Back Pack

นกขมิ้นทวัร ์ตอนที ่2

โอเอซิส ซีเวิลด์ วัดพระแมป่ฏิสนธนิิรมล ชุมชนริมน้้าจนัทบรู

หายไปนานหลังจากมาเล่าเรื่อง นกขมิ้นทัวร์ ภาคแรกไปบวกกับวิดิโอแนะน้าที่พักด้วยนะเออ (ใครยังไม่ได้อ่านไม่ได้ดูกลับไปชมได้นะคะ) ครั้งนี้ขอกลับมาท้าตามสัญญาจะพาไปทัวร์ให้จบทริปเสียทีค่ะ จากวันแรกที่ยกพลนกขมิน้ไปลยุทีต่ราด วันนี้ขอย้อนกลับมาตีเมืองจันทร์กันค่ะ เริ่มจาก โอเอซิส ซี เวิลด์ เรามาชมการแสดงของปลาโลมาแสนรูก้นัค่ะ เนื่องจากเราไปพักที่ตราด ดังนั้นเช้าวันนี้เราเลยต้องตื่นแต่เช้าและออกเดินทางแต่เช้า เพื่อไปให้ทันรอบการแสดงค่ะ โชคไม่ดีนักฟ้าฝนไม่เข้าข้าง ยิ่งใกล้ถึงยิ่งมืดครึ้มพอจอดรถปั๊บ ฝนก็มาปุ๊บพวกเรา 6 คนชกัจะลงัเลในโชคชะตากะวา่จะพากนักลับ แต่ก็ยังกลับไม่ได้เพราะฝนตกหนักมาก รอ รอ รอ และรอในที่สุดฟ้าก็เป็นใจเปิดโอกาสให้เราได้ชมการแสดงสายฝนบอกลากลับมาเป็นท้องฟ้าสดใส ไม่รอช้าเรารีบไปซื้อบัตรเขา้ชม และไปจองทีน่ัง่แตค่นเยอะเหลอืเกนิเลยได้นัง่ด้านข้างของอัฒจรรย์แทน ไม่ถึง 5 นาทีผู้ชมล้นหลามจนเต็มอัฒจรรย์ เสียงดนตรีและเสียงพิธีกรเริ่มต้นขึ้นเป็นการเปิดการแสดงรอบนี ้ พี่เลี้ยงโยนลกูบอลทรงกลมสีสันสดใสไปที่กลางสระ

Pearlita นั่งลุ้นอยูว่า่ลกูบอลจะตกลงถงึน้า้ไหม แตย่งัไมท่นัแตะผวิน้า้เจา้โลมานา่รกัก็พุ่งตัวจากน้้าโหม่งลูกบอลกระเด็นกลับไปอยู่ในมือพี่เลี้ยงเหมือนเดิม (จริง ๆ พิธีกรเขาเรียกชื่อเจ้าโลมาค่ะ .. แต่...จ้าไม่ได้แล้ว..) สักพักพี่เลี้ยงท้าสัญญาณมือให้กระโดดลอดห่วงสูงด้านบน พวกเรากช็กัไมม่ัน่ใจว่าจะสูงไปไหมหนอส้าหรับน้องโลมา แต่....แต่...แต่เขาก็ท้าได้ค่ะ เสียงปรบมอืเกยีวกราวให้ก้าลังใจเจ้าโลมา เหมือนเขาจะรู้ด้วยนะว่าเราทุกคนเป็นก้าลังใจให้เลยว่ายวนรอบสระโชว์โฉมตั้งหลายรอบเชียวค่ะ การแสดงความน่ารักและแสนรู้มากมายด้าเนินไปจนเราเพิลดเพลินลืมเวลาไปจนสิ้น จนการแสดงชุดสุดท้ายเป็นการเล่นสกีโลมา สงสัยไหมคะว่าคืออะไร คือการที่พี่เลี้ยงจะยืนบนหลังของเจ้าโลมาสองตัว แล้วเจ้าโลมาทั้งสองจะว่ายน้้าด้วยความเร็วในอัตราเท่า ๆ คู่ขนานกันไปรอบสระ สิ่งที่น่าห่วงก็คือพี่เลี้ยงต้องทรงตัวได้อย่างยอดเยีย่มในจงัหวะทีโ่ลมาวา่ยน้า้ค่ะ ...น่าหว่งจรงิ ๆค่ะ เทา่ทีส่งัเกตตอนนีเ้สยีงผูช้มเงยีบกรบิเชียวค่ะ คงลุ้นกันอยู่ว่าจะท้าได้ไหม เย้ ส้าเร็จแล้ว บราโว.....เก่งมาก ทั้งโลมาทั้งพี่เลี้ยงเลยนะคะ จบการแสดงเสยีงปรบมอืทีก่กึกอ้งและยาวนานกด็ังไปทัว่อัฒจรรย์ ผู้ชมทยอยเดินออกไปชมบรเิวณอืน่ ๆ แต่พวกเรามีนัดกับที่อื่นเลยต้องขอตัวออกมาจากโอเอซิส ซีเวิลด์ ด้วยรอยยิ้ม

จากนั้นเราเดินทางต่อไปที่ชุมชนริมน้้าจันทบูรย่านท่าหลวง ที่นี่เราตั้งใจไปชมสถาปัตยกรรมแบบคริสต์ของโบสถ์ที่มีชื่อว่า “วัดพระแม่ปฏิสนธินิรมล” ที่เรียกว่าเก่าแก่นับร้อยปี ทว่ายังคงความงดงามดังเดิมแต่แรกสร้าง ผู้ดูแลค่อนข้างเข้มงวดในการถ่ายภาพที่ ไม่สุภาพภายในโบสถ์ พวกเราจึงต้องระมัดระวังในการถ่ายภาพมากขึ้น มีโอกาสได้ฟังผู้ดูแลโบสถเ์ลา่เรือ่งราวประวัติของวัดแห่งนี้ แต่ก็แค่ไม่นานเพราะพลพรรคนกขมิน้อยากจะออกไปเดนิเลน่ชมบรรยากาศแบบย้อนยุคกลับไปราว ๆ 70 ปี ของชุมชนริมน้้าจันทบูรที่เรียกกันว่า “ย่านท่าหลวง” เนื่องจากเป็นท่าเรือค้าขายของราชการในอดีต

เดิมนั้นเมืองจันทบูรโบราณตั้งอยู่เชิงเขาสระบาปชื่อมีชื่อว่า “ควนคราบุรี” หรือ “เมืองเพนียด” อยู่ในความปกครองของขอมโบราณ ชาวเมืองเป็นกลุ่มชน “ชอง” (มอญ+ขอม) แต่เมื่อสิ้นสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 2 ขอมเสื่อมอ้านาจและพระเจ้าอู่ทอง ปฐมกษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยาได้แผ่อาณาจักรมาถึงเมืองนี้ จนถึงสมัยขุนหลวงพระงั่ว (พ.ศ.1926) มีการย้ายตัวเมืองจันท์จากเมืองเพนียดมาสร้างใหม่ที่บ้านหัววัง หรือบ้านพุงทลาย เพราะเปน็ทีร่าบลุม่ใกลแ้มน่้า้เหมาะแกก่ารเพาะปลูก เมืองจันท์ตั้งถิ่นฐานที่นี่ได้ 270 ปี ก็มีการยา้ยอกีครัง้ในชว่งรัชสมัยของพระนารายณ์มหาราชมาสร้างใหม่ที่บ้านลุ่ม ซึ่งมชียัภมูทิีด่ีกว่า ทั้งด้านการเพาะปลูกและการป้องกันเมือง พระองค์จึงโปรดให้ให้สร้างตัวเมอืงบนเนนิและมปีอ้มประตเูมอืงครบถว้น ซึ่งเป็นคา่ยตากสินในปัจจุบัน ชาวเมืองตั้งถิ่นฐานท้ามาค้าขายบริเวณริมน้้าจันทบูรเป็นแนวยาวประมาณ 1 กิโลเมตร เนื่องจากเหมาะแกก่ารคมนาคมและการสง่สินค้าและเครื่องอุปโภคบริโภค ชุมชนริมน้้าจึงถือก้าเนิดขึ้น และขยายตัวทอดยาวขนานไปกับสายน้้าโดยเฉพาะบ้านลุ่มที่มีผู้คนอาศัยหนาแน่นที่สุดจึงเกิดค้าเรียกขานว่า ท่าหลวง เนื่องจากมีการค้าขายกับทางการจ้านวนมาก และมีท่าขนสง่สินคา้ทีม่ขีนุทางเปน็ผูด้แูล ผู้คนค้าขายมากขึ้นและขยายตัวจนเกิดเป็นแนวทางเดินและพฒันาเป็นถนนเพือ่การสญัจรไปมาที่สะดวกมากขึ้น ถือว่าเป็นถนนสายแรกของเมืองจันท์

เมืองจันท์ตั้งอยู่ที่บ้านลุ่มประมาณ 150 ปี ครั้นถึงสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 3 เกิดกรณีพิทาทกับเวียดนามเรื่องเจ้าอนุวงศ์ พระองค์จึงเกรงว่าเวียดนามจะเขา้ยดึเมอืงจนัทบรูซึง่ถอืวา่เป็นเมืองหน้าด่านทางทะเลตะวนัออก จึงโปรดฯ ให้ยา้ยเมืองจากบ้านลุ่มไปตั้งที่ค่ายเนินวงในป ี2377 แต่ชาวบา้นส่วนมากยงัสมคัรใจอยู่ที่เดิม ครั้งเมื่อถึงสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงโปรดฯ ให้ย้ายเมืองกลับมาที่บ้านลุ่มเพราะเนินวงคับแคบ

ขยายเมอืงไมไ่ด ้เมืองจนัทบรูจึงตั้งอยู่ที่บ้านลุ่มหรือ ท่าหลวงตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา จนกระทั่งใน ร.ศ.112-123 (พ.ศ.2436-2447) ฝรั่งเศสเขา้ยึดเมืองจันท์นานถึง 11 ปี (พี่ที่เล่าให้ฟังจากค้าบอกเล่าของคุณแม่อีกที ว่าช่วงนั้นล้าบากมากชาวบ้านอยู่กันด้วยความหวั่นใจและรู้สึกไมป่ลอดภยัทา้มาคา้ขายไมร่าบรืน่เหมอืนเคย) และเมือ่เป็นอสิระการการคุกคามของฝรั่งเศสชาวเมืองโล่งใจมาก ในปี 2450 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จเยี่ยมชาวตราดและชาวเมืองจันท์ และเสด็จพระราชด้าเนินโดยทางลาดพระบาทตลาดเมืองจันท์ (ถนนริมน้้า) จากหัวถนนถึงท้ายถนน และยังพระราชทานพระแสงศาสตราประจ้าเมืองจันท์ให้แก่พระยาวิชยาธิบดี เจ้าเมืองจันท์ในขณะนั้น ยังความปลาบปลื้มและภาคภูมิในของชาวเมืองจันท์จนถึงทุกวันนี้ (ข้อมูลจากเอกสารแผ่นพับประชาสัมพันธ์ของชุมชนริมน้้าจันทบุรี)

เล่าความเปน็มาของชมุชนไปแล้วพร้อมไปชมเมืองกันหรือยังคะ อากาศวันนี้ดีค่ะ มีเมฆครึ้มให้พอหวั่น ๆ แต่ลมดีมีแดดบ้างเรียกว่าก้าลังสบายค่ะ ในมอืถอืเอกสารแผน่พบัทีไ่ด้มาจากร้านค้าในชุมชน ด้านหลังมีแผนที่ด้วยค่ะ นัดหมายกันแล้วก็แยกย้ายกระจายตัวไปเดินเล่นตามอัธยาศัย แต่ก็เป็นถนนสายยาวสายเดยีว เลยเลีย้วมาเจอกันจนได้ งั้นก็ไปด้วยกันแล้วกันเนอะ...^__^

เราใช้เวลาที่ชุมชนริมน้้าจันทบูรนานเกือบ 4 ชั่วโมงเพราะว่าเพลิดเพลินมากเข้าร้านนั้นออกร้านนี้พูดคุยกับเจ้าของร้านและชาวชุมชนที่ไม่ถือตัว เห็นพวกเราเป็นลูกเป็นหลานเล่าเรื่องมากมายให้ฟังอย่างสนุกสนาน ขนมโบราณและอาหารขึ้นชื่อของที่นี่เราก็ตามไปชิมจนเกลี้ยง ทั้งเย็นตาโฟ ขนมปัง-กาแฟโบราณ ไอศกรมีโบราณรสหวานมนักลมกลอ่ม ขนมผิงทีห่อมหวล ข้าวตังโบราณ และอีกสารพัดอย่างที่คงไม่สามารถสาธยายได้หมดในหน้ากระดาษเดียว คงต้องให้นักเดินทางคนอื่นๆที่สนใจเดินทางไปสัมผัสความอบอุ่นของชุมชนริมน้้าจันทบูรด้วยตนเอง Pearlita เอาดีกรีนักเดินทางเป็นประกันเลยว่าเด็ดจริง ๆ เรื่องอยากเล่ามีมากมาย อันที่จริงตอนแรกตั้งใจว่าจะให้จบใน 2 ตอน แต่สงสัยจะไม่ไหว ต้องขออนุญาตแบ่งทอนเรื่องราวเพิ่มอีกสักตอน รับรองครั้งหน้าจะเล่าให้หมดบอกใหจ้บเลยค่ะ ขอแอบบอกไวห้นอ่ยวา่ ครัง้หนา้เราไปเพลินกันที่ Brookside Valley Resort ที่มีมุมถ่ายรูปสวย ๆ มากมาย แล้วยังไปนอนในเรือด้วย ใครเป็น FC ของ Back Pack ต้องไม่พลาดนะคะ .......ลาไปก่อน สวัสดีค่ะ

อ้างองิ http://www.chanthaboonriver.com/