1

แนะนําบริษัท

บริษัท วนชัยกรุป จํากัด (มหาชน) เติบโตอยางตอเนื่องในตลอด 66 ปที่

ผานมา โดยพัฒนาตนเองจากการเปนผูนําในอุตสาหกรรมไมของประเทศไทย ข้ึนมาสู

การเปนผูนําในอุสาหกรรมแผนไมทดแทนธรรมชาติของทวีปเอเชีย

ผลิตภัณฑแผนไมทดแทนธรรมชาติ ของวนชัยกรุปมีทั้ง Particleboard, MDF

board , HDF board และ Laminate Flooring ซ่ึงจากการผลิตทั้งหมดของวนชัยกรุปนั้นมีสวนชวยลดการตัดไมทําลายปา และชวยรักษาปาธรรมชาติไดมากถึงปละ 2 ลาน

ลูกบาศกเมตร Vanatur Laminate Flooring หนึ่งในผลิตภัณฑของวนชัยกรุป แผนไมทดแทน

ธรรมชาติสําหรับการกอสรางและตกแตง ผลิตจากวัสดุ เหลือใชทางการเกษตรตาม

ปรัชญาของวนชัยกรุป ที่ใหความสําคัญกับการักษาธรรมชาติและส่ิงแวดลอม ไมพ้ืนสําเร็จรูป Laminate Flooring ผลิตดวยเทคโนโลยีช้ันสูง โดยกรรมวิธีนํา

ไมมาบดละเอียดจนเปนเสนใย อัดดวยความรอนและแรงดันสูง เปนผลิตภัณฑที่

เรียกวา HDF board (High density Fiberboard) ซ่ึงทนตอแรงกดทับ เปนพ้ืนไมที่

แข็งแกรง มีความทนทานสูง สามารถปองกันแมลงตางๆ สามารถปองกันความชื้น จึง

หมดปญหาเร่ืองไมพองตัวหรือบิดตัว ทั้งยังมีการเคลือบผิวหนาดวย Overlaying Film

ปองกันรอยขูดขีด และแรงกระแทกทุกชนิด สีไมซีดจาง สามารถทําความสะอาดไดงาย

ความรูผลิตภัณฑ

1.ความหมายของไมพ้ืนลามิเนต

ไมพื้นลามิเนต (Laminate Flooring) คือพื้นไมสําเร็จรูป ที่ผลิตดวยเทคโนโลยีชัน้สูง และเนนการออกแบบ

ใหมีลวดลายสวยงาม โดยกรรมวิธีนาํไมมาบดจนเปนเสนใย พรอมนาํมาผสมเรซิน อัดดวยความรอนสูง เปน

ผลิตภัณฑที่เรียกวา HDF Board (High Density Fiberboard) ซึ่งทนตอแรงกดทับ เปนพืน้ไมที่แข็งแกรง มีความ

ทนทานสูง สามารถปองกันแมลงตางๆ สามารถปองกนัความชืน้ จงึหมดปญหาเร่ืองไมพองหรือบิดตัว ทัง้ยงัมี

การเคลือบผิวหนาดวย Overlaying Film ปองกนัการขูดขีดและแรงกดกระแทกทุกชนิด สีไมซีดจาง สามารถทํา

ความสะอาดไดงาย

2.องคประกอบของไมพ้ืนลามิเนต ไมพื้นลามิเนต ประกอบดวยสวนตางๆ ดังตอไปนี้

รูปที่1 แสดงองคประกอบของไมพืน้ลามิเนต

2.1 แผน Melamine Overlay ใหความทนทานตอการขีดขวนและแรงกระแทกแผน

2.2 Decorative Layer ใหความสวยงามเหมือนไมธรรมชาติ

2.3 แผนไมอัดความหนาแนนสูง (High Density Fiber Board: HDF)

2.4 แผน Backing ปองกนัการบิดงอและความชืน้

2

3.คุณสมบัติของไมพ้ืนลามิเนต ไมพื้นลามิเนต ที่ผลิตตามมาตรฐานยุโรป EN: 13329 จะตองมีคุณสมบัติ ที่แบงตามรายละเอียด

ดังตอไปนี้

3.1 แผนไม HDF

3.1.1 มีความหนาแนนสูง ( High Density) แผนไม HDF ที่ผานมาตรฐานยุโรป จะตองมีความหนาแนน

มากกวา 800 กิโลกรัม / ลูกบาศกเมตร (800 kg. /m2)

3.1.2 มีความแข็งแรงทนตอการหักงอ แผนไม HDF ที่ผานมาตรฐานยุโรป จะตองมีคาพกิัดหกั

(Modulus of Rupture) มากกวาหรือเทากับ 40 MPa

รูปที่2-3 แสดงวิธีการทดสอบหาคาพิกัดหกั

3.1.3 การยึดติดเนื้อไมสูง แผนไม HDF ที่ผานมาตรฐานยุโรป จะตองมีคาการยึดติดเน้ือไม

(Internal Bonding) มากกวาหรือเทากับ 1.2 MPa

รูปที่4 แสดงวิธีการทดสอบหาคาแรงยึดเหน่ียวในบอรด

3

รูปที่5 แสดงวิธีการทดสอบหาคาแรงยึดเหน่ียวในบอรด

3.2 การตานทานการดูดซึมน้ําไดดี (High Moisture Resistance)

3.2.1 การขยายตัวและหดตัวจากความชื้น ไมพื้นลามิเนตที่ดี ตองมีการขยายตัวและหดตัวจาก

ความชืน้นอย โดยมาตรฐานยุโรป กาํหนดการทดสอบไว คือ

คาการพองตัวทางความหนาของบอรด (Thickness Swelling) < 18.0% ของความหนาเดิม -

(โดยการวัดความหนาท่ีเปล่ียนไป หลังการแชน้ํา 24 ชัว่โมง)

รูปที่6-7 แสดงวิธีการทดสอบหาคาการพองตัวทางความหนาของบอรด

- คา Wet Cyclic ซึ่งเปนการทดสอบในสภาวะรุนแรงกวาปกติ โดยกําหนดวิธีในการทดสอบคือ

1) แชน้ํา 20 oC 70 ช.ม. ~ 3วัน

2) เขาตูเย็นชอง FREEZE 24 ช.ม. ~1วัน

3) อบท่ีอุณหภูมิ 70 oC 70 ช.ม. ~ 3วนั

4) ทดสอบขัน้ตอนที่ 1-3 สามรอบ

5) ตรวจสอบ คาแรงยึดเหน่ียวในบอรด, คาการพองตัวทางความหนาของบอรด

โดยจะตองผานมาตรฐานยุโรป ดังนี ้

- คาแรงยึดเหนี่ยวในบอรด(IB) > 0.3 MPa

- การพองตัวทางความหนาของบอรด (TS) < 15.0 %

4

3.3 ปริมาณสารเคมีในไม ปริมาณสาร Formaldehyde ในแผนไม HDF จะตองมีคาตํ่า ซึ่งไมเปน

อันตรายตอสุขภาพ โดยควรผานมาตรฐาน E1 ดังนี ้

- มาตรฐานยโุรป ปริมาณสาร Formaldehyde < 8.00 mg/100g

- มาตรฐานญี่ปุน ปริมาณสาร Formaldehyde > 0.5 - 1.5 mg/l

3.4 ความแขง็แรงทนทานตอพื้นผิว มาตรฐานการวดัคาความแข็งแกรงเนื้อไม มดัีงตอไปนี้

3.4.1 คาความทนทาน ตอรอยขูดขีดและขัดสีของเนื้อไม โดยมีวิธกีารทดสอบดวยการนํากระดาษ

ทรายขัดรอบเนื้อไมจนกวาเนื้อไมจะสึกกรอน โดยเปล่ียนกระดาษทรายทุก 200 รอบการขัด

รูปที่8-9 แสดงวิธีการทดสอบหาคาการพองตัวทางความหนาของบอรด

โดยมาตรฐานความทนทานตองเกิน 2500 รอบ AC3 IP > 2000 (Version 2005)

3.4.2 คาความทนทานแรงกระแทก ทดสอบดวยการทิ้งลูกบอลเหล็กลงบนผิวหนาของแผนที่ระดับความ

สูงตางๆกนั จนถงึระดับความสูงทีท่าํใหผิวหนาแผนไมพืน้เปนรอย ซึง่ตองผานมาตรฐานที่ระดับ

IC1 ที่ 10N / ความสูง 800 mm. และ 8N / ความสูง 1000 mm.

3.4.3 คาความทนตอสารละลายที่ผิวหนาแผนพืน้ ทดสอบดวยการใชสารละลายหลายๆชนิด เชน น้ํา

แอลกอฮอล อะซิโตน ฯลฯ สัมผัสผิวหนาของแผนพืน้และดูการเปล่ียนแปลงในชวงเวลาหนึ่ง

3.4.4 คาความทนตอการไหมที่ผิวหนาของแผน ทดสอบดวยการใชบุหร่ีวางไวบนผิวหนาของแผนไมพืน้

จนบุหร่ีดับ

5

3.5 ขนาดมาตรฐานเทากนัทุกแผน มาตรฐานการวัดขนาด กําหนดดังตอไปนี ้

3.5.1 มีความหนา กวาง ยาว ฉาก เทากันทุกแผน

3.5.1.1 ความหนา มาตรฐานกําหนดให ความหนาตลอดทั้งแผน ตางกันไมเกนิ 0.50 มม.

( ความหนา ± 0.5 มม.)

รูปที่10-11 แสดงวิธกีารตรวจสอบ มาตรฐานความหนาของบอรด

3.5.1.2 ความกวาง มาตรฐานกําหนดให ความกวางตลอดทั้งแผน ตางกันไมเกนิ 0.10 มม.

( ความกวาง ± 0.1 มม.)

รูปที่12-13 แสดงวิธกีารตรวจสอบ มาตรฐานความกวางของบอรด

3.5.1.3 ความยาว มาตรฐานกําหนดให ความยาวตลอดทั้งแผน ตางกันไมเกนิ 0.50 มม.

( ความยาว ± 0.5 มม.)

รูปที่14-15 แสดงวิธกีารตรวจสอบ มาตรฐานความยาวของบอรด

6

3.5.1.4 ความไดฉาก มาตรฐานกําหนดให ความฉาก ตางกนัไมเกนิ 0.20 มม.

มาตรฐานกําหนดให ความฉาก ตางกนัไมเกิน 0.20 มม.

รูปที่16-17 แสดงวิธกีารตรวจสอบ มาตรฐานความไดฉากของบอรด

3.6 ไมแอนหรือโกงตัว 3.6.1 ความโกง/แอนตัวดานกวาง

มาตรฐานกําหนดให การแอนหรือโกงตัว ดานกวาง ไมเกิน 0.20 มม. ( < 0.2 มม.)

รูปที่18-19 แสดงวิธกีารตรวจสอบมาตรฐานความการแอนหรือโกงตัว ดานกวาง ของบอรด

3.6.2 ความโกง/แอนตัวดานยาว

มาตรฐานกําหนดให การแอนหรือโกงตัว ดานยาว ไมเกิน 1.00 มม. ( < 1.0 มม.)

รูปที่19-20 แสดงวิธกีารตรวจสอบมาตรฐานความการแอนหรือโกงตัว ดานยาว ของบอรด

7

3.7 รอยตอแนบสนิท ไดระดับเดียวกนั 3.7.1 ความกวางชองวางรอยตอ

มาตรฐานกําหนดให ความกวางชองวางรอยตอ ไมเกนิ 0.15 มม. ( < 0.15 มม.)

รูปที่21 แสดงวิธีการตรวจสอบมาตรฐานรอยตอระหวางแผน

3.7.2 ความแตกตางความสูงระหวางแผน

มาตรฐานกําหนดให ความตางของความสูง ไมเกิน 0.1 มม. ( < 0.10 มม.)

รูปที่22 แสดงวิธีการตรวจสอบมาตรฐานรอยตอระหวางแผน

8

9

ข้ันตอนการติดต้ัง ไมพื้นลามิเนต (Laminate Flooring)

1. เครื่องมือ , เครื่องมือวดั และอุปกรณที่ใชในการติดต้ัง ประกอบดวย

1.1 เล่ือยวงเดือน 1.2 เคร่ืองตัดบัว/ตัวจบ

รูปที2่3 แสดงรูปเล่ือยวงเดือน รูปที่24 แสดงรูปเคร่ืองตัดบัว/ตัวจบ

1.3 เล่ือยจิ๊กซอว 1.4 หินเจียรพรอมใบตัด

รูปที2่5 แสดงรูปเล่ือยจิ๊กซอว รูปที2่6 แสดงรูปหินเจียรพรอมใบตัด

1.5 เคร่ือง Router 1.6 คอนเหล็ก

รูปที่27 แสดงรูปเคร่ือง Router รูปที่28 แสดงรูปคอนเหล็ก

10

1.7 คอนยาง 1.8 ส่ิว

รูปที่29 แสดงรูปคอนยาง รูปที3่0 แสดงรูปส่ิว

1.9 ตลับเมตร 1.10 ไมบรรทัดฉาก (ฉากเหล็ก)

รูปที่31 แสดงรูปตลับเมตร รูปที3่2 แสดงรูปไมบรรทัดฉาก

1.11 สปอรทไลท 1.12 สายไฟ

รูปที3่3 แสดงรูปสปอรทไลท รูปที3่4 แสดงรูปสายไฟ (ปล๊ักพวง)

1.13 ไขควงแฉก และไขควงปากแบน 1.14 เคร่ืองดูดฝุน

รูปที3่4 แสดงรูปไขควงแฉก และไขควงปากแบน รูปที่35 แสดงรูปเคร่ืองดูดฝุน

11

1.15 ไมกวาดออน / แข็ง 1.16 มีดคัตเตอร

รูปที่36 แสดงรูปไมกวาดออน / แข็ง รูปที3่7 แสดงรูปมีดคัตเตอร

1.17 ดินสอ 1.18 ตะปูดําตอกปูน

รูปที่38 แสดงรูปดินสอ รูปที่39 แสดงรูปตะปูดําตอกปูน

1.19 กาวรอน 1.20 กาวเอนกประสงค

รูปที่40 แสดงรูปกาวรอน รูปที่41 แสดงรูปกาวเอนกประสงค

1.21 ซิลิโคนขาว 1.22 ซิลิโคนขุน

รูปที่42แสดงรูปซิลิโคนขาว รูปที่43 แสดงรูปซิลิโคนขุน

12

1.23 เทปกาว 1.24 ถุงดํา

รูปที่44 แสดงรูปเทปกาว รูปที่45 แสดงรูปถุงดํา

1.25 เชือก หรือ ไมทาบ สําหรับวัดระดับพื้น

รูปที่46 แสดงรูปเชือก หรือ ไมทาบ สําหรับวัดระดับพื้น

2. วสัดุที่ใชติดต้ัง 2.1 ไมพื้นลามิเนต

2.2 บวั/ตัวจบ

2.3 EPE โฟม

13

3. วธิีการปูไมพื้นลามิเนต 3.1 ข้ันตอนการเตรียมงาน กอนการปูพืน้

3.1.1 การตรวจสอบพื้นที่ผิวกอนป ู

1.) ถาเปนพื้นผิวปูน ตองมีลักษณะขัดเรียบ ตางระดับไมเกิน 5 มม. ตรวจสอบโดยการ

ขึงเชือก, เอ็น หรือไมทาบ ดังนี ้

1.1) ใชเชือกหรือเอ็นขึงเพือ่ตรวจสอบแนวระนาบ โดยเร่ิมจากมุมหองวัดทแยง

ดานใดดานหนึ่ง

14

รูปที4่7 แสดงแนวการใชเชอืกหรือเอ็นขึง สําหรับวัดระดับพื้น

หมายเหตุ: ใชคนวัด 2 คน หรือใชการยึดเชือกที่จุดเร่ิมแทนการใชคนจับได

1.2) ขยับเชือกหรือเอ็นที่จุดเร่ิมไปในแนวซาย-ขวา ชิดผนังหอง โดยระยะที่ขยับ

ประมาณ 10 ซม. จนสุดผนงัหองทัง้ 2 ฝง

รูปที่48 แสดงทิศทางการขยับเชือกหรือเอ็น สําหรับวัดระดับพื้น

จุดหมุนจุดหมุน

จุดเริ่มจุดเริ่ม

1010 ซม.ซม.

จุจุดสิ้นสุดผนังดสิ้นสุดผนัง

จุดสิ้นสุดผนังจุดสิ้นสุดผนัง

จุดหมุน

จุดเริ่ม

1010 ซม.ซม.

1.3) ขณะขยับเชือกหรือเอ็นไปที่จุดส้ินสุดไปในแนวซาย-ขวา แตละคร้ัง(ทุก10

ซม.) ใหตรวจสอบแนวระดับทุกคร้ัง หากระดับแตกตางกันเกิน 5 มม. ใหขีดทํา

เคร่ืองหมายในทุกๆจุด ในแตละแนววัด

15

รูปที่49-51 แสดงการทาํเคร่ืองหมายพื้นที ที่ไมไดระดับ

จุดหมุนจุดหมุน

จุดเริ่มจุดเริ่ม

จุดสิ้นสุดผนังจุดสิ้นสุดผนัง

1010 ซม.. ซม

จุดสิ้นสุดผนังจุดสิ้นสุดผนัง

แนวเชือกแนวเชือก

แนวพ้ืนแนวพื้น

จุดทําจุดทํา เคร่ืองหมายเคร่ืองหมาย

จุดทําจุดทํา เคร่ืองหมายเคร่ืองหมาย

แนวเชือกแนวเชือก

1010 ซม. ซม.

1.4) เปล่ียนทิศทางการวัดเปนแนวทแยงอีกดาน โดยวิธีการตรวจสอบใหปฏิบัติ

เชนเดียวกันกับแนววัดกอนหนา โดยใหเนนบริเวณที่ทําเคร่ืองหมายไวกอนหนา เพื่อ

กําหนดขอบเขตการแกไข จุดเร่ิมจุดเร่ิม

16

รูปที่52 แสดงการทําเคร่ืองหมายพื้นที ที่ไมไดระดับ

1.5) ตรวจสอบระดับพื้นในแนวขนานกับผนัง ขยับเชือกหรือเอ็นไปทางผนังตรง

ขาม โดยการขยับแตละคร้ัง(ทุก10ซม.) ใหตรวจสอบแนวระดับทุกคร้ัง หากระดับ

แตกตางกันเกิน 5 มม. ใหขีดทําเคร่ืองหมายในทุกๆจุด ในแตละแนววัด พรอมระบุ

ขอบเขตและแนวทางการแกไข เชนเดียวกับการตรวจแนวทแยงมุม

รูปที่53-54 แสดงการทาํเคร่ืองหมายพืน้ท ีที่ไมไดระดับแนวขนาน

จุดส้ินสุดผนังจุดส้ินสุดผนัง

จุดหมุนจุดหมุน จุดส้ินสุดผนังจุดส้ินสุดผนัง

1.6) สรุปคือถาเปนพื้นผิวปูน ตองมีลักษณะขัดเรียบ ตางระดับไมเกิน 5 มม.

(โดยการขึงเชือก,ไมทาบ) ถาระดับตางกันมาก แกไขโดย

- ปรับระดับข้ึนดวยปูน

- เจียรออก,สกัดสวนนูนออก

- ใชพื้นผิวสําเร็จ เชน Viva Board, Smart Board

2.) พืน้ผิวที่มีวสัดุเดิม เชน หนิขัด, หินออน, กระเบ้ืองเซรามิค, กระเบ้ืองยาง, พื้นไมปาร

เก ที่มีลักษณะราบเรียบไมหลุดรอน สามารถปูทับได

3.) พืน้ผิวที่มีวสัดุเดิม แตมีการหลุดรอน, ปลวกกนิ หรือมคีวามชืน้ ควรร้ือถอน และ

ปรับ

พืน้ผิวกอนปู

ถาพืน้เดิมปูพรม ควรร้ือออกและทําความสะอาดพืน้กอน 4.)

3.1.2 ตรวจสอบความชืน้ของพืน้ ที่จะปู

1. พื้นหองควรมีความชืน้ไมเกิน 8% โดยใชเคร่ืองวัดความช้ืนทาบทีห่นาพื้นปูน

2. กรณีตองการใหพืน้ปูนแหงเร็ว ควรใช Spot-light สองหรือใชปูนฉาบสําเร็จแบบแหง

เร็ว

3. กรณีเทปูนทรายปรับหนาพืน้คอนกรีต ควรทิ้งชวงเวลา 3-4 สัปดาห

3.1.3 กาํหนดรูปแบบและทิศทางการป ู

รูปแบบในการปู ปจจุบันม ี2 รูปแบบคือ

1. การปูแบบแบงคร่ึง (แบบกออิฐ)

รูปที5่5 แสดงวิธกีารการปูแบบแบงคร่ึง

17

2. การปูแบบตอเนื่อง โดยการนําเศษที่เหลือจากแถวกอนหนา มาเร่ิมปูในแถวตอไป

รูปที5่6 แสดงวิธกีารการปูแบบตอเนื่อง

ทิศทางในการปู ปจจุบันมี 2 รูปแบบคือ

1. ปูตามแนวยาวหอง 2. ปูตามแนวกวางของหอง

18

รูปที่57 แสดงการปูตามแนวยาวของหอง รูปที่58 แสดงการปูตามแนวกวางของหอง

3.1.4 การคํานวณปริมาณไม ที่ใชสําหรับการปู

ข้ันตอนที่1 คํานวณหาพืน้ทีห่อง โดยสามารถแบงเปน 2 กรณีคือ

กรณีที่1 พืน้ที่เปนรูปส่ีเหล่ียม สามารถใชคํานวณ พืน้ที่ส่ีเหลี่ยมไดเลย

พื้นที่ (ตร.ม.) = กวาง (เมตร) x ยาว (เมตร)

กรณีที่2 พื้นที่ไมเปนรูปส่ีเหล่ียม ใหแบงพื้นที่ใหเปนส่ีเหล่ียม ใหพยายามแบงพืน้ที ่

ใหเปนรูปส่ีเหล่ียมเล็ก

พื้นที่รวม (ตร.ม.) = ผลรวมพื้นที่ยอย

ข้ันตอนที่2 คํานวณหาจํานวนแผนไมพืน้ลามิเนต

2.1 หาจํานวนแผนที่ใชดานกวาง (แผน) = ความกวางของหอง (ม.)

ความกวางไมพืน้ (ม.)

หาจํานวนแผนที่ใชดานยาว (แผน) = ความยาวของหอง (ม.) 2.2

ความยาวไมพื้น (ม.)

จํานวนแผนที่ใชทัง้หอง = จํานวนแผนทีใ่ชดานกวาง x จํานวนแผนทีใ่ชดานยาว

ตัวอยาง คํานวณหาจํานวนไมแผนที่ตองใช สําหรับหองขนาด 3.5 ม. X 6 ม.

19

1. พื้นที่หองเทากบั 3.5 x 6 = 21 ตร.ม.

2. จํานวนไมพื้นดานกวาง = 3.5 / 0.192 = 18.23 แผน ใหปดเปน 18 แผน

3. จํานวนไมพื้นดานยาว = 6 / 1.205 = 4.98 แผน ใหปดเปน 5 แผน

จํานวนไมพื้นทั้งหอง = 18 x 5 = 90 แผน

เมตร 6

เมตร3.5

4.

3.1.5 การคํานวณปริมาณบัวผนงั / ตัวจบ ที่ใชสําหรับการติดต้ัง

- ความยาวบัวผนงัใหวัดทุกดานของหอง รวมทัง้ขอบของเสาดวย

- ตัวจบตางระดับ, ตัวจบระดับเดียวกนั, ตัวจบธรณีประตู ใหวัดตาม

ความยาวจริงของพืน้ทีท่ีติ่ดต้ังตัวจบ

3.2 ข้ันตอนการติดต้ังไมพื้นลามิเนต

ขอควรคํานึงกอนการติดต้ัง

1. ตองทําความสะอาดพืน้กอนป ู

2. ควรติดต้ังไมพื้น หลังงานติดต้ังฝาเพดาน/สุขภัณฑ/ไฟฟา/ประปา/แอร/ทาสี/

ติดประตูหนาตาง เพื่อปองกนัแผนไมพื้นเสียหาย

ข้ันตอนที่1 ปแูผนโฟม(PE Foam) เพื่อปรับระดับและปองกนัความช้ืนจากพืน้หอง โดย

- ใหดานที่เปนแผนฟลม อยูดานลางเพื่อชวยมนการกนัความช้ืน

- แผน PE โฟม จะชวยลดเสียงสะทอนและทําใหนุมเทาขณะเดิน

- รอยตอแผนโฟม ตองชิดติดกนัไมซอนทับ และปดดวยเทปกาว

- ปลายแผนโฟมเหล่ือมข้ึนไปบนผนงั 20-30 มม.

รูปที่59 แสดงข้ันตอนการปูแผนโฟม

หมายเหตุ : ในบางกรณี แผนฟลมและแผนโฟมอาจเคลือบติดกันสําเร็จรูปมาแลว

20

ข้ันตอนที่2 วางล่ิมหนา 15 มม. เพื่อเปนชองวางเผื่อการขยาย – หดตัว

รูปที่60 แสดงการวางล่ิม เพือ่การขยายตัว

ข้ันตอนที่3 เร่ิมการปูแถวแรก โดยใหดานล้ินหนัเขาหาผนัง และ

- ควรปูจากซายไปขวา

- ควรเร่ิมปูตรงขามกับประตูหองเพื่อหลีกเล่ียงการเดินผานขณะปู

รูปที่61 แสดงการปู โดยเร่ิมจากซายไปขวา

ข้ันตอนที่4 ประกอบแผนที่ 2 เขากับแผนแรก โดยเอียงประมาณ 45 องศา แลวกดลงเพื่อให

ไมเขาลอค

รูปที่62-63 แสดงการประกอบแผนที2่ เขากับแผนแรก (สําหรับระบบลอค)

21

ข้ันตอนที่5 หลังการประกอบ ควรใชคอนยางเคาะเบาๆ ใหรอยตอสนทิ

รูปที่64 แสดงใชคอนยางเคาะรอยตอ

ข้ันตอนที่6 ปูแถวแรกตอไปจนสุดหอง โดยแผนสุดทายตองใสล่ิม หนา 15 มม. ดวย

รูปที่65 แสดงการวางล่ิม เมือ่ปูจนสุดหอง

ข้ันตอนที่7 ปูแถวตอไปจนสุดหอง โดยตองใสล่ิมหนา 15 มม.ดวยทกุแถว

รูปที่66 แสดงการปู และการวางล่ิม เมื่อปจูนเต็มหอง

22

ในกรณีที ่พืน้ที่ที่ใหญกวา 8 x12 ม. ตองติดต้ัง ตัวแบงเพื่อรองรับการขยายตัวของไม

รูปที่67 แสดงการใชตัวแบง

ข้ันตอนที่8 ติดต้ังบัวผนงั และตัวจบ

23

ตัวจบ

บัวผนัง บัวผนัง

รูปที่68-71 แสดงการติดต้ังบัว - ตัวจบ

24

4. การดูแลรกัษาไมพื้นลามิเนต

4.1 ตองระวงัไมใหฝนสาด หรือมีน้ําขังบนพื้นที่ปูแลว

4.2 ทาํความสะอาดโดยใชผาชุบน้าํบิดหมาดๆ หรือใชมอ็บถูพืน้

4.3 กรณีที่มนี้าํหกหรือน้าํขัง ควรรีบเช็ดใหแหงทันท ี

4.4 ควรเปดหนาตางบางเปนคร้ังคราว เพือ่ใหระบายความช้ืนในหองไดสะดวก ซึง่จะชวยลด

การขยาย-หดตัว

..............................................................................................................

25

ข้ันตอนการซอมแซม ไมพื้นลามิเนต (Laminate Flooring)

1. อุปกรณและเครื่องมือในการใชซอมพื้นไมลามิเนต ประกอบดวย

1.1 เคร่ืองตัดแบบหินเจียร 4 นิ้ว พรอมใบเล่ือยตัดไม

1.2 คอน

1.3 ส่ิว

1.4 ไขควงแบน หนากวางประมาณ 3 มม.

1.5 เชือกฟาง

1.6 กาว

1.7 แปรงปด

1.8 มีดคัตเตอร

1.9 เทปกาว

1.10 เคร่ืองตัดไมที่สามารถปรับระดับความสูงตํ่าของใบได หรือ เคร่ือง Rounter

2. เตรียมบรเิวณพืน้ที่ของงานท่ีจะซอม 2.1 กําหนดแผนไมพืน้ที่ตองการซอมแซม

ซอม

รูปที่65 แสดงตําแหนงแผนงานที่ตองการซอม

2.2 วัดและตีเสนเพื่อกําหนดขนาดในการตัด โดยวัดหางจากขอบ 30 มม.

รูปที่66 แสดงตําแหนงการวดัและตีเสน ในการตัด

26

2.3 ต้ังระดับของเลื่อยที่จะตัดไมสวนที่ซอม(ระวังอยาใหโดนพืน้หอง)

รูปที่67 แสดงการปรับระดับของเล่ือย

2.4 ตัดไมตามแนวเสนที่ตีไว

รูปที่68-69 แสดงการตัดไมตามแนวความกวาง และ ความยาว

2.5 นําไมที่ตัดออก โดยนําสวนที่ 1 ออก หลังจากนัน้ จงึนาํช้ินไมสวนที่ 2,3 ออก แลวจึงนาํสวนที ่4 ,5

ออก (ดังรูป)

รูปที่70 แสดงตําแหนง และลําดับในการนาํแผนไมออก

27

รูปที่71-72 แสดงการใชส่ิวนาํแผนไม ชิ้นที่1 ออก

รูปที่ 73 แสดงการใชส่ิวนาํแผนไม ชิ้นที่2-5 ออก

ขอควรระวัง: ผิวขอบของแผนใกลเคียงตองไมแตก,บิ่น

28

2.6 ใชไขควงเล็กขูดเพื่อปรับแตงผิวดานรองและดานล้ินใหเรียบ

รูปที่ 73 แสดงการใชไขควง ปรับแตงผิว

2.7 ทําความสะอาดพื้นที่ดานรอง – ล้ิน และบริเวณพื้นที่ซอมใหสะอาด

รูปที่ 74 แสดงการใชแปรงปดทําความสะอาด

3. เตรียมชิน้งานที่จะนําเขาซอม โดย นําแผนงานทีจ่ะนาํมาแทนไปปาดสวนตางๆดังนี ้

3.1 ปาดไมดานรองออก ทัง้ดานความกวางและดานความยาว

รูปที่ 75 แสดงการปาดไมพืน้ดานรองออก

29

รูปที่ 76-77 แสดงการใชมีดคัตเตอร หรือใบเล่ือยปาดไมพื้นดานรองออก

3.2 ปาดไมดานล้ินออก เฉพาะดานความกวาง

รูปที่ 78 แสดงการปาดไมพืน้ดานล้ินออก

4. ประกอบชิน้งานลงบนพื้นที่จะซอม 4.1 กอนประกอบช้ินงานลง ควรทดลองประกอบดูกอนวามีสวนใด ติดขัดบาง โดยใชเชือกฟางสอดใต

ไมกอน(ตามรูป) เพื่อจะไดดึงออกงายหากตองการนาํมาปรับขนาดใหพอดี

รูปที่ 79-80 แสดงการทดลองประกอบช้ินไม

30

4.2 เมื่อทกุดานไดขนาดตามตองการแลวจึงทากาวทุกดาน และใสชิ้นงานที่เตรียมไวใหเรียบรอย

รูปที่ 81 แสดงการทากาว และ ประกอบชิน้งาน

4.3 ใชวัสดุทีม่นี้ําหนกัมาวางกดทับเพื่อรอใหกาวเซตตัว โดยภายหลังกาวเซตตัวก็ถือวา เสร็จส้ินการ

ซอมแซมไมพื้น

…………………………………………………………………….

31