รวยหุ้นด้วยกราฟ

118

description

this ebook use as richerstock.com tutorial manual

Transcript of รวยหุ้นด้วยกราฟ

คํานํา นักลงทุนในบานเรา สามารถแบงออกเปน 2 กลุมใหญๆโดยแบงตามวิธีคิดและ

วิธีการลงทุน ไดแก นักลงทุนระยะยาว ( Value Investors ) โดยนักลงทุนประเภทนี้จะลงทุนเพื่อหวังผลตอบแทนในรูปเงินปนผล และมูลคาของหุนในอานาคต ไมคอยใหความสําคัญกับราคาหุนที่ขึ้นๆลงๆในแตละวันเทาไรนัก

สวนนักลงทุนอีกประเภทหนึ่งคือ นักลงทุนระยะส้ันถึงกลาง ( Technical Investors ) เปนนักลงทุนที่หวังผลตอบแทนในรูปผลตางของราคาหุน ( Price gaining ) นักลงทุนประเภทนี้ จะใหความสําคัญกับราคาหุนมากกวาเงินปนผล

เนื้อหาของหนังสือเลมนี้ ถูกออกแบบมาสําหรับนักลงทุนประเภท technical investors โดยแบงเนื้อหาออกเปน 3 สวน ไดแก

สวนที่ 1 ความรูเบื้องตนในการวิเคราะหหุนดวยเทคนิค ( technical analysis ) สวนที่ 2 ความรูเร่ือง Elliott Wave สวนที่ 3 แนะนําโปรแกรม RicherStock ขอแนะนําในการใชหนังสือเลมนี้ใหเกิดประโยชนสูงสุด ผูอานหรือผูใชหนังสือเลมนี้

ควรอานและทําความเขาใจในหมวดที่ 1 และ หมวดที่ 2 กอนตามลําดับ หลังจากเขาใจพื้นฐานดานเทคนิคแลว ขอแนะนําใหอานหมวดที่ 3 ตอไป ซ่ึงเปนหมวดที่แนะนําโปรแกรม RicherStock ซ่ึงเปนโปรแกรมสําเร็จรูปในการวิเคราะหหุนดานเทคนิค และเปนโปรแกรมที่ชวยใหนักลงทุนบริหารความเส่ียงในการลงทุนและสรางความม่ันใจในการลงทุนมากย่ิงขึ้น

ดวยความปรารถนาดี RicherStock.com

[email protected]

สารบัญ

สวนที ่1 ความรูเบ้ืองตนในการวิเคราะหหุนดานเทคนิค (Basic Technical Analysis)

วัฎจักร (Cycle) รายละเอียดของสภาวะตางๆ แนวโนมทิศทางราคาหุน (Trend)

แนวโนมขาขึ้น (uptrend) แนวโนมขาลง (downtrend) แนวโนมทรงตัว (sideway)

คาเฉล่ียเคล่ือนที ่(Moving Average) ประโยชนของ Moving Average เคล็ดลับในการพิชิตหุน รายละเอียดของเคล็ดลับในการพิชิตหุน

1.เลือกหุนพื้นฐานดี (Fundamental Analysis) 2. เขาตลาดใหถูกจังหวะ 3. ตัดขาดทุน 4. ปลอยใหราคาหุนว่ิง 5. เลนตามกระแส 6. อยาซ้ือเฉล่ีย ถาราคาหุนตก

สารบัญ

สวนที ่2 ความรูเร่ือง คลื่นอีเลียต (Elliott Wave Theory)

Elliott Wave Basic Impulse Pattern Corrective Pattern Suggestion

สวนที ่3 แนะนําโปรแกรม RicherStock เก่ียวกับโปรแกรม Richerstock เร่ิมตนที ่www.richerstock.com หนา login การใชงานกราฟหุน (Stock Chart) เมน ูChart Type เมนู Time เมนู Lower Indicator-1 เมนู Lower Indicator-2 เมนู Lower Indicator-3 เมนู “ ตารางเคร่ืองหมายซ้ือขาย ” กติกาการเลนหุน วิธีเลนหุนใหปลอดภัยดวยกราฟ richerstock วิเคราะหกราฟหุน และวิธีการเลนหุนใหปลอดภัย ฟงกช่ันคนหาหุน สามเหล่ียมกลวง

วัฏจักร (Cycle)

ถาหากคุณรูวาราคาหุนมีพฤติกรรมอยางไร ข้ึนเมื่อไหร ลงเมื่อไหร แนนอนทีเดียววา คุณยอมมีชัยไปกวาคร่ึงแลว แตปญหาที่พบเจอนั้นคือเราไมรู รูปแบบ (pattern) ของราคาหุนอยางถูกตองรอยเปอรเซ็นต เนื่องจากราคาหุนมันข้ึนลงตามจิตวิทยาการลงทุน มันไมมีสูตรสําเร็จเหมือนสูตรคณิตศาสตรทั่วไป

แตก็ใชวาเราจะไมสามารถคาดคะเนรูปแบบ (pattern) ราคาหุนไดเสียทีเดียว มีนักวิเคราะหทั้งไทยและเทศไดเฝาดูรูปแบบ (pattern) ของราคาหุนหลายรอยตัวหรืออาจจะหลายพันตัวแลวตั้งขอสรุปวา pattern ราคาหุนมันเปนวัฏจักร ( CYCLE )

รูปแบบ ( pattern ) ราคาหุนมันมีพฤติกรรมเปนวัฏจักร (cycle) ที่ประกอบดวย 4 สภาวะ ( state ) ซึ่งผมขออนุญาตเปรียบเทียบวัฏจักร (cycle) ที่วานี้ใหดูงายข้ึน โดยเปรียบเทียบกับการเดินทางดวยเคร่ืองบิน ดังนี้

ความรูเบื้องตนในการวิเคราะหหุนดานเทคนิค Basic Technical Analysis

รายละเอียดของสภาวะตางๆ 1. เตรียมพรอม

เปนชวงที่เคร่ืองมีความพรอมสูง น้ํามันเต็มถัง ขุมพลังมหาศาล พรอมที่จะทะยานข้ึน ถาเปรียบเทียบกับราคาหุนแลวความหมายมันเปนดังนี้

Ø มีการเก็บสะสมหุน เพราะผูที่ซื้อเก็บสะสมคิดวาชวงนี้ราคาหุนถูก การที่นักลงทุนมองวาหุนที่มีราคาถูกนั้น มีวิธีการดูไดหลายอยาง เชนหากใชขอมูลพื้นฐานของหุน ( fundamental analysis ) ก็สามารถดูไดจากอัตราสวนทางการเงินเชน P/E ratio, P/BV ratio, Dividend yield เปนตน แตถาพิจารณาดานเทคนิค ( technical analysis ) นักลงทุนก็จะมองวา ณ เวลานั้น หุนตัวที่เราพิจารณานั้นถูกขายออกมามากเกินไปหรือไม ( oversold )

Ø ชวงนี้จะมีการซื้อการขายเกิดข้ึนเปนระยะๆหลายๆรอบ Ø รอขาวดี ขาวปลอย หรือขาวลือ เปนตัวเรงกระทุงหุนใหทะยานข้ึน

2.ทะยานขึ้น

เปนชวงที่เคร่ืองทะยานข้ึนจากลานว่ิง ลอเคร่ืองบินเร่ิมพับเก็บ ชวงนี้นักบินตองอัดกําลังเคร่ืองเต็มที่เพื่อเอาชนะแรงโนมถวงของโลก เปรียบกับการซื้อขายหุนชวงนี้เปนดังนี้ Ø Demand หรือความตองการในการซื้อหุนมีมาก ราคาเทาไหรก็ซื้อ Ø Demand จะมากกวา Supply ทําใหราคาหุนทะลุแนวตาน

( resistance ) ข้ึนไป

Ø ชวงขณะที่ราคาหุนทะลุแนวตาน จะเปนที่นาสนใจของนักลงทุนอ่ืนๆ ทําใหเกิด demand มากยิ่งข้ึน

3.รักษาระดับ

เมื่อเคร่ืองทะยานข้ึนบนทองฟาไดระดับเพดานบินที่ปลอดภัยแลว เคร่ืองก็จะทําการบินรักษาระดับเปรียบกับการเลนหุนไดดังนี ้ Ø เมื่อราคาหุนไดข้ึนมาถึงจุดที่นักลงทุนตางก็เร่ิมมีความคิดตรงกันวา

ราคาเร่ิมสูงหรือแพงแลวก็จะทยอยขายกันออกมา Ø มีนักลงทุนบางคนหรือบางกลุมที่ยังมคีวามเชื่อวา ราคาหุนนาจะว่ิง

ข้ึนไปไดอีก ก็จะทยอยรับซื้อหุนไว Ø ชวงนี้จะมีการซื้อการขายเกิดข้ึนเปนรอบ Ø บางคร้ังชวงนี้อาจจะใชเวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห แตก็มีบาง

เหมือนกันที่ชวงนี้อาจจะกินเวลาแควันเดียว Ø ชวงนี้เปนชวงที่ตองใหความระวังและความสนใจเปนอยางยิ่งเพราะ

ถาราคาหุนมันไมสามารถทะยานหรือไตระดับข้ึนไปไดอีกนักเก็งกําไรที่เขาตลาดชวงนี้ก็เร่ิมปลอยหุนออกมาเพื่อไปเลนตัวอ่ืน

4.ลดระดับ

เ มื่อใกลถึงจุดหมายนักบินก็เร่ิมลดระดับการบินใหต่ําลง เพื่อลงจอดยังลานบินตามที่หมาย เปรียบการเลนหุนไดดังนี ้ Ø เมื่อราคาหุนมาถึงจุดสูงและมีการ ซื้อขาย (Trade) กันหลายรอบทํา

ใหนักลงทุนที่เขามาซื้อหุนชวงนี ้เร่ิมเกิดความกังวล ระสํ่าระสาย หงุดหงิด และเมื่อราคาหุนขยับข้ึนมาบางก็เร่ิมขายออกมา

Ø เมื่อราคาหุนผานแนวรับลงมา จะเกิด Supply มากกวา Demand ทําใหเกิดการเทขายกันออกมามาก

Ø อัตราการลงของราคาหุนจะลงเร็วกวาอัตราการข้ึนของราคาหุน ในชวงที่ราคาหุนทะยานข้ึน

รูปที ่1. ตัวอยางวัฏจักรราคาหุน

ชวงตรียมพรอม

: ชวงนี้มีการซื้อขายกันที่หมายเลข 1,2,3,4 โดยเสนตรงดานบนที่เชื่อมระหวางจุด 1,3,5 เรียกวา แนวตาน ( resistance ) สวนเสนลางคือเสนแนวรับ ( support ) ซึ่งการซื้อขายในชวงนี้จะอยูระหวางแนวรับ และแนวตาน

ชวงทะยาน

: เมื่อมีขาวดี หรือขาวลือ หรือขาวปลอย เขามาในตลาด จะทําใหเกิด demand อยางมากทําใหราคาหุนทะลุแนวตานที่จุด 5 ข้ึนไป และทะยานข้ึนไปเร่ือยๆ เมื่อราคาหุนมาที่จุด 6 ตอนนี้แหละสําคัญเหมือนกัน เพราะนักลงทุน หรือนักเก็งกําไร เร่ิมมองเห็นความแรงของหุนตัวนี้ และกลัววาตนเองจะเขาซื้อชาไป หรือศัพทที่เซียนหุนทั้งหลายเรียกว ตกขบวนรถไฟ ก็เลยพากันเฮโลกันเขามากันอยางสนุกสนาน

ชวงรักษาระดับ

: เมื่อราคาหุนทะยานมาถึงจุด 8 นักลงทุนก็เร่ิมขายหุน และอีกเชนกัน ก็มีนักลงทุนบางคนหรือบางกลุมที่ยังมีความเชื่อวาราคาหุนนาจะไปไดอีก ก็เลยตั้งแถวรอซื้อเมื่อราคาหุนตกลงมา ลักษณะนี้จะเกิดการซื้อขายหลายรอบทีเดียว คือระหวางจุด 8,9,10,11,12,13,14 เกิดแนวตานและแนวรับ เมื่อราคามันไมสามารถทะลุแนวตานไปไดอยางที่คาดคิด นักลงทุนที่เงินรอน หรือนักลงทุนที่เลนส้ันรอไมไหว ก็เร่ิมขายหุนทิ้ง นักลงทุนกลุมที่รอไมไหวก็จะเปนกลุมที่จะเจาะลูกโปรงที่มันอัดลมแนนมานาน

ใหระเบิดออกมา หมายถึงทําใหนักลงทุนอ่ืนๆเกิดอาการตระหนกตกใจ รีบขายหุนออกตามๆกัน ทําให Supply มากกวา Demand ราคาหุนก็เลยทะลุผานแนวรับที่จุด 15 ลงมา

ชวงลดระดับ

: เมื่อเกิดอาการตกใจและนักลงทุนเร่ิมเทขายหุนออกมา บางคนก็กําไร บางคนก็ขาดทุน แตก็ตองขายเพราะมันเกิดอาการ panic และขอใหจําให ข้ึนใจวา อาการตกใจมันรายแรงกวาอาการดีใจ การเทขายหุนของนักลงทุนจะเทขายหุนโดยใชเวลาอันรวดเร็วกวาการทะยอยซื้อหุน

ดังนั้นนักลงทุนทุกทานคงมองภาพรวมของราคาหุนวามันมีพฤติกรรม

อยางไรไดพอสมควร เมื่อคุณรูวัฏจักร (cycle)ของราคาหุนแลว ก็จะทําใหคุณ Ø รูสภาวะของตลาด ( market sate ) ณ เวลานั้นๆ Ø เขาหรือออกจากตลาดไดอยางเหมาะสม Ø ทําการซื้อหรือขายหุนไดอยางมั่นใจ Ø ไมเกิดอาการหวาดผวา

แนวโนมทิศทางราคาหุน ( TREND ) Trend คือกราฟที่แสดงความเคล่ือนไหวของราคาหุนซึ่งมีทิศทางที่เรา

สามารถจะคาดคะเนไดกรณีที่ราคาหุนไรทิศทางไมมีรูปแบบจะไมเรียกวา Trend ตามปกติจะม ี3 ลักษณะไดแก

Ø Uptrend ( แนวโนมขาข้ึน ) Ø Downtrend ( แนวโนมขาลง ) Ø Sideway ( แนวโนมทรงตัว )

แนวโนมขาข้ึน (Uptrend)

รูปที ่2 – แสดงรูปแบบราคาหุนแบบ uptrend

ลักษณะ uptrend คือกราฟที่มีทิศทางข้ึนโดยราคาต่ําของกราฟของวันลาสุดจะสูงกวาราคาต่ําของวันที่ผานมา และถาลากเสนเชื่อมระหวางจุดราคาต่ําก็จะไดเสนตรงที่มีทิศทางข้ึน ทั้งนี้การลากเสน uptrend line นั้น จุด lower ควรมีตั้งแต 2 จุดข้ึนไป

แนวโนมขาลง ( Downtrend )

รูปที ่3- แสดงรูปแบบราคาหุนแบบ downtrend

ลักษณะ Downtrend คือกราฟที่มีทิศทางลงโดยราคาสูงของกราฟของวันลาสุดจะตํ่ากวาราคาสูงของวันที่ผานมา และถาลากเสนเช่ือมระหวางจุดสูง ก็จะไดเสนตรงที่มีทิศทางลง ทั้งนี้การลากเสน downtrend line นั้น จุด higher ควรมีต้ังแต 2 จุดขึ้นไป

แนวโนมทรงตัว (Sideway)

รูปที ่4- แสดงรูปแบบราคาหุนแบบ sideway

Sideway เปนชวงพักไมวาจะเปนการพักในชวงขาข้ึนหรือการพักในชวงขาลงก็ได เปรียบเสมือนเวลาคนเดินหรือว่ิงข้ึนทางชันเมื่อว่ิงไปไดสักระยะหนึ่ง

ก็เร่ิมหมดแรงและเปล่ียนจากการว่ิงมาเปนการเดินเพื่อเปนการพักใหหายเหนื่อยกอนที่จะว่ิงตอไป

ในชวง sideway บางคร้ังเราก็เรียกวา trading range ไดเหมือนกัน เพราะชวงนี้จะมีการซื้อขายมี demand และ supply ตอบสนองกัน ดังนั้นลักษณะของ sideway จึงมีทิศทางออกไปทางแนวราบ

คาเฉล่ียเคล่ือนท่ี MOVING AVERAGE เปนการนําเอาราคาของหุนยอนหลังตามจํานวนวันที่เราตองการ

พิจารณา นํามาหาคาเฉล่ีย เพื่อดูทิศทางของราคาหุน ณ วันที่เราพิจารณา เชน MA10 หมายถึง ราคาหุนยอนหลังจากวันที่เรากําลังพิจารณาไป 10 วัน เปนการนําเอาราคาแตละวันมาเฉล่ียกัน เหตุที่เรียกวาคาเฉล่ียเคล่ือนที่ก็เพราะในวันถัดไปคาเฉล่ียก็จะเปล่ียนไปเชนกัน

จํานวนวันที่นํามาหาคาเฉล่ียเปนที่นิยมกันไดแก MA5, MA12, MA26, MA75, MA200 จํานวนวันจะบงบอกวาเปนการพิจารณาราคาในระยะส้ัน กลาง หรือ ระยะยาว ทั้งนี้การเลือกใชคา MA นั้นข้ึนอยูกับนักลงทุนแตละคน ไมจําเปนตองใชคาตามทฤษฎี ซึ่งบางคร้ังเราอาจจะใช MA5, MA15, MA30 ก็ได

MA5, MA12, MA26 เปนเสนคาเฉล่ียระยะส้ัน MA 75 เปนเสนคาเฉล่ียระยะกลาง MA200 เปนเสนคาเฉล่ียระยะยาว

วิธีการหาคาเฉล่ียเคล่ือนที่นิยมทํากัน 2 แบบคือ

1.) Simple Moving Average ( SMA ) เปนการใหน้ําหนักการเฉล่ียเทาๆกัน

2.) Exponential Moving Average ( EMA ) เปนการใหน้ําหนักราคาคอนมาทางเวลาใกลปจจุบันมากกวาราคาในชวงอดีต สวนสูตรการหาคาเฉล่ียแบบ simple หรือ exponential โปรแกรมวิเคราะหหุนสวนใหญก็สามารถคํานวณและแสดงกราฟพรอมเสน MAได เชนโปรแกรม MetaStock แตสิ่งท่ีผมอยากใหรับรูก็คือ การนํามันไปใชทํานายหุนมากกวาครับ

ประโยชนของ Moving Average

A.1) สภาวะตลาดกระทิง ( Bullish State ) รูปที่ 5 แถบเงาสีแดง แสดงสภาวะตลาดกระทิง ( Bullish State ) โดย

สังเกตจากเสนคาเฉล่ียที่มีการเรียงตัวของเสน MA10(cyan) MA20 (blue) MA30 (red) โดยที่เสน MA ระยะส้ันจะอยูบนสุด และเสน MA ระยะยาวจะอยูลางสุด ซึ่งในที่นี้การเรียงตัวจากบนมาลางของเสน MA คือ MA10, MA20, MA30

A.) สามารถบอกสภาวะตลาดไดวาเปนภาวะตลาดกระทิง ( Bullish State) หรือ ภาวะตลาดหมี (Bearish State) โดยสังเกตจากการเรียงตัวของเสน MA

รูปที ่5- แสดงรูปแบบราคาหุนภาวะกระทิงโดยใช Moving Average พิจารณา

A.2 ) สภาวะตลาดหมี ( Bearish State ) รูปที่ 6 สภาวะที่เปนแถบสีแดงเปนสภาวะตลาดหมี (Bearish State)

โดยสังเกตจากเสนคาเฉล่ียที่มีการเรียงตัวของเสน MA26 (blue), MA12 (magenta) , MA5 (cyan) โดยที่เสน MA ระยะยาวจะอยูบนสุด และเสน MA ระยะส้ันจะอยูลางสุด ซึ่งในที่นี้การเรียงตัวจากบนมาลางของเสน MA คือ MA26, MA12, MA5

รูปที ่6- แสดงรูปแบบราคาหุนภาวะตลาดหมีโดยใช Moving Average พิจารณา

B,1 ) สัญญาณซื้อ ( Buy Signal ) เมื่อราคาหุนทะลุและอยูเหนือเสน MA เปนสัญญาณซื้อ จากตัวอยาง

กราฟรูปที่-7 ใช MA26 วันเปนตัวพิจารณา เมื่อราคาหุนทะลุผานเสน MA26 และอยูเหนือเสน MA26 ได ลักษณะนี้เกิดสัญญาณซื้อโดยที่เราสามารถเขาซื้อหุน ณ ระดับราคาจุดตัดไดแลย

B.) สามารถใชเสน MA ชวยในการตัดสินใจซ้ือหรือขายหุนได

รูปที ่7- แสดงการใชเสนคา moving average ชวยในการกําหนดจุดซ้ือ B.2 ) สัญญาณขาย ( Sell Signal ) เมื่อราคาหุนทะลุและอยูใตเสน MA จะเปนสัญญาณขาย จากตัวอยางรูปที-่8 เราใช MA26 วันเปนตัวพิจารณา เมื่อราคาหุนทะลุผานเสน MA26 และอยูใตเสน MA26 ลงมา ลักษณะนี้เกิดสัญญาณขายโดยที่เราควรจะขายหุนออก ณ ระดับราคาจุดตัดไดแลย

รูปที ่8- แสดงการใชเสนคา moving average ชวยในการหาจุดขาย

รูปที ่9- แสดงการใชเสนคา moving average เตือนลวงหนาการเปล่ียนแปลงที่รุนแรง

C).ใชเปนสัญญาณเตือนวาจะเกิดการเปลี่ยนแปลงของราคาหุนท่ีรุนแรง

จากรูปที่ 8 เสนคาเฉล่ียเคล่ือนที่ MA5,MA12,MA26 มาบรรจบกัน ซึ่งมันกําลังส่ือวาจะเกิดเหตุการณที่รุนแรง (กวาปกติ ) ตัวอยางในรูปเสน MA ทั้งสามเสนมาบรรจบกัน หลังจากนั้นราคามันก็ดิ่งลงอยางมาก

การที่เสนคาเฉล่ียเคล่ือนที่ทั้ง 3 เสนมาบรรจบกันนั้น มันมีความหมายวานักลงทุนกําลังตัดสินใจวา ราคาหุนมันจะว่ิงข้ึน หรือ ว่ิงลง ซึ่งในดานจิตวิทยาแลว กําลังบอกวา เหลานักลงทุนกําลังวัดใจกันวา จะว่ิงตอหรือจะขายทิ้ง

สําหรับนักลงทุนบางคน ก็จะใชเสนคาเฉลียเคล่ือนที่ ( moving average ) เพียงตัวเดียวเปนเคร่ืองมือชวยในการตัดสินใจซื้อ หรือ ขายหุน ซึ่งก็เปนที่นาพอใจในระดับหนึ่ง เคล็ดลับในการพิชิตหุน

เคล็ดลับในการเอาชนะตลาดหุนและสามารถทําเงินในตลาดไดอยางนาพอใจ แตในความเปนจริงแลว นักลงทุน ( investors ) สวนมากจะรูและเขาใจกฎ หรือเคล็ดลับนั้นๆ แตสุดทายแลวก็ไมสามารถทําตามเคล็ดลับนั้นได ดังนั้นหากเรายึดเคล็ดลับหรือวิธีการลงทุน ที่เราคิดวาเปนรูปแบบ ( model ) ที่เหมาะสมกับตัวเราแลว ขอให ยึดถือและปฏิบัติตามเคล็ดลับใหได

-เลือกหุนพื้นฐานด ี– -เขาตลาดใหถูกจังหวะ-

-ตัดขาดทุน ถาหุนไมวิ่ง-

-ปลอยใหราคาหุนวิ่ง ถายังมีกําไร- -เลนตามกระแส เพราะทวนกระแสมีแตเจ็บ-

-อยาซ้ือเฉลี่ย ถาราคาหุนตก เพราะจําทําใหยิ่งถลําลึก- เคล็ดลับทั้ง 6 ขอนี้รับรองไดวาสามารถเอาชนะตลาดไดแนนอน เพราะ

ตัวมันเองคอนขาง simple มาก แตส่ิงที่ยากที่สุดก็คือตัวนักลงทุนนั่นเองที่ไมสามารถปฏิบัติตามกฎได ดังนั้นนักลงทุนตองมีความพรอมในการเลนหุน ส่ิงที่นักลงทุนควรมี หรือ ตองมีคือ

- ตองมีความรูเร่ืองการลงทุน และ ความรูเร่ือง Technical Analysis พอสมควร

- ตองมวีินัย ( discipline ) ในการลงทุน

รายละเอียดของเคล็ดลับในการพิชิตหุน

1.) เลือกหุนพ้ืนฐานด ี(Fundamental Analysis ) คุณทราบหรือไมวาคุณจะซื้อหุนตัวไหน ซื้อดวยเหตุผลอะไร บางทาน

ลงทุนระยะยาว ก็จะซื้อหุนที่มีพื้นฐานดี ซื้อแลวซื้อเลยเก็บใสเซฟ ไมตองมาคอยนั่งดูราคาหุนที่มันข้ึนๆลงๆในแตละวัน หรือแตละสัปดาห

สําหรับนักลงทุนในบานเราที่จําแนกออกเปน 2 กลุมใหญๆคือ กลุมนักลงทุนระยะยาว ( Value Investors ) มีประมาณ 30% สวนนักลงทุนอีกกลุมหนึ่งเปนนักลงทุนระยะส้ัน ( Technical Investors ) มีประมาณ 70%

การที่เราเลือกหุนที่มีพื้นฐานดี อยางนอยที่สุดเราก็สามารถลดความเส่ียงในการซื้อ-ขายหุนตัวนั้นๆได เนื่องจากหุนที่มีพื้นฐานดีสวนใหญราคาหุนจะไมหวือหวามาก ราคาหุนมีรูปแบบการข้ึน และ ลง และมีทิศทางที่ เราสามารถทํานายได

การเลือกหุนที่มีพื้นฐานดี ( Fundamental Analysis ) ควรดูปจจัยดังนี้

KEY Meaning

งบการเงิน Financial Statement

บอกสถานภาพของบริษัทๆนั้นวามีสุขภาพแข็งแรง หรือปวยเปนโรครายแรงหรือเปลา อันนี้ตองใชเวลาศึกษา เพราะ financial statement analysis เปนวิชาที่ยากวิชาหนึ่งของการเงิน

พีอี เรโช P/E ratio

Price- Earning Ratio เปนตัวเลขอัตราสวนระหวาง ราคาหุน ณ วันที่เราตองการซื้อ หารดวย กําไรตอหุนของหุนตัวนั้นๆ แนนอน P/E ratio ยิ่งต่ํา ก็ยิ่งด ีเพราะวามันหมายถึง ราคาหุนตัวนั้นไมแพง โดยทั่วไปจะดูกันที ่P/E=10

พีบ ีเรโช P/BV ratio

Price-Book Value ratio Book Value คือราคาเร่ิมตนตอหุนในการจัดสรรหุนตอนตน หรือตอนเร่ิมทําธุรกิจ P/BV ยิ่งต่ํา ก็ยิ่งดี แสดง

วาหุนตัวนั้นๆ มีราคาถูก ยิ่งหากถา P/BV ratio ต่ํากวา 1 นั่นหมายถึงวา เราสามารถซื้อหุนตัวนั้น ไดถูกวาผูกอตั้งบริษัทเสียอีก

ประเภทของธุรกิจ Business Type

ประเภทของธุรกิจ เปนแบบไหน กิจการสามารถยั่งยืนอยูไดชั่วลูก ชั่วหลานหรือไม

เมื่อเลือกหุนที่มีพื้นฐานดีไดดั่งใจที่ตองการแลว ข้ันตอนตอไป คือเราก็

เลือกหุนพื้นฐานดีตัวนั้นๆ มาเลนระยะส้ัน ถึง ปานกลางกันดีกวา ( วิธีนี้จะตางจากนักลงทุนระยะยาวที่เรียกวา ( intrinsic value investor ) สวนทานใดที่ตองการลงทุนระยะยาวก็ไมวากัน เพียงแตถาคุณเปนนักลงทุนระยะยาวก็คงไมมีความจําเปนที่จะตองคอยเฝาดูราคาหุนเปนประจํา

การเลือกหุนพื้นฐานดีมาเลนระยะส้ัน-กลาง จะเปนเกราะปองกันใหเราอีกชั้นหนึ่ง กรณีที่หุนตัวนั้นเกิดผันผวนดานราคา

2.) เขาตลาดใหถูกจังหวะ จริงๆ แลวการเขาตลาดหุนก็เหมือนกับเขาตลาดสด คําถามคือวาคุณจะ

ไปจายตลาดในตอนกลางวันหรือกลางคืน แนนอนถาคุณไปตลาดสดตอนกลางคืนคุณจะหาซื้ออะไรไดบางครับ ?

กอนที่คุณจะเขาซื้อหุนตัวใดตัวหนึ่งนั้น คุณตองรูใหแนชัดมากที่สุดเทาที่จะรูไดวา หุนที่จะซื้อ หรือขายนั้นอยูใน status ไหน เปนชวงข้ึน ( Bullish ) หรือชวงลง ( Bearish ) หรือ ทรงๆ ( Sideway ) การที่คุณเขาตลาด หรือเขา trade

ผิดจังหวะ แนนอน เร่ิมตนก็ผิดแลว ดังนั้นชวงนี้ถือวาสําคัญยิ่งนัก เขาตลาดถูกจังหวะ ก็มีชัยไปกวาคร่ึงแลว

สถานะ (status) ของราคาหุน แบงเปน 3 ชวงคือ • Bullish State ( ภาวะตลาดกระทิง ) • Sideway State ( ภาวะตลาดทรงตัว ) • Bearish State ( ภาวะตลาดหม ี)

Bullish State ( ภาวะตลาดกระทิง )

รูปท ี10 - แสดงภาวะกระทิง bullish ของหุน BIG-C

จากรูปที่ 10 : ราคาหุนของ BIGC ชวงนี้เปนชวงขาข้ึน หรือเรียกวา bullish state มีส่ิงที่ควรสังเกตุคือ เสนคา เฉล่ีย MA12 จะอยูเหนือ MA26 ตลอดชวง และเมือลากเสน trend line ระหวางจุดต่ําของราคา เสน trend line มีแนวโนมทแยงข้ึน

Sideway State ( ภาวะตลาดทรงตัว )

รูปที ่11- แสดงภาวะทรงตัว ( sideway ) ของหุน BIG-C

จากรูปที่ 11: ชวงนี้เปนชวง sideway โดยที่ราคาหุนมีแนวโนมข้ึนและลงสลับกันเปนระยะ สังเกตุจากการลากเสน trend line เชื่อมระหวางจุดสูงของราคา 1 เสน และลากเสนเชื่อมระหวางจุดต่ําของราคาอีก 1 เสน เราจะเห็นวาราคาหุนมันข้ึนๆลงๆในชวงนี้

Bearish State ( ภาวะตลาดหมี )

รูปที ่12- แสดงภาวะตลาดหมี ( bearish state ) ของหุน BIG-C จากรูปที่ 11: เปนชวง Bearish State หรือขาลงนั่นเอง ที่ชวงนี้ เสน

คาเฉล่ีย MA12 จะอยูต่ํากวาเสนคาเฉล่ีย 26 เกือบตลอดชวง ซึ่งจะตรงขามกับชวง Bullish State และหากเราลากเสนเชื่อมระหวางจุดสูงของราคาก็จะเกิดเปนเสนตรงที่มีแนวโนมลง

3.) ตัดขาดทุน ถาคุณเขาตลาดผิดจังหวะโดยราคาหุนมันลงต่ํากวาราคาที่ซื้อมา แลว

จะแกปญหาอยางไร มีหลายทานคิดแบบนี ้ “ ไมเปนไร หุนมีตก ก็ตองมีขึ้น “ “ ไมกลาขาย เพราะราคามันต่ํามาก “ " ขายตอนนี้กลัวเสียฟอรม " เหตุผลมีอีกมากมายที่กลาวไมหมด เอาเปนวา ทุกๆคํากลาวนั้น อยูใน

สถานะเหมือนกัน คือ ขาดทุน ทีนี้หากขาดทุนแลวควรทําอยางไร อันนี้สิเปนส่ิงที่นาคิดนายึดถือเปนหลักปฏิบัต ิ

นักลงทุนระดับมืออาชีพสวนใหญเขามีกติกาในใจที่คอนขางเหมือนกันคือ ตัดขาดทุน STOP LOSS หรือ CUT LOSS แตจะตางกันตรงที่แตละทานอาจจะตัดขาดทุนไมเทากัน ซึ่งเทาที่พบเห็นบอยก็ม ี3% 5% 10%

การเลนหุน ก็เหมือนกับ การทําธุรกิจทั่วๆไป คือ มีความเสี่ยง เมื่อเรามั่นใจวาเราเขาตลาด หรือซ้ือหุนในจังหวะที่เหมาะสมแลว แตเหตุการณมันกลับยอนศรสวนความคิดเรา โดยราคาหุนที่เราซ้ือกลับลวงลง ดังนั้นหากเราปองกันความเสี่ยงในระดับที่เราสามารถรับได หรือไมกระทบกับ port ของเรามากนัก เราก็ควรจะรีบดําเนนิการทันท ีนั่นคือ ตอง stop losses ทันทีที่ราคามันลงมาถึงระดับ target ที่ตั้งไว

ตัวอยางเชน เราซื้อหุน ABC 1,000 หุน หุนละ 200 บาท ราคาซื้อไมรวมคา broker เทากับ 200,000 บาท เราตั้ง stop losses ไวที่ 5% ดังนั้น หากมูลคาเงินของเราลดลงเหลือ 190,000 บาท เราตองรักษาวินัยอยางเครงครัด โดยการการขายหุนนั้นเสียทันท ี

ขอแนะนํา จากรูปท่ี 9,10,11 เราก็พอจะมองออกแลววา การเขาตลาดน้ัน

ควรจะเขาชวงไหนผมมีขอแนะนําดังน้ี

1. คุณตองเขาตลาดในชวงที่ตลาดเปนชวงขาข้ึน ( BULLISH STATE ) เพราะในชวงนี้ซื้อหุนอยางไร ก็มีกําไร

2. ถาตลาดอยูในชวง sideway คุณก็สามารถทํากําไรไดในชวงส้ัน แตก็ตองซื้อขายเร็วและระวัง

3. ถาไมมั่นใจ อยาเขาตลาดในชวงขาลง ( BEARISH STATE ) เพราะอัตราการลงของราคาจะเร็วกวาอัตราการข้ึน นั่นหมายถึงวา คุณจะมีความเส่ียงคอนขางมาก แตถาหากคุณมีเวลาเฝามันไดทั้งวัน อันนี้ก็สามารถทํากําไรชวงส้ันๆ ไดเหมือนกัน

รูปภาพแสดงการตัดขาดทุน

ถาคุณเขาตลาด(ผิดจังหวะ) ที่ตําแหนงเลข 1 และราคาหุนไดดิ่งลงมาจากวันที่คุณซื้อ กรณีที่ เ ราตั้งตัวเลขขาดทุนที่ระดับที่คุณยอมรับได เมื่อราคาหุนตกลงมายังตําแหนงเลข 2 คุณตองตัดขายขาดทุนทันที เพื่อควบคุมการขาดทุนมากกวานี ้

4.) ปลอยใหราคาหุนว่ิง

ตามที่ไดแนะนําวา การเขาตลาดควรเขาตลาดชวงที่เปนขาข้ึน Bullish State ถาหุนที่เราซื้อมีกําไร เราก็ควรปลอยใหหุนมันว่ิงไปเร่ือยๆ อยาเพิ่งขายมันออกไป เพราะ

- ในชวงขาข้ึนจะมีการปรับฐาน ( Retracement ) เปนระยะๆ แตหลัง retrace แลวมันก็จะ rebound ข้ึน ซึ่งอัตราการข้ึนหรือเดง ( Rebound ) มันจะเร็วกวา อัตราการลง ( Retrace )

- ในแงการวิเคราะหหุนที่ซับซอนยิ่งข้ึน โดยอาศัย Elliot Wave Analysis พบวา ชวงขาข้ึนจะฟอรมตัวเปนลูกคล่ืนจําวน 3 ลูก สวนชวงขาลง มันจะฟอรมตัวเปนลูกคล่ืน 2 ลูก ดังนั้นหากลูกคล่ืนที่อยูในชวงตลาดขาข้ึนกําลังฟอรมตัวลูกที ่ 1 และคุณก็เขาตลาดชวงนี้พอดี ดังนั้นคุณยังสามารถถือหุนนั้นไปไดจนถึงราคาหุน ณ ลูกคล่ืนที่ 5 ได และมีกําไรสูงสุด นี่สิเรียก “ Let The Profit Run “

ปลอยใหราคาหุนวิ่ง

กรณีที่คุณเขาตลาดถูกจังหวะที่ตําแหนงเลขที่ 1 และคุณก็รูวาคุณเขาตลาดชวงที่เปน Bullish State และมันเปนชวงที่เพิ่งเร่ิมตนของ state นี้ เมื่อราคาหุนขยับข้ึนมาที่ตําแหนงเลขที่ 2 คุณอยาเพิ่งรีบรอนขายหุนทิ้งออกไป เพราะตําแหนงที ่ 2 คุณก็ยังมีกําไร และมีโอกาสที่จะมีกําไรตอไปดวย เพราะราคาหุนมันจะข้ึนเปนลูกคล่ืน 3 ลูก ( ตามสถิติ )

ดังน้ันรอใหราคาหุนมันขึ้นไปท่ีตําแหนงเลขท่ี 3 กอนคอยขายหุนออกไป

คุณจะรูไดอยางไรวาราคาหุนมันมาถึงจุดยอดหรือยัง เร่ืองน้ีมันมีทฤษฎีท่ีสามารถ forecast ได คือ Elliott Wave Theory

5.) เลนตามกระแส สุภาษิตที่มีความหมายดีๆมีมากมาย และหนึ่งในนั้นที่สามารถนํามา

apply กับตลาดหุนไดก็คือ “หลิวลูลม “ หรืออีกสํานวนหนึ่ง “ เขาเมืองตาหล่ิว ใหหล่ิวตาตาม “ ความหมายมันคือ พยายามทําตัวใหกลมกลืน อยาไปฝนสถานการณ เชนกัน เมื่อหุนข้ึน คุณก็เขาไปซื้อ เมื่อหุนตก อยาทําตัวเปนคนเกงดวยการซื้อสวนทางตลาด เพราะมันเส่ียง

การเลนหุนตามกระแสมันก็มีหลายรูปแบบ แตที่เห็นชัดเจนเปนรูปธรรมก็พอจะแบงออกไดเปน 2 รูปแบบดวยกันคือ

1. เลนตาม SET INDEX คือเราตองพิจารณา pattern ของ SET ดวยวาเปน state ไหน และโปรดอยาลืมวาควรเขาตลาดในชวง Bullish State เมื่อพิจารณา SET แลว ก็มาพิจารณาเลือกเลนหุนที่เราสนใจ ซึ่งวิธีการเลือกหุนนั้น ขอใหพิจารณาตามเคล็ดลับขอที่ 1. เมื่อเลือกหุนไดแลว ก็มาพิจารณาวา trend ของราคาหุนตัวที่เราเลือกนั้น มันเหมือนกับ trend ของ SET หรือไม ถาเหมือนกันก็เขาเลนเลย อยางนี้เรียกวาเลนตามกระแส SET INDEX

2. ไมเลนตาม SET INDEX เปนการเลนหุนโดยดู pattern ของหุนที่เราเลือกโดยไมไดอิงหรือพิจารณาใหน้ําหนักกับ SET INDEX มากนัก เปนการวิเคราะหเฉพาะหุนนั้นๆวามันอยูใน state ไหน การเขาซื้อหรือขาย ก็ใหดูจังหวะใหดี แตกรณีเลนแบบนี้ ไมแรงเทากับวิธีตามกระแส SET INDEX

6.) อยาซ้ือเฉลี่ย ถาราคาหุนตก

หลายคนมีวิธีการเฉล่ียราคาหุนตอนชวงราคาหุนตก โดยการซื้อหุนตัวเดียวกันหลายรอบในชวงขาลง เพื่อเฉล่ียตนทุนที่ซื้อแพงไป ใหมีราคาเฉล่ียถูกลง อันนี้แลวแต style ของนักเลนหุน แตที่แนๆคือ ราคาหุนมันกําลังตก แสดงวา หุนตัวนั้นมันตองผิดปกติ หรือมีขาวไมดี หรืออะไรอีกมากมายที่เราไมรู ความไมรูนี่สิคือความเส่ียง แลวมีคําถามตอวา คุณจะหยุดเฉล่ียซื้อเมื่อไหร

ขอแนะนํา แทนที่จะซื้อเฉล่ียราคาหุนชวงขาลง คุณนาจะตัดขาดทุนดีกวา เพราะ

การตัดขาดทุนจะทําใหเรา - สามารถ Control ตนทุนได - ไมตองหมกมุนกับราคาหุนมากนัก - ไมเสียอารมณตลอดหลายชวงเวลา - นอนหลับไดเต็มอ่ิม

ทฤษฏี Elliott Wave สรางข้ึนโดย Ralph Nelson Elliott ซึ่งเขาไดพัฒนามาจาก Down Theory โดยเนื้อหาบทสรุปของทฤษฎีนี้คือ Pattern ของราคาหุนมันจะมีพฤติกรรมเปนลักษณะลูกคล่ืน ซึ่งสามารถแจงรายละเอียดในหลักการไดดังนี ้

ถามีแรงกระทํายอมมีแรงโตตอบ ซึ่งอนุมานในการเลนหุนคือ เมื่อหุนมีข้ึน มันก็ตองมีลง และเมื่อมันลงถึงจุดนิ่งแลว มันก็พรอมที่จะข้ึนในรอบตอไป ซึ่งภาษานักวิเคราะหหุนทั้งหลายเขาเรียกวาหุนรีบาวน ( rebound ) และหุนปรับฐาน ( retrace )

Elliott Wave ประกอบดวยลูกคล่ืนในขาข้ึน 5 ลูก ( 1-2-3-4-5) และลูกคล่ืนในขาลง 3 ลูก (a-b-c) ในชวงขาข้ึนเราเรียกวา Impulse สวนขาลงเราเรียกวา Correction

ในหนึ่งรอบหรือ cycles ของ Elliott Wave นั้นจะเปน series ของ impulse และ correction

จากนิยามขางตนสามารถแสดงดวยกราฟดังขางลาง และแนะนําวา

คุณตองจํา pattern นี้เอาไวใหแมนยํา wave 1,2,3,4,5,a,b,c

รูปที ่13- แสดงรูปแบบมาตรฐานของ Elliott Wave

จากกราฟรูปที่-13 จะเห็นวาจุดสูงสุดของรอบจะอยูที่คล่ืนลูกที่ 5 สวน

จุดเร่ิมตนคือคล่ืนลูกที่ 1 ในชวงที่หุนเปนขาข้ึน การข้ึนยังไมแรงเทาที่ควร เพราะนักลงทุนหรือนักเลนหุนตางคอยดูเชิงซึ่งกันและกัน ราคาหุนก็จะไตข้ึนมาที่คล่ืนลูกที่ 1 หลังจากนั้น ก็จะมีนักเลนหุนบางกลุมที่คอยจังหวะขายหุนโดยที่หวังกําไรไมมากนัก หรือ อยางนอยก็ขาดทุนไมมาก ทําใหหุนปรับฐาน( retrace ) ลงมาเล็กนอยที่คล่ืนลูกที่ 2

หลังจากราคาหุนไดปรับฐานมาที่คล่ืนลูกที่ 2 แลว ในชวงนี้เอง volume การซื้อขายเร่ิมมากข้ึน ทําใหนักเลนหุนอ่ืนๆมองเห็นแนวโนมทิศทางของหุนตัวนี้ จึงเร่ิมเขาซื้อหุนดวย volume ที่มาก ทําใหราคาหุนปรับตัว ( rebound ) สูงข้ึนมาก โดยทฤษฏีแลว คล่ืนลูกที่ 3 จะเปนคล่ืนลูกที่ยาวที่สุด

ราคาหุนปรับตัวมาที่คล่ืนลูกที่ 3 ทําใหนักเลนหุนมีกําไรเปนกอบเปนกํา จึงเร่ิมทยอยขายหุนออกมา ราคาหุนก็เร่ิม retrace มาที่คล่ืนลูกที่ 4 การปรับฐานของราคาหุนมาที่คล่ืนลูกที่ 4 นี้ ดูเหมือนวามันนาจะหยุดข้ึนตอไป แตทั้งนี้ยังมีนักเลนหุนบางกลุมที่ตกขบวนรถไฟ และยังมีความเชื่อวาหุนตัวนี้สามารถว่ิงตอได จึงเขาไลซื้ออีกรอบหนึ่ง ทําใหหุนสามารถว่ิงตอไปไดจนถึงคล่ืนลูกที่ 5 แตโดยพฤติกรรมแลว คล่ืนลูกที่ 5 จะมีขนาดส้ันกวาลูกที่ 3 เนื่องจากความกลาๆกลัวๆของนักเลนหุนทําใหตัดขาย หรือทํากําไรเพียงเล็กนอยก็เพียงพอแลว

เมื่อราคาหุนปรับตัวมาที่จุดสูงสุดคือคล่ืนลูกที่ 5 แลว และมีการขายทํากําไรกันออกมา ทําใหราคาหุนปรับฐานลงมาที่คล่ืน a, การขายรอบนี้นักเลนหุนจะประสานเสียงหรือรวมมือรวมใจกันขายหุนออกมาปริมาณมาก หรือบางคร้ังเกิด panic เล็กๆ เมื่อหุนปรับฐานมาที่คล่ืน a นักเลนหุนบางคนจะมองวาราคาหุนมันถูกลงจึงเขาซื้อทําใหราคาหุน rebound เล็กนอยไปที่คล่ืนลูกที่ b แตการข้ึนคร้ังนี้มันข้ึนไมแรง เพราะมันยังไมสามารถเอาชนะใจคนอ่ืนๆได พอข้ึนไมแรงก็ขายดีกวา ทําใหมีการขายหุนกันออกมาทําใหราคาหุนปรับฐานลงที่คล่ืน c

หลังจากจบคล่ืน c แลวก็ถือวามันครบรอบหรือ cycle ของหุนอยางสมบูรณ ผมขอทวนนะครับ คล่ืน Elliott Wave ประกอบดวยหุนขาข้ึน ( impulse) คล่ืนลูกที่ 1,2,3,4,5 สวนหุนขาลง ( correction ) มีคล่ืนลูก a,b,c

การเขาใจพฤติกรรมของหุนโดยอาศัยหลัก Elliott Wave จะทําใหเรารูสถานะและแนวโนมของมัน ทําใหเรามีความมั่นใจมากข้ึนในการ trade

จากที่กลาวขางตนเปนเพียง Basic Concept เทานั้น แตมันยังมีความซับซอนมากกวานี ้โดยที่หุนขาข้ึนลูกที่ 1,2,3,4,5 สามารถรวบเปนคล่ืนลูกที่ 1 และหุนขาลง a,b,c สามารถรวบเปนคล่ืนลูกที่ 2 ได เชนกราฟรูปที1่4 -15

รูปท่ี 14-แสดงความซับซอนเพิ่มข้ึนของ Elliott Wave

รูปท่ี 15 - แสดงความซับซอนของ Elliott Wave อีกแบบหนึ่ง

การที่หุนมัน rebound หรือ retrace นั้น ถามวามันจะข้ึนไปถึงไหน และ

มันจะลงมาถึงไหน ตรงจุดนี้ก็มีทฤษฎีที่อธิบายไดเชนกันนั่นคือ Fibonacci Numbers ซึ่งเปนเนื้อหาที่สามารถเขียนเปนหนังสือหรือคูมือเปนเลมหนาประมาณ 1 นิ้วได ซึ่งผมไมสามารถนํามาอธิบายในที่นี้ได แตก็ขอนําเอาผลของมันมาใชเลยดีกวาครับ

Fibonacci Numbers เปนตัวเลขที่เกิดข้ึนมาพรอมกับธรรมชาติ เปนตัวเลขที่เรียกไดวามหัศจรรยเลยทีเดียว ตัวเลขที่เราสามารถนํามาใชไดเลยมีดังนี ้

แบบทศนิยม แบบเปอรเซ็นต

0.236 23.60 % 0.382 38.20 % 0.500 50.00 % 0.618 61.80 % 0.764 76.40 % 1.000 100.00 % 1.382 138.20 % 1.618 161.80 % 2.618 261.80 % 4.236 423.60 %

หลายคนคงพอจะคุนกับตัวเลขพวกนี้บางนะครับ อยางนอยนักวิเคราะห

หุนหลายสังกัดก็นิยม หรือพูดถึงกันมากเชน หุนกําลังปรับฐานลงมาในระดับ 38.20% ซึ่งก็คือแนวรับที่นักวิเคราะหจะทํานายไดวาราคาหุนมันมีแนวรับที่ระดับราคาเทาไหร

เราลองมาดูตัวอยางการใชงาน Fibonacci Numbers

รูปที ่16- แสดงการใช Fibonacci ในการหาราคาแนวรับ

จากกราฟราคาหุน ( รูปที่ 15 ) เปนตัวอยางของหุน BBL เมื่อราคาหุน

มันข้ึนจากจุดที ่1 ไปจุดที่ 2 และมันก็ปรับฐาน retrace ลงมา ทีนี้หากเราไมมีวิชาติดตัวถามวาราคาหุนมันควรจะลงมาเทาไหรก็ไมสามารถจะคาดคะเนได แตหากเรามีวิชาติดตัว คุณคงบอกไดนะครับวาแนวรับมันควรจะอยูที่ไหน

ถาเราใช Fibonacci หาแนวรับก็จะไดแนวรับหลายระดับไดแก แนวรับที่ 23.6% , 38.2%, 50.0%, 61.80% ในที่นี้แนวรับมันหยุดที่ 50% ที่ราคาใกลๆ 48 และหลังจากนั้นมันก ็rebound ข้ึนตอไป

แนนอนครับเราคงไมไดใชเจา Fibonacci Numbers เพียงอยางเดียวมาวิเคราะหหุน ถาจะใหดีเราควรนําเอา indicators ตัวอ่ืนๆมาวิเคราะหดวยเชนกัน

ตัวอยางรูปที่ 16 เปนการนําเอา indicator เชน MACD ( Oscillator ) มาประกอบในการวิเคราะห เพ่ือหาวาคลื่นของ ELLIOTT มันวิ่งไปถึงคลื่นลูกที่ 5 หรือยัง ซึ่งจะสังเกตุเห็นวาเสนสีแดงที่ลากเชื่อมระหวางจุด 3 และ 5 มีทิศทางขึ้น ในขณะที่เสนแดงที่ลากเชื่อมระหวางจุดยอดของ MACD มีทิศทางลง ลักษณะนี้เรียกวาเกิด divergence คือมันมีทิศทางสวนทางกัน เชนนี้ก็จะสามารถ forecast ไดวากราฟหุนไดมาถึงจุดสูงสุดคลื่นลูกที ่5 แลว

รูปที ่17- การใช indicator เขน MACD ชวยในการหาจุดยอดของ wave-5

ชวงขาข้ึนประกอบดวยคล่ืน 1,2,3,4,5 สังเกตวาคล่ืนลูกที่ 2,4 เปนคล่ืนชวงปรับฐานยอย สวนคล่ืน 1,3,5 เปนคล่ืน rebound แตถามองเปน Channel แลว ภาพรวมมันเปน Uptrend

ลักษณะของคล่ืนลูกที่ 2 จะปรับฐานโดยจะไมต่ํากวาจุดเร่ิมตนของ คล่ืนลูกที่ 1

การปรับฐานคล่ืนลูกที่ 2 นั้นเกิดจากการขายเพื่อหนีตนทุน เนื่องจากกอนการเกิดคล่ืนลูกที่ 1 มันผาน downtrend มากอน ทําใหพอหุนมีการ rebound ข้ึนมาที่ลูกคล่ืนที ่1 ได นักเลนหุนบางกลุมก็ยอมขายขาดทุนออกมา ทําใหราคาหุนตก และปรับฐานเปนคล่ืนลูกที่ 2

การ form ตัวคล่ืนลูกที่ 3 นั้นจะสังเกตุไดจากยอดของคล่ืนลูกที่ 1จะเปน

แนวตานที่สําคัญ หากมันไมสามารถทะลุผานจุดนี้ไปได นั่นแสดงวาคล่ืนลูกที่ 3 นั้นมันมีปญหา หรือผิดพลาด แตถาลูกคล่ืน สามารถทะลุผานแนวตานนี้ ไปไดแสดงวาการ form ตัวเปนคล่ืนลูกที่ 3 นาจะสมบูรณ

สวนมากแลวคล่ืนลูกที่ 3 จะเปนคล่ืนที่แรงที่สุด ดังนั้นหากราคาหุนมัน

ทะลุยอดของคล่ืนลูกที่ 1 พรอมทั้งเกิด Gap กระโดดอยูเหนือยอดคล่ืนลูกที่ 1 ได ยอมแสดงถึงทิศทางของหุนกําลังเขาสู Bullish state อยางคึกคัก

สาเหตุที่คล่ืนลูกที่ 3 เปนคล่ืนลูกที่รอนแรงที่สุดนั้น ก็เพราะวานักเลนหุน

ตางก็มองเห็นทิศทาง ของมันอีกทั้งยังเกิด gap ของราคาหุนดวย ทําใหนักเลนหุนที่พลาดโอกาสซื้อ ณ จุดต่ําสุดนั้น ตองรีบกระโดดเขามารวมวงดวย เพื่อปองกันไมใหตัวเองตองตกขบวน

เมื่อคล่ืนลูกที่ 3 ไดไตระดับข้ึนมามากแลว นักเลนหุนกลุมแรกที่ซื้อหุน

ไว ณ ระดับราคาชวงต่ําสุด ก็เร่ิมทยอยขายทํากําไรออกมา ทําใหราคาหุนมีการปรับฐานเกิดคล่ืนลูกที่ 4

สวนนักเลนหุนกลุมที่ไมไดซื้อหุน ณ ระดับราคาต่ําสุดยังไมไดขายหุนออกมาก อีกทั้งยังมีการซื้อเฉล่ียตนทุนดวย และเชื่อวาโอกาสที่หุนจะข้ึนยังมีอยู จึงเขาซื้อ ทําใหราคา rebound ข้ึนไปเปนคล่ืนลูกที่ 5 แตการ form ตัวเปนคล่ืนลูกที่ 5 จะไมคึกคักเทากับคล่ืนลูกที่ 3 แลวจุด peak ของ uptrend ก็มาหยุด ณ คล่ืนที่ 5

ชวงขาลง downtrend เปนชวงที่คาดคะเนไดยากพอสมควร นักเลนหุนบางคนสามารถทํากําไรจากสวนตางราคาหุน (price gaining) ไดในชวงหุนขาข้ึน แตก็ตองขาดทุนในชวงหุนขาลง เพราะการพยากรณ หรือ คาดคะเนหุนขาลงมันจะยุงยากและซับซอนกวาชวงขาข้ึน

หุนขาลงประกอบดวยคล่ืนลูกที่ A,B,C ซึ่งเราสามารถหาคล่ืนลูกที่ A,B,C ไดดังนี้

Simple Correction หรือเรียกวา zig-zag ก็ได โดยการปรับทิศทางลง

ของหุนประกอบดวยคล่ืนลูกที่ A,B,C ทั้งนี้คล่ืนลูก B จะ retrace ไมเกิน 75% ของคล่ืน A.และคล่ืน C จะมีขนาดมากกวาหรือเทากับคล่ืน A

WAVE-B ปกติจะมีขนาดของคล่ืนเปน 50% ของคล่ืน A และไมควรเกิน 75% ของคล่ืน A

WAVE-C เปนไปไดตามกรณ ี = 1.00 เทาของ คล่ืน A. = 1.62 เทาของ คล่ืน A. = 2.62 เทาของ คล่ืน A.

นี่คือรูปแบบตัวอยางของ ZIG-ZAG Correction

การนํา Elliott Wave มาวิเคราะหหุนนั้นนับวามันมีประโยชนมากทีเดียว แตเชื่อหรือไมครับวา คนสิบคนกําหนดหรือสราง Elliott Wave ไมเหมือนกันคือ บางคนระบุราคาหุนตอนนั้นเปนคล่ืนลูกที่ 3 แตบางคนก็ระบุเปนคล่ืนลูกที่ 5 ทั้งนี้ข้ึนอยูกับประสบการณ และเคร่ืองมือที่นํามาประกอบการวิเคราะห

สิ่งสําคัญท่ีขอเนนนะครับคือ ไมวาเราจะมีเคร่ืองมือท่ีดีเลิศอะไรก็

ตาม แตสิ่งสําคัญเหนืออ่ืนใดคือวินัยในการลงทุน หรือวินัยในการเลนหุน ( DISICIPLINE ) อยาลืมนะครับตองยึดมั่นใหดีแลวคุณจะประสบความสําเร็จ

แนะนําโปรแกรม RicherStock

www.richerstock.com

รูปที ่18- www.richerstock.com

เกี่ยวกับโปรแกรม RicherStock ( www.richerstock.com )

RicherStock เปนโปรแกรมวิเคราะหหุนโดยอาศัยดานเทคนิค ( Technical Analysis ) และใชหลักการ Elliott Wave ประกอบกับ Fibonacci Numbers นํามาคํานวณเพื่อหาจุดซื้อ จุดขายหุนที่เหมาะสม ( Buy –Sell signal ) อีกทั้งโปรแกรมยังแสดงคา indicators ตางๆ เพื่อใชยืนยันจังหวะซื้อ จังหวะขาย เพื่อความมั่นใจมากยิ่งข้ึน

ลักษณะของกราฟทีโ่ปรแกรมแสดงนั้น ประกอบดวยกราฟหุนพรอมลูกศรซื้อ หรือ ลูกศรขาย ซึ่งเปนลูกศรที่แสดงถึงจังหวะซื้อ หรือจังหวะขายที่เหมาะสม ทั้งนี้จังหวะซื้อขายนั้น จะถูกยืนยันดวย indicators RSI ( Relative Strength Index ) และ Stochastic และ MACD ( Moving Average Convergence and Divergence )

ประโยชนที่จะไดรับจากโปรแกรม RicherStock คือทําใหนักลงทุนเขาซื้อ หรือขายหุนไดถูกจังหวะ ทําใหนักลงทุนรูสถานะหรือภาวะตลาด ณ ขณะนั้นๆวามีความเส่ียงมากหรือความเส่ียงนอยเพียงใด เพื่อที่นักลงทุนจะสามารถบริหารความเส่ียงไดอยางมั่นใจ

การลงทุนมีความเส่ียง แตถานักลงทุนสามารถจัดการและบริหารความเส่ียงนั้นได ยอมทําใหนักลงทุนประสบความสําเร็จในการลงทุนตอไป เร่ิมตนท่ี www.richerstock.com

เมื่อเขาไปที ่ www.richerstock.com สําหรับสมาชิกใหทําการ login โดยใส username และ password

รูปที ่19 แสดงหนา Login

หลังจาก Login จะปรากฏหนาจอดังรูปที่ R2. ซึ่งจะมี menu ใหเลือกดานซายมือประกอบดวยกลุมเมน ู

1. Stock chart function เปนเมนูที่แสดงรายการกราฟดานเทคนิค ซึ่งจะกลาวถึงในรายละเอียดตอไป

2. ตารางเคร่ืองหมายซื้อขาย เปนพังกชั่นที่จระสรุปภาพรวมของตลาด หรือ กลุมของหุน วาเกิดสัญญาณซื้อหรือขายอยางไร

3. คนหาหุน เปนฟงกชั่นสําหรับคนหาหุนที่เราตองการ ตามเงื่อนไขที่ user สามารถกําหนดไดในเชิง technical

4. Fundamental Info เปนกลุมฟงกชั่นสําหรับดูขอมูลหุนเชิงพื้นฐาน

การใชงานกราฟหุน ( Stock Chart )

หลังจากที่สมาชิก login เขามาในระบบแลว หากตองการดูกราฟหุน พรอมจุดซื้อขาย โดยตองการดูกราฟหุนแตละตัวที่สนใจ ใหใสสัญลักษณหุนตัวนั้นๆที่ชองวาง “Symbols: “ ตัวอยางเชนถาตองการดูกราฟหุนของ ปตท ใหใสสัญลักษณที่ชองวางเปน PTT ( จะเปนอักษรพิมพใหญหรือเล็กก็ได ) เมื่อใสสัญลักษณแลว ให click ที่ icon ก็จะปรากฏกราฟหุนของ PTT ดังรูปที่ -20

รูปที ่20- แสดงกราฟหุน PTT

สวนประกอบของกราฟ สวนที ่1 “ Header ” สวนที ่2. Stock Chart area สวนที ่3. Volume สวนที ่4. Indicator 1 สวนที ่5. Indicator 2 สวนที ่6. indicator 3

สวนที ่1. Header

สวนนี้จะแสดงสัญลักษณหุน และชื่อหุนภาษาไทย พรอมกับแสดงรายการราคาหุน

open ราคาเปดของวัน high ราคาสูงสุดของวัน low ราคาตํ่าสุด

close ราคาปด volume ปริมาณการซ้ือขาย ( x 100 ) change ราคาเปล่ียนแปลงจากวันกอน

date วันที่ลาสุดของกราฟ

สวนที ่2. Stock Chart Area สวนนี้จะแสดงกราฟหุนโดยที่คา default หรือคาที่กําหนดไวเบื้องตน จะ

เปนกราฟชนิด candle stick หรือกราฟแทงเทียน และจะแสดงกราฟยอนหลัง 6 เดือน หากตองการแกไขชนิดของกราฟ หรือชวงเวลายอนหลังของกราฟ สามารถเปลียนแปลงไดที่เมนู “ Chart type: “, “ Time: ”

นอกจากจะแสดงกราฟของหุนแลว ภายในสวนนี้ยังแสดงจังหวะซื้อ และจังหวะขายดวย โดยจะแสดงจังหวะซื้อ-ขาย 4 รูปแบบดวยกันดังนี้

สัญญลักษณ ความหมาย

แสดงสัญญาณซ้ือระยะกลาง ( Mid-Term Buy ) จังหวะซ้ือ ณ จุดนี้ สวนใหญแลวจะเปนจุด turning point จากขาลงเปล่ียนเปนขาขึ้น หรือ เปล่ียนจาก downtrend เปน uptrend

แสดงสัญญาณขายระยะกลาง ( Mid-Term Sell ) จังหวะขาย ณ จุดนี้ สวนใหญแลวจะเปนจุด turning point จากขาขึ้นเปล่ียนเปนขาลง หรือ เปล่ียนจาก uptrend เปน downtrend

แสดงสัญญาณซ้ือระยะสั้น ( Short-Term Buy ) จังหวะซ้ือ ณ จุดนี้ จะเกิดในชวงระยะกลาง คือภายในชวงระหวางสัญญาณ และ ซ่ึงสัญญาณระยะส้ันนี้ สามารถเกิดขึ้นไดหลายรอบ

แสดงสัญญาณขายระยะสั้น ( Short-Term Sell ) จังหวะขาย ณ จุดนี้ จะเกิดในชวงระยะกลาง คือภายในชวงระหวางสัญญาณ และ ซ่ึงสัญญาณระยะส้ันนี้ สามารถเกิดขึ้นไดหลายรอบ

นอกจากกราฟที่แสดงจังหวะซื้อ และจังหวะขายแลว ภายในกราฟจะมีเสน

คาเฉล่ียเคล่ือนที่ ( moving averge ) 3 เสนไดแก • เสนคาเฉล่ียเคล่ือนที่ 5 วัน MA( 5 ) เปนเสนสีมวง • เสนคาเฉล่ียเคล่ือนที่ 15 วัน MA(15) เปนเสนสีน้ําเงิน • เสนคาเฉล่ียเคล่ือนที่ 30 วัน MA(30 ) เปนเสนสีแดง เสนคาเฉล่ียทั้ง 3 เสนจะบอกภาวะตลาดไดวาเปนตลาดหมีหรือกระทิง

( bearish or bullish ) โดยสังเกตจาก ภาวะตลาด ลักษณะกราฟ ความหมาย

ภาวะตลาดหมี ( Bearish State )

เสนกราฟราคาหุนจะอยูตํ่ากวาเสนคาเฉล่ียทั้ง 3 เสน

เปนตลาดขาลง การทํากําไรจากการเลนรอบจะตองเลนเร็วขึ้น ชวงกําไรจะนอย

ภาวะตลาดกระทิง ( Bullish State )

เสนกราฟราคาหุนจะอยูเหนือเสนคาเฉล่ียทั้ง 3 เสน

เปนตลาดขาขึ้น การทํากําไรจากการเลนรอบจะยาวขึ้น ชวงทํากําไรจะมากกวาภาวะตลาดหมี

การหาคาของเสนคาเฉลี่ยเคลือ่นท่ี ( Moving Average )

เนื่องจากการหาคาเฉล่ียเคล่ือนที่ จะมีดวยกันหลายวิธี หลายรูปแบบ เชน SMA ( Simple Moving Average ), EMA ( Exponential Moving Average ) เปนตน แตเนื่องจาก RicherStock ตองการใหสมาชิกมองภาพรวม ไมตองการให

เกิดความซับซอน ดังนั้นการแสดง moving average จะแสดงดวย SMA ( Simple Moving Average )

การหา SMA ก็โดยนําเอาราคาปดนับยอนหลังจากวันนี้ถอยยอนหลังไปตามจํานวนวันที่ตองการหาคาเฉล่ีย เชนตองการหาคา SMA(10) คือเราตองการหาคาเฉล่ียเคล่ือนที่ 10 วัน เราก็ตองเอาราคาปดยอนหลัง 10 วัน โดยเอาราคาปดแตละวันมารวมกันแลวหารดวย 10 และนําคาเฉล่ียที่ไดมา plot ในกราฟของวันนี สวนที ่3 ปริมาณการซ้ือ-ขาย ( Volume )

สวนนี้จะแสดงปริมาณการซื้อ-ขายของหุนตัวนั้นๆ โดยแสดงเปนกราฟแทงทึบ ซึ่งปริมาณการซื้อขายนี ้ก็สามารถบอกทิศทางหรือแนวโนมของหุนไดเชนกัน เชนวันใดที่ปริมาณการซื้อขายมากข้ึน ประกอบกับราคาหุนเพิ่มข้ึนแสดงวานักลงทุนกําลังเลนหุนตัวนั้น ในทางกลับกันหากปริมาณการซื้อขายมากข้ึน ในขณะที่ราคาหุนตัวนั้นลดลง แสดงวานักลงทุนกําลังเทขายหุนตัวนั้น

สวนที ่4 Lower Indicator 1

ความหมายของ Indicator โดยทั่วๆไปจะหมายถึง ดัชนีชี้แนะอะไรสักอยางหนึ่ง ที่จะทําใหเราสามารถพยากรณภาวะโดยรวมของเหตุการณนั้นๆได ซึ่งถาหากนําเอาเร่ือง indicator มาใชในกับการวิเคราะหหุนดานเทคนิคแลว indicator จะบอกถึงภาวะของหุนวา ราคาแพงไป ( overbought ) หรือราคาถูกไป ( oversold ) ก็ได หรืออาจจะนําไปใชในการบอกภาวะหุนวาเปนภาวะหม ี

หรือ ภาวะกระทิงก็ไดเชนกัน รายละเอียดของ indicator ที่ใชกับกราฟที่นําเสนอโดย RicherStock มีดังนี้ Relative Strength Index (RSI)

จะแบงพื้นที่ออกเปน 3 สวนดวยกันไดแก - Overbought - Trading Range - Oversold ความหมายและส่ิงที่ตองพิจารณาเพื่อนํา RSI ไปใชในการวิเคราะหภาวะ

หุน พื้นที่ ความหมาย

Overbought

เปนพื้นที่บริเวณที่อยูเหนือเสนระดับ 70% ข้ึนไป ถาเสนกราฟ RSI ว่ิงอยูในพื้นที่บริเวณนี ้หรืออีกนัยหนึ่งคือเสนกราฟ RSI ว่ิงอยูเหนือเสน 70 % เราเรียกวา ขณะนี้หุนเกิด overbought แลว หมายถึงวา ณ ขณะนี้หุนตัวนี้เร่ิมมี

ราคาแพงแลวสําหรับรอบนั้นๆ เพราะนักลงทุนไดไลซื้อหุนตัวนั้นๆมาตลอดเลยทําใหราคาไตระดับข้ึนไปจนถึง overbought

Trading Range

เปนพื้นที่บริเวณที่อยูระหวางเสนระดับ 30% และเสนระดับ 70% ถาเสนกราฟ RSI ว่ิงอยูในพื้นที่บริเวณนี ้หรืออีกนัยหนึ่งคือเสนกราฟว่ิงมาอยูระหวางเสนระดับ 30 % และเสนระดับ 70 % เปนชวงที่มีการซื้อ-ขายกัน

Oversold

เปนพื้นที่บริเวณที่อยูใตเสนระดับ 30% ลงมา ถาเสนกราฟ RSI ว่ิงอยูในพื้นที่บริเวณนี ้ หรืออีกนัยหนึ่งคือเสนกราฟ RSI ว่ิงอยูใตเสน 30 % เราเรียกวา ขณะนี้หุนเกิด oversold แลว หมายถึงวา ณ ขณะนี้หุนตัวนี้เร่ิมมีราคาถูกแลวสําหรับรอบนั้นๆ เพราะนักลงทุนไดขายหุนตัวนั้นๆมาตลอดเลยทําใหราคาลดระดับลงมาจนถึง oversold

เสนกราฟ RSI ที่เห็นนั้นจะมี 2 เสน ไดแกเสน RSI ( สีดํา ) เปนเสนที่

คํานวณขอมูลยอนหลังทุกๆ 14 วัน และเสนคาเฉล่ียของ RSI ( สีขาว ) โดยหาคาเฉล่ียเคล่ือนที่ 5 วัน เนื่องจากเสน RSI เองไม smooth จะข้ึนๆลงเปนหยัก ดังนั้นจึงตองหาเสนคาเฉล่ียเคล่ือนที่ของ RSI เพื่อทําใหเสนกราฟ smooth ข้ึน และเราสามารถใชประโยชนของการตัดกันทั้ง 2 เสนนี้ เพื่อยืนยันจังหวะซื้อ และจังหวะขายไดดังนี้

จังหวะซื้อ จังหวะขาย กรณีเสน RSI ว่ิงจาก oversold ข้ึนไป เปนจังหวะที่เตรียมพรอมเขาซื้อ ทั้งนี้ใหสอดคลองกับสัญญาณ ลูกศรซื้อที่ปรากฏดวย และถาเสน RSI ( สีดํา ) ตัดผานเสนคาเฉล่ียเคล่ือนที ่( สีขาว ) ข้ึนไป แนวโนมราคาจะว่ิงข้ึน

กรณีเสน RSI ว่ิงจาก overbought ลงมา เปนจังหวะที่เตรียมพรอมขาย ทั้งนี้ใหสอดคลองกับสัญญาณลูกศรขายที่ปรากฏดวย และถาเสน RSI ( สีดํา ) ตัดผานเสนคาเฉล่ียเคล่ือนที ่( สีขาว ) ในทิศทางลง แนวโนมราคาจะว่ิงลง

สวนที ่5 Lower Indicator 2

Stochastic Oscillator

จะแบงพื้นที่ออกเปน 3 สวนดวยกันไดแก - Overbought - Trading Range - Oversold ความหมายและส่ิงที่ตองพิจารณาเพื่อการนําไปใชในการวิเคราะหภาวะหุน

พื้นที ่ ความหมาย

Overbought เปนพื้นที่บริเวณที่อยูเหนือเสนระดับ 80% ข้ึนไป ถาเสนกราฟ Stochastic ว่ิงอยูในพื้นที่บริเวณนี ้หรืออีกนัยหนึ่งคือเสนกราฟ Stochastic ว่ิงอยูเหนือเสน 80 % เราเรียกวา ขณะนี้หุนเกิด overbought แลว หมายถึงวา ณ ขณะนี้หุนตัวนี้เร่ิมมีราคาแพงแลวสําหรับรอบนั้นๆ เพราะนักลงทุนไดไลซื้อหุนตัวนั้นๆมาตลอดเลยทําใหราคาไตระดับข้ึนไปจนถึง overbought

Trading Range

เปนพื้นที่บริเวณที่อยูระหวางเสนระดับ 20% และเสนระดับ 80% ถาเสนกราฟ Stochastic ว่ิงมาอยูในพื้นที่บริเวณนี ้หรืออีกนัยหนึ่งคือเสนกราฟว่ิงมาอยูระหวางเสนระดับ 20 % และเสนระดับ 80 % เปนชวงที่มีการซื้อ-ขายกัน

Oversold เปนพื้นที่บริเวณที่อยูใตเสนระดับ 20% ลงมา ถาเสนกราฟ Stochastic ว่ิงมาอยูในพื้นที่บริเวณนี ้หรืออีกนัยหนึ่งคือเสนกราฟ Stochastic ว่ิงมาอยูใตเสน 20 % เราเรียกวา ขณะนี้หุนเกิด oversold แลว หมายถึงวา ณ ขณะนี้หุนตัวนี้เร่ิมมีราคาถูกแลวสําหรับรอบนั้นๆ เพราะนักลงทุนไดขายหุนตัวนั้นๆมาตลอดเลยทําใหราคาลดระดับลงมาจนถึง oversold

เสนกราฟ Stochastic ที่เห็นนั้นจะมี 2 เสน ไดแกเสน Stochastic ( สีดํา ) เปนเสนที่คํานวณขอมูลยอนหลังทุกๆ 14 วัน และเสนคาเฉล่ียของ Stochastic ( สีขาว )โดยหาคาเฉล่ียเคล่ือนที่ 5 วัน เนื่องจากเสน Stochastic เองไม smooth จะข้ึนๆลงเปนหยัก ดังนั้นจึงตองหาเสนคาเฉล่ียเคล่ือนที่ของ Stochastic เพื่อทําใหเสนกราฟ smooth ข้ึน และเราสามารถใชประโยชนของการตัดกันทั้ง 2 เสนนี้ เพื่อยืนยันจังหวะซื้อ และจังหวะขายไดดังนี้

จังหวะซื้อ จังหวะขาย กรณีเสน Stochastic ว่ิงจาก oversold ข้ึนไป เปนจังหวะที่เตรียมพรอมเขาซื้อ ทั้งนี้ใหสอดคลองกับสัญญาณ ลูกศรซื้อที่ปรากฏดวย และถาเสน Stochastic ( สีดํา ) ตัดผานเสนคาเฉล่ียเคล่ือนที ่( สีขาว ) ข้ึนไป แนวโนมราคาจะว่ิงข้ึน

กรณีเสน Stochastic ว่ิงจาก overbought ลงมา เปนจังหวะที่เตรียมพรอมขาย ทั้งนี้ใหสอดคลองกับสัญญาณลูกศรขายที่ปรากฏดวย และถาเสน Stochastic ( สีดํา ) ตัดผานเสนคาเฉล่ียเคล่ือนที ่( สีขาว ) ในทิศทางลง แนวโนมราคาจะว่ิงลง

ขอสังเกต Indicator RSI และ Stochastic มีลักษณะและการใชงานคลายกัน ทั้ง RSI

และ Stochastic ใชวิเคราะหหุนชวงส้ัน ทั้งนี้ควรใชทั้ง 2 indicator ประกอบกันในการวิเคราะห

สวนที ่6 : Lower Indicator 3

สวนนี้จะแสดง MACD ( Moving Average Convergence Divergence )

แบงพื้นที่ออกเปนสองสวนโดยมีเสนสีน้ําเงิน หรือเสนศูนย • พื้นที่เหนือเสนศูนยเปนพื้นที ่Bullish • พื้นที่ใตเสนศูนยเปนพื้นที ่Bearish

ลักษณะของเสนกราฟ MACD

ภาวะตลาด ทิศทางของราคาหุน

เสนกราฟ MACD อยูเหนือเสนศูนย

เปนภาวะตลาดกระทิง ( Bullish )

เปนชวงขาข้ึน หากสังเกตเสนกราฟราคาจะอยูเหนือเสน moving average ทั้ง 3 เสน

เสนกราฟ MACD อยูใตเสนศูนย

เปนภาวะตลาดหม ี( Bearish )

เปนชวงขาลง หากสังเกตเสนกราฟราคาจะอยูใตเสน moving average ทั้ง 3 เสน

MACD จะแสดงภาวะตลาดในระยะกลาง ทําใหเราเลนหุนไดถูกจังหวะ หากตลาดอยูในภาวะกระทิง ( bullish ) การทํากําไรในแตละรอบจะมีอัตราที่สูง

ไมตองรีบรอนในการขาย แตถาภาวะตลาดเปนตลาดหมี ( bearish ) การทํากําไรในแตละรอบจะมีอัตราผลตอบแทนนอย การซื้อขายหรือการเลนหุนในชวงนี้ตองมีความระมัดระวังเปนพิเศษ เขาเร็ว ออกเร็ว และตองติดตามอยางใกลชิด

การหาคา MACD โดยการหาผลตางระหวาง MA(12) – MA(26) คือหาผลตางของคาเฉล่ียเคล่ือนที่ 12 วัน ลบดวยคาเฉล่ียเคล่ือนที่ 26 วัน แลวนําผลตางนั้นมา plot กราฟไดเสนกราฟ MACD ( เสนสีดํา ) และหาเสนคาเฉล่ียเคล่ือนที่ 9 วัน ( เสนสีขาว )

เมน ูChart Type

เปนเมนูใหเลือกแสดงรูปแบบของกราฟ มีดวยกัน 3 รูปแบบ ไดแก Bar

Chart, Candlestick, Line Chart โดยคาเร่ิมตนหรือคา default จะตั้งใหเปน candlestick

Bar Chart

องคประกอบของ Bar Chart

• Open ( ราคาเปด ) เปนราคาเร่ิมตนของการซื้อขายในแตละวัน • High ( ราคาสูงสุด ) เปนราคาสูงที่สุดของการซื้อขายในแตละวัน • Low ( ราคาต่ําสุด ) เปนราคาต่ําที่สุดของการซื้อขายในแตละวัน • Close ( ราคาปด ) เปนราคาปดของของแตละวัน

วิธีการเขียนกราฟ Bar Chart

1. ราคาเปดจะอยูดานซายมือ เปนเสนแนวนอน 2. ราคาปดจะอยูดานขวามือเปนเสนแนวนอน 3. ราคาสูงสุด และราคาต่ําสุดจะอยูตรงกลาง และลากเสนเชื่อม

ระหวางราคาสูงสุดและราคาต่ําสุด

Candle Stick

องคประกอบของ Candle Stick

• Open ( ราคาเปด ) เปนราคาเร่ิมตนของการซื้อขายในแตละวัน • High ( ราคาสูงสุด ) เปนราคาสูงที่สุดของการซื้อขายในแตละวัน • Low ( ราคาต่ําสุด ) เปนราคาต่ําที่สุดของการซื้อขายในแตละวัน • Close ( ราคาปด ) เปนราคาปดของของแตละวัน

วิธีการเขียนกราฟ Candle Stick กรณีราคาปด ( close ) สูงกวาราคาเปด ( open ) 1. ลากเสนราคาเปดแนวนอน 2. ลากเสนราคาปดแนวนอน 3. ลากเสนแนวตั้งเชื่อมระหวางเสนราคาเปดและราคาปด จะมีลักษณะเปน

เหมือนแทงเทียน 4. แทงเทียนเปนสีขาว 5. ลากเสนตรงแนวต้ังจากราคาปดไปหาราคาสูงสุดเกิดเปนเสนต้ังเหมือนไสเทียน 6. ลากเสนตรงแนวตั้งจากราคาเปดไปหาราคาต่ําสุดเกิดเปนเสนตั้งเหมือนไส

เทียน

วิธีการเขียนกราฟ Candle Stick กรณีราคาปด ( close ) ต่ํากวาราคาเปด ( open )

1. ลากเสนราคาเปดแนวนอน 2. ลากเสนราคาปดแนวนอน 3. ลากเสนแนวตั้งเชื่อมระหวางเสนราคาเปดและราคาปด จะมีลักษณะ

เปนเหมือนแทงเทียน 4. แทงเทียนเปนสีดําทึบ 5. ลากเสนตรงแนวตั้งจากราคาเปดไปหาราคาสูงสุดเกิดเปนเสนตั้งเหมือน

ไสเทียน 6. ลากเสนตรงแนวตั้งจากราคาปดไปหาราคาต่ําสุดเกิดเปนเสนตั้งเหมือน

ไสเทียน

Line Chart

เปนการนําราคาปดของแตละวันมา plot กราฟ รูปแบบของกราฟทั้ง 3 ชนิดนี้ จะแสดงลักษณะข้ันพื้นฐานเทานั้น เพื่อให

สมาชิกเขาใจรูปแบบในเบื้องตน ซึ่งรายละเอียดที่ซับซอนกวานี้จะขออนุญาตไมนําเสนอ เมนู TIME

เปนเมนูที่ใหเลือกระยะเวลาในการแสดงกราฟ โดยที่คาเร่ิมตน หรือคา default ไดถูกกําหนดไวที่ ระยะเวลาแสดงกราฟ 6 เดือน ซึ่งผูใชงานสามารถเลือกระยะแสดงกราฟไดตามความเหมาะสม โดยสามารถเลือกเวลาไดตั้งแต 1, 2, 3, 4, 6 เดือน หรือ หากตองการดูยอนหลังรายป ก็สามารถเลือกไดตั้งแตระยะเวลา 1 1.5 2 2.5 3 ป ตามลําดับ

เมนู Lower Indicator-1 เปนเมนูที่ใหเราเลือกวาตองการให indicator แถวที ่1

แสดงคาอะไร ซึ่งคาเร่ิมตนหรือคา default ที่โปรแกรมตั้งไวนั้นจะเปน RSI-indicator

เมนู Lower Indicator-2

เปนเมนูที่ใหเราเลือกวาตองการให indicator แถวที ่2 แสดงคาอะไร ซึ่งคาเร่ิมตนหรือคา default ที่โปรแกรมตั้งไวนั้นจะเปน Stochastic-indicator

เมนู Lower Indicator-3 เปนเมนูที่ใหเราเลือกวาตองการให indicator แถวที ่3

แสดงคาอะไร ซึ่งคาเร่ิมตนหรือคา default ที่โปรแกรมตั้งไวนั้นจะเปน MACD-indicator

เมนู

เมนูนี้เปนการแสดงตารางเคร่ืองหมายซื้อ-ขายที่เกิด เปนการอํานวยความสะดวกใหสมาชิก เพื่อดูภาพรวมของหุนวาสวนใหญแลวเกิดสัญญาณซื้อ หรือเกิดสัญญาณขาย หลังจากที่ click ที่เมนู “ ตารางเคร่ืองหมายซื้อขาย “ แลวจะปรากฏหนาจอดังรูปที่ 4 ซึ่งเปนหนาที่แสดงตารางสัญญาณซื้อขายของ sector

index ที่ประกอบดวยรายการของ index แตละอุตสาหกรรม โดยเรียงลําดับตั้งแต SETINDEX, SETAGRI………….SETOHTER.

รูปที่ 21. แสดงตารางเคร่ืองหมายซ้ือ-ขาย ของ sectors index

สวนนี้จะแสดงรายละเอียดของหุนแตละรายการในแตละกลุม เชนหากตองการดูรายการที่อยูในกลุมธนาคาร ให click BANK ตารางเคร่ืองหมายซื้อ ขายของกลุมธนาคารจะแสดงออกมาดังนี้

รูปที่ 22. “ ตารางเคร่ืองหมายลูกศรของหุนในกลุมธนาคาร “

จะแสดงรายการหุนที่อยูในกลุมธนาคารทั้งหมด ถาตองการดูกราฟหุนของแตละตัวสามารถทําไดโดยการ click ไปที่ชื่อ symbol ของหุนตัวนั้น

แสดงชื่อหุนเปนภาษาไทย เปนชองที่แสดงสัญญาณซื้อ ซึ่งรายการที่จะเกิดในชองนี้มีดวยกัน 3 แบบ

แบบที ่ สัญลักษณที่ปรากฏในชอง Buy

ความหมาย หมายเหต ุ

1 สัญญาณซื้อระยะส้ัน

สัญญาณนี้จะเกิดข้ึนภายในวันนี้และยอนหลังไปอีก 2 วัน เชนสมมติวาวันนี้เปนวันอังคารที ่2 กันยายน 2546 ดังนั้นถาเกิดสัญญาณซื้อภายในวันที ่29 สิงหาคม 2546 ถึงวันอังคารที ่2 กันยายน ( ไมนับเสาร-อาทิตย ) เคร่ืองหมายลูกศรนี้จะปรากฏในชอง BUY ซึ่งจะทําใหเราสามารถเขาซื้อหุนไดตั้งแตเนิ่นๆ

2 สัญญาณซื้อระยะกลาง

สัญญาณนี้จะเกิดข้ึนภายในวันนี้และยอนหลังไปอีก 2 วัน เชนสมมติวาวันนี้เปนวันอังคารที ่2 กันยายน 2546 ดังนั้นถาเกิดสัญญาณซื้อภายในวันที ่29 สิงหาคม 2546 ถึงวันอังคารที ่2 กันยายน ( ไมนับเสาร-อาทิตย ) เคร่ืองหมายลูกศรนี้จะปรากฏในชอง BUY ซึ่งจะทําใหเราสามารถเขาซื้อหุนไดตั้งแตเนิ่นๆ

3 “ ผานจุดซื้อ “

เกิดสัญญาณซื้อไปแลวมากกวา 3 วันนับจากวันนี ้

สัญญาณนี้จะเกิดข้ึนเมื่อจุดซื้อไดผานไปแลวมากกวา 3 วัน เชนสมมติวาวันนี้เปนวันที ่2 กันยายน 2546 และสัญญาณซื้อเกิดข้ึนเมื่อวันที ่21 สิงหาคม 2546 ซึ่งเราจะเห็นวาถานับจํานวนวันจากวันนี ้( 2 กันยายน ) ไปจนถึงวันที ่21 สิงหาคม จํานวนวันจะมากกวา 3 วัน ดังนั้นแทนที่จะปรากฏเปนสัญลักษณสูกศร ก็เกิดสัญญลักษณ “ผานจุดซื้อ “ แทน

เปนชองที่แสดงสัญญาณขาย ซึ่งรายการที่จะเกิดในชองนี้มีดวยกัน 3 แบบ แบบที่

สัญลักษณที่ปรากฏในชอง SELL

ความหมาย หมายเหต ุ

1 สัญญาณขายระยะส้ัน

สัญญาณนี้จะเกิดข้ึนภายในวันนี้และยอนหลังไปอีก 2 วัน เชนสมมติวาวันนี้เปนวันอังคารที ่2 กันยายน 2546 ดังนั้นถาเกิดสัญญาณขายภายในวันที ่29 สิงหาคม 2546 ถึงวันอังคารที ่2 กันยายน ( ไมนับเสาร-อาทิตย ) เคร่ืองหมายลูกศรนี้จะปรากฏ

ในชอง SELL ซึ่งจะทําใหเราสามารถขายหุนไดตั้งแตเนิ่น

2 สัญญาณขายระยะกลาง

สัญญาณนี้จะเกิดขึ้นภายในวันนี้และยอนหลังไปอีก 2 วัน เชนสมมติวาวันนี้เปนวันอังคารที่ 2 กันยายน 2546 ดังนั้นถาเกิดสัญญาณขายภายในวันที่ 29 สิงหาคม 2546 ถึงวันอังคารที่ 2 กันยายน ( ไมนับเสาร-อาทิตย ) เคร่ืองหมายลูกศรนี้จะปรากฏในชอง SELL ซ่ึงจะทําใหเราสามารถขายหุนไดต้ังแตเนิ่น

3 “ ผานจุดขาย “

เกิดสัญญาณขายไปแลวมากกวา 3 วันนับจากวันนี้

สัญญาณนี้จะเกิดขึ้นเม่ือจุดขายไดผานไปแลวมากกวา 3 วัน เชนสมมติวาวันนี้เปนวันที่ 2 กันยายน 2546 และสัญญาณขายเกิดขึ้นเม่ือวันที่ 21 สิงหาคม 2546 ซ่ึงเราจะเห็นวาถานับจํานวนวันจากวันนี้ ( 2 กันยายน ) ไปจนถึงวันที่ 21 สิงหาคม จํานวนวันจะมากกวา 3 วัน ดังนั้นแทนที่จะปรากฏเปนสัญลักษณสูกศร ก็เกิดสัญญลักษณ “ผานจุดขาย “ แทน

กติกาการเลนหุน

กอนที่จะกลาวถึงวิธีการวิเคราะหหุนและการเลนหุนใหปลอดภัยนั้น RicherStock ขอทําความเขาใจหรือสร็าง กติกาการเลนหุน เพื่อใหเขาใจตรงกันและนําไปปฏิบัติไดถูกตอง

1. ราคาหุนเปน Dynamics หมายถึง ราคาหุนไมหยุดกับที่มีการข้ึนๆลง เชนในวันนี้ราคาหุนปรับตัวเพิ่มข้ึนไปจากเมื่อวานนี ้5 % ไมไดหมายความวาวันพรุงนี้ราคาหุนจะตองปรับตัวเพิ่มข้ึนเสมอไป ไมมีใครสามารถฟนธงราคาหุนได 100% 2. การพยากรณหุน การวิเคราะหหุนดวยกราฟเปนการวิเคราะหแนวโนมของราคาหุนที่ใชขอมูลในอดีตเพื่อที่จะพยากรณราคาในอนาคตเพื่อใหความเส่ียงในการเลนหุนนอยที่สุด 3. การเลนหุนมีความเส่ียง ( RISK ) ซึ่งผลตอบแทนจากการลงทุนจะแปรผันตามความเส่ียงคือ ความเส่ียงสูง ผลตอบแทนสูง ความเส่ียงต่ํา ผลตอบแทนก็ต่ํา ( high risk high return ) 4. ตองมีความเชื่อ ( TRUST ) ตองมีความเชื่อในเคร่ืองมือที่ใชในการวิเคราะหหุน เพราะเคร่ืองมือหรือโปรแกรมการวิเคราะหหุนนี้จะวิเคราะหดวย criteria ตางๆที่เรากําหนดไว โดยที่โปรแกรมจะไมมี bias หรือเบี่ยงเบน เชนการกําหนดจังหวะซื้อ จังหวะขายของโปรแกรม หรือแมกระทั่งการปรับปรุงหรือปรับเปล่ียนจังหวะซื้อและจังหวะขาย 5. การเลนหุนดวยเทคนิค เปนเร่ืองของจิตวิทยา

ในการกําหนดจังหวะซื้อ จังหวะขาย การวิเคราะหดวยเทคนิค หรือการเลนหุนดวยกราฟเปนการเลนดวยจิตวิทยา เปนการตอสูดวยจิตวิทยาของกลุมนักเลนหุน หุนบางตัวมองในแงพื้นฐาน ( fundamental ) แลวเปนหุนที่ไมนาสนใจ แตราคากลับว่ิงข้ึนไปมาก เปนเพราะหุนตัวนี้มี demand สูงทําใหนักลงทุนทั้งหลายลงมารวมวงดวย ซึ่งแนวความคิดของนักเลนหุนดานเทคนิคนี้ จะตางกับการเลนหุนประเภท value investor ที่ตองการลงทุนระยะยาว เพื่อหวังผลตอบแทนในรูปแบบของเงินปนผลเปนอันดับแรก 6. ตองมีวินัยในการเลนหุน เราตองสรางกฎเกณฑที่เราสามารถยอมรับไดเพื่อใชบริหารความเส่ียงที่จะเกิดข้ึนในการเลนหุน เมื่อไดกฎเกณฑดังกลาวแลว ตองปฏิบัติตามหรือตองรักษาวินัยในการปฏิบัติตามกฎเกณฑนั้นดวย 7. การตัดสินใจ การตัดสินใจ ณ เวลานั้นๆใหถือวาเปนการตัดสินใจที่ดีที่สุด เชนการ

ตัดสินใจซื้อ หรือการตัดสินใจขาย หากการตัดสินใจใดฯที่ผานไปแลว ตองไมนํามาเปนอารมณ เพราะการซื้อขายใน 1 ป จะมีหลายรอบ การตัดสินใจซื้อแลวผิดพลาด ราคาหุนไมข้ึนดังที่คิด ใหตัดขาดทุนหรือ cut loss ทันทีที่เปอรเซ็นตขาดทุนเกินคาที่เรากําหนดไวเชนเราตั้งคา cut loss ไวที่ 3-4 % ดังนั้นหากราคาหุนว่ิงลงกวาราคาที่ซื้อไว 3-4% ให cut loss ทันท ี และส่ิงสําคัญที่สุดคือ การตัดสินใจอยูในวิจารณญาณของนักลงทุนเอง กรณีการตัดสินใจขาย หากราคาที่ขายปรากฏวาขายถูกเกินไป หรือที่คนเลนหุนเรียกวา “ ขายหม ู “ นั้น ตอง

ยอมรับวาไมมีใครที่จะสามารถขายหุนไดที่ราคาสูงที่สุด

วิธีการเลนหุนใหปลอดภัยดวยกราฟ RicherStock

1) เขามาที ่www.richerstock.com แลว login username และ password 2) เลือกซื้อหุน ซึ่งวิธีการเลือกซื้อหุนมีแนวทางที่ใชไดผลดังนี ้

Ø เลือกซื้อหุนที่ม ีvolume มากๆ เพื่อหลีกเล่ียงการปนหุนของนักลงทุนรายใหญ เชนหุนที่มีมูลคาซื้อขาย 50 ลานบาทตอวันข้ึนไป

Ø เลือกซื้อหุนที่มีสภาพคลองที่คนสวนใหญเลนกัน เพื่อใหการซื้อขายเปนไปอยางคลองตัว เมื่อตองการซื้อก็มีคนขาย เมื่อตองการขายก็มีคนซื้อ ซึ่งหุนที่มีสภาพคลองไดแกหุนในกลุม

Ø หลีกเล่ียงหุนที่ไมม ีpattern หรือผันผวนรุนแรง 3) กรณีเลือกหุนไดแลวให key สัญลักษณหุนที่ชอง

symbol เพื่อดูกราฟหุนตัวนั้น ๆ4) กรณีที่ยังไมรูวาจะเลือกซื้อหุนตัวไหน ใหเขาไปที่

เมน ู เพื่อดูวาหุนในแตละกลุมเกิดสัญญาณ

เตือนซื้อหรือขายอะไรบาง ซึ่งเราสามารถเขาไปเลือกดูในแตละกลุมไดในสวนบนของตารางเคร่ืองหมายดังภาพ

เชนตองการดูหุนในกลุมธนาคาร ( BANK ) วาหุนแตละตัวเกิดสัญญาณอะไรบาง เมื่อ click “ BANK “ แลวก็จะแสดงตารางดังรูปที่ 5 ( ขอใหยอนกลับไปดูรูปที ่R5.) 5) วิเคราะหจังหวะซื้อ จากกราฟซึ่งโปรแกรมจะแสดงจังหวะซื้อดวย

ลูกศรชี้ข้ึน (มีทั้งสีมวงและสีน้ําเงิน ) ซึ่งการวิเคราะหกราฟเปนหัวใจสําคัญของโปรแกรม RicherStock เพราะการทํากําไรของนักเลนหุนที่ใชโปรแกรมนี้จะสําเร็จหรือไมข้ึนอยูกับการวิเคราะห และวินัยในการเลน

6) เมื่อซื้อหุนไดแลว และราคาหุนไดว่ิงข้ึนไปตามสัญญาณซื้อ ข้ันตอนตอไปใหถือรอเพื่อขายตอไป 7) เมื่อเกิดสัญญาณขายที่แสดงดวยลูกศรชี้ลง (มีทั้งสีมวงและสีน้ําเงิน )

และยืนยันการเกิดสัญญาณแลว ใหขายหุนตามสัญญาณ 8) รอรอบใหม หลังจากการขายหุนตัวนั้นแลว ใหรอราคาปรับตัวลงเพื่อ

เกิดสัญญาณซื้อตอไปในรอบหนา หรือหากตองการเลนอ่ืนตัวอ่ืน ๆก็ใหใชบวนการตั้งแตขอ 2 เปนตนมา

การวิเคราะหกราฟหุน และวิธีการเลนหุนใหปลอดภัย

A.) กรณีการซ้ือหุน ข้ันตอนที่1(STEP-1) เม่ือกราฟเกิดสัญญาณซ้ือ ( ลูกศรช้ีข้ึน ) ใหเขาซ้ือ 50% ของ PORT

รูปที ่22 : แสดงการเกิดสัญญาณซ้ือที่ตําแหนง A

จากรูปที่ 22 ที่ตําแหนง A เกิดสัญญาณลูกศรชี้ข้ึน ซึ่งเปนการเตือนใหทราบวา ณ จุดนี้เร่ิมที่จะเปนจังหวะที่เหมาะสมในการเขาซื้อ ใหเราแบงเงินลงทุน 50% ของ port เพื่อเขาซื้อหุนตัวนั้นๆ ในที่นี้จะยกตัวอยางวาเรามีเงินลงทุน 100,000 บาท ดังนั้นในวันนี้เราจะแบงเงินลงทุนออกมา 50,000 บาทเพื่อซื้อหุน ขั้นตอนท่ี 2 ( STEP-2) ดูราคา Bid-Offer ในวันถัดไป ถาราคาปรับขึ้นใหซ้ือเพิ่ม 50% ของ PORT

รูปที่ 23 : แสดงราคาหุนของวันที่ถัดจากวันเกิดสัญญาณซ้ือ

จากรูปที ่A-2 หลังจากผานวันที่เกิดสัญญาณซื้อ ณ จุด A มาแลว ในวันถัดมาใหดูราคา เสนอซื้อ เสนอขาย ( BID-OFFER ) ถาราคาหุนมีแนวโนมสูงกวาจุด A เราก็สามารถซื้อหุนเพิ่มข้ึนไดอีก 50% ของ port ในสวนที่เหลือ ทําใหการลงทุนในหุนตัวนี้ครบ 100% ของ port ขั้นตอนท่ี3 ( STEP-3) ถาราคาวิ่งขึ้นตอไปปลอยใหราคาวิ่ง แตถาราคาวิ่งลงเกินกวา 3-4% ให cut loss

รุปที ่24 : แสดงราคาหุนไมไดเปนไปตามสัญญาณซ้ือ

จากรูปที่ 24 ข้ันตอนนี้เปนข้ันตอนที่สําคัญข้ันตอนหนึ่ง เพราะมันเปนข้ันตอนที่ทดสอบวินัยของเรา ถาราคาหุนไมเปนไปตามสัญญาณ ซึ่งแทนที่จะว่ิงข้ึน ราคากลับว่ิง เราตองตัดสินใจขายเมื่อราคาว่ิงลงต่ํากวาระดับ cut loss ที่เราตั้งไวโดยสวนใหญจะตั้งไวที่ 3-4%

เมื่อกราฟเกิดลงมาที ่ตําแหนง C ซึ่งเปนวันที่ราคาหุนว่ิงลงกวาราคาที่เราซื้อ อีกทั้งสัญญาณซื้อหรือลูกศรชี้ข้ึนก็หายไป ( ขอเท็จจริงที่สัญญาณหายไป ขอใหดูรายละเอียดในหัวหนาถัดๆไป ) เราตองรักษาวินัยในการเลนหุนหรือลงทุน โดยตั้งขาย cutloss ทันท ี

ขั้นตอนท่ี 4 ( STEP-4) รอความชัดเจน

รูปที่ 25: แสดงราคาหุนยังลงตอเนื่อง

จากรูปที ่25 ราคาหุนยังคงว่ิงลงตอเนื่องที่ตําแหนง D ซึ่งตองรอใหเกิดสัญญาณซื้ออีกคร้ัง มาถึง ณ วันนี้เราขาดทุนไปแลว 3,000 บาท จากเงินลงทุนที่มีคือ 100,000 บาท

ขั้นตอนท่ี 5 ( STEP-5 ) รอใหเกิดสัญญาณซ้ืออีกคร้ัง

จากรูปที่ 26 : เกิดสัญญาณซ้ืออีกคร้ัง

จากรูปที่ A.5 ไดเกิดสัญลักษณลูกศรซื้อ หรือสัญญาณซื้อที่จุด E ซึ่งเปนสัญญาณเตือนใหซื้ออีกคร้ัง ข้ันตอนการปฏิบัติก็ใหใชเหมือนกับข้ันตอนที่ 1 ( STEP-1) โดยซื้อหุนดวยเงินทุน 50% ของ port

ขั้นตอนท่ี 6 ( STEP-6) ซ้ือหุนเพิ่มอีก 50% ของ PORT

รูปที่ 27: แสดงราคาหุนของวันที่ถัดจากวันเกิดสัญญาณซ้ือ

จากรูปที ่27 หลังจากผานวันที่เกิดสัญญาณซื้อ ณ จุด E มาแลว ในวันถัดมาใหดูราคา เสนอซื้อ เสนอขาย ( BID-OFFER ) ถาราคาหุนมีแนวโนมสูงกวาจุด E ใหซื้อหุนเพิ่มอีก 50% ของ port

ขั้นตอนท่ี 7 ( STEP-7) รอสัญญาณขาย

รูปที่ 28: แสดงราคาหุนยังคงว่ิงขึ้นตอเนื่อง

จากรูปที่ 28 หลังจากที่ไดซื้อหุนครบ 100% ของ port แลว ข้ันตอนนี้ใหรอสัญญาณขายที่จะเกิดข้ึน เพื่อตัดสินใจขายตอไป

รูปที่ 29: แสดงราคาหุนไดว่ิงขึ้นตอเนื่องจากวันที่เขาซ้ือ

พิจารณารูปที่ 29 มาถึงเวลานี้ราคาไดว่ิงข้ึนไปกวา 10% จากจุดซื้อโดยยังไมเกิดสัญญาณขาย หากคํานวณผลตอบแทนตอนี้ ปรากฎวาไดผลตอบแทนเทากับ 10-3%= 7% B.) กรณีการขายหุน

ข้ันตอนการขายก็มีลักษณะเดียวกันกับ ข้ันตอนการซื้อหุน คือใหรอสัญญาณขายเกิดข้ึน และตัดขายไปกอน 50% และในวันถัดไปหากราคาเปดต่ํากวาราคาเมื่อวานนี้ ก็สามารถตัดสินใจขายสวนที่เหลือได

การขายหุนบางคร้ังอาจจะไมตองรอสัญญาณขายให เกิดข้ึน เนื่องจากผลตอบแทนที่ไดรับเปนที่นาพอใจก็สามารถขายได แตการข้ึนเคร่ืองหมายในกราฟไมวาจังหวะซื้อ หรือจังหวะขาย เปนชวงเวลาที่เหมาะสมในขณะนั้น เนื่องจากเปนการคํานวณเร่ืองความเส่ียงที่จะเกิดข้ึน

เทคนิคเสริมการดูกราฟ 1.) ถาเปนไปได เลนหุนชวงท่ีเปน Bullish State ดีกวา Bearish State

รูปที่ 30: แสดง Bullish State และ Bearish State การเลนหุนถาเปนไปไดใหเลนหุนชวงตลาดขาข้ึน ( Bullish Sate ) ดีกวา

ชวงที่เปนตลาดขาลง ( Bearish State ) เพราะจะทําใหไดอัตราผลตอบแทนดีกวา โดยที่ราคาหุนที่จังหวะขายลูกศรชี้ลงจะว่ิงหางจากราคาที่จังหวะซื้อลูกศร

ชี้ข้ึนมากกวา ดังนั้นวิธีการสังเกตวา ชวงไหนเปน Bull ชวงไหนเปน Bear ใหสังเกตดังนี ้Bullish State

• ดูที่กราฟหุน โดยราคาหุนว่ิงอยูเหนือเสน moving average ทั้ง 3 เสน ( เสนสีมวง สีน้ําเงิน สีแดง )

• ดูที ่MACD โดยเสนกราฟ MACD จะอยูเหนือเสนศูนย Bearish State

• ดูที่กราฟหุน โดยราคาหุนว่ิงอยูใตเสน moving average ทั้ง 3 เสน ( เสนสีมวง สีน้ําเงิน สีแดง )

• ดูที ่MACD โดยเสนกราฟ MACD จะอยูใตเสนศูนย

2) ยืนยันลูกศรซ้ือดวย RSI

รูปที่ 31 : แสดงจุดซ้ือที่ใช RSI ประกอบการยืนยัน จากรูปที ่C2 เมื่อสัญญาณซื้อเกิดข้ึน เราสามารถยืนยันจุดซื้อดวย RSI ได

โดยดูที ่RSI เสนสีดําว่ิงอยูในแดน oversold และถาเสนสีดําตัดผานเสนสีขาวไปในทิศทางข้ึน ก็จะทําใหจุดซื้อมีความมั่นใจมากยิ่งข้ึน

3 ) ยืนยันลูกศรขายดวย RSI

รูปที่ 32 : แสดงจุดขายที่ใช RSI ประกอบการยืนยัน จากรูปที ่32 เมื่อสัญญาณขายเกิดข้ึน เราสามารถยืนยันจุดขายดวย RSI

ได โดยดูที ่RSI เสนสีดําว่ิงอยูในแดน overbought และถาเสนสีดําตัดผานเสนสีขาวไปในทิศทาง ก็จะทําใหจุดขายมีความมั่นใจมากยิ่งข้ึน

4 ) ยืนยันลูกศรซ้ือดวย STOCHASTICS

รูปที่ 33: แสดงจุดซ้ือที่ใช STOCHASTICS ประกอบการยืนยัน จากรูปที ่33 เมื่อสัญญาณซื้อเกิดข้ึน เราสามารถยืนยันจุดซื้อดวย

STOCHASTICS ได โดยดูที ่STOCHASTICS เสนสีดําว่ิงอยูในแดน oversold และถาเสนสีดําตัดผานเสนสีขาวไปในทิศทางข้ึน ก็จะทําใหจุดซื้อมีความมั่นใจมากยิ่งข้ึน

5 ) ยืนยันลูกศรขายดวย STOCHASTICS

รูปที่ 34: แสดงจุดขายที่ใช STOCHASTICS ประกอบการยืนยัน จากรูปที ่34 เมื่อสัญญาณขายเกิดข้ึน เราสามารถยืนยันจุดขายดวย

STOCHASTICS ได โดยดูที ่STOCHASTICS เสนสีดําว่ิงอยูในแดน overbought และถาเสนสีดําตัดผานเสนสีขาวไปในทิศทาง ก็จะทําใหจุดขายมีความมั่นใจมากยิ่งข้ึน

6) หลีกเลี่ยงหุนท่ีไมม ีPATTERN

ควรหลีกเล่ียงหุนที่มีลักษณะกราฟดังรูปขางลางนี ้เนื่องจากราคาหุนไมม ีpattern ไมตอเนื่อง กาวกระโดด ยากตอการวิเคราะหแนวโนม

ฟงกชั่นคนหาหุน

ฟงกชั่นคนหาหุนเปนฟงกชั่นที่ อํานวยความสะดวกสําหรับสมาชิก ที่ตองการคนหาหุนตามเงื่อนไขที่เรากําหนด ทั้งนี้เพื่อประโยชนในการเลือกหุน ซื้อหุน เปนการส่ังใหโปรแกรมคัดกรองหุนออกมาเพื่อเขาซื้อหรือขายไดทันทวงที

เชนกรณีที่ตองการหาหุนเพื่อซื้อ ใหเรา tick เคร่ืองหมายหนาลูกศรชี้ข้ึน ทั้งสีชมพูหรือสีน้ําเงิน หรืออยางใดอยางหนึ่งก็ได และถาตองการกรองหุนที่มีการซื้อขายมากพอสมควร ก็ระบุ value การซื้อขายเขาไปพรอมกันเชน กําหนด value 20 ลานบาท จะไดรายการตัวอยางดานลางนี้

จะเห็นไดวาโปรแกรมจะคนหาหุนที่เกิด buy signal ทั้งระยะส้ันและกลาง เปนการอํานวยความสะดวกในการคัดกรองหุนที่เราจะเขาซื้อได

สามเหลี่ยมกลวงและเสนประ

สามเหล่ียมกลวงและเสนประคืออะไร โปรแกรม richerstock ใชหลักการคํานวนโดยอาศัย fibonacci และ elliot wave ดังนั้นระดับเสนประที่เกิดข้ึน จึงเปนระดับทีสอดคลองกับตัวเลข fibonacci นั่นเอง เราจะใชเสนประที่เกิดข้ึน เปนแนว support และ resistant สําหรับหา จังหวะซื้อและจังหวะขาย

PTT

จากกราฟจะพบวามีเสนประที่ระดับ A,B,C และในวันที่ 13 มิย.50 ราคาหุน PTT ปรับตัวลดลงเกิดเปน black candle ลงมาปดและนั่งบนเสนประระดับ A เทคนิคการใชเสนประคือ เมื่อวันที ่13 ราคาหุน เปดเปน gap ลงและเราจะรูไดอยางไรวาจะลงไปถึงไหน เราก็จะใชเสนประระดับ A เปนแนวรับตรงจุดนี้เรามีวิธีคิดอยางไร.......????? ถาในวันถัดมา สภาวะตลาดไมอํานวยและคาดวาราคาหุน PTT นาจะลงตอ เราก็จะใชเสนประระดับ B เปนเสนแนวรับถัดไปแตถาในวัน

ถัดมาสภาวะตลาดมีแรงซื้อและปริมาณการซื้อขายมาก เสนประระดับ A จะเปนแนว support ที่ strong นั่นหมายถึงเปนจังหวะที่เราสามารถเขาซื้อได

PTTEP เมื่อวันที่ 13 มิย 50 ราคาหุน PTTEP ก็ปรับตัวลดลงเชนกันโดยในวันนี้เอง PTTEP ฟอรมตัวเปน black candle ที่ราคาปดลดลงมานั่งอยูบนเสนประระดับ A พอดี ตรงจุดนี้ เราสามารถพิจารณาและวิเคราะหตอไปได 2 แนวทางคือ

1. ถาราคาหุนยังปรับตัวลดลงตอเนื่อง เราก็จะรอใหราคาปรับตัวลดลงมาที่ระดับB กอน หรือถัดไปที่ระดับ C ตอไป

2. ถาราคาหุน ไมเลวรายและไมลดลงทะลุผานเสนประระดับ A เราก็จะใชเสนประระดับ A เปนแนวรับที่ strong และหาจังหวะเขาซื้อได

หุนตัวนี้เมื่อชวงวันที่ 11 -12 มิย 50 ราคาหุนก็ยังย่ําอยูในแถบเสนประระดับ B ซึ่งเปนบริเวณที่เกิดเสนประถึง 3 เสน ซึ่งก็นาจะเปนแนว support ที่

strong พอที่จะดันหุน ข้ึนไปไดนะ แตปรากฏวาวันที่ 13 มิย 50 เกิดอาการ panic จึงทําใหหุนหลายฯตัว พรอมใจกันปรับลดกันถวนหนา

ราคาหุนในวันที ่13 มิย 50 ของ LH ก็ปรับลดลงมา ที่แนวรับระดับ C โดยเราสามารถพิจารณายอนหลังไปเพื่อหาแนวเสนประเพื่อกําหนดเปนแนว support ได ในขณะที่ราคาหุน LH เกิดเปน black candle ลงมา เราจะวิเคราะหวาราคาจะลงมาไดที่ระดับไหน เราก็ยอนหลังไปหาแนวเสนประไดระดับ C

TTA การใชเสนประเพื่อกําหนดแนว support หรือ resistant นั้น ไมจําเปนตอง

กําหนดคาใหถูกตอง 100% เราสามารถใชระดับเสนประนั้นฯ เผ่ือคาบวก/ลบ ได หมายถึงพิจารณาเสนประเปนคายืดหยุนเพื่อหาแนวระดับ support / resistant จากกราฟหุน TTA เมื่อวันที ่12 มิย 50 ราคาหุน TTA ปรับตัวลดลงเกิดรูปแบบ black candle โดยมีราคา low ของวันนั้น ลงมานั่งบนเสนประระดับ A พอดี และในวันถัดมาคือวันที ่13 มิย 50 กราฟหุนเกิดรูปแบบ doji ซึ่งมีราคาเปด

และราคาปดเทากัน และอยูต่ํากวา ระดับเสนประ A ลงมาเล็กนอย ก็ยังนับไดระดับเสนประ A สามารถเปนแนว support ไดเชนกัน

แลวเราจะวิเคราะหอยางไรตอไป ??????? ถาในวันถัดมาราคาหุนสามารถปรับตัวข้ึนไปอยูเหนือเสนประ A ได แสดง

วา ระดับนี้นาจะ strong และก็หาจังหวะเขาซื้อหุนได แตถาในวันถัดมาราคาหุนยังขาด volume ก็จะมีผลทําใหราคาหุนของ TTA ปรับตัวลดลงตอเนื่องได เราจะใชเสนประระดับ B และ ระดับ C ถัดลงมาเปนแนว support ตอไป

หลังจากที่ราคาหุนของ PTT ปรับตัวลดลงเมื่อวันที่ 13 มิย 50 และราคาปดลงมานั่งบนเสนประระดับ A หลังจากนั้น วันที่ 14,15,18 ราคาหุน PTT ก็ทะยานข้ึนไปเขาหาแดนเสนประระดับ T จุดที่นาพิจารณาคือ เสนประระดับ T เราจะใชเปนระดับแนวตาน resistant แทนการเปนแนวรับ support โดยพิจารณาวา ถาราคาหุน PTTสามารถทะลุระดับนี้ไปได เราจะปลอยใหมันว่ิงไปกอน แลวคอยพิจารณา หาจังหวะขายตอไป

พิจารณาหุน PTTEP หลังวันที่ 13 มิย 50 หลังจากที่ราคาหุน PTTEP ไดปรับตัวลดลงและราคาปดนั่งบนเสนประ

ระดับ A ปรากฏวาในวันถัดมา คือวันที่ 14,15,18 ราคาหุนไดปรับตัวเพิ่มข้ึนตอเนื่อง และแทงกราฟของวันที่ 18 มิย 50 มีจุดที่นาสังเกตคือ ราคา high ของวันนี้ปรับตัวเพิ่มข้ึนมาและชนกับเสนประระดัย T พอดี ซึ่งเสนประระดับ T นี้เอง จะทําตัวเปนแนวตาน resistant

ส่ิงที่ตองทําตอไปคืออะไร ???? ราคาหุนในวันที ่18 ข้ึนมาชนแนวตานเสนประ T เราตองติดตามใกลชิดวา

ในวันถัดไป (19 มิย 50) ราคาหุนสามารถที่จะ break out ข้ึนไปไดอีกหรือไม ถา breakt ได เราจะใช breaking out method เพื่อหาราคา target price ในการขาย แตถาราคาหุน ว่ิงเรียบฯเสนประ และดวยvolume ในการซื้อขาย ที่ถดถอย ตรงจุดนี้ เราตองพิจารณาหาจังหวะขาย โดยอาจจะขายทั้งหมด หรือ ทยอยขายก็ได

สําหรับหุน LH มีเพิ่มเติมรายละเอียดเล็กนอยคือ ราคาหุนของวันที่ 18 มิย 50 ไดปรับตัวเพิ่มข้ึน และฟอรมตัวเปนwhite candle โดยที่ราคา high ไดทะลุแนวเสนประ B และ A ข้ึนมาได

แลวมันจะไปหยุด ที่ระดับแนวตานที่ไหน??

รูปดานซายมือนี้เปนกราฟราคาหุนของ LH โดยที่เราปรับระยะเวลาถอยกลับไป 1 ป เราจะพบวา ชวงเดือนประมาณ Jul-Aug ที่ผานมาเกิดเสนประแนวตานระดับประมาณ 7.00 พอดี

ควรทําอยางไรตอไป ??? ลักษณะนี้แสดงวาในวันถัดไป ตองพิจารณาอยางใกลชิด ถาราคาหุน

ถดถอยดวย volume และหรือราคาหุนเกิดอาการลังเล โดยเราจะใชความรูเร่ือง candlestick pattern ชวยในการพิจารณา ถาราคาหุนไมผานระดับนี้ ก็ควรหาจังหวะทยอยขาย หรือขายบางสวน .......แตถาวันถัดไปมี volume และราคาหุน

ยังเดินหนาตอไป เราก็ใชเสนประระดับถัดข้ึนไป ซึ่งก็คือระดับ T เปนแนวตานเพื่อทดสอบวาจะผานหรือไมผาน...ตอไป

สุดทายนี้ผูเขียนหวังวา ทานคงจะไดรับประโยชนจากหนังสือเลมนี้และสามารถนําไปประยุกตในการซ้ือขายหุนไดอยางม่ันใจ และสามารถบริหารความเสี่ยงเพ่ือการทํากําไรไดตอไป

กรณีที่ทานมีคําถามเกี่ยวกับโปรแกรม หรือเนื้อหาในหนังสือบางสวนบางตอน สามารถสงคําถามมาไดที่ [email protected]

ขอใหทุกทานโชคดี และ สวัสดี

Richerstock.com