Broker New November

24
ประจำเดือนพฤศจิกายน 2555 BROKER NEWS www.reba.or.th สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ เผยปัญหาเครดิตคนซื้อบ้านกระทบยอดขายอสังหาฯมือสอง SEARCHCOSTภารกิจของนายหน้าอสังหาฯ B R O K E R โครงการบิสคอนซีเอจ ออฟฟิศสำนักงานสำเร็จรูปและเสมือนจริง คลินิกบ้าน ไอเดียออกแบบห้องน้ำใต้บันได บานเดียวหรือสองบาน..ประตูแบบไหนดีกว่า ก๊อกน้ำป้องกันสารตะกั่วได้จริงหรือไมนายหน้าสู่นักลงทุน โดยมูฮัมหมัดอิกบานเชตเตอร์โมฮามัด

description

เผยปัญหาเครดิตคนซื้อบ้านกระทบยอดขายอสังหาฯ มือสอง

Transcript of Broker New November

Page 1: Broker New November

ประจำเดือนพฤศจิกายน 2555

BROKER NEWSwww.reba.or.th สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์

• คำเตือน ! ก่อนตัดสินใจซื้อบ้านและที่ดิน

• เผยปัญหาเครดิตคนซื้อบ้านกระทบยอดขายอสังหาฯ มือสอง

• SEARCH COST ภารกิจของนายหน้าอสังหาฯ

B R O K E R

โครงการบิส คอนซีเอจ

ออฟฟิศสำนักงานสำเร็จรูปและเสมือนจริง

คลินิกบ้าน

ไอเดียออกแบบห้องน้ำใต้บันได

บานเดียวหรือสองบาน..ประตูแบบไหนดีกว่า

ก๊อกน้ำป้องกันสารตะกั่วได้จริงหรือไม่

นายหน้าสู่นักลงทุน

โดยมูฮัมหมัดอิกบาน เชตเตอร์โมฮามัด

Page 2: Broker New November

ประจำเดือนพฤศจิกายน 2555

BROKER NEWS� บท บ.ก.

ในขณะนี้นักพัฒนาที่ดินไทยกำลังวางแผนออกนอกประเทศกันมาก ปัจจัยแห่งความสำเร็จขึ้นอยู่กับอะไร สิ่งที่ต้องระวังก็คือการบุกตลาดไทยของนักอสังหาริมทรัพย์ต่างชาติ ในช่วงปี พ.ศ. 2530-2535 นักพัฒนาที่ดินรายใหญ่ ๆ ของไทยทั้งที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ขณะนี้ และนักลงทุนรายอื่น ต่างมุ่งไปลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในจีน อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และอื่นๆ แต่อาจกล่าวได้ว่าไม่มีรายใดประสบความสำเร็จกลับมาเลย สาเหตุแห่งความล้มเหลวคงอยู่ที่การขาดพันธมิตรทางธุรกิจที่ดี ขาดการศึกษาตลาดที่ครบถ้วนและดีเพียงพอ ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส ได้สำรวจตลาดที่อยู่อาศัยในกรุงกาฏมัณฑุ กรุงจาการ์ตา กรุงพนมเปญ กรุงมะนิลา และนครโฮชิมินห์ซิตี้ มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550 พบว่า ประเทศต่างๆ กําลังก้าวหน้าขึ้นอย่างมากโดยเฉพาะกรุงจาการ์ตาและกรุงมะนิลา แต่เมืองอื่นๆ ยังค่อยๆ พัฒนาต่อไป นอกจากนี้ยังได้ ได้สำรวจความคิดเห็นของผู้เข้าร่วมประชุมสมาคมผู้ประเมินค่าทรัพย์สินแห่งอาเซียน จำนวนเกือบ 100 คนต่อประเด็นความพร้อมในการเปิดประชาคมอาเซียน (ASEAN Economic Community: AEC) ในปี พ.ศ. 2558 และความเห็นเหล่านี้น่าจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยพอสมควร ผลการสำรวจพบว่าผู้ประเมินค่าทรัพย์สินในภูมิภาคนี้ ให้ความเห็นว่าเมื่อเทียบสถานการณ์เศรษฐกิจ พ.ศ. 2553 กับปัจจุบัน 56% ประเมินว่าปัจจุบันดีกว่า มีเพียง 7% ที่เห็นว่าแย่ลง ที่เหลือ 36% บอกว่าเหมือนเดิม สำหรับในรายละเอียด ผู้ประเมินค่าทรัพย์สินจากบรูไน สิงคโปร์ และไทย มองว่าสถานการณ์เศรษฐกิจยังแทบไม่เปลี่ยนแปลง แต่ประเทศอื่นๆ กลับมองว่าสถานการณ์ดีขึ้นเป็นหลัก และเมื่อพิจารณาถึงภาวะเศรษฐกิจในอีก 2 ปีข้างหน้า คือ พ.ศ. 2557 ส่วนใหญ่ 67% บอกว่าสถานการณ์น่าจะดีขึ้น มีเพียง 4% ที่คิดว่าจะเลวร้ายลง อย่างไรก็ตามผู้แทนจากประเทศไทยส่วนใหญ่เห็นว่าจะยังคงเหมือนเดิม ในด้านตลาดอสังหาริมทรัพย์ พบว่า 63% คิดว่าสถานการณ์ตลาดดีขึ้นกว่าปี พ.ศ. 2553 อย่างไรก็ตาม ราว ๆ ครึ่งหนึ่งของผู้ประเมินค่าทรัพย์สินจากบรูไนและไทย คิดว่าสถานการณ์ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร ทั้งนี้อาจเป็นเพราะสถานการณ์ทางการเมืองในไทย และสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของบรูไน ยังไม่กระเตื้องขึ้นนั่นเอง และเมื่อพิจารณาถึงตลาดอสังหาริมทรัพย์ในอีก 2 ปีข้างหน้าคือ ณ พ.ศ. 2557 พบว่าส่วนใหญ่ 66% จากแทบทุกประเทศระบุว่าสถานการณ์น่าจะดีกว่าปัจจุบัน อย่างไรก็ตามผู้ประเมินค่าทรัพย์สินจากประเทศไทยยังเห็นว่าตลาดยังจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมาก

บทเรียนอดีตและอนาคต AEC กับการลงทุนต่างประเทศของนักอสังหาริมทรัพย์ไทย

นักใน 2 ปีข้างหน้า ในแง่ของความน่าเชื่อถือทางวิชาชีพ หากวิชาชีพแพทย์ ได้รับความน่าเชื่อถือสูงสุดถึง 100% วิชาชีพอื่นจะมีระดับความน่าเชื่อถือกี่ เปอร์ เซ็นต์ ผลการสำรวจพบว่า ผู้ประเมินค่าทรัพย์สินประเมินวิศวกรอยู่ที่ 80% ผู้ประเมินค่าทรัพย์สินเองอยู่ที่ 77% นักกฎหมายอยู่ที่ 75% และนายหน้าอสังหาริมทรัพย์อยู่ที่ 68% ทั้งนี้คงเป็นเพราะอาชีพนายหน้ายังไม่ได้มีการควบคุมอย่างจริงจังในประเทศส่วนใหญ่ในอาเซียนรวมทั้งประเทศไทย สำหรับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นหากมีการเปิดเขตเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ในปี พ.ศ. 2558 ปรากฏว่า 62% เห็นว่าน่าจะส่งผลในทางบวกต่อประเทศของตนเอง อย่างไรก็ตามในประเทศเช่นไทย เวียดนามดูเหมือนจะมีความห่วงใยเช่นกันต่อการเข้ามาแข่งขันทางการบริการวิชาชีพจากประเทศอื่น และเมื่อถูกถามถึงความพร้อมในการรับมือกับการแข่งขันใน AEC ปรากฏว่า เวียดนามกลับมีความพร้อมที่สุดถึง 86% จาก 100% รองลงมาคือมาเลเซีย ได้ 72% อันดับสามคือไทย 67% และอินโดนีเซีย 63% บรูไนและฟิลิปปินส์ ดูมีความพร้อมต่ำกว่าเพื่อนคือได้ 58% และ 57% ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่าประเทศไทยจะเป็นเป้าหมายที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งที่ประเทศเพื่อนบ้านจะกรีฑาทัพเข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทย ทั้งนี้โดยพิจารณาจากว่ากรุงเทพมหานครมีจำนวนโครงการอสังหาริมทรัพย์เกิดขึ้นมากที่สุดเมื่อเทียบกับกรุงจาการ์ตา กรุงพนมเปญ กรุงมะนิลา และ นครโฮชิมินห์ นอกจากนั้นในพื้นที่ตากอากาศเช่นพัทยา สมุย ภูเก็ตและหัวหิน ก็มีต่างชาติสนใจมาลงทุนเป็นจำนวนมากเช่นกัน ดังนั้นนักพัฒนา ที่ดินไทยต้องเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขันกับชาติอื่นในสมรภูมิของ

ไทยเอง

ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย

บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส

Page 3: Broker New November

ประจำเดือนพฤศจิกายน 2555

BROKER NEWS

Contents/สารบัญ ประจำเดือนพฤศจิกายน 2555 No.5

BROKER NEWSwww.reba.or.th

บทเรียนอดีตและอนาคต AEC กับการลงทุนต่างประเทศของนักอสังหาริมทรัพย์ไทย

สำหรับสมาชิกที่ต้องการเผยแพร่ข่าวสารขององค์กร สามารถติดต่อสอบถามและส่งข้อมูลได้ที่

ฝ่ายประชาสัมพันธ์ สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์

คุณดรุณี รุ่งเรืองผล โทร. 081-625-6628, 02-679-3255 ([email protected])

บทความ 4

SEARCH COST ภารกิจของนายหน้าอสังหาฯ

ข้อมูลเด่น เผยปัญหาเครดิตคนซื้อบ้านกระทบยอดขายอสังหาฯ มือสอง 8

โครงการบิส คอนซีเอจ 9

ออฟฟิศสำนักงานสำเร็จรูปและเสมือนจริง

การเปิดตัวโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่ตุลาคม 2555 10

ธรรมาภิบาลสำหรับวงการอสังหาริมทรัพย์ 11

5

นายหน้าสู่นักลงทุน 13

โครงการบ้านปลายหาด 14

คอนโดมิเนียมบนหาดวงศ์อมาตย์ พัทยา

ศุภาลัย เดินหน้าพัฒนาโครงการภูมิภาค 16

เปิดตัว“ศุภาลัย มอนเต้ @ เวียง เชียงใหม่”

ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์นำเข้าหรูเตรียมปรับกลยุทธ์รับมือเปิด AEC 17

เปิดเว็บไซต์ใช้งานง่ายและราคาถูกสำหรับธุรกิจ SME 18

Bentoweb เพิ่มช่องทางใหม่ในการสื่อสารกับผู้บริโภค

เปิดวิสัยทัศน์ผู้บริหารสำนักพิมพ์นานมีบุ๊คส์ 19

20 ปีกับวรรณกรรมที่ส่งเสริมความรู้และสร้างแรงบันดาลใจ

“กล้วยบวชชี” 20

ขนมไทยทำกินได้ที่บ้าน

ฮวงจุ้ยดี..ต้องกำจัดข้าวของรุงรังในบ้าน 21

เที่ยวตลาดน้ำอัมพวา 23

คลินิกบ้าน 24

เที่ยวเกาะต้องไปที่เกาะล้าน 22

วิธีทำความสะอาดสุขภัณฑ์ 24

Page 4: Broker New November

§ ข่าวสารจากสมาคมฯ ข่าว

ประจำเดือนพฤศจิกายน 2555

BROKER NEWS�

SEARCH COST ภารกิจของนายหน้าอสังหาฯ

การขายบ้านหรืออสังหาริมทรัพย์ของชาวอเมริกันเกือบร้อยทั้งร้อยมักขายผ่านนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ทั้งๆ ที่ ไม่มีกฎหมายบังคับว่าจะต้องขายผ่านนายหน้า ทั้งนี้น่าจะมาจากหลายเหตุผล เช่น การโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินที่ซื้อขายนั้นมีขบวนการที่ยุ่งยากและใช้เวลามาก จึงต้องใช้นักกฎหมายและนายหน้าช่วยในการดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ โดยยอมจ่ายค่านายหน้าซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ และอีกเหตุผลหนึ่งน่าจะมาจากมาตรฐานของนายหน้าที่มีใบอนุญาตและมีการควบคุมของแต่ละรัฐ ทำให้ประชาชนมีความมั่นใจในการใช้บริการของนายหน้ามากขึ้น สำหรับในประเทศไทย การจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ง่ายมาก ใช้เวลาแค่ครึ่งวันหรือบางครั้งแค่สองชั่วโมงก็เสร็จแล้ว ทำให้ ไม่ต้องพึ่งนักกฎหมายหรือนายหน้าก็ ได้ นอกจากนี้การที่ยังไม่มีกฎหมายควบคุมในการออกใบอนุญาตและควบคุมการทำงานของนายหน้า ทำให้ความเชื่อมั่นของประชาชนที่จะใช้บริการของนายหน้ามีน้อย (แต่ปัจจุบันนี้ความน่าเชื่อถือมีมากขึ้น) อีกเหตุผลหนึ่งที่ประชาชนยังไม่ใช้บริการของนายหน้า อาจเป็นเพราะเสียดายเงินค่าบริการ 3-5% โดยอาจเข้าใจว่านายหน้าไม่ได้ทำอะไรให้ แล้วมาเก็บค่าบริการเป็นเงินหลายหมื่นบาท หรือหลายแสนบาท หรืออาจเป็นล้านบาท ดังนั้น เป็นหน้าที่ของนายหน้าต้องอธิบายและชี้แจงให้ประชาชนผู้ ใช้บริการทราบว่า ตนเองทำอะไรให้บ้างและทำไมจึงสมควรรับค่าบริการดังกล่าว เริ่มจากเมื่อตกลงรับเป็นนายหน้าให้กับลูกค้าผู้ขายแล้ว ก็ต้องมีการจัดส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปทำการประเมินค่าทรัพย์สินและทำรายละเอียดเกี่ยวกับทรัพย์ที่ฝากขาย วาดแผนที่ที่ตั้งเพื่อเอาไว้นำเสนอลูกค้าผู้ซื้อ มีการถ่ายรูปที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่จะขายพร้อมสิ่งแวดล้อมใกล้เคียงหรืออาจถ่ายวีดี โอ เพื่อการประชาสัมพันธ์ รวมทั้งทำรายละเอียดเกี่ยวกับทรัพย์สินที่จะขาย และเตรียมข้อมูลที่เกี่ยวข้องหรือทรัพย์อื่นเพื่อเทียบเคียงกับทรัพย์ที่จะขายให้ลูกค้า ทั้งนี้ จะได้ใช้เป็นแนวทางในการตั้งราคาขายที่เหมาะสมและทำให้ขายได้ ทั้งยังทำให้การกำหนดราคาไม่ถูกหรือแพงเกินไป เพราะถ้าขายถูกไปผู้ขายก็เสียโอกาสและถ้าขายแพงไปก็ขายไม่ได้ มีแต่ถูกผู้ขายคนอื่นที่ขายทรัพย์เหมือนกันเอาไปเปรียบเทียบให้ผู้ซื้อของเขาดูและทำให้ทรัพย์สินของเขาขาย

Page 5: Broker New November

§ ข่าวสารจากสมาคมฯ ข่าว § �

ประจำเดือนพฤศจิกายน 2555

BROKER NEWS

ได้ เหลือแต่ทรัพย์ของเราอยู่คนเดียวในละแวกนั้น ทั้งคนขายและนายหน้าก็ไม่ได้เงินทั้งคู่ นอกจากนี้นายหน้ายังต้องทำการตลาด อาจโดยการลงโฆษณาในสื่อต่างๆ ที่มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง เช่น หนังสือพิมพ์รายวัน รายสัปดาห์ รายปักษ์ รายเดือน อินเทอร์เน็ต รวมทั้งการติดป้ายโฆษณาบอกที่ตั้งทรัพย์สิน สถานที่สำคัญใกล้เคียง ตามจุดที่มีผู้สัญจรไปมา และการทำ DIRECT SALE ถึงกลุ่มเป้าหมาย อาจโดยการไปพบและเสนอลูกค้าผผู้มุ่งหวังถึงตัว หรือส่งทางไปรษณีย์หรือโทรสารและอีเมล นอกจากนี้แล้ว นายหน้าจะต้องช่วยคัดเลือกผู้ซื้อที่มีคุณภาพ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่จะเกิดขึ้นในภายหลัง ติดต่อและติดตามผู้ซื้อเพื่อการขายที่รวดเร็ว นายหน้าบางรายอาจมีช่องทางการขายอื่นเช่น การนำทรัพย์สินออกขายในงานต่างๆ ที่เกี่ยวกับมหกรรมบ้านและที่ดิน นอกจากนี้ในกรณีที่นายหน้าเป็นสมาชิกของสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ เวลาปกติหรือเวลามี MARKETING SESSION ก็สามารถนำทรัพย์สินไปให้นายหน้าที่เป็นสมาชิกด้วยกันที่มีเป็นหลายร้อยไปช่วยกันขาย ทำให้มี โอกาสขายได้รวดเร็วขึ้น โดย ผู้ขายก็จ่ายค่านายหน้าเท่าเดิม แต่นายหน้าไปแบ่งผลประโยชน์จากค่านายหน้ากันเอง อีกหน้าหนึ่งของนายหน้าก็คือช่วยผู้ขายติดต่อสำนักงานที่ดิน เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับทรัพย์สินที่ขายเพื่อนำเสนอผู้ซื้อ พาผู้ซื้อชมและสำรวจทรัพย์สินโดยไม่ได้เก็บค่าใช้จ่ายจากผู้ขาย และนายหน้าเป็นผู้ตอบคำถามผู้ซื้อและเจรจาต่อรองทั้งราคาและเงื่อนไข อาจต้องประสานงานกับ

ฝ่ายรังวัดของสำนักงานที่ดิน ได้ผลประการใดก็รายงานผู้ขายเป็นระยะๆ ที่สำคัญนายหน้ายังช่วยดูแลด้านนิติกรรมสัญญาจะซื้อจะขายหรือให้เช่า ให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ซื้อและ ผู้ขายตามกฎหมายและประเพณีปฏิบัติ สิ่งที่นายหน้าไทยทำกันอยู่ทุกวันนี้อีกอย่างหนึ่งก็คือ การทำหน้าที่แนะนำแหล่งเงินกู้หรือสถาบันการเงินให้แก่ผู้ซื้อเพื่อจะได้ตัดสินใจซื้อได้เร็วขึ้น นอกจากนี้นายหน้ายังช่วยคำนวณค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ อันได้แก่ ค่าภาษีรายได้หัก ณ

ที่จ่าย ค่าธรรมเนียมการโอน ค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ ค่าอากรแสตมป์ เพื่อจะได้ทราบต้นทุนค่าใช้จ่ายเพื่อประกอบการตัดสินใจตั้งราคาขายหรือตัดสินใจขาย รวมทั้งยังทำหน้าที่บริการจนการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ ทำให้ผู้ขายได้รับเงินถูกต้องและเรียบร้อย และยังมีบริการหลังการขายอันได้แก่ ช่วยอำนวยความสะดวกในการโอนสิทธิ์เกี่ยวกับมิเตอร์ไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ ให้แก่ ผู้ซื้ออีกด้วย นายหน้าบางรายยังมีบริการ RENOVATE ทรัพย์สินก่อนการขาย

เพื่อช่วยให้ขายง่ายขึ้นและได้ราคาดีขึ้น หรือบางครั้งมีการจัดการขายโดยวิธีการประมูลเพื่อเพิ่มโอกาสในการขายมากขึ้นและได้ราคาดีขึ้น เมื่อท่านได้เห็นการทำงานของของนายหน้าที่มีมาตรฐานอย่างนี้แล้ว หากต้องการจะขายทรัพย์สิน ก็อย่าได้ไปเหนื่อยหรือเสียเวลาโดยการขายเองเลย เอาเวลาพาครอบครัวไปเที่ยวดีกว่า แล้วคอยรับรายงานจาก นายหน้าว่าขายได้แล้วหรือยัง ได้ราคาเท่าใด อย่าไปเสียดายค่า นายหน้าเลยครับเพราะมันเป็นค่า SEARCH COST

Page 6: Broker New November

ประจำเดือนพฤศจิกายน 2555

BROKER NEWS� สังคมนายหน้า

ประมวลภาพการจัดอบรมหลักสูตรการบริหารธุรกิจ เมื่อไม่นานมานี้สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ได้ร่วมกับโรงเรียนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย จัดอบรมหลักสูตรการบริหารธุรกิจนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ เพื่อต้องการเสริมความรู้ด้านวิชาการต่างๆ ให้แก่บุคลากรระดับผู้บริหาร หลักสูตรดังกล่าวได้รับการรับรองโดยกระทรวงศึกษาธิการ โดยครอบคลุมวิชาการระดับสูงที่สำคัญด้านต่างๆ ซึ่งจำเป็นต่อการประกอบอาชีพนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ อันจะเป็นประโยชน์ต่อการนำไปพัฒนาองค์กร และส่งผลต่อการยกระดับวิชาชีพให้มีมาตรฐาน เป็นที่ยอมรับจากบุคคลทั่วไปเพิ่มขึ้น การอบรมดังกล่าวได้รับความสนใจอย่างสูง เนื่องจากผู้ที่ผ่านหลักสูตรนี้มีคุณสมบัติตามข้อบังคับของสมาคมฯ และเป็นสมาชิกติดต่อกันครบ 3 ปี จะสามารถสมัครเข้าเป็น “สมาชิกวุฒ”ิ ของสมาคมฯ ได้ ซึ่งสมาชิกวุฒิจะมีสถานะและสิทธิพิเศษเหนือสมาชิกอื่นทั่วไป กล่าวคือ สามารถสมัครเข้ารับเลือกเป็นกรรมการบริหารสมาคมฯ รวมทั้งสามารถสมัครเข้ารับเลือกเป็นนายกสมาคมฯ ทั้งยังสามารถอบรมและออกหนังสือรับรองให้แก่ผู้ที่ผ่านการอบรมเพื่อสมัครเป็นสมาชิกสมทบได้ หลังจากที่อบรมเสร็จได้จัดให้มีการดูงาน และทำให้ผู้ที่ผ่านการอบรมดังกล่าวภาคภูมิใจและได้ความรู้จากหลักสูตรต่างๆ สำหรับการทำธุรกิจ และในปี 2556 หลักสูตรนี้จะเปิดให้ผู้ที่สนใจร่วมอบรมอีกครั้ง ต้องติดตามกันต่อไปว่าจะเปิด รับสมัครเมื่อไหร่?

Page 7: Broker New November

ประจำเดือนพฤศจิกายน 2555

BROKER NEWSสังคมนายหน้า

Page 8: Broker New November

ประจำเดือนพฤศจิกายน 2555

BROKER NEWS� สังคมนายหน้า

คุณดรุณี รุ่งเรืองผล

เผยปัญหาเครดิตคนซื้อบ้านกระทบยอดขายอสังหาฯ มือสอง ดาร์วิดพร็อพเพอร์ตี้แนะลูกค้าเคลียร์หนี้เก่าเผยกว่า 45% ติดแบล็คลิส กับสถาบันการเงิน ผลที่ตามมาก็คือลูกค้าไม่สามารถซื้อบ้านได้ ในขณะเดียว กันก็ส่งผลต่อการทำธุรกรรมของนายหน้าที่ไม่สามารถขายทรัพย์สินได้เช่นกัน เพื่อเป็นการแก้ปัญหาดังกล่าว ดาร์วิดพร็อพเพอร์ตี้ฯ ในฐานะตัวแทนนายหน้าอสังหาริมทรัพย์จึงมีนโยบายที่ชัดเจนในการเป็นที่ปรึกษาด้านการเงินให้กับลูกค้า โดยเบื้องต้นก่อนที่จะยื่นกู้เพื่อขอสินเชื่อจะต้องมีการตรวจสอบสถานะทางการเงินและเครดิตของผู้ซื้อก่อนทุกครั้ง หากพบว่ามีปัญหาในการผ่อนชำระหรือค้างจ่ายค่างวดต่างๆ กับไฟแนนซ์ จะแนะนำให้ผู้ซื้อบ้านจัดการเรื่องเครดิตของตนเองให้อยู่ในสถานะปกติและพร้อมสำหรับการยื่นกู้เพื่อขอสินเชื่อกับสถาบันการเงิน มิเช่นนั้นก็จะไม่ผ่านการพิจารณาซึ่งทำให้ทุกฝ่ายเสียเวลา นางดรุณี กล่าวว่า ปัจจุบันโบรกเกอร์ที่เป็นมืออาชีพส่วนใหญ่ได้แนะนำลูกค้าให้เจรจาเพื่อชำระหนี้กับสถาบันการเงิน เพื่อให้มีเครดิตอยู่ในสถานะปกติและสามารถทำธุรกิจอื่นๆ กับธนาคารได้ ทั้งนี้ บทบาทการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้กับลูกค้าได้ถูกผลักดันให้เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น เนื่องจากทางสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ โดยนายแพทย์สมศักดิ์ มุนีพีระกุล นายกสมาคมฯ กำลังดำเนินการขอความร่วมมือไปยังสมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย เพื่อทำโครงการฝึกอบรมและให้ความรู้ด้านสินเชื่อกับนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งปัจจุบันนี้เป็นกลุ่มที่มีบทบาทสำคัญในการขายอสังหาริมทรัพย์ทั้งบ้านใหม่และบ้านมือสอง หากนายหน้ามีความเข้าใจกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการในการขอสินเชื่อที่อยู่อาศัย จะสามารถคัดกรองกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการซื้อบ้านมือสองส่งให้กับสถาบันการเงินต่างๆ และทำให้กระบวนการขอสินเชื่อมีความเป็นไปได้สูงขึ้น

“ในฐานะที่ เป็นกรรมการของสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ต้องการเห็นการทำงานของนายหน้าเปลี่ยนไปจากเดิมที่ทำเฉพาะเรื่องการตลาดเพียงอย่างเดียว แต่จากนี้ไปจะต้องทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาด้านการเงินและลงทุน พร้อมทั้งมีความรู้ด้านต่างๆ เพื่อช่วยเหลือผู้บริโภคในขอสินเชื่อที่อยู่อาศัย ซึ่งจะต้องมีความรู้และเข้าใจกระบวนการดังกล่าวทุกขั้นตอน ทั้งยังสามารถถ่ายทอดให้ลูกค้าเข้าใจและมีความพร้อมในการกู้เงินเพื่อซื้อบ้าน หากเป็นไปได้ต้องการให้มีการออกไลเซ่นด้านสินเชื่อกับนายหน้าอสังหาฯ เพื่อจะได้มีความรู้ที่สามารถทำงานร่วมกับสถาบันการเงิน และให้บริการผู้บริโภคที่ต้องการซื้อบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเชื่อว่าหากทั้ง 2 สมาคมได้ร่วมเป็นพันธมิตรในการทำงาน จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ผู้บริโภคมีความสะดวกสบายและทำให้การขอสินเชื่อมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น” นางดรุณี กล่าว

ดาร์วิดพร็อพเพอร์ตี้ฯ เผยสถิติลูกค้ากู้เงินซื้อบ้านกว่า 90% และ 45% กู้ ไม่ผ่านเพราะประสบปัญหาเครดิตส่งผลกระทบการทำธุรกรรมของนายหน้าอสังหาฯ ย้ำโบรกเกอร์มืออาชีพต้องแนะลูกค้าประนอมหนี้เร่งเคลียร์ประวัติทางการเงิน หวังมีไลเซ่นด้านสินเชื่อเพื่อเป็นที่ปรึกษาด้านการเงินให้กับผู้บริโภค นางดรุณี รุ่งเรืองผล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดาร์วิด พร็อพเพอร์ตี้ เซอร์วิส จำกัด เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาส่วนหนึ่งของผู้บริโภคที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ประสบปัญหาเรื่องการยื่นกู้ขอสินเชื่อกับธนาคาร เนื่องจากเคยมีประวัติค้างการชำระเงินและถูกจัดอยู่ในสถานะหนี้เสีย ทำให้ถูกขึ้นแบล็คลิสและมีปัญหาด้านเครติด จึงไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้อีก ปัญหาดังกล่าวส่งผลกระทบต่อการขายอสังหาริมทรัพย์มือสอง เนื่อง จากปัจจุบันนี้มีผู้บริโภคเพียงร้อยละ 10 เท่านั้นที่ซื้ออสังหาริมทรัพย์ด้วยเงินสดซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มนักลงทุน ส่วนอีกร้อยละ 90 ต้องยื่นขอสินเชื่อกับสถาบันการเงิน และในจำนวนผู้ที่ต้องกู้เงินประมาณร้อยละ 45 มักติดแบล็คลิส

Page 9: Broker New November

ประจำเดือนพฤศจิกายน 2555

BROKER NEWSข่าวแนะนำโครงการ

เราให้บริการที่เหนือกว่าด้วยความโปร่งใสและไม่มีต้นทุนแอบแฝง

สนใจติดต่อสอบถามเพิ่มเติม : โทร. +66 (0) 2646 2555, +66 (0) 8 5918 8872 www.biz-concierge.com E-mail: [email protected]

บิสคอนซีเอจ ที่อื่น

ฟรี ค่าจัดตั้งสำนักงาน คิดค่าบริการเพิ่ม

ฟรี ค่าติดตั้งอินเทอร์เน็ต คิดค่าบริการเพิ่ม

ฟรี ค่าติดตั้งโทรศัพท์ และโทรสาร คิดค่าบริการเพิ่ม

ฟรี เครื่องดื่ม และกาแฟสดคุณภาพ คิดค่าบริการเพิ่ม

ฟรี สระว่ายน้ำ และห้องออกกำลังกาย ไม่มีให้บริการ

ฟรี สวนกลางแจ้ง ไม่มีให้บริการ

สังคมนายหน้า

ออฟฟิศสำนักงานสำเร็จรูปและเสมือนจริง

บิส คอนซีเอจ สำนักงานสำเร็จรูปด้วย Lifestyle ที่แตกต่าง ตั้งอยู่ ใจกลางเมืองเดินทางสะดวก ใกล้ BTS, MRT และจุดขึ้นลงทางด่วน ท่านสามารถเริ่มธุรกิจได้ทันที เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้นธุรกิจ หรือบริษัทมีขนาดเล็ก บริษัท สาขา - ออฟฟิศ ตัวแทนต่างๆ, หรือแม้กระทั่ง สำนักงานแบบฉุกเฉิน ด้วยสำนักงานที่ให้บริการพร้อมเฟอร์นิเจอร์ครบชุด และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ห้องประชุม - สัมมนารองรับ ตั้งแต่ 4 - 100 ท่าน, เจ้าหน้าที่บริการลูกค้า, ระบบอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง, ระบบโทรศัพท์ VoIP, พักผ่อนอริยาบถเพลิดเพลินกับการจิบกาแฟ และ ทานอาหารกับห้องรับประทานอาหารที่ออกแบบ -ตกแต่งใน 3 รูปแบบที่แตกต่าง หรือสวนกลางแจ้งบริ เวณห้องทำงานของคุณ พร้อมการให้บริการ สระว่ายน้ำ และห้องออกกำลังกาย ฟรีตลอดอายุสัญญา

ประจำเดือนพฤศจิกายน 2555

Page 10: Broker New November

บทความ

โดย ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย

ประจำเดือนพฤศจิกายน 2555

BROKER NEWS10N

ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส เปิดเผยว่า ภาพรวมของอสังหาริมทรัพย์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลมีการเปิดตัวลดลงจากเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นช่วงปลายไตรมาส 3 ซึ่งเป็นฤดูฝนตกชุกและมีน้ำหลาก และมีบางโครงการที่รอเปิดตัวในงานมหกรรมบ้านและคอนโดครั้งที่ 27 โดยเดือนตุลาคมมีจำนวนโครงการเปิดขายใหม่ทั้งหมด 22 โครงการ ลดลงจากเดือนที่ผ่านมา 9 โครงการ อีกทั้งมูลค่าโครงการ และจำนวนหน่วยขายก็ลดลงด้วย ซึ่งในเดือนนี้ลักษณะการพัฒนาเป็นการพัฒนาในกลุ่มที่อยู่อาศัยทั้งหมด จำนวนรวม 5,212 หน่วย และมีมูลค่าการพัฒนาโครงการรวม 15,443 ล้านบาท จำนวนอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดขึ้นใหม่ ในเดือนตุลาคมมีทั้งหมด 5,212 หน่วย ลดลงจากเดือนที่ผ่านมาจำนวน 2,996 หน่วย (เดือนสิงหาคม 2555 มีจำนวน 8,208 หน่วย) หรือลดลงประมาณ 37% โดยประเภทที่มีจำนวนหน่วยเปิดขายใหม่มากที่สุดในเดือนนี้ยังคงเป็นอาคารชุดเหมือนเดือนที่ผ่านมา โดยมีจำนวนหน่วยเปิดขาย 3,195 หน่วย (61%) รองลงมาคือ ทาวน์เฮ้าส์ 913 หน่วย (18%) ส่วนอันดับ 3 คือ บ้านเดี่ยว 699 หน่วย (8%) ของจำนวนหน่วยขายที่เปิดขายใหม่ทั้งหมด บ้านเดี่ยวจะตั้งอยู่ในบริเวณถนนราชพฤกษ์-นนทบุรี และบริเวณถนนวงแหวนตะวันออก ทาวน์เฮ้าส์จะกระจายอยู่ในเขตติดต่อเมือง เช่น บริเวณถนนบางนา-ตราด ศรีนครินทร์ และรามคำแหง ส่วนอาคารชุดจะมีการพัฒนาที่ในเขตกรุงเทพชั้นใน กรุงเทพชั้นกลาง และพื้นที่รอบนอก ซึ่งหากอยู่ในเขตกรุงเทพฯ ชั้นในจะเปิดอยู่บริเวณสุขุมวิท และถนนพหลโยธิน ในเขตกรุงเทพฯ ชั้นกลาง เช่น ย่านลาดพร้าว-รัชโยธิน กรุงเทพ-นนทบุรี เป็นต้น ส่วนพื้นที่รอบนอกจะเป็นการพัฒนาอาคารชุดระดับราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท เช่นบริเวณตลาดไท เป็นต้น

มูลค่ารวมของการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดใหม่ในเดือนกันยายน 2555 นี้ ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส พบว่ามีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 15,443 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากเดือนที่ผ่านมาจำนวน 11,814 ล้านบาท (เดือนสิงหาคม 2555 มีมูลค่า 27,257 ล้านบาท) หรือลดลงประมาณ 43% ซึ่งในเดือนนี้ลักษณะการพัฒนาที่อยู่อาศัยจะใกล้เคียงกับเดือนที่ผ่านมา คือมีการพัฒนาตั้งแต่ราคาปานกลางจนถึงค่อนข้างสูง โดยระดับราคาที่มีการพัฒนามากสุด คือระดับราคา 1-2 ล้านบาท มีจำนวนประมาณ 36% รองลงมาคือระดับราคา 3-5 ล้านบาท มีจำนวนประมาณ 21% ของหน่วยขายที่เปิดใหม่ทั้งหมดในเดือนนี้

ผู้ประกอบการที่เปิดตัวโครงการใหม่ ในเดือนนี้ เป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ (มหาชน) จำนวน 8 บริษัท คือ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) บริษัท ธนาสิริ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) บริษัท อารียา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) บริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน) บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) บริษัท เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) บริษัท แสนสิริ

จำกัด (มหาชน) บริษัท เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) และมีบริษัทในเครือบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ 2 บริษัท นอกจากนี้ก็ยังมีบริษัททั่วไปอีกจำนวนหนึ่ง หากเปรียบเทียบการพัฒนาระหว่างบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ บริษัทในเครือ และบริษัททั่วไป หากพิจารณาภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ที่เปิดใหม่ใน 9 เดือนแรก 2555 จะพบว่าตั้งแต่เดือนมกราคม-กันยายน 2555 มีจำนวนโครงการที่เปิดใหม่รวม 270 โครงการ (ลดลงประมาณ -20%) มีจำนวนหน่วยขายรวม 69,662 หน่วย (ลดลงประมาณ -4%) มีมูลค่ารวม 193,799 ล้านบาท (ลดลงประมาณ -12%) และมีราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยลดลงจาก 3.043 ล้านบาทเป็น 2.781 ล้านบาท (ลดลงประมาณ -9%)

การเปิดตัวโครงการอสังหาริมทรัพย์ ใหม่ตุลาคม 2555

Page 11: Broker New November

สำหรับในวงการอสังหาริมทรัพย์ ที่มุ่งหวังจะสร้างยี่ห้อหรือ แบรนด์ให้เติบโตอย่างยั่งยืน ภายในองค์กรต้องมีระบบธรรมาภิบาล (Good Governance) หรือบรรษัทภิบาล (Corporate Governance) ที่มุ่งก่อให้เกิดความโปร่งใสต่อผู้มีส่วนได้เสีย (Stakeholders) อันได้แก่ทั้งผู้ถือหุ้น ลูกจ้าง ลูกค้า คู่ค้า ชุมชนและสังคมโดยรวม การมีธรรมาภิบาล จำเป็นต่อทุกภาคส่วนในวงการอสังหาริมทรัพย์ ดังนี้ ● นักพัฒนาที่ดิน ที่ผ่านมาสังคมรู้สึก “แหยง” กับการซื้อบ้านแต่ได้ เสา หรือได้แต่สัญญาซื้อขาย นักพัฒนาที่ดินไม่สามารถก่อสร้างได้แล้วเสร็จตามกำหนด หรือซื้อแล้วได้ที่อยู่อาศัยที่ผิดจากที่กำหนดไว้ในสัญญา หรือนักพัฒนาที่ดินทำผิดสัญญาสารพัด ปัญหาเหล่านี้สร้างความหวาดหวั่นแก่ผู้ซื้อ หรือผู้บริโภคไม่น้อย การซื้อบ้านจึงกลายเป็นความเสี่ยงหรือเรื่องอกสั่นขวัญแขวนกับการที่จะมีโอกาสถูกโกง นักพัฒนาที่ดินมืออาชีพ จึงควรมีธรรมาภิบาลที่ดี มีความรับผิดชอบต่อลูกค้าเป็นอย่างดี ไม่ละเมิดกฎหมาย ไม่เอาเปรียบผู้บริโภค และหากนักพัฒนาที่ดินสามารถทำได้เช่นนี้ ก็จะสร้าง “แบรนด์” ได้อย่างอเนกอนันต์ อาจเติบโตสวนกระแสในภาวะที่ผู้ซื้อบ้านเกิดความไม่มั่นใจในสินค้าอสังหาริมทรัพย์ของนักพัฒนาที่ดินรายอื่นๆ ● ธุรกิจ SMEs ในสังคมไทย หลายคนคงเคยได้ยินว่า แม่ค้าขายขนมจีน เอากระดาษทิชชูมาผสมในน้ำยา นัยว่าเพื่อลดต้นทุนให้ขายได้ราคาถูก ช่วยให้ขายได้ดีขึ้น หรือใส่ผงชูรสมากมายเพียงเพื่อให้คนติดใจในรสชาติโดยขาดความรับผิดชอบ หรือนำอาหารที่เสื่อมคุณภาพมาขายจนกระทั่งเด็กนักเรียนกินแล้วอาเจียนกันทั้งโรงเรียน เป็นต้น ในวงการอสังหาริมทรัพย์ มี SMEs มากมาย ตั้งแต่ผู้รับเหมา ผู้รับเหมาช่วง ทะเบียนพาณิชย์ขนาดเล็กๆ ที่เป็นผู้จัดหาสินค้าและบริการ (Suppliers) อันที่จริงแม้แต่นักพัฒนาที่ดินรายเล็กก็ยังถือว่าเป็น SMEs เช่นกัน บริษัทพัฒนาที่ดินมหาชนขนาดใหญ่อาจเป็นเพียงส่วนน้อยในวงการอสังหาริมทรัพย์

ดังนั้นการที่ SMEs ผู้เกี่ยวข้องเหล่านี้ มีธรรมาภิบาล ไม่ “ด้านได้เอายอด” รักษาสัญญากับลูกค้า ไม่ทิ้งงาน ย่อมยังความน่าเชื่อถือและทำให้ธุรกิจดำเนินไปอย่างยั่งยืน ● บริษัทมหาชน ก่อนหน้านี้ การขาด CSR อาจเห็นได้จากการที่ เจ้าของเดิมของบริษัทมหาชน ทิ้งกิจการของตนเองหลังจากเข้าระดมเงินในตลาดหลักทรัพย์ได้แล้ว โกงบริษัทของตนเอง จัดตั้งบริษัทลูกมาให้บริการแก่บริษัทแม่ที่เป็นบริษัทมหาชนโดยไม่ต้องแข่งขันอย่างเท่าเทียม หรือใช้จ่ายเงินฟุ่มเฟือยเพื่อบำรุงความสุขสบายของผู้บริหาร เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันนี้ ตลาดหลักทรัพย์และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ต่างมี มาตรการควบคุมบริษัทมหาชนรัดกุมกว่าแต่ก่อน และถือเป็นมาตรฐานที่ดีสำหรับวิสาหกิจอื่นๆ นอกตลาดหลักทรัพย์ เพื่อให้เกิดความ โปร่งใส เป็นธรรม และปิดโอกาสการทุจริต ขนาดก็ ไม่ได้เป็นหลักประกันว่าบริษัทจะโกงลูกค้าหรือไม่ หลักประกันสำคัญคงเป็นการนำ พรบ.คุ้มครองผลประโยชน์ของคู่สัญญามาใช้อย่างทั่วหน้า จึงมีความน่าเชื่อถือว่าจริง ● นายธนาคาร ฝ่ายจัดซื้อของธนาคารบางแห่งเรียกเก็บเงินกินเปล่า จากการผู้ขายสินค้าและบริการ เช่น ถ้าจะบริษัทประเมินจะได้รับงาน ก็ต้องจ่ายให้ผู้จัดการสาขาหรือภาค 20% ของค่างานเป็นต้น ใครไม่จ่ายก็ไม่ได้งาน อย่างนี้ก็ ไม่เกิดการแข่งขันเสรี ธนาคารเองก็จะเสียหายเพราะไม่ ได้รับคุณภาพของสินค้าและบริการ ที่ผ่านมา ธนาคารหลายแห่งที่ล้มเลิกกิจการไปนั้น เป็นเพราะการปล่อยกู้อย่างขาดความรับผิดชอบให้เครือญาติโดยขาดหลักทรัพย์ค้ำประกันที่เพียงพอ ธนาคารหลายแห่งขโมยโครงการที่มีแนวคิดการตลาดดีๆ ไปทำเสียเอง หรือกว่าจะกู้เงินมาทำโครงการอสังหาริมทรัพย์ได้ ก็ต้องจ่ายเบี้ยบ้ายรายทางให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสินเชื่อ ผู้จัดการสาขา และผู้จัดการเขต เป็นต้น ธนาคารที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม ก็คือการรับผิดชอบต่อลูกค้าเป็น

ธรรมาภิบาลสำหรับวงการอสังหาริมทรัพย์ โดย ดร.โสภณ พรโชคชัย

11

ประจำเดือนพฤศจิกายน 2555

BROKER NEWSN

Page 12: Broker New November

บทความ

สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าที่มาฝากเงินหรือที่มากู้เงิน โดยการ “กวาดบ้าน” ตัวเองก่อน ปิดโอกาสที่จะเกิดทุจริต ทำให้ลูกค้าไว้วางใจ เป็นต้น ถ้าธนาคารใดสร้างความแตกต่าง ในกรณีความโปร่งใสนี้ ได้ดี ก็จะสามารถได้ลูกค้าดีๆ โดยทำให้ความเสี่ยงทางธุรกิจของธนาคารเองลดลง ธนาคารหลายแห่งเป็นผู้อุปถัมภ์งานอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรมต่างๆ มากมาย แต่กลับขูดรีดบีบคั้นแรงงานกับพนักงานอย่างรุนแรงและการปรับเพิ่มเงินเดือนก็ต้องอาศัยการเรียกร้องอย่างเอาเป็นเอาตายของพนักงาน กรณีเช่นนี้เป็นภาพที่ขัดแย้งกันเองอย่างชัดแจ้ง ● สื่อมวลชน สื่อมวลชนไทย โดยเฉพาะ ในภาคอสังหาริมทรัพย์นั้น อาจต้องใกล้ชิดกับ

นักพัฒนาที่ดินมากเป็นพิเศษ การลงข่าว การสัมภาษณ์ ก็จึงเป็นการเอื้อประโยชน์ทางธุรกิจได้ในระดับหนึ่ง ความเป็นกลางทางการนำเสนอข่าวอาจเป็นประเด็นที่ผู้อ่านหรือผู้บริโภคอาจเคลือบแคลงได้ จะสังเกตได้ว่าข่าวคราวประเภทที่นักพัฒนาที่ดินโกงผู้บริโภค มักไม่ค่อยเห็นในสื่อต่างๆ สื่อมวลชนที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมจึงไม่ควรเป็นเครื่องมือโฆษณาชวนเชื่อของนักพัฒนาที่ดินรายใหญ่ และควรมีความเป็นกลางในการนำเสนอข่าวโดยไม่นำพาต่อการลงโฆษณาหรือไม่ของนักพัฒนาที่ดิน แต่การนี้อาจทำได้ยาก เพราะรายได้หลักของหนังสือพิมพ์มาจากการโฆษณามากกว่าจากผู้อ่าน ผู้บริโภคเองจึงต้องพยายามใช้วิจารณญาณประกอบในการเสพสื่อสารมวลชนด้วย ● นักวิชาชีพอสังหาริมทรัพย ์ เราคงเคยได้ยินบริษัทบัญชี หรือผู้ตรวจสอบบัญชีบางราย ฉ้อฉลด้วยการลงลายมือชื่อตรวจสอบบริษัทนับแสนรายต่อปี บริษัทที่ปรึกษา เช่น ผู้ประเมินค่าทรัพย์สินบางแห่งไม่ซื่อสัตย์ต่อวิชาชีพ ตั้งแต่ผู้บริหารจนถึงผู้ประกอบวิชาชีพเรียกรับเงินจากลูกค้า หรือร่วมกับ ลูกค้าออกรายงานประเมินโกงธนาคาร หรือร่วมมือกับผู้บริหารธนาคารโกงธนาคารที่ตนบริหารอยู่ เป็นต้น ดังนั้น นักวิชาชีพที่ดีต้องไม่ “พาย-เรือให้โจรนั่ง” แต่ควรดำเนินวิชาชีพตามกฎหมาย ไม่ละเมิดจรรยาบรรณของวิชาชีพเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว การควบคุมวิชาชีพอสังหาริมทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นผู้ประเมินค่าทรัพย์สิน นายหน้า ผู้บริหารทรัพย์สิน สถาปนิก วิศวกร ฯลฯ นั้นรัฐบาลควรเป็นผู้ดำเนินการควบคุมโดยตั้งเป็นสภาวิชาชีพ อาจกล่าวได้ว่าในประเทศที่ไม่ค่อยพัฒนา ยังไม่มีระบบควบคุมนักวิชาชีพที่ต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพพอ ทำให้เกิดช่องโหว่ ในการโกงกินต่างๆ โดยใช้นักวิชาชีพเป็นตรายาง (rubber stamp) ต่อไป ● บทสรุป อาจกล่าวได้ว่า การมีธรรมาภิบาล มีความรับผิดชอบต่อสังคม เนื้อหาสำคัญประการแรกก็คือ การทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย โปร่งใส โดยไม่ละเมิดหรือทำร้ายผู้มีส่วนได้เสียทั้งหลายเสียก่อน เรียกว่าเป็นการปฏิบัติตนให้อยู่ในกรอบของกฎหมายโดยเคร่งครัด ขาดเสียมิได้ ประการต่อมาจึงเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างอ่อน (Soft Laws) เช่น จรรยาบรรณวิชาชีพ กติกาของสังคมที่ถือเป็นมรรยาทที่วิสาหกิจที่ดีพึงยึดถือ ส่วนประการ

สุดท้ายก็คือการอาสาทำดี การบริจาคในรูปแบบต่างๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่จะทำหรือไม่ก็ได้ ถ้าทำ ก็จะได้ชื่อเสียง ได้รับความนิยม เป็นผลดีต่อวิสาหกิจเอง หากในวงการอสังหาริมทรัพย์มีธรรมาภิบาลจริง ย่อมทำให้วงการนี้ได้รับความเชื่อถือจากผู้บริโภค ส่งผลให้การประกอบกิจการเจริญงอกงาม แต่ถ้าเราทำธุรกิจแบบ “โกงไปโกงมา” แทนที่จะ “ตรงไปตรงมา” ความวิบัติย่อมมาเยือน

ประจำเดือนพฤศจิกายน 2555

BROKER NEWS1�N

Page 13: Broker New November

วิถีนายหน้าอสังหาฯ ที่เริ่มต้นจากศูนย์บาท

13

ประจำเดือนพฤศจิกายน 2555

BROKER NEWS

อีกกรณีที่ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีกับชีวิตผมไม่ใช่น้อย คือ ช่วงที่ก้าวผ่านจากการเป็นตัวแทนนายหน้าอย่างเดียว มาสวมหมวกนักลงทุน (Investor) ซึ่งไม่คาดคิดมาก่อนเช่นกัน แต่มันบังเอิญอย่างสุดซึ้ง คือ พอเริ่มสร้างเครือข่ายคณะนายหน้า ทำมาหากินกันแล้ว ก็เริ่มมีเงินเป็นก้อน ได้เห็นการซื้อมาขายไปของนักลงทุนต่างๆ มากขึ้น ผมเริ่มใจแตกครับ เลยซื้อ-ขายเองบ้าง เริ่มต้นเคสแรกเลย เป็นบ้านในย่านสุขาภิบาล 1 และ 2 ผมซื้อเป็นประมาณ 20 หลังเลยครับ เพราะยุคนั้นหมู่บ้านเกิดเยอะมาก อย่าเพิ่งคิดว่ามีเงินมากล้นฟ้านะครับ แต่มันมีวิธี เดินเข้าไปคุยกับโครงการเลย ถ้าผมซื้อสิบหลังคุณให้ราคาหลังละเท่าไหร่ ทั้งที่จริงๆ ก็ไม่ได้มีเงินกองอยู่หน้าตักพอจะซื้อหรอก แต่ก็ไม่ได้บอกทางโครงการนะว่าไม่มีเงิน คือก็ทำเป็นมีเงินไปก่อน (555) แต่ที่แน่นอน คือผมมีเงินดาวน์ และผ่อนตามทีละน้อยๆ ต่อเดือน ดังนั้นเมื่อราคาบ้านปกติที่คนอื่นซื้อ คือหกแสนบาท แต่ผมจะซื้อได้ ห้าแสนหรือห้าแสนห้าหมื่นบาท เพราะผมซื้อเยอะครับ เป็นสิบๆ หลัง ก็ตกลงเจรจาวางมัดจำกันไป สามพัน ห้าพันบาท จากนั้นหน้าที่ผมคือนั่งรอราคาปรับขึ้น ก็เอาออกมาขาย วางไปห้าพันบาท หนึ่งหมื่นบาท ผมก็ตั้งราคาขาย สามหมื่นบาท ห้าหมื่นบาท หรือแม้แต่สองหมื่น ก็ขาย ยังไงก็กำไรอยู่แล้ว เคยมีครั้งหนึ่ง ผมแค่วางเงินจองไป สามพันบาท ยังไปถึงอาทิตย์เลย มี

ให้กำไรผม 1 ล้านบาท ก็ตกลงปลงใจโอนเป็นของเขาไปเลย และผมก็นอนนับเงิน แล้วผมก็ทำแบบนี้อีกหลายปี ได้บ้างเสียบ้าง แต่ผลที่ได้ “ได้มากกว่าเสีย” ผมก็ยังเองเงินเพื่อไปลงทุนต่อ อย่างว่าครับ คนเรามันเพียงพอง่ายซะที่ไหนตอนนั้นเศรษฐกิจพอเพียงของพระองค์ท่านยังไม่เป็นที่ติดปากและคุ้นหู ช่วงชีวิตหนึ่งผมเป็นนายหน้าประจำพื้นที่สุขุมวิท ผมเคยอาศัยการสร้างเครือข่ายพื้นที่ กระทั่งประสบความสำเร็จมากๆ ตอนนั้นส่วนใหญ่ผมวิ่งหาคอนโดให้ชาวต่างชาติเช่าและซื้อ แหล่งข้อมูลผมอย่างดีเลยก็คือ ผู้จัดการอาคาร ยาม แม่ค้า แม่บ้าน วิธีการผมไม่มีอะไรมาก เดินเข้าไปเลย ฝากนามบัตรไว้ ถ้ามีฝรั่งมาที่นี่ แล้วห้องเต็ม โทรศัพท์บอกผม ถ้าปิดการขายรายที่คุณโทรมาได้ ผมจ่ายค่าโทรศัพท์ให้เลย หลักหมื่น หรือบางครั้งอาจจะมากกว่านั้น แล้วแต่กรณี ถามว่าเป็นคุณ จะโทรบอกผมไหม แค่ยกหูโทรศัพท์ แล้วบอกให้ฝรั่งรอ แค่นี้จบที่เหลือผมจัดการเอง และผมส่งรถด่วนเพื่อรับไปดูคอนโดฯ อพาร์เม้นท์ที่อยู่ในรายการของผม แค่นี้จบ ปิดได้ก็จ่ายให้คนที่โทรบอกไป และวิธีนี้ทำเงินให้ผมเยอะมากๆ ช่วงนั้น ในสุขุมวิทมีประมาณ 1,500 กว่าอาคาร ผมลงทุกที่ ได้เงินมาหลายล้าน แล้วผมก็ดูแลเครือข่ายผมอย่างดีเลยนะ มีปิดโรงแรมเลี้ยง ประมาณ 300 กว่าคน จัดปาร์ตี้ แจกรางวัล สร้อยทอง 10 บาท โทรทัศน์ พัดลม ตู้เย็น หลายอย่างมาก งานนั้นหมดเงินไป 4 แสนกว่า แต่สิ่งที่ผมได้กลับมามันเยอะกว่านั้น คือทุกคนก็ยิ่งเต็มใจ อยากส่งลูกค้าต่อให้ผมมากยิ่งขึ้น

คนมาขอซื้อ หนึ่งหมื่นบาท เพราะเขาจองไม่ทัน อันนี้กำไรเห็นๆ และเร็วอีกต่างหาก จากนั้นก็ยิ่งคิดการณ์ไกลขึ้นเรื่อย เริ่มเพิ่มอัตราเสี่ยงมากขึ้น ด้วยฐานเงินที่สูงขึ้น มีครั้งหนึ่งผมไปรู้มาว่าที่ตรงนี้ขาย 25 ล้าน แต่จริงๆ แล้วราคาตลาดมันขึ้นถึง 35-40 ล้านบาท มันขายได้แน่ๆ พอผมรู้ว่ายังไงมันก็ขายได้ มีเงินอยู่เท่าไหร่ ก็ลงไปเลยครับ แต่ผมก็ไม่ได้มีถึง 25 ล้านไปซื้อ วิธีการผมคือต่อรองจาก 25 ล้าน จนเหลือ 20 ล้าน ก็ขอวางมัดจำไปเลย 1 ล้าน ขอเวลา 6 เดือนชำระที่เหลือ อีก 19 ล้าน คือวัดดวงเลยครับ ถ้าขายได้ก็มีกำไร ถ้าพลาดเหลือ 0 บาท และขาดทุนไป 1 ล้านบาทถ้วน ปรากฏว่าสำเร็จเคสนี้ ผ่านไป 1 เดือน ผมขายได้ ก็คือมีคนมาขอซื้อต่อ

เปิดชีวิตนายหน้า C

นายหน้าสูน่ักลงทุน

N

โดย มูฮัมหมัดอิกบาน เชตเตอร์โมฮามัด

Page 14: Broker New November

ข่าวอสังหาริมทรัพย์ U

ประจำเดือนพฤศจิกายน 2555

BROKER NEWS14

โครงการคอนโดมิเนียมสไตล์โมเดิร์นรีสอร์ท บนหาดวงศ์อมาตย์ ที่ผสานแนวความคิดของการหยุดพักจากความเคลื่อนไหวภายนอก เข้าสู่ความสงบภายใน ในทุกโมงยามของการพักผ่อน โดยเน้นการออกแบบเพื่อให้ ได้สัมผัสความสงบ และเป็นส่วนตัวพร้อมวิวทะเล กับการดีไซน์พื้นที่ให้เชื่อมต่อความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับท้องทะเลเพื่อพบปลายทางบนดินแดนแห่งความสุขส่วนตัวด้วยนิยามใหม่ของบ้านสำหรับการพักผ่อนของคุณ “บ้านปลายหาด” คอนโดมิเนียมแห่งแรกสไตล์โมเดิร์นรีสอร์ทบนทำเลที่ดีที่สุดของพัทยาจากแสนสิริ บนหาดวงศ์อมาตย์ พัทยาเหนือที่ ได้รับการออกแบบจากทีมสถาปนิกจาก The Steven Leach Group และ Landscape Designer มือรางวัลจาก Trop ที่พิสูจน์ผลงานจาก Quattro by Sansiri จนได้รับรางวัล ASLA 2012 Professional Awards มาแล้ว

โดยแนวคิดการออกแบบได้รับแรงบันดาลใจจากรูปแบบพื้นที่ของโครงการที่มีทางเดินเชื่อมไปยังหาดส่วนตัว รูปทรงของสถาปัตยกรรมถูกออกแบบให้สามารถมองเห็นวิวทะเลได้เกือบทุกยูนิตโดยห้องพัก ด้านทิศเหนือถูกออกแบบให้ ได้เปิดมุมมองของทั้งระเบียงห้องนั่งเล่น และห้องนอนให้ผู้อยู่อาศัยได้ดื่มด่ำบรรยากาศกับวิวทะเลอย่างเต็มที่ ส่วนห้องพักด้านทิศตะวันตกเหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบบรรยากาศในยามพระอาทิตย์ตกดิน จึงออกแบบให้มีระเบียงที่ลึกขึ้น สำหรับนั่งเล่นหรือสังสรรค์กันอย่างเป็นส่วนตัว ทั้งยังตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติโดยมีทะเลและหาดทรายเป็นองค์ประกอบที่สำคัญ ผู้ออกแบบจึงเกิดแนวความคิดที่จะผสมผสานเส้นสายทางสถาปัตยกรรมและโทนสีที่อบอุ่นให้สอดคล้องกับธรรมชาติและกลมกลืนกับบริบทรอบข้าง เพื่อให้ผู้อาศัยรู้สึกถึงความผ่อนคลาย ลืมความวุ่นวายของสังคมเมือง เปรียบเสมือนได้พักผ่อนอยู่ในบ้านส่วนตัวริมทะเล

โครงการบ้านปลายหาด คอนโดมิเนียมบนหาดวงศ์อมาตย์ พัทยา

Page 15: Broker New November

ข่าวอสังหาริมทรัพย์ U 15

ประจำเดือนพฤศจิกายน 2555

BROKER NEWS

สำหรับภายในตัวอาคารได้มีการออกแบบพื้นที่ส่วนกลาง เช่น โถงต้อนรับ ให้มีบรรยากาศอบอุ่น เชื้อเชิญให้ผู้พักอาศัยได้ผ่อนคลายตั้งแต่ก้าวเข้าสู่ โครงการฯ ซึ่งมีมุมมองที่เชื่อมต่อกับภูมิสถาปัตยกรรมโดยรอบได้อย่างกลมกลืน ระเบียงไม้ภายนอกอาคารยังสามารถใช้เป็นพื้นที่นั่งเล่นเพื่อสัมผัสธรรมชาติกับพื้นที่สีเขียวของโครงการได้อย่างเต็มที่ ในส่วนของห้องออกกำลังกาย ยังออกแบบให้มีกระจกเปิดโล่งสร้างมุมมองให้ผู้ที่ชอบออกกำลังกายได้เห็นวิวทะเลได้อย่างเต็มที่ และ Rooftop Party Deck...ที่เปิดกว้างให้คุณสัมผัสความสุข 360 องศา รวมถึงสระว่ายน้ำขนาดใหญ่แบบ Infinity Sky pool...ที่เชื่อมต่อความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับท้องทะเลในชั้นที่ 30 ซึ่งเปิดมุมมองแบบ Panoramic view และ Jacuzzi ที่นั่งชมวิวทะเลให้คุณได้ปล่อยความรู้สึกเพลิดเพลินไปกับธรรมชาติทุกการออกแบบเพื่อให้ ใกล้ชิดกับธรรมชาติในทุกพื้นที่ โครงการบ้านปลายหาดประกอบด้วยห้องพักแบบ 1-3 ห้องนอน จำนวนทั้งหมด 353 ยูนิตบนอาคารสูง 31 ชั้น 1 อาคาร และอาคารสูง 7 ชั้น 1 อาคาร ด้วยพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 40-154 ตร.ม. สะดวกด้วยการเดินทางจากกรุงเทพฯ สู่หาดวงศ์อมาตย์ ใช้เวลาเพียงชั่วโมงเศษ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกรองรับมากมาย และบริการพิเศษโดย พลัส คอนเซียร์จในทุกครั้งที่เข้าพัก พร้อมรับสิทธิพิเศษมากมายก่อนใครกับ ‘แสนสิริ แฟมิลี่’ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร.1685 หรือ www.sansiri.com

สิ่งอำนวยความสะดวก • โถงต้อนรับ • สระว่ายน้ำ • ห้องออกกำลังกายพร้อมอุปกรณ์ • สวนส่วนกลาง • ห้องอบไอน้ำแยก ชาย/หญิง • อินเตอร์เน็ตไร้สายสำหรับโถงพักคอยและชั้นสระว่ายน้ำ • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ตลอด 24 ชั่วโมง • กล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง • ที่จอดรถ • แสนสิริ แฟมิลี่ • พลัส คอนเซียร์จ

ข้อมูลโครงการ ที่ตั้ง : ถนนพัทยา-นาเกลือ ตำบลนาเกลือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เนื้อที่โครงการ : 4-2-78 ไร่ ลักษณะโครงการ : อาคารสูง 31 ชั้น 1 อาคาร และ อาคารสูง 7 ชั้น 1 อาคาร จำนวนยูนิต : 353 ยูนิต

ลักษณะห้องชุด ขนาดพื้นที่ (ตร.ม.)

1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 40.00-68.00

2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 67.50-89.50

3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 144.00-154.00

Page 16: Broker New November

ข่าวอสังหาริมทรัพย์ U

ประจำเดือนพฤศจิกายน 2555

BROKER NEWS16

ศุภาลัย เดินหน้าพัฒนาโครงการภูมิภาค เปิดตัว “ศุภาลัย มอนเต้ @ เวียง เชียงใหม่” บมจ.ศุภาลัย เปิดตัวคอนโดฯ ใหม่ล่าสุด “ศุภาลัย มอนเต้ @ เวียง เชียงใหม่” ชูจุดเด่นด้านทำเลแห่งอนาคต พร้อมทิวทัศน์อันงดงามของเมืองเชียงใหม่ และมีห้องพักอาศัยให้เลือกตั้งแต่ 33-122 ตร.ม. แบบ Studio - 3 ห้องนอน ในราคาเริ่มเพียง 1 ล้าน โครงการศุภาลัย มอนเต้ @ เวียง เชียงใหม่ มีความโดดเด่นในเรื่องทำเลที่ตั้ง ริมถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ซึ่งเป็นทำเลแห่งอนาคตที่แวดล้อมด้วยสถานที่สำคัญมากมาย ได้แก่ เซ็นทรัล เฟสติวัล กำลังจะเปิดให้บริการในช่วงปลายปี 2556, สตาร์ อเวนิว คอม มิวนิตี้มอลล์แห่งใหม่ พร้อมริมปิงซุปเปอร์มาร์เก็ต ที่ตั้งอยู่ห่างจากโครงการเพียง 60 เมตร อีกทั้งยังแวดล้อมด้วย บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า, อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์, โรงพยาบาลเทพปัญญา, แม็คโคร, เทสโก้ โลตัส คำเที่ยง และตลาดวโรรส เป็นต้น อี ก ทั้ ง มี ทิ ว ทั ศน์ ที่ ง ด ง าม ในมุ ม Bird’s-eye View ทั้งทิวทัศน์ของดอย สุเทพและขุนเขา ด้วยการออกแบบอาคารชุดพักอาศัย 32 ชั้น 1 อาคาร แบ่งเป็น

ห้องพักอาศัย 734 ยูนิต และร้านค้า 4 ยูนิต โดยคำนึงถึงความกลมกลืนกับกลิ่นอายวัฒนธรรมของเชียงใหม่ ทั้งการเลือกใช้สีอาคาร และการเลือกนำ “ตุงชัย” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่ง “ความเป็นศิริมงคลของชีวิต” มาประยุกต์ใช้เป็นลายเส้นหลักของอาคาร พร้อมพื้นที่เปิดโล่งกว่า 70% และสิ่ ง อ ำนวยความสะดวกภาย ในโครงการ ทั้งสระว่ายน้ำแบบ Infinity Edge วิวดอยสุเทพ, Fitness Room, Sauna, สนามเด็กเล่น, Roof Garden, Sky Lounge & Library, Theatre & Karaoke Room และการสื่อสารอัน ทันสมัยด้วย Wireless Internet ในโถงส่วนกลาง สำหรับผู้สนใจสามารถแวะเยี่ยมชมโครงการและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ (053) 241-333 หรือดูรายละเอียดได้ที่ www.supalai.com

Page 17: Broker New November

ข่าวอสังหาริมทรัพย์ U 17

ประจำเดือนพฤศจิกายน 2555

BROKER NEWS

สำหรับนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงที่จบการศึกษาจากสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเป็นศิษย์เก่าที่ประสบความสำเร็จในการทำงาน โดยได้ใช้ความรู้ด้านการบริหารธุรกิจรวมทั้งประสบการณ์ในชั้นเรียน มาประยุกต์ใช้ในการทำงานได้เป็นอย่างดี นั่นก็คือนายอัครรัฐ วรรณรัตน์ ปัจจุบันเป็นผู้บริหารของ 3 ธุรกิจด้วยกัน เริ่มจากตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจริญทรัพย์กำลัง 3 จำกัด ธุรกิจนำเข้าเฟอร์นิเจอร์ภายใต้ชื่อร้าน MOTIF และ MS Motif Studi, ผู้อำนวยการ บริษัท พรีมา ไพร์ม จำกัด และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพร์ม เอดิชั่น จำกัด นายอัครรัฐ วรรณรัตน ์ ได้เปิดเผยถึงการดำเนินงานของธุรกิจต่างๆ ว่า ปัจจุบันโมทีฟ (Motif) มี 2 สาขา คืออยู่ที่ชั้น 3 และชั้นใต้ดิน โรงแรม แกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ และปลายปีนี้กำลังจะเปิดสาขาใหม่ที่เซ็นทรัล เอ็มบาสซี ซึ่งเป็นสาขาใหญ่ขนาด 900 ตารางเมตร สำหรับสินค้าเฟอร์นิเจอร์ของ โมทีฟ (Motif) ร้อยละ 90 เป็นแบรนด์นำเข้าจากอิตาลี ส่วนที่เหลือนำเข้าจากอังกฤษ ฝรั่งเศส โดยในแต่ละปีจะไปเลือกซื้อสินค้าเข้ามา 2 ครั้ง คือไปที่ปารีสกับมิลาน เนื่องจากมีการจัดงานแฟร์เฟอร์นิเจอร์ใหญ่ของโลก และมีเฟอร์นิเจอร์จากประเทศต่างๆ ให้เลือก ทั้งนี้จะเลือกเฉพาะสินค้าที่เข้ากับตลาดและอยู่ในความต้องการของลูกค้า ในประเทศไทยธุรกิจนำเข้าเฟอร์นิเจอร์จากต่างประเทศยังไปได้ดี เนื่องจากมีกลุ่มลูกค้าที่ต้องการสินค้าที่มีดีไซน์เฉพาะและมีคุณภาพ สำหรับบริษัท พรีมา ไพร์ม จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการนำเข้านาฬิกาแบรนด์ต่างๆ เช่น แกลมร็อก (Glamrock) เทนเด็น (Tendence) ฯลฯ เป็นสินค้าที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้หลากหลาย ส่วนบริษัท ไพร์ม เอดิชั่น จำกัด ซึ่งผลิตรายการโทรทัศน์ให้กับช่อง 5 และ ช่อง 9 ขณะนี้มีทั้งหมด 4 รายการ แนวคิดในการบริหารธุรกิจทั้ง 3 บริษัทนั้น แม้จะมีความแตกต่างกันด้านสินค้าและบริการแต่สิ่งที่เหมือนกันก็คือการนำความรู้ด้านการบริหารจัดการไปใช้ ได้กับทุกธุรกิจ เนื่องจากก่อนหน้านี้ ได้เข้าไปศึกษาด้านการบริหารธุรกิจที่สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และได้นำความรู้มาใช้ในการทำงานจริง เช่น ธุรกิจนาฬิกาซึ่งเป็นสินค้าที่สามารถทำตลาดกับบุคคลทั่วไป จะต้องให้ความสำคัญกับกลยุทธ์ในการขาย โดยเฉพาะเรื่องการสื่อสารกับผู้บริโภคที่มีความหลากหลาย เช่นเดียวกับการบริหารธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งเป็นสินค้าเฉพาะกลุ่ม ซึ่งแต่ละ แบรนด์อยู่ในความต้องการของลูกค้าที่ ไลฟ์สไตล์แตกต่างกัน เราต้องตอบโจทย์ของลูกค้าให้ ได้ทุกกลุ่ม สำหรับธุรกิจผลิตรายการโทรทัศน์ก็เป็นอีกธุรกิจที่สื่อสารไปยังผู้ชมทางบ้าน ซึ่งก็ต้องมีรูปแบบการทำงานที่แตกต่างกันออกไป “แต่ละธุรกิจมีความเหมือนและแตกต่างกันไปในรายละเอียด แต่สิ่งที่เหมือนกันคือเรื่องของการบริหารจัดการบุคลากร ไม่ว่าจะทำธุรกิจใดก็ตามการบริหารคนเป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจากการบริหารจัดการกับคนมีผลต่อธุรกิจ จึงต้องค่อยๆ เรียนรู้และแก้ ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะเมื่อใดก็ตามต้องทำงานกับคนเยอะๆ ปัญหาก็เกิดขึ้นตามมา” นายอัครรัฐกล่าว และให้ความเห็นเพิ่มเติมถึงแนวทางในการแก้ ไขปัญหาว่า หากต้องการให้ธุรกิจประสบความสำเร็จบุคลากรเป็นสิ่งสำคัญต้องหาคนที่มีประสิทธิภาพและประสบการณ์ เข้ามาทำงานกับเรา เพื่อให้งานที่ออกมามีคุณภาพ นอกจากนี้ จะต้องปลูกฝังจิตสำนึกให้กับคนในองค์กร เพื่อให้ทุกคนมีความรัก ตั้งใจ และทุ่มเทกับการทำงาน เพราะสิ่งนี้จะทำให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่น นอกจากสิ่งนี้แล้ว

งานจะออกมาดีไม่ได้เลยถ้าคนในองค์กรไม่มีความรักสามัคคีกันและสนุกไปกับงานที่ทำ หากคนในองค์กรมีสิ่งเหล่านี้เมื่อใดก็ตามที่เกิดปัญหาทุกคนก็พร้อมที่จะช่วยแก้ ไข และจะทำให้ธุรกิจดำเนินได้ต่อไป อย่างไรก็ตาม การทำธุรกิจท่ามกลางกระแสการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) นายอัครรัฐ ให้ความเห็นว่า หากจะนำเสนอสินค้าให้กับต่างชาติจะต้องศึกษาวัฒนธรรมของคนในประเทศนั้นๆ และการจะก้าวสู่ประชาคมอาเซียนอย่างมีประสิทธิภาพ หัวใจสำคัญคือจะต้องเข้าใจวัฒนธรรมของแต่ละประเทศ รวมทั้งต้องศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคและวิถีชีวิตของคนในประเทศกลุ่มเป้าหมาย สำหรับธุรกิจของโมทีฟ (Motif) ได้เตรียมความพร้อมในเรื่องนี้ โดยได้มีการปรึกษากับผู้ประกอบการในประเทศเพื่อนบ้านที่ขายสินค้าแบรนด์เดียวกัน เพื่อร่วมมือกันทำการตลาดและกำหนดกลยุทธ์ต่างๆ ทั้งเรื่องราคาและแคมเปญให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ทั้งนี้เชื่อว่าความร่วมมือทางการตลาดจะช่วยตอกย้ำและสร้างความเข้มแข็งให้กับสินค้าและบริการ ซึ่งขณะนี้แบรนด์อื่นๆ ในอาเซียนได้เริ่มเคลื่อนไหวกันในเรื่องนี้แล้ว นายอัครรัฐ กล่าวทิ้งท้ายถึงการประสบความสำเร็จในธุรกิจต่างๆ ส่วนหนึ่งมาจากการเข้าศึกษาที่สถาบันบัณฑิตฯ ศศินทร์ เพราะเป็นสถาบันการศึกษาที่สร้างประสบการณ์และสามารถนำไปใช้งานได้จริง รวมทั้งมีความประทับใจในเรื่องอื่นๆ เช่น มีเพื่อนที่สามารถสร้างคอนเนคชั่นที่ดีในการทำงาน ที่สำคัญอาจารย์ผู้สอนมีความทันสมัย สอนให้เราค้นหาและศึกษาปัญหาต่าง ๆ เพื่อจะได้สามารถแก้ไขได้ชัดเจนและถูกทางทั้งหมด

ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์นำเข้าหรู เตรียมปรับกลยุทธ์รับมือเปิด AEC

Page 18: Broker New November

ประจำเดือนพฤศจิกายน 2555

BROKER NEWS18

เปิดเว็บไซต์ ใช้งานง่ายและราคาถูกสำหรับธุรกิจ SME

Bentoweb เพิ่มช่องทางใหม่ในการสื่อสารกับผู้บริโภค

± สัมภาษณ์

การตลาดสำหรับธุรกิจขนาดย่อมของคนไทยจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป Bentoweb ได้พัฒนาเทคโนโลยี ใหม่ ให้สามารถใช้งานง่ายและประหยัด ทั้งยังสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้ทั่วโลก อีกหนึ่งผลงานของนิสิตจากสถาบันบัณฑิตฯ ศศินทร์ ที่นำความรู้จากห้องเรียนไปพัฒนาธุรกิจเว็บไซต์ จนเป็นที่ยอมรับของผู้ประกอบการระดับรากหญ้าที่ต้องการสื่อสารกับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ นายณัฐเศษ ศิรินันท์ธนานนท์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ซีแมนทิค จำกัด (www.bentoweb.com) เปิดเผยถึงเหตุผลที่ตัดสินใจเข้าศึกษาที่สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยว่า เพราะต้องเรียนรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับการทำธุรกิจ ทั้งเรื่องการตลาด ไฟแนนซ์ บัญชี การสื่อสาร การบริหาร และการเข้าเรียนที่ศศินทร์ทำให้มีคอนเนคชั่นที่ดี และเป็นปัจจัยที่สำคัญสำหรับการทำธุรกิจในเมืองไทย การได้รู้จักกับเพื่อนที่มาเรียนด้วยกันอย่างเหนียวแน่นทำให้เกิดความผูกพัน และสามารถช่วยเรื่องการทำงานและธุรกิจได้ ที่สำคัญความรู้ที่ ได้สามารถนำมาใช้กับการพัฒนาทำธุรกิจของบริษัทได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นด้านการตลาด การ

บริหารงานบุคคลากร รวมทั้งยังสามารถต่อยอดกับโครงการอื่นๆ ของบริษัทได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากธุรกิจของบริษัทคือการพัฒนาธุรกิจเว็บไซต์เพื่อช่วยผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ให้สามารถใช้เว็บไซต์ไนการทำธุรกิจได้ง่ายและราคาถูก เป็นการกระจายความรู้ทางเทคโนโลยีที่ราคาค่อนข้างสูง แต่ต้องใช้ความรู้ด้านการตลาดและการบริหารเพื่อทำให้ราคาถูกลง ให้สามารถเข้าถึงผู้ประกอบการเอสเอ็มอีได้ง่ายขึ้น จุดเด่นของ bentoweb.com คือสามารถลิงค์เข้ากับเฟสบุ๊คง่าย ทั้งการโหลดรูปและข้อมูลต่างๆ ซึ่งผู้ใช้สามารถโชว์สินค้าหน้าร้านได้เอง เนื่องจากโปรแกรมใช้ง่ายไม่ต้องมีความรู้ทางด้านเทคโนโลยีมากนัก ขณะนี้มีผู้ประกอบการใช้บริการประมาณ 2,000 ราย และได้รับการตอบรับที่ดี เนื่องจากมีผู้สนใจเข้ามาดูสินค้าและมีการสั่งซื้อสินค้าเข้ามามากกว่าการทำตลาดแบบเดิมๆ ถือเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการเพิ่มตลาดให้กับธุรกิจขนาดย่อม ทั้งยังเป็นการเพิ่มช่องทางให้กับสินค้าท้องถิ่นที่มีคุณภาพดีแต่ไม่มีตลาด ในขณะเดียวกันก็เป็นการสื่อสารถึงผู้บริโภคที่ต้องการซื้อสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ “ปัจจุบันมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงได้นำเว็บไซต์ bentoweb.com ไปใช้ในการตลาดเพื่อเพิ่มช่องทางการเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภค เพราะนอกจากภาษาไทยแล้ว ยังมีภาษาอังกฤษ ญี่ปุ่น เกาหลี และจะมีการพัฒนาเพื่อเพิ่มภาษาอื่น ๆ ให้สามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ทั่วโลก นอกจากนี้เว็บไซต์เรายังได้วิเคราะห์การตลาดให้กับผู้ ใช้บริการอีกด้วย อาทิเช่น โปรโมชั่นแบบไหนขายดีและได้รับความสนใจจากผู้บริโภค รวมทั้งสถิติการสั่งซื้อสินค้า จำนวนที่สั่งซื้อ และยังแยกประเภทของลูกค้า เนื่องจากเรามีข้อมูลของลูกค้าทุกคนซึ่งสามารถนำมาวิเคราะห์การตลาดเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้ใช้บริการเว็บไซต์ให้ ได้รับผลตอบรับที่ดีต่อไป” นายณัฐเศษ กล่าว ขณะนี้ bentoweb.com มีผู้ ใช้บริการกระจายอยู่ทั่วประเทศ คาดว่าฐานลูกค้าจะเพิ่มมากขึ้นเพราะนอกจากเป็นโปรแกรมที่ใช้ง่ายแล้วค่าบริการยังไม่แพงเพียงเดือนละ 450 บาทเท่านั้น หากผู้ประกอบการสมัครตั้งแต่ 6-12 เดือนราคาลดลงอีก สำหรับลูกค้าใหม่ที่ทดลองใช้สามารถโชว์สินค้า 5 ชิ้นต่อ 1 ราย หากสามารถขายสินค้าได้ระบบจะตรวจสอบเรื่องการโอนเงินได้

อย่างสะดวก เพราะได้ทำงานร่วมกับธนาคารกสิกรไทยและธนาคารไทยพาณิชย์ นอกจากนี้ ผู้ประกอบการสามารถจัดหมวดหมู่ของสินค้าได้ตามที่ต้องการ รวมทั้งการกรอกข้อมูล สถานที่ในการจัดส่ง และระบบจะจัดเก็บข้อมูลของลูกค้า เช่น ชื่อผู้ซื้อ สถานที่จัดส่ง เบอร์โทรศัพท์ สินค้าที่สั่งซื้อ วันและเวลาในการสั่งซื้อ การโอนเงิน หมายเลขใบสั่งซื้อฯลฯ เมื่อมีการสั่งซื้อสินค้าครั้งต่อไป ผู้ซื้อไม่ต้องกรอกข้อมูลประวัติส่วนตัวอีก นับว่าเป็นเว็บไซต์ที่พัฒนาระบบเพื่อให้เกิดความสะดวกต่อผู้ซื้อ-ผู้ขาย เมื่อระบบไม่ซับซ้อนและง่ายต่อการใช้งาน จะทำให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเห็นถึงความสำคัญของการทำธุรกิจบนอีคอมเมิร์สมากขึ้น สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดต่อทีมงานให้คำแนะนำการใช้งานได้ที่โทรศัพท์ 02-683-6512 หรือ [email protected]

Page 19: Broker New November

วิทยาศาสตร์ การจัดค่ายการอ่าน การจัดอบรมพัฒนาคุณครู เป็นต้น ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมานานมีบุ๊คส์ได้ซื้อลิขสิทธิ์หลักสูตรของ “กัก-เคน” (Gakken) ซึ่งเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงทางด้านการศึกษาของประเทศญี่ปุ่น และเป็นหลักสูตรที่จะทำให้เยาวชนระดับประถมศึกษารักวิทยาศาสตร์ โดยผ่านการทดลอง หลักสูตรนี้เรียกว่า “ห้องเรียนทดลองวิทย์” ขณะนี้กำลังบุกเบิกโครงการนี้อยู่ เพื่อเป็นหลักสูตรทางวิทยาศาสตร์ที่จะเสนอให้กับโรงเรียน ทั้งในรูปแบบของแผนการสอน การอบรมอุปกรณ์การทดลองวิทยาศาสตร์สำหรับครู นอกจากนี้ยังนำมา

เปิดสอนที่นานมีบุ๊คส์เป็นหลักสูตรวันเดย์แคมป์ ซึ่งเปิดสอนทุกวันเสาร์ที่ 2 และ 3 ของเดือน อย่างไรก็ตาม การเปิด Learning Center เพื่อให้ผู้ปกครองที่ต้องการสนับสนุนให้บุตรหลานเรียนวิทยาศาสตร์เกิดความสนุกจะเปิดสอนช่วงปิดเทอม ที่ผ่านมามีเด็ก ๆ สนใจเข้าแคมป์วิทยาศาสตร์จำนวนมาก นอกจากนี้ ผู้บริหารโรงเรียนที่มีวิสัยทัศน์ได้นำหลักสูตรการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์จาก นานมี บุ๊คส์ ไปใช้แล้วจำนวน 75 โรงเรียน เนื่องจากเป็นผู้บริหารรุ่นใหม่ ซึ่งต้องสานต่อธุรกิจครอบครัว จึงต้องเรียนรู้และศึกษาเพิ่มเติมเพื่อนำมาบริหารธุรกิจ ขณะนี้กำลังศึกษาต่อที่ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นับว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะเพื่อนมาจากหลากหลายอาชีพ ทำให้ ได้มุมมอง และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นได้หลากหลาย ในขณะเดียวกัน นอกจากนี้อาจารย์ผู้สอนมีความรู้ความสามารถเป็นที่ยอมรับ ที่สำคัญสามารถนำความรู้มาใช้ในการบริหารธุรกิจได้จริง ทั้งนี้การทำงานจะประสบความสำเร็จได้เราต้องเรียนรู้ตลอดเวลา ไม่ใช่เฉพาะในตำราเท่านั้น แต่ต้องศึกษาจากเพื่อนร่วมงาน รวมทั้งเรียนรู้จากประสบการณ์ และต้องเปิดใจให้กว้างเพื่อรับฟังความคิดเห็นผู้อื่น ซึ่งทั้งหมดนี้คือปัจจัยสำคัญที่จะทำให้โครงการใหม่ในอนาคตของ นานมี บุ๊คส์ เดินหน้าต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ

19

ประจำเดือนพฤศจิกายน 2555

BROKER NEWS

เปิดวิสัยทัศน์ผู้บริหารสำนักพิมพ์นานมีบุ๊คส์

20 ปีกับวรรณกรรมที่ส่งเสริมความรู้และสร้างแรงบันดาลใจ

± ± สัมภาษณ์

สำนักพิมพ์ที่อยู่รอดได้ท่ามกลางการแข่งขันของตลาดต้องโดดเด่นและแตกต่าง นี่คือเหตุผลเดียวที่ทำให้นานมีบุ๊คส์มีผลงานอยู่บนแผงหนังสือตลอด 20 ปี และมีบทบาทในการผลิตหนังสือเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้และสร้างแรงบัลดาลใจให้กับผู้อ่าน การเปิดวิสัยทัศน์ของคิม จงสถิตย์วัฒนา ผู้บริหารสำนักพิมพ์รุ่นใหม่ ทำให้สังคมทราบว่าเพราะอะไรจึงไม่ผลิตหนังสือตามกระแสนิยม แต่เน้นหนังสือคุณภาพและมุ่งกิจกรรมพัฒนาเยาวชน และต่อยอดเพื่อส่งเสริมคนไทยรักการอ่าน นางสาวคิม จงสถิตย์วัฒนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายขายและการตลาด บริษัท นานมีบุ๊คส์ จำกัด และรองผู้อำนวยการสถาบันนานมีบุ๊คส์ อินโนเวชั่น เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลา 20 ปี ที่ผ่านมาสำนักพิมพ์นานมีบุ๊คส์ ให้ความสำคัญกับการผลิตหนังสือสำหรับเด็กและเยาวชน โดยร้อยละ 70 เป็นกลุ่มผู้อ่านอายุระหว่าง 0-18 ปี ความโดดเด่นของหนังสือเน้นเรื่องเนื้อหาที่มีคุณภาพและส่งเสริมการเรียนรู้ ส่วนร้อยละ 30 เป็นการผลิตหนังสือสำหรับผู้ใหญ่ที่เน้นเรื่องการสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้อ่าน ทั้งนี้นานมีบุ๊คส์มีความแตกต่างจากสำนักพิมพ์ อื่นๆ อย่างชัดเจน เราไม่ได้ผลิตหนังสือตามกระแสความนิยมของผู้อ่าน แต่ได้มุ่งพัฒนาและส่งเสริมให้เยาวชนได้รับความรู้ แม้ว่าจะเป็นหนังสือการ์ตูนก็มีเนื้อหาที่สอดแทรกความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ และการส่งเสริมความรู้อื่นๆ ไม่ได้ผลิตหนังสือเพียงอย่างเดียว ยังจัดให้มีแคมป์วิทยาศาสตร์สำหรับเด็ก นอกจากนี้ยังมีโครงการนานมีบุ๊คส์ รีดดิ้งคลับส์ ซึ่งได้ทำต่อเนื่องมา 11 ปี โดยไม่ได้เน้นเรื่องการสร้างรายได้ให้กับสำนักพิมพ์ แต่ทำตามอุดมการณ์ของคุณแม่ นางสุวดี จงสถิตย์วัฒนา ที่ต้องการทำงานเพื่อส่งเสริมเยาวชนให้รักการอ่านและตอบแทนสังคม “เราไม่ ได้หยุดอยู่แค่การผลิตหนังสือเท่านั้น แต่ ได้จัดกิจกรรมเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้อ่านมาเข้าแคมป์เพื่ออบรมความรู้ด้านวิทยาศาสตร์รวมทั้งความรู้ด้านบรรณารักษ์ โดยได้เปิดให้มี Nanmeebooks Learning Center ซึ่งเป็นศูนย์วิทยาศาสตร์ที่ปฏิบัติการร่วมกับประเทศเยอรมัน ทำให้มีโอกาสได้แลกเปลี่ยนการทำงานกับสำนักพิมพ์ต่างๆ ทั่วโลก โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างการเรียนรู้ที่แตกต่างและพัฒนาเยาวชน รวมทั้งผู้อ่านทั่วไปให้มีความรู้ที่หลากหลาย เนื่องจากต้องการเป็นผู้นำทางการศึกษาในภาคเอกชน ตลอดเวลา 20 ปีที่ผ่านมาสามารถพูดได้ว่าเราเดินถูกทางและมีเป้าหมายที่ชัดเจนในเรื่องการส่งเสริมการศึกษา” นางสาวคิม กล่าว

สำหรับภาพรวมธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ในปัจจุบันนี้ นางสาวคิมให้ความเห็นว่า แม้ว่าคนไทยส่วนใหญ่ไม่ค่อยอ่านหนังสือ แต่ในฐานะคนผลิตหนังสือก็มีความหวังอยากเห็นคนไทยอ่านหนังสือมากขึ้น เพราะการอ่านจะทำให้เกิดการพัฒนาตนเองอย่างไม่หยุดยั้ง และคาดหวังว่าสังคมไทยจะเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ จึงได้มุ่งเน้นผลิตหนังสือให้มีคุณค่าและมีความแตกต่าง รวมทั้งการจัดกิจกรรม ต่อยอดจากการอ่าน และจัดค่ายศูนย์การเรียนรู้ เชื่อว่าจะเป็นกิจกรรมหนึ่งที่สนับสนุนและส่งเสริมให้คนไทยรักการอ่านมากขึ้น ทั้งยังมีโครงการจัดสัมมนาเพื่อพัฒนาการศึกษาไทยอย่างยั่งยืน ให้คนรุ่นใหม่เห็นความสำคัญของการอ่าน ซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายและถูกที่สุดในการพัฒนาตนเอง ทั้งนี้ ในอนาคตประเทศไทยจะเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) เชื่อว่าจะเป็นผลดีที่ทำให้คนไทยมี โอกาสได้อ่านงานเขียนที่หลากหลายขึ้น และคนไทยควรเตรียมเรื่องภาษาอังกฤษ หรือภาษาที่สาม อาจเป็นภาษาจีน ขณะนี้นานมีบุ๊คส์ได้รับความไว้วางใจจากรัฐบาลให้จัดทำหลักสูตรพิเศษสำหรับการใช้ภาษาอังกฤษให้กับ ผู้บริหารโรงเรียนต่างๆ อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาการดำเนินงานของสถาบัน Nanmeebooks Innovation ไม่ได้เน้นเรื่องการผลิตหนังสือเพียงอย่างเดียว แต่จะนำความรู้ทางวิชาการสำหรับเด็กและเยาวชนมาแปรรูปเป็นกิจกรรมต่างๆ เช่น การจัดค่าย

Page 20: Broker New November

ประจำเดือนพฤศจิกายน 2555

BROKER NEWS20 โชว์ฝีมือ

ขนมหวานไทยๆ ที่มีให้เลือกสั่งตามร้านอาหารไทยอย่างหนึ่งที่คนนิยมไม่น้อยก็คือ “กล้วยบวชชี” หลายคนติดอกติดใจ เพราะความหอมหวานของผลไม้ ไทยและกะทิสดๆ ทำให้กล้วยไทยมีเสน่ห์ขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ หากมีคนถามหาขนมประเภทนี้ก็ต้องลงมือทำกันที่บ้าน เครื่องปรุงและวิธีทำนั้นไม่ยากเลย

วัตถุดิบ 1. กล้วยน้ำว้า 8 ลูก (เลือกห่ามๆ ไม่สุกมาก) 2. หัวกะทิ 450 มิลลิลิตร 3. หางกะทิ 500 มิลลิลิตร 4. ใบเตย 2 ใบ 5. น้ำตาลปี๊บ 40 กรัม 6. น้ำตาลทรายขาว 40 กรัม 7. เกลือ วิธีทำขนมไทย ทีละขั้นตอน 1. นำกล้วยไปนึ่งในน้ำเดือดประมาณ 3-5 นาที หรือนึ่งจนกระทั่งผิวกล้วยเริ่มแตกออก จึงปิดไฟและนำออกมาปอกเปลือกและหั่นครึ่งลูก จากนั้นจึงหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ 2. นำหางกะทิไปต้มในหม้อและใส่ใบเตยลงไปด้วย เมื่อเดือดแล้วจึงใส่กล้วยที่หั่นไว้แล้วลงไป ตามด้วยน้ำตาลปี๊บ, น้ำตาลทรายขาวและเกลือนิดหน่อย 3. เมื่อกะทิเริ่มเดือดอีกครั้งจึงใส่หัวกะทิลงไป และปล่อยทิ้งไว้ให้เดือดอีกประมาณ 3 นาที ถ้าต้องการให้น้ำข้นเหนียวก็ให้ใส่แป้งมันลงไปประมาณ 1 ช้อนชาและคนให้ละลายทั่ว 4. อย่าต้มนานจนเกินไปเพราะจะทำให้กล้วยเละ กล้วยควรจะยังแข็งนิดหน่อย จากนั้นตักใส่จานและเสิร์ฟทันที

“กล้วยบวชชี” ขนมไทยทำกินได้ที่บ้าน

Page 21: Broker New November

21

ประจำเดือนพฤศจิกายน 2555

BROKER NEWSดวง&ฮวงจุ้ย ˇ

สำหรับผู้ที่ปวดหัวกับอุปสรรคและปัญหาต่างๆ ในชีวิต เรื่องเก่ายังแก้ ไม่

ตก เรื่องใหม่ก็ก้าวเข้ามาให้แก้ ไขอีก หากยังหาสาเหตุของปัญหาเหล่านี้ ไม่เจอ

หรือจู่ๆ เรื่องเหล่านี้ก็ก้าวเข้ามาในชีวิตโดยไม่ได้รับเชิญและบอกกล่าวล่วงหน้า

ขอแนะนำให้กลับไปสำรวจบ้านและห้องของตัวเอง ว่ามันรุงรังระเกะระกะด้วย

ข้าวของต่างๆ ที่ทำให้รกหูรกตาหรือไม่

เพราะถ้าห้องของตนเองเป็นแบบนี้ ตามความเชื่อแล้วถือว่าขัดต่อความเจริญก้าวหน้าในชีวิต หากต้องการให้ชีวิตราบรื่นต้องการกำจัดข้าวของรกรุงรังในบ้านให้เรียบร้อย เพราะถือว่าเป็นขั้นตอนแรกของการทำให้บ้านถูกหลักฮวงจุ้ย เนื่องจากข้าวของรกรุงรังในบ้านทำให้เกิดปิดกั้นพลังงานที่ส่งผลต่อร่างกายและจิตวิญญาณ การที่มันไม่เป็นระเบียบและสับสนเนื่องจากการหาของใช้ ไม่เจอ ก็คล้ายๆ กับการดำเนินชีวิตที่สับสนนั่นเอง มาดูกันว่าสาเหตุที่ทำให้บ้านรกรุงรังนั้นจะแก้ ไขได้อย่างไร เน้นเรื่องความเป็นระเบียบให้มากขึ้น ข้าวของต่างๆ ที่เป็นทั้งของ ส่วนตัวและส่วนรวม เมื่อใช้มันแล้วก็เก็บเข้าที่ทันที เช่น เมื่ออ่านนิตยสารแล้วก็โยนทิ้งไว้แถวๆ ห้องนั่งเล่น ถ้าโยนหลายๆ วัน ก็จะทำให้มีนิตยสารกองไว้หลายเล่ม หากเป็นคนขี้เกียจก็จะทำให้เกิดกองหนังสือกองใหญ่ในห้องนั้น รวมทั้งข้าวของเครื่องใช้อื่นๆ ที่คุณเก็บมันโดยไม่ได้ตั้งใจ อย่าเก็บข้าวของทั้งหมดที่มีอยู่ โดยเฉพาะของที่หมดอายุการใช้งาน

ฮวงจุ้ยดี...ต้องกำจัดข้าวของรุงรังในบ้าน

หรือไม่มีประโยชน์ การสะสมก็ต้องสะสมสิ่งที่มีคุณค่าและมูลค่า ไม่ควรนำเอาบางสิ่งบางอย่างที่คุณไม่ใช้แล้วมาอยู่รวมกับสิ่งที่กำลังใช้อยู่ หรือหากพบว่าข้าวของในห้องมีมากเกินไปก็ต้องนำไปทิ้งบ้าง หรือบริจาคให้คนอื่นบ้าง ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า หนังสืออ่านเล่น กระปุ๊กหรือกระป๋อง ต่างๆ ที่สะสมไว้โดยไม่ตั้งใจ บางคนต้องตัดใจนำของไร้ค่าเหล่านี้ทิ้งไปถึงร้อยละ 80 ของที่มีอยู่ในห้อง ก็ต้องทำกัน เพราะจะได้ทำให้ฮวงจุ้ยในห้องดีขึ้น จัดระเบียบประจำวัน ในแต่ละวันนั้นเจ้าของบ้านหรือเจ้าของ ห้อง จะต้องให้เวลากับการจัดเก็บข้าวของต่างๆ ต้องคอยสังเกตว่าอะไรอยู่ตรงไหนแล้วจะทำให้ห้องนั้นๆ ดูดีสวยงาม หรือขยันที่จะทิ้งของที่ไม่ใช้แล้วทุกวัน หากทำทุกวันไม่ได้ก็ให้ทำทุกๆ 3 วัน หรือทุกสัปดาห์ก็ยังดี แต่อย่าให้ถึงต้องทำทุกเดือนเลย เพราะตลอด 30 วันที่ห้องคุณรกรุงรุงมันได้ทำให้ ฮวงจุ้ยห้องในเดือนนั้นแย่ไปแล้ว ประหยัดเงินด้วยการหยุดซื้อ หมายถึงการชื้อในสิ่งที่ชอบและ โปรดปราน บางครั้งก็ ไม่ ได้ ใช้ประโยชน์อะไรมากนัก แต่ด้วยความชอบ ส่วนตัว หรือเห็นว่าสวยดี หรือไม่รู้ว่าจะเอาเงินไปใช้อะไร ก็ซื้อโน่นซื้อนี่เต็มไปหมด สุดท้ายห้องคุณก็จะต้องรับภาระเรื่องพื้นที่ หากคุณเป็นคนที่ชอบการช้อปปิ้งก็ต้องตัดใจบ้าง อย่าซื้อทุกอย่างที่ชอบแต่ต้องซื้อในสิ่งที่จำเป็นจริงๆ เพราะนอกจากจะทำให้มีเงินเหลือเก็บแล้ว ยังทำให้ห้องสะอาดไม่รกรุงรัง

Page 22: Broker New November

The Scenery Resort ธรรมชาติสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน

ท่องเที่ยว

ประจำเดือนพฤศจิกายน 2555

BROKER NEWS22

The Scenery Resort เป็นรีสอร์ทในหุบเขา ติดลำน้ำภาชี เป็นสถานที่ท่องเที่ยว เพื่อการพักผ่อนโดยเน้นความสงบ สบายและใกล้ชิดธรรมชาติ ตั้งอยู่ที่อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ขณะนี้ จำนวนบ้านพักที่เปิดให้บริการได้ทั้งหมดมี 7 หลัง คือ บ้านรูซี่, บ้านแพงโกล่า, บ้านฮามาต้า, บ้านเมอริโน, บ้านคอร์ริเดล, บ้านคาทาดิน และบ้านบาร์บาโดส ซึ่งรองรับผู้เข้าพักได้รวม 24 ท่าน สำหรับผู้เข้าพัก 4 ท่าน ลักษณะบ้านพัก แบบบ้านชั้นเดียวมีดาดฟ้า สไตล์เมดิเตอร์เรเนียน ภายในตกแต่งสไตล์อเมริกันคันทรี ประกอบด้วย 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ห้องนั่งเล่น เชื่อมต่อกันโดยมีประตูปิด-เปิด นำเสนอ พื้นที่ใช้สอย Out Door ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของรีสอร์ท ประกอบด้วยบริเวณสนามหญ้าหน้าบ้านเชื่อมต่อกับบ่อน้ำขนาดใหญ่ และดาดฟ้าชั้นบนของตัวบ้านที่แบ่งเป็นส่วนโซฟานั่งเล่น (ใต้หลังคา) และโต๊ะทานอาหารค่ำ (นอกหลังคา) ที่เชื่อมต่อกับทุ่งหญ้าเลี้ยงแกะ สามารถชมฝูงแกะได้จากบนดาดฟ้าของตัวบ้านพัก สิ่งอำนวยความสะดวก เครื่องปรับอากาศ โทรทัศน์ มินิบาร์ ผลไม้รับรอง เตาปิ้ง BBQ เครื่องทำน้ำอุ่น ไดร์เป่าผม เครื่องเสียง CD/DVD/MP3 และโทรศัพท์ภายใน จุดเด่นของ The Scenery Resort บรรยากาศธรรมชาติที่มีลำธารสายเล็กๆ ที่มีน้ำใสๆ ไหลผ่าน และมีทุ่งหญ้าเขียวสบายตา ฝูงแกะที่คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือน ที่สำคัญคือยังห้องพักสไตล์เมอร์ดิเตอร์เรเนียน ซึ่งเป็นเสน่ห์ของ The Scenery ที่แตกต่างจากรีสอร์ทอื่น ๆ สำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสบรรยากาศดังกล่าว สอบถามได้ที่โทรศัพท์ 08 1000 7070

Page 23: Broker New November

เที่ยวตลาดน้ำอัมพวา

ในอดีตอัมพวาถือว่าเป็นศูนย์กลางการคมนาคมทางน้ำที่สำคัญของจังหวัดสมุทรสงคราม มีตลาดน้ำขนาดใหญ่และชุมชนริมน้ำที่เป็นศูนย์กลางด้านพาณิชย กรรม แต่ผลกระทบของการพัฒนาการคมนาคมทางบก ทำให้ความเป็นศูนย์กลางฯ ของอัมพวาต้องสูญเสียไป ตลาดน้ำค่อยๆ ลดความสำคัญและสูญหายไปในที่สุด ทิ้งไว้แต่ร่องรอยของความเจริญในอดีตซึ่งยังคงปรากฏให้เห็นชัดเจนในทุกวันนี้ทางเทศบาลตำบลอัมพวาโดยความร่วมมือ ร่วมใจของประชาชนในท้องถิ่น ได้ฟื้นฟูตลาดน้ำอัมพวาขึ้นมาอีกครั้งเพื่ออนุรักษ์ความเป็นอยู่ของชุมชนริมน้ำ ซึ่งในปัจจุบันจะหาดูได้ยาก ให้สืบทอดตลอดไป โดยใช้ชื่อว่า “ตลาดน้ำอัมพวายามเย็น”

ตลาดน้ำอัมพวา จะมีทุกวันศุกร์ วันเสาร์ และวันอาทิตย ์ ตั้งแต่เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป ตลาดน้ำโดยทั่วไปมัก จะจัดขึ้นในเวลากลางวัน แต่ตลาดน้ำยามเย็น ที่อัมพวาแห่งนี้ จะจัดขึ้นในช่วงเวลาเย็นเรื่อยไปจนถึงเวลาพลบค่ำ ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าเป็นตลาดน้ำแห่งแรกของประเทศไทย ที่จัดในลักษณะเช่นนี้ ในตอนเย็นชาวบ้านจะเริ่มทยอย พายเรือนำสินค้าหลากหลายนานาชนิด อาทิ อาหาร ผลไม้ พืชผัก ขนม ของกินของใช้ มาขายให้กับนักท่องเที่ยว หรือคนในท้องถิ่นที่สัญจรไปมาที่ตลาดอัมพวา ทำให้ ได้สัมผัสกับธรรมชาติของชีวิตของชุมชนริมน้ำ ซึ่งเป็นที่น่าประทับใจอย่างยิ่ง นักท่องเที่ยวสามารถที่จะหาซื้ออาหารมานั่งรับประทาน บริเวณริมคลองอัมพวาติดกับตลาดน้ำ ซึ่งได้มีการจัดสถานที่ไว้ ทำให้มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น สำหรับกิจกรรมนั้นมีให้นักท่องเที่ยว ชิมอาหารพื้นบ้านทั้งคาวหวาน อาหารพื้นบ้านที่แม่ค้าและพ่อค้าพายเรือมาขายให้เลือกซื้อเลือก ชิม กิน รวมถึงอาหารที่ขายอยู่ตามร้านอาหารบนฝั่งก็มีให้เลือกชิมเช่นกัน หากใครมาเที่ยวที่นี่ เมนูเด็กที่ไม่ควรพลาด คือ ปลาหมึกและกุ้ง ที่ย่างกันสดๆ บนเตาพร้อมน้ำจิ้มรสแซ่บ ก๋วยเตี๋ยวเรือรสเลิศ นอกจากนี้แล้วยังสามารถเดินเยี่ยมชมร้านค้าขายของที่ระลึกและวิถีชีวิตชาวบ้าน และล่องเรือชมวิถีชีวิตริมน้ำ หากต้องการล่องเรือชมหิ่งห้อยก็จะทำให้เห็นธรรมชาติยามค่ำคืนที่หาดูได้ยาก ที่มา : www.paiduaykan.com

23

ประจำเดือนพฤศจิกายน 2555

BROKER NEWS

Page 24: Broker New November

ขอไอเดียออกแบบห้องน้ำใต้บันได ก่อนอื่นคงต้องดูว่าพื้นที่ใต้ห้องน้ำนั้นมีความกว้างยาวเท่าไหร่ ปกติบันไดบ้านทั่วๆ ไปจะกว้างประมาณ 1.00 - 1.50 เมตร สมมุติว่าบันไดกว้าง 1.20 เมตร พื้นที่ห้องน้ำก็จะกว้างเท่ากับความกว้างบันได และต้องดูว่าความลาดชันของบันไดลาดไปทางไหน ระดับความสูงตรงจุดไหนที่ใช้งานห้องน้ำแล้วไม่ติดหัว รวมทั้งสามารถเปิดประตูห้องน้ำเข้าไปแล้ว ประตูไม่ไปติดความลาดชันของบันได ดังนั้นการวางตำแหน่ง Lay out ของห้องน้ำจึงต้องคำนึงถึงระดับความสูงใต้ฝ้าบันไดที่สามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัยเช่น counter อ่างล้างหน้า หรือโถส้วม จะวางเข้าไปด้านที่อยู่ใต้ slope บันได และต้องระวังว่าเมื่อลุกขึ้นยืน หัวจะไปชนฝ้าใต้ท้องบันไดที่ลาดชันหรือไม่ หากความสูงใต้บันไดไม่พอเช่นกรณีนี้ อาจออกแบบโดยการลดระดับพื้นห้องน้ำ ก็จะทำให้เพิ่มความสูงห้องน้ำได้

การเลือกสุขภัณฑ์ก็ควรจะเลือกรุ่นที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก หรือมีรูปร่างที่เหมาะกับขนาดห้องน้ำ เช่น เลือกใช้อ่างล้างหน้าเข้ามุมแบบแขวน เพื่อช่วยประหยัดพื้นที่ ในห้องน้ำ เลือกใช้โถส้วมรุ่นเล็ก ที่เมื่อจัดวางลงในห้องน้ำแล้วสามารถใช้งานได้สะดวก การติดตั้งประตู หากเปิดเข้าไปในห้องน้ำแล้วติดแนวลาดชันใต้บันได ก็อาจเลือกใช้เป็นบานเปิดออกหรือทำเป็นบานเลื่อนซึ่งก็ต้องพิจารณาด้วยว่าสามารถทำได้หรือไม่ สำหรับการตกแต่งให้ห้องน้ำดูกว้างก็คงต้องอาศัยการติดตั้งกระจกเงาบานใหญ่ๆ การเลือกกระเบื้องกรุผนังที่มีสีสว่างๆ ไม่เข้มมากนัก ก็ช่วยทำให้ห้องน้ำดูกว้างขึ้นได้เช่นกัน

คลินิกบ้าน @

บานเดียวหรือสองบาน..ประตูแบบไหนดีกว่า ปกตแิล้วบ้านพักอาศัยทั่วไป ประตูหน้าบ้านที่เป็นบานเปิด เมื่อใช้งานจริงๆ มักจะเปิด-ปิดอยู่แค่บานเดียว บางบ้านที่ใช้ประตูบานคู่ก็อาจเป็นเพราะความต้องการใช้งาน เพื่อความสะดวกในการเข้าออกเพราะมีคนเข้าออกมาก และก็เพื่อความสะดวกในการขนของ เช่น สะดวกต่อการขนย้ายเฟอร์นิเจอร์ โต๊ะ ตู้ เตียง เป็นต้น ราคาของประตูบานคู่จะสูงกว่าบานเดี่ยวและมีจุดอ่อนตรงกลางช่องประตูระหว่างบานประตูที่เป็นร่องเนื่องจากไม่มีวงกบประตูรับ ร่องประตูนี้จะเป็นช่องให้เสียง ควันไฟ ฝน และแอร์ลอดได้

ส่วนประตูบานเดี่ยว จะมีขนาดบานประตูไม่รวมวงกบตั้งแต่ 80 ซม.ถึง 1.50 ม. แต่โดยทั่วไป ไม่ควรให้บานประตูกว้างเกินกว่า 1.20 เมตร เนื่องจากจะทำให้ประตูไม่แข็งแรง มีน้ำหนักมาก ต้องติดบานพับรับน้ำหนักเพิ่มมากขึ้น วงกบประตูควรมีบ่ารับบานประตู เพื่อไม่ให้เกิดร่องประต ู

ก๊อกน้ำป้องกันสารตะกั่วได้จริงหรือไม่

ประจำเดือนพฤศจิกายน 2555

BROKER NEWS24

วัตถุดิบหลักในการผลิตก๊อกน้ำได้แก่ “ทองเหลือง” โดยทั่วไปทองเหลืองมีส่วนผสมของสารตะกั่วประมาณ 1.2 ~ 1.6% ของปริมาณทองเหลืองทั้งหมด ดังนั้นหากมีเทคโนโลยีการผลิตที่สามารถลดพื้นผิวสัมผัสกับสารตะกั่วได้ ก็หมายถึงการลดการปนเปื้อนสารตะกั่วในน้ำได้ สารตะกั่วเป็นสารที่ก่อให้เกิดผลเสียต่อสมองและการติดต่อของเซลล์ประสาท มีผลต่อเม็ดเลือดแดงจะทำให้เม็ดเลือดแดงแตกง่ายเป็นโรคโลหิตจาง และมีผลต่อการทำงานของไต มีผลต่อการตั้งครรภ์และทารก สารตะกั่วสามารถก่อปัญหาให้แก่ทารกในครรภ์หากมีสารตะกั่วเป็นปริมาณมากอาจจะทำให้เกิดแท้ง คลอดก่อนกำหนด เด็กที่เกิดมาจะมีน้ำหนักตัวน้อยกว่าปกติ การทำงานของสมองจะพัฒนาช้า

น้ำประปาทั่วๆ ไปจะไม่มีสารตะกั่ว แต่สารตะกั่วที่มีในน้ำประปามาจากอุปกรณ์เครื่องใช้ภายในบ้าน การต้มน้ำไม่ทำให้สารตะกั่วลดลง หากสงสัยว่าจะมีสารตะกั่วในน้ำ ก็สามารถนำน้ำไปตรวจวิเคราะห์เพื่อหาสารตะกั่วได้ ระดับตะกั่วในน้ำจะสูงถ้าน้ำนั้นอยู่ในท่อนาน น้ำนั้นร้อน หรือมีความเป็นกรดสูง วิธีป้องกันสารตะกั่วในน้ำคือ อย่าดื่ม หรือผสมนมจากเครื่องทำน้ำร้อนจากท่อประปา นอกจากนั้น หากไม่ได้ใช้ก๊อกน้ำเป็นเวลามากกว่า 2 ชั่วโมง ให้ปล่อยน้ำทิ้ง 30-60 วินาทีก่อนที่จะนำน้ำนั้นไปดื่ม หรือควรใช้เครื่องกรองน้ำที่สามารถกรองสารตะกั่วได้ มาตรฐานความปลอดภัยของน้ำดื่มในประเทศไทยปี 2548 กำหนดการปนเปื้อนของสารตะกั่วไม่ให้เกิน 50 ppb แคดเมี่ยม 10 ppb สังกะสี 5,000 ppb และทองแดง 1,000 ppb ดังนั้นควรป้องกันและเลือกใช้อุปกรณ์ต่างๆ เพื่อให้ปลอดภัยจากสารพิษเหล่านี้ด้วย