การเปินแบบย่อยและแบบรวม

16
KHON KAEN UNIVERSITY การประเมินผลแบบย่อยและแบบรวม สมพงษ์ พ ันธุร ัตน์ สาขาวิชาการวัดและประเมินผลการศ กษา คณะศ กษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

description

การเปินแบบย่อยและแบบรวม

Transcript of การเปินแบบย่อยและแบบรวม

Page 1: การเปินแบบย่อยและแบบรวม

KHON KAEN UNIVERSITY

การประเมนิผลแบบยอ่ยและแบบรวม

สมพงษ์ พนัธรุตัน์

สาขาวชิาการวดัและประเมนิผลการศกึษา

คณะศกึษาศาสตร ์ มหาวทิยาลยัขอนแกน่

Page 2: การเปินแบบย่อยและแบบรวม

KHON KAEN UNIVERSITY

การประเมนิผลแบบยอ่ย (Formative Evaluation)

• เป็นการประเมนิผลระหวา่งการเรยีนการสอน

• เป็นการควบคมุการปฏบิตังิาน

• ชว่ยใหท้ัง้ครแูละนักเรยีนไดท้ราบจดุออ่นและจดุเดน่ของตน

• สามารถนําเอาขอ้มลูทีไ่ดรั้บมาปรับปรงุแกไ้ขสิง่ทีบ่กพรอ่ง

• มกัทําการประเมนิเมือ่การสอนจบไปตอนหนึง่ หรอื บทเรยีนหนึง่

• มุง่วัดการเรยีนรูท้กุอยา่งทีอ่ยูใ่นจดุประสงค ์

• สว่นใหญจ่ะใชแ้บบทดสอบทีค่รทํูาขึน้เอง

• บางทเีรยีกการประเมนิผลเชงิจลุภาค (Micro Evaluation)

Page 3: การเปินแบบย่อยและแบบรวม

KHON KAEN UNIVERSITY

สิง่จ าเป็นส าหรบัการประเมนิผลแบบยอ่ย

• กําหนดสิง่ทีนั่กเรยีนตอ้งเรยีนรู ้

• แปลผลยอ้นกลับสูนั่กเรยีน

• นักเรยีนมสีว่นรว่ม

• ประเมนิกระบวนการเรยีนรู ้

Page 4: การเปินแบบย่อยและแบบรวม

KHON KAEN UNIVERSITY

บทบาทของนกัเรยีนในการประเมนิผลแบบยอ่ย

• นักเรยีนมบีทบาทในการเรยีนรู ้รับขอ้มลูมาใชใ้นการปรับความคดิเชงิบวกและสนับสนุนพัฒนาการเรยีนรู ้ของตนเองไดต้ามเกณฑ ์ครจํูาเป็นตอ้งกําหนดเกณฑ์(rubrics) และขอ้มลูในการพัฒนานักเรยีน เมือ่นักเรยีนไดรั้บรู ้จะเกดิความเชือ่มั่นและสามารถปฏบิตัติามเกณฑนั์น้ไดก้ารประเมนิตนเองชว่ยใหนั้กเรยีนมีมาตรฐานการทํางานสําหรับตนเอง เพือ่ตดัสนิ ชิน้งานและการปฏบิตังิาน สิง่สําคญัของการประเมนิ เพือ่ปรับปรงุการทํางานของนักเรยีน แตไ่มใ่ชเ่พือ่จัดอนัดบั หรอืการลงโทษ

Page 5: การเปินแบบย่อยและแบบรวม

KHON KAEN UNIVERSITY

บทบาทของครใูนการประเมนิผลแบบยอ่ย

• ครตูอ้งมคีวามรูก้ารประเมนิผลยอ่ยอยา่งชดัเจนและเลอืกใชใ้ห ้เหมาะสมกบัวธิกีารสอนและเทคนคิของตน การประเมนิผลอยา่งถกูตอ้งและยตุธิรรมจะชว่ยเพิม่ประสทิธภิาพการเรยีนรูข้องนักเรยีน ครตูอ้งรูว้า่การประเมนิผลนัน้มเีป้าหมายอะไร ทําอยา่งไรจะไปถงึเป้าหมาย และมวีธิใีดทีช่ว่ยใหป้ระสบผลสําเร็จครตูอ้งมเีทคนคิการสอนทีใ่ชคํ้าถาม เพือ่เนน้ใหนั้กเรยีนมทีกัษะในการคดิทีซ่บัซอ้น และมเีหตผุล

Page 6: การเปินแบบย่อยและแบบรวม

KHON KAEN UNIVERSITY

การประเมนิแบบผลรวม (Summative Evaluation)

• เป็นประเมนิผลเมือ่เสร็จสิน้การดําเนนิการ

• จะกระทําเมือ่นักเรยีนไดจ้บวชิาหนึง่ในแตล่ะภาคเรยีน และ ในภาคปลายของแตล่ะปีการศกึษา

• เป็นการประเมนิผลเพือ่ตรวจสอบดวูา่นักเรยีนไดเ้รยีนรู ้ตามจดุประสงคข์องวชิาหรอืไมค่วรไดค้ะแนนเทา่ใดและควรถอืวา่สอบไดห้รอืตก

• มขีอบเขตของการประเมนิผลทีค่ลมุทกุสิง่ทกุอยา่งโดยภาพรวมของรายวชิาบางทจีงึเรยีกการประเมนิผลเชงิมหภาค (Macro Evaluation)

Page 7: การเปินแบบย่อยและแบบรวม

KHON KAEN UNIVERSITY

แนวคดิเกีย่วกบัการประเมนิผลเพือ่การเรยีนรู ้

• แนวคดิเกีย่วกบัการประเมนิผลเพือ่การเรยีนรู ้(AFL: assessment FOR learning) ไดเ้ขา้มาเปลีย่นแปลงกระบวนการประเมนิผลในชัน้เรยีนและมสีว่นในการออกแบบการจัดการเรยีนการสอนมากขึน้ เพิม่เตมิจากบทบาทเดมิ ทีเ่พยีงกํากบัดแูลการเรยีนรูข้องนักเรยีน สบืเนือ่งมาจากผลการวจิัยจํานวนมากทีไ่ดทํ้าการศกึษากนัอยา่งจรงิจังทัว่โลกในระยะเวลา 10 กวา่ปีทีผ่า่นมา ทีแ่สดงใหเ้ห็นวา่ การนําการประเมนิผลเพือ่การเรยีนรูม้าใชใ้นการจัดการเรยีนการสอน สามารถทําให ้ผลสมัฤทธิท์างการเรยีนของนักเรยีนกา้วหนา้ขึน้อยา่งทีไ่มเ่คยมีมากอ่น โดยเฉพาะอยา่งยิง่ผูท้ีม่ผีลสมัฤทธิท์างการเรยีนตํา่มาโดยตลอด

Page 8: การเปินแบบย่อยและแบบรวม

KHON KAEN UNIVERSITY

แนวคดิเกีย่วกบัการประเมนิผลเพือ่การเรยีนรู ้

• การประเมนิผลการเรยีนรู ้คอื การแสวงหาและการแปลความหมายของหลักฐานขอ้มลูทีไ่ดจ้ากการประเมนิเพือ่ทราบวา่การจัดกจิกรรมการเรยีนการสอนทําให ้นักเรยีนเกดิการเรยีนรูห้รอืไมเ่พยีงใด เพือ่ใหค้รแูละนักเรยีนนําขอ้มลูทีไ่ดไ้ปใชใ้นการตดัสนิใจวา่จะเรยีนรู ้ส ิง่ใดและทําอยา่งไรใหด้ทีีส่ดุ รวมทัง้นําขอ้มลูการประเมนิผลไปใชพ้จิารณาวางแผนพัฒนาการเรยีนรูข้องนักเรยีนใหม้คีวามรูแ้ละความสามารถตามมาตรฐาน ซึง่ถอืเป็นความคาดหวังของสงัคมทีต่อ้งการใหเ้กดิกบันักเรยีน

Page 9: การเปินแบบย่อยและแบบรวม

KHON KAEN UNIVERSITY

วธิกีารประเมนิผลเพือ่การเรยีนรู ้

• การเลอืกคําตอบทีกํ่าหนดให ้(Selected pesponse)

• การสรา้งคําตอบดว้ยตนเอง (Constructed Response)

• การประเมนิความสามารถ (Performance Assessment)

• การประเมนิผลแบบไมเ่ป็นทางการและประเมนิตนเอง (Informal and Self Assessment)

Page 10: การเปินแบบย่อยและแบบรวม

KHON KAEN UNIVERSITY

การเลอืกค าตอบทีก่ าหนดให้(Selected pesponse)

• หาตวัเลอืกทีด่ทีีส่ดุ / ถกูตอ้งทีส่ดุ

• ขอ้สอบถกู – ผดิ

• ขอ้สอบจับคู ่(Matching)

Page 11: การเปินแบบย่อยและแบบรวม

KHON KAEN UNIVERSITY

การสรา้งค าตอบดว้ยตนเอง (Constructed Response)

• เขยีนคําหรอืขอ้ความลงในชอ่งวา่ง

• เขยีนความเรยีง

• เขยีนคําตอบสัน้ ๆ (ประโยค บทความ)

• เขยีนแผนภมูิ

• เขยีนขอบขา่ยงาน (Web)

• เขยีนแผนผังความคดิรวบยอด (Concept Map)

• เขยีนแผนภมูสิายงาน / ผังงาน (Flowchart)

• เขยีนกราฟ

• เขยีนตาราง

• เขยีนตารางแสดงความสมัพันธ ์2 ทาง (Matrix)

• เขยีนภาพประกอบการอธบิาย (Illustration)

Page 12: การเปินแบบย่อยและแบบรวม

KHON KAEN UNIVERSITY

การประเมนิความสามารถ (Performance Assessment)

• การนําเสนอ (Presentation)

• การเคลือ่นไหว (Movement)

• ปฏบิตักิารทางวทิยาศาสตร์

• ทกัษะทางการศกึษา

• การแสดงละคร

• การประกาศขอ้บงัคบั

• การทําโครงงาน

• การโตว้าที

• การจัดนทิรรศการ

• การเลน่ดนตรเีดีย่ว การบรรยาย

• การอา่นออกเสยีง

Page 13: การเปินแบบย่อยและแบบรวม

KHON KAEN UNIVERSITY

การประเมนิผลแบบไมเ่ป็นทางการและประเมนิตนเอง (Informal and Self Assessment)

• ตอบคําถามปากเปลา่

• การสงัเกต

• การสมัภาษณ์

• การประชมุ

• รายละเอยีดกระบวนการ

• แบบสํารวจรายการ (Checklist)

• มาตราสว่นประมาณคา่ (Rating scale)

• กระบวนการคดิดงั ๆ

• การเขยีนวารสารในสว่นทีรั่บผดิชอบ

• การประเมนิตนเองของนักเรยีน

• การทบทวนดว้ยกนักบัเพือ่น ๆ

Page 14: การเปินแบบย่อยและแบบรวม

KHON KAEN UNIVERSITY

ขอ้เสนอแนะดา้นการจดัการเรยีนการสอนและใชก้ารประเมนิผล

• มคีวามตอ่เนือ่งและทําเป็นประจํา

• ใชเ้พือ่กําหนดแนวทางการสอน

• ใหข้อ้มลูป้อนกลับทีเ่ป็นประโยชนต์อ่นักเรยีน

• ใชเ้ครือ่งมอืวัดแบบเป็นทางการและไมเ่ป็นทางการ

• มกีารประเมนิตนเอง

• มวีธิกีารจัดเรยีนการสอน เพือ่ใชใ้นการประเมนิแบบยอ่ย ประกอบดว้ย การตัง้เกณฑแ์ละจดุมุง่หมาย การสงัเกต การตัง้คําถาม การประเมนิผลดว้ยตนเองหรอืคู ่การรวบรวมขอ้มลูของนักเรยีน

Page 15: การเปินแบบย่อยและแบบรวม

KHON KAEN UNIVERSITY

ขอ้เสนอแนะดา้นการจดัการเรยีนการสอนและใชก้ารประเมนิผล

• นํามาตรฐานการเรยีนรูม้าเป็นตวักําหนดและวางแผนในการประเมนิ ทัง้แบบยอ่ย และแบบรวมทีเ่รยีกวา่การประเมนิผลตามมาตรฐาน (Standards–Based Assessment)หรอื องิมาตรฐานการเรยีนรู ้

• การตดัเกรด เกรดแตล่ะระดบั จะตอ้งมเีกณฑก์ารประเมนิแบบ Rubric ไวช้ีแ้จงเพือ่เทยีบใหเ้ห็นถงึการประเมนิทีอ่งิมาตรฐาน

• ลกัษณะของขอ้สอบทีเ่ป็นมาตรฐาน สอดคลอ้งกบักจิกรรมทีอ่งิมาตรฐาน และใหค้วามสําคญักบัเป้าหมายของกจิกรรมทีเ่อือ้ตอ่การปรับปรงุการสอน จัดเตรยีมเครือ่งมอืในการประเมนิใหแ้ก่ครผููส้อน เพือ่นําไปพัฒนาใหส้ามารถประเมนิแลว้นําไปสูก่ารเรยีนรูท้ีด่ขี ึน้

Page 16: การเปินแบบย่อยและแบบรวม

KHON KAEN UNIVERSITY

ขอ้เสนอแนะดา้นการจดัการเรยีนการสอนและใชก้ารประเมนิผล

• มคีณุภาพและสรา้งความมั่นใจในการประเมนิผล คอื มีเหตผุลในการประเมนิ และตดัสนิ มคีวามน่าเชือ่ถอื

• มเีครือ่งมอืการวัดและประเมนิผล

• มหีลักปฏบิตัสํิาคญัของการประเมนิผลการเรยีนรูใ้หก้ารวัดประเมนิผลเป็นสว่นหนึง่ของการวางแผนทีม่ีประสทิธภิาพ คอื เนน้ทีว่ธิกีารเรยีนรูข้องนักเรยีน ชว่ยนักเรยีนในการปรับปรงุการเรยีนรู ้ พัฒนาความสามารถในการประเมนิตนเอง ตระหนักถงึความสําเร็จของการเรยีนรู ้