Question tag

10
Kru. Thanaporn Taweedech Kru. Thanaporn Taweedech

Transcript of Question tag

Kru. Thanaporn TaweedechKru. Thanaporn Taweedech

จุดประสงค์การเรียนรู้ จุดประสงค์ปลายทาง เขียนประโยคตามโครงสร้างทางไวยากรณ์ได้ถูกต้อง จุดประสงค์นําทาง

1. นักเรียนสามารถบอกลกัษณะ และส่วนประกอบ ของประโยคคําถามแบบTag Questions ได้

2. นักเรียนมคีวามรู้เกี:ยวกบัหลกัการสร้าง Tag Questions2. นักเรียนมคีวามรู้เกี:ยวกบัหลกัการสร้าง Tag Questions3. นักเรียนสามารถตอบคําถามแบบ Tag Questions ได้4. เมื:อกาํหนดประโยคคาํถามแบบ Tag Questions ที:ไม่สมบูรณ์ให้ นักเรียน

สามารถทาํให้เป็นประโยคที:สมบูรณ์ได้

Tag Questions เป็นประโยคคาํถามอกีประเภทหนึ:ง ที:ใช้เมื:อผู้พูดมีความมั:นใจในการกล่าวครัFงแรก แต่กย็งัคงมีความไม่แน่ใจอยู่บ้างเลก็น้อย จงึกล่าวเป็นคาํถามต่อจากการกล่าวครัFงแรก เช่น

You are John, aren’t you? (คุณคอืจอห์นไม่ใช่เหรอ)You are John, aren’t you? (คุณคอืจอห์นไม่ใช่เหรอ)= ผู้พูดมคีวามมั:นใจว่าผู้ที:พูดด้วยคือจอห์น แต่ถามยํFาอกีครัFงเพื:อให้แน่ใจว่าใช่

หรือไม่

He isn’t a singer, is he? (เขาไม่เป็นนักร้องใช่มัFย)= ผู้พูดมคีวามมั:นใจว่าผู้ที:เขาพูดถึงไม่เป็นนักร้อง แต่ถามยํFาอกีครัFง เพื:อให้แน่ใจว่าใช่

หรือไม่

Tag Questions จะประกอบด้วย 2 ส่วน คอื1. ส่วนหน้าหรือประโยคนํา2. ส่วนท้าย หรือ Tag

เช่น You are John, aren’t you?(1) ส่วนหน้าหรือประโยคนํา คอื You are John(2) ส่วนท้าย หรือ Tag คอื aren’t you

He isn’t a singer, is he?(2) ส่วนท้าย หรือ Tag คอื aren’t you

He isn’t a singer, is he?(1) ส่วนหน้าหรือประโยคนํา คอื He isn’t a singer(2) ส่วนท้าย หรือ Tag คอื is he

การตอบคาํถาม Tag Questions ให้ตอบเหมอืนการตอบ

Yes / No Questions ทั:วไป แต่แตกต่างกนัตรงที:คาํถามแบบ Tag Questions เป็นคาํถามที:ผู้ถามคดิว่าตนทราบคําตอบอยู่แล้ว ส่วนหน้าหรือประโยคนําจึงแสดงถึงความคดิหรือความเข้าใจของผู้ถาม ดังนีF

1. ถ้าผู้ถามคาดว่าจะได้คาํตอบว่า Yes จะใช้ส่วนหน้าหรือประโยคนําเป็นข้อความที:เป็นบอกเล่า เช่น

You are John, aren’t you? (คุณคอืจอห์นไม่ใช่เหรอ)= ผู้ถามคาดว่าผู้ที:พูดด้วยคอืจอห์น และจะต้องได้คําตอบว่า Yes แน่นอน= ผู้ถามคาดว่าผู้ที:พูดด้วยคอืจอห์น และจะต้องได้คําตอบว่า Yes แน่นอน2. ถ้าผู้ถามคาดว่าจะได้คาํตอบว่า No จะใช้ส่วนหน้าหรือประโยคนําเป็นข้อความที:

เป็นปฏิเสธ เช่นJohn isn’t a singer, is he? (จอห์นไม่เป็นนักร้อง ใช่มัFย )= ผู้ถามคาดว่าจอห์นไม่เป็นนักร้อง และจะต้องได้คําตอบว่า No แน่นอน

หลกัการสร้าง Tag Questions มีดงันีF1. ถ้าส่วนหน้าหรือประโยคนําเป็นข้อความบอกเล่า ส่วนท้ายจะต้องเป็น ปฏเิสธ2. ถ้าส่วนหน้าหรือประโยคนําเป็นข้อความปฏเิสธ ส่วนท้ายจะต้องเป็นบอกเล่า3. ใส่เครื:องหมาย Comma (,) คั:นระหว่างส่วนหน้ากบัส่วนท้าย4. ประธานของส่วนท้ายจะต้องเป็นคาํสรรพนามที:เป็นรูปประธานเสมอ5. ถ้ากริยาในส่วนท้ายเป็นปฏเิสธ จะเป็นรูปย่อเสมอ5. ถ้ากริยาในส่วนท้ายเป็นปฏเิสธ จะเป็นรูปย่อเสมอ6. ถ้าส่วนหน้าเป็น I am ส่วนท้ายจะต้องเป็น aren’t I เช่น I am playing with John, aren’t I? (ตรงกบัข้อ 1, 3, 4, 5 และ 6)

John isn’t a singer, is he? (ตรงกบัข้อ 2, 3 และ 4)

คาํกริยาในส่วนท้าย หรือ Tag จะต้องสอดคล้องกบัคาํกริยาในส่วนหน้าหรือประโยคนําโดยแบ่งออกเป็น 3 ลกัษณะ

ดงันีF ถ้าในส่วนหน้าหรือประโยคนํามี Verb to be คาํกริยาในส่วนท้ายหรือTag กจ็ะต้องเป็น Verb to be เช่นTag กจ็ะต้องเป็น Verb to be เช่น

You are John, aren’t you?Mark and David weren’t in their room this morning, were they?

2. ถ้าในส่วนหน้าหรือประโยคนํามคีาํกริยาช่วย คาํกริยาในส่วนท้ายหรือ Tag กจ็ะต้องเป็นคาํกริยาช่วย เช่น- You will go to Bangkok tomorrow, won’t you?- They won’t go to Chiangmai next week, will they?- John can’t speak Thai, can he?- John can’t speak Thai, can he?- Jenny can speak Chinese, can’t she?

3. ถ้าในส่วนหน้าหรือประโยคนํา ไม่มี Verb to be หรือคาํกริยาช่วย มแีต่คํากริยา แท้ คํากริยาในส่วนท้ายหรือ Tag จะต้องเป็น Verb to do เช่น

- You walk to school, don’t you? ส่วนท้ายหรือ Tag ใช้ don’t เพราะส่วนหน้าหรือประโยคนําเป็นประโยคปัจจุบันกาล ธรรมดาในรูปบอกเล่า (คาํกริยาเป็นช่อง 1 = walk) และประธานเป็นบุรุษที: 2 (You)

- John doesn’t speak Thai, does he? ส่วนท้ายหรือ Tag ใช้ does เพราะส่วนหน้าหรือประโยคนําเป็นประโยคปัจจุบันกาล ธรรมดาในรูปปฏิเสธ (ส่วนของกริยาเป็น doesn’t + คํากริยาช่อง 1 = speak) และประธาน ธรรมดาในรูปปฏิเสธ (ส่วนของกริยาเป็น doesn’t + คํากริยาช่อง 1 = speak) และประธาน เป็นบุรุษที: 3 (John)

- Jenny wrote a letter to Joe last night, didn’t she? ส่วนท้ายหรือ Tag ใช้ didn’t เพราะส่วนหน้าหรือประโยคนําเป็นประโยคอดีตกาล ธรรมดาในรูปบอกเล่า (คาํกริยาเป็นช่อง 2 = wrote)

- Mark didn’t write a letter to Joe last night, did he? ส่วนท้ายหรือ Tag ใช้ did เพราะส่วนหน้าหรือประโยคนําเป็นประโยคอดีตกาล ธรรมดาในรูปปฏิเสธ (ส่วนของกริยาเป็น didn’t + คํากริยาช่อง 1 = write)