเห็นวาธรรมบัญญัติท่ีมีอยูในพระธรรมหาเลมแรกในพระคริสตธรรมคัมภีรและด่ังท่ีไดตีความหมายกันตามคําสอน อันพวกธรรมมาจรรยไดบอกเลาตอ ๆ กันมานั้นเปนรากฐานเด็ดขาดของความเช่ือของเขาท้ังหลาย ความหวังของเขาในการท่ีจะคงมีความสัมพันธถูกตองกับพระเจาอิงอยูกับความเช่ือฟงอยางสัตยซ่ือในกฎและขอบังคับตาง ๆ ซ่ึงตกทอดมาถึงเขา

บทบัญญัติของพวกยิวมีพิธีกรรมและจารีตซ่ึงแยกเขาออกจากโลกของชนตางชาติ ในกาลท่ีแลวมานั้นธรรมบัญญัตินี้ไดชวยใหพวกยิวไมมีสวนในการนมัสการรูปเคารพและความช่ัวชาของโลกท่ีนับถือศาสนาอ่ืน ความเชื่อในพระคริสตนั้นไดรวมคนเขาเปนพี่นองกันในพระเจาองคเดียว ธรรมบัญญัติเหลานั้นเลาจะเปนอยางไรตอไป

มีเร่ืองเขาพิธีสุหนัตเปนกรณีตัวอยาง พวกยิวยินยอมท่ีจะใหคนตางชาติเขามาในคริตสจักร ถาเขายอมรับเขาพิธีสุหนัตและถือรักษาพิธีการอันสําคัญ ๆ ซ่ึงมีระบุไวในบทบัญญัติ จุดประสงคทางภาคปฏิบัติก็คือเขาตองการใหพวกที่กลับใจใหมนี้มาเปนพวกยิวเสียกอนเพื่อคนเหลานั้นจะเขามาเปน

75

Page 76: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

คริสเตียนได ในขอนี้ทานเปาโลมิไดใหคนตางชาติปฏิบัติตามสําหรับความเห็นของทานวา ขาวประเสริฐนั้นหมายความวาไมมีจารีตภายนอกหรือการปฏิบัติใด ๆ ท่ีจําเปนเพื่อใหไดความรอด คนเราเปนคนบาปท้ังนั้น ตางก็ชวยตัวเองไมได ความหวังของเขามาจากส่ิงพระราชทานจากพระเจา ถาความรอดน้ันตองอาศัยการปฏิบัติตามธรรมบัญญัติของโมเสสซ่ึงพวกท่ีตองการใหชนตางชาติรับพิธีเขาสุหนัตโตแยงนั้นก็ไมมีคนใดมาถึงความรอดได เม่ือคนเราเปนคนบาปทุกคนแลว พูดตามธรรมบัญญัติ คนท่ีกระทําตามเทานั้นเองจึงจะไดรับรางวัลนอกนั้นถูกลงโทษหมด ในเม่ือไมมีสักคนหนึ่งกระทําตามธรรมบัญญัตินี้ได ท้ังพวกยิวและคนตางชาติตองไววางใจในพระเจาวาจะไดรับการอภัยและของประทานซ่ึงจะนําไปสูชีวิตใหมการท่ีบัญญัติใหรับพิธีเขาสุหนัตและรักษาธรรมบัญญัติมิใชจะไรผลเทานั้นแตยังเปนอันตรายดวย การทําเชนนี้บดบังพระคุณของพระเจากระทําใหคนเราพยายามรักษาธรรมบัญญัติ ซ่ึงเขาจะรักษาไมไดเลย ดวยวาเขาเปนคนบาป การกระทําเชนนี้ยอมนําใหเขาวางใจในส่ิงท่ีเขากระทํา ในเมื่อความหวังและความไววางใจซ่ึงนาจะยึดถือไดมีอยูในพระเจาเทานั้น ฉะนั้นส่ิงท่ีทานเปาโลขอใหชนตางชาติกระทํานั้นเปนเพียงความเช่ือศรัทธาอยางจริงใจในพระคริสตและการดําเนินชีวิตอันประกอบดวยความรักและความเช่ือฟงอยางคริสเตียน ซ่ึงพระวิญญาณทรงประทานฤทธ์ิเดชใหดํารงอยูไดเทานั้น

เม่ือเขายกเร่ืองนี้ข้ึนมาในเมืองอันทิโอเปยท่ีซีเรีย พวกผูนําก็เอาเร่ืองนี้ไปกรุงเยรูซาเล็มเขาประชุมกับบรรดาผูนําท่ีนั่น (กาลาเทีย 2:1-10 ; กิจการ 15:1-29) ขอตกลงมีวาพวกคริสเตียนตางชาติไมจําเปนตองรับพิธีเขาสุหนัตและตามกฎของพิธีกรรมเพ่ือจะไดรับความรอด มีกฏช่ัวคราวเตือนวาใหระวังเวนจากการลางประเวณี และไดขอรองพวกคริสเตียนตางชาติใหถือกฏเร่ืองอาหารบางขอและธรรมเนียมบางอยาง เพ่ือไมขัดกับเพื่อนคริสเตียนท่ีเปนชนชาติยิว (กิจการ 15:20,29) ขอนี้ก็เหมือนกับใหอดเนื้อในวันศุกรเม่ือมีบางคนท่ีเปนโรมันคาทอลิกมารวมอยูดวย แตในสาระสําคัญแลวเขาก็เห็นชอบกับทาทีของทานเปาโล คนตางชาติไมจําเปนตองรักษาธรรมบัญญัติของพวกยูดาห

งานประกาศของทานเปาโลท่ีกวางขวางกวา

การตัดสินใจขอนี้เปดทางใหทําการประกาศส่ังสอนไดกวางขวางยิ่งข้ึน หลังจากท่ีทานเปาโล กลับมาเยี่ยมเยียนบรรดาคริสตจักรในเอเชียไมเนอรตอนกลางแลว ทานก็เดินทางไปทิศ

ตะวันตกเฉียงเหนือถึงเมืองโตรอา ขามไปทวีปยุโรป และทํางานในเมืองฟลิปป เธสะโลนิกา เบโรยา เอเถนส และ

โครินธ (กิจการ 15: 36 ถึง 18:22) ในเมืองหลังนี้ทานไดเขียนหนังสือเธสะโลนิกาฉบับตนและฉบับท่ีสอง และบางทีจะเปนท่ีเมืองโครินธท่ีทานเขียนจดหมายถึงชาวกาลาเทีย เม่ือไดเยี่ยมเมืองเอเฟ

76

Page 77: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

ซัสนิดหนอยแลวทานก็ไปยังกรุงเยรูซาเล็ม แลวเดินทางกลับไปเมืองอันทิโอเปยในซีเรีย แลวก็จบงานอันกวางขวางของทานไปคร่ึงหนึ่งแลว

ในบรรดาส่ิงท่ีทานเปาโลไดกระทําไดแสดงวาทานมีแผนการอยูทานไปยังศูนยกลางใหญ ๆ คือนครซ่ึงเปนศูนยกลาง ทานก็ปลูกฝงคริสตจักรข้ึนท่ีนั่น และจากคริสตจักรเหลานี้ขาวประเสริฐก็ถูกนําออกไปยังทองถ่ินโดยรอบ คงเปนไดท่ีทานเปาโลใชใหผูชวยของทานเขาไปในทองถ่ินเหลานั้นเพื่อสถาปนาคริสตจักรข้ึนในหัวเมืองท่ีเล็กกวา

เม่ือทานออกจากเมืองอันทิโอเปยอีกคร้ังหนึ่ง ทีแรกทานเดินทางขามอาเซียไมเนอรเพื่อกลับไปเยี่ยมบรรดาคริสตจักรในท่ีเหลานั้น และไปหยุดอยูในเมืองเอเฟซัส ในการออกประกาศของทาน ทานพักอยูท่ีนี่นานท่ีสุด (กิจการ 18: 23 ถึง 19:41) ทานเขียนหนังสือโครินธฉบับตนท่ีนั่น และเม่ือกอนนั้นราวสักสองปทานไดเขียนถึงชาวกาลาเทียจากเมืองเอเฟซัสนี้หรือจากเมืองโครินธ เม่ือทํางานคร่ําเครงสามปแลว ระหวางนั้นทานรีบไปท่ีเมืองโครินธ หรือเดินทางไปท่ีอ่ืน แลวทานก็เดินทางไปขางหน่ึงขามอาเซียไมเนอรแวะเยี่ยมแควนมาคะโดเนียอีก ท่ีเมืองนี้ทานเขียนหนังสือโครินธฉบับท่ีสอง แลวเลยไปประเทศกรีก ขณะท่ีอยูท่ีประเทศนั้นทานเขียนหนังสือโรม อยูในประเทศกรีกไดสามเดือนทานก็เดินทางกลับผายแควนมาคะโดเนีย แลวแลนเรือลองมาตามฝงตะวันตกของอาเซียไมเนอร เดินทางตอไปถึงกรุงเยรูซาเล็มเพื่อใหทันเทศกาลเพนเทคศเต (กิจการ 20:1-21:16) ทานไดเงินบริจาคเปนอันมากจากคริสตจักรของชนตางชาติเพ่ือนําไปใหคริสเตียนยิวท่ียากจนในกรุงเยรูซาเล็ม (1 โครินธ 16:1-4: 2 โครินธ 8,9 โรม 15:25-27 กิจการ 24:17) โดยการแสดงถึงความเห็นอกเห็นใจและการแบงปนของคริสเตียนเชนนี้ ทานหวังท่ีจะผูกมัดคริสตจักรท้ังสองฝายใหเขากันดวย หลังจากนั้นทานก็หวังท่ีจะเทศนาในประเทศสเปน

ความเปนศัตรูของพวกยิวท่ีมีมาแตเกากอนไดทําลายแผนงานของทานเสียหมด ขณะเม่ือทานอยูในพระวิหารพวกกอกวนไดกอการอลเวงข้ึนกับทานและพยายามจะเอาชีวิตของทานเสีย ทหารโรมผูท่ีชวยทานไดจับกุมทานไว แมวาจะไมไดทําผิดอะไรเลยทานก็ถูกคุมขังเปนนักโทษอยูในเมืองซีซาเรยาถึงสองป (กิจการ 21: 17 ถึง 24:27) แมกระน้ันเพื่อปองกันไมใหเขาพาตัวกลับไปท่ีกรุงเยรูซาเล็ม ท่ีซ่ึงพวกยิวปองรายหมายจะฆาทานเสีย ทานก็ตองอุทธรณถึงจักรพรรดิแหงกรุงโรมเพื่อใหไดรับการพิจารณาไตสวนอยางเปนธรรม ตามทางท่ีไปทานตองเรือแตกอยูท่ีเกาะมาลเท (กิจการบท 25 ถึง 28)

ในกรุงโรมทานเปาโลถูกจําอยูในคุกสองปเพื่อรอการพิจารณาคดี (กิจการ 28: 30) และชะรอยจะเปนเวลานั้นเองท่ีทานเขียนหนังสือ ฟเลโมน โคโลสี เอเฟซัส และฟลิปป พระธรรมกิจการมิไดบอกผลแหงการพิพากษาคดีของทาน ตํานานโบราณกลาววาทานไดรับการปลดปลอยและไดทํางานตอไป

77

Page 78: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

แลวจึงถูกจับอีกคร้ังหนึ่งและถูกประหารชีวิตท่ีกรุงโรมโดยถูกเขาสงสัยเปนคนที่เปนภัยตออาณาจักร และในเวลาตอนหลังนี้เทานั้นท่ีเราพอจะสันนิฐานไดวาทานเขียนจดหมายไปถึงทิโมธีและทิตัส

ทําหนาท่ีศิษยาภิบาลโดยจดหมาย

ในการเดินทางทองเท่ียวท้ังส้ินนี้ทานเปาโลรวมงานสองอยางเขาดวยกัน คือทานนําขาวประเสริฐเขาไปในทองถ่ินใหมอยูเสมอ ทานเปนมิชชันนารียิ่งใหญท่ีสุดซ่ึงคริสตจักรไดเคยรูจัก แตหัวใจของทานก็เปนศิษยาภิบาลดวย ทานไมเคยลืมบรรดาคริสเตียนตามคริสตจักรท่ีทานไดปลูกฝง และมีความรักอยางสัตยซ่ือในตัวเขา ทานจึงพยายามทุกโอกาสท่ีจะกลับไปเยี่ยมเขาและชวยเขาในเร่ือง

คริสเตียน แตท่ีทานไปเยี่ยมเทานั้นไมเพียงพอท่ีจะนําบรรดาคริสตจักรใหมและไมชํานาญเหลานี้ไปเยี่ยม

นอยคร้ังเกินไปและส้ันนัก และเม่ือคริสตจักรตองการ ใหทานไปเยี่ยมมากท่ีสุดทานก็มักจะไปไมได ทานจึงตองใหวิธีการอีกสองอยางท่ีจะสงความชวยเหลือไปให ทางหนึ่งคือสงผูชวยท่ีวางใจไดใหไปเยี่ยมคริสตจักรท่ีถูกขมเหงหรือท่ีแตกแยกท่ีสนเทหสงสัย อีกวิธีหนึ่งคือเขียนจดหมายไปถึง ไมมีคริสเตียนคนใดใชจดหมายในการใหพระราชกิจของพระคริสตกาวหนาไดผลดีกวาทาน และบัดนี้เราจะศึกษาจดหมายเหลานี้

จดหมายเหลานี้เปนจดหมายแท ๆ ทานเปาโลไมไดเขียนหนังสือในเร่ืองคําสอนกวาง ๆ ของคริสเตียน จดหมายแตละฉบับทานพยายามใหแตละหมูแตละบุคคลไดผลตามตองการ ทานพูดตรงไปตรงมาไมออมคอม ส่ิงท่ีทานพูดก็เกิดจากสถานการณหนึ่ง ๆ

ท่ีจริงเร่ืองจดหมายก็ไมมีอะไรใหม ในกองทรายแหง ๆ แหงอียิปตเขาไดพบจดหมายโบราณนับเปนพัน ๆ ฉบับ ตามปกติเขียนบนกระดาษปาไปรัส มีเร่ืองปญหาทุกชนิดและทุกสถานการณ จดหมายสวนตัวของชาวบานก็มาก แตพวกนักคนควาและพวกผูครอบครองบางทีก็เขียนจดหมายสาํคัญ ๆ เขามักจะเก็บสําเนาของจดหมายเหลานี้และคัดลอกและรวบรวมไวเปนเลมเพื่อจําหนาย จดหมายของทานเปาโลก็เหมือนกับจดหมายของคนธรรมดามากกวาจดหมายสําคัญของพวกนักคนควาหรือพวกผูครอบครอง ทานเขียนอยางตรงไปตรงมา แบบเดียวกันมิไดคํานึงถึงความยิ่งใหมทางวรรณคดีเหมือนกัน นี่เปนส่ิงท่ีเราพบในจดหมายทุกวันนี้ แมวาทานไมเลินเลออยางพวกนักเขียนจดหมายโบราณบางคน แตทานเขียนถึงสถาพภารณท่ีเปนอยูในกาลนั้น ๆ มีถอยคําอยางกันเองและพูดตรงไปตรงมาเหมือนอยางจดหมายของเขาเหลานั้น ๆ มีถอยคําอยางกันเองและพูดตรงไปตรงมาเหมือนอยางจดหมายของเขาเหลานั้น ความสนใจของทานอยูในส่ิงท่ีทานตองการพูดมากกวาวิธีเฉลียวฉลาดในการพูด

78

Page 79: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

ทานเปาโลใชแบบจดหมายอยางไร

ในสมัยของทานเปาโลก็เหมือนในสมัยของเรา มีแบบท่ัว ๆ ไปท่ีใชเปนแบบเขียนจดหมายทานก็เดินตามแบบอยางนั้น แตในเนื้อหาแหงจดหมายของทานไมมีส่ิงใดเหมือนอยางจดหมายท่ีเราพบในกองทรายของอียิปต เร่ืองท่ีทานเขียนทานปรับใชเขาแนวความคิดของคริสเตียน

จดหมายธรรมดาของพวกกรีกเร่ิมดวยแบบอยางนี้ “ก. เรียน ข.” ในจดหมายเธสะโลนิกาฉบับตนและฉบับสองทานเปาโลไดเขียนคลายคลึงแบบนี้ แตทานขยายความออกเสมอกระทําใหเปนแบบ

คริสเตียน บางทีทานบอกถึงการท่ีทรงเรียกทานใหเปนคริสเตียนบางทีทานเพ่ิมคําสรรเสริญคนท่ีทานกําลังเขียนถึง คําคํานับของทานมีเกินกวาแบบฉบับเสมอ เพิ่มคําอธิษฐานแบบคริสเตียนทูลขอของประทานจากพระเจาใหแกผูอานของทาน คําเพ่ิมเติมแบบคริสเตียนเชนท่ีวานี้มียืดยาวท่ีสุดในจดหมายโรมโครินธฉบับตน และ กาลาเทีย แตจดหมายทุกฉบับก็มีอยางนี้และเราควรจะเปรียบเทียบกันดูวา ความเช่ือของทานเปาโลมีการแสดงออกมาเปนลายลักษณอักษรเสมอ

สวนตอไปในจดหมายของกรีกเปนตอนขอบใจ แสดงความพอใจสวนตัว และเปนคําอธิษฐานเพื่อผูอาน ทานเปาโลมีเร่ืองนี้อยูในจดหมายของทานทุกฉบับเวนแตกาลาเทีย ในจดหมายฉบับนั้นทานเปาโลสะดุงตกใจเพราะพวกคริสเตียนชาวกาลาเทียมิไดยึดม่ันในขาวประเสริฐท่ีแทจริงทานจึงโจนใสพวกนั้นดวยคําขนาบอยางรุนแรงทันที (กาลาเทีย 1: 6-10) พวกผูอานท่ีหวังจะไดรับคําฉันเพื่อนหรือคําอธิษฐานเขาคงจะตกใจดวยคําขนาบอยางทะลุกลางปลอง อยางท่ีไมนึกไมฝนวาทานจะพูดอยางนั้น อยางไรก็ดีในจดหมายฉบับอ่ืน ๆ ทานเปาโลก็เดินตามธรรมเนียมท่ีเคย แมในโครินธฉบับตน ซ่ึงทานตองกลาวคําแกไขและคําขนาบ ตอนแรกโมทนาพระคุณพระเจาในของประทานและแงท่ีดี ๆ ของชาวโครินธกอนท่ีทานจะกลาวตอไปเปนคําสอนและการแกไขเขาเหลานั้น

เม่ือกลาวคําโมทนาขอบพระคุณแลว ตามแบบจดหมายกรีกก็มาถึงตอนใจความสําคัญของหมาย ตอนนี้เปนจุดประสงคของผูเขียนกลาวนําวาเขาจะพูดเร่ืองอะไร ในรายของทานเปาโลแลว ก็เปนท่ีแจงชัดวาทานจะตองกลาวถึงความตองการของคริสตจักรของทาน จุดปสงคของทานมิใชเพียงจะนําทางเขาใหเขาถึงความเช่ือท่ีแทจริงเทานั้น แตบอกทางใหเขาดําเนินชีวิตคริสเตียนท่ีถูกตองดวย ทานซ่ึงแจงซํ้าแลวซํ้าอีกวาขาวประเสริฐมีความหมายอยางไร ในเร่ืองความสัมพันธของมนุษยและการกระทําสวนบุคคล สําหรับทานเร่ืองอยางนี้เปนเร่ืองสําคัญของชีวิตคริสเตียนและเฉพาะอยางยิ่งตอนปลายของจดหมายทานก็ใหคําสอนท่ีมีคําตอบปญหาอยางนั้น ๆ

จดหมายตามแบบฉบับกรีกแท ๆ จบลงดวยคําคํานับของสวนบุคคลและคําวา “ลากอน” ปกติทานเปาโลก็ใชคําคํานับอยางนี้ ในเม่ือเปนนิสัยของทานท่ีจะบอกคําบอก ทานมักจะจับปากกามาเขียนหมายเหตุสวนตัวดวยมือของทานเอง นี่เปนการแสดงออกอยางฉันมิตรและทําใหเพื่อนทราบไดวา

79

Page 80: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

จดหมายฉบับนั้นเปนของทานแท ๆ (2 เธสะโลนิกา 3:17) คําคํานับคําสุดทายไมใชคําวา “ลากอน” ตามแบบ แตเปนคําอธิษฐานแบบคริสเตียนท่ีเปนคําอวยพร ทานจบลงเสมอดวยคําอธิษฐานขอใหพระคุณของพระเจามีแกผูอานของทานเร่ือยไป

ขาวประเสริฐเดียวสําหรับสถานการณหลายอยาง

ในเม่ือเราจะศึกษาจดหมายของทานเปาโล พยายามดําเนินตามลําดับการเขียนกอนหลัง เราอาจแปลกใจท่ีมีปญหาตาง ๆ กันหลายอยางในจดหมายน้ัน และมีแนวคิดใหมในจดหมายแตละฉบับซ่ึงเราไมไดยินจากทานเปาโลมากอน ทานเปล่ียนแนวความคิดของทานอยูเสมอหรือ เราจะสรุปอยางนี้ก็ผิดไป เราตองจําไววาทานเปนคริสเตียนอยางนอยสิบหาปกอนท่ีจะเขียนจดหมายฉบับแรกซ่ึงเรามีอยู ณ บัดนี้ ทานเคยเทศนาและส่ังสอนและตรึกตรองมาเปนเวลานาน ทานไมใชคริสเตียนใหมและก็ไมใชเพิ่งจะทํางานคริสตจักร เพราะฉะน้ันจดหมายแรก ๆ ของทานจึงไมใชมาจากเร่ิมตนท่ียังไมเจนงาน แตมาจากผูนําท่ีมีความเจนจัดอยูแลว

ดั่งนั้นความแตกตางของจดหมายเหลานั้นเกิดข้ึนเพราะสถานการณแปลกกันเปนขอใหญ ในจดหมายทุกฉบับทานเปาโลเขียนเร่ืองขาวประเสริฐอันเดียวกันนั้นเองและดวยจุดประสงคของคริสเตียนอยางเดียวกัน แตละเร่ืองมีปญหาใหมมาเผชิญหนาทาน ทานจึงตองจัดการกับสถานการณใหม ๆ ตามท่ีเกิดมาน้ัน ทานมิไดพยายามท่ีจะใสส่ิงท่ีทานเช่ือถือและท่ีทานรูท้ังหมดลงในจดหมายแตละฉบับเหลานั้น

ขอนี้กระทําใหเราเขาใจจดหมายเหลานั้นไดยาก และเราหวังวาทานนาจะไดพูดมากกวานั้น เพื่อเราเห็นภาพเร่ืองความคิดของทานท้ังหมด แตเราตองรับจดหมายแตละฉบับตามท่ีมีอยู เราตองพยายามเขาใจสถานการณขณะท่ีเขียนไว และดูวาทานเปาโลใชขาวประเสริฐเพื่อจัดการกับสถานการณนั้น ๆ อยางไร แลวเราก็เอาจดหมายเหลานั้นมารวมกันและจะไดภาพคอนขางสมบูรณแหงความเช่ือและความคิดของทานเปาโล

เราจึงจะเห็นวาเร่ืองเหลานั้นมีความหมายแกเราอยางไรดวยคริสตจักรไดรักษาจดหมายเหลานี้ไวแลวรวมเขาใจในพันธสัญญาใหมเพราะคริสตจักรเห็นวาส่ิงใดท่ีทานเปาโลพูดในศตวรรษท่ีหนึ่งนั้นก็เต็มดวยความชวยเหลือเปนประโยชนแกคนรุนหลัง ๆ ตอมา โดยจดหมายเหลานี้เองพระเจาทรงนําเราใหพอทางไปสูความเช่ือและชีวิตของคริสเตียนไดดั่งท่ีคนอานจดหมายของทานเปาโลไดรับการทรงทํานั้น

แนะการอาน เร่ืองประวัติของทานเปาโล ใหอานคําปราศรัยใน กิจการ 20: 17-38; 22:1-21; 26:1-29 และทานเปาโลทบทวนชีวิตของทานใน กาลาเทียบทท่ี 1

และ 2

80

Page 81: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

เม่ือจะดูแบบท่ีใชจดหมาย อาน กิจการ 15: 23-29; 23:26-30 เพื่อคนหาในเร่ืองเร่ียวแรงและกิจกรรมของทานเปาโล อาน 2 โครินธ 6: 3-10; 11:23-28

81

Page 82: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

บทที่ 9 จดหมายสองฉบับถึงชาวเธสะโลนิกา 8

ทานเปาโลและซีลาเดินทางดวยเทามาถึงเธสะโลนิกา เขาถูกขับไลออกจากฟลิปป ท่ีนั่นทานเปาโลไดรักษาหญิงทาสเสียจริตคนหนึ่งใหหายเปนปกติ นายใชหญิงคนนี้ในการดูโชคชะตาหาเงิน นายจึงทําเหตุใหทานถูกโบย ถูกจําคุกและใสช่ือไว แมวาภายหลังพวกผูครอบครองนครสารภาพรับผิด เขาก็คะยั้นคะยอใหทานเปาโลและเช่ือซีลาออกจากนครนั้นกอนท่ีความยุงยากมากกวานั่นจะเกิดข้ึน ดั่งนั้นศาสนทูตคริสเตียนจึงเดินทางไปทางทิศตะวันตกจนมาถึงเม่ืองเธสะโลนิกา

ทําไมทานท้ังสองพักท่ีนั่น เมืองอยางนี้แหละท่ีทานเปาโลมักจะเลือกทํางาน ทานถือเปนกฎวาจะตองเทศนาในนครใหญ ๆ จากท่ีนั่นขาวประเสริฐจะไดแผออกไปในท่ีเด็ก ๆ โดยรอบได

เธสะโลนิกาเปนเมืองศูนยกลางในเร่ืองพลเมืองการคา และการคมนาคม ไปทางเหนือเปนทุงราบท่ีอุดมและมีถนนสําคัญสําหรับการคา มีทางท่ีมีช่ือสายหน่ึงตัดผานเมืองจากทิศตะวันออกไปทิศตะวันตก ช่ือทางเอคนาเตียน เปนทางหลวงของโรมในยานนี้ ไปทางใตก็เปนทะเล อีเจียน และเม่ือ เธสะโลนิกามีทาเรือวิเศษ มีการคาทางทะเลอยางคับค่ัง ทานเปาโลหยุดตรงนี้เพื่อสถาปนาคริสตจักร

ทานเปาโลต้ังตริสตจักรอยางไร

ในนครอยางนี้ทานเปาโลยอมมองหาธรรมศาลากอนเมื่อเธสะโลนิกาเปดทางใหธุรกิจของการคามากจึงดึงดูดพวกยิวเขามาอยูไมชาทานก็เห็นท่ีนมัสการของพวกยิวนี้ไมใชพวกยิวเทานั้นท่ีเขาประชุม ชนตางชาติก็มีมากดวย โดยเฉพาะเปนพวกผูหญิงตางชาติ คนเหลานี้ชอบความเช่ือและระดับศีลธรรมสูงของยิว สถานการณอยางนี้เปนท่ีสบอารมณของทานเปาโลเปนท่ียิ่ง ทานทราบอยูวาพระคริสตมา “หาพวกยิวกอน” ฉะนั้นทานจึงมิใหละเลยที่จะเทศนาใหพวกยิวฟง แตตัวทานเองนั้นโดยเฉพาะถูกสงใหทํางานกับชนตางชาติ และบรรดาคนท่ีอยูในธรรมศาลาเปนพวกท่ีถูกเตรียมไวอยางดีท่ีสุดท่ีจะฟงเร่ืองน้ี เขาท้ังหลายรูพันธสัญญาเดิมอยูแลวและทราบความเช่ือของยิวดวย จึงพรอมท่ีจะฟงเร่ืองราวของพระเยซูคริสต

ฉะนั้น “ตามท่ีเคยทํา” ทานเปาโลก็เขาไปเยี่ยมธรรมศาลาและ “ทานไดอางขอความในพระคัมภีรโตตอบกับเขาไดสามวันสะบาโต และไขขอความชี้แจงใหเห็นวาจําเปนท่ีพระคริสตทรงตองทนทุกขทรมานแลวทรงคืนพระชนม และกลาวตอไปวา “พระเยซูองคนี้ซ่ึงเราไดประกาศแกทานท้ังหลาย คือพระคริสต” (กิจการ 17:2, 3) ทานก็ไดท้ังพวกยิวและ “กรีก” คือคนตางชาติใหใจเช่ือ คริสตจักรเล็ก ๆ ไดถูกต้ังข้ึนแตก็เปนคริสตจักรท่ีรอนรน

82

Page 83: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

ทานเปาโลพักอยูในเธสะโลนิกานานเทาใด ในพระธรรมกิจการทานลูกาบอกเร่ืองการเทศนาสามสัปดาหในธรรมศาลาเทานั้น แลวมีเร่ืองโกลาหลเกิดข้ึนบังคับใหทานเปาโลออกไป ฟงดูเหมือนวาทานพักอยูไมเกินเดือนหนึ่ง แตท่ีทานลูกามันปฏิบัติในการเขียนทานบอกเพียงสองส่ิงในเร่ืองงานท่ีเปาโลกระทําในเมืองหนึ่ง ๆ คือทานบอกวาทานเปาโลเร่ิมงานอยางไร และอะไรทําใหทานตองยายไปท่ีอ่ืน ตอไป ตามบันทึกของทานเปาโลกลาววาคริสเตียนเมืองเธสะโลนิกา “ท้ิงรูปเคารพกลับมาหาพระเจา” (1 เธสะโลนิกา 1:9) แสดงวาสวนมากเปนชนตางชาติ ผูซ่ึงเคยนมัสการรูปเคารพแทนท่ีจะนมัสการพระเจาองคเดียวของอิสราเอล เปรียบเทียบพวกเขากับยิวคริสเตียนในประเทศปาเลสไตนแลวก็พิสูจนใหเห็นวาพวกนั้นมีชนตางชาติเปนสวนใหญ (1 เธสะโลนิกา 2:14) นี่หมายความวาทานเปาโลพักอยูนานกวาท่ีบอกไวในกิจการนั้น คําเทศนาของทานในธรรมศาลาเปนงานเพียงสวนหน่ึงของงานสอนศาสนาในนครนั้น เราไมทราบวาทานพักอยูนานเทาใด อาจจะเปนหลายเดือนก็ได

ความเปนศัตรูของพวกยิวกอใหเกิดการโกลาหลและบังคับทานใหออกไป แมวาฝูงคนหาทานเปาโลและซีลาไมพบเขาก็จับคริสเตียนบางคนรวมท้ังยาโซน เจาของบานท่ีทานเปาโลพักอยูดวย ลากเขามาหนาเจาผูครองนคร ฝูงชนรองวาทานเปาโลและซีลาเปนพวกกบฏผูปรารถนาจะต้ังพระเยซูใหเปนกษัตริยและลมการครอบครองของโรมเสีย ขอกลาวหาเชนนี้เปนการบิดเบือนความเช่ือของพวก

คริสเตียนท่ีวาพระคริสตทรงเปนพระเปนเจาของชีวิตนั้นใหกลายเปนเร่ืองการเมือง เขาหาความทานเปาโลผิด ๆ วาทานคิดการปฏวัติทางการเมือง พวกเจาหนาท่ีก็ตกใจ เขาบังคับใหยาโซนมีการประกันตัววาจะไมมีการยุงยากอยางนั้นอีก (กิจการ 17: 5-9) ขอนี้บังคับใหทานเปาโลออกจากนครนั้น ถาทานยังคงเทศนาตอไป ความโกลาหลก็จะเกิดข้ึนอีก พวกผูครอบครองก็จะดําเนินการอยางรุนแรง

ทานเปาโลจากเมืองเธสะโลนิกาไปยังเมืองเบโรยากอน แลวตอไปถึงเอเถนสเพราะทานมีความสนใจอยางสุดซ้ึงในคริสตจักรเยาวแหงนั้น และเพราะทานทราบวาการขัดขวางและการขมเหงยังมีรบกวนคริสเตียนในเมืองเธสะโลนิกาอยู ทานจึงใชทิโมธีใหกลับไปดูวาเขายังยึดความเช่ือไวม่ันคงเพียงใด กอนท่ีทิโมธีกลับทานเปาโลเดินทางตอไปถึงเมืองโครินธท่ีนี่เองซ่ึงทิโมธีนําขาวดีมาสงใหทานวาเขาท้ังหลายยังคงยึดม่ันในความเช่ือและระลึกถึงทานเปาโลดวยความรักและดวยความกตเวที (1 เธสะโลนิกา 3: 1-8)

จดหมายฉบบัแรก

คริสเตียนเหลานี้ตองการมิตรภาพ เขาตองการคําส่ังสอนและคําหนุนใจ พูดงาย ๆ วาเขาอยากจะเห็นทานเปาโลอีก ทานเองก็อยากจะเห็นเขาเหมือนกัน แตมีบางส่ิงกีดกันไมใหทานกลับไป

83

Page 84: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

(1 เธสะโลนิกา 2: 17, 18; 3:6) ชะรอยจะเปนทัณฑบนท่ียาโซนไดทําไว แมวาทานเปาโลจะไมกอใหเกิดโกลาหลอีกคร้ังหนึ่ง แตทานก็ยังตองรับผิดชอบ และสหายของทานเองก็ตองรับทุกข ถาทานกลับไปและมีความยุงยากลําบากเกิดข้ึนอีก

คราวนี้จดหมายเปนตัวแทนการเยี่ยมไดเปนอยางดี การท่ีสงทิโมธีไปนั้นเปนการชวยเหลืออยางหนึ่ง และไดแสดงความรักของทานดวย แตคราวนี้มิใชวาทานจะแสดงดวยถอยคําถึงความปล้ืมปติของทานในการที่เขาต้ังม่ันอยูเทานั้น แตทานตองการใหคําส่ังสอนท่ีเขาท้ังหลายตองการดวยดั่งนั้นราว

ค.ศ. 51 ท่ีเมืองโครินธทานเปาโลจึงเขียนจดหมายซ่ึงเรียกวาเธสะโลนิกาฉบับตน โดยมรรยาททานไดรวมซีลูอาโน (ซีลา) และทิโมธีใหเปนเจาของจดหมายดวย แตความจริงเปนจดหมายของทานเปาโลคนเดียว ทานเปนคนบอกคําบอก

จดหมายนี้มีสองสวน สวนตน (1 เธสะโลนิกา บท 1 ถึง 3) ทานแสดงความปล้ืมปติของทานและโมทนาขอบพระคุณพระเจาท่ีชาวเธสะโลนิกายังจงรักภักดีตอพระคริสตแมวาจะมีการขมเหง ทานบอกเขาวาทานรักเขาและอยากจะเห็นเขาสักปานใด เพื่อตอบในขอท่ีมีคนกลาวติเตียนเยาะเยยทานอยูเสมอท่ีนครเธสะโลนิกา ทิโมธีคงเปนคนรายงาน ทานก็เทาความวาการกระทําของทานท้ังส้ินเปนส่ิงท่ีมีเกียรติและไมเห็นแกตัวเลย

เปนส่ิงท่ีแปลกซ่ึงทานเปาโลถูกกลาวหาวาเปนคนชอบยอ โลภมากและเยอหยิ่ง (1 เธสะโลนิกา 2: 5, 6) แตในสมัยของทานมีนักเทศนและอาจารยมากหลายทุกชนิดเดินทางไป

ตามอาณาจักรโรม เปนคนหลอกลวงเสียมาก ท่ีออกไปหากินโดยหลอกคนท่ีเซอซา จึงเห็นวาบางคนคงคิดหรือแสรงกลาววาทานเปาโลก็เปนคนหลอกลวงนั้นอีกคนหนึ่งคนอ่ืน ๆ โดยเฉพาะพวกยิวก็คงโจมตีทานในเร่ืองคําสอนของทานเอง เขาไมรับและประณามขาวประเสริฐอันเกี่ยวกับพระเยซูคริสต แตผูอานก็ตอบขอกลาวหานี้ไดเขาทั้งหลายไดพบความเชื่อ ความหวังใจ และความรักทางพระคริสตแลวเขาท้ังหลายจึงรับขาวประเสริฐตามท่ีทานเปาโลนํามา (1 เธสะโลนิกา 1:2-10) เขาทราบวาเร่ืองนั้นจริง และเขาทราบดวยวาทานเปาโลทําไปดวยความจริงใจ นอกเหนือจากที่ทานโมทนาพระคุณพระเจาเพ่ือเขาและท่ีทานอยากจะเห็นเขาแลวทานมีคําอธิษฐานยิ่งใหญใหเขาดวย คือใหเขาทั้งหลายเจริญข้ึนในความเช่ือและ “ใหจําเริญและบริบูรณไปดวยความรักซ่ึงกันและกัน และแกคนท้ังปวง”

(1 เธสะโลนิกา 3: 9-13) ในจดหมายสวนท่ีสอง (1 เธสะโลนิกา บท 4 และ 5) ทานเปาโลหยิบเอาปญหาที่รบกวน

คริสตจักรอยูนั้นข้ึนมาพูด พวกคริสเตียนกลุมนี้เพิ่งออกมาจากชีวิตท่ีนับถือศาสนาอ่ืน เขาท้ังหลายยังขาดความเจนจัดและการฝกฝนทางคริสเตียน เขาไมมีหัวหนาท่ีเจนจัดเปนผูนําเขา ปกติก็ตองมีปญหาเกิดข้ึนวาจะอยูนมัสการอยางไร เขาอาจจะฝากคํานี้มากับทิโมธีวาเขาท้ังหลาย ตองการความชวยเหลือ

84

Page 85: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

ในเร่ืองเชนนี้ก็ได อยางไรก็ตามเม่ือทานเปาโลทราบวาความยุงยากนั้นมีอะไรบาง ทานก็เจตนาจะชวยเขาดวยจดหมายฉบับนี้

เขาท้ังหลายตองการคําตักเตือนอีกคร้ังใหมีมาตรฐานสูงในเร่ืองผัว ๆ เมีย ๆ และเร่ืองชีวิตในครอบครัว (1 เธสะโลนิกา 4: 1-8) การที่จะมีศีลธรรมทางเพศเชนนี้ไมใชเปนคุณธรรมดาในพวกท่ีนับถือศาสนาอ่ืน พวกเขาเปนอันมากท่ีมีชีวิตอยางบริสุทธ์ิสะอาด แตก็มีมากท่ีผิดศีลธรรม ในศาสนาอื่นบางศาสนาเร่ืองอยางนี้เขาไมหาม มีบางศาสนาท่ีเห็นดวยใหปฏิบัติในบางเทศกาล พวกยิวมีคําสอนอยูในพันธสัญญาเดิมในเร่ืองความบริสุทธ์ิทางศีลธรรมอยูแลว และคําสอนทางคริสเตียนก็รับมรดกมา ทานเปาโลคะย้ันคะยอวาคริสเตียนทุกคนตองมีมาตรฐานการดําเนินชีวิตท่ีสูงและไมปลอยตัว และทานไดชักชวนใหมีความรักกันและกันและซ่ือสัตยในงานประจําวันดวย (1 เธสะโลนิกา 4:9,12)

ปญหาอีกขอหนึ่งเกี่ยวกับวันส้ินโลก ความดีและความช่ัวขัดแยงกันอยูเสมอ พระประสงคของพระเจาจะสําเร็จหรือไม ฝายชอบธรรมจะชนะหรือ สําหรับทานเปาโลและบรรดาคนที่เช่ือถือวาพระคริสตทรงเปนพระเปนเจาแหงชีวิต คําตอบก็ตองเปนวาสําเร็จแนและจะชนะแนละ เขาท้ังหลายหวังวาชัยชนะนั้นจะมาในไมชา และเขาทราบวาฤทธ์ิเดชของพระเจาเทานั้นท่ีจะนําชัยชนะมาได

แตเม่ือมีคริสเตียนชาวเธสะโลนิกาบางคนตายไปและวันสุดปลายก็ยังไมมาถึง คนอ่ืน ๆ ก็หยิบปญหานี้ข้ึนมา คนท่ีตายไปซ่ึงเขารักใครนั้นจะมีสวนใดในชัยชนะท่ีจะมาถึงนี้หรือไม เขาจะเขาสวนในการเสด็จกลับของพระคริสตและในชัยชนะเพ่ือพระองคหรือ ทานเปาโลรับรองเขาวาคนท่ีตายแลวจะกลับเปนข้ึนมากอน คริสเตียนทุกคนท้ังท่ียังเปนอยูและท่ีตายแลวจะเขาสวนในความมีชัยข้ันสุดทายอันยิ่งใหญนั้น (1 เธสะโลนิกา 4: 13-18)

ไมมีใครรูไดวาวันท่ีสุดนั้นจะมาถึงเม่ือไร ทานเปาโลหวังวาจะมาเร็ว และคนท่ีกลับใจใหมก็หวังรวมกับทาน ทานบอกเขาใหพรอมอยูแตทานก็มิไดปลอยตัวใหตื่นเตนจนเกินไป ทานทํางาน

คริสเตียนเร่ือยไป และชวนเขาใหทําเชนเดียวกัน เขาท้ังหลายตองเฝาระวังและพรอมอยู แตเขาตองต้ังม่ันคงและอดทนดวย เปนเร่ืองธรรมดาท่ีคนเหลานั้นมองดูวันสุดทายดวยความรอนรนใจ เพราะเขาถูกขมเหงอยูอยางนั้น ถาเขาท้ังหลายสัตยจริงตอความเชื่อและตอกิจการของตน เวลาสุดทายยอมนําความหลุดพนความปลอดภัย และความปล้ืมปติของคริสเตียนทุกอยางมาให ทานเปาโลมีสวนในความหวังในเรื่องการเสด็จมาและวัยชนะของพระคริสต แตทานไมยอมใหเร่ืองนี้กีดกันไมใหทานทํางานอันเปนงานเพื่อพระคริสตอยางดี (1 เธสะโลนิกา 5: 1-22)

จดหมายฉบบัท่ีสอง

จดหมายฉบับเดียวไมพอ ชาวเธสะโลนิกายังไมเขาใจในความตองการเร่ืองชีวิตคริสเตียนสัตยซ่ือและสงบ เขาท้ังหลายไดัรับความประทับใจในถอยคําของทานเปาโล เร่ืองใหเฝาระวังการเสด็จมา

85

Page 86: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

ของพระคริสตและท่ีสุดปลายแหงยุค เขาคิดในเร่ืองนี้มากเหลือเกินจนมีขาวสงเวียนไปในพวกเขาวาวันสุดทายนั้นใกลเขามาแลว บางคนเลิกทํางาน เขาแนใจเสียเหลือเกินจนไมตองหารายได เขาเท่ียวไปกอใหเกิดความต่ืนเตนในเม่ือเขาไมมีเงินรายไดอีกเขาก็กลายเปนภาระของเพ่ือนคริสเตียนดวยกันและเขาก็เปนเหตุใหคนภายนอกเยาะเยยขาวประเสริฐวาเปนแหลงแหงความไมสงบ

ส่ิงท่ีรบกวนทานเปาโลมากท่ีสุดก็คือคนเกียจครานเหลานี้ อางวาจดหมายมาจากทานใหเขากระทําเชนนั้น เขาแถลงวาตามจดหมายของทานวันสุดทายนั้นมาใหทันที เพราะฉะน้ันเขาจึงไมตองทํางานตอไป เร่ืองนี้เขาอาจจะสรุปความเอาตามจดหมายฉบับกอนของทาน ซ่ึงทานชักชวนเขาใหเฝาระวังและเตรียมพรอมอยู เพื่อการเสด็จกลับของพระคริสต แตทานก็ไดตักเตือนเขาดวยวา “จงตั้งเปาวาจะอยูอยางสงบ และจะทํากิจธุระของตนเอง และทําการงานดวยมือของตัวเอง” (1 เธสะโลนิกา 4:11) ดังนั้นทานจึงสงสัยหรือแนใจวาบางคนอาจปลอมจดหมายในนามของทานเพื่อจะบอกสงท่ีทานไมเคยสอนเลย

จึงประจักษวาจดหมายฉบับท่ีสองนี้เปนส่ิงท่ีเขาตองการ พอทานทราบสถานการณทานก็เขียนทีเดียว นี่อาจจะเปนเวลาหลังจากฉบับท่ีหนึ่งเพียงสองสามเดือนก็ได ประการแรกทานโมทนาขอบพระคุณพระเจาท่ีพวกคริสเตียนชาวเธสะโลนิกา แมจะถูกขมเหงเพราะความเช่ือของเขา ยังสัตยซ่ือและภักดีตอไป ทานรับรองกับเขาวา พระเจาจะทรงประทานพระพรแกเขาท้ังหลายซ่ึงจะกระทําใหความลําบากทุกอยางมีคาควรอดทน (2 เธสะโลนิกา 1:3-12) แลวทานก็ทบทวนวา เม่ือทานอยูกับเขาทานไดส่ังสอนเขาวา เหตุการณขัดแยงกับพระเจาจะมีมาอีกกอนท่ีเวลาสุดทายจะมาถึง เขาจึงไมควรรอนใจเกินไป หรือคิดวาวันสุดทายนั้นมาถึงแลว พระคริสตจะเสด็จมา พระราชกิจของพระองคจะมีชัย แตจะมีชัยในเวลาของพระเจาเอง (2 เธสะโลนิกา บท 2) ท่ีใหเขาแนใจเชนนี้ชวยใหยึดม่ันโดยไมกระวนกระวาย หนาท่ีคริสเตียนของเขาก็คือใหยึดม่ันในความเช่ือและใหดํารงชีวิตแตละวันเปนคนที่ชวยเหลือคนอ่ืนและภักดี ทุกคนควรทํางาน ทํามาหากินเล้ียงตัวเอง และยังมีขาวของเหลือเพ่ือชวยเหลือคนชัดสน มิใชเพราะความผิดของตนเอง ( 1 เธสะโลนิกา บท 3)

เพื่อใหแนใจเขาจะไมฟงจดหมายปลอม เม่ือทานเปาโลบอกจดหมายน้ันแลว จึงเขียนเพิ่มดวยมือเองเปนคําคํานับและคําอธิษฐานเพื่อผูอานท้ังหลาย (2 เธสะโลนิกา 3: 17, 18) ตอนน้ีใชตางลายเซ็นของทาน ซ่ึงใชเปรียบเทียบกับจดหมายอ่ืน ๆ ใหรูวาฉบับใดเปนจดหมายของทานแท ๆ

ดํารงชีวิตอยูในความเชื่อของคริสเตียน

มีความเช่ือยิ่งใหญฝายคริสเตียนส่ีประการเดนอยูในจดหมายสองฉบับนี้ ประการแรกและสําคัญท่ีสุด คริสเตียนตองวางใจในพระเจา ในพระองค เขาจะเห็นหลักความเช่ือ ความหวังใจของเขามิไดสรางบนความปลอดภัยภายนอก ท้ังทานเปาโลและชาวเธสะโลนิกาทราบแลววาการขมเหงและการ

86

Page 87: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

ทดลองมีความหมายอยางไร เขาจะวางใจในความสามารถของเขาเองไมได เขาไมสามารถเพียงพอท่ีจะจัดการกับโลกนี้ กับความตาย และการท่ีจะมาถึง มูลฐานแหงความวางใจของเขาคือพระเจาพระองคมีพระทัยดีและทรงฤทธ์ิ ทรงอยูกับเขาและชวยเขาใหผานพนการทดลองทุกอยาง และนําเขาสูชัยชนะบ้ันปลายและมีมิตรภาพในอาณาจักรของพระองค (1 เธสะโลนิกา 5: 9, 23, 24; 2 เธสะโลนิกา 1:11, 12; 2:16, 17; 3:3) พระเจามิไดทรงยกเวนพวกคริสเตียนวาเขาไมตองตอสูในชีวิต แตทุกคนท่ีวางใจในพระองค พระองคจะทรงประทานกําลังเพ่ือทนเอาได และทรงนําและทรงหนุนใจใหเลือกส่ิงท่ีถูกตอง และทรงสัญญาวาจะทรงชวยในท่ีสุดใหพนจากความช่ัวและการทดลง

ฉะนั้นในประการที่สอง ขาวประเสริฐคริสเตียนจึงเปนขาวแหงความหวัง เพราะวาพระเจาทรงสัตยซ่ือ คริสเตียนจึงปลอดภัยถาเขาวางใจในพระบิดาของเขา เขาอาจตองเผชิญกับอนาคตท่ีไมแนอน มิใชดวยความทอถอยมิใชดวยความสงสัย แตดวยความเช่ืออยางเต็มเปยมวาชีวิตของตนอยูในพระหัตถอันเลิศท่ีสุด เขาก็อยากจะใหอาณาจักรของพระเจามาโดยเร็วและโดยสมบูรณ แตโดยทราบอยูชัยชนะของพระคริสตเปนของแน เขาจะอดทดรอคอยและปรนนิบัติคริสตจักรชวยเหลือเพื่อนมนุษยดวยกัน (1 เธสะโลนิกา 1: 3, 4; 4:13, 14; 5:8-11)

ฉะนี้แหละความวางใจเชนนี้ในพระเจาจึงใหผลเปนความมั่นคง และน่ีเปนความสําเร็จอยางใหญหลวง ไมเปนการยากท่ีจะกาวหาญและทําถูกตองในเวลาอันส้ัน แตท่ีจะใหคงเสนคงวาและทําบริการของพระคริสตเร่ือยไปวันแลววันเลาไดนั้นตองมีแหลงพลังอยางใหญโตทีเดียวจึงจะทําไปไดกําลังนั้นมิไดอยูในมนุษย เปนส่ิงท่ีพระเจาทรงประทาน และโดยฤทธ์ิเดชของพระเจามนุษยจึงจะม่ันคงอยูได ถึงแมจะมีการขมเหงคนของพระเจาก็ยึดม่ันอยูในความเช่ือของเขาได แมวาถูกเยาะเยย เขาก็มีความยินดีในความเช่ือท่ีเขารับ และกระทํากิจในชุมชนคริสเตียนท่ีเขามีสวนรวมอยู (2 เธสะโลนิกา 1: 3, 4; 3:5)

แลวอีกประการหนึ่ง งานเปนคุณนั้นก็แจงอยูตามจดหมายน้ี เฉพาะอยางยิ่งในจดหมายฉบับท่ีสอง ฟงดูเปนเร่ืองเริงรมยวาวันใหญนั้นจะมาถึงดูเหมือนเลื่อมใสศรัทธาดีท่ีจะเท่ียวพูดไปถึงเร่ืองสิทธิยิ่งใหญท่ีพระเจาจะทรงประทาน มีความหวังอยางนี้ก็ดีเหมือนกัน ดูคริสเตียนเช่ืออยางจริงจังในเร่ืองแผนงานของพระเจาจะมีชัยในข้ันสุดทาย แตมิไดอนุญาตใหคริสเตียนทราบวาวันนั้นจะมาถึงเม่ือไร ในระหวางเวลานั้นเขาจะตองรับผิดชอบทางสังคม เขาตองไมคิดแตเพียงเอาตัวรอด แตตองจัดหาใหครอบครัวของตัวและสําหรับคนอ่ืนผูประสบวิบัติและความขัดสน (1 เธสะโลนิกา 4: 9-11; 2 เธสะโลนิกา 3: 6-13)

ฉะนั้นแหละงานสุจริตจึงมีสวนสําคัญในชีวิตคริสเตียน นี่เปนส่ิงท่ีปองกันเขาไมใหไปเท่ียวยุงแลกอกวน กระทําใหตัวเขาเปนบุคคลท่ีนานับถือในสังคม กระทําใหเปนสหายท่ีคอยชวยเหลือผูอ่ืน เม่ือ

87

Page 88: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

ทานเปาโลอยูในเธสะโลนิกาทานไดทํางานเล้ียงตัวเอง (1 เธสะโลนิกา 2: 9, 2 เธสะโลนิกา 3:7-9) ดวยวิธีนั้นเอง ทานไดใหตัวอยางแกพวกคริสเตียนในนครนั้น เปนตัวอยางใหเห็นวางานเปนส่ิงมีเกียรติ ในเร่ืองนี้และด่ังในส่ิงอ่ืน ๆ อีกหลายส่ิง ทานมีความเช่ืออันลึกซ้ึง และกระทําบริการอยางไมรูจักเหน็ดเหนื่อยแกคริสตจักรอีกท้ังมีสามัญสํานึกในการปฏิบัติงานดวย

แนะการอาน ขอสังเกตวาคําอธิษฐานเผ่ือผูอาน แบงจดหมายแตละฉบับใหเปนสวนตนท่ียาวและเปนสวนจบท่ีส้ัน (1 เธสะโลนิกา 3: 11-13 2 เธสะโลนิกา 2:16, 17)

มีเร่ืองการกลาวหาอะไรในตัวทานท่ีทานเปาโลไดตอบในจดหมายสองฉบับนี้ ทานตอบเร่ืองเหลานี้อยางไร ทานเปาโลไดกลาวถึงเร่ืองความยุงยากและปญหาอะไรบางท่ีมีในนครเธสะโลนิกา

ขอความสําคัญเร่ืองการดํารงชีวิตคริสเตียน คือ 1 เธสะโลนิกา 4: 9-12; 5:12-22 ส่ิงสําคัญตองอานจดหมายท้ังสองฉบับนี้และจดหมายอ่ืน ๆ ใหจบเปนฉบับ ๆ ไป ถาเปนได

เม่ือนั่งอานคร้ังหนึ่ง ๆ ก็ใหจบฉบับหนึ่งเปนส่ิงท่ีคนซ่ึงไดรับจดหมายเหลานั้นเขาอานกัน

88

Page 89: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

บทที่ 10 จดหมายถึงชาวกาลาเทีย

อะไรทําใหทานเปาโลสําคัญอยางนั้น สวนหน่ึงก็คือความเช่ืออันลึกซ้ึงและความกระตือรือรนอยางไมออนระอาซ่ึงทานแสดงในทุกท่ีทานกระทํา เพราะความสามารถและความรอนรนทํางานทานจึงจําตองเปนผูนําอยางแนนอน ขณะท่ียังเปนปฏิปกษกับพวกคริสเตียนอยูทานก็ “รอยรนมากยิ่งกวาเขา” (กาลาเทีย 1:14) และเปนผูนําในการขมเหงพวกสาวก พอทานกลับใจเสียใหม “ทานไมไดรีรอ ทานไดประกาศ.... กลาวเร่ืองพระเยซู” (กิจการ 9:20) และจากนั้นไปทานก็ใชโอกาสทุกคร้ังเร่ือยมาท่ีจะเทศนาเร่ืองขาวประเสริฐ กิจกรรมท่ีเขมขนและไมหยุดยั้งอยางนี้กระทําใหทานเปนบุคคลสําคัญ

กิตติคุณแผออกไปถึงชนตางชาติ

ทานเปาโลเปนคนสําคัญคนหนึ่งของโลก ประการสําคัญก็เพราะงานเดนของทานในการประกาศศาสนาแกชนตางชาติ ทานไมใชคริสเตียนคนแรกท่ีทําการนี้ กอนท่ีทานไดกลับใจใหมคนอ่ืนก็ไดเตรียมทางไวสําหรับงานประกาศท่ัวโลกแลว ทานสเทฟาโนเห็นวาพระวิหารและธรรมบัญญัติของโมเสสไมใชทางท่ีแทซ่ึงนําไปสูความรอด (กิจการ 6:13,14 ;7: 48,53) ฟลิปเทศนาใหชาวสะมาเรียและชาวอายทิโอบฟง (กิจการ 8:5-40) ทานเปโตรรับการทรงนําซ่ึงดูคานกับความโนมเอียงของทานใหไปเทศนาแกทานโคระเนลิโอและครัวเรือนของเขาซ่ึงเปนคนตางชาติ (กิจการบท 10) กลาแข็งยิ่งกวานี้คือเร่ืองท่ีกอข้ึนท่ีอันทิโอเปยในซีเรีย ท่ีนั่นมีท้ังพวกยิวและชนตางชาติท่ีเขามารับพระคริสต และเขาอยูกนัอยางฉันพี่นองโดยไมตองใหพวกตางชาติรักษาพิธีจารีตของพวกยิว เร่ืองนี้เกิดข้ึนกอนหนาทานเปาโลไดเปนสวนหนึ่งของกลุมของกลุมอันทิโอเปย ทานเขามาทีหลังเพื่อชวยบารนาบา (กิจการ 11:19-26)

อัครทูตผูไปสอนชนตางชาติ

ถึงกระนั้นทานเปาโลก็เทศนากวางขวางกวา และนําชนตางชาติใหมารับพระคริสตมากกวา คริสเตียนคนอ่ืน ๆ ในสมัยของทาน คร้ังแรกก็ไปพรอมกับบารนาบา แลวก็ไปคนเดียวเปนคนกรุยทางท่ีสําคัญ ทานออกทองเท่ียวเทศนาไปอยางกวางขวาง นี่มิใชเพียงแผนงานสวนตัวของทานเอง พระวิญญาณของพระเจาทรงนําพวกผูนําของอันทิโอเปยใหสง “ผูพยากรณและอาจารย” ท่ีเขมแข็งท่ีสุดของเขาสองคนออกไปทํางานคือบารนาบากับเซาโล (กิจการ 13:1-3) แมวาเม่ือเขาออกไปเขาก็ยังไมทราบวางานประกาศของเขาตอชนตางชาติจะเปนงานท่ีใหญโตท่ีสุดแตเม่ือไปยังหลายหัวเมืองแลว และพวกยิวปฏิเสธอยางดึงดันไมยอมรับเช่ือขาวประเสริฐ ฝายพวกตางชาติไดฟงและรับพระคริสต พวกนักเทศนาก็ไมหยุดการพูดกับพวกยิว แตเม่ือเร่ืองนี้ลมเหลวลง เขาก็หันไปหาคนตางชาติและมีหลายคนท่ีมีเช่ือถือ

89

Page 90: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

ฉะนี้คริสตจักรท่ีเกิดข้ึนมาจึงเปนของชนตางชาติเปนสวนมาก ดั่งท่ีเราเห็น ถาชนตางชาติเหลานี้รับธรรมบัญญัติของพวกยิวทันที และปฏิบัติตามพิธีการของพวกยิวทุกอยางคงไมมีพวกยิวคนใดขัดขวาง แตทานเปาโลกับบารนาบาไมไดบังคับอยางนี้ พวกยิวคริสเตียนบางคนจึงถามข้ึนวา ชนตางชาติจะเปนคริสเตียนท่ีแทไดอยางไรในเมื่อเขาไมยอมรักษาธรรมบัญญัติและจารีตของพวกยิว ฝายทานเปาโลเปนนักเทศนท่ีมีช่ือเดนท่ีสุดในชนตางชาติอยูแลว การโจมตีก็ตกหนักอยูท่ีตัวทาน วิกฤติกาลเกิดข้ึนเม่ือพวกยิวคริสเตียนมาท่ีอันทิโอเปยในซีเรีย และย้ําวาคนตางชาติทุกคนท่ีเช่ือถือพระคริสตตองรักษาธรรมบัญญัติของพวกยิว ทุกคนจะตองรับพิธีเขาสุหนัต (กิจการ 15: 1)

แตสภาในกรุงเยรูซาเล็มซ่ึงมีเร่ืองบรรยายไวในหนังสือเลมนี้บทท่ี 8 นําเอาปญหานี้ข้ึนมามาก บรรดาพวกอัครทูตตกลงกันวา ชนตางชาติท่ีเปนคริสเตียนไมจําเปนตองรักษาระบบบัญัญัติของพิธีการ แมทานเปาโลไมเคยกลาวไวก็ปรากฏวา เพื่อจะมิใหเปนท่ีขัดใจพวกยิวท่ีเปนคริสเตียนเขารองขอใหพวกคริสเตียนท่ีเปนชนตางชาติถือรักษาขอบังคับบางประการ เร่ืองใหญคือบทบัญญัติวาดวยเร่ืองอาหาร เชนอยางสมัยนี้ในท่ีประชุมสัมพันธเม่ือมีคนยิวอยูดวย พวกคริสเตียนก็ไมใชเนื้อหมูประกอบเปนอาหาร แตท่ีประชุมสภาไมรับความเห็นท่ีใหชนตางชาติถือรักษาจารีตของพวกยิวเพื่อจะไดความรอด ดูเหมือนปญหานี้ตกลงกันเรียบรอยแลว (กิจการ 15: 1-29)

แตการโตเถียงยังคงดําเนินตอไป บรรดาเหลานั้นท่ีคะยั้นคะยอวาคริสเตียนทุกคนตองรักษาธรรมบัญญัติก็ยังขัดขวางทานเปาโลตอไป เขาติดตามทานเขาไปในทองถ่ินซ่ึงทานทํางานประกาศและการปะทะกันก็มาถึงข้ันสุดยอดในเขตแควนของโรมคือกาลาเทีย ท่ีในตอนกลางของอาเซียไมเนอร ในส่ีหัวเมืองคือ อันทิโอเปย อิโคนิโอน สุซทรา และเดรเบ ทานเปาโลไดตั้งคริสตจักรเม่ือทานออกประกาศรอบแรก (กิจการบท 13,14) แมในการประกาศคร้ังแรกน้ัน ความเปนศัตรูท่ีพวกยิวตอทานเปาโลก็เขมแข็งทานถูกประณาม ถูกขับไล และถูกเอาหินขวาง พวกยิวท่ีเปนคริสเตียนใหมเปนคนรอนรนในเร่ืองธรรมบัญญัติไดมาท่ีกาลาเทียเพื่อพยายามท่ีจะทําลายอิทธิพลของทานเปาโลและเอาชนะคริสตจักรใหหันมาตามแนวความคิดของพวกตน

การโจมตีทานเปาโล

ทําไมยิวท่ีเปนคริสเตียนเหลานี้จึงตอสูกับทานเปาโล ก็เพราะประจักษวาเขาพบคําสอนของทานบางขอท่ีกระทบกระเทือนลัทธิยิวนิยมซ่ึงเขาท้ังหลายไดรับมรดก ถาเราจะจับไดวาเปนเร่ืองอะไร เราก็จะเขาใจจดหมายของทานท่ีมีไปถึงคริสตจักรกาลาเทีย และทราบไดวาจดหมายน้ันมีความหมายอะไรสําหรับเรา

ท่ีพวกยิวเปนศัตรูอยางขมข่ืนนั้นพิสูจนใหเห็นวาทานเปาโลมิไดเรียกรองใหชนตางชาติ เปนยิวเสียเต็มตัวกอนแลวจึงจะเปนคริสเตียนไดเม่ือทานประกาศกิตติคุณ ทานขอใหผูฟงไมวาเปนพวกยิว

90

Page 91: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

หรือชนตางชาติใหหันจากความผิดท้ังส้ิน มีความเช่ือเต็มขนาดในพระคริสตผูทรงนําการไถบาปของพระเจามาสูมนุษย และใหดํารงชีวิตดวยความเช่ือในพระเจาและมีความรักมนุษย ส่ิงนี้มนุษยทําไดโดยฤทธ์ิเดชที่พระวิญญาณของพระเจาทรงประทานให ยิวท่ีเปนคริสเตียนจะปฏิบัติตามจารีตของพวกยิวเร่ือยไปได ท่ีจริงทานเปาโลก็ไดกระทําอยูบอย ๆ ตราบใดท่ีการกระทํานั้นไมทําลายมิตรภาพของคริสตจักร แตทานเปาโลไมไดขอใหคนตางชาติกระทําเชนนั้น

ขอนี้เปนส่ิงปฏิปกษของทานเปาโลประณาม ไมตองสงสัย เขากระทําไปดวยความจริงใจ ดั่งท่ีทานเปาโลกระทําเม่ือทานขมเหงพวกคริสเตียนกอนท่ีทานกลับใจใหม เขาท้ังหลายคิดวาเปนหนาท่ีของเขาท่ีจะยับยั้งส่ิงท่ีทานเปาโลกระทํา และแสดงแกพวกท่ีกลับใจตามทานเปาโลวาเขาผิดไปอยางไร แลวเขาบอกชาวกาลาเทียวาอยางไร

เขากลาวหาเปนเร่ืองสําคัญสามประการ ประการท่ีหนึ่ง เขาเพงเล็งเอาตัวทานเปาโลทีเดียว เขาอางเสริมความวาทานเปาโลไมใชอัครทูตที่แทจริง ทานมิไดอยูกับพระเยซูในกาลิลีและไมไดไปกรุงเยรูซาเล็มกับพระองค ทานไมไดคนหน่ึงในพวกสิบสองคน เพราะฉะน้ันทานจึงไมมีสิทธ์ิท่ีจะดํารงตําแหนงอิสระในคริสตจักรหรือเปนคนมีสิทธิอํานาจท่ีจะบอกคริสตจักรไดวาขาวประเสริฐนั้นคืออะไร เพราะวาคําสอนของทานนั้นตองอาศัยอัครทูตรุนเดิม ในเม่ือทานไมดําเนินตามคําสอนและวิถีชีวิตของพวกอัครทูตโดยครบถวน ทานก็เปนพวกทรยศตอวิถีทางของคริสเตียนจะนับถือทานตอไปไมได

นอกจากโจมตีสิทธิอํานาจของทานเปาโลแลว ปฏิปกษของทานก็ประกาศวาขาวประเสริฐท่ีทานสอนไมใชขาวแทจริง ในพันธสัญญาเดิมพระเจาทรงประทานธรรมบัญญัติใหเปนมาตรฐาน นิรันดร ไมมีใครจะมาลมเลิกเสียได ธรรมบัญญัติใหผูชายทุกคนท่ีเปนชนชาติของพระเจาตามพันธสัญญารับพิธีเขาสุหนัต (ปฐมกาล 17:9-14) ใหถือเทศกาลเล้ียงบางอยางและถือพิธีกรรมอ่ืน ๆ อีก ผูท่ีจะเปนชนชาติของพระเจาเขาตองรักษาธรรมบัญญัติเหลานี้ เหตุฉะนั้นคริสเตียนทุกคนตองถือธรรมบัญญัติ ดูเหมือนทีแรกพวกปฏิปกษก็มิไดเรียกรองเอาถึงเทานี้ เขาเร่ิมตนโดยใหพวกกาลาเทียถือเทศกาลเล้ียงตาง ๆ กอน (กาลาเทีย 4:10) กอนถึงเวลาที่ทานเปาโลเขียนจดหมายเขาก็คืบหนาย้ําใหรับพิธีเขาสุหนัต แตทานเปาโลเห็นวาเขากําลังคืบคลานไปในเร่ืองท่ีจะใหถือธรรมบัญญัติท้ังหมดจึงจะรอดสอใหเห็นวาคนท่ีเปนคริสเตียนตองกระทําท้ังหมดท่ีกลาวธรรมบัญญัติไวในเม่ือทานเปาโลไมเรียกรองใหชนชาติถือธรรมบัญญัติเชนนี้ ศัตรูของทานก็ประมาณทาน

ขอโจมตีประการท่ีสามคือผลศีลธรรมอันเนื่องมาจากคําเทศนาของทานเปาโล ลัทธิยิวนิยมย้ําเสมอวาตองมีการประพฤติชอบธรรมจึงจะถือวาเปนการเช่ือฟงตามน้ําพระทัยของพระเจา ปฏิปกษของ

91

Page 92: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

ทานเปาโลกลัววา ถาธรรมบัญญัติไมมีอํานาจเหนือคนแลวก็จะเกิดผลใหคนมีชีวิตผิดศีลธรรมและหละหลวม เขาถือวาธรรมบัญญัติเปนส่ิงจําเปนท่ีจะชวยใหการดําเนินชีวิตดีได

ขอกลาวหาสามประการนี้มีผลอยางนาตื่นตกใจ พวกคริสเตียนชาวกาลาเทียก็ไดรับความประทับใจ เขาตองการที่จะมีขาวประเสริฐท่ีแทจริง และความกระตือรือรนแหงปฏิปกษของทานเปาโลก็มีอิทธิพลเหนือเขาท้ังหลาย เขาขาดความเจนจัดและการอบรมและเร่ิมท่ีจะยอมตามศัตรูของทาน เขาท้ังหลายเร่ิมปฏิบัติตามเทศกาลเล้ียงของพวกยิว เขามีความปล้ืมปติในงานเทศกาลเล้ียงอยางนี้ได เขาเกือบพรอมท่ีจะรับพิธีเขาสุหนัตอยูแลว เพราะธรรมบัญญัติมีไวเชนนั้น และมีคนบอกเขาวาถาจะใหตัวรอดเขาตองกระทําตามท่ีบัญญัติระบุไว

เม่ือทานเปาโลไดยินถึงทาทีของพวกเขาทั้งหลาย ทานทราบวาคริสตจักรกําลังเผชิญกับวิกฤติกาล มีสถานการณท่ีการติดสินใจของคนคนเดียวจะช้ีความเจิรญในอนาคตของคริสตจักร และน่ีก็เปนโอกาสเชนนั้นมีเวลานอย ทานตองเขียนทันทีเพื่อมิใหเหตุการณนั้นพลาดยิ่งข้ึนไปอีกฉะน้ันในราว ค.ศ. 51 หรือ 52 ท่ีเมืองโครินธหรือท่ีเอเฟซัสก็อาจเปนไดในเวลาตอมาอีกสองป ทานไดเขียนจดหมายดวนและสําคัญยิ่งฉบับนี้

คําตอบตอสูของทานเปาโล

ตั้งแตบรรทัดตนทีเดียวทานเปาโลไดโจมตีการสอนเท็จของพวกปฏิปกษ เม่ือเขียนถึงชาว เธสะโลนิกาทานเปนแตออกช่ือเจาของจดหมายในตอนตนแตฉบับนี้เพื่อตอบปฏิปกษของทานทันทีทานกลาววา ตัวทานเปนอัครทูตท่ีพระเจาทรงแตงต้ังแน พวกคริสเตียนท่ีอยูกับทานเห็นดวยในขอท่ีทานพูด ฉะนั้นทานจึงออกชื่อเขาวาเปนเจาของจดหมายดวย เม่ือทานอธิษฐานเพ่ือใหผูอานไดรับพระพรฝายคริสเตียน อันประกอบดวยพระคุณและสันติสุขของพระเจา ทานช้ีแจงวามนุษยจะทําใหไดพระพรเหลานี้มาเองโดยการรักษาธรรมบัญญัตินั้นไมได เปนส่ิงท่ีพระเจาทรงประทานแกคนบาป โดยมรณาภาพพระคริสตพระเจาทรงชวยเราใหรอดจากยุคอันช่ัวชานี้ พอเร่ิมตนทานก็ตอสูเพื่อตําแหนงอัครทูตของทาน และช้ีแจงวาคริสเตียนรอดจริง ๆ อยางไร (กาลาเทีย 1: 1-5)

แทนท่ีจะเปนคําโมทนาและคําสรรเสริญอยางเคย ทานเปาโลไดขนาบชาวกาลาเทียอยางตรง ๆ ทีเดียวในการที่เขาพรอมท่ีจะเลิกความเช่ืออันแทจริงของคริสเตียนเสีย (กาลาเทีย 1: 6-10) ทานตักเตือนเขาอยางดุ ๆ วาการท่ียอมอยางนี้จะนําความพินาศมาถึงเขาท้ังหลาย การท่ีจะท้ิงความจริงเสียนั้นเปนเร่ืองเคราะหราย

แลวทานเปาโลก็หันไปตอสูขอกลาวหาสามขอท่ีเขาเลนงานทานเพ่ือแสดงวาทานไดรับขาวประเสริฐจากพระคริสตและทานเปนอัครทูตท่ีสัตยซ่ือและจริง ทานไดกลาวถึงประวัติชีวิตของทานทีละข้ัน ๆ (กาลาเทีย 1:11 ถึง 1:21) ถึงแมวาทานเปนผูขมเหงเขา พระเจาทรงใหทานกลับใจเสียใหมตรง

92

Page 93: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

ขามกับท่ีทานควรจะไดรับ ทานจึงเร่ิมเทศนาขาวประเสริฐทันที ทานไมไดรอคอยใหพวกท้ังสิบสองส่ังสอนหรือลงความเห็นชอบ และงานของทานก็เกิดผลแสดงวาพระเจาทรงเห็นชอบ แมวาในเขตแควนยูดาหพวกคริสเตียนก็ทราบถึงงานของทานและโมทนาพระคุณพระเจาเพราะตัวทานเม่ือเกิดการโตเถียงกันถึงเร่ืองการรับชนตางชาติเขาในคริสตจักรอัครทูตท่ีกรุงเยรูซาเล็มก็เห็นชอบกับขาวประเสริฐของทาน เม่ืออยูท่ีคริสตจักรอันทิโอเปยในซีเรีย เปโตรและบารนาบาก็โอนเอนและเพราะเห็นแกบทบัญญัติเร่ืองอาหารของพวกยิว ทําใหคริสตจักรท่ีนั่นแตกแยกกัน สวนทานเปาโลยืนหยัดม่ันคงอยู ทานไดช้ีแจงแกเปโตรวาพวกยิวและชนตางชาติก็ลมเหลวเหมือนกัน จึงจําเปนตองพึ่งในพระคุณของพระเจายอมเปนการผิดท่ีจะขอใหพวกตางชาติถือธรรมบัญญัติซ่ึงพวกยิวเองไมสามารถท่ีจะถือรักษาได

ฉะนั้นการตอสูเร่ืองตําแหนงอัครทูตนําไปสูการตอสูเร่ืองขาวประเสริฐของทาน และทานก็กลาวถึงอุดมคติของทานอยางแข็งขัน (กาลาเทีย 3 และ 4) มนุษยทุคนลมเหลว เขากระทําบาป นี่เปนมูลฐานแหงความคิดของทานเปาโลเร่ืองวิถีของความรอด ถาเราจําเปนตองปฏิบัติตามธรรมบัญญัติกอนแลวจึงจะไดความรอด เราก็คงไมรอดสักคน เพราะเราทําบาป ฉะนั้นมนุษยทุกคน ทุกชาติ มีความตองการเหมือนกันและธรรมบัญญัติก็ชวยไมได ธรรมบัญญัติสัญญาวาคนใดท่ีรักษาพันธสัญญาของพระเจาจะไดรับพระพร คือผูท่ีกระทําตามพระทัยพระเจา แตเนื่องจากมนุษยทําบาป เขาจะอางเอาพระพรเหลานั้นไมได มนุษยทราบอยูแลววาเขาควรกระทําตามนํ้าพระทัยของพระเจา แตถาเขาสัตยซ่ือเขาก็ทราบวาเขาทําไปไมสําเร็จ ธรรมบัญญัตินั่นแหละท่ีทําใหเกิดความส้ินหวัง

นี่เปนขอท่ีวาทําไมทานเปาโลจึงตอตานอยางแข็งแรงตอขอเรียกรองใหชาวกาลาเทียรักษาพิธีเทศกาลเล้ียงและรับพิธีเขาสุหนัต ทําไมคนมาขอใหเขาทั้งหลายทําส่ิงเหลานี้ ปฏิปกษของทานเปาโลก็ตอบวา เพราะธรรมบัญญัติบังคับไว และการท่ีจะรับพระกรุณาจากพระเจา คนเราก็ตองปฏิบัติตามธรรมบัญญัติ แตความยากลําบากอยูตรงนี้ มนุษยเราเห็นแลววาเขาจะกระทําทุกอยางท่ีธรรมบัญญัติบังคับไวไมได เขาทําลายส่ิงตามท่ีบังคับนั้นได แตเขาทราบวาความคิด ถอยคํา และการกระทําของเขาไมใครสะอาด ไมใครสัตยซ่ือ และไมเปนท่ีชวยเหลืออยางท่ีควรจะเปน

เพราะฉะน้ันตองการวิธีอ่ืน และตรงนี้เองขาวประเสริฐไดเสนอให เพราะพระเจาประเสริฐ พระองคก็ทรงประทานการอภัยแกมนุษยผูท่ีลมเหลว ผูท่ีรอไมไดโดยธรรมบัญญัติ ใหเขาเหลานี้มีมิตรภาพกับพระองคเพื่อใหไดชีวิตใหม พระองคทรงขอใหมนุษยเสียใจท่ีเขาลมเหลวและใหมีความเชือ่อยางเต็มเปยมและอยางจริงใจในพระคริสต และดําเนินชีวิตดวยความรักของคริสเตียนโดยฤทธ์ิเดชแหงพระวิญญาณของพระเจาการท่ีะบังคับใหปฏิบัติตามธรรมบัญญัติ มิใชเปนการบังคับใหกระทําส่ิงท่ีกระทําไมไดเทานั้น แตเปนการบดบังความจริงท่ีวาพระเจาทรงชวยมนุษยทางพระคริสตเสียดวย แมในพันธสัญญาเดิมพระเจาก็ทรงช้ีทางแหงความเช่ือวาเปนทางแหงความหวังของมนุษย (กาลาเทีย 3: 6-9)

93

Page 94: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

ความตองการเปนเร่ืองของสากล ทางแหงความเช่ือและความรักเปนทางท่ีใหวิถีแหงความรอด ไมเกี่ยวของกับชาติหรือจารีตของพวกยูดาห นี่เปนขาวประเสริฐสากล เสนอใหพวกยิวและชนตางชาติ เหมือนกันไมมีเปดชองใหแกความแตกตางระหวางชาติหรือคําอางใด ๆ วามนุษยชวยตัวเขาเองไดดวยส่ิงท่ีเขากระทํา

ยังมีขอกลาวท่ีสามท่ีทานเปาโลกลาวตอบ คือชีวิตใหมแหงความเช่ือและความรักเปนท่ีแข็งแรงทางศีลธรรม (กาลาเทีย 5:1 ถีง 6:10) บทบัญญัติเปนชุด ๆ ไมชวยขบปญหาศีลธรรมของมนุษย เขาจะตองเปนคนชอบธรรมภายใน เขาจะตองเปนอิสระพนจากความปรารนาท่ีช่ัวและนิสัยช่ัว เขาตองมีหัวใจท่ีตั้งไวเพื่อมนุษยหาความดี เขาจะตองมีจิตแหงความรักเปนผูนํา ชีวิตแหงความเช่ือใหส่ิงเหลานี้ท่ีมนุษยตองการ “ความเช่ือตางหากซ่ึงกระทํากิจดวยความรัก” เปนภาพของทานเปาโลเร่ืองชีวิตคริสเตียน (กาลาเทีย 5:6) ชีวิตนี้มีอิสรภาพคืออิสรภาพพนจากขอบังคับซ่ึงสักแตวาบังคับ และจากกํามือของบาปและความช่ัว มีความรักแท คือ ความหวังดีแกผูอ่ืนอยางจริงใจ เปนชีวิตท่ีมีฤทธ์ิเดช เพราะวิญญาณของพระเจาเปนกําลังของชีวิตนั้น เพราะฉะนั้น “ผลของพระวิญญาณนั้นคือความรัก ความเปรมปรีดิ์ สันติสุข ความอดกล้ันไวนาน ความปรานีความดี ความสัตยซ่ือ ความออนสุภาพ การรูจักบังคับตน” (กาลาเทีย 5:22,23)

แมวาทานลูกามิไดบอกอะไรเร่ืองความยุงยากในเมืองกาลาเทียไวในพระธรรมลูกา แตความจริงวา จดหมายนั้นถูกเก็บรักษาไว และคริสตจักรนั้นก็ยังคงต้ังอยู สอใหเห็นวาจดหมายนั้นไปถึงทันเวลามีฤทธ์ิเดชมากท่ีนําพวกกาลาเทียใหเห็นชอบกับทานเปาโล เปนท่ีประจักษวาทานเปาโลเช่ือวาจะเกิดผลอยางนี้ เม่ือทานบอกคําบอกจดหมายน้ันทานหยิบปากกาข้ึนมาเพื่อเพ่ิมขอความสรุป

(กาลาเทีย 6: 11-28) ทานสรุปอุดมคติของทานดวยสําเนียงที่สงบกวาเดิม แมจะยังเปนเสียงดุ ทานก็พูดอยางแนใจวาเขาจะฟงถอยคําของทานดวยความเคารพ แตความจริงวาจดหมายฉบับอ่ืน ๆ ของทานเปาโลไมมีตอนสรุปยืดยาวอยางนี้เลย ยอมแสดงวาทานคิดวาปญหานี้สําคัญเพียงใด และทานเจตนามากเพียงใดท่ีจะชวยชาวกาลาเทียใหพนจากความผิดท่ีเคราะหรายนั้น

ขาวท่ียืนนาน

ทานเปาโลเขียนเร่ืองสถานการณโบราณเฉพาะอยาง และบางส่ิงท่ีทานพูดก็เปนเร่ืองเขาใจยาก แตจดหมายฉบับนี้กลาวถึงความเช่ือของคริสเตียนอันเปนศูนยกลางดวยฤทธ์ิเดช ฉะนั้นจดหมายน้ีจึงมีอิทธิพลใหญหลวงในเวลาท่ีคริสตจักรอยูในระยะเขาดายเขาเข็ม ตัวอยาง ในตอนสมัยปฏิรูป จดหมายนี้เปนความสวางและการบอกทางใหแก ลูเถอร แคลวินและคริสเตียนคนอ่ืน ๆ ผูแสวงหาหัวใจของขาวประเสริฐ

94

Page 95: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

จดหมายน้ีพูดถึงขาวของพระคุณ ความหวังของมนุษยมิไดอยูในตนเองแตอยู ท่ีพระเจา พระเจาทรงประทานทุกอยางตามความตองการของมนุษยในองคพระเยซูคริสตแลว พระองคทรงประทานอภัยและใหคนท่ีมาหาพระองคคืนสูสภาพดี พระองคทรงประทานใหผูท่ีเชื่อถือไดรับความอุปถัมภและฤทธ์ิเดชที่จะดํารงชีวิตสนิทสนมกับพระเจาและมีภราดรภาพกับเพื่อนมนุษยดวยกัน

เพราะฉะน้ันจดหมายนี้จึงพูดถึงความเช่ือศรัทธา พระเจาทรงประสงคการตอบสนองอยางเต็มใจดวยความเชื่อศรัทธาจากมนุษยผูท่ีหาส่ิงท่ีตนตองการเองไมได ความเช่ือศรัทธาน่ีมิใชแตเพียงความเช่ือถืออยางเดียวแตก็มีความเชื่อถือรวมอยูดวย เปนการรับพระคุณของพระเจาดวยจิตกตเวที เปนการมอบชีวิตไวดวยความวางใจพระเจาผูสําแดงพระองคใหประจักษในพระคริสต เปนการมอบชีวิตท้ังส้ินไวดวยความวางใจในพระคุณและความเช่ือฟงพระเจาผูทรงประทานทุกส่ิงใหแกมนุษยตามที่เขาตองการ

จดหมายน้ีพูดถึงขาวเสรีภาพดวย แตดูวานี่หมายความอยางไรเสรีภาพมิไดหมายความวาเราทําอะไรไดตามใจชอบหรือไมตองทําอะไรเลยมนุษยไมมีเสรีเม่ือเขาเปนทาสของบาปและนิสัยช่ัว เม่ือพระคริสตทรงใหเขาเปนไท (กาลาเทีย 5: 1) เขาก็หลุดพนจากกรรมช่ัว จากบาป จากการเปนทาสของขอบังคับและจารีต เขามีเสรีท่ีจะกระทําส่ิงท่ีชอบธรรม นี่เปนเสรีภาพอยางใหญหลวงซ่ึงขาวประเสริฐเสนอให คือเสรีภาพท่ีจะกระทําส่ิงท่ีชอบธรรมไดดวยความสมัครใจและอยางดี ไมใชความสําเร็จของมนุษยแตเปนของประทานจากพระเจา และข้ึนแกฤทธ์ิเดชของพระเจา แตเปนเสรีภาพท่ีแทจริง

ฉะนั้น จดหมายนี้จึงพูดถึงขาวแหงฤทธ์ิเดชฝายศีลธรรม ฤทธ์ิเดชอยางนี้มิไดมีมาไดดวยการสรางบทบัญญัติข้ึนแลวใหมนุษยกระทําตามธรรมบัญญัติมีประโยชนอยางหน่ึง คือบอกหนาท่ีของมนุษยและช้ีทางถูกใหแกมนุษย แตส่ิงซ่ึงมนุษยตองการไมใชเสรีภาพภายในตามท่ีเราพูดแลวเทานั้น แตตองฤทธ์ิเดชท่ีจะกระทําส่ิงท่ีถูกดวยความเช่ือท่ีแทจริงซ่ึงถวายชีวิตท้ังส้ินไวกับพระเจาเปดแหลงของฤทธ์ิเดชใหแกมนุษยเพื่อใหเขาดํารงชีวิตอยางท่ีเขาควร พระวิญญาณของพระเจาจะทรงหนุนคนท่ีเช่ือถืออยางเต็มจิตเต็มใจและจริงใจในชีวิตท่ีเหมือนพระคริสตและชีวิตท่ีแทจริง

ดังนั้นจดหมายน้ีพูดถึงขาวความหวังอันมีคาแกมนุษยทุกคน นี่เปนขาวประเสริฐสากล ไปถึงความตองการของมนุษย พระเจาจะทรงใหอภัยและทรงชวยมนุษยทุกคน ไมวาชาติใดหรืออดีตมีมาอยางไร ถาเขาหันกลับจากการผิดของเขาจริง ๆ และรับส่ิงท่ีพระเจาประทานดวยจิตกัตญู “จะไมเปนพวกยิวหรือพวกกรีกจะไมเปนทาสหรือไท จะไมเปนชายหรือหญิง เพราะวาทานท้ังหลายเปนอันหนึ่งอันเดียวกันกับพระเยซูคริสต (กาลาเทีย 3:28)

นี่เปนขาวประเสริฐสําหรับมนุษยทุกคนดวยหลักเกณฑเทากัน ในการจัดสรรของพระเจาขาวประเสริฐนี้มาถึงพวกยิวกอน แตก็มุงท่ีจะใหแกมนุษยทุกคนท่ัวไป ทานเปาโลเห็นขอนี้แจมกระจางและ

95

Page 96: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

ตอสูเพื่อขอนี้อยางไดผล ฉะนั้น ทุกวันนี้เราจึงมีขาวประเสริฐอยู เปนขาวสําหรับโลก เม่ือวิกฤติกาลเกิดข้ึนในกาลาเทีย พระเจาทรงมีคนหนึ่งพรอมท่ีจะเขาใจประเด็นท่ีกลาวช้ีแจงและนําคริสตจักรใหยึดม่ันอยูท่ีหัวใจของขาวประเสริฐคือ “ความเช่ือ.... ซ่ึงกระทํากิจดวยความรัก” (กาลาเทีย 5:6)

แนะการอาน อยางไรก็ตาม ขออานพระธรรมเลมนี้คร้ังเดียวจบ สังเกตวาทานเปาโลโตแงคิดของทานดวยความรอนรนเพียงใด และทานสรุปตอนทายไวอยางไรในกาลาเทีย 6: 11-18

ขอพระธรรมตอไปนี้สําคัญมากในการแสดงความเช่ือของทาน เปาโล กาลาเทีย 1:3-5 ; 1:11,12 ; 2:15,16,20 : 3:9,26-28 ; 5:1,13,14 22-26 ; 6:2, 7-10,14

96

Page 97: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

บทที่ 11 โครินธ ฉบับตน

“อยูอยางชาวโครินธ” นี่เปนคําพูดท่ีคนโบราณเขากลาวถึงคนท่ีปลอยตัวและประพฤติผิดทางกาม คําพูดอีกอยางหน่ึงท่ีรูจักกันอยูในสมัยนั้นคือ “จะไปโครินธกันทุกคนไมไดดอก” นี่หมายความวา ท่ีเม่ืองโครินธมีการทดลองท่ีจะลากตัวนักทองเท่ียวไปสูความบาปปกติได อยางนี้แลวขาวประเสริฐจะใหประโยชนอะไรแกเมืองโครินธบาง

แนละทานเปาโลจะทําเฉยเมยตอนครท่ียุงดวยธุรกิจนี้ไมได นครโครินธเปนศูนยหนึ่งในบรรดาศูนยใหญท่ีสุดในการคาและการคมนาคมในอาณาจักรโรม ตั้งอยูท่ีปลายใตของคอคอด เปนผืนดินท่ีกวางประมาณหกกิโลเมตรเศษ ซ่ึงเปนสะพานเดินเช่ือมการจราจรของประเทศกรีกระหวางภาคเหนือและภาคใต เพื่อปองกันภัยอันเกิดจากพายุใหญท่ีปลายจะงอยใตของประเทศกรีก พอคามักจะขนสินคาข้ึนจากเรือท่ีฝงคอคอดขางนี้ขนถายไปลงกําปนอีกลําหนึ่งท่ีฝงคอคอดขางโนน ถาเปนเรือเดินทะเลท่ีเล็กเขาก็เขาข้ึนบกใหเล่ือนไปตามทางไมขามคอคอดนี้ จักรพรรดินี้โรพยายามสรางคลองขามแผนดินดอดนี้ ตรงท่ีท่ีเม่ือหกสิบปมาแลววิศกรแผนปจจุบันไดทําคลองสําหรับเรือดินสมุทรสําเร็จแลว จักรพรรดิทรงกระทําไมสําเร็จ แตสินคาก็ขามคอคอดน้ีอยูดี

ในนครศูนยอันจอแจนี้ ใชวาเราจะพบแตพวกกรีกเทานั้น ยังมีคนจากประเทศและวรรณอ่ืน ๆ เปนอันมากท่ีนั่นดวย บางคนต้ังภูมิลําเนาอยูท่ีนั่นมีมากคนท่ีอยูช่ัวคราว และยังมีพวกพอคาเดินทางผานนักทองเท่ียวท่ีชอบเผชิญภัย และชาวพื้นเมืองท่ีหาเงิน ตางก็ทํางานของตนในอันท่ีจะกระทําใหศีลธรรมของนครนี้เส่ือมตํ่าลง

นครโครินธเปนนครหลวงของแควนหนึ่งของโรม คือแควนคายาชื่อนี้ก็ใชเรียกประเทศกรีกดวย สภาเซเนตของโรมไดเลือกต้ังขาหลวงของโรมใหมาประจําแควน ซ่ึงทางผูนี้ก็ดําเนินการปกครองจากทําเนียบของทานซ่ึงต้ังอยูท่ีนครโครินธนี้

ทานเปาโลนําขาวประเสริฐไปสูนครโครินธ

เม่ือออกจาริกเท่ียวท่ีสองทานเปาโลก็มาท่ีนครโครินธและในการจาริกเท่ียวนี้ทานพักอยูท่ีนี่นานที่สุด ทานเพิ่งออกจากนครหลวงเอเถนส ซ่ึงท่ีนั่นทานทําความสําเร็จไดนอยเต็มที มีบางคนที่นั่นสมัครเปนสาวกของพระเจา (กิจการ 17: 34) ทานมาท่ีนครโครินธดวยความออนระอาใจบาง (1 โครินธ 2: 3) แตวาพระเจาทรงใชใหทานนําขาวประเสริฐมา ทานจึงประการขาวประะเสริฐท่ีนั่น ตอนแรกทานก็ทํางานอยูคนเดียว เพราะซีลาและทิโมธีผูชวยของทานไดแวะเยี่ยมบรรดาคริสตจักรในมาคะโดเนียซ่ึงทานไดสถาปนาไวกอนหนานี้เล็กนอย

97

Page 98: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

ทานเปาโลไดพํานักอยูกับผัวเมียคริสเตียนคูหนึ่งซ่ึงมีเช้ือสายเปนพวกยิว อะคูลาและพริซคิลลาไดถูกบังคับใหออกจากนครโรมและเพ่ิงมาถึงนครโครินธเม่ือไมชามานี้เอง ท้ังสองนี้เปนคนเย็บเต็นท ทานเปาโลก็เปนอยางนั้นดวย ทานเล้ียงตัวดวยอาชีพนี้นอกจากเม่ือขาวของเงินทองท่ีมิตรสหายสงมาให ทานทําความรูจักมักคุนกับอะคูลาและพริซคิลลา และเลยอยูชวยกันทําอาชีพนั้น ทานปลีกเวลาออกไปประกาศส่ังสอนบาง เม่ือซีลา และทิโมธีมาจากเมืองมาคะโคเนียเขานําของฝากจากคริสเตียนท่ีนั่นมาบาง (2 โครินธ 11: 9) จึงไมตองสงสัยวาส่ิงนี้เองท่ีชวยใหทานเปาโลมีเวลามากข้ึนในการประกาศเร่ืองพระคริสต (กิจการ 18:1-4)

ตามปกติทานเร่ิมตนประกาศโดยเทศนาในธรรมศาลา ท่ีท่ีหัวหนาของธรรมศาลาน้ัน ๆ เชิญพวกยิวท่ีมาเยี่ยมใหกลาวธรรม ไมชาพวกยิวจึงแลเห็นวาความเช่ือแบบใหมนี้ตองการใหเขาท้ังหลายปรับปรุงชีวิตของตนเสียใหมโดยยึดเอาพระคริสตเปนพระเปนเจา และจะทลายเคร่ืองกีดขวางระหวางยิวและคนตางชาติเสีย มีบางคนเช่ือหลักนี้บาง แตในเม่ือมีมากคนท่ีตอตานทานเปาโล ทานเปาโลกับคนท่ีเช่ือใหมก็พากันออกจากธรรมศาลา และทานดําเนินการกลาวธรรมตอไปในบานของคนตางชาติคนหนึ่งท่ีช่ือ ติโต ยูซโท ซ่ึงอยูถัดท่ีนั่นไป ทานเปาโลดําเนินงานอยูท่ีนี่ถึงสิบแปดเดือน (กิจการ 18: 5-11) และไดสาวกท่ีเปนยิวและคนตางชาติเปนอันมาก

ในท่ีสุดพวกยิวฝายคัดคานก็เห็นชองโอกาสที่จะทําการขัดขวางทานมีการเปล่ียนเจาเมืองใหม กาลลิโอไดเปนขาหลวง ในราว ค.ศ. 51 พวกยิวจึงนําตัวทานเปาโลฟองตอขาหลวง หาวาทานเปาโลประกาศเผยแพรศาสนาผิดกฎหมาย เพราะทางฝายจักรวรรดิโรมนั้นอนุญาตใหประกาศศาสนาซ่ึงทางการรัฐบาลรับรองเทานั้นเอง ขางทานเปาโลกับพวกคริสเตียนจึงกลาววา ความเช่ือฝายคริสเตียนนั้นเปนความเช่ือท่ีถูกตองแทของชนชาติอิสราเอล ซ่ึงบัดนี้มีรูปสมบูรณในองคพระเยซูคริสตและคริสตจักร แตพวกยิวไดปฎิเสธอยางรอนแรง ไมยอมรับวาความเช่ือฝายคริสเตียนเปนความเช่ืออันแทของพวกยิว และยังกลาวตอไปวาในเม่ือความเช่ือของทานเปาโลไมใชความเชื่อท่ีทางการรับรองแลวก็เห็นควรใหเจาเมืองประกาศวาเปนคําสอนเถ่ือน กาลลิโอตระหนักถึงความเกี่ยวโยงอันสําคัญระหวางขาวประเสริฐของทานเปาโลและความเช่ือโบราณของพวกยิว จึงปฏิเสธไมยอมทําอะไรขัดกับทานเปาโล (กิจการ 18: 12-17) ดั่งนี้แหละทานเปาโลจึงประกาศส่ังสอนตอไปได

งานออกสอนในนครโครินธคร้ังนี้ไดผลอยางกวางขวาง คริสตจักรไดแผแพรออกไปมิใชแตในนครโครินธเทานั้น แตในมณฑลขางเคียงดวย มีคริสตจักรเกิดข้ึนท่ีเมืองเค็งฆเรไอ อันเปนเมืองทาตะวันออกของนครโครินธ (โรม 16: 1) อีกอยางหนึ่งเม่ือทานเปาโลพูดถึง “และบรรดาธรรมชนท่ีอยูกวางแควนคายา” (2 โครินธ 1:1) ทานหมายเอาวาขาวประเสริฐไดแผแพรอยางกวางขวางออกไปจาก

98

Page 99: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

นครโครินธ ท้ังนี้เกิดข้ึนดวยบรรดาคนเหลานั้นท่ีไปเยี่ยมนครโครินธ และจากการเทศนาของผูชวยของทานซ่ึงตางก็กระทํากันอยูในท่ียอม ๆ

งานออกหนาออกตาของทานเปาโลก็คือ การหาท่ีประกาศส่ังสอนใหมเร่ือยไป พอทานเห็นวาคริสตจักรในโครินธตั้งติดดีแลว ทานก็ลาจากไป หลังจากท่ีทานไปเย่ียมกรุงเยรูซาเล็มและอันทิโอเปยในซีเรียแลวทานก็ออกจาริกเปนเท่ียวท่ีสาม และไมชาก็มาพักท่ีเมืองเอเฟซัส ในการออกจาริกท้ังสามเท่ียว ทานพักท่ีเอเฟซัสเท่ียวนี้นานท่ีสุด ระหวางนี้เอง อะพลโลคนฝปากท่ีไดมาถึงนครโครินธ และไดลูกศิษยหลายคน (กิจการ 18: 18-19:1) เปโตรอาจมาท่ีนั่นดวยก็เปนได เพราะวาตอมาภายหลังทานก็ไดคนท่ีอยูในนครโครินธอุดหนุนทาน

จดหมายท่ีหายไป

ทานเปาโลฉลาดพอไมยอมใหคริสตจักรเยาววัยของทานขาดเพ่ือนหรือท่ีปรึกษา ไมชาทานก็เขียนจดหมายถึงนครโครินธ จดหมายนั้นคงหายไปแลว นอกจากมีบางคนคาดวา มีสวนของจดหมายนั้นแทรกอยูในจดหมายฉบับหลัง ๆ คืออยูใน 1 โครินธ 6: 12-20 และ 2 โครินธ 6:14-7:1 ทานเปาโลไดอางถึงอยางชัดเจนใน 2 โครินธ 5:9 จดหมายนั้นคะยั้นคะยอวาบรรดาคริสเตียนผูท่ีถวายตัวอยางส้ินเชิงแดพระคริสตแลว ก็ดํารงชีวิตท่ีสะอาดในดานความคิดและการกระทํา เขาท้ังหลายจะไมคบคาสมาคมกับคนในคริสตจักรท่ียังคงประพฤติผิดทางกาม

ใคร ๆ ก็ทราบกันวาคนโครินธเปนคนหละหลวมในทางกาม และคนท่ีกลับใจใหมแลวบางคนก็รูตัววาตัดเร่ืองอยางนี้ไดยาก จะเปนเพราะวาเขาท้ังหลายไมเขาใจถอยคําของทาน หรือจะเปนเพราะวาทานกลาวไมชัดแจงถองแทก็ไมทราบ เขาท้ังหลายจึงบิดเบือนถอยคําของทานเสีย เขาท้ังหลายถือเอาวาทานหมายความวา ไมใหเขาท้ังหลายเกี่ยวของอะไรกับคนท่ีกระทําผิดทางกาม เขาท้ังหลายกลาววาทําอยางนี้ก็หมายวาเขาตองปลีกตัวออกจากสังคมและจากชีวิตของชุมชน ในนครโครินธนี้ถาจะประกอบธุรกิจหรือมีเร่ืองอะไรทางบานเมืองแลวก็ตองมาเกี่ยวของกับตนอยางนั้น จากคําตอบของทานของทานเราทราบไดวาในนครนี้สวนใหญมีความเนาเฟะอยูมากเทาใด แตส่ิงท่ีทานเปาโลคะยั้นคะยอก็คือไมใหบรรดาคริสเตียนยอมใหสมาชิกของคริสตจักรมีชีวิตในกามตัณหาเชนนั้น ถามีคนหนึ่งคนใดยังขืนประพฤติอยูก็ใหคนอ่ืน ๆ อเปหิคนนั้นออกไปเสียจนกวาจะกลับใจเสียใหม

ทําไมทานเปาโลจึงเขียน “โครินธ ฉบบัตน”

ไมชาก็มีหลายส่ิงท่ีใหทานเปาโลเขียนจดหมายอีกฉบับหนึ่ง ทานตองแกความเขาใจผิดซ่ึงอยูในจดหมายฉบับกอน อีกอยางหน่ึงมีสมาชิกในครอบครัวของฆะโลเอมาเลาวามีการแตกกกแตกพวกกันในคริสตจักรท่ีโครินธ เราไมทราบชัดวาฆะโลเอคือใคร นางเปนคริสเตียนมาจากนครโครินธ

99

Page 100: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

หรือไมก็จากเอเฟซัส ซะรอยนางจะเปนคนมีอาชีพท่ีสมาชิกของครอบครัวตองทองเที่ยวไป มีผูนําขาวคนอ่ืน ๆ คือ ซเทฟานา ลูกศิษยคนแรกในประเทศกรีกของทานเปาโล (1 โครินธ 16: 15) มาถึงพรอมกับโฟระทูนาโทและอะคาอีโคเพ่ือเยี่ยมเยียนทานเปาโลและบอกขาวดวยคนหน่ึงในพวกเหลานี้ไดยื่นจดหมายฉบับหนึ่งใหทานเปาโลดวย 1 โครินธ 7:1 ระบุเร่ืองนี้ คําท่ีนําความซ่ึงกลาวซํ้าหลายหนใน

1 โครินธ 7: 25; 8:1; 12:1 และ 16:1 คือคําวา “เร่ือง” แนะใหเห็นวาจดหมายฉบับนั้นไดยกเอาปญหาซ่ึงพระธรรมขอเหลานั้นไดอางถึงมากกวา

สถานการณท่ีจดหมายฉบับนี้และผูรายงานไดเผยใหเห็นเปนเร่ืองท่ีตองจัดการกันโดยเร็วและดวยวความช่ําชอง เพราะฉะนั้นพอถึงปลาย ค.ศ. 56 หรือตน ค.ศ. 57 ทานเปาโลก็เขียนจดหมายฉบับท่ีสองถึงโครินธเพราะจดหมายฉบับนั้นหายไป เราจึงเรียกจดหมายฉบับท่ีสองนี้วา “โครินธฉบับตน” ทําไมจดหมายฉบับนี้ยังมีคาควรอานอยู ส่ิงสําคัญคือทานเปาโลมักแกปญหาตาง ๆ โดยยึดขาวประเสริฐนิรันดรนั้นเปนหลักเสมอ ทานไมยอมปดหรืออะลุมอลวยในการเผชิญปญหานั้น ทานพยายามคนหาดูวาความเช่ือของคริสเตียนมีความหมายอยางไรในชีวิตประจําวันของคริสตจักรท่ีทานตองการชวยเหลือ

ในกรณีนี้ ทานเปาโลก็ตองขนาบและแกไขคริสตจักรหลายประการแตทานมิไดเร่ิมตนดวยคําขนาบ ทานมีความรอบคอบท่ีเห็นวาภายใตความลมเหลวและความผิดของคนเหลานี้ มีความเช่ืออันแทและมีอนาคตอันเขมแข็ง ประการแรกทานโมทนาขอบพระคุณพระเจาเพราะพระกรุณาคุณของพระเจามีมาถึงเขาท้ังหลาย กระทําใหชีวิตของเขาท้ังหลายฟนข้ึนใหมและทรงประทานของประทานอันงดงามแกเขาท้ังหลายดวย ทานรับรองกับเขาวาพระเจาจะทรงหนุนหลังเขา เขาท้ังหลายวางใจในพระเจาไดและไมตองทอถอย แมวาบางคร้ังเขาลมเหลวและตองการแกไข (1 โครินธ 1: 4-9)

การแตกแยกกันของคริสตจักรเปนความบาปผิด

ปญหาสําคัญยิ่งก็คือการแตกกกแตกพวก อันนําความหายนะมาสูภราดรภาพและอัตลักษณของคริสเตียน (1 โครินธ 1: 10-4:21) ปรากฏวาไดแตกแยกกันเปนส่ิงพวก แตละพวกก็อางหัวหนาคนสําคัญของตน พวกหนึ่งอวดวาเขาติดตามทานเปาโล อีกพวกหนึ่งเขาขางเปาโลพวกท่ีสามฮึกเหิมท่ีหนนุเคเฟ (เปโตร) พวกที่ส่ีดูถูกมนุษยผูนําท้ังหลายอางวาพระคริสตเปนของพวกตน ท้ังส่ีพวกเปนพวกเห็นแคบและชอบแตกแยก การที่ขาดตัวโบสถของคริสตจักรอาจสงเสริมใหแตกแยกกันอยางนี้ พวกเล็ก ๆ ก็ไปประชุมกันท่ีบาน พวกท่ีคิดเหมือนกันก็ประชุมรวมกัน และรูสึกตัววาไดแยกมาจากสาวคนอ่ืน ๆ

สําหรับทานเปาโลเร่ืองการแตกแยกกันอยางนี้ทานยอมไมได พระคริสตเทานั้นท่ีเปนเศียรของคริสตจักร การที่จะสรรเสริญมนุษยผูนําคนหนึ่งและไมรับนับถือผูนําอีกคนหนึ่งนั้นเปนการกระทําท่ีไมใชคริสเตียน คริสเตียนทุกคนตองเปรมปรีดิ์ในบรรดาความสามารถตาง ๆ ของผูนํา และแสวงประโยชนจากบรรดาผูนําเหลานี้เทาท่ีเขาจะใหได “เหตุฉะนั้นอยาใหผูใดยกมนุษยข้ึนอวด ดวยส่ิง

100

Page 101: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

สารพัดเปนของของทานท้ังหลาย ถึงแมจะเปนเปาโล หรืออเปาโล หรือเคฟา.... สารพัดนั้นเปนของของทาน ท้ังหลายและทานท้ังหลายเปนของพระคริสต และพระคริสตเปนของพระเจา” (1 โครินธ 3:21-23) ทานเปาโลไดขนาบพวกท่ีเอาทานเปนหัวหนาเสียอยางถูกตองทีเดียว ทานไมมีสิทธ์ิอันใดท่ีจะมารับความภักดีสูงสุดยอดของพวกคริสเตียนยิ่งไปกวาทานอเปาโลหรือทานเคฟา ทุกคนตางก็เปนผูรับใชของพระคริสต

เรื่องคริสเตียนแตงงาน

คริสตจักรนี้มีปญหาเร่ืองทางกามและเร่ืองครอบครัว สมาชิกคนหนึ่งไดอยูกินกับภรรยาของบิดาตน โดยเราไมรูแนวาเขาไดแตงงานกันหรือไมชะรอยนางจะเปนมารดาเล้ียงของเขา

(1 โครินธ บท 15) เร่ืองนี้ทานเปาโลถือวาเปนเร่ืองรายแรง เพราะคริสตจักรนี้เคยชินตอการหยอนยานในเร่ืองมาตรฐานและในเร่ืองครอบครัวท่ีแตกแยก และไมลงโทษผูกระทําผิด เปดชองใหคริสเตียนอ่ืน ๆ คิดไปอยางกับคนท่ีไมเปนคริสเตียนเขาคิด คือการประพฤติผิดในทางกามไมกระทบกระเทือนชีวิตฝาย-วิญญาณจิต (1 โครินธ 6: 12-20) คนอ่ืน ๆ ติดในดานตรงกันขาม เขากลัววาพระเจาจะไมทรงพอพระทัยในการแตงงาน และการไมแตงงานจะดําเนินชีวิตไดบริสุทธ์ิกวาคนท่ีแตงงานและมีลูกเตา (1 โครินธ บท 7)

ทานเปาโลทราบวา รางกาย จิตใจ และวิญญาณรวมกันเขาเปนชีวิตเดียว การใชรางกายผิด หรือการดํารงชีวิตสกปรกยอมกระทําใหชีวิตฝายวิญญาณเปนอันตรายและเปนอันตรายฝายจิตใจดวย ใหโทษและกระทําใหสังคมเส่ือมทรามลงดวย มีบางคนดํารงชีวิตอยางบริสุทธ์ิและสะอาดหมดจดไดโดยไมตองแตงงาน เพราะฉะน้ันจึงทํางานพิเศษซ่ึงคนแตงงานทําอยางนั้นไมได สําหรับคนสวนมากการแตงงานเปนชีวิตเหมาะสมและดีเลิศสําหรับเขา แตทานเปาโลก็เห็นอันตรายในชีวิตเชนนี้เหมือนกัน คูผัวเมียท่ีแตงงานอาจจะคิดมากถึงเร่ืองสิทธิและหนาท่ีของครอบครัวกระทําใหเขาขาดการรับใชพระคริสตในคริสตจักรและสังคม ท่ีจริงโดยที่ทานเปาโลคิดวาโลกนี้คงดํารงไปไดอีกไมนาน (1 โครินธ 7: 29-31) ทานจึงถือเสียวา ถาคนใดไมแตงงานไดก็ดี จะไมมีอิสระท่ีจะมีชีวิตเพื่อพระคริสตในสมัยท่ีโลกตองทนทุกขในกาลที่สุดปลายนั้น

คริสเตียนท่ีอานจดหมายของทานในปจจุบันนี้อาจจะรูสึกวา ทานเปาโลมองไมเห็นความจริงอยางทะลุปรุโปรง ทานจึงวาการแตงงานนั้นแมจะเปนการถูกตองของคริสเตียนแตก็สูไมแตงงานเลยไมได สําหรับเร่ืองนี้ทานเปาโลไมไดพูดไวอยางแข็งแรงทีเดียว (1 โครินธ 7:25,40) อยางไรก็ตามทานก็เห็นชัดเจนวาพระเจาทรงสรางมนุษยมาเพื่อใหมีการแตงงานอยูกินเปนผัวเมียกัน การแตงงานไมใชเปนการผิดบาป ทานเห็นวาคริสเตียนสวนมากควรแตงงาน ทานคะยั้นคะยอวาการแตงงานเปนการรวมผูชายคนหนึ่งเขากับผูหญิงคนหนึ่งอยางถาวร ในขอนี้ทานก็ยกพระดํารัสสอนของพระเยซูมา

101

Page 102: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

(1 โครินธ 7:10) คนท่ีไมแตงงานตองดํารงชีวิตท่ีบริสุทธ์ิดวยการครองตัวเอง คนท่ีแตงงานก็ตองซ่ือสัตยและภักดีตอคูชีวิตของตนมาตรฐานตอไปนี้เปนส่ิงท่ีคริสเตียนพึงกระทํา “รางกายของทานเปนพระวิหารของพระวิญญาณบริสุทธ์ิซ่ึงสถิตอยูในทาน... เหตุฉะนั้นทานท้ังหลายจงถวายเกียรติแดพระเจาดวยรางกายของทาน” ( 1 โครินธ 6:19,20)

จะอยูอยางไรกับคนท่ีไมเปนคริสเตียน

ทานเปาโลทราบเร่ืองดวยความเสียใจวา มีคริสเตียนบางคนเม่ือมีเร่ืองทะเลาะกันเปนเร่ืองสวนตัวก็ตองพากันข้ึนโรงข้ึนศาล (1 โครินธ 6: 1-11) การกระทําเชนนี้ยอมพาเอาความอับอายขายหนามาสูคริสตจักรซ่ึงตั้งอยูในชุมชนนั้น ทานเปาโลรูสึกวาเขาเหลานั้นควรจะใหคริสเตียนดวยกันเปนคนจัดการเร่ืองเชนนั้น แทนท่ีจะไปข้ึนโรงข้ึนศาล ใหเปนผูระงับการทะเลาะ และทานวาคริสเตียนก็ควรยอมรับความอยุติธรรม แทนท่ีจะนําความอัปยศมาสูพระคริสตและคริสตจักร ทานหวงใยในชีวิตฝายวิญญาณของพวกคริสเตียน และช่ือเสียงของคริสตจักร และการท่ีคริสตจักรจะเปนพยานแกคนภายนอก ในเร่ืองนี้กระทะเลาะเบาะแวงและการข้ึนโรงข้ึนศาลทําใหเกิดอันตรายมาก

คริสเตียนจะอยูกับคนที่ไมเปนคริสเตียนไดมากแคไหน คริสเตียนจะตองเกี่ยวของกับคนท่ีไมเปนคริสเตียนในเร่ือง การคา การปกครอง และการสังคม ไมมากก็นอย เปนส่ิงท่ีหามไมได แตใน

โครินธชีวิตของคนท่ีไมเปนคริสเตียนมีเร่ืองการถือรูปเคารพและการถือพระหลายองคในบานของคนท่ีไมเปนคริสเตียนมีรูปเคารพ ในนคร ในสหกรรมกร และในสมาคม และในงานสังคมอ่ืน ๆ ก็เชนเดียวกัน ทางคริสตจักรถามทานเปาโลวา เราจะทําอยางไรกัน โดยเฉพาะในเร่ืองการกินของท่ีเขาบูชารูปเคารพแลว เราจะไมรวมสํารับในบานของคนท่ีไมเปนคริสเตียนไดไหม ละ (ดู โครินธ 8: 11-1 :)

ทานเปาโลกลาวถึงขอสําคัญทันทีวา ขอใหคิดดูวาการกระทําของทานจะมีอิทธิพลเหนือคนอ่ืนอยางไร โดยเฉพาะอยางยิ่งเหนือคริสเตียนท่ีมีปญญานอย ทานอาจทราบวามีพระเจาองคเดียว การที่จะรับประทานเน้ือท่ีเขาบูชารูปเคารพแลวมิไดกระทําใหความเช่ือของทานเสียไป และสําหรับคริสเตียนท่ีมีปญญานอยจะรูสึกโดยการกระทํา ของทานวา ทานรวมถือรูปเคารพ และถาตัวอยางของทานนําเขาใหรับประทานโดยการะทบกระเทือนโนธรรมของเขา ทานก็ไดทําอันตรายตอเพื่อนของทานดวยการกระทําของทานเอง งดอยารับประทานเน้ืออยางนั้นก็ดีกวาท่ีจะกระอันตรายความเชื่อแหงพี่นองของทาน

เพื่อจะสนับสนุนความจริงขอนี้ทานเปาโลช้ีเจงวา (1 โครินธ บท 9) ทานเปนอัครทูต แตก็มิไดใชสิทธิของอัครทูตต้ังหลายอยาง ทานยอมสละเพ่ือปรนนิบัติพระคริสตและคริสตจักรใหเต็มกําลังท่ีจะทําได เพราะวิธีของคริสเตียนนั้นเปนวิธีท่ีไมคิดถึงสิทธิของตนกอน แตคิดถึงงานของพระคริสตและสวัสดิภาพของคนอ่ืนกอน

102

Page 103: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

ยิ่งกวานั้นอีก คนทั้งหลายที่คิดวาตนมีความเชื่อเขมแข็งก็ควรระวังตัวใหดี เขาคิดวาไปในเทศกาลของคนท่ีไมเปนคริสเตียนคงไมเปนภัยแกตัวเขา แตในวงของคนไมเปนคริสเตียนนั้นมีอํานาจช่ัวรายท่ีคอยจับทุกชีวิตท่ีอยูในวงนั้น คริสเตียนพึงกระทําทุกส่ิงท่ีจะถวายเกียรติแดพระเจาและพระคริสต เขาตองนําคนมากใหมามีชีวิตตามความเช่ือของเขา แตเขาจะรับมาตรฐาน และความเพลิดเพลินของโลกเขามาดวยเขามาดวยไมได ทานเปาโลจึงเตือนคริสเตียนชาวโครินธวา เขาท้ังหลายไมควรเขาสวนและสนับสนุนขนบประเพณีและจารีตซ่ึงขัดแยงกับความเช่ือฝายคริสเตียน

การนมัสการของคริสเตียน

เม่ือทานเปาโลหยิบเร่ืองความไมเปนระเบียบในการนมัสการขึ้นมาพูด ทานใหคําแนะนําอยางหนึ่งซ่ึงเรารูสึกวาแปลก ทานคะยั้นคะยอวาพวกผูหญิงท่ีอธิษฐานโดยไมคลุมศีรษะน้ันเปนการอัปยศ (1 โครินธ 11:2-16) ท่ีทานพูดอยางนี้ทานมีแงคิดในใจสามอยาง ทานรับหลักคําสอนตามพันธสัญญาเดิมซ่ึงวาพระเจาทรงโปรดผูชายใหเปนผูนํา และหมวกหรือผูคลุมของสตรีเปนเคร่ืองหมายแสดงความจริงขอนี้ ทานเห็นวาผูชายกับผูหญิงไมมีบทบาทในชีวิตเหมือนกันและทานเห็นวาการแตงกายควรจะแสดงความแตกตางนี้ออกมา แททานก็ทราบดวยวาสตรีท่ีสุภาพและมีมารยาทดีไมเอาเสนหของรางกายออกอวดในท่ีสาธารณะในสมัยนั้น ถาสตรีคริสเตียนไปประชุมกันหรือไปนมัสการโดยไมคลุมศีรษะก็จะกระทําใหสงสัยวาเปนพวกท่ีมีความประพฤติผิดศีลธรรมทานเปาโลไมตองการใหเกิดเร่ืองอยางนั้นข้ึน

เร่ืองรายยิ่งกวานั้นซ่ึงเกิดข้ึนท่ีนครโครินธก็คือ ความสับสน ความเห็นแกตัว และแมความมึนเมาไดกระทําใหพิธีมหาสนิทมัวหมอง (1 โครินธ 11: 17-34) ทุกคนหรือทุกหมูนําอาหารของตนมา เพราะการรับประทานในพิธีนั้นรับประทานกันอ่ิมหนําจริง ๆ และเปนการรับประทานเพ่ือระลึกถึงมรณาภาพของพระเยซูดวย แตบางคนก็รับประทานเยซูเต็มคราบ และแถมดื่มเหลาองุนมากเสียดวย ฝายคนจนก็ยังหิวอยู ทําอยางนี้ไมเปนท่ีเคารพและไมมีภราดรภาพเลย ทานเปาโลไดชักชวนเขา เปนคําท่ีเรายังใชกันในพิธีมหาสนิทปจจุบันนี้วาเขาควรจะลึกถึงความหมายท่ีพระเยซูทรงกลาวไวกับสาวกของพระองคในเมื่อรับประทานรวมกันคร้ังสุดทายนั้น ทานแนะขอท่ีปฏิบัติกันไดใหผูอานฟงวา ถาเขาหิวจัด เขาก็ควรรับประทานอะไรเสียบางกอนแลวจึงมารับประทานรวมกัน เม่ือถึงการรับประทานตามพิธีขององคพระผูเปนเจา จะไดรวมใจกันดวยความเคารพในการท่ีจะระลึกถึงคุณประโยชนอันเกิดจากการท่ีพระเยซูทรงมรณาเพ่ือผูติดตามพระองค

แหลงแหงความสับสนอีกอยางหน่ึงในการนมัสการคือ การใชของประทานฝายวิญญาณจิตอยางอวดตัว (1 โครินธ บท 12-14) คริสตจักรไดรับพระวิญญาณบริสุทธ์ิเพื่อทรงนําในการนมัสการและชีวิต และตางก็ไดรับของประทานเพ่ือจะไดปรนนิบัติองคพระผูเปนเจา และคริสตจักร แตมีหลายคนทีเดียวท่ีใชของประทานน้ีเพื่ออวดตัวและหาความนิยมตอหนาตอตาคนอ่ืน ในเร่ืองของประทานเปน

103

Page 104: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

อันมากนั้นมีสองส่ิงท่ีพูดกันมาก (1 โครินธ 12: 28) บางคนพูดภาษาแปลก ๆ คือฟงไมไดความและเปนคําพูดท่ีเกิดจากอารมณอยางแรง คนอ่ืน ๆ ก็พยากรณดวยความกระตือรือรน ของประทานอยางใดดีกวากัน

คําตอบของทานเปาโลแสดงทั้งความเห็นอกเห็นใจและสามัญสํานึกประการแรกพระวิญญาณจะทรงนําใหคนสรรเสริญและถวายเกียรติแดพระคริสต ส่ิงท่ีโพลงออกมาจากอารมณอันไมไดผลดั่งกลาวก็ยอมไมเปนการดลใจโดยพระวิญญาณของพระเจา รางกายมีอวัยวะหลายอยางท่ีรวมกันเขาเปนรางกาย คริสตจักรก็มีคนท่ีรับของประทานตาง ๆ กัน ท้ังส้ินนี้เปนส่ิงจําเปนและควรไดรับความนับถือ เขาใหถือหัวใจของเรื่องก็วา ของประทานย่ิงใหญท่ีสุดคือความรักแบบคริสเตียน เปนความรักท่ีเขาใจไดเปนฉันทมิตร อดทนมีน้ําใจดี ยอมเสียสละ และใชของประทานท้ังส้ินเหลานี้ดวยน้ําใจแหงความรัก ในเม่ือของประทานนี้มีจุดประสงคเพื่อชวยคนอื่นมีของประทานใหพยากรณได ซ่ึงพูดใหคนอ่ืนเขาใจจึงยิ่งใหญกวาของประทานท่ีพูดภาษาแปลก ๆ ไมใชเพื่ออวดแตเพื่อปรนนิบัติคริสตจักรและชวยเพื่อน

คริสเตียนดวยกัน สองขอนี้และเปนหลักทดสอบของประทานพิเศษแตละอยาง (1 โครินธ 14: 26) ในการนมัสการนั้นคริสเตียนควรมีระเบียบและคิดถึงคนอ่ืน ๆ “พระเจาไมเปนเหตุใหเกิดการวุนวาย แตเปนเหตุใหเกิดสันติสุข” (1 โครินธ 14:33)

ความหวังในการคืนชีวิต

คริสเตียนบางคนในนครโครินธปฏิเสธคําสอนของทานเปาโลเร่ืองการท่ีคนตายแลวคืนชีวิต เขาเห็นพองดวยวา วิญญาณของคนเราจะรอดแตสวนรางกาย เขาท้ังหลายเห็นเปนภาระ และเขาไมเห็นวารางกายจะมีสวนอะไรในอนาคต (1 โครินธ บท 15) ทานเปาโลไดบททวนเร่ืองการที่พระเยซูทรงคืนพระชนม นี่เปนขอความที่บันทึกไวถึงเร่ืองนี้เปนบันทึกเกาท่ีสุด เพราะกิตติคุณท้ังส่ีมีเขียนไวท่ีหลังจดหมายฉบับนี้ ทานเปาโลก็กลาวตอไปวา เราท้ังหลายก็จะคืนชีวิตข้ึนมาดวยเหมือนกัน แตจะไมมีรางกายเกาอยางท่ีเรามีอยูนี้ จะเปนรางกายใหม เปนรางกายฝายวิญญาณ

ดูเหมือนทานเปาโลตองการพูดสักสามประการ ในเร่ืองนี้ ประการแรก เดี๋ยวนี้รางกายเปนสวนหนึ่งของคนเรา จึงเปนสวนหนึ่งของชีวิตคริสเตียน ถาปฏิเสธขอนี้ ก็ยอมสนับสนุนความผิดศีลธรรมใหเกิดข้ึนแลวอีกประการหน่ึง ในชีวิตภายหนานั้นคนเราจะมีบุคคลภาพครบและไมใชเปนเงาราง ๆ หรือเปนเศษตัวเรา ประการสุดทาย และรางกายท่ีคนเราไดรับนั้นจะหมดจดไมมีสวนมลทินและบกพรองอยางรางปจจุบันนี้ ส่ิงสําคัญก็คือคริสเตียนจะอยูกับพระเจาและพระคริสต ชีวิตสมบูรณนั้นจะใหมิตรภาพ เสถียรภาพ และความสุขสําราญในแผนดินของพระเจาอันประกอบดวยบูรณภาพ

ดวยความเช่ืออยางนี้คริสเตียนก็ดําเนินกิจการงานของตนตอไปไดส่ิงหนึ่งท่ีชาวโครินธพึงกระทําคือ เก็บเงินเรียไรเพื่อชวยคริสเตียนยากจนในกรุงเยรูซาเล็ม (1 โครินธ 16: 1-4) เงินเร่ียไรนี้จึง

104

Page 105: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

มิใชเพื่อใชเอง ทานเปาโลสอนเขาใหเขาถวายเพ่ือคนอ่ืนและใหคิดถึงคริสตจักรแหงโลกสากลหลังจากท่ีทานกลาวแนะนําอยางอ่ืนและกลาวคําคํานับแลว (1 โครินธ 16:5-20) ทานก็จบจดหมายน้ัน ดวยเขียนคําเตือนตามหลักคริสเตียนดวยมือตนเอง (1 โครินธ 16:21-24)

ขาวประเสริฐสําหรับนครโครินธและสําหรับพวกเรา

หลักความเช่ือยิ่งใหญของคริสเตียนเดนอยูในจดหมายฉบับนี้ คือ ขาวประเสริฐมีฤทธ์ิเดชที่จะเปล่ียนคนบาป แมในนครโครินธท่ีอธรรมก็ประจักษแลววาพระ

คริสตทรงชวยเขาใหรอดได คริสเตียนควรตัดการดําเนินชีวิตของตน ใหขาดจากชีวิตท่ีช่ัวชาการดําเนินชีวิตคริสเตียนคือ

การอุทิศรางกายแดพระเจา รวมท้ังความคิดจิตใจและเจตนาดวย พระเจาทรงใชทุกคนไดในคริสตจักรของพระองค ไมวาเขาจะมีของประทานชนิดใด ในเม่ือ

พระคริสตไดชวยมนุษยและประทานตามความตองการของเขาส้ินแลว มนุษยก็ไมมีทางท่ีจะเยอหยิ่งและอวดตัว ไดแตแสดงกตเวทีและภักดีตอพระองคเทานั้น มนุษยผูนําคนใดจะถือสิทธิอํานาจเด็ดขาดไมได ตําแหนงนั้นเปนของพระคริสตแตพระองคเดียว คริสเตียนพึงประพฤติตนเพ่ือใหคนอ่ืนเห็นวาพระคุณและฤทธ์ิเดชของพระเจากระทําอะไรไดบางในสาวกผูภักดีตอพระองค

คริสตจักรนั้นเปนคริสตจักรเดียว การทะเลาะวิวาทและการแตกแยกกันในคริสตจักรเปนความอับอายขายหนา พระคริสตผูทรงเปนพระเปนเจาองคเดียวของคริสตจักรผูกพันคริสเตียนท้ังส้ินเขาดวยกันในมิตรภาพอันเดียวกัน เพราะฉะน้ันส่ิงจําเปนในการนมัสการท่ีแทจริงนั้นมิใชเพียงความเคารพสักการะตอพระเจาและความกตเวทีตอพระคริสตในส่ิงท่ีพระองคไดทรงกระทําแลวแกตน แตมีความหวังดีตอเพื่อนคริสเตียนและความพรอมใจท่ีจะใชของประทานท่ีตนไดรับใหเปนประโยชนแกเพื่อนคริสเตียนดวยกันดวย เร่ืองของประทานคือพระวิญญาณบริสุทธ์ิและความรักฝายคริสเตียนอันเปนผลของพระวิญญาณน้ัน ควรควบคุมวิธีการที่พวกคริสเตียนใชของประทานพิเศษของตนในการนมัสการและในชีวิต

ความหวังใจในอนาคตของคริสเตียนยอมใหความเปรมปรีดิ์ และความกลาหาญแกคริสเตียนในทุกกรณี บรรดาคนท่ีมีความไววางใจในพระเยซูวาเปนองคพระผูเปนเจา และปฏิบัติอยางซ่ือสัตยตอพระองค จะมีสวนในชัยชนะบ้ันปลายดวยกันกับพระเจาและพระคริสต รากฐานแหงความหวังและความวางใจของคนเราไมใชอยูท่ีมนุษย แตอยูในพระเจาท่ีจริงเม่ือเราเห็นความบาปผิดของชาวโครินธ เราก็ทราบอยางทานเปาโลทราบ วาพระคุณและฤทธ์ิเดชของพระเจาเปนรากฐานม่ันคงอันเดียวแหงความหวังของคริสเตียน

105

Page 106: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

แนะการอาน เม่ือทานอาน ขอสนใจในขอพระธรรมสําคัญ ๆ ตอ ไปนี้ พระคริสตทรงเปนฤทธ์ิเดชและพระปญญาของพระเจา (1 โครินธ 1: 17-31) พระวิญญาณบริสุทธ์ิทรงประทานความจริงและฤทธ์ิเดชนี้แกมนุษย (1 โครินธ บท 2) ทาทีอันถูกตองอันพึงมีตอมนุษยผูเปนผูนํา (1 โครินธ 3:5-10, 21-23) คริสเตียนยอมดํารงชีวิตท่ีสะอาดทางกาย (1 โครินธ 6:19-20) ทานเปาโลมองเห็นงานของตนเองเปนอยางไร (1 โครินธ 3:5-11, บท 9) การรวมพิธีมหาสนิทอยางถูกตอง (1 โครินธ 11:17-34) ความรักอยางคริสเตียนเปนส่ิงท่ีขาดไมได เปนอยางพระคริสต และอดทนนาน (1 โครินธ บท 13) คืนการท่ีพระคริสตทรงคืนพระชนมและพระสัญญาเร่ืองเราจะคืนชีวิต (1 โครินธ บท 15)

106

Page 107: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

บทที่ 12 “โครินธ ฉบับที่สอง”

เม่ือผูสือขาวของทานเปาโลถึงนครโครินธและมอบ “โครินธฉบับตน” ใหแกคริสตจักรแลวเกดิอะไรขึ้นบาง เราแนใจในขอนี้ไดวาพวกคริสเตียนไดประชุมกันฟงเขาอานจดหมายฉบับนั้น แตเขาวาอะไรและคิดอยางไรถึงเร่ืองจดหมายน้ัน ถาเรากลับไปดูพระธรรมกิจการ เราก็ไมพบคําตอบคําถามของเรา และไมบอกเสียดวยวาทานเปาโลไดเขียนจดหมายไปถึงบรรดาคริสตจักรของทาน และไมไดบอกอะไรเลยถึงวิกฤตการณสองเร่ืองซ่ึงจดหมายเหลานั้นไดกลาวถึง คือเร่ืองท่ีมีคริสเตียนยิวใจแคบบางคนไดพยายามชักชวนคริสตจักรกาลาเทียใหออกหางจากทานเปาโลและการกบฏตอทานเปาโลที่นคร

โครินธ ความประสงคของลูกาคือตองการรายงานเร่ืองการเผยแพรของกิตติคุณ ทานบอกวาทาน

เปาโลมาถึงท่ีใหม ๆ อยางไร เร่ิมทํางานท่ีนั่นอยางไร และจากไปเพราะเหตุไร ทานไมพักท่ีจะอธิบายถึงความเจริญกาวหนาของคริสตจักรประจําทองถ่ินเหลานั้น

เราตองปะติดปะตอเอาจากจดหมายของทานเปาโลเองใหไดเร่ืองท่ีเกิดข้ึนทีหลังในนครโครินธ เราติดตามอยางนี้ไดพอท่ีจะทราบเร่ืองซ่ึงบางทีก็ตื่นเตนและบางทีก็เศราหมอง เม่ือเราติดตามขอความเราจะพบวาส่ิงท่ีเราเรียกวาโครินธฉบับท่ีสองน้ันอาจประกอบดวยจดหมายหลายฉบับซ่ึงเราเรียกวา “จดหมายฉบับท่ีหายไป” “จดหมายท่ีดุดัน” และ “จดหมายท่ีโมทนาพระคุณ”

การโจมตีทานเปาโลใหม

เม่ือทานเปาโลเขียนจดหมาย “โครินธฉบับตน” จากเมืองเอเฟซัสนั้น ทานไดหวังใจและอธิษฐานวา จดหมายน้ันจะชวยแกไขความผิดของนครโครินธและกอใหเกิดความกลมเกลียวกันท่ีนั่นอีก ไมตองสงสัยเลยถอยคําของทานคงจะทําใหเหตุการณดีข้ึน แตมีความยุงยากประการสําคัญเหลืออยู และกลับรายยิ่งข้ึน คือคริสตจักรไดแตกแยกเปนกกเปนเหลาแลว และเร่ืองนี้กระทําใหเหลาท่ีรายตอตานเปาโลเอง (1 โครินธ 1:12) จดหมายฉบับนี้ก็ดีหรือการท่ีทิโมธีไปเยี่ยมก็ดี (ถาเขาไปถึงโครินธ) ไมไดชวยแกจิตใจท่ีกบฏนี้เลย (1 โครินธ 4:17; 16:10)

การกบฏนั้นไมชาก็กระพือกันจนเปนเปลวไฟ มีผูประกาศเรรอนไดมาถึงและอางตนวาเปนอัครทูต เขาเหลานั้นเปนใครบางเราไมทราบแตเขาไมใชคนในคณะสิบสองนั้น เขาเยอหยิ่งทะนงตวัและเฉลียวฉลาดในการกวาดทําลายอิทธิพลของเปาโล และเขาท้ังหลายอวดอางวามีเลือดเนื้อเช้ือไขของพวกยิว และอางสิทธิในการส่ังสอน (2 โครินธ 11: 4, 4, 13, 20, 22) เพราะอิทธิพลนี้จึงมีคริสเตียนชาวโครินธคนหนึ่งเดือดดาลตอเปาโลเปนพิเศษ แลวใหเกิดกระบวนการข้ึนซ่ึงจะไมมีสวนอะไรเกี่ยวของ

107

Page 108: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

กับทานเปาโลเลย ท่ีจริงความผิดอันแทจริงของชายคนนี้คงจะข้ึนอยูกับความเยอหยิ่งและจิตใจที่มักกบฎ ไมใชเพราะอันตรายอันเกิดจากคําสอนใหมตอมาภายหลังเม่ือคนน้ีถูกทําโทษแลวและรูสึกเสียใจในควาาผิดของตน ทานเปาโลก็รอนใจอยากจะใหคริสตจักรใหอภัยเขาและรับเขากลับมาเปนสมาชิกสมบูรณอีก (2 โครินธ 2:5-8) แตผูบุกรุกท่ีโหดรายนั้นและหัวหนากบฏในทองถ่ินกระทําใหชาวโครินธยุงเหยิงไปช่ัวขณะหนึ่งและท้ังคณะก็หันหลังใหทานเปาโลและปฏิเสธไมยอมรับวาทานเปนผูนํา

เม่ือเผชิญกับวิกฤตการณอันนี้ ในกิ่งแรก ค.ศ. 57 ทานเปาโลก็เร่ิมเดินทางเรือขามทะเลอีเจียนไปยังโครินธ จาก 2 โครินธ 2:1 ; 12:14 ; 13:1,2 เร่ืองนี้ก็ดูแจมแจง เปนเร่ืองท่ีทานเปาโลวาเปนการเยี่ยมท่ีปวดหัวใจอยู ทานหวังวาการท่ีไปเยี่ยมเองนั้นจะทําใหชาวโครินธเห็นวาทานเปนผูทํางานของพระคริสต และการท่ีเขาทั้งหลายติดตามคนท่ีกอความยุงยากนั้นเปนความผิด แตก็ไมสําเร็จ คริสตจักรก็บอกปดทานท่ีเปนอยางนั้นทานก็ทําอะไรไมไดตอนนั้น หลังจากท่ีไดเตือนเขาวาทานจะกลับมาอีกเม่ือไปเมืองมาคะโดเนีย (1 โครินธ 1:16) ทานจึงกลับไปเอเฟซัสทานหวังวากอนท่ีทานจะไปเยี่ยม เขาท้ังหลายจะมองเห็นความผิดของตนและปลงใจท่ีจะกลับมาจงรักภักดีกันตอไป

จดหมายท่ีดุ

แตทานเปาโลไมไดปลอยเวลาที่คอยนั้นผานไปเปลา ๆ โดยไมเกิดผลดี ทานเขียนจดหมายไปถึงคริสตจักรนั้นถึงสองคร้ังกอน คร้ังหนึ่งใน “โครินธฉบับตน” และอีกฉบับหนึ่งกอนนั้นท่ีเรียกวา “จดหมายท่ีหายไป” คราวนี้ทานกลับมาท่ีเมืองเอเฟซัส ทานเขียนจดหมายฉบับท่ีสามถึงนครโครินธ ทานอางถึงไวใน 2 โครินธ 2:4,9; 7:8 ทานพยายามท่ีจะนําชาวโครินธใหสํานึกตัว ใหเปนมิตรกับทานและไววางใจทานอีก ดวยความเศราใจ ความต้ังใจอยางกราดเกร้ียวและถอยคําท่ีเปนขวานผาซาก อาจเปนไดซ่ึงเราจะเห็นตอไปวา สวนของจดหมายท่ีดุนั้นคงมีอยูในโครินธฉบับสองบทท่ี 10-13 เปนขอความซ่ึงเราเห็นการตอสูปองกันตัวเองตัวอยางเขมแข็งและการโจมตีพวกหัวหนาเท็จเหลานั้น

จดหมายดุฉบับนี้ทานเปาโลฝากทิตัสไปยังนครโครินธ มิใชจะใหทิตัสยื่นจดหมายใหเทานั้น แตไมตองสงสัยทานตองการใหการชักชวนสวนตัวของทิตัสชวยใหคริสตจักรนั้นกลับมาอีก เพื่อเห็นแกความสุขสบายและความเติบโตของคริสตจักร เขาควรจะเลิกนับถือพวกหัวหนาท่ีกบฏเหลานั้นเสีย เปล่ียนทีทาเสียใหม และร้ือฟนความสัมพันธฉันมิตรกับทานเปาโลใหกลับคืนมาอีก เม่ือทานเปาโลตั้งใจจะออกจากเมืองเอเฟซัสในไมชา ทานจึงนัดแนะกับทิตัสใหไปพบทานท่ีใดท่ีหนึ่งตามทางในภาคเหนือของอาเซียไมเมอรหรือในมาคะโดเนีย

ฉะนั้นทานเปาโลจึงออกจากเมืองเอเฟซัส และเห็นวาในเมืองโตรอา “ประตูก็เปด” ใหทาน ประชาชนพรอมท่ีจะฟงกิตติคุณและเชื่อถือ แตความเปนหวงนครโครินธกระทําใหทานไรสันติสุข

108

Page 109: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

ภายใน ทานอยากฟงอยางรอดเร็วท่ีสุดวา จดหมายดุของทานและคําสอนของทิตัสเอาชนะชาวโครินธใหกลับมาไดหรือไม ดังน้ันทานจึงออกจากเมืองโตรอาขามไปยังมาคะโดเนีย (2 โครินธ 2:12, 13)

ในท่ีสุดคงเปนท่ีเมืองฟลิปปทานไดพบกับทิตัส ในฤดูรอนหรือฤดูแลงของป ค.ศ. 57 ขาวนั้นเปนขาวดี คริสตจักรโครินธไดเปล่ียนทีทาของตนจนหมดส้ิน คริสตจักรไดบังคับหัวหนาท่ีมักกบฏไวไดและรอนใจอยากไดทานเปาโลกลับมาเปนมิตรสหายอีก ทานอัครทูตโลงใจไปมากและดวยความปล้ืมปติท่ีเปยมลนทานไดเขียนจดหมายทันที เปนจดหมายโมทนาแสดงความกตเวทีตอพระเจาและแจงความรักของทานตอชาวโครินธ

จดหมายโมทนาพระคุณ

ความโลงใจและความปล้ืมปติอันมากมายที่มีอยูนั้นทานเปาโลไดเขียนระบายออกมาในจดหมายโมทนาพระคุณหลายคร้ังหลายหน ในตอนแรก ๆ ก็เปนสํานวนแข็งขัน ความพอใจของทานท่ีทราบวาเร่ืองราวในนครโครินธถูกตองดีแลวนั้นไดเพ่ิมพูนข้ึนอีก ในเมื่อทานระลึกถึงเร่ืองการอดตายอยางอัศจรรยซ่ึงทานไดรับมาในอาเซีย อันเปนแควนหนึ่งของโรมในอาเซียไมเนอรภาคตะวันออก

(2 โครินธ 1: 3-11) นี่มิไดพาดพิงไปถึงความระทมของทานในเร่ืองความลําบากท่ีเกิดข้ึนในโครินธ หรือท่ีกลุมกอการรายชาวเอเฟซัสหาทานไมพบเม่ือเกิดเร่ืองวุนวายข้ึนในคร้ังนั้น (กิจการ 19:23-41) ความวุนวายข้ึนนั้นมิไดพาทานเปาโลใหเขาในอันตรายแทแตอยางใด และไมกระทําใหทานทอถอย เพราะทานยังปรารถนาจะเขาไปพูดกับพวกวุนวายเหลานั้น เหตุฉะนั้นอันตรายตองเปนส่ิงท่ีทานไดประสบเม่ือเดินทางอยูในอาเซียไมเนอรภาคตะวันตก อันตรายอะไรเราก็ไมทราบได แตทานแนใจในส่ิงหนึ่งคือ พระเจาทรงชวยทานใหพนความตายทํานองเดียวกันท่ีพระองคประทานความเลาโลมใจดวยเหตุการณท่ีเกิดขึ้นเม่ือเร็ว ๆ นี้ในนครโครินธ

การท่ีทานเปาโลออกสั่งสอนเพ่ือพระคริสต

ทานเปาโลกระตือรือรนท่ีจะหนุนความจงรักภักดีท่ีพวกโครินธมีตอทาน ทานจึงคํานึงถึงส่ิงท่ีทานไดกระทํา ทานมีความจริงใจตอเขาท้ังหลายทุก ๆ อยาง (2 โครินธ 1: 12-14) ทานมีเหตุผลท่ีไมไปเยี่ยมเขากอนท่ีทานไปยังเมืองมาคะโดเนีย ทานตกลงใจวาจะปลอยใหเขามีเวลาเปล่ียนทีทา เพื่อเม่ือทานไปเยี่ยมอีกคร้ังหนึ่งจะเปนการเย่ียมท่ีมีความสุขใจแทนที่จะไปเยี่ยมทันทีจึงไดเขียนจดหมายดุเพื่อใหสถานการณดีข้ึน (2 โครินธ 1:15 ถึง 2:4) และแผนงานของทานก็ไดเร่ือง คริสตจักรกลับใจใหมและลงโทษหวหนาท่ีกบฏ ฉะนั้นคราวน้ีทานเปาโลจึงชักชวนเขาใหยกโทษผูท่ีกระทําผิดไดละ

(2 โครินธ 2:5-11)

109

Page 110: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

แลวทานเปาโลก็เร่ิมพูดถึงเร่ืองความปลื้มปติเม่ือไดรับขาวดีจากทิตัส (2 โครินธ 2:12,13) แตทานก็ยับยั้งเสียและพูดตอไปตามเร่ืองใน 2 โครินธ 7:5 เทานั้น และโมทนาพระคุณพระจาท่ีทรงใชทานในพระราชกิจของพระองค ขอนี้ทําใหทานบรรยายยืดยาวถึงกิจการและการประกาศของพวกอัครทูต (2 โครินธ 2:14 ถึง 6:10) ทานสามารถทํางานของทานของทานไดดวยฤทธ์ิเดชของพระเจาเทานั้น ความดีความชอบไมไดตกแกทานเปาโลแตทานเปนคนสัตยซ่ือ (2 โครินธ 2:14-17) ทานไมตองการหนังสือรับรอง แตความเช่ือและชีวิตท่ีเปล่ียนใหมของชาวโครินธ เปนใบรับรองอยูแลว (2 โครินธ 3:1-3) ทานเปนผูรับใชในพันธสัญญาใหมซ่ึงพระเยซูคริสตทรงสถาปนา ในพันธสัญญาใหมนี้พระคริสตทรงเปนองคพระผูเปนเจา และพระวิญญาณของพระเจาเปนฤทธ์ิเดชที่ประทานชีวิต (2 โครินธ 3:4-18)

อัครทูตเปนผูรับใชท่ีเปนคนธรรมดาและออนแอของพระคริสตและคริสตจักรเทานั้นเอง แตฤทธ์ิเดชของพระเจาท่ีไดใหแรงใหมกําลังทํางานอยูในตัวทานเพื่อใชชีวิตแกผูอ่ืนและใหชีวิตนิรันดรแกทานเปาโล (2 โครินธ บท 4) แมวาความตายจะไมนําความพายแพและความเสียหายมาสูทานเปาโลพระวิญญาณของพระเจาก็อยูในทาน และน่ีเปนมัดจําของพระเจาท่ีวาทานเปาโลจะอยูรวมสํานักกับพระเจาในชีวิตภายภาคหนา พระสัญญานี้เปนแรงผลัก ทานจึงพยายามอยางยิ่งท่ีจะดํารงชีวิต เพื่อพระคริสตจะทรงรับทาน ณ การพิพากษาสุดทายนั้น (2 โครินธ 5:1-10) ความเกรงกลัวอันกอปรดวยความเคารพสักการะตอองคพระผูเปนเจาและความรักอันมีฤทธ์ิเดชของพระคริสต ไดผลักดันทานเร่ือยไปในงานออกส่ังสอนอยางสัตยซ่ือเพื่อใหคนคืนดีกับพระเจา หัวใจแหงขาวประเสริฐของทานคือ “พระเจาทรงกระทําใหโลกน้ีคืนดีกันกับพระองคโดยพระคริสตไมไดทรงถือโทษเพราะการผิดของเขา และไดทรงมอบเร่ืองการคืนดีกันนั้นไวกับเราใหประกาศ” (2 โครินธ 5:11-19) เหตุฉะนั้นดวยความรอนรนท่ีไมยนยอ และความกระตือรือรน ทานเปาโลในฐานะท่ีเปนราชทูตของพระคริสตไดเสนอเร่ืองตอมนุษยและทํางานของทานเร่ือยไป ไมคํานึงความลําบากและอันตรายแตอยางใด (2 โครินธ 5:20 ถึง 6:10)

ทานเปาโลหันกลับไปหาคริสตจักร ไดขอรองเขาอยางแข็งแรงใหเขาสนองความรักของทานดวยความรักเชนกัน (2 โครินธ 6:11 ถึง 7:4) ตอนกลางของคําขอรองนี้มีคําตักเตือนใหพนจากส่ิงผูกพันอันไมเปนคริสเตียนซ่ึงจะนําใหเกิดบาปแกกายและวิญญาณจิตของตน ( 2 โครินธ 6:14 ถึง 7:1) บางคนคิดวาคําตักเตือนนี้อาจเปนสวนหนึ่งของ “จดหมายท่ีหายไป” อันไดอางถึงใน 1 โครินธ 5:9 ซ่ึงตักเตือนไมใหคนช่ัวอยูในคริสตจักร หรือไมก็ทานเปาโลบรรจุไวในนี้เพราะทานทราบวามีการลอลวงเนือง ๆ ท่ีจะทําใหคริสตจักรดํารงชีวิตในทางช่ัว แตขอสําคัญในตอนนี้คือคําเสนอแกผูอานเพื่อใหเขาแสดงความรักแกทานทํานองเดียวกับท่ีทานรูสึกและไดแสดงแกเขาแลว

110

Page 111: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

ในท่ีสุดเม่ือมาถึงตอนนี้ทานเปาโลบอกวาทานไดพบกับทิตัสและเลาเร่ืองความปล้ืมปติของทานและของทิตัสท่ีไดรับขาวดีจากนครโครินธขาวนั้นกระทําใหทานเปาโลมีความสุขสบายสักเทาใดเปนส่ิงงายท่ีจะเขาใจ (2 โครินธ 7 : 5-16)

การใหของคริสเตียน

คริสเตียนท่ีจงรักภักดีและกตัญูมีภารกิจท่ีตองกระทําหลายอยางชาวโครินธละเลยภารกิจอยางหนึ่งไปชั่วคราวหนึ่ง คือเขาท้ังหลายไดตั้งตนเก็บเร่ียไรเพื่อชวยคริสเตียนยากไรในกรุงเยรูซาเล็ม แลวพวกกบฏไดรบกวนจึงชะงักไปเสีย ใน 2 โครินธ บท 8 และ 9 ทานเปาโลไดชักชวนเขาใหทํางานนั้นตอไปจนสําเร็จ และใหถวายดวยใจกวางขวางกอนท่ีทานจะมาถึง

ดวยเหตุผลโตแยงและคําเสนอหลายประการเปาโลไดกระทําเพื่อใหไดเงินชวยเหลือเปนจํานวนมาก เขาตองกระทําไมใหนอยหนาคริสตจักรเพื่อนบาน (2 โครินธ 8: 1-5) ของขวัญนั้นจะแสดงความจงรักภักดีของเขาท่ีมีตอทานเปาโล เพราะทานสนใจมากในการเรียไรคร้ังนี้ (2 โครินธ 8:7) เขาควรถวายตามความสามารถของเขา (2 โครินธ 8:10-12) ทานเปาโลไดสงทิตัสใหมาเพ่ือหนุนใจเขา และเขาท้ังหลายรูจักทิตัสดีอยูแลว และผูชวยท่ีเจนจัดอีกสองคนทานเปนพยานในความสัตยซ่ือและความกระตือรือรนของเขาท้ังหลาย (2 โครินธ 8:16-24)

เขาท้ังหลายไดสัญญาวาจะสงของขวัญและไดเร่ิมตนแลว คราวน้ีเขาตองทําส่ิงท่ีเขาเร่ิมแลวนั้นใหสําเร็จ ทานไดบอกคนอ่ืน ๆ วานครโครินธนี้ไวได และทานยังไดบอกวาของขวัญของโครินธนั้นมีพรอมแลวเขาท้ังหลายจึงตองรวบรวมเงินใหเสร็จทันที เพ่ือทานและเขาท้ังหลายจะไมขายหนาในเร่ืองท่ีทานวางใจเขา (2 โครินธ 9:1-5) การใหท่ีแทจริงตองเปนการใหดวยความยินดี และพระเจาจะทรงอํานวยพรใหถึงขนาด (2โครินธ 9:6-11) บรรดาคนท่ีไดรับของขวัญนั้นจะโมทนาพระคุณพระเจาในเร่ืองความเช่ือและความชวยเหลือของชาวโครินธ (2 โครินธ 9:12-14) ขอใหชาวโครินธรําลึกวา ของประทานจากพระเจาท่ีเขาไดในพระคริสตนั้นใหญโตสักเพียงใด แลวเขาท้ังหลายจะพรอมท่ีจะกระทําทุกอยางซ่ึงเขากระทําไดเพ่ือประชาชนของพระคริสต ผูขัดสนแน (2 โครินธ 8:9;9:15) ทานเปาโลกระทําเชนนี้เพื่อผูกพันยิวเขากับพวกคริสเตียนตางชาติ ใหมีน้ําใจและความเขาใจดีตอกันในเม่ือหมูหนึ่งใหดวยความยินดี และอีกหมูหนึ่งรับดวยความรูสึกกตัญู ท้ังสองฝายก็จะถูกดึงเขามาชิดสนิทกันดวยความรักและความไววางใจฉันคริสเตียน

การขนาบอยางกราดเกรี้ยว

ทานเปาโลไดกลาวแลววาทานยินดีมากสักเทาใดท่ีชาวโครินธไดร้ือฟนความจงรักภักดีตอทานข้ึนใหม ทานไดชักชวนเขาใหเก็บเงินเรียไรใหสําเร็จ แตบัดนี้นาประหลาดใจทีเดียวท่ีมีอีกส่ีบทซ่ึงลวน

111

Page 112: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

เปนการกลาวปองกันตนเอง การโจมตี และการตักเตือน (2 โครินธ 10: 1 ถึง 13:10) ส่ีบทนี้ประณามชาวโครินธเพราะบาปและการกบฏเตือนวาถาทานเปาโลมาเยี่ยมคราวหนาจะกราดเกร้ียวแนทีเดียว

บทเหลานี้บอกเราถึงเร่ืองทานเปาโลหลายอยางหลายประการ ทานยอมรับวารูปรางหนาตาของทานและความสามารถในการพูดของทานไมเปนท่ีตรึงใจเลย (2 โครินธ 10: 10) วิธีทํางานของทานคือทานไปในท่ีท่ีคนอ่ืนยังไมไดไปประกาศ และต้ังคริสตจักรข้ึนใหม (2 โครินธ 10:15,16) ทานตองชวยตัวเองบอย ๆ (กิจการ 18:3) และไมเคยรับการเกื้อกูลจากเมืองใดท่ีทานไปทํางาน (2 โครินธ 11:7-11) ท่ีทําเชนนี้เพื่อกันไมใหสังสัยวาทานสนใจในเร่ืองเงินทอง ความสัตยซ่ือและการถวายตัวของทานตอพระคริสตก็กระจางแจงอยูโดยบัญชีการถูกขมเหง ความยากลําบาก ความทนทุกขท่ีทานไดรับ

(2 โครินธ 11:23-29) ทานพูดอวดถึงนิมิตท่ีพระเจาทรงประทานใหแตไมใชเพื่อเหตุแหงความเยอหยิ่ง ท่ีจริงเพื่อใหทานเปนคนถอมตัวพระเจาทรงประทานส่ิงท่ีทดลองกายของทานคือ “หนาม” หรือความปวยเจ็บ แตพระเจาทรงประทานกําลังแกทานเพื่อจะทนและกระทํางานของพระองคได (2 โครินธ 12:1-10) แมการอัศจรรยพระเจาก็ทรงประทานใหทานกระทําทามกลางชาวโครินธ (2 โครินธ 12:12) เม่ือทราบถึงส่ิงเหลานี้แลวชาวโครินธควรกลับใจเสียใหม และแสดงทาทีเสียใหมกอนท่ีทานมาอีกคร้ังหนึ่ง ( 2 โครินธ 12:14 ถึง 13:10)

ท่ีการปองกันตัวและการขนาบโพลงออกมาในตอนน้ีกระทําใหเปนท่ีแปลกใจมาก ในบททีล่วงมาแลวทานเปาโลไดบรรยายดั่งวาชาวโครินธไดกลับใจและเช่ือฟงแลว ทานไดพูดถึงความปล้ืมปติเปยมดวยการโมทนาท่ีทาน “ไวใจทานท้ังหลายไดทุกส่ิง” (2 โครินธ 7:16) ทําไมบัดนี้ทานประณามเขาเขาอยางขมข่ืน ทานยังโจมตีคนหมูนอยท่ีกบฏอยูอีกหรือ ไมมีสักคําเดียวท่ีแนะใหเขาใจเชนนี้ เปาโลกําลังขนาบท้ังคริสตจักรท่ีโครินธ

นี่เปนเร่ืองท่ีชาวโครินธกระทําอยูเม่ือทานเปาโลเขียนจดหมายดุจากเมืองเอเฟซัสทีเดียว แตนี่ไมใชส่ิงท่ียังเปนอยูเม่ือทานเปาโลเขียนจดหมายโมทนาพระคุณจากมาคะโดเนีย ถึงแมวาส่ีบทหลังไมไดรวมคําเรียกรองใหลงโทษหนาท่ีกบฏโครินธ คําเรียกรองนั้นเราทราบแลววามีอยูในจดหมายดุ

(2 โครินธ 2: 9; 7:12) ดูเหมือนวาส่ีบทตอนทายนี้เปนสวนของจดหมายดุ ตอมาภายหลังเขาไดสอดเขาไวตรงนี้ เพราะในตอนนี้มีขาวการเดินทางและการออกส่ังสอนของทานเปาโลมากมาย

ความรักและความสนใจสวนตัวอยางดื่มด่ําของทานเปาโลไดอยูเบ้ืองหลังการท่ีทานไดเขียนจดหมายถึงนครโครินธ ทานไดกลาวแสดงความรูสึกนี้เปนคร้ังสุดทายในคําตักเตือนและคําคํานับในตอนจบ (2 โครินธ 13: 11-13) และจบลงดวยคําอธิษฐาน “ขอพระคุณของพระเยซูคริสตเจาความรักแหงพระเจา และความสนิทสนมซ่ึงมาจากพระวิญญาณบริสุทธ์ิดํารงอยูกับทานท้ังหลายเถิด” (2 โครินธ 13:14)

112

Page 113: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

การเยี่ยมนครโครินธครั้งสุดทาย

จากมาคะโดเนีย ทานเปาโลเดินทางตอไปถึงกรีกเพื่อพักอยูสามเดือน (กิจการ 20: 1-3) ชะรอยทานจะอยูตอนฤดูหนาวท่ีนั่นท่ีไปกรุงเยรูซาเล็มเพื่อนําเอาเงินถวายจากโครินธและจากคริสตจักรอ่ืน ๆ ไปดวยไมตองสงสัย ทานคงใชเวลาเปนสวนมากอยูกับชาวโครินธ ผูซ่ึงไดเก็บเงินเร่ียไรจนสําเร็จแลว (โรม 15:26) ในเวลาท่ีเขาวุนวายสับสนก็มีจดหมายจากทานเปาโลแสดงน้ําใจของศิษยาภิบาล ความสัตยซ่ือของทานและความเขาใจอันลึกซ้ึงในขาวประเสริฐและงานออกส่ังสอนท่ีพระเจาทรงประทานให

แนะการอาน จําผังอันสําคัญไวใหดี คือ 1. เร่ืองราวซ่ึงเกิดข้ึนนี้และความปล้ืมปติของทานเปาโลอันเกิดมาจากเร่ืองราวเหลานั้น 2 โครินธ 1: 1 ถึง 2:13 และ 2โครินธ 6:11 ถึง 7:16 ไดทบทวนเร่ืองในอดีต แสดงความรัก

ซ่ือตรงของทานเปาโลที่มีตอชาวโครินธ และแสดงความปล้ืมปติของทานเม่ือเขาท้ังหลายกลับมาจงรักภักดีใหม

2 โครินธ 2:14 ถึง 6:10 เปนคําบรรยายแนะนํามากท่ีสุดในเร่ืองวาขาวประเสริฐของทานคืออะไร และทานดําเนินงานการออกส่ังสอนของทานอยางไร

2. เสนอใหเก็บเรียไรใหสําเร็จ (2 โครินธ บท 8 และ 9) 3. การปองกันตัวอยางแข็งขันและการโจมตีผูบุกรุกนครโครินธดวยความเห็นแกตัว (2 โครินธ บท 10 ถึง 13) ขอพระธรรมท่ีตองอานอีกคร้ังหนึ่งคือ การเลาโลมฉันคริสเตียน (2 โครินธ 1: 3-7) จดหมาย

รับรองท่ีมีชีวิต (2 โครินธ 3:1-3) แหลงความสามารถของทานเปาโลในการทํางาน (2 โครินธ 3:4-6) หัวขอพระคริสเตียนผูทํางาน (2 โครินธ 4:5) หัวใจของขาวประเสริฐ (2 โครินธ 5:17-21) ความยากลําบากท่ีทานเปาโลตองทนในการรับใชพระคริสต (2 โครินธ 6:4-10; 11:23-29)

113

Page 114: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

บทที่ 13 จดหมายถึงชาวโรม

ทานเปาโลรุมหนาเร่ือยไป งานของทานคือการไปเทศนาในท่ีใหมและต้ังคริสตจักรใหมข้ึน (โรม 15: 20) ทานเกิดในเมืองทารโซ รับการศึกษาในกรุงเยรูซาเล็ม ไดกลับใจเปนคริสเตียนใกล ๆ เมืองดัมเมเษ็ขในท่ีสุดไดเปนผูนําในคริสตจักรอันทิโอเปยในประเทศซีเรีย จากท่ีนั่นทานก็เปนจาริกาจารย และทิศท่ีทานไปทํางานคือทางตะวันตก ทานมิไดรุดหนาไปเปนเสนตรง แตทานทํางานท่ีเกาะไซปรัส ท่ีอาเซียไมเนอรตอนกลางและตอนใต ท่ีมาคะโดเนีย ท่ีประเทศกรีก และในท่ีสุดท่ีเมืองเอเฟซัส

ทานคิดวางานอันบังเกิดผลดีท่ีเมืองเอเฟซัส คงเปนจุดจบของงานกรุยทางภาคตะวันออกของอาณาจักรโรมแลว คนอ่ืน ๆ เทศนาอยูในประเทศปาเลสไตน ซีเรีย และอาเซียไมเนอรภาคเหนือ เร่ืองคริสตจักรศตวรรษแรกในประเทศอียิปตนั้นเราไมทราบเร่ืองเลย แตท่ีทานเปาโลไมไปยังท่ีนั้นยอมแสดงวาคนอ่ืนไดนําขาวประเสริฐไปที่นั่นแลว ตอไปทานควรจะไปที่ไหน

จิตใจของทานหันไปยังประเทศสเปน ทุงนาเปดกวางคอยทานอยูท่ีนั่น ทานจึงกะแผนงานท่ีจะเดินทางไปยังสเปนไปเทศนาในเขตแควนของโรมท่ีนั่น (โรม 15: 24, 28) ส่ิงแรกทานกลับไปเยี่ยมเมืองมาคะโดเนียและกรีก เพื่อใหแนใจวาส่ิงตาง ๆ ท่ีนครโครินธเรียบรอยดี แลวทานต้ังใจจะนําเงินเรียไรไปยังกรุงเยรูซาเล็ม เพื่อชวยคริสเตียนยากจนในประเทศปาเลสไตน (โรม 15:25-28) เม่ือทําส่ิงเหลานี้เสร็จแลวทานก็จะหันไปทางตะวันตกได

“จะตองไปดูกรุงโรมดวย”

ซ่ึงจะต้ังตนทํางานในทางตะวันตกน้ันทานตองไปกรุงโรมกอน (กิจการ 19: 21) มีเหตุสองขอท่ีดึงทานไปท่ีนั่น ขอหนึ่งคือคริสตจักรซ่ึงอยูท่ีนั่นทานไดยินถึงคริสตจักรนั้นมาต้ังหลายปแลว และกะวาจะไปเยี่ยม แตจนบัดนี้ทานก็มีธุระยุงอยูในทิศตะวันออกทานจึงไมสามารถไปเย่ียมได (โรม 1:10, 13)

อีกเหตุหนึ่งก็คือความสําคัญของกรุงโรมนั่นเอง นี่เปนนครหลวงของอาณาจักรท่ีเกรียงไกร บรรดาผูครอบครองและผูหัวหนาของโลกในสมัยโบราณอยูท่ีนี่ กรุงโรมเปนจุดสนใจของแควนตาง ๆ ท่ัวราชอาณาจักรจากนครนี้มีทางหลวงอันมีช่ือเสียงของโรม และมีคมนาคมทางทะเลแยกไปท่ัวทิศทาง ทานเปาโลเองก็เปนคนสัญชาติโรม ทานทราบดีถึงกําลังและความสําคัญของโรม ทานตองการไปสอนท่ีนั่น

มิใชทานอยากจะไปต้ังรกรากพํานักอยูในกรุงโรม เพราะในกรุงนั้นมีคริสตจักรอยูแลวไมชาทานก็ตองเคล่ือนยายไปอีก แตมีสองส่ิงอาจไดมาจากการเยี่ยม ส่ิงหนึ่งคือความปล้ืมปติในการเทศนาในนครท่ีสําคัญและเปนศูนยกลางเชนนั้น อีกส่ิงหนึ่งก็เพราะอาจปลูกมิตรกับคริสเตียนโรมที่นั่น ถาคน

114

Page 115: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

เหลานั้นเห็นชอบและเกื้อกูลทาน ทานก็หวังท่ีจะทํางานในประเทศสเปนได ถาเขาท้ังหลายสงสัยหรือขอขัดขวางทาน เขาก็อาจกระทําใหงานทางทิศตะวันตกยากลําบากและเขาอาจจะกีดกันไมใหบรรลุความสําเร็จเขาท้ังหลายเปนเพื่อนของทานและแสดงความสนใจในตัวทาน เขาคงจะปองกันไมใหทานถูกโจมตีอยางไมเปนธรรม และคงจะชวยเหลือการงานท่ีทานตองการกระทํานั้นไดมากมาย

ทานยังไมรูจักคริสตจักรนี้ ทานยังไมเคยไปเยี่ยมประเทศอิตาลีทานมีเพื่อนอยูท่ีนั่นบางก็จริง พวกคริสเตียนจากคริสตจักรท่ีทานไดตั้งข้ึนหรือท่ีทานไปเย่ียมเยียนไดไปอยูท่ีโรม แตคริสเตียนชาวโรมสวนมากไมเคยเห็นหนาทาน เขาท้ังหลายอาจจะรังเกียจทานก็ได เพราะศัตรูของทานในท่ีอ่ืน ๆ อาจสงขาวอันไมเปนธรรมในเร่ืองตัวทานไปท่ีนั่นก็ได ฉะนั้นงานข้ันแรกของทานก็ตองสรางมิตรภาพกับ

คริสเตียนชาวโรมกอนเพ่ือจะเตรียมงานของทานในสเปน ตองแจงความประสงคของทานแกเขา และเชิญใหเขาชวย และอธิบายใหเขาฟงวาทานเขาใจเร่ืองขาวประเสริฐอยางไรทานท่ีจึงเขียนจดหมายไปถึงชาวโรม ทานบอกเปนคําบอกและสงไปในราว ค.ศ. 57 หรือ 58 ตอนฤดูหนาวขณะท่ีทานเยี่ยมประเทศกรีกสามเดือน (กิจการ 20: 1-3) และชะรอยจะเปนเวลาขณะซ่ึงทานอยูท่ีนครโครินธ

คริสตจักรโรมไดต้ังขึ้นมาอยางไร

ใครตั้งคริสตจักรโรมเม่ือไร แปลกอยูท่ีเราไมสามารถตอบคําถามอยางนี้ ฝายโรมันคาทอลิกเคยอางวาอัครทูตเปโตรไดมาท่ีโรมประมาณใน ค.ศ. 42 และต้ังคริสตจักรนั้น ซ่ึงทานไดเปนบิชอบและเปนสันตปาปาจนเวลาทานถูกประหารอยางวีรบุรุษในราว ค.ศ. 67 สมัยนี้ไมมีพวกโปรเตสแตนทหรือนักธรรมศึกษาท่ีไมใชคริสเตียนคนใดถือตามแนวน้ี แมหนังสือของชาวโรมันคาทอลิกท่ีคงแกเรียนบางคนก็ไมอางเอามากมายอยางนั้น มีส่ิงหนึ่งท่ีแนนอนคือ ทานเปโตรมิใชคนแรกที่นําขาวประเสริฐไปยังกรุงโรม ทานไปท่ีนั่นทีหลัง ขอนี้เขาเห็นชอบกันอยางกวางขวาง ถึงกระนั้นก็มิไดสอใหเห็นวาทานไดเปนสันตะปาปา แตทานมิไดตั้งคริสตจักรนั้น และเม่ือจดหมายของทานเปาโลไมมีเร่ืองพาดพิงไปถึงทานเปโตรเลยทานจึงมิไดอยู ณ กรุงโรมเม่ือทานเปาโลเขียนจดหมายฉบับนี้

ขาวปรเสริฐไปถึงกรุงโรมโดยวิธีอ่ืน วันแรกท่ีเร่ิมท่ีเปนไปไดก็คือหลังจากวันเพ็นเทคอสต เม่ือพระเจาทรงประทานพระวิญญาณบริสุทธ์ิใหแกสาวกท่ีคอยอยู พระคัมภีรบอกเราวาประชาชนจากรุงโรมไดอยูท่ีนั่น (กิจการ 2: 10) ชาวโรมบางคนท่ีเดินทางเนื่องในการศาสนาไปท่ีนั่นอาจจะไดกลับใจเปนคริสเตียน ถาเปนอยางนั้น เขาเหลานั้นก็นําเอาขาวประเสริฐไปท่ีกรุงโรม หรือชะรอยจะมีคริสเตียนบางคนท่ีเปาโลหรือผูนําคนอ่ืน ๆ ไดใหเขากลับใจในทางทิศตะวันออกไดไปท่ีกรุงโรมและไดบอกเลาเร่ืองขาวประเสริฐและต้ังคริสตจักรข้ึน

115

Page 116: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

สองส่ิงเทานั้นท่ีแนนอน คริสตจักรนี้ตั้งมานานแลว และเม่ือทานเปาโลเขียนจดหมายคริสตจักรก็มีช่ือเสียงวาเปนคริสตจักรท่ีแข็งแรงแลว (โรม 1: 8) เราคงเขาใจงายวาทานเปาโลตองการไปเยี่ยมคริสตจักรนี้ทําไม และคริสตจักรนี้จะชวยเหลือหรือขัดขวางงานของทานในสเปนไดอยางไร

จดหมายฉบับกอน ๆ ของทานเปาโลไปถึงบรรดาคริสตจักรท่ีทานไดตั้งข้ึนและไดนําทาง ในจดหมายเหลานั้นทานมักจะอางถึงเหตุการณท่ีลวงแลวมาและการกระทําสวนตัวของทานในเม่ือตัวทานและคริสตจักรท่ีทานมีจดหมายถึงรูจักกันและกันเปนสวนตัวแลว จดหมายเหลานั้นก็เปนแบบกันเองและกลาวถึงสภาพการณเฉพาะอยาง แตในการเขียนจดหมายถึงกรุงโรม ทานเปาโลเขียนถึงคนสวนมากท่ีเปนคนยังไมรูจักคุนเคยกันจดหมายสอใหเห็นความจริงขอนี้ คือไมใครเปนกันเองและไมใครเปนเร่ืองสวนตัว

แนละ ทานเปาโลทราบความจริงบางประการเก่ียวกับสถานการณท่ีกรุงโรมแลว ทานทราบวา คริสเตียนสวนมากท่ีนั่นเปนคนตางชาติ (โรม 1: 13; 11:13) แตก็มีชาวยิวท่ีเปนคริสเตียนอยู

มากพอท่ีจะกระทําใหความสัมพันธระหวางศาสนาคริสเตียนกับลัทธิยิวเปนประเด็นท่ีสําคัญจริง ๆ ทานทราบอยูเหมือนกันวาคริสเตียนจะตองตัดสินเอาเองวาจะเช่ือฟงอํานาจจักรวรรดิ์ท่ีไมเปนคริสเตียน

(โรม 13:1-7) และท่ีเขาจะโตเถียงกันวาเขาควรจะรับประทานอาหารบางชนิดหรือไมควร (โรม 14:1 ถึง 15:13) ถึงกระนั้นก็ดี จดหมายนั้นก็ยังขาดความเปนกันเองของทานไมเหมือนดังท่ีทานเขียนไปถึงคริสตจักรท่ีทานรูจัก

ขาวประเสริฐท่ีวาพระเจาเทาน้ันซึ่งทรงชวยใหรอดได

ทานเปาโลมีอะไรจะตองพูดกับคริสตจักรท่ีเขมแข็งและสําคัญนี้ทานทราบถึงมีความจริงใหมอะไรบางหรือท่ีเขาท้ังหลายสนใจและประหลาดใจไมมีเลย ทานไมมีเร่ืองอะไรใหมท่ีจะเลาใหฟง ทานเปาโลและคริสตจักรโรมมีขาวประเสริฐอยางเดียวกัน แตทานก็เสนอหัวใจของขาวประเสริฐนั้นใหแกชาวโรม เพื่อชวยเขาและสรางมิตรภาพกับเขา เปนขาวประเสริฐสําหรับพวกยิวและพวกตางชาติเหมือนกัน สําหรับจักวรรดิ์โรมและสําหรับโลกดวย สําหรับความเช่ือและสําหรับกิจวัตรประจําวันสําหรับปจจุบันและสําคัญอนาคต

ทานเปาโลมิไดประดิษฐข้ึน ทานไดรับมา (กาลาเทีย 1: 11, 12) เปน “ขาวประเสริฐของพระเจา” (โรม 1:1) เปนเร่ืองท่ีวาพระเจาทรงกระทําอะไรเพื่อมนุษยทางพระคริสต เปนขาวท่ีวา พระเจาทรงชวยไดและพอพระทัยชวยใหมนุษยรอด คือบรรดามนุษยท่ีเช่ือในขาวดีท่ีพระองคทรงประทานความรอดในพระคริสต

ท่ีจะบอกวาทานเช่ืออยางไรและทําไมทานจึงเขียนจดหมายนี้ ทานเปาโลทบทวนวาขาวประเสริฐนั้นไดกําเนิดข้ึนในอิสราเอล วาพระเยซูคริสตเปนเช้ือสายของดาวิดและทรงเปนพระบุตรของ

116

Page 117: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

พระเจาประกอบดวยฤทธ์ิเดชดวยวาพระเจาทรงประทานความรอดแกมนุษยท้ังปวงทางพระคริสต และวาพระเจาทรงใชทานเปาโลใหมาสอนชนชาติโดยเฉพาะ (โรม 1: 1-7) แลวเปาโลก็โมทนาพระคุณพระเจา เพราะไดรับขาวดีเร่ืองความเช่ือของคริสตจักรโรม ทานบอกเขาใหแนใจวาทานไดอธิษฐานอยูนานและยังอธิษฐานอยูเพื่อทานจะไดมาเยี่ยมเขาและกลาวส่ังสอนในกรุงโรม (โรม 1:8-15)

คราวนี้ทานเปาโลก็ระบุถึงหัวขอสําคัญยิ่งใหญของทาน ทานไมละอายเลยในเร่ืองขาวประเสริฐแมวาในกรุงโรมนครหลวงของอาณาจักรท่ีมีอํานาจและภาคภูมิใจ โรมมีกองทัพมหิมาและมีอํานาจทางการเมืองแตฤทธ์ิเดชที่แทคือฤทธ์ิเดชที่จะชวยมนุษยใหรอดนั้น พระเจาทรงประทานใหไวในขาวประเสริฐ ความสัมพันธอยางถูกตองกับพระเจาและชีวิตท่ีชอบธรรมยอมจะไดแกทุกคนท่ีเช่ือถือขาวประเสริฐ (โรม 1: 16, 17)

ไมตองสงสัยละวายอมมีบางคนอยางเดียวกับสมัยนี้ผูรูสึกวาไมตองการใหพระเจาชวยใหรอด ทานเปาโลทราบวาเขาเหลานั้นผิด มนุษยทุกคนกระทําผิด และตอพระพักตรพระเจาแลวเขาเปนคนบาป เปาโลจึงบรรยายถึงบาปและความตองการของมนุษยทุกคนกอน พวกยิวและพวกตางชาติก็เหมือนกัน (โรม 1: 18 ถึง 3:20) โดยการพิจารณาดูมนุษยและศึกษาในพระคัมภีร ทานทราบดีวามนุษยนี้ช่ัวและลมเหลว แมวาพวกยิวผูมีโอกาสดีมากมายก็กระทําบาปช่ัวอยางพวกตางชาติเหมือนกัน ธรรมบัญญัติและคําแนะนําในพระคัมภีรปองกันไวไมได มนุษยทุกคน มีความตองการอันเดียวกัน เขาตองการรับการพิพากษาลงโทษของพระเจา เขาท้ังหลายตองการความชวยเหลือซ่ึงเขาหาเองไมพบ

ความชวยเหลือนั้นมาในองคพระคริสต ผูซ่ึงทรงลงทุนมากมายเพ่ือทรงประทานการไถบาปใหแกทุกคนท่ีเช่ือ ในเมื่อพระเจาทรงใชพระคริสตและพระองคทรงชวยมนุษยจึงไมมีมนุษยคนใดที่จะใหเกียรติแกตนเองหรือแกหมูคณะของตนอยางภาคภูมิใจไดตําแหนงและสิทธิใหมของมนุษยเปนของขวัญท่ีพระเจาทรงประทานใหแกเขาซ่ึงไมเปนบุคคลท่ีคูควรจะไดรับพระองคทรงประทานแกมนุษยเปลา ๆ ถึงทีแรกจะประทานแกพวกยิวกอนก็ดีบัดนี้ตามแผนงานของพระเจามนุษยทุกคนรับไดโดยหลักการขอเดียวคือดวยความเช่ืออยางจริงใจ (โรม 3: 21-31)

โดยความรอดทางน้ีอันเปนพระคุณของพระเจาชวยคนปาบและคนไรท่ีพึงใหรอด นี่ไมใชทางของธรรมบัญญัติ ทางธรรมบัญญัตินั้นมนุษยจะรอดไดหรือไมข้ึนอยูกับการรักษาธรรมบัญญัติหรือหักทําลายธรรมบัญญัติถึงอยางนั้นขาวประเสริฐแหงความรอดท่ีใหเปลา ๆ ทางความเช่ือในพระคริสตก็ยังมีรากหยั่งลึกในพันธสัญญาเดิมและในชีวิตของชนอิสราเอล (โรม บท่ี 4) ความจริงมีบรรพบุรุษของพวกยิวผูมีเกียรติสองคนท่ีเปนตัวอยางความจริงของขาวประเสริฐท่ีจริงเปนความเช่ือของอับราฮัมท่ีพระเจาทรงพอพระทัยในทาน (ปฐมกาล 15: 6) และดาวิดตามท่ีประกฏในสดุดีบท 32 ไดกลาวถึงวาการ

117

Page 118: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

ยกโทษเปนทางท่ีจะเขาสนิทกับพระเจา พระคุณของพระเจาในการอภัยโทษและความเช่ือท่ีตอบรับของมนุษย สองส่ิงนี้เปนสวนมูลฐานของขาวประเสริฐ

ความเชื่อนี้มิใชเพียงเปดทางใหเขาถึงพระเจา แตนําตอไปถึงชีวิตท่ีกอปรดวยอัตลักษณอันเขมแข็ง เปนส่ิงท่ีทําใหคนท่ีเช่ือ คือคนท่ีพระคริสตทรงมรณาเพื่อเขาแนใจวาพระเจาจะทรงประทานพระพรยิ่งใหญกวานั้นทางพระวิญญาณ ฤทธ์ิเดชที่ชวยไดของพระเจาจะชนะอยางสมบูรณตอผลทําลายแหงบาปของมนุษย หลักความเช่ือขอนี้มิใชอยูในความเปนใหญเปนโตของมนุษย แตอยูในพระเจาเสมอผูทรงสอนความตองการของมนุษย โดยพระคริสตผูทรงถูกตรึงและยังทรงพระชนมอยู ธรรมบัญญัติของพวกยิวจึงมีบทบาทรองลงมา กระทําใหเห็นชัดวามนุษยควรกระทําอะไรและมิไดกระทํา จึงเผยความจริงออกมาวา มนุษยผูตกในความบาปตองหันมาหาพระคริสตเพื่อรับความชวยเหลือ (โรม บท 5)

คริสเตียนหยุดกระทําบาป

สําหรับคนท่ีมีแรงกระตุนในทางช่ัวจึงดูขาวประเสริฐนี้เปนเหมือนคําเชิญไปกระทําช่ัวมาก ๆ เขา ถาพระเจาทรงยกโทษใหเปลา ๆ ถาบาปมาก ๆ ของมนุษยกระทําใหความดีของพระเจาปรากฏแจมแจงยิ่งข้ึน ทําไมเราไมทําบาปใหมากตอไป ทําไมไมทําบาปอีกเพื่อพระเจาจะไดรับเกียรติมากข้ึนในการท่ีไดชวยคนบาปหนาใหรอด

ทานเปาโลวาไมนาจะมีทาทีอยางนี้ การท่ีเช่ือในพระคริสตและรับของขวัญท่ีพระเจาทรงประทานใหทางพระองคนั้นมีความหมายกวากระไรหมายความมากกวาสักแตพูดวาขาวประเสริฐของจริงท่ีจริงความเช่ือตองมีความเช่ือถือประกอบดวย แตตองยิ่งกวาความเช่ือถือเฉย ๆ หมายความวาตัวเองตองไววางใจในพระคริสต หมายวาตองถวายชีวิตของตนแดพระเจาดวยความจงรักภักดี ความเช่ืออันแทจริงจะพวงชีวิตของตนเขากับพระเจา เพื่อคริสเตียนจะคิดไมไดเลยวาพระคุณของพระเจาปลอยใหเขามีอิสระท่ีจะกระทําบาปตามท่ีเขาชอบกระทํานั้น

ในเม่ือทานเปาโลทราบวาปญหาขอนี้รบกวนคนมากหลายดวยกันทานก็กลาวถึงเสียอยางยืดยาว (โรม 6: 1 ถึง 8:39) การท่ีเช่ือดวยความจริงใจ และถวายชีวิตของตนไวกับพระคริสต หมายวาคริสเตียนนั้นขาดจากชีวิตบาปในอดีตของตน ถาใชภาพพจนของทานเปาโล ทานหมายวาเราตองตายตอบาปและมีชีวิตเปนข้ึนมาใหมดั่งพระคริสตผูใดท่ีรับพระคุณท่ีพระเจาทรงประทานโดยความเช่ือของเขาตองหันกลับจากทางช่ัวของเขาตองตัดขาดจากความช่ัวท่ีผูกดึงเขาใหลมลง และดํารงชีวิตดวยมีศูนยกลางใหมในพระคริสตและฤทธ์ิเดชใหมในพระวิญญาณบริสุทธ์ิ

จุดประสงคท่ีบาปและใจดําและมนุษยไมใชศูนยกลางและอํานาจครองชีวิตตอไป หรือไมใชธรรมบัญญัติภายนอก แตพระคริสตตองเปนศูนยและอํานาจ คือเปนองคพระผูเปนเจาและพระผูไถของ

118

Page 119: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

มนุษย ธรรมบัญญัติเปนของดี (โรม 7: 12) ใหคนประพฤติดี แตมิไดใหฤทธ์ิเดชแกมนุษยท่ีจะหลุดจากอํานาจผูกมักของบาปในชีวิตของตน ธรรมบัญญัติเรียกรองหลายอยางแตไมใหฤทธ์ิเดชท่ีทําได จึงพาใหทานเปาโลรองออกมาดวยความทุกขใจ (โรม 7:24) เรื่องนี้พระคริสตทรงนําคําตอบมาให คือในชีวิตของผูเช่ือถือท่ีจงรักภักดี พระวิญญาณบริสุทธ์ิทรงประทานฤทธ์ิเดชใหเขาเปนคนซ่ือตรงและเช่ือม่ัน (โรม บท 8)

ฉะนั้นความรักของพระเจาซ่ึงสําแดงในองคพระคริสตแลว ไดนําคนโดยพระวิญญาณไปสูชีวิตท่ีเช่ือฟงดวยความกตเวที พวกคริสเตียนโดยที่วางใจในพระประสงคท่ีม่ันคงของพระเจายอมเผชิญอนาคตดวยความหวังและดําเนินชีวิตดวยความมีชัยเขายังตองสูรบตอไป และบางทีอาจเพลียพลํ้า แตขาวประเสริฐใหฤทธ์ิเดชแกเขา เขาเห็นดวยกับทานเปาโลซ่ึงวา “เหตุวาขาพเจาเช่ือม่ันคงวา แมความตาย หรือชีวิต หรือทูตสวรรค หรือเทพผูครอง หรือส่ิงซ่ึงมีอยูเดี๋ยวนี้ หรือส่ิงซ่ึงจะเปนมาภายหนา หรือฤทธ์ิเดชท้ังหลาย หรือซ่ึงสูง หรือซ่ึงลึก หรือส่ิงใด ๆ อ่ืนท่ีทรงสรางแลว จะไมอาจกระใหเราท้ังหลายขาดจากความรักของพระเจา ซ่ึงมีอยูในพระคริสตองคพระผูเปนเจาของเราท้ังหลายได” (โรม 8:38, 39)

พวกยิวและพระคริสต

นี่เปนขาวประเสริฐสําหรับมนุษยทุกคน แตทานเปาโลถามดวยจิตโศกเศราวาทําไมไมมีพวกยิวมากกวานี้ท่ีเช่ือ ขาวประเสริฐไดเผยแพรไปและไดชนะใจพวกตางชาติมากมาย แตพวกยิวท่ีเปนหัวหนาและพวกยิวสวนมากปฏิเสธไมรับพระคริสตและมีหลายคนยังซํ้าตอสูพวกคริสเตียนดวยเร่ืองเศรานี้กระทําใหทานเปาโล ชาวยิวผูมีจิตกตเวทีอยางดื่มด่ําในมรดกของพวกยิว เรารอนในจิตใจไมหยุดยั้ง ขาวประเสริฐมาถึง “พวกยิวกอน” (โรม 1:16) ถึงกระนั้นพวกยิวสวนมากก็ปฏิเสธไมรับ พวกคริสเตียนอธิบายขอนี้ไดอยางไร ยิวผูเปนคริสเตียนควรคิดเร่ืองนี้อยางไร คริสเตียนตางชาติควรมีทีทาอยางไรตอพวกยิว คําถามเหลานี้คงรบกวนคริสตจักรโรมและทานเปาโลดวย เพราะฉะน้ันในโรมบท 9 ถึง 11 ทานจึงพิเคราะหเร่ืองนี้เพื่อคริสตจักรนี้ซ่ึงสวนมากเปนชนตางชาติ

ทานเปาโลไดทบทวนดวยความหนักใจถือเร่ืองท่ีพวกยิวมิไดใชประโยชนซ่ึงพระเจาทรงประทานอยางถูกตอง (โรม 9: 1-5) แลวทานก็มาถึงจุดสําคัญ พระเจาทรงเปนพระเปนเจาผูทรงอํานาจเหนือพิภพ ถาโดยฤทธ์ิเดชและพระสติปญญาของพระองค พระองคทรงเลือกท่ีจะสรางคริสตจักรท่ีมีชนตางชาติเปนสวนใหญและปลอยใหพวกลัทธิยิวอยูขางนอก มนุษยก็กลาวโทษพระองคไมได พระองคทรงมีลัทธิที่จะเลือกทามกลางมนุษยและกระทําใหพระทัยของพระองคสําเร็จโดยใชคนงานที่พระองคทรงเลือกไวนั้น (โรม 9:6-33)

ขอนี้มิไดหมายความวาพระเจาทรงกระทําดวยปราศจากปญญาหรือความยุติธรรม ทานเปาโล

119

Page 120: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

ทราบวาพระเจายุติธรรม แมวามนุษยไมเขาใจวิธีการของพระองคและในนี้มีเร่ืองท่ีจะพูดอีกมาก พวกไดยินขาวประเสริฐแลว เขามีกรรมช่ัวเพราะไดปฏิเสธไมรับพระคริสต (โรม บท 10) ถึงกระน้ันก็มิไดหมายวายิวท้ังหมดไดปฏิเสธไมรับขาวประเสริฐมีสวนหนึ่งคือท่ีเรียกกันวาสวนท่ีเหลือไดเช่ือถือ เชนเดียวกับในสมัยกอน ๆ ชุมนุมชนของพระเจาบางคนซ่ือตรงอยูเสมอ (โรม 11: 1-10)

ถึงกระนั้นพระเจาก็ยังทรงนําเอาส่ิงดีออกมาจากความไมเช่ือซ่ึงเปนบาป พวกยิวไดปฏิเสธไมรับขาวประเสริฐ ไดขมเหงพวกคริสเตียนและขับไลเขาไปในโลกของชนตางชาติไดผลอะไร มีคนเทศนาขาวประเสริฐแกคนมากกวากอน และพวกคนตางชาติเปนอันมากไดเช่ือถือ (โรม 11: 11-24) นอกจากนี้ทานเปาโลยังหวังอยูวา หลังจากท่ีขาวประเสริฐไปถึงทุกประชาชาติแลว ในท่ีสุดพวกยิวก็จะเช่ือพระเจา แลวพระเจาจะ “ทรงพระเมตตาแกเขาส้ินทุกคน” (โรม 11:25-32)

ทานเปาโลไมเขาใจวิธีการทั้งปวงของพระเจา แตทานวางใจในพระเจา ทานเชื่อวา พระเจาผูทรงสติปญญาเลิศยิ่งกําลังทรงกระทําใหน้ําพระทัยท่ีกรุณาและยุติธรรมของพระองคสําเร็จทามกลางมนุษยท้ังปวงฉะนั้นคําสุดทายในหัวขอเร่ืองนี้จึงเปนคําแหงความไววางใจและคําสรรเสริญพระเจา (โรม 11: 33-36)

แนะแนวการดําเนินชีวิตคริสเตียน

คริสเตียนดําเนิน “ตามชีวิตใหม” ได (โรม 6:5) เหตุฉะนั้นทานเปาโลจึงช้ีแจงแกคริสตจักรโรมเชนเดียวกับช้ีแจงแกคริสตจักรอ่ืน ๆ วาขาวประเสริฐตองการอะไร ในเร่ืองการดําเนินชีวิตประจําวันท้ังหลายตองถวายตัวเปนเครื่องบูชาท่ีมีชีวิต บริสุทธ์ิและมอบไวกับพระเจา เขาท้ังหลายจะตองเปล่ียนแปลงใหมเพื่อความคิดและการทําท้ังส้ินของเขาจะรับใชตามพระประสงคของพระเจา เขาจึงแสดงความรักและความชวยเหลือฉันคริสเตียนทุกวิธีทาง (โรม บท 12) แมวาเขาเผชิญกับการกระทําท่ีช่ัว เขาจะตองกระทําตอบแทนดวยความดี คือ “อยาใหความช่ัวมีชัยแกตัวแตจงระงับความช่ัวไวดวยความดี” (โรม 12: 21)

ขาวประเสริฐตองการใหคริสเตียนเช่ือฟงกฎหมายและปฏิบัติหนาท่ีของตนตอจักรวรรดิ์โรมซ่ึงตนอาศัยอยู (โรม 13: 1-7) ในความสัมพันธใด ๆ ก็ตามตองการ ใหเขามีชีวิตอยูดวยความรักตอเพื่อนบานทุกคน (โรม 13:8-10) ชีวิตเปนส่ิงเรงดวนบ้ันปลายใกลเขามามากแลว จะปลอยเวลาใหเสียไปและเส่ียงกับความพินาศนั้นโดยมีชีวิตอยางตํ่า ๆ ยอมไมเปนส่ิงท่ีควรกระทํา (โรม 13:11-14)

คริสเตียนบางคนตะขิดตะขวงใจในเร่ืองการรับประทานเน้ือ ชะรอยเขากลัววาจะไปกินเนื้อสัตว ท่ีถวายบูชาแกรูปเคารพเขา แลวกระทําใหดูเหมือนวาเขานิยมในการไหวรูปเคารพ

(เทียบ 1 โครินธ บท 8 และ 10) คริสเตียนคนอ่ืนถือและทานเปาโลก็เห็นพองดวย วาคริสเตียนกินเนื้อสัตวท่ีไมมีพิษอยางใดก็ได และโมทนาพระเจาดวยการกินนั้นไดดวย แตไมสมควรท่ีคริสเตียน

120

Page 121: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

คนหนึ่งคนใดจะดูหม่ินมโนธรรมของคริสเตียนท่ีออนแอกวา หรือคนเหลานั้นตะขิดตะขวงใจก็ควรฟองมโนธรรมของพวกที่แข็งแรงกวาเขาไดกบฏตอพระคริสต ในส่ิงท่ีไมเปนสารสําคัญทุกฝายควรจะเคารพตอการตัดสินใจของผูอ่ืน เขาทุกคนควรระมัดระวังอยูกระทําอันตรายตอมโนธรรมของเพ่ือนคริสเตียนดวยกัน (โรม 14: 1 ถึง 15:13)

สวนใหญของจดหมายจบลงอยางนี้ แลวทานเปาโลก็อธิบายแผนงานของตน (โรม 15: 14-33) ทานไดทํางานของทานทางทิศตะวันออกเสร็จแลว หลังจากท่ีไดนําเงินเรียไรไปสงท่ีกรุงเยรูซาเล็มแลว ทานเจตนาจะแวะไปเยี่ยมกรุงโรมตามทางท่ีไปประเทศสเปน ทานทราบอยูวามีอันตรายในกรุงเยรูซาเล็ม (จริงอยางนั้น ภายในไมกี่เดือนคนก็กลุมรุมจับตัวทานไป และทานก็ตกเปนนักโทษถูกสงไปกรุงโรม) แตทานไมยอมใหความกลัวอันตรายนําวิถีชีวิตของทาน

เปนจดหมายท่ีแยกสงไปเอเฟซัสหรือ

ดูเหมือนจดหมายจบลงแลว แตมีตออีกบทหนึ่ง แมทานเปาโลเขียนจดหมายฝากไปยังชาวโรมอันเปนคริสตจักรหนึ่งท่ีทานยังไมเคยไปเยี่ยมบทท่ี 16 กลาวคําคํานับแกคริสเตียนต้ังหลายสิบคน ทานเปาโลยังทราบเสียดวยวามีบางคนจับกลุมกันเขาเปนกลุมเล็ก ๆ และทานทราบดวยวากลุมเหลานั้นไปประชุมกันท่ีบานของใคร สหายสวนตัวของทานเหลานี้อยูในกรุงโรมส้ินทุกคนหรือ กอนหนาท่ีทานเขียนจดหมายนี้เล็กนอย อะคูลาและพริซคิลลาอยูในเมืองเอเฟซัส (กิจการ 18: 19; 1โครินธ 16:19) ภายหลังตามท่ีปรากฏใน 2 ทิโมธี 4:19 ทั้งสองไมไดอยูท่ีกรุงโรม และชะรอยอยูท่ีเอเฟซัส เขายายจากเอเฟซัสไปกรุงโรมช่ัวคราวเพื่อจะรวบรวมคริสตจักรเขาไวดวยกันในนามบานของตน (โรม 16:3) แลวก็กลับไปเมืองเอเฟซัสอีกกอนเวลาเขียนจดหมายทิโมธีฉบับสอง หรืออีกอยางหนึ่งทานเปาโลเรียก

เอไพเนโทวาเปน “ผลแรกในมณฑลอาเซีย” (โรม 16:5) คือคนแรกท่ีกลับใจในอาเซียภาคตะวันตก ท่ีตั้งเมืองเอเฟซัส เขาไดยายไปอยูกรุงโรมแลวหรือ หรือเราควรเขาใจวาสหายเหลานี้ของทานเปาโลอยูท่ีเมืองเอเฟซัส

จะเปนไดหรือท่ีทานเปาโลเขียนโรมบทท่ี 16 หรืออยางนอยโรม 16:1-20 เปนบันทึกท่ีมีไปยังเมืองเอเฟซัส และท่ีหลังตอนนี้ก็มาตอเขากับจดหมายท่ีสงไปยังกรุงโรม แนทีเดียวท่ีเมืองเอเฟซัสอันเปนเมืองท่ีทานเปาโลทํางานอยูถึงสามปนั้นทานคงรูจักคริสเตียนเปนอันมากและรูจักบานชองของเขาดวย เราทราบจากสําเนาตนฉบับเกาแกบางฉบับวา จดหมายถึงชาวโรมฉบับนี้ขาดบทสุดทายหรือบางก็ขาดสองบทสุดทาย อีกนัยหนึ่งเราอาจคาดวาสหายของทานเปาโลหลายคนไดยายไปท่ีกรุงโรมและยังติดตอกับทานอยู ถาอยางนั้นตอนนี้ก็จบจดหมายน้ันดวยกลาวช่ือสหายของทานเพ่ือใหความสัมพนธสวนตัวกับทุกคนในคริสตจักรโรม

121

Page 122: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

ทําไมเรายังอานจดหมายท่ีมีฝากไปยังชาวโรม

จดหมายของทานเปาโลที่มีถึงโรมไมใชเปนจดหมายท่ีงายท่ีสุดในโลกที่เราจะอานกันไมใชเร่ืองราว เปนจดหมายท่ีกลาวถึงหัวขอท่ียากตองการใหผูอานเอาใจใสอยางจริงจัง ทําไมคริสเตียนจึงอานจดหมายนี้อานแลวอานอีก อยางนอยก็มีเหตุผลสามประการคือ

ประการแรกทีเดียว ชะรอยจะเปนงานเขียนช้ินเอกของทานเปาโลไมมีท่ีไหนอีกท่ีทานบอกเร่ืองขาวประเสริฐท่ีทานประกาศไวอยางละเอียดและระมัดระวังเทาไมมีวิกฤตการณใดท่ีผลักดันใหทานโจมตีอยางข้ึงโกรธและรอดเร็วอยางท่ีทานกลาวในกาลาเทีย ทานหยิบเอาปญหาทองถ่ินแท ๆ สองสามประการพิจารณาเหมือนอยางท่ีทานกระทําในจดหมายอ่ืน ๆ ในท่ีนี้ทานเสนอความเช่ือของทานอยางเงียบ ๆ และดวยเต็มกําลัง เพื่อใหชาวโรมเห็นวาทานเชื่อในอะไรและทําไมทานจึงเทศนาส่ังสอนอยางไมรูจักเหน็ดเหนื่อยอยางนั้น

และอีกประการหนึ่ง จดหมายฉบับนี้พิสูจนตัวเองใหเห็นวาเปนหนังสือท่ีมีฤทธ์ิเดชมากท่ีสุดคริสตจักรเคยรูจักกันมา การศึกษาพระธรรมโรมกันใหมคร้ังแลวคร้ังเลาไดใหความสวางและกําลังใหมเม่ือคริสตจักรวุนวายหรือหวั่นไหว ตัวอยางในสมัยปฏิรูปศาสนา ไดใหขอความและความเรงดวนแกลูเถอร แคลวิน และคนอ่ืน ๆ มากซ่ึงกระทําใหเขาทั้งหลายเขมแข็ง

ประการท่ีสุดในจดหมายฉบับนี้เรายังพบความจริงอันลึกซ้ึงเกี่ยวกับความเช่ือของเรา พระเจาทรงประทานขาวประเสริฐเปนของขวัญมาถึงคนบาปท้ังหลาย พระองคทรงขอแตความเชื่อท่ีจริงใจซ่ึงมอบชีวิตท้ังหมดแกพระองคในการตอบสนอง ขาวประเสริฐนี้ไมใชความคิดท่ีไรประโยชนแตบรรจุฤทธ์ิเดชของพระเจาท่ีเปล่ียนแปลงชีวิตมนุษย นําฤทธ์ิความดีอยางแข็งขันมาสูชีวิตมนุษยทุกสมัย เปนของทุกคนในทุกประชาชาติ “เปนฤทธ์ิเดชของพระเจา ใหคนท้ังปวงท่ีเช่ือนั้นไดรับความรอดทุกคน” (โรม 1:16)

โลกตองการขาวประเสริฐนี้ คริสตจักรของเราตองการฟงเพื่อจะไดจําไวไดเสมอวาเราจะพบความชวยเหลือไดท่ีไหน แตจดหมายฉบับนี้เตือนคริสเตียนวาขาวประเสริฐนี้ไมใชเปนแตเพียงของขวัญเทานั้นแตเรียกรองใหคริสเตียนออกส่ังสอนท่ัวสาวกดวย คริสตจักรท่ีเขมแข็งจะโมทนาพระคุณพระเจาเพราะพระธรรมโรม จะอานจะดําเนินชีวิตตามท่ีจดหมายน้ีสอน

แนะการอาน จะเอาอะไรมาแทนการอานจดหมายน้ีใหจบไมไดเลย แตขอความเหลานี้ตองการความสนใจเปนพิเศษคือ ทานเปาโลเปนหนี้คนทุกคน (โรม 1: 14, 15) หัวเร่ืองของพระธรรมนี้

(โรม 1:16, 17) ของประทานแหงความชอบธรรมของพระเจาทางความเช่ือ (โรม 3:21-26) พระเจาประทานฤทธ์ิใหดําเนินชีวิตในทางดี ทางพระคริสต (โรม บท 6) ชีวิตท่ีพระวิญญาณทรงนําและคํา

122

Page 123: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

สัญญาอันใหพรนิรันดร (โรม บท 8) ชีวิตประจําวันของพระคริสเตียน (โรม บท 12) ความรักกระทําใหพระบัญญัติสําเร็จ (โรม 13:8-10)

123

Page 124: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

บทที่ 14 ฟเลโมนและโคโลสี

มีคริสตจักรในหลายหัวเมืองท่ีทานเปาโลไมเคยเห็น แตวาคริสตจักรเหลานั้นเร่ิมตนข้ึนเนื่องจากทาน โคโลสีเปนคริสตจักรหนึ่งในพวกนี้โคโลสีเปนเมืองอยูทางทิศตะวันออกของเอเฟซัสหนึ่งรอยหกสิบกิโลเมตรขณะเม่ือทานเปาโลอยูในเมืองเอเฟซัส ประชาชนจากโคโลสีและจากเมืองอ่ืน ๆ แถบนั้นมาท่ีเอเฟซัสเร่ือย ๆ และบางคนไดฟงทานเทศนาส่ังสอนท่ีจริง ลูกาไดพูดกวาด ๆ ไววา “ชาวแควนอาเซียท้ังพวกยิวและพวกกรีกไดยินพระวจนะของพระองคพระผูเปนเจา” (กิจการ 19:10) เดเมทริโอชางเงินในการปลุกปนชาวเอเฟซัสใหตอสูทานเปาโล ไดกลาววา “เกือบท่ัวแควนอาเซีย เปาโลคนน้ีไดเกล้ียกลอมใจคนเปนอันมากใหเลิกทางเกาเสีย” (กิจการ 19:26) มีคนเดินทางมาท่ีเอเฟซัสเพื่อทําธุรกิจ ชมเมืองและเพื่อความเพลิดเพลิน พระวิหารใหญของเจาแมอารเทมีดึงดูดมวลชนผูมานมัสการมาก เฉพาะอยางยิ่งเม่ือมีเทศกาลประจําป พวกเหลานี้บางคนไดยินทานเปาโลคนท่ีเช่ือถือพระคริสตก็นําเอาขาวประเสริฐไปบานเมือง

มิใชวิธีนี้เทานั้นท่ีทานเปาโลเผยแพรขาวปรเสริฐ ทานยังสงพวกผูชวยของทานออกไปตามหัวเมืองลอมรอบ เพื่อเทศนาใหประชาชนซ่ึงทานไมเคยเห็นไดฟงชะรอยทานไดสงเอพัฟราไปที่โคโลสีเพื่อเทศนาและรวบรวมพวกคริสเตียนรุนแรกเขาเปนคริสตจักร (โคโลสี 1: 7; 4:12; ฟเลโมน 23)

ฟเลโมนเปนคริสเตียน

ผูมีอันจะกินคนหนึ่งในเมืองโคโลสีผูไดพบและไดยินทานเปาโล ท่ีเมืองเอเฟซัส คือ ฟเลโมน ทานเปาโลพูดกับเขาอยางมิตรสนิท และเตือนใหเขาระลึกถึงท่ีเขาเปนหนี้ทานในเร่ืองชีวิตของเขา

(ฟเลโมน 19) ขอนี้ไมไดหมายวา ทานเปาโลไดชวยชีวิตฝายรางกายของเขา แตหมายความวาโดยทานเปาโลขาวประเสริฐซ่ึงใหชีวิตอันแทไดมาถึงฟเลโมน ในเม่ือทานเปาโลพูดวา ทานไมเคยไปเมืองโคโลสี (โคโลสี 2: 1) ฟเลโมนคงไดพบทานท่ีอ่ืนและสถานท่ีซ่ึงนาจะเปนท่ีพบกันไดก็คือเอเฟซัส

ตั้งแตเวลาท่ีกลับใจใหมแลวฟเลโมนก็เปนคริสเตียนท่ีกระตือรือรนและแข็งแรง เขารอนรนในการใหความชวยเหลือแกคริสเตียนอ่ืน ๆ บานของเขาเปนศูนยกลางท่ีคริสเตียนมาประชุมนมัสการท้ังเปนท่ีมีอิทธิพลคริสเตียนดวย (ฟเลโมน 2,5) คริสตจักรตําบลนั้นยังไมมีตัวโบสถ ใจเอ้ืออารีของ

ฟเลโมนกระทําใหการรับประทานรวมกันและการนมัสการมีข้ึนได เปนส่ิงท่ีผูกพันคริสตจักรเขาดวยกัน ทานนําคริสตจักรแรกเร่ิมและในยามตองการที่สุดอยางนี้แหละ

124

Page 125: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

จดหมายจากคุก

ทานเปาโลไดติดตออยางใกลชิดอยางนี้กับคริสตจักรใหม ๆ ไมตองสงสัยวาทานไดสงผูส่ือขาวและจดหมายซ่ึงเราไมทราบเร่ืองราว แตเราทราบวามีจดหมายสองฉบับสงไปยังโคโลสีเพ่ือชวยเขาในเร่ืองปญหาพิเศษท่ีเขาท้ังหลายประสบ

ปญหาเหลานี้ไดเกิดข้ึนในขณะเม่ือทานเปาโลอยูในคุก หากทานมิไดจัดการอยางไรเราก็ควรจะ

ใหอภัยทาน (ฟเลโมน 1,9 โคโลสี 4: 10, 18) อยูท่ีเมืองไหน ดังท่ีทานไดบอกชาวโครินธวา (2 โครินธ 11:23) ทานไดทนทุกข “ในการติดคุกขาพเจาก็ติดตามมามากกวาเขา” คือมากกวา

คนท่ีวาทาน คร้ังหนึ่งติดคุกท่ีฟลิปป (กิจการ 16:23) แตก็ไมติดอยูนานพอท่ีจะมีคนไปเย่ียมทันหรือเขียนจดหมาย ถาเราจะถือตามตัวหนังสือใน 1 โครินธ 15:32 เราก็อาจสันนิษฐานวาคร้ังหนึ่งทานเปาโลติดคุกอยูในเมืองเอเฟซัส และ ณ ท่ีนั่นทานเขียนจดหมายฉบับหนึ่งหรือมากกวานั้น (ฟเลโมน โคโลสี เอเฟซัส และ ฟลิปป) อยางไรก็ตามดูเหมือนวาทานเขียนจดหมายเหลานี้ระหวางท่ีถูกจําคุก ตามท่ีรายงานไวในกิจการบททาย ๆ ชะรอยทานมิไดเขียนจดหมายสองฉบับนี้ระหวางสองปท่ีถูกจําคุกในเมืองซีซาเรยา (กิจการ 24:37) แตเขียนระหวาง ค.ศ. 61 หรือ 62 ในระหวางสองปท่ีถูกจําคุกท่ีกรุงโรม (กิจการ 28:30) ขาวคราวไปถึงทานท่ีนั่นนําใหทานเขียนจดหมายถึงฟเลโมนและชาวโคโลสี

โอเนซิโมผูเปนทาส

จดหมายถึงฟเลโมนเกี่ยวกับเร่ืองทาสคนหนึ่งของเขาช่ือโอเนซิโมผูคงไดฉวยเอาขาวของของนายตนแลวหนีไปกรุงโรม (ฟเลโมน 18) เขาไปติดตอกับทานเปาโลท่ีกรุงโรมไดอยางไรเราไมทราบ เขาอาจไปท่ีเมืองเอเฟซัสกับฟเลโมนแลวก็พบทานเปาโลที่นั่น เหตุฉะนั้นเม่ืออยูกรุงโรมคราวท่ีตองการเพ่ือนสักคนหนึ่งจึงคิดถึงทานเปาโลขึ้นมาไดและไปหาจนพบชะรอยเขาไดยินถึงทานเปาโลเม่ืออยูในบานของฟเลโมนท่ีเมืองโคโลสีและทราบวาทานเปาโลเปนเพื่อนกับพวกทาส ชะรอยจะเปนเอฟฟราผูไดอยูในโคโลสีและตอนนั้นอยูกับทานเปาโลท่ีกรุงโรมไดพบโอเนซิโมเขาจึงนําไปหาทานเปาโลเพื่อจะไดพูดกัน ส่ิงสําคัญคือเขาพบทานเปาโลและทานเปาโลก็นําเขาใหมีความเช่ือในพระคริสต (ฟเลโมน 10)

แตทาสควรจะทําอะไร ในเมื่อเดี๋ยวนี้เขาเปนคริสเตียนแลว ทานเปาโลบอกเขาวาเขาควรไปหานายของเขา ผูซ่ึงเขาไดกระทําผิดตอ และพิสูจนตนเองใหเห็นวาเปนคนท่ีควรจะไวใจได เขาควรจะกลับไปยังท่ีท่ีเขา ทําผิดและตั้งตนจากท่ีนั่น โอเนซิโมก็ยอมปฏิบัติตาม ทานเปาโลจึงสงเขากลับไป

การกระทําเชนนี้เปนกาวท่ีอันตรายอยู เจาของทาสที่เปนคนมีโทษะจะโบยตี กักขัง หรือลงโทษเขาถึงตายก็ไดในเมืองเขาเปนคนใชท่ีไมสัตยซ่ือ ทานเปาโลเปนหวงมากทีเดียวท่ีจะตองสง

125

Page 126: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

โอเนซิโมเขาไปสูอันตรายเชนนั้น โดยมิไดใหความชวยเหลือท้ังหมดท่ีทานจะใหได ทานกระทําเปนสามทางดวยกันในการปองกันทาสท่ีหนีนาย ไมตองสงสัยวาทานไดแนะนําทุฆิโคผูถือจดหมายไปโคโลสีใหพูดเร่ืองโอเนซิโมเปนการสวนตัวดวย แลวในจดหมายท่ีทานมีไปถึงคริสตจักรโคโลสีท้ังหมดทานแนะนําตัวโอเนซิโมดวยวา “เปนนองท่ีรักและสัตยซ่ือเปนคนหนึ่งในพวกทาน” (โคโลสี 4:9) ทานยังไดเขียนตรงถึงฟเลโมนและครอบครัวของเขาวิงวอนเพื่อผูกระทําผิดท่ีกลับใจใหมแลวนั้นดวย

จดหมายถึงฟเลโมน

จดหมายถึงฟเลโมนไมใชจดหมายลับ ทานเปาโลมิไดคํานับฟเลโมนเทานั้นแตถึงภรรยาของเขาดวยคือ อัพเฟย และถึงอารฆิพโพ ชะรอยจะเปนบุตรของเขา และนอกจากน้ันก็ถึงหมูคริสเตียนท่ีประชุมนมัสการ ในบานทานไดกระทําใหฟเลโมน “พูดไมออก” คนท้ังหมดคงจะฟงจดหมายและเฝาดูวาฟเลโมนจะแสดงน้ําใจคริสเตียนในการ ใหอภัยและการกระทําตอทาสของตนตามนั้นหรือไม

เพื่อจะหนุนคําท่ีเสนอไปและสรรเสริญฟเลโมนตามควรทานเปาโลไดโมทนาพระคุณพระเจาในการดีทุกส่ิงสหายของทานไดกระทํา (ฟเลโมน 4-7 แลวทานจึงขอใหเห็นแกทานใหฟเลโมนยกโทษและยอมตอนรับทาสของเขา ซ่ึงเดี๋ยวนี้เปนคริสเตียนแลว ทานเปาโลมิไดบงการคําตัดสินใจ แตทานเสนอดวยศิลปทุกอยางท่ีทานทราบ (ฟเลโมน 8-22) ทานเลนคําภาษากรีกอยางนาสนใจ คือคํา โอเนซิโม แปลวา “ซ่ึงไดกําไร” ทานเปาโลรับวาทาสคนนั้นคร้ังหนึ่งประพฤติไมสมกับช่ือของเขาแตช้ีใหเห็นวาบัดนี้เปนคนซ่ึงไดกําไร และตักเตือนฟเลโมนใหดําเนินชีวิตของเขาให “เปนกําไร” ของพระเปนเจา (ฟเลโมน 11, 20)

ทานเปาโลถือตามหลักการบัญชี คือยอมใหหนี้ซ่ึงโอเนซิโมเปนหนี้อยูเพราะขาวของท่ีไดขโมยไป (ฟเลโมน 18) ทานเปาโลคงชําระหนี้นั้นไมไหว แตทานก็ไมคิดวาฟเลโมนจะใหทานชําระหนี้นั้น คําเสนอนั้นเปดชองใหทานเสริมความวาทานเปนคนท่ีใหฟเลโมนกลับใจใหม ถาเปนอยางนั้นเมือหักลบกันแลวฟเลโมนยังคงเปนหนี้ทานเปาโลอยูอีก ส่ิงท่ีทานตองการแท ๆ ก็คือทานอยากใหฟเลโมนรับทาสของเขากลับเขาไวและยกหนี้ใหเสีย เพื่อจะใหคําพูดตอนนี้มีน้ําหนักยิ่งข้ึน ทานเปาโลกลาววาทานหวังใจวาจะหลุดพนโทษและไมชาจะไปเยี่ยมเมืองโคโลสี (ฟเลโมน 22) ขอนี้เตือนฟเลโมนใหกระทําตอโอเนซิโมดวยวิธีการของคริสเตียน เพื่อเขาจะไมตองละอายท่ีจะเผชิญหนากับเปาโลเม่ือทานมา

ทานเปาโลตองการที่จะเอาโอเนซิโมไวกับตน ทานตองการเพื่อนเพื่อดูแลทานในคุกและชวยทานทําการงานซ่ึงทานยังทําอยูเพ่ือพระคริสตแตทานรูสึกวาทานตองสงทาสนั้นกลับไปบาน ทานแนะวาทานหวังใจใหฟเลโมน “กระทําเกินกวาท่ีขาพเจาพูด” (ฟเลโมน 21) ทานหมายวาทานตองการใหปลอยทาสเปนอิสระหรือ บางคนคิดเชนนั้นแตขอนี้ไมแน มีคําอธิบายท่ีเปนไปไดสองประการ ในเม่ือ

126

Page 127: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

ทานยอมชําระหนี้แทนโอเนซิโมอาจแนะวาทานหวังใจวาฟเลโมนจะยกหนี้นั้นเสีย หรือในเม่ือทานไดกลาววาทานตองการโอเนซิโมใหอยูกับทาน (ฟเลโมน 13) ทานอาจหมายในใจวาทานหวังจะให

ฟเลโมนสงโอเนซิโมกลับไปชวยทาน ความจริงท่ีฟเลโมนเก็บจดหมายน้ีไวยอมช้ีใหเห็นแนวาทานเปาโลชนะใจฟเลโมนและไดรับการอภัยท่ีขอใหแกโอเนซิโมแลว

ขาวประเสริฐและการเปนทาส

ในจดหมายฉบับนี้ไมตรงไหนท่ีประณามการมีทาสอยางตรง ๆ ในจดหมายโคโลสี 3: 18 ถึง 4:1 ทานพูดถึงสมาชิกในครัวเรือน ทานท่ีพูดเจาะจงกับพวกทาสวาใหเช่ือฟงนายและไมมีใจกบฏ ทานไมพยายามสูเพื่อใหเลิกทาส ในจักรวรรดิท่ีเปนเอกาธิปไตย ในท่ีซ่ึงทานไมมีเสียงทางการเมืองหรือการออกเสียง และที่ซ่ึงมีคริสเตียนเพียงหยิบมือเดียวนั้นทานไมทางท่ีจะทําอะไรโดยตรงเพื่อเปล่ียนระบบการมีทาสได

ขอนี้รบกวนนี้เปนอันมาก เขาท้ังหลายรูสึกวาคริสเตียนจะหักระบบนั้นภายในบานของเขาได ไมตองสังสัยคงมีหลายคนท่ีกระทําเชนนั้นแตมีความจริงบางประการท่ีจะใหเราเขาใจทานเปาโลดียิ่งข้ึน ทานมิไดหวังวาโลกจะยังยั่งยืนอยูไดอีกหลายศตวรรษ ความหวงใยประการแรกคือทานตองพยายามใหไดคริสเตียนมากท่ีสุดเทาท่ีจะกระทําไดโดยรวดเร็วท่ีสุดยิ่งกวานั้นทานตองการเนนในท่ีซ่ึงควรจะเนน ส่ิงมูลฐานคือความเช่ือในพระคริสตและมิตรภาพอันแทในระหวางคริสเตียน ทานนําคนทุกช้ันเขามาในวงมิตรภาพเดียวกัน เพราะฉะน้ันพวกทาสจึงกลายเปน “พี่นองท่ีรัก” (ฟเลโมน 16) ถาเราจะยับยั้งตรงท่ีทานเปาโลหยุดอยูก็เปนความผิด เพราะบัดนี้เรามีจํานวนมากและเปนพลเมืองท่ีไหวตัวอยูเสมอ แตปจจุบันนั้นความเช่ือสวนตัวบุคคล และความสมัครใจชวยเหลือก็ยังคงสําคัญยิ่งกวากฎหมายและองคการอะไรภายนอก

ความจริงอีกขอหนึ่งสําคัญ โดยความเช่ือและการดําเนินชีวิตคริสเตียน โอเนซิโมกลายเปนคนท่ีควรแกการนับถือและความอิสระ สมัยโบราณบางทีเขาเรียกพวกทาสวา “กาย” เขาไมไดถือวาเปนบุคคล เขาเปนแตเพียงกลไกท่ีทํางานเทานั้นเอง แตในความเชื่อทางคริสเตียนพวกทาสมีบุคคลภาพแทจริง และทานเปาโลกับคนอ่ืน ๆ ก็กระทําตอพวกทาสเหมือนอยางพี่นองกัน ผลท่ีสุด การกระทําอยางนี้ก็ทําใหเร่ืองทาสอับไปในเม่ือทาสมีบุคคลภาพแทและเปนคริสเตียนพี่นองกัน ความเปนทาสก็จะส้ินสุดลง

ความพยายามที่จะรวมบรรดาศาสนา

คริสตศาสนาเปนศาสนาหน่ึงในหลาย ๆ ศาสนาท่ีดีอยางนั้นหรือควรจะรวมศาสนาท้ังหมดเขาดวยกันไหม ท่ีเมืองโคโลสีซ่ึงฟเลโมนอยูพวกคริสเตียนก็ยุงใจในเร่ืองนี้รอบตัวเขาท้ังหลายในอาเซียไม

127

Page 128: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

เนอรนั้นมีทุกศาสนา ศาสนาไหวรูปเคารพของกรีก ศาสนาธรรมชาติท่ีกราบไหวดวงดาวในทองฟาฤทธิ์เดชของธรรมชาติ ลัทธิวิทยาท่ีถือลาง ลัทธิโยคีผูถือการทรมานรางกายเพื่อชวยฝายวิญญาณจิตศาสนาลึกลับซ่ึงมีศาสนาพิธีอันลึกลับท่ีสัญญาวาจะชวยไถมนุษยในชีวิตนี้และชีวิตภายหนา ท้ังหมดนี้มาพบกันท่ีนี่และคิดรวมกัน ลัทธิเอนกนิยมนมัสการพระเจามากหลายองคมักจะพากันเหมาเอาวาไมมีผิดตรงไหนท่ีจะรวมหลาย ๆ ศาสนาเขาดวยกันแมเม่ือเขาปลงใจแลววามีแตพระเจาองคเดียวเขามองไมเห็นความแตกตางระหวางพระเจาของพระคริสเตียนและพระในศาสนาอื่น ๆ ท่ีโลเลและไมอยูในธรรม

คริสเตียนชาวโคโลสีอยูในบรรยากาศท่ีปลอยตามใจอยางนี้เขาเห็นวาคนพอใจฟงขาวประเสริฐของเขาแตคนฟงไมกระจางแจงเหมือนอยางทานเปาโลดั่งท่ีทานวา “แมมีพระมาก... ท่ีเขาเรียกวาพระเจาแตวาเราท้ังหลายมีพระเจาองคเดียวคือพระบิดา และส่ิงสารพัดท้ังปวงบังเกิดข้ึนโดยพระองค และเราเปนมาเพื่อพระองค และเรามีพระเยซูคริสตเจาองคเดียว และส่ิงสารพัดท้ังปวงก็บังเกิดข้ึนโดยพระองคนั้น และเราก็เปนมาโดยพระองค” (1 โครินธ 8: 5, 6) บางคนท่ีมีสวนในศาสนาอื่น และปรัชญาตาง ๆ ไดดัดแปลงเอาการปฏิบัติบางอยางของพวกยิวไปใช และบัดนี้เขาก็พรอมท่ีจะนับถือพระเยซูและยอมรับคําสอนของคริสเตียนบางสวนกระทําอยางนี้เขาคิดวาเปนการฉลาดใจกวางขวาง และยอมกันและกันปรากฏวามีบางคนคิดในคริสตจักรโคโลสีหลงไปในทาทีอยางนี้ เขาเอียงมาขางท่ีเช่ือวาพระเยซูเปนพระองคหนึ่งในพวกหลายองคท่ีเขาจะมาขอความชวยเหลือได

ความจริงเขาก็มักจะใหพระเยซูต่ําตอยกวาเทวชีพอ่ืน ๆ ท่ีเขานมัสการอยู ชะรอยเขาจะมีสวนในความเห็นโบราณวาส่ิงท่ีเปนวัตถุธาตุช่ัวดวยกันท้ังนั้น และท่ีจะมีชีวิตฝายรางกายนี้ก็หมายวามีชีวิตในระดับตํ่ากวาฝายวิญญาณจิตท่ีบริสุทธ์ิเชนทูตสวรรคเปนตน พระเยซูชวยคนไดพระองคทรงเปนผูส่ือขาวมาจากพระเจา แตในเม่ือพระองคดํารงชีวิตฝายกาย พระองคก็ไมใชบริสุทธ์ิและดีรอบคอบเทากับพวกทูตสวรรค และจะชวยอะไรมากนักก็ไมไดและก็ไมสมควรแกความนับถือมากมายอยางท่ีเขากระทํากันอยูนั้น ความคิดอยางนี้กระทําใหฐานะพระเยซูต่ํากวาทูตสวรรคและกระทําใหเห็นวากายเนื้อหนังของเรานี้ช่ัว และหนุนใหพวกคริสเตียนไมแตงงานและทรมานรางกายตามกฏเกณฑอันเครงครัดแบบโยคีเพื่อบีบบังคับความเพลิดเพลินฝายกายทุกอยาง

ตัดสินตามเสียงความแนใจในจดหมายท่ีทานเปาโลเขียนแลวก็เห็นวาคริสเตียนชาวโคโลสียังไมไดรับความคิดเห็นแบบนี้ นอกจากจะมีบางเปนรายแตนอย ทานเชื่อวาคริสเตียนสวนมากจงรักภักดีตอพระคริสต (โคโลสี 1: 3-12) แตคริสตจักรใหมนี้ตองการแนะแนวท่ีฉลาดชะรอยเอฟฟราไดชักชวนทานใหเขียนจดหมายและกลาวเร่ืองความจริงแทของคริสเตียน เพื่อจะชวยคริสเตียนใหมและท่ียุงใจเหลานั้น

128

Page 129: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

พระคริสตสนองความตองการของมนุษยไดครบถวน

หัวใจกลางแหงเร่ืองของทานเปาโลนั้นแจมแจงพระคริสตทรงเปนพระผูชวยมนุษยแตพระองคเดียวอยางพอเพียง ชอบแลวท่ีพระองคจะเรียกรองเอาความเช่ืออยางเต็มเปยมและความจงรักภักดีจากทุกคนไมมีความตองการและไมมีความจําเปน ใหมีการนมัสการทูตสวรรค ขอบังคับอยางกฎหมาย และการปฏิบัติอยางโยคีอันเปนเร่ืองซ่ึงลองใจชาวโคโลสีบางคนใหคิดวา ถาเขาปฏิบัติอยางนั้นเขาจะไปถึงพระเจาไดพระเจาทรงมหามนุษยแลวในองคพระเยซูคริสต พระบุตรกระทําใหพระบิดาเปนท่ีรูจัก และไดทรงประทานการไถและชีวิตใหมแกทุกคนท่ีเช่ือถือพระองคทรงเปนเศียรเดียวนั้นของคริสตจักรไมมีท่ีใหมีคูแขง เพราะฉะน้ันกอนที่ทานเปาโลจะประณามความคิดเท็จซ่ึงมีบางคนแนะนําใหคริสเตียนโคโลสีเช่ือนั้นทานไดระบุความเช่ืออยางเต็มขนาดของทานในพระคริสตดวยคําท่ีไมเปดชองใหความเห็นผิดเชนนี้ ( โคโลสี 1: 13-23)

เปนความเช่ืออยางมโหฬาร คลุมประวัติศาสตรท้ังส้ินและบรรดาส่ิงท่ีพระเจาไดทรงกระทํา พระบุตรทรงเปนพระฉายของพระบิดาตัวแทนพระเจาในการทรงสรางสรรคพส่ิง พระองคทรงคํ้าจุนทุกส่ิงไวและกระทําใหน้ําพระทัยของพระบิดาสําเร็จในประวัติศาสตร พระองคเสด็จเขามาในประวัติศาสตรเพื่อทรงไถมนุษยและทรงเปนเศียรของคริสตจักร ซ่ึงพระองคทรงเปนพระเปนเจาท่ีคืนพระชนม สรรพส่ิงท่ีทรงสรางตองหันมาถือวาพระองคทรงเปนเศียร แมพวกทูตสวรรคก็ส่ิงท่ีพระองคทรงสรางไวและเปนหนี้แกการทรงไถของพระองค เม่ือแจมแจงอยางนี้แลว ทูตสวรรคจึงไมใหญโตกวาหรือเทากับพระองค หรือคูควรแกการนมัสการ การนมัสการควรตกแกพระเจาพระองคเดียวเทานั้น และแกพระบุตรผูทรงมีสวนไดรับการนมัสการ ซ่ึงบรรดาสรรพส่ิงท่ีไดทรงสรางไวนั้นจะพึงถวาย

เพราะฉะน้ันคริสตจักรจะตองหวังพระคริสตเทานั้นท่ีจะทรงสนองความตองการของตน และคริสตจักรจะมิไดหวังเปลาถาไดหวังดวยความเชื่อเพื่อใหแนใจคนอยางทานเปาโลไดรับใชพระคริสตอยางผูปรนนิบัติและแมจะตองทนทุกขในงานนั้นก็ยอม (โคโลสี 1: 24-29) แตขาวของคนเหลานี้ไมใชขาววาเขาเปนคนใหญคนโต เขาท้ังหลายเปนคนบาปเหมือนกัน และท่ีเขาไดรับความรอดก็เพราะพระคริสต เขาพูดวา “พระคริสตสถิตอยูในทานท้ังหลายอันเปนท่ีหวังแหงศักดิ์ศรี” (โคโลสี 1:27) ผูท่ีเช่ือถือโดยท่ีติดพันดวยความเช่ืออยูกับพระคริสตผูทรงพระชนมอยูนั้นเขาท้ังหลายไดรับแหลงกําลังท่ีจะทนตอการทดลองในปจจุบันและอนาคตไดอยางเพียงพอ และอาจหวังดวยความม่ันคงเพ่ือรับความผาสุกใหญยิ่งกวาพระพรในปจจุบันเสียอีก

เม่ือเปนอยางนี้ คริสเตียนจึงควรดํารงชีวิตดวยความเชื่ออันดื่มด่ําและดวยความจงรักภักดีตอพระคริสต (โคโลสี 2: 1-7) พระเจาทรงอยูในพระคริสตอยางเต็มเปยม เขาท้ังหลายไมควรคิดวาพระเจาอยูในพระคริสตเพียงสวนเดียวเทานั้น เขาจึงไปหาพระเจาท่ีเหลืออยูจากบรรดาทูตสวรรคและนมัสการ

129

Page 130: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

ทูตเหลานั้น เขาไมตองคิดวาโดยการปฏิบัติอยางโยคีและตามขอบังคับพิเศษจะยกตัวเขาข้ึนไดและไดหนทางไปหาพระเจา (โคโลสี 2:8-23) การอภัยโทษและชีวิตใหมเปนของประทานมาจากพระเจา ถาเรามองความจริงขอนี้ไมเห็น เพราะเพียรพยายามท่ีจะสรางชีวิตท่ีดางพรอยของตนข้ึนเองเราก็ไมเกิดผลและช่ัวชา การกระทําเชนนั้นก็กระทําใหความจริงแหงความใหญยิ่งของพระคริสตไขวเขวไปและกอใหเกิดความเหอเหิมข้ึนในตัวคน คริสเตียนตองดํารงชีวิตอยูดวยความกตเวทีในระดับท่ีสูงแหงชีวิตใหมท่ีพระคริสตผูทรงคืนพระชนมไดทรงประทานใหแกเขา (โคโลสี 3:1-4)

การกระทําและความคิดท่ีช่ัวทุกอยางจะตองเลิกเสียใหหมด และแทนท่ีจะทําเชนนั้น สาวกตองติดตามตัวอยางและน้ําพระทัยของพระคริสตดวยความเคารพอันสมัครใจ อันครบถวนและประกอบดวยความรัก (โคโลสี 3: 5-17) “ทานจะประกอบกิจส่ิงหนึ่งส่ิงใด จะเปนดวยวาจาหรือการประพฤติก็ดี จงกระทําทุกส่ิงในพระนามพระเยซูเจา และขอบพระคุณพระเจาพระบิดาโดยพระองคนั้น” (โคโลสี 3:17)

ความรักและความไมเห็นแกตัวฉันคริสเตียนจะครองสมาชิกในครัวเรือนทุก ๆ คนบางคิดดวยเหตุผลวา ลักษณะสังคมท่ีเปล่ียนแปลงของเรา เราตองกําหนดฐานะแหงสตรีตามท่ีทานเปาโลกําหนดไวนั้นเสียใหมแตทานเปาโลเขาใจประการสําคัญสําหรับทุกคน คือสมาชิกของครอบครัวทุกคนจะตองคิดมิใชเร่ืองสิทธิ แตในโอกาสดีท่ีจะแสดงความรักและความอยากชวยเหลือนั้น (โคโลสี 3: 18-4:1)

ความเชื่อของคริสเตียนมีความผูกพันที่กวางขึ้น

ในตอนจบจดหมายของทานเปาโลไดเตือนบรรดาคริสเตียนท่ีทานเขียนถึง หนแลวหนเลา ดั่งใน โคโลสี 4: 2-18 วา เขาท้ังหลายมีเพื่อนคริสเตียนมากมายหลายแหง ซ่ึงผูกพันสนิทกันดวยการอธิษฐานและมิตรภาพ เขาท้ังหลายจะตองมีชีวิตเปนท่ีดีดึงดูดกับมนุษยท่ัวไป (โคโลสี 4:5, 6) แตความผูกพันของเขากับคริสเตียนท้ังหลายเปนส่ิงดื่มด่ําท่ีสุด

จดหมายฉบับนี้กลาวถึงวิธีพิเศษซ่ึงชาวโคโลสีจะมองเห็นกวางกวาเดิม มีคริสตจักรแหงหนึ่งในลาโอดีเคยาซ่ึงอยูใกล ๆ มีจดหมายฉบับหนึ่งไปถึงคริสตจักรนั้น ทานเปาโลตองการใหคริสตจักรเอาไปอานในโคโลสีดวย และทานยังตองการใหเอาจดหมายท่ีมีถึงโคโลสีไปอานท่ีลาโอดีเคยาดวย ทานเปาโลช้ีใหเห็นคริสตจักรอ่ืนนอกจากคริสตจักรในทองถ่ินของตน เพื่อใหเขาไดแนวคิดวาคริสตจักรมโหฬารคริสตจักรเดียวท่ีพระคริสตทรงรวบรวมคนท่ีเช่ือถือเขาดวยกัน และอีกอยางหน่ึง การแลกเปล่ียนจดหมายของทานเปาโล ไดตั้งตนวิธีการรวบรวมหนังสือตาง ๆ จนมีหนังสือของทานเปาโลครบชุด และกระทําใหเกิดมีพระคริสตธรรมคัมภีรภาคพันธสัญญาใหมข้ึน

แนะการอาน เม่ือทานไดอานจดหมายจึงฟเลโมนแลวจงทําบันทึกวิธีตาง ๆ ซ่ึงทานเปาโลเสนอฟเลโมนหรือคาดค้ันใหเขายกโทษใหโอเนซิโม

130

Page 131: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

ขณะท่ีทานอานโคโลสี ขอสังเกตความสนใจของทานเปาโลในคริสเตียนท่ีทานยังไมเคยเห็น (โคโลสี 1: 3-12) พระราชกิจของพระบุตร (โคโลสี 1:13-23) กิจการของทานเปาโลและการทนทุกขของทานเพื่อนําพระคริสตไปสูคนตางชาติ (โคโลสี 1:24-2:3) ชีวิตใหมกับพระคริสตพระคริสต

(โคโลสี 3: 1-4) ภาพของการดําเนินชีวิตคริสเตียนประจําวัน (โคโลสี 3:12-17)

131

Page 132: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

บทที่ 15 จดหมายที่เรียกวา “เอเฟซัส”

“ดูเถิด ซ่ึงพี่นองอาศัยอยูดวยกันเปนน้ําหนึ่งในเดียวกันก็เปนการดีและนาช่ืนใจมากสักเทาใด” ถอยคําขางบนนี้ซ่ึงปรากฏในสดุดี 133: 1 แสดงวาทานเปาโลมีความคิดอยางไรเร่ืองคริสตจักร

คริสตจักรของพระคริสตควรมีเอกภาพทานอธิษฐานอยูเสมอวาใหคริสตจักรอยูอยางกลมเกลียวกันฉันคริสเตียนในเมื่อ “รากฐานอันเดียวของคริสตจักร รากนั้นคือพระเยซู” ในเม่ือมีแตขาวประเสริฐเดียว (กาลาเทีย 1:7) ก็มีไดแตคริสตจักรเดียว และบรรดาผูท่ีเช่ือในพระคริสต ก็เปนสมาชิกของภราดรภาพอันใหญนี้

ทานเปาโลเปนหวงมากมายในเร่ืองเอกภาพของคริสตจักร ไมยอทอตอความโนมเอียงในทางแตกแยกกัน คริสตจักรโครินธก็แตกแยกกันเปนคณะ ๆ มิใชหรือ (1 โครินธ 1:12) ใชแตกแยกกันจริง ๆตองปลํ้ากันเสมอเพื่อใหพวกคริสเตียนยิวและคริสเตียนตางชาติเขาใจซ่ึงกันและกันอยางสันติมิใชหรือ ถูกแลว แลวทําไมทานจึงไมกระทําอยางคริสตจักรปจจุบันในสมัยของเรานี้ของเรานี้และต้ังเปนนิกายตาง ๆ มากมาย เพื่อวาแตละพวกแตละหมูจะไดมีคณะของตนเอง มีเจาหนาท่ีของตนเอง และมีท่ีพบปะนมัสการของตนเอง ทําอยางนี้งายดีแท ๆ สําหรับทานเปาโลทานทําอยางนี้ไมได ทานทักทวงชาว โครินธทันทีวา “พระคริสตแบงออกเปนหลายองคแลวหรือ” (1 โครินธ 1:13) ทุกคนท่ีติดตามพระคริสตเพียงองคเดียวก็เปนสมาชิกในคริสตจักรเดียว สวนคนเหลานั้นท่ีกระทําใหพวกยิวและพวกตางชาติอยูดวยกันดวยความลําบากทานก็กลาววา “จะไมเปนพวกยิวหรือพวกกรีก.... เพราะวาทานท้ังหลายเปนอันหนึ่งอันเดียวกันกับพระเยซูคริสต (กาลาเทีย 3:28) ในการที่จะแยกคริสตจักรออกตามวรรณะหรือช้ันหรือการแบงหมูอยางอ่ืนเปนการผิดท้ังนั้น

บัดนี้เรามาถึงจดหมายท่ีทานเปาโลเนนเร่ืองนี้มากกวาจดหมายฉบับอ่ืน ๆ หมดคือในเร่ืองเอกภาพของคริสเตียน เม่ือทานอาน อพยพ 4: 1-6 จะสังเกตวาทานเปาโลย้ําเร่ืองนี้วาเปนความจริงท่ีสําคัญยอดยิ่งตลอดจดหมายฉบับนี้ความขอนี้เดนทีเดียว คํากุญแจท่ีทานเปาโลใชแสดงวาความสนใจของทานอยูท่ีไหน “อันหนึ่งอันเดียวกัน” “รวมกัน” เอกภาพ” มีปรากฏสิบแปดคร้ัง และคําวา “ท้ังส้ิน” “ทุกคน” มีกวาส่ีสิบคร้ังดวยกัน เปาโลตั้งใจแสดงอยางชัดเจนวานี่เปนขาวประเสริฐเดียวเพื่อคริสตจักรเดียวคือคริสตจักรสากล

เอกภาพทางความเชื่อในพระคริสต

จดหมายนี้มีสองสวนท่ีสําคัญ ในคร่ึงแรก (เอเฟซัส บท 1 ถึง 3) ทานเปาโลบรรยายถึงเอกภาพของคริสตจักร คริสตจักรมีพระคริสตเปนเศียร และเศียรนี้ก็เช่ือมสมาชิกท้ังส้ินใหมีมิตรภาพเดียวกันใน

132

Page 133: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

ความเชื่อและการนมัสการ เอกภาพนี้เปนมาเน่ืองจากพระเจาองคเดียวผูทรงประทานชีวิตและทางแหงชีวิตแกบรรดาชาตพันธุท้ังส้ินของมนุษย ตลอดประวัติศาสตรแผนงานนี้ของพระเจาดําเนินอยูเร่ือยไป และแผนงานนี้มีพระคริสตเปนจุดศูนยกลาง และพระเจาทรงรวมพระประสงคท้ังส้ินของพระองคไวในองคพระเยซู และงานน้ีดําเนินเร่ือยไปโดยพระวิญญาณบริสุทธ์ิซ่ึงประทานแกบรรดาผูท่ีเช่ือในพระคริสต (เอเฟซัส 1: 3-14) ฉะนั้นทานเปาโลจึงอธิษฐานเพื่อใหผูอานทุกคนจําเริญข้ึนในความเขาใจถึงความหมายเต็มของขาวประเสริฐและเพื่อเขาจะพอใจยิ่งข้ึนท่ีพระคริสตทรงเปนองคพระผูเปนเจาของสรรพส่ิงท่ีพระเจาทรงสราง (เอเฟซัส 1:15-23)

คร้ังหนึ่งมนุษยชาติไดมีสวนในผลอันไมเปนปกติสุข มนุษยท้ังปวงอยูในกํามือของบาปจึงไมมีชีวิตท่ีแทแลวก็มาถึงการชวยใหพนบาปและหาชีวิตใหม มีแตทางเดียวเทานั้นท่ีจะไปสูพระพรน้ีได คือพระคุณของพระเจาทรงประทานแกมนุษยทางพระคริสต (เอเฟซัส 2: 1-10) ส่ิงท่ีพระเจาทรงกระทําชวยมนุษยใหรอด มนุษยอาจพยายามเก็บความดีความชอบไวเปนของตน อยางนอยอาจพูดวาความเช่ือของเขาอาจเปนความดีความชอบของเขา ทานเปาโลเตือนไมใหมนุษยอวดอางในการกระทําของตนการท่ีจะไปสูชีวิตใหมแตละข้ันนั้นเปนพระราชกิจของพระเจา แมความเชื่อซ่ึงมนุษยมีอยูในการยอมรับพระเจานั้นก็มาจากพระเจาทานเปาโลกลาววานี่เปน “ของประทานจากพระเจา” (เอเฟซัส 2:8)

ขาวประเสริฐอันเดียวนี้รวมมนุษยท้ังปวงเปนอันเดียวกัน เดิมทีดูเหมือนพวกยิวกับพวกตางชาติแยกกันอยางเด็ดขาด ท่ีจริงพระเจาทรงประทานของประทานแกพวกยิวหลายอยาง แตเม่ือมาหาทางท่ีจะไปสูพระจาและการดําเนินชีวิตอยางดี ปรากฏวาพวกยิวกับพวกชนตางชาติท้ังสองพวกมีความตองการอยางเดียวกัน เขาท้ังสองพวกรอดทางเดียวกันคือโดยมรณภาพและการแสวงหาของพระคริสตผูทรงคืนพระชนมแลวนั้นกําแพงแหงการแบงแยกในสมัยโบราณนั้นไดถูกทําลายลง คราวน้ีมนุษยท้ังมวลรวมกันเขาเปนคริสตจักรมหึมาคริสตจักรเดียว ซ่ึงมีพระคริสตเปนดังศิลามุมเอก ท้ังส้ินนี้กอข้ึนเปนพระวิหารของพระเจาท่ีเจริญอยู (เอเฟซัส 2: 11-22)

ในสากลคริสตจักรนี้ งานของทานเปาโลคือการนําเอาขาวประเสริฐไปแพรแกคนตางชาติ พระเจาทรงใชใหทานไปบอกแกชนตางชาติวา บัดนี้เขาท้ังหลายเปนคนซ่ึงมีสวนเต็มท่ีกับพวกยิวในคริสตจักรสากลอันเดียวกันนี้ (เอเฟซัส 3: 1-13) นี่เปนขาวซ่ึงจุความหมายมากสําหรับการนมัสการและการดําเนินชีวิตคริสเตียน ทานเปาโลไดอธิษฐานดวยใจ รอนรนขอพระเจาทรงชวยผูอานใหเขาใจถึงขาวประเสริฐแจมแจงยิ่งข้ึนและทานก็สรรเสริญพระเจาเพราะพระองคทรงประทานพระพรมากมายใหแกบรรดาผูท่ีนมัสการพระองคดวยจิตกตัญูกตเวที (เอเฟซัส 3:14-21)

133

Page 134: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

เอกภาพในการดําเนินชีวิตคริสเตียน

ความเช่ืออยางม่ันใจน้ีมีความหมายอยางไรแกชีวิต ถาพระเจาองคเดียวนี้ทรงจัดทางรอดทางเดียวคือทางพระผูชวยผูเดียวคือองคพระเยซูคริสตเจา ถาโดยความเช่ือทางนี้เปดใหแกทุกคน และถาทุกคนรวมกันเขาในสากลคริสตจักรอยางนี้แลว ขอนี้ก็นําไปสูเอกภาพในการดําเนินชีวิตคริสเตียนเปนกิจวัตรประจําวัน (เอเฟซัส บทท่ี 4 ถึง 6)

โดยงานของพระคริสตเจาและโดยการทรงนําแหงฤทธ์ิเดชของพระวิญญาณบริสุทธ์ิ พระเจาทรงนํามนุษยเขามารวมกันและทรงกระทําใหเขาอยูรวมกันไดพระองคมิไดทรงกระทําใหทุกคนมีลักษณะเหมือนกันไปหมด พระองคทรงใชหัวหนาเปนอันมาก แตไมมีหัวหนาสักคูเดียวท่ีพระองคทรงประทานของประทานเหมือนกัน พระองคทรงเรียกแตละคนใหใชสมรรถภาพพิเศษของตนปรนนิบัติตามความตองการของคริสตจักรเดียวนั้น และตามแผนงานของพระเจาบรรดาการนําเหลานี้จะรวมคริสตจักรเปนอันเดียวกันดวยการนมัสการรวมกันและดวยความประสงคดีรวมกัน คริสเตียนผูสํานกึในพระกรุณาธิคุณท้ังหลายจะทํางานดวยกันเพื่อคุณประโยชนของผูอ่ืน (เอเฟซัส 4: 1-16)

พวกคริสเตียนในสมัยของทานเปาโลรูจักโลกตางศาสนาเปนอยางดีมิใชเพราะเพื่อนบานสวนมากของเขาเปนพวกตางศาสนาแตอยางเดียวแตตัวเขาเองก็ออกจากพื้นเพตางศาสนาเขามาดําเนินชีวิตคริสเตียนในปตน ๆ เขายังไมทราบวาครอบครัวคริสเตียนนั้นเปนอยางไร เพราะฉะนั้นแนวความคิดและแนวดําเนินชีวิตแบบตางศาสนาจึงอาจยังมีอิทธิพลเหนือเขาอยูทานเปาโลจึงชักชวนเขาใหท้ิงทางชีวิตเดิมนั้นเสียและประพฤติตนอยางเปนคนใหม ในกิจวัตรประจําวันเขาตองระงับไมประพฤติตามทางสกปรกและหยาบคาย เขาตองดําเนินชีวิตดวยความซ่ือสตยและดวยความรัก และตื่นตัวอยูเสมอและมีใจโมทนาพระคุณพระเจา (เอเฟซัส 4: 17 ถึง 5:20)

ในจดหมายฉบับนี้ก็เหมือนในจดหมายที่ถึงชาวโคโลสี คือทานเปาโลชักชวนสมาชิกในครอบครัวใหแสดงความนับถือและความรักตอกันและกัน (เอเฟซัส 5:21 ถึง 6:9)แตในท่ีนี้มีความคิดใหมปรากฏข้ึน เม่ือทานเปาโลคิดถึงความรักระหวางสามีและภรรยาทานเห็นวาในนั้นมีสัญญลักษณแหงความรักอันซ่ือตรงระหวางพระคริสตและคริสตจักร เพราะคริสตจักรจะยั่งยืนอยูไดก็โดยติดสนิทกับพระคริสตและปรนนิบัติพระองคดวยความภักดีเทานั้น แตความคิดนี้มิไดกระทําใหทานเปาโลลืมเร่ืองครอบครัว เอกภาพในครอบครัวข้ึนอยูกับความรัก ความชวยเหลือความนับถือตอกันและกัน สมาชิกทุกคนของครอบครัวไมวาเขาจะกระทําอะไรก็ใหกระทําตามน้ําพระทัยของพระเจา ชีวิตท่ีกระทําตามน้ําพระทัยของพระเจาเปนชีวิตท่ีมีความรักและความเอาใจใสในสุขภาพของผูอ่ืน

ในจดหมายฉบับกอนทานเปาโลไดพูดถึงยุทธภัณฑของทหาร เพื่อสอนวาคริสเตียนพึงปรนนิบัติผูบังคับบัญชาของตนคือองคพระผูเปนเจาอยางไร (1 โคโลสี 5: 8) คราวนี้ทานใชตัวอยางนี้

134

Page 135: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

อีกคร้ังหนึ่ง และก็เปนส่ิงธรรมดาเพราะวาเปนนักโทษ ท่ีทหารถือาวุธเฝาดูอยูตลอดเวลา ทานใชเร่ืองนี้เพื่อแสดงวาคริสเตียนจะตองปองกันตนเองใหพนจากการโจมตีความเชื่อของตน และตอสูอยางไวลายเพื่อเห็นแกเปาหมายท่ีตนเองปรนนิบัติอยู (เอเฟซัส 6: 10-20) แตทานไดชักชวนสองครั้งใหสวมยุทธภัณฑท้ังส้ินท่ีพระเจาทรงประทานเชนเดียวกับทหารเขาจะไมรูสึกวาปองกันตัวดีแลวถาไมไดสวมยุทธภัณฑใหครบทุกช้ินตามท่ีหัวหนาไดจัดให เบ้ืองหลังของคําแนะนํานี้ทานเปาโลมีความรูแจมแจงวาชีวิตนั้นเปนการตอสูกระหวางอํานาจดีและอํานาจช่ัว ทุกคนตองข้ึนทะเบียนอยูกับผูบังคับบัญชาท่ีชอบธรรมและปรนนิบัติในทางท่ีทะมัดทะแมงและคงเสนคงวา

ในถอยคําตอนจบทานเปาโลไดสงขาวใหแกผูอานท้ังหลาย และอธิษฐานเพื่อเขา (เอเฟซัส 6: 21-24) ชัยชนะในสงครามแหงชีวิตนั้นข้ึนอยูกับของประทานอันสมํ่าเสมอจากพระเจา และการตอบสนองแหงความรักอันกตัญูซ่ือตรงของคริสเตียนนั้นเอง

จดหมายสาธารณะซึ่งมไีปถึงคริสตเจาเปนอันมาก

ทานเปาโลเขียนจดหมายฉบับนี้ถึงใคร ดูก็แปลกท่ีจดหมายถึงชาวเอเฟซัส มิใชถึงชาวเอเฟซัสเทานั้น จริงอยูท่ีในฉบับแปลภาษาอังกฤษฉบับเดิม ๆ เอเฟซัส 1:1 มีคําวา “ในเอเฟซัส” แตในฉบับแกไขใหม (RSV) และฉบับแปลสมัยใหมเวนคํานี้เสียซ่ึงเปนการถูกตองแลว จดหมายน้ีในฉบับภาษากรีกสมัยหลัง ๆ มีคํานี้อยู แตในสําเนาตนฉบับท่ีดีท่ีสุดและเกาแกท่ีสุดไมมีคํานี้ นี่ก็แสดงวาในฉบับเดิมไมมีคํานี้ ทานเปาโลมิไดจาหนาจดหมายน้ีถึงชาวเอเฟซัส แต “ถึงบรรดาธรรมชนผูท่ีเล่ือมใสศรัทธาในพระเยซูคริสต”

เนื้อหาในจดหมายน้ันเองสนับสนุนการสรุปความเช่ือนี้ ทานเปาโลไดทํางานอยูในเอเฟซัสเกือบสามป ทานจะเขียนจดหมายถึงคริสตจักรท่ีทานรูจักดีโดยไมกลาวถึงมิตรสหายของทานหรือการงานของเขา ในเมืองนั้นอยางไรได ในจดหมายฉบับอ่ืน ๆ ทานพูดถึงบรรดาคริสตจักรของทานดวยถอยคําฉันมิตรท่ีอบอุน มีเร่ืองอางอิงสวนตัวและทบทวนความจําปรากฏเร่ือย ๆ แตในฉบับเอเฟซัสน้ําเสียงเปนจดหมายท่ัว ๆ ไป ส่ิงท่ีทานพูดไมใชสภาพประจําทองถ่ินใดโดยเฉพาะ ความจริงทานไมเคยพูดกับผูฟงวาทานไดเทศนาใหเขาฟง ทานเพียงแตบอกเขาวาทานไดยินถึงความเช่ือของเขาท้ังหลายและถือเอาวาเขาท้ังหลายไดยินถึงการงานของทาน (เอเฟซัส 1: 15; 3:2)

ฉะนั้นจดหมายถึงเอเฟซัสแตกตางกับจดหมายฉบับอ่ืน ๆ ของทานท่ีเราเรียนมาแลวถึงแมจดหมายถึงโรมและโคโลสีอันเปนสถานท่ีซ่ึงทานยังไมเคยเยี่ยมก็ยังมีความแนชัดและอางอิงตรงถึงงานของทานและของผูอานเราจะอธิบายถึงน้ําเสียงท่ัว ๆ ไปอยางนี้ในจดหมายเอเฟซัสอยางไรได

คําตอบขอหนึ่งก็คือทานเปาโลเขียนจดหมายฉบับนี้ถึงคริสตจักรหน่ึงซ่ึงทานยังไมเคยไปเยี่ยม บางก็แนะวาชะรอยทานเขียนถึงคริสตจักรลาโอดีเคยาใกล ๆ กับโคโลสี ฉะนั้นจดหมายน้ีอาจเปน

135

Page 136: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

“จดหมายท่ีมาจากเมืองลาโอดีเคยาฉบับนั้น” ซ่ึง โคโลสี 4:16 ไดพูดถึงต้ังแตสมัยศตวรรษท่ีสองเแลว ดูเหมือนมาเขียนและคนอ่ืนจะเรียกจดหมายน้ีวา “ชาวลาโอดีเคยา” แทนคําวา “ชาวเอเฟซัส” แตก็มีความยุงยากมากเกิดข้ึน เพราะจดหมายน้ีสาธารณะเหลือเกิน มิไดบรรยายหรือสอใหเห็นสภาพการในคริสตจักรประจําตําบลแหงหนึ่งแหงใดเลย ถาเราเปรียบเทียบพระธรรมเอเฟซัสกับโคโลสี ซ่ึงเขียนถึงคริสตจักรที่ทานเปาโลไมไดไปเยี่ยมก็เห็นชัดทันทีวาพระธรรมเอเฟซัสกับโคโลสี มีความอางอิงถึงสภาพการทองถ่ินแนมากกวา

เพราะฉะน้ันจดหมายเอเฟซัสเปนจดหมายที่มีไปถึงหลายคริสตจักรไมใชคริสตจักรเดียว นักธรรมศึกษาบางคนสงสัยวาทานเปาโลอาจจะมิไดเขียนจดหมายฉบับนี้ก็ได เขาคาดวาสาวกบางคนของทานเปาโลไดเขียนจดหมายฉบับนี้เพื่อรวบรวมคําส่ังสอนของทานเปาโล และชวยใหจดหมายฉบับอ่ืน ๆ ของทานเปาโลเปนท่ีรูจัก แตภาษาเปนของทานเปาโล และจดหมายน้ีตั้งแตเดิมมาแลวก็เขาใจกันวาเปนจดหมายของทานเปาโล

เพราะฉะน้ันทัศนะท่ีนาเปนไปไดคือ เม่ือทานเปาโลเขียนจดหมายถึงฟเลโมนและชาวโคโลสีแลว ราว ค.ศ. 61 หรือ 62 ทานก็เขียนจดหมายสาธารณะฉบับนี้ดวย ผูส่ือขาวคนเดียวกันคือ ทุฆิโค (โคโลสี 4: 7, เอเฟซัส 6:21) เปนผูถือจดหมายทั้งสามฉบับนี้และเปนผูอานจดหมายเอเฟซัสใหคริสตจักรตาง ๆ ในอาเซียไมเนอรภาคตะวันตกฟง เพราะทานเปาโลสงไปใหอานกันในหลายคริสตจักร ทานจึงงดเสียไมพูดถึงสภาพของแตละทองถ่ิน เพราะเปนจดหมายเวียนอยูในทองถ่ินเมืองเอเฟซัส คงมีสําเนาฉบับหนึ่งท่ีลอกไวสําหรับคริสตจักรเอเฟซัสดวยนั่นจะชวยอธิบายวาทําไมฉบับหลัง ๆ จึงเพิ่มคําวา “ในเอเฟซัส” เขาไวดวยพวกคริสเตียนทราบอยูวาจดหมายฉบับนั้นมีเร่ืองเกี่ยวโยงกับเอเฟซัสอยูบาง

สภาพของทานเปาโลในจดหมายฉบับนี้และในจดหมายถึงฟเลโมนและโคโลสีเหมือนกัน คือทานอยูในคุก (ฟเลโมน 1,9,10 โคโลสี 4: 18 เอเฟซัส 3:1; 4:1) ผูถือจดหมาย คือทุฆิโคสงจดหมายท้ังสามฉบับ (โคโลสี 4:7; เอเฟซัส 6:21) ภาษาของฉบับเอเฟซัสเหมือนกับฉบับของโคโลสีบอย ๆ ถาเรานั่งเขียนจดหมายสองฉบับในคราวเดียวกันเรามักใชภาษาเหมือนกันท้ังสองฉบับดูเหมือนทานเปาโลคงกระทําอยางนั้น หลังจากท่ีเขียนถึงฟเลโมนและโคโลสีเพื่อขบปญหาเฉพาะถ่ินแลวทานก็เขียนจดหมายท่ัว ๆ ไปอีกฉบับหนึ่งเพื่อหนุนใจและแนะนําคริสตจักรตาง ๆ ในทองถ่ินเดียวกันนั้น เพื่อความสะดวกใหเราเรียกจดหมายน้ีวาเอเฟซัสตอไป

แผนงานของพระเจาท่ีจะโยงทุกสิ่งเขาในพระครสิต

เพราะความจริงท่ีทานเปาโลมิไดอางถึงความแตกแยกและปญหาของทองถ่ิน กระทําใหจดหมายฉบับนี้สอนเราไดดียิ่งข้ึน ทานมิไดรีบเขียนหรือเขียนโตแยง แตดวยจิตใจท่ีสงบ ทานวาดภาพ

136

Page 137: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

กวาง ๆ ในเร่ืองขาวประเสริฐสําหรับโลก นี่เปนความเช่ือแบบจาริกทูตอยางดื่มด่ํา นี่เปนขาวซ่ึงทานยินดียอมทุกขและตายเพื่อ

เบ้ืองหลังของงานออกจาริก ทานเปาโลมีความเช่ือในพระเจาอยางแนวแนวาขาวประเสริฐและของประทานอันดีทุกอยางมาจากพระองคเราจะเขาใจประวัติศาสตรไดก็ตอเม่ือเราเห็นเร่ืองราวเปนไปตามท่ีพระเจาทรงกระทําใหพระประสงคของพระองคสําเร็จเพื่อมนุษยโดยทางตัวแทนของพระองคและแผนงานน้ีรวมจุดอยูท่ีพระคริสต ในเมื่อพระวิญญาณของพระเจานําเขาใหเช่ือในพระคริสตและปฏิบัติตามน้ําพระทัยของพระองคความจริงอันนี้ก็เกิดผลข้ึนในใจของมนุษย แตละชาตพันธุ และแตละเอกัตถบุคคลมีบทบาทของตนท่ีตองแสดง แผนงานนี้รวมพวกยิวและชนตางชาติเขามาดวย ฉะนี้แหละจึงยังใหเกิดมหาคริสตจักรสากล เพื่อวาจะไมมีคริสเตียนคนใดหยุดพักเพราะอ่ิมใจตราบใดท่ีคริสตจักรยังแตกกันอยูหรือยังไมเผยแพรออกไปท่ัวโลก

การตอบสนองอันถูกตองตอของประทานเหลานี้ท้ังส้ินของพระเจาก็คือชีวิตท่ีเต็มพรอมดวยความเช่ือ ความกตเวที และความปล้ืมปติ ฉะนั้นทานเปาโลจึงแสดงความรูสึกนี้ออกซํ้า ๆ ในการอธิษฐาน ทานโมทนาพระคุณพระเจาเพราะขาวประเสริฐ (เอเฟซัส 1: 3-14) และเพราะความเชื่อของบรรดาคริสเตียนและบรรดาชีวิตความเปนอยูของผูอาน (เอเฟซัส 1:15-23) คําอธิษฐานใน เอเฟซัส 3:1 ซ่ึงขาดไป แตไปตอท่ี เอเฟซัส 3:14 เปนคําอธิษฐานเพื่อวาเขาท้ังหลายจะไดทําเริญข้ึนในความเขาใจและในชีวิตท่ีจงรักภักดี เพราะของประทานเหลานี้ทานเปาโลและเขาท้ังหลายจึงควรอธิษฐานดวยความวางใจพระเจาทรงพรอมท่ีจะประทานยิ่งกวาท่ีมนุษยพรอมท่ีจะทูลขอหรือรับ (เอเฟซัส 3:14-21)

ในเอกภาพแหงภราดลภาพคริสเตียน มีความจําเปนและความตองการ สมรรถภาพทุกอยางท่ีพระเจาทรงประทาน เปนพระประสงคของพระเจาท่ีคริสเตียนทุกคนจะตองเจริญข้ึน คริสเตียนควรหันหลังใหแกทุกส่ิงท่ีไมมีคาในชีวิตแตหนหลัง เขาตองเจริญข้ึนในความประสงคดีตอผูอ่ืนและความสัตยซ่ือตอพระเจา พระเจาทรงประทานแกผูท่ีเช่ือทุกคน คือเขาตองแสดงความมีน้ําใจนี้ท้ังความจงรักภักดีและความเต็มใจชวยเหลือ ในสัมพันธภาพทุกประการและภายใตการทดลองทุกอยางซ่ึงความช่ัวและการยากลําบากนํามาให แมวาทานเปาโลตองติดโซตรวนอยูทานก็ประสงคและขอผูอ่ืนใหอธิษฐาน เพื่อทานจะมีกําลังและความกลาหาญที่จะประกาศอยางแกลวกลา (เอเฟซัส 6: 18-20) เพราะฉะนั้นคริสเตียนทุกคนจึงตองแสวงหาเอกภาพในชีวิตของตนเอง โดยมีความเช่ือท่ีไมแบงแยกและมีการกระทําในบรรดาส่ิงตาง ๆ ท่ีพระเจาทรงประทานใหการทําอยางไมหวั่นไหว

“จงเพียรพยายามเอาสันติสุขผูกมัดความเปนน้ําหนึ่งใจเดียวซ่ึงพระวิญญาณทรงประทานใหนั้น” (4:3) จงมีกําลังข้ึนในองคพระผูเปนเจาและในเร่ียวแรงแหงฤทธ์ิเดชของพระองค (6:10) “จงเขาใจวาน้ําพระทัยขององคพระผูเปนเจานั้นเปนอยางไร” (5:17) “ใหทานสวมมนุษยใหมตามแบบอยางพระ

137

Page 138: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

เจาในความชอบธรรมและความบริสุทธ์ิแหงความจริง” (4:24) “ทานท้ังหลายจงเมตตาซ่ึงกันและกัน มีใจเอ็นดูซ่ึงกันและกัน และอภัยโทษใหกันและกันเหมือนพระเจาไดทรงโปรดอภัยโทษใหทานท้ังหลายในพระคริสต” (4:32) “จงประพฤติในความรักเหมือนพระคริสตไดทรงรักทาน และทรงประทานพระองคเองเพ่ือทาน” (4:2) “จงขอบพระคุณพระเจา คือพระบิดา สําหรับส่ิงสารพัดเสมอ ในพระนามพระเยซูคริสตเจาของเรา” (5:20)

แนะการอาน ขณะท่ีทานอาน ขอสังเกตขอพระธรรมท่ีพูดถึงพระเจาองคเดียว ขาวประเสริฐเดียว เอกภาพของคริสตจักรและเอกภาพของมนุษยในพระคริสต สังเกตคําวา “อันเดียว” “เดียว” “อันหนึ่งอันเดียวกัน” “ท้ังปวง” “ท้ังหมด” “ทุก” “น้ําหนึ่งใจเดียวกัน”

ทานเปาโลวา พระคริสตทรงกระทําอะไรใหแกเรา พระวิญญาณทรงประทานพระพรอันใดใหแกเราบาง

ขอพระธรรมท่ีใหศึกษาเปนพิเศษ “ซ่ึงทานท้ังหลายรอดนั้นก็รอดโดยพระคุณเพราะความเช่ือ” (เอเฟซัส 2:1-10) พวกยิวและชนตางชาติรวมกันในพระคริสต (เอเฟซัส 2:11-22) คําอธิษฐานของทานเปาโลเพื่อบรรดาผูอาน (เอเฟซัส 3:14-19) “ความเช่ือ... อยางเดียวกัน” (เอเฟซัส 4:1-16) “จงประพฤติในความรัก” (เอเฟซัส 4:25-6:20) “ยุทธภัณฑท้ังส้ินของพระเจา” (เอเฟซัส 6:10-20)

138

Page 139: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

บทที่ 16 จดหมายถึงชาวฟลิปป

ไมมีคริสตจักรใดท่ีใหความพอใจแกทานเปาโลย่ิงไปกวาคริสตจักรหนึ่งท่ีทานไดตั้งข้ึนคือ คริสตจักรฟลิปป ในเมืองเธสะโลนิกาคริสเตียนหลายคนวุนวายข้ึนเนื่องดวยเร่ืองวันสุดทายของโลก กลายเปนคนเกียจครานและรบกวนคนอ่ืน ในกาลาเทียบรรดาคริสตจักรเกือบ ๆ จะท้ิงความเช่ือในพระคุณท่ีพระเจาทรงประทานอันเปนแกความเช่ือนั้น จนทานเปาโลตองเขียนจดหมายไปถึงเขาอยางดุดัน ในโครินธการทะเลาะวิวาทและปญหาศีลธรรม ทําอันตรายแกคริสตจักร และรบกวนทานเปาโลในเมืองโคโลสีมีความโนมเอียงไปในทางท่ีกระทําพระคริสตใหเปนองคผูชวยองคหนึ่งตามทางที่จะไปสูพระเจา กระทําใหบทบาทสําคัญและศูนยกลางของพระคริสตมัวหมองไป แตในฟลิปปเม่ือมีการกระทบกระเทียบเสียดสีเกิดข้ึนก็ไมมีอันตรายอันใดท่ีดูเหมือนจะเปนภัยแกคริสตจักร ทานเปาโลไดพบความปล้ืมปติและความพอใจในความเช่ือและมิตรภาพของเขา

วันแรก ๆ ของคริสตจักร

ฟลิปปเปนเมืองแรกท่ีทานเปาโลทํางานในทวีปยุโรป เม่ือขามจากเมืองโตรอาไปข้ึนบกท่ีเมืองเนอาโพลี (กิจการ 16: 11) ทานเดินทางตอไปอีกราว 15 กิโลเมตรถึงเมืองฟลิปปและเร่ิมประกาศส่ังสอน คงมีพวกยิวอยูท่ีนั่นบางแลว เม่ือเวลาท่ีทานเขียนจดหมายปรากฏวาอิทธิพลของพวกยิวเปนอันตราย (ฟลิปป 3:2) แตก็แปลกพอดูท่ีไมกลาวถึงธรรมศาลาอยางกระจางแจงเลย ในวันสะบาโตวันแรก ทานเปาโลออกไปนอกตัวเมือง ไปยังท่ีหนึ่งขางแมน้ําแกงกีเทส ไปยัง “ท่ีสําหรับอธิษฐาน” ของพวกยิว (กิจการ 16:13) จะวาธรรมศาลาเปน “ท่ีสําหรับอธิษฐาน” ก็ไดเหมือนกัน แตในเม่ือทานเปาโลพบผูหญิงกลุมหนึ่งเทานั้นท่ีนั่น และท่ีจะเปนธรรมศาลาไดก็ตองมีผูชายสิบคน สถานท่ีซ่ึงทานเปาโลพบดูเหมือนเปนท่ีพบปะเพื่อนมัสการและเพื่อมิตรภาพอยางกันเอง

เขาเชิญใหทานเปาโลเทศนาทุกคร้ังท่ีมีใครขอทานเปาโลยืนเทศนาท่ีนี่ก็เหมือนท่ีอ่ืน คือบังเกิดผลกิจการบอกเราวาเม่ือคนกลับใจใหมคนหน่ึงคือ นางลูเดีย เปนแมคาตางชาติมาจากเมืองทัวทีราในเซียไมเนอรเปนคนสนใจในความเช่ือพวกยิว (กิจการ 16: 14) นางเช่ือถือและครอบครัวของนางก็เช่ือถือดวย ภายหลังพัสดีเรือนจําและครอบครัวก็เช่ือถือ (กิจการ 16:34) แตคนอ่ืนอีกหลายคนก็เช่ือในพระคริสต ขอนี้เปนเร่ืองชัดแจง เม่ือทานเปาโลออกจากกเมืองฟลิปป ทานไดละคริสตจักรหนึ่งไวเบ้ืองหลัง และเปนคริสตจักรท่ีแข็งแรงพอท่ีจะสงของขวัญไปชวยทานเม่ือทานทํางานอยูท่ีเมืองเธสะโลนิกา (ฟลิปป 4:16)

139

Page 140: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

มีขอแนะบางประการวาผูหญิงเปนคนสําคัญในคริสตจักรนี้ ทานเปาโลเทศนาใหพวกนี้ฟงกอน ในจดหมายของทานทานไดยกเร่ืองสตรีสองคนซ่ึงเปนคนทํางานกับทานในการประกาศขาวประเสริฐอยางแข็งขัน (ฟลิปป 4: 2, 3) อยางไรก็ตามขอนี้มิไดหมายวาผูหญิงเปนเจาหนาท่ีของคริสตจักร “เจาอธิการและมัคนายก” ซ่ึงปรากฏใน ฟลิปป 1:1 นั้นคงเปนผูชายอยางไมตองสงสัย

ทานเปาโลอยูท่ีฟลิปปนานเทาใดเราไมทราบ แตในท่ีสุดวิกฤติการณบางอยางนําใหทานตองจากเมืองนี้ไป มีทาสสาวคนหน่ึงผีสิงอยู และมีความสามารถกลาวคําซ่ึงบางคนเขาใจวาเปนคําพระ ทาสสาวคนน้ีรบกวนทานเปาโลและสหายของทาน จนทานอัครทูตกระทําใหจิตใจของนางคืนสูสภาพปกติอยางอัศจรรยโดยพระนามของพระเยซูคริสต ฝายเจาของทาสสาวคนนี้ก็ปลุกปนคนใหกอนการวุนวายใสรายทานเปาโล เขาซอมความจริงไวเปนเบ้ืองหลังคือเขาขาดผลประโยชนทางการพยากรณโดยทาสสาวคนนี้จึงอางความนิยมชาติโรมเปนการบังหนา ทานเปาโลและซีลาสหายของทานถูกโบยและถูกจําคุกและติดข่ืออยูแนนหนา อยางไรก็ดีในคืนนั้นแผนดินไหวประตูคุกเปดออกและข่ือก็หลุด ฝายพัสดีคิดวานักโทษหนีไปหมดแลวจึงพรอมท่ีจะฆาตัวตาย ทานเปาโลไดหามเขาไวและถือเอาโอกาสนั้นนําเขามาถึงความเช่ือในพระคริสต ในวันรุงข้ึนเม่ือเขาปลอยนักโทษทานท้ังสองเรียกรองคําขอขมา เพราะวาแมทานเปนพลเมืองโรมเขาก็โบยตีทานโดยไมมีการข้ึนศาล ทานท้ังสองจึงไปเยี่ยมและหนุนใจคริสตจักรซ่ึงประชุมกันอยูในบานของนางลูเดีย เพื่อนมัสการเปนคร้ังสุดทายและพบปะกับทานท้ังสอง แลวทานเปาโลซีลาก็ลาจากนครนั้นไป (กิจการ 16: 16-40)

คริสตจักรสงของขวัญไปใหทานเปาโล

ชาวฟลิปปไมลืมทานเปาโล เขาทั้งหลายทราบวาทานไมขอของใหจากคริตจักรท่ีทานไมทํางานอยู ฉะนั้นเพื่อจะชวยทานขณะท่ีทานประกาศอยูในเมืองเธสะโลนิกา เขาจึงสงเงินไปใหทานสองคร้ัง (ฟลิปป4: 16) ชะรอย ฟลิปป 4:15 หมายวาเขาสงของขวัญอยางอ่ืนไปใหในภายหลัง แตแมวาเขาสนใจก็ไมสามารถสงของไปอีกตอไปได และทานเปาโลก็มิไดตําหนิเขาทั้งหลาย (ฟลิปป 4:10)

ตอมาหลายปทานเปาโลติดคุก (ฟลิปป 1: 12-14) ไมแนวาติดคุกท่ีไหนมีคนแนะวาคงเปนเมืองเอเฟซัส แตก็ไมมีหลักฐานม่ันคงท่ีจะยืนยันไดขอท่ีอางถึง “กองผูคุม” และ “ขาราชการของจักรพรรดิซีซาร” (ฟลิปป 1:13; 4, 22) ดูเหมือนวาท้ังหมดจะชี้ไปยังกรุงโรมท่ีซ่ึงเปาโลติดคุกอยูสองป (กิจการ 28:30)

เม่ือไดยินวาทานเปาโลอยูในคุกและขัดสน ชาวฟลิปปไดกระทําสองส่ิงเพื่อแสดงมิตรภาพคริสเตียน เขาท้ังหลายสงคนหนึ่งในพวกเขาช่ือเอพัฟโรดิโท ใหไปอยูกับทานเปาโล และชวยทําใหชีวิตของทานเปาโลมีความสุขข้ึน และเขาไดสงของขวัญไปพรอมกับเอพัฟโรดิโทเพื่อชวยบรรเทาความขัดสนของทานเปาโลดวย

140

Page 141: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

แผนงานไมสําเร็จออกมาตามที่เขาไดตั้งใจไว เอพัฟโรดิโทไปเจ็บหนัก มีคราวหนึ่งแทบตาย เม่ือเขาตอสูจนชนะและเร่ิมพักเอาแรง ทานเปาโลก็เห็นวาจะกักตัวเขาไวนานไปอีกก็ไมควร ความเจ็บไขทําใหเขาออนกําลัง เขาอยากกลับบาน ชะรอยจะเปนเพราะเขาเห็นวาตัวเขาเปนอุปสรรคมากกวาท่ีจะเปนคนชวยทานเปาโล และเขาคิดวาเปนอยูบานคงฟนไดเร็วกวาอยูท่ีนั่น ในท่ีสุดเขาจึงกลับไปฟลิปป

ทําไมทานเปาโลเขียนจดหมาย

เร่ืองท่ีเกิดข้ึนนี้เปดทางใหทานเปาโลเขียนจดหมายถึงชาวฟลิปปมีเหตุผลหลายประการท่ีทําใหทานเขียน ทานอยากจะบอกใหแจงวาทําไมเอพัฟโรดิโทจึงกลับบาน ทานไมตองการใหสหายของทาน ผูตองทนทุกขเจ็บไขเม่ือดูแลทานตองถูกชาวฟลิปปตอวาหรือเหยียดหยามเพราะไมอยูกับทาน ในจดหมายทานพูดไดวาทําไมเอพัฟโรดิโทกลับบาน และอธิบายวาตัวทานเองสงใหเขากลับ (ฟลิปป 2: 25-30)

ทานเปาโลตองการที่จะขอบคุณชาวฟลิปปในเร่ืองของขวัญท่ีเขาไดสงไปใหทาน ดูเหมือนวาตั้งแตตนมาจนบัดนั้นทานไมสามารถเขียนถึงเขาท้ังหลายได คราวนี้ทานสงคําขอบคุณไปถึงเขาไดในเร่ืองท่ีเขาชางคิดและมีเมตตา (ฟลิปป 4: 10-20)

ในขณะเดียวกันทานบอกเพื่อนของทานไดวา ทานเปนอยางไรบางและทานมีความหวังในเบ้ืองหนาอยางไรบาง ทานอธิบายแจมแจงไดวาแมวาการคุมขังก็ไมบดบังน้ําใจของทานหรือทําใหทานขาดจากความเช่ือได (เทียบ ฟลิปป 1: 12-26)

และอีกอยางหน่ึงคริสตจักรฟลิปปแสดงหมายสําคัญแหงการพองตัวและการแตกแยก ขอนี้รบกวนทาน คงมีการแตกแยกกันไมลึกลํ้านักเพราะทานเปาโลแสดงความปล้ืมปติ และความไววางใจในคริสตจักรนี้มากแตก็เปนอันตราย และทานเปาโลตองการที่จะแกไขกอนท่ีเร่ืองนี้จะรายยิ่งข้ึน (ฟลิปป 4: 2)

คริสตจักรฟลิปปก็เหมือนคริสตจักรอ่ืน ๆ ของทานเปาโล คือตองการแนะนําสืบตอไป บางคนตองการคําตักเตือนวาอยางถือวาการปฏิบัติตามอยางพวกยิวนั้นเปนส่ิงจําเปนสําหรับความรอด ตัวอยาง พวกครูขางนอกเคยกลาววาการเขาพิธีสุหนัตนั้นเปนส่ิงท่ีตองกระทํา (ฟลิปป 3: 2) สวนคนอ่ืนก็ตองการคําแนะนําวา ไมใหตามพวกท่ีเยาะเยยมาตรฐานทางจริยธรรมและการบังคับตนเอง ปลอยตัวไปตามความกระหายของกายโดยอางวาพระคุณท่ีพระเจาทรงประทานนั้นยอมยกเวนมิใหเขาดําเนินชีวิตอยางบริสุทธ์ิและเท่ียงธรรม (ฟลิปป 3:17-19) เพราะมีเร่ืองราวเหลานี้อยูในใจ ทานเปาโลจึงบอกคําบอกเปนจดหมายฉบับนี้ ในราว ค.ศ. 62 หรือ 63

141

Page 142: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

เจาหนาท่ีคริสตจักรทองถ่ิน

คํานําตนจดหมายมีลักษณะใหมอยางหนึ่ง ทานเปาโลอางถึง “ผูดูแลและมัคนายก” (ฟลิปป 1:1) ชะรอยท่ีทานกระทําเชนนั้นเพราะเขามีสวนสําคัญในการสงขวัญไปใหทาน ในจดหมายรุนแรก ๆ ของทานไมไดกลาวถึงเจาหนาท่ีทองถ่ินเลย เราไดยินถึงพวกศาสดาพยากรณครูอาจารยและคนอ่ืน ๆ ผูมีสวนในการนําคริสตจักร (1 โครินธ 12:28; เอเฟซัส 4:11) มีการอางมาก ๆ ถึงชนช้ันผูนํา (1 เธสะโลนิกา 5:12; 1โครินธ 16:16, 18) แตไมปรากฏนามของพวกเจาหนาท่ี ไมมีระบบสากลอะไรต้ังข้ึนเลย

แมวาจะมีกลาวถึงเจาหนาท่ีเฉพาะตาง ๆ เมืองฟลิปปก็อยาใหเราเขาใจผิดไปตามความหมายของคําในสมัยนี้ คําวา “เจาอธิการ” (ในพระคัมภีรภาษาไทยฉบับเดิม) ตามภาษากรีกแปลวา “ผูดูแล” ในคริสตจักรเดียวท่ีฟลิปปมีตั้งหลายคน เขาจึงไมเหมือนกับ “เจาอธิการหรือบิชอบ” ตามความเขาใจ

ในสมัยนี้ ท่ีเปนคนดูแลในทองถ่ินกวางใหญแตมีความหมายเหมือนศิษยาภิบาลหรือพวกผูปกครองของเรา หนาท่ีของ “มัคนายก” หรือ “ผูปรนนิบัติ” ก็ไมไดระบุไวอยางชัดเจน แตคริสตจักรก็กําลังพัฒนาระบบการปกครองเพ่ือจะนํา ปกครอง และรับใชคริสตจักรนั่นเอง

ความปลื้มปติและความหวังของทานเปาโล

คําโมทนาของทานเปาโลในเร่ืองความเช่ือและมิตรภาพของคริสตจักรนี้เปนคําพูดอยางเต็มใจและอุนใจ (ฟลิปป 1: 3-11) และทานอธิษฐานเพ่ือใหเขาเจริญข้ึนในความเช่ือ แทบทุกบทมีน้ําเสียงแหงความปล้ืมปติมิใชในการถวายโมทนาเทานั้น แตในตอนท่ีมีคําวา “ความปล้ืมปติและ “ความเปรมปรีดิ์” ทานเปาโลไดใชคํากรีกคํานี้ท้ังท่ีเปนคํานามหรือคํากิริยา 16 คร้ัง

ทานเปาโลรีบไปพูดถึงความเปนอยูของทานในคุกดวยความกลาหาญและความหวัง (ฟลิปป 1: 12-30) แมวาทานเปนนักโทษ ทานก็สามารถกระทําใหขาวประเสริฐเปนท่ีรูกันทามกลางพวกทหารผูเฝาทานอยู และทามกลางคนกลุมอ่ืน ๆ ดวย

สภาพการน้ีมีดานความืดเหมือนกัน ผูนําคริสเตียนโรมบางคนก็ไมเปนมิตรกับทาน และความอิจฉานําการเทศนาของเขาเหลานั้น ทานเปาโลเปนคนใจใหญไมยอมใหเร่ืองเหลานี้บีบค้ันจิตใจของทานงาย ๆ ทานมีความยินดีท่ีการประกาศแพรขาวประเสริฐกวางขวางแลว และทานวางใจวา แมจะมีการขัดแยงและการอิจฉาสักเทาใดทานจะมีชีวิตอยูจนกวาจะไดไปเยี่ยมชาวฟลิปปอีก ทานเตมใจแลวท่ีจะตาย ทานแกและเหน็ดเหนื่อยมามาก ทานรูสึกวาตายเสียก็ดี จะไดไปอยูใกลชิดกับพระคริสต แตทานไมถือเอาความปรารถนาของทานเปนท่ีตั้ง ถาทานยังมีชีวิตอยูทานยังจะชวยชาวฟลิปปตอไปได และน่ันเปนส่ิงท่ีทานหวังจะกระทํา แตทานจะเปนหรือตายก็ตาม ขาท้ังหลายจะตองยืนม่ันในความเช่ือของเขา

142

Page 143: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

เสนอใหมีเอกภาพ

เขาท้ังหลายควรจะยืนม่ันในความเช่ือนั้นดวยกันใหเปนอันเดียวกันการท่ีจะใหเกิดเอกภาพ คริสเตียนทุกคนตองถอมใจและ “ไมคิดถือตัวเกินท่ีตนควรจะคิดนั้น” (โรม 12:3) เขาท้ังหลายตองจําตัวอยางพระชนมชีพท่ีถอมพระทัยและท่ียอมทนทุกขของพระคริสต และจําวาพระเจาทรงยกยองพระ

คริสตข้ึนใหเปนพระเปนเจาของส่ิงท้ังปวงอยางไร (ฟลิปป 2: 1-11) เม่ือขาท้ังหลายทราบอยูแลววาพระเจาทรงกระทํากิจในตัวเขา เขาท้ังหลายควรจะอยูดวยกันดวยความภักดีรวมกันเขาท้ังหลายควรเปนตัวอยางของอ่ืน ๆ อยางนี้จะทําใหทานเปาโลกเปรมปรีดิ์ท้ังในเวลาปจจุบันในเวลาสุดทาย (ฟลิปป 2:12-18)

หลังจากท่ีไดบอกแผนงานของทานวาจะสงทิโมธีซ่ึงเปนผูชวยท่ีทานไววางใจไปหาเขาในไมชาและอธิบายวาทําไมเอพัฟโรดิโทจึงกลับบาน (ฟลิปป 2: 19-30) ทานก็ตักเตือนเขาใหระวังการผับแปรขาวไปตามบัญญัติของพวกยิว ชาติกําเนินของยิวและจารีตของยิวไมใชเปนส่ิงจําเปน ทานเปาโลเองเปนยิวท่ีมีกําเนิดดี มีชีวิตท่ีรอนรน และมีความกาวหนาภายนอกสูง แตทานท้ิงความไววางใจในส่ิงเหลานี้เสียส้ิน เพราะวาส่ิงท่ีทานตองการคือการอภัยโทษและฤทธ์ิเดชของพระเจา ซ่ึงทานพบแลวในพระคริสตพระเปนเจาผูทรงคืนพระชนมทานปกใจของทานอยูในส่ิงหนึ่ง คือท่ีจะดําเนินอยางถึงขนาดตามพระประสงคของพระเจาซ่ึงมีตอชีวิตของทาน ชาวฟลิปปก็ควรกระทําอยางเดียวกันนั้น (ฟลิปป 3:1-16)

คริสเตียนตางชาติในรุนแรก ๆ จําตองเลือกเอาวาเขาจะติดตามผูนําคนใดถาพูดกันฝายปฏิบัติเขาจะตองเลียนแบบทานเปาโลหรือปฏิปกษตอทาน เหตุฉะนั้นทานจึงเสนอในจดหมายเกินกวาฉบับเดียวใหบรรดาคริสตจักรเลียนแบบของทาน (ฟลิปป 3:17) ทานมิไดพูดเพราะอิจฉาแตเพราะคนอ่ืนพยายามจะพาชาวฟลิปปใหหลง มีพวกท่ี “พระของเขาก็คือกะเพาะ” พวกเหลานี้ดําเนินชีวิตตามใจตัวและลามก โดยคิดเสียวาส่ิงเหลานี้ไมกระทบกระเทือนชีวิตฝายวิญญาณจิตเลย หรือไมก็พระเจาจะทรงยกบาปไมวาจะมีมากสักเทาใด เม่ือเราทูลขอพระเจาใหอวยพรชีวิตท้ังส้ินของเรา และในกาลท่ีสุดใหชีวิตสมบูรณก็ควรท่ีเราจะถวายตัวหมดส้ินและดําเนินชีวิตอันบริสุทธ์ิ การปลอยตัวจะมีในชีวิตคริสเตียนไมได (ฟลิปป 3:18-21)

เหตุท่ีเปนภัยแกเอกภาพอีกอยางหนึ่งก็คือ การทะเลาะวิวาทในระหวางสตรีสองคนในคริสตจักร ควรมีคนชวยใหหญิงท้ังสองคืนดีเปนมิตรกันอีก (ฟลิปป 4: 1-3) ทานเปาโลคงคาดวาคําเสนอส้ัน ๆ อยางนี้จะทําใหความลําบากนั้นส้ันสุดลง ทันใดนั้นทานก็กลาวตอไปใหผูอานท้ังหลายเปรมปรีดิ์ ชีวิตคริสเตียนเปนชีวิตท่ีสํานึกในพระคุณและสุขสบาย อันเปนชีวิตท่ีการวางใจในพระเจาและการอธิษฐานดวยความเช่ือมีอยูเปนส่ิงธรรมดา (ฟลิปป 4:4-7)

143

Page 144: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

คนเราเปนตามท่ีตัวเราคิด นี่เปนความคิดท่ีนากลัวในสมัยของเราในเม่ือระดับของความบรรเทิงในการอานหนังสือพิมพรายวัน ฟงวิทยุดูโทรทัศน และชีวิตสังคมตํ่า แตก็เปนความจริง ทานเปาโล

ทราบขอนี้เพราะฉะน้ันทานจึงชักชวนสหายของทานใหคิดในส่ิงท่ีดีท่ีจริง และท่ีนารักมิใชสักแตคิดเทานั้นแตตองปฏิบัติตามดวย อยางท่ีเขาท้ังหลายเห็นทานกระทํานั้น (ฟลิปป 4: 8, 9)

ทานเปาโลและบรรดาสหายของทาน

คราวนี้ทานขอบใจเขาเพราะของขวัญนั้น วิธีท่ีทานกระทําดูจะแปลก ตอนแรกดูเหมือนทานไมสนใจวา เขาจะสงของขวัญใหทานอีกหรือไมก็ตามที ทานดํารงชีวิตตอไปไดแตความจริงทานตองการของขวัญนั้น และทานรูสึกโมทนาเพราะส่ิงนั้น ทานไมตองการใหเขาคิดวาความสุขสบายของทานข้ึนอยูกับสภาพฝายกายเทานั้นหรือเปนประการสําคัญ ทานดํารงชีวิตเปนป ๆ มาแลวดวย “หนามใหญในเนื้อ” (2 โครินธ 12:7) ทานไดอดทนตอความยากลําบากและการทนทุกขทางกาย ทานเคยหนาวและหิวโหย แตส่ิงเหลานี้ไมเคยทําใหทานพายแพ ความเช่ือและกิจการเพื่อพระคริสตมีความหมายในชีวิตของทานกวางขวางกวาความสบายและความปลอดภัยฝายกายของทาน และทานตองการใหบรรดาผูอานเห็นวาขอนี้ควรเปนความจริงแกคริสเตียนทุกคน เหตุฉะนั้นทานจึงขอบใจเขาในทํานองท่ีประหนึ่งวา ขาวขาวไมเปนส่ิงใหญในชีวิต แตทานขอบใจเขาอยางถึงใจมีความเปรมปรีดิ์วาเขาท้ังหลายยังคิดถึงทาน ทบทวนความขอบใจในของขวัญรุนกอน ๆ และใหเขาแนใจวาพระพรของพระเจาจะมีตอเขา ผูบริจาคดวยใจเอ้ืออารีเชนนั้น (ฟลิปป 4:10-20)

ในบรรดาคนท่ีสงคําคํานับฝายคริสเตียน (ฟลิปป 7: 21-23) ก็มี “ขาราชการของจักรพรรดิซีซาร” คนเหลานี้อาจเปนทาสหรือคนใช เราทราบไมได แตมีส่ิงหนึ่งท่ีชัดเจน คือขาวประเสริฐกําลังแผไปและเขาไปถึงวงของบรรดาผูท่ีรับใชทานจักรพรรดิ นีโรผูดุรายและไรศีลธรรมกําลังเสวยราชยอยู ทานเปาโลอยูในคุกและไมชาจะตองตาย แตอนาคตอยูกับความเช่ือของทานเปาโล การแผเผ่ือความเช่ือแกกันและกันดีกวาเลียนแบบความเพลิดเพลินลามกของทานจักพรรดิ พระคริสตทรงเปนพระเปนเจาท่ีแท และชีวิตคริสเตียนเปนชีวิตท่ีแท

ชีวิตที่ยินดีถวายแดพระคริสต

แปลกท่ีจดหมายอยางนี้มาจากคุก เต็มไปดวยความกลาหาญและเหนือกวาสภาพการภายนอก ระบายออกเปนความตั้งใจแนวแนท่ีจะทํางานคริสเตียนไมวาจะถูกขมเหงหรืออิจฉา มีความปล้ืมปติและโมทนาพระเจาในโอกาสท่ีไดเทศนาส่ังสอนขาวประเสริฐ แสดงถึงความรักอันดื่มด่ําท่ีมีตอเพ่ือน

คริสเตียนและแสดงความปล้ืมปติในความเช่ือและความเจริญเติบโตของเขาจะอยูในคุกหรือเปนอิสระ ทานเปาโลก็มีชีวิตอยูเพื่อพระคริสตทานไดช้ีถึงพระองควาเปนเปาของความเช่ือ เปนตัวอยาง

144

Page 145: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

ของความถอมใจและความยิ่งใหญท่ีไมซํ้าแบบใคร และเปนองคพระผูเปนเจาของปวงชนเปาหมายอันเดียวของทานเปาโลคือการปรนนิบัติพระคริสตและกระทําใหพระประสงคของพระคริสตสําหรับชีวิตทานสําเร็จ “ขาพเจาทําอยางหนึ่งคือลืมส่ิงเหลานั้นท่ีผานพนมาแลวเสีย และโนมตัวออกไปหาส่ิงเหลานั้นท่ีอยูขางหนา ขาพเจากําลังบากบ่ันมุงไปสูหลักชัย เพื่อจะไดรางวัลในพระเยซูคริสต ซ่ึงพระเจาไดทรงเรียกจากเบ้ืองบนใหเราไปรับนั้น (ฟลิปป 3:13, 14)

แนะการอาน ในการอานพระธรรมฟลิปป ขอจดส่ิงท่ีทานเปาโลถือเปนเหตุท่ีจะโมทนาพระคุณพระเจา ส่ิงใดในเมืองฟลิปปซ่ึงทําใหทานเปรมปรีดิ์ และมีความออนแออันใดท่ีทานเห็น

ขอพระธรรมท่ีควรศึกษา ความถอมใจฝายคริสเตียน (ฟลิปป 2: 1-4) การทรงถอมและรังสีความยิ่งใหญของพระคริสตองคพระผูเปนเจา (ฟลิปป 2:5-11) ความถอมใจและเปาหมายของทานเปาโล (ฟลิปป 3:4-16) ความคิดของคริสเตียน (ฟลิปป 4:8)

ขอพระธรรมท่ีมีคาควรจํา ฟลิปป 1: 21; 2:12, 13; 3:13, 14; 4:4, 6,8,13

145

Page 146: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

บทที่ 17 จดหมายสามฉบับท่ีมีถึงศิษยาภิบาล

คนท่ีมีช่ือเสียงควรรับความดีความชอบในส่ิงท่ีเขาไดกระทําสําเร็จแตถาปราศจากเพ่ือนท่ีภักดีและผูชวยแลวเขาก็กระทําอะไรใหญโตอยางท่ีบันทึกไวนั้นไมได

ผูชวยท่ีภักดีอยางนี้ปรากฏขึ้นในเร่ืองของทานเปาโล นอยคร้ังท่ีเดียวซ่ึงทานถูกท้ิงไวใหอยูแตลําพังผูเดียว ถามีก็เพียงเวลาอันส้ัน (กิจการ 17: 15; 1 เธสะโลกา 3:1, 2) โดยปกติจะมีผูชวยคนหนึ่งหรือมากกวานั้นท่ีสมทบทานในการเขียนจดหมาย และเม่ือไมมีใครสักคนหนึ่งอยูกับทานเพื่อชวยทานทํางาน ก็เม่ือทานเองสงคนท่ีไวใจเหลานี้ใหไปชวยบรรดาคริสตจักรท่ีอยูในนครอ่ืน ๆ

ทิโมธีและทิตัส

ผูชวยท่ีซ่ือสัตยสองคนท่ีทานเปาโลมีอยูคือ ทิโมธีและทิตัส เราไดยินเร่ืองทิโมธีบอยกวา ในจดหมายหกฉบับทานเปาโลระบุช่ือทิโมธีวาเปนคนหนึ่งท่ีเขียน ทานเปาโลบอกเปนคําบอก แตทานบอกช่ือผูชวยของทานเพื่อแสดงวาทานมีความไววางใจในทิโมธี และวาเขากับทานยืนหยัดอยูดวยกันในการงาน

ทานเปาโลไดกระทําใหทิโมธีกลับใจท่ีเมืองลุซทรา ในการออกจาริกคร้ังท่ีสองทานไดพา ทิโมธีไปกับทานดวยตอนออกจากเมืองลุซทรา (กิจการ 16:1-3) และต้ังแตนั้นไปทิโมธีก็เปนผูชวยประจําของทานเปาโล ชะรอยบางทีเขาจะข้ีขลาด (1 โครินธ 16:10,11) แตเขาก็ภักดีและซ่ือสัตย และทานเปาโลก็ใชเขาเดินทางไปยังคริสตจักรท่ีสําคัญ ๆ เชนคริสตจักรท่ีเมืองเธสะโลนิกาและท่ีเมืองโครินธ (1 เธสะโลนิกา 3:1,2;1 โครินธ 4:17) เขาพรอมท่ีจะติดคุกรวมกับทานเปาโลเพื่อจะอยูใกลทานและชวยทาน (ฟลิปป 1:1 โครินธ 1:1 ฟเลโมน 1) เขาก็เหมือนทานเปาโล คือ “เอาใจใสในเรื่องความทุกขสุขของคริสตจักร ท่ีจริงทานเปาโลพูดถึงเขาไดทีเดียววา “ทานท้ังหลายทราบคุณคาของทิโมธีวา บุตรยอมปรนนิบัติบิดาฉันใดเขาไดปรนนิบัติดวยกันกับขาพเจาในการประกาศขาวประเสริฐฉันนั้น” (ฟลิปป 2:19-22) คร้ังหนึ่งทานเปาโลทิ้งเขาไวใหนําคริสตจักรท่ีเมืองเอเฟซัส (1 ทิโมธี 1:3)

ทิตัสคนตางชาติท่ีเปนคริสเตียนไมเคยมีช่ือปรากฏในพระธรรมกิจการเม่ือทานเปาโลเรียกเขาวา “บุตรแทของขาพเจาตามความเช่ืออยางเดียวกัน” (ทิตัส 1:4) ชะรอยจะเปนเพราะทานอัครทูตไดใหเขากลับใจเขาไปกับทานเปาโลเพ่ือเขาประชุมท่ีกรุงเยรูซาเล็มในการตัดสินใจวาคริสเตียนตางชาติจะตองถือตามบัญญัติหรือไม ในการที่จะรอดได (กาลาเทีย 2:3) เขาไดชวยทานเปาโลที่เมืองโครินธโดยเฉพาะเขานําจดหมายไปถึงคริสตจักรนี้เขาไดนําคริสตจักรนี้กลับมาภักดีตอทานเปาโล เม่ือคริสตจักรกบฏตอทาน เขานําในเร่ืองการรวบรวมเงินเพื่อชวยคริสเตียนยากจนที่กรุงเยรูซาเล็ม (2 โค

146

Page 147: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

รินธ 7:5-16, 8 :16-24, 12:18 )ภายหลังเขาทํางานในเกาะเครเทสมทบกับทานเปาโลในฤดูหนาวไปพักท่ีนิโคโพลีในประเทศกรีกและถูกสงเปนทูตไปยังดาลมาเทีย ทิศตะวันตกเฉียงเหนือของมาคะโดเนีย (ทิตัส 1:5,3:12 , 2ทิโมธี 4:10)

บรรดาจดหมายถึงเหลาศิษยาภิบาล

มีจดหมายสามฉบับท่ีเราจะศึกษากันตอไปนี้เปนจดหมายท่ีเขียนถึงผูชวยท่ีไววางใจของทานเปาโลสองคนที่เราไดกลาวมาแลวนั้น ฉบับท่ีหนึ่งและท่ีสองที่ถึงทิโมธีกับฉบับหนึ่งท่ีถึงทิตัสเปนจดหมายพวกเดียวกันนอกจากท้ังสามนี้ไมมีจดหมายอ่ืนท่ีมีถึงผูชวยในการจาริกของทานเปาโลเร่ืองอะไรท่ีจดหมายพูดถึง และพูดถึงอยางไรเปนเร่ืองท่ีคลายคลึงกันมากคือพูดถึงบรรดาผูนําของคริสตจักร และบรรยายถึงอัตลักษณและความสามารถท่ีผูนําประจําทองถ่ินตองมี ตักเตือนใหระวังแนวคิดเท็จและการปฏิบัติท่ีผิดและชี้ถึงความผิดซ่ึงบรรดาผูนําตองหลีกเล่ียง

เปนท่ีประจักษวาจดหมายเหลานี้ไมไดพูดถึงหนาท่ีของทิโมธีหรือทิตัสโดยเฉพาะใจความของจดหมายนี้เจาะจงเพื่อผูนําคริสตจักรทองถ่ินมีคําหนึ่งตอนปลายจดหมายแตละฉบับแสดงวาบรรดาจดหมายเหลานั้นพูดถึงผูนําคริสตจักรเหลานี้ คําอธิษฐานสุดทายท่ีวา “ขอใหพระคุณดํารงอยูกับทานท้ังหลายเถิด” ทานท้ังหลายเปนพหูพจนในภาษากรีก จึงประจักษแจงวาจดหมายน้ีมิใชเปนบันทึกท่ีถึงบุคคลคนเดียว แตเขียนไวเพื่อแนะแนวความคิดและการกระทําของหัวหนาคริสเตียนคนอ่ืน ๆ ดวย คือท้ังท่ีคนทํางานอยูกับทิโมธีและติตัสและคนอ่ืนๆ ท่ีทํางานตอจากทานเหลานี้ไป

สมัยนี้พวกคริสเตียนเรียกจดหมายสามฉบับนี้วา จดหมายฝากถึงศิษยาภิบาล ท้ังนี้เพราะระบุถึงเร่ืองหนาท่ีและบรรยายถึงอัตลักษณของพวกศิษยาภิบาลและบรรดาผูนําคริสตจักรทองถ่ินอ่ืน ๆ จดหมายเหลานี้พูดเร่ืองอะไรบาง

“ขาพเจาว่ิงแขงถึงท่ีสุดปลายทางแลว”

จดหมายเหลานี้ไมใชของผูท่ีเร่ิมงานของพระคริสต แตเปนจดหมายของมิสช่ันนารีผานศึก และพูดถึงงานคริสตจักรในบรรดานครและหัวเมืองของอาณาจักรโรมหลายแหงดวยกัน ขาวประเสริฐไดเผยแพรออกไปแลว คริสตจักรไดเติบโตข้ึน ปเดือนท่ีเทศนาอยางไดผลไดผานพนไปทานอัครทูตเองพูดอยางกับเปนคนแกผูแลเห็นปลายทางของตนใกลเขามา “ดวยวาขาพเจากําลังตกเปนเคร่ืองบูชาแลว และเวลาแหงการจากไปของขาพเจาก็มาถึง ขาพเจาไดตอสูอยางดี ขาพเจาแขงถึงสุดปลายทางแลวขาพเจาไดรักษาไวซ่ึงความเช่ือ” (2 ทิโมธี 4:6, 7)

จาก 1 ทิโมธีและทิตัสก็แจงอยูแลววาทานเปาโลไดอยูในเอเฟซัสและเกาะเครเทและกําหนดวาจะอยูตอนฤดูหนาวท่ีเมืองนิโคโพลี ซ่ึงชะรอยต้ังอยูทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศกรีก

147

Page 148: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

(1 ทิโมธี 1: 3 ทิตัส 1:5; 3:12) แตใน 2 ทิโมธีทานอยูในคุกอีกคร้ังหนึ่ง ทานไดข้ึนศาลหนหนึ่ง

แลว (2 ทิโมธี 4: 16) ทานยังพูดเร่ืองพระคริสตทางจดหมาย ทางผูส่ือขาว และทางการเปนพยานตอ

หนาผูพิพากษา งานเผยแพรของทานกําลังจะส้ินสุดลง

“ยึดถือคําจริงไว”

คริสตจักรจะเปนอยางไรไป จะยังซ่ือตรงตอขาวประเสริฐ จะซ่ือตรงถาบรรดาผูนําแนะเธอไปในแนวคิดท่ีตรงและการส่ังสอนท่ีถูกตองในเร่ืองทางดําเนินชีวิต บางทีเราไดยินเขากลาวกันวาจะเช่ืออะไรก็ไมสําคัญขอใหเราทําส่ิงท่ีถูกก็แลวกัน พูดอยางนี้เหลวไหลเราจะกลายเปนอยางท่ีเราคิด การกระทํานั้นเปนรูปตามท่ีเราเช่ือและฝงอยูในความคิดของเรา ความคิดเท็จมักโผลข้ึนมาเสมอ และคริสตจักรท่ีจะชวยสมาชิกของตนตองสอนกันอยูเสมอ ๆ วาความเช่ือในพระเจาและในพระคริสตนั้นหมายความวากระไร คริสเตียนควรจะอยูกันอยางไร และอะไรเปนงานของคริสเตียน

เพราะเหตุนั้นทานเปาโลจึงตองการใหบรรดาผูนําและคริสตจักร “ยึดถือคําจริง” คือความจริงของคริสเตียน (ทิตัส 1:9) มีความคิดเปนภัยหลายอยางคุกคามพวกคริสเตียน บางก็ชักชวนใหรับเอาจารีตของพวกยิวเขามา (ทิตัส 1:10,14) จดหมายเหลานี้ท่ีถึงศิษยาภิบาลเปดทางใหบทบัญญัติ บทบัญญัติเตือนไมใหกระทําผิด และบัญชาใหกระทําความดี แตท่ีจะวางใจในพิธีการและกฏเกณฑตามบทบัญญัติวาเปนทางท่ีจะใหรอดพน เปนการลืมพระคุณของพระเจา บางคนคิดวา “ลําดับวงศวาน”หรือสายครอบครัวของเทวชีพนั้นควรจะทองจํากันไว และเราจะพบทางไปถึงพระเจาไดโดยทางชวยเหลือของพวกเหลานี้ (1 ทิโมธี 1:4;4:7) มีการทะเลาะวิวาทและการโตเถียงกัน และหลายคนก็ภาคภูมิใจในความคิดท่ีตนข้ึนใจอยู (1ทิโมธี 6:20 ;2 ทิโมเทีย 2:14,23 ; ทิตัส 3:9) มีหลายคนพยายามไปสูความรอดโดยการบําเพ็ญทุกขกิริยา คือเขาหามการแตงงาน ใหทรมานกาย และหามรับประทานเน้ือ

(1 ทิโมธี 4: 3, 8) ความโลภและความรักเงินทําลายภราดรภาพของคริสเตียน (1 ทิโมธี 6: 9, 10, 17-18) และพวก

ปากบอนไมเปนเร่ืองก็เหมือนกัน (1 ทิโมธี 5:13) คนอวดตัว การกระทําอยางอมนุษยดูทาจะคุกคามเพิ่มข้ึน (2 ทิโมธี 3:2-5) ความละโมบและความมึนเมากําลังจับเหย่ือของมัน และความรักโลกท่ีช่ัวชาก็เปนภัยแกคริสตจักรแลว (1 ทิโมธี 3:3, 8; 2 ทิโมธี 4:10; ทิตัส 1:12)

เพื่อตอตานความคิดเท็จ ความพยายามอยางฉลาดท่ีมนุษยคิดทางรอดของตนเองและการทะเลาะกับการกระทําท่ีเห็นแกตัวเหลานี้ มีจดหมายฝากท่ีเขียนถึงศิษยาภิบาลใหยึดม่ันอยูเพื่อขาวประเสริฐของพระคริสต เปนขาวท่ีไววางใจไดวา พระเจาทรงชวยมนุษยทางพระคริสตและกอสรางเขา

148

Page 149: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

ข้ึนในชีวิตท่ีไรพิษสงและใหมไดอยางไร “แตวาเม่ือพระเจาผูเปนท่ีรอดของเราทรงพระกรุณาโปรด และประทานความรักแกมนุษยใหปรากฏแลวพระองคไดทรงชวยเราใหรอด ไมใชตามการชอบธรรมซ่ึงเราไดกระทําแตตามท่ีพระองคทรงพระกรุณาชําระใหเรามีใจบังเกิดใหม และทรงสรางข้ึนใหมโดยพระวิญญาณบริสุทธ์ิ ซ่ึงพระองคนั้นไดทรงประทานแกเราท้ังหลายอยางบริบูรณโดยพระเยซูคริสตผูชวยใหรอดของเรา” (ทิตัส 3:4-6) พระเจาตางหากทรงเปนผูชวยใหเรารอด เปนฤทธ์ิเดชของพระองคท่ีกระทําใหเราดํารงชีวิตท่ีดีได โดยพระเยซูคริสตและวิญญาณเราจึงจะเปนอยางท่ีเราควรเปนได

“ใหร่ํารวยในการดีนั้น”

เพราะพระเจาทรงประทานฤทธ์ิเดชเชนนี้แกคริสเตียน เขาท้ังหลายจึงควรแสดงผลใหปรากฏในชีวิตของเรา พระเยซูทรงประทานวิธีทดสอบท่ีงายและนากลัวซ่ึงจะบอกไดวาผูนําคริสเตียนและประชาชนจะจริงตอพระองคแท ๆ หรือไมวา “ทานจะรูจักเขาเพราะผลของเขา” (มัทธิว 7:16, 20) เพราะฉะน้ันจดหมายฝากมักคะยั้นคะยอเร่ืองการดีบอย ๆ ดวย

เปนความจริงท่ีวาขาวประเสริฐใหการอภัยโทษเปลา ๆ แกคนบาปไมใชเราทําอะไรจึงไดความกรุณาจากพระเจา นั่นเปนของประทานซ่ึงเรารับโดยความเช่ือในพระคริสต แตเพราะของประทานนี้

คริสเตียนจึงตองมีกตเวที และโดยความเชื่อประกอบดวยความขอบพระคุณ เขาจึงรับและกระทําตามน้ําพระทัยของพระเจา โดยการอุปถัมภของพระเจาเขาทําการดีได และชีวิตประจําวันของเขาควรแสดงผลของความเช่ือนี้

ฉะนั้นเราจึงอานวา พวกคริสเตียนและเฉพาะอยางยิ่งพวกผูนํา “ใหรํ่ารวยในการดี” พรอมสําหรับการดีทุกอยาง” “มีใจรอนรนกระทําการดี” (1 ทิโมธี 6:18; 2 ทิโมธี 2:21, ติตัส 2:14) “จงใหพวกเราเรียนรูท่ีจะกระทําการดีดวยสําหรับความจําเปนตาง ๆ เพ่ือเขาจะไดเปนคนท่ีไรผล” (ทิตัส 3:14) เขาท้ังหลายตองไมเหมือนกับคนเหลานั้นผู “ออกปากกลาววาเขารูจักพระเจาแตวาในกริยาการประพฤติของเขา เขาปฏิเสธพระองค” (ทิตัส 1:16)

“จงทําพันธกิจของทานใหสําเร็จ”

คริสตจักรตองการผูนําท่ีสามารถ และจดหมายถึงศิษยาภิบาลเหลานี้พูดถึงคนเหลานี้แหละ จดหมายนี้บงถึงลักษณะอะไรของผูนําบางมีเนนถึงความเช่ืออยางจริงใจ ชีวิตท่ีถวายไวและบริการที่สัตยซ่ือ ไมมีบัญชียืดยาวเร่ืองสมรรถภาพพิเศษ มีกลาวถึงสมรรถภาพในการสอนเปนของประทานสําคัญ แตผูนําตองเปนคนสัตยซ่ือ สุภาพ ปราศจากความโลภและการทะเลาะวิวาท คงเสนคงวา รูจักบังคับตน และมีครอบครัวซ่ึงเปนพยานท่ีดีในทางความเช่ือ ไมมีสมรรถภาพพิเศษอยางใดมาแทนคุณลักษณเหลานี้ได ผูนําตองศึกษาอยูเสมอ โดยเฉพาะอยางยิ่ง ศึกษาจากพระคมภีร (2 ทิโมธี 3: 14-17)

149

Page 150: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

หนาท่ีการงานของเขาก็คือใหท้ังการสอนท่ีดีและตัวอยางท่ีดี และเขาจะตองรับและอดทนการยากลําบากใด ๆ ท่ีมาถึงเขา (1 ทิโมธี 4:11-16; 2 ทิโมธี 2:3; 4:2)

ผูนําเหลานี้คือใคร สวนหน่ึงก็มีคําแนะนําท่ีใหแกทิโมธีและทิตัสเพื่อเปนตัวอยางแกผูนําคริสตจักรทั้งปวง แตจดหมายเหลานี้สนใจในเจาหนาท่ีคริสตจักรทองถ่ินเปนพิเศษ เจาหนาท่ีตําแหนงหนึ่งคือ “ผูดูแล” หรือ “เจาอธิการ” ผูนี้เรียกวา “ผูปกครองหรือผูใหญ” ดวย (1 ทิโมธี 3:1-7 ; ทิติส 1:5-9) ในทิตัส 1:7 ก็แจมแจงทีเดียววาคําวา “ผูดูแล” หรือ “เจาอธิการ”นั้นคือผูปกครอง คําวา “เพราะวา”แสดงวา “เจาอธิการ” ท่ีทิตัส 1:7 พูดถึงนั้นเปนคนพวกเดียวกับท่ีกลาวไวในประโยคกอนที่เรียกวา “ผูปกครอง” ในทํานองเดียวกัน ใน กิจการ 20:17,28 ทานเปาโลเรียกผูปกครองวา “ผูดูแล” หรือ “เจาอธิการ” คํากรีกท่ีทานใชใน กิจการ 20:28 เปนคําเดียวกับทิตัส 1:7 ซ่ึงแปลวา “เจาอธิการ” ผูดูแล” เหลานี้หรือผูปกครอง มีหนาท่ีปกครองชุมนุมชนในทองถ่ิน และบางคนก็มีหนาท่ีทํางานประกาศ และการส่ังสอนเปนงานสําคัญไปดวย (1 ทิโมธี 5:17)

ยังมีมัคคนายกดวย (1 ทิโมธี 3: 8-13) เขาตองเปนคนท่ีมีความเช่ือจริงและมีอัตลักษณดี โดยที่เขาจัดการเงินและดูคนยากจน เขาตองเปนคนสัตยซ่ือและพึ่งได ท่ีจริงจดหมายเหลานี้ไดตักเตือนเร่ืองอันตรายของเงินมากกวาหนึ่งคร่ึง ไมใชแตมัคคนายกเทานั้นท่ีตองหาเงินและใชเงินใหถูกตองตามทาง คริสเตียน

คนอีกพวกหนึ่งคือพวกแมมายสูงอายุผูไมมีญาติดูแล ตองข้ึนทะเบียนเขาไวตางหากและคริสตจักรเปนผูอุดหนุน และพวกแมมายเหลานี้ก็ทําบริการชวยเหลือบางคนท่ีตองการความชวยเหลือ (1 ทิโมธี 5: 3-16) ท่ีจะทําบริการเชนนี้พวกแมมายจึงจําเปนตองเปนหญิงท่ีมีคุณลักษณะสูงท่ีสุด

จดหมายเหลาน้ีทานเปาโลเขียนขึ้นเมือ่ไร

จดหมายถึงศิษยาภิบาลนี้เขียนข้ึนเม่ือไร มีความกระจางอยูอยางหน่ึง คือไมเขาเหมาะกับเร่ืองท่ีพระธรรมกิจการไดกลาวไว ตาม 1 ทิโมธี 1:3 วาทานเปาโลละทิโมธีไวท่ีเอเฟซัสเม่ือทานเดินทางข้ึนเหนือไปยังมาคะโดเนีย พระธรรมกิจการมีตอนหนึ่งท่ีวาทานเปาโลไปเหนือ ทานสงทิโมธีลวงหนาไปกอน (กิจการ 19:22) ใน 2 ทิโมธี 1:8,16 ทานเปาโลเปนนักโทษอีกคร้ังหนึ่งและทานอยูหรือเคยอยูในกรุงโรม แตตอนนี้ไมใชตอนคิดคุกตามซ่ึงพระธรรมกิจการกลาวไว เพราะใน 2 ทิโมธี ทานเปาโลกลาววา ทานละโตรฟโมท่ีปวยนั้นไวท่ีมาลทา (2 ทิโมธี 4:20) ฝายเราทราบจากกิจการ 21:29 วา การเดินทางท่ีกระทําใหทานเปาโลถูกจับและลงเรือไปกรุงโรมนั้น โตรฟโมไปกับทานเปาโลถึงกรุงเยรูซาเล็ม อีกประการหนึ่งทานเปาโลวาทานละทิตัสไวในเกาะเครเทเพ่ืองานท่ีทานไดเร่ิมไวตอไปและทานหมายจะพักฤดูหนาวท่ีเมืองนิโคโพลี (ทิตัส 1:5;3:12) ไมมีอะไรในหนังสือกิจการท่ีแสดงวาทานเปาโลเคยไปท่ี

150

Page 151: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

เกาะเครเท แมวาเม่ือทานโดยสารเรือผานไปตอนท่ีทานเปนนักโทษทานก็ไมสามารถหยุดเทศนาท่ีนั่นไดและฝายพระธรรมกิจการก็มิไดเอยวาทานเปาโลไดพักในฤดูหนาว ท่ีเมืองนิโคโพลี

ฉะนี้แหละจดหมายถึงศิษยาภิบาลมีรายละเอียดท่ีไมเขากับเร่ืองในพระธรรมกิจการ ท่ีจริงเราก็ไมทราบทุกส่ิงทุกอยางท่ีทานเปาโลไดกระทําตลอดเวลาปนั้น แตมีรายละเอียดหลายอยางไมเขากัน ถาทานเปาโลเขียนจดหมายเหลานี้ ทานก็ตองเขียนในตอนหลังจากตอนท่ีพระธรรมกิจการกลาวเร่ืองของทานไว คือทานตองไดรับการปลดปลอยและเปนอิสระออกจากกรุงโรม แลวทานเดินทางมาทางตะวันออกอีกคร้ังหนึ่ง ไดทํางานในเกาะเครเท ไปเยี่ยมเอเฟซัสอีก จากท่ีนั่นก็ไปมาคะโดเนยี และพักในฤดูหนาวท่ีนิโคโพลีหรือไดกะวาจะทําอยางนั้น ระหวางการเดินทางนี้ทานอาจจะเขียน ทิโมธีฉบับตนและทิตัส ภายหลังทานคงจะถูกจับอีกและถูกนําไปที่กรุงโรม ณ ท่ีนั้นตอนท่ีทานรอการพิพากษาทานอาจเขียนทิโมธีฉบับสอง

แตเขาปลอยทานเปาโลออกจากที่คุมขังหรือ ไมมีส่ิงใดในพระธรรมกิจการท่ีแนะวาเปนเชนนั้น ทานเปาโลเองยังไดบอกพวกผูปกครองของคริสตจักรเมืองเอเฟซัสวาเขาจะไมเห็นหนาทานอีก (กิจการ 20: 25, 38) ลูกาสอใหเห็นวาทานเปาโลถูกพิพากษาและถูกประหารชีวิตท่ีกรุงโรมหลังจากท่ีไดถูกคุมขังอยูสองปแลวอยางนั้นหรือ (กิจการ 28:30) ขอนี้ไมแนนัก ถาลูกาเขียนพระธรรมกิจการกอนทานเปาโลถูกพิพากษา ทานก็ยอมบอกไมไดวาผลของการพิพากษาเปนอยางไร ถาทานเขียนภาพหลังซ่ึงอาจเปนไปได ทานก็มิไดบอกเลาอะไรอีกเพราะความประสงคของทานมิใชจะกลาวเรื่องชีวิตทานเปาโลใหจบ แตทานบอกเพียงวาขาวประเสริฐไปถึงกรุงโรมอยางไร

แมลูกามิไดบอกอะไรเราอีก ก็มีตํานานโบราณรายงานวาทานเปาโลไดรับการปลดปลอยในราว ค.ศ. 63 และไดทําการประกาศเผยแพรตอไปจนถึงประเทศสเปน เราไดยินเร่ืองนี้จากเคลเมแหงกรุงโรม ซ่ึงตามจดหมายของทานในราว ค.ศ. 96 สอใหเห็นวาทานเปาโลไปที่ประเทศสเปนแตก็มีความยิ่งยากเกิดข้ึนตรงนี้ จดหมายถึงศิษยาภิบาลมิไดแสดงเลยวาทานเปาโลไปทางทิศตะวันตกถึงสเปน และทานเคลเมก็มิไดแสดงวา ทานเปาโลกลับไปทางทิศตะวันออกตามท่ีจดหมายถึงศิษยาภิบาลสอวาเปนเชนนั้น เราจะวาท่ีแรกทานไปสเปนและกลับไปทางทิศตะวันออก แลวทานทํางานท่ีนั่นและไดเขียนจดหมายนี้ ในท่ีสุดทานถูกจับอีกและถูกนําไปกรุงโรม ถาจริงอยางนี้ เราก็กําหนดไดวาวีรกรรมของทานเปาโลเกิดข้ึนในตอนท่ีถูกคุมขังคร้ังท่ีสองนี้ (ค.ศ.64-67)

ทานเปาโลเขียนจดหมายเหลาน้ีจริง ๆ หรือ

กอนท่ีเราจะสรุปความไดวาทานเปาโลไดเขียนจดหมายสามฉบับนี้ในตอนหลังจากเร่ืองในพระธรรมกิจการจบลง เราตองเผชิญกับคําถามซ่ึงเกิดข้ึนมา คือมีบางประการท่ีจดหมายเหลานี้ไมเหมือนจดหมายอ่ืน ๆ ท่ีทานเปาโลไดเขียนไว คือย้ําบอย ๆ ถึงเร่ือง “คําสอนอันเปนหลัก” (2 ทิโมธี 4:3)

151

Page 152: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

มีขอพระธรรมสิบกวาแหงท่ีพูดถึงความจําเปนตองมีความเช่ือถือและคําส่ังสอนท่ีถูกตอง จริงอยูทานเปาโลไดสอนและตอตานเพ่ือความจริง แตท่ีกลาวเปดเผยเนนในเร่ืองการสั่งสอนและความเช่ือถือท่ีถูกตองก็เปนของใหม

ในทํานองเดียวกัน จดหมายเหลานี้กลาวเร่ืองความจําเปนท่ีตองทํา “การดี” และคําส่ังนี้ก็มีสิบกวาคร้ังเหมือนกัน ทานเปาโลตักเตือนบอย ๆ เร่ืองความเสียหายทางศีลธรรมและการไมทํางาน แตท่ีจะใชคําวา “การดี” บอย ๆ อยางนี้ไมมีเหมือนในจดหมายอ่ืน ๆ ของทาน

ลักษณะอีกอยางหน่ึงคือขอความท่ีกลาวดวยความระมัดระวังถึงคุณลักษณะท่ีผูนคริสตจักรทองถ่ินตองมี ในการเขียนจดหมายถึงคริสตจักรตาง ๆ ทานพูดนอยถึงตัวเจาหนาท่ีและความสามารถของเขา นอกจากฟลิปป 1: 1 แลวทานพูดมากถึงศาสดาพยากรณ ครูอาจารย และผูทําการรักษาโรคโดยการทรงนําของพระวิญญาณ (1 โครินธ 12:28; เอเฟซัส 4:11) แตในท่ีนี้เราอานถึงเร่ืองเจาหนาท่ีทองถ่ินและคุณสมบัติของเขาอยางตรงทีเดียว (1 ทิโมธี 3:1-13; 5: 17; ทิตัส 1:5-9)

อีกประการหนึ่งคําภาษากรีกและลีลาของการเขียนจดหมายถึงศิษยาภิบาลแตกตาง มากทีเดียวกับท่ีเราพบในจดหมายอ่ืน ๆ ท่ีทานเปาโลเขียนถึงคริสตจักร ทานเปาโลเขียนแตกตางกันอยางนี้ไดหรือคนเราเม่ือแกลงจะเปล่ียนตัวหนังสือและสีลาของการเขียนไดมากมายนี้หรือ

ความยุงยากอยางนี้อาจทดลองใหเราตัดสินวาทานเปาโลไมไดมีอะไรเก่ียวกับการเขียนจดหมายถึงศิษยาภิบาลเหลานี้เลย แตขอความสวนตัวอันเกี่ยวกับงานเผยแพรของทานรและรายละเอียดเร่ืองการเดินทางและพวกเพ่ือน ๆ ของทานมิใชนิยาย เหลานี้มาจากทานเปาโล ทานเองพูดอยูในจดหมายเหลานี้

ฉะนั้นไมส่ิงใดก็ส่ิงหนึ่งไดเกิดข้ึนคือ ชะรอยมาตอนปลายชีวิตของทาน ทานเปาโลเจตนาจะเนนเร่ืองการสอนอยางถูกตอง ย้ําอยางแข็งแรงเร่ืองการดี และสนใจมากข้ึนในเร่ืองอันเกี่ยวกับตัวผูนําคริสตจักรทองถ่ินก็ได แตทานไมไดบอกเปนคําบอกไปเสียทุกคํา ทานยอมใหผูชวยของทานหรือเลขานุการเอาความคิดของทานไปเขียนเรียบเรียงข้ึนก็ได หรืออาจเปนอยางนี้ไดทานเปาโลเขียนจดหมายน้ีส้ัน ๆ แตสหายหรือคนท่ีชอบทานขยายความจดหมายน้ีเสียใหมเปนรูปจดหมายปจจุบันก็ได ท่ีขยายความในภายหลังนั้นก็เปนเร่ืองท่ีอนุโลมตามคําสอนท่ีทานเปาโลไดเขียนไว และตามสถานการณท่ีเกิดข้ึนหลังจากส้ินชีวิตแลว แตจะอยางไรก็ตามจดหมายเหลานี้ก็มีเนื้อหาทางขาวประเสริฐเปนของทานเปาโล และเปนจดหมายท่ีแสดงพยานสวนตัวของทานถึงความจริงแหงขาวของคริสเตียน

152

Page 153: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

ใหคริสตจักรยืนมั่น

ในจดหมายถึงศิษยาภิบาลเหลานี้เราเห็นวาคริสตจักรเร่ิมมีรูปการข้ึนแลว ตอนแรกเมื่อสาวกท้ังหมดเปนพวกยิว เขาก็ดํารงชีวิตภายในกรอบลัทธิยูดาห เขาท้ังหลายนมัสการในพระวิหารหรือในธรรมศาลา และไมแสวงหาท่ีจะสรางองคการอะไรข้ึนใหม แตเม่ือคริสตจักรสวนใหญมีพวกตางชาติ จึงจําตองหาทางนมัสการและดํารงชีวิตอยูดวยกันเปนสวนพวกตนเองมากยิ่งข้ึน ทําใหเปนกลุมแยกกัน และจําเปนตองต้ังตัวใหม่ันคงอยูในจักรวรรดิจะไปอะลุมอลวยกับลัทธิศาสนาอื่นก็ไมไดแมวาเขาจะแสดงความมีใจดีตอมนุษยท่ัวไปก็ตาม และแมจะไดอธิษฐานเพื่อบรรดาผูปกครองและเจาเมืองท้ังหลายก็ดี (1 ทิโมธี 2: 1-4)

การนมัสการของคริสตจักรไดมีการพัฒนาข้ึนมา พระธรรมคัมภีรมีสวนสําคัญยิ่ง (2 ทิโมธี 3: 14-17) ดูเหมือนวามีการแตงเพลงนมัสการข้ึน 1 ทิโมธี 3:16 อาจเปนเพลงบทหนึ่ง อยางนอยพระธรรมขอนี้ก็แสดงใหเห็นวาคริสตจักรในสมัยนั้นกําลังกําหนดหลักเกณฑความเช่ืออันเปนศูนยกลางของตน คําวา “คํานี้เปนคําสัตยจริง” หรือ “คํากลาวนี้แนนอน”ปรากฏหาคร้ัง เหลานี้ช้ีถึงขอความของความเชื่อท่ีคริสเตียนกลาวซํ้ากันอยูบอย ๆ เปนท่ีรูจักกันท่ัว ๆ ไป (1 ทิโมธี 1:15; 3:1; 4:9; 2 ทิโมธี 2:11; ทิตัส 3:8)

เม่ือเรามีของดีเราก็อยากเก็บรักษาไว นี่เปนแนวความคิดของจดหมายถึงศิษยาภิบาล เม่ือในขาวประเสริฐและในชีวิตเตียนเรามีของขวัญใหญยิ่งท่ีสุดซ่ึงชีวิตจะใหได และเม่ือในพระคริสตเรามีศูนยกลางแหงชีวิตอยางถูกตอง ก็ขอใหเราเก็บรักษาไวเราควรจะคิดถึงส่ิงเหลานี้ใหถูกตอง เราควรจะประพฤติตนจงภักดีดีตอพระเยซูคริสต ใหเรากระทําใชชีวิตและผูนําของคริสตจักรมีคาและสัตยซ่ือยิ่งข้ึน “ซ่ึงเราฝากไวกับทานจงเฝารักษา” (1 ทิโมธี 6:20)

แนะการอาน เม่ือทานอานจดหมายเหลานี้ ใหสังเกตดูวาจดหมายพูดอยางไรในเร่ืองเหลานี้คือ (1) การเดินทางของทานเปาโล พวกเพื่อน ๆ และการงาน (1 ทิโมธี 1:3,12-16,20 ; 3:14,15 ; 2

ทิโมธี 1:3-6,8,11,12,15-18 ; 2:9 ; 4:6-21 ; ทิตัส 1:5 ;3:12-14) (2) กิตติคุณของทานเปาโล (1 ทิโมธี 1:15 ; 2:5-7 ; 3:16 ; 4:10 ; 6:13-19 ; 2 ทิโมธี 1:8-14 ;

2:8,11 ; 3:16, 17 ; ทิตัส 2:11-14 ; 3:3-8) (3) เจาหนาท่ีของคริสตจักร (1 ทิโมธี 3: 1-13;17; ทิตัส 1:5-9) ผูนําของคริสตจักรควรมีลักษณะนิสัยอยางไร เขาควรหลีกเล่ียงความผิดชนิดใดบาง เขาตอง

คอยระวังความเท็จอันใดบาง

153

Page 154: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

17บทที่ 18 จดหมายที่ถึงชนชาติฮีบร ู

การท่ีจะปรนนิบัติพระเจาในสมัยพันธสัญญาใหมนั้นตองลงทุนคนท่ีถูกนําไปในทางท่ีผิด ไดตัดศีรษะของยอหนผูใหรับบัพติศมา ไดตรึงพระเยซูท่ีกางเขน ไดเอาหินขวางสเทฟาโนตาย “ไดฆา ยากอบพ่ีชายของยอหนดวยดาบ” และตามตํานานโบราณไดสังหารทานเปโตรและทานเปาโลการท่ีจะถูกประณาม ถูกเฆ่ียน ถูกจําคุก และถูกขับไลออกจากธรรมศาลาและนครไมใชเปนเร่ืองหายากหรือผิดปกติ จริงอยูท่ีพันธสัญญาใหมมักมีถอยคํากองดวยเสียงโมทนาพระคุณและความปล้ืมปติ แตนี่ไมใชถอยคําของคนท่ีมีแตความสุขไมเคยพบความทุกข แตเปนถอยคําแสดงชัยชนะของความเช่ือเหนือความยากแคนและภัยอันตราย การท่ีจะจริงจังตอความเช่ือของคริสเตียนและตอการงานของคริสเตียนนั้นตองลงทุน

คริสเตียนทุกคนพรอมท่ีจะทนทุกขตอการกระทําอยางนี้อยูแลวหรือความจริงท่ียูดาหอายัดพระเยซูไวนั้นเตือนเราวาบางคนเร่ิมตนดวยการเปนสาวกของพระเยซูแตไมคงอยูอยางแเขมแข็งและสัตยซ่ือ ไมเปนการงายเลยท่ีจะยืนม่ันอยูและพูดข้ึนเพื่อพระคริสตเม่ือการกระทําเชนนั้นนําภัยอันตรายมาถึงตน ความกลาหาญและความจงรักภักดีของบางคนก็ออนเปยกและทรุดลงเม่ือถูกทอสอบ

ที่เราท้ังหลายประกาศตัวรับไวแลวน้ัน ใหเราถือไวใหมั่นคง”

จดหมายถึงชาติฮีบรูเปนจดหมายท่ีเขียนถึงคนกลุมหนึ่งท่ีถูกทดลองใหท้ิงความเช่ือของเขา มิใชเพราะวาเขาเปนคนออนเปยก เขาท้ังหลายไดผานการทดสอบอยางทารุณมาคร้ังหนึ่งแลว เขาท้ังหลายถูกประณามและทรัพยสมบัติของเขาก็ถูกริบไป แตเขาท้ังหลายยังยืนม่ันอยูมิใชวาเขาซ่ือตรงตอความเช่ือของเขาเม่ือเขาถูกโจมตี มีบางคนท่ีอาจหลีกเล่ียงการขมเหงได แตเขากลับแสดงความเห็นใจและใหความชวยเหลืออยางกลาหาญตอเพื่อนคริสเตียนท่ีถูกขมเหง (ฮีบรู 10: 32-34) การท่ีถูกทดสอบอยูเสมอก็เปนเร่ืองท่ีเครงเครียด เขาท้ังหลายยังไมท้ิงความเช่ือของเขา แตความกลาหาญของเขาชักซวนเซ “มือท่ีหอยอยู” และ “หัวเขาท่ีเพลีย” ของเขา (ฮีบรู 12:12) แสดงวาจะทนทานตอไปขางหนาก็ยากแลว

จดหมายฉบับนี้ชักชวนเขาท้ังหลายใหยืนม่ันอยู ผูเขียนอาจเปนสมาชิกคนหนึ่งหรืออยางนอยก็เปนเพื่อนกลุมคนท่ีจดหมายมีไปถึง เขาคงอยูกับกลุมนี้มานานแลว แมวาเดี๋ยวนี้เขามิไดอยูดวยแลว เขาก็หวังวาจะไปพบกับคนเหลานี้อีก (ฮีบรู 13: 19, 23) แตส่ิงท่ีทานจะพูดเปนเร่ืองท่ีเขาท้ังหลายตองไดยินทันที เพราะฉะน้ันเขาจึงเขียน “คําเตือนสติ” นี้ (ฮีบรู 13:22) และสงไปใหเขาท้ังหลายเพ่ือจะไดอานใหท่ีประชุมฟง เม่ือนมัสการพระเจาและหนุนใจซ่ึงกันและกัน

154

Page 155: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

นี่เปนจดหมายหรือ

นี่เปนจดหมายแท ๆ หรือ ไมข้ึนตนเหมือนจดหมาย แทนที่จะเปนอยางนั้นก็ข้ึนตนดวยขอความหลักเกณฑสําคัญทางฝายคริสตศาสนาอันตรึงใจและมีระเบียบรัดกุม แตพอตอนจบเราก็เห็นเปนถอยคําแบบจดหมาย มีคําคํานับ และมีขาวนิดหนอย

ท่ีเปนอยางนี้ก็เพราะผูเขียนทราบอยูแลววา เขาท้ังหลายจะอานจดหมายน้ีใหท่ีประชุมพวกคริสเตียนฟง จดหมายน้ีจึงเปนคําเทศนาหรือคําเสนอเหมือนดั่งวาผูเขียนไปยืนพูดอยูกับเขาท้ังหลายเอง ฉะนั้นเขาจึงเร่ิมดวยเสนอความจริงตามขาวปรเสริฐซ่ึงเขาถือเปนมูลฐานคําเสนอของเขา แตในเม่ือเขาเขียนจดหมายน้ีจากระยะท่ีอยูหางไกลกันผลก็เปนเหมือนจดหมาย เขาก็จบลงดวยคําคํานับ และมีขอขาวอยางเดียวกับท่ีมีในจดหมาย

ความเชื่อท่ีสําคัญมากจนยอมท้ิงไมได

คําเสนอของทานมีท้ังคําแนะนําและคําตักเตือน ขาวประเสริฐของคริสเตียนนั้นเปนขาวจริงเร่ืองความรอดอันสุดทายและสมบูรณ ผูอานจะท้ิงเสียไมไดนอกจากจะยอมขาดทุนอยางตวงหรือนับไมไดทีเดียว

แตกอน ๆ พระเจาตรัสกับมนุษยแลวในพันธสัญญาเดิมโดยทางศาสดาพยากรณ แตคราวนี้พระองคทรงสําแดงอยางเต็มขนาดท่ีสุดทางพระคริสตพระบุตรของพระองค ผูทรงเปนบุคคลศูนยกลางของประวัติศาสตร พระองคไดทรงไถมนุษยไวจากบาปของเขาท้ังหลายและทรงประทานความรอดอันไดผลแกเขาท้ังหลาย ฉะนี้แหละพระเจาทรงสนองความตองการของมนุษยแลวโดยพระบุตรองคเดียวนี้ ผูทรงอยูเหนือสรรพสัตวท่ีพระเจาไดทรงสรางมาและผูไดทรงกระทําส่ิงซ่ึงไมมีผูใดทําได (ฮีบรู 1: 1-4) ถาผูอานจะหันหลังใหพระบุตรและของประทานของพระองคท่ีทรงประทานแกมนุษย เขาก็จะเปนคนโงอยางแปลกใจทีเดียว

พระคริสตทรงเปนใหญยิ่งกวาทูตสวรรค

เพื่อแสดงวาไมมีส่ิงอ่ืนใดที่มีคาควรแกความเชื่อ ทานผูเขียนถึงเปรียบพระคริสตกับผูท่ีจะเปนคูแขงพระองคได ในพันธสัญญาใหมท้ังพวกยิวและพวกคริสเตียนไดเนนมากเร่ืองทูตสวรรค เปนเทวชีพท่ีพระเจาทรงสรางไวเพื่อเปนผูส่ือขาวของพระองค ฉะนั้นประการแรกผูเขียนจึงไดประกาศวาพระบุตรผูทรงรับสภาพเปนมนุษย ไดทรงทนตอความทุกขยากและการตอสูของมนุษยอยางมีชัยชนะนั้นทรงเปนผูยิ่งใหญกวาบรรดาทูตสวรรคท้ังหลาย พระองคทรงประทานความชวยเหลืออยางไดผลแกมนุษยมากมายกวา และทรงรับเกียรติจากพระเจาใหญยิ่งกวาบรรดาทูตสวรรคเหลานั้นไดรับ

155

Page 156: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

(ฮีบรู 1: 5-2:18) สําหรับเราคงรูสึกแปลกท่ีนับวาทูตสวรรคเปนคูแขงจริง ๆ กับพระคริสต แตก็เกิดเปนจริงอยางนั้น ความจริงมีวามนุษยบางคนคิดวา ชีวิตมนุษยและการตอสูซ่ึงพระเยซูทรงรับเอานั้นแสดงพระเยซูในระดับตํ่ากวาทูตสวรรค แตผูเขียนคนนี้มองดูชัยชนะของพระเยซูทางฝายจริยธรรม (ฮีบรู 2:18; 4: 15) และมองดูฤทธ์ิเดชของพระองคท่ีจะทรงชวยมนุษยใหเผชิญชีวิตจนคุมชีวิตไวได และทราบอยูแลววาไมมีทูตสวรรคองคใดของพระเจาท่ีจะเทียบกับตําแหนงสูงสงของพระคริสตได

จุดประสงคของจดหมายฉบับนี้เปนภาคปฏิบัติอยางจริงจังทีเดียวเปนจดหมายท่ีหาทางชวยผูอานใหยึดความเช่ือของเขาท้ังหลายไวใหม่ันฉะนั้นในคําช้ีแจงแตละข้ันผูเขียนไดแทรกคําเตือนดวยความรอนใจไววามนุษยเราจะดูเบาในของประทานอันยิ่งใหญของพระเจาเสียไมไดนอกจากจะยอมขาดทุนอยูเปนนิตยทีเดียว ณ ท่ีนี้ทานตักเตือนไมใหปลอยมือไปจาก “ความรอดยิ่งใหญนี้” มนุษยจะสูญเสียส่ิงท่ีดีท่ีสุดซ่ึงชีวิตจะใหไดถาเขาหันไปจากชีวิตนั้น หรือเพิกเฉยตอชีวิตและปลอยใหชีวิตเคล่ือนไปอยางเงียบ ๆ จนไปสูความพินาศ คําเตือนประการแรกน้ีก็เตือนเร่ืองการสูญเสียอยางเลินเลอตอส่ิงท่ีดีท่ีสุดนี้เอง (ฮีบรู 2:1-4)

พระคริสตยิ่งใหญกวาโมเสสและโยชูวา

เม่ือเปรียบพระเยซูกับโมเสสและโยชูวาวาตางกันอยางไร โมเสสพาชนชาติอิสราเอลออกจากอียิปต และพระเจาทรงประทานธรรมบัญญติแกทานเพ่ือใหเขาท้ังหลาย ตอมาโยชูวาพาชนชาตินี้เขาไปในแผนดินท่ีทรงสัญญาไว ท่ีนั่นชนชาตินี้จะรวมกันเขาเปนประชาชาติหนึ่ง และมีชีวิตทางศาสนารวมกัน แตผูนําผูใหญยิ่งท่ีสุดคือพระคริสต พระองคคือพระบุตรของพระเจาใหญยิ่งกวาโมเสสและ

โยชูวา มิใชแตในเร่ืองคาตัวในสมรรถภาพท่ีจะทรงประทานบานพักฝายวิญญาณจิตและสถานท่ีพักอันเปนความสุขแกคนอ่ืน ๆ ท่ีติดตามพระองค พระองคทรงนําชนชาติของพระองคออกจากการวนเวียนในถ่ินทุรกันดารแหงการทดสอบในโลกนี้เขาไปสูชีวิตท่ีติดสนิททีเดียวกับพระเจา (ฮีบรู 3: 1 ถึง 4:13)

ฉะนั้นคําตักเตือนมีดังนี้ พึงระวังการไมเช่ือถือและดื้อดึง (ฮีบรู 3: 7 ถึง 4:13) จงวางความเช่ือท้ังส้ินไวในพระคริสตและสัตยซ่ือตอพระองคไมวาจะเกิดเร่ืองอันใดข้ึน ในคําตักเตือนนี้ คําวา “วันนี้” มีอยูหลายคร้ัง คราวนี้เปนเวลาที่ตองเชื่อถือและแนใจวาท่ีพักนี้ คือบานพักกับพระเจานั้นจะเปนของเราอยูเสมอไป จิตใจท่ีดานนั้นจะนําชีวิตไปสูความพินาศ จงฟงและสัตยซ่ือตอพระเจาในบัดนี้ คือวันนี้

พระคริสตคืออัครมหาปุโรหิต

บุคคลสําคัญอีกผูหนึ่งในศาสนายูดาหในสมัยพันธสัญญาใหมก็คือมหาปุโรหิต หนาท่ีของทานก็คือจัดใหมีสัตวบูชาในพระวิหารตามท่ีกําหนดไวในพระธรรมเลวีนิติในภาคพันธสัญญาเดิม เปรียบ

156

Page 157: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

พระคริสตเขากับมหาปุโรหิตของพวกยิวตางกันอยางไร (ฮีบรู 4:14 ถึง 7:28) ตอนน้ีความสนใจยิ่งใหญของผูเขียนในเรื่องระบบปุโรหิตตามพระธรรมเลวีนีติก็เร่ิมแสดงออกมา และความสนใจน้ีเปนโครงของจดหมายในสวนตอไปในพวกปุโรหิตมหาปุโรหิตเปนบุคคลสําคัญท่ีสุด เขากระทําภารกิจพิเศษในวันไถ ตามธรรมบัญญัติมีเวรบุโรหิตคนหนึ่งเขาไปในหองวิสุทธิสถานของพลับพลาทุกวันเพื่อดูแลดวงประทีปและถวายเคร่ืองสักการบูชาประจําวัน แตในปหนึ่ง มีวันหนึ่ง คือวันไถบาป มหาปุโรหิตคนเดยีวเขาไปในอภิสุทธิสถานแตลําพัง (เลวีนิติ บท 16) ในเม่ือทานเปนคนบาปไมบริสุทธ์ิหมดจดทานจึงเขาไปสองคร้ัง คร้ังแรกทานนําเอาเลือดสัตวบูชาเพ่ือลบบาปของทานเองเขาไปถวาย แลวทานก็เปนคนเหมาะสมท่ีกลับเขาไปอีกหนหนึ่งเพื่อถวายเลือดสัตวบูชาไถบาปของชนชาติอิสราเอล การกระทําอยางนี้เปนภารกิจสูงสุดของระบบปุโรหิต

แตพระคริสตใหญยิ่งกวามหาปุโรหิต พระองคทรงปราศจากบาป (ฮีบรู 4: 15) ฉะนั้นจึงไมตองถวายสักการบูชาเพื่อลบบาปของพระองคเองกอนท่ีพระองคทรงกระทําภารกิจเพื่อคนอ่ืน ๆ ท่ีจริงพระองคทรงดํารงชีวิตแหงการตอสูภายใน “ขณะเม่ือพระองคดํารงอยูในเน้ือหนัง” พระองคทรงเผชิญและประสบมรณภาพเพ่ือจะสัตยซ่ือตอพระราชกิจของพระองค แตพระองคทรงชนะในการทดสอบ พระองคจึงทรงรวมทุกขรวมสุขกับการทดสอบของมนุษยได” และพระองคก็ทรงเหมาะสมท่ีจะกระทํากิจเพื่อความรอดของเขาท้ังหลาย (ฮีบรู 2:18; 4: 15)

ดวยวิธีการท่ีแปลกผูเขียนไดเปรียบเทียบพระเยซูพระบุตรกับมัลคีเซเด็ข กษัตริยโบราณแหงนครชาเลม เร่ืองปรากฏในปฐมกาล 14:18-20 พันธสัญญาเดิมมิไดกลาวถึง พระชนก ชนนี วันประสูติและวันสวรรคตของมัลคีเซเด็ข ดังนั้นผูแตงจดหมายฉบับนี้จึงตีความวาเร่ืองท่ีไมกลาวถึงนั้นเปนดั่งสัญลักษณแหงการดํารงชีพนิรันดรของพระบุตร เร่ืองนี้ทานเอาเคล็ดมาจาก สดุดี 110:4 กลาวโดยเจาะจงยิ่งข้ึน ขณะน้ีพระบุตรเสด็จเขาไปในสถานนมัสการในสรรค พระองคจึงทรงอยูกับพระเจาเปนนิตยและไมตองมีใครมาแทนพระองคทุกช่ัวชาติพันธุ เชนเดียวกับมหาปุโรหิตแหงอิสราเอลผูท่ีตองตายนั้น พระองคทรงเปนมหาปุโรหิตท่ีสมบูรณแบบทุกอยาง และแสวงหาของประทานจากพระเจาอยูเสมอเพื่อใหเปนพระพรแกสาวกของพระองค

ฉะนั้นคําตักเตือนมีดังนี้ อยาเปนคนเง่ืองหงอยและใจเฉยเมย พึงเติบโตข้ึนเปนผูใหญฝายวิญญาณจิตและซ่ือสัตยจนถึงสุดทาย ผูเขียนมองไมเห็นความหวังสําหรับคนท่ีไดรูถึงความสุขแหงชีวิตคริสเตียนและยังหันหลังใหแกพระคริสต ฉะนั้นเขาจึงตักเตือนผูอานของเขาใหยืนม่ันอยูเม่ือถูกทดสอบและใหกระทําการดีเร่ือยไป (ฮีบรู 5: 11 ถึง 6:12)

157

Page 158: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

พระคริสตทรงเปนเครื่องสักการบูชาท่ีครบถวนเพ่ือลบบาป

มิใชวาพระคริสตจะทรงคุณคากวามหาปุโรหิตคนบาปแหงชนชาติอิสราเอลเทานั้น แตเคร่ืองสักการบูชาท่ีพระองคทรงถวายนั้นก็เปนสักการบูชาท่ีไดผลยิ่งกวา (ฮีบรู บท 8 ถึง 10) ท่ีจริงพระองคทรงถวายเครื่องสักการบูชาท่ีไดผลจริง ๆ ส่ิงเดียวเทานั้น เลือดของสัตวจะนําเอาบาปของมนุษยไปเสียไมได (ฮีบรู 10: 4) แตเม่ือพระบุตรของพระเจาผูปราศจากบาปทรงถวายพระองคเองเพื่อมนุษย จึงเปนเคร่ืองสักการบูชาท่ีสมบูรณแบบและพระเจาทรงรับได พลับพลาซ่ึงพระองคทรงเขาไปถวายสักการบูชานั้นเปนพลับพลาแทในสวรรค (ฮีบรู 9:24) พระองคทรงนําพระโลหิตของพระองคซ่ึงไหลออกเม่ือพระองคทรงมรณาท่ีกางเขนนั้น และถวายสักการบูชาพระโลหิตนั้นในสวรรคสถาน เชนเดียวกับท่ีมหาปุโรหิตเอาเลือดจากแทนบูชาในลานพลับพลาและนําไปถวายในอภิสุทธิสถานนั้น

ผูเขียนต้ังใจจะพูดวากระไรเม่ือเขาเปรียบเทียบมรณภาพของพระคริสตกับเครื่องสักการบูชาท่ีปุโรหิตถวาย เขาตั้งใจจะวาดังนี้ พระคริสตทรงพอพระทัยถวายพระชนมชีพของพระองคเพื่อชวยคนบาป พระเจาทรงประกอบกิจทางพระบุตรของพระองคเพื่อชวยคนบาป พระเจาทรงประกอบกิจทางพระบุตรของพระองคเพื่อทรงชวยมนุษยท้ังปวง การกระทําเชนนี้ไดผลอยางเต็มขนาดและเปดทางไปสูพระเจา บรรดาผูท่ีวางใจในพระคริสตก็ไดรับการอภัยโทษบาป และพระคริสตทรงเปนผูแทนเขาท้ังหลายอยูเร่ือยไป หรือเปนมหาปุโรหิตตอพระพักตรพระเจานั่นเอง (ฮีบรู 9: 24) ฉะนี้แหละระบบปุโรหิตในโลกน้ีก็หมดสมัยแลว เพียงสัญลักษณการสักการบูชาอันไดผลดีของพระคริสตและพระราชภารกิจถาวรของพระองคท่ีมีตอเราท้ังหลาย

คําตักเตือนอีกประการหนึ่งจึงมีวา หลังจากท่ีไดรับความรูเร่ืองความจริงนี้แลวและยังทําความบาปดวยความเต็มใจอยู ยอมทิ้งความเช่ือในพระคริสตผูไดทรงกระทําและยังทรงกระทําอยูทุกอยางเพื่อใหมนุษยรอดพนและไดรับความสุข ทําดั่งกลาวนี้มิใชวาเปนความโงเขลาอยางรายแรงท่ีสุดเทานั้น แตยังเปนทางอันแนนอนท่ีนําไปสูการพิพากษาและวิบัติขอคริสเตียนพึงระวังใหดีเกรงวาจะเขาหลงผิดไปและตองทนทุกขอยูในการพิพากษาตัดสินไปสูความพินาศนั้น (ฮีบรู 10: 26-31)

ฉะนั้นความเช่ือฝายคริสเตียนเปนความเช่ือท่ีแทจริงตออันเดียวเปนทางอันไดผลไปสูพระเจาและไปสูชีวิตนิรันดรทางเดียว ไมใชทูตสววรคไมใชโมเสส ไมใชโยชูวาห ไมใชบรรดามหาปุโรหิตหรือสัตวบูชาท่ีเขาท้ังหลายถวายน้ันแตพระคริสตคือพระคริสตเทานั้นท่ีทรงเปนแหลงของความอุปถัมภและความหวังอยางเพียงพอ ผูอานไดยืนม่ันอยูในอดีตเม่ือเขาถูกขมเหงนั้นถูกตองแลว บัดนี้เขาควรยืนม่ันตอไป (ฮีบรู 10: 32-39)

158

Page 159: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

ความเชื่อรวมความซื่อสตัยเขาไวดวยกัน

เพื่อชวยผูอานใหยึดความเช่ือม่ันไวใหม่ัน ผูเขียนจึงบรรยายเร่ืองความเช่ือและยกตัวอยางสําคัญ ๆ ในพระคัมภีรอันเกี่ยวกับความเช่ือของชนอิสราเอลบางคน ความเช่ือท่ีแทยอมรวมความอดทนนานเขาไวดวยและความอดทนนานน้ีเองเปนส่ิงท่ีผูอานจะตองแสดงออกในคราวนี้ (ฮีบรู บท 11,12) เหมือนวีรชนผูมีความเช่ือเหลานั้น “ใหเราทิ้งของหนักทุกส่ิงท่ีขัดขวางอยู และการผิดท่ีเรามักงายกระทํานั้น และการวิ่งแขงขันท่ีกําหนดไวสําหรับเรานั้น ใหเราวิ่งดวยความเพียงพยายาม หมายเอาพระเยซูเปนผูนํา และเปนผูสงเสริมความเช่ือของเราใหสําเร็จ เพราะเห็นแกความปรีดียท่ีมีอยูตอหนานั้น พระองคไดทรงทนตอกางเขนไมใยดีตอความละอาย และไดเสด็จประทับเบ้ืองขวาพระที่นั่งของพระเจาแลว” (ฮีบรู 12: 1, 2)

เม่ือไดเสนออยางนี้ก็พวงคําตักเตือนดวยความรอนใจเขามาอีกขอหนึ่ง พระเจาทรงล่ันวาจาแลวพระองคไดทรงกระทําทางพระคริสตพระเจาผูทรงประทานของประทานท่ีตองการทุกอยางในพระคริสตนั้น ทรงเปนพระเจาผูทรงพิพากษาลงโทษบรรดาผูท่ีดูเบาตอของประทานเหลานั้นดวยคริสเตียนตองไมรังเกียจและเข่ียสิทธิพิเศษอันหาคามิไดนี้ไปเสีย เพราะทําเชนนั้นก็หมายวาความพินาศมาถึงตนเอง (ฮีบรู 12: 18-29)

ในพันธสัญญาใหมความเชื่อสัมพันธกับชีวิตเสมอ ฉะนั้นผูเขียนจึงเนนถึงพระราชกิจของพระคริสตอันไดผลและไมซํ้าแบบใครเพ่ือจะชักชวนบรรดาผูอานใหยึดความเช่ือของเขาไวใหม่ัน และใหตรงตอความเช่ือนั้นในชีวิตประจําวันดวย ทานไดย้ําเร่ืองหนาท่ีของคริสเตียนดั่งตอไปน้ี การตอนรับแขกแปลกหนา ความหวังดีฉันพี่นอง ความเห็นอกเห็นไดคนท่ีตกทุกขไดยาก ชีวิตท่ีสะอาด ใหพนจากความโลภ นับถือบรรดาผูนําท่ีดี ๆ อธิษฐานจงรักภักดีตอหมูคณะ และเหนือส่ิงใดหมด จงรักภักดีตอพระคริสต (ฮีบรู 13: 1-19) เขาจบจดหมายของเขาดวยถอยคําฉันมิตรและคําอธิษฐาน ซ่ึงแสดงวาเขาเช่ือแนวาบรรดาผูอานจะเช่ือส่ิงท่ีเขาไดพูดไปแลวนั้น (ฮีบรู 13:20-25)

ผูแตงและบรรดาผูอาน

ใครเขียนจดหมายฉบับนี้ ไมไดกลาวหรือวาเปาโลเปนคนเขียน เปลาไมไดกลาว แมพระคัมภีรฉบับภาษาอังกฤษบางฉบับจะมีช่ือทานเปาโลที่หัวเร่ือง หัวเร่ืองนั้นไดเพิ่มข้ึนหลังท่ีเขียนจดหมายน้ีแลวนานทีเดียว นักเขียนคริสเตียนในสมัยโบราณไมไดบอกหรือวาทานเปาโลเขียนไมไดบอก คริสเตียนในสมัยโบราณก็ไมแนใจวาใครเขียน บางก็วาทานเปาโลเปนคนเขียน ผูนําคนหนึ่งวาบารนาบาเขียน สวนคนอ่ืนก็ไดไมมีความคิดวาใครเปนผูเขียนจดหมายฉบับนี้

159

Page 160: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

ถอยคําและลีลาของการเขียนเปนของทานเปาโลใชไหม ไมใชภาษากรีกท่ีเขาเขียนไมเปนอยางเดียวกับภาษากรีกท่ีมีในจดหมายของทานเปาโลแนนอนทีเดียว ทาทีของการคิดเหมือนของทานเปาโลไหม ไมเหมือนระบบปุโรหิตในพันธสัญญาเดิมเปนเร่ืองท่ีเขียนพระธรรมฮีบรูสนใจทานเปาโลเพงเล็งเอาเร่ืองระบบบทบัญญัติและแนวความเช่ือท่ีทานพบในพันธสัญญาเดิมนั้น

ไมมีใครบอกไดวาใครเขียนพระธรรมฮีบรู ไมใชทานเปาโลความคิดท่ีวาบารนาบาเปนคนเขียนก็ไมมีอะไรมายืนยัน ทฤษฎีท่ีทานลูเถอรชอบ ซ่ึงวาอเปาโลเปนคนเขียนนั้นเปนการคาดคะเนเทานั้นเอง แนวคิดอ่ืน ๆ วาซีลา หรือลูกา หรือพริซคิลลา และอะคูลา เขียนจดหมายนี้ขาดหลักฐานท่ีดีท่ีจะคํ้าประกันความคิดเหลานี้ เปนบทความท่ีสําคัญมีคติเขียนข้ึนโดยผูนําคริสเตียนซ่ึงมีสมรรถภาพและไดรับการทรงดลใจ เขาจะช่ืออะไรเราคาดคิดไมไดและไมจําเปนท่ีเราจะตองทราบ

เขาเขียนท่ีไหน และบรรดาผูอานผูอานเขาอยูท่ีไหน ไมกระจางแจงเลย ฮีบรู 13: 24 จะหมายวาเขาพูดกับคริสตจักรแหงหนึ่งในอิตาลีก็ไดและตัวคนเขียนก็อยูท่ีอ่ืน และมีคนอ่ืนจากอิตาลีอยูกับเขา และสงคําคํานับกลับไปบานถาอยางนี้ถูกบรรดาผูอานอาจอยูในกรุงโรมก็ได

ปท่ีเขียนก็ไมแน นีโรเปนจักรพรรดิอยูในระหวาง ค.ศ. 54-68 ไดขมเหงพวกคริสเตียนในกรุงโรมในปสุดทายแหงรัชกาลของพระองค และก็ปรากฏวา จักรพรรดิโดมิเชียน (ค.ศ. 81-96) ก็ไดขมเหงพวกคริสเตียนเหมือนกัน ชะรอยพวกคริสเตียนในประเทศอิตาลีจะถูกขมเหงในคราวอ่ืนดวย จดหมายฉบับนี้เขียนภายหลังเม่ือผูอานไดผานยุคแหงความทุกขยากมาคร้ังหนึ่งแลวใน “คราวกอนนั้น”

(ฮีบรู 10:32) คําวา “คราวกอนนั้น” จะเปน ค.ศ. 64 ก็ได เม่ือนีโรไดกลาวโทษพวกคริสเตียนโดยมุงรายวาพวกคริสเตียนเอาไปเผากรุงโรม ถาเปนจริงจดหมายฉบับนี้ จะเขียนกอน ค.ศ. 65 ไมได ดูทาจะเขียนภาพหลังแนชะรอยจะเปนราว ค.ศ. 95 ในรัชกาลของจักรพรรดิโรมิเชียน

ดูเหมือนจดหมายน้ีสงถึงพวกยิวซ่ึงเปนคริสเตียน และผูเขียนตองการใหผูอานซ่ือตรงตอความเช่ือคริสเตียนจึงไดเปรียบเทียบความเช่ือนี้การใหผูอานซ่ือตรงตอความเช่ือคริสเตียน จึงไดเปรียบเทียบความเช่ือนี้ กับความเช่ือแบบอ่ืนซ่ึงอาจไดมาจากพันธสัญญาเดิมเทานั้น มีวาพระคริสตทรงเปนใหญยิ่งกวาบรรดาทูตสรรคท่ีพระคัมภีรกลาวถึง ใหญยิ่งกวาโมเสสและโยชูวาหผูนําของพวกฮีบรู ใหญยิ่งกวามหาปุโรหิตแหงพลับพลาของชนอิสราเอล และยิ่งกวาสัตวบูชาซ่ึงบทบัญญัติของโมเสสไดกําหนดไวผูเขียนมีทางท่ีโตวาพระคริสตทรงเปนใหญยิ่งกวาปรัชญาเมธีและศาสนาของชนตางชาติ แตเขาก็มิไดกระทําเชนนั้น คนกลุมเดียวที่คําโตแยงของทานจะเอาชนะจิตใจไดก็เปนพวกยิวซ่ึงเปนคริสเตียนแลว แตในขณะน้ันเพราะเหน็ดเหน่ือยท่ีตองถูกทดสอบเพ่ือพระคริสต เขาท้ังหลายจะอิดหนาระอาใจและกลับไปหาลัทธิยิวตามเดิม ดูเหมือนวาจดหมายน้ีไปถึงพวกยิวคริสเตียนในประเทศอิตาลี ชะรอยจะเปนพวกท่ีอยูในกรุงโรม

160

Page 161: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

“เหตุฉะนั้นเราท้ังหลายจงมีใจกลาเขามา”

คริสเตียนทราบอยูแลววาพระเจาทรงสนองความตองการของเขาโดยพระคริสต เขาจึงไมสมควรท่ีจะทอดท้ิงหรือยอมสละสิทธ์ิพิเศษของเขาเสีย พระคริสตทรงเปนผูประทานส่ิงท่ีจําเปนแกมนุษย ไมมีใครอีกท่ีกระทําอยางนี้ได เหตุฉะนั้น “เราท้ังหลายจงมีใจกลาเขามาถึงพระท่ีนั่งแหงพระคุณ” ใหเราแหงนข้ึนหาพระองคดวยความแนใจวา “พระองคทรงพระชนมอยูเปนนิตยเพื่อจะไดชวยทูลขอใหคนเหลานั้น” ผูซ่ึงพระองคไดทรงไถไวแลวและบัดนี้หนุนใจเขาท้ังหลาย ขณะท่ีเขากําลังผานยุคแหงความทุกขยาก (ฮีบรู 4:16; 7:25)

ระบบปุโรหิตดั้งเดิมนั้กําลังจางหายไปแลว พระคริสตมิไดเสด็จมาเพื่อจะสถาปนาระบบปุโรหิตข้ึนใหมซ่ึง ถาปราศจากระบบนั้นเราจะเขาถึงพระองคไมได พระองคยังทรงเปนมหาปุโรหิตของเราอยูและเราทุกคนเขาถึงพระองคไดดวยความเชื่อและการอธิษฐานคริสตจักรท่ีนมัสการและคริสเตียนท่ีอธิษฐานตางก็ทูลกับพระองคโดยตรง ทุก ๆ วันมีทางตรงสําหรับทุกคนท่ีติดตามพระองคท่ีจะพาเขาไปถึงพระเจาโดยทางพระบุตร บุคคลสําคัญท่ีสุดแหงความเช่ือและความหวังของคริสเตียนก็คือ “พระเยซูคริสตทรงเปนอยูอยางเดียวกันในเวลาวานนี้และเวลาวันนี้ และสืบไปเปนนิจกาล (ฮีบรู 13:8)

แนะการอาน ในเมื่อจุดประสงคภาคปฏิบัติของผูเขียนก็แจมแจงท่ีสุดอยูแลวในบรรดาคําตักเตือนท่ีเขาใหไวจึงขอใหสนใจใน ฮีบรู 2: 1-4; 3:7 ถึง 4: 13; 5: 11 ถึง 6:12; 10:26-31 ; 18-29

ขอพระธรรมท่ียิ่งใหญ คือพระราชกิจของพระเจาทางพระบุตรของพระองค (ฮีบรู 1: 1-4) “ตกแตงใหเหมือนท่ีนองทุกอยาง” แตยังเปนผูพิชิตและ “สามารถสงเคราะห ...ได” (ฮีบรู 2:17, 18; 4:14-16) บทลือช่ือในเร่ืองความเช่ือ (ฮีบรู บท 11) คําอวยพรอันสําคัญยิ่งใหญ (ฮีบรู 13:20, 21)

161

Page 162: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

18บทที่ 19 จดหมายของยากอบ

พระคริสตธรรมคัมภีรภาคพันธสัญญาใหมมีเร่ืองทางภาคปฏิบัติอันดึงดันดวย คริสเตียนมักจะถูกทดลองใหแสรงทําเปนคนดีเกินกวาท่ีตนเปนจริง เพื่อความเขมแข็งม่ันคงของคริสตจักรควรจะถอดหันหนากากการแสรงกระทําเชนนี้ท้ิงไปเสีย จดหมายยากอบชวยในเร่ืองนี้เสมอ

จดหมายน้ีไมบอกเร่ืองขาวประเสริฐสมบูรณของคริสเตียน และเพราะเหตุนี้เองคริสเตียนบางคนจึงไมชอบจดหมายฉบับนี้ตัวอยางทานมาตินลูเถอร ผูนํายิ่งใหญของการปฏิรูปลัทธิโปรเตสแตนท เห็นวาจดหมายนี้ไมบอกแจมแจงวามนุษยเรารอดไดโดยพระคุณของพระเจาอยางไร ทานจึงตีราคาต่ํากวาบรรดาจดหมายของทานเปาโลมาก และเรียกจดหมายน้ีวา “จดหมายฟางขาว” (ไมมีเนื้อหาท่ีสําคัญ)

แตจดหมายนี้ก็มีตําแหนงมีเกียรติอยูเพราะเปนจดหมายท่ีปฏิเสธไมยอมตรึงใจในการเสรงทําเปนคนเครงครัด ในเม่ือความประพฤตินั้นตรงกันขาม จดหมายนี้เรียกรองใหเช่ือฟงพระเจาอยางซ่ือสัตยในการประกอบกิจประจําวัน คําสอนภาคปฏิบัติอยางมิไดขาด ในพระธรรมภาคพันธสัญญาใหมเลมอ่ืน ๆ แตวาพระธรรมเลมนี้กลาวไวแจมแจงกวาเลมอ่ืน ๆ

บทเรียนภาคปฏิบัติในการดําเนินชีวิตคริสเตียน

ผูเขียนใดมีเจตนาเจาะจงถึงคริสตจักรทองถ่ินใดโดยเฉพาะ ส่ิงท่ีทานพูดไมเกี่ยวถึงลักษณะประจําทองถ่ินใดทองถ่ินหนึ่ง จึงแสดงวาทานเพงเล็งเอาความคิดอันมีอยูในคริสตจักรท่ัว ๆ ไป และทานก็มิไดดําเนินเร่ืองตามโครงท่ีถูกตองตามหลักตรรกวิทยา แตทานทราบถึงหลุมท่ีคริสเตียนจะตกลงไปและตักเตือนคริสเตียนใหหลีกพนส่ิงนั้น

ทานเร่ิมดวยถอยคําตรงไปตรงมาในเร่ืองความยากลําบากและการทดสอบในชีวิต ส่ิงท้ังสองนี้อาจเกิดเปนพระพรได (ยากอบ 1: 2-15) ไมชาไมนานเวลายุงยากอยางนี้จะมาถึงทุกคน ผูท่ีจะดํารงชีวิตเปนปกติดีนั้นตองเผชิญส่ิงท้ังสองดวยความเชื่อ และส่ิงท้ังสองน้ีอาจยังผลเปนความปล้ืมปติไดถายอมรับส่ิงท่ีท้ังสองน้ีอยางถูกตอง พรอมกับมีความเช่ือในพระเจาท้ังมีสติปญญาซ่ึงพระองคทรงประทานแกผูท่ีทูลขอตอพระองคแลว ส่ิงท้ังสองน้ีกระทํา ใหอัตลักษณเขมแข็งข้ึน การมัวตําหนิพระเจา ผูทรงประทานส่ิงท่ีเทานั้นและทรงแสวงหาส่ิงดีใหมนุษยเสมอ ตนเองก็กระทําบาปและพลาดจากความหมายของการทดสอบชีวิต

คนท่ีดํารงชีวิตอยางเขมแข็งนั้นตองมีเวลาอธิษฐานมาก ผูใดท่ีตองการมีสติปญญาถาเขาขอจากพระเจาดวยความไววาใจก็จะได (ยากอบ 1: 5-7) ผูใดท่ีจะเขามาหาพระเจาดวยความถอมใจ พระองคทรงสัญญาวาจะทรงอุปถัมภ (ยากอบ 4:7-10) คริสเตียนควรจะสรางแผนแหงชีวิตขอตนตามน้ําพระทัย

162

Page 163: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

ของพระเจา (ยากอบ 4:15) เขาควรอธิษฐานไมวาในสถานการณใด ๆ ไมวาโศกเศราหรือยินดี และอธิษฐานเผ่ือคนอ่ืน ๆ เทา ๆ กับเพื่อตนเองดวย (ยากอบ 5:13-18)

เขาตองอดทน ถาลมเหลวในขอนี้จะนําไปสูความโกรธท่ีจูงไปหาบาปและนําไปสูถอยคําท่ีเปนอันตราย (ยากอบ 1: 19-21) การขาดความอดทนกระทําใหบังเกิดความรุนแรงระหวางกันและกัน

(ยากอบ 4:1-3) แสดงวาไมพอใจท่ีจะรับแผนงานของพระเจาและไมรอคอยใหพระเจาทรงกระทํากิจของพระองค (ยากอบ 5:7-11) ความจริงความหงุดหงิดเชนนี้สอใหเห็นวาขาดความเช่ือท่ีแทจริง

ฟงเขาอานพระคัมภีรหรือฟงคําเทศนาท่ีดียังไมเพียงพอ การฟงโดยปราศจากการทําตามก็ไรผล (ยากอบ 1: 22-27) จุดประสงคของการอานและการเทศนานั้นก็เพ่ือจะแนะนําการดําเนินชีวิต ผูใดมิไดกระทําตามส่ิงท่ีเขาไดยินมา เขาก็ลอลวงตนเอง นั่นเปนเร่ืองเศราเขาลอลวงคนอื่น ๆ อยางนั้นไมไดสนิทนัก และลอลวงพระเจาไมไดเลย

ชีวิตคริสเตียนไมมี “การเห็นแกหนาคน” หรือ “เลือกหนาคน” (ยากอบ 2:1-13) คําวา “เห็นแกหนาคน” เปนคําภาษากรีกหมายวาเลือกปฏิบัติตอบุคคลตามท่ีเห็นหนาตาของเขาและเห็นแกผลได ไมใชตามความเช่ือและอัตลักษณท่ีแท การเห็นแกหนาคนเปนบาปและทําใหคริสตจักรแตกแยก

ท่ีพูดวา “ขาพเจาเช่ือ” ไมเพียงพอเลย “ความเช่ือถาปราศจากการประพฤติตามก็ตายแลว” ถา คริสเตียนมีควมเช่ือ เปนความเช่ือแท ก็จะแสดงผลออกมาเปนการกระทํา (ยากอบ 2:14-26) นี่

เปนขอท่ีเนนอยางเดนชัดในจดหมายฉบับนี้ จดหมายนี้ไมไดดูแคลนความเช่ือ แตตองการใหเปนความเช่ือท่ีแทซ่ึงแสดงผลออกมาตามท่ีเขาเช่ือนั้น ความเช่ือท่ีแทนําไปสูการพรอมท่ีจะชวยและการสนใจสวนตัวในเร่ืองความสุขของผูอ่ืน (ยากอบ 1:27) การพรอมท่ีจะชวยเหลือนี้เปนงานนมัสการพระเจาแบบหนึ่ง เชนเดียวกับการอธิษฐานเหมือนกัน

ส้ินทําอันตรายไดมาก (ยากอบ 1: 19-21; 3:1-12) บรรดาครูตองระวังตัวใหดี เพราะจะตองรับผิดชอบส่ิงท่ีตนสอนคนอ่ืน คนอ่ืนท้ังหมดก็ตองระวังล้ินของตนดวย การใชล้ินอันเดียวกันนั้นพูดคําคาราวะและพูดส่ิงบาปหนาก็เปนการกระทําท่ีผิดธรรมชาติและเปนความผิด พระเจาทรงประสงคถอยคําท่ีสัตยซ่ือ นี่เปนขอท่ีคานกับการสาบาน (ยากอบ 5:12) จงบอกความจริงเสมอ เพื่อมนุษยจะไมตองใหทานสาบานเพ่ือจะรับประกันวาขอความ่ีทานพูดนั้นเปนความจริง

คริสเตียนจะไมปกใจของเขาในความเพลิดเพลินซ่ึงเรากระทําใหเขาตอสูกับคนอ่ืนอยางใจดํา (ยากอบ 4: 1-4) ความอิจฉา ความเกลียดชังความปรารถนาช่ัว และการตะเกียกตะกายหาความม่ังมีอันตรายกระทําใหมนุษยลืมความเช่ือและพระเจา โดยกระทําแกคนอ่ืนอยางอธรรมส่ิงเหลานี้เปน

163

Page 164: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

ความผิดท้ังนั้น การเสาะหาความม่ังค่ังและความฟุมเฟอยเปนศัตรูตัวเดนของการดํารงชีวิตท่ีคารวะ เท่ียงตรงและกรุณา (ยากอบ 4:2-13-17; 5:1-6)

จดหมายสากล

นี่ไมใชจดหมายท่ีบุรุษไปรษณียจะสงไปใหใครได เปนจดหมายแบบหน่ึงท่ีเรียกวา จดหมาย “สากล” มีอยูเจ็ดฉบับดวยกัน คือ ยากอบ 1 เปโตร 2 เปโตร 1 ยอหน 2 ยอหน 3 ยอหน และยูดาห คําวา “สากล” แสดงวาเขียนไปถึงคริสตจักรโดยทั่วไปคํา “สากล” นี้ก็เหมือนคําท่ีใชในหลักความเช่ือของอัครทูตกลาวโดยทั่วไปแลวช่ือนี้ คือ “จดหมายสากล”ก็เหมาะสําหรับจดหมายเหลานี้ แมวา 2 ยอหน และ 3 ยอหน จะอางถึงสภาพการณในทองถ่ินหนึ่ง ๆ โดยเฉพาะก็ตาม ท่ีเขารวมมาไวในกลุมนี้ดวยกันก็เพราะผูแตงเปนคนเดียวกับท่ีแตง 1 ยอหน

คํา “สากล” เหมาะกับหนังสือยากอบ ผูเขียนไดอางถึง “ชนสิบสองเผาท่ีกระจัดกระจายอยูนั้น (ยากอบ 1:1) คําวา “กระจัดกระจายอยู” หมายถึงพวกยิวท่ีกระจายกันไปอยูในดินแดนของชนตางชาติ จดหมายฉบับนี้อาจพูดกับพวกยิวทุกคน หรืออยางนอยก็พวกยิวที่เปนคริสเตียนผูอยูนอกประเทศปาเลสไตนหรือถึงบรรดาคริสเตียน คือชนอิสราเอลแทผูซ่ึงกระจัดกระจายอยูในโลกอันช่ัวชานี้ และบานท่ีแทของเขาก็คือท่ีอยูในแผนดินของพระเจา แตแนทีเดียวท่ีจดหมายนี้มิใชมีไปถึงคริสตจักรใดคริสตจักรหนึ่งหรือกลุมคริสตจักรนอย ๆ กลุมใด เปนจดหมายท่ีมีไปถึงพวกยิวท้ังหมดท่ีกระจัดกระจายไปหรือถึงคริสเตียนท่ัวไป

จดหมายน้ีไมแสดงความสนใจในสถาบันของพวกยิว ไมเคยกลาวถึงพระวิหารจารีตเฉพาะตามธรรมบัญญัติและพิธีกรรม หรือสะบาโต และมีหลักคําสอนแตนิดหนอยท่ีเปนของคริสเตียนโดยเฉพาะ เกือบจะไมพูดถึงพระเยซูเลย (ยากอบ 1: 1; 2:1) มิไดกลาวถึงพระราชกิจกางเขน และการคืนพระชมนของพระองคเลย เราก็แนใจวาผูเขียนทราบเร่ืองเหลานี้ เขาเรียกพระเยซูวา “องคพระผูเปนเจา” และท่ีเขาอางถึง “การเสด็จมาขององคพระผูเปนเจา” (ยากอบ 5:7, 8) สะทอนความเช่ือของเขาใหเห็นวาองคพระผูเปนเจาผูทรงคืนพระชนมนั้น จะทรงกลับมากําลังความชั่วและชวยชนชาติของพระองคใหรอด แตขอท่ีอางถึงพระคริสตโดยตรงก็มีนอยเต็มที

แตก็มีขอพระธรรมหลายแหง ท่ีทําใหนึกนึงพระดํารัสสอนของพระเยซูพระเจาทรงตอบคนท่ีอธิษฐานขอใหทรงชวย (ยากอบ 1: 5 มัทธิว 7:7) คนยากจนจะไดรับแผนดินของพระเจาเปนมรดก (ยากอบ 2:4 มัทธิว 5:3 ลูกา 6:20) พระเจาทรงอวยพระพรแกผูท่ีกอใหเกิดสันติภาพ (ยากอบ 3:28 มัทธิว 5:9) วิบัติคอยคนม่ังมีอยู (ยากอบ 5:1-6 ลูกา 6:24) มนุษยไมควรใชคําสาบาน (ยากอบ 5:12 มัทธิว 5:34-37) ผูเขียนจดหมายน้ีทราบถึงพระดํารัสสอนของพระเยซู

164

Page 165: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

ยากอบคนนี้คือใคร

ผูเขียนกลาวคือตนเองวาเปน “ทาสของพระเจาและของพระเยซูคริสตเจา” (ยากอบ 1:1) คือเขาเปนคริสเตียนทํางานเพื่อพระคริสตอยูในคริสตจักรหนึ่ง ตํานานกลาววาเขาเปนยากอบนองคนโตท่ีสุดในส่ีคนของพระเยซู) มาระโก 6:3 มัทธิว 13:55) นองส่ีคนตามท่ีเขาใจกันจาก มัทธิว 1:25 เปนบุตรของโยเซฟและนางมาเรีย เกิดภายหลังพระเยซู

เร่ืองบอกเราวานองเหลานี้ (มาระโก 3:21 ยอหน 7:5) ไมเช่ือพระเยซูเม่ือพระองคทรงกระทําพระราชภารกิจของพระองค แตพระเยซูคงทรงมีอิทธิพลเหนือเขาเหลานั้น เพราะเขาเปนศิษยของพระองคในเวลาตอมาไมชายากอบเปนคนหนึ่งท่ีเห็นพระเยซูทรงคืนพระชนม (1 โครินธ 15:7) และพวกนองเหลานี้ท้ังหมดสมทบกับพวกศิษยในคริสตจักรเร่ิมแรกนั้น (กิจการ 1:14) ไมชายากอบก็ข้ึนมาเปนหัวหนาและเปนคนสําคัญในคริสตจักรใน กรุงเยรูซาเล็ม (กิจการ 12:17 ; 15:13 ;21:18

กาลาเทีย 1:19 ; 2:9) ใน ค.ศ. 62 พวกยิวท่ีตอตาน ไดประหารชีวิตเขาเสีย แตชีวิตเขาก็เท่ียงตรงจริง ๆ จนพวกยิวอ่ืน ๆ ก็คานในเร่ืองท่ีเขาตองโทษ

ถายากอบคนนี้เขียนจดหมายน้ัน เขาก็อาจจะเขียนไวในเวลาแรก ๆ มีบางคนคิดวาเขาเขียนไวในราว ค.ศ. 45 ฉะนั้นจึงเปนหนังสือเลมท่ีเขียนกอนเพื่อนในพันธสัญญาใหม แตใน ยากอบ 2: 14-26 ดูเหมือนแสดงความรูในเร่ืองคําเทศนาและจดหมายของทานเปาโล เหตุฉะนั้นคนอ่ืนบางคนก็คาดวาเขียนข้ึนในราวตน ๆ ของ ค.ศ. 60 เศษ ๆ กอนหนาท่ีเขาตองตายถายากอบนองขององคพระผูเปนเจาเปนผูเขียน ปท่ีกําหนดตอนหลังนี้คงถูกตองท่ีสุด

อยางไรก็ตาม มีความจริงบางอยางโตแยงวา คริสเตียนรุนหลังคนหนึ่งเปนผูเขียน เพราะตามท่ีเราทราบคริสตจักรสมัยโบราณ ไมทราบถึงจดหมายฉบับนี้อยูนานหลายช่ัวคนทีเดียวกวาจะรับจดหมายฉบับนี้กันก็ตกมาในศตวรรษท่ีสามแลว เขียนไวเม่ือศตวรรษแรก ท้ังผูแตงก็เปนยากอบท่ีใคร ๆ ท่ีรูจักดี ทําไมจึงรอชาอยางนี้ แลวอีกประการหนึ่งจดหมายนี้เขียนเปนภาษากรีกท่ีมีลีลาดีมาก ยากอบนองขององคพระผูเปนเจาเขียนภาษากรีกไดอยางนั้นทีเดียวหรือ เขาเปนหัวหนาพวกคริสเตียนท่ีพูดภาษา

อรามในกรุงเยรูซาเล็ม ประการสุดทาย ท้ังโยซีฟสนักประวิติศาสตรของพวกยิวในศตวรรษแรก และตํานานของคริสเตียนรุนแรกกลาววายากอบนองขององคพระผูเปนเจาเปนคนเครงครัด และซ่ือสัตยตอการปฏิบัติตามพิธีกรรมและธรรมบัญญัติของพวกยิวท้ังเปนผูคํ้าชูเร่ืองนี้ดวย ในจดหมายน้ีไมปรากฏวามีการย้ําถึงพิธีการเหลานี้เลย

ความจริงเหลานี้อาจจะแนะใหเขาใจวาจดหมายฉบับนี้เขียนปลายศตวรรษที่หนึ่งหรือตนศตรวรษท่ีสอง ผูเขียนอาจเปนยากอบอีกคนหนึ่งหรือเปนคนท่ีชอบยากอบนองขององคพระผูเปนเจา ผูทราบชีวิตอันเท่ียงตรงของเรา และเขียนในนามของเขาเพื่อคะย้ันคะยอวาคริสเตียนท้ังหลายตอง

165

Page 166: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

เลียนแบบความเช่ือฟงพระเจาอยางนี้ เหตุผลสวนหนึ่งท่ีเขาเขียนอาจเปนไดท่ีบางคนในสมัยของเขาใชคําสอนของทานเปาโลในทางท่ีผิด เพื่ออุดหนุนใหคนหละหลวมในดานจริยธรรม

ขอใหมีการดําเนินชิวิตและความเชื่อท่ีจริงใจ

จดหมายฉบับนี้ทุกบรรทัดมีความหมาย มีคําขนาบและคําแกไขการแสรงทําเปนคนเครงศาสนาและดําเนินชีวิตอยางผิวเผิน เราจะพบคําแนะนําท่ีแนวแนในการดําเนินชีวิตประจําวัน ไมไดบอกถึงทุกส่ิงทุกอยางท่ีพระคริสตทงกระทําเพื่อพวกคริสเตียน ท้ังมิไดเสนอความเช่ือและความหวังของคริสเตียนอยางเด็ดขนาด แตก็พูดไวอยางแจมแจงวาพระเจาทรงประสงคอะไรจากคนท่ีพูดวาตัวเช่ือพระคริสต

จดหมายน้ีมิไดดูแคลนเร่ืองความเช่ือ ท่ีจริงกลับย้ําในเร่ืองนี้และเนนวาการอธิษฐานนั้นตองกระทําไปดวยความเชื่อวา พระเจาจะทรงฟงและทรงตอบ (ยากอบ 1: 6) จดหมายนี้ชักชวนคนใหอธิษฐานไมวาชีวิตจะอยูในสถานการณใด ๆ ไมวาจะสุขสบายหรือกําลังยุงยาก และเสนอใหมนุษยอธิษฐานเพื่อกันและกัน (ยากอบ 5:16) ส่ิงเหลานี้ข้ึนอยูกับความเช่ือจริงจังในพระเจา แตความเช่ือนี้เม่ือเปนส่ิงแทก็จะใหเกิดผลเปนความวางใจในพระเจา การบังคับตนเอง มิตรภาพและการชวยเหลือกันและกันจดหมายนี้ไมตองการความเช่ือนอยลง แตตองการความเช่ือจริงจังและยังผลใหมีการถวายชีวติท้ังส้ินแดพระเจา ท่ีจะพูดกันถึงความเช่ือเทานั้นไมเพียงพอ

จดหมายฉบับนี้ไดดูแคลนพระคริสต พระเยซูทรงเปนพระคริสตและทรงเปน “องคพระผูเปนเจาของเรา” “องคพระผูเปนเจาแหงรังสีความยิ่งใหญ” (ยากอบ 2:1) พระองคทรงเปนผูพิพากษาลงโทษมนุษย (ยากอบ 5:7, 8) จึงเห็นชัดวาพระคริสตทรงเปนบุคคลท่ีเปนหัวใจของผูเขียน แตเขาย้ําใหเราท้ังหลายถวายเกียรติแดพระคริสตมิใชดวยถอยคําและการแสดงตัวตอหนาคนอ่ืนเทานั้น แตโดยชีวิตท่ีเหมือนพระชนมขององคพระอาจารยผู “เสด็จไปกระทําคุณ” (กิจการ 10:38)

จดหมายน้ีมิไดขัดแยงกับทานเปาโล มิไดกลาวตามแงคิดของทานเปาโลก็จริง แตก็ไมมีอะไรขัดแยงกันอยางสลักสําคัญ ทานเปาโลเนนอยูวาเรามิไดสรางบารมีของเราใหพระเจาโปรดปรานเรา เพราะเราเปนคนบาปเราตองการ การอภัยโทษบาป ถาเราจะตองปฏิบัติตามธรรมบัญญัติอยางรอบคอบเพ่ือจะไดรับพระราชทานรางวัล เราก็ศูนยเสียแน แตพระเจาทรงสนองความตองการอันจําเปนของเรา พระองคทรงใชพระคริสตลงมากระทําส่ิงท่ีเราทําเพื่อตัวเราเองไมได โดยพระคริสตพระจาทรงประทานการอภัยโดยไมคิดมูลคาและปลดปลอยเราจากกํามือของบาป แตทานเปาโลยังหวังวาบรรดาคนท่ีรับของประทานยิ่งใหญนี้จะ “ดําเนินตามชีวิตใหม” (โรม 6:4) ความเช่ือตามความหมายของทานมิใชการแสดงออกภายนอกอยางอึดอัค ซ่ึงไมบังเกิดผลในการดําเนินชีวิตท่ีดี แตใหเปน “ความเช่ือซ่ึงกระทํากิจดวยความรัก” (กาลาเทีย 5:6)

166

Page 167: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

ความลําบากท่ีอยูวา มีคนมากเกินไปฟงทานเปาโลเม่ือทานกลาววาพระเจาทรงประทานอภัย แตก็ไมเช่ือฟงคําของทานอยางจริงจังในเมื่อทานขอรองใหมีความรักและดําเนินชีวิตใหม และซํ้ารายดูเหมือนยังมีบางคนใชกิตติคุณของทานเปาโลผิด ๆ เอามาเปนขอแกตัวการดําเนินชีวิตอยางหละหลวมในคริสตจักร ความเช่ืออยางนี้เปนคนความเช่ือแตปากเพื่ออวดเทานั้น ไมติดแนนเขาไปในชีวิตของคนเหลานั้น

เพราะเหตุนั้นเองจดหมายยากอบจึงพูดเสียอยางเจ็บแสบ ความเชื่อซ่ึงเปนตามคําพูด ซ่ึงอางวาเช่ือถือแตไมแสดงออกมาทางการเปลียนชีวิตเสียใหม ความเชื่อเชนนี้เปนความเช่ือหลอกลวง “จงสําแดงความเช่ือของทานท่ีปราศจากการประพฤติตามใหขาพเจาเห็น และขาพเจาจะนําการประพฤติของขาพเจามาสําแดงใหทานเห็นความเช่ือของขาพเจา” (ยากอบ 2:18) มนุษยชวยตัวเองใหรอดไมได ทานเปาโลก็พูดอยางนั้น ไมมีเหตุผลท่ีจะคิดวาผูเขียนคนนี้ตางกับทานเปาโล แตเม่ือพระเจาทรงชวยมนุษยคนใดใหรอด พระองคทรงชวยโดยความเช่ือแทท่ีบังคับควบคุมชีวิตของผูท่ีเช่ือถือนั้น ถาคราวเช่ือนั้นแทจะมีบางส่ิงบางอยางเกิดข้ึน ความเช่ือท่ีมีชีวิตทําใหเกิดการดําเนินชีวิตท่ีดี “ความเช่ือถาปราศจากประพฤติตามก็ตายแลว

แนะการอาน อานจดหมายนี้ใหจบในคราวเดียวและสังเกตวาจดหมายน้ีเนนเร่ืองอันตรายอะไรบางท่ีมีตอการดําเนินชีวิตคริสเตียน ขอพระธรรมสําคัญ ๆ เชนตอกันไป ชัยชนะของคริสเตียนเหนือการทดสอบ (ยากอบ 1: 2-15) การนมัสการของคริสเตียนโดยไมคํานึงถึงความแตกตางในเร่ืองช้ันบุคคล (ยากอบ 2:1-13) “ความเชื่อถาปราศจากการประพฤติตามก็ตายแลว” (ยากอบ 2:14-26) อันตรายในการใชล้ินผิดไป (ยากอบ 3:1-12) จําไววาชีวิตอยูในพระหัตถของพระเจา (ยากอบ 4:13-17)

ขอท่ีมีคาควรรู ยากอบ 1:5, 12,22,27 ; 2:1,26 ; 3:17;4:8,10,17 ; 5:16,19,20

167

Page 168: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

บทที่ 20 จดหมายฉบับตนของเปโตร

ผูเขียนพระคริสตธรรมคัมภีรภาคพันธสัญญาใหมอีกผูหนึ่งพูดถึง “ความทุกขอยางสาหัสเปนท่ีลองใจของทาน” (2 เปโตร 4:12) ทําไมพระธรรมเหลานี้จึงมักจะอางถึงความยากลําบากและการถูกขมเหง พวกคริสเตียนกําลังทาชวนทางที่มนุษยดําเนินชีวิตและคิดหากพวกยิวไดรับพระคริสตเสียแลว

การนมัสการที่รับเปนมรดกตกทอดมาและการคิดก็จะเปล่ียนรูปไปอยางมากมาย โลกของชนตางชาติก็จะตองเปล่ียนไปมากยิ่งกวานี้ ราชอาณาจักรมีพระเจาของตนเอง และยังคิดตอไปวาผูครอบครองราชอาณาจักรเหลานั้นเปนพระเจา แตละนคร กรรมกรแตละคณะ สังคมแตละกลุม มีพระเจาของตน และตามครัวเรือนตาง ๆ ก็มีพระเจาของตนเองดวย พวกคริสเตียนไดโจมตีโลกตางศาสนาอยางหาวหาญ เขาทั้งหลายบอกคนเหลานั้นวาคนเหลานั้น “เปนทาสของอะไร ๆ ซ่ึงตามสภาพไมใชเปนพระเลย” (กาลาเทีย 4:8) จึงสมควรท่ีจะ “ละท้ิงรูปเคารพกลับมาหาพระเจา เพื่อปฏิบัติพระเจาเท่ียงแทผูทรงพระชนมอยู” (1 เธสะโลนิกา 1: 9)

คนสวนมากในโลกตางศาสนาไมพอใจคําวากลาวและทาชวนอยางนี้ เขาก็โจมตีกลับ แนละ มีบางคนท่ีเช่ือพระเจาหลายองคอยูแลวก็ไมขัดขวางถาคริสเตียนจะเพิ่มพระเจาอีกสักองคหนึ่ง แตคนอ่ืนก็เห็นถูกตองวาความเช่ือใหมนี้ไมมีทางท่ีจะยอมอะลุมอะลวย ถาคนรับความเช่ือของคริสเตียนแลวก็ไมมีชองเหลือท่ีจะถือศาสนาเกาดวย ในเม่ือเขาเช่ือ “พระเจาองคเดียว คือพระบิดา และส่ิงสารพัดท้ังปวงบังเกิดข้ึนโดยพระองค และเราเปนมาเพ่ือพระองค และเรามีพระเยซูคริสตเจาองคเดียวและส่ิงสารพัดท้ังปวงก็บังเกิดข้ึนโดยพระองคนั้น และเราก็เปนมาโดยพระองค” (1 โครินธ 8:6) ความเช่ืออยางนี้ยอมทําลายลักษณะของชีวิตทางฝายศาสนาทางพลเรือน ทางสังคม และทางการเมืองอันเนื่องมาจากตางศาสนา เพราะฉะน้ันคริสเตียนจึงตองถูกขมเหง โดยท่ีเขาถือวาพวกคริสเตียนเปนกลุมชนท่ีเปนภัย

การขมเหงในอาเซียไมเนอร

เปโตรฉบับหนึ่งสะทอนใหเห็นฤติกาลดังกลาวนี้ ขาวประเสริฐไดแผไปกวางขวางในเอเชียไมเนอร และจดหมายน้ีก็ไปถึงท่ัวไปในอาเซียไมเนอร เวนแตแถบชาวฝงทะเลตอนใต ทานเปาโลไดเทศนาในบางมณฑลท่ีอยูในแถบเหนือแลว แตทานไมเคยไปมณฑลโทบิธูเนีย คัพพะโคเคีย ทานเปโตรเทศนาในที่เหลานั้นหรือ เราไมมีทางพิสูจนไดชัดเจนวาทานไดไปเทศนาในท่ีเหลานั้น แตจดหมายสอใหเห็นวาอยางนอยทานก็ทราบวาบรรดาคริสตจักรเหลานั้นกําลังเผชิญอะไรอยูบัดนี้

ท่ัวยานนี้ท้ังหมดการขมเหงกําลังคุกคามพวกคริสเตียนอยู ใครเปนนําการผูโจมตี พวกนายทหารหรือเจาหนาท่ีของโรม หรือพวกทองถ่ินท่ีไมพอใจในความเจริญของคริสตจักรเหลานั้น พวก

168

Page 169: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

กอกวนตามทองถ่ินคงจะเปนผูรังควานใหเกิดความยากลําบาก จดหมายไมไดตําหนิพวกผูครอบครองและแสดงความหวังวาโดยความจงรักภักดีตอผูครอบครองและโดยการดําเนินชีวิตท่ีดีเปนประจําวันแลวพวกคริสเตียนจะระงับการใสรายใหเงียบลงได (1 เปโตร 2: 13-17) ถากฏบัตรของฝายปกครองไดประกาศกลาวโทษพวกคริสเตียนแลวความประพฤติท่ีดีก็ไมอาจชวยเขาได เหตุฉะนั้นความเปนศัตรูของคนสามัญหรือของพวกกอนกวนท่ีเก็งวาตัวเปนเจากี้เจาการดูเหมือนจะเปนผูท่ีกอใหเกิดอันตราย

วิกฤติกาลนี้เกิดข้ึนอยางไร ในเม่ือจดหมายฉบับนี้วาเปโตรเปนผูเขียน เราก็สันนิษฐานวาเหตุการณเกิดข้ึนราว ค.ศ. 60 เศษ ๆ เพราะชะรอยเปโตรจะถูกประหารชีวิตท่ีกรุงโรมในราว ค.ศ. 64 (หรือ 67) แตก็มีขอขัดแยงเพราะ เราไมทราบวามีการโจมตีท่ัวไปอยางท่ีกลาว ไมวาจะเกิดจากราษฏรหรือเจาหนาท่ี ท่ีกระทําตอพวกคริสเตียนในเวลานั้นในแถบอาเซียไมเนอร นีโรไดขมเหงคริสเตียนที่กรุงโรมในราว ค.ศ. 60 เศษ ๆ แตก็ไมมีอะไรพิสูจนไดวาการโจมตีนี้ไดขยายวงออกนอกกรุงโรมหรือชะรอยบางทีอาจจะมีได

ตอมาอีกประมาณสามสิบปปรากฏวาทางฝายจักรวรรดิไดกระทําการรุนแรงตอคริสเตียนในอาเซียไมเนอร พระธรรมวิวรณมาในยามวิกฤติคร้ังนั้น แตนี่เปนการโจมตีตามทางการเร่ืองราวการโจมตีอันไมเปนทางการตามท่ีกลาวไวในเปโตรฉบับตนนั้นนาจะเกิดข้ึนในราว ค.ศ. 60 กวา ๆ

จดหมายจากกรุงโรม

ทานเปโตรไดสงถอยคําใหเกิดความเช่ือและการอุดหนุนใจไปยังบรรดาคริสตจักรเหลานี้ท่ีถูกบังคับใหเผชิญกับการทดสอบ ทานเขียนไปถึง “โดย” หรือ “ทาง” ซีลูอาโน (1 เปโตร 5:12) ชะรอยท่ีจะเปนซีลูอาโนหรือซีลา ผูซ่ึงไดชวยทานเปาโลมากอน (กิจการ 15:40; 1 เธสะโลนิกา 1:1 ; 2 เธสะโลนิกา 1:1) ท้ังบรรดาหนังสือกิตติคุณและตํานานโบราณไดบอกเราวาภาษาพื้นเมืองท่ีทานเปโตรพูดเปนภาษาอราม ทานคงรูภาษากรีกบาง แตท่ีจะเขียนภาษากรีกใหสละสลวยไดนั้นคงเปนเร่ืองยาก เหตุนี้

ซีลูอาโนจึงตองกระทํามากกวาท่ีทานเปโตรบอกคําบอก ความจริงทานเปนผูสําแดงความคิดเห็นของทานเปโตรเปนภาษากรีกท่ีดีและขอนี้อธิบายวาเหตุใดจดหมายบางสวนของเปโตรฉบับตนจึงเหมือนกับจดหมายของเปาโล

ทานเปโตรเขียนจาก “บาบิโลน” (1 เปโตร 5:13) ดูเหมือนคํานี้หมายถึงกรุงโรมดั่งในพระธรรมวิวรณวา (บท 14:8 ; 18:2,10,21) คําวา “บาบิโลน” ปรากฏวาเปนคํารหัสอางถึงมหานครหลวงของโลกตางศาสนา เปโตรจึงเขียนมาจากกรุงโรม และคริสตจักรท่ีนั่นสงคํานับไปยัง “พวกโลกาศัยท่ีกระจัดกระจายไป” ในอาเซียไมเมอร (1 เปโตร 1:1) คําวา “พวกโลกาศัย” หมายวาพวกคริสเตียน “ยิวท่ีกระจัดกระจาย”คือพวกยิวท่ีอยูในดินแดนตางชาติ เขารูสึกวาเขาพลัดถ่ินและถูกพรากไปไกลจากบานเกิดเมืองนอนแท ๆ ของเขาซ่ึงความจริงอยูในแผนดินอิสราเอลเชนเดียวกับคริสเตียนท่ีอยูทามกลางพลเมืองตาง

169

Page 170: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

ศาสนาท่ีเปนศัตรูก็รูสึกเหมือนคนตางดาวท่ีอยูในดินแดนตางประเทศ ทานเปโตรจึงบรรยายวาเขาเปน “พวกโลกาศัย ท่ีกระจัดกระจายไป”

ความหวังใจที่แนแทและที่ดํารงอยู

ทานเปโตรมิไดพูดอะไรแสดงวาพายแพหรือทอถอยใหพวกคริสเตียนท่ีถูกขูคํารามนี้ฟงเลยคําสําคัญดั่งกุญแจของจดหมายน้ีคือคําวา “ความหวัง” (1 เปโตร 1:3) ความหวังนี้มิไดข้ึนอยูกับความยิ่งใหญของพวกคริสเตียน ท่ีการเผชิญหนากับการทดสอบ ทําใหเขารูสึกวาบกพรองหรือข้ึนแกความชวยเหลือจากรัฐบาลหรือความเห็นของปวงประชา ไมมีความแนใจวาจะไดรับความปลอดภัยหรือสันติสุขจากเหลานี้ ถึงกระนั้นความหวังใจของคริสเตียนก็มีความหมายยิ่งกวาความหวังอยางคล่ังไคลวาส่ิงตาง ๆ จะดีข้ึน

แตเปนความหวังท่ีมีรากฐานมั่นคง คือวางรากอยูบนพระเจา ผูซ่ึงมนุษยจะวางใจในความสัตยธรรม ฤทธ์ิเดชและพระเมตตา ของพระเจาได และอยูกับส่ิงท่ีพระเจาไดทรงกระทําและทรงสัญญวาจะกระทําอีกผูเผยพระวจนะของพระองคสัญญาวาพระเจาจะทรงชวยมนุษยใหรอด พระองคทรงเร่ิมพระประสงคอันดีของพระองคและจะทรงกระทําใหสําเร็จ ในพระเยซูคริสตผูทรงถูกตรึงท่ีกางเขนและซ่ึงเปนข้ึนมาจากความตายพระองคจะทรงกระทํากิจของพระองคใหสําเร็จแน บรรดาคนเหลานั้นท่ีไดรับการอภัยโทษจากพระองคและตระหนักในฤทธ์ิเดชของพระองคโดยความเช่ือจะยืนม่ันในความหวังได (1 เปโตร 1: 3-12) เขาทั้งหลายม่ันใจไดเพราะไดเห็นบรรดาส่ิงท่ีพระเจาทรงกระทําทางพระคริสตและทรงกระทําทางพระวิญญาณแลว

ชีวิตในคริสตจักร

ความหวังนี้เกิดผลดีในชีวิตปจจุบัน นําใหเคารพสักการะพระเจาและรักเพื่อนคริสเตียนดวยกัน (1 เปโตร 1:13-25) คริสเตียนท่ีแททุกคนหันจากทางชั่วและยินดีมีสวนในชีวิตคริสตจักร ซ่ึงเปน “พระนิเวศฝายวิญญาณ” อันมีบรรดาสมาชิกเปน “ชาติท่ีทรงเลือกไว เปนพวกปุโรหิตหลวง เปนชนชาติบริสุทธ์ิ เปนชนชาติของพระเจาเอง” (1 เปโตร 2:1-10) ทุกคนดํารงชีวิตดวยความชวยเหลือกันและกันและดวย “ความถอมใจ ในการปฏิบัติตอกันและกัน” อันเปนผลงอกงามจากการถอมกายวางใจในพระเจา (1 เปโตร 5:1-11) แมวาจะมีการขมเหงคุกคามเขาท้ังหลายก็ไมยอมขลาดกลัวและตกใจหดหู เขาเปนพยานอยางเปดเผยวาพระเจาทรงกระทําอะไรใหแกเขาบาง เขาทั้งหลาย “ประกาศเร่ือง พระบารมีของพระองค ผูไดทรงเรียกทานท้ังหลายใหออกมาจากความมืดเขาในความสวางอันมหัศจรรยของพระองค (1 เปโตร 2:9)

170

Page 171: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

คริสเตียนทุกคนเขาใจในสวนธุรกิจนี้ คําวา “ปุโรหิต” ในท่ีนี้มิใชหมายถึงคริสเตียนสวนนอย พันธสัญญาใหมไมเคยพูดถึงปุโรหิตท่ีเปนมนุษยกระทําหนาท่ีคริสเตียนอ่ืน ๆ และพระเจาและมีฤทธ์ิท่ีอํานาจท่ีอํานวยหรือไมอํานวยพระกรุณาคุณของพระเจา ในจดหมายท่ีถึงพวกฮีบรูนั้นมหาปุโรหิตองคเดียวก็คือพระคริสตพระบุตร ผูทรงประกอบกิจในสวรรคเพ่ือคนท่ีเช่ือท้ังมวลไมยอมรับวาปุโรหิตอ่ืน ๆ อีก ในเปโตรฉบับตนคริสตจักรท้ังส้ินจะตองปรนนิบัติพระคริสตและเปนพยานตอโลก ทุกคนกระทําบริการทุกคนเปนพยาน ดวยชีวิตของตนเปนเร่ืองสําคัญ ตางก็จะชวยกัน มีพวกผูปกครองเปนผูนํา และเขาท้ังหลายจะปรนนิบัติดวยความซ่ือสัตย (1เปโตร 5:1-3) แตไมมีคนใดไดรับตําแหนงใหรับหนาท่ีระหวางคริสเตียนและพระคริสต องคพระผูเปนเจาของเขา เปโตรฉบับตนสอนชัดเจนถึงหลักมูลฐานของโปรเตสแตนทในเร่ือง “ผูท่ีเช่ือท้ังปวงเปนปุโรหิต” ไมยอมใหมีอํานาจบาดใหญฝายตําแหนงปุโรหิตท่ีจะมาขวางอยูท่ีเช่ือถือและพระคริสต

ชีวิตในโลก

คริสเตียนจะเผชิญกับการตําหนิเพื่อทําลายอยางไร เขาจะเขาสวนกับบาปและตัณหาแหงโลกตางศาสนาไมได แทนท่ีจะเปนเชนนั้น การประพฤติท่ีดีของเขาจะเปนการโตตอบการโจมตีทางการใสราย (1 เปโตร 2: 11, 12) เขาจะตองใหเกียรติและเช่ือฟงบรรดาผูมีสิทธิอํานาจอันชอบดวยกฎหมายในฝายรัฐบาลและสังคม (1 เปโตร 2:13-17) ทาสทั้งหลายท่ีเปนคริสเตียนพึงปรนนิบัติรับใชอยางดีแมวานายตางศาสนาเหลานั้นจะเปนคนดุราย การปรนนิบัติท่ีซ่ือสัตยยอมอยูใตบังคับบัญชาเชนนี้เปนทางเดียวซ่ึงเขาจะเปนพยานถึงพระคริสตตอเจาของของเขาได ถาเขาจะตองทนทุกขเพราะความเชื่อของเขาภายใตน้ํามือของนายเชนนี้ เขาก็จะระลึกวาพระคริสตไดทรงทนทุกขดวย ซ่ึงจะเปนส่ิงท่ีปลอบใจของเขาได (1 เปโตร 2:18-25

ฉะนั้นการดําเนินชีวิตท่ีเท่ียงธรรมและสะอาด และความสัตยซ่ือในบาน เปนทางเดียวท่ีภรรยาผูเปนคริสเตียนของสามีตางศาสนาหวังจะนําสามีของเขามาถึงพระคริสตได (1 เปโตร 3:1-6) เคร่ืองอาภรณอันแทจริงของเธอก็คือ “เคร่ืองประดับซ่ึงไมรูผุพังไป คือจิตใจออนสุภาพและสงบเสงี่ยม” สามีผูเปนคริสเตียนพึงอยูกับภรรยาของตนดวยความรักและความเอ็นดูอยางนานับถือ (1 เปโตร 3:7) และ

คริสเตียนท้ังมวลพึงมี “ใจหน่ึงใจเดียวกัน มีความเห็นอกเห็นใจกัน รักกันฉันพี่นอง มีใจเอ็นดูและมีใจถอม” เขาจะไมยอม “กระทําการรายตอบสนองการราย” แต “หนีการช่ัวและกระทําการดี” (1 เปโตร 3:8-12)

171

Page 172: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

การเผชิญกับการขมเหง

คราวเม่ือความทุกขยากไดขูเข็ญคริสตจักร (1 เปโตร 3: 13 ถึง 4:19) พวกคริสเตียนแหงอาเซียไมเนอรจะเผชิญส่ิงนี้อยางไร ทานเปโตรไดขอใหเขาจําหกประการตอไปนี้ 1. ระวังกระทําแตส่ิงท่ีถูกตอง เชนนี้จะกระทําใหพวกศัตรูนั้นคอยคลายความรุนแรงลง (1 เปโตร 3: 13) 2. ถาตองทุกขยากก็อยาใหเปนข้ึนเพราะการประพฤติผิด ทานพึงยอมทนทุกขเพราะประพฤติการดี (1 เปโตร 3: 17) 3. พระคริสตทรงสัตยซ่ือในการยอมทนทุกขและทรงชนะ ถาทานตองทนทุกขเพราะพระนามของพระคริสต แมวาตองรับประสบการณท่ียากเข็ญเชนนั้น พระเจาก็จะทรงอํานวยพระพร (1 เปโตร 3: 18; 4:13-16)

4. เม่ือพวกตางศาสนารายกาจตอทานเพราะทานไมยอมเขาสวนในการดําเนินชีวิตท่ีช่ัว จงยึดม่ันไวดวยน้ําพระทัยของพระเจา (1 เปโตร 4:1-4) 5. เวลาทนทุกขนั้นส้ัน ปลายยุคอาจจะใกลเต็มทีแลว (1 เปโตร 4: 7) 6. ในเม่ือกาลสุดทายกําลังจะมาถึง และทุกคนจะตองพบการพิพากษาลงโทษของพระเจา พึงเกรงกลัวการลงโทษของพระเจามากยิ่งกวาการทํารายของมนุษย (1 เปโตร 4: 17-19) เทียบ 1 เปโตร 1:17) พระเจาทรงเปนพระเจาผูบริสุทธ์ิ มนุษยตองกระทําตามน้ําพระทัยของพระองค

พระคริสตคือ “ผูเลี้ยงใหญ”

ในเปโตรฉบับตนไดเชิดชูใหพระคริสตเปนศูนยกลางของความเชื่อเชนเดียวกับในการเขียนพระธรรมเลมอ่ืน ๆ ในพันธสัญญาใหม ตั้งแตเดิมมาพระเจาทรงมีแผนงานเก่ียวกับการเสด็จมาของพระคริสตและพระราชกิจท่ีพระองคจะทรงกระทําเพื่อนมนุษย (1 เปโตร 1: 20) เม่ือพระองคเสด็จมาเปนมนุษยทรงทนทุกข ก็มิใชทนทุกขเพราะความผิดประการหนึ่งประการใดของพระองค เพราะพระองค ปราศจากตําหนิ ทรงทนทุกขเพื่อมนุษย พระองคทรงส้ินพระชนม....เพราะความผิดบาป” เพื่อ “จะไดทรงนําเราท้ังหลายไปถึงพระเจา” ดังนั้นจึงทรงไถมนุษยจาก “การประพฤติตามอนิจจัง” (1 เปโตร 4:1; 3:18,1:18-19)

แตพระองคทรงคืนพระชนมจากมรณภาพ และโดยทางการคืนพระชมนนี้พระองคทรงประทาน “ความหวังใจอันมีชีวิตอยู” แกมนุษย (1 เปโตร 1:3) บัดนี้พระองคทรงเปน” ผูเล้ียงและผูพิทักษแหงวิญญาณจิตของทานท้ังหลาย” และ “ผูเล้ียงใหญ” ฉะนั้นจึงไมควรจะมีคริสเตียนคนใดท่ียอยนตอความทนทุกขรวมกับพระองค แตคนท้ังปวงควรจะเคารพ “พระคริสตถือเปนพระผูเปนเจา” แนใจวาโดยพระทัยท่ีหวงใยของพระองคจะทรงนําเราไปสูความสงบสุขและความปลอดภัยในบ้ันปลายเพราะส้ินยุคนี้แลวมนุษยทุกคนจะเห็นชัยชนะเด็ดขาดของพระคริสต (1 เปโตร 2:25 ; 5:4 ; 3:15 ; 1:7, 13)

172

Page 173: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

แตวาบรรดาคนท่ีมีชีวิตอยูกอนพระเยซูคริสตเสด็จมานั้นจะไดรับสวนอะไรในบ้ันปลาย เขาจะมีสวนในชีวิตท่ีพระองคทรงนํามานั้นไดหรือผูเขียนพันธสัญญาใหมคนอ่ืน ๆ ไมใหคําตอบแกคําถามนี้ แตทานเปโตรไดแถลงวา พระคริสตเสด็จไปเทศนาแกบรรดาวิญญาณท่ีตายไปแลวนั้นดูเหมือนจะทรงเทศนาในเวลาระหวางท่ีพระองคมรณาและทรงคืนพระชนมทานเปโตรคํานึงถึงโดยเฉพาะบรรดามนุษยบาปหนาในสมัยของโนอาหท่ีนานมาแลวนั้น ซ่ึงพระเจาทรงใหน้ําทวมเขาตายเพราะความชั่วชาของเขา คนเหลานี้เปนตัวอยางเดน ๆ ในจํานวนคนมากมายซ่ึงพระคริสตไดทรงเทศนาใหเขาฟง (1 เปโตร 3: 19, 20 4:6)

แนวความคิดนี้ปรากฏใหเห็นอีกคร้ังหนึ่งวา สําหรับผูเขียนแลวพระคริสตทรงเปนหัวใจของเร่ืองอยางแทจริงเพียงใด คนทุกชั่วชาตพันธุ มีความตองการเหมือน ๆ กันในเร่ืองการไถและการอุปถัมภของพระเจา ทุกคนจะพบวาพระคริสตทรงเปนคําตอบซ่ึงสนองความตองการของเขา พระองคทรงเปนหัวใจของประวัติศาสตร และในท่ีสุดทุกคนจะตองเผชิญหนากับพระองค แตวาพระเจาทรงประทานความอุปภัมถของพระคริสตแกคนอ่ืน ๆ อยางไรนั้นไมเปนเร่ืองท่ีเราหวงใยอยางใหญหลวง งานของเราก็คือจะตองมีกตเวที (ตองรูสึกโมทนา) ในส่ิงท่ีพระองคทรงประทานแกเราแลวนั้นแลวก็ซ่ือสัตยและวองไวในชีวิตคริสเตียนท่ีมีความรักตั้งแนวแนอยูไดดวยความหวังใจ

“จงพรอมไวเพ่ือทานจะสามารถตอบ”

ดูเหมือนโลกสมัยนี้ผิดกันกับสมัยที่ทานเปโตรเขียนจดหมายฉบับตนมาก แตพวกท่ีมันเยาะเยยก็ยังถากถางพวกคริสเตียนอยูนั่นเอง ยังมีคนดูหม่ินและปฏิเสธพระคริสต เม่ือไมกี่ปมานี้มีคนท่ีเช่ือถือท่ีอยูในดินแดนหลายแหงไดยอมทนทุกขเพราะความเชื่ออันภักดีของเขาสําหรับเราทุกคนทุกสมัยทีเดียวชีวิตนี้เปนเหมือนสนามรบระหวางโลกตางศาสนาและวิถีทางของพระคริสต เพราะฉะนั้นขอความในเปโตรฉบับแรกยังเปนขาวสําคัญอยูนั่นเอง ขาวประเสริฐใหความเช่ือและความหวังใจท่ีมีชีวิตอยูแกเรา เราก็ไดอาศัยส่ิงนี้แหละในการยึดม่ันและดําเนินชีวิตในความรัก

“เดี๋ยวนี้จําเปนทานจะตองทนยากลําบากสักหนอยหนึ่งดวยการทดลองตาง ๆ” และถูก ลองดวยไฟ” แต “อยากลัวเขา และอยาคิดวิตกเลย แตในใจของทานจงเคารพพระคริสตถือเปนองคพระผูเปนองคพระผูเปนเจา จงพรอมไว เพื่อทานจะสามารถตอบแกทุกคนท่ีถามทานวา ทานมีความหวังใจเชนนี้ดวยเหตุผลประการใด แตวาจงตอบดวยใจสุภาพและดวยใจยําเกรงใหใจวินิจฉัยผิดและชอบไมมีเหตุติทาน เพื่อเมื่อเขาท้ังหลายไดพูดใสรายทาน เขาท่ีใสรายการประพฤติของทานในพระคริสตจะตองไดอาย เพราะซ่ึงทานจะตองทนทุกขเพราะประพฤติการดี ถาเปนท่ีชอบพระทัยพระเจาอยางนั้นก็ดีกวาจะตองทนทุกขเพราะการประพฤติช่ัว... ยิ่งกวาอะไรหมดก็จงรักซ่ึงกันและกันใหมาก ดวยวาความรักก็ลบลางความผิดมากหลาย... เหตุฉะนั้นทานท้ังหลายจงถอมใจลงใตพระหัตถอันทรงฤทธ์ิของพระเจา

173

Page 174: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

เพื่อพระองคจะไดทรงยกทานข้ึนในเวลาอันควร บรรดาความกระวนกระวายของทานจงฝากไวกับพระองค เพราะวาพระองคยอมทรงหวงใยทานท้ังหลาย” (1 เปโตร 1:6, 3:14, 4:8, 5:6)

แนะการอาน จงศึกษาโดยการเฉพาะอยางยิ่งขอพระธรรมท่ีเกี่ยวกับความหวังใจ (1 เปโตร 1:3-9,13,21 ; 3:15 ; 4:13 ; 5:10) เร่ืองพระเยซูคริสตและพระราชกิจของพระองค (1 เปโตร 1:3,7,11,13,18-21 ; 2:21-25 ; 3:15, 18-22 ; 4:1, 13 ; 5:1,4) เร่ืองคริสตจักรวาคริสตจักรเปนประชากรของพระเจามีภราดรภาพอันเสมอภาคกัน ( 1 เปโตร 2:4-10) เร่ืองการทนทุกขเพราะเปนคริสเตียน (1 เปโตร 3:13 ถึง 4:19)

ขอพระธรรมท่ีควรคิดคํานึงอีกคร้ังหนึ่ง 1 เปโตร 1: 3, 15, 22: 2:9, 12, 15-17; 3:8, 9, 13-17; 10; 5:6, 7

174

Page 175: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

20บทที่ 21 ยูดาหและเปโตรฉบับที่สอง

มีเร่ืองคุกคามความบริสุทธ์ิและกําลังเร่ียวแรงของคริสจักรข้ึนอยางรุนแรง ทําใหตองเขียนจดหมายท่ีมีช่ือยูดาหและเปโตรฉบับท่ีสอง คนท่ีถูกนําไปในทางท่ีผิดไดสอนวาการปลอยกายใหช่ัวไปนั้นไมเปนภัยตอการเปนคริสเตียนเลย พวกเหลานี้ดํารงชีวิตอยูอยางเสเพลเปนท่ีนาละอาย

กายพระวิญญาณจิต

เบ้ืองหลังของคําสอนท่ีเปนภัยนี้คือ แนวคิดท่ีวารางกายและทุกส่ิงท่ีเห็นได แยกเด็ดขาดออกจากดานวิญญาณจิตของมนุษย พวกครูเท็จท่ีชอบดํารงชีวิตอยางเสเพลไดสอนอยางนี้ และกระทําตามเสียดวย ดูเหมือนเขาอางวาความเช่ือของคริสเตียนนั้นเกี่ยวของกับวิญญาณจิต ของมนุษยเทานั้น ในชีวิตดานนั้นเขาควรจะเช่ือพระคริสตกับนมัสการและปฏิบัติพระองค แตความเชื่ออยางนี้ไมเกี่ยวของกับรางกายและส่ิงท่ีเห็นไดในโลกนี้เราจะทําตอส่ิงเหลานี้อยางไรก็ไมกระทบกระเทือนกับชีวิตดานวิญญาณจิต

ถาฝายกายและฝายวิญญาณจิตแยกกัน และตางก็ทําอันตรายหรือชวยเหลือกันไมไดแลว คนเราก็เลือกดําเนินชีวิตดานใดดานหน่ึงไดเขาจะเปนคนบําเพ็ญทุกขกิริยาหรือเปนพวกโยคีก็ได คือวาเพื่อเปนคริสเตียนท่ีแทเขาจะท้ิงความสุขและความเพลิดเพลินฝายกายอันเปนปกติวิสัยเสียส้ิน ในเม่ือกายไมมีสวนในชีวิตคริสเตียนท่ีแทจริงก็เปนอุปสรรคแท ๆ เพราะวาแรงกระตุนธรรมดายอมทดลองใหคนฝายวิญญาณจิตกระทําส่ิงท่ีผิดเพราะฉะนั้นคนท่ีเช่ือถือก็ควรพยายามบีบค้ันแรงกระตุนฝายกายนี้เสียจะยอมผอนก็ไดแตนอยท่ีสุดทีเดียวเขาควรรับประทานแตนอยและไมรับประทานของฟุมเฟอยอยางใดเลย เขาควรจะงดไมแตงงาน เพราะชีวิตเกี่ยวกับกามคุณเปนชีวิตช่ัวชา ท่ีจริงเม่ือมองในแงนี้รางกายก็เปนอุปสรรคการดําเนินชีวิตท่ีดี และเม่ือวิญญาณตองพรากจากกายตอนที่ตายนั้นวิญญาณก็ไดรับการปลดปลอยใหเปนอิสระและเปนกําไร

การดํารงชีวิตอีกอยางหนึ่ง ถาฝายวัตถุและฝายวิญญาณจิตไมมีอะไรรวมกันไดแลว ก็ใหปลอยรางกายและหาความเพลิดเพลินทางกายอยางไมตองมีการเหนี่ยวร้ังเลย บรรดาคนท่ีคิดอยางนี้ก็อางวาแมการลวงประเวณีก็ไมเปนอันตรายแกชีวิตฝายวิญญาณจิต เพราะฉะนั้นเขาก็ลวงประเวณี ทําบานใหแตก แสดงถึงการท่ีเขาคิดไวในเร่ืองวาเขาไมตองอาศัยมาตรฐานศีลธรรมตามปกติวิสัยตอไป

175

Page 176: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

“วิหารของพระวิญญาณบริสุทธิ ์

แนวคิดท้ังสองสองฝายนี้ไมใชแนวคิดทางคริสเตียนเลย การรูจักบังคบตนน้ันถูกแลว แตการลําเพ็ญทุกขกิริยาเปนการผิด พระเจาทรงสรางโลกพระเจาทรงสรางรางกาย เพราะฉะน้ันรางกายจะเปนส่ิงช่ัวไมได “พระเจาทรงทอดพระเนตรส่ิงท้ังปวงท่ีพระองคทรงสรางไวนั้นทรงเห็นวาดีนัก” (ปฐมกาล 1:31) “แผนดินโลกกับสรรพส่ิงในนั้นเปนของพระเจา ท้ังพิภพและบรรดาผูท่ีอยูในพิภพนั้น” (สดุดี 24:1) พระองคทรงสรางมนุษย มนุษยท่ีครบถวน มีรางกาย วิญญาณและจิตใจ เพราะฉะนั้นรางกายจึงเปน “วิหารแหงพระวิญญาณบริสุทธ์ิ” ได และสําหรับคริสเตียน รางกายก็เปน “วิหารแหงพระวิญญาณบริสุทธ์ิ” จริง ๆ “เหตุฉะนั้นทานท้ังหลายจงถวายพระเกียรติแดพระเจาดวยรางกายของทาน” (1 โครินธ 6:19,20) เปนหนาท่ีของพวกคริสเตียนท่ีจะถวายรางกายใหเปน “เคร่ืองบูชาอันมีชีวิตอยู อันบริสุทธ์ิและเปนท่ีชอบพระทัยพระเจา” (โรม 12:1)

การรูจักบังคับตนเปนส่ิงถูกตอง แตการปลอยตัวอยางสเพลเปนความผิด ตามที่ความเช่ือฝาย คริสเตียนไมยอมรับยอมรับลัทธิบําเพ็ญทุกขกิริยาและแนวคิดตามลัทธินี้ ซ่ึงวาชีวิตฝายกายตามปกติก็ยอมทําใหชีวิตฝายวิญญาณเส่ือมเสียอยูแลวอยางปองกันไมได จึงกลาวปรักปรําแนวความคิดท่ีปลอยตัวเปนอิสระอยางหนักแนนทีเดียวเชนเดียวกัน คือท่ีกลาววาคนเรายอมปลอยตัวใหเปนไปตามความปรารถนาของตนไดทุกอยาง

มนุษยไมไชส่ิงมีชีวิตสองส่ิงแยกกัน มนุษยเปนหนึ่งบุคคลภาพรางกาย จิตใจและวิญญาณจิตของเขาเปนสวนตาง ๆ ท้ังส้ินของมนุษยจิตวิทยาแผนใหมก็สํานึกความจริงนี้ รางกายและจิตใจกระทํากิจสัมพันธกันนายแพทยท่ีดีทุกคนทราบเร่ืองนี้ ความเช่ือและทาทีทางจิตใจของคนเราเกี่ยวพันกับลักษณาการฝายรางกาย พระคริสตธรรมคัมภีรทราบเร่ืองนี้หลายศตวรรษมาแลว การดําเนินชีวิตอยางปลอยตัวและเสเพลฝายรางกายก็รวมกับการท่ีมนุษยปลอยใจและมีทาทีทางใจท่ีเสเพลดวย เม่ือรางกายของคนเรากระทําผิด คนเราก็เปนคนบาป ความเชื่ออันแทจริงจะถวายกายจิตใจและวิญญาณจิตไวกับพระจา เปนคนจงรักภักดีท่ีครบถวนอันเดียว

ฉะนั้นจึงเปนท่ีกระจางแจงวาคริสตจักรในยุคเร่ิมแรกจะปลอยปละละเลยไมตอตานบรรดาคนท่ีดําเนินชีวิตอยางเสเพล ซ่ึงอางวาการกระทําท่ีนาละอายของเขาถูกตองหาไดไม ถาจะรับระดับการดําเนินชีวิตตํ่าเชนนี้คริสตจักรก็จะถึงซ่ึงความหายนะ ตลอดพันธสัญญาใหมเราไดยินวาคริสตจักรตองการชีวิตท่ีบริสุทธ์ิ ตองการจิตใจและรางกายท่ีไดรับการฝกใหอยูในวินัยแลว คริสตจักรเสนอการไถของพระเจาแกบรรดาคนท่ีดําเนินทางผิดและบัดนี้ตองการที่จะกลับใจและประพฤติใหถูกตอง เชิญมนุษยใหรับพระกรุณาคุณของพระเจาดวยความเช่ือ และตอบสนองดวยการถวายชีวิตของตนไวกับ

176

Page 177: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

พระองค แตขอนี้ไดเสนอความหวังใจใหแกบรรดาผูท่ียังกระทําบาปเร่ือยไปอยูเลย การดําเนินชีวิตเหลวไหลอยางเปดเผย และการแกตัวสนับสนุนชีวิตแบบนี้นําไปสูการปรับโทษเทานั้น

จดหมายฝากของยูดาห

จดหมายฝากของยูดาหและจดหมายเปโตรฉบับสองรวมกันประณามการดําเนินชีวิตอยางปลอยตัวเชนกลาวมานี้ ท้ังสองฉบับเปนจดหมายฝากท่ัว ๆ ไป เปนถอยคําท่ีกลาวแกคริสเตียนท่ัวไป มิใชเขียนถึงคริสตจักรใดคริสตจักรหนึ่งโดยเฉพาะ และถึงทองถ่ินใดอยางจํากัด แตเพ่ือแจกไปใหอานกันในท่ีท่ีมีคริสเตียนอยูไมวาท่ีไหน

ยูดาหเปนจดหมายท่ีส้ันกวา และเจาะจงพูดถึงเร่ืองนี้โดยเฉพาะผูเขียนกําหนดวาจะเขียนเร่ืองท่ัว ๆ ไปใหยาว แตไดตัดสินใจวาตองเขียนทันทีไปปรับโทษบรรดาคนท่ีกลาแนะนํา และสนับสนุนอยางนาอายในเร่ืองการลวงประเวณีท่ีมีอยูในชีวิตของคริสตจักร (ยูดาห 3,4) เม่ือทานบอกผูอานของทาน “ใหตอสูเพื่อหลักคําสอนท่ีเช่ือกันอยู” ทานมิไดคิดถึงคําสอนท่ัว ๆ ไปในเร่ืองความจริงของคริสเตียน ทานหมายเฉพาะเร่ืองการตอตานเพื่อความบริสุทธ์ิของคริสตจักร ตอพวกเหลานั้นผูกลาววา ใครจะดําเนินชีวิตฝายรางกายอยางไรนั้นไมเปนเร่ืองสําคัญอะไร ทานประกาศวาการดําเนินชีวิตช่ัวเชนนั้นจะไดรับการพิพากษาลงโทษจากพระเจา และทานก็ใหตัวอยางของการพิพากษาปรับโทษเชนนี้จากประวัติของพวกอิสราเอล (ยูดาห 5-13) การดําเนินชีวิตอยางท่ีกอใหเกิดการแบงแยกและเส่ือมทรามเชนนี้ไดมีพยากรณและประมามไวแลวโดยบรรดาครูท้ังของพวกยิวและพวกอัครทูต (ยูดาห 14-19)

ผูแตงกลาวแกบรรดาผูอานวา “จงรักษาตัวไวในความรักของพระเจา” โดยความเช่ือโดยการอธิษฐาน และโดยการเช่ือฟงอยางภักดีตลอดชีวิต พึงพรอมท่ีจะชวยคนอ่ืนใหละท้ิงทางช่ัว แตพึงระวังอยายอมใหถูกลากลงไปสูระดับชีวิตท่ีต่ํา (ยูดาห 20-23) คําอวยพรตอนจบอันเปนท่ีจับใจนั้นแสดงชัดเจนวาพระเจาทรงชวยไดและจะทรงชวยบรรดาคริสเตียนท่ีจริงใจทุกคนเพื่อใหพนจากการตกเขาไปในความช่ัว แตโดยฤทธิ์เดชของพระเจาคนท่ีเช่ือจะดําเนินชีวิตท่ีสะอาดและไมเปนภัยได เพ่ือใหเปนท่ีสรรเสริญแดพระเจาและพระคริสต (ยูดาห 24, 25)

ตามตํานานโบราณกลาววา ผูแตงคือยูดาหนองของยากอบและเปนนองของพระเยซู (ยากอบ 1) เราทราบเร่ืองของทานไดนอยเต็มที และเราไมทราบวาทานทํางานอยูท่ีไหนแน พวกนอง ๆ ของพระเยซูไดอยูในคริสตจักรต้ังแตยุคแรกมาแลว (กิจการ 1: 14; 1 โครินธ 9:5) และยูดาหอาจจะมีชีวิตจนเห็นการส่ังสอนช่ัวชาท่ีไดมีการคัดคานไวในท่ีนี้เกิดข้ึน

ไมทราบแนวาจดหมายฉบับนี้เขียนข้ึนท่ีไหนเม่ือไร คงจะมิไดเขียนไวกอน ค.ศ. 70-80 เพราะเปนเร่ืองท่ีมองกลับไปในสมัยของอัครทูตท่ีผานมาแลว (ยูดาห 17) คริสตจักรไดรีรอเร่ืองรวมพระธรรมเลมนี้เขาไวในพันธสัญญาใหม ท่ีเปนเชนนี้ก็เพราะ ยูดาห 9 อางถึงหนังสือท่ีเรียกวา “อัสสัมช่ัน ออฟ

177

Page 178: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

โมเสส” การท่ีโมเสสข้ึนสวรรค” และ ยูดาห 14 ยกขอความในหนังสืออีนัคมากลาว เราไมพบหนังสือท้ังสองเลมนี้ในพันธสัญญาเดิมมีหลายคนในคริสตจักรสมัยแรกเห็นวาพระธรรมท่ียกเอาหนังสือท่ีไมอยูในพระคริสตธรรมคัมภีรมาอางเชนนี้จะจัดวาเปนพระธรรมท่ีอยูในตําแหนงสูงไมได อยางไรก็ตามตอมาคริสตจักรเห็นวาคําสอนอันเขมแข็งของจดหมายฝากฉบับนี้ได ใหพยานท่ีตองการแกขาวประเสริฐของคริสเตียนตอนเร่ิมแรก แลวการรีรอเชนนั้นก็คอย ๆ หายไป

จดหมายฝากฉบับท่ีสองของเปโตร

เปโตรฉบับสองยาวกวายูดาห และในบทที่สองก็มีความพองกับยูดาหอยางใกลชิด จดหมายนี้ลงโทษพวกครูเทียมเท็จผูพยายามแกตัวในการประพฤติท่ีเสเพลและตํ่าชา และพยากรณถึงการพิพากษาลงโทษของพระเจาอันมีตอการสอนและการดําเนินชีวิตอยางนี้ “แตวาคนเหลานั้นเหมือนสัตวเดียรัจฉานท่ีปราศจากความคิด คือสัตวทําตามสัญชาตญาณ” “ปลอยตัวตามเนื้อหนังไปในทางความกําหนดอันโสโครก และหม่ินประมาทอํานาจของผูใหญ” “ท่ีจะแอบอางเอามิจฉาลัทธิอันจะใหถึงความพินาศเขามาเส้ียมสอน แมถึงกับปฏิเสธองคพระผูเปนเจาผูไดทรงไถเขาไว และจะนําความพินาศโดยพลันมาถึงตนเอง” (2 เปโตร 2:12,10,1) คือบรรดาคนท่ีมีชีวิตอยูอยางนี้ไดกระทําผิด เขาท้ังหลายปฏิเสธพระคริสต โดยส่ิงท่ีเขากระทําและท่ีส่ังสอน เขาท้ังหลายไมใชคริสเตียนท่ีแทจริง เพราะคริสเตียนยอมถวายรางกายจิตใจ และวิญญาณจิตใจการบริการอยางบริสุทธ์ิถวายแดพระบรมอาจารย

ใน 2 เปโตร บทท่ีหนึ่ง ในการเตรียมท่ีจะเผชิญกับเร่ืองนี้ ทานผูเขียนไดเตือนใหผูอานสํานึกวา พระเจาไดทรงประทานของประทานและความอุปถัมภตามท่ีมนุษยจําเปนตองมีเพื่อใหเขาดําเนินชีวิตท่ีดีและเปนท่ีเคารพนับถือ (2 เปโตร 1:3,4) ถาทานชักชวนใหถือความดีความรักระหวางพี่นองและความรักระหวางคนท่ัวไป คุณธรรมเหลานี้เปนเคร่ืองหมายแหงชีวิตคริสเตียนท่ีแทจริง เปนส่ิงท่ีกระทําใหชีวิตบังเกิดผลเพื่อความดี (2 เปโตร 1:5-11) คริสเตียนทุกคนควรประพฤติตัวเพื่อใหเปนเคร่ืองหมายเหลานี้ “จงยิ่งอุตสาหใหเปนไปตามท่ีพระเจาทรงเรียกและเลือกทานไวแลวนั้น (2 เปโตร 1:10) นี่ไมใชคําส่ังสอนใหม เปนคําสอนท่ีอิงคําพยานของทานเปโตร ผูท่ีอยูใกลชิดสนิทกับพระเยซู (2 เปโตร 1:12-18) และเปนคําพยานของบรรดาศาสดาพยากรณดวย (2 เปโตร 1:19-21)

ใน 2 เปโตรบทที่ 3 เนนเร่ืองความแนนอนแหงการพิพากษาลงโทษการดําเนินชีวิตท่ีเสเพล มี คริสเตียนบางคนเลิกคอยการพิพากษาลงโทษท่ีกลาวนี้ เขาไมรอคอยการส้ินโลกตอไป เร่ืองนี้พระเจาทรงสัญญาไว เขาท้ังหลายหวังในคําสัญญาน้ันวาจะเกิดข้ึนในไมชา เม่ือเร่ืองนี้เนิ่นชาไปเขาจึงตัดสินใจวาจะไปกลัววันพิพากษาลงโทษ ผูเขียนกลาววาคนเราทราบไมไดวาพระเจาจะทรงกระทํากิจเม่ือไร เวลาของพระองคไมเหมือนกับของเรา แตท่ีสุดปลายจะมาถึงแน พระเจาทรงพิพากษาลงโทษความชั่ว ท่ีสุดปลายจะมา “เหมือนอยางขโมยดอดมา” และคริสเตียนทุกคนควรจะเตรียมตัวพรอมอยู วันนั้นจะ

178

Page 179: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

นําเอาระบอบอันชอบธรรมและใหมมาใหชนชาติของพระเจาจะดําเนินชีวิตในระบอบนั้น ความช่ัวจะไมมีสวนในระบอบนั้นเลย (2 เปโตร 3:1-13)

มีคริสเตียนบางคนใชคําสอนของทานเปาโลเร่ืองพระคุณของพระเจาท่ีทรงประทานใหเปลา ๆ นั้นเปนส่ิงแกตัวในเร่ืองการดําเนินชีวิตเสเพล เร่ืองนี้แมในสมัยทานเปาโลก็มีเกิดข้ึน (โรม 3:8) ทานไดประณามการบิดเบือนขาวประเสริฐอยางนาละอายเชนนี้ ทานไดเทศนาเร่ืองการอภัยโทษใหทุกคนผูกลับใจอยางจริงใจ แตทานมิไดใหความหวังแกคนท่ีกระทําความผิดอยางไมละอาย ผูท่ีกระทําความช่ัวเร่ือยไปอยางพึงพอใจ ผูเขียนยอมในขอท่ีวา มีบางอยางในจดหมายของทานเปาโลท่ีเขาใจยาก แตทานย้ําวาโดยการเจตนารายบิดเบือนส่ิงซ่ึงทานเปาโลไดกลาวไวเทานั้นเอง ท่ีคนหนึ่งคนใดจะรับการสนับสนุนจากทานเปาโล เพื่อประพฤติช่ัวเชนนั้นได บรรดาคนที่บิดเบือนคําของทานเปาโลยอมดีความพระธรรมตอนอื่น ๆ ผิดไปดวย ผูอานทั้งหลายควรจะท้ิงเลหกะเทหเชนนี้ และมีใจม่ันคงอยูในความเช่ือและการกระทําของคริสเตียน และ “เจริญข้ึนในพระคุณและในความรูซ่ึงมาจากพระเยซูคริสตองคพระผูเปนเจา พระผูชวยใหรอดของเรา” (2 เปโตร 3:14-18)

วันเวลาที่เขียนจดหมายเปโตรฉบับสองจะอยูตอนตน ๆ ไมได ถาเปรียบเทียบอยางระมัดระวังระหวาง 2 เปโตร ฉบับท่ี 2 กับยูดาห แสดงใหเห็นวาขอความสองแหงนี้เกี่ยวพันกันและของยูดาหมีมากอน และโดยวิธีเขียนในยุคนั้น เปโตรฉบับสองไดเอาเนื้อหาเหลานี้มาใช คือ เนื้อหาท่ียูดาหใหเสนอเอาไวกอนแลว

มีความจริงอ่ืน ๆ ท่ียืนยันวาจดหมายน้ีเขียนในสมัยหลัง ๆ ดูเหมือนวาบรรดาจดหมายของทานเปาโลมิใชวารวบรวมเอาไวเทานั้น แตยังรับกันแลววาเปนจดหมายท่ีถือหลักฐานแลวดวย เพราะเม่ืออางถึงแลวผูเขียนไดกลาววา “ขออ่ืนในพระคัมภีร” (2 เปโตร 3:16) ขอนี้สอใหเห็นวาจดหมายฉบับอ่ืนเปนพระคัมภีรดวย เปนสถานการณภายหลังท่ีทานเปาโลส้ินชีวิตไปหลายสิบปแลว ในสมัยของทานเปาโลคําวา “พระคัมภีร” เล็งถึงพันธสัญญาเดิม อีกประการหน่ึงคําโอดครวญท่ีวาวันส้ินโลกน้ันยังไมมาถึงสักทีก็ยอมแสดงวาตองเปนเวลาในยุคหลัง ๆ (2 เปโตร 3:4) ความเขาใจท่ีวาจดหมายนี้เขียนในสมัยหลัง ๆ มีขอสนับสนุนอีกขอหนึ่ง คือไมมีผูเขียนท่ีเปนคริสเตียนคนใดในโบราณกาลกลาวถึง

เปโตรฉบับสองเลยจนถึงสมัยศตวรรษท่ีสาม มาถึงคราวน้ีคริสตจักรจึงคอยยอมรับจดหมายฉบับนี้อยางชา ๆ

ท้ังหมดนี้หมายความวาในเม่ือทานเปโตรส้ินชีวิตคราวเดียวกับท่ีทานเปาโลส้ินชีวิต หรือใกล ๆ เวลานั้นทานจะเขียนจดหมายฉบับนี้ไมไดคริสเตียนรุนหลังคนหนึ่งท่ีหวงใยมากมาย ในเร่ืองความหละหลวมทางศีลธรรมท่ีคุกคามทางคริสตจักร ไดเขียนจดหมายฉบับนี้ข้ึน เพราะเปนคนนิยมทาน

179

Page 180: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

เปโตรและเช่ือวาถาทานเปโตรยังมีชีวิตอยู ทานเปโตรคงจะไดพูดอยางเดียวกันนี้ นี่อาจเปนเวลาระหวาง ค.ศ. 100-150 ก็ได หรือจะเนิ่นกวานี้สักเล็กนอยก็ไดเหมือนกัน

มาตรฐานทางศีลธรรมของคริสเตียน

ยูดาหและเปโตรฉบับสองใหความแนใจความจริงท่ีวาการดําเนินชีวิตทางศีลธรรมอยางเท่ียงตรงเปนสวนสําคัญในชีวิตคริสเตียน พึงแนใจวา พันธสัญญาใหมท้ังส้ิน และพันธสัญญาเดิมดวย สอนวาชีวิตท้ังส้ินของมนุษยข้ึนอยูกับพระเจา แตจดหมายสองฉบับนี้เขียนข้ึนเม่ือความหละหลวมทางศีลธรรมกําลังพยายามจะใหเปนท่ีนิยมนับถือกันในคริสตจักร จึงเปนการถูกตองแลวท่ีจะเนนถึงความจําเปนของการดําเนินชีวิตอยางสะอาดและอยางบริสุทธ์ิ

คริสตจักรตองการการตักเตือนอยางแจมแจงเชนนี้อยูเสมอ เพราะคริสตจักรสอนวาพระเจาทรงประทานอภัยบาปใหเปลา ๆ และสอนวาคนเราจะขวนขวายหาพระคุณของพระเจาเอาเองไมได บางคนอาจคิดวาพระเจาไมสนพระทัยวาเขาจะดําเนินชีวิตอยางไร เขาท้ังหลายจะคิดวาอิสรภาพของคริสเตียนก็คืออิสรภาพท่ีจะทําอะไร ๆ ไดตามใจชอบ ดํารงชีวิตอยางปลอยอําเภอใจ ปลอยรางกายใหเปนไปตามความพอใจของตนแตอยางนี้ไมใชอิสราภาพของคริสเตียน อิสรภาพที่พระเจาทรงประทานใหนั้นเปนอิสรภาพจากการดําเนินชีวิตใตทรราช การเอาตัวเองเปนหลักและการปลอยตัวอยางไรระเบียบเปนอิสรภาพท่ีจะกระทําความชอบธรรม เปนอิสรภาพท่ีจะถวายตัวท้ังส้ินในการปรนนิบัติพระเจาและชวยเหลือเพ่ือนมนุษย ยูดาหและเปโตรฉบับสองตักเตือนเราวา คําสอนใด ๆ ท่ีสงเสริมความหละหลวมทางศีลธรรม ไมเปนคําสอนฝายคริสเตียน ไมมีชีวิตใดเปนชีวิตคริสเตียนในเม่ือชีวิตนั้นพอใจกับความสํามะเลเทเมาและการปลอยตัว

แนะการอาน อานจดหมายแตละฉบับใหจบในคร้ังเดียว จงเปรียบเทียบยูดาห 4-23 กับเปโตรฉบับสอง บท 2 อยางถวนถ่ี เพื่อใหเห็นวาจดหมายท้ังสองฉบับมีถอยคําและแนวความคิดเหมือนกันมากนอยเทาใด กี่คํา กี่ขอ

ขอพระธรรมท่ีนาสังเกตเกี่ยวกับการดําเนินชีวิตคริสเตียน คือ ยูดาห 20,21,24,25 ; เปโตรฉบับสอง 1:3, 5-8, 11, 21; 3:9, 13, 18

180

Page 181: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

21บทที่ 22 จดหมายสามฉบับของยอหน

ความเช่ือท่ีแทนําไปสูการดําเนินชีวิตท่ีถูกตอง ผูเขียนพันธสัญญาใหมทุกคนย้ําในความจริงขอนี้ ตัวอยางทานเปาโล มิใชจะเพียงเสนอพระคุณของพระเจาในพระคริสต แตยังหวังใน “ผลของพระวิญญาณ” ในชีวิตประจําวันดวย จดหมายของทานยากอบกลาววา “ความเช่ือถาปราศจากการประพฤติตามก็ตายแลว” ในพระธรรมยูดาหและเปโตรฉบับสอง เราก็ไดพบอีกเหมือนกันถึงการย้ําอยางแข็งขันในความเกี่ยวของอันใกลชิดระหวางความเช่ือและการกระทํา

ความจริงอยางเดียวกันนี้ปรากฏออกมาในจดหมายสามฉบับของยอหน จดหมายเหลานี้เขียนข้ึนในเมืองเอเฟซัสหรือท่ีใกลเมืองนี้ ในปลายศตวรรษที่หนึ่ง จดหมายเหลานี้โจมตีการสอนเท็จและผูนําท่ีเปนภัยตอสวัสดิภาพของคริสตจักร ความยุงยากลําบากไมใชการผิดศีลธรรมอยางไมละอายซ่ึง ยูดาหและเปโตรฉบับท่ีสองไดประณามไวอยางแข็งขันแตก็ยังมีแนวความคิดเหมือนกัน คือชีวติฝายกายและความจงรักภักดีฝายวิญญาณจิตแยกจากกันอยางเด็ดขาด นี่เปนเบ้ืองหลังของความยุงยากลําบากใหมนําไปถึงการสอนเท็จในเร่ืองพระคริสตซ่ึงกระทําใหมีการแตกแยกกันในคริสตจักร ยังผลความผิดใหญ ๆ ส่ีประการใหเกิดข้ึนในเร่ืองความคิดและชีวิต

เพื่อจะตอสูความผิดเหลานี้คริสเตียนผูนําคนหนึ่งท่ีตื่นตัวไดเขียนจดหมายท้ังสามฉบับของยอหน ทานมิไดกลาวถึงช่ือของทานเองเลย แตภาษาและลีลาของการเขียนกับแนวความคิดท้ังตํานานของคริสตจักรในโบราณ แสดงวาเปนคนเดียวกันนั้นท่ีเขียนจดหมายท้ังสองฉบับ และทานผูนี้ไดเขียนกิตติคุณยอหนดวย ทานเรียกตัวทานเองสองคร้ังวาเปน “ผูปกครอง” (2 ยอหน 1:3 ยอหน 1) โดยความจริงอันนี้ท่ีทานใชช่ืออยางนี้และไมตองการใชช่ือของทานเองแสดงวาทานเปนผูนําท่ีสําคัญคนหนึ่ง ทานออกปากกลาวคําตักเตือนท่ีตองการอยูนั้นใหระวังแนวความคิดเท็จซ่ึงกําลังขูเข็ญคริสตจักรอยูนั้นได และทานใหเร่ืองราวตามความจริงไดอยางชัดเจนฉะนั้นจึงไมมีชองใหแนวความคิดเท็จคงอยูได

“พระเยซูคริสตไดเสด็จมาเปนมนุษย”

ประการแรกมีบางคนสอนวาพระเยซูทรงเสด็จมารับชาติเปนมนุษย วาพระองคไมเคยทรงรางของมนุษย ถาสรรพส่ิงท้ังปวงเปนความช่ัวท้ังส้ิน ไมมีอะไรฝายโลกจะอํานวยประโยชนแกชีวิตคริสเตียนได ถาเปนอยางนี้มือพระเยซูทรงรางกายข้ึนมาก็จะลากพระองคลงไปสูความช่ัว ตามแนวคิดนี้ท่ีแสดงวาพระองคไมเคยทรงรางเนื้อหนังหรือโลหิตเลยก็กระทําใหพระองคพนจากตําหนิ เพราะฉะน้ันบางคนจึงสอนวา พระองค “ดูเหมือน” มีรางกายอยางของเราและดํารงชีวิตอยางเรา คําสอนอยางนี้เรียกวา “โดเซทิสม” (Docetism) มาจากภาษากรีกแปลวา “ดูเหมือน”

181

Page 182: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

แตคําสอนอยางนี้มีเจตนาจะปองกันพระเยซูใหพนจากการตําหนิและกระทําใหพระองคใหญยิ่งยิ่งข้ึน แตกลับไมสําเร็จตามความประสงคลัทธิความเช่ือนี้กระทําใหชีวิตฝายเนื้อหนังของพระองคเปนเร่ืองกุข้ึนและหลอกลวงไมเปนชีวิตจริง ไมเปนตัวอยางใหมนุษยดําเนินตามได กระทําใหมรณภาพของพระองคต่ําตอยลง และมรณภาพซ่ึงพระองคทรงรับเอาดวยความจงรักภักดีตอพระราชกิจของพระองคและเพ่ือประโยชนแกมนุษยกลับเปนการแสรงกระทําท่ีไมมีแกนสารอันใดเลย ฉะนี้เร่ืองในขาวประเสริฐทั้งส้ินจึงส้ินศูนยความหมายและไมเสนออะไรไดเลย

จึงไมแปลกอะไรเลยท่ีผูเขียนจดหมายเหลานี้ตอสูกับแนวความคิดอันไรคาอยางนี้ในเร่ืองพระคริสต “มีผูลวงหลายคนไดแพรหลายไปในโลกแลว คือคนท่ีไมรับวาพระเยซูไดเสด็จมาเปนมนุษย” (2 ยอหน 7) แตพวกสาวกรุนแรกไดยินไดเห็น และไดจับคลําองคพระเยซูตัวจริง ผูซ่ึงถึงแมวาพระองคทรงเปนพระบุตรของพระเจา พระองคก็ทรงดํารงชีวิตมนุษยจริง ๆ (1 ยอหน 1:1-3) คริสตจักรยอมนี้ท้ิงความจริงขอนี้ไมไดซ่ึงวาพระองค “ไดบังเกิดเปนเนื้อหนัง และอยูทามกลางเรา” มีชีวิตจริง ๆ ซ่ึง “อุดมดวยพระคุณและความจริง” (ยอหน 1:14) พระองคเสด็จมา “เพื่อจะไดกําจัดบาปของเราใหหมดไป และพระองคไมมีบาปเลย (1 ยอหน 3:5)

ท่ีจริงตรงนี้เองเปนสวนหน่ึงของกําลังแหงขาวประเสริฐอันไมซํ้าแบบใคร ศาสนาอ่ืน ๆ มีเร่ืองนิยายอันเกี่ยวกับการกระทําของพระเจาของเขา แตส่ิงอยางนั้นไมไดเกิดข้ึนจริง เม่ือเปรียบกันแลว ขาวฝายคริสเตียนบอกกลาวถึงองคพระผูเปนเจาองคหนึ่งผูทรงดํารงชีวิตจริง และ “พระองคไดทรงถูกทดลองเหมือนอยางเราทุกประการ ถึงกระนั้นก็ยังปราศจากบาป” (ฮีบรู 4:15) ตัวอยางอันดีและชัยชนะทางศีลธรรมของพระเยซูนี้เปนฤทธ์ิเดชและคําเสนออยูแลว ทาน “ผูปกครอง” ทราบตรงน้ีวาคริสตจักรมีความจริงท่ีพระเจาทรงประทาน “วิญญาณท้ังปวงท่ียอมรับวาพระเยซูคริสตไดเสด็จมาเปนมนุษย วิญญาณน้ันก็เปนมาจากพระเจา” (1 ยอหน 4:2)

“พระองค...ก็จะทรงโปรดยกบาปโทษของเราและจะทรงชําระเรา”

ความผิดประการที่สองของพวกคริสเตียนท่ีถูกนําไปผิดทางคือการขาดความรูสึกวาตนมีบาป ชะรอยนี่จะเปนอีกเร่ืองหนึ่งท่ีเนื่องมาจากความคิดท่ีวาชีวิตฝายการไมมีการเกี่ยวพันกับความเช่ือของคริสเตียน วาส่ิงท่ีเกิดในรางกายทําอันตรายชีวิตฝายวิญญาณจิตไมได แนทีเดียวท่ีผูเขียนสังเกตเห็นวาบางคนรูสึกกวาไมตองการอภัยโทษ

คนอยางนี้สรุปความงายเกินไป เราตองรับผิดชอบตอส่ิงท่ีเราไดกระทําลงไป ความรับผิดชอบของเรามิไดครอบคลุมเพียงความคิดและจุดประสงคแหงจิตใจของเรา (และตรงน้ีใครบางท่ีไมผิดเลย) แตคลุมการกระทําฝายกายของเราและความสัมพันธทางสังคมดวย เราอาจลอลวงตัวเราเองได แตเราจะลอลวงพระเจาไมได “ถาเราท้ังหลายจะวาเราไมมีบาป เราก็ลวงตนเอง และสัจจะไมไดอยูในเราเลย ถา

182

Page 183: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

เราสารภาพบาปของเรา พระองคทรงสัตยซ่ือและเท่ียงธรรม ก็จะทรงโปรดยกบาปโทษของเรา และจะทรงชําระเราใหพนจากการอธรรมท้ังส้ิน ถาเราวาเราไมไดทําบาปก็เทากับเราทําใหพระองคเปนผูตรัสมุสา” (1 ยอหน 1:8-10)

“เราควรจะรักซึ่งกันและกัน”

ยังมีความผิดรายแรงประการที่สาม คือวาบุคคลที่เช่ือในตนเองเหลานี้รูสึกวาตนเช่ืองกวาคริสเตียนคนอ่ืน ๆ เพราะความเยอหยิ่งของเขาเขาคิดวาคริสเตียนสามัญอ่ืน ๆ ต่ําตอยอยางนาเศราใจ เพราะฉะน้ันเขาจึงไมรักเพื่อนคริสเตียนดวยกันแตดูถูกเขา ดูเหมือนมีบางคนถอนตัวออกไปจากคริสตจักรเพื่อจัดต้ังพวกของตัวข้ึนเอง เขาคิดวาเขาดีเกินกวาท่ีจะนมัสการ รับประทาน และอยูกับคริสเตียนสามัญท้ังหลาย (1 ยอหน 2: 19)

ผูปกครองไดคัดคานอยางสุดกําลังของเขาตอความเยอหยิ่งท่ีแบงพวกแบงหมูอยางนี้ ธรรมชาติแท ๆ ของคริสเตียนก็คือความรัก ความรักนี้สะทอนใหเห็นความรักขององคพระเจาท่ีเดียว “ความรักเปนมาจากพระเจา... โดยขอนี้ความรักของพระเจาจึงไดปรากฏทามกลางเราท้ังหลายคือวาพระเจาไดทรงใชพระบุตรองคเดียวของพระองคเขามาในโลก เพื่อเราท้ังหลายจะไดชีวิตโดยพระบุตรนั้น” จากพระองคเราเรียกท่ีจะมีชีวิตอยู “พวกท่ีรักเอย ถาพระเจาไดทรงรักเราท้ังหลายเชนนั้น ก็ควรเราจะรักซ่ึงกันและกันดวย... ถาผูใดวา “ขาพเจารักพระเจา” และใจยังเกลียดชังพี่นองของตัว ผูนั้นเปนคนพูดมุสา...ใหคนท่ีรักพระเจารักพี่นองของตนดวย” (1 ยอหน 4:7, 9, 11, 20, 21)

ผูที่กระทําการดีก็เปนคนของพระเจา”

ความผิดประการท่ีส่ีซ่ึงผูปกครองเปดเผยคือ การเนนความรูมากเกินไป และเนนไมพอในเร่ืองการกระทําตามน้ําพระทัยของพระเจา ท่ีจริงคนเราก็ไมมีใครที่จะรูมากเกินไปได แตเราอาจจะเนนขอเท็จจริงและแนวความคิดมากมายจนดูเหมือนส่ิงท่ีเราเรียกวาความรูนั้นก็เพียงพอ ถาเรากระทําอยางนั้นเราก็พลาดจากความสําคัญอยางใหญหลวงคือมิไดเนนการกระทําส่ิงท่ีพระเจามีพระประสงคใหมนุษยกระทํา มนุษยเรามิไดรอดเพราะเพียงแตรูความจริงดั่งกฎการปกครองของคริสตจักรเพรสไบทีเรียนกลาววา “ความจริงเพื่อความดี” ความจริงมีอยูเพื่อความดี ตองเอาความจริงประกอบเขากับชีวิตเพื่อความจริงจะกระทําส่ิงท่ีพระเจาทรงเจตนาใหกระทํา “อยาเอาเยี่ยงที่ช่ัว แตจงเอาเยี่ยงที่ดี ผูท่ีกระทําการดีก็เปนคนของพระเจา ผูท่ีกระทําการช่ัวก็เปนผูท่ีไมไดเห็นพระเจา” (3 ยอหน 11)

ไมมีทางแหงชีวิตทางอ่ืนท่ีมีอนาคตอันแทจริง “ผูท่ีประพฤติตามพระทัยพระเจาจะอยูเปนนิตย...คนใดไมไดประพฤติ และไมไดรักพี่นองของตนคนนั้นก็ไมไดบังเกิดมาจากพระเจา....อยาใหเรารักเพียงแตดวยถอยคําและวาจาเทานั้นแตใหเรารักดวยการกระทําและดวยความจริง” (1 ยอหน 2: 17; 3:10,

183

Page 184: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

18) ผูเขียนมิไดบอกละเอียดอยางกับท่ีพระเยซูตรัสหรือท่ีทานเปาโลกลาววาการกระทําตามน้ําพระทัยของพระเจานั้นคืออยางไร แตทานไดย้ําส่ิงใหญยิ่งส่ิงหนึ่งท่ีคนเยอหยิ่งขาดไป ทานเรียกรองเขาท้ังหลายใหแสดงความรักอันแทแกเพื่อนคริสเตียนดวยกัน

จดหมายท่ัว ๆ ไป

จดหมายฝากฉบับตนของยอหนยาวกวาจดหมายฝากสองฉบับท่ีถัดไป จดหมายน้ีมิไดตั้งตนหรือจบลงอยางธรรมดาจดหมายท้ังหลาย หรือมีคํานําเจาะจงไปถึงคริสตจักรทองถ่ินใดทองถ่ินหนึ่ง แตกลาวอยางท่ัว ๆ ไป ถึงความจริงอันสําคัญของคริสเตียน ซ่ึงผูนําของคริสตจักรจะลอกแบบได และนําไปใชในท่ีไหน ๆ ซ่ึงคริสเตียนปฏิเสธความเปนมนุษยแทของพระเยซูและท่ีขาดการแสดงความรักฉันพี่นอง

จดหมายนี้แถลงวาพระบุตรของพระเจาไดเขามาสูชีวิตมนุษยแท ๆ และทรงมรณาเพ่ือมนุษย และแถลงวาการเสด็จมาและการมรณภาพของพระองคสําแดงถึงความรักของพระเจา และวาพระเยซูทรงอธิษฐานพระเจาอยูเร่ือยมาเพื่อผูท่ีเชื่อถืออยางจริงใจทุกคน (1 ยอหน 1: 7; 2: 1 2; 3: 5; 4:2, 10) แตก็กําชับดวยความเรงดวนเทา ๆ กันวาใหคริสเตียนรักพี่นองท่ีเช่ือถือทุกคน (1 ยอหน 4:20) ความสําคัญสองประการนี้รวมอยูในขอพระธรรมท่ีสรุปคําสอนของยอหนฉบับตนท่ีเสนอวา “นี่เปนพระบัญญัติของพระองค คือวาใหเราท้ังหลายวางใจในพระนามของพระเยซูคริสตพระบุตรของพระองค และใหเรารักซ่ึงกันและกัน ตามท่ีพระองคทรงบัญญติใหไวแกเราแลว” (2 ยอหน 3:23)

จดหมายท่ีมไีปถึงคริสตจักรทองถ่ิน

ยอหนฉบับสองกลาวเรืองท่ียอหนฉบับตนกลาวไวแลวนั้นในแบบท่ีส้ันกวา และเพิ่มความขอหนึ่งคือ คริสเตียนไมควรจะแสดงการตอนรับขับสูบรรดาผูท่ีเผยแพรคําสอนเท็จในเร่ืองพระคริสต บรรดาท่ีตอนรับครูท่ีสอนเท็จตองรับสวนในความรับผิดชอบในคําสอนอยางนั้นดวย (2 ยอหน 7-11)

เม่ืออานจดหมายคร้ังแรกควรจะเห็นวาเขียนไปถึง “ทานสุภาพสตรี... กับบุตรท้ังหลายของเธอ” อยางไรก็ตามคําพูดอยางนี้นาจะเปนคําพูดแบบหนึ่งท่ีหมายถึงคริสตจักรหนึ่งโดยเฉพาะและสมาชิกของคริสตจักรนั้นดวย แตจะเปนคริสตจักรไหนแนเราไมทราบ ถาเปนอยางนี้จริง ขอความตอนจบก็หมายวาคริสตจักรท่ีผูปกครองอยูเม่ือเขียนนั้นไดส่ังคําคํานับมายังคริสตจักรท่ีทานเขียนถึง

จดหมายท่ีเขยีนถึงคริสเตียนผูจงรักภักดี

จดหมายยอหนฉบับสามเก่ียวดวยปญหาของการเปนผูนํา เห็นประจักษวาผูปกครองมีอิทธิพลอยางกวางขวาง ทานไดส่ังส่ือขาวไปตามคริสตจักรตาง ๆ เพ่ือชวยเหลือ พวกคริสเตียนยังเปนชนกลุม

184

Page 185: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

นอยอยู การจัดคริสตจักรก็ยังไมเปนรูปท่ีแนนอน ไมมีหนังสือของคริสตจักรท่ีบอกขาวคริสเตียนในท่ีอ่ืน ๆ เพื่อผูกพันบรรดาคริสตจักรเขาดวยกันแทนท่ีจะเปนอยางนี้ก็มีพวกผูนําซ่ึงทองเท่ียวและพวกผูชวยของผูนําเหลานี้ออกไปกระทําใหคริสตจักรยึดเหนี่ยวกันไวใหรวมเปนอันเดียวกันในความสนใจและในเร่ืองความมีน้ําใจ จดหมายที่มีไปจากผูนําก็ชวยในทํานองนี้ดวย อยางจดหมายของทานเปาโลก็พิสูจนใหเห็นความจริงขอนี้แลว ผูปกครองก็เชนเดียวกับทานเปาโล ไดสงผูส่ือขาวและเขียนจดหมายฝากไปตามคริสตจักรเหลานั้น

แตมีในคริสตจักรหนึ่ง ชะรอยจะเปนคริสตจักรในอาเซียไมเนอรท่ีการนําของผูปกครองนี้ถูกขัดขวาง ปรากฏวาดิโอเทรเฟซ่ึงดูเหมือนจะเปนหัวหนาคนหนึ่งในคริสตจักรนั้น ปกใจจะใหคริสตจักรของเขาเปนเอกเทศไมยอมอยูใตอิทธิพลของผูปกครอง เขาไมตองรับคริสเตียนผูแทนของผูปกครองท่ีเดินทางผานมา แลวก็หามคริสเตียนทุกคนตอนรับเขาอีกดวยถาคนใดฝาฝนดิโอเทรเฟรก็ขับไลคนนั้นออกจากคริสตจักรเสีย ดั่งท่ีผูปกครองกลาววา เขา “อยากจะเปนคนใหญคนโตในจําพวกเขานั้น” (3 ยอหน 9)

เพื่อจะยับยั้งความทะเยอทะยานและวิธีเผด็จการของดิโอเทรเฟรทานผูปกครองไดเขียนจดหมายถึงเพื่อนของทาน ช่ือ กาโย สมาชิกคริสตจักรเดียวกับดิโอเทรเฟ เปนคนมีช่ือเสียงวาเปนคริสเตียนท่ีดี (3 ยอหน 3) ใหเขาเปนเพื่อนกับผูส่ือขาวของทาน ปรากฏวา เดเมทริโอ เปนคนถือจดหมายหรือชวยงานของทานผูปกครองอยางใดอยางหนึ่ง (3 ยอหน 12)

ดิโอเทรเฟคงจะคิดวาการมีผูนําในทองถ่ินท่ีเขมแข็งเปนส่ิงท่ีดีแกคริตสจักรยิ่งกวามีผูนําท่ีอ่ืนแลวมาเยี่ยมเปนคร้ังคราวและมีจดหมายสงมาแตทานผูปกครองอาจมีเหตุผลท่ีพาใหสงสัยวาเบ้ืองหลังของการต้ังตัวเปนศัตรูของดิโอเทรเฟนั้นก็คือดิโอเทรเฟเอ้ืออารีคําสอนเท็จนั้นเปนมูล ฉะนั้นทานจึงหวังวาจะเดินทางมาเยี่ยมเม่ือไดสงจดหมายมาแลว ทานไมรับใชคริสตจักรนี้เชนเดียวกับคริสตจักรอ่ืน ๆ และทานอยากใหความจงรักภักดีตอพระคริสตดํารงอยู ท้ังใหมีความรักเพื่อนคริสเตียนดวยกัน และใหมีการดําเนินชีวิตคริสเตียนอยางสมํ่าเสมอซ่ึงเปนเคร่ืองหมายของการเปนสาวกท่ีแท

ครอบครัวของความเชื่อ

จดหมายท้ังสามฉบับนี้มีใจความเร่ืองตรงกันคือ มิตรภาพของคริสเตียน เราท้ังหลายมีมิตรภาพกับพระเจาพระบิดาโดยทางพระเยซูคริสต (1ยอหน 1 : 3) เปนโอกาสของเราท่ีจะรูจักพระองค มิใชเทานี้แตท่ีจะเชื่อถือพระองค วางใจในพระองค ปฏิบัติพระองค ดวยการนมัสการและดวยชีวิต

เรามีมิตรภาพกับเพื่อนคริสเตียนดวยกันในคริสตจักรทองถ่ินของเรา ผูใดท่ีคิดวาตัวเองเปนคนดีเกินท่ีรวมนมัสการและรวมความชวยเหลือกันก็เปนคนมีแนวคิดแปรง ๆ ในเร่ืองตัวเอง และเขาไมเขาใจถึงความดีท่ีมีมาจากคนอ่ืน ๆ ทุกคนไมใชคนดีรอบคอบ แตวาเม่ือทุกคนแสวงหาพระคุณและ

185

Page 186: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

ความอุปถัมภจากพระเจา ตางคนตางก็ชวยกันและกัน และตางก็ตองการกันและกัน มูลฐานของความคิดสุขุมรอบคอบเห็นการณไกลมิใชการละเลยพวกทองถ่ิน แตเปนการรวม ทุกขรวมสุขดวยความภักดีในวงคริสเตียนแหงทองถ่ินนั้น

เรามีมิตรภาพกับคริสเตียนอ่ืน ๆ ในโลก เราจะติดตอกับเขาไดอยูเสมอดวยจดหมายและขอเขียนตาง ๆ ดวยความเห็นอกเห็นใจและดวยความคิดคํานึง โดยอธิษฐานเพื่อเขาและฝายเขาก็อธิษฐานเพ่ือเราเปนส่ิงทัดเทียมกัน คริสตจักรทองถ่ินไมใชเกาะโดดเดียวอยูในทะเลแหงความเปล่ียวเปลา แตเปนสมาชิกของสากลภราดรภาพ ซ่ึงมีความเชื่ออยางเดียวกันอันใหความกลาหาญและกําลังเร่ียวแรงแกทุกคน ในเม่ือเขาทํางานดวยกัน เพื่อจะรับใชองคพระผูเปนเจารวมกัน

แนะการอาน ในการอานยอหนฉบบตน ขอสังเกต (1) ผูปกครอง พูดอะไรเร่ืองพระเยซูคริสต (2) ทานกลาวเร่ืองบางวากระไร และพระคริสตทรงกระทําอะไรเร่ืองบาปของเรา (3) ทานพูดอยางไรเร่ืองความจําเปนแหงความรักฉันพี่นอง (4) ทานกลาวเร่ืองความจําเปนเด็ดขาดในการกระทําตามน้ําพระทัยพระเจาอยางไร

ขอพระธรรมสําคัญท่ีตองศึกษา คือ 1 ยอหน 1: 5 ถึง 2:6; 3:11-18; 4:7-21; 5:1-5, 11-13) ทานไดภาพคริสตจักรชนิดใดจากจดหมายยอหนฉบับสอง ถา “ทานสุภาพสตรีท่ีทรงเลือกไว

นั้นกับบุตรท้ังหลายของเธอ” หมายถึงคริสตจักรทองถ่ินและสมาชิกท่ีผูปกครองไดเขียนจดหมายถึง และ “นองสาวกของทานท่ีทรงเลือกไว” (2 ยอหน 13) หมายถึงคริสตจักรท่ีผูเขียนอยู

ในจดหมายยอหนฉบับสาม ผูปกครองสรรเสริญ กาโย และตําหนิดิโอเทรเฟเพราะเหตุใด

186

Page 187: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

22บทที่ 23 พระธรรมวิวรณ

คริสตจักรเผชิญกับความปราชัยหรือ มีการโจมตีอยางดุรายหลายครั้งท่ีทดลองใหคริสเตียนถามอยางนี้ บางคราวก็มีการขมเหงและบางคราวมีการทดลองอยางฉลาดของรัฐเพ่ือใหคริสตจักรตามความประสงคทางการเมือง เหลานี้กระทําใหงานของคริสเตียนถูกคุกคาม

คําถามแรกนําไปสูคําถามอ่ืน คือ พระเจาทรงเผชิญกับความพายแพหรือ ในท่ีสุดพระราชกิจของพระคริสตจะลมเหลวหรือ ความช่ัวจะมีชัยหรือไม ความดีจะตองถูกทําลายลงหรือ ขาวประเสริฐเร่ืองพระประสงคในการของพระเจาและฤทธ์ิเดชของพระองค ในท่ีสุดจะปรากฏวาเปนการหลอกลวงหรือ

มหาจักรพรรดิเปนพระเจาหรือเปลา

นานมาแลวคริสตจักรเผชิญกับการทดสอบความเช่ือในชัยชนะของพระเจา ตอนปลายศตวรรษท่ีหนึ่งพวกคริสเตียนเผชิญกับวิกฤติกาล มีคําบัญชาวาใหประชาชนในอาณาจักรโรมนมัสการ

มหาจักรพรรดิ การนมัสการนี้ไดจัดข้ึนดวยความรอนใจในอาเซียไมเนอร ท่ีนั่นมีวิหาร ปุโรหิต และพิธีการพิเศษ เปนการแสดงความรักชาติอยางเขมขน แตก็เลยเถิดไปวามหาจักรพรรดิเปนพระเจา ฉะนั้นจึงตองนมัสการทานเปนพระเจา

บางแหงก็นับถือแนวคิดอยางนี้มาแลวนับเปนสิบ ๆ ป เม่ือมหาจักรพรรดิไดมรณาแลวตางก็ประกาศวามหาจักรพรรดินั้น ๆ เปนพระเจาพลเมืองของโรมบางคนก็ถวายเกียรติวามหาจักรพรรดิเปนเชนนั้น แมวามหาจักรพรรดินั้น ๆ ยังมีชีวิตอยู มีมหาจักรพรรดิแรก ๆ ทานเกือบจะใหมีการประหารพวกยิวเปนการใหญ เพราะพวกยิวไมยอมนมัสการทานตามที่ทานบัญชา เพราะเขาเช่ือในพระเจาองคเดียว ทานรับส่ังใหตั้งรูปหลอของทานข้ึนในวิหารที่กรุงเยรูซาเล็ม และพวกยิวก็พรอมท่ีจะยอมตายกอน แตโชคดียังเปนของพวกยิวและของราชอาณาจักร คาลิกูลาไดมรณาเสียกอนท่ีจะกระทําการนั้น แลวแผนงานนี้ก็ลมเลิกไป

ไมมีมหาจักรพรรดิใดอีกท่ีจะอางตนอยางสุดจะกลาวเชนนี้จนมาถึงมหาจักรพรรดิโรมีเชียน (ค.ศ. 81-96) ตอนปลายรัชกาลของทานดูเหมือนทานไดสนับสนุนใหราษฎรนมัสการทานวาเปนพระเจา ทานชอบใหเขาเรียกทานวา “พระเปนเจาและพระเจา” แทจริงสุดยอดแหงกิตติคุณของยอหนซ่ึงชะรอยเขียนไวในรัชการของโดมีเชียน อาจเปนการคัดคานอยางจังตอขออางของมหาจักรพรรดิก็ได ในยอหน 20:28 โธมาไดรองข้ึนเม่ือเห็นพระคริสตผูคือพระชนมวา “องคพระผูเปนเจาของขาพระองคและ

187

Page 188: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

พระเจาของขาพระองค” องคพระผูเปนเจาท่ีพวกคริสเตียนถวายเกียรติวาเปนพระเจานั้นคือพระคริสต ไมใชโดมีเชียน

สําหรับพวกท่ีข้ึนแกโรมเปนอันมาก เม่ือไดยินคําอางของมหาจักรพรรดิก็ไมมีปญหาอะไรเกิดข้ึน เพราะเขาเคยนมัสการพระเจาหลายองคอยูแลวจะเพิ่มข้ึนอีกสักองคหนึ่งเขาก็นมัสการไดไมยาก ฝายคนอ่ืน ๆ ก็ไมยึดถือคําอางอิงนี้เครงครัดนัก ในสหพันธการชางตาง ๆ ในนครและในประเทศท่ีเขาอยูกับนั้นเขาเห็นคนนมัสการพระเจาแปลก ๆ เขาถือเสียวาเร่ืองอยางนี้การกระทําตามพิธีเทานั้น และถือเสียวาเปนหนาท่ีการกระทําของสังคมเขาไมเช่ือถือในพระเจาเหลานั้นอยางจริงจังเทาใด

“เราท้ังหลายมีพระเจาองคเดียว”

พวกคริสเตียนจะนมัสการมหาจักรพรรดิหรือพระตางศาสนาอ่ืน ๆ ไมได หรือเขาจะยอมทําไปตามพิธีในลัทธินั้น ๆ ก็ยอมไมไดเหมือนกัน เขาท้ังหลายพรอมอยูท่ีจะนับถืออํานาจการปกครอง และเขาท้ังหลายก็อธิษฐานเพื่อผูปกครองเหลานั้น (โรม 13: 1-7; 1 ทิโมธี 2:1, 2) แตเขาท้ังหลายจะนมัสการหรือแสรงนมัสการผูครอบครองวาเปนพระเจาไมได “แตวาเราท้ังหลายมีพระเจาองคเดียวคือพระบิดา และส่ิงสารพัดท้ังปวงบังเกิดข้ึนจากพระองค และเรามีพระเยซูคริสตเจาองคเดียวและส่ิงสารพัดท้ังปวงก็บังเกิดข้ึนโดยพระองค และเราก็เปนมาโดยพระองค” (1 โครินธ 8:6)

เนื่องดวยทาทีท่ีไมยอมอะลุมอลวยนี้เองเขาท้ังหลายจึงถูกโจมตีเขาถูกหาวาเปนคนไมรักชาติ ประชาชนก็ประกาศวา ชาวโรมท่ีรักชาติจะรับความเช่ือของพวกคริสเตียนไมได และโรมก็ไมควรยินยอมผอนผันให (กิจการ 16: 20) บางทีพวกคริสเตียนก็ถูกประณามวาเปนศัตรูของสังคม ทุก ๆ พวกในชีวิตสังคม ธุรกิจ และการเมือง มีพระเจาองคอุปถัมภ และความเช่ือใหมนี้เรียกรองคนใหละท้ิง “รูปเคารพกลับมาหาพระเจา เพื่อปฏิบัติพระเจาเท่ียงแทผูทรงพระชนมอยู” (1 เธสะโลนิกา 1:9) ตอมาอีกไมนานพวกคริสเตียนก็ถูกเรียกวาเปนพวกไมมีพระเจา พวกเราคงรูสึกแปลก แตในโลกสมัยโบราณนั้นการเชื่อถือพระเจา หมายถึงการเขาสวนกับประชาคมในการนมัสการพระเจาตางศาสนาท้ังหลาย และส่ิงนี้คริสเตียนกระทําไมได

พวกศัตรูของคริสเตียนในสมัยเร่ิมแรกไมใชคนตาบอด เขาท้ังหลายเห็นวาถาเขารับความเช่ือของพวกคริสเตียน เขาจะตองเปล่ียนแปลงมากมายในทางชีวิต การเมือง ธุรกิจ และสังคม เทาท่ีเขาทราบ เขาจะตองตัดขาดไมนมัสการมหาจักรพรรดิ ไมยอมรับพระตางศาสนาของนคร ของสหพันธการชาง ของสังคม และเลิกการนมัสการรูปเคารพ ยิ่งกวานั้นอีกความเช่ือของคริสเตียนยังตองการใหเขาคิดเร่ืองหนาท่ีและความสัมพันธแหงชีวิตของเขาเสียใหม ทุกอยางจะตองเกี่ยวโยงกับพระเจาองคเดียวและพระคริสตของพระองค ชีวิตของมนุษยทุกดานกลายเปนหนาท่ีของมนุษยท่ีพึงกระทําตอพระเจาองคเดียว มนุษยตอนรับพระคริสตท่ีไหน ท่ีนั่นชีวิตมีศูนยกลางและมาตรฐานอยางใหมซ่ึงจะนําใหเกิดการ

188

Page 189: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

เปล่ียนแปลงอยางมากในระบอบปกครองในธุรกิจและในสังคม พวกศัตรูของคริสเตียนในยุคเร่ิมแรกรูเร่ืองนี้ ฉะนั้นท่ีเขาควรจะเช่ือในพระคริสตเขากลับปฏิเสธ เพื่อแสดงวาการปฏิเสธของเขาสมเหตุสมผล เขารูสึกวาตองตอตานพวกคริสเตียน

ผลท่ีเกิดข้ึนก็คือการขมเหงพวกคริสเตียนอยางเปดเผย ตั้งแตวันแรก ๆ แหงชีวิตคริสตจักรมาแลว ความดุรายไดเกิดข้ึนตามทองถ่ิน แตส่ิงเหลานี้มิใชเนื่องมาจากการกระทําอันเปนทางการของฝายเจาหนาท่ีของรัฐ แมวาใน ค.ศ. 64 เม่ือนีโรไดฆาพวกคริสเตียนเสียมากมายอยางดุรายท่ีกรุงโรมเพราะถูกกลาวหาผิด ๆ วา พวกคริสเตียนเผานคร เทาท่ีเราทราบทานนีโรก็มิไดขยายการขมเหงออกไปในทองถ่ินอ่ืน ๆ แตในสมัยของทานโดมีเชียนการขมเหงแผกวางกวานั้น ท่ีรายท่ีสุดในอาเซียไมเนอร คริสเตียนผูซ่ือสัตยคนหนึ่งช่ือ อันท่ีพา ถูกประหารชีวิตที่เมืองเพอรกาโม (วิวรณ 2: 13) นิมิตเร่ือง “คนท้ังหลายท่ีถูกฆาเสียแลวเพราะพระวจนะของพระเจาและพระคําพยานท่ีเขาเช่ือถือนั้น” (วิวรณ 6:9) ช้ีวามีพวกคริสเตียนเปนอันมากท่ีเราไมรูช่ือรับทุกข เม่ือตองเผชิญกับการเลือกวาจะยอมนมัสการ

มหาจักรพรรดิหรือยอมตาย เขาเลือกการตายแทนท่ีจะทรยศตอความเช่ือของเขา

ยอหนเขียนถึงคริสตจักรที่ถูกขมเหง

พระธรรมวิวรณเขียนข้ึนเม่ือมีการขมเหงในคราวนี้ ซ่ึงเทาท่ีเปนมาแลวก็อยูในวงจํากัด แตก็หนักไปในทางท่ีจะเปนแบบแผนและเปนเร่ืองท่ีจะเกิดข้ึนท่ัว ๆ ไป ปรากฏวาทานผูเขียนคือยอหนไดทนทุกขเพราะความเช่ือมาบางแลว ทานอยู “ท่ีเกาะพัธโม เพราะเนื่องดวยพระวจนะของพระเจาและเนื่องดวยเปนพยานฝายพระเยซู” (วิวรณ 1:9) นี่หมายวาทานไปท่ีนั่นเพื่อประกาศขาวประเสริฐก็ได แตตอมาอีกสองคร้ังทานใชสํานวนอยางเดียวกันหมายถึงการขมเหง (วิวรณ 6:9; 20:4) ฉะนั้นจึงเปนไดวาทานถูกเนรเทศจากบานเมืองของทานในอาเซียไมเนอร เพราะเจาหนาท่ีท่ีนั่นขัดขวางการเทศนาของทาน ขณะท่ีทานอยูท่ีเกาะพัธโมนอกฝงตะวันตกของอาเซียไมเนอร ในราว ค.ศ. 95 และทานไดรับการดลใจใหเขียนจดหมายไปถึงคริสตจักรในอาเซียไมเนอร ดานตะวันตกซ่ึงกําลังถูกขูเข็ญอยู

ยอหนคนนี้คือใคร ตามตํานานโบราณท่ีสําคัญก็วาทานเปนยอหนอัครทูต ตํานานอีกอยางหนึ่งกลาววาอัครทูตยอหนถูกประหารชีวิตกอนนานแลว แตตํานานหลังนี้ก็ไมแนนอนนักจึงเปดทางใหกลาวไดวาทานยอหนอัครทูตไดเขียนจดหมายฉบับนี้ตอนท่ีทานชราแลว หลังจากอยูท่ีอาเซียไมเนอรหลายป โดยเปนผูนําของคริสเตียนท่ีนั่น ในพระธรรมทานผูเขียนกลาวเพียงวา ทานคือยอหนผูรับใชของพระคริสต เปนพี่นองของคริสเตียนชาวอาเซียไมเนอรผูตองทนทุกข (วิวรณ 1: 1, 9)

ทานยอหนเขียนไปเพื่อจะเลาโลมใจและหนุนใจเพื่อนคริสเตียนท่ีถูกบีบค้ันอยางหนัก แตทานทราบอยูวาความชวยเหลือที่เขาตองการน้ันมิใชส่ิงท่ีมาจากมนุษย ทานเปนเพียงผูสนองโอษฐของพระเจาเทานั้น ผูอานจะตองวางใจในพระเจา พระเจาทรงประทานวิวรณแกทาน เปนขาวท่ีมีอยูในพระธรรม

189

Page 190: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

เลมนั้น (วิวรณ 1 :1) พระเจาทรงมีฤทธ์ิเดชและสิทธิอํานาจท่ีจะชวยมนุษยเปนความหมายของทัศนียภาพพิมพในในฟาสวรรค ซ่ึงในนิมิตทานยอหนเห็นพระเจาประทับบนพระท่ีนั่งของพระองคคอยรับการนมัสการและการสรรเสริญของบรรดาทูตนาทูตทุกช้ัน (วิวรณ บท 4) ความโออาตระการและฤทธ์ิเดชของพระเจาพระองคนี้เปนกําลังหนุนพวกคริสเตียนพระองคจะทรงอุปภัมถเขาทั้งหลายและไมมีผูใดพระองคยนยอในการท่ีจะชวยพวกเขาพระองคทรงเปน “ผูทรงฤทธานุภาพทุกประการ” (วิวรณ 1:8) ในพันธสัญญาใหมตอนอ่ืนท้ังหมดคํานี้มีใชคร้ังเดียว แตปรากฏเกาคร้ังในหนังสือนี้ ผูอานจะรูสึกปลอดภัยในออมอารักขาของพระเจาของเขา พระองคทรงมีฤทธ์ิซ่ึงไมมีผูใดมาตอตานไดสําเร็จ

ในพระราชกิจของพระเจาคร้ังนี้ พระเยซูทรงเปนองคศูนยกลางพระเจาทรงประทานวิวรณแกยอหนทางพระคริสต (วิวรณ 1: 1, 19) ภาพในฟาสวรรค (วิวรณ บท 5) พระเมษโปดกประทับอยูกลาง และทรงรับการเคารพสักการะพรอมกับพระบิดา แมกระท่ังจากพวกทูตสวรรคช้ันสูงท่ีสุดพระองคทรงส้ินพระชนมเพื่อมนุษย พระองคทรงกําฤทธ์ิเดชการปกครองคริสตจักรไวในพระหัตถของพระองค พระองคจะทรงกระทําใหฤทธ์ิเดชของความช่ัวพายแพไปและทรงดูแลบรรดาคนเหลานั้นท่ีทนทุกข “พระเมษโปดกท่ีทรงอยูตรงกลางพระท่ีนั่งนั้นจะอนุบาลเขาไว” (วิวรณ 7:17) พระองคเทานั้นท่ีทรงสามารถเปดหนังสือมวนเรื่องส่ิงท่ีจะเปนมาใหแกยอหน

พระบัญชาท่ีใหเขียนลงไวมาถึงยอหนเปนนิมิตจากพระคริสตผูทรงคืนพระชนม (วิวรณ 1: 9-20) พระองคทรงสําแดงพระองคแกยอหนตรัสบอกวาพระองคคือผูใดและทรงแนะนํายอหนใหเขียน “เหตุการณซ่ึงเจาไดเห็น และเหตุการณท่ีเปนอยูเดี๋ยวนี้กับท้ังเหตุการณซ่ึงจะมีมากมายหนานั้น” (วิวรณ 1:19)

นิมิตตอนเปดนี้แสดงใหเห็นลักษณะธรรมดาของพระธรรมเลมนี้มีภาพชัดเจนและมีสัญญาลักษณอยูเต็มไปหมด ในการบรรจุขาวไวในทํานองนี้เปนการเดินตามแบบอยางซ่ึงรูจักกันจากพันธสัญญาเดิมและจากหนังสือตาง ๆ ของพวกยิวในรุนหลัง หนังสืออยางนี้ปรากฏขึ้นในยามยากลําบากและในยามถูกขอเหง ชาวยิวผูเขียนหนังสือแบบนี้ใชภาษาละครและภาษาสัญญลักษณเพื่อเผยใหประจักษในพระประสงคของพระเจาในการที่ะทรงชวยชนชาติของพระองคในไมชานี้ หนังสืออยางนี้เขาเรียกกันวา “ประเภทวิวรณ” คือเปนหนังสือท่ีเปดใหเห็นหรือเผยส่ิงตาง ๆ ท่ีซอนอยูจากความรูสามัญของมนุษย หนังสือวิวรณเปนหนังสือคลาย ๆ กับหนังสือจําพวกนี้

โดยอิทธิพลของหนังสือพวกวิวรณในยุคกอน ๆ ดั่งพระธรรมดานีเอลในพันธสัญญาเดิม ผูเขียนใชสัญญาลักษณและภาษาละครดลใจนําทางผูอานท่ีตองถูกบีบค้ันท้ังหลาย และในขณะเดียวกันพวกมีอํานาจทางการเมืองซ่ึงขัดแยงกับพวกคริสเตียนก็ไมมีหลักฐานชัดเจนท่ีจะหามาไดจากถอยคําลับลึกเพื่อจะจับและลงโทษผูเขียนหรือผูใชหนังสืออยางนี้ได

190

Page 191: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

เพ่ือใหเห็นวาเปนความจริงเพียงไรท่ีพระธรรมวิวรณบรรจุส่ิงท่ีตองพูดใหเปนภาพชุดก็ขอใหเราดูวิธีท่ีทานเสนอพระเยซูคริสต พระองคทรงปรากฏคร้ังแรกเปนภาพมนุษยท่ีนาจดจํามีฉลาดพระองคยาว ดําเนินอยูทานกลางคันประทีปทองคําท้ังเจ็ดคันซ่ึงหมายถึงคริสตจักร ตอมาทานบรรยายวาพระองคทรงเปนอยางสิงห รากไม และลูกาแกะหรือพระเมษโปดกและพระองคทรงเสด็จทรงมาขาวออกจากฟาสวรรคดั่งนักรบ (วิวรณ 1:13;5:5,6;19:11) การท่ีจะรวมรูปเหลานี้ท้ังหมดใหเขาเปนรูปเดียวกันเปนส่ิงท่ีทําไมได แตวาแตละภาพมีความหมายหน่ึง ๆ ภาพผูสวมฉลองพระองคยาวเปนการแสดงถึงสงาสิทธิอํานาจ และความรุงเรืองของพระคริสตผูทรงคืนพระชนม ผูทรงมีสิทธิท่ีจะบัญชาผูเขียนและคริสตจักรท้ังหลายสิงหแสดงถึงราชอํานาจของพระองค รากไมแสดงถึงเช้ือสายของดาวิดพระเมษโปดกเปนวิธีท่ีใชบอยที่สุดเล็งถึงพระคริสตในพระธรรมเลมนี้ทําใหระลึกถึงการทรงยอมมรณาเปนสักการบูชาเพ่ือมนุษยท้ังปวง ภาพนักรบชี้ไปขางหนาถึงการกระทําใหอํานาจช่ัวท้ังส้ินพายแพราบคาบในท่ีสุดแตละภาพแสดงถึงสวนหนึ่งแหงความจริงเร่ืองพระคริสต

นิมิตหรือภาพเหลานี้มิไดเร่ืองยุคแหงประวัติศาสตรของโลกท้ังหมด เปนภาพท่ีใหชนชาติของพระเจาไดรับความช่ืนชูใจในยามทุกขยากและรับการรับรองวาจะมีการชวยใหรอดพน จุดประสงคของผูเขียนก็คือพูดกับประชาชนท่ีถูกขมเหงเหลานี้วา ฤทธ์ิเดชของพระเจาจะชวยคุมครองเขา และในท่ีสุดจะชวยบรรดาผูท่ีซ่ือสัตยใหรอดพน แมวาเขาท้ังหลายจะออนเปล้ียและทนทุกขแตพระเจาจะทรงนําเขาโดยทางพระคริสตใหตลอดไปจนเขาสูแผนดินนิรันดรของพระองค

จดหมายท่ีมไีปถึงคริสตจักรท้ังเจ็ด

แตของประทานของพระเจาไมเปนประโยชนแกบรรดาคนเหลานั้นท่ีไมยึดถือไวใหม่ันคง จุดประสงคยิ่งใหญของยอหนก็อยากใหเพื่อนคริสเตียนท่ีถูกบีบค้ันเหลานั้นยึดความเช่ือของเขาไวใหม่ัน ไมวาจะส้ินสูญสักเทาใด ทานเขียนถึงคริสตจักรท้ังเจ็ด ชะรอยจะเปนคริสตจักรท่ีถูกขูเข็ญมากท่ีสุด หรือไมก็เปนคริสตจักรท่ีตองการคําแนะนํามากท่ีสุด แตชะรอยจะเปนตัวแทนคริสตจักรทั้งส้ินท่ีตกในอันตราย

ประการแรกคริสตจักรเหลานี้ตองเขมแข็งในเร่ืองความเช่ือและชีวิตของตนเอง อันตรายมิไดมาจากภายนอกเทานั้น บางทีความออนแอภายในเปนอันตรายรายแรงท่ีสุดใน วิวรณ บทท่ี 2 และบทท่ี 3 ผูเขียนพูดถึงความแข็งแรงและความออนแอของแตละคริสตจักรในเจ็ดคริสตจักรนั้นมีปรากฏเปนสามแบบ บางก็ยังแข็งแรงและพรอมท่ีจะทนทุกขเพราะความเช่ือของเขา บางก็มีช่ือเสียงดี แตกําลังจะสูญเสียความม่ันคงเร่ิมแรกและเสียความรอนรนไปบางเสีย หรือดูดายสมาชิกท่ีปลอยตัวท่ีสอนและกระทําการเสเพล สวนพวกอ่ืนก็ออนแอ เขาตองการการตอวาอยางหนัก ๆ และการปฏิรูปอยางดวนเพื่อใหสามารถม่ันคงอยูไดในการทดลอง

191

Page 192: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

ความประสงคของยอหนก็แจมแจงทานไดชักชวนใหคริสตจักรท่ีควรแกการสรรเสริญใหยึดม่ันไวทานพยายามจูงใจคริสตจักรท่ีเรรวนใหกลับใจเสียใหม ร้ือฟนความเช่ือฝายคริสเตียนข้ึนมาอีกและใหยึดม่ันจงรักภักดีตอพระคริสต ไมวาจะมีการโจมตีอยางดุรายอยางใด ความตองการประการแรกของพระคริสตจักร และความหวังยิ่งใหญท่ีสุดเม่ือเขาถูกทดลองคือกําลังเร่ียวแรงภายในและความเปนพี่นองกันอยางเปนอันเดียวกันในการท่ีตางก็จงรักภักดีตอพระคริสต

สิ่งท่ีจะเปนมา

ผูเขียนเร่ิมตนดวยพระบัญชาของพระเจาท่ีทรงส่ังใหทานเขียนและบอกถึงนิมิตเร่ืองพระคริสต คร้ังหนึ่งไดทรงถูกตรึงท่ีกางเขนเพื่อมนุษยเราแตบัดนี้ทรงเปนองคพระผูเปนเจาผูทรงคืนพระชนมแลวของคริสตจักร ตอไปทานก็ตอวาและหนุนใจคริสตจักรท้ังเจ็ด แลวทานก็หันมาหาเร่ือง “เหตุการณท่ีจะตองเปนไปภายหนา” แตทานมองไปภายหนาโดยยึดเร่ืองการที่พระเจาและพระคริสตครองสวรรคเปนหลัก (วิวรณ บท 4, 5) นี่เปนพื้นฐานใหคริสตจักรเช่ือม่ันในอนาคตได แลวใน วิวรณบทท่ี 6 เร่ิมนิมิตเปนชุด ๆ แสดงภาพความหายนะของความช่ัว และความบรรเทาทุกขของผูท่ีสัตยซ่ือ มีภัยพิบัติเจ็ดอยางอยูสามชุดท่ีสําคัญ คือตราเจ็ดดวง (วิวรณ 6:1 ถึง 8:5) แตรเจ็ดคัน (วิวรณ 8:6 ถึง 11:19) และเร่ืองขันเจ็ดลูก (วิวรณ 15:1 ถึง 16:21) มีภาพอื่น ๆ แทรกเขาในชุดเหลานี้ ภาพของภัยพิบัติและพระพรกลาวเร่ืองอะไรใหผูอานทราบ

ภาพเหลานี้ประกาศวาการท่ีพระเจาจะทรงพิพากษาลงโทษคนช่ัวและคนขลาดนั้นจะมาในไมชา ความดีกับความช่ัวขัดแยงกัน แตฤทธ์ิเดชท่ีจะชนะนั้นอยูกับพระเจาและพระคริสตผูทรงปฏิบัติการแทนพระบิดา จะทรงใหความช่ัวพายแพและกวาดลางเสีย

ในหมูคนท่ีถูกกลาวโทษน้ันมีเพียงแตคนช่ัวเทานั้น แตพวก “คนขลาด คนไมเช่ือ” (วิวรณ 21:8) ดวย การกลาวโทษและการชักชวนซํ้าแลวซํ้าอีกใหพวกคริสเตียนม่ันคงสองส่ิงนี้เปนขอตักเตือนบรรดาผูอานวาเขาจะสูญเสียผลประโยชนนิรันดรกาล มิใชเพราะความช่ัวชาอันรายกาจเทานั้นแตเพราะความกลัวอยางข้ีขลาด คือกลัวกายจะไมปลอดภัยดวย เม่ือถูกเยาะเยยหรือถูกทํารายเขาก็ไมสามารถจะเอาความปลอดภัยทางกายหรือความสุขสบายมาเปรียบเทียบ ใหเหนือกวาสิทธิอางอิงของพระเจาท่ีเขาจะตองจงรักภักดีตอ อนาคตของคนขลาดน้ันไมมีอะไรดี

แตสภาพแหงความผาสุกและผลแหงความสัตยซ่ือแยมพรายใหเห็นแทรกเขามาทามกลางภาพการพิพากษาลงโทษ พระเจาทรงประสงคมากกวาความรุงเรืองช่ัวครูของพวกคริสเตียนท่ีดําเนินชีวิตในยามปลอดโปรงคือพระองคทรงประสงคใหชนชาติของพระองคเม่ือถูกทดลองแลวก็ยังยึดม่ันใมยอมหยอนขอพายแพ นี่เปนส่ิงท่ียากท่ีสุดซ่ึงพระองคทรงขอใหมนุษยกระทําเม่ือการขมเหงมาถึง มนุษยตองยอมทนทุกขในเม่ือยอมรับวาพระคริสตทรงเปนองคพระผูเปนเจาของตน การที่จะสัตยซ่ืออยูนั้นยากถึง

192

Page 193: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

สองเทาแตก็มีบางคร้ังเม่ือคนเราจะตองเลือกระหวางความเช่ือและการทรยศเขาทั้งหลายมีตัวอยางดีอยูแลว พระคริสตทรงเปน “พยานสัตยซ่ือและสัตยจริง” (วิวรณ 3:14) พระองคมิไดทรงวิ่งหนีจากอันตรายหรือเล่ียงการตรึงท่ีกางเขนพระองคทรงยึดม่ัน ยอมทนทุกข และยังมีชัย พวกคริสเตียนก็กระทําไดอยางเดียวกันโดยฤทธ์ิเดชของพระเจา เพื่อจะหนุนใหมีความซ่ือสัตยอยางนี้ ผูเขียนจึงบรรยายไมต่ํากวาสองสามคร้ังถึงความผาสุกและผลของคนสัตยซ่ือผูยอมทนการขมเหงโดยไมยอมปฏิเสธพระคริสต (วิวรณ 7:9-17; 4:1-5; 20:4)

การเลือกที่หลีกเลี่ยงไมได

ในเม่ือวิกฤติกาลอยางรุนแรงเกิดข้ึนเชนนี้ จึงไมตองสังสัยวาคงมีบางคนท่ีมองหาทางออกงาย ๆ เขามองหาทางท่ีจะจงรักภักดีตอท้ังสองฝายคือ ท้ังมหาจักรพรรดิและพระคริสต ผูเขียนนี้ย้ําวาทางรอดแบบน้ันไมมีอยูเลย ในภาพท่ีเร่ิมดวยสัตวรายปรากฏตัวใน วิวรณ บทท่ี 13 นั้นทานยอหนช้ีแจงไววาทุกคนตองรับเคร่ืองหมายของสัตวราย หรือ เคร่ืองหมายของพระเมษโปดก นั่นคือถาใครไมยืนม่ันเพื่อคริสตและยอมทนทุกขแลว เขาก็จะตองนมัสการสัตวรายอยางกับพระเจา

สัตวรายนั้นคือผูใด สัตวรายกาจทะเล (วิวรณ 13: 1-10) คืออาณาจักรโรมซ่ึงประกาศบังคับวามนุษยทุกคนตองนมัสการมหาจักรพรรดิสัตวรายจากแผนดิน (วิวรณ 13:11-17) ดูเหมือนเปนพวกปุโรหิตท่ีสงเสริมการนมัสการมหาจักรพรรดิ ท่ีวาสัตวรายตัวแรกท่ีศูนยกลางอยูท่ีกรุงโรมนั้นช้ีใหเห็นอยูใน วิวรณ 17:9 เล็งถึงผูหญิงช่ัว นางนั่งอยูบนเนินเขาเจ็ดยอด กรุงโรมนั้นอยูอานท้ังหลายคงทราบอยูแลวเปนนครที่สรางอยูบนเนินเขาเจ็ดยอด

คําบัญชาใหนมัสการมหาจักรพรรดิวาเปนพระเจาทําใหพวกคริสเตียนเลือกอยางท่ีไมมีทางหลีกหนีได เขาจะยอมแพ ปฏิเสธพระคริสตและนมัสการมหาจักรพรรดิเสียก็ได หรือเขาจะยืดม่ันและยอมตายถาจําเปนก็ไดเหมือนกัน วิกฤติกาลนี้ไมยอมใหมีทางอะลุมอลวย ถึงเวลาแลวท่ีทุกคนจะตองมีเคร่ืองหมายของสัตวราย หรือเคร่ืองหมายของพระเมษโปดก เขาจะตองตัดสินใจวาจะอยูฝายซาตานหรือฝายพระเจา ฝายสัตวรายหรือฝายพระคริสต ฝายความช่ัวหรือฝายความชอบธรรม คริสเตียนท่ีแทยอมทราบวาความจงรักภักดีท่ีครองใจเขาอยูนั้นก็คือความจงรักภักดีตอพระเจาทางพระคริสต เขาจะไมยอมนมัสการมหาจักรพรรดิ เขาจะไมยอมละท้ิงพระคริสตผูทรงเปน “จอมกษัตริยและจอมเจานาย” (วิวรณ 19:16) เพราะเขาทราบอยูวาพระคริสตจะชนะสัตวราย ฝายพระเจาจะชนะ

เวลาพันปกับพระคริสต

มีคําสัญญาใหสิทธิพิเศษแกคนเหลานั้นท่ียอมตายถวายชีวิตของเขาเพ่ือเห็นแกพระคริสต (วิวรณ 20: 1-6) ขอความนี้ท่ีพูดถึงเวลาหน่ึงพันปท่ีเปนเวลาปลอดภัยและเวลาแหงพระพร ทําใหเกิด

193

Page 194: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

การโตเถียงอยางเผ็ดรายมาก บางคนถือวาขอความน้ีหมายถึงเวลาส้ินโลก กอนวันพิพากษาลงโทษคร้ังสุดทาย คริสเตียนจะไดรับความปล้ืมปติโดยรับควาามสุขพันปในโลกน้ีกับพระคริสต ฝายคนอ่ืนคิดวา “พันป” นี้เล็งถึงตลอดท้ังยุคท่ีคริสตจักรอยูในโลกน้ีตั้งแตศตวรรษท่ีหนึ่งจนถึงวันสุดทายคือวันส้ินโลก

ความจริงขอพระธรรมนี้พูดวา พวกวิรชนท่ียอมตายนั้นจะไดรับพระพระพิเศษ วิวรณ 20: 6 เล็งถึงบรรดาคนเหลานั้นท่ีตายเพราะไมยอมท่ีจะรับเครื่องหมายของสัตวรายนั้น (และตามวิวรณ 13:15 บรรดาคนท่ียอมปฏิเสธไมยอมนมัสการสัตวรายตองถูกฆาตายอยางวีรชน)

เคราะหไมดีเลยท่ีชักพระธรรมส้ัน ๆ ขอนี้กระทําใหมีการโตเถียงกันอยางมากมายพึงจําไวพระธรรมวิวรณเต็มไปดวยภาพ พระธรรมนี้มิไดบอกเร่ืองราวประวัติศาสตรแท ๆ แตใหความชวยเหลือแกคริสตจักรในศตวรรษตนในขณะท่ีคริสตจักรตองเผชิญกับวิกฤติกาล เปนพระธรรมท่ีหนุนใจคริสเตียนใหมีความสัตยซ่ือในเวลาถูกขมเหง ใน วิวรณ 20: 1-6 ก็มีอยางนี้ โดยสัญญากับคนเหลานั้นวาพระเจาจะทรงอวยพระพรแกผูท่ีตองตายเพราะเปนคนสัตยจริงตอพระคริสต พระคริสตจะทรงดูแลเขาท้ังหลายเปนพิเศษและจะทรงยกยองเขาท้ังหลายเปนพิเศษ

เวลาท่ีสุดปลาย

ท่ีสุดปลายจะมาถึงเม่ือไร ผูเขียนกลาวขอซํ้าแลวซํ้าอีกวาท่ีสุดปลายจะมาถึงโดยเร็ว (วิวรณ 3: 11; 22:7, 10, 12, 20) ในท่ีอ่ืนทานก็เตือนวาพระคริสตจะเสด็จมาพิพากษาลงโทษ นอกจากวาคริสตจักรท่ีกระทําผิดนั้นจะเปล่ียนวิธีการของตนเสียใหม (วิวรณ 2:5, 16; 3:3) ทานหวังใจและคอยอยางรอนรนวา ไมชาพระเจาจะทรงนําความบรรเทาและชัยชนะมาสูคริสตจักรท่ีไดความลําบาก ในระหวางเวลานั้นทานก็ยึดม่ันอยูและชักชวนใหผูอานของทานกระทําเชนเดียวกัน แมทานจะหวังใจวาเวลาสุดปลายจะมาในไมชา ทานก็ไมพยายามกําหนดเวลาแนนอน ทานทราบวาเร่ืองนี้อยูในพระหัตถของพระเจา

บางคนพยายามท่ีจะใหความแนนอนยิ่งกวาทาน เขาพยายามท่ีจะพูดวาพระคริสตจะเสด็จมาเม่ือนั่น ๆ ท่ีเดียว และบอกดวยวาโลกนี้จะส้ินสุดลงในเวลานั้น ๆ พระคริสตเองตรัสวาพระองคไมทรงทราบถึงเวลาท่ีสุดปลาย และพวกสาวกก็ไมตองรูเร่ืองนี้กอน (มาระโก 13: 32; กิจการ 1:7) แตขอความนี้ไมเปนท่ีจะใจคริสเตียนบางคน ตั้งสิบ ๆ คร้ังมาแลวท่ีมนุษยไดพยากรณวาพระคริสตจะเสด็จมาวันไหนและโลกจะส้ินสุดลงเม่ือไร กระท่ังบัดนี้คําพยากรณเหลานั้นก็เห็นจริงวาไมเปนความจริง

วันสุดปลายจะมาถึงเร็วหรือชา เราผูเปนมนุษยพูดไมไดวาจะเกิดข้ึนเม่ือไรระหวางท่ียังไมเกิดข้ึนจริง ๆ พวกคริสเตียนยึดถือตามคําตักเตือนของทานเปาโลไดท่ีวา “ฝายผูอารักขาเหลานั้นตองเปนคนสัตยซ่ือทุกคน” (1โครินธ 4:2) นั่นเปนส่ิงท่ีผูเขียนพระธรรมวิวรณตองการใหเพื่อนคริสเตียนของทานเปนอยางนั้น เขาท้ังหลายตองเปนคนสัตยซ่ือเม่ือถึงคราวจะถูกทดลองนั้น

194

Page 195: เป ด พันธสัญญาใหมthaicrc.com/collect/REF/index/assoc/D211.dir/0211.pdf · 2011-10-04 · ตําราศาสนศาสตร อันดับ

195

บัดนี้เราทราบวา เวลาสุดทายนั้นยังอยูไกลจากท่ีทานยอหนไดคอยอยูมากมายนัก แตวาขอท่ีทานเสนอใหจงรักภักดีม่ันคงตอพระคริสตนั้นยังสําคัญยิ่งอยูนั่นเอง เราตองมีความจงรักภักดีอยางนั้น สวนนอกนั้นเปนเร่ืองในอารักขาของพระเจาเอง อนาคตอยูในพระหัตถของพระองคเพราะพระองคทรงเปนพระเจาพระประสงคของพระองคยังคงมีชัย พระองคจะทรงกูเกียรติคนเหลานั้นท่ีจริงจังตอพระองค และจะทรงประทานความปล้ืมปตินิรันดรใหแกเขา เขาท้ังหลายจะปลอดภัยอยูกับพระองคในกาลบัดนี้ และในกาลขางหนาท่ีจะมาถึง

“ภายหลังเหตุการณเหลานี้ขาพเจาไดแลเห็นและดูเถิดมีคนเปนอันมากมาจากทุกประชาชาติทุกเผา ทุกชาติ ทุกภาษา ไมมีผูใดจะนับประมาณได คนท้ังหลายนั้นสวมเส้ือขาว และมือถือใบตาลยืนอยูหนาพระท่ีนั่งและตรงหนาพระเมษโปดกน้ัน และคนท้ังหลายนั้นรองเสียงดังวา “ความรอดมีอยูท่ีพระเจาของเราผูประทับบนพระท่ีนั่งและท่ีพระเมษโปดกน้ัน” “ราชอาณาจักรแหงพิภพนี้ก็กลายเปนราชอาณาจักรขององคพระผูเปนเจาของเราและพระคริสตของพระองค และพระองคจะทรงครอบครองอยูสืบ ๆ ไปเปนนิตย” “คําสดุดีและเกียรติและรังสีความยิ่งใหญและฤทธ์ิเดชจงมีแดพระองคผูประทับบนพระท่ีนั่ง และแดพระเมษโปดกนั้นสืบ ๆ ไปเปนนิตย” (วิวรณ 7:9,10:11:15,5:13)

แนะการอาน ในขณะท่ีทานอานพระธรรมเลมนี้ จงเอาตัวของทานไปเปนคริสเตียนคนหน่ึง ท่ีอยูภายใตอาณาจักรโรมซ่ึงเร่ืองอํานาจและกําลังถูกขูเข็ญดวยการขมเหงซ่ึงไดเร่ิมข้ึนมาแลว แลวพระธรรมเลมนี้ชวยทานอยางไรบาง

ขอพระธรรมท่ีเดน คือ พระคริสตผูทรงคืนพระชนมไดบัญชายอหนใหเขียน (วิวรณ 1: 9-20) บรรดาจดหมายท่ีไปถึงคริสตจักรท้ังเจ็ด (วิวรณ บท 2, 3) สาธุการแดพระเจาบนพระท่ีนั่งของพระองค (วิวรณ บท 4) สาธุการแดพระเดษโปดกผูทรงเปดหนังสือมวนกลาวถึงส่ิงท่ีจะเปนมา (วิวรณ บท 5) พระพรสุดทายท่ีตกแกชนชาติท่ีสัตยซ่ือของพระเจา (วิวรณ 7:9-17) การพิพากษาลงโทษคร้ังสุดทาย (วิวรณ 20:11-15) กรุงเยรูซาเล็มใหม (วิวรณ บท 21) แมน้ําแหงชีวิตและตนไมแหงชีวิต (วิวรณ 22:1-5)