ชุุดกิิจกรรม เรืื่องsci/techer/ac2.pdf · -1-...

53
ชุดกิจกรรม ชุดกิจกรรม เรื่อง เรื่อง เรียนรูการเคลื่อนที่ในชีวิตดวยสื่อของเลนพื้นบาน ฉบับทดลองใช โครงการเครือขายครูวิทยาศาสตร คณิตศาสตรและเทคโนโลยี สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี(สสวท.) .. 2552 สําหรับนักเรียน

Transcript of ชุุดกิิจกรรม เรืื่องsci/techer/ac2.pdf · -1-...

Page 1: ชุุดกิิจกรรม เรืื่องsci/techer/ac2.pdf · -1- สาระสําคัญของช ุดกิจกรรม เมื่อนักเรียนได

ชุดกิจกรรมชุดกิจกรรม

เรื่องเรื่อง เรียนรูการเคลื่อนที่ในชีวิตดวยสื่อของเลนพื้นบาน

ฉบับทดลองใช

โครงการเครือขายครูวิทยาศาสตร คณิตศาสตรและเทคโนโลยี สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี(สสวท.)

พ.ศ. 2552

สําหรับนักเรียน

Page 2: ชุุดกิิจกรรม เรืื่องsci/techer/ac2.pdf · -1- สาระสําคัญของช ุดกิจกรรม เมื่อนักเรียนได

-1- สาระสําคัญของชุดกิจกรรม เมื่อนักเรียนไดเรียนรูตามชุดกิจกรรมนี้แลว นักเรียนจะมีความรูความเขาใจเกีย่วกับการเคลื่อนที่ในชีวติจากสื่อของเลนพื้นบานทีห่าไดงาย มีขัน้ตอนในการทํางายและสามารถใชงานไดจริง ตนทุนการทําต่ํา นักเรียนสามารถทําขึ้นมาใชในการเรียนรูไดดวยตนเอง ซ่ึงถือเปนการอนุรักษของเลนพื้นบานที่ผูเฒาผูแกคิดสรางสรรคขึ้นมา และถายทอดตอ ๆ กันมา เปนภูมปิญญาชาวบานไมไดเล่ือนหายไปจากสังคมไทย และนักเรียนยังสามารถเชื่อมโยงองครวมรูจากสาระการเรียนรูตาง ๆ โดยใชกระบวนการคดิขั้นสูง ออกแบบการทดลองเพื่อศึกษาหลักการทางวิทยาศาสตรโดยใชส่ือของเลนพื้นบาน ไดฝกและใชทักษะการคิดขั้นพืน้ฐาน ซ่ึงประกอบดวย การฟง การอาน การรับรู การจดจํา การจํา การคงสิ่งที่เรียนไปแลว การบอกความรูออกมาดวยตนเอง การใชขอมูล การบรรยาย การอธิบาย การทําใหกระจาง การพูด การเขียน การแสดงออกถึงความสามารถของตนเอง เปนตน ฝกการใชทกัษะการคิดที่เปนแกนหรือทักษะการคิดทั่วไป ซ่ึงประกอบดวย การสังเกต การสํารวจ การตั้งคําถาม การเก็บรวบรวมขอมลู การระบุ การจําแนกแยกแยะ การจัดลําดบั การเปรียบเทียบ การจัดหมวดหมู การสรุปอางอิง การแปล การตีความ การเชื่อมโยง การขยายความ การใหเหตผุล การสรุปยอ ฝกการใชทกัษะการคิดที่ซับซอน ซ่ึงประกอบดวย การสรุปความ การใหคําจํากัดความ การวิเคราะห การผสมผสานขอมูล การจัดระบบความคิด การสรางองคความรูใหม การกําหนดโครงสราง การแกไขปรับปรุงโครงสรางความรูเสียใหม การคนหาแบบแผน การหาความเชื่อพื้นฐาน การคาดคะเน/การพยากรณ การตั้งสมมติฐาน การทดสอบสมมติฐาน การตั้งเกณฑ การพิสูจนความจริง การประยุกตใชความรู ในการเรียนรูเกีย่วกับการเคลื่อนที่ในชีวิต ฝกใหนักเรียนมีกระบวนการสรางองคความรูดวยตนเอง ทักษะในการประดิษฐช้ินงานที่เปนของเลนพื้นบาน ทักษะในการเขียนรายงานผลการศึกษา ทักษะการเรยีนรูและทํางานรวมกนัเปนกลุม และทักษะในการสื่อสารสิ่งที่เรียนรู เปดโอกาสใหนักเรียนไดแสดงความคิดเห็นที่มตีอการจัดกระบวนการเรยีนรู ฝกใหมีความซ่ือสัตย มีความเพียรพยายามในการปฏิบตัิงาน ในการคนหาคําตอบ ใจกวางเมื่อมีการวิพากษวิจารณผลงาน มีเหตผุลในการตอบคําถามในการแกปญหาสถานการณตาง ๆ ชางสังเกตสนใจใฝรู ทํางานรวมกันผูอ่ืนได กลาแสดงออก ชอบตั้งคําถามและรูวิธีการเรียนรู มีคุณธรรม ทํางานโดยยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ในการจัดกระบวนการเรียนรู เนนการจดักระบวนการเรยีนรูที่เนนผูเรียนเปนสําคัญ ซ่ึงนักเรียนจะตองมีการสืบคนความรูจากแหลงเรียนรูตาง ๆ ทั้งในและนอกหองเรียน ไมวาจะเปนหองสมุด อินเทอรเน็ต ภูมปิญญาทองถ่ิน เปนตน เนนทกัษะการคิดโดยการตั้งคําถาม และเนนการ

Page 3: ชุุดกิิจกรรม เรืื่องsci/techer/ac2.pdf · -1- สาระสําคัญของช ุดกิจกรรม เมื่อนักเรียนได

-2-

ปฏิบัติจริง เนนการทดลองซึ่งนักเรียนตองเปนผูคิดออกแบบการทดลองจากสถานการณที่กําหนดเพื่อสํารวจตรวจสอบ สืบคนหาคําตอบ นําเสนอผลการเรียนรู มีการผลิตชิ้นงานหรือส่ือการเรียนรู โดยมีการทํางานเปนระบบกลุม ใชกระบวนการเรียนรูแบบสืบเสาะหาความรู การเรยีนรูโดยการคนพบ การเรียนรูแบบรวมมือรวมใจ การเรียนรูแบบบูรณาการ รวมถึงมีการประเมินผลตามสภาพจริงควบคูไปกับการเรียนการสอนทั้งการประเมินรายบคุคลและรายกลุม จุดประสงค

1. อธิบายเกี่ยวกบัปริมาณทางฟสิกสอันไดแก ปริมาณสเกลารและปริมาณเวกแตอรได 2. ทดลอง อธิบายและวิเคราะหปริมาณสเกลารและปริมาณเวกเตอรจากสถานการณทีก่ําหนดได 3. ยกตวัอยางปรมิาณสเกลารและปริมาณเวกเตอรในชีวติได 4. อธิบายการรวมปริมาณเวกเตอรและสามารถรวมปริมาณเตอรจากสถานการณทีก่ําหนดได 5. บอกความหมายของการเคลื่อนที่ได 6. อธิบายและยกตัวอยางการเคลื่อนที่แบบตาง ๆ ในชีวิตได 7. ทดลองและอธิบายความหมายและความแตกตางระหวางระยะทางกับการกระจดัได 8. ทดลองและอธิบายเกี่ยวกับอัตราเร็วและความเร็วของวัตถุได 9. สรางของเลนพื้นบานอยางงายเพื่อเปนสื่อการเรียนรูเกี่ยวกับการเคลื่อนที่ในชวีิตไดโดยใชวัสดุ

ในทองถ่ิน

Page 4: ชุุดกิิจกรรม เรืื่องsci/techer/ac2.pdf · -1- สาระสําคัญของช ุดกิจกรรม เมื่อนักเรียนได

-3- ผังมโนทัศน “เรียนรูการเคล่ือนท่ีในชีวิตดวยของเลนพืน้บาน”

กับการบูรณาการ 8 กลุมสาระการเรียนรูการศึกษาขั้นพื้นฐาน

การเคลื่อนที่การเคลื่อนที่ในชีวิตดวยในชีวิตดวยของเลนของเลนพื้นบานพื้นบาน

วิทยาศาสตร - การออกแบบการทดลอง (ว 8.1) - การสืบเสาะหาความรู (ว 8.1.) - ปริมาณทางฟสิกส - หลักการทางวิทยาศาสตรที่เกี่ยวของกับ การเลนของเลนพื้นบาน (ว 1.1 – ว 8.1) - วิธีการทางวทิยาศาสตร ( ว 8.1) - การเคลื่อนที่แบบตาง ๆ (ว 4.1 , 4.2 และ ว 5.1) - อัตราเร็วและความเรว็

สังคม - อัตชีวประวตัิ (ส 4.2 ,4.3 ) - ส่ิงแวดลอม (ส 5.2) - ภูมิปญญาไทย (ส 5.2) - เศรษฐกจิพอเพียง (ส 5.2)

คณิตศาสตร - การประมาณคา( ค 1.3๗ - การวดัและคาดคะเน ( ค 2.2) - การแปลความหมาย ( ค 4.2) - การแกปญหา/การใชเหตุผล ( ค 6.1 และ 6.2) - การเชื่อมโยงองคความรู คณิตศาสตรกับศาสตรอ่ืน ๆ (ค 6.4) - ความคิดสรางสรรค ( ค 6.5 )

การงานอาชีพและเทคโนโลยี - งานเกษตร/งานบาน/งาน ประดิษฐ ( ง 1.1) - ทักษะ กระบวนการทํางาน การจัดการ การแสวงหาความรู การแกปญหาในการทํางาน รัก การทํางาน ( ง 1.2) - การออกแบบ/ความคิด สรางสรรค ( ง 5.1) - การสืบคนขอมูล/การสื่อสาร(ง 5.2)

ภาษาตางประเทศ - การสื่อสารขอมูล - การอาน/การเขียน/ การแสดง ความคิดเหน็(ต 3.3) - การใชภาษา ตางประเทศใน การเชื่อมโยงความรู กับศาสตรอ่ืน ๆ ( 3.1)

ศิลปศึกษา - ความคิดสรางสรรค (ศ 1.1) - ทัศนศิลป( ศ 1.2) - คุณคาของภมูิปญญาทองถ่ิน ( ศ 1.2) ภาษาไทย

-การใชภาษาในการแสวงหาความรู (ท 4.2) - การอาน/การเขียนเรื่องราว รูปแบบตางๆ (ท 1.1, 2.1)

สุขศึกษาและพลศึกษา - ทักษะในการเคลื่อนไหว (พ 3.1) - กฎ กตกิา ( พ 3.2) - ความปลอดภัย ( พ 5.1)

Page 5: ชุุดกิิจกรรม เรืื่องsci/techer/ac2.pdf · -1- สาระสําคัญของช ุดกิจกรรม เมื่อนักเรียนได

-4-

ชุดกิจกรรม “เรียนรูการเคลื่อนที่ในชีวิตดวยสื่อของเลนพื้นบาน”

หนวยการเรียนรู

ท่ี ชื่อหนวย จํานวน

ชั่วโมง 1 มารูจัก...ของเลนพื้นบานกนัเถอะ

- ของเลนพืน้บานของเรา - เลาขาน...ความเปนมา - จําแนก แยกแยะ ของเลนพื้นบาน - ตามหาของเลนพื้นบาน ...ที่ฉันอยากรูจัก

3

2

มารูจักปริมาณทางฟสิกสกันกอน - ปริมาณสเกลารและปริมาณเวกเตอร - วิเคราะหปริมาณเวกเตอรและปริมาณสเกลาร ดวยส่ือของเลนพื้นบาน - จะรวมปริมาณเวกเตอรไดอยางไร

4

3 เรียนรูการเคลือ่นที่ในชวีิตดวยส่ือของเลนพื้นบาน - ความหมายของการเคลื่อนที่ - วิเคราะหการเคลื่อนทีข่องวัตถุ - มารูจักการกระจัดและระยะทาง - อัตราเร็วและความเรว็ของวัตถุ

5

Page 6: ชุุดกิิจกรรม เรืื่องsci/techer/ac2.pdf · -1- สาระสําคัญของช ุดกิจกรรม เมื่อนักเรียนได

-5-

หนวยที่ 1 : มารูจัก...ของเลนพื้นบานกันเถอะ กิจกรรมที่ 1.1 ของเลนพื้นบานของเรา “แมครับ…ผมอยากไดแผนเกมคอมพิวเตอร หุนยนต รถแขง เครื่องบินบังคับ” “แมคะ…หนูอยากไดตุกตาบารบี้ ทามากอตจ ิ มาโบรุ ตุกตาหมีพลู” เด็กๆ ในโลกยุคไซเบอรตางรูจักแตของ เลนไฮเทคโนโยลีที่มีขายอยูตามหางสรรพสินคา ช้ันนํา ของเลนบางชนิดนําเขาจากตางประเทศ นํามาขายใหเด็กสมยัใหมไดซ้ือหาไปเลนกันเพื่อความเพลิดเพลิน หากยอนเวลากลับไปสมัยรุนคุณปูคุณยาเยาววยั คงจะไมมีของเลนไฮเทคเหลานี้ใหไดเลนกนัแน จะมกี็แต ของเลนพื้นบานๆ อยางจักจัน่ ปองแปง กงัหันลม ลูกขาง วาว และอีกสารพัดของเลนแบบไทยๆ ที่ทํามาจากวัสดุธรรมชาติ

ซ่ึงตองยอมรับวาทุกวันนี้ของเลนพื้นบานเหลานี้ แทบจะเรียกวาไดหายไปจากโลกแหงของเลนไปแลว เพราะดวยยุคสมัยและกาลเวลาที่ผันผานไป ของเลนพื้นบานเหลานี้กลับกลายเปน ของเลนโบราณที่ถูกหลงลืมไปแลวจาก สังคมไทย และนับวันกย็ิง่จะหาของเลนพื้นบานที่สืบสาน

ภูมิปญญาทองถ่ินของ คนรุน กอนมาเลนไดยากเต็มท ี

Page 7: ชุุดกิิจกรรม เรืื่องsci/techer/ac2.pdf · -1- สาระสําคัญของช ุดกิจกรรม เมื่อนักเรียนได

-6- ของเลนพื้นบานคืออะไร... ☯ คิด...จินตนาการ ...เมื่อพูดถึงของเลนพื้นบาน นักเรยีนคิดถึงอะไรบาง... จินตนาการของเลนพื้นบาน ☺ วาดภาพหรือเขียนขอความเกีย่วกับของเลนพื้นบาน จินตนาการของนักเรียน

ส่ิงที่นักเรยีนสนใจอยากรูเกี่ยวกับของเลนพื้นบาน

Page 8: ชุุดกิิจกรรม เรืื่องsci/techer/ac2.pdf · -1- สาระสําคัญของช ุดกิจกรรม เมื่อนักเรียนได

-7-

สืบคนขอมลู

ของเลนพื้นบานคืออะไร ของเลนพื้นบาน ทํามาจากวสัดุอะไรไดบาง วัสดุดังกลาวมีผลดีผลเสียอยางไร เมื่อเปรียบเทียบกับของเลนที่นักเรียนรูจัก และพบเหน็อยูในหางสรรพสินคาในโลก ยุคปจจุบัน ยอความ ของเลนพื้นบาน คือ ......................................................................................................... ................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................. วัสดทุี่ใชในการทําหรือประดิษฐของเลนพื้นบานไดแก ...................................................... ................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................

คิดเชิงเปรียบเทียบ

วัสดุทีใ่ชในการทําหรือผลิตของเลนพื้นมีผลดีผลเสียอยางไร เมื่อเปรียบเทียบกับ ของเลนที่นักเรยีนรูจกัและพบเห็นอยูในหางสรรพสินคาในโลกยุคปจจุบัน

................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................

แนะนําแหลงสืบคนขอมูล 1. หองสมุด 2. ผูเฒาผูแกในทองถ่ิน 3. http://store.tkc.go.th/multimedia 4. http://www.sac.or.th/toys/ 5. http://www.aksorn.com

Page 9: ชุุดกิิจกรรม เรืื่องsci/techer/ac2.pdf · -1- สาระสําคัญของช ุดกิจกรรม เมื่อนักเรียนได

-8- คิดเชื่อมโยง คณิตศาสตร สังคมศึกษา นักเรียนลองเปรียบเทียบตนทนุ จากการสืบคนเกี่ยวกับวัสดทุี่ใชใน ในการผลิตของเลนพื้นบานกับ ผลิตของเลนพื้นบานกบัวัสดุที่ใชในการผลิต ตนทุนในการผลิตของเลนที่ ของเลนที่นักเรียนพบเหน็ในชวีิต นกัเรียนคิดวา นักเรียนพบเห็นในชวีติ วัสดุที่ใชในการผลิตของเลนที่กลาวมา สงผลกระทบ ตอส่ิงแวดลอมแตกตางกนัหรือไม อยางไร โดยเฉพาะอยางยิ่งการเกดิสภาวะโลกรอน

กิจกรรมที่ 1.2 เลาขาน...ความเปนมา

กําเนิด...ของของเลนพื้นบาน อดีตในวยัเด็กดเูสมือนเปนความทรงจําอันมั่นคงที่ไมเคยลบเลือนหาย ตางอยางสิ้นเชิงกับปจจุบันที่ไมเคยหยดุนิ่งและแนนอน เสยีงหวัเราะ... รอยยิ้ม... ความสนุกสนานของวัยเด็ก แมจะเหลือเพียงความทรงจํา แตของเลนชิ้นเล็กชิ้นนอยยังเปนสิ่งหลงเหลือจากความสนุกสนานในวัยเยาวของเรา ของเลนจึงเปนมากกวาวตัถุส่ิงของ เพราะมีความหมายถึงความทรงจํา ความฝน... ความสนุกสนานในวยัเยาว...ของเรา ที่ยังฝงอยูในของเลน และยิง่ไปกวานั้นของเลนยังเปนตัวแทนของอดีตที่หลงเหลือมาถึงยุคสมัยปจจบุัน ในอดีตยุคคุณพอ-คุณแม หรือตั้งแตสมัยปูยาตายายยังเปนเดก็ของเลนที่ทานสัมผัสมานั้นทํามาจากไม ทํามาจากดิน เปนรูปแบบที่งาย ทําไดจากวัสดรุอบๆบาน รอบๆ ตัว และสามารถสรางความสนุกสนานไดไมแพกนัเลยทเีดียว

Page 10: ชุุดกิิจกรรม เรืื่องsci/techer/ac2.pdf · -1- สาระสําคัญของช ุดกิจกรรม เมื่อนักเรียนได

ยอความ

-9-

ในอดีตของเลนไมไดมีวางขายมากมายกายกองเต็มทองตลาดอยางเชนปจจุบนั แตมักเปนของที่ผลิตขึ้นเองประยุกตดัดแปลงไปตามธรรมชาติแวดลอม ของเลนในแตละทองถิ่นจึงมีความแตกตางหลากหลายกันไป ในแงนีข้องเลนพื้นบานจึงเปนท้ังวัตถุทางวัฒนธรรมท่ีสะทอนถึงสภาพวิถชีีวิตความเปนอยูในแตละ

ทองถิ่น และเปนรองรอยของอดีตท่ีแฝงอยูในของเลน มารูจกักับ...คําวา “ภูมิปญญา” กันกอน

สบืคนขอมูล ใหนักเรยีนหาความหมายของคําวา “ภูมิปญญา” “ภูมิปญญาไทย” “ภูมิปญญาทองถ่ิน” “ ผูทรงภูมิปญญาไทย ” “ ปราชญชาวบาน”

บันทกึ ใหนกัเรียนนําขอมูลที่สืบคนได มาบันทึกลงในแบบบันทกึนี้ ภูมิปญญา .................................. ภูมิปญญาไทย ................................. ................................................... ......................................................... ................................................... ......................................................... ................................................... ......................................................... ภูมิปญญาทองถ่ิน …………… ผูทรงภูมิปญญาไทย.......... ................................................ .......................................... ................................................ ปราชญชาวบาน........................ .......................................... ................................................ .................................................. .......................................... ................................................ .................................................. .......................................... .................................................. .................................................

แนะนําแหลงสืบคนขอมูล - หองสมุด - www.poompanyathai.com/ - www.panyathai.or.th/wiki/ - www.showded.com/myprofile/

Page 11: ชุุดกิิจกรรม เรืื่องsci/techer/ac2.pdf · -1- สาระสําคัญของช ุดกิจกรรม เมื่อนักเรียนได

-10-

คิดเชิงเปรียบเทียบ จากขอมูลที่นักเรียนสืบคน ใหนกัเรียนเปรียบเทียบความเหมอืนความแตกตางระหวาง ภูมิปญญาไทยกับภูมิปญญาทองถ่ิน และผูทรงภูมิปญญาไทยกับปราชญชาวบาน ลงในแผนผังเวนขางลางนี้ ภูมิปญญาไทย ภูมิปญญาทองถ่ิน

แผนผังเวนเปรียบเทียบความเหมือนและความแตกตางระหวาง ภูมิปญญาไทยกับภูมิปญญาทองถ่ิน

Page 12: ชุุดกิิจกรรม เรืื่องsci/techer/ac2.pdf · -1- สาระสําคัญของช ุดกิจกรรม เมื่อนักเรียนได

-11-

ผูทรงภูมิปญญาไทย ปราชญชาวบาน

แผนผังเวนเปรียบเทียบความเหมือนและความแตกตางระหวาง ผูทรงภูมิปญญาไทยกับปราชญชาวบาน คิดเชิงวิเคราะห

จากการศึกษาเกีย่วกบักําเนิดของของเลนและสืบคนเกี่ยวกับภูมปิญญา นักเรียนคิดวาของเลนพื้นบาน จดัอยูในภูมิปญญาประเภทไหน เพราะเหตุใด

การเขียน คิดเชื่อมโยง... ภาษาไทย เขียนอธิบายลงในที่วางตอไปนี้ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................

Page 13: ชุุดกิิจกรรม เรืื่องsci/techer/ac2.pdf · -1- สาระสําคัญของช ุดกิจกรรม เมื่อนักเรียนได

-12- กิจกรรมที่ 1.3 จําแนก...แยกแยะ...ของเลนพื้นบาน

เราทราบแลววาของเลนพื้นบาน หมายถึง ของเลนที่ไดจากการใชวัสดเุหลือใชหรือที่อยูรอบบานในสมัยกอนมาจัดทําเปนของเลนใหเด็กไวเลน การจัดทําของเลนสวนหนึ่งเกดิขึ้นจากผูใหญไดใชเวลาวางในการประดิษฐของเลนใหเด็ก หรือของเลนบางชนิดประดษิฐขึ้นโดยเด็กเองเพื่อใชประกอบในการเลน หรือในอีกความหมายหนึ่งของเลนพื้นบาน หมายถึง ส่ิงของวัสดุที่นํามาเลน โดยทํามาจากวัสดทุี่หาไดงายในทองถ่ิน เปนผลผลิตจากธรรมชาติ หรืออาจเหลือใชจากธรรมชาติก็ได ซ่ึงสะทอนใหเห็นถึง ภูมิปญญาทองถ่ินและวัฒนธรรมความเปนอยูของสังคม ของในแตละภาคแตละทองถ่ินจึงมลัีกษณะเฉพาะที่แตกตางกันไป

สืบคนขอมูล

ใหนักเรียนรวมกลุม สืบคนขอมูลจากแหลงเรียนรู ตาง ๆ เกี่ยวกบัประเภทของของเลนพื้นบาน วามีการจัด ประเภทของเลนพื้นบานกนัอยางไรบาง ใชเกณฑอะไรใน การแบงประเภทและในแตละประเภทมีลักษณะเดนอยางไร พรอมยกตวัอยางของของเลนในแตละประเภท

นําเสนอผลการสืบคนในรูปแผนผงัความคิดนําเสนอหนาชั้นเรียน ☺ คิดเชื่อมโยง ภาษาไทย คณิตศาสตร วิทยาศาสตร ศิลปะ

การเขียนอธิบาย การใชเหตุและ การใชทักษะ ใชศิลปะ เพื่อจําแนกประเภท ผลในการระบุเกณฑ กระบวนการทาง ในการนําเสนอ ของเลนพื้นบานพรอม การจําแนกของเลน วทิยาศาสตร การ ขอมูลใหนาสนใจ ระบุเกณฑในการจําแนก พื้นบาน สืบเสาะหาความรู และยกตัวอยางของเลน การวิเคราะหและจัด พื้นบานในแตละประเภท กระทําขอมูล

แนะนําแหลงสืบคนขอมูล 1. หองสมุด 2. ผูเฒาผูแกในทองถ่ิน 3. http://store.tkc.go.th/multimedia 4. http://www.sac.or.th/toys/ 5. http://www.aksorn.com

Page 14: ชุุดกิิจกรรม เรืื่องsci/techer/ac2.pdf · -1- สาระสําคัญของช ุดกิจกรรม เมื่อนักเรียนได

-13-

กิจกรรมที่ 1. 4 ตามหา...ของเลนพื้นบานที่ฉันอยากรูจัก เราไดศึกษาเกี่ยวกับการจัดประเภทของของเลนตามเกณฑตาง ๆ มาแลว นักเรียนไดรูจักกบัชื่อของเลนในแตละประเภทจากการที่ไดสืบคนขอมูล มีของเลนพื้นบานอะไรบาง ? ที่นักเรียนอยากรูจักเปนพิเศษ อยากลองทํา อยากลองเลน แลวเราจะสัมผัสกับของเลนนั้นไดอยางไร

เสนหของของเลนพื้นบานอยูทีก่ารไดลงมือทําเองที่ดูเหมือนจะยากแตก็ไมยาก เมื่อทําเสร็จแลวกเ็กิดความภาคภูมิใจ ถาชํารุดก็ซอมเองได ไมเหมอืนของเลนยุคใหมที่พังแลวตองทิ้งและมีราคาที่แพงมากดวย วัสดุทีใ่ชทํายังมีผลตอส่ิงแวดลอมดวย ภูมิปญญาทองถ่ินเกี่ยวกับของเลนพื้นบานยงัคงมีอยูในกลุมคนเฒาคนแก เชน กลุมคนเฒาคนแกที่บานปาแดด ต.ปาแดด อ.แมสรวย

จ.เชียงราย ไดทําของเลนใหลูกหลานเลนเพื่อเปนตัวกลางเชื่อมความสัมพันธของครอบครัว และยงัชวยในการอนุรักษศิลปวัฒนธรรมพื้นบานใหคงอยูตอไป ของเลนพื้นบานทุกอยางใหประโยชนทั้งคนทําและคนเลน คนทําไดฝกความอดทน สมาธิ ใจเยน็ ละเอียด รอบคอบ เพราะทุกขั้นตอนตองใชความตั้งใจบวกกับฝมือและความชาํนาญ สวนคนเลนไดฝกวิธีคิด ออกกําลัง และเรียนรูการเลนรวมกบัคนอื่น

สืบคนขอมูล

ในทองถ่ินของนักเรียนมีของเลนพื้นบาน อยูที่ไหนบาง ของเลนพื้นบานที่นักเรียนเคยเห็นมีอะไรบาง ใหสืบคนของเลนพื้นบานทีน่กัเรียนชอบ คนละ 10 ชนิด ของเลนพื้นบานแตละชนิดใชวัสดุอุปกรณอะไรในการทาํ มีวิธีการทําอยางและมีวิธีการเลนอยางไร นํามาแลกเปลี่ยนเรียนรูกันในหองเรียน

แนะนําแหลงสืบคนขอมูล 1. หองสมุด 2. ผูเฒาผูแกในทองถ่ิน 3. http://store.tkc.go.th/multimedia 4. http://www.sac.or.th/toys/ 5. http://www.aksorn.com

Page 15: ชุุดกิิจกรรม เรืื่องsci/techer/ac2.pdf · -1- สาระสําคัญของช ุดกิจกรรม เมื่อนักเรียนได

-14- นําเสนอผลการสืบคนในรปูของรายงาน

☺ คิดเชื่อมโยง

ภาษาไทย การงานฯและเทคโนโลยี สังคมศึกษา สุขศึกษา

การเขียนอธิบาย การสืบคนขอมูล ประวัติของ กฎ กติกา การเขียนรายงาน การใชเทคโนโลยี ภูมปิญญาทองถ่ิน การเคลื่อนไหว การใชภาษาในการ สารสนเทศ ที่ใหความรูแกนกัเรียน การออกกําลังกาย แสวงหาความรู งานบาน ประวัติความเปนมา การอางอิงแหลงที่มา งานประดษิฐ ของของเลนพื้นบาน ของขอมูล การออกแบบ การสัมภาษณ ความคิดสรางสรรค คิดถึงสิ่งที่เรียนรู ☺ คิดเชื่อมโยง ภาษาไทย

การเขียนบรรยายถึงสิ่งที่ไดเรียนรู ในหนวยการเรียนรูที่ 1 มารูจัก...ของเลนพื้นบานกนัเถอะ โดยใชภาษาของนักเรยีนเอง บันทึก ......................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................... .........................................................................................................................................................

Page 16: ชุุดกิิจกรรม เรืื่องsci/techer/ac2.pdf · -1- สาระสําคัญของช ุดกิจกรรม เมื่อนักเรียนได

-15- หนวยท่ี 2 มารูจักปริมาณทางฟสิกสกันกอน กิจกรรมที่ 2.1 ปริมาณสเกลารและปริมาณเวกเตอร

คิด...จินตนาการ เมื่อพูดถึงปริมาณทางฟสิกส นักเรียนคดิถึงอะไร จินตนาการเกี่ยวกับปริมาณทางฟสิกส ☺ วาดภาพหรือเขียนขอความเกีย่วกับปริมาณทางฟสิกสตาม จินตนาการของนักเรียน

ส่ิงที่นักเรยีนสนใจอยากรูเกี่ยวกับปริมาณทางฟสิกส

Page 17: ชุุดกิิจกรรม เรืื่องsci/techer/ac2.pdf · -1- สาระสําคัญของช ุดกิจกรรม เมื่อนักเรียนได

-16- สืบคนขอมลู

ปริมาณทางฟสิกสคืออะไร ปริมาณสเกลารและปริมาณเวกเตอรมี ความเหมือนหรือแตกตางกนัอยางไร จงยกตวัอยางปริมาณสเกลารและ ปริมาณเวกเตอรที่นักเรียนรูจักในชีวิต ปริมาณทางฟสิกส เชื่อมโยง...ทักษะการอานจับใจความ แบงออกเปน 2 ลักษณะคือ ปริมาณสเกลลาร ปริมาณเวกเตอร ปริมาณสเกลาร คือ ปริมาณที่กําหนดแตเพียงขนาดก็มีความหมายชัดเจน ตัวอยางของปริมาณสเกลาร ไดแก จํานวนนับของสิ่งของโดยทั่วไป ระยะทาง เวลา พื้นที่ งาน พลังงาน กระแสไฟฟา เปนตน การคํานวณปริมาณสเกลลาร สามารถดําเนินการ บวก ลบ คูณ หาร เหมือนกับการคํานวณในระบบจํานวนทั่ว ๆ ไป จํานวน 0 ของปริมาณสเกลลาร เปน 0 อางอิง ไมไดหมายความวามีคาเปนศูนยจริง เชน อุณหภูมิ 0 เซลเซียส ไมไดหมายความวาวัดอณุหภูมิไมได แตกําหนดใหอุณหภมูิขณะนัน้เปนศูนย และอุณหภูมิ -1 เซลเซียสเปนอุณหภูมิที่ต่ํากวาศูนยเซลเซียสอยู 1 เซลเซียส เปนตน ปริมาณสเกลลารที่เปนลบจึงเปนปริมาณทีม่ีคานอยกวาศนูย ปริมาณเวกเตอร คือ ปริมาณที่ตองกําหนดทั้งขนาดและทิศทางจึงจะมคีวามหมายที่ชัดเจน

ตัวอยางของปริมาณเวกเตอร ไดแก แรง การกระจัด ความเร็ว ความเรง เปนตนเนื่องจากปริมาณเวกเตอรมทีั้งขนาดและทิศทาง การคํานวณจึงตองมวีิธีการที่แตกตางออกไปจากการคํานวณในระบบจาํนวน ไมสามารถดําเนินการบวก ลบ คูณ หารแบบธรรมดาได จงึตองใชวิธี การคํานวณเวกเตอรโดยเฉพาะ จํานวน 0 ในปริมาณเวกเตอร เปนปริมาณที่ไมมีคาจรงิ ๆ ปริมาณเวกเตอรจึงไมมคีาเปนลบ

แนะนําแหลงสืบคนขอมูล 1. หองสมุด 2. www.snr.ac.th/elearning/kosit/ 3. www.bloggang.com/viewdiary. 4. www.it2dekthai.com

Page 18: ชุุดกิิจกรรม เรืื่องsci/techer/ac2.pdf · -1- สาระสําคัญของช ุดกิจกรรม เมื่อนักเรียนได

-17-

เคร่ืองหมายในปริมาณเวกเตอรใชบอกทิศทางของเวกเตอร เวกเตอรที่มีเครื่องหมายเหมือนกันจะมีทิศทางไปทางเดียวกัน เวกเตอรที่มีเครื่องตรงกันขามจะมีทิศทางตรงขามกัน การเขียนสัญลักษณแทนปริมาณเวกเตอร ใชความยาวของสวนเสนตรงแทนขนาดของเวกเตอร และหัวลูกศรแสดงทิศทางของเวกเตอร สัญลักษณใชอักษรตัวใหญ และมขีีดลูกศรเล็กดานบน เชน เปนสัญลักษณแทนเวกเตอร A จากภาพ จะเหน็วา และ มีขนาดและทิศทางเทากันเรียก เวกเตอร Av มีขนาดและทิศทางเทากับ Bv สวน มีขนาดเทากบั และ แตมีทิศทางตรงขามกัน ดังนั้นสรุปไดวา CBA vvv ≠= ยอความ ปริมาณทางฟสิกส คือ ..................................................................................................... ................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................. ปริมาณสเกลารหมายถึง ................................................................................................... ................................................................................................................................................ ปริมาณเวกเตอรหมายถึง ................................................................................................... ................................................................................................................................................ ปริมาณสเกลารในชีวิตไดแก ............................................................................................. ................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................ ปริมาณเวกเตอรในชีวิตไดแก ............................................................................................. ................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................

Page 19: ชุุดกิิจกรรม เรืื่องsci/techer/ac2.pdf · -1- สาระสําคัญของช ุดกิจกรรม เมื่อนักเรียนได

-18-

คิดเชิงเปรียบเทียบ

นักเรยีนจงเปรยีบเทียบความเหมอืนความแตกตางของปริมาณสเกลารและปริมาณเวกเตอร

ปริมาณสเกลาร ปริมาณเวกเตอร

แผนผังเวนเปรียบเทียบความเหมือนและความแตกตางระหวาง

ปริมาณสเกลารและปริมาณ เวกเตอร

กิจกรรมที่ 2.2 วิเคราะหปริมาณสเกลารและปริมาณเวกเตอร

จุดประสงค เพื่ออธิบายเกีย่วกับปริมาณสเกลารและปรมิาณเวกเตอรได วัสดุอุปกรณ 1. รถลาก 1 คัน 2. ไมบรรทัดหรือสายวดั 1 อัน 3. นาฬิกาจบัเวลา 1 เรือน 4. กระดาษหนังสือพิมพ จาํนวน 2 คู 5. เทปใส

คําศัพท ปริมาณสเกลาร scalar quantity ปริมาณเวกเตอร vector quantity การวัด measurement หนวยวัด measurement divisio ระยะทาง distance เวลา time

Page 20: ชุุดกิิจกรรม เรืื่องsci/techer/ac2.pdf · -1- สาระสําคัญของช ุดกิจกรรม เมื่อนักเรียนได

-19- ⌦ เรียนรูอยางไร....

1. นํากระดาษหนังสือพิมพจํานวน 2 คูมาวางตอกันติดใหแนนดวยเทปใส 2. วัดความยาว ความกวางเพื่อหาพื้นที่ของกระดาษหนังสอืพิมพทั้งหมด บันทึกผลที่ได 3. วางรถลากดานขวาของกระดาษหนังสือพิมพที่ปูไว ดังรูป

4. ออกแรงดึงรถลากไปไปทางขวามือจนสุดกระดาษที่ปูไว วัดเวลาที่รถลากใชในการเคลื่อนที่ วัดความยาวของเสนทางที่รถลากเคลื่อนที่ วัดขนาดของการเปลี่ยนตําแหนงของรถลากในทิศทางจากจุดเริ่มตนที่รถลากเคลื่อนที่ไปยังตําแหนงสุดทายที่รถลากหยุดเคลื่อนที่ รวมกนัวิเคราะหวาปริมาณใดบางที่ตองระบุทั้งขนาดและทิศทาง ปริมาณใดบางทีไ่มสามารถระบุทิศทางได

5. ออกแบบตารางบันทึกผลการทดลองที่ได ฝกทักษะการจัดกระทํากับขอมูล

ออกแบบตารางบันทึกผลการทดลอง .................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................. ......................................................................................................................................................................

หาขอสรุป 1. จากกจิกรรมใหนักเรยีนระบเุกี่ยวกับปริมาณสเกลารที่เกีย่วของ พรอมทั้งใหเหตุผล 2. จากกจิกรรมใหนักเรยีนระบเุกี่ยวกับปริมาณเวกเตอรที่เกีย่วของ พรอมทั้งใหเหตุผล

Page 21: ชุุดกิิจกรรม เรืื่องsci/techer/ac2.pdf · -1- สาระสําคัญของช ุดกิจกรรม เมื่อนักเรียนได

-20- เขียนสรุป

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. กิจกรรมตรวจสอบความเขาใจ ใหนักเรียนรวมกันวิเคราะหแลวระบุวาปริมาณที่เก่ียวของ เปนปรมิาณสเกลารหรือปริมาณเวกเตอร 1. ชินจังใชเวลาในการเดินเลน 1 ช่ัวโมง 30 นาที 2. โดเรมอนออกบินไปทางทิศตะวนัออก 2 กิโลเมตร จากนั้นก็บินไปทางทศิใต 5 กิโลเมตร 3. มาลียกกระเปาหนังสอื หนัก 20 นวิตันขึ้นไปวางไวบนโตะที่สูง 2 เมตรจากพืน้ 4. ขวดน้าํของมานะ มนี้ําอยู 2 ลิตร 5. ที่อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียล น้ํามวล 1 กรัม จะมีปริมาตร 10 ลูกบาศกเซนติเมตร กิจกรรมที่ 2.3 จะรวมปริมาณเวกเตอรไดอยางไร ทักษะการอานจับใจความ ปริมาณเวกเตอร ( Vector quantity ) คือ ปริมาณที่ตองบอกทัง้ขนาดและทิศทางจึงจะไดความหมายสมบูรณ เชน การกระจัด ความเร็ว ความเรง แรง โมเมนตมั ฯลฯ การหาผลลัพธของปริมาณเวกเตอร ตองอาศัยวธีิการทางเวกเตอรโดยตองหาผลลัพธทั้งขนาดและทิศทาง นักเรียนทราบแลววา สัญลักษณของปรมิาณเวกเตอร แทนดวยลูกศร

Page 22: ชุุดกิิจกรรม เรืื่องsci/techer/ac2.pdf · -1- สาระสําคัญของช ุดกิจกรรม เมื่อนักเรียนได

-21- ความยาวของลูกศรแทนขนาด หัวลูกศรแทนทิศทาง และเขียนตวัอักษรที่มีลูกศรครึ่งอยูบนตัวอักษร ดังตัวอยางตอไปนี ้ รูปแสดงเวกเตอร CและB,A vvv โดย เวกเตอร Av มีขนาด 2 หนวย ไปทางทิศตะวนัออก เวกเตอร Bv มีขนาด 3 หนวย ไปทางทิศเหนือ เวกเตอร Cv มีขนาด 3 หนวย ทํามุม 30 องศากับแนวระดับ เวกเตอร 2 เวกเตอร เทากัน เมื่อมีขนาดเทากนัและมีทิศไปทางเดียวกัน ดังรูป หนวย3A =v หนวย3B =v หนวย3C =v หนวย3D =v จากรูป BA vv = และ DC vv = เวกเตอร 2 เวกเตอร ตรงขามกัน เมื่อมขีนาดเทากนั แตมีทิศทางตรงขามกัน ดังรูป หนวย3A =v หนวย3B =v หนวย3C =v หนวย3D =v หนวย3D =− v หนวย3B =− v จากรูป BA vv ≠ และ DC vv ≠ แต BA vv −= และ DC vv −= การรวมปริมาณเวกเตอร สามารถทําไดการเขียนรูป โดยวิธีหางตอหัว เวกเตอรลัพธที่ไดจะมีขนาดและทศิจากหางเวกเตอรตัวแรกถึงหัวลูกศรเวกเตอรตวัสุดทาย ดังตวัอยางตอไปนี ้

Av 2 หนวย

Bv 3 หนวย

3 หนวย

30ο

Cv

Page 23: ชุุดกิิจกรรม เรืื่องsci/techer/ac2.pdf · -1- สาระสําคัญของช ุดกิจกรรม เมื่อนักเรียนได

-22- ตัวอยาง กําหนดให จงหาเวกเตอรลัพธ จาก Av + Bv + Cv + Dv จงหาเวกเตอรลัพธ จาก Av - Bv + Cv - Dv

จงหาเวกเตอรลัพธ จาก Bv - Cv + Dv - Av

Av Cv Bv Dv

Av Bv Cv

Dv

Rv = Av + Bv + Cv + Dv

Av

- Bv

- Dv

Rv = Av - Bv + Cv - Dv Cv

Dv

Bv

- Cv

- Av

Rv = Bv - Cv + Dv - Av

Rv คือ เวกเตอรลัพธ มีทิศไป ทางตะวนัออกเฉียงเหนือและมีขนาดเทากับขนาดความยาวของเสนตรง R

Rv คือ เวกเตอรลัพธ มีทิศไป ทางตะวนัออกเฉียงเหนือและมีขนาดเทากับขนาดความยาวของเสนตรง R

Rv คือ เวกเตอรลัพธ มีทิศไปทางตะวันตกเฉียงใตและมีขนาดเทากับขนาดความยาวของเสนตรง R

Page 24: ชุุดกิิจกรรม เรืื่องsci/techer/ac2.pdf · -1- สาระสําคัญของช ุดกิจกรรม เมื่อนักเรียนได

หนวย3F1=v หนวย2F2 =

v หนวย3F3 =

-23- ใจความสําคัญและรายละเอียด เวกเตอรลัพธจะเปนอยางไร ถาขนาดและทิศทางของเวกเตอรยอยเปลี่ยนแปลง เวกเตอรลัพธจะเปนอยางไร ถานกัเรียนเคลื่อนที่เปนวงกลม

ยอความ ใหนกัเรียนเขียนสรุปสิ่งที่ไดเรียนรูในเรือ่งนี้ …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… กิจกรรมตรวจสอบความเขาใจ ใหนกัเรียนรวมกันวเิคราะหและหาคําตอบ 1. จากภาพจงหาขนาดและทิศทางของเวกเตอรลัพธ 321 FFF ++ (กําหนดใหแรงเปนปริมาณ เวกเตอร แรง 1 นิวตนัแทนดวยความยาวของเสนตรง 1 เซนติเมตร) นิวตัน4F1 =

v นิวตัน3F2 =v

นิวตัน6F3 =

2. จากรูปที่กําหนดใหตอไปนี้ ( 1 หนวย เทากับ 1 เซนติเมตร) จงหา .321 FFF vvv ++ , 321 FFF vvv −− , 321 FFF vvv −+ และ 321 FFF vvv +−

Page 25: ชุุดกิิจกรรม เรืื่องsci/techer/ac2.pdf · -1- สาระสําคัญของช ุดกิจกรรม เมื่อนักเรียนได

AvBv

Dv

Ev

Av

Bv

DvEv

Fv

-24- 3. จงหาเวกเตอรลัพธ คําตอบ ........................... คําตอบ ...........................

คิดถึงสิ่งที่เรียนรู ☺ คิดเชื่อมโยง ภาษาไทย การเขียนบรรยายถึงสิ่งที่ไดเรียนรู ในหนวยการเรียนรูที่ 2 มารูจัก...ปริมาณทางฟสิกสกันกอน โดยใชภาษาของนกัเรียนเอง บันทึก ......................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................... .........................................................................................................................................................

Cv

Cv

Page 26: ชุุดกิิจกรรม เรืื่องsci/techer/ac2.pdf · -1- สาระสําคัญของช ุดกิจกรรม เมื่อนักเรียนได

-25- หนวยท่ี 3 การเคลื่อนที่ในชีวิต ☺ กิจกรรมที่ 3.1 ความหมายของการเคลื่อนท่ี คิด...จินตนาการ เมื่อพูดถึงการเคลื่อนที่ นักเรียนคิดถึงอะไร จินตนาการเกี่ยวกับการเคลื่อนท่ี ☺ วาดภาพหรือเขียนขอความเกีย่วกับการเคลื่อนที่ตามจินตนาการของนักเรยีน ส่ิงที่นักเรียนสนใจอยากรูเกี่ยวกับการเคลื่อนที่

Page 27: ชุุดกิิจกรรม เรืื่องsci/techer/ac2.pdf · -1- สาระสําคัญของช ุดกิจกรรม เมื่อนักเรียนได

-26- ทักษะการอานจับใจความ ใหนกัเรียนคนหาความหมายและปจจยัสําคญัที่ทําใหวัตถุเกิดการเคลื่อนที่

แรง หมายถึง ส่ิงที่สามารถทําใหวัตถุที่อยูนิ่งเคลื่อนที่หรือทําใหวตัถุที่กําลังเคลื่อนที่มีความเร็วเพิ่มขึ้นหรือชาลง หรือเปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนที่ของวัตถุหรือทําใหวตัถุที่กําลังเคลื่อนที่หยุดนิ่งได วัตถุตาง ๆ เมื่อถูกแรงมากระทําจะมกีารเปลี่ยนแปลงสภาพเดิมของวัตถุ ไดแก มีการเปลี่ยนแปลงตําแหนง เปลี่ยนแปลงลักษณะการเคลื่อนที่ การเปลี่ยนแปลงรูปรางและขนาด เมื่อแรงที่กระทํากับวตัถุแตกตางกนัยอมทําใหผลการเปลี่ยนแปลงแตกตางกันไปดวย หากแรงที่กระทํามีคามาก การเปลี่ยนแปลงซึ่งเปนผลของแรงนั้นยอมมี

การเปลี่ยนแปลงมากดวย รูปแบบการเคลือ่นที่ที่เราพบเห็นในชีวิตประจําวัน ขึ้นอยูกับทิศและขนาดของแรงที่มากระทํากับความเรว็ของวัตถุ รูปแสดงผลของแรงที่ทําใหวัตถุมีรูปแบบการเคลื่อนที่แบบตางๆ แรง มีทั้งแรงผลักและแรงดงึ ซ่ึงถาเราเพิ่มแรงมากขึ้น การเคลื่อนที่ก็จะเร็วขึ้นดวย โดยเราเรียกสิ่งนี้วา ความเรง ถาเราหยุดการผลักหรือดึง วัตถุก็ยังสามารถรักษาสภาพการเคลือ่นที่อยูไดกอน ที่จะมแีรงมากระทําใหความเร็วลดลงจนหยุดนิ่ง จากภาพ เราสามารถบอกไดวา การเคลื่อนที่ที่เกิดขึ้นหรืออะไรที่ทําใหหยดุนิ่งนั้นก็คือ แรงนั่นเอง ถาวตัถุใด ๆ ไมเคลื่อนที่ ไมไดหมายความวา ไมมแีรงมากระทํากับวัตถุนั้น ๆ แตสาเหตุที่วัตถุไมเคลื่อนที่ เปนเพราะมแีรงที่เทากัน แตมีทศิทางตรงกันขามมากระทําตอวัตถุนั้น ดังรูป

Page 28: ชุุดกิิจกรรม เรืื่องsci/techer/ac2.pdf · -1- สาระสําคัญของช ุดกิจกรรม เมื่อนักเรียนได

-27- ดังนั้นแรง คือ ส่ิงที่สามารถ ทําใหวตัถุเปลี่ยนสภาพการเคลื่อนที ่ แรงเปนปริมาณเวกเตอร มีหนวยเปนนวิตัน (N) ใจความสําคัญและรายละเอียด ตําแหนงของวัตถุจะเปนอยางไร ถาวัตถุถูกแรงมากระทํา และตําแหนงของวัตถุ จะเปลี่ยนแปลงแตกตางกันหรือไม ถาลักษณะของแรงที่มากระทําตอวัตถุแตกตางกัน

ยอความ ใหนกัเรียนเขียนสรุปสิ่งที่ไดเรียนรูในเรือ่งนี้ …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… การเคลื่อนที่แบบตาง ๆ ในชีวิต โดยทัว่ไปเราจะเหน็วาวัตถุหลายอยางสามารถเคลื่อนที่ได เชน รถ เรือ

หรือเครื่องบิน ซ่ึงการเคลื่อนที่ของสิ่งเหลานี้ เกิดมาจากการกระทําของ แรง

คําศัพท แรง force การเคลื่อนที่ movement ตําแหนง location ของเลน toy สังเกต observe

Page 29: ชุุดกิิจกรรม เรืื่องsci/techer/ac2.pdf · -1- สาระสําคัญของช ุดกิจกรรม เมื่อนักเรียนได

-28- กิจกรรมที่ 3.2 วิเคราะหการเคล่ือนท่ีของวัตถ ุ จุดประสงค เพื่ออธิบายเกีย่วกับการเคลื่อนที่ที่พบเห็นในชีวติได วัสดุอุปกรณ 1. ลูกขางโวหรือลูกขางสะบา 2. กําหมุน 3. สัตวกะลา 4. อีดีด 5. รถหลอดดาย 6. จานบิน 7. จักจั่น เรียนรูอยางไร

1. รวมกันสังเกตลักษณะของของเลนพื้นบานที่กําหนดให 2. ศึกษา สืบคนเกี่ยวกับวิธีการเลนของเลนพื้นบานชนดิตาง ๆ ที่กําหนดให 3. รวมกันหาวธีิการใหของเลนพื้นบานที่กาํหนดใหเกิดการเคลื่อนที่ สังเกตและวิเคราะหลักษณะการเคลื่อนที่ที่เกิดขึ้น บนัทึกผลการทดลอง ฝกทักษะการจัดกระทํากับขอมูล

ออกแบบตารางบันทึกผลการทดลอง ........................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................ ..................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................

Page 30: ชุุดกิิจกรรม เรืื่องsci/techer/ac2.pdf · -1- สาระสําคัญของช ุดกิจกรรม เมื่อนักเรียนได

-29- หาขอสรุป 1. จากกจิกรรมใหนักเรยีนระบเุกี่ยวกับลักษณะการเคลื่อนที่ที่เกิดขึ้น พรอมทั้งใหเหตุผลวาทํา

อยางไร จึงจะทําใหเกิดการเคลื่อนที่เชนนัน้ 2. จากกจิกรรมใหนักเรยีนระบเุกี่ยวกับสิ่งที่ทาํใหของเลนมรูีปแบบการเคลื่อนที่ที่แตกตางกัน

พรอมทั้งใหเหตุผล

เขียนสรุป ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… กิจกรรมตรวจสอบความเขาใจ ใหนกัเรยีนรวมกันสังเกตและวิเคราะหแลวระบุวาเปนการเคลื่อนที่ในรูปแบบใด แลวตอบคําถามใหถูกตอง รูปที่ 1 รูปที่ 2 รูปที่ 3 รูปที่ 4 รูปที่ 5 รูปที่ 6 รูปที่ 7 รูปที่ 8

Page 31: ชุุดกิิจกรรม เรืื่องsci/techer/ac2.pdf · -1- สาระสําคัญของช ุดกิจกรรม เมื่อนักเรียนได

-30- คําถามสําคัญ

1. รูปใดบางที่มีรูปแบบการเคลือ่นที่แบบเดยีวกัน และเปนการเคลื่อนที่ลักษณะใด 2. รูปใดบางที่มีรูปแบบการเคลือ่นที่ที่ไมเหมอืนกันรูปใดเลย และเปนการเคลื่อนที่ลักษณะใด

เขียนตอบดวยภาษาของตนเอง เชื่อมโยงทักษะการเขียน/ทักษะการคิดวิเคราะห ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………… คิดเชื่อมโยง สัตวกะลา กําหมุน รถหลอดดาย เชือกหรือยางรดัของที่เปนสวนประกอบสําคัญของของเลนพื้นบานเหลานี้ มีไวเพื่ออะไร มีความสําคัญอยางไร กับการเคลื่อนที่ของของเลนเหลานี้ ถานักเรียนจะทําใหของเลนเหลานี้เคลื่อนที่ไดดีมากขึน้ นักเรียนจะมีวธีิการทําอยางไร ไดบาง นักเรียนจะนําความรูเกี่ยวกบัพลังงาน มาอธิบายเชื่อมโยงกับการเคลือ่นที่ของของเลน เหลานี้อยางไร

Page 32: ชุุดกิิจกรรม เรืื่องsci/techer/ac2.pdf · -1- สาระสําคัญของช ุดกิจกรรม เมื่อนักเรียนได

-31- บันทกึการคิดเชื่อมโยง

………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………… กิจกรรมที่ 3.3 มารูจักการกระจัดและระยะทาง

คิด...จินตนาการ เมื่อพูดถึงการกระจัดและระยะทาง นักเรียนคิดถึงอะไร จินตนาการเกี่ยวกับการกระจัดและระยะทาง ☺ วาดภาพหรือเขียนขอความเกีย่วกับการกระจดัและระยะทางตามจินตนาการของนักเรียน

Page 33: ชุุดกิิจกรรม เรืื่องsci/techer/ac2.pdf · -1- สาระสําคัญของช ุดกิจกรรม เมื่อนักเรียนได

-32- ส่ิงที่นักเรียนสนใจอยากรูเกี่ยวกับการกระจัดและระยะทาง มารวมกัน...ตรวจสอบ เก่ียวกับการกระจัดและระยะทาง จุดประสงค เพื่ออธิบายเกีย่วกับการกระจัดและระยะทางได วัสดุอุปกรณ

1. ของเลนพื้นบานอีโบะ 2. กระดาษหนังสือพิมพ 3. น้ํา 4. ขันน้ํา 5. เชือกฟาง

เรียนรูอยางไร

1. เทน้ําใสขันพอประมาณ 2. ฉีกกระดาษหนังสือพิมพเปนชิ้นเล็ก ๆ จากนั้นนาํไปแชน้ําใหออนตวั 3. วางอีโบะบนโตะดังรูป ปนกระดาษหนังสือพิมพที่แชน้ําจนออนตวัแลว ใสที่กระบอก ยิงอีโบะ ใชไมยิงกระแทกใหกระดาษหนงัสือพิมพอัดตวัแนนเพื่อเปนลูกกระสุน 4. ยกอีโบะขึ้นในระดับประมาณอก ใชไมยิงกระแทกลูกกระสุนกระดาษหนังสอืพิมพที่อัดไวในกระบอกยิง สังเกตแนวการเคลื่อนที่ของลูกกระสุน บันทึกภาพแสดงแนวการเคลื่อนที่ของลูกกระสุน 5. ทําเครื่องหมายบริเวณที่ลูกกระสุนตกพื้น จากนั้นใชเชือกฟางทาบในแนวตรงระหวางจุดเริ่มตนในการยิงอีโบะกับจุดที่ลูกกระสุนตก บันทกึผล

Page 34: ชุุดกิิจกรรม เรืื่องsci/techer/ac2.pdf · -1- สาระสําคัญของช ุดกิจกรรม เมื่อนักเรียนได

-33- ฝกทักษะการจัดกระทํากับขอมูล

จะออกแบบการบันทึกผลการทดลองอยางไร ชวยออกแบบกนัหนอย ........................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................ .................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................. ......................................................................................................................................................................

หาขอสรุป 1. รวมกันวเิคราะหวาขนาดของแนวทางการเคลื่อนที่จริงของลูกกระสุน กบัขนาดของระยะที่นักเรียนวดัในแนวตรงจากจดุที่ยิงอีโบะถึงจุดที่ลูกกระสุนตกมีความแตกตางกันอยางไร สองปริมาณนี้มีอะไรที่แตกตางกันบาง 2. รวมกันวเิคราะหและใหเหตุผลวา เหตุใดปริมาณทั้งสองจึงมขีนาดแตกตางกัน นักเรียนคดิวาปริมาณใดเปนปริมาณสเกลารและปริมาณใดเปนปริมาณเวกเตอร เพราะเหตใุด

เขียนขอสรุป ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………….…………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………….

Page 35: ชุุดกิิจกรรม เรืื่องsci/techer/ac2.pdf · -1- สาระสําคัญของช ุดกิจกรรม เมื่อนักเรียนได

-34- ทักษะการอานจับใจความ ใหนกัเรียนศึกษาขอมูลตอไปนี้ เพื่อหาขอสรุปเกี่ยวกบัระยะทางและการกระจัด

ในขณะที่เราเคลือ่นที่ เราจะเปลี่ยนตําแหนงที่อยูตลอดแนว เชน ขณะเราขับรถยนตไปตาม ทองถนน เราจะเคลื่อนที่ผานถนน ถนนอาจเปนทางตรง ทางโคง หรือหักเปนมุมฉาก บางครั้งพบวาระยะที่รถเคลื่อนที่กับระยะจากจดุปลายทางที่รถเคลื่อนที่จะหางจากจุดตนทางในแนวเสนตรงไมเทากัน ดงัภาพ

ดังนั้นจึงมกีารนยิามวา ระยะทาง (distance) คือ ความยาวตามเสนทางที่วัตถุเคลื่อนที่ไปไดทั้งหมด เปนปริมาณสเกลาร คือ มีแตขนาดอยางเดยีว มหีนวยเปนเมตร โดยทั่วไป

เราใชสัญลักษณ S และการกระจัด (displacement) คือ เสนตรงที่เชื่อมโยงระหวางจุดเริ่มตนและจุดสุดทายของการเคลื่อนที่เปนปริมาณเวกเตอร คือ ตองคํานึงถึงทิศทางดวย มีหนวยเปนเมตร

โดยทั่วไปเขียนแบบเวกเตอรเปน Sv ดังตัวอยางตอไปนี ้ ชายคนหนึ่งเดินจาก ก ไป ข แลวจาก ข ไป ค และไป ง ชายคนนี้จะเคลื่อนที่ไดระยะทางเทากับ 6 + 3 + 2 เมตรหรือ 11 เมตรและชายคนนีไ้ดการกระจัดเทากับ 5 เมตร ใจความสําคัญและรายละเอียดของเรื่องท่ีนักเรียนควรสรุปได ระยะทางและการกระจัดของวัตถุจะเปนอยางไร ถาวัตถุนั้นเคลื่อนที่ในแนวตรงโดยที่ไมมีการเปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนที่ ระยะทางและการกระจดัของวัตถุจะเปนอยางไร ถาวัตถุนั้นเคลื่อนที่ไมเปนเสนตรงหรือมีการเปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนที่

Page 36: ชุุดกิิจกรรม เรืื่องsci/techer/ac2.pdf · -1- สาระสําคัญของช ุดกิจกรรม เมื่อนักเรียนได

-35- ยอความ ใหนกัเรียนเขียนสรุปสิ่งที่ไดเรียนรูในเรือ่งนี้ดวยภาษาของตนเอง …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… เชื่อมโยงทักษะการคิดเปรียบเทียบ ใหนกัเรียนเปรียบเทียบความเหมือนความแตกตางระหวางระยะทางกบัการกระจดั ระยะทาง การกระจดั

แผนผังเวนเปรียบเทียบความเหมือนและความแตกตางระหวาง

ระยะทางกับการกระจัด

Page 37: ชุุดกิิจกรรม เรืื่องsci/techer/ac2.pdf · -1- สาระสําคัญของช ุดกิจกรรม เมื่อนักเรียนได

-36- กิจกรรมตรวจสอบความเขาใจ ใหนักเรยีนรวมกันคิดหาคําตอบ

จากภาพ เสนทางการเคลื่อนที่ของคนกับไกมีความแตกตางกันอยางไร จุดเริ่มตนและจุดปลาย(จุดสดุทาย)ของการเคลื่อนที่ของคนกับไกอยูตําแหนงเดียวกนัหรือไม อยางไร

ขนาดความยาวของเสนทางการเคลื่อนที่ของคนกับไกแตกตางกันหรือไมอยางไร

ระหวางคนกับไกอะไรเคลื่อนที่ไดระยะทางมากกวากัน เพราะเหตใุด จากภาพการเคลื่อนที่ของคนกับไก เสนไหนแสดงระยะทาง เสนไหนแสดงการกระจัดเพราะเหตใุด

เขียนตอบดวยภาษาของตนเอง เชื่อมโยงทักษะการเขียน/ทักษะการคิดวิเคราะห ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………….

Page 38: ชุุดกิิจกรรม เรืื่องsci/techer/ac2.pdf · -1- สาระสําคัญของช ุดกิจกรรม เมื่อนักเรียนได

-37- กิจกรรมลองทําดู...เรียนรูเก่ียวกับระยะทางและการกระจัดจากสื่อของเลนพื้นบาน วัสดุอุปกรณท่ีตองเตรียม

1. เชือกขาวยาวประมาณ 2 เมตร 2. กะลามะพราว 1 อัน 3. ไมมะขามขนาดเสนผาศูนยกลางประมาณ 1 นิ้ว ยาวประมาณ 2 นิว้ 1 ทอน 4. ไมเสียบลูกชิ้น 1 อัน 5. มีดคัตเตอร 6. กระดาษทราย 7. อุปกรณสําหรับตกแตงเล็กนอย 8. กาวลาเท็กซ 9. ยางรัดของ

วิธีการทําของเลน

1. นํากะลามะพราวมาทําความสะอาด และขัดดวยกระดาษทรายเพื่อให ผิวของกะลาเรยีบและสวยงามขึ้น ดังรูป 2. เจาะรูดานบนหนึ่งรูเพื่อรอยเชือกและดานกน 1 รูเพื่อตดิหาง 3. ใชมีดบากดานขางของกะลาทั้งสองขาง เพื่อติดยางยืดและทอนไม

4. นําทอนไมที่เตรียมไวมาบากใหเปนรองตามยาวทั้งสอง ขางเพื่อยึดยางรัด

5. นํายางรัดของมาใสในรองทั้งสองขางของทอนไม แลว นําปลายขางหนึ่งของเชือกมาผูกทับยางรัดของแลวพัน ใหรอบทอนไม แลวนําปลายเชือกที่เหลืออีกดาน หนึ่งรอยผานทางดานใดกะลาทะลุรูดานบนที่เจาะไว ผูกปลายเชือกติดกับไมเสยีบลูกชิ้นเพื่อยดึเชือกไว

ทอนไม

คําศัพท การกระจดั displacement ระยะทาง distance

Page 39: ชุุดกิิจกรรม เรืื่องsci/techer/ac2.pdf · -1- สาระสําคัญของช ุดกิจกรรม เมื่อนักเรียนได

-38- 6. นําปลายของยางรัดทั้งสองขางไปเกี่ยวกบัรอยบากทั้งสองขางของกะลา ทําการตกแตง

ผลงานใหสวยงามโดยอาจทําเปนสัตวชนิดตาง ๆ ตาม ความสนใจ เชน หนู แมว หมู เตา เปนตน ทําสอบการทํางานของของเลนโดยการดึงเชือก ถากะลาเคลื่อนที่เดินหนาและถอยหลังถือวาใชได

จะเรียนรูอยางไร 1. วางสัตวกะลาไวบนพืน้ ทําเครื่องหมายตรงจุดทีว่างสัตวกะลา 2. ดึงเชือกโดยจับทีไ่มเสียบลูกชิ้น จนสดุเชือกแลวปลอยสัตวกะลาทีพ่ื้นใหเคลื่อนที่อยางอิสระ สังเกตการเคลื่อนที่ของสัตวกะลา ทําการทดลองซ้ําโดยดงึเชือกจนสุดปลายเชือก จากนั้นปลอยสัตวกะลาที่พื้นโดยไมปลอยปลายเชือกแตใหผอนมือตาม เมื่อเชือกพันกลับที่แกนจนสุดใหดงึเชือกจนสุดปลายอีกครั้ง สังเกตการเคลื่อนที่ของสัตวกะลา 3. วิเคราะหปริมาณที่เกิดขึ้นจากการเคลื่อนที่ของสัตวกะลา ในแงของระยะทางและ การกระจดั วาดแสดงการเคลื่อนที่ของสัตวกะลาและระยะทางกับการกระจัดทีเ่กิดขึน้ เขียนบรรยาย ผลการทดสอบและลงขอสรุป วาดภาพแสดงการเคลื่อนที่ของสัตวกะลา เชื่อมโยงวชิาศิลปศึกษา

Page 40: ชุุดกิิจกรรม เรืื่องsci/techer/ac2.pdf · -1- สาระสําคัญของช ุดกิจกรรม เมื่อนักเรียนได

-39- เขียนบรรยายและลงขอสรุปดวยภาษาของตนเอง เชื่อมโยงทักษะการเขียน /ทักษะการคิดวิเคราะห

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………. กิจกรรมที่ 3.4 อัตราเร็วและความเร็วของวัตถ ุ

คิด...จินตนาการ

เมื่อพูดถึงอัตราเร็วและความเรว็ของวัตถุ นักเรยีนคิดถึงอะไร

จินตนาการเกีย่วกับอัตราเร็วและความเร็วของวัตถ ุ ☺ วาดภาพหรือเขยีนขอความเกี่ยวกับอัตราเร็วและความเร็วของวัตถุตามจินตนาการของนกัเรียน

Page 41: ชุุดกิิจกรรม เรืื่องsci/techer/ac2.pdf · -1- สาระสําคัญของช ุดกิจกรรม เมื่อนักเรียนได

-40- ส่ิงที่นักเรียนสนใจอยากรูเกี่ยวกับอัตราเร็วและความเร็วของวัตถุ คําถามสําคัญ เชื่อมโยงทักษะการคดิ

นกัเรียนจะมกีารกําหนดเกณฑอยางไร เพือ่หาผูชนะเลิศในการแขงขนัการวิ่งใน ระยะทาง 500 เมตร ในการแขงขันการวิ่ง นักเรยีนจะบอกไดหรือไมวา ใครวิง่ไดเร็วที่สุด นักเรียนพิจารณา จากอะไร

บอกหนอยวานักเรียนคิดอยางไร เชื่อมโยงทักษะการเขียน ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………….

Page 42: ชุุดกิิจกรรม เรืื่องsci/techer/ac2.pdf · -1- สาระสําคัญของช ุดกิจกรรม เมื่อนักเรียนได

-41- ทักษะการอานจับใจความ ใหนักเรียนศึกษาขอมูลตอไปนี้ เพือ่หาขอสรุปเกี่ยวกับอัตราเร็วและความเรว็

ในการอธิบายเกี่ยวกับการเคลื่อนที่ของวัตถุนั้น ส่ิงแรกทีต่องบอกไดคอื ตองบอกไดวาวัตถุอยูที่ไหน ถาเปนกรณีงายทีสุ่ดคือ วัตถุมีการเคลื่อนที่ในหนึ่งมติิ ซ่ึงก็คือการเคลื่อนที่ในแนวเดียว เชน

รถยนตวิ่งไปตามถนนตรงที่ไมมีทางแยก หรือแมลงเดนิตามเสนลวดตรง หรือการปากอนหนิขึ้นในแนวดิ่งและตกลงมาในแนวเดิม หรือ การเข็นของขึ้นลงพื้นเอียง เปนตน

ความเร็วเปนปริมาณพืน้ฐานอันหนึ่ง ที่ใชอธิบายการเคลื่อนที่ของวัตถุ เกิดขึน้เพราะมนุษยตองการที่จะวดัการกระจัดตอหนวยเวลา นั่นคือตองการที่จะบอกวา วัตถุมีการเปลีย่นแปลงตําแหนงไดเร็วหรือชาเพยีงใด ในทางฟสิกสนั้น คําวา ความเร็ว แตกตางจากอัตราเร็ว โดยที่ความเร็วเปนปริมาณเวกเตอร ความเร็วมีทั้งขนาดและทิศทาง ในขณะที่อัตราเร็วเปนปริมาณสเกลาร ในขณะทีว่ตัถุมีการเคลื่อนที่จะเกิดปริมาณทางฟสิกสทั้งระยะทางและการกระจัดในเวลาเดียวกันและตองใชเวลาในการเคลื่อนที่ จึงทําใหเกิดปริมาณสัมพันธขึน้ปริมาณดังกลาวคือ อัตราเร็วเปนความสัมพันธระหวางระยะทางทีว่ัตถุเคลื่อนที่ไดในหนึ่งหนวยเวลา จัดเปนเปริมาณสเกลาร มีหนวยเปน เมตร/วินาท ี สวนความเร็วเปนความสัมพันธระหวางขนาดของการกระจดัที่วัตถุเคลื่อนที่ไดในหนึ่งหนวยเวลา จดัเปนปรมิาณเวกเตอร ใชหนวยเดยีวกับอตัราเร็ว สมการแสดงความสัมพันธของอัตราเร็ว ระยะทาง และเวลาเปนดังนี ้ ให vv คือ ความเร็ว (เมตรตอวินาที) v คือ อัตราเร็ว (เมตรตอวินาที) S คือ ระยะทาง (เมตร) Sv คือ การกระจัด (เมตร) t คือ เวลาที่ใชในการเคลื่อนที่

สมการการหาอัตราเร็ว คือ tSv = (สมการที่ 1)

Page 43: ชุุดกิิจกรรม เรืื่องsci/techer/ac2.pdf · -1- สาระสําคัญของช ุดกิจกรรม เมื่อนักเรียนได

-42-

และสมการการหาความเร็ว คอื tSvv

v = (สมการที่ 2)

อัตราเร็ว และความเร็ว เปนปริมาณที่แสดงใหทราบลักษณะการเคลื่อนที่ของวัตถุถาในทุก ๆ หนวยเวลาของการเคลื่อนที่ วัตถุเคลื่อนที่ดวยขนาดของอัตราเร็วหรือความเร็วเทากนัตลอด การเคลื่อนที่ เรียกวาวัตถุเคลื่อนที่ดวยอัตราเร็วสม่ําเสมอหรืออัตราเร็วคงที่ ถาพิจารณาแลวพบวาในแตละหนวยเวลาของการเคลื่อนที่วัตถุเคลื่อนที่

ดวยอัตราเร็วหรือความเร็วที่แตกตางกัน กลาวไดวา วัตถุเคลื่อนที่ดวยอัตราเรงหรือความเรง อัตราเร็วหรือความเร็วที่เราพูดถึงกันทั่วไปมักจะหมายถึงอัตราเร็วเฉลี่ยหรือความเร็วเฉลี่ย เปนการหาคาอัตราเร็วหรือความเร็วหลังจากมีการเคลื่อนที่โดยคํานวณหาจากการเฉลี่ยระยะทางทั้งหมดของการเคลื่อนที่ในหนึ่งหนวยเวลาของการเคลื่อนที่หรือการเฉลี่ยการกระจดัของการเคลื่อนที่ในหนึ่งหนวยเวลา

ชวยกันคิด...ตอบคําถาม วัตถุที่เคลือ่นที่ดวยความเร็วสม่ําเสมอ คาความเร็วขณะใดขณะหนึ่งกับคาความเร็วเฉลี่ย มีคาเทากนัหรือไม เพราะเหตใุด วัตถุเปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนที่ตลอดเวลาแตขนาดของความเร็วมีคาสม่ําเสมอ วัตถุมี คาความเร็วเฉลี่ยเทากับความเร็วขณะใดขณะหนึ่งหรือไม

บอกหนอยวานักเรียนคิดอยางไร เชื่อมโยงทักษะการเขียน

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………….

Page 44: ชุุดกิิจกรรม เรืื่องsci/techer/ac2.pdf · -1- สาระสําคัญของช ุดกิจกรรม เมื่อนักเรียนได

-43- มารวมกัน...ตรวจสอบ เก่ียวกับอัตราเร็วและความเร็วของวัตถ ุ วัตถุประสงค

1. ทําการทดลองเพื่อหาอัตราเรว็เฉลี่ยและความเร็วเฉลี่ยของการเคลื่อนที่ในแนวตรงได

วัสดุอุปกรณ 1. หลอดดาย 2. ยางวง 3. ไมเสียบลูกชิ้น 4. เทียนไข 5. ไฟแชก 6. ฝาเครื่องดื่ม 7. นาฬิกาจับเวลา 8. สายวัด

มาทํารถหลอดดายกนักอน 1. เตรียมอุปกรณดงัตอไปนี ้ ยางวง ไฟแชกและเทียนไข หลอดดาย ไมเสียบลูกชิ้น 2. จุดเทียนแลวหยดน้ําตาเทียนลงในฝาเครื่องดืม่ที่เปนโลหะ จากนั้นรอนเทียนออกแลว เจาะรูตรงกลาง

คําศัพท ความเร็ว velocity อัตราเร็ว speed ความเรง acceleration พลังงาน energy

แนะนําแหลงสืบคน 1. หนังสือหองสมุด 2. แบบเรียนวทิยาศาสตร 3. e-learning.snru.ac.th/els/scilife 4. http://www.prd.go.th 5. school.obec.go.th

Page 45: ชุุดกิิจกรรม เรืื่องsci/techer/ac2.pdf · -1- สาระสําคัญของช ุดกิจกรรม เมื่อนักเรียนได

-44- 3. นําไมเสียบลูกชิ้นหักเปนทอนเล็กๆ ผูกปลายหนังยางไวดานหนึ่ง นํายางวงมารอยผานรู ดันยางวงสอดผานรูใหออกไปอีกดาน

4. นําแผนเทียนไข ยางรัดของมาประกอบเขากับหลอดดาย ใชไมเสียบลูกชิ้นอีกอันมาขัดไวดังรูป ทดสอบการทํางานของรถหลอดดาย โดยหมนุที่ไมหมุน(ไมเสียบลูกชิ้น) แลวปลอยลงพื้น ถารถหลอดดายวิ่งแสดงวาใชได

เรียนรูอยางไร

ตอนที่ 1 1. หมุนไมหมุน(ไมเสยีบลูกชิ้น) จํานวน 100 รอบ ในลักษณะออกนอกตวั จากนั้นปลอยรถ

หลอดดายลงบนพื้นที่เตรยีมไว สังเกตการเคลื่อนที่ของรถหลอดดาย บันทึกผลการทดลอง 2. หมุนไมหมุน(ไมเสยีบลูกชิ้น) จํานวน 100 รอบ ในลักษณะเขาหาตัว จากนั้นปลอยรถหลอดดายลงบนพื้นที่เตรียมไว สังเกตการเคลื่อนที่ของรถหลอดดาย บันทึกผลการทดลอง

ตอนที่ 2 1. หมุนไมหมุน(ไมเสยีบลูกชิ้น) จํานวน 100 รอบ ในลักษณะออกนอกตวั จากนั้นนําแผน เทียนไขออก ปลอยรถหลอดดายลงบนพื้นที่เตรยีมไว สังเกต

การเคลื่อนที่ของรถหลอดดาย บันทึกผลการทดลอง 2. หมุนไมหมุน(ไมเสยีบลูกชิ้น) จํานวน 100 รอบ ในลักษณะออกนอกตวั ทําเครื่องหมายทีพ่ื้นที่จะปลอยรถหลอดดาย จากนั้นปลอยรถหลอดดายลงบนพืน้จับเวลาที่รถหลอดดายใชในการเคลื่อนทีจ่นหยุด

สังเกตเสนทางการเคลื่อนที่ของรถหลอดดาย วัดขนาดของระยะทางและการกระจัดของรถหลอดดาย จากนั้นคํานวณหาอัตราเรว็เฉลี่ยและความเร็วเฉลี่ยของรถหลอดดาย บันทึกผลการทดลอง

Page 46: ชุุดกิิจกรรม เรืื่องsci/techer/ac2.pdf · -1- สาระสําคัญของช ุดกิจกรรม เมื่อนักเรียนได

-45- 3. หมุนไมหมุน(ไมเสียบลูกชิ้น) จํานวน 150 รอบ ในลักษณะออกนอกตวั ทําเครื่องหมายที่พื้นที่จะปลอยรถหลอดดาย จากนั้นปลอยรถหลอดดายลงบนพื้นจับเวลาที่รถหลอดดายใชในการเคลื่อนที่จนหยุด สังเกตเสนทางการเคลื่อนที่ของรถหลอดดาย วดัขนาดของระยะทางและการกระจัดของรถหลอดดาย จากนั้นคาํนวณหาอัตราเร็วเฉลี่ยและความเร็วเฉลีย่ของรถหลอดดาย บันทึกผล การทดลอง

มาชวยกันคดิ...ชวยกันตอบ ⌦ เชื่อมโยงทักษะการคิดเชิงวิทยาศาสตร

1. จากการทดลองนี้ นักเรยีนคดิวานาจะตั้งสมมติฐานของการทดลองวาอยางไร 2. จากการทดลอง ตัวแปรตน คือ ............ ตัวแปรตาม คือ ........... ตัวแปรควบคุม คือ ............... 3. ถานักเรียนอยากทราบวา การเคลื่อนที่ของรถหลอดดายขึ้นอยูกับปจจัยอะไรบาง นักเรียนจะ ออกการทดลองอยางไรไดบาง

บอกหนอยวานักเรียนคิดอยางไร เชื่อมโยงทักษะการเขียน …………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………

Page 47: ชุุดกิิจกรรม เรืื่องsci/techer/ac2.pdf · -1- สาระสําคัญของช ุดกิจกรรม เมื่อนักเรียนได

-46- มารวมกันคิดออกแบบบันทึกผลการทดลอง เชื่อมโยงทักษะการเขียน/ทักษะการคิด …………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………………………………………………………………. หาขอสรุปรวมกัน เชื่อมโยงทักษะการคิด(การสรุปอางองิ/การใหเหตุผล) 1. เมื่อนักเรียนหมุนไมหมนุ จํานวน 100 รอบ ยางรัดจะมีลักษณะอยางไร และเมื่อวางรถหลอดดาย บนพื้น รถหลอดดายจะเคลื่อนที่หรือไมอยางไร

………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………..

2. ถาหมุนไมหมุนจํานวน 100 รอบ แลวนําแผนเทยีนไขออก เมื่อวางรถหลอดดายบนพื้น รถหลอดดายจะเคลื่อนทีห่รือไม เพราะเหตุใด

......................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................... …………………………………………………………………………………………………..

Page 48: ชุุดกิิจกรรม เรืื่องsci/techer/ac2.pdf · -1- สาระสําคัญของช ุดกิจกรรม เมื่อนักเรียนได

-47- 3. เมื่อนําแผนเทียนไขประกอบเขารถหลอดดายดังเดิม แลวหมุนแทงไมใหยางหมุนจาํนวน 100 รอบ และ 150 รอบ ทําเครื่องหมายบนพื้นทีจ่ะวางรถหลอดดาย ปลอยรถหลอดดายเคลื่อนที่พรอมจับเวลา สังเกตการเคลื่อนที่ของรถหลอดดายวัดขนาดของระยะทางและการกระจัดที่รถหลอดดายเคลื่อนที่ได นักเรียนมีวธีิการคํานวณหาอัตราเร็วเฉลี่ยและความเร็วเฉลี่ยของการเคลื่อนที่ของรถหลอดดายได อยางไร ผลที่ไดแตกตางกันหรือไมอยางไร เพราะเหตุใด

.........................................................................................................................................................

.........................................................................................................................................................

.........................................................................................................................................................

.........................................................................................................................................................

......................................................................................................................................................... 4. รวมกันคิดวาถาไมใชหลอดดายเปนตัวรถ จะใชอะไรแทน ใหออกแบบและวาดภาพแสดง แนวความคิด แลวสรางสิ่งประดิษฐตามแบบ

รวมกันคิด... รวมกันสรุปผลการทดลอง เชื่อมโยงทักษะการเขียน /ทักษะการคิด (การผสมผสานขอมูล) …………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

Page 49: ชุุดกิิจกรรม เรืื่องsci/techer/ac2.pdf · -1- สาระสําคัญของช ุดกิจกรรม เมื่อนักเรียนได

-47- คําถามสําคัญ เชื่อมโยงทักษะการคดิ

นกัเรียนคดิวาอะไร ทําใหรถหลอดดายเกิดการเคลื่อนที่ ถาไมมียางรัดของ และนักเรียนไมหมุนไมหมุนใหยางรัดพันเปนเกลียวรถหลอดดาย จะเคลื่อนที่ไดหรือไม เพราะเหตุใด ส่ิงเหลานี้มีความสําคญัอยางไร ถานักเรียนจะใชรถหลอดดายของนักเรียนศึกษาเกีย่วกับแรงเสียดทาน นกัเรียนจะออกแบบ วิธีการทดลองอยางไร

เขียนอธิบายวานักเรียนคิดอยางไร เชื่อมโยงทักษะการเขียน ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………

Page 50: ชุุดกิิจกรรม เรืื่องsci/techer/ac2.pdf · -1- สาระสําคัญของช ุดกิจกรรม เมื่อนักเรียนได

-49- เชื่อมโยงคณิตศาสตร ทักษะการคิด(แปลความหมายขอมูล) จากรูป สมมติวามนษุยวิ่งระยะสั้นดวยอัตราเร็วคงที่ มนุษยจะวิ่งไดระยะทางเทาใด ภายในเวลา 3 ช่ัวโมง และระยะทางที่มนุษยวิ่งไดแตกตางจากระยะทางที่ทากและ เสือซีตาหเคลื่อนที่ไดอยางไรในเวลาเทากนั เขียนตอบตามความเขาใจ …………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

Page 51: ชุุดกิิจกรรม เรืื่องsci/techer/ac2.pdf · -1- สาระสําคัญของช ุดกิจกรรม เมื่อนักเรียนได

-50- เชื่อมโยง การเขียน คณิตศาสตร สังคมศึกษา เขียนบรรยาย คํานวณอัตราเร็วเฉล่ีย อัตชีวประวตั ิ สมมติวานักเรียนเปน ใหนักเรยีนคนหาขอมูล อริสโตเติล กาลิเลโอและ ผูพากยกฬีา ใหเขียนบทบรรยาย เกี่ยวกับการวิ่ง 3 ประเภทไดแก นิวตันตางกศ็ึกษาเกี่ยวกับแรง การเคลื่อนที่ในกีฬานั้น ๆ รวมทั้ง วิ่ง 100 เมตร 400 เมตรและการ และการเคลือ่นที่ ใหนกัเรียน นําความรูเร่ือง ปริมาณทางฟสิกส วิ่งมาราธอนที่ไดรับการบันทึก คนควาขอมลูจากแหลงเรยีนรู อัตราเร็ว ความเร็ว มาใชใน เปนสถิติโลก จากนัน้ คํานวณ ตาง ๆ เพื่อหาวามีนักวิทยาศาสตร บทบรรยายนีด้วย อัตราเร็วเฉลี่ยของนักวิ่งแตละ ในประเทศใดบางที่ศึกษา ประเภทและใหนักเรียนอธิบาย เกี่ยวกับเรื่องนี้ แลวเลือก วาอัตราเร็วเฉลี่ยของนักวิ่ง นักวิทยาศาสตร 1 คน เตรียมนํา ประเภทใดมกีารเปลี่ยนแปลง เสนอหนาชัน้เรียน มากที่สุด คิดถึงสิ่งที่เรียนรู ☺ คิดเชื่อมโยง ภาษาไทย

การเขียนบรรยายถึงสิ่งที่ไดเรียนรู ในหนวยการเรียนรูที่ 3 การเคลื่อนที่ในชีวิต โดยใชภาษาของนักเรยีนเอง บันทึก ......................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................... .........................................................................................................................................................

Page 52: ชุุดกิิจกรรม เรืื่องsci/techer/ac2.pdf · -1- สาระสําคัญของช ุดกิจกรรม เมื่อนักเรียนได

สารบัญ

เร่ือง หนา สาระสําคัญของชุดกิจกรรม 1 จุดประสงค 2 แผนผังมโนทัศนสาระการเรยีนรูการเคลื่อนที่ในชวีิต 3 ตารางหนวยการเรียนรู 4 กิจกรรมที่ 1.1 ของเลนพื้นบานของเรา 5 กิจกรรมที่ 1.2 เลาขาน...ความเปนมา 8 กิจกรรมที่ 1.3 จําแนก..แยกแยะ...ของเลนพื้นบาน 12 กิจกรรมที่ 1.4 ตามหา...ของเลนพื้นบานทีฉ่ันอยากรูจกั 13 กิจกรรมที่ 2.1 ปริมาณสเกลารและปริมาณเวกเตอร 15 กิจกรรมที่ 2.2 วิเคราะหปริมาณเวกเตอรและปริมาณสเกลาร ดวยส่ือของเลนพื้นบาน 18 กิจกรรมที่ 2.3 จะรวมปริมาณเวกเตอรไดอยางไร 20 กิจกรรมที่ 3.1 ความหมายของการเคลื่อนที่ 25 กิจกรรมที่ 3.2 วิเคราะหการเคลื่อนที่ของวัตถุ 28 กิจกรรมที่ 3.3 มารูจักการกระจัดและระยะทาง 31 กิจกรรมที่ 3.4 อัตราเร็วและความเรว็ของวัตถุ 39

Page 53: ชุุดกิิจกรรม เรืื่องsci/techer/ac2.pdf · -1- สาระสําคัญของช ุดกิจกรรม เมื่อนักเรียนได

ชุดกิจกรรมการเรียนการสอน (สําหรับนกัเรียน)

เร่ือง เรียนรูการเคลือ่นที่ในชีวิตดวยสื่อของเลนพื้นบาน

ที่ปรึกษาจากสถานบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี นางนันทิยา บุญเคลือบ ผูเชี่ยวชาญพิเศษ

นางดวงสมร คลองสาระ ผูชวยผูอาํนวยการ ผูพัฒนา ณัฐภัสสร เหลาเนตร ครูชาํนาญการพิเศษ โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย พิษณุโลก