BCM revised
-
Upload
maruay-songtanin -
Category
Business
-
view
95 -
download
0
description
Transcript of BCM revised
พ.อ. มารวย สง่ทานินทร ์
27 มกราคม 2557
Business Continuity Management คือ “กระบวนการบริหารจดัการ
ธุรกิจแบบองคร์วม โดยมีการระบุผลกระทบที่อาจเป็นภยัคกุคาม
ตอ่องคก์ร และมีกรอบในการสรา้งความอ่อนตวัและขีด
ความสามารถในการตอบสนองที่มีประสิทธิภาพ เพื่อปกป้อง
ผลประโยชนใ์หก้บัผูมี้สว่นไดส้ว่นเสียท่ีส าคญั รวมทั้งช่ือเสียง
ตราสินคา้ และกิจกรรมในการสรา้งคณุค่าขององคก์ร
ส่วน ความยืดหยุน่ทางดจิติอล (Digital Resilience) หมายถึง
ความสามารถ ความทนทาน หรอืการฟ้ืนตวั ท่ีมีตอ่ภยัคกุคามท่ีท า
ใหร้ะบบดิจติอลขององคก์รเกิดความลม้เหลว ”
ขั้นตอนทัว่ ๆ ไปภาพรวมของการบรหิารความตอ่เน่ืองทางธุรกิจ
(BCM) แบ่งไดเ้ป็น 4 ขั้นตอนใหญ ่ๆ คือ
1. การเริม่ตน้และใหค้ านิยามใหม่ (Initiation and Redefinition)
2. การวางแผนความตอ่เน่ืองทางธุรกิจ (Planning for Business
Continuity)
3. การน าแผนไปปฏิบตั ิ(Implementation)
4. การบรหิารการปฏิบตักิาร (Operational Management)
1. การเริ่มตน้และใหค้ านิยามใหม่
เป็นขั้นของการทบทวนและประเมินความตอ่เน่ืองทางธุรกิจ ที่
ผูน้ าระดบัสูงมีความตระหนกัถึงภยัคกุคาม โดยมีการก าหนด
นโยบาย ระบุโครงสรา้งทีมงานตา่ง ๆ การจดัสรรทรพัยากร การ
จดัท าโครงการ และมีกลไกการทบทวนตรวจสอบ
องคก์รมีการก าหนดวตัถปุระสงคแ์ละขอบเขตของความตอ่เน่ือง
ทางธุรกิจ ซ่ึงเป็นการเปล่ียนแนวคิดของบุคลากรจากการฟ้ืนฟู
สภาพ มาเป็นการฟ้ืนฟูและการป้องกนั
2. การวางแผนความตอ่เน่ืองทางธุรกิจ
จดุส าคญัหรือหวัใจของขั้นตอนน้ีคือ การวิเคราะหผ์ลกระทบท่ีมี
ตอ่ธุรกิจ (Business Impact Analysis: BIA) โดยการวิเคราะหท์ั้ง
ปัจจยัภายนอกและปัจจยัภายใน
ผลจากการวิเคราะหจ์ะน ามาใชใ้นการสรา้งแผนการบริหารธุรกิจ
อยา่งตอ่เน่ืองตอ่ไป โดยจะมีการตั้งวตัถุประสงค ์การประเมิน
ความเสี่ยง การจดัล าดบัความส าคญั การจ าลองสถานการณท์ี่
อาจเกิดข้ึน และการสรา้งแผนรองรบั
แผนงานท่ีเป็นแนวทางปฏิบตักิารในการบริหารความตอ่เน่ือง
ทางธุรกิจ มี 4 องคป์ระกอบคือ
1. แผนงานเม่ือเกิดเหตกุารณวิ์กฤต เป็นคู่มือหรือแนวทางปฏิบตัิ
2. รายการที่ตอ้งปฏิบตั ิเป็นแนวทางการรายงานตามล าดบัขั้น
3. ระยะเวลาการฟ้ืนฟู เป็นรายการท่ีตอ้งท า โดยมีการจบัเวลาตั้งแต่
เกิดเหตกุารณ ์
4. การปฏิบตัตินของแผนในระดบัแผนกตา่ง ๆ ตามแผนกลยุทธข์อง
การฟ้ืนฟู
3. การน าแผนไปปฏิบตั ิ
การท าใหแ้ผนการหรอืแนวทางการบรหิารความตอ่เน่ืองทาง
ธุรกิจไปใชป้ระโยชน ์เพ่ือใหฝั้งตวัอยูใ่นเน้ือของการปฏิบตังิาน
ประจ า มี 2 แนวทางใหญ ่ๆ คือ
ตามโครงสรา้งองคก์ร ที่มีสายการบงัคบับญัชา การควบคมุ
และการสื่อสารที่ชดัเจน
ตามภาพแวดลอ้มขององคก์รท่ีเอ้ือตอ่การปฏิบตั ิคือ การ
สื่อสาร วฒันธรรมองคก์ร การควบคุม การใหร้างวลั และการ
ฝึกอบรม
4. การบริหารการปฏิบตักิาร
เป็นการทดสอบ และการบรหิารเหตกุารณ ์
การท่ีจะจดัการกบัเหตกุารณไ์ดด้ีข้ึนกบัการส่ือสารตามล าดบัขั้น
ที่ลงตวัพอดี เวลาเป็นสิ่งส าคญั โดยเฉพาะ 24 ชัว่โมงแรก ว่าจะ
จดัการเหตกุารณไ์ดด้ีเพียงไร
โครงสรา้งการบงัคบับญัชาในการบริการความตอ่เน่ืองทางธุรกิจ
ที่แนะน าแบ่งเป็น 3 ระดบั เพ่ือใหส้ายการบงัคบับญัชาสั้น แต่
สามารถน าไปดดัแปลงใชไ้ด ้ซ่ึงข้ึนกบัขนาดขององคก์ร คือ
ระดบัทอง (ดา้นกลยุทธ)์
ระดบัเงิน (ดา้นกลวิธี)
ระดบัทองแดง (ดา้นปฏิบตักิาร)
ระดบัทอง (ดา้นกลยุทธ)์ เป็นระดบัของผูบ้ริหารสูงสุดขององคก์ร มีหนา้ท่ี
ควบคุมกลยุทธ ์การใหข่้าวกบัสื่อมวลชน และตดิตอ่ส่ือสารกบัผูมี้ส่วนได้
ส่วนเสีย จะไม่ลงมายุง่กบัรายระเอียดของการจดัการเหตกุารณวิ์กฤต
ระดบัเงิน (ดา้นกลวิธี) เป็นศูนยป์ระสานงาน มีหวัหนา้ศูนยป์ระสานงาน
เป็นผูร้บัผิดชอบ เป็นผูอ้อกแบบกลวิธีในการรบัมือกบัเหตกุารณวิ์กฤต
จดัสรรทรพัยากรใหก้บัทีมงานปฏิบตักิารตา่ง ๆ และเป็นผูอ้อกค าสัง่เม่ือ
เกิดเหตกุารณวิ์กฤต
ระดบัทองแดง (ดา้นปฏิบตักิาร) เป็นผูป้ฏิบตัใินดา่นหนา้ ท่ีเม่ือพบ
เหตกุารณวิ์กฤตแลว้ จะตอ้งรายงานใหก้บัหวัหนา้ศูนยป์ระสานงานไดร้บั
ทราบ และเป็นผูล้งมือปฏิบตัิการเม่ือเกิดเหตกุารณข้ึ์นจริง
การทดสอบแผนการบรหิารความตอ่เน่ืองทางธุรกิจ
เป็นการท าแผนใหท้นัสมยัอยูเ่สมอ เพื่อใหมี้การรบัมือกบั
เหตกุารณวิ์กฤตไดด้ีที่สุด เพื่อการตอบสนองที่ถูกตอ้งและมี
ความปลอดภยั และเพื่อใหแ้น่ใจว่าสามารถด าเนินการตอ่เน่ือง
ทางธุรกิจไดต้ามแผนที่วางไว ้
การฝึกซอ้มแผนมีทั้งแบบแจง้ล่วงหนา้และไม่ไดแ้จง้ล่วงหนา้
การทดสอบโดยแจง้ล่วงหนา้สามารถท าไดบ้่อยกว่า ส่วนการ
ทดสอบโดยไม่แจง้ล่วงหนา้ใหร้ะวงัการเกิดความเขา้ใจผิดของผู ้
มีสว่นไดส้ว่นเสีย เพราะอาจคิดว่าเกิดเหตกุารณข้ึ์นจรงิจนกว่าจะ
ทราบว่าเป็นแค่การซอ้ม
รูปแบบของการทดสอบแผนท่ีวางไวมี้วิธีปฏิบตัดิงัน้ี คือ
1. การทดสอบบนโตะ๊ (desk check) เป็นการตรวจเอกสาร เพื่อ
ตรวจความเป็นปัจจบุนัที่สุด ไม่ว่าจะเป็นบุคคลท่ีมีรายช่ือในแผน
เบอรโ์ทรศพัท ์หรอื หน่วยปฏิบตักิาร ว่ายงัคงมีอยูจ่ริง เป็น
วิธีการที่นิยมใชม้ากที่สุด
2. การตรวจสถานที่ (walk-through or talk-through) ยงัเป็นการ
ตรวจเอกสาร โดยตรวจผูท้ี่มีส่วนเก่ียวขอ้งจรงิ ในสถานที่จริง ทุก
คนมาแสดงบทบาทท่ีตนเองรบัผิดชอบ มีการจบัเวลา และ
ทดสอบระบบการรายงาน
3. การจ าลองสถานการณ ์(simulation exercise) มีผูท้ี่เก่ียวขอ้ง
เพ่ิมข้ึนเพ่ือศึกษาการบูรณาการของแผนตา่ง ๆ และหน่วยงานที่
เก่ียวขอ้งในการฟ้ืนฟู เริม่จบัเวลาตั้งแตช่ัว่โมงที่ 0 ถึงชัว่โมงท่ี
72 หรือมากกว่า แตย่น่ยอ่เวลาเหลือ 1 ใน 4 โดยไม่จ าเป็นตอ้ง
ท าไดส้มบูรณ ์แตรู่ว่้าจะตอ้งท าอะไร อยา่งไร
4. การทดสอบหนา้ที่หรือการปฏิบตักิาร (function or operational
testing) เป็นทดสอบแบบจ ากดัวงแค่ 1 หรือ 2 แผนก โดย
สถานที่เดิมจะถูกปิดลง แลว้ใหบุ้คลากรไปฟ้ืนฟูในสถานท่ีใหม่ท่ี
ก าหนด เพื่อทดสอบการท าหนา้ที่ของแผนกตา่ง ๆ ว่าสามารถท า
ไดต้ามที่ก าหนดหรอืไม่
5. การทดสอบเตม็รูปแบบ (full or live exercise) เป็นการ
ทดสอบที่โดยมากจะท าปีละครั้ง หรือปีละ 2 ครั้งเทา่นั้น เพราะ
ตอ้งลงทุนมากและไม่มีการแจง้ล่วงหนา้ เพื่อทดสอบความ
เช่ือมโยงของแผนงานที่วางไว ้เพราะระยะเวลาการฟ้ืนฟูของ
แผนกตา่ง ๆ จะมีความเรง่ดว่นไม่เท่ากนั
ภายหลงัการทดสอบแผน จะมีการประเมิน เพ่ือดปูระสิทธิภาพ
ของแผน บุคลากรไดท้ าตามแผนหรอืแตกตา่งออกไป จุดใดที่
เกิดความลา่ชา้ บุคลากรท าหนา้ที่ไดด้ีหรอืไม่ มีการปฏิบตัไิด้
ตามคาดหวงัหรือไม่ มีอะไรตอ้งปรบัเปล่ียน และจะท าใหด้ีข้ึนได้
อยา่งไร
เอกสารทีใ่ชใ้นการบริหารความตอ่เน่ืองทางธุรกิจเป็นสิ่งท่ีไม่
หยุดน่ิง ควรมีการปรบัปรุงแกไ้ข มิฉะนั้นจะกลายเป็นการลงทุน
ที่สูญเปล่า ไม่ควรท าเป็นแค่โครงการเทา่นั้น แตค่วรท าเป็นส่ิง
ปกตขิององคก์ร
การบริหารความตอ่เน่ืองทางธุรกิจ มีวิวฒันาการจากการเตรยีม
ความพรอ้มเพ่ือความตอ่เน่ืองของระบบสารสนเทศ แลว้ขยายตวั
สูป่ฏิบตักิารอื่น ๆ เพื่อใชใ้นการเพิ่มคุณค่าใหก้บัองคก์ร และ
ตอ่มาถือว่าเป็นความสามารถขององคก์รในการไดเ้ปรยีบในการ
แข่งขนั คือ มีความสามารถในการป้องกนั และความสามารถใน
การฟ้ืนฟูจากภยัพิบตั ิ
Japanese Proverb