กาพย์เห่เรือ วิชาภาษาไทย
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖
ภาษาไทยกับครูพ่ีตี่ตี๋ – อาจารย์พีระเสก บริสุทธ์ิบัวทิพย์
ภาษาไทยกับครูพ่ีตี่ตี๋ – อาจารย์พีระเสก บริสุทธ์ิบัวทิพย์
เรือพระราชพิธีและประเพณีเห่ เรือ เป็น "มรดกทางวัฒนธรรม" ซึ่งบรรพบุรุษได้เนรมิตรสร้างสรรค์ไว้ให้แก่อนุชนรุ่นต่อมา ยากที่ชาติอื่นใดในโลกจะเสมอเหมือนได้
ประเพณีการเห่เรือ
ภาษาไทยกับครูพ่ีตี่ตี๋ – อาจารย์พีระเสก บริสุทธ์ิบัวทิพย์
เรือพระราชพิธีเป็นงานศิลปะอันทรงคุณค่าสูง ฝีมือประณีต แสดงวิชาศิลปะการช่างอย่างเป็นเอก และได้สร้างสมจนเป็นขนบธรรมเนียมประเพณี อันเป็นความภาคภูมิใจในชาติได้อย่างยอดเยี่ยม "เรือพระราชพิธี" มิใช่เป็นเพียงสมบัติของชาติไทยเท่านั้น แต่เป็นสมบัติอันล้ําค่าของโลกด้วย
ภาษาไทยกับครูพ่ีตี่ตี๋ – อาจารย์พีระเสก บริสุทธ์ิบัวทิพย์
เรือพระราชพิธีประกอบด้วยศิลปะหลายประเภทคือ คิลปะนาวาสถาปัตยกรรมในการออกแบบรูปทรงลําเรือ อันบรรเจิดตระการตาและได้ประโยชน์ใช้สอยอย่างสมบูรณ์ ศิลปะจิตรกรรมในการออกแบบลวดลายและสีสันอันสวยสดงดงาม มีท่วงท่าประณีตอ่อนระทวยแต่สง่าภูมิฐาน ศิลปะประติมากรรม อันได้แก่ การแกะสลักให้เกิดการตื้นลึกมีแสงและเงา มีท่วงทํานอง...
ภาษาไทยกับครูพ่ีตี่ตี๋ – อาจารย์พีระเสก บริสุทธ์ิบัวทิพย์
...เน้นการทอดจังหวะของลวดลายทําให้ท่อนไม้ซึ่งไม่มีชีวิต ดุจมีชีวิตเคลื่อนไหวได้ราวกับสิ่งมีชีวิตจริง เมื่อพายกระทบน้ําและกระทบแสงอาทิตย์เกิดประกายระยับจับตา ฝีพายท่านกบินพายพร้อมกันประหนึ่งหงส์เหินโผผินบินเหนือท้องน้ํา ด้วยท่วงท่าอันสง่าประกอบด้วยเพลงเห่อันไพเราะประทับใจในภาพดุจดั่งสวรรค์ เคลื่อนคล้อยลอยเลื่อนมายังพื้นน้ําในแผ่นดิน เมื่อได้เห็นภาพย่อมตราตรึงติดใจอยู่อย่างมิรู้ลืม
ภาษาไทยกับครูพ่ีตี่ตี๋ – อาจารย์พีระเสก บริสุทธ์ิบัวทิพย์
ฉะนั้นวัฒนธรรมกระบวนเรือพระราชพิธีพยุหยาตราชลมารคจึงเป็นเอกในโลกนี้ ด้วยความภูมิใจในความอุตสาหะวิริยะ และชาญฉลาดของบรรพบุรุษที่ได้สร้างมรดกทางปัญญาอันสูงค่าชิ้นนี้ ซึ่งจะต้องอนุรักษ์ให้เจริญคงทนถาวรต่อไปชั่วนิรันดร
ภาษาไทยกับครูพ่ีตี่ตี๋ – อาจารย์พีระเสก บริสุทธ์ิบัวทิพย์
บทเพลงทั้งร้อยแก้ว ร้อยกรอง อันไพเราะเพราะพริ้ง ให้กลมกลืนเข้ากับชีวิตความเป็นอยู่ประจําวันได้อย่างเหมาะเจาะ และลงตัวยิ่ง กล่าวคือไม่ว่าจะเป็นการเห่เรือ กระบวนหลวงของเจ้าฟูา เจ้าแผ่นดิน การพายเรือ เห่เรือของเจ้านายและขุนนาง ในโอกาสที่จะเดินทางไปทอดกฐินตามวัดต่าง ๆ ในเวลากลางวัน และนัดกันไปทอดผ้าปุาในเวลากลางคืน การเห่เรือจึงไม่เพียงแต่ให้เกิดจังหวะการพายที่พร้อมเพรียงกัน ยังเป็นการแสดงถึงความรื่นรมย์หรรษาอีกด้วย
ภาษาไทยกับครูพ่ีตี่ตี๋ – อาจารย์พีระเสก บริสุทธ์ิบัวทิพย์
นับแต่โบราณกาลมานอกจากการเสด็จพระราชดําเนิน “ทางบก” ที่เรียกว่า “พยุหยาตราสถลมารค” แล้ว การเสด็จพระราชดําเนินทางน้ํา คือ “พยุหยาตราชลมารค” นับเป็นเส้นทางคมนาคมที่สําคัญยิ่งเช่นกัน ซึ่งสิ่งที่อยู่คู่กับการเสด็จพระราชดําเนินทางชลมารคมาช้านานก็คือ “การเห่เรือ”
ตํานานการเห่เรื่อ
ภาษาไทยกับครูพ่ีตี่ตี๋ – อาจารย์พีระเสก บริสุทธ์ิบัวทิพย์
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดํารงราชานุภาพ ทรงอธิบายถึง “ตํานานการเห่เรือ” ว่ามีมูลเหตุมาแต่การใช้เรือเป็นพาหนะ โดยมีฝีพายจํานวนมาก จึงต้องอาศัยเสียงเห่เรือเป็นสัญญาณในการพายให้เกิด ความพร้อมเพรียงกันการเห่เรือ ในกระบวนพยุหยาตราชลมารค หรือที่เรียกว่า การเห่เรือหลวง
ภาษาไทยกับครูพ่ีตี่ตี๋ – อาจารย์พีระเสก บริสุทธ์ิบัวทิพย์
ทรงสันนิษฐานว่า มีต้นกําเนิดขึ้นโดยพวกพราหมณ์จากอินเดีย และบทเห่ที่ใช้ในกระบวนเรือหลวงก็สันนิษฐานว่า เป็นคําสวดของพราหมณ์ ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 4จึงนําบทเห่เรือเล่นมาใช้ในการเห่เรือหลวง ซึ่งมีลักษณะบทประพันธ์เป็นบทร้อยกรอง ที่ประกอบด้วยโคลงสี่สุภาพ 1 บทนํา กับมีบทร้อยกรอง เป็นกาพย์ยานี และเป็นบทพรรณนาตามอีกหลายบท
ภาษาไทยกับครูพ่ีตี่ตี๋ – อาจารย์พีระเสก บริสุทธ์ิบัวทิพย์
สําหรับ “การเห่เรือเล่น” เป็นการเล่นอย่างหนึ่งในฤดูน้ําหลาก เช่นเดียวกับ เพลงเรือและดอกสร้อยสักวา ซึ่งมีบทเห่เป็นกลอนสดที่มีเนื้อความสนุกสนาน ส่วน “บทเห่เรือ” หรือ “กาพย์เห่เรือ” ที่ใช้สําหรับการเห่ในกระบวนพยุหยาตราชลมารคนั้น ถือกันว่าเป็นศาสตร์แห่งภูมิปัญญาทางภาษาของไทยอย่างหนึ่ง และเป็นองค์ประกอบสําคัญ ของกระบวนพยุหยาตราชลมารค ที่ได้รับสืบทอดเป็นมรดกอันสําคัญควบคู่กันมาแต่โบราณ
ภาษาไทยกับครูพ่ีตี่ตี๋ – อาจารย์พีระเสก บริสุทธ์ิบัวทิพย์
ทั้งนี้ “กาพย์เห่เรือ” ที่ไพเราะซึ่งเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี และได้รับการยกย่องให้เป็นเอกแห่งกาพย์เห่เรือ คือ กาพย์เห่เรือ ชมกระบวนพยุหยาตราชลมารค พระนิพนธ์ใน เจ้าฟูาธรรมธิเบศร์ หรือ “เจ้าฟูากุ้ง” พระโอรสในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ แห่งกรุงศรีอยุธยา นอกจากนี้ยังมีกาพย์เห่เรือซึ่งเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในทั่วไป คือ กาพย์เห่เรือ ชมเครื่องคาวหวาน พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยเป็นต้น
ภาษาไทยกับครูพ่ีตี่ตี๋ – อาจารย์พีระเสก บริสุทธ์ิบัวทิพย์
ลํานําการเห่เรือ มี ๓ อย่าง คือ
๑. สวะเห่ ใช้เห่เมื่อเรือเข้าเทียบท่าเมื่อถึงจุดหมายปลายทาง ๒. ช้าสวะเห่ เป็นเห่ช้า ใช้พลพายในท่านกบิน ๓. มูลเห่ เป็นเห่เร็ว ใช้เห่ต่อจากช้าสวะเห่ ใช้พายเมื่อเรือทวนกระแสน้ํา การเห่โคลงนํากาพย์เรียกว่า "เกริ่นโคลง"
ภาษาไทยกับครูพ่ีตี่ตี๋ – อาจารย์พีระเสก บริสุทธ์ิบัวทิพย์
เจ้าฟูาธรรมธิเบศรไชยเชษฐ์สุริยวงศ์ เป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ทรงเป็นกวีเอกในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ถือได้ว่าเป็นยุคทองของวรรณคดีที่สําคัญอีกยุคหนึ่ง พระองค์ทรงมีความสามารถในเชิงอักษรศาสตร์เป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในด้านนิรุกติศาสตร์และฉันทศาสตร์
ประวัติผู้แต่ง
ภาษาไทยกับครูพ่ีตี่ตี๋ – อาจารย์พีระเสก บริสุทธ์ิบัวทิพย์
พระนิพนธ์ของพระองค์มีทั้งที่เกี่ยวกับทางโลกและทางธรรม ทางธรรม ต่อมาได้บังเกิดเหตุอันน่าสลดใจ เมื่อเจ้าฟูากุ้งต้องพระราชอาญาว่าทรงลอบเป็นชู้กับเจ้าฟุาสังวาลย์ จึงถูกลงทัณฑ์จนกระทั่งสิ้นพระชนม์ทั้งสองพระองค์ และประดิษฐาน พระบรมอัฐิไว้ ณ วัดไชยวัฒนาราม
ประวัติผู้แต่ง
ภาษาไทยกับครูพ่ีตี่ตี๋ – อาจารย์พีระเสก บริสุทธ์ิบัวทิพย์
ผลงานด้านวรรณกรรมที่พระองค์ทรงนิพนธ์ไว้นั้นจัดเป็นวรรณกรรมอันเลอค่า โดยเฉพาะคําประพันธ์ประเภทกาพย์ห่อโคลงดูจะมีมากกว่างานพระนิพนธ์ชนิดอื่น ๆ งานนิพนธ์ที่เหลือจนบัดนี้มีที่รวบรวมได้ดังนี้ ๑. กาพย์เห่เรือ ๒. บทเห่เรื่องกากี ๓ ตอน ๓. บทเห่สังวาสและเห่ครวญอย่างละบท
ภาษาไทยกับครูพ่ีตี่ตี๋ – อาจารย์พีระเสก บริสุทธ์ิบัวทิพย์
๔. กาพย์ห่อโคลงนิราศธารโศก ๕. กาพย์ห่อโคลงนิราศธารทองแดง ๖. นันโทปนันทสูตรคําหลวง ทรงพระนิพนธ์ พ.ศ. ๒๒๗๙ ขณะทรงผนวช ๗. พระมาลัยคําหลวง ทรงพระนิพนธ์ พ.ศ. ๒๒๘๐ ขณะทรงผนวช ๘. เพลงยาวบางบท
ภาษาไทยกับครูพ่ีตี่ตี๋ – อาจารย์พีระเสก บริสุทธ์ิบัวทิพย์
แต่งเป็นกาพย์ห่อโคลง มีโคลงสี่สุภาพนํา ๑ บท เรียกว่าเกริ่นเห่ และตามด้วยกาพย์ยานี ๑๑ พรรณนาเนื้อความโดยไม่จํากัดจํานวนบท
รูปแบบ
ภาษาไทยกับครูพ่ีตี่ตี๋ – อาจารย์พีระเสก บริสุทธ์ิบัวทิพย์
ใช้เห่เรือเล่นในคราวเสด็จฯ โดยทางชลมาครเพื่อไปนมัสการพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี การเห่เรือนอกจากจะเป็นที่สําราญพระราชอิริยาบถแล้ว ยังเป็นการให้จังหวะแก่ฝีพายด้วย
จุดประสงค์ในการประพันธ์
ภาษาไทยกับครูพ่ีตี่ตี๋ – อาจารย์พีระเสก บริสุทธ์ิบัวทิพย์
ดําเนินเรื่องได้สัมพันธ์กับเวลาใน 1 วัน คือ เช้าชมกระบวนเรือ สายชมปลา บ่ายชมไม้ เย็นชมนก กลางคืนเป็นบทครวญสวาท การพรรณนาความ ตอนชมปลา ชมไม้ ชมนก มีการพรรณนาพาดพิงไปถึงหญิงที่รัก เข้าทํานองเดียวกับนิราศ
การดําเนินเรื่อง
ภาษาไทยกับครูพ่ีตี่ตี๋ – อาจารย์พีระเสก บริสุทธ์ิบัวทิพย์
กาพย์เห่เรือ พระนิพนธ์เจ้าฟูาธรรมธิเบศร
ภาษาไทยกับครูพ่ีตี่ตี๋ – อาจารย์พีระเสก บริสุทธ์ิบัวทิพย์
โคลง ปางเสด็จประเวศด้าว ชลาลัย ทรงรัตนพิมานชัย กิ่งแก้ว พรั่งพร้อมพวกพลไกร แหนแห ่ เรือกระบวนต้นแพร้ว เพริศพริ้งพายทอง
เห่ชมเรือ
ภาษาไทยกับครูพ่ีตี่ตี๋ – อาจารย์พีระเสก บริสุทธ์ิบัวทิพย์
กาพย ์ พระเสด็จโดยแดนชล ทรงเรือต้นงามเฉิดฉาย กิ่งแก้วแพร้วพรรณราย พายอ่อนหยับจับงามงอน นาวาแน่นเป็นขนัด ล้วนรูปสัตว์แสนยากร เรือริ้วทิวธงสลอน สาครลั่นครั่นครื้นฟอง
เห่ชมเรือ
ภาษาไทยกับครูพ่ีตี่ตี๋ – อาจารย์พีระเสก บริสุทธ์ิบัวทิพย์
กาพย ์ เรือครุฑยุดนาคหิ้ว ลิ่วลอยมาพาผันผยอง พลพายกรายพายทอง ร้องโห่เห่โอ้เห่มา สรมุขมุขสี่ด้าน เพียงพิมานผ่านเมฆา ม่านกรองทองรจนา หลังคาแดงแย่งมังกร
เห่ชมเรือ
ภาษาไทยกับครูพ่ีตี่ตี๋ – อาจารย์พีระเสก บริสุทธ์ิบัวทิพย์
เห่ชมเรือ
ภาษาไทยกับครูพ่ีตี่ตี๋ – อาจารย์พีระเสก บริสุทธ์ิบัวทิพย์
กาพย ์ สมรรถชัยไกรกราบแก้ว แสงแวววับจับสาคร เรียบเรียงเคียงคู่จร ดั่งร่อนฟูามาแดนดิน สุวรรณหงส์ทรงพู่ห้อย งามชดช้อยลอยหลังสินธุ์ เพียงหงส์ทรงพรหมมินทร์ ลินลาศเลื่อนเตือนตาชม
เห่ชมเรือ
ภาษาไทยกับครูพ่ีตี่ตี๋ – อาจารย์พีระเสก บริสุทธ์ิบัวทิพย์
เห่ชมเรือ
ภาษาไทยกับครูพ่ีตี่ตี๋ – อาจารย์พีระเสก บริสุทธ์ิบัวทิพย์
กาพย ์ เรือชัยไวว่องวิ่ง รวดเร็วจริงยิ่งอย่างลม เสียงเส้าเร้าระดม ห่มท้ายเยิ่นเดินคู่กัน คชสีห์ทีผาดเผ่น ดูดังเป็นเห็นขบขัน ราชสีห์ที่ยืนยัน คั่นสองคู่ดูยิ่งยง
เห่ชมเรือ
Top Related