ด�ำรงค์ พิณคุณ

THE SUCCESS

ความส�าเร็จ...ออกแบบได้

หากบวก “วิธีคิดใหม่” ให้กับ “ความส�าเร็จ”ทุกสิ่งท่ีคุณต้องการเป็นจริงได้เพียงขยับมุมคิดนิดเดียวด้วย

“กลยุทธ์ฟังง่าย...แต่ได้ผล”

คุณจะเข้าใจว่าความส�าเร็จต้องการอะไร ...

ทุกอย่าง อยู่ในตัวคุณ!!

Dreamฝันน�ำทำง

CHAPTER 1

01DREAM

ฝันน�าทาง

เปิดท่ามกลางแสงไฟ เสียงเพลง ทีวี ข่าวสาร

เราอาจจะหลงทางไปในบางแห่งบางแห่งที่ประตูปิดอยู่

หากเราเพียงแค่เอื้อมมือไปเปิดประตูบานนั้นออกเราก็จะพบกับสิ่งที่เราต้องการ

สิ่งที่เราเคยฝัน กับ สิ่งที่เราต้องการท�าหากเรากล้าที่จะก้าวไปเปิดประตูบานนั้น

แล้วลงมือท�า...จริงๆ

: THE SUCCESS6

ปิดบางคนไม่กล้า...แม้เพียงแค่เปิดประตูบานนั้นออก

ประตูที่เคยเก็บความฝันเอาไว้ประตูที่เราเคยคิดไว้ตั้งแต่ยังเด็กว่า...เราต้องการมัน

แต่ส�าหรับบางคน“ความฝัน” ยังคงเป็น “ความฝัน” ต่อไป

ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไรความฝันที่ถูกล็อคกุญแจไว้อย่างดีแล้วเราก็ไม่เคยเปิดออกดูอีกเลย

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 7

: THE SUCCESS8

จากเด็กผู้ชายธรรมดา ผมเริ่มมีความมั่นใจในตนเอง จากเด็กผู้ชายธรรมดา ผมมองเห็นความฝันชัดเจน จากเด็กผู้ชายธรรมดา ผมมองเห็นหนทางที่ต้องก้าวเดิน และในวันนี้ ผมคือผู้ชายที่ยังคงความธรรมดาในการใช้ชีวิต แต่เพิ่มเติมความส�าเร็จในธุรกิจที่รัก สามารถดูแลตนเอง ครอบครัว ลูกน้อง และแบ่งปันสังคมได้อย่างที่ผมฝันไว้ไอ้การทดสอบที่ว่านั้นมันคืออะไร... คงไม่เสียหายอะไรถ้าเราจะทดลองท�าดูสักครั้ง รับประกันว่าผลลัพธ์เกินคุ้มครับ

ก่อนเริ่ม ขอให้คุณเตรียมกระดาษ ปากกา สก๊อตเทป และท�าใจให้ว่างๆ

ผมจะถามค�าถามหนึ่ง เงื่อนไขคือคุณต้องตอบภายใน 3 วินาที ย�า้อีกครั้ง 3 วินาทีเท่านั้นเป็นค�าตอบแรกที่ผุดขึ้นมาหลังจากฟังค�าถามเสร็จ จากนั้นเขียนค�าตอบลงไปในกระดาษ แล้วเอาสก๊อตเทปแปะกระดาษนั้นไว้ที่หน้ากระจก หรือ หน้าประตูพร้อมหรือยังครับ เอ้า!!! สูดลมหายใจลึกๆ ท�าใจว่างๆ อย่าลืมว่าขอค�าตอบภายใน 3 วินาทีนะครับ

มีการทดสอบเล็กๆ ชิ้นหนึ่งที่ผมชอบมาก ใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น แต่มันเปลี่ยนแปลงชีวิต ความเชื่อ ทัศนคติ และแรงผลักดันทุกอย่าง ในตัวผมไปอย่างสิ้นเชิง

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 9

“ความฝันของคุณคืออะไร???”

ตอบเลย! แล้วเขียนบนกระดาษ ไม่ต้องคิดมาก

ไม่ว่าคุณจะตอบว่าอะไร อยากสวย อยากหล่อ อยากเป็นดารานักร้อง อยากมีเงินพันล้าน อยากเป็นนายกรัฐมนตรี อยากเปลี่ยนแปลงโลก ต่อให้ความฝันของคุณยิ่งใหญ่หลุดขอบจักรวาลแค่ไหน อย่ากลัวที่จะเขียนมันลงไป และอย่าอายที่จะติดเอาไว้อ่านและมองเห็นความฝันของคุณทุกวัน

ที่แบบทดสอบนี้ให้เวลาเพียง 3 วินาที เพราะผมคิดว่าเราจะได้ค�าตอบที่มาจากจิตใต้ส�านึกจริงๆ นั่นคือ “ความฝันที่ทรงพลังที่สุดของคุณ” เป็นความต้องการแท้จริงที่ไม่ถูกปิดกั้นจากเงื่อนไขต่างๆ เมื่อเวลาจิตส�านึกท�างาน

: THE SUCCESS10

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 11

เคยไหมครับที่เราต้องแอบคิดถึงความฝันของเราเงียบๆ คนเดียว ไม่กล้าพูด ไม่กล้าบอกใคร มิหน�าซ�า้บางครั้งเรายังดุตัวเองเสียอีกเวลาคิดถึงความฝันนั้น เพราะจิตส�านึกที่โดนล้อมกรอบจากการเลี้ยงดู สภาพแวดล้อมทางสังคม ฐานะ ทัศนคติ ฯลฯ หล่อหลอมให้คุณเชื่อว่าตัวเองไม่สามารถท�าได้ ในขณะที่จิตใต้ส�านึกของคุณเฝ้ากอดจูบความฝันนั้นอยู่ทุกคืน

และกระดาษที่คุณเขียนความฝันนี่แหละ คือเงื่อนไขแรกของความส�าเร็จ เมื่อคุณ “กล้า” ที่จะพาความฝันของคุณมาสู่โลกแห่งความเป็นจริง นั่นคือ “ความฝันของคุณมีตัวตน” ขึ้นมาแล้ว เหมือนเมล็ดพันธุ์ที่เคยถูกฝังจมดิน ได้ผลิยอดอ่อนออกมารับแสงแดด แสงลม รอการเพาะบ่มให้เติบโต

และทันทีที่คุณเปิดเผยความฝันที่อยู่ในใจ และย�้าเตือนด้วยการคิด การมอง และอ่านทุกวัน พลังของความส�าเร็จได้เริ่มต้นท�างานแล้ว มันขับเคลื่อนทันทีโดยที่คุณยังไม่ต้องลงมือท�าอะไรเลยด้วยซ�้า ความฝันจะช่วยน�าทางคุณเอง

อย่าเพิ่งเชื่อผม แต่ลองอ่านเรื่องราวของผู้ชายคนนี้ดูครับ

: THE SUCCESS12

ปี ค.ศ.1451 เด็กชายคนหนึ่งถือก�าเนิดขึ้นที่เมืองเจนัว เมืองท่าส�าคัญทางการค้าของประเทศอิตาลีในเวลานั้น เด็กน้อยเติบโตมาในครอบครัวที่มีฐานะปานกลาง ด้วยความที่เป็นลูกทะเล คลุกคลีอยู่กับแผนที่ เรือ และท้องมหาสมุทร มาแต่อ้อนแต่ออก ทั้งยังเริ่มอาชีพด้วยการเป็นลูกเรือตั้งแต่อายุเพียง 13 ปี โลกของเขาจึงมีแต่ทะเลกว้างสุดลูกหูลูกตา และนั่นคือสิ่งเดียวที่อยู่ในใจของเขาทั้งเวลาหลับเวลาตื่น

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 13

สิ่งที่เด็กชายผู้นี้แตกต่างจากคนอื่น คือ เขา - คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส - เห็น “ความฝัน” ของตัวเองอย่างชัดเจนท่ามกลางทะเลและเกลียวคลื่น เขาเชื่อมั่นอย่างสุดใจว่าโลกใบนี้ไม่ได้ “แบน” อย่างที่ทุกคนคิด แต่มีลักษณะเป็นทรงกลม ดังนั้นเขาจึงคิดต่างจากนักเดินเรือคนอื่นที่ส่วนใหญ่มุ่งส�ารวจไปยังฝั่งตะวันออก โคลัมบัสมั่นใจว่าการเดินทางไปเอเชียทางตะวันตกเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ หากแต่เวลานั้นความคิดของเขา ดูเป็นเรื่องตลก บ้างก็โดนข่มขู่แกมเยาะเย้ยว่า เขาไม่มีทางมีชีวิตรอดกลับมา เพราะเรือของเขาต้อง “ตกขอบโลกไปเสียก่อน”

: THE SUCCESS14

แม้โดนดูถูกจากคนรอบข้าง แต่ความฝันของโคลัมบัสยังคงกระจ่างสดใส เขาไม่ได้แค่ “ฝันลมๆ แล้งๆ” แต่ลงมือท�างานอย่างหนักและจริงจัง ทั้งศึกษาต�าราภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ จดหมายเหตุ ปรัชญา รวมทั้งบันทึกการเดินทางของนักส�ารวจรุ่นบุกเบิก ไม่ว่าจะเป็น มาร์โค โปโล และ เซอร์ จอห์น ที่เคยเดินทางไปประเทศจีน แต่เส้นทางบกสู่เมืองจีนที่อธิบายไว้โดยโปโลนั้น ท�าให้เสียเวลาและมีต้นทุนการเดินทางแพงขึ้น แต่ด้วยสินค้าจากดินแดนเหล่านี้มีมูลค่าสูง การค้าจะส่งเสริมแสนยานุภาพของโปรตุเกสที่ก�าลังรุ่งเรืองให้มั่งคั่งยิ่งขึ้น เพราะเหตุนี้ นักเดินเรือและนักส�ารวจจึงต้องพยายามหาวิธีเดินเรือไปยังอินเดียและจีนอย่างเอาเป็นเอาตาย

แต่ไม่ว่าจะพยายามกี่ครั้ง เส้นทางเดินเรือสู่อินเดีย โดยมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออก ยังคงต้องอ้อมทวีปแอฟริกาและผ่านแหลม “กู๊ดโฮป” ที่มักเกิดคลื่นลมพายุปั่นป่วน โคลัมบัสตระหนักถึงปัญหานี้ดี เขาเลยต้องยิ่งศึกษาค้นคว้าอย่างหนักเพื่อรองรับความเชื่อที่ว่า การเดินเรือสู่เอเชียทางตะวันตกโดยข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกจะสามารถย่นย่อเวลากว่ากันมาก

โคลัมบัสใช้เวลาค้นคว้า และฝึกฝนความช�านาญด้านการเดินเรืออยู่หลายปี จึงตัดสินใจน�าแผนการเดินเรือไปทางตะวันตกนี้เข้าพบกษัตริย์แห่งโปรตุเกส เพื่อขอให้ทรงเป็นองค์อุปถัมภ์ โดยมีราชสภาเป็นผู้ร่วมพิจารณาอนุมัติ

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 15

เขาไม่ ได้แค่ “ฝันลมๆ แล้งๆ”

แต่ลงมือท�างานอย่างหนัก และ จริงจัง

ทั้งศึกษาต�าราภูมิศาสตร์

ประวัติศาสตร์

จดหมายเหตุ ปรัชญา

รวมทั้ง บันทึกการเดินทางของ

นักส�ารวจรุ่นบุกเบิก

: THE SUCCESS16

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 17

ผมเชื่อว่าหลายท่านคงเดาออก แม้ ไม่เคยรู้ประวัติศาสตร์ช่วงนี้มาก่อน ว่าโคลัมบัสย่อมได้รับการปฏิเสธ แน่นอนว่าความคิดต่างไม่จูงใจให้เกิดความเชื่อถือ หลังจากทุ่มเทเวลาอยู่นานปี ต้นไม้แห่งความฝันของเขากลับแห้งเหี่ยวไปต่อหน้าต่อตา มิหน�าซ�้าภรรยาของเขายังมาเสียชีวิตกะทันหัน ไม่ต้องบรรยายก็พอนึกภาพออกว่า โคลัมบัสอยู่ในภาวะผิดหวัง เสียใจ และโศกเศร้ามากมายเพียงใด

แต่ในความเศร้า โคลัมบัสยังมีความมุ่งมั่น “เต็มเปี่ยม” เหมือนเดิม เขาพาบุตรชายย้ายที่พ�านักไปอยู่เมืองอัวล์บา เมืองท่าแห่งหนึ่งของประเทศสเปน และเริ่มต้นเสาะแสวงหาความรู้ใหม่ๆ เพิ่มเติม ด้วยการศึกษางานด้านจักรวาลวิทยา เปรียบเทียบแผนที่ทางภูมิศาสตร์ฉบับต่างๆ อีกทั้งมองหาช่องทางเพื่อสนับสนุนแผนเดินทางของเขาอีกครั้ง โคลัมบัสเดินทางไปขอความช่วยเหลือจากพระเจ้าเฟอร์ดินานด์แห่งอรากอน และพระนางอิสซาเบลลาแห่งกัสตีญา ซึ่งปกครองประเทศสเปนร่วมกัน แม้ในตอนแรกจะได้รับการปฏิเสธ แต่โคลัมบัสไม่ละความพยายาม เขาเพียรเสนอแผนเดินทางพร้อมติดตามผลแบบกัดไม่ปล่อย

: THE SUCCESS18

ความพยายามของเขาปรากฏผลในที่สุด...ในวันที ่19 เมษายน ค.ศ. 1492 คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ชายผู้ล่องเรือตามหาความฝัน ก็ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นขุนนางแห่งเมืองกัสตีญา และได้รับต�าแหน่งนายพลเรือ รับผิดชอบควบคุมเรือพระราชทาน 3 ล�า พร้อมลูกเรือในฐานะกัปตัน มุ่งเดินทางสู่เอเชียจากด้านตะวันตก ตามแผนการที่โคลัมบัสหาข้อมูลและวางแผนมานานนับสิบปี

การเดินทางไม่ได้ราบรื่น โคลัมบัสต้องเผชิญอุปสรรคจากภัยธรรมชาติ ความสับสนของเส้นทาง สัตว์ใหญ่ในท้องทะเล และการทะเลาะเบาะแว้งของลูกเรือ แต่เขาก็งัดวิชาความรู้ทุกแขนงที่เคยศึกษามาแก้ปัญหาไปทีละเปลาะ

วันคืนผ่านไปกว่า 4 เดือน ยามบนหอคอยสังเกตเห็นชายฝั่งเป็นเงาตะคุ่มอยู่ในแสงจันทร์ เหล่าลูกเรือพากันโห่ร้องด้วยความยินดี เกาะที่ค้นพบนี้คือ บาฮามาส ซึ่งมีชาวพื้นเมือง ชนเผ่าอินเดียนแดง (Red Indian) อาศัยอยู่มาแต่เดิม โคลัมบัสเอาเรือเทียบชายฝั่งและประกาศให้ดินแดนแห่งนี้เป็นเมืองขึ้นของสเปน หลังจากนั้นเขาจึงออกเดินเรืออีกครั้ง เดินทางส�ารวจจากเกาะหนึ่งไปยังอีกเกาะหนึ่ง น�าเรือมุ่งหน้าไปตามความฝันของตัวเองโดยไม่มีอะไรหยุดยั้งได้

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 19

: THE SUCCESS20

3 เดือนภายหลังจากที่ค้นพบโลกใหม่ โคลัมบัสกลับไปที่สเปน พร้อมตัวอย่างทองค�า ทรัพย์สมบัติมีค่าอื่นๆ และชนเผ่าพื้นเมืองอีก 7 คน กัปตันแห่งกัสตีญาได้รับการต้อนรับอย่างมีเกียรติจากราชส�านัก พระนางอิสซาเบลลาประกาศถึงความส�าเร็จครั้งนี้ว่า “มีความส�าคัญ ยิ่งใหญ่เหลือคณา” จากชายที่เคยโดนขับไล่รังเกียจจากเหล่าขุนนาง เมื่อครั้งมาเสนอแผนเดินเรือ ในที่สุดเขาได้อยู่แถวหน้าสุดของคณะผู้ติดตามราชวงศ์ในงานราชพิธี นับเป็นเกียรติสูงสุดที่มีแต่เจ้าตัวเท่านั้นที่ตระหนักว่า มันแลกมาด้วยความมุ่งมั่นไม่มีสิ้นสุดและความเหนื่อยยากเพียงใด

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 21

แม้ชีวิตจะพร้อมไปด้วยเกียรติและทรัพย์สมบัติ แต่โคลัมบัสยังคงซื่อสัตย์ต่อความฝัน การเดินเรือและการส�ารวจเป็นแรงบันดาลใจให้ชีวิตมีความหมาย เขายังคงออกทะเลจวบจนวาระสุดท้าย หลังจากที่เขาเสียชีวิตในปี ค.ศ.1506 พระเจ้าเฟอร์ดินานด์ได้ทรงสร้างรูปอนุสรณ์เพื่อร�าลึกถึงเขา โดยจารึกค�าอุทิศว่า... “โคลัมบัส ผู้ค้นพบโลกใหม่ให้กับราชวงศ์กัสตีญา และเลออง”

ผมเชื่อว่า คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส คงจะหลับตาลงอย่างมีความสุข ไม่มีความกระวนกระวาย เสียดาย หรือห่วงกังวลใดๆ เพราะเขาได้ท�าตามความฝันอย่างสุดก�าลังความสามารถแล้ว

: THE SUCCESS22

เพราะมันคือตัวก�าหนดเส้นทางชีวิตของเราครับ

ตัวเรา - ผู้หญิงหรือผู้ชายธรรมดาๆ คนนี้นี่แหละ - สามารถเป็นคนดี ยิ่งใหญ่ ร�่ารวย เป็นที่รัก มีความสุขอย่างเหลือล้นได้ ทั้งหมดอยู่ที่ “ความต้องการของเราเอง” ทั้งสิ้น ไม่ใช่ลิขิตจากเบื้องบน หรือ ค�าพูดค�าท�านายของใครอื่น ดังนั้นอย่ากลัวที่จะเริ่มคิดถึงความปรารถนาของเราไม่ว่าเป้าหมายนั้นจะยิ่งใหญ่เพียงใด ขอเพียงให้อยู่บนพื้นฐานความถูกต้อง ศีลธรรม จริยธรรม และไม่เบียดเบียนผู้อื่น...

สิ่งที่เราคิด และปรารถนาต้องประสบความส�าเร็จอย่างแน่นอน

ควรใช้เวลาอีกนิด ตรวจสอบว่า “ความฝัน” ของคุณ อยู่ในกรอบกฎหมาย คุณธรรม จริยธรรม และไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใคร ถ้าเช็คผ่านทุกข้อ ก็ได้เวลา “เปิดตัว” ความฝันของคุณแล้วครับ

ท�ำไมควำมฝันถึงส�ำคัญเช ่นนี้?

หากมั่นใจว่าความฝันนี้ คือ สุดยอดปรารถนา หรือ สิ่งนี้คือสิ่งที่จะท�าให้ชีวิตมีความหมายในทุกวินาที ก็โปรดบรรจงแปะ “ความฝัน” ของคุณไว้จุดที่มองเห็นได้ทุกวัน

คุณไม่ต้องเชื่อผมเรื่องอื่น แต่ขอให้เชื่อว่า “จากนี้ ไป ความฝันของคุณเริ่มต้นท�างานแล้ว ความส�าเร็จก�าลังออกสตาร์ทก้าวแรก” ในวันที่ผมตัดสินใจว่า “อยากเป็นนักธุรกิจที่ประสบความส�าเร็จ” ผมเปี่ยมไปด้วยความเชื่อมั่น ทั้งๆ ที่ผมไม่รู้ว่าจะพบอะไรที่รอคอยอยู่ข้างหน้า

แต่ความรู้สึกที่แจ่มชัดที่สุด คือผมรู้สึกดีกับตัวเองอย่างที่ ไม่เคยเป็นมาก่อน เพราะผมได้ตัดสินใจที่จะลิขิตชีวิตตัวเอง ผมเป็นเจ้าของชีวิตตัวเองอย่างเต็มตัว มันก่อเกิดเป็นพลังเล็กๆ ที่ผลักดันอยู่ข้างใน ผมเริ่มก้าวสู่ความส�าเร็จตั้งแต่วินาทีนั้น แม้จะเป็นก้าวเล็กๆ ก้าวอย่างเชื่องช้า แต่มันไม่เคยหยุดอยู่กับที่ เพราะผมค่อยๆ ก้าวเดิน

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 23

ความส�าคัญของ การมีชีวิตอยู่

หากหมายถึง

การมี “ลมหายใจ”เพียงเท่านั้น

มันท�าให้เราเป็นได้แค่“การหายใจไปวันๆ”

เท่านั้นเอง

: THE SUCCESS24

การใช้ชีวิตเพื่อการสร้างสรรค์

สิ่งดีให้เกิดขึ้นกับตนเองและ เมื่อเรามีมากพอแล้ว

เราก็สามารถแบ่งปันให้กับคนที่ยังไม่มี

นั่นหมายถึง“ชีวิตที่มีค่า”

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 25

02Make

your dream come true !!!

ท�าฝันให้เป็นจริง

ถนอมหากมีความฝันแล้ว...

สิ่งที่เราต้องท�า คือ การถนอมมันเอาไว้ เหมือนกับ ไข่หนึ่งฟอง

เราต้องกอดมันเอาไว้ เหมือนกับ หมอนข้างของเราเราต้องใส่มันเอาไว้ เหมือนกางเกงที่เราต้องสวมทุกวัน

ไม่มีใครอยากให้ “ไข่แตก”“ถูกแย่งหมอนข้างไป” หรือ “กางเกงขาด”

จงถนอมมันไว้ให้ดี...เท่าที่คุณจะท�าได้

: THE SUCCESS28

ถนัดจงสร้างความสามารถของคุณขึ้นมาเอง

ไม่มีใครที่เกิดมาแล้วใช้ตะเกียบเป็นทันทีไม่มีใครที่เกิดมาแล้ว เปิดฝาอาหารกระป๋องเป็นเลยไม่มีใครที่ชู้ตลูกบาสลงห่วง ตั้งแต่ลูกแรกที่หัดโยนไม่มีใครที่เตะลูกบอลได้รุนแรง หากไม่เคยฝึกมา

ไม่มีใครยิงปืนเป็น หากไม่เคยซ้อมยิงมาก่อน

จงสร้างตนเองให้ถนัดในเรื่องที่ตนเองฝัน และ ต้องการจะท�ามัน

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 29

: THE SUCCESS30

เมื่อใดก็ตามที่คุณม ี“ความฝันที่ชัดเจน” จงท�าให้มันเป็น “ความปรารถนาอันแรงกล้า” และกล้าที่จะประกาศสิ่งนั้นให้โลกรู้ ... ผมขอแสดงความยินดีด้วยครับ เพราะความส�าเร็จของคุณเริ่มลงมือท�างานแล้ว (แม้ว่าตอนนี้คุณจะนอนเอกเขนกอ่านหนังสืออยู่ก็ตาม) ความฝันของคุณ คือ น�้ามันรุ่นซูเปอร์เทอร์โบ พร้อมที่จะพาคุณทะยานสู่ความส�าเร็จโดยที่คุณแทบไม่รู้ตัว

เพราะความฝันจะผลักดันให้คุณหาวิธีการต่างๆ มาท�าให้มันเป็นจริง มาถึงตรงนี้ ... ลองคิดกันเล่นๆ ครับว่า เราต้องใช้กี่วิธี กว่าจะถึงเส้นชัย สามวิธี ห้าวิธี สิบวิธี (พอไหม) บางคนอาจต้องใช้ยี่สิบวิธี สามสิบวิธี (เยอะแล้วนะ) ห้าสิบวิธี ร้อยวิธี (บ้าแล้ว ใครกันใช้ตั้งร้อยวิธี) ห้าร้อยวิธี พันวิธี (ถ้าท�าถึงขนาดนั้นแล้วยังไม่ส�าเร็จ สงสัยเราคงฝันเกินตัวแล้วล่ะ)

ค�าตอบก็คือ ไม่มีอะไรมากหรือน้อยเกินไปส�าหรับเส้นทางความฝันครับ บางคนอาจใช้วิธีแรกแล้วส�าเร็จสมปรารถนา แต่บางคนอาจต้องใช้วิธี “นับไม่ถ้วน” กว่าจะได้มาซึ่งสิ่งที่ต้องการ และตรงนี้คือข้อพิสูจน์

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 31

ความฝันของคุณได้อย่างดีที่สุดว่ามันคือ “ของแท้” หรือเปล่า เพราะถ้าความฝันนั้นคือสิ่งที่คุณต้องการจริงๆ ไม่ใช่เพียงค่านิยมฉาบฉวย คุณจะไม่มีวันเหนื่อยกับการค้นหาวิธีสู่ความส�าเร็จ ตรงกันข้าม ยิ่งค้นหา คุณจะยิ่งสนุก ยิ่งเรียนรู้ ยิ่งท้าทายตนเอง

ความฝันที่แท้จริงจะใส่เกียร์ และเร่งเครื่องให้คุณเองครับ

และไม่ว่าเส้นทางสู่จุดหมายจะใกล้หรือไกล และทุรกันดารเพียงใด คุณจะไม่กระโดดหนีจากความฝันของตัวเอง เหมือนผู้ชายคนหนึ่ง ที่เกาะความฝันของเขาไปจนสุดทาง แม้จะโดนเหวี่ยงจนพลิกคว�า่ไม่เป็นท่าซ�า้แล้วซ�้าเล่า...

เราแทบทุกคนรู้จักเขา เพราะสิ่งที่สร้างชื่อเสียงให้กับเขา คือภาพยนตร์บู๊ที่ดังไปทั่วโลก ในหนังทุกอย่างดูง่ายดายเหลือเกิน ไม่ว่าพระเอกจะหันไปทางใด ผู้ร้ายก็สยบราบคาบ แต่ในชีวิตจริงของ “เฉินหลง” นั้น เขาล้มลุกคลุกคลานยิ่งกว่าตัวประกอบ และก่อนจะโด่งดัง เขาเป็นอีกคนหนึ่งที่ใช้วิธี “นับไม่ถ้วน” กว่าจะประสบความส�าเร็จเช่นทุกวันนี้

: THE SUCCESS32

สมัยวัยเยาว์ พ่อแม่เรียกเฉินหลงว่า “เพ่าเพ่า” ซึ่งแปลว่า “ลูกระเบิด” บ่งบอกถึงอุปนิสัยการนอนของทารกน้อยที่ชอบนอนกลิ้งไปมา เขามีชื่อเต็มว่า “เฉินกั่งเซิง” ส่วน “เฉินหลง” นั้น เป็นชื่อที่คนไทยเรียกกันจนติดปาก

พ่อแม่ของเขาคงไม่ได้คาดคิดว่า “อาเพ่าเพ่า” จะเติบโตเป็นซูเปอร์สตาร์ที่โด่งดังสมฉายาลูกระเบิดจริงๆ ครั้งหนึ่ง ด้วยความที่ไม่มีค่ารักษาพยาบาล พ่อและแม่ของเฉินหลงเคยเกือบจะขายเขาให้กับคุณหมอชาวอังกฤษในราคา 26 เหรียญ แต่คุณหมอผู้นั้นปฏิเสธ อีก 7 ปีต่อมา ลูกระเบิดน้อยก็ถูกส่งเข้าไปศึกษาที่โรงเรียนอุปรากรจีน หรือ China Drama Academy อาจด้วยพรสวรรค์หรือโชคชะตา ท�าให้เด็กน้อยผู้นั้นสามารถฝึกฝนกายกรรม ศิลปะการต่อสู้ การแสดงและการร้องเพลงได้อย่างดีเยี่ยม กลายเป็นจุดเริ่มต้นความส�าเร็จอย่างยิ่งยวดต่ออาชีพของเขาในภายหลัง

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 33

ที่ส�าคัญ โรงเรียนอุปรากรแห่งนี้ ยังท�าให้เขาได้พบเพื่อนรักอีก 2 คน ซึ่งมีความหมายส�าคัญในชีวิตท่ามกลางความว้าเหว่ที่ต้องห่างอ้อมอกพ่อแม่ และความเหน็ดเหนื่อยกับการฝึกฝนอันเข้มงวด เด็กชายทั้งสามหัวเราะด้วยกัน ร้องไห้ด้วยกัน พวกเขากอดคอกันเล่าความฝันและต่างสัญญาว่าจะสานฝันร่วมกันเมื่อพวกเขาเติบใหญ่ขึ้น

: THE SUCCESS34

เฉินหลงเรียนจบเมื่ออายุ 17 ปี ขณะนั้นการแสดงงิ้วเริ่มหมดความนิยม นักเรียนจากสถาบันจึงหันไปเอาดีทางด้านการเป็นสตันท์แมนในภาพยนตร์ฮ่องกง รวมถึงเฉินหลงด้วย จากความที่เขามีความสามารถโดดเด่นตั้งแต่เป็นนักเรียน เส้นทางอาชีพนักแสดงของเขาจึงเริ่มฉายแววสดใส โดยเฉพาะเมื่อภาพยนตร์กลายเป็นสื่อบันเทิงที่ได้รับความนิยมของชาวฮ่องกง แทบทุกบ้านรอดูผลงานของ “บรู๊ซ ลี” วัยรุ่นฝึกกังฟูเลียนแบบขวัญใจของเขา ธุรกิจกองถ่ายภาพยนตร์ท�าท่าว่าจะไปได้สวย

ความอุตสาหะท่ามกลางเพื่อนร่วมอาชีพที่ทยอยหางานใหม่ทีละรายสองราย ท�าให้ “หลอเหว่ย” ผู้ก�ากับหนังกังฟู ตัดสินใจปั้นเฉินหลงขึ้นมาทดแทนบรู๊ซ ลี ทีมงานทั้งหมดรวมถึงเฉินหลงต่างคาดหวังให้หนังกังฟูฮ่องกงกลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง ตั้งแต่ปี พ.ศ.2519-2521 เพียงระยะเวลาแค่ 3 ปีเท่านั้น พวกเขาทุ่มเทผลิตหนังขึ้นมาถึง 10 เรื่อง

ผลก็คือ...ไม่ประสบความส�าเร็จเลยแม้แต่เรื่องเดียว!

เฉินหลงคือดาราอับโชค หรือ เขาไม่มีความสามารถเพียงพอ?

หากแต่ดาวรุ่งของวงการสตันท์ต้องตกงานแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว เมื่อบรู๊ซ ลี เสียชีวิต และความนิยมหนังกังฟูฮ่องกงตกต�า่ลง เฉินหลงเคว้งคว้างอยู่พักใหญ่ แต่ไม่ท้อที่จะฝึกฝีมือด้านศิลปะการแสดงและการต่อสู้ เพราะเขาเชื่อมั่นในความฝัน และศักยภาพของตนเองอยู่เสมอ

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 35

: THE SUCCESS36

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 37

แรงกาย 3 ปี กับหนัง 10 เรื่อง อาจท�าให้บางคนตัดสินใจหันหลังให้กับเส้นทางนี้ แต่เฉินหลงไม่มีความคิดนั้นในหัว แม้จะไม่ประสบความส�าเร็จด้านรายได้ แต่เขาได้ท�าสิ่งที่ตัวเองรักทุกวัน ในเมื่อวิธีการแสดงแบบเดิมยังไม่เข้าตา จะแปลกอะไรถ้าเขาจะพยายามหาวิธีใหม่ไปเรื่อยๆ

ปลายปี พ.ศ.2521 เฉินหลงลบค�าสบประมาทของทุกคนด้วยผลงาน “ไอ้หนุ่มหมัดเมา” ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่เพียงแต่ประสบความส�าเร็จในฮ่องกงเท่านั้น แต่สร้างชื่อเสียงให้เฉินหลงชั่วข้ามคืนไปทั่วเอเชีย

ต่อมาเฉินหลงจับมือกับเพื่อนรักร่วมสาบาน “หงจินเป่า” และ “หยวนเปียว” ซึ่งเคยเรียนสถาบันเดียวกันในวัยเด็ก สานฝันด้วยการผลิตภาพยนตร์ร่วมกันอีกหลายเรื่อง จังหวะชีวิตของเฉินหลงดูจะพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเขาหันมาจับทางหนังต�ารวจร่วมสมัยอย่าง Police Story (วิ่งสู้ฟัด) และสามารถคว้ารางวัลตุ๊กตาทองฮ่องกงมาครอบครอง สร้างรากฐานของแฟนคลับให้เหนียวแน่น จนภาพยนตร์ของเฉินหลงในยุค ’90 ไม่มีเรื่องไหนที่ “ไม่ดัง”

เฉินหลงกระตุ้นตัวเองให้ก้าวสู่สากล เขาตัดสินใจเปิดตลาดอเมริกา สยายปีกสู่วงการฮอลลีวู้ด ความฝันที่จะโกอินเตอร์ของเขาสดใสอย่างยิ่ง เขามีทั้งประสบการณ์ และชื่อเสียงเป็นแรงสนับสนุนให้โผบิน

แต่อินทรีหนุ่มจากเอเชียกลับโดนพายุกระหน�า่จนซวนเซ เพราะภาพยนตร์ 4 เรื่องแรกล้วนไม่ประสบความส�าเร็จ บางเรื่องเขาได้รับบทเป็นเพียงตัวประกอบเท่านั้น นักวิจารณ์บางคนพูดถึงเขาในท�านองเสียดสีว่าฝีมือยังไม่ถึงฮอลลีวู้ด

: THE SUCCESS38

แทนที่จะหดหู่ท้อถอย เฉินหลงทุ่มเทเวลาทั้งหมดไปกับการค้นหาวิธีที่จะบินสู่ฮอลลีวู้ดอีกครั้ง เขาไม่สนใจค�าวิจารณ์เสียหายจากบุคคลอื่น รับไว้แต่ข้อเสนอแนะที่ควรปรับปรุง และมุ่งท�าในสิ่งที่ต้องท�าเท่านั้น

เฉินหลงใช้เวลาสิบปี ก่อนจะบุกตลาดอเมริกาครั้งที่สอง พร้อมกับผลงานเรื่อง Rumble in the Bronx (ใหญ่ฟัดโลก) ครั้งนี้สามารถเปิดตัวขึ้นอันดับหนึ่งในบ็อกซ์ออฟฟิศของอเมริกา และผลงานเรื่องต่อมา Rush Hour (คู่ใหญ่ ฟัดเต็มสปีด) ประสบความส�าเร็จอย่างสูง ท�ารายได้หลายร้อยล้านเหรียญทั่วโลก

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 39

เบื้องหลังความส�าเร็จและรายได้มหาศาล คือเวลานับสิบปีที่ทุ่มเทท�างานอย่างหนัก ทดลองหลากหลายวิธี บางวิธีล้มเหลว บางวิธีไม่ได้ผล บางวิธีให้ผลตรงข้าม ถ้าวันนั้นเฉินหลงบอกตัวเองว่า “พอได้แล้ว ฉันท�ามามากเกินพอแล้ว” ในวันนี้ ชื่อของเขาอาจเป็นเพียง “อดีตดาราฮ่องกง” ที่มีคนจ�าได้ลางๆ เท่านั้นเอง

ส�าหรับผม เฉินหลงเป็น “นักสู้ที่แท้จริง” ไม่ใช่เพราะบทบาทน่าประทับใจจากภาพยนตร์ แต่ผมนับถือที่ตัวตนของเขา นับถือการ “ท�าฝันให้เป็นจริง” โดยไม่ย่อท้อ

นักสู้ที่แท้จริง ไม่เคยสงสัยว่าตัวเองสู้ได้หรือไม่ เขาเพียงแต่รู้ว่า ยิ่งเขาต่อสู้มากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งมีความสุขมากเท่านั้น เฉินหลงฝันในสิ่งที่รัก รักในสิ่งที่ท�า และท�าจนประสบความส�าเร็จคุณเห็นความลับของความส�าเร็จหรือยังครับ?

: THE SUCCESS40

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 41

ขอเพยีงคณุมีความฝันหรือความปรารถนาอันยิ่งยวด

และสัญญากับตัวเองว่า คุณจะท�ามันให้ส�าเร็จให้ได้ ไม่ว่าโดยวิธีใดก็ตาม (ภายใต้กรอบกฎหมาย ความถูกต้อง คุณธรรม และจริยธรรม)

“ความฝัน” จะผลักดันให้คุณค้นหาวิธีไปสู่จุดหมาย ซึ่งคุณสามารถหาวิธีใหม่ๆ ได้อย่างไม่จ�ากัด

และถ้าวิธีเหล่านั้นไม่ได้ผล ความลับข้อสุดท้าย คือ จงหาวิธีใหม่กว่า แล้วลองท�าอีก...ลองท�าอีก... ลองท�าอีก...ลองท�าอีก...มันต้องมีสักวิธีที่ได้ผลแน่นอน ส่วนวิธีอื่นๆ ที่ท�าแล้วไม่ได้ผลนั้น จะกลายเป็น...ประสบการณ์ที่มีค่ายิ่งของคุณ

ตอนนี้คุณพร้อมเดินทางหรือยังครับ...ความฝันออกสตาร์ทให้คุณแล้ว คุณแค่เร่งเครื่องให้เต็มที่เท่านั้นเอง

ระหว่างทางย่อมมีความเหน็ดเหนื่อย อ่อนล้าในบางเวลา แต่ผมรับประกันว่า ถ้าคุณไปตามเส้นทางแห่งความฝันของตัวเองจริงๆ คุณจะไม่มีวัน “ย้อนกลับไปเสียใจ” หรือ “เสียดายเวลา” อีกเลย เพราะการลงมือท�านั้นดีกว่า “การนั่งฝัน” โดยไม่ท�าอะไรเลย...ผมเชื่ออย่างนั้น

ควำมลับของ “ควำมส�ำเร็จ” นั้นไม ่มีอะไรซับซ ้อนเลย

พระเจ้าไม่ ได้ประทาน“พรสวรรค์”

มาให้แค่คนบางคนมนุษย์ทุกคนได้รับ

“พรสวรรค์”มาตั้งแต่เกิดเหมือนกัน

และ ได้รับอย่างเท่าเทียมกัน

: THE SUCCESS42

เพียงแค่บางคนปล่อยให้

“สิ่งแวดล้อมไม่ดี”กลืนกิน...พรสวรรค์ ไป

แต่ส�าหรับบางคนที่ประสบความส�าเร็จ

เขาไม่ยอมให้ใครพรากมันไปจากชีวิต

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 43

03Love

your job รักในสิ่งที่ท�า

เด่นมนุษย์ทุกคนล้วนมี “ข้อดี” และ “ข้อด้อย”

เป็นของตนเอง อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

จงพยายามท�าให้สิ่งที่เป็น “ข้อดี”กลายเป็น “จุดเด่น”

จงท�าให้เราสัมผัสได้ว่า...เรามีจุดเด่นนั้นแล้วเมื่อเราสัมผัสมันบ่อยๆ ขึ้น

คนอื่นก็จะมองเห็น “จุดเด่น” ของเราเช่นกัน

: THE SUCCESS46

ด้อยจงเลือกเอาเองว่า...

จะสร้างจุดเด่นขึ้นมา...ให้ดีขึ้นหรือ

จะพยายามลบจุดด้อยของเราเอง

หากเราท�าได้ทั้งสองอย่างพร้อมๆ กันก็จะดีมากแต่หากเราท�าได้แค่เพียงอย่างเดียว

ดังนั้น เราต้องเลือกวิธีของเราเอง

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 47

: THE SUCCESS48

ค�าถามหนึ่งที่ไม่ควรหลอกตัวเองอย่างยิ่ง ถ้าอยากประสบความส�าเร็จ คือ “คุณรักงานที่ท�าอยู่มากแค่ไหน” หากนาทีนี้ไม่มีหัวหน้า ไม่มีลูกน้อง ไม่มีเพื่อนร่วมงาน ไม่มีฝ่าย HR มาร่วมฟังค�าตอบ ลองให้คะแนนตัวเอง...อย่างซื่อสัตย์สักครั้ง คิดว่าจากศูนย์ถึงร้อย คุณให้หัวใจกับงานที่ท�าอยู่...มากน้อยเพียงใด

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 49

เมื่อให้คะแนนแล้ว ผมสามารถท�านายอนาคตของคุณได้เลย งานนี้ไม่ต้องพึ่งค�าท�านายจากส�านักใดๆ...ค�าท�านายอยู่ในตัวเลขที่คุณเขียนลงไปนั่นเอง คุณเขียนเลขอะไร...ในอนาคตคุณก็มีสิทธิ์ประสบความส�าเร็จได้เท่าตัวเลขนั้น

ถ้าคุณเขียน 50 ก็หมายความว่า... ชีวิตของคุณจะพุ่งสูงได้เพียงครึ่งเดียวจากศักยภาพที่คุณมี ถ้าคุณเขียน 70 ก็อาจจะสูงขึ้นมาอีกนิด แต่ไม่ถึงจุดสุดยอดของอาชีพ

แต่ถ้าคุณเขียน 100 ผมบอกได้เลยว่า คุณจะบรรลุเป้าหมายตามที่ฝัน ไม่ว่าตอนนี้คุณจะมีต�าแหน่งต�า่ต้อยเพียงใดก็ตาม

ในทางกลับกัน ถ้าคุณเขียน 0 10 20 30 ... แม้ว่าตอนนี้คุณจะด�ารงต�าแหน่งยิ่งใหญ่ขององค์กร แต่แสดงความเสียใจด้วยครับ เพราะนับวันคุณจะยิ่งมีแต่...ความตกต�่า และ ล้มเหลว

: THE SUCCESS50

ท�าไม “ความรัก” ในงานจึงเป็นตัวก�าหนดความส�าเร็จ บางท่านอาจสงสัยว่า แล้วความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ และทักษะที่มีอยู่ในตัวเองล่ะ ไม่ได้เป็นสิ่งส�าคัญในการเจริญก้าวหน้าหรอกหรือ

ผมไม่ปฏิเสธว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นปัจจัยส�าคัญของอาชีพการงาน แต่ถ้าคุณเป็นคนเก่งที่ตื่นนอนทุกเช้าด้วยความทุกข์ทรมาน แค่คิดถึงงานก็ท้องไส้ปั่นป่วน เบื่อหน่าย และแสนเซ็ง ความเก่งของคุณจะผลักดันงานให้เสร็จแบบไร้แรงบันดาลใจ ไร้ความสร้างสรรค์ เป็นงานที่สมบูรณ์แต่ขาดชีวิตชีวา พอนานวันเข้ามันก็เหี่ยวเฉาไม่อยากเติบโต แค่ประคองตัวอยู่รอด และเริ่มผลิตผลงานซ�้าซากเหมือนเครื่องจักร

แล้วคนที่ใช้ชีวิตเหมือนตายแล้วเช่นนี้ จะมีโอกาสประสบความส�าเร็จหรือครับ... ย่อมเป็นไปไม่ได้แน่นอน

ตอนนี้หลายท่านอาจเหลือบมองตัวเลขแล้วสะดุ้ง (หวังว่าคงไม่มีท่านใดเขียนตัวเลขติดลบ!) ไม่ต้องตกใจครับ คุณเชื่อไหมว่า คนส่วนใหญ่ให้ตัวเลขความรักในงานต�า่กว่า 50 คะแนน…

งานที่เราแหกขี้ตาตื่นกันแต่เช้าเพื่อเข้างานให้ทันและท�าจนเย็นค�า่มืด งานที่เราให้เวลากับมันหนึ่งในสามหรือครึ่งหนึ่งของชีวิตนั่นแหละ คือสิ่งที่เราไม่ได้รักมันเลย เบื่อหน่ายบางคนถึงขั้นเกลียดด้วยซ�า้!!

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 51

ซึ่งหมายความว่า คนเหล่านี้จะไม่มีโอกาสประสบความส�าเร็จเลยงั้นหรือ?

: THE SUCCESS52

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 53

ผมขอตอบว่า “ใช่ครับ” ถ้าหากว่าคนคนนั้นยังคงก้มหน้าก้มตาท�างานด้วยความระทมหม่นหมองเหมือนเดิมไปเรื่อยๆ ต่อให้เขาเก่งชนิดมีดีกรีต่อท้ายสิบบรรทัด พูดได้ห้าภาษา ผ่านสถาบันอบรมชั้นน�ามาร้อยแห่ง ก็ไม่มีประโยชน์อะไรถ้าไม่มีใจรักในงานที่ท�า

ในทางกลับกัน ผมขอยืดอกตอบเสียงดังๆ เลยว่า... “ไม่ใช่ครับ” มนุษย์ทุกคนมีศักยภาพสูงส่งและไม่มีสิ่งใดมากีดกั้นความส�าเร็จได้ แม้จะยังต้องเผชิญกับงานเดิมที่ไม่ถนัด ไม่รัก ไม่ชอบ

เขาแค่เปลี่ยนวิธีคิดและ การจัดการเท่านั้นเอง

ไม่ยาก และ ไม่ง่าย แต่ถ้าทดลองท�าแล้ว ผมรับประกันว่าคุ้มกับความส�าเร็จที่รออยู่แน่นอน

ผมมักเปรียบวิธีการท�างานของคนเป็น 2 ประเภท คือพวกใช ้“ใจ” ท�างาน กับพวกใช ้“ปอด” ท�างาน

คนที่ใช้ “ใจ” ท�างาน มักใส่ความรัก ความเอาใจใส่ ความรอบคอบ ความขยันหมั่นเพียร และความคิดสร้างสรรค์ลงไปในงานด้วย ในขณะที่พวกใช ้“ปอด” มักจะกลัวไปสารพัด ไม่ว่าจะกลัวถูกนายด่า ถูกเพื่อนนินทา กลัวตกงาน กลัวเหนื่อย กลัวต้องรับผิดชอบ กลัวกลับบ้านช้า กลัวผลตอบแทนน้อย ฯลฯ พูดแบบเข้าใจง่ายก็คือพวก “ขี้ป๊อด” ตามศัพท์วัยรุ่นนั่นเอง คนกลุ่มนี้กัดฟันท�างานด้วยความจ�าเป็นบีบบังคับล้วนๆ

: THE SUCCESS54

ข้อแรก “ถ้าเปลี่ยนงานไม่ได้ ...ก็โปรดรักงานที่ท�าซะเลย”ประโยคก�าปั้นทุบดินทื่อๆ นี่แหละ ที่ฆ่าหรือ ส่งเสริมคนมาเยอะแล้ว บางคนเห็นประโยคนี้แล้วส่ายหัวทันที (ตามด้วยแอบบ่นเบาๆ “ถ้าท�าได้... ผมท�าไปนานแล้วครับพี่”) คนกลุ่มนี้ปฏิเสธก่อนจะลงมือท�า เป็นผู้ปิดล็อคประตูความส�าเร็จด้วยมือของเขาเอง ในขณะที่

บางคน “เปิดใจ” ให้กับการเปลี่ยนแปลง ยอมลงมือท�าก่อนตัดสินผลลัพธ์ และเชื่อเถอะครับว่า ผลลัพธ์ส�าหรับคนที่เปิดใจนั้น เปลี่ยนแปลงชีวิตได้อย่างหน้ามือเป็นหลังมือ

คาถารักงานข้อแรก คือหาว่า คุณม ี“จุดเด่น + ความชอบ” อะไรบ้าง แล้วลองแมทช์กับงานที่ท�าอยู่ตอนนี้ ว่ามีจุดใดของงานที่คุณสามารถแสดงศักยภาพได้อย่างเต็มที่ เช่น คุณเป็นเจ้าหน้าที่ธุรการที่ชอบพูดชอบคุยและมีทักษะสื่อสารเป็นยอด ก็เพิ่มการประสานงานด้วยการพูดคุยกับตัวบุคคลมากขึ้น นอกเหนือไปจากงานเอกสารที่คุณรับผิดชอบอยู่แล้ว

คาถาข้อที่สอง คือ “พัฒนาความชอบให้กลายเป็นรักสุดๆ + สร้างโปรเจกต์ที่รัก” ถ้าชอบพูดคุยสื่อสาร ก็เสนอแผนงานจัดรายการเสียงตามสายประชาสัมพันธ์เสียเลย ยิงปืนนัดเดียว ได้ทั้งพัฒนางานในหน้าที่ และได้ท�าในสิ่งที่ชอบอีกต่างหาก

ถ้าอยากประสบความส�าเร็จ ผมมีเคล็ดลับเพียง 3 ข้อเท่านั้นครับ

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 55

: THE SUCCESS56

ข้อต่อมา คือ “ก�าจัดจุดด้อย” พิจารณาตัวเองอย่างไม่อคติ คุณจะพบข้อเสียที่อาจเป็นสาเหตุท�าให้คุณท�างานอย่างไม่มีความสุข เช่น นิสัยใจร้อน ไม่รอบคอบ ท�าให้เพื่อนๆ ไม่ปลื้ม และงานผิดพลาดบ่อย อาจท�าให้คุณเบื่องาน จะเป็นไรไปถ้าเราจะปรับปรุงพฤติกรรมบางอย่างให้ดีขึ้น ลองนึกดูสิว่า ไอ้ข้อเสียเหล่านี้ท�าให้คุณพลาดโอกาสดีๆ ในชีวิตมากี่ครั้งแล้ว คุณคงไม่อยากให้มันพลาดไปตลอดชีวิตใช่ไหมครับ

และข้อสุดท้าย “พัฒนาตนเอง” ในองค์กรมักมีการสัมมนาและอบรมทักษะต่างๆ บ่อยครั้งโดยไม่มีค่าใช้จ่าย อย่าปล่อยให้โอกาสเหล่านี้หลุดลอยไป ยิ่งคุณมีความรู้ติดตัวไว้มากเท่าไหร่ โอกาสที่คุณจะใช้มันสร้างสีสันให้กับงานก็ยิ่งมีมากเท่านั้น ถ้าวันดีคืนดี คุณเซอร์ไพรส์เพื่อนๆ ด้วยการใช้โปรแกรมแต่งภาพตกแต่งเอกสารให้สวยงามและเข้าใจง่ายมากขึ้น หัวหน้าและเพื่อนร่วมงานของคุณคงร้องว้าวที่ไม่ต้องทนอ่านรายงานขาวด�าเต็มพรืดทั้งแผ่นเหมือนเคย

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 57

2. ถ้าท�าทุกอย่างแล้วยังไม่ดีขึ้น ก็หางานใหม่ที่เหมาะสมกับคุณ ใจจริงผมไม่อยากแนะน�าข้อนี้เลย เพราะคนเรามักสับสนระหว่างความเบื่อ กับความไม่ถูกจริต ถ้าคุณแค่เบื่อ แล้วตัดสินใจหางานใหม่ไปเรื่อยๆ โดยที่ยังไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไรกันแน่ ก็มีแนวโน้มว่าคุณจะล่องลอยเช่นนี้ไม่จบสิ้น เปลี่ยนงานเรื่อยหางานใหม่ตลอดชีวิตผมขอสงวนสิทธิ์แนวปฏิบัตินี้ไว้ส�าหรับผู้ที่พิจารณาตัวเองอย่างมีสติรอบคอบ มองเห็นความฝันของตัวเองอย่างชัดเจนเท่านั้น อย่าลืมว่าความก้าวหน้าไม่มีเวลารอคนโลเล ดังนั้น ถามใจตัวเองดีๆ แล้วตัดสินใจให้เด็ดขาดก่อนลงมือท�า

: THE SUCCESS58

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 59

ข้อสุดท้าย เป็นสุดยอดเคล็ดวิชาที่ถอนรากถอนโคนทุกปัญหา นั่นคือ 3. “การเลือกทางเดินให้ถูกต้องตั้งแต่ก้าวแรก” เพราะถ้าคุณเลือกถูกตั้งแต่เริ่มแล้ว จะไม่มีปัญหาเรื่องความเบื่อความเซ็งกับงานมาให้คุณวุ่นวายใจภายหลังเลย

ตัวผมเองชื่นชอบและใฝ่ฝันที่จะเป็น “นักธุรกิจ” มาตั้งแต่วัยรุ่น ซึ่งถือเป็นความโชคดีที่มองเห็นความฝันของตัวเองชัดเจนตั้งแต่อายุยังน้อย แต่สิ่งที่ท้าทายกว่านั้น คือการจดจ่อที่ความฝันของตัวเองตลอดเวลา เพราะในเส้นทางชีวิตมีหลายสิ่งที่พร้อมจะผลัก ดัน ดึง เบียด กระแซะ ให้คุณออกนอกเส้นทาง หรือก้าวไปถึงฝันได้ช้าขึ้น

เมื่อตอนที่ผมเรียนจบใหม่ๆ ก็คงเหมือนกับนักศึกษาไฟแรงทุกคนที่ต้องแบกรับความคาดหวังของครอบครัวว่าเราจะเติบโตเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ มีการงานดีๆ ท�า (และถ้ายิ่งเป็นงานมั่นคง สบาย รายได้ดีด้วย ก็ยิ่งดีใหญ่) ผมเริ่มออกสมัครงานอย่างมุ่งมั่น ทิ้งใบสมัครและความหวังไว้กับบริษัทต่างๆ ไม่ต�า่กว่า 50 แห่ง ส�าหรับคนอื่นอาจมองว่าผมเป็นเพียงเด็กหนุ่มที่อยากพิสูจน์ตัวเองว่าไม่ตกงาน แต่ในใจของผมรู้ดีที่สุดว่า การสมัครงานแต่ละแห่งนั้น ผมมีเป้าหมายอะไรอยู่ในใจ

จากนั้นไม่นาน บริษัทจิลเวลรี่ติดอันดับ 1 ใน 4 ของเมืองไทยที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ (Stock Exchange of Thailand : SET) ก็เรียกผมเข้ารับการสัมภาษณ์รอบสอง การสอบถามและพูดคุยอันยาวนานจบลงด้วยข่าวดี คือบริษัทตัดสินใจรับผมเข้าท�างาน ด้วยอัตราเงินเดือนหมื่นกว่าบาท ซึ่งนับว่ามากพอดูส�าหรับนักศึกษาจบใหม่ในสมัยนั้น

: THE SUCCESS60

ตอนนี้คุณคงมองข้ามช็อตไปแล้วว่า ผมกับครอบครัวไปเลี้ยงฉลองกันบันเทิงเริงใจ แน่นอนครับว่าผมก็มีภาพนั้นอยู่ในหัว แต่ทันทีที่บริษัทเสนอต�าแหน่ง พนักงานจัดซื้อต่างประเทศ (Oversea Purchaser) แทนต�าแหน่งฝ่ายขายต่างประเทศ (International Trader) ที่ผมตั้งใจสมัคร... สมองผมส่งเสียงอื้ออึงไปหมด ใจหนึ่งเห็นภาพรอยยิ้มพ่อแม่ เพื่อนฝูงทึ่ง เงินเดือน ความโก้หรู โอกาสดีๆ ที่ไม่รู้จะมีเข้ามาอีกหรือเปล่า ผมอยากตกลงแล้วแทบขอเซ็นสัญญาเริ่มงานซะวันนั้น

แต่อีกใจหนึ่งก็ตะโกนขึ้นมาว่า “แล้วความฝันของนายล่ะ นายอยากเป็นนักธุรกิจไม่ใช่เหรอ นักธุรกิจต้องรู้จักการขาย นายถึงได้สมัครต�าแหน่งฝ่ายขายยังไงล่ะ” ผมเข้าใจค�าว่ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกชัดเจนในวันนั้น ผมศรัทธาในความฝันของตัวเองเต็มเปี่ยม แต่ก็ไม่อยากท�าให้คนรอบข้างผิดหวัง

ผมต่อรองขอท�างานในต�าแหน่งฝ่ายขายต่างประเทศอีกครั้ง แต่ทางบริษัทแจ้งว่า ฝ่ายที่ผมต้องการมีพนักงานเต็มในตอนนี้ ยังไม่สามารถเพิ่มบุคลากรได้ ... จริงๆ คงไม่แปลกอะไรถ้าผมจะยินยอมรับต�าแหน่งพนักงานจัดซื้อไปก่อน แล้วค่อยขอเปลี่ยนโยกย้ายภายหลัง เหมือนจะเป็นทางออกที่ประนีประนอมที่สุด

เพียงแค่ผมรู้สึกว่า...มันไม่ซื่อสัตย์กับความฝัน ของ ตนเองและ ผมจะไม่ทรยศต่อสิ่งที่ผมรักอย่างเด็ดขาด

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 61

: THE SUCCESS62

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 63

ผมฝันจะมีธุรกิจส่วนตัว เป้าหมายอันดับแรกที่ผมต้องการ คือความสามารถในการขาย การท�างานในแผนกอื่นๆ อาจท�าให้ผมหลงทางและเสียเวลา ซึ่งไม่รู้จะนานกี่เดือนกี่ปี แม้ผมสามารถเปลี่ยนต�าแหน่งได้ถ้ามีโอกาส แต่ผมเกรงว่ามันจะเสียหายทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะบริษัทที่ต้องเสียเงินจ้างผมทุกเดือน โดยที่ผมไม่มีใจให้กับงาน มิหน�าซ�้ายังคิดเปลี่ยนงานอยู่ตลอดเวลา เหมือนรอวันที่จะหักหลังนายจ้างของเรา

ผมกล่าวอ�าลาแล้วเดินออกจากบริษัท รู้ดีว่าต้องเจอค�าบ่นเป็นกระบุงโกยของครอบครัว แต่ใจของผมเบาสบายอย่างประหลาด อย่างน้อยผมก็ซื่อสัตย์ต่อตัวเองและผู้อื่น โดยที่ไม่ได้ท�าให้ใครเดือดร้อน

ผมเดินหน้าหางานต่อ และในที่สุดก็ได้ท�างานในแผนกขายของบริษัท ไทยคาร์บอนแบล็ค จ�ากัด(มหาชน) ตามที่หวัง

ผมท�างานขายอยู่ 3 ปี เชื่อไหมว่าทุกวันที่ท�างาน ผมขอบคุณตัวเองที่มีความฝันอันชัดเจน และ ซื่อตรงกับมัน

เพราะทุกนาทีที่ผมได้เรียนรู้งานขาย ได้ศึกษากลยุทธ์การท�าธุรกิจ มันคือความสุขอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ทั้งๆ ที่งานขายนั้นหนัก เหนื่อย ความรับผิดชอบ และความกดดันสูง แต่ทุกก้าวที่เรียนรู้ คือ การเข้าใกล้เส้นชัยความฝันของผม

ถ้าคุณมีความฝันที่ชัดเจน และเลือกงานที่ส่งเสริมความฝันนั้น ผมบอกได้เลยว่า... คุณได้ใช้ชีวิตของตัวเองร้อยเปอร์เซ็นต์เต็ม ในขณะที่คนส่วนใหญ่ต้องแบ่งเวลาหนึ่งในสามหรือครึ่งหนึ่งของชีวิตให้กับงานที่เขาไม่ชอบ แต่ส�าหรับคุณ... ไม่มีการท�างาน มีแต่การใช้ชีวิตให้เต็มที่กับสิ่งที่รัก

ตอบตัวเองให้ ได้ว่าชอบชีวิตแบบไหม แล้วตัดสินใจลงมือลุย วันนี้เลยครับ

ความรักในงานที่ท�าเป็น สิ่งที่เกิดขึ้น

ระหว่าง คน กับ งานโดยไม่ตั้งใจ

บางคนอาจจะไม่ ได้รักสิ่งนั้นมาก่อนแต่เมื่อลงมือท�าไปแล้วเราเหมือนขาดมันไม่ ได้

: THE SUCCESS64

ชีวิตของคนย่อมรู้สึกมีค่ามากขึ้น

เมื่อเราลงมือท�าสิ่งใดสิ่งหนึ่ง

แล้วสิ่งนั้นสามารถสร้างประโยชน์

ให้กับคนมากมายทั้งคนที่รู้จัก และ ไม่รู้จัก

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 65

04Stay Hungry Stay Foolish

หากต้องการความส�าเร็จ จึง...ประสบความส�าเร็จ

เคยอันความจริง...เมื่อครั้งเรายังเป็นสเปิร์มตัวน้อย

หน้าตาคล้ายๆ ลูกอ๊อด วิ่งจากคุณพ่อไปหาคุณแม่

เชื่อหรือไม่ว่า...เราเคยวิ่งแข่งชนะพี่น้องสเปิร์มด้วยกันอีกมากกว่า 300,000,000 ตัว

ดังนั้น จงภูมิใจได้เลยในขณะที่เราอ่านบทความนี้ได้

นั่นหมายความว่า เราเคยเป็น “ผู้ชนะ” มาก่อน

: THE SUCCESS68

ไม่เคยหากหลายคนไม่เคยลองท�าอะไรสักอย่าง

สิ่งแรกที่จะเกิดขึ้น...หากคุณกลัวคุณจะรู้สึกประหม่า + ไม่กล้า + อยากหลบหนี

แต่หากคุณกล้า (ไม่กลัว)คุณจะตื่นเต้น + เสี่ยงดู + สนุกกับความรู้สึกนั้น

เหมือนการนั่งรถไฟเหาะตีลังกา

เราเลือกได้ว่าจะ “กล้า” หรือ “กลัว”

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 69

: THE SUCCESS70

“ใครอยากสมัครเป็นนักฟุตบอลโรงเรียน”

“ใครอยากแข่งขันตอบค�าถามระดับประเทศ”

“ใครอยากเป็นดรัมเมเยอร์”

“ใครอยากเป็นเชียร์ลีดเดอร์ของงานกีฬาโรงเรียน”

“ใครอยากเป็นตัวแทนประกวดร้องเพลงของโรงเรียน” ฯลฯ และอีกสารพัดกิจกรรม เวลาคุณครูกวาดสายตาไปทั่วห้องด้วยความคาดหวัง... มีใครเคยยืดอกยกมือขึ้นอย่างมั่นใจ บ้างไหมครับ

บางคนร้องเพลงเก่ง เวลาอยู่บ้านพ่อแม่ไม่ต้องเปิดวิทยุ ลูกจัดให้ได้ทุกเพลง บางคนชอบการแสดงออก อยากโซโลกีตาร์โชว์สาวใจจะขาด แต่เวลาที่โอกาสมาถึงเข้าจริงๆ กลับก้มหน้าไม่สบตาครู และถ้าใครเกิดทะลึ่งยกมือขึ้นมาละก็ เพื่อนๆ จะเหล่มองเหมือนเป็็นตัวประหลาด ท�าเอาคนยกมือต้องเปลี่ยนท่าทีขอไปเข้าห้องน�า้แทนก็มี

ผมเชื่อว่าสมัยเด็กๆ พวกเราคงเจอค�าถามเหล่านี้กันบ้าง

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 71

และบ่อยครั้งที่เรามักเจอคนเก่งที่บ่นว่าท�าข้อสอบไม่ค่อยได้ ไม่ได้เตรียมพร้อมข้อมูลพรีเซนต์งาน แต่ผลออกมาทีไรก็คว้าเกรด A หรือได้รับการโปรโมททุกครั้งไป ...ไม่ต้องไปมองคนอื่นไกล

ตัวคุณเองก็จัดอยู่ในกลุ่มนี้หรือเปล่าครับ???

อันที่จริงพฤติกรรมเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องแปลกในสังคมไทย เพราะคนไทยมักปลูกฝังเรื่องความอ่อนน้อมถ่อมตน อย่าอวดเก่งซึ่งเป็นคนละเรื่องกับการกล้าแสดงออก เพียงแต่เด็กมักแยกแยะไม่ได้ และผู้ใหญ่ก็ถูกสอนมาผิดๆ เช่นกัน ดังนั้นคนไทยจึงส่งต่อวัฒนธรรมขี้อาย กลัวความผิดพลาด กลัวโดนสมน�า้หน้าไปรุ่นสู่รุ่น ส่วนการกล้าแสดงความสามารถของตนต่อหน้าสาธารณชน กล้าเปิดเผยความต้องการที่แท้จริงให้คนอื่นรู้ จึงกลายเป็นเรื่องประเจิดประเจ้อน่าอายไปอย่างน่าเสียดาย

: THE SUCCESS72

ที่ผมบอกว่าน่าเสียดาย เพราะความไม่กล้า “อยาก” นี่ล่ะครับ เป็นจุดเริ่มต้นของความล้มเหลว และดับฝันคนเก่งมานักต่อนักแล้ว

สิ่งที่เราพร�่าบอกกับคนอื่น จะกลายเป็นสิ่งที่ก�าหนดโชคชะตาของเราเอง ถ้าคุณมักบอกคนรอบข้างว่า “ไม่แน่ใจว่าจะท�าได้ดีไหม, ฉันท�าไม่ได้, ฉันคงไม่ได้รับเลือกหรอก” แม้ในใจคุณจะกระหายอยากสิ่งนั้นจนแทบคลั่ง หรือเก่งสุดยอดในสิ่งนั้นก็ตาม แต่ในที่สุดคุณก็จะท�ามันไม่ได้ดีเท่าที่ควร

เชื่อหรือไม่ครับ

สุดยอด CEO อัจฉริยะที่เรียนไม่จบคนหนึ่งของโลกได้บอกเคล็ดลับความส�าเร็จที่ง่ายแต่ลึกซึ้งเอาไว้ว่า “จงอยู่อย่างกระหายอยาก” ผลการเรียน ความล้มเหลว หรือสิ่งที่คนอื่นมองตัวเขา ไม่มีผลต่อผู้ชายคนนี้ เพราะเขาเลือกที่จะเชื่อว่า... “ตัวเองท�าได้” และ “กระหายอยากเรียนรู้ กระหายอยากความส�าเร็จ” อยู่ตลอดเวลาเท่านั้น

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 73

เขาคือ สตีฟ จ๊อบส์ (Steve Jobs) ผู้ให้ก�าเนิดสุดยอดปรารถนาของอุปกรณ์สื่อสารที่สร้างปรากฏการณ์ไปทั่วโลก และ คุณก็ก�าลังถือมันอยู่ตอนนี้ นั่นเองครับ

: THE SUCCESS74

ประวัติชีวิตวัยเด็กของจ๊อบส์ เริ่มต้นไม่สวยเท่าไหร่นัก เพราะ เขาไม่เป็นที่ต้องการของพ่อแม่แท้ๆ อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ได้ให้ก�าเนิดเด็กชายคนหนึ่งที่สมบูรณ์แข็งแรง พร้อมประกาศหาครอบครัวบุญธรรมที่ยินดีสนับสนุนการศึกษาให้กับเด็กคนนี้ไปจนจบมหาวิทยาลัย

แม้จ๊อบส์จะเรียนเก่งจนสามารถเข้าศึกษาต่อใน Reed College แต่ปมที่เขาโดนทอดทิ้งจากพ่อแม่แท้ๆ ก็สร้างความขัดแย้งในใจอย่างมหาศาลส�าหรับวัยหัวเลี้ยวหัวต่อ เหตุใดคนที่ไม่ต้องการเขาจึงอยากให้เขาได้รับปริญญา? แรงต่อต้านภายในท�าให้จ๊อบส์กลายเป็นกบฏต่อระบบ เขาเลือกเรียนเพียงบางวิชา และสุดท้ายก็ออกจากมหาวิทยาลัยกลางคัน

เด็กที่โดนทิ้ง คนไม่เอาถ่าน เรียนไม่จบ คนล้มเหลว...ประโยคเหล่านี้สะท้อนอยู่เบื้องหลังแววตาของคนรอบข้างขณะมองมายังจ๊อบส์ เพียงแต่... จ๊อบส์ไม่ได้มองตัวเองเช่นนั้น แม้ว่าเขาไม่ได้อยู่กับพ่อแม่แท้ๆ ไม่ได้รับปริญญา แต่เขายังมีศักยภาพและความฝันที่เต็มเปี่ยม และที่ส�าคัญ...เขาเชื่อว่าเขาท�าสิ่งที่ฝันให้เป็นจริงได้

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 75

สตีฟ จ๊อบส์ เริ่มต้นพัฒนา Apple Computer หรือ Macintosh Computer เมื่อเขาอายุได้ 20 ปี เขาขยายกิจการไปเรื่อยๆ กระทั่งเขาสามารถน�าบริษัทเข้าไปในตลาดหลักทรัพย์

สิบปีต่อมา จ๊อบส์ถูกไล่ออกจากบริษัทที่เขาสร้างขึ้น แม้จะเสียใจอย่างที่สุด แต่จ๊อบส์ก็รวบรวมพลังเปิดบริษัทใหม่เพื่อผลิตการ์ตูนแอนิเมชั่น สร้างผลงานที่ทั้งเด็กและผู้ใหญ่หลงรักไปทั่วโลก อย่าง Toy Story หรือ Finding Nemo จากนั้นเขาก็มีโอกาสซื้อหุ้นของ Apple Computer กลับคืนมา และเข้าไปเป็น CEO ของบริษัทอีกครั้ง สานต่อสิ่งที่เขารักด้วยการสร้างสรรค์สินค้าใหม่ นาทีนั้น เด็กวัยรุ่นคนใดไม่มี iPod นวัตกรรมที่ผสานระหว่างเทคโนโลยี และความบันเทิง ภายใต้ภาพลักษณ์ที่ดึงดูด นับว่าเชยแหลก

มหาวิทยาลันสแตนฟอร์ด เชิญจ๊อบส์ไปกล่าวสุนทรพจน์ในวันจบการศึกษาในฐานะศิษย์เก่า แม้ว่าเขาจะเรียนไม่จบก็ตาม ค�ากล่าวยี่สิบนาทีของจ๊อบส์ท�าให้หอประชุมใหญ่เงียบกริบ ทุกคนรอฟังเคล็ดลับความส�าเร็จของวีรบุรุษว่าจะยิ่งใหญ่สุดยอดเพียงใด หากแต่ประโยคสุดท้ายที่เขากล่าวย�้ากับเด็กรุ่นใหม่ทุกคนมีเพียงแค่ว่า...

: THE SUCCESS76

“Stay Hungry Stay Foolish จงอยู่อย่างหิวกระหาย จงอยู่อย่างเป็นคนโง่”

หรือ “จงอยาก แล้วก็สนองความอยากนั้น”

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 77

ความส�าเร็จของจ๊อบส์มาจากตรรกะพื้นฐานที่ง่ายที่สุด พูดง่ายๆ ว่า...

เมื่อคุณยังหิวอยู่คุณก็จะ...ไม่หยุดดิ้นรนหาอาหาร

และ เมื่อคุณยังรู้สึกว่า...ตนเองโง่

คุณต้องเติมสิ่งฉลาดเข้าไปในสมองตลอดเวลา

: THE SUCCESS78

ย้อนกลับมาดูตัวเราเองสิครับ ตอนนี้เราอายุมากกว่าจ๊อบส์ในตอนที่เขาเริ่มต้นกิจการตั้งเท่าไหร่ มีประสบการณ์ พื้นฐานสนับสนุน และเงินมากกว่าจ๊อบส์ในตอนนั้นมากมาย แต่ เหตุใดเรายังอยู่ที่เดิม กับความส�าเร็จที่ยังเป็นเพียงความฝัน ...

แสดงความต้องการที่แท้จริงของคุณออกมาเถอะครับ อย่างน้อยที่สุด คุณต้องกล้ายอมรับกับตัวเองก่อนว่า “คุณมีความฝัน และคุณอยากประสบความส�าเร็จ” อย่าสะกดจิตตัวเองด้วยค�าว่า... “ช่างมันเถอะ...มันเป็นแค่ความฝัน ที่จริงเราไม่ได้อยากไปถึงจุดนั้นหรอก”

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 79

คนส่วนใหญ่มักพูดว่า... เขาไม่อยากได้ หรือ

เขาไม่อยากเป็น นั่นเป็นเพราะเขาไม่ต้องการมันจริงๆ หรือว่า เพราะเขาท�าไม่ได้กันแน่ ถ้าคุณพร�่าบอกว่าไม่อยากได้รับการโปรโมทงานใหม่ แต่ถ้าพรุ่งนี้ผู้อ�านวยการบอกว่าพร้อม

จะเลื่อนต�าแหน่งให้คุณ แล้วคุณจะปฏิเสธหรือไม่?และ ถ้าคุณพร�่าบอกว่าไม่อยากได้เงิน สมมุติวันหนึ่งเกิดถูกลอตเตอรี่รางวัลใหญ่ หรือได้เงินโบนัสมาก้อนหนึ่ง คุณก็ควรปฏิเสธทันที แล้วน�าเงินนั้นไปบริจาคเสีย เพราะคุณไม่ต้องการมัน…อย่างนั้นใช่ไหมครับ

: THE SUCCESS80

ตั้งใจพิจารณาอีกครั้งนะครับ การพอใจในสิ่งที่เป็นอยู่ กับการ “ยอมแพ้” เพราะท�าไม่ได้ หรือไม่ได้ท�า ต่างกันโดยสิ้นเชิง... สองคนนี้อาจอยู่ต�าแหน่งเดียวกัน เงินเดือนเท่ากัน แต่คนที่พอใจกับสิ่งที่เป็นอยู่ คือ คนที่มีอยู่อย่างมีเป้าหมายยินดีเดินทีละก้าวเพื่อไปสู่เป้าหมายนั้น

แม้ว่าตอนนี้เขาจะมีต�าแหน่งเล็กๆ เงินเดือนน้อยๆ ก็ตาม แต่คนที่ยอมแพ้ คือ คนที่ยอมทนอยู่กับต�าแหน่งเล็กๆ เงินเดือนน้อยๆ ตลอดไป เพราะเขาไม่สู้เพื่อตัวเอง และไม่คิดว่าตัวเองสมควรได้รับอะไรที่ดีและมากกว่านั้น

และถ้าเส้นทางความส�าเร็จของคุณ ต้องเปิดเผย ต้องลงมือ ต้องอาสาเข้าไปท�าบางสิ่งบางอย่างละก็ “อย่ากลัวที่จะท�า” มีเทคนิควิธีมากมายที่คุณสามารถแสดงความต้องการได้โดยไม่ท�าให้กลายเป็นคนอวดเก่ง ก้าวร้าว หรือโชว์พาวจนน่าหมั่นไส้ ความเก่งและความอ่อนน้อมไปด้วยกันได้

เพียงแค่ “คุณมั่นใจในศักยภาพของตัวเอง โดยไม่ไปทับถม ดูถูก และ เบียดเบียนผู้อื่น” เมื่อคุณให้เกียรติผู้อื่น คุณย่อมสมควรได้รับเกียรตินั้นเช่นเดียวกัน

นอกจากไม่กลัวแล้ว ต้อง “ไม่อาย” อีกด้วย พอกันทีกับค�าว่า “อย่าเลย ถ้าท�าไม่ได้หรือเจ๊งขึ้นมา อายคนอื่นเขา!” คนอื่นที่ว่าเป็นใครครับ ค�าพูดหรือความคิดเห็นของเขามีความส�าคัญยิ่งกว่าตัวคุณเองอีกหรือ เวลาที่คุณล้มเหลว คนอื่น ไม่มาล้มเป็นเพื่อนคุณด้วย เวลาที่คุณไม่มีเงิน คนอื่นไม่มายัดเยียดเงินให้ฟรีๆ ดังนั้นอย่าปล่อยให้เสียงคนรอบข้างดังกว่าความต้องการในใจคุณ

จ�าไว้ว่า เส้นทางแห่งความส�าเร็จไม่มีซอยตัน ไม่ว่าคุณจะเลี้ยวผิดกี่ครั้ง คุณหาทางไปต่อได้เสมอ!!!

เส้นทางแห่งความส�าเร็จไม่มีซอยตัน ไม่ว่าคุณจะเลี้ยวผิดกี่ครั้ง คุณหาทางไปต่อได้เสมอ

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 81

: THE SUCCESS82

ตอนที่ผมเริ่มต้นธุรกิจเก้าอี้นวดในวัย 26 ปี ผมไม่มีอะไรเลย นอกจากเงินลงทุนก้อนแรก 300,000 บาท ที่ยืมมาจากพ่อตา ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจ ในปี 2541

บริษัทของผมมีพนักงานเพียง 3 คนเท่านั้น น้อยกว่าลูกจ้างร้านกาแฟเล็กๆหรือ ร้านก๋วยเตี๋ยวเจ้าดังเสียอีก ทุกคนรอบข้างไม่มีใครสนับสนุน คุณพ่อคุณแม่ของผมเตือนว่ามันเป็นการลงทุนที ่“เหนื่อยมาก” และโน้มเอียงไปทาง “เจ๊ง”

แต่ขอโทษทีครับ...ผมมี “ความฝัน” และผม “อยากให้มันส�าเร็จ” เหลือเกิน

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 83

ผมลุยงานอย่างสุดตัว ไม่ใช่แค่ความพยายาม แต่มันคือการมอบกายถวายวิญญาณ และพลังทั้งหมด ทุ่มไปกับงาน

ต่อให้คนทั้งโลกไม่เชื่อว่าผมท�าได้ ผมไม่สนใจ ผมขอแค่คนเดียว... คนเดียวเท่านั้นที่เชื่อจากก้นบึ้งหัวใจว่าผมท�าได้

“นั่นคือตัวผมเอง”

เชื่อเถอะครับว่า ไม่ว่าคุณฝันอะไร มันสามารถเป็นจริงได้ เพียงแต่คุณอย่าปล่อยให้มันล่องลอยอยู่เฉยๆ คุณต้อง “อยาก” ให้มันส�าเร็จจริงๆ แล้วความอยากนั้นจะช่วยปั้นให้ความฝันเป็นรูปเป็นร่าง และออกมาโลดแล่นในชีวิตจริง

เชื่อผมเถอะว่า “อยากส�าเร็จ แล้วจะส�าเร็จ” จริงแท้แน่นอนครับ

ผิดหวัง หรือ สมหวังสมหวัง หรือ ผิดหวังผิดหวัง หรือ สมหวังสมหวัง หรือ ผิดหวังผิดหวัง หรือ สมหวัง

ทั้งหมดเกิดจากความสามารถของเราเอง

: THE SUCCESS84

คนที่ต้องการ“ความสมหวัง”

จะต้องใช ้ความพยายาม + เรียนรู้ + ศึกษา + ฝึกฝน

...มากกว่าคนอื่นเพื่อจะได้ก้าวไปข้างหน้า

ได้อย่างมั่นคงเพราะหนทางยังอีกไกล

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 85

05Being as your Role Model

จินตนาการถึงตัวคุณ ในอนาคต

พยายาม“ความฝัน” จะเป็นจริงได้

ต้องอาศัย “ความพยายาม”

หากเราอยากให้ความฝันของเราเป็นจริง สิ่งที่ต้องท�า คือ เราต้องวิ่งเร็วกว่าคนอื่น

+ เราต้องขยันกว่าคนอื่น + เราต้องฝึกมากกว่าคนอื่น

นักกีฬาที่ได้เหรียญทองทุกคนมีร่างกายและอวัยวะเหมือนกับคนที่พ่ายแพ้

ต่างกันตรงที่...เขาฝึกซ้อมมากกว่าคนอื่น

: THE SUCCESS88

หยุดหยุดคิดก็ได้ + หยุดท�าก็ได้

แต่เมื่อไรถ้าคุณ “หยุดคิด + หยุดท�า”ความฝันของเราก็จะ...หยุดเหมือนกัน

เมื่อกล้าที่จะเดินมาแล้วแล้วเราจะหยุดมันท�าไม

โลกยังไม่เคยหยุดหมุนมาหลายล้านปีแล้วเราเป็นแค่ส่วนน้อยๆ ส่วนหนึ่งของโลกใบนี้

จงก้าวเดินไปพร้อมๆ กับโลกสิ !!!

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 89

: THE SUCCESS90

เรย์ คร็อก (Ray Kroc) ชายวัย 52 ปี พนักงานขายเครื่อง Milk Shake ของบริษัทแห่งหนึ่ง เริ่มต้นวันท�างานด้วยกิจวัตรเหมือนอย่างเคย คือ การตรวจสอบรายการสั่งซื้อจากลูกค้า และวางแผนการขายประจ�าวัน ... เขาปฏิบัติเช่นนี้มาหลายปีแล้ว และดูเหมือนว่า...มันน่าจะด�าเนินต่อไปเรื่อยๆ

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 91

แต่วันนี้มีสิ่งที่สร้างความแปลกใจให้กับเขา นั่นคือ รายการสั่งซื้อเครื่อง Milk Shake จากร้านขายแฮมเบอร์เกอร์แห่งหนึ่ง ที่สั่งซื้อจ�านวน 7-8 เครื่อง (ค่อนข้างเยอะ)ซึ่งโดยปกติแล้วร้านอาหารจะสั่งซื้อไม่เกิน 2 เครื่อง ก็เหลือเฟือเพียงพอจะให้บริการลูกค้าได้ตลอดวัน

เรย์ คร็อก ทนเก็บความสงสัยเอาไว้ไม่ไหว เขาตัดสินใจเดินทางไปดูร้านแฮมเบอร์เกอร์แห่งนั้นด้วยตาของตัวเอง สิ่งที่เขาเห็นคือคนมากมายก�าลังยืนต่อคิวซื้อสินค้า เครื่องปั่นเครื่องดื่มท�างานไม่ได้หยุดพัก เขาก้าวเข้าไปต่อคิวด้วยความรู้สึกตื่นตาตื่นใจ แต่ยังไม่ทันส�ารวจอะไรให้ทั่ว ก็ถึงคิวสั่งอาหาร... แฮมเบอร์เกอร์หนานุ่มรสชาติอร่อยมาก มิหน�าซ�้ายังรอคิวไม่นาน เรย์ คร็อก เข้าใจทันทีว่า...อะไรเป็นสาเหตุที่ท�าให้ร้านแฮมเบอร์เกอร์ร้านนี้สั่งเครื่อง Milk Shake เป็นสี่เท่าของที่อื่น เพราะปริมาณลูกค้าที่มหาศาล และทวีจ�านวนมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นเอง

: THE SUCCESS92

วินาทีนั้นเอง เรย์ คร็อก เห็นภาพ “ธุรกิจในอนาคต” ของเขาทันที ยิ่งศึกษา เขายิ่งพบว่ามันเป็นกิจการที่ดีจริงๆ จินตนาการของเขาแจ่มชัดมาก เขาไม่เพียงเห็นลูกค้าที่อยู่ตรงหน้าเท่านั้น แต่เขาเห็นภาพลูกค้าเมืองอื่น ประเทศอื่น ภาพกิจการขยายไปทั่วโลก และในที่สุดเขาก็ตกลง “อนุมัติ” ภาพจินตนาการนั้น

เรย์ คร็อก ตัดสินใจซื้อกิจการร้านแฮมเบอร์เกอร์ต่อจากสองพี่น้อง “McDonald”คงไม่ต้องบอกนะครับว่า จินตนาการของเรย์ คร็อก แม่นย�าราวกับจับวางเพียงใด เวลาผ่านไปไม่กี่สิบปี จินตนาการของ เรย์ คร็อกเกิดขึ้นจริงทุกอย่าง “McDonald’s” เติบโตและขยาย สาขากว่า 30,000 แห่งครอบคลุมไปทั่วโลก ให้บริการลูกค้า วันละกว่า 50 ล้านราย ปัจจุบันเป็นบริษัทที่ท�าธุรกิจเครือร้านอาหารจานด่วนที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 93

: THE SUCCESS94

สิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้น

ถ้าวันนั้น เรย์ คร็อก ปล่อยให้

ค�าสั่งซื้อเครื่อง Milk Shake

เป็นเพียงเอกสารการท�างานที่ซ�า้ซากแผ่นหนึ่ง

(ลองถามตัวเองสักแวบ...

ถ้าคุณเป็นเรย์ คร็อก คุณจะเก็บเอกสารใส่แฟ้ม

หรือเดินทางไปหาค�าตอบครับ)

ในวันนี้พวกเราอาจไม่รู้จัก

และ ไม่ได้ลิ้มรสชาติแมคเบอร์เกอร์

ถ้าเรย์ คร็อก ไม่เกิดจินตนาการที่สว่างไสวเด่นชัดเช่นนี้

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 95

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ยกย่อง อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์

ว่าเป็นอัจฉริยะตลอดกาลคนหนึ่งของโลก

ก็โปรดเชื่อค�ากล่าวของเขาที่ว่า

“จินตนาการส�าคัญกว่าความรู้” เถอะครับ

การทดลองวิทยาศาสตร์ชิ้นหนึ่งที่ยืนยันเรื่องนี้ได้ดีก็คือ การแบ่งกลุ่มนักกีฬาเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรกฝึกซ้อมตามตารางปกติ

กลุ่มที่สองไม่ฝึกซ้อม และ กลุ่มที่สามฝึกซ้อมจากจินตนาการ

ภายใต้ระยะเวลาและเงื่อนไขอื่นๆ เหมือนกันหมด ผลปรากฏว่า กลุ่มแรกฝีมือคงที่ กลุ่มที่สองฝีมือด้อยลง

และกลุ่มที่สามฝีมือการเล่นไม่แตกต่างจากกลุ่มแรกเลย

ทราบไหมครับว่า

สิ่งประดิษฐ์อัศจรรย์ต่างๆ ที่ถือก�าเนิดขึ้นมาบนโลก

ไม่ว่าจะเป็นเครื่องบินของสองพี่น้องตระกูลไรท์

หลอดไฟของ โทมัส เอดิสัน หรือแม้แต่แอปเปิลคอมพิวเตอร์

โทรศัพท์มือถือไอโฟนโดยสตีฟ จ๊อบส์ ล้วนแต่มี

ภาพที่ชัดเจนอยู่ในจินตนาการ ของผู้คิดค้น

ก่อนที่มันจะเกิดเป็นรูปร่างจริงทั้งสิ้น

: THE SUCCESS96

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 97

สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ เพราะ สมองของเราแยกไม่ออกระหว่างเรื่องจริง กับ เรื่องในจินตนาการ ยิ่งเราเห็นภาพได้เด่นชัด ลึกซึ้งไปจนถึงรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ได้มากเท่าไหร่ สมองยิ่งเชื่อว่าสิ่งนั้นคือความจริงมากเท่านั้น และจะดึงดูดให้เกิดผลส�าเร็จตามจินตนาการในท้ายที่สุด ซึ่งเป็นหลักการเดียวกับทฤษฎ ี“ขอ + เชื่อ + รับ” ของ “The Secret” นั่นเอง

และนี่คือสุดยอดเคล็ดวิชาของความส�าเร็จ ถ้าคุณบรรล ุ“จินตนาการ” ได้ถึงขั้นเห็นทุกอณู และจับต้องได้ถึงสิ่งที่ต้องการอยู่ตลอดเวลา ผมบอกได้เลยว่า ปัจจัยอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น ความรู้ โอกาส เส้นสาย เงินทอง จะไม่ใช่สิ่งส�าคัญที่คุณต้องวิตกกังวลอีกต่อไป

หากแต่การจินตนาการให้ได้ผล ต้องผ่านการฝึกฝนและบังคับใจอย่างแรงกล้า ให้จดจ่ออยู่กับภาพความส�าเร็จ โดยไม่มีความคิดลบเข้ามาแทรกแซงเลย และต้องเพียรฝึกให้ภาพนั้นชัดขึ้นเรื่อยๆ

จากที่เคยเห็นแต่ภาพ ต้องได้กลิ่น ต้องได้ยินเสียง ต้องสัมผัสรู้อ่อนแข็งได้ ภาพที่เคยเป็นสายใยบางๆ ในสมอง จะประสานกันจนหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งมันหล่อหลอมให้คุณกลายเป็น “คนเช่นนั้น + มีสิ่งนั้น” ในโลกของความจริง

ด้วยความที่มันต้องฝึกและอาศัยสติขั้นสูงนี่ล่ะครับ หลายท่านเลยถอดใจกลางทาง บางคนเห็นภาพตัวเองหุ่นฟิตเฟิร์มมีซิคแพ็คอยู่สามสี่วัน วันที่ห้าดันเห็นภาพขนมเค้กพิซซ่าเข้ามาแทนที่ซะอย่างนั้น (ไม่ได้ตั้งใจเล้ยย) ผมเลยต้องงัดเคล็ดวิชามาฝากกันอีกกระบวนท่าหนึ่ง เป็นทางลัดของการ “จินตนาการ” แบบไม่ต้องเริ่มต้นจากศูนย์ แต่คุณจะเห็นภาพความส�าเร็จเด้งขึ้นมาทั้งยามหลับยามตื่นเลยทีเดียว

: THE SUCCESS98

สุดยอดวิชาลัด ก็คือ การม ี“บุคคลต้นแบบ” หรือ “Role Model”

นั่นเองครับ

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 99

: THE SUCCESS100

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 101

เวลามีคนถามผมเกี่ยวกับเคล็ดลับในการท�าธุรกิจ โดยเฉพาะการฮึดสู้ให้ผ่านช่วงวิกฤตเศรษฐกิจมาได้ ผมมักเล่าถึงตัวละครในดวงใจ “เยี่ยหยงเทียน” เป็นชื่อของพระเอกละครทีวีฮ่องกงที่ผมชื่นชอบมากเรื่องหนึ่งเมื่อสิบกว่าปีก่อน คนส่วนใหญ่จะอมยิ้มให้กับค�าตอบของผม เพราะนึกว่าผมเล่นมุก แต่ไม่ว่าถามกี่ครั้ง ผมก็ยังยินดีจะเล่าถึงบทบาทของเยี่ยหยงเทียน ยิ่งเล่าก็ยิ่งอินเสียด้วย ... ไม่มีใครเคยเชื่อว่า ละครหนึ่งเรื่อง กับพระเอกหนึ่งคน จะอยู่เบื้องหลังความส�าเร็จของธุรกิจที่มีเงินหมุนเวียนนับร้อยล้านบาท

คนส่วนใหญ่คิดว่า การท�าธุรกิจ คือการคร�่าเคร่งอยู่กับตัวเลข คอมพิวเตอร์ และ ข่าวเศรษฐกิจ

ส่วนผม คือการนั่งรับประทานอาหารเย็นพร้อมกับดูซีรีส์ละครฮ่องกงของ TVB ซึ่งเป็นเรื่องราวของผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง ที่มีชื่อในละครว่า“เยี่ยหยงเทียน” (แสดงโดย หลอเจียเหลียง) เขามีความฝันอยากเป็นนักธุรกิจ ต้องฟันฝ่าอุปสรรคมากมาย แต่เขาไม่เคยท้อถอย กลับใช้ความมานะอุตสาหะ และสติปัญญา ต่อสู้จนประสบความส�าเร็จ...

คงไม่ต้องบอกใช่ไหมครับ ว่าละครเรื่องนี้โดนใจผมในช่วงที่ก�าลังก่อร่างสร้างตัวมากแค่ไหน และพระเอกคนนี้ ก็คือ ภาพในจินตนาการที่ผมอยากให้ตัวเองเป็นนั่นเอง

เยี่ยหยงเทียน คือ บุคคลต้นแบบ หรือ Role Model ของผม บางคนอาจเรียกว่า ฮีโร่ (Hero) แต่ไม่ว่าเรียกอะไรก็ตาม เขาคือคนที่สร้างแรงบันดาลใจ และผลักดันให้ธุรกิจของผมเดินไปข้างหน้า

: THE SUCCESS102

การนับถือศรัทธาที่ความคิด + ตัวตน + อุปนิสัย และ พฤติกรรมสู่ความส�าเร็จของคนผู้นั้น

ท�าให ้เราสามารถน�าท่านมาเป็นแบบอย่าง และ ก้าวไปสู่ความส�าเร็จได้

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 103

ด้วยความที่เขามีพื้นฐานเหมือนผม คือเป็นคนธรรมดาที่ไม่ได้ร�่ารวยหรือเป็นลูกหลานนักธุรกิจใหญ่ เขามีความฝันเดียวกับผม อีกทั้งยึดถือคุณธรรมความดีในการประกอบอาชีพ เขาท�าให้ผมศรัทธาในความอุตสาหะและสู้ไม่ถอย ดังนั้นผมจึงอยาก “เป็นเหมือนเขา” คือทั้งเก่งทั้งเท่ เยี่ยหยงเทียนคือภาพจินตนาการที่แจ่มชัดยิ่งกว่าเปิดสวิตช์ เพราะผมเห็นเขาเดิน ยิ้ม พูด กิริยาท่าทาง วิธีคิด วิธีแก้ปัญหา อุปนิสัยต่างๆ โลดแล่นอยู่บนจอทีวีทุกเมื่อเชื่อวัน เรียกว่าบทบาทของเยี่ยหยงเทียนฝังเข้าไปในจิตส�านึกของผมทั้งยามหลับยามตื่นเลยทีเดียว

และผมเชื่อว่า ทุกคนล้วนม ี“Role Model” อยู่ในใจทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นดารา นักร้อง นักธุรกิจ นักกีฬา หรือแม้แต่คนใกล้ตัวที่เรานับถือศรัทธาอย่างคุณพ่อ คุณแม่ ญาติพี่น้อง เพียงแต่เราไม่รู้ว่า... คนต้นแบบเหล่านี้สามารถผลักดันให้เราประสบความส�าเร็จได้ ด้วยการ “ท�าอย่างที่เขาท�า” นั่นเอง

ผมขออธิบายเพิ่มเติมว่า Role Model ไม่ได้หมายถึงการลอกเลียนแบบ หรือการคลั่งไคล้แบบไม่ลืมหูลืมตา หากแต่คือการนับถือศรัทธาที่ความคิด ตัวตน อุปนิสัย และพฤติกรรมสู่ความส�าเร็จของคนผู้นั้น จนสามารถน�ามาเป็นแบบอย่าง และก้าวไปสู่ความส�าเร็จได้ เสมือนเป็นการเติมเชื้อไฟให้เราพัฒนาไปยิ่งกว่าเดิม มีแนวทางให้เราก้าวเดินตามโดยไม่หลงทาง

ตัวผมเองมี Role Model หลายคน แต่ละคนก็เก่งไปคนละอย่าง ไม่ว่าจะเป็น Tom Cruise, Jim Carrey,หลิวเต๋อหัว, เหลียงเฉาเหว่ย, Eric Cantona, อ�าพล ล�าพูน, ธนินท์ เจียรวนนท์, โชค บูลกุล, ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา, หลอเจียเหลียง (เยี่ยหยงเทียน), ท่านเหล่านี้ล้วนเป็น แรงบันดาลใจให้กับผม และผมได้เก็บเกี่ยวเทคนิควิธีด�าเนินชีวิต การประกอบธุรกิจ และการแก้ปัญหา ของท่านเหล่านี้ มาปรับใช้ในชีวิตของผมเสมอ

: THE SUCCESS104

และอย่าลืมมองบุคคลใกล้ตัว ผมขออนุญาตยกตัวอย่าง “Role Model” ของ ดร.นิศรา การุณอุทัยศิริ หรือ ดร.ต่าย หัวหน้าห้องปฏิบัติการไมโครอะเรย์แบบครบวงจร ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) เธอเป็นนักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ที่มีผลงานระดับประเทศการันตีจ�านวนมากมาย หากแต่คนต้นแบบของเธอไม่ใช่บุคคลมีชื่อเสียงแต่อย่างใด กลับเป็น “พี่สาว” แท้ๆ ของเธอเอง (พญ.กัญญา การุณอุทัยศิริ) ทั้งๆ ที่พี่สาวมีอุปนิสัยเรียบร้อย พูดน้อย เป็นสาวหวานและขี้อาย ตรงข้ามกับเธอซึ่งแก่นกล้ามาตั้งแต่เด็ก แต่เธอนับถือชื่นชมนิสัยและการวางตัวของพี่สาว ที่ตั้งใจเรียนหนังสือ รับผิดชอบ ไม่แข่งกับใคร แต่แข่งกับตัวเอง เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เป็นที่รักของทุกคน ความเก่งและความดีของพี่สาว เป็นตัวอย่างและแรงจูงใจให้เธอตั้งใจเรียน อยากเป็นคนเก่งและดีในแบบของตัวเอง

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 105

แม้ Role Model จะมีคุณประโยชน์มหาศาล แต่ต้องใช้ให้ถูกทางด้วย นั่นคือ มุ่งที ่“วิธีการ” ของคนต้นแบบมากกว่ารูปลักษณ์ภายนอก และพึงระลึกเสมอว่า ไม่มีวีรบุรุษคนใดสมบูรณ์แบบร้อยเปอร์เซ็นต์ ดังนั้นคนฉลาดย่อมใช้สติปัญญาในการเรียนรู้ข้อดีจากคนต้นแบบ ไปพร้อมๆ กับการหาจุดยืนและเอกลักษณ์ของตนเอง เพราะไม่แน่ว่าในอนาคต คุณเองนั่นแหละที่จะเป็น “Role Model” ให้กับใครสักคนหนึ่งก็เป็นได้

มันไม่ง่าย...ใช่ครับ เพราะถ้าง่าย คงไม่มีคนยากจนหรือ คนล้มเหลวในโลกใบนี้ แต่มันไม่ยากเกินความสามารถของคุณแน่นอน เพราะมนุษย์คนอื่นที่เหมือนคุณเปี๊ยบนับแสนนับล้านคนก็ท�าได้มาแล้ว จะช้าจะเร็วก็อยู่ที่ว่าคุณเริ่มลงมือตอนไหน ถ้าคุณมั่นใจว่าชีวิตเป็นอมตะก็ไม่ต้องรีบครับ แต่ถ้าไม่รู้อนาคต ผมแนะน�าว่าอย่ารออีกต่อไป

ไม่ว่าคุณอยากเป็นอะไร จินตนาการถึงมันให้เต็มที่ ให้ชัดที่สุดเท่าที่จะท�าได้ แล้วพลังของจินตนาการจะขับเคลื่อนให้คุณก้าวไปข้างหน้าครับ

ชีวิตไม่ ได้หมดไปกับ กาลเวลาที่ผ่านไป

แต่ชีวิตคือ

การใช้เวลาที่มีอยู่...ท�าสิ่งที่มีค่าที่สุด

เพื่อตนเอง และ ครอบครัวโดยไม่ท�าร้ายคนอื่น

: THE SUCCESS106

คนบางคนยิ่งแก่...ยิ่งมีพลัง

คนบางคนยิ่งแก่...ยิ่งเหี่ยวเฉา

คนบางคนยิ่งแก่...ยิ่งรู้จักการให้

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 107

06Find your door !!! ไฟปลายอุโมงค์

มืดเราดูเหมือนจะท�าอะไรไม่ได้เลย

หากเราอยู่ในที่มืด ไม่ว่าจะเป็นในป่าเขา หรือแม้แต่ในห้องโล่งๆ ที่มืดสนิท

เราไม่กล้าแม้แต่จะก้าวเดินไปข้างหน้าเพราะว่าเราไม่รู้ว่า...เราจะเดินไปชนอะไรเข้า

เหมือนกับ ไม่มีอะไรบอกทางให้เราเลยรอบๆ ตัวดูเหมือนจะ “มืดมน” ไปหมดทุกทาง

: THE SUCCESS110

สว่างแต่ถ้าเรามี “แสงสว่าง” เพียงเล็กน้อย

เหมือนกับเห็นแสงไฟของเทียนเล่มเล็กๆถึงแม้จะอยู่ไกลแค่ไหน

เราก็ยังมีจุดหมายที่ท�าให้ขาเราก้าวออกไป

ยิ่งเดินเข้าไปใกล้แสงสว่างนั้นเท่าไรภาพเหล่านั้นก็ดูจะชัดเจนยิ่งขึ้น

ดังนั้น เราเดินไปตามแสงสว่างกันเถอะ

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 111

: THE SUCCESS112

ลองจินตนาการว่าคุณตื่นขึ้นมาท่ามกลางความมืดมิด ในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย ไม่มีใครสักคนอยู่เคียงข้าง ทั้งเหน็บหนาว ทั้งเงียบสงัด...หากคุณต้องมะงุมมะงาหราเอาชีวิตรอด คุณจะเดินซมซานไปทางไหน ระหว่างคล�าไปในความมืด กับเดินไปตามแสงไฟที่เห็นอยู่ลิบๆ

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 113

ไม่มีใครรู้ว่าปลายทางทั้งสองมีอะไรรออยู่หรือทางที่ถูกต้องคือทางไหน แต่ผมเชื่อว่าทุกคนยินดีที่จะเดินตามแสงไฟ เสมือนมันคือความหวังว่าทางออกรออยู่ข้างหน้า

ผมอยากเปรียบเทียบให้เห็นว่า ในเส้นทางสู่ความส�าเร็จนั้น ไม่ได้สว่างสดใสทุกย่างก้าว ในบางจังหวะคุณอาจเจอลมพายุหรือหลงเข้าไปในเขาวงกต ชนิดที่เหลียวรอบตัวก็ไม่เห็นใคร จะเดินไปไหนก็ตัดสินใจไม่ถูก ณ เวลานั้นคุณต้องการ “ไฟปลายอุโมงค์” ที่จะน�าทางให้พ้นจากภาวะวิกฤต

แล้วใครล่ะครับ ที่จะเป็นคนจุดไฟนั้น??? พระเจ้า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อนที่รออยู่ปลายทาง??? เปล่าเลยครับ ไม่มีใครจุดไฟนั้นได้ดีที่สุดเท่ากับ “ตัวคุณเอง” ไม่ต้องสงสัยครับ คุณเองนั่นแหละ คือ คนแรกที่ต้องช่วยตัวเองให้รอดตาย

: THE SUCCESS114

ผมเริ่มต้นธุรกิจในช่วงปี 2540 จนถึงปัจจุบันผ่านมาเกือบ 20 ปีแล้ว ต้องเผชิญกับอุปสรรคนับครั้งไม่ถ้วน ไล่ตั้งแต่ปัญหาหยุมหยิมไปจนถึงวิกฤตระดับโคม่า แต่ไม่ว่าอย่างไร ความฝันที่จะท�าธุรกิจให้ประสบความส�าเร็จ ก็ยังแจ่มชัดเสมอ ดังนั้นผมจึงต้องหา “กลยุทธ์” จุดไฟปลายอุโมงค์น�าทางให้ตนเองทุกครั้งที่เจอปัญหา

กลยุทธ์ของผมอยู่ในมือของคุณ นั่นก็คือ “หนังสือ” และ “การอ่าน” นั่นเองครับ

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 115

ผมมั่นใจว่า “ความรู้” คือผู้ช่วยที่ดีที่สุดในการน�าทางสู่ความส�าเร็จ ดังนั้นจึงต้องแสวงหาความรู้ทุกทางเท่าที่จะสามารถหาได้ เพื่อสะสมกองก�าลังไว้ใช้ยามจ�าเป็น พยายามติดตามข่าวสารจากทุกช่องทาง โดยเฉพาะ “หนังสือ” ซึ่งเป็นสื่อที่ผมรักมากที่สุด และสนใจในเรื่องของ “ผลวิจัย” เป็นอย่างมาก ถ้าต้องเลือกหนังสืออ่านสักเล่มหนึ่ง ผมมักหยิบเล่มที่มีผลงานวิจัยประกอบองค์ความรู้ก่อนเสมอ

ตอนที่ผมยังเตาะแตะในเชิงธุรกิจ ค�าถามแรกที่วนเวียนอยู่ในหัวคือ “ผมจะขายอะไรดี” มีสินค้าเป็นร้อยล้านชนิดในโลกใบนี้ อะไรคือสิ่งที่ไม่ซ�้าใคร มีอนาคต พัฒนาต่อได้ และตอบโจทย์ความต้องการ... ณ เวลานั้นผมไม่สามารถปรึกษาใครได้ เพราะคนรอบข้างส่วนใหญ่...ไม่สนับสนุนให้ผมท�าธุรกิจ ยิ่งคิดก็ยิ่งเหมือนงมอยู่ในความมืด คิดโน่นคิดนี่สะเปะสะปะถึงขนาด...ผมกลัวว่าจะหลงทาง

: THE SUCCESS116

แล้วคลังความรู้ของผมก็เริ่มจุดไฟปลายอุโมงค์... ผลงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ผมเคยอ่านและสนใจมากก็คือ จ�านวนประชากร จากการเก็บข้อมูลพบว่าอัตราประชาชนมีแนวโน้มคล้ายกันทั่วโลก นั่นคือ อัตราการเกิดและการตายของประชากรทั่วโลกลดลง

ข้อมูลวิจัยได้ท�านายอนาคตไว้ว่า ถ้าอัตราการเกิดและการตายยังมีลักษณะและปริมาณเช่นนี้อย่างต่อเนื่อง “ในปี พ.ศ.2555 ประชากรที่มีอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป จะเป็นกลุ่มคนที่มีปริมาณมากที่สุดในโลก” ในขณะที่จ�านวนเด็กแรกเกิดจะน้อยลงทุกวัน

ผมน�าข้อมูลเหล่านี้มาประมวลผลและวิเคราะห์ ทันใดนั้นเหมือนมีแสงไฟสว่างวาบขึ้นตรงหน้า ผมมองเห็น “กลุ่มเป้าหมาย” ชัดเจนขึ้น ถ้าต้องเลือกจ�าหน่ายสินค้าสักชนิดหนึ่งแล้ว เราจะเลือกก�าลังซื้อจากกลุ่มคนที่ใหญ่ขึ้นทุกวัน หรือเล็กลงทุกวัน???...และก่อนที่จะถึงปี พ.ศ.2555 ซึ่งคนเริ่มตื่นตัวกับกลุ่มผู้สูงอายุ ผมควรเริ่มต้นก่อนใครกับธุรกิจที่ตอบสนองความต้องการของคนกลุ่มนี้

แน่นอนครับว่ามีแรงฉุดมหาศาลจากคนรอบข้าง ลองนึกย้อนอดีตไปสมัยวิกฤตเศรษฐกิจในปี 2540 ขณะนั้นผู้คนหน้าด�าคร�า่เครียด ธุรกิจเจ๊งระนาว บริษัทไฟแนนซ์ปิดตัวไปถึง 41 แห่ง ตัวผมเองเป็นพนักงานบริษัทที่มีต�าแหน่งและรายได้มั่นคงอยู่แล้ว อีกทั้งก�าลังเริ่มต้นชีวิตครอบครัว ดังนั้นจึงไม่มีใครอยากให้ผมก�าเงินแสนไปลงทุนกับธุรกิจที่ไม่รู้อนาคต

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 117

: THE SUCCESS118

แต่ผมมองเห็น “ไฟปลายอุโมงค์” ของผมแล้ว ผมรู้ว่าควรจะเดินไปทางไหน และภาพความส�าเร็จที่รออยู่ปลายทางช่างหอมหวานและเป็นแรงผลักดันให้ผมกล้าที่จะทิ้งชีวิตเดิมๆ แล้วก้าวไปข้างหน้า ผมมีคติอยู่ว่า

เราต้องเริ่มเดิน ... ในขณะที่คนอื่นนั่งเราต้องเริ่มวิ่ง ... ในขณะที่คนอื่นเดิน

เมื่อเรามีความฝัน มีเป้าหมาย และเห็นเส้นทางที่ชัดเจนแล้ว เราจะรีรอไปเพื่ออะไร?... ถ้ารอเงิน รอความพร้อม รอกลุ่มเป้าหมายจ�านวนเยอะๆ ผมบอกได้เลยว่า คนอื่นจะขโมยความฝันของคุณไปลงมือท�า และประสบความส�าเร็จไปตั้งแต่ปีมะโว้แล้ว

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 119

และเวลานั้น คุณจะเหลือแค่ความฝันล้าหลังที่ยังอยู่ในอากาศเหมือนเดิม

จากวันที่ผมตัดสินใจเดินตามไฟปลายอุโมงค์ พร้อมด้วยเงิน 300,000 บาทและพนักงาน 3 คน ปัจจุบันนี้ธุรกิจเก้าอี้นวดเรสเตอร์ท�ารายได้หลายร้อยล้านบาทต่อปี มีพนักงานกว่า 200 คน ยังไม่รวมถึงธุรกิจส�านักพิมพ์และการจัดสัมมนาต่างๆ ที่ต่อยอดมาจากความส�าเร็จในด้านอื่นๆ ... ชีวิตของผมเป็นแค่ตัวอย่างเล็กๆ เท่านั้น

ยังมีคนอีกมากมายที่เริ่มต้นอย่างทุลักทุเลแต่ประสบความส�าเร็จอย่างมหาศาล ลองนึกชื่อ คุณพันธ์รบ ก�าลา เจ้าของชายสี่หมี่เกี๊ยว, ดร.กฤษฎา จ่างใจมนต์ เจ้าของผลิตภัณฑ์เนเจอร์กิฟ, คุณอิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ผู้ก่อตั้งบริษัทเถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จ�ากัด ซึ่งผลิตสินค้าสาหร่ายทอดกรอบยี่ห้อดัง ฯลฯ คนไทยใจสู้เหล่านี้ไม่เคยรอโอกาสมาประเคนตรงหน้า เขาลงมือลุยทันที

: THE SUCCESS120

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 121

ช้าก่อนครับ! อย่าเพิ่งลุกขึ้นลุยถ้ายังอ่านไม่จบ จ�าไว้เสมอว่า ทุกคนที่ประสบความส�าเร็จ พวกเขาล้วนแต่มี “ไฟปลายอุโมงค์” นั่นคือ องค์ความรู้ที่สะสมไว้เป็นทุนยามที่เส้นทางพบเจออุปสรรค หรือต้องตัดสินใจครั้งส�าคัญ มันเป็นเรื่องที่ส�าคัญที่สุด ไฟปลายอุโมงค์ช่วยให้คุณเหนื่อยน้อยลง ตัดสินใจง่ายขึ้น ประหยัดทั้งเงินและเวลา และมีโอกาสเก็บเกี่ยวผลส�าเร็จอย่างรวดเร็ว

และช่องทางที่คุณจะสะสมเชื้อไฟไว้ได้ ก็คือความรู้จาก สื่อต่างๆ นั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นสื่อสิ่งพิมพ์ มัลติมีเดีย โซเชียลเน็ตเวิร์ค หรือแม้แต่การอบรมสัมมนา

เข้าร่วมกลุ่มกิจกรรมต่างๆ ล้วนมีให้คุณเลือกเสพไม่หวาดไม่ไหว และปัญหาก็คือ มันมีเยอะเกินไป จนคุณไม่รู้ว่าจะเลือกรับข่าวสารอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด

มีการวิจัยพบว่า มนุษย์สามารถอ่านหนังสือได ้300,000 ค�า ในเวลา 8 ชั่วโมงใน 1 วัน ถ้าให้คนนั่งอ่านหนังสืออย่างเดียวตลอดเวลา จะสามารถอ่านหนังสือสิ่งพิมพ์ทุกฉบับที่ตีพิมพ์ ณ สหรัฐอเมริกา ในช่วงเวลา 1 เดือน ได้หมดทุกเล่มโดยใช้เวลาประมาณ 13 ปี! ที่นับสถิติน่าสนใจทั่วโลกตามเวลาจริง แสดงให้เห็นว่า มีหนังสือตีพิมพ์ออกมาตั้งแต่ต้นปี 2557 จนถึงปัจจุบัน (มิถุนายน 2557) เป็นจ�านวนกว่า 1,020,000 ปก แค่สื่อหนังสืออย่างเดียวเท่านั้นนะครับ ยังมีปริมาณมากมายมหาศาลขนาดนี้ ไม่ต้องคิดถึงผู้ใช้ internet ในการค้นหาข้อมูล ซึ่งมีทะลุ 3,000 ล้านรายทั่วโลกแล้ว

: THE SUCCESS122

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 123

ในเมื่อข้อมูลมันล้นหลาม นอกจากนี้ในข้อมูลยังมีทั้งข่าวจริง ข่าวหลอก ข่าวลือ ข่าวลวง ข่าวสร้างกระแส ฯลฯ พูดง่ายๆ ว่าโลกใบนี้มีทั้ง สิ่งดี และ สิ่งไม่ดี มีทั้งของที่ มีประโยชน์ และ ไร้ประโยชน์ เราจึงต้องเลือกรับสื่อให้เป็น เลือกบริโภคแต่สิ่งที่สร้างคุณค่าให้ชีวิตเท่านั้น ส�าหรับชีวิตเดียวที่ไม่รู้จะจบลงเมื่อไหร่ของเรา

สิ่งที่แตกต่างกันระหว่างคนที่ประสบความส�าเร็จกับคนล้มเหลว คือ คนแรกมักเห็นว่า บางสิ่งส�าคัญกว่าบางสิ่ง และ เห็นคุณค่าของสิ่งที่ส�าคัญกว่า เสมอ

ในขณะที่คนหลังมักเลือกบริโภคสิ่งต่างๆ ตามอารมณ์และความพอใจ ระหว่างเด็กวัยรุ่นคนหนึ่งที่เล่นเกมส์ออนไลน์อย่างเป็นบ้าเป็นหลัง กับอีกคนที่ตั้งใจเรียน จึงแทบไม่ต้องเดาว่าทั้งคู่จะมีชีวิตที่แตกต่างกันเพียงใดในอนาคต ในวันหนึ่งเราต้องตัดสินใจเลือกสิ่งต่างๆ มากมาย ทุกการเลือกมีผลต่อชีวิตของคุณทั้งสิ้น ครั้งต่อไปเมื่อคุณจะเลือกรับ อ่าน ฟัง ดู เรียนรู้ จดจ�า สิ่งใดก็ตาม ขอให้คิดว่ามันสามารถเป็นต้นทุนเชื้อเพลิงให้กับคุณได้หรือไม่

เพราะในยามที่เส้นทางความฝันของคุณเจออุปสรรค คุณจะสามารถจุดไฟปลายอุโมงค์น�าทางได้ด้วยตนเองครับ

มนุษย์ทุกคนล้วนมองหา

“ประกายไฟ” เล็กๆเท่าที่จะมองเห็น

เพราะ มันเป็นเหมือนแรงบันดาลใจ

ที ่สามารถท�าให้ทุกอย่างเคลื่อนที่ ไปข้างหน้าได้

: THE SUCCESS124

แรงบันดาลใจท�าให.้..บางคนเปลี่ยนตนเอง

แรงบันดาลใจท�าให.้..บางคนเปลี่ยนโลก

แรงบันดาลใจท�าให.้..หลายอย่างเปลี่ยนไป

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 125

07To be what you want to be!!!

จงเป็นสิ่งที่คุณอยากเป็น

อยากหลายคนเพียงแค่ “อยาก”

อยากฝัน + อยากได้ + อยากมี + อยากไป

หากเมื่อไร “เราอยาก” นั่นหมายความว่า...เราจะมีก็ได้ หรือ ไม่มีก็ได้

เราเพียงแต่อยากมีเหมือนคนอื่นเท่านั้นหากเราไม่เคยเห็นสิ่งที่คนอื่นมี

“เราคงไม่อยากมั้ง?”

: THE SUCCESS128

จ�าเป็นหากเราต้องการจริงๆ...เราจะโหยหามัน

หากมันจ�าเป็นต่อการมีชีวิตอยู่...เราจะขาดมันไม่ได้

ความฝันของบางคน เป็นเพียง “ความอยาก”แต่ส�าหรับบางคน เป็นเรื่อง “จ�าเป็น”

เรื่อง “จ�าเป็นต้องท�า” คือ เรื่องที่เราไม่ท�าไม่ได้ฉะนั้น ความฝันจึงมีแบบที่ส�าเร็จบ้าง

และไม่ส�าเร็จบ้าง ขึ้นอยู่กับว่า...มันจ�าเป็นต่อชีวิตเรามากแค่ไหน

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 129

: THE SUCCESS130

ค�ากล่าวนี้คงเป็นแค่ค�าคมธรรมดาๆ ถ้ามันไม่ได้มาจากทนายความหนุ่มผู้ตัดสินใจลาออกจากงาน ตามหาความฝันด้วยการขี่จักรยานรอบโลกเป็นเวลา 10 ปี

อัลวาโร นีล เคยกล่าวไว้ว่า... “ชีวิตของเราสั้นเกินไป ท�าทั้งหมดไม่ ได้ ...เราเลยไม่ควรท�าในสิ่งที่ ไม่ชอบ เราต้องเลือกใช้ชีวิตที่เรามี passion ในนั้น”

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 131

เขาเริ่มปั่นตั้งแต่ปี ค.ศ.2004-2014 เขาไม่เพียงแค่ก้มหน้าก้มตาปั่นเท่านั้น แต่ยังเปิดการแสดงตลกสร้างความสุข

ให้ผู้คนในทุกๆ ที่ที่สามารถเล่นได้ การเดินทางของเขาปั่นผ่านแอฟริกา ตะวันออกกลาง ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ รวมถึงเอเชีย และน่ายินดีที่เขาเคยมาสัมผัสไอดินกลิ่นแดดที่ประเทศไทยของเราแล้วด้วย

: THE SUCCESS132

พวกเขามีความฝันอย่างเดียวกัน แต่ปฏิบัติต่อมันไม่เหมือนกัน อัลวาโร นีล ฝันแล้วจูงจักรยานออกไปขี่จริงๆ ในขณะที่บางคนแค่ลางานไปพักร้อนยาวๆ ยังไม่กล้า ไม่ต้องพูดถึงการตัดสินใจลาออกจากงานที่มั่นคง รายได้หลักแสน อ�าลาครอบครัว แล้วออกเดินทาง... แค่คิดก็ตัวสั่นแล้วครับ

ผมไม่ได้ยุยงให้ทุกคนลุกขึ้นมาสละชีวิตเดิมๆ โดยไม่มีเหตุผล และขาดการวางแผนที่ดีรองรับ เพราะนั่นอาจเป็นฝันร้ายถึงขั้นตายอนาถมากกว่าการเติมเต็มชีวิต เพียงแต่ผมอยากให้ทุกคนเห็นความส�าคัญของ การท�าในสิ่งที่เราอยากท�า เป็นในสิ่งที่เราอยากเป็น จริงๆ เพราะเวลาในชีวิตของเราสั้นนัก ถ้าสมมุติว่าเรามีอายุขัยเพียง 60 ปี ในเวลานี้คุณอายุเท่าไหร่แล้วครับ 20 25 30 35... น่าใจหายไหมครับ เราเหลือเวลาที่จะชื่นชมกับชีวิตนี้อีกเพียงแค่ไม่กี่ปีเท่านั้น นี่ยังไม่ได้พูดถึงความอนิจจังที่ทุกคนหลีกเลี่ยงไม่ได้ นั่นคือไม่ว่าคุณอายุเท่าไหร่ คุณก็มีสิทธิ์ตายวันนี้ได้เท่าเทียมกัน

คุณบอกกับตัวเองว่าอยากเก่งภาษาอังกฤษ ภาษาจีน อยากพูดได้ห้าภาษา อยากเรียนคอมพิวเตอร์ อยากไปฟิตเนสลดหุ่น อยากเล่นโยคะ อยากไปตรวจสุขภาพ อยากไปหาหมอฟัน อยากพาพ่อแม่ไปเที่ยวต่างประเทศ อยากท�าบุญ อยากท�าสิ่งดีๆ ช่วยเหลือสังคม อยากเข้าอบรมสัมมนา ฯลฯ ร้อยแปดพันเก้าที่คุณ “อยาก” แล้วมีกี่อย่างกันที่คุณได้ลงมือท�าจริงๆ

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 133

ข้ออ้างคลาสสิคที่สุด ที่คุณบอกตัวเองคือ รอ...ให้ถึงวันเกิดก่อน แล้วเราค่อยท�าบุญ

รอ...ให้ลูกโตก่อน แล้วเราค่อยไปเที่ยวต่างประเทศรอ...ให้มีเงินก่อน แล้วเราจะลงทุน จะแต่งงาน

จะไปเรียนภาษา จะไปตรวจสุขภาพ จะพาพ่อแม่ไปเที่ยว ฯลฯ

รอ...ให้มีทุกอย่างก่อน แล้วเราค่อยมีความสุข

: THE SUCCESS134

แล้วระหว่างที ่“รอ” นี่ล่ะครับ เราต้องใช้ชีวิตอันแสนสั้นและไม่รู้วันตายนี้ ด้วยความทุกข์ระทมหดหู่งั้นหรือ

ในวันที่ อัลวาโร นีล กระโดดขึ้นจักรยาน เขาคิดเพียงว่า...

“ทุกคนมีโอกาสเกิดมาบนโลกนี้เพียงแค่ครั้งเดียว ถ้าคุณไม่ท�าตามสิ่งที่คุณฝันเอาไว้ในชีวิตนี้ เมื่อไหร่ล่ะที่คุณจะได้ท�า ชาติหน้าหรือ??? ผมไม่คิดแบบนั้น... คุณเกิดมาเพื่อท�าฝันให้เป็นจริง”

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 135

ลิสต์รายการยาวเป็นหางว่าวที่คุณ “อยาก” ทั้งหลายนั้น ลงมือท�าเลยเถอะครับ จงท�าในสิ่งที่คุณอยากท�า และเป็นในสิ่งที่คุณอยากเป็น ภายใต้สติปัญญาที่แจ่มใสและศีลธรรมอันดีงามก�ากับ ผมเชื่อว่าไม่มีเหตุผลอะไรที่คุณจะต้อง “รอ” ... ความสุขลอยอยู่ตรงหน้าแล้ว อยู่ที่ว่าคุณจะเอื้อมไปคว้ามันเองหรือไม่

: THE SUCCESS136

ผมมีเรื่องเล่าของชายอีกคน ที่ยืนยันจะเป็นในสิ่งที่ “ตนอยากเป็น”จนวินาทีสุดท้ายของชีวิตวินเซนต์ แวน โกะห์ จิตรกรผู้มีชื่อเสียงยืนยาวข้ามศตวรรษ แม้เขาจะจากโลกนี้ไปกว่า 100 ปีแล้ว ผลงานของเขาถูกประมูลด้วยราคากว่า30 ล้านดอลลาร ์น่าเสียดายที่ชีวิตจริงของเขาไม่เคยมีโอกาสสัมผัสชื่อเสียงและเงินจ�านวนมากจากผลงานภาพเขียนของเขาเลย

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 137

เคยมีคนให้ค�านิยาม แวน โกะห์ ไว้ว่า... เป็น “ศิลปินผู้อาภัพ” เพราะเขาโดนปฏิเสธความรักหลายครั้งหลายครา อยากเป็นนักบวชก็ไม่ผ่านการทดสอบ อีกทั้งโดนนักเทศน์อาวุโสขับไล่ออกจากกลุ่ม ชาวบ้านก็ไม่ให้การต้อนรับ แม้แวน โกะห์ จะบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้ในเมืองจนแทบหมดกระเป๋า และสุดท้ายเมื่อเขาค้นพบสิ่งที่หลงใหลเป็นชีวิตจิตใจ นั่นคือ “การวาดภาพ” ที่เขามีฝีแปรงอันยอดเยี่ยม จนสามารถสื่อสารความรู้สึกผ่านปลายพู่กันได้อย่างลึกซึ้งถึงอารมณ์ ทว่าภาพคนยากไร้ ชาวไร่ชาวนา ชายชราผู้โดดเดี่ยว เด็กที่หิวโหย ฯลฯ ไม่เป็นที่นิยมและสร้างรายได้ เช่น ภาพเหมือนของผู้มีฐานะสูงศักดิ์ ผลก็คือ ทั้งชีวิตเขาสามารถขายภาพได้เพียงภาพเดียว!!! จากผลงานภาพเขียนสีน�า้มันกว่า 800 ภาพ และภาพวาดอีก 700 ภาพ ไม่ต้องพูดถึงชื่อเสียง เพราะแม้แต่คนในชุมชนยังจ�าชื่อเขาไม่ได้ด้วยซ�า้

: THE SUCCESS138

หากแต ่“ศิลปิน” ผู้อาภัพคนนี้ ไม่เคยทรยศต่อความฝันและสิ่งที่ตนเองอยากเป็นแม้แต่วินาทีเดียว แวน โกะห์ กล่าวว่า

“ภาพของฉันขายไม่ออก นี่เป็นความจริงที่ฉันไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ แต่สักวันหนึ่งทุกคนจะรู้ว่า มันมีราคามากกว่าราคาสีที่ใช้วาด”

แวน โกะห์ อาจอาภัพในเรื่องของโชคชะตา แต่ เขาสร้างคุณค่าให้กับตัวเองอย่างมหาศาล ด้วยการ ท�าในสิ่งที่รัก เป็นในสิ่งที่อยากเป็น และ เก็บเกี่ยวความสุข จากมัน โดยไม่ต้องรอ

เสียงวิพากษ์วิจารณ์จากภายนอกจะไม่มีความหมายกับคุณเลย ถ้าคุณมีความสุขและความอิ่มเอมเป็นน�้าหล่อเลี้ยงอยู่ภายในใจตลอดเวลา

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 139

ถ้าคุณไม่รู้ว่าเวลาในชีวิตเหลืออีกเท่าไหร่ ได้โปรดอย่ารีรอ

ที่จะ ท�าทุกสิ่งที่คุณตั้งใจไว้ เพราะ การใช้ชีวิตไปวันๆ

และ เฝ้าแต่ “รอ” นั้น คือ

การฆ่าจิตวิญญาณให้ตายก่อนร่างกายจะตายไปเสียอีกครับ

สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นเมื่อเรายกย่องมัน

มันจะกลายเป็น

ของมีค่าขึ้นมาทันที

สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นเมื่อเราใส่หัวใจเข้าไป

เราจะ “รัก” สิ่งนั้นทันที

: THE SUCCESS140

สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นหากเราใช้มันมา“ท�าร้าย” คนอื่น

มันจะกลายเป็น “อาวุธ”

สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นเมื่อเราได้รับค�าชื่นชม

เราจะได้รับ “ก�าลังใจ”

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 141

08Focus in yourself

ทุ่มเททั้งชีวิต จดจ่อที่เป้าหมาย

หนึ่งหากคุณต้องเล็งปีนไปที่ “เป้ายิง” ในสนามซ้อม

ไม่ว่าเป้าจะอยู่ใกล้ หรือ อยู่ไกล

เราก็เห็นเพียง “เป้าหมายเดียว” ที่เราต้องจัดการมันเมื่อเป้าหมายอยู่ใกล้ เป้าก็จะใหญ่

ยิ่งท�าให้เราเห็นชัด และ ยิงถูกง่ายขึ้น

เมื่อเป้าหมายอยู่ไกล เป้าก็จะเล็กลงแต่ถ้าเรามีสมาธิจดจ่อ เราก็จะยิงถูกแน่นอน

: THE SUCCESS144

ร้อยคนที่ไม่รู้ความลับเรื่อง “เป้าหมาย”

มักจะพยายามสร้าง “ปริมาณ” มากกว่า “คุณภาพ”

เมื่อเขียนเป้าหมายไว้ “หนึ่งร้อยอย่าง”หรือ มีเด็กอนุบาลวิ่งเข้ามาหาเราหนึ่งร้อยคน

เราจะเลือกถูกมั้ยว่า...ใครเป็นใคร

การจดจ่ออยู่ที่เป้าหมายเดียว กับการพยายามท�าเป้าหมายให้ได้มากๆ จึงท�าให้...ความส�าเร็จแตกต่างกันสิ้นเชิง

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 145

: THE SUCCESS146

ไม่ต้องถามนะครับว่าได้มาจากหลวงพ่อวัดไหน ต้องท่องภาษาบาลียากๆ หรือเปล่า ผมรับรองว่าขลังจริงครับ รับประกันผลแบบพิสูจน์ได้ทันที

เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณรู้สึกว่าความคิดกระเจิดกระเจิง ภาวะบีบคั้นรุมล้อมรอบกาย ทั้งจากงาน เงิน ครอบครัว คนรัก ลูก เพื่อน ลูกค้า คนรู้จัก คู่แข่ง ฯลฯ จวนเจียนจะทรุดเต็มแก่แล้ว ท่องไว้สองค�าสั้นๆ เท่านั้น

“เป้าหมาย” ครับ

ผมมีคาถาบทหนึ่ง ท่องเมื่อไหร่ อุปสรรคที่ว่ายาก หนัก เหนื่อย น่าท้อแท้หมดหวัง เป็น อันสลายวับไปกับตา

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 147

: THE SUCCESS148

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 149

แล้วตั้งจิตกลับมาจดจ่อที่ภาพความส�าเร็จของตัวเอง ภาพหนุ่มหล่อสาวสวยสุขภาพแข็งแรง ครอบครัวอบอุ่น ลูกเรียนเก่งน่ารัก ธุรกิจเติบโตก้าวหน้า เงินทองไหลมาเทมา ไม่ติดขัด มีแต่มิตรแท้รอบกาย ฯลฯ หรืออะไรก็ตามที่คุณฝันไว้ พยายามนึกภาพนั้นให้ชัดเจนที่สุด พร้อมกับท่องเป้าหมายของเราไปด้วย...

อุปสรรคและความเหน็ดเหนื่อยท้อแท้ต่างๆ หายไปแล้วใช่มั้ยครับ จริงอยู่ มันอาจหายไปเพียงเสี้ยววินาที เพราะคุณยังยึดเหนี่ยวกับปัญหา

และอารมณ์แห่งความโศกเศร้านั้นอยู่ เผลอเมื่อไหร่ก็กลับไปคิดถึงมันร�า่ไป แต่ทันใดที่คุณรู้ตัวแล้วกลับไปจดจ่อที่ภาพความส�าเร็จ ความขมขื่นต่างๆ จะไม่อาจทนอยู่ได้ คุณจะคิดถึงมันน้อยลงเรื่อยๆ และในที่สุดคุณจะเห็นความไม่เที่ยง มีเกิดมีดับของมัน ในขณะที่ภาพความส�าเร็จ จะผลักดันให้คุณเกิดปัญญาและวิธีการเพื่อแก้ไขสถานการณ์เลวร้ายต่างๆ ให้ลุล่วงไปได้ โดยที่คุณไม่รู้สึกทุกข์ร้อนกระวนกระวายอีกต่อไป

: THE SUCCESS150

ความลับของจิต คือ “จิต” ของ มนุษย์รับรู้

ได้แค่อารมณ์เดียวในแต่ละขณะ

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 151

มันคือความอัศจรรย์และความลับเกี่ยวกับการท�างานของ “จิต” ที่ใครล่วงรู้อย่างถ่องแท้แล้ว จะเห็นความทุกข์เป็นสิ่งธรรมดาสามัญ เหมือนกับที่เราลืมตาหลับตา หายใจเข้าออก มันเกิดขึ้นตามธรรมชาติโดยที่เราไม่ต้องไปยึดติดเพื่อเศร้าโศกเสียใจอีกต่อไป

ความลับของจิต คือ “จิต” ของมนุษย์รับรู้ ได้แค่อารมณ์เดียวในแต่ละขณะ แต่เพราะจิตท�างานเร็วมาก ท�าให้ดูเหมือนว่าเราสามารถรับรู้อะไรหลายอย่างได้ในเวลาเดียวกัน ลองพิสูจน์ง่ายๆ โดยให้คุณเปิดเพลงฟังขณะอ่านหนังสือเล่มนี้ไปด้วย เพลงโปรดเลยยิ่งดี...เอ้า ฟังและอ่านไปพร้อมกันเลยครับ

ทันทีที่อินโทรขึ้น คุณก็เริ่มมีอารมณ์คล้อยตามแล้ว จิตเริ่มหนีจากตัวอักษรไปเกาะอยู่ที่เสียงเพลง ปากเริ่มขยับร้องตามเบาๆ แม้ตายังมองตัวหนังสืออยู่ แต่ไม่ได้รับรู้ข้อความในนั้น พอตากวาดไล่ไปบรรทัดใหม่ อยู่ๆ ก็มีประโยคนี้สะดุดลูกนัยน์ตา

: THE SUCCESS152

การมีสติ อยู่กับ “ปัจจุบัน”ท�าให ้เราก้มหน้าก้มตา

ท�างานของเราให้ดีที่สุด

การร�าลึกถึง เรื่องอดีตหนึ่ง หากเป็นเรื่องไม่ดี

เราก็จะชอกช�้าระก�าใจ

สอง หากเป็นเรื่องดี

มันก็น่ายินดี...

แต่มันก็ผ่านไปแล้ว

อนาคต จะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับว่า

วันนี้...เราท�าอะไรหรือยัง???

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 153

: THE SUCCESS154

คุณประเสริฐ อุทัยเฉลิม ผู้เขียนหนังสือ“ดูจิตชั่วพริบตา” อธิบายการท�างานของจิตไว้อย่างน่าสนใจและเห็นภาพว่า หากสามารถกดปุ่มสโลว์โมชั่นจิตได้ คุณจะเห็นการรับรู้อารมณ์แต่ละขณะได้อย่างชัดเจน ว่าจิตสามารถโฟกัสได้ทีละอย่าง ทีละเรื่องเท่านั้น

ดังนั้น ถ้าหากคุณเอาจิตมาจดจ่อที่“เป้าหมาย” และ “ภาพความส�าเร็จ”ไอ้ความทุกข์ต่างๆ ก็ไม่อาจแทรกเข้ามาได้ เพราะจิตตั้งมั่นอยู่ที่อารมณ์อื่น และยิ่งคุณจับภาพเป้าหมายได้มั่นคงเท่าไหร่ มันก็จะยิ่ง

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 155

เกิดเป็นจินตนาการที่สร้างแรงดึงดูดให้ภาพนั้นเกิดขึ้นจริงมากขึ้นเท่านั้น เราจะเห็นทางออก เห็นทางแก้ไขปัญหา ตามหลักการจินตนาการถึงตัวคุณในอนาคต ในบทที่ 5 นั่นเอง

และพลังของการจดจ่อที ่“เป้าหมาย” นี้เอง คือความลับของคนที่ประสบความส�าเร็จในบางเรื่องที่ดูแทบไม่น่าเป็นไปได้ และหนึ่งในนั้นคือ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน (Sir Alex Ferguson) ผู้จัดการทีมฟุตบอลอัจฉริยะที่หลายคนแอบเรียกเขาว่า “พ่อมด” ด้วยความสามารถเสกให้ทีมกลับมาเอาชนะได้หลายต่อหลายครั้ง แม้จวนเจียนจะแพ้เต็มทีแล้วก็ตาม

: THE SUCCESS156

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 157

เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เป็นที่รู้จักในฐานะผู้จัดการทีมฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (Manchester United) แม้นักฟุตบอลจะเปลี่ยนหน้าเข้าออกจนเรียกว่าทีมไม่เคยนิ่ง แต่เขาสามารถควบคุมทีมให้ครองแชมป์หลายรายการ และสร้างสถิติ “ชนะ” มากกว่า “แพ้”

มีหลายครั้งที่ทีมถูกน�าไปช่วงครึ่งแรก จนดูเป็นฝ่ายเสียเปรียบ แต่หลังจากพักครึ่งเวลา ทีมแมนยูมักกลับเข้ามาในสนามด้วยก�าลังใจฮึกเหิมกว่าเดิม และ กลับมาเอาชนะได้ในช่วงครึ่งหลังเสมอ

เบื้องหลังความส�าเร็จของทีมคือผู้ชายคนนี้ เขาท�าการบ้านอย่างหนักก่อนการแข่งขันทุกครั้ง ด้วยการศึกษาเทคนิควิธีการเล่นและจุดอ่อนจุดแข็งของทีมที่ต้องลงแข่งด้วย แต่สิ่งที่เหนือไปกว่านั้น คือ เขาจดจ่อที่ภาพความส�าเร็จ ของ ทีมแมนยูตลอดทุกวินาทีความผิดพลาดของลูกทีมหรือการถูกน�าประตู ไม่ได้มีผลต่อการโฟกัสที่เป้าหมายเลย

สมาธิของเขาตั้งมั่นที่ภาพความส�าเร็จ ไม่มีสิ่งใดสั่นคลอนความเชื่อมั่นนั้นได้ เขาส่งต่อพลังอันแรงกล้าให้กับลูกทีม ท�าให้เกิดเป็นก�าลังใจฮึกเหิม และผลลัพธ์ก็คือ... เขาเสกให้ทีมคว้าชัยชนะได้ในท้ายที่สุด

: THE SUCCESS158

เช่นเดียวกับ โค้ชอ๊อต - เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร ผู้จัดการทีมวอลเลย์บอลหญิง ที่พาทีมครองแชมป์เอเชียเป็นสมัยที่ 2 ได้ส�าเร็จ เมื่อปี 2556 เขาเป็นอีกคนหนึ่งที่สร้างปรากฏการณ์ให้กับวงการวอลเลย์บอลไทย ด้วยความทุ่มเทและตั้งมั่นที่เป้าหมายมาโดยตลอด

โค้ชอ๊อตเป็นอดีตนักกีฬาวอลเลย์บอล และติดทีมชาติตั้งแต่อายุ 18 ปี เขาผูกพันกับกีฬาชนิดนี้มาตั้งแต่ 8 ขวบ เมื่อเริ่มหัดเล่น ดังนั้นเขาจึงรักและเข้าใจกีฬา รวมไปถึงนักกีฬาชนิดนี้ได้ดียิ่งกว่าใคร

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 159

เมื่อมีโอกาสมาเป็นโค้ชวอลเลย์บอลหญิง เขาจึงตั้งใจว่าจะพาทีมไปสู่แชมป์เอเชียให้ได้ แม้ว่าเวลานั้นความหวัง และการสนับสนุนต่างๆ ยังคงริบหรี่ก็ตาม

โค้ชอ๊อตปั้นนักกีฬาวอลเลย์บอลฝีมือดีรุ่นแล้วรุ่นเล่า แต่ด้วยความที่ตารางฝึกซ้อมเข้มงวดและเข้มข้น ท�าให้เกิดกระแสตีข่าวเรื่องการซ้อมที ่“โหด เคี่ยว ดุ” ออกมาอยู่พักหนึ่ง หากแต่เขารู้ดีว่าตัวเองท�าเพื่อนักกีฬาและประเทศไทย โค้ชอ๊อตโฟกัสที่เป้าหมายความส�าเร็จอย่างมุ่งมั่น จนกระทั่งผ่านพ้นวิกฤตข่าวลือ และสิ่งที่เขาท�าก็ประจักษ์ผลให้เห็นในเวลาต่อมา ว่าการฝึกซ้อมมีคุณค่าเพียงใดต่อนักกีฬา และชัยชนะ

: THE SUCCESS160

การต้องลงแข่งกับมือวางอันดับโลกอย่างจีนและญี่ปุ่น รวมถึงความคาดหวังของคนไทย สร้างแรงกดดันให้กับทีมอย่างมหาศาล หากจิตใจอ่อนไหวหรือสั่นคลอนแม้เพียงนิดเดียว จะมีผลมากมายต่อฟอร์มการเล่นและคะแนน ดังนั้นนอกจากการฝึกทักษะเชิงกีฬาแล้ว โค้ชหนุ่มผู้นี้ยังต้องสอนลูกทีม

ในเรื่องของการ “ตั้งสมาธิ”

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 161

ด้วยความที่เขาปฏิบัติธรรม และเลือกการท�าสมาธิเป็นการผ่อนคลายความเครียดมาโดยตลอด ท�าให้โค้ชอ๊อตรู้ดีว่า อานิสงส์แห่งพลังสมาธิที่จดจ่อกับเป้าหมายนั้น สร้างผลส�าเร็จได้อย่างน่าอัศจรรย์ ... เหมือนที่เขาท�าให้คนไทยทั้งประเทศได้เห็นมาแล้ว ในวันที่ทีมวอลเลย์บอลหญิงของประเทศไทยคว้าถ้วยแชมป์เอเชียมาครอง

: THE SUCCESS162

ถ้าคุณยังลังเลสงสัยในเรื่องการทุ่มสมาธิตั้งมั่นที่เป้าหมาย ลองฟังเรื่องของผม - ผู้ชายที่ถูกแช่งให้เจ๊งตั้งแต่วันที่เริ่มคิดท�าธุรกิจของตัวเอง - แค่ผมเอ่ยปากเล่าไอเดียและขอค�าปรึกษาเท่านั้น เสียงจากรอบข้างรวมถึงผู้ใหญ่ที่เคารพหลายท่านก็พูดในท�านองเดียวกันว่า “มันจะไม่เวิร์ค” หรือ

“เก้าอี้นวดราคาสูงเกินไป”“ใครจะมาซื้อของแบบนี้”“ประเทศไทยมีนวดแผนไทยแล้ว” “อย่าเพิ่งเอาเงินไปทิ้งไปช่วงเศรษฐกิจฟองสบู่แตกแบบนี้” พูดง่ายๆ ว่ายังไม่ทันลงมือท�า ก็เหมือนมีตราประทับว่า “เจ๊ง” ติดหน้าร้านแทนกระเช้าอวยพรแล้วครับ

แปลกไหมครับ ทั้งๆ ที่มีแต่คนไม่เห็นด้วย แต่ผมไม่ได้ผิดหวังกับค�าพูดเหล่านี้เลย ใจหนึ่งผมรู้ว่า พวกเขาให้ค�าแนะน�าและค�าเตือนที่เหมาะสมแล้วกับสภาวการณ์เศรษฐกิจถดถอยเช่นนั้น พวกเขาพูดในสิ่งที่ควรพูด และผมรู้ดีว่า ถ้าผมยังยืนยันลงมือท�าธุรกิจเก้าอี้นวด จะต้องเจอกับความเหนื่อยสาหัสที่สุดในชีวิต

แต่ผมไม่กลัวครับ... เพราะมันเป็นความฝันของผม แม้สถานการณ์ไม่พร้อม แต่ “ตัวผม” พร้อมที่จะเผชิญกับอุปสรรคทุกประการ พร้อมแล้วที่จะทุ่มเททั้งชีวิตเพื่อเป้าหมาย ความส�าเร็จของผมอาจอยู่ไกลลิบเป็นจุดเล็กๆ แต่ผมตั้งสมาธิจดจ่ออยู่ที่จุดนั้นเพียงจุดเดียว จดจ่ออย่างตั้งมั่น จดจ่อตลอดเวลา

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 163

: THE SUCCESS164

ระหว่างทางมีปัญหาและอุปสรรคมากมายแน่นอน และเหนื่อยจนเก็บเอาไปฝัน แต่การโฟกัสที่เป้าหมายท�าให้ผมไม่กลัวอุปสรรค รู้แต่ว่าเมื่อมีปัญหาก็แก้ไขกัน พลิกแพลงกันไปตามสถานการณ์ และก็เดินหน้าต่อไป ในวันนี้ผมอยากตะโกนดังๆ ว่า “ผม ท�า ได้” ความส�าเร็จของผมไม่ได้วัดเป็นมูลค่าด้วยตัวเงิน แต่มันคือ ความภูมิใจที่เราเชื่อมั่น และ“ศรัทธาในตัวเอง” ภูมิใจในความอุตสาหะแบบสู้ยิบตา ภูมิใจที่เราเอาชนะอุปสรรคด้วยการจดจ่อที่เป้าหมายโดยไม่วอกแวกสั่นคลอน

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 165

ณ เวลานี้ เป้าหมายของคุณอาจเป็นเพียงภาพลางๆ ที่อยู่ไกลมาก ดังนั้นคุณยิ่งต้องใช้สมาธิ จดจ่อที่เป้าหมายอย่างตั้งใจที่สุด เพราะเมื่อใดที่ขาดความตั้งใจตั้งมั่นแล้ว อุปสรรคมักจะโผล่มาให้เราเห็นเสมอ แม้เราจะไม่ต้องการมัน แต่เมื่อไหร่ที่เราจดจ่อกับเป้าหมาย ถึงมีอุปสรรคใดๆ เข้ามาเราก็มองไม่เห็น จนบางครั้งมันเกิดและจบไปแล้ว เรายังไม่รู้ด้วยซ�้าว่านั่นคือ “อุปสรรค”

เชื่อผมหรือยังครับว่า...

“ เ ป้ า ห ม า ย ” คือ คาถาสลายปัญหา ทุ่มเท และ จดจ่อกับมัน

แล้วทุกอย่างที่คุณฝัน...จะกลายเป็น ความจริง

หากเราแบ่งพลังในตัวออกเป็นสองฝ่าย

ฝ่ายหนึ่ง คิดว่า “ท�าได้”อีกฝ่าย คิดว่า “ท�าไม่ ได้”ปล่อยให้ทั้งสองสู้กันเอง

ผลลัพธ์จะออกมาเหมือนกันทุกครั้งคือ “การท�าไม่ ได้”

: THE SUCCESS166

หากใครอยาก“ลงมือท�า”

แล้วประสบความส�าเร็จจงอย่าปล่อยให้

“ความคิดที่ว่า...ท�าไม่ ได้”มาอยู่ในหัวสมองเราเพราะมันไม่ ได้สร้างประโยชน์อะไรเลย

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 167

09Do not

Give up !!! ทางเลือกเดียว

คือ ชัยชนะ

: THE SUCCESS170

ยอมส�าหรับคนที่ไม่มั่นใจ

เมื่อเดินทางมาถึง “ครึ่งทาง”จะมีความคิดหนึ่งแวบเข้ามาในหัวเสมอว่า...

“จะหันหลังกลับดีมั้ย?” หรือ “จะหยุดแค่นี้ดีมั้ย?”

หากคนที่ไม่มั่นใจเมื่อลงแข่งขันอะไรก็ตาม

มักจะมีความคิดหนึ่งแวบเข้ามาในสมองว่า...“จะยอมแพ้ดีมั้ย?”

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 171

ไม่ยอมส�าหรับคนที่ “ไม่ยอมแพ้”

มักจะเป็น “คนตัดสินใจเด็ดเดี่ยว”เพราะเมื่อลงสนามแข่งแล้ว...ต้องไม่ยอม

ถึงแม้จะรู้ว่า...ความสามารถไม่เท่ากัน...แต่ก็ไม่ยอมจ�านน

เพราะว่าก่อนที่จะตัดสินใจลงสนามแข่งขัน เราเลือกได้ว่าจะ “สู้” หรือ “ไม่สู้”

แต่หากเราลงสนามไปแล้วทางเลือกเหลือเพียงอย่างเดียว

คือ “ต้องสู้” เท่านั้น

: THE SUCCESS172

เกมกีฬา กับ เกมชีวิต ต่างกันตรงไหน?

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 173

สิ่งที่ต่าง คือเกมกีฬา มีเวลาก�าหนดแน่นอน คะแนน เมื่อเวลาสิ้นสุดคือ ตัวตัดสินชัยชนะ

แต่เกมชีวิต ไม่มีระยะเวลาก�าหนด ... ไม่มีใครมาตัดสินได้ว่า คุณควรจะประสบความส�าเร็จเมื่อไหร่ ถ้าท�าไม่ได้ตามนั้นถือว่าล้มเหลว ไม่มีใครมาตัดสินได้ว่า... คุณล้มเหลวได้กี่ครั้ง หรือ ถ้าล้มมากกว่านั้นถือว่าพ่ายแพ้

ในเมื่อคุณมีเวลาทั้งชีวิตที่จะเล่นเกมนี้ และคุณสามารถเริ่มต้นใหม่ได้เป็นสิบเป็นร้อยเป็นพันครั้ง ดังนั้น เส้นทางเดียวที่คุณมี คือ “ชัยชนะ” เท่านั้น

และในเมื่อไม่มีเวลาก�าหนด ไม่มีกรรมการเป่านกหวีดหมดเวลา ดังนั้นย่อมไม่มีค�าว่า “พ่ายแพ้” “ล้มเหลว” “ล้มเลิก” โดยสิ้นเชิง

: THE SUCCESS174

เมื่อมั่งมีมากมาย...มิตรหมายมอง เมื่อหม่นหมอง...มิตรมองเหมือนหมูหมา

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 175

ทรัมป์คงตระหนักสัจธรรมข้อนี้ได้ดียามนี้เอง เขามองรอบตัวไม่เห็นใคร เสียงโทรศัพท์ที่ดังตอนนี้มีแต่การทวงหนี้จากธนาคาร

ตัวคนเดียวโดดเดี่ยว กับภาระหนี้สิน 40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อาจท�าให้ใครหลายคนตัดสินใจแก้ปัญหาด้วยการจบชีวิต ... คนที่เคยประสบภาวะบีบคั้นจากหนี้สินและความตกต�่าของชีวิต จะทราบดีว่า

มันเป็นช่วงเวลาแห่งความทุกข์ทรมานขนาดไหน จะแปลกอะไรถ้าเขาเลือกจะ “ยอมแพ้” เหมือนกับที่หลายคนเคยเลือกหนทางเช่นนั้นมาแล้ว

แต่ไม่ใช่กับ โดนัลด์ ทรัมป์ ครับ...

เกมชีวิตไม่มีกรรมการเป่านกหวีด และตราบใดที่ยังไม่สิ้นลมหายใจ ทรัมป์บอกตัวเองว่า “เขาไม่ยอมแพ้”

: THE SUCCESS176

เมื่อพึ่งใครไม่ได้ เขาตัดสินใจพึ่งมันสมองและความฮึดสู้ของตัวเอง ทรัมป์เข้าไปคุยกับทุกธนาคารที่เขาติดหนี้อยู่ ขอเจรจาประนอมหนี้ พร้อมกับสัญญาว่าจะจ่ายเงินทั้งหมดคืน เพียงแต่ขอโอกาสลงทุนอีกครั้งหนึ่ง

ธนาคารต่างๆ ไม่มีทางเลือก จ�าต้องปล่อยลมหายใจให้ทรัมป์ต่อชีวิตธุรกิจของเขา ทรัมป์เริ่มต้นใหม่อีกครั้งและสู้ยิบตา สู้อย่างชนิดที่ว่าเอาชีวิตเข้าแลก ...ทุกคืนวันที่ผ่านไป คือการท�างานพร้อมกับท่องค�าว่า “ชัยชนะ”

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 177

“ชัยชนะ” เป็น หนทางเดียวที ่โดนัลด์ ทรัมป์ เลือก แม้เขาล้มละลาย และ มีหนี้สินมากกว่าคนทั่วไปเป็น ล้านเท่า แต่นั่นไม่ ได้เป็นตัวตัดสินว่าเขาพ่ายแพ้ คนที่ก�าหนดชะตาชีวิต คือ “ตัวเขาเอง” เท่านั้น

: THE SUCCESS178

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 179

ปัจจุบันนี้ ทรัมป์กลับมาทวงบัลลังก์อภิมหาเศรษฐีของโลกอีกครั้ง เขาใช้หนี้คืนได้หมดตามสัญญา และมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นอีกหลายหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

ในช่วงเวลาไม่กี่ปี ชีวิตของคนคนหนึ่งพลิกผันได้ถึงขนาดนี้ หลังจากที่ผมอ่านเรื่องของ โดนัลด์ ทรัมป์ จบ มันช่วยสอนใจผมหลายเรื่อง ข้อแรกคือ โปรดอย่าประมาทในเวลาที่คุณยังแข็งแรง การงานธุรกิจมั่นคง ไม่มีใครบอกได้ว่าวิกฤตการณ์จะมาเยือนตอนไหน

ข้อที่สองคือ จงอย่าเหยียบย�า่ซ�า้เติมคนที่ก�าลังล้ม แต่ให้ยื่นมือช่วยเหลือเท่าที่พอจะช่วยได้ มิตรที่เห็นหน้าในยามล�าบาก คือมิตรแท้ที่เราจะไม่มีวันลืม

และข้อสุดท้าย ถ้าอยากประสบความส�าเร็จ ทางเลือกเดียวที่เรามี คือ “ชัยชนะ” โดยใช้วิธีการ“สู้ให้ถึงที่สุด” เท่านั้น

: THE SUCCESS180

ถ้าคุณสงสัยว่า “สู้ให้ถึงที่สุด” นี่มันสามารถเห็นเป็นรูปธรรมได้ ไหม ผมก็อยากให้เห็นภาพ

การท�างานของผู้ชายอีกคนหนึ่ง

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 181

พวกเราได้ใช้ผลิตผลจากมันสมอง และความอุตสาหะอย่าง “เหลือคณานับ” ของเขาอยู่ทุกวัน ครั้งใดที่เราเห็นแสงไฟ ก็โปรดตระหนักเถอะครับว่า นั่นเป็นความพยายามครั้งที่สามพันของคนที่ให้ก�าเนิดมันขึ้นมา เขาคือ

“โทมัส อัลวา เอดิสัน” (Thomas Alva Edison)

: THE SUCCESS182

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 183

นักประดิษฐ์ผู้เป็นเจ้าของสิทธิบัตรภายใต้ชื่อของตัวเองถึง 1,093 ชิ้น และได้รับสมญา “พ่อมดแห่งเมนโลพาร์ค” ผู้นี้ เกิดเมื่อปี ค.ศ. 1847 ณ มลรัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา เขาหูพิการมาตั้งแต่เด็ก ไม่สามารถได้ยินอะไรชัด เป็นเหตุให้ผลการเรียนไม่ค่อยดีนัก เพื่อนๆ พากันล้อเลียนและเรียกเขาว่า “ไข่เน่าของห้อง”

หนึ่งในผลงานที่ท�าให้ชื่อของเอดิสันโด่งดังไปทั่วโลก คือการน�าหลอดไฟไปใช้งานจริงในชีวิตประจ�าวัน โดยต่อยอดจากหลักการของหลอดไฟฟ้าที่ถูกพัฒนามาก่อนหน้านี้โดยนักประดิษฐ์หลายท่าน เช่น

เขามีความสุขกับการได้ค้นคว้าและคิดค้นทดลองสิ่งต่างๆ ด้วยตนเอง นอกจากนี้ มารดายังสอนให้เขามองความผิดพลาดเป็นบทเรียน

มากกว่าเป็นอุปสรรคที่ท�าให้ท้อถอย

โชคดีที่เอดิสันมีมารดาที่รักและเข้าใจ เธอสนับสนุนการเรียนด้วยการช่วยสอนหนังสือ และส่งเสริมให้เขาเรียนรู้ด้วยตนเอง เป็นเหตุผลหนึ่งที่ท�าให้เอดิสันชอบการทดลอง เขามีความสุขกับการได้ค้นคว้าและคิดค้นทดลองสิ่งต่างๆ ด้วยตนเอง นอกจากนี้ มารดายังสอนให้เขามองความผิดพลาดเป็นบทเรียน มากกว่าเป็นอุปสรรคที่ท�าให้ท้อถอย การปลูกฝังที่เยี่ยมยอดเช่นนี้ ท�าให้เอดิสันมีทัศนคติที่ดีต่อการท�างาน และไม่กลัวความล้มเหลว

จูเซ็ปป์ สวอน (Juseph Swan) หรือ ไฮน์ริช เกอเบิล (Heinrich Goebel) เพียงแต่สมัยนั้น อายุการใช้งานของหลอดไฟยังไม่ยาวนานเพียงพอที่จะใช้งานได้จริง ผู้คนยังคงใช้ตะเกียง ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดเพลิงไหม้ได้ง่าย

เอดิสันเริ่มต้นจินตนาการภาพ “หลอดไฟ” ของเขาทันที ในช่วงแรกความหวังยังคงสดใส เขากับผู้ช่วยท�าการทดลองอย่างมุมานะ โดยมีชาวเมืองที่รู้ข่าวคอยให้ก�าลังใจ

: THE SUCCESS184

เอดิสันใช้วัสดุทดลองแทบทุกอย่างที่หาได้ ไม่ว่าจะเป็นกระดาษ หมึก ไม้ไผ่ แร่ทองค�า กราไฟท์ ทองแดง ดีบุก สังกะสี กิ่งไม้ พืชผัก ไขมันสัตว์ และอื่นๆ อีกกว่า 3,000 ชนิด เขาล้มลุกคลุกคลานกับการลองผิดลองถูก... และทุกครั้งจะเป็นการ “ลองผิด” เสียมากกว่า ถึงกระทั่งคนรอบข้างเริ่มสูญเสียความมั่นใจ แม้แต่ผู้ช่วยคนสนิทของเขาก็เริ่มท้อถอย

ครั้งหนึ่งในการทดลองครั้งที ่“800” ซึ่งไม่ประสบความส�าเร็จเหมือนทุกครั้งก่อนหน้านี้ ผู้ช่วยของเอดิสันตัดสินใจพูดออกมาว่า...

“ท่านครับ เราคงล้มเหลวแล้วกระมัง เราทดลองมาหลายร้อยวิธีแล้ว แต่ยังไม่มีอะไรคืบหน้าเลย”

เอดิสันตอบกลับมาทันทีว่า “เรายังไม่ล้มเหลว เพียงแต่เรายังไม่ประสบความส�าเร็จในวันนี้เท่านั้น”

ประโยคต่อมาคือ “เราโชคดีที่รู้ว่า มี 800 วิธีที่ไม่สามารถท�าหลอดไฟได้ และเราโชคดีกว่านั้น ที่ยังมีตั้ง 2,000 กว่าวิธีที่ยังไม่ได้ลองท�า”

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 185

: THE SUCCESS186

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 187

ถ้าคุณเป็นผู้ช่วยของเอดิสัน คุณจะอึ้งไหมครับกับค�าตอบของหัวหน้า

ชั่วขณะนั้น คุณคงเห็นความต่างระหว่างผู้ชนะกับผู้แพ้ได้อย่างชัดเจน

“คนพ่ายแพ้” มักอ้าแขนรับความพ่ายแพ้ ก่อนที่มันจะมาถึง

ส่วน “ผู้ชนะ” แม้ยังไม่ได้รับผลส�าเร็จตามเป้าหมาย แต่เขามักคิดว่าตัวเองโชคดีที่ได้เข้าใกล ้“เส้นชัย” ไปทีละน้อยแล้ว

หลอดไฟที่สามารถใช้งานได้จริงก�าเนิดขึ้นในการทดลองครั้งที่ 3,000 ขอขอบคุณความเป็น “ผู้ชนะ” ของเอดิสัน ที่ท�าให้เขาไม่คล้อยตามผู้ช่วยในวันนั้น จึงท�าให้วันนี้เรามีแสงไฟและอุปกรณ์อ�านวยความสะดวกที่เกี่ยวกับไฟอีกล้านแปดบนโลกใบนี้

ยอดนักประดิษฐ์ที่เคยเป็นที่โหล่ของห้องคนนี้ สร้างความมหัศจรรย์ให้กับวงการวิทยาศาสตร์ เมื่อนักข่าวยกย่องให้เขาเป็นอัจฉริยะของโลก เอดิสันกล่าวแต่เพียงว่า...

คุณเห็นภาพของคนที ่“สู้แบบถึงที่สุด” แล้วใช่ไหมครับ

“อัจฉริยะในความคิดของผม ประกอบด้วยพรสวรรค์เพียง 1% ส่วนอีก 99% มาจากความพยายาม”

: THE SUCCESS188

การท�างานของโทมัส อัลวา เอดิสัน สอดคล้องกับ “กฎแห่งความส�าเร็จ” ซึ่งมีขั้นตอนประกอบกันอยู่ 3 ข้อ นั่นคือ

กฎข้อแรก ผู้ที่ประสบความส�าเร็จทุกคนจะต้องมีความสามารถในการ “จินตนาการ” สามารถเห็นภาพสิ่งที่เขาต้องการได้อย่างชัดเจน ยกตัวอย่างจากเอดิสัน เขาเห็นภาพ “หลอดไฟ” ก่อนที่เขาจะเริ่มประดิษฐ์มันขึ้นมา

กฎข้อที่ 2 เมื่อคุณมีภาพชัดเจนแล้ว คุณต้องหา “กลยุทธ์” ให้มากที่สุดที่จะน�าทางให้คุณไปสู่ความส�าเร็จได้ เอดิสันรวบรวมทางหนีทีไล่ของเขาไว้กว่า 3,000 รายการ ซึ่งได้ใช้แทบทั้งหมดเสียด้วย ถ้าเขาคิดง่ายๆ เพียงไม่กี่สิบอย่าง เขาคงล้มเลิกตั้งแต่ต้นทางแล้ว

กฎข้อสุดท้าย เมื่อได้กลยุทธ์แล้ว ต้อง “ลงมือท�า” ทันที เพราะเราไม่รู้ว่าหนทางข้างหน้ามีอะไรรออยู่บ้าง อาจราบรื่นหรือเต็มไปด้วยอุปสรรค ถ้ายังไม่ลงมือท�า ย่อมไม่เข้าใกล้ความส�าเร็จแน่นอน

แต่!! กฎทุกกฎมีข้อยกเว้น ซึ่งหมายความว่า แม้คุณจะท�าตาม“กฎแห่งความส�าเร็จ” ทั้ง 3 ข้อแล้ว ก็อาจไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่ตั้งใจไว้

ผมขอแถมกฎกันพลาดไว้อีกข้อ นั่นคือ เมื่อลงมือท�าแล้ว ต้อง “สู้ให้ถึงที่สุด” สู้ให้ถึงวันสุดท้ายของชีวิตจ�าไว้ว่า...ถ้ายังไม่สิ้นลมหายใจ กรรมการยังไม่เป่าหมดเวลา เมื่อนั้นเรายัง “ไม่แพ้” ครับ

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 189

หากใส่ “เกลือ” ลงในน�า้เราจะได ้“น�้าเค็ม” หนึ่งถ้วย

หากใส่ “น�้าตาล” ลงในน�้าเราจะได ้“น�้าหวาน” หนึ่งถ้วย

หากใส่ “น�้าใจ” ลงในน�า้เราจะได ้“น�้าเปล่า” หนึ่งถ้วย

: THE SUCCESS190

เราเลือก ที่จะ มีชีวิตอยู่ อย่าง โกรธแค้น

เราเลือก ที่จะ มีชีวิตอยู่ อย่าง มีความสุข

เราเลือก ที่จะ มีชีวิตอยู่ อย่าง เปี่ยมด้วยความรัก

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 191

10Believe

in yourself เชื่อว่าท�าได้

อ่อนแอความอ่อนแอ

ไม่สามารถท�าให้เราเดินถึงเป้าหมายได้

ความอ่อนแอท�าให้เราเดินๆ หยุดๆ และส่วนใหญ่จะหยุดมากกว่าเดิน

ความอ่อนแอไม่ได้ท�าให้หัวใจแข็งแกร่งขึ้นเลย

: THE SUCCESS194

แข็งแกร่งคนที่ประสบความส�าเร็จในโลก

ไม่ได้มีกล้ามใหญ่โตทุกคน

หากดูจากรูปร่างภายนอกแล้ว บิล เกตส์ + สตีฟ จ๊อบส์ + มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก

ดูแล้วจะไม่มีกล้ามอันทรงพลังเลย

แต่ที่แน่นอน พวกเขามี “หัวใจที่แข็งแกร่ง”ที่เรามองไม่เห็น...หัวใจของเขา

แต่สิ่งนั้นมันอยู่ใน “คนที่ประสบความส�าเร็จทุกคน”

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 195

: THE SUCCESS196

ก่อนที่จะปิดหนังสือเล่มนี้ และเริ่มลงมือท�า “ความฝัน” ของคุณให้เป็นจริง ผมมีแบบทดสอบ “ซ้อมใหญ่” ก่อนที่จะส่งคุณลงสนาม เพื่อให้แน่ใจว่า คุณจะไม่ใช่ “หมู” ที่โดนสิ่งรอบข้างเชือดเฉือนจนต้องวิ่งกลับมาซุกอยู่ในโลกของความเพ้อฝันตามเดิม

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 197

แบบทดสอบของผมมี 2 ข้อ ก่อนอื่นให้คิดถึงความฝัน ความปรารถนาที่มีความหมายในชีวิตคุณ แล้วโปรดตอบค�าถาม...

ข้อแรก ถ้าคนทั้งโลกฟังความฝันของคุณ จากนั้นพวกเขามองคุณหัวจรดเท้าพร้อมกับหัวเราะอย่างเป็นบ้าเป็นหลัง แล้วบอกว่า“ตื่นได้แล้ว มันไม่มีทางเป็นไปได้แน่ๆ ไม่มีวัน” มีแค่ ตัวคุณคนเดียว เท่านั้น ที่เชื่อมั่นว่า “เราท�าได้”

คุณคิดว่า สุดท้ายความฝันของคุณจะส�าเร็จไหมครับ

: THE SUCCESS198

คุณคิดว่า...สุดท้ายความฝันของคุณจะส�าเร็จไหมครับ

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 199

ข้อสอง ถ้าความฝันนั้น คนทั้งโลกเชื่อมั่นว่า “คุณท�าได้” แต่ลึกๆ แล้วตัวคุณรู้สึกไม่มั่นใจ ประหม่า กังวล ไม่ไว้ใจศักยภาพของตัวเอง คุณต้องการมัน แต่ไม่แน่ใจว่า... “จะท�าได้หรือไม่”

คุณคิดว่าสุดท้ายความฝันของคุณจะส�าเร็จไหมครับ

อะไรคือตัวก�าหนดว่าคุณจะประสบความส�าเร็จหรือไม่... ระดับความฝันว่ายากง่ายเพียงใด ความมั่นใจในตัวเอง หรือความมั่นใจจากผู้อื่น??

ผมจ�าเป็นต้องย�า้เรื่องนี้ในบทสุดท้าย เพราะเมื่อคุณเปิดตัว “ความฝัน” ให้ปรากฏบนโลกใบนี้ และเริ่มก้าวเดินเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายแล้ว มันจะมีอะไรบางอย่างคอยทดสอบคุณตลอดเส้นทาง

และการทดสอบที่โหดหินที่สุด คือ “แรงกระทบจากคนรอบข้าง” ไม่ว่าจะเป็นค�าวิพากษ์วิจารณ์ ค�าปรามาส ดูถูก หรือแม้แต่ความไม่มั่นใจที่เขามีต่อคุณ สิ่งที่น่ากลัวคือ ถ้าคุณยอมให้แรงกระทบเหล่านี้มีผลสั่นคลอนกับความเชื่อมั่นในตัวคุณเองแม้แต่เพียงครั้งเดียว หรือ เพียงแค่เปอร์เซ็นต์เดียว

ความล้มเหลว จะมาเยือนคุณทันที

: THE SUCCESS200

และนี่คือด่านสุดท้ายที่คุณต้องผ่านไปให้ได้ จ�าไว้ว่าถ้าคุณต้องการความส�าเร็จ ในโลกนี้ไม่มีอะไรส�าคัญเท่ากับ “ความเชื่อมั่นว่าตัวเองท�าได้” ต่อให้ความฝันของคุณยากเย็นสุดขอบจักรวาล หรือคนทั้งโลกส่ายหน้า ก็ไม่มีผลใดๆ ทั้งสิ้น

คุณ และ คุณ...เท่านั้น ที่มีผลต่อเป้าหมายในชีวิตของคุณเอง ถ้าคุณล้มเหลว ก็หมายความว่าคุณตัดสินใจยอมแพ้เอง ไม่ได้มีใครหรือเหตุการณ์ใดมากระท�าต่อคุณ

คุณทราบไหมครับว่า ประธานาธิบดีอับราฮัม ลินคอล์น หนึ่งในผู้น�าประเทศที่ยิ่งใหญ่และเป็นที่รักของประชาชนมากที่สุดของสหรัฐอเมริกา มีประวัติชีวิตอย่างไร

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 201

“ความเชื่อมั่นว่าตัวเองท�าได้”

: THE SUCCESS202

เขามีทั้งความเฉลียวฉลาด มีท่าทีอ่อนโยน ผสานกับความแข็งแกร่ง มุมานะเพียรพยายาม ซื่อสัตย์ และเปี่ยมด้วยวิสัยทัศน์กว้างไกล หลายคนคิดว่าเขาได้รับการหล่อหลอมมาจากครอบครัวที่สมบูรณ์ แท้ที่จริงแล้วเขาเป็นเพียงลูกชาวนายากจน มีโอกาสได้เข้าโรงเรียนเพียง 13 เดือนเท่านั้น แต่ด้วยความมุมานะ เขาจึงพยายามหาความรู้ด้วยตนเอง ว่ากันว่า เขารักการอ่านมาก ถึงขนาดเดินไกลหลายกิโลเพื่อไปยืมหนังสือกลับมาอ่านที่บ้านเพียงเล่มเดียว

อับราฮัม ลินคอล์น ท�าตามความฝันครั้งแรกด้วยการลงสมัครรับเลือกตั้งสภาจังหวัดเมื่ออายุ 23 ปี แต่ก็พ่ายแพ้ อีกสิบปีต่อมา เขาสมัครเข้าชิงต�าแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แต่ไม่ได้รับเลือก พออายุ 39 เขาลงสมัครอีกครั้ง แต่สอบตก จนอายุ 46 เขาสมัครชิงต�าแหน่งวุฒิสภา แต่ไม่ได้รับการแต่งตั้งตามเคย และปีต่อมา เขาพ่ายแพ้คู่แข่งในพรรคในการสมัครเป็นตัวแทนชิงต�าแหน่งรองประธานาธิบดี และเชื่อไหมว่า เมื่อเขาอายุ 50 ปี เขาต้องผิดหวังอีกครั้งเมื่อพบกับความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งวุฒิสมาชิก

คนรอบข้างเหนื่อยใจแทนเขา บางคนก่นด่าโชคชะตา โอกาส และบุคคลรอบข้างเพื่อให้ลินคอล์นสบายใจขึ้น แต่ตัวลินคอล์นที่เป็นเจ้าของเรื่องตัวจริง กลับไม่เคยกล่าวโทษใครหรือสิ่งใดเลย

และที่ส�าคัญ คือ เขายังคงเชื่อมั่นในตัวเอง...เหมือนเดิม

เขารักการอ่านมาก ถึงขนาดเดินไกลหลายกิโลเมตร เพื่อไปยืมหนังสือกลับมาอ่านที่บ้านเพียงเล่มเดียว

สมัยวัยรุ่น เขาได้เห็นชีวิตความเป็นอยู่ของทาสที่ถูกขายทอดตลาด ณ รัฐนิวออร์ลีน ลินคอล์นเกิดความคิดอยากจะปลดปล่อยทาส จุดประกายให้เขาสนใจอาชีพทนายความและนักการเมือง

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 203

: THE SUCCESS204

เมื่อสิ่งที่ฝันยังไม่ส�าเร็จ เขาก็แค่เปลี่ยนกลยุทธ์ใหม่ และลงมือท�าต่อไปเรื่อยๆ เท่านั้นเอง และอาจเป็นเพราะเขาไม่มานั่งเสียเวลาในการหาแพะรับบาป หากแต่ทุ่มเทเวลาในการมองจุดอ่อนจุดแข็ง และหาวิธีการใหม่ๆ เพื่อก้าวต่อไป ท�าให้ในปีที่เขาอายุครบ 51 ปี ลินคอล์นได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดีคนที่ 16 ของอเมริกา

“เขาท�าตามสิ่งที่เคยตั้งใจไว้ นั่นคือพยายามประกาศเลิกทาส” แต่เนื่องจากรัฐทางตอนใต้ของอเมริกา ประกอบอาชีพเกษตรกรรมที่ต้องใช้แรงงานมาก ดังนั้นจึงเกิดความขัดแย้งและคัดค้านการเลิกทาสกระจายเป็นวงกว้าง จากความขัดแย้งยกระดับกลายเป็นสงครามในที่สุด รัฐทั้ง 11 แห่งทางตอนใต้ประกาศแยกตัวเป็นอิสระ สงครามเริ่มต้นขึ้น และ ต่อเนื่องยาวนานนับปี

ในปี ค.ศ. 1863 รัฐทางตอนเหนือ น�าโดยลินคอล์นเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะ ท�าให้สหรัฐอเมริกาประกาศเลิกทาสส�าเร็จในที่สุด เขาได้รับการยกย่องให้เป็นบิดาของระบอบประชาธิปไตยสมัยใหม่ เป็นผู้น�าที่ได้รับการยอมรับและเป็นที่รักใคร่ของประชาชนมากที่สุดคนหนึ่ง จากลูกชาวนาที่พ่ายแพ้ทุกสมรภูมิการเลือกตั้ง เขากลายเป็นมหาบุรุษผู้เป็นต�านานแห่งเสรีภาพ อิสรภาพ และภราดรภาพของอเมริกา

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 205

อับราฮัม ลินคอล์นได้รับการยกย่องให้เป็น

บิดา ของ ระบอบประชาธิปไตยสมัยใหม่ เป็น ผู้น�าที่ ได้รับการยอมรับ

และเป็น ที่รักใคร่ของประชาชนมากที่สุดคนหนึ่ง

: THE SUCCESS206

เรื่องราวของลินคอล์นไม่ใช่เรื่องบังเอิญครับ ... ถ้าไม่เช่นนั้น คนอีกมากมายคงไม่มีวันประสบความส�าเร็จ

คุณอาจเคยได้ยินชื่อผู้ชายคนนี้ “นายพลดักลาส แมคอาเธอร์” ผู้พิชิตแปซิฟิคแห่งสงครามโลกครั้งที่ 2 เขาต้องพยายามถึง 3 ครั้ง กว่าจะได้รับคัดเลือกให้เข้าเรียนในโรงเรียนเตรียมทหารเวสปอยต์

“ไมเคิล จอร์แดน” นักบาสเกตบอลอัจฉริยะผู้ท�ารายได้สูงล�าดับต้นๆ ของนักกีฬาโลก เคยโดนไล่ออกจากทีมบาสเกตบอลโรงเรียนมาแล้ว คนรอบข้างมักบอกว่า... เขาฝีมือสู้พี่ชายไม่ได้

“เอลวิส เพรสลีย์” เคยโดนไล่ออกจากสังกัด และโดนดูถูกว่า... “ฝีมือไม่ได้เรื่อง ควรกลับไปขับรถบรรทุกมากกว่า”

เช่นเดียวกับหญิงสาวอีกคนที่มีความฝันอยากเป็นนักแสดง เธอโดนผู้จัดการเอเจนซี่ปรามาสว่า...

“เธอควรไปเรียนด้านเลขา หรือ ไปแต่งงานซะดีกว่า”

ถ้าเธออ่อนไหวกับค�าพูดนั้น นอร์มา จีน เบเกอร์ คงไม่ได้กลายเป็น

“มาริลีน มอนโร” นักแสดงผู้เป็นอมตะในความทรงจ�าคนทั่วโลก

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 207

: THE SUCCESS208

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 209

ไม่มี “เรื่องบังเอิญ” หรือ “โชคดี” ในชีวิตจริงครับ ทุกคนที่ประสบความส�าเร็จล้วนแต่รับผิดชอบความฝันของตัวเองกันทั้งนั้น

พวกเขาลงมือท�า และยอมรับผลดีผลเสียโดยไม่โทษใคร

และที่ส�าคัญ พวกเขาเชื่อว่า“ตัวเองท�าได้” และ ไม่ยอมให้ใครหรือ เหตุการณ์ใดมาปล้นชิงความฝัน และ ความส�าเร็จจาก เขาไป...แม้แต่นาทีเดียว

: THE SUCCESS210

ตอนนี้ถึงเวลาแล้วหรือยังครับ ที่คุณจะรับผิดชอบความฝันของตัวเอง เลิกกล่าวโทษผู้อื่น เลิกหาแพะรับบาป และ กล้าที่จะยอมรับความผิดพลาด

ถึงเวลาแล้วหรือยังครับ ที่คุณจะทุ่มเทท�าเพื่อความฝันแบบเอาชีวิตเข้าแลกและถึงเวลาแล้วหรือยังครับ ที่คุณจะ

“เชื่อมั่นในความสามารถของตนเอง” เหมือนที่คุณเชื่อมั่นคนอื่น

ถ้าคุณตระหนักว่า ชีวิตนี้แสนสั้นเกินกว่าที่จะรอคอยต่อไปได้ ก็อย่าถ่วงเวลาความส�าเร็จอีกต่อไป

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 211

เพราะเพียงแค่คุณเริ่มต้น “ลงมือท�า” ณ ตอนนี้ เวลานี้ วินาทีนี้...

ความส�าเร็จก็มา รอคุณอยู่ที่ปลายทางแล้วครับ

หากเราศรัทธาในสิ่งที่เรามองไม่เห็น

สิ่งนั้นจะเกิดขึ้นจริงเพราะความศรัทธา

ของเราเอง

: THE SUCCESS212

หากเราปล่อยให้“ความคิดลบ”

เข้ามาในหัวมากเกินไป

เราจะสูญเสียทุกสิ่งรวมทั้ง “พลังศรัทธา”

ที่เราเคยมี

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 213

: THE SUCCESS214

ข้อมูลอ้ำงอิง

บทที่ 1

http://www.baanjomyut.com/library_2/extension-1/christopher_columbus/index.html

บทที่ 2

http://th.wikipedia.org/wiki/เฉินหลง

บทที่ 4

http://th.wikipedia.org/wiki/สตีฟ_จอบส์

บทที่ 5

เพียงคิดเป็นภำพควำมส�ำเร็จก็มีขึ้น โดย ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์http://www.oknation.net/blog/print.

php?id=755357

บทที่ 7

บุกคนส�ำคัญ.นิ้วกลม. “ถึง อัลวำโร นีล” .ส�ำนักพิมพ์มติชน.2553

www.baanjomyut.com ประวัติวินเซนต์ แวน โกะห์

บทที่ 8

ดูจิตชั่วพริบตำ.ประเสริฐ อุทัยเฉลิม.ส�ำนักงำนพิมพ์อมรินทร์ธรรมะ.2552

http://th.wikipedia.org/wiki/อเล็กซ์_เฟอร์กูสัน

“โค้ชอ๊อต... ผู้อยู่เบื้องหลังควำมสุขของคนไทยทั้งประเทศ” นิตยสำร Secret ฉบับที่ 128 ปักษ์หลัง 26 ตุลำคม 2556

บทที่ 9

http://th.wikipedia.org/wiki/โดนัลด์_ทรัมป์

http://th.wikipedia.org/wiki/โทมัส_เอดิสัน

บทที่ 10

http://th.wikipedia.org/wiki/อับรำฮัม_ลินคอล์น

ด�ำรงค์ พิณคุณ : 215

ผลงานเขียน ชุด เกา ก่อน ได้ เปรียบ

เกาสมองบอกทางออกของชี วิ ต รวมถึ ง แง ่ คิ ด เ รื่ อ งการพัฒนาตน เอง พัฒนาสมอง

พัฒนาความรู ้ พัฒนาความคิด พัฒนาทัศนคติและบอกทางไปสู่จุดสุดท้ายของชีวิต

แ ล ้ ว บ อ ก วิ ธี เ ดิ น ท า ง ห า ค ว า ม สุ ข ที่ แ ท ้ จ ริ ง ว ่ า “ ค ว า ม สุ ข แ ท ้ จ ริ ง อ ยู ่ ท่ี ใ ด ”

เกามนุษย์ บอกแนวทางการด�าเนินชีวิตและบริหารจิตใจเพื่อการเรียนรู้ ชีวิต และ ทัศนคติความคิดแง่บวกและลบของมนุษย์ เพราะมนุษย์ทุกคนต่างมีตัวตนซึ่งคิดว่า ตนเองถูกเสมอ

จึงมีตัวอย่างคน 4 ประเภท ที่พฤติกรรมแตกต่างกัน แม้ในเรื่องเดียวกัน เหมาะกับผู้ที่

ก�าลังค้นหาความสุขของชีวิต และการใช้ปัญญาในการด�าเนินชีวิต ไม่ลุ่มหลงสิ่งใดสิ่ง

หนึ่งจนเกินไป ด�าเนินชีวิตตามหลักสัจธรรม เดินทางสายกลาง

เกาเวลาบอกแนวคิดการบริหารเวลาเพ่ือเสริมสร้างประโยชน์ทางความคิด การทำางาน และทางจิตใจ เพราะว่าเรามีเวลาจ�ากัด เราจึงไม่ควรเดินหลงทางหรือเดินอ้อมไปไกล ควร

จะเดินตรงไปจุดหมายปลายทางที่ฝันไว้ เหมาะกับนักศึกษา คนท�างาน นักธุรกิจ

และผู้บริหาร รวมทั้งผู้ที่ก�าลังค้นหาประโยชน ์และ คุณค่าของเวลา

เกาโลกแสดงให้เห็นถึงคุณค่าของการมองโลกในมุมมองต่างๆ กันไป รวมถึงแง่คิดเรื่อง

พัฒนาวิธีการใช้ ตามองโลก หรือใช้ ใจมองโลก เพื่อประโยชน์ทางการท�างาน

และทางจิตใจ รวมทั้งบอกวิธีที่จะใช้ มุมมอง ให้เกิด ความสุขในชีวิต เมื่อยังมีชีวิต

ผลงานเขียน ชุด เคล็ดลับสร้างแบรนด์

50 Brand impressionแนวคิดการสร้างความประทับใจในแบรนด์ ซึ่งในอดีตนักการตลาดมักเรียก

สิิ่ ง ที่ อ ยู ่ ใ น ใ จ “ ผู ้ บ ริ โ ภ ค ” ว ่ า “ ก ล ่ อ ง ด� า ( B l a c k B o x ) ”

หนังสือเล่มนี้พยายามท�าให้ “นักการตลาด + นักธุรกิจ + คนท�าการค้า”

เข้าใจถึงวิธีที่จะท�าให้องค์กรสนองตอบความต้องการของผู้บริโภคได้โดยง่าย

50 Brand Buildingหลักการสร้างแบรนด์ ที่นักการตลาดจ�าเป็นต้องรู ้ คนท�าธุรกิจจ�าเป็นต้องรู ้

เ พ่ือการท�าการตลาด และสร้างแบรนด์ ให้เป ็นที่รู ้จัก วิธีการสร้างแบรนด์

ไม ่ ใช ่ เรื่องยากอีกต ่อไป หากเราเข ้าใจถึงแก ่นแท ้ของการสร ้างแบรนด ์

กลยุทธ ์หลายอย่าง ไม ่จ�าเป ็นต ้องยาก หากอยากเป ็นนักสร ้างแบรนด์

ที่ประสบความส�าเร็จ ใช ้งบประมาณอย่างเหมาะสม ยิ่งต้องอ่านให้เข ้าใจ

50 Digital Marketingแนวคิดด้านการท�าการตลาดผ่านโซเชียลเน็ตเวิร ์ค (Social Network)

เรื่ อง ใหม ่ + ทฤษฎี ใหม ่ ที่ เหมาะกับการท� าการตลาดแบบคนรุ ่ น ใหม ่

การท�าให้แบรนด์โด่งดังในกระแสดิจิตอล ท�าได้อย่างไร และมีวิธีการอย่างไร

เ รื่ อ ง เหล ่ า น้ีสามารถ เรี ยนรู ้ กั น ได ้ด ้ วยตน เอง และท� า ได ้ด ้ วยตน เอง

50 Brand Managementการจัดการกับแบรนด์ เหมือนกับ การจัดการภายในองค์กรใดองค์กรหนึ่ง

จ� า เป ็ นต ้ องมี ร ะบบ + ร ะ เบี ยบ ในการจัดการบริ หารอย ่ า ง เ รี ยบร ้ อย

วิธีการท�าแบรนด์ให้เหมาะสมกับ “การวางต�าแหน่งสินค้า” (Market Positioning)

เป็นเรื่องส�าคัญ เพราะสามารถท�าให้การสร้างแบรนด์ที่เคยท�ามานั้น...ยั่งยืน

ผลงานเขียน ชุด เกา ร้อย ได้ ร้อย

10 คิด...เปลี่ยนชีวิตใหม่เป็นหนังสือที่บอกแนวทางการคิด และการกระท�าที่ถูกต้อง ที่จะท�าให้ผู้อ่านสามารถ

เดินหาทางออก ค้นหาความส�าเร็จโดยที่จะเริ่มต้นจากพลังความคิดที่ถูกต้องก่อน

และตามด้วยวิธีการที่ถูกต้อง เพราะคนที่ประสบความล้มเหลว มักจะด�าเนินชีวิต

แบบผิดๆ คิดผิด และท�าผิดเหมือนกับคนบนถนนที่มีแต่ความมืดมิด ท�าอย่างไรก็ไม่

ได้ตามเป้าหมายที่ก�าหนดไว้สักที

20 คิด...สร้างสรรค์ถ้าจะเริ่มต้นเดินทางตามเป้าหมายความฝันให้เป็นจริงแล้ว วิธีการที่มนุษย์จะท�าสิ่ง

แรกก็คือ การคิด วิธีการเก็บเกี่ยวเรื่องราวต่างๆ ของตนให้กลายมาเป็นแง่คิด เป็น

หลักการคิด ส�าหรับคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการด�าเนินชีวิตโดยใช้หลักการคิดที่ถูกวิธี เพื่อ

ความส�าเร็จในชีวิต

30 คิด...สร้างความฝันหนงัสอืเล่มนีเ้หมาะส�าหรบัคนทีอ่ยากรูค้�าตอบ เร่ืองความกล้าหาญ ความพยายาม

และความตัง้ใจ คนมากมายท่ีอยากจะก้าวเดินไปข้างหน้า เพือ่สร้างฝันให้เป็นจริง แต่

ความส�าเร็จของบุคคลมากมาย ล้วนแลกมาด้วยหยาดเหงื่อ แรงกาย แรงใจ ความ

มุ่งมั่น และไม่ยอมแพ้

40 วิธี...คิดบวกมนุษย์ส่วนใหญ่มีความคิดลบเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว แต่เราสามารถท�าลายก�าแพงความ

คดิลบเหล่าน้ันได้โดยการใช้เรือ่งง่ายๆ ท่ีเราพบเจอในชวีติประจ�าวนั เพราะเราสามารถ

มองทุกอย่างในมมุบวกได้ แม้แต่เรือ่งเลก็ๆ น้อยๆ กต็าม หากเราอยากเป็นคนทีม่คีวาม

คิดบวก เราก็ต้องเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ หาเรื่องดีๆ มาเป็นอาหารสมอง และไม่สะสมเรื่อง

ร้ายๆ เข้าไปในสมองของเรา

ผลงานเขียน ชุด ร้อย คิด ร้อย ท�า

ผลงานเขียน ชุด ไอ + เดีย + มัน + เวิร์ค

Marketing Idea หนังสือท่ีรวบรวมแนวคิดหลักการตลาดหลายเรื่องไว้ในเล่ม เพราะกลยุทธ์ด้าน

การตลาดน้ัน ต่างสินค้ากัน ต้องใช้กลยุทธ์ต่างกัน สินค้าเดียวกัน ต่างยุคต่าง

สมัยกัน ก็ต้องใช้กลยุทธ์การตลาดไม่เหมือนกัน หนังสือเล่มนี้ รวมเรื่องหลักการ

ตลาด พร้อมค�าชี้แนะในกลยุทธ์การตลาดที่รวบรวมไว้ส�าหรับนักการตลาด เพื่อ

นักการตลาด เขียนโดยนักการตลาดตัวจริง

Product Marketing หนังสือที่แยกแยะตัวสินค้าออกเป็นหมวดหมู่ของลูกค้า หมวดหมู่ของผู้ผลิต และแนวทาง

ในการจัดจ�าหน่าย เพราะสินค้าแต่ละกลุ่ม แต่ละประเภทใช้งานไม่เหมือนกัน วิธีการใช้งาน

ไม่เหมือนกัน หลักการคิดด้านตัวสินค้าจะเป็นแนวทางให้กับนักธุรกิจ พ่อค้า นักการตลาด

นักขาย สามารถมองเห็นได้ว่าสินค้าของตนควรจะต้องบริหารอย่างไร ลูกค้าใช้บ่อยเพียง

ใด หรือสินค้าเราเหมาะกับลูกค้าประเภทไหน หากเราไม่รู้ว่าเราก�าลังขายสินค้าประเภทใด

อยู่ในมือ แล้วสินค้านี้จะท�าให้มีเงินเป็นกอบเป็นก�าได้หรือไม่ แล้วเราจะท�าส�าเร็จได้อย่างไร

Marketing Classic หนังสือรวบรวมกลยุทธ์การตลาดแบบคลาสสิค หรือเร่ืองราวการตลาดท่ีน่าจดจ�า ท�าให้

แบรนด์แต่ละแบรนด์รุ่งขึ้นมาได้อย่างไร วิธีการที่ใช้ในการท�าการตลาดของเราควรจะเป็น

แบบไหน และท�าไมสินค้าแบบเดียวกันจึงมีวิธีท�าการตลาดไม่เหมือนกัน แต่ก็ประสบความ

ส�าเร็จได้เหมือนกัน หนังสือที่รวมเรื่องราวที่ชวนติดตาม พร้อมค�าอธิบายตามทฤษฎีการ

ตลาดที่นักการตลาด นักธุรกิจ ควรอ่าน

Marketing Different การตลาดทีส่ามารถเข้าถงึลกูค้าได้ ต้องมคีวามเป็นเอกลกัษณ์ หรอืความไม่เหมอืนใคร หรอื

เรยีกอกีอย่างว่าความแตกต่างทีล่งตวั หนงัสอืทีว่เิคราะห์ให้เหน็ว่า การตลาดทีดี่ควรจะแตก

ต่างจากคูแ่ข่งอย่างไร และท�าไมต้องแตกต่าง เมือ่แตกต่างแล้วท�าไมถงึขายสนิค้าได้ด้วย การ

สร้างความแตกต่าง เป็นการสร้างความโดดเด่นให้ประทับอยู่ในใจของลูกค้า และความแตก

ต่างแบบไหนถึงจะเรียกว่า ดี และแตกต่างอย่างไรถึงไม่ประสบความส�าเร็จ

ผลงานเขียน ชุด ไอ + เดีย + มัน + เวิร์ค

ผลงานเขียน ชุด กลยุทธ์ธุรกิจ

Creative Marketingส่ิงท่ีแบ่งแยกนักการตลาดห่วยๆ กับนักการตลาดขั้นเทพออกจากกันคือ “ความคิด

สร้างสรรค์” การเข้าใจส่งผลให้เกิดการคิดเป็น Concept อย่างสร้างสรรค์ โดยมี

แผนการปฏิบัติที่ชัดเจนและวัดผลได้ ยืดหยุ่นได้ เมื่อผลที่ได้รับไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้

“Creative Marketing” จึงเรียบเรียงการตลาดยุคใหม่ส�าหรับโลก Social Network

ที่เข้ามามีบทบาทส�าคัญอย่างมากต่อการท�าธุรกิจ เพื่อเป็นแนวทางในการท�าธุรกิจให้

ประสบความส�าเร็จ

เกาสมอง ตอน สิ่งมีค่ามากกว่าเงินจะชวนให้คิดนอกกรอบ โดยใช้หลกัจติวทิยาและทศันคตเิชงิบวกเป็นเครือ่งมอืส�าหรบัการ

พัฒนาตนเอง และเป็นแนวทางในการด�าเนนิชวีติเพือ่มุง่ไปสูเ่ป้าหมายทีว่างไว้ หนงัสอืเล่ม

นี้เหมาะกับทุกเพศ ทุกวัย ที่ต้องการความส�าเร็จและความสุขในชีวิต

ปีศาจกลยุทธ์หากเรา “ตัวเล็กกว่า” คู่แข่ง จงเสาะหา “พรรคพวก” ที่ท�าให้เราดูแกร่งกว่า “ความคิดที่

ยอดเยี่ยม + ฝีมือสุดยอด” เท่านั้น จึงจะได้ผลลัพธ์ที่สุดยอดอย่างแท้จริง กลยุทธ์ไม่ใช่แค่

ชนะแต่ต้องกินให้เกลี้ยง อัจฉริยะทางกลยุทธ์ท�าให้สามารถวิเคราะห์สถานการณ์ต่างๆ ได้

อย่างละเอียดและแยบยล ซึ่งแต่ละกลยุทธ์ได้ถูกคัดสรรไว้เป็นอย่างดีแล้วในหนังสือเล่มนี้

Start at Smartเมื่อทุกคนในโลกก�าลังสับสนวุ่นวาย จงอย่าสับสนตามไปกับคนอื่น เพราะนั่นแหละคือ

“โอกาส” เวลาเดินหน้าของคุณมาถึงแล้ว หนังสือเล่มนี้จะบอกเคล็ดลับในการเริ่มต้นท�า

ธุรกิจ เคล็ดลับการสร้างธุรกิจส่วนตัว เหมาะส�าหรับนักศึกษา คนทั่วไป และคนท�างานที่

ต้องการสร้างธุรกิจส่วนตัวด้วยตนเอง

Everything is Marketingเหมาะส�าหรับคนที่มองทุกเรื่องเป็นเรื่อง การตลาด ใครว่าการตลาด เป็นเรื่อง

ของนักธุรกิจ หนังสือเล่มนี้ตอบให้เลยว่าทุกคนก็สามารถเรียนรู้เรื่องการตลาดได้

อ่านแล้วคุณจะรู ้ว่า ความส�าเร็จที่แท้ก็อยู่แค่ปลายจมูก ที่เรามักจะมองไม่เห็น

การน� ากลยุทธ ์การตลาดมา เล ่ า ให ้ เ ราอ ่ าน เหมือนกับ เป ็น เรื่ องง ่ าย

ตบท้ายด้วยการน�าหลักการตลาดมาสรุปให้เราได้เรียนรู ้ทฤษฎีกันอีกชั้นหนึ่ง

Big Idea makes Big Money หนังสือที่ เหมาะกับคนคิดเรื่องใหญ่ๆ “เรื่องเล่าเกาธุรกิจ” รวบรวมแนวคิด

ของคนที่ประสบความส�าเร็จจากการท�าธุรกิจ สิ่ งที่คุณอาจไม ่รู ้มาก ่อน

เช ่น คนตายท�าเงินมากกว ่าคนเป ็น ลูกสาวใครรับมรดกมากที่สุดในโลก

อะไรคือดัชนีวัดความร�่่ารวยของประเทศ หนังสือการตลาด ของนักการตลาด

ที่ต ้องการสร้างตลาด สร้างยอดขาย ด้วยแนวคิดด้านการตลาดสมัยใหม่

Life CoachLife Coach ท่ีจะบอกวิธีการจัดการชีวิตให้ลงล็อกในทุกช่วงอายุ เตรียมพร้อม

ทุกสถานการณ์ เมื่อชีวิตถึงจุดเปลี่ยน บางคนไม่รู้ว่าตนเองต้องท�าอะไร ในช่วงเวลาใด

และคนที่ประสบความส�าเร็จ + มีความสุขกับชีวิต เขารู้เคล็ดลับของการใช้ชีวิตให้มี

ความสุขได ้อย ่างไม ่ยากเลย...หนังสือคุณภาพ จากชุด The Success

Life Management Life Management สว่าง 8 ด้าน หนังสือที่จะเผยเคล็ดลับการบริหารชีวิตให้มีความ

สขุ พบกบัความส�าเรจ็และสขุภาพแขง็แรงแบบทางสายกลาง ไม่ตึงเกนิไป และไม่หย่อน

เกินไป โดยใช้แนวความคิดเชิงจิตวิทยาบุคลิกภาพ (Personality Psychology)

ร ่ วมศึกษา และพัฒนาตนเองจากหนังสือชุดคุณภาพ The Success

ผลงานเขียน ชุด กลยุทธ์ธุรกิจ

ผลงานเขียน ชุด เกา + เท่า + ที่ + คัน

CEO ต้องรู้ หนงัสือรวมเคลด็ลบัเรือ่งราวของผูบ้รหิารทีต่อ้งเขา้ใจกอ่นลงมอืปฏบิตั ิความรูท้ีส่ามารถน�า

ไปใช้ได้อย่างถูกวิธี แต่ถ้าผู้บริหารท่านใดน�าความรู้ที่ได้มานั้นไปใช้อย่างไม่ถูกวิธี ก็จะท�าให้

องคก์รไมไ่ดก้า้วหนา้ไปไหน แตย่ิง่กลบัท�าใหอ้งคก์รกา้วถอยหลงัไปอกี หลกัการบรหิารธรุกจิ

และแนวความคิดด้านการบริหารจะต้องไปในทิศทางเดียวกัน หลักการที่ถูกต้องนี้จะท�าให้

องค์กรเดินหน้าไปได้อีกไกล เติบโตได้ไม่สิ้นสุด

Marketing ต้องรู้ หนงัสอืรวบรวมกลเมด็เคลด็ลบัทีน่กัการตลาดต้องรู ้หนงัสอืทีส่ามารถบรรยายถงึเรือ่งราว

การตลาดออกมาให้เข้าใจได้ง่าย วธีิการท�าการตลาดเป็นเรือ่งทีซั่บซ้อน หากเราท�าการตลาด

โดยไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ ก็จะท�าให้กลุ่มเป้าหมาย และลูกค้าเกิดความสับสนในสิ่งที่เราท�าลง

ไป ยิ่งเสียเงินท�าการตลาดมาก ลูกค้ากลับเกิดความสับสนมาก

Management ต้องรู้ หนังสือแนะแนววิธีการที่ใช้กันในการวางแผนระดับกลยุทธ์ธุรกิจ เหมาะกับผู้บริหารที่จ�าเป็น

ต้องรู้ก่อนที่จะลงมือปฏิบัติจริง เพราะเมื่อไรที่ผู้บริหารได้เข้ามาท�างาน ก็จะเกิดแรงต้านของ

การเปลี่ยนแปลง หรือเกิดความไม่เข้าใจกันในทีมงาน สิ่งที่ผู้บริหารต้องรู้ คือจะจัดการและ

ควบคุมสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างไร โดยอาศัยหลักวิชาการด้านการบริหารจัดการอย่าง

ถูกต้องและเหมาะสมที่สุด

Strategy ต้องรู้ หนงัสอืรวบรวมกลยทุธ์ในการด�าเนนิธรุกจิ หลกักลยทุธ์ของผูน้�าตลาดคอือะไร หลกักลยทุธ์

ของผู้ตามคืออะไร วิธีใดท่ีสามารถโจมตีคู่แข่งได้ และเอาชนะคู่แข่งได้โดยเสียก�าลังพลน้อย

ท่ีสุด กลยุทธ์ท่ีดีเหมือนมีอาวุธท่ีดีอยู่ในมือ เพียงแต่ผู้มีอาวุธนั้นจะใช้กลยุทธ์นั้นเป็นหรือ

ไม่ หนังสือที่แนะน�ากลยุทธ์ในการโจมตี และตั้งรับเชิงธุรกิจได้อย่างสวยงามน่าอัศจรรย์

ดาวน์โหลด Application “DAMRONGPINKOON” วันนี้

ได้รับหนังสือฟรี 1 เล่ม

(ebook มาพร้อมกับการดาวน์โหลด Application)

คนในถ้วยหนังสือเล่มนี้จะบอกถึงเคล็ดลับ... ในการเข้าใจมนุษย์ เข้าใจตนเอง และเข้าใจผู้อื่น

โดยเปรียบชีวิตของคนคนหนึ่งเป็นดั่งถ้วยกาแฟใบเล็กที่มีส่วนผสมแตกต่างกัน กว่า

กาแฟถ้วยนี้จะมีรสชาติกลมกล่อม อร่อยถูกปาก ต้องผ่านการปรับเปลี่ยนส่วน

ผสมให้มีความพอเหมาะพอดี ซึ่งสูตรลับของการเปลี่ยนแปลงนี้ สามารถพลิกชีวิต

คนเป็นล้านคนได้

เหตุผลที่โลกกลม เม่ือเราสองคนมองโลกต่างกัน จึงเห็นโลกของเราไม่เท่ากัน แม้ว่าโลกของเรากลม

เหมือนๆ กัน “เหตุผลที่โลกกลม” เพราะทุกอย่างนั้นมี “เหตุผล” หรือเป็นเพราะ

“ฟ้าลิขิต” ให้เหตุการณ์ต่างๆ ในชีวิตเกิดขึ้นกันแน่ หนังสือแนวปรัชญาการมองโลก

เพื่อให้เราสามารถใช้ทุกวันของชีวิต...มองโลกให้สวยงามขึ้น

เกาตลาดหลักการตลาดที่แสดงออกมาเป็นรูปภาพสวยงาม โดยที่นักการตลาดทุกคนต้องมี

ไว้ครอบครอง ทั้งนักการตลาดรุ่นเก่า จะได้มีไอเดียอะไรใหม่ๆ และ นักการตลาด

รุ่นใหม่ ที่คิดว่าการตลาดเป็นเรื่องยาก หากเปิดหนังสือเล่มนี้แล้ว คุณจะมีความคิด

เรื่องการตลาดเปลี่ยนไปโดยส้ินเชิง หลักการตลาดต้ังแต่เบื้องต้น ไปถึงการตลาด

ขั้นสูง ถูกบรรจุไว้ในเล่มเดียว การท�าการตลาดแบบ Mass Marketing / Niche

Marketing / One-to-One Marketing แตกต่างกันอย่างไร

ผลงานเขียน ชุด ความสุข...กลมกลม

DAMRONG PINKOONเลขที่ 999 อำคำรเกษรพลำซ่ำ ชั้น 5 ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330

โทร. 02 656 1781

www.facebook.com/DamrongPinkoon

Instagram : pinkoon1

ISBN : 978-616-374-769-3หมวด 1. จิดวิทยำ 2. เรื่องสั้น 3. สร้ำงแรงบันดำลใจ

4. พัฒนำตนเอง 5. ควำมคิดสร้ำงสรรค์

ราคา 250 บาท

THE SUCCESS

เขียน และ จัดพิมพ์

เรียบเรียง

ออกแบบปก

ออกแบบรูปเล่ม

โดย ด�ารงค์ พิณคุณ

โดย อรวรี วิสรรคชาติ

โดย ด�ารงค์ พิณคุณ

โดย จตุพล เกสรสุคนธ์

และ

ขอขอบคุณอีกครั้ง ส�ำหรับค�ำสอนของท่ำนอำจำรย์ทุกท่ำน

รวมทั้งผู้เขียนหนังสือดีีๆ มำกมำยที่ช่วยเขียนหนังสือดีๆ ให้อำ่น

พิมพ์ครั้งที่แรก เดือน มกรำคม พ.ศ. 2558

จัดจ�ำหนำ่ยโดย : บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จ�ำกัด (มหำชน)

อำคำรทีซีไอเอฟ ทำวเวอร์ ชั้นที่ 19 เลขที่ 1858/87-90

ถนนบำงนำ-ตรำด แขวงบำงนำ เขตบำงนำ กรุงเทพฯ 10260

โทร. 0-2739-8222, 0-2739-8000 โทรสำร. 0-2739-8356-9

คุณ ศิริสรำ พิณคุณ

คุณ ดำรณี รัตนธรรม

คุณ เปรมพร คชสำรทอง

คุณ วิภำพันธ์ คงขำว

ส�ำหรับ ก�ำลังใจส�ำคัญ

ส�ำหรับ กำรประสำนงำน

ส�ำหรับ กำรพิสูจน์อักษร

ส�ำหรับ กำรแก้ไขค�ำผิด

ขอขอบคุณ

ความส�าเร็จ...ออกแบบได้