BANGKOLIAN' MAGAZINE

BANG-KOKIAN’

BANGKOK FASHION SOCIETY17BRANDS PRESS PRE-BIEW SPRING SUMMER 2012

THAKOON IN SPRING FROM NEWYORK FASHIONWEEK

March 2012

WHAT’S NEW!

6 Q เปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่รับ Summer

ภายใต้คอนเซ็ป ‘Pure Instinct’

7 Bangkok Fashion Society 2012

17 แบรนด์จัดงาน Press Preview ต้อนรับ Srping /Summer 2012

FASHION

8 Celeb Picks!

อัพเดตไอเท็มที่เซเลบริตี้หยิบมาใช้ในซัมเมอร์นี้

9 Go Abroad : THAKOON IN SPRING 2012

ตามติดคอลเลคชั่นล่าของสุดของ ฐากูร พานิชกุล จาก NY Fashion

Week

10 80 FASHION LOOKS 80 SUMMER INCIDENTS

คีย์ลุครับซัมเมอร์จากคุณจิตต์สิงห์ และ คุณดวง วรรณพร

12 STUDENT CAT WALK

แฟชั่นโชว์สุดล้ำาจาก “ยานกิฟต์” เทศกาลขนมและของขวัญ

ศิลปากร

20 THAI DESIGNERS

เรื่องราวชีวิตของ สมชาย แก้วของ และ พัชทรี ภักดีบุตร

26 ALL ABOUT MADAME FLAMINGO

อัพเดตแฟชั่นรองเท้าจากมาดาม ฟลามิงโก

BANG-KOKIAN’

EDITOR TALKS

จริงๆแล้วแฟชั่นก็อยู่รอบๆตัวเรา ไม่ว่า

เราจะทำาอะไร จะไปไหนนับตั้งแต่ตื่นนอนจนกระทั่ง

เอนตัวลงนอนอีกครั้ง ชีวิตก็เกี่ยวพันกับแฟชั่นตล

อดเวลา แม้กระทั่งการเดินทาง เราก็ยังออกแบบ

ให้มัน ตรงกับ “รสนิยม” ของเราที่สุด ตัวดิฉันเองก็

เป็นคนที่สนใจเรื่องของแฟชั่นพอสมควร อาจจะเริ่ม

ที่คุณแม่ที่เอาใจใส่เรื่องการแต่งตัวตั้งแต่ยังเป็นเด็ก

และพอโตมาหน่อยก็เริ่มมีแนวทางเป็นของตัวเอง

จากที่แม่คอยเลือกเสื้อผ้าให้ ก็เริ่มจะเลือกเองตาม

ที่ตัวเองชอบบ้าง จนทุกวันนี้กิจกรรมทุกอย่างใน

ชีวิตประจำาวัน ดิฉันก็ออกแบบให้ตรงกับ “รสนิยม”

ของตัวเอง จะกำาหนดธีมให้แต่ละวัน อย่างน้อย

ที่สุดมันสามารถช่วยให้ในแต่ละวันของเราไม่น่าเบื่อ

จนเกินไป :)

Bangkokian’ ฉบับนี้ออกเป็นฉบับแรก

และตรงกับเดือนเกิดของคุณพ่อพอดี ขอให้พ่อมี

ความสุขมากๆ ขอบคุณความอบอุ่นที่พ่อ่มีให้หนู

ตลอดเวลาและมากขึ้นทุกๆวัน หนูรักพ่อค่ะ .

แล้วพบกันใหม่ฉบับหน้า

รุ่งอรุณ ฤกษ์พินิตย์

http://www.facebook.com/rrerkpinit

BANG-KOKIAN’

BANG-KOKIAN’SPECIAL THANKS

‘Q’ BRAND

MILIN

VICTEERUT

ISSUE

PLAYHOUND

MADAME FLAMINGO

YANNGIFT SU

THAICATWALK.COM

DGRIE FASHION STORY BLOG FOR EVERYONE

AND

NUDEE JITCHANOK

CHA-AERNG WATCHARAPHOL

6 March 2012 BANGKOKIAN’ MAGAZINE BANGKOK , FASHION CITY

WHAT’S NEW !

March 2012 BANGKOKIAN’ MAGAZINE BANGKOK , FASHION CITY

ฤดูร้อนนี้ Q Design and Play นำาเสนอ

Q Spring/Summer 2012 ภายใต้คอลเล็กชั่น ‘Pure

Instinct’ หรือ ‘สัญชาตญาณดิบ’ มีคอนเซปต์หลักว่า

“สภาพของสังคมในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือสัตว์

ต่างต้องอยู่เพื่อเอาตัวรอดในสภาวะสังคมที่โหดร้าย โทน

สีที่ใช้จะเป็นโทนสีเข้มแสดงให้เห็นถึงการอำาพรางตัว และ

ตอกย้ำาความเป็นเอกลักษณ์ของงานกราฟฟิกในแบบ

Geometric ในส่วนสุดท้าย ‘Survivor’ หรือ ‘ผู้รอดชีวิต’

ที่แสดงให้เห็นถึงความซับซ้อนของโครงสร้างทางสังคม

โดยใช้ภาพจริงผสานกับลายกราฟฟิกแบบ Geometric

และคอลเล็กชั่นนี้มีเครื่องประดับได้แก่ ผ้าพันคอ สร้อย

คอ แหวน กระเป๋า และรองเท้าสำาหรับซีซั่นนี้ Q Design

and Play เลือกใช้ผ้าประจำาคอลเล็กชั่นเป็นผ้าบุนวม ผ้า

ร่ม ผ้าลินิน ผ้าคอตตอน และผ้าไหม เพิ่มลูกเล่นให้กับ

เสื้อผ้าด้วยโลหะเงินและอครีลิก อีกทั้งยังใช้อครีลิกและ

ลายกราฟิกแบบ Geometric เพื่อเพิ่มดีเทลให้กับเครื่อง

ประดับอีกด้วย Credit : Q

Q Design and Play เปิดตัว

คอลเคชั่นใหม่รับซัมเมอร์ภายใต้คอนเซ็ป

‘Pure InStinct’

March 2012 BANGKOKIAN’ MAGAZINE BANGKOK , FASHION CITY 7March 2012 BANGKOKIAN’ MAGAZINE BANGKOK , FASHION CITY

Bangkok Fashion Society

Press Preview เปิดคอลเลคชั่น

Spring/Summer 2012 จากจุดมุ่งหมายและวิสัยทัศน์เดียวกันของเหล่านัก

ออกแบบแฟชั่นที่ต้องการยกระดับคุณภาพการออกแบบสินค้า

แฟชั่นไทยและนำาตราสินค้าไทยสู่เวทีสากล จึงเกิดการรวมตัว

เป็นสมาคมแฟชั่นดีไซเนอร์กรุงเทพฯ หรือ Bangkok Fashion

Society (BFS) ขึ้นในปี 2547 โดยปัจจุบันมีแบรนด์สมาชิก

รวม 17 แบรนด์ ซึ่งในครั้งนี้แบรนด์สมาชิกได้ร่วมกันเผยผลงาน

คอลเลคชั่น Spring/Summer 2012 ในรูปแบบแฟชั่น เอ็กซ์ฮิบิ

ชั่น พร้อมผลักดันให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองแห่งแฟชั่นผ่านแคมเปญ

ล่าสุด ‘BANGKOK BASED, BANGKOK BEST’


FASHION


พลอย เฌอ

มาลย์ ในเดรส

สีดำา จาก

VICK-

TEERUT

คอลเลตชั่น

AW 11

ชมพู่ อารยา กับ

กระเป๋า SUMMER

KITES จาก ISSUE

คริส หอวัง ในจัมพ์สูท

ขาสั้น จาก Milin

Celeb Picks!แม้ฤดูกาล Spring-Summer 2012 จะมาถึงแล้ว

แต่ก็ยังมีควันหลงของ Autum Winter ให้เห็นอยู่

ประปราย ...


ฐากูร พาณิชกุล ในงาน

New York Fashion week

เรื่อง : รุ่งอรุณ ฤกษ์พินิตย์ ภาพ : http://www.dgrie.com

THAKOONin Spring

Summer2012

ฐากูล พานิชกุล ดีไซเนอร์ไทยเจ้าของแบรนด์

THAKOON ที่มีเอกลักษณ์ในการออกแบบเครื่องแต่งกายที่มี

สีสันสดใส และลายพิมพ์ที่ดูมีชีวิตชีวา สำ�หรับคอลเลคชั่นSpringSummer2012ผลง�นก�รออกแบบของ

ฐ�กูรก็ไม่ทำ�ให้ผู้ที่ชื่นชอบผ้�พิมพ์ล�ยผิดหวังด้วยก�รผสมผส�นที่ลงตัวของล�ย

พิมพ์ที่นำ�ลวดล�ยจ�กธรรมช�ติม�ประยุกต์ใช้กับแพทเทิร์นก�รตัดเย็บที่ทันสมัย


FASHION


FORMAL สำาหรับในโอกาสสำาคัญที่บรรดาสุภาพบุรุษจะได้เผยภาพลักษณ์ของความสุขุมผ่านความ

โก้หรูของเสื้อผ้าที่ Fashion Curator ได้สร้างสรรค์ลุคที่เป็นทางการแต่แฝงไว้ด้วยรสนิยมแห่งแฟชั่น ที่ทันสมัย เช่น ลุคที่

ประดับปกเสื้อด้วยโบว์ไทแทนที่เนคไทแบบดูทางการหรือใช้ผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กที่เหน็บบนกระเป๋าสูท, ลุคที่ดูเนี้ยบเท่อย่าง

คู่เสื้อสูทสีน้ำาเงินกับเชิ้ตสีเทาและกางเกงสีขาว, ลุคที่เป็นทางการสำาหรับงานสำาคัญด้วยเนคไทลายทางขวางสีเรียบ เป็นต้น

ที่สามารถเลือกแมทช์ให้กับงานสำาคัญ

SMART CASUAL สำาหรับซัมเมอร์นี้ Fashion Curator ได้นำาเสนอลุคเพื่อบรรดาหนุ่มๆ ได้มิกซ์

แอนด์แมทช์เสื้อผ้าในสไตล์ลำาลองกึ่งทางการ แต่ยังคงเสน่ห์ไว้ครบถ้วน อาทิ ลุคของหนุ่มนักสำารวจในเสื้อผ้าสไตล์ Work-

wear, ลุคที่เน้นคู่สีคลาสสิคแบบขาว น้ำาเงิน และกากี, เสื้อสเวตเตอร์แขนยาวตัวโคร่งที่เป็น Must have item ประจำาซีซั่น

ด้านแอคเซสเซอรี่ที่นำามาแมทช์ เช่น หมวก, แว่นกันแดดทรง Aviator ที่เหมาะกับโอกาส

LAID BACK ในวันพักผ่อนแสนสบายในซัมเมอร์นี้ชายหนุ่มก็สามารถเผยความคล่องตัวให้วันเหล่า

นั้นได้ด้วยลุคที่มีสไตล์ เช่น เสื้อผ้าสไตล์สปอร์ตแวร์อย่างแจ็คเก็ตฮู้ด, สเวตเตอร์เชิ้ต, เสื้อเบสบอล สำาหรับวันสบายๆ หรือ

ต้อนรับลมร้อนด้วยลุคเชิ้ตสไตล์ฮาวายกับกางเกงว่ายน้ำาแบบบิกินี่สำาหรับวันพักผ่อนริมทะเล ซึ่งหนุ่มๆ สามารถเลือกให้

เข้ากับโอกาสต่างๆ

DENIM Fashion Curator ได้สร้�งสรรค์ลุคที่แสดงถึงคว�มเป็นช�ยหนุ่มด้วยผ้�ยีนส์โดยเฉพ�ะยีนส์สีเข้มที่โดดเด่นในซีซั่นนี้ที่ส�ม�รถแมทช์เข้�กับเสื้อผ้�และแอคเซสเซอรี่ที่หล�กหล�ยเช่นชุดยีนส์โททัลลุคกับรองเท้�

บู้ทหนัง,แจ็คเก็ตยีนส์กับเสื้อล�ยสกอต,เสื้อคอวีสีเท�ซึ่งยีนส์ส�ม�รถสวมใส่ได้ในสถ�นก�รณ์ต่�งๆที่เผยภ�พลักษณ์แห่งคว�ม

ทะมัดทะแมงต�มแบบฉบับของผู้ช�ย

TRENDY เพิ่มดีกรีความร้อนให้กับซัมเมอร์ด้วยลุคที่สนุกสนานนำาแฟชั่น โดย Fashion curator ได้แมทช์ลุคที่เผย

เสน่ห์อันสดใสให้หนุ่มๆ ด้วยชุดสีแบบ One-Tone อย่างขาวล้วน เทาล้วน หรือดำาล้วน, เสื้อกั๊กสำาหรับไปงานปาร์ตี้เก๋ๆ หลังเลิกงาน

บนเสื้อเชิ้ตแขนยาวตัว

80 FASHION LOOKS80 SUMMER INCIDENTS

จิตต์สิงห์ สมบุญ ดีไซเนอร์มากความสามารถที่โลดแล่นอยู่แถวหน้าของวงการแฟชั่นไทย ได้ให้เกียรติรับ

บทบาท Fashion Curator ให้กับ MEN INTREND ภายใต้แคมเปญ Blame it on Summer 80

Fashion Looks 80 Summer incidents ด้วยการครีเอท 80 ลุคที่ ส่งมอบให้ชายหนุ่มได้สวมใส่ใน

80 สถานการณ์ประจำาหน้าร้อนนี้ โดยแบ่งเป็น 5 คีย์ลุคหลักดังนี้

เรื่องและภาพ : Jade-ThaiCatWalk


Posh สาวๆ ทุกคนต่างใฝ่ฝันถึงชุดราตรีที่หรูหรา ที่เผยถึงเสน่ห์เย้ายวน fashion Curator จึงได้สร้างสรรค์ลุค

ที่ช่วยให้หญิงสาวงามสง่า อาทิ การไปร่วมงานอันหรูหราด้วยชุดราตรียาวเปลือยไหล่ ที่เพิ่มดีเทลร้อนด้วยการผ่าข้างและ

ผ่ายาวด้านหน้า เครื่องประดับในงานหรูเน้นไปที่ต่างหูจิวเวลรี่หรือสร้อยคอเพชรเส้นเล็ก พร้อมด้วยการพกพาคลัชใบเล็ก

เพิ่มความมั่นใจ หรือการย่ำาราตรีด้วยชุดสั้นแบบมินิหรือชุดกระโปรงยาวระดับข้อเท้าที่เป็นโครงชุดหลักของซัมเมอร์นี้ ซึ่ง

สาวๆ สามารถเลือกสวมใส่ในโอกาสต่างๆ กัน

Casual Chic สำาหรับฤดูร้อนนี้ Fashion Curator จะนำาบรรดาหญิงสาวสนุกสนานไปกับการแต่งตัว

ด้วยลุคลำาลองแต่แฝงแฟชั่นนำาสมัย ด้วยการแมทช์ชุดกับรองเท้าส้นสูงและกระเป๋าสะพายทรงเรขาคณิตใบเล็ก, ชุดที่สวม

ใส่ง่ายสบายตัวด้วยกางเกงขาสั้นและเสื้อสายเดี่ยวบนเนื้อผ้าบางที่เหมาะกับการเดินทางทุกรูปแบบ รวมไปถึงบิกินี่สีสด

ลายทางหรือลายเรขาคณิต แมทช์กับกำาไลข้อมือ แว่นตากันแดดและหมวกปีกกว้าง ให้สาวๆ ได้เฉิดฉายรับลมร้อนในวัน

สบายๆ หลากหลายโอกาส

Savvy สำาหรับลุคนี้ Fashion Curator ได้สร้างสรรค์ออกมาให้สาวๆ ได้เปรี้ยวเก๋พร้อมออกไปรับประสบกา

รณ์ใหม่ๆ ผ่านสายลมในฤดูร้อน ด้วยจั๊มพ์สูทที่ให้ลุคแบบมาสคูลีนจับคู่กับหมวกทรงเรขาคณิตและแว่นตากันแดด, ชุดเด

วรรณพร โปษยานนท์ สาวสวยผู้มีสไตล์อันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ได้มาร่วมเป็น Fashion Curator

ให้กับ W we craze fashion ภายใต้แคมเปญ MEN INTREND + W we craze fashionBlame

it on summer : 80 fashion looks 80 summer incidents ด้วยการครีเอท 80 ลุค เพื่อ

หญิงสาวที่มี ไลฟ์สไตล์สวมใส่ใน 80 สถานการณ์ประจำาหน้าร้อน โดยแบ่งเป็น 3 คีย์ลุคหลักดังนี้


FASHION


Silpakorn University

ยานกิฟท์


แฟชั่นโชว์ สุดล้ำา หลุดโลก ผลงานการออกแบบจากนักศึกษา คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร

ภายใต้คอนเซ็ป “ยานกิฟท์” ซึ่งดีไซน์ออกมาได้น่าตื่นตาตื่นใจ ไม่่ว่าจะเป็นลายพิมพ์กราฟฟิคหรือการเพิ่มลูกเล่น

บนเครื่องแต่งกาย

ชุดลายพิมพ์สุดล้ำา จาก รันเวย์ งานกิฟท์

ศิลปากรบรรยากาศการเปิดงานบรรยากาศการเปิดงาน

เสื้อลายพิมพ์ Geometric เสื้อลายพิมพ์ Geometric

ปล่อยชายระบาย กับปล่อยชายระบาย กับ

กางเกงขาสั้นสีดำากางเกงขาสั้นสีดำา

เรื่อง : รุ่งอรุณ ฤกษ์พินิตย์ ภาพ : FB ยานกิฟท์

“Somewhere in her world.”Take Fashion Everywhere!

MODEL : NuuDd Jitchanok.PHOTOGRAPHER : Rung Rerkpinit

THAI DESIGNERS2

THAI DESIGNERS

22 March 2012 BANGKOKIAN’ MAGAZINE BANGKOK , FASHION CITYMarch 2012 BANGKOKIAN’ MAGAZINE BANGKOK , FASHION CITY

กว่า 3 ทศวรรษที่ผ่านมา ไข่-สมชาย แก้ว

ทอง คือเจ้าของห้องเสื้อ Kai ผู้ที่ลุกขึ้นมาทำา

เสื้อผ้าในเชิงธุรกิจโดยใช้นางแบบคนไทยเดิน

บนแคทวอล์คตามแบบฝรั่ง ครั้งนั้นแฟชั่น

โชว์ชุดแรกของเขาได้แรงบันดาลใจมาจาก

ภาพยนต์ฮอลลีวู้ดเรื่อง The Great Gatsby

ซึ่งกำาลังได้รับความนิยมอย่างมาก และผล

จากการเดินแฟชั่นโชว์คอลเลคชั่นดังกล่าว

ทำาให้เสื้อผ้า Kai ขายหมดเกลี้ยงในเวลาอัน

รวดเร็ว ส่งให้ชื่อเสียงของ ไข่-สมชาย แก้ว

ทอง โด่งดังเป็นพลุแตก จนต้องจัดงานแฟชั่น

โชว์ของตัวเองตามมาอีกหลายงาน

ไข่-สมชาย ถือเป็นคนแรกที่เปิดเส้น

ทางให้เกิดอาชีพนางแบบขึ้นมาอย่างเป็น

ทางการ เพราะเขาจะจ่ายค่าตัวให้นางแบบ

ทุกคนที่มาเดินแบบเสื้อให้ จนเรียกได้ว่า ไข่-

สมชาย คือมือปั้นนางแบบอาชีพเข้าสู่วงการ

แฟชั่นจำานวนมากอย่างแท้จริง

หลายปีที่อยู่ในวงการแฟชั่นมา ไข่-

สมชาย แก้วทอง คือดีไซน์เนอร์ผู้ผ่านร้อน

ผ่านหนาวมาหลายรูปแบบ แต่ด้วยความที่

เขารักและคลุกคลีกับงานทางด้านเสื้อผ้ามา

ตั่งแต่ยังเด็กๆ ทำาให้งานที่เขาทำาจนทุกวันนี้

กลายเป็นงานที่มีค่าทั้งกับตัวผู้สร้างและตัวผู้

สวมใส่เป็นอย่างดี

“หลังจากพี่ชายต้องไปอยู่โรงเรียนประจำา

ที่ จ.ยะลา บ้านผมก็เหลือแค่พี่สาว 2 คน

แล้วก็แม่ ซึ่งผมสนิทกับแม่มาก เมื่อก่อนที่

บ้านผมจะคลุกคลีกับเรื่องของการเย็บ ปัก

ถัก ร้อย ไม่ว่าจะเป็นการถักเสื้อกันหนาว ถัก

โครเชท์ ถักผ้าคลุมไหล่ ทำาให้ผมซึมซับกับ

เรื่องราวของงานประดิษฐ์ตั่งแต่นั้นมา และ

ด้วยความที่ผมมีพื้นฐานด้านวาดเขียนอยู่

แล้ว ก็เลยทำาให้เราสนใจงานทางด้านศิลปะ

Designer : สมชาย แก้วทอง

ตำาแหน่ง : เจ้าของร้าน Kai

การศึกษา : อุดมศึกษา คณะจิตกรรม

มหาวิทยาลัยศิลปากร

ประวัติการทำางาน

1968 เริ่มเปิดร้าน Kai เมื่ออายุ 22 ปี

ผลงานที่ภาคภูมิใจ / ประทับใจ

ภูมิใจทุกผลงานที่เคยทำาแฟชั่นโชว์ แต่ไม่

เคยเต็ม 100 ก็เลยไม่จดจำา

กิจกรรมที่ทำาสมัยยังศึกษาอยู่

เรียนบัลเลต์ กับท่านผู้หญิงวราพร ปราโมช

/ ชอบศิลปะคลาสสิกชั้นสูงทุกชนิด

กิจกรรมยามว่าง / งานอดิเรก

ไม่ชอบออกงานใดๆ ชอบอยู่เงียบๆ คน

น้อยๆ, ไม่ต่างจังหวัด, ชอบทานอาหารทะเล,

ชอบดูบัลเลต์, ชอบดูโอเปร่ามากๆ

1


มากขึ้น อย่างตอนที่เรียนมัธยมที่ จังหวัด

ยะลา อาจารย์ที่สอนวิชาศิลปะมักจะจัด

กิจกรรมบ่อย อย่างจัดให้ขี่จักรยานไปเขียน

รูปนอกเมือง เราก็ได้ประสบการณ์ทางด้าน

การวาดรูปจากตรงนี้ด้วย”

“พอจบมัธยม ผมก็มาเรียนเพาะช่างที่

กรุงเทพฯ มีโอกาศได้มาเดินแถวๆ พาหุรัด

บ่อยเข้า เห็นเสื้อผ้าหลากหลายแบบก็ทำาให้

ชอบเข้าไปใหญ่ เลยเป็นแนวทางทำาให้เรา

เลือกที่จะทำาอาชีพตัดเสื้ออย่างไม่ต้องลังเล

อะไรเลย พอจบ ปี 3 ที่เพาะช่าง ผมก็สอบ

เข้ามหาวิทยาลัยศิลปากรได้ เรียนอยู่ที่นั้น

จนกระทั้งปี 3 เราก็ค้นพบตัวเองว่าเราพร้อม

ที่จะทำางานแล้ว ก็เลยออกมาเปิดร้านตัวเสื้อ

เลย เพราะรู้ว่ามันใช่สำาหรับเราแล้ว คือการ

ที่เราเลือกจะทำาอาชีพตัดเย็บเสื้อผ้ามันรู้สึก

ว่ามีอะไรดึงดูดเรามาตั่งแต่เด็ก จนพอเราโต

อายุประมาณ 22 ปี เราก็คิดว่าปริญญาไม่มี

ความหมายสำาหรับเราอีกต่อไป”

“การที่เราทำางานมาตั่งแต่อายุ 22 ปี แล้ว

ไม่มีความรู้พื้นฐานด้านการตัดเย็บเสื้อผ้า

และไม่เคยได้เรียนที่ไหนมาก่อน มีแต่พื้นฐาน

ทางด้านวาดเขียนก็เปนอะไรที่ช่วยได้เยอะ

มากทุกอย่างที่เราเรียนมาทั้งหมดสามารถ

นำามาช่วยทำางานให้สายอาชีพนี้ได้ ที่ผ่านมา

ผมอาศัยความชอบ ความถนัด มาช่วยเป็น

แรงผลักดันให้เกิดเป็นประสบการณ์ที่มีค่า

สำาหรับเรียนรู้ต่อไป“

“จากนั้นพอเริ่มจับทางถูกว่าเราจะทำางาน

ทางด้านนี้จริงๆ เราก็เริ่มศึกษาว่าการทำา

ธุรกิจที่ดีจะต้องเริ่มจากโครงสร้างที่ดี มีการ

บริหารเงินที่ดี มีการผลิตที่ดี มีการโฆษณา

ที่ดี แต่อย่างไรก็ตามเราก็ต้องแยกแยะว่า

ธุรกิจไฮแฟชั่นก็เหมือนเรารับตัดเสื้อทั่วไป

การที่เรารับตัดเสื้อทั่วไปกับการที่เราจะรับ

ตัดเสื้อสำาเร็จรูปขายเราจะต้องแยกออกจาก

กัน คือเสื้อสำาเร็จรูปเราทำาขึ้นมาเพื่อให้คน

ทุกคนทุกระดับทุกวัยใส่ได้ และซื้อได้โดยที่

ไม่มีปัญหาเรื่องของราคา แต่เสื้อสั่งตัดคือ

ไฮแฟชั่น บางทีมีปัญหาเรื่องของราคาแพง

ที่แพงก็เพราะการเลือกใช้วัสดุที่ดี แต่สิ่งที่

ทำาให้เสื้อผ้าร้านผมแพงคือความต้องการ

ของลูกค้าที่มาเป็นตัวกำาหนดให้เสื้อผ้ามี

ราคาแพงขึ้น บางครั้งเวลาที่ลูกค้าสั่งตัด

ชุดเดียว ตัวเดียว เขาก็ต้องการความพิเศษ

เฉพาะตัว ซึ่งไม่สามารถไปหาซื้อที่ไหนได้ เรา

ก็ต้องใส่ความพิเศษให้เขา เพราะฉะนั้นถ้าไม่

รักไม่ชอบงานทางด้านนี้จริงๆ ก็อาจท้อถอย

หรือเลิกล้มกลางคันได้ ดังนั้นความรักและ

ความชอบก็ทำาให้เรามีพลังในการต่อสู้กับ

อุปสรรคที่เกิดขึ้นได้เอง”

ได้ฟังเรื่องราวของบรมครูทางด้านแฟชั่น

มาพอสมควรก็ทำาให้ทราบว่า การที่เราจะ

ทำางานอะไรให้ประสบความสำาเร็จแล้วในขั้น

ตอนแรกเราก็ต้องมีพรสวรรค์ทางด้านนี้อยู่

ในตัวเองด้วย จึงจะเห็นความสำาเร็จลอยมา

แต่ไกล

“ผมว่าความชอบกับพรสวรรค์ ทำาให้ทุก

คนมีใจที่จะสู้และ ทำาให้เราผ่านพ้นอุปสรรค

มาได้ เพราะฉะนั้น การที่จะเรียนแฟชั่นหรือ

เรียนอะไรก็ตามถ้าไม่มีพรสวรรค์หรือไม่มี

ความชอบในสิ่งที่เราเรียนก็ไม่สามารถช่วย

อะไรได้ ผมขอท้าเลยว่าคนที่จบปริญญาตรี

หรือปริญญาเอกทางด้านแฟชั่นมา กับคนที่

มีความรัก ความชอบและเริ่มคลุกคลี ทำางาน

เกี่ยวกับแฟชั่นมาตั่งแต่อายุยังน้อย ฝ่าฟัน

กับอุปสรรค เรียนรู้ ต่อสู้กันไปก็จะได้รับ

ความลึกซึ้งกับอาชีพตรงนี้มากกว่าคนที่เรียน


มาอีก คนที่เรียนมาทางด้านนี้ก็เพื่อมีข้อมูล

มาประกอบอาชีพ แต่พอเขาเริ่มมาประกอบ

อาชีพก็เท่ากับว่าต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่กับชีวิต

เลย เขาอาจจะมีภาษีมากกว่าที่เขาได้เรียน

พื้นฐานทางด้านนี้มาโดยตรง แต่ทั้งหมดแล้ว

ก็ยังสู้พรสวรรค์ที่ติดตัวมาไม่ได้อยู่ดี”

“เท่าที่อยู่วงการนี้มา จะเห็นว่าคนที่

ประสบความสำาเร็จคือคนที่มีพรสวรรค์ แต่

คนที่ไม่มีพรสวรรค์หรือคนที่เรียนมาทางด้าน

แฟชั่นมาเขาก็อาจประสบความสำาเร็จใน

ระดับหนึ่ง เพราะฉะนั้นคนที่เรียนทางด้านนี้

มาแล้วทำาสินค้าสำาเร็จรูป ทำาอาชีพนี้โดยตรง

คนที่มีพรสวรรค์จะมีภาษีกว่า ทำางานมา จน

อายุจะ 60 ปีแล้วมีดีไซเนอร์เป็นร้อยเป็นพัน

แต่ถ้าพูดถึง Top designer ในเมืองไทยที่

เข้าขั้นจริงๆยังนับไม่ถึงสิบคนด้วยซ้ำา ถือว่า

ยังน้อยเหมือนกันคือเราอาจมองว่าคนที่

สนใจและเข้ามาทำาอาชีพนี้มีให้เห็นเยอะมาก

แต่ถ้าวัดความสำาเร็จก็ถือว่าน้อยเต็มที เรา

เห็นงาน ELLE FASHION WEEK ซึ่ง ELLE

เป็นหนังสือหัวนอกที่ให้ความสำาคัญกับ

อาชีพแฟชั่นเมืองไทยมาก การที่เขาจัดงาน

นี้ขึ้นมาก็เหมือนเป็นการได้คัดสรรผลงาน

ของ ดีไซเนอร์เมืองไทย เพื่อให้งานออกมาสู่

สายตาประชาชน ให้คนได้ตัดสินว่า เขาเป็น

ดีไซเนอร์จริงๆ หรือว่าเป็นแค่ช่างตัดเสื้อ หรือ

เป็นแค่ความฉาบฉวยกันแน่”

“เพราะฉะนั้นอยากบอกเด็ก ที่อยากเข้า

มาทำางานในวงการแฟชั่นว่า อาชีพนี้มีคน

อยากทำาเยอะมาก แต่การเข้าวงการมาแบบ

ฉาบฉวย พ่อแม่รวย ก็ไม่สามารถช่วยอะไร

ได้ เพราะเมื่อเกิดปัญหาแต่ละครั้งส่วนใหญ่

ก็จะทนไม่ไหว ถอนตัวกันไปเยอะเหมือนกัน

เนื่องจากเราต้องเจอกับลูกค้าหลายแบบ คน

ที่จะทุ่มเทให้กับความพิเศษอย่างที่ลูกค้า

ต้องการได้ คนๆนั้นก็จะต้องเป็นคนที่อดทน

มากๆ”

“อาชีพนี้เราต้องแข่งกับตัวเอง พยายาม

ทำาตัวให้อยู่ในกรอบที่ถูกต้อง ก็จะประสบ

ความสำาเร็จได้ การทำางานแต่ละครั้งเราต้อง

ศึกษาหลายอย่าง ทั้งการเป็นตัวของตัวเอง

การดูเทรนด์แฟชั่นของโลก คำาว่าแฟชั่นมัน

ก็จะวนไปวนมา เพราะฉะนั้นแฟชั่นก็จะมี

เหมือนเดิมบ้าง ก็เป็นเรื่องปรกติ”

“สำาหรับร้าน Kai เราทำาเสื้อผ้าคลาสสิก

เราคำานึงถึงความเป็นไปได้ในการสวมใส่

เสื้อผ้าของลูกค้าเป็นหลักว่า ถ้าลูกค้าเสียเงิน

กับเรา เขาจะต้องได้รับความคุ้มค่ากับเงินที่

เสียไป ซึ่งจุดนี้เราก็สามารถวัดความสำาเร็จ

และความมีชื่อเสียงจากลูกค้าที่มีมาเรื่อยๆ

ได้เราเปิดร้านมานาน มีผลงานมากมายใคร

จะชอบงานเรามากน้อยแค่ไหนก็วัดได้ที่การ

อยู่รอดมาถึงทุกวันนี้”

“สำาหรับโครงการในอนาคตผมก็จะ

ทำางานตรงนี้ให้ดีที่สุด ถ้ามีเงินสักก้อนก็จะ

เปิดพิพิธภัณฑ์แฟชั่นส่วนตัวให้กับตัวเอง

เพื่อให้เด็กรุ่นหลังได้ดูกัน ได้ให้คนอื่นดูผล

งานประวัติการทำางานของเรา หากวันหนึ่ง

เราตายไป 20-30 ปี แต่ผลงานที่เราทำาก็ยัง

อยู่ เขาจะได้รู้ว่าสมัยที่เรายังอยู่เขาทำางาน

กันแบบนี้ เป็นเรื่องที่น่ายินดีถ้าทำาได้ ก็

ภาวนาอยากให้ทำาได้เหมือนกันเพราะเราไม่

สามารถอุทิศความที่เราชอบให้กับใครได้ เรา

ก็คือเรา เขาก็คือเขา ของแบบนี้มันไม่มีตัว

ตายตัวแทนกันได้ ดังนั้นความเป็นตัวของเรา

ก็จะมีอยู่ที่เดียว แห่งเดียวในโลกใบนี้”


จากเด็กสาวผู้แก่นเชี๊ยว เปรี้ยวจี๊ด และ

มีรสนิยมทางด้านแฟชั่นมาตั่งแต่เด็กทำาให้

พัชทรี ภักดีบุตร ผู้ที่สนุกกับการพาตัวเองให้

แวดล้อม อยู่กับงานดีไซน์ มีความฝันว่า สัก

วันหนึ่งเธออาจจะได้ทำาในสิ่งที่เธอรัก แต่กว่า

เส้นทางความฝันของเธอจะถูกชุบชีวิตขึ้นมา

เป็นแบรนด์ “Greyhound” และ “Grey” ได้

นั้น เธอผู้นี้ต้องหลงทางไปตามเส้นทางอื่น

ก่อนที่จะมาพบว่าสิ่งที่เคยฝันไว้กลับถูกยื่น

มาให้อย่างไม่คาดฝัน…

”ประมาณอายุ 14-15 ปี พี่เคยฝันไว้ว่า

อยากจะเป็นดีไซเนอร์แต่ก็ไม่เคยคิดว่าวัน

หนึ่งจะได้มาทำางานตรงนี้จริงๆ เพราะความ

คิดตอนนั้นเกิดจากการที่เราเป็นคนบ้าแฟชั่น

อยู่แล้วในตัว ก็จะติดตามเทรนด์แฟชั่นของ

เมืองนอกทั้งการไปหาซื้อหนังสือแฟชั่นต่าง

ประเทศที่ขายตามสนามหลวง โบ๊เบ๊ มาดู

ทิศทางแฟชั่นเพื่อไม่ให้ตกยุค การได้เริ่มอ่าน

หนังสือ ลลนา เปรียว ได้ติดตามผลงานของ

คุณ โหน่ง-ปริญญา ซึ่งเป็น Idol ผู้ทำาให้ชีวิต

พี่มีรสชาติในด้านแฟชั่นขึ้นอย่างมากมาย

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการถ่ายรูป การแต่งตัวการ

เซ็ตแฟชั่นแต่เพื่อถ่ายลงหนังสือแต่ละเล่ม

จนกระทั่งการเฝ้าติดตามเสมือนตัวเองเป็น

แฟนคลับของเขาอย่างเต็มที่ และทุกครั้งที่มี

โอกาส ไม่ว่าจะเป็นการเข้าไปตีสนิท การไป

ดักรอเพื่อเจอหน้า การไปซื้อเสื้อผ้าของ

Designer : พัชทรี ภักดีบุตร, HEAD DE-

SIGNER, BY GREYHOUND

มัธยมศึกษา : โรงเรียนสตรีวิทยา

อุดมศึกษา : ปริญญาตรีสาขาการตลาด

จาก Richmond University, London UK.

ประวัติการทำางาน :

- GRAPHIC DESIGNER LEO BERNETT

- DESIGNER GREYHOUND

- HEAD DESIGNER GREY BY GREY-

HOUND / FOUNDER “EAB”

ผลงานที่ภาคภูมิใจ : ทั้งหมด

กิจกรรมที่ทำาสมัยยังศึกษาอยู่ : ประธานเชียร์

กิจกรรมยามว่าง / งานอดิเรก : เลี้ยงสุนัข

อ่านหนังสือ โยคะ ปลูกและศึกษาต้นไม้

สมุนไพร

2


คนที่เป็น Idol มาใส่ ก็เป็นอีกความสุขที่

เราสัมผัสได้ ณ เวลานั้นจริงๆ จนวันหนึ่งก็

ถึงเวลาที่เราจะต้องบินไปเรียนยังต่างแดน

กระทั้งจบปริญญาตรีด้านการตลาดจาก

ประเทศอังกฤษมา แต่ความฝันที่จะทำางาน

ด้านดีไซเนอร์ก็ยังไม่ลบออกไปจากหัวใจ พี่

เริ่มทำางานเป็นกราฟิกดีไซน์เนอร์ให้กับ Leo

Bernett ที่นี่ทำาให้พี่ได้แสดงออกทางด้าน

ความคิดในเรื่องของงานดีไซน์ได้อย่างเต็มที่

ความคิดที่จะแหกกฏก็เริมขึ้น เพราะไม่ว่าเรา

จะออกแบบงานอะไรเราก็ใส่ความชอบของ

เราลงไปด้วยทุกครั้ง อย่างที่พี่ชอบงานด้าน

ดีไซน์ของเสื้อผ้า พี่ก็จะรับงานด้านนี้มาใส่ลง

ในโฆษณาด้วย ทำาให้โฆษณาดูแปลกๆ เป็น

เพราะส่วนหนึ่งเราไม่มีพื้นฐานด้านการดีไซน์

มาก่อนเวลาคิดอะไรเราก็จะไม่มีกฏมาบังคับ

ตายตัว งานที่ออกมาก็จะต่างกับคนอื่นอย่าง

สิ้นเชิง และกลายเป็นเรื่องที่ดีที่เจ้านายเห็น

สมควรไป”

”3 ปี กับการ ทำางานกราฟิกที่ Leo

Bernett พี่มองว่างานทุกชิ้นที่เราทำามีแต่โดน

ใจเจ้าของสินค้า ไม่ได้ทำาออกมาให้โดนใจผู้

บริโภคสักเท่าไหร่ ตัวพี่เองก็เริ่มมีคำาถามใน

ใจว่า ในเมื่อเป็นอย่างนี้เราจะทำางานต่อไป

เพื่ออะไร และความคิดที่เราว่าเจ๋งแล้ว พอ

ให้ลูกค้าดูเขาก็ยังไม่ชอบ และอยู่ก็เหมือนมี

อะไรมาดลใจก็ไม่รู้ ระหว่างที่พี่ขับรถเพื่อไป

ทำางาน ก็เหลือบเห็นโฆษณาที่พี่ทำาติดอยู่ตรง

ท้ายรถเมล์พอดี ก็เกิดเป็นคำาถามว่า ” นี่หรือ

งานที่ฉันทำาอยู่” มันจะคงทนถาวรได้แค่ไหน

สิ่งเหล่านี้มันไม่มีคุณค่าทางจิตใจใครเลย

พี่คิดได้แบบนี้ก็ตัดสินใจลาออกจาก Leo

Bernett ทันที”

แต่ด้วยความชอบในการทำางานที่ไม่

เหมือนใครและสไตล์การแต่งตัวที่โดดเด่น

เข้าตา (กรรมการ) ทำาให้ประธานของ Leo

bernett (ภาณุ อิงคะวัต) หันมาชักชวนพี่

รี่เพื่อมาทำางานเป็นดีไซเนอร์ให้กับ Grey-

hound และบังคับเธอให้มาเป็นหุ้นส่วน

ด้วยกัน ความที่ตัวเธอเองก็ตั่งเป้าหมายไว้

ว่า ก่อนอายุ 30 ปีจะต้องมีธุรกิจเป็นของตัว

เองให้ได้ ทำาให้เธอยอมตกลงร่วมหุ้นอย่าง

ง่ายดาย และเริ่มทำางานอย่าที่ใจต้องการโดย

ผลิตและออกแบบเสื้อผ้าให้ Greyhound ตั่ง

แต่นั้นมา

“จากเสื้อผ้า Greyhound ที่เคยมีแต่ของ

ผู้ชาย พอเราเข้ามาทำางานก็เริ่มผลิตและ

ดีไซน์เสื้อผ้าผู้หญิงเข้ามาเป็นคอลเลคชั่นข

องแบรนด์ด้วยทำามาสักระยะก็เห็นว่าเสื้อผ้า

ผู้หญิงเริ่มโตเร็วขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ

ปัจจัย หลายๆด้าน ทั้งในเรื่องของงานเดิน

แฟชั่นโชว์ การถ่ายแบบให้กับหนังสือต่างๆ

จากจุดนี้ก็เลยทำาให้แบรนด์ Greyhound ที่

เป็นเสื้อผ้าผู้หญิงกลายเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น”

“คอนเซ็ปต์ในการคิดงานแต่ละครั้งอยู่ที่

ความชอบของเราว่าอยากใส่อะไร แบบไหน

ซึ่งเราเองก็เป็นคนบ้าแฟชั่น ดื้อ ไม่ชอบทำาตัว

ตามเทรนด์มากมาย แต่ทำาอย่างไรก็ได้เพื่อ

ให้งานที่ออกมาอยู่เหนือเทรนด์ที่สุดโดยการ

เอาตัวเองผสมกับเทรนด์แฟชั่น และสิ่งนี้เอง

ที่ทำาให้งานของเราออกมาไม่เหมือนใคร”

จากแรงสำาคัญที่ผลักดัน Greyhound จน

โด่งดังทั้งตลาดภายในและนอกประเทศเรื่อย

มา กระทั้งมีโอกาสได้มาดูแลแบรนด์น้องใหม่


คือ Grey พี่รี่จึงทุ่มเวลาทั้งหมดเพื่อ Set-up

และดูแลแบรนด์น้องใหม่อย่างเต็มที่

“การทำางานภายใต้แบรนด์ ความยากอยู่

ที่ความยึดถือความเป็นแบรนด์ให้ดี และยิ่ง

ต้องทำางานภายใต้องกรณ์ใหญ่ๆ มันก็ยาก

ขึ้นด้วย บางครั้งฝ่ายการตลาดก็จะบอกว่า

เสื้อผ้าคอลเลคชั่นแบบนี้ขายดีในซีซั่นก่อน

เขาก็อยากให้เราทำาแบบนี้ขึ้นมาอีก แต่เราใน

ฐานะที่ทำางานตรงนี้มาก็จะรู้ว่าอะไรมันจะมา

อะไรมันจะเอาท์ ก็เหมือนอยู่ในวงล้อแฟชั่น

ซึ่งเมื่อทำางานไปได้สักพักก็จะรู้ไปเอง นี่แหละ

คือความยากในการที่จะพัฒนาและพาธุรกิจ

ให้ลงตัวได้ เขาจะต้องเก่งมาก เขาต้องสู้

ต้องทำางานแบบตัวคนเดียว เพื่อจะได้ดูแล

ธุรกิจของตัวเองให้เป็นที่ยอมรับและเข้าไปใน

ตลาดธุรกิจเสื้อผ้าได้อย่างภาคภูมิ”

“ดังนั้นหากน้องๆ คนไหนที่สนใจอยาก

จะเป็นดีไซเนอร์ ก่อนอื่นเราจะต้องหาตัว

เองให้เจอ ต้องรู้ว่างานที่เราจะทำาเป็นอะไร

บางทีเราอาจเลี้ยวไปโน่นไปนี่บ้าง แต่ทำา

อย่างไรให้เราก้าวไปถึงจุดหมายให้มากที่สุด

เข้าใจเป้าหมายของเราให้ดีกว่าสิ่งที่เรานำา

เสนอคืออะไร เป็นตัวของตัวเองให้ดีที่สุด

พี่มองว่าคนเหล่านี้จะประสบความสำาเร็จ

ได้เอง ที่สำาคัญเราต้องชัดเจนในการสร้าง

แบรนด์ให้มากๆ เพราะสิ่งนี้จะทำาให้เราได้รับ

การยอมรับในที่สุด ตอนนี้วงการแฟชั่นมัน

โตเร็วและเข้มข้นขึ้นมากไหนจะต้องแข่งขัน

กับเมืองนอก ซึ่งเมื่อก่อนมีไม่กี่แบรนด์ ใคร

จะทำาอะไรออกมาก็ขายได้แล้ว แต่เดี๋ยวนี้

พอแบรนด์เยอะขึ้น แบรนด์เมืองนอกก็เข้า

มามาก ทำาให้เราต้องพยายามสร้างสรรค์ผล

งานออกมาให้ดีและชัดเจน เพื่อความแข็ง

เกร่งของแบรนด์ และสามารถต่อสู้กับแบรนด์

อื่นได้มากขึ้นด้วย”

“พี่ไม่เคยวัดความสำาเร็จจากการทำางาน

ของตัวเอง แต่เมื่อไหร่ที่เราทำางานแล้วมี

ความสุขเราก็พอใจแล้ว สิ่งที่เราได้รับกลับมา

เรารู้สึกว่าเราสบายใจ มันดูคุ้มค่ากับความ

เหนื่อยที่เราได้ทำามา ถ้าเราอยากได้ความสุข

เราก็ต้องรู้ตัวเองว่าเราชอบอะไร แล้วทำาสิ่ง

นั้นให้ดี”

ตัวพี่เองบางครั้งแอบอิจฉาคนที่ได้เรียน

มาทางด้านแฟชั่นโดยตรง เพราะอย่างพี่บาง

ครั้งเราเห็นว่าเสื้อผ้าแบบนี้ต้องแก้ไขตรงนี้

แต่ในเมือเราไม่ได้เรียนดีไซน์มา เราก็แก้ไข

งานเองไม่ได้ เราสามารถคอมเมนท์ได้เฉยๆ

แต่เวลาเราไม่มีพื้นฐานทางด้านนี้ ทำาให้เรา

มีคำาถามเกิดมากมาย ทำาให้เรามีการแชร์

ความรู้ได้มากขึ้นกับผู้รู้ สิ่งนี้เองที่จะทำาให้

เราเข้มแข็ง และแข็งแรงขึ้น เวลาที่เราได้แชร์

ความคิดกับเด็กๆ รุ่นใหม่ เราก็จะได้ความ

สด ความก๋ากั๋นจากเขามาได้ ถือเป็นความ

สมดุลที่ดีของการทำางานในเกิดขึ้นอย่าง

แท้จริง”

ตะกอนความคิดที่รวมตัวเป็นผลึกแห่ง

ประสบการณ์จากการใช้สติวิเคราะห์สิ่งต่างๆ

รอบตัวผ่านมุมมองของเวลา ทำาให้ตัวตนและ

จิตวิญญาณของพี่รี่ดูแข็งแกร่งและชัดเจนขึ้น

จนเธอพร้อมที่จะผลักดันสิ่งที่อยู่ภายใน เพื่อ

สะท้อนความเป็นตัวตนออกมาให้เป็นศิลปะ

บนดีไซน์ของแบรนด์ น้องใหม่เช่น “Grey”

อย่างแท้จริงและสวยงามต่อไป…


FASHION


ALL ABOUTMADAME FLAMINGO!

TriTonHight : 4 นิ้ว มีแแพลตฟอร์ม

ช่วยด้านหน้า 2490 บาท

Elba : Navy blue Hight : 3.5 นิ้ว 2490 บาทSharon Pink

สำาหรับประมูลเริ่มต้นที่

888 บาท

Glen : Fusion PinkHight : 4 นิ้ว 1,890 บาท

Glen Cadetสำาหรับประมูลเริ่มต้นที่

888 บาท

Lola Whiteสำาหรับประมูลเริ่มต้นที่

888 บาท

1 2

4

3

56

BANGKOLIAN' MAGAZINE

Documents

Transcript of BANGKOLIAN' MAGAZINE