Area and Volume - Civil CMUcivil.eng.cmu.ac.th/sites/default/files/Chapter 8 Area and Volume for...
Transcript of Area and Volume - Civil CMUcivil.eng.cmu.ac.th/sites/default/files/Chapter 8 Area and Volume for...
Area and Volume!
Suriyah Thongmunee!1-2557!
Contents!
• บทนำ!• การหาพื้นที่โดยการรังวัด!• การหาพื้นที่จากแผนผังหรือแผนที่!• การหาพื้นที่โดยพิกัดฉาก!• การหาพื้นที่รูปตัด!• การหาปริมาตรจากรูปตัด!• การหาปริมาตรจากเสนชั้นความสูง!• การหาปริมาตรจากจุดความสูง!
SURIYA
H TH
ONGM
UNEE…SU
RVEY 1
2
บทนำ!E โครงการทางดานวิศวกรรมขนาดใหญ เชน เขื่อน คลองสงน้ำ สนามบิน
เปนตน จำเปนที่จะตองทำแผนที่ภูมิประเทศ และทำการออกแบบรายละเอียด เพื่อ
คำนวณเพื่อหาปริมาณตาง ๆ ที่เกี่ยวของกับงานกอสราง ซึ่งรวมไปถึงงานปริมาณงานดินที่จำเปนตองขุด ถม หรือเตรียมวัสดุตาง ๆ!
E การคำนวณปริมาณงานจะตองเริ่มคำนวณจากพื้นที่เปนอันดับแรก ซึ่งพื้นที่
ในงานรังวัดนั้น หมายถึงพื้นที่บนระนาบราบ ไมใชพื้นที่ตามผิวดินจริง หรือเปนพื้นที่ในระนาบดิ่งก็ได หลังจากนั้นจึงคำนวณหาปริมาตรตอไป!
E!
Eขอมูลสำหรับหาพื้นที่และปริมาตร!• ขอมูลจากการรังวัดในสนาม!• ขอมูลจากแผนที่ที่เขียนไว!
!SURIYA
H TH
ONGM
UNEE…SU
RVEY 1
3
บทนำ!E!
!
!!
!
!ความถูกตองของการคำนวณพื้นที่และปริมาตรจะขึ้นกับปจจัย 3 อยางคือ!1. ความถูกตองของการรังวัดในสนาม !2. ความถูกตองของการเขียนแผนผัง!3. วิธีการที่ใชในการคำนวณ ถารูปพื้นที่ไมเปนรูปทรงทางเรขาคณิต ผลลัพธที่คำนวณไดจะ
เปนคาที่ใกลเคียงเทานั้น !
!
SURIYA
H TH
ONGM
UNEE…SU
RVEY 1
4
วิธีการหาพื้นที่แบงได 3 วิธี (1) การหาพื้นที่โดยการรังวัดบนภูมิประเทศ (2) การหาพื้นที่โดยการวัดจากแผนที ่(3) การหาพื้นที่จากระยะฉากและพิกัดฉาก
วิธีการหาปริมาตรแบงได 3 วิธี (1) การหาปริมาตรจากพื้นที่รูปตัด (2) การหาปริมาตรจากเสนชั้นความสูง (3) การหาปริมาตรจากจุดความสูง
การหาพื้นที่โดยการรังวัด!
Eเปนวิธีการที่สามารถแบงพื้นที่ในการทำการรังวัดเปนพื้นที่ยอย ใหสามารถใชสมการทางเรขาคณิตพื้นฐานหาคาไดโดยตรง เชน สามเหลี่ยม สี่เหลี่ยมผืนผา สี่เหลี่ยมคางหมู เปนตน ซึ่งการวัดจะวัดระยะเปนหลัก แตอาจจะมีการวัดมุมดวยบางกรณี!!
พื้นที่ของสามเหลี่ยม2A E= ½ bh !E E= [s(s-a)(s-b)(s-c)]½ !E E= ½ ab sin θ เมื่อ E a, b, c Eคือ ระยะของดาน!E E Eh Eคือความสูงจากดาน b!E E Eθ Eคือมุมระหวางดาน a และ b!
!SURIYA
H TH
ONGM
UNEE…SU
RVEY 1
5
สูตรทางเรขาคณิตและตรีโกณมิต ิ
1
2
3
4
การหาพื้นที่โดยการรังวัด!
Eเปนวิธีการที่สามารถแบงพื้นที่ในการทำการรังวัดเปนพื้นที่ยอย ใหสามารถใชสมการทางเรขาคณิตพื้นฐานหาคาไดโดยตรง เชน สามเหลี่ยม สี่เหลี่ยมผืนผา สี่เหลี่ยมคางหมู เปนตน ซึ่งการวัดจะวัดระยะเปนหลัก แตอาจจะมีการวัดมุมดวยบางกรณ!ี2
พื้นที่ของสี่เหลี่ยม2A E= Ebh ........ สี่เหลี่ยมผืนผาหรือจัตุรัส!E E= Ebh ……… สี่เหลี่ยมดานขนาน!E E= E½ (b1+b2)h!
SURIYA
H TH
ONGM
UNEE…SU
RVEY 1
6
สูตรทางเรขาคณิตและตรีโกณมิต ิ
1
2
3
4
การหาพื้นที่โดยการรังวัด!
Eเปนวิธีการหาพื้นที่ระหวางแนวเสนตรงกับแนวเขตคดโคง โดยจะทำการวัดระยะตั้งฉากจากแนวเสนตรงไปยังเขต โดยกำหนดใหชวงหางคงที่เพื่องายสำหรับการคำนวณ การคำนวณมี 4 วิธีดังตอไปนี้!1. Mid-ordinate rule2
EA = ∑m × d!2. Average ordinate rule2
EA = ∑O × D/n = ∑O × d!3. Trapezoidal rule2
EA = [½ (O1+On)+O2+…+On-1]d!4. Simson’s rule2
EA = (d/3)[O1+On+4∑O”+2∑O’]!!SU
RIYA
H TH
ONGM
UNEE…SU
RVEY 1
7
วิธีการวัดระยะตั้งฉาก (Offset)
m1
O1 O2 O3 ……………….……………….. On
d
mn A1 A2
แนวเขตพื้นที่
D
d
Accuracy
High
Low
ตย. การหาพื้นที่โดยใชการรังวัด!Eจากการวัดระยะฉากออกจากเสนวัดไปยังแนวเขตที่ดิน ไดขอมูลระยะตั้งฉากชวงละ 20
เมตร จงหาพื้นที่ระหวางเสนรังวัดกับแนวเขตที่!
!
SURIYA
H TH
ONGM
UNEE…SU
RVEY 1
8
ชวงระยะ (เมตร) 0 20 40 60 80 100 120 140 160
ระยะฉาก (เมตร) 2.3 3.8 4.5 6.7 5.2 7.3 8.9 8.2 5.5
0 20 40 60 80 100 120 140 160
วิธีที ่1 Mid-ordinary rule2
A E= 2.675x10 + (3.8+4.5+6.7+5.2+7.3+8.9+8.2)x20 + 6.188x10!
E= 26.75 + 892 + 61.88!
E= 980.6 m2!
!
ตย. การหาพื้นที่โดยใชการรังวัด!Eจากการวัดระยะฉากออกจากเสนวัดไปยังแนวเขตที่ดิน ไดขอมูลระยะตั้งฉากชวงละ 20
เมตร จงหาพื้นที่ระหวางเสนรังวัดกับแนวเขตที่!
!
SURIYA
H TH
ONGM
UNEE…SU
RVEY 1
9
ชวงระยะ (เมตร) 0 20 40 60 80 100 120 140 160
ระยะฉาก (เมตร) 2.3 3.8 4.5 6.7 5.2 7.3 8.9 8.2 5.5
0 20 40 60 80 100 120 140 160
วิธีที ่2 Average ordinary rule2
A E= (2.3+3.8+4.5+6.7+5.2+7.3+8.9+8.2+5.5)x160/9!
E= 931.6 m2!
!
ตย. การหาพื้นที่โดยใชการรังวัด!Eจากการวัดระยะฉากออกจากเสนวัดไปยังแนวเขตที่ดิน ไดขอมูลระยะตั้งฉากชวงละ 20
เมตร จงหาพื้นที่ระหวางเสนรังวัดกับแนวเขตที่!
!
SURIYA
H TH
ONGM
UNEE…SU
RVEY 1
10
ชวงระยะ (เมตร) 0 20 40 60 80 100 120 140 160
ระยะฉาก (เมตร) 2.3 3.8 4.5 6.7 5.2 7.3 8.9 8.2 5.5
0 20 40 60 80 100 120 140 160
วิธีที ่3 Tropetzoidal rule2
A E= [0.5(2.3+5.5)+3.8+4.5+6.7+5.2+7.3+8.9+8.2]x20!
E= 970.0 m2!
!
ตย. การหาพื้นที่โดยใชการรังวัด!Eจากการวัดระยะฉากออกจากเสนวัดไปยังแนวเขตที่ดิน ไดขอมูลระยะตั้งฉากชวงละ 20
เมตร จงหาพื้นที่ระหวางเสนรังวัดกับแนวเขตที่!
!
SURIYA
H TH
ONGM
UNEE…SU
RVEY 1
11
ชวงระยะ (เมตร) 0 20 40 60 80 100 120 140 160
ระยะฉาก (เมตร) 2.3 3.8 4.5 6.7 5.2 7.3 8.9 8.2 5.5
0 20 40 60 80 100 120 140 160
วิธีที ่4 Simson’s rule2
A E= [2.3+5.5+ 4(3.8+6.7+7.3+8.2) + 2(4.5+5.2+8.9)]x 20/3!
E= 993.3 m2!
!
การหาพื้นที่จากแผนผังหรือแผนที่!1. วิธีแบงพื้นที่เปนรูปทรงเรขาคณิต โดย
แบงพื้นที่ออกเปนรูปสามเหลี่ยมและรูปสี่เหลี่ยม ใหพื้นที่ในและนอกที่เสนตรงตัดผานเทากันทั้งสองดาน!
2. วิธีการนับตารางกริด โดยใชแผนใสทาบ คือ แผนใสตารางรูปสี่เหลี่ยม และแผนใสเสนขนานชองหางเทาๆกัน แบงครึ่งชองดวยเสนประ!
3. เครื่องมือวัดพื้นที่ (Planimeter) มี 2 ชนิด คือ เครื่องวัดแบบจุดขั้ว (Polar Planimeter) และเครื่องวัดแบบลอ (Rolling Planimeter)!
!
!
!
SURIYA
H TH
ONGM
UNEE…SU
RVEY 1
12
การหาพื้นที่จากแผนผังหรือแผนที่!วิธีการใชเครื่องมือวัดพื้นที่ (Planimeter) 2(1) ปรับความยาวของแขนหมุดเขียน (Tracing Arm)!(2) วางหมุดขั้วปกลงบนกระดาษแผนที่ภายนอกพื้นที่ที่จะวัด !(3) วางจุดมองบนเสนขอบเขตพื้นที่เปนจุดเริ่มตน ตั้งคาเริ่มเปนศูนย หรืออานคาเริ่ม (Initial Reading)!(4) เคลื่อนที่จุดมองตามแนวเสนเขตของพื้นที่ไปตามเข็มนากา จนถึงจุดเริ่มตน อานคาสุดทาย (Final Reading) !(5) หาผลตางของคาสุดทายกับคาเริ่ม คือ คาอานพื้นที่!
!
!
!
SURIYA
H TH
ONGM
UNEE…SU
RVEY 1
13
Tracing Point
Tracing Arm
วิธีปฏิบัติโดยทั่วไป • จะวัดพื้นที่รูปสี่เหลี่ยมที่เขียนบนแผนที่ (a) แลววัดพื้นที่ที่ตองการ (b)
คำนวณพื้นที่ที่ตองการ = (a/b) × พื้นที่ของสี่เหลี่ยมจตุรัส • กรณีพื้นที่ขนาดใหญ นิยมแบงเปนสวนยอยๆแลวหาพื้นที่ทีละสวนจะดีที่สุด
การหาพื้นที่จากแผนผังหรือแผนที่!ขอควรระวังในการใชเครื่องมือวัดพื้นที่21. โตะที่วางแผนที่จะตองวางอยูในแนวราบ!2. ผิวของกระดาษแผนที่ควรเปนผิวที่ราบเรียบ แผนที่ถูก
มวนโคงไมควรใช!3. ไมควรเสียเวลากับการตั้งเวอรเนียรหรือคาอานเริ่มให
เปนศูนย!4. การเคลื่อนจุดมองอาจใชไมบรรทัดตรงหรือบรรทัดโคง
ชวย!5. ควรหาพื้นที่อยางนอย 2 ครั้งโดยตั้งจุดขั้วในที่ตางกัน!6. ควรคำนวณตรวจสอบคาพื้นที่ที่ไดเคราๆเพื่อปองกันผิด
พลาด!
SURIYA
H TH
ONGM
UNEE…SU
RVEY 1
14
Tracing Point
Tracing Arm
ตย. การหาพื้นที่โดยใชแผนผัง!Eการวัดพื้นที่โดยใชเครื่องมือวัดแผนที่ บนแผนที่
มาตราสวน 1:5000 ไดผลตางคาอานของคาสุดทายกับคาเริ่มตนเทากับ 8.532 และเมื่อนำไปวัดรูปสี่เหลี่ยมขนาด 2x3 เซนติเมตรไดคาความตางเทากับ 1.665 จงหาพื้นที่ที่วัดไดจากแผนที่!
วิธีทำ2
พื้นที่จริงของรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส 2x2 เซนติเมตร E!
A2*2 E= [(2x5000)/100] x [(3x5000)/100]!
E= 15000 m2!
พื้นที่จริง ที่ตองการวัด E E E E E!
A E= (8.532/1.665) x 15000!
E= 76864 m2!
SURIYA
H TH
ONGM
UNEE…SU
RVEY 1
15
8.532
1.665
การหาพื้นที่โดยพิกัดฉาก!Eเปนการหาพื้นที่ที่ลอมรอบดวยเสนตรง พิกัดฉากอาจเปน พิกัดเหนือ-ตะวันออก (N,E)
หรือพิกัด X,Y สวนระยะฉากหมายถึง ระยะเหนือ (Lattitude) และระยะตะวันออก (Departure)!
!
!
!
!
!
ABCD E= A’ABCC’ – A’ADCC’ !
E E= [ABB’A’+BCC’B’] – [DCC’D’+ ADD’A’]!
E E= [½ A’B’(AA’+BB’)+½ B’C’(BB’+CC’)]-[½ D’C’(DD’+CC’)+½ A’D’(AA’+DD’)]!
2ABCD E= [A’B’(AA’+BB’)+ B’C’(BB’+CC’)]-[D’C’(DD’+CC’) + A’D’(AA’+DD’)]!!SU
RIYA
H TH
ONGM
UNEE…SU
RVEY 1
16
A
B
C
D
A’ B’ D’ C’
B
A
A’ B’ C’
C
A’
A
D
D’
C
C’
= -
E
N
การหาพื้นที่โดยพิกัดฉาก!E!
!
!!!2ABCD E= [A’B’(AA’+BB’)+ B’C’(BB’+CC’)]-[D’C’(DD’+CC’) + A’D’(AA’+DD’)]!จากสมการขางบนแทนคา !
EA’B’=EB-EA E EB’C’=EC-EB E ED’C’=EC-ED E EA’D’=ED-EA E!EAA’= NA E EBB’= NB E ECC’= NC E EDD’= ND!
2ABCD E= [(EB-EA)(NA+ NB)+ (EC-EB)(NB+NC)]-[(EC-ED)(ND+NC) + (ED-EA)(NA+ND)]!E E E E E E E……!
2ABCD E= [EBNA+ECNB+EDNC+EAND]-[EBNA+ECNB+EDNC+EAND]!
!
SURIYA
H TH
ONGM
UNEE…SU
RVEY 1
17
A
B
C
D
A’ B’ D’ C’
B
A
A’ B’ C’
C
A’
A
D
D’
C
C’
= -
E
N
การหาพื้นที่โดยพิกัดฉาก!2ABCD E= [EBNA+ECNB+EDNC+EAND]-[EBNA+ECNB+EDNC+EAND] !ซึ่งสามารถเขียนเปนรูปไขวคาพิกัดเพื่อใหงายตอการคำนวณดังนี้!
E E ENA ENB ENC END ENA!
2เทาพื้นที่ =!E E EEA EEB EEC EED EEA!
โดย คูณลงเปน + Eคูณขึ้นเปน -!
!
ขอพึงระวัง21. พื้นที่ที่ไดเปนผลลัพธแนนอน ไมใชโดยประมาณ !2. การตั้งคาพิกัดเริ่มที่จุดใดก็ได เรียงตามลำดับเหลี่ยมของรูป และจบดวยจุดเริ่ม สลับไมได !3. ถาพิกัดเปนลบ ตองนำเครื่องหมายลบมาคิดดวย !4. การตั้งลำดับของเหลี่ยมรูปตามเข็ม ผลลัพธจะเปนบวก และถาทวนเข็มจะเปนลบ ใหตัดเครื่องหมายลบออกได !5. ระบบพิกัด X,Y ผลลัพธที่ไดจะมีเครื่องหมายตรงขามกับพิกัด N, E!
SURIYA
H TH
ONGM
UNEE…SU
RVEY 1
18
NA EA
NB EB
NC EC
ND ED
NA EA
ตย. การหาพื้นที่โดยพิกัดฉาก!Eจากขอมูลจากการรังวัดในสนามนำมาคำนวณพิกัดของหมุดวงรอบ ไดคาพิกัดดังแสดงใน
รูปตาราง จงหาพื้นที่ของวงรอบ!
SURIYA
H TH
ONGM
UNEE…SU
RVEY 1
19
จุด! N! E! +! -!A! 100.00! 300.00!
B! 439.33! 402.64!C! 461.92! 720.31!D! 577.79! 968.74!E! 117.39! 876.02!F! 210.92! 647.83!A! 100.00! 300.00!
Sum!
2A (m2)!
A (m2)!
การหาพื้นที่รูปตัด!Eวัตถุประสงคของการหาพื้นที่รูปตัดคือ
การหาปริมาตรงานดิน โดยเฉพาะอยางยิ่งงานกอสรางทางที่ตองคำนวณปริมาณงานดินขุดและดินถม เพื่อคิดราคางานและคาใชจายในการกอสราง!
Eดังนั้นจึงจำเปนตองทำการรังวัดรูปตัดขวางตามแนวทางจำนวนมาก ซึ่งจะทำใหทราบลักษณะพื้นดิน สวนแบบกอสรางจะกำหนดรูปตัดถนนที่ตองการ ทำใหสามารถหาไดวาแตละชวงของรูปตัดจะตองขุดหรือถมดิน!
Eรูปตัดงานดินมีหลายลักษณะทั้ง รูปตัด
งานถม รูปตัดงานขุด และรูปตัดงานขุดและถม!!
SURIYA
H TH
ONGM
UNEE…SU
RVEY 1
20
การหาพื้นที่รูปตัด!Eการหาพื้นที่รูปตัดทำไดหลายวิธี แตที่นิยมใชมากคือ!
1. การนำรูปตัดลักษณะดินซอนทับกับรูปตัดถนนตามแบบกอสราง แลวคอยทำการวัดพื้นที่โดยใช Planimeter หรือ ใชแผนใสตีกริด และอื่น ๆ!
2. คำนวณดวยสูตรทางเรขาคณิตพื้นฐานดังนี้!
Ey = mx + c E Eor Em = (x2-x1) / (y2-y1)!
Eหลังจากนั้นกำหนดให!• ใสแกนอางอิงที่จุดกึ่งกลางถนน!• ใสพิกัด (x,y) ที่จุดตัด และจุดมุมทั้งหมด!• หาพิกัดในจุดที่ยังไมทราบโดยใชสมการเรขาคณิตเบื้องตน!• หาพื้นที่โดยการคำนวณจากพิกัด หรือแบงพื้นที่เปนรูปทรงเรขาคณิตยอย!
!
SURIYA
H TH
ONGM
UNEE…SU
RVEY 1
21
ตย. การหาพื้นที่รูปตัด!จงคำนวณพื้นที่รูปตัดขวางจากขอมูล ดังนี้ !ระยะจากแนวศูนยกลาง E-15 0 15 !คาระดับ E E4.5 5.5 7.0 !กำหนดให ความกวางผิวถนน E= 8.0 เมตร !
E ระดับผิวถนน E E= 4.0 เมตร !E ความลาดดานขาง E= 2:1 (ราบ:ดิ่ง)!
SURIYA
H TH
ONGM
UNEE…SU
RVEY 1
22
-15.0 ,4.5!
CL!
X1 ,Y1!
X2 ,Y2!
4.0 ,4.0!-4.0 ,4.0!
0.0 ,5.5!15.0 ,7.0!
สรางสมการจาก General line equation: y = m x + b !
จากสมการ (1) และ (2) แกสมการได X1 = -6.176Eและ Y1 = 5.088 !จากสมการ (3) และ (4) แกสมการได X2 = 8.750 Eและ Y2 = 6.375!พื้นที่รูปตัด E= 0.5 (4x1.088 + 1.5x6.176 + 1.5x8.75 + 4x2.375) !
E E E= 18.12 ตารางเมตร !
การหาปริมาตรจากรูปตัด!Eการหาปริมาตรจากรูปตัดสวนใหญนิยม 3 วิธีคือ!
1. วิธีพื้นที่เฉลี่ย!
!
!
2. วิธีพื้นที่หัวทายเฉลี่ย!
!
!
3. วิธีสูตรพิสมอย!
SURIYA
H TH
ONGM
UNEE…SU
RVEY 1
23
A1 A2
An
กำหนดให A1, A2, An = พื้นที่หนาตัดตาง ๆ d = ระยะชวงระหวางพื้นที่หนาตัด L = ระยะทางทั้งหมด V = ปริมาตรดินทั้งหมด
Ln
)A...AA(AV n321 ×++++
=
d)A....AA2AA(V 1n32n1 ×++++
+= −
3'2"41
d)AAA(AV n ×+++= ∑∑
ตย. การหาปริมาตรจากรูปตัด!จงคำนวนปริมาตรของดินจากขอมูลพื้นที่รูปตัดขวางที่ระยะตางๆทุก 25 เมตรดังนี้ ! ระยะทาง m. E 0 25 50 75 100 125 150 ! พื้นที่รูปตัดขวาง m2 10.22 39.50 59.49 70.83 147.79 166.38 241.67!!1. หาปริมาตรโดยวิธีเฉลี่ย !
2. หาปริมาตรโดยวิธีหัวทายเฉลี่ย!
SURIYA
H TH
ONGM
UNEE…SU
RVEY 1
24
386.15768 mVolume
1507
241.67 )166.38147.7970.8359.4939.5010.22(Volume
=
×++++++
=
338.15248
252
mVolume
166.38147.7970.8359.4939.50241.67 )10.22(Volume
=
×⎥⎦
⎤⎢⎣
⎡ ++++++
=
ตย. การหาปริมาตรจากรูปตัด (ตอ)!จงคำนวนปริมาตรของดินจากขอมูลพื้นที่รูปตัดขวางที่ระยะตางๆทุก 25 เมตรดังนี้ ! ระยะทาง m. E 0 25 50 75 100 125 150 ! พื้นที่รูปตัดขวาง m2 10.22 39.50 59.49 70.83 147.79 166.38 241.67!!3. หาปริมาตรโดยวิธีพิสมอย!
SURIYA
H TH
ONGM
UNEE…SU
RVEY 1
25
[ ]342.14777
32528.207271.2764
71.27638.16683.7050.39"28.20779.14749.59'
mVolume
241.6710.22Volume
AA
=
××+×++=
=++=
=+=
การหาปริมาตรจากเสนชั้นความสูง!Eแผนที่เสนชั้นความสูง ใชคำนวณหา
ปริมาตรไดเชนเดียวกับการคำนวณ
ปริมาตรจากรูปตัดในแนวราบ เปนรูปตัดที่ลอมรอบดวยเสนชั้นความสูงแตละ
เสน!
Eพื้นที่รูปตัดในแนวราบอาจหาไดโดยใช Planimeter หรือวิธีกระดาษกราฟ หลังจากนั้นจึงใชวิธีคำนวณปริมาตร
แบบหัวทายเฉลี่ย หรือวิธีพิสมอยก็ได!
!
SURIYA
H TH
ONGM
UNEE…SU
RVEY 1
26
ตย. การหาปริมาตรจากเสนชั้นความสูง!E!
SURIYA
H TH
ONGM
UNEE…SU
RVEY 1
27
จงหาระดับน้ำสูงสุด เพื่อสรางอางเก็บน้ำความจุ 3.54x106 ลบ.ม. ใหระดับน้ำใชไดต่ำสุดที่ 210 ม.!
คาเสนชั้นความสูง E230 E227 E224 E221 E218 E215 E212 E209 ! พื้นที่ (ม.2 ) E290410 E274900 E229840 E205130 E178560 E163420 E118540 E48310 !
--- 190260 613200
1126170 1701705 2354160 3111270 3959235
V สะสม
190260
422940 512970 575535 652455 757110 847965
ปริมาตร
2
3 3 3 3 3 3
ตางระดับ
95130
140980 170990 191845 217485 252370 282655
พื้นที่เฉลี่ย
71720 118540 163420 178560 205130 229840 274900 290410
210 212 215 218 221 224
227 230
พื้นที่ ระดับ พื้นที่ที่ระดับ 210 = (118540-48310) /3 + 48310 = 71720
ตย. การหาปริมาตรจากเสนชั้นความสูง!E!
SURIYA
H TH
ONGM
UNEE…SU
RVEY 1
28
จงหาระดับน้ำสูงสุด เพื่อสรางอางเก็บน้ำความจุ 3.54x106 ลบ.ม. ใหระดับน้ำใชไดต่ำสุดที่ 210 ม.!
คาเสนชั้นความสูง E230 E227 E224 E221 E218 E215 E212 E209 ! พื้นที่ (ม.2 ) E290410 E274900 E229840 E205130 E178560 E163420 E118540 E48310 !
ใหคาระดับที่ตองการ = 227+y !พื้นที่ที่ระดับ (227+y) ! E= 274900+(290410-274900)y/3! E= 274900 + 5170y !
ปริมาตรสวนที่ตองการ = [274900+(274900+5170y)].( y)
2x(3540000-3111270) = 549800 y + 5170 y2 จะได y = 1.537 คาระดับน้ำสูงสุด = 227 + 1.537 = 228.54 เมตร
2
การหาปริมาตรจากจุดความสูง!Eการหาปริมาตรของดินที่ตองขุดหรือถมในบริเวณกวาง ๆ และมีขนาดใหญ เชน บอยืม
เปนตน วิธีที่เหมาะสมคือวัดความสูงของจุดที่กำหนด ซึ่งขั้นตอนในสนามมีดังนี้!
1. แบงพื้นที่ออกเปนรูปสามเหลี่ยม สี่เหลี่ยม ก็ได แตตองมีขนาดเทากันเพื่องายตอการคำนวณ นอกจากนี้ขนาดของรูปจะมีผลตอความละเอียดของการคำนวณ!
2. หาคาระดับที่ผิวดินที่จุดมุมของทุกเหลี่ยม!!
Eการคำนวณหาปริมาตรจะคิดวาแทงดินมีหนาตัดรูป!เหลี่ยมตลอดความสูง แตความสูงของแตของแตละมุม!ของรูปเหลี่ยมไมเทากัน!
SURIYA
H TH
ONGM
UNEE…SU
RVEY 1
29
Volume of soil column = hB + hC + hD + hE 4
× A
hD
hC hB
hE
A
Volume of soil =h1 + 2 h2∑ + 3 h3∑ + 4 h4∑
4× A
h1
h1
h1 h1
h1 h2
h2 h2
h3 h4 h2
ตย. การหาปริมาตรจากจุดความสูง!E!
SURIYA
H TH
ONGM
UNEE…SU
RVEY 1
30
จากจุดความสูงของบอดินยืม จงหาปริมาตร ถาตองการขุดดินถึงระดับ +0.0 เมตร !
e=3.0 !
k=2.4!
l=1.6!o=6.4!
g=4.6! f=6.8!
n=5.9! m=5.3!
j=2.6!I=7.2!h=5.8!
b=4.2! c=3.6! d=2.5 !
a=3.0!
20!
20!
20!
20!
20! 20! 20!
แบบฝกหัด!1. จงคำนวณหาพื้นที่รูป ABCD ดวยกฎของซิมปสันซึ่งดาน AB, BC, CD เปนเสนตรง และดาน DA เปนเสนโคง
อกกดานนอก โดยที่ AB = 50 m., BC = 80 m., CD = 50 m. และไดทำการวัดระยะฉากจากเสนโคง DA ไปยังเสนตรง DA ไดขอมูลดังนี!้
2. จากขอมูลรังวัดรูปตัดขวางตามแนวเสนดังในตาราง ตองการปรับพื้นที่ใหไดระดับ 0 เมตร กวางขางละ 10 เมตร และเพื่อปองกันดินถลมของผนังดินดานขาง จึงกำหนดใหลาดเอียงดิ่งตอราบคือ 1:2!
SURIYA
H TH
ONGM
UNEE…SU
RVEY 1
31
ชวงระยะ (เมตร) 0 10 20 30 40 50 60 70 80
ระยะฉาก (เมตร) 0 2 3 4 5 4 3 2 0
Distance (m) L R
60 40 20 0 20 40 60 0 4 1 0 0 0 1 2.8
100 12.9 8.6 5 3 2 3 6 200 17.5 14.1 10.9 8 6 6 9.6 300 21.8 17.7 14.4 11.3 9.7 9.7 11 400 25 21.2 18 15.2 12.8 12 13.2
แบบฝกหัด!3. ตองการขุดบอจากระดับผิวดินเดิมดังรูป ลงไปถึงระดับความลึก 100 เมตรจากพื้นที่ผิวอางอิง จงคำนวณ
ปริมาณดินขุด!
SURIYA
H TH
ONGM
UNEE…SU
RVEY 1
32
20 เมตร
10 เมตร
114.21
115.34
116.25
113.25 110.10
115.75
120.00 117.00
112.92
อางอิง!1. การสำรวจรังวัด : ทฤษฎีและการประยุกตใช … วิชัย เยี่ยงวีรชน!2. เอกสารคำสอนการสำรวจ 1 … วินิจ จึงเจริญธรรม!
3. การรังวัดเบื้องตน ... ผศ.ดร.พุทธิพล ดำรงชัย!4. รูปภาพทั้งหมดจากอินเตอรเนต!
SURIYA
H TH
ONGM
UNEE…SU
RVEY 1
33