Research4

42
กกกกกกกกกกกกกกกกกกกก กกกกกกกกกกกกกกกกกกกก เเเเเเเเเเเเเเเเเเ เเเเ 427-302 Social Sciences Research Methodology

Transcript of Research4

Page 1: Research4

การเลื�อกหัวข้�อแลืะการสร�างปั�ญหัาในการว�จัย

เอกสารประกอบการสอน วิ�ชา 427-302 Social Sciences Research Methodology

Page 2: Research4

ป�ญหาการวิ�จั�ย (Research Problem) หมายถึ�ง ส��งที่��ก�อให�เก�ด

ควิามสงส�ย ใคร�ร �ค!าตอบ

ด�งน�#น การก!าหนดป�ญหาการวิ�จั�ย จั�งหมายถึ�ง การระบ$ประเด%นที่��น�ก

วิ�จั�ยสงส�ย และประสงค(ที่��จัะหาค!า ตอบ

ป�ญหาการวิ�จั�ย (Research Problem)

Page 3: Research4

การเลื�อกหัวข้�อแลืะการสร�างปั�ญหัาในการว�จัย

การเล)อกห�วิข้�อและการก!าหนดป�ญหาในการวิ�จั�ย (selection topic

and formulation of a research problem) เป+นงานข้�#นตอนแรกส$ดข้อง

กระบวินการวิ�จั�ย ซึ่��งม�อย � 5 ข้�#นตอนใหญ� ๆ ค)อ การก!าหนดป�ญหาในการวิ�จั�ย การ

สร�างร ปแบบการวิ�จั�ย การเก%บรวิบรวิม ข้�อม ล การวิ�เคราะห(ข้�อม ล และการ

ต�ควิามและ สร$ปผล(Selltiz et.al., 1976 : 12)

Page 4: Research4

การเลื�อกหัวข้�อแลืะการสร�างปั�ญหัาในการว�จัย

ป�ญหาการวิ�จั�ย เป+นองค( ประกอบพื้)#นฐาน (basic

elements) 1 ใน 4 อย�างข้องการ วิ�จั�ย ค)อ 1. ป�ญหาการวิ�จั�ย

(research problem) , 2. ต�วิแปร (variable) , 3. ควิามส�มพื้�นธ์( (relation)

และ4.สมมต�ฐาน(hypothesis)

(Nachmias and Nachmias , 1987 : 55)

Page 5: Research4

การเลื�อกหัวข้�อแลืะการสร�างปั�ญหัาในการว�จัย

“ ”ปั�ญหัาการว�จัย ถึ)อเป+นห�วิใจัส!าค�ญข้องการวิ�จั�ยที่$กโครงการ

เพื้ราะ “ ถ้�าไม่�ม่�ปั�ญหัาก�จัะไม่�ม่� การว�จัย (no problem, no

research) ”

Page 6: Research4

ควิามหมายข้องป�ญหาการวิ�จั�ย

ปั�ญหัาการว�จัย (statement of problem) หัม่ายถ้�ง ส� งที่� ก�อใหั�เก�ดความ่สงสย ใคร�ร$�ค%า

ตอบ แลืะการหัาค%าตอบน(นจัะต�องกระที่%า อย�างม่�ระบบที่� เชื่� อถ้�อได� เชื่�น ที่%าไม่ชื่าวชื่นบที่

จั�งน�ยม่อพยพย�ายถ้� นเข้�าม่าหัาก�นในเม่�อง หัลืวง , ปั�ญหัาเร� องการสร�างบ�านพกใหั�

ข้�าราชื่การในชื่นบที่จัะแก�ปั�ญหัาเร� องการข้าด ข้วญ ก%าลืงใจั ข้องข้�าราชื่การในชื่นบที่หัร�อไม่�

, เหัต+ใดน�ส�ตนกศึ�กษาไม่�ต�องการที่%างานใน ราชื่การ แต�ต�องการที่%างานในเอกชื่น เหัลื�าน�(

ลื�วนแต�เปั.นปั�ญหัา ก�อใหั�เก�ดความ่สงสย อยากร$� ที่� ม่�ระบบระเบ�ยบที่� เชื่� อถ้�อได�

Page 7: Research4

องค/ปัระกอบข้องการเลื�อกแลืะ ก%าหันดปั�ญหัาในการว�จัย

1. การเล)อกห�วิข้�อในการวิ�จั�ย(selecting a topic for research)2. การก!าหนดป�ญหาในการวิ�จั�ย(formulating a specific research problem)

Page 8: Research4

องค/ปัระกอบข้องการเลื�อกแลืะ ก%าหันดปั�ญหัาในการว�จัย

1.  ช)�อเร)�องในการวิ�จั�ย (research title)2. ห�วิเร)�องหร)อห�วิข้�อในการวิ�จั�ย(research topic)3. ประเด%นข้องการวิ�จั�ย (research issue)4. ป�ญหาในการวิ�จั�ย (research problem)5. สมมต�ฐานในการวิ�จั�ย (research hypothesis)

Page 9: Research4

การเลื�อกปั�ญหัาการว�จัย

น�กวิ�จั�ยที่��เพื้��งเร��มต�น ที่��วิๆไป ม�กค�ด วิ�าไม�ร �จัะวิ�จั�ยเร)�องอะไร หร)อไม�ม�

เร)�องจัะวิ�จั�ย หร)อค�ดวิ�าเร)�องน�# ป�ญหาน�#ม�คนที่!ามาแล�วิที่�#งน�#น ข้อบ

อกไวิ� ณ ที่��น�#วิ�า ที่�านค�ดผ�ด เพื้ราะ แที่�จัร�งแล�วิ ม�ป�ญหาอย �มากมาย

รอบต�วิเรา เพื้ราะ

Page 10: Research4

การเลื�อกปั�ญหัาการว�จัย

1. ต�วิแปรที่��เก��ยวิก�บเวิลา สถึานที่�� ช$มชน บ$คคล องค(การ วิ�ธ์�การ บร�หาร อาช�พื้ สถึานการณ( ฯลฯ

ม�ควิามผ�นแปรตลอดเวิลา ยากต�อการสร$ปมากกวิ�าเร)�องข้อง

ฟิ7ส�กส( เคม� หร)อคณ�ตศาสตร(

Page 11: Research4

การเลื�อกปั�ญหัาการว�จัย

2. ป�ญหาที่างส�งคมศาสตร(น�#น ไม�ได�คงที่��แน�นอนตลอดเวิลา3. ป�ญหา หร)อ ข้�อสร$ปต�างๆที่าง

ส�งคมศาสตร(ที่��เคยศ�กษามาแล�วิ ต�องการ การตรวิจัสอบ เพื้)�อให�ม�

ควิามที่�นสม�ยอย �เสมอ

Page 12: Research4

การเลื�อกปั�ญหัาการว�จัย

4. การศ�กษาที่��ผ�านมาต�องม�การ ปร�บปร$งแก�ไข้เสมอ เพื้ราะในช�วิง เวิลาที่��แปรเปล��ยนไป สถึานการณ(

เปล��ยนไป ป�ญหาน�#นควิรจัะ หย�บยกข้�#นมาพื้�จัารณาใหม�

เน)�องจัากต�วิแปรใหม�ม�ก เก�ดข้�#นอย �เสมอ

Page 13: Research4

การเลื�อกปั�ญหัาการว�จัย

ด�วิยเหต$น�# น�กวิ�จั�ย จั�งไม�ควิรค�ด วิ�า ตนเองน�#นไม�ม�ป�ญหาส!าหร�บ

ที่!าวิ�จั�ย เพื้ราะป�ญหาน�#นม�อย �แล�วิ มากมาย แต�ที่�านย�งหาไม�พื้บ

เที่�าน�#นเอง

Page 14: Research4

แหัลื�งข้องปั�ญหัาการว�จัย น�กวิ�จั�ยอาจัหาข้�อป�ญหาการวิ�จั�ยได�

จัาก แหล�งต�อไปน�#1. วิ�เคราะห(ผลงานวิ�จั�ยที่��คนอ)�นเคยที่!า

มาก�อนในเร)�องที่��ตนเองสนใจั และ ก!าล�งศ�กษาอย � พื้ร�อมที่�#ง วิ�พื้ากษ(

วิ�จัารณ(และค�ดอย�างพื้�น�จัพื้�เคราะห( พื้ยายามหาช�องวิ�าง หร)อ ช�วิงที่��

ข้าดตอนส!าหร�บเร)�องน�#นๆ ที่��เราย�งไม� เข้�าใจั หร)อหาค!าอธ์�บายเร)�องน�#นไม�ได�

ก%จัะได�ป�ญหาส!าหร�บการวิ�จั�ย

Page 15: Research4

แหัลื�งข้องปั�ญหัาการว�จัย

2. น!าค!าพื้ ด ข้�อเสนอแนะข้องผ �ร �ต�างๆ ตลอดจันเร)�องราวิที่��ถึกเถึ�ยงหร)อเป+น ข้�อ

ข้�ดแย�งที่��ย�งไม�ได� ที่!าการที่ดลองด�วิยวิ�ธ์�การวิ�จั�ยมาเป+นป�ญหาส!าหร�บการวิ�จั�ย3. วิ�เคราะห(แนวิโน�มข้องเหต$การณ(ที่��จัะเก�ด

ข้�#น โดยพื้�จัารณาวิ�าส�งคมม�การ เปล��ยนแปลงตามสภาพื้ เวิลา และ

เที่คน�ควิ�ที่ยาการต�างๆอาจัที่!าให�เก�ดป�ญหาได�

Page 16: Research4

แหัลื�งข้องปั�ญหัาการว�จัย

4. วิ�เคราะห(ป�ญหาจัากการสนที่นา หร)อปร�กษาหาร)อก�บผ �เช��ยวิชาญในสาข้าวิ�ชา

น�#นๆ ในกรณ�ที่��เป+น น�กศ�กษา อาจัใช�วิ�ธ์� ปร�กษา ( เที่�าน�#น ... อย�าไปถึามวิ�าจัะที่!าเร)�อง

อะไรด�!) ก�บอาจัารย(ที่��ปร�กษาหร)อ อาจัารย(ผ �สอนในสาข้าวิ�ชาน�#นๆ5. ศ�กษาป�ญหาจัากสถึาบ�นต�างๆ หร)อ

สถึานที่��ที่��ม�การวิ�จั�ย หร)อบ$คคลที่��ที่!าการวิ�จั�ย โดยเข้�าร�วิม โครงการวิ�จั�ยน�#น ซึ่��งจัะช�วิยให�

เห%นแนวิที่างในการเล)อกป�ญหาได�

Page 17: Research4

ข้�อผิ�ดพลืาดในการเลื�อกหัวข้�อปั�ญหัาการว�จัย

1. รวิบรวิมข้�อม ลก�อนที่��จัะให�ค!าจั!าก�ด ควิามข้องห�วิข้�อป�ญหาอย�างช�ดเจัน

เพื้ราะข้�อม ลน�#นอาจั ไม�ครอบคล$มป�ญหาน�#นๆอย�างสมบ รณ(2. หาข้�อม ลที่��ม�อย �แล�วิ และพื้ยายาม

ค�ดป�ญหาให�เหมาะสมก�บข้�อม ล เพื้ราะข้�อม ลที่��เก%บมาจัาก แหล�งใด

แหล�งหน��งอาจัไม�ม�ควิามสมบ รณ(

Page 18: Research4

ข้�อผิ�ดพลืาดในการเลื�อกหัวข้�อปั�ญหัาการว�จัย

3. ข้�อป�ญหาและควิามม$�งหมายข้องการวิ�จั�ยไม�ช�ดเจัน ที่!าให�ไม�ที่ราบแหล�งข้อง

การเก%บรวิบรวิม ข้�อม ล เคร)�องม)อที่��ใช�ใน การเก%บรวิบรวิมข้�อม ล ตลอดจันการสร$ป

ผลหร)อข้�อย$ต�ต�างๆ4. ที่!าวิ�จั�ยโดยไม�อ�านผลงานวิ�จั�ยข้องบ$คคลอ)�นที่��คล�ายๆก�น ที่!าให�ผ �วิ�จั�ยม�ควิาม

ร �แคบและอาจัเก�ด ควิามย$�งยากในการแปลควิามหมายผลการวิ�เคราะห(ข้�อม ลได�

Page 19: Research4

ข้�อผิ�ดพลืาดในการเลื�อกหัวข้�อปั�ญหัาการว�จัย

5. ที่!าวิ�จั�ยโดยไม�ม�ควิามร �พื้)#นฐาน ที่างที่ฤษฎี� หร)อ ไม�ม�ที่ฤษฎี�ที่��เป+นพื้)#นฐานที่างการวิ�จั�ย จัะ ก�อให� เก�ดป�ญหาในการวิางแผนงานวิ�จั�ย หร)อ

การต�#งสมมต�ฐาน และอ)�นๆ6. ข้�อตกลงเบ)#องต�นไม�ช�ดเจัน ที่!าให�การวิ�จั�ย

น�#นไม�กระจั�างช�ด และผ �ที่!าการวิ�จั�ยไม�เห%น แนวิที่าง ในการที่!าวิ�จั�ยน�#นอย�างที่ะล$ปร$โปร�ง

อาจัเป+นผลให�การแปลผลการวิ�จั�ยผ�ดพื้ลาดไปจัากข้�อเที่%จัจัร�งได�

Page 20: Research4

ข้�อผิ�ดพลืาดในการเลื�อกหัวข้�อปั�ญหัาการว�จัย

7. การวิ�จั�ยที่��ม�ป�ญหาครอบจั�กรวิาล ไม�จั!าก�ดข้อบเข้ต เป+นสาเหต$ให�การที่!าวิ�จั�ยน�#นไม�ร �จั�กจับ

ส�#น เพื้ราะไม�ที่ราบวิ�าม�ข้อบเข้ต แค�ใหน (หาที่��ลงไม�ได�)

Page 21: Research4

ว�ธี�ว�เคราะหั/แลืะเลื�อกหัวข้�อปั�ญหัาการว�จัย

1. ให�เล)อกป�ญหาที่��ตนเองม�ควิามสนใจัจัร�งๆ2. สะสมควิามร �ควิามจัร�งและที่ฤษฎี�เก��ยวิก�บเร)�องน�#นๆให�มากที่��ส$ด3. เล)อกสรรควิามร �ควิามจัร�งที่��

สะสมไวิ� โดยพื้�จัารณาที่��เก��ยวิข้�องจัร�งๆ

Page 22: Research4

ว�ธี�ว�เคราะหั/แลืะเลื�อกหัวข้�อปั�ญหัาการว�จัย

4.เข้�ยนสมมต�ฐานการวิ�จั�ยให�ช�ดเจัน5.เล)อกสรรสมมต�ฐานที่��จัะม�ข้�อม ลมา

ที่ดสอบได� 6. เล)อกป�ญหาที่��ตนเองม�ควิามร �พื้อจัะที่!าได�7. เล)อกป�ญหาที่��ตนเองม�เคร)�องม)อที่��จัะที่!าวิ�จั�ยได�

Page 23: Research4

ว�ธี�ว�เคราะหั/แลืะเลื�อกหัวข้�อปั�ญหัาการว�จัย

8.เล)อกป�ญหาการวิ�จั�ยโดยค!าน�งถึ�ง เง�น และ เวิลาพื้อจัะที่!าได�

9.เล)อกป�ญหาที่��ม�ควิามส!าค�ญพื้อเพื้�ยงที่��จัะได�ร�บอน$ม�ต�ให�ที่!าได�10. เล)อกป�ญหาที่��ให�ควิามร �ใหม� ไม�ซึ่!#าซึ่�อนก�บที่��เคยที่!าโดยไม�จั!าเป+น

Page 24: Research4

ว�ธี�ว�เคราะหั/แลืะเลื�อกหัวข้�อปั�ญหัาการว�จัย

11. เล)อกป�ญหาที่��เป+นประโยชน( ที่�#งในแง�การน!าไปใช� และเสร�ม

ควิามร �ใหม�12. เล)อกป�ญหาที่��จัะช�#ช�องให�คนอ)�นที่!าวิ�จั�ยต�อไปได�

Page 25: Research4

กรอบแนวค�ดในการที่%าว�จัยน�ยาม่เชื่�งปัฏิ�บต�การลืกษณะที่ วไปัข้องน�ยาม่เชื่�งปัฏิ�บต�การส� งที่� ควรพ�จัารณาในการก%าหันดกรอบแนวค�ด

สร+ปัความ่สม่พนธี/ข้องแนวค�ด น�ยาม่ ตว บ�งชื่�( แลืะค%าถ้าม่

Page 26: Research4

กรอบแนวค�ดในการที่%าว�จัย

กรอบแนวค�ด เป+นส��งที่��จั!าเป+นอย�างย��งต�อ ป�ญหาการวิ�จั�ย

การม�กรอบแนวิค�ดจัะที่!าให�น�กวิ�จั�ย สามารถึจั�ดระเบ�ยบข้�อม ลได� และ

ที่!าให�เห%นควิามส�มพื้�นธ์(ระหวิ�าง ข้�อม ลอย�างเป+นระบบ เพื้ราะกรอบ

แนวิค�ดเป+นการรวิบรวิมเหต$การณ( ต�างๆ เข้�าไวิ�ภายใต�ห�วิข้�อเด�ยวิก�น

Page 27: Research4

กรอบแนวิค�ดเป+นส��งที่��จั!าเป+นอย�างย��ง ต�อป�ญหาการวิ�จั�ย

การให�แนวิควิามค�ดจั�งต�องช�ดเจัน และ สามารถึพื้�ส จัน(ได� การม�กรอบแนวิค�ดจัะ

ที่!าให�น�กวิ�จั�ยสามารถึจั�ดระเบ�ยบข้�อม ลได�และที่!าให�เห%นควิามส�มพื้�นธ์(ระหวิ�าง

ข้�อม ลอย�างเป+นระบบ เพื้ราะกรอบแนวิค�ดเป+นการรวิบรวิมเหต$การณ(

ต�างๆ เข้�าไวิ�ภายใต�ห�วิข้�อเด�ยวิก�น

Page 28: Research4

เม่� อนกว�จัยก%าหันดจั+ดความ่สนใจัหัร�อปั�ญหัาที่��จัะต�องการหาค!าตอบได�แลื�ว เพื้)�อให�สามารถึจั�ดระบบควิามค�ดให�ก�บส��งที่��ต� #ง

ค!าถึามและสนใจัที่��จัะศ�กษา น�กวิ�จั�ยจัะต�องปัฏิ�บต�ในส� งต�อไปัน�(.....

Page 29: Research4

สม่ม่ต�ว�า น�กวิ�จั�ยต�ดส�นใจัวิ�าจัะศ�กษาวิ�จั�ย เร)�อง "ปั�จัจัยที่างสงคม่บางปัระการที่� ม่�

อ�ที่ธี�พลืต�อการม่� ส�วนร�วม่ข้องผิ$�น%าชื่+ม่ชื่นในก�จักรรม่พฒนาที่�องถ้� น" ส��งแรกที่��ต�อง

ปฏิ�บ�ต�ก%ค)อ ต�องไปค�นควิ�าจัากแนวิค�ด ที่ฤษฎี� และต!าราต�างๆ ที่��เก��ยวิข้�อง เพื้)�อสร$ป

องค(ควิามร �เหล�าน�#นให�ม�ข้อบเข้ตแน�นอน วิ�า"ป�จัจั�ยที่างส�งคม" "การม�ส�วินร�วิม" และ" ก�จักรรมพื้�ฒนาที่�องถึ��น ณ พื้)#นที่��ที่��จัะเข้�าไปศ�กษา" น�#น ม�ค!าอธ์�บายวิ�าอย�างไร และในการศ�กษาวิ�จั�ยน�#ก!าหนดข้อบเข้ตการ

อธ์�บายไวิ�แค�ไหน ข้�#นตอนน�#เอง ที่��เร�ยกวิ�าการก!าหนดกรอบแนวิค�ดส!าหร�บการศ�กษาวิ�จั�ย

Page 30: Research4

สม่ม่ต�ว�า น�กวิ�จั�ยต�ดส�นใจัวิ�าจัะศ�กษาวิ�จั�ย เร)�อง" การศึ�กษา กระบวนการตดส�นใจัข้อง

พนกงานเที่ศึบาลืระดบบร�หัาร เพ� อน%า นโยบายที่าง การเม่�องไปัปัฏิ�บต�" ส��งแรกที่��

ต�องปฏิ�บ�ต�ก%ค)อ ต�องไปค�นควิ�าจัากแนวิค�ด ที่ฤษฎี� ต!าราต�างๆ รวิมที่�#งงานวิ�จั�ยที่��เก��ยวิข้�อง

เพื้)�อหาข้�อสร$ปในองค(ควิามร �เหล�าน�#นให�ม� ข้อบเข้ตแน�นอน ให�ก�บส��งที่��เร�ยกวิ�า

"กระบวินการต�ดส�นใจั" วิ�าอะไรบ�างที่��อย �ใน กระบวินการต�ดส�นใจั และการต�ดส�นใจัน�#นเก�ด

ข้�#นได�อย�างไร บ$คคลจัะต�องอาศ�ยอะไรบ�างใน การต�ดส�นใจัเร)�องใดเร)�องหน��ง ฯลฯ เพื้)�อก!าหนด ข้อบเข้ตการอธ์�บายให�แน�นอน ข้�#นตอนน�#เอง ที่��

เร�ยกวิ�า การก!าหนดกรอบแนวิค�ดส!าหร�บการศ�กษาวิ�จั�ย

Page 31: Research4

สม่ม่ต�ว�า น�กวิ�จั�ยต�ดส�นใจัวิ�าจัะศ�กษาวิ�จั�ย เร)�อง" ความ่พ�งพอ ใจัในการปัฏิ�บต�งานข้องนก

ปัระชื่าสงเคราะหั/ในส�วน ภู$ม่�ภูาค" ส��งแรกที่�� ต�อง ปฏิ�บ�ต�ก%ค)อ ต�องไปค�นควิ�าจัากแนวิ ค�ด ที่ฤษฎี� ต!ารา

ต�างๆ รวิมที่�#งงานวิ�จั�ยที่��เก��ยวิข้�อง เพื้)�อหาข้�อสร$ปใน องค(ควิามร �เหล�าน�#นให�ม�ข้อบเข้ตแน�นอน ก�บส��งที่��

เร�ยกวิ�า "ควิามพื้�งพื้อใจั" น��นค)อ น�กวิ�จั�ยจัะต�อง ค�นควิ�าให�กระจั�างวิ�า พื้ฤต�กรรมที่��เร�ยกวิ�าควิามพื้�ง

พื้อใจั น�#น ม�ล�กษณะอย�างไร และส��งที่��เร�ยกวิ�า "ควิามพื้�งพื้อใจัในการปฏิ�บ�ต�งานข้องข้�าราชการที่��วิไป" ควิร

ม�องค(ประกอบอะไรบ�าง แล�วิไปค�นควิ�าเพื้��มเต�มวิ�า"คนที่��ร �บราชการในต!าแหน�งน�กประชาสงเคราะห(" ม�

ภารก�จัอะไรบ�าง ควิามยากง�ายข้องงาน ควิามพื้ร�อม ข้องหน�วิยงาน ควิามก�าวิหน�าในต!าแหน�งหน�าที่�� ฯลฯ

ซึ่��งการก!าหนดข้อบเข้ตข้ององค(ควิามร �ที่��กล�าวิมา ก% ค)อ การก!าหนดกรอบแนวิค�ดส!าหร�บการศ�กษาวิ�จั�ย

ฯลฯ

Page 32: Research4

น�ยาม่เชื่�งปัฏิ�บต�การ (Operational Definition)

หัลืงจัากที่� นกว�จัยก%าหันดกรอบแนวค�ดในการวิ�จั�ยได� เร�ยบร�อยแลื�วในข้(นตอนต�อไปั นกว�จัยจัะต�องใหั�

ความ่หัม่ายข้องแนวค�ด โดยจัะ ต�องค�นหัาส� งบ�งชื่�( (Indicators)

ว�าส� งที่� ต�องการวดน(น จัะใชื่�อะไรม่าวด

Page 33: Research4

ในควิามหลากหลายบนโลก มน$ษย( เราจัะพื้บบ�อยๆ วิ�าแนวิ

ควิามค�ด (Concept) บางอย�างไม�สามารถึเช)�อมโยงก�บปรากฏิการณ(และอธ์�บายส��งที่��

ต�องการวิ�ดได�โดยง�าย เช�น แรง จั งใจั ที่�ศนคต� การเร�ยนร � ฯลฯ

เพื้ราะแนวิควิามค�ดเหล�าน�#ม�ล�กษณะเป+นนามธ์รรม

Page 34: Research4

ด�งน�#น การจัะตอบควิามหมาย ข้องแนวิควิามค�ดเหล�าน�# จั�งไม�

อาจัใช�เพื้�ยงวิ�ธ์�น!าเสนอภาพื้ หร)อช�#ไปย�งวิ�ตถึ$หร)อบ$คคลหร)อ

เหต$การณ( เพื้)�อแก�ไข้ป�ญหาใน ข้�#นตอนน�# จั�งต�องใช�วิ�ธ์�ให�ค!า

จั!าก�ดควิาม โดยจัะต�องเป+นค!าจั!าก�ดควิามที่��สามารถึน!าไปปฏิ�บ�ต�ได�

Page 35: Research4

ปั�ญหัาส%าคญเก� ยวกบการว�จัยค�อ ปรากฏิการณ(ที่างส�งคมส�วิน

ใหญ�ไม�สามารถึจัะวิ�ดได�โดยตรงหร)อวิ�ดได�แต�ม�ควิามย$�งยากใน

เร)�องควิามถึ กต�อง และควิาม เช)�อถึ)อได�ข้องการวิ�ด เราจัะวิ�ด

การม�ส�วินร�วิมที่างการเม)องใน ที่�องถึ��นน�#นอย�างไร เราจัะวิ�ด

ที่�ศนคต�หร)อส��งที่��เป+นนามธ์รรมอย�างไร

Page 36: Research4

ก�อนจัะตดส�นใจัว�าจัะวดอย�างไร เราจั�งต�องก%าหันดความ่หัม่ายหัร�อ

ค%าจั%ากดความ่ข้องตวแปัรต�างๆเส�ยก�อน ค!าจั!าก�ดควิามข้องต�วิแปร

จัะต�องช�#วิ�ดลงไปวิ�า ส��งที่��เราพื้ ดถึ�ง น�#นม�ล�กษณะอย�างไร อะไรเป+น

เคร)�องวิ�ด

Page 37: Research4

ค!าจั!าก�ดควิามที่��ก!าหนดข้�#นจัะม� ล�กษณะที่��ช�#ลงไปวิ�า อะไรค)อส��งที่��จัะใช�

วิ�ดแนวิควิามค�ดซึ่��งม�ควิามหมายก วิ�างๆ หร)อเป+นนามธ์รรม ค!าจั!าก�ด

ควิามเช�นน�#เร�ยกวิ�า ค!าน�ยามเช�ง ปฏิ�บ�ต�การ (Operational

Definition) ซึ่��งก%ค)อค!าจั!าก�ดควิามที่�� สามารถึน!าไปเก%บข้�อม ลมาได� โดยใน

ค!าน�ยามน�#นจัะม�ต�วิบ�งช�# (Indicator) ข้องส��งที่��เราจัะศ�กษา ซึ่��งโดยปกต�เรา

ไม�สามารถึมองเห%นได�โดยตรง

Page 38: Research4

ล�กษณะที่��วิไปข้องน�ยามเช�งปฏิ�บ�ต�การการให�ก!าหนดค!าน�ยามเช�งปฏิ�บ�ต�

การ (Operational Definition) เป+นการก!าหนดที่�ศที่างส!าหร�บน�ก

วิ�จั�ยในการปฏิ�บ�ต�เหม)อนก�น เข้�าใจั ปรากฏิการณ(เป+นอย�างเด�ยวิก�น

โดยที่��วิไปแล�วิ น�ยามเช�งปฏิ�บ�ต�การ ประกอบด�วิยล�กษณะส!าค�ญ ค)อ

Page 39: Research4

ค+ณลืกษณะหัร�อองค/ ปัระกอบข้องตวแปัร

พฤต�กรรม่ที่� แสดงออก เกณฑ์/ที่� เปั.นเคร� องชื่�(วด

Page 40: Research4

ส��งที่��ควิรพื้�จัารณาในการก!าหนดกรอบแนวิค�ด 1. ที่�านได�ก!าหนดควิามหมายข้อง

แนวิค�ด (Concept) ต�างๆ ไวิ�แน�นอนช�ดเจันแล�วิหร)อไม�2. ค!าศ�พื้ที่(ที่��ต�องใช� ได�ม�การน�ยามไวิ�แน�นอนช�ดเจันเพื้�ยงใด3. ม�การก!าหนดแนวิค�ด (Concept)

ต�างๆ อย�างพื้อเพื้�ยงและถึ กต�องหร)อย�ง

Page 41: Research4

ส��งที่��ควิรพื้�จัารณาในการก!าหนดกรอบแนวิค�ด 4. แนวิค�ด (Concept) บาง

ประการ จั!าเป+นต�องก!าหนดข้�อจั!าก�ดเพื้��มอ�กหร)อไม�5. เม)�อกล$�มที่��ศ�กษาเปล��ยนไป

ควิามหมายเปล��ยนตามไปหร)อไม� เช�น อาย$ เพื้ศ ฯลฯ

6. ที่�านก!าหนดควิามหมายต�างๆโดยม�อะไรเป+นพื้)#นฐาน

Page 42: Research4