คูมอื

การเบิกคาเชาบานของขาราชการ สํานักงานปลดักระทรวงมหาดไทย

โดย นางวนัเพญ็ มงัศร ี

คํานํา

คูมือการเบิกคา เช าบ านเลมนี้ มุ งที่ จะใหข าราชการของสํานักงาน

ปลัดกระทรวงมหาดไทยมีคูมือใชเปนแนวทางปฏิบัติในการเบิกคาเชาบาน และเจาหนาที่การเงินใชเปนแนวทางในการเบิกจายเงินคาเชาบาน โดยไดแบงเนื้อหาสาระ ออกเปน 5 บท ประกอบดวย

บทที่ 1 บทนํา บทที่ 2 สาระสําคัญของกฎหมายที่เกี่ยวของกับการเบิกคาเชาบาน บทที่ 3 ขั้นตอนและวิธีเบิกคาเชาบานขาราชการ บทที่ 4 ถาม-ตอบปญหาการเบิกคาเชาบาน บทที่ 5 บทสรุป

ผูจัดทํา ขอขอบคุณเจาหนาที่กลุมงานบัญชีที่ชวยตรวจทานความถูกตองของขอมูลทุกทาน หวังวาคูมือเลมนี้จะเปนประโยชนตอไป

(นางวันเพ็ญ มังศรี) 10 สิงหาคม 2553

สารบัญ

หนา คูมือการเบิกคาเชาบาน

บทที่ 1 : บทนํา 1. ความเปนมาและสภาพปญหา 1 2. วัตถุประสงค 1 3. ขอบเขต 2 4. ความหมายและคําจํากดัความ 2 5. ขั้นตอนการดําเนินการ 2 6. ประโยชนที่คาดวาจะไดรับ 3 7. ผูจัดทํา 3 บทที่ 2 : กฎหมายที่เกี่ยวของกับการเบิกคาเชาบานขาราชการ

กฎหมายและระเบียบท่ีเก่ียวของ 4 สาระสําคัญของพระราชกฤษฎกีาคาเชาบานขาราชการ พ.ศ.2547 และที่แกไขเพิ่มเติม 4 1. ขาราชการที่ไดสิทธิการเบิกคาเชาบาน 4 2. ทองที่ในการใชสิทธิเบิกคาเชาบาน 4 3. ผูที่มีสิทธิเบิกคาเชาบาน 5 4. การใชสิทธิเบิกคาเชาบาน 5 5. การเริ่มตนและสิ้นสุดแหงสิทธิที่จะไดรับคาเชาบาน 6 6. ประเภทคาเชาบานขาราชการ 7 7. ผูมีสิทธิเบิกคาเชาซ้ือ หรือคาผอนชําระเงินกูเพื่อชําระราคาบาน 7 8. อัตราคาเชาบานขาราชการ 8 สาระสาํคัญของระเบยีบกระทรวงการคลงัวาดวยหลักเกณฑและวิธีการเกี่ยวกับการเบิกจายเงนิคาเชาบาน พ.ศ.2549 และที่แกไขเพิ่มเติม

1. สถานที่ยื่นคําขอรับคาเชาบาน 2. ขอมูลประกอบการยื่นแบบขอรับคาเชาบาน

10

3. ผูมีอํานาจรับรองการมีสิทธิไดรับคาเชาบานของขาราชการ 10

สารบัญ (ตอ)

หนา 4. ผูมีอํานาจอนุมตัิการใหเบกิคาเชาบานในแบบ 6005 11 5. การยื่นแบบขอเบิกเงินคาเชาบาน (แบบ 6006) 12 6. สถาบันการเงินที่กระทรวงการคลังรับรอง 12 7. เหตุที่ยืน่แบบขอรับคาเชาบานฉบับใหม 13 8. การมีช่ือคูสมรสแตเพียงฝายเดยีวในสัญญาเชาบาน เชาซ้ือ เงินกู

เพื่อชําระราคาบาน 13

9. การขยายวงเงนิกูหรือขยายระยะเวลาการผอนชําระเงนิกูเพื่อชําระราคาบาน 14 10. การยายสถานที่ทาํการของสํานักงานไปตั้งในทองที่ใหม 15

บทที่ 3 : ขั้นตอนการเบิกคาเชาบาน 15 1. การยื่นแบบขอเบิกคาเชาบาน (แบบ 6005) 16 2. ผูมีอํานาจรับรองการใชสิทธิการขอเบิกคาเชาบานของขาราชการ 19 3. การแตงตั้งคณะกรรมการตรวจสอบขอเท็จจริงการใชสิทธิเบิกคาเชาบาน 20 4. การรายงานผลการตรวจสอบขอเท็จจริงการใชสิทธิเบิกคาเชาบาน 21 5. การยื่นแบบขอเบิกคาเชาบานประจําเดือน (แบบ 6006) 23 6. การตรวจสอบหลักฐานขอเบกิคาเชาบาน 24 7. ผูมีอํานาจอนมุัติเบิกจายเงินคาเชาบาน 24 8. การ ดําเนินการเบิกจายเงินคาเชาบานใหขาราชการ

บทที่ 4 : ถาม-ตอบปญหาการเบิกคาเชาบานขาราชการ 26

บทที่ 5 : บทสรุป 31

บรรณานุกรม 32

ภาคผนวก ก : พระราชกฤษฎีกาคาเชาบานขาราชการ พ.ศ.2547 และที่แกไขเพิ่มเติม 33 ข : ระเบียบกระทรวงการคลังวาดวยการเบิกจายเงินคาเชาบาน พ.ศ.2549 และที่แกไขเพิ่มเติม

53

1

บทที่ 1 บทนํา

1. ความเปนมาและสภาพปญหา

1.1 ความเปนมา คาเชาบาน เปนคาตอบแทนซึ่งทางราชการจายใหกับขาราชการ ที่ไดรับความเดือดรอนใน

เร่ืองที่อยูอาศัยเพราะทางราชการเปนเหตุ เนื่องจากไดรับคําสั่งใหไปปฏิบัติราชการเปนการประจําใน ตางทองที่ และไมมีที่อยูอาศัยของตนเองหรือของสามี/ภรรยาที่พอจะอาศัยอยูไดในทองที่นั้น โดยขาราชการผูเบิกตองเชาและอาศัยอยูจริงจึงจะมีสิทธินําหลักฐานการเชาบานมาเบิกคาเชาบานจากทางราชการไดไมเกินอัตราที่กระทรวงการคลังกําหนด ดังนั้น คาเชาบานจึงไมใชเงินสวัสดิการที่จัดใหกับขาราชการ เพราะสวัสดิการจะมีลักษณะที่ทุกคนจะตองไดเหมือนกัน แตคาเชาบานถือวาเปนการสรางขวัญและกําลังใจในการปฏิบัติงานใหแกขาราชการเฉพาะบุคคลที่ไดรับความเดือดรอนเรื่องที่อยูอาศัยเนื่องจากทางราชการเปนเหตุ

1.2 สภาพปญหา ในปหนึ่ง ๆ สํานักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย มีขาราชการขอเบิกคาเชาบานไมนอยกวา

1,000 ราย โดยจํานวนดังกลาวมีทั้งการเบิกในลักษณะ คาเชาบานพัก คาเชาซื้อ คาผอนชําระเงินกูเพื่อซ้ือบานหรือเพื่อปลูกบาน ซ่ึงการเบิกในแตลักษณะจะมีเงื่อนไขหรือองคประกอบในการดําเนินการไมเหมือนกัน และมีกฎหมาย ระเบียบ ที่เกี่ยวของหลายฉบับ โดยเฉพาะการขอเบิกคาเชาบานครั้งแรกตองดําเนินการหลายขั้นตอนและใชเอกสารประกอบการพิจารณาจํานวนมาก ทําใหยากตอการเขาใจและเกิดความสับสนในขั้นตอนดําเนินการขอเบิกคาเชาบานของขาราชการ จากปญหาดังกลาวจึงเปนเหตุ จูงใจใหจัดทําคูมือการเบิกเชาบานขึ้น เพื่อเปนแนวทางปฏิบัติใหกับขาราชการสํานักงานปลัดกระทรวงมหาดไทยทั้งฝายผูขอเบิกคาเชาบานและผูทําหนาที่เบิกจายเงินตอไป 2. วัตถุประสงค

2.1 เพื่อเปนคูมือใหขาราชการสํานักงานปลัดกระทรวงมหาดไทยทัง้สวนกลางและ สวนภูมภิาคผูมีสิทธิเบิกคาเชาบานใชเปนแนวปฏิบัตใินการเบิกคาเชาบานตามระเบยีบของทางราชการ

2.2 เพื่อเปนคูมือใหเจาหนาทีก่ารเงินสํานักงานปลัดกระทรวงมหาดไทยทั้งสวนกลางและสวนภูมภิาคไดแนวทางในตรวจสอบความครบถวน ถูกตองของเอกสารการเบกิจายคาเงินคาเชาบาน

2

3. ขอบเขต คูมือการเบิกคาเชาบานขาราชการสํานักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย จะกลาวถึง ระเบียบ

ของทางราชการที่เกี่ยวของกับการเบิกคาเชาบาน แบบฟอรมที่ใชในการยื่นขอเบิกคาเชาบาน วิธีการและขั้นตอนการยื่นแบบขอเบิกคาเชาบาน และถาม-ตอบปญหาคาเชาบานที่เกิดขึ้นบอย 4. ความหมายและคําจํากัดความ

เพื่อใหเขาใจความหมายการเบิกคาเชาบานขาราชการ ผูอานควรทําความเขาใจเกี่ยวกับความหมายของคําที่เกี่ยวของ ตอไปนี้ “เงินเดือน” หมายความวา เงินเดือนสุทธิที่ขาราชการไดรับ ทั้งนี้ เมื่อหักเงินเบิกลดเนื่องจากการปรับชั้นเงินเดือนออกแลว และรวมกับเงินเพิ่มพิเศษรายเดือนสําหรับคาวิชาหรือเงินเพิ่มการเล่ือนฐานะ หรือสําหรับประจําตําแหนงที่ตองฝาอันตรายเปนปกติหรือสําหรับการสูรบ “สถาบันการเงิน” หมายความวา สถาบันการเงิน รัฐวิสาหกิจ หรือสหกรณที่ดําเนินกิจการเกี่ยวกับการเคหะ ทั้งนี้ ตามที่กระทรวงการคลังกําหนด และกองทุนบําเหน็จบํานาญขาราชการ ตามกฎหมายวาดวยกองทุนบําเหน็จบํานาญขาราชการ “ทองที่” หมายความวา กรุงเทพมหานคร อําเภอ กิ่งอําเภอ หรือทองที่ของอําเภอหรือ กิ่งอําเภอที่กระทรวงการคลังประกาศกําหนดใหเปนทองที่เดียวกัน “ทองที่ที่เร่ิมรับราชการครั้งแรก” หมายความวา ทองที่ที่ไดรับการบรรจุและแตงตั้ง ใหปฏิบัติราชการ หรือมีคําสั่งใหไปปฏิบัติราชการ และไดมีการรายงานตัวเพื่อปฏิบัติราชการตาม พระราชกฤษฎีกานี้เปนครั้งแรก “ทองที่ที่กลับเขารับราชการใหม” หมายความวา ทองที่ที่กลับเขารับราชการเปนขาราชการตามพระราชกฤษฎีกานี้ “ภัยพิบัติ” หมายความวา ภัยธรรมชาติหรือความเสียหายอยางใด ๆ ซ่ึงเกิดขึ้นโดยที่ ผูซ่ึงไดรับความเสียหายนั้นไมมีสวนที่จะตองรวมรับผิดดวย 5. ขั้นตอนการดําเนินการ

5.1 รวบรวม ศึกษา กฎหมาย ระเบยีบ ทีเ่กี่ยวกับการเบกิคาเชาบานของขาราชการ และขั้นตอนการดําเนินการเบิกคาเชาบานของขาราชการ และเจาหนาที่ผูทําหนาที่เบิกจายเงินคาเชาบานของสํานักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย

5.2 กําหนดโครงรางเนื้อหาของคูมือ และจัดทําเปนรางคูมือ 5.3 จัดสงรางคูมือใหผูเชี่ยวชาญดานการเบิกคาเชาบานของขาราชการตรวจสอบความ

ถูกตองของเนือ้หา ปรับปรุงเนื้อหา และจดัทาํเปนคูมือ

3

6. ประโยชนท่ีคาดวาจะไดรับ

6.1 ขาราชการสํานักงานปลัดกระทรวงมหาดไทยทั้งสวนกลางและสวนภูมิภาค เกดิความเขาใจวิธีการและหลกัเกณฑการเบกิคาเชาบานทีถู่กตองตามกฎหมายหรือระเบียบของทางราชการ

6.2 ขาราชการผูมีสิทธิเบิกคาเชาบานของสาํนักงานปลดักระทรวงมหาดไทยทั้งสวนกลางและสวนภูมภิาค ไดแนวทางในการเบกิคาเชาบานตามระเบียบของทางราชการ

6.3 ใหเจาหนาที่การเงินสํานกังานปลัดกระทรวงมหาดไทยทั้งสวนกลางและสวนภูมภิาคไดแนวทางในการตรวจสอบความครบถวน ถูกตองของเอกสารการเบกิคาเงนิคาเชาบาน และดําเนนิการ เบิกจายเงนิ คาเชาบานไดถูกตองตามระเบยีบของทางราชการ

6.4 การเบิกจายเงินในภาพรวมของสํานักงานปลัดกระทรวงมหาดไทยมีขอผิดพลาดลดลง

7. ผูจัดทํา นางวันเพ็ญ มังศรี นักวิชาการเงินและบัญชี กลุมงานบัญชี กองคลัง สป. มท.

4

บทที่ 2 กฎหมายที่เกี่ยวของกับการเบิกคาเชาบานขาราชการ

กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวของ 1. พระราชกฤษฎีกาคาเชาบานขาราชการ พ.ศ. 2547 2. พระราชกฤษฎีกาคาเชาบานขาราชการ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2550 3. พระราชกฤษฎีกาคาเชาบานขาราชการ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2552 4. ระเบียบกระทรวงการคลังวาดวยการเบิกจายเงินคาเชาบาน พ.ศ. 2549 5. ระเบียบกระทรวงการคลังวาดวยการเบิกจายเงินคาเชาบาน พ.ศ. 2552

สรุปสาระสําคัญของพระราชกฤษฎีกาคาเชาบานขาราชการ พ.ศ. 2547 และที่แกไขเพิ่มเติม

1 ขาราชการทีไ่ดรับสิทธิการเบิกคาเชาบาน (มาตรา 4) 1.1 ขาราชการพลเรือน 1.2 ขาราชการฝายตุลาการ 1.3 ขาราชการฝายอัยการ 1.4 ขาราชการพลเรือนในมหาวิทยาลัย 1.5 ขาราชการฝายรัฐสภา 1.6 ขาราชการตํารวจ 1.7 ขาราชการทหาร

1.8 ขาราชการครู

2 ทองท่ีในการใชสิทธิเบิกคาเชาบาน (มาตรา 4 วรรค 4) “ ทองที่” หมายถึง

2.1 กรุงเทพมหานคร 2.2 กรณีเปนตางจังหวัด คอื อําเภอหรือกิง่อําเภอ 2.3 ทองที่ที่กระทรวงการคลังกําหนดใหเปนทองที่เดียวกันตามมาตรา 5 ยังไมเคยมีการกําหนด

5

3 ผูท่ีมีสิทธิเบิกคาเชาบาน

3.1 ขาราชการที่ไดรับคําสั่งใหเดินทางไปประจําสํานักงานในตางทองที ่ (มาตรา 7 แหง พ.ร.ฎ. คาเชาบาน พ.ศ. 2547)

3.2 ขาราชการผูที่ไดรับคําสั่งใหเดินทางไปประจําสํานักงานในทองที่ที่เร่ิมรับราชการครั้งแรกหรือทองที่ที่กลับเขารับราชการใหม ใหมีสิทธิการไดรับคาเชาบานขาราชการเมื่อไดรับคําสั่งใหเดินทางไปประจําสํานักงานในตางทองที่ (มาตรา 7 แหง พ.ร.ฎ. คาเชาบาน ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2550)

ขอยกเวนตาม 3.1-3.2 ไมสามารถเบิกคาเชาบานไดหากเขาขายขอหาม ดังตอไปนี้ (มาตรา 7) (1) ทางราชการไดจัดที่พกัใหอยูแลว (2) มีเคหสถานอันเปนกรรมสิทธิ์ของตนเองหรือคูสมรสในทองที่ไปประจํา

สํานักงานใหมโดยไมมีหนี้คางชําระกับสถาบันการเงิน (3) ไดรับคําสั่งใหเดินทางไปประจําสํานักงานใหมในตางทองที่ตามคํารองขอของตนเอง

3.3 ขาราชการผูซ่ึงตองไปปฏิบัติราชการประจําในตางทองที่เนื่องจากสํานักงานเดิมยายไป ตั้งทองที่ใหมมีสิทธิเบิกคาเชาบาน เวนแต ทองที่ใหมที่สํานักงานเดิมยายไปอยูใกลเคียงกับทองที่สํานักงานเดิม ตามหลักเกณฑที่กระทรวงการคลังกําหนด (มาตรา 8)

3.4 ขาราชการไดรับคําส่ังใหยายไปในทองที่มีเคหสถานของตนเองหรือคูสมรส แมกรรมสิทธิ์จะโอนไปแลว เวนแต บานนั้นถูกทําลายหรือเสียหายดวยภัยพิบัติ จนไมสามารถอาศัยอยูได (มาตรา 9) 4 การใชสิทธิเบิกคาเชาบาน

4.1 ขาราชการและคูสมรสรับราชการในทองที่เดียวกันและตางก็มีสิทธิไดรับคาเชาบาน ใหเบิกจายไดเฉพาะคนใดคนหนึ่ง (มาตรา 10)

4.2 ขาราชการที่ถูกตัดเงินเดือน หรือ การลาโดยไมมีสิทธิไดรับเงินเดือน ไมกระทบตอสิทธิที่จะไดรับคาเชาบาน ใหมีสิทธิไดรับคาเชาบานขาราชการเสมือนหนึ่งไมมีการลดหรืองดเบิกจายเงินเดือน เวนแตเปนการลาติดตามคูสมรสซึ่งยายไปรับราชการในตางประเทศ (มาตรา 12)

4.3 ขาราชการถูกสั่งพักราชการหรือถูกสั่งใหออกจากราชการไวกอน หรือมีกรณีอ่ืนใด อันเปนเหตุใหถูกงดเบิกจายเงินเดือน ใหงดเบิกจายคาเชาบานขาราชการ เมื่อกรณีถึงที่สุดถาปรากฏวา ผูนั้นมีสิทธิไดรับเงินเดือนในระหวางกรณีเชนวานั้นสําหรับเดือนใด ใหมีสิทธิไดรับคาเชาบาน (มาตรา 13)

4.4 ขาราชการซึ่งไดรับคาเชาบานในทองที่หนึ่ง ตอมาไดรับคําสั่งใหยายไปตางทองที่ซ่ึงตน มีสิทธิไดรับคาเชาบาน มีสิทธินําหลักฐานการชําระคาเชาบาน (คาผอนชําระคาเชาซื้อหรือผอนชําระเงินกู) ในทองที่เดิมมาเบิกคาเชาบานในทองที่ใหมได (มาตรา 15 , 18)

6

4.5 ขาราชการมีสิทธิไดรับคาเชาบานตามพระราชกฤษฎีกานี้ไดเชาซื้อหรือผอนชําระเงินกู

เพื่อชําระราคาบานในทองที่ประจําสํานักงานใหมเพื่อใชเปนที่อยูอาศัยและไดอาศัยอยูจริงในบานนั้นใหขาราชการนําหลักฐานการผอนชําระคาเชาซื้อหรือผอนชําระเงินกูมาเบิกคาเชาบานจากทางราชการได ไมเกินจํานวนที่กําหนดตามบัญชีอัตราคาเชาบานขาราชการตามเงื่อนไขตอไปนี้(มาตรา 17)

(1) ตนหรือคูสมรสไดทําการผอนชําระคาเชาซื้อหรือผอนชําระเงินกูเพื่อชําระราคาบานในทองที่นั้น จะเบิกไดเฉพาะบานหลังแรกเทานั้น เวนแต บานหลังที่เคยใชสิทธิถูกทําลายหรือเสียหายเนื่องจากภัยพิบัติจนไมสามารถพักอาศัยอยูได

(2) หากเชาซื้อหรือผอนชําระราคาบานรวมกับบุคคลอื่นที่ไมใชคูสมรสและมีกรรมสิทธิ์ รวมกับบุคคลอื่นจะเบิกจายคาเชาซื้อหรือผอนชําระเงินกูไดตามสัดสวนแหงกรรมสิทธิ์สําหรับบานดังกลาว

(3) จะตองเปนการผอนชําระคาเชาซื้อหรือผอนชําระเงินกูเพื่อชําระราคาบานกับสถาบันการเงิน

(4) ตองไมเคยใชสิทธินําหลักฐานการชําระคาเชาซื้อหรือการผอนชําระเงินกูสําหรับบานหลังหนึ่งหลังใดในทองที่นั้นมาแลว เวนแต ถูกแตงตั้งใหกลับเขารับราชการในทองที่ที่เคยใชสิทธินั้นและเปนการใชสิทธินําหลักฐานการชําระคาเชาซื้อหรือการผอนชําระเงินกูในทองที่ที่เคยใชสิทธิมาแลว หรือขณะที่ยายมารับราชการในทองที่นั้น บานที่เคยใชสิทธิไดโอนกรรมสิทธิ์ไปแลว

(5) หากกูเงินสูงกวาราคาบานใหนาํคาผอนชําระเงนิกูมาเบกิคาเชาบานไดโดยใหคาํนวณ ตามหลักเกณฑและวิธีการที่กระทรวงการคลังกําหนด

หลักเกณฑการคํานวณเงินตามวิธีการที่กระทรวงการคลงักําหนด กรณี เงินกูสูงกวาราคาบาน มีดังนี้

ราคาบาน X อัตราผอนชําระเงนิกูรายเดือน

จํานวนเงินที่สามารถนาํมาเบิกรายเดือน = จํานวนเงินกูทัง้หมด

5 การเริ่มตนและสิ้นสุดแหงสทิธิท่ีจะไดรับคาเชาบาน (มาตรา 14)

วันเริ่มแหงสิทธิ (1) นับแตวนัที่เชาและอาศยัอยูจริง แตไมกอนวนัรายงานตัวเพื่อเขารับหนาที่ (2) ส้ินสุดในวันที่ขาดจากอตัราเงินเดือน หรืออยูในขายหมดสิทธิ

7

วันสิ้นสุดแหงสิทธิ

(1) วันที่ขาดจากอตัราเงินเดือน (2) วันที่อยูในขายหมดสิทธิ

ขอยกเวน (1) มีความจําเปนตองใหอยูตอไปอีกโดยไดรับอนุมตัิจากผูออกคําสั่งแตงตั้ง

6 ประเภทคาเชาบานขาราชการ 6.1 คาเชาบานพัก 6.2 คาเชาซื้อ 6.3 คาผอนชําระเงินกู

(1) เพื่อซ้ือบาน (2) เพื่อปลูกบาน

7. ผูมีสิทธิเบิกคาเชาซื้อ หรือ คาผอนชาํระเงินกูเพื่อชําระราคาบาน

7.1 ตองเปนผูที่มีสิทธิเบิกคาเชาบาน 7.2 ตนเองหรอืสามีหรือภรรยา ไดทําการเชาซื้อหรือผอนชําระราคาบานในทองที่ทีรั่บ

ราชการประจาํอยูหลังเดยีวในทองที่แหงนัน้ 7.3 กูเงินกับสถาบันการเงินที่กระทรวงการคลังกําหนด 7.4 จะตองไมเคยใชสิทธินําหลักฐานการผอนชําระคาเชาซื้อหรือผอนชําระเงินกูหลังหนึ่ง

หลังใดในทองที่นั้นมาแลว เวนแต บานหลังเดิมที่เคยใชสิทธิมาแลวจนไมสามารถอาศัยอยูได

8

8 อัตราคาเชาบานขาราชการ (มาตรา 6)

บัญชีอัตราคาเชาบานขาราชการ สําหรับขาราชการพลเรือน

ตําแหนงประเภท

ระดับ

เงินเดือน/บาท คาเชาบานไมเกิน เดือนละ/บาท

ตน - ตั้งแต 23,230 แตไมถึง 29,900 - ตั้งแต 29,900 ขึ้นไป

3,500 4,000

บริหาร

สูง - 4,000 ตน - ตั้งแต 18,910 แตไมถึง 24,310

- ตั้งแต 24,310 แตไมถึง 29,800 - ตั้งแต 29,800 ขึ้นไป

3,000 3,500 4,000

อํานวยการ

สูง - ตั้งแต 23,230 แตไมถึง 29,900 - ตั้งแต 29,900

ขึ้นไป

3,500 4,000

ปฏิบัติการ

- ตั้งแต 6,800 แตไมถึง 8,320 - ตั้งแต 8,320 แตไมถึง 10,190 - ตั้งแต 10,190 แตไมถึง 13,100 - ตั้งแต 13,100 แตไมถึง 16,070 - ตั้งแต 16,070 ขึ้นไป

1,250 1,600 1,950 2,400 3,000

ชํานาญการ - ตั้งแต 12,530 แตไมถึง 15,410 - ตั้งแต 15,410 แตไมถึง 24,250 - ตั้งแต 24,250 ขึ้นไป

2,400 3,000 3,500

ชํานาญการพิเศษ

- ตั้งแต 18,910 แตไมถึง 24,310 - ตั้งแต 24,310 แตไมถึง 29,800 - ตั้งแต 29,800 ขึ้นไป

3,000 3,500 4,000

เชี่ยวชาญ - ตั้งแต 23,230 แตไมถึง 29,900 - ตั้งแต 29,900 ขึ้นไป

3,500 4,000

วิชาการ

ทรงคุณวุฒ ิ - 4,000

9

ตําแหนงประเภท

ระดับ

เงินเดือน/บาท คาเชาบานไมเกิน เดือนละ/บาท

ประเภททัว่ไป ปฏิบัติงาน

- ตั้งแต 4,630 แตไมถึง 5,530 - ตั้งแต 5,530 แตไมถึง 6,800 - ตั้งแต 6,800 แตไมถึง 8,320 - ตั้งแต 8,320 แตไมถึง 10,640 - ตั้งแต 10,640 แตไมถึง 13,100 - ตั้งแต 13,100 ขึ้นไป

800 1,000 1,250 1,600 1,950 2,300

ชํานาญงาน - ตั้งแต 10,190 แตไมถึง 12,530 - ตั้งแต 12,530 แตไมถึง 16,070 - ตั้งแต 16,070 ขึ้นไป

1,950 2,400 3,000

อาวุโส - ตั้งแต 15,410 แตไมถึง 24,250 - ตั้งแต 24,250 แตไมถึง 29,800 - ตั้งแต 29,800 ขึ้นไป

3,000 3,500 4,000

ประเภททัว่ไป

ทรงคุณวุฒ ิ - 4,000

10

สรุปสาระสําคัญของระเบียบกระทรวงการคลัง วาดวยหลักเกณฑและวิธีการเกี่ยวกับ

การเบิกจายเงิน คาเชาบาน พ.ศ.2549 และที่แกไขเพิ่มเติม

1. สถานที่ยื่นแบบคําขอรับคาเชาบาน ขาราชการผูมีสิทธิไดรับคาเชาบานตองยื่นคําขอรับคาเชาบาน ตามแบบขอรับคาเชาบาน

(แบบ 6005) ณ สํานักงานที่ขาราชการผูนั้นปฏิบัติราชการ (ขอ 6)

2. ขอมูลประกอบการยื่นแบบคําขอรับคาเชาบาน การยื่นแบบ 6005 ใหยื่นตอผู รับรองการมีสิทธิไดรับคาเชาบาน พรอมดวยดวยขอมูลหรือ

เอกสารดังตอไปนี้ 2.1 เอกสารประกอบการพิจารณาการขอเบิกคาเชาบาน (ขอ 7 วรรคสอง) ไดแก

(1) สัญญาเชาบาน หรือสัญญาเชาซื้อ หรือสัญญาเงินกู เพื่อชําระราคาบาน และหลักฐานอื่นที่เกี่ยวของ

(2) กรณียื่นหลักฐานที่เปนสัญญาเงินกูเพื่อชําระราคาบาน ตองแนบสัญญาซื้อขายบาน สัญญาซื้อขายบานพรอมที่ดิน หรือสัญญาจางปลูกสรางบาน แลวแตกรณีดวย

(3) หากวงเงินในสัญญาดังกลาวต่ํากวาสัญญาเงินกู ขาราชการผูใชสิทธิตองยื่นหลักฐาน ที่สถาบันการเงินรับรองวา หากมีการกูเงินตามวงเงินในสัญญาดังกลาว จะตองมีการผอนชําระรายเดือนเปนจํานวนเทาใด

2.2 รายงานขอมูลรายละเอยีดประกอบการเชาบาน (ขอ 7 วรรคสาม ) ไดแก (1) ขอมูลประวัติการรับราชการตั้งแตเร่ิมรับราชการ การโอน การยาย (กรณี ยายเกิดจาก

การรองขอของตนเองหรือไม) (2) ขอมูลการมีเคหสถานของขาราชการและคูสมรสทุกแหงในทองที่ที่รับราชการ (3) ขอมูลดานอาชีพและสถานที่ทํางานของคูสมรสของขาราชการและตองแจงดวยวา

หนวยงานนั้นไดใหสิทธิการเบิกคาเชาบานหรือจัดบานพักใหกับคูสมรสในทองที่ที่รับราชการหรือไม (4) ขอมูลการมีเคหสถานของบิดา มารดาของคูสมรสและของขาราชการ รวมทั้งบุตร

ที่ยังไมบรรลุนิติภาวะทุกแหงในทองที่ที่รับราชการ (5) ขอมูลสถานการณมีชีวิตของบิดา มารดาของคูสมรสและขาราชการซึ่งหากภายหลัง

มีกรณีเสียชีวิตหรือหายสาบสูญใหแจงวนั/เดือน/ปที่เสียชีวิตหรือสาบสูญดวย

11

3. ผูมีอํานาจรับรองการมีสิทธิไดรับคาเชาบานของขาราชการในแบบ 6005 (ขอ 8)

3.1 ราชการสวนกลาง - เลขานุการรัฐมนตรี - เลขานุการกรม - หัวหนาสวนราชการตั้งแตระดับกองหรือเทียบเทาขึ้นไป

3.2 ราชการสวนกลางที่มีสํานักงานอยูในสวนภูมิภาค หัวหนาสํานักงานซึ่งดํารงตําแหนงไมต่ํากวา

- ประเภททัว่ไป ระดับชํานาญงานขึ้นไป

- ประเภทวิชาการ ระดับชํานาญการขึ้นไป

3.3 ราชการสวนกลางแตสํานักงานอยูในภมิูภาค - หัวหนาสวนราชการประจําจังหวดั - หัวหนาสวนราชการประจําอําเภอ

3.4 สวนราชการสังกัดกระทรวงกลาโหมหรือสํานักงานตํารวจแหงชาต ิ- ใหผูบังคับบัญชาที่มียศตั้งแตพันตรี นาวาตรี นาวาอากาศตรี หรือพันตํารวจตรีขึ้นไป

หมายเหตุ (1) ใหผูบังคับบญัชาเหนือขึ้นไปอยางนอยหนึ่งระดับหรือหนึ่งชั้นยศ

เปนผูรับรองสิทธิของบุคคลตาม 3.1-3.4 (2) ใหขาราชการดังตอไปนี้เปนผูรับรองสิทธิของตนเองได

- ขาราชการประเภททัว่ไป ระดับอาวุโสขึน้ไป - ขาราชการประเภทวิชาการ ระดับชํานาญการพิเศษขึ้นไป - ขาราชการประเภทอํานวยการ - ขาราชการทหารที่มียศยศตั้งแตพันเอก นาวาเอก นาวาอากาศเอก

หรือพันตํารวจเอกขึ้นไป

4. ผูมีอํานาจอนุมัติการใหเบิกคาเชาบานในแบบ 6005 (ขอ 10) อนมุัติการเบกิจายคาเชาบานใน แบบ 6006 (ขอ 11) และแตงตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการใชสิทธิเบิกคาเชาบานของขาราชการ (ขอ 9 ) ของแตละสวนราชการเปนบุคคลคนเดียวกัน ดังนี้

12

4.1 ราชการสวนกลาง หัวหนาสวนราชการระดับกรม หรือ ผูที่ไดรับมอบหมายไมต่ํากวา

- ประเภททัว่ไป ระดับอาวุโสขึ้นไป - ประเภทวิชาการ ระดับชํานาญการขึ้นไป - ประเภทอํานวยการ - ประเภทบริหาร - ขาราชการทหารที่มียศตั้งแตพันโท นาวาโท นาวาอากาศโท หรือขาราชการตํารวจที่มียศพนัตํารวจโทขึน้ไป

4.2 ราชการสวนกลางที่มีสํานักงานอยูในสวนภูมิภาค - หัวหนาสวนราชการระดับกรม - หัวหนาสํานักงานที่เปนผูเบิกเงินจากคลังซึ่งไดรับมอบหมายจากหัวหนาสวนราชการ

4.3 ราชการสวนกลางแตสํานักงานอยูในภมิูภาค - หัวหนาสวนราชการซึ่งเปนผูเบิกเงินจากคลังเปนผูอนุมัติของขาราชการในหนวยงาน - ผูวาราชการจังหวัดเปนผูอนมุัติหัวหนาสวนราชการในจงัหวัด - นายอําเภอหรือปลัดอําเภอผูเปนหวัหนากิ่งอําเภอที่เบิกเงนิจากสํานกังานคลังจังหวดั ณ อําเภอ เปนผูอนุมัติใหหวัหนาสวนราชการประจําอําเภอหรือกิ่งอําเภอ

5. การยื่นแบบขอเบิกเงินคาเชาบาน (แบบ 6006) เพือ่เบิกคาเชาบานประจําเดือน ใหยืน่พรอมหลักฐานการชําระเงิน ณ สํานักงานทีข่าราชการผูเบิกคาเชาบานปฏิบัติราชการ 6. สถาบันการเงินท่ีกระทรวงการคลังรับรอง

การทําสัญญาเชาซื้อหรือสัญญาเงินกู เพื่อชําระราคาบานตองทํากับสถาบันการเงิน ดังตอไปนี้ (ขอ 14)

6.1 ธนาคารพาณิชยตามกฎหมายวาดวยธนาคารพาณิชย 6.2 รัฐวิสาหกิจที่มีวัตถุประสงคเพื่อดําเนินกิจการเกี่ยวกับการเคหะ หรือดําเนินธุรกิจ

เกี่ยวกับการใหกูยืมเงินเพื่อเชาซื้อบานหรือผอนชําระราคาบาน 6.3 สหกรณที่จดทะเบียนตามกฎหมายวาดวยสหกรณและมีวัตถุประสงคเพื่อดําเนินกิจการ

เกี่ยวกับการเคหะ 6.4 กองทุนบําเหน็จบํานาญขาราชการตามกฎหมายวาดวยกองทุนบําเหน็จบํานาญ

ขาราชการ

13

6.5 ธนาคารอิสลามแหงประเทศไทยตามกฎหมายวาดวยธนาคารอิสลามแหงประเทศไทย 6.6 บริษัทบริหารสินทรัพยตามพระราชกําหนดบริษัทบริหารสินทรัพย พ.ศ. 2551

ซ่ึงดําเนินกจิการรับซื้อหรือรับโอนสินทรัพยดอยคุณภาพของสถาบันการเงินตาม (6.1) 6.7 นิติบุคคลที่มีวัตถุประสงค และดําเนินกิจการเกี่ยวกับการเคหะหรือการใหเชาซื้อบาน

หรือให กูยืมเพื่อชําระราคาบาน

7. เหตุท่ียื่นแบบขอรับคาเชาบานฉบับใหม (แบบ 6005) ใหขาราชการผูมีสิทธิไดรับคาเชาบานยื่นแบบ 6005 ฉบับใหม (ขอ 15) ในกรณีดังตอไปนี ้7.1 โอนยายโดยเปลี่ยนสังกดัหรือเปลี่ยนสํานักเบิกเงนิเดือน 7.2 ไดรับคําสั่งใหเดินทางไปประจําสํานักงานในตางทองที่โดยไมเปลี่ยนสํานักเบิกเงินเดือน 7.3 เปลี่ยนแปลงสัญญาเชาบาน สัญญาเชาซื้อบาน หรือสัญญาเงินกูเพื่อชําระราคาบาน

โดยการรับรองสิทธิ การอนุมัติเบิกจายเงินคาเชาบาน และการแตงตัง้คณะกรรมการตรวจสอบการใชสิทธิเบิกคาเชาบานของขาราชการตามขอ 6.2 ใหถือปฏิบัติ ดังนี ้

- บุคคลตามขอ 3 ประจาํสํานกังานที่ผูใชสิทธไิปปฏิบัติราชการเปนผูรับรองสิทธิ ในแบบ 6005

- บุคคลตามขอ 4 ประจําสํานกังานที่เบิกเงนิเดือนของผูใชสิทธิเปนผูมีอํานาจอนุมัติในแบบ 6005 และแบบ 6006

- บุคคลตามขอ 4 ประจําสํานกังานที่ผูใชสิทธิไปปฏิบัติราชการเปนผูมอํีานาจ แตงแตงคณะกรรมการตรวจสอบการใชสิทธิเบิกคาเชาบานขาราชการ 8. การมีชื่อคูสมรสแตเพียงฝายเดียวในสัญญาเชาบาน เชาซื้อ เงินกูเพื่อชําระราคาบาน

ขาราชการผูมีสิทธิไดรับคาเชาบาน แตคูสมรสไดเชาบาน เชาซื้อบาน หรือกูเงินเพื่อชําระ ราคาบาน ในระหวางสมรสและปรากฏชื่อคูสมรสแตเพียงผูเดียวในสัญญาเชาบาน สัญญาเชาซื้อ สัญญาเงินกูเพื่อชําระราคาบาน สัญญาซื้อขายที่ดินหรือบานพรอมที่ดิน สัญญาจางปลูกสรางบาน โฉนดที่ดิน หรือหลักฐานการชําระเงิน ใหขาราชการผูนั้นนําหลักฐานดังกลาวมาประกอบ การเบิกจายคาเชาบานจากทางราชการได นับแตวันที่มีสิทธิไดรับคาเชาบาน (ขอ 21)

9. การขยายวงเงินกูหรือขยายระยะเวลาการผอนชําระเงินกูเพื่อชําระราคาบาน ในกรณีที่มีการขยายวงเงินกูหรือขยายระยะเวลาการผอนชําระเงินกูเพื่อชําระราคาบานใหนํา

หลักฐานการผอนชําระมาเบิกคาเชาบานไดตามจํานวนเงินกู และระยะเวลาการผอนชําระที่เหลืออยูของสัญญาเงินกูฉบับแรกเทานั้น (ขอ 23 วรรคแรก)

14

10. การยายสถานที่ทําการของสํานักงานไปตั้งในทองท่ีใหม การยายสถานที่ทําการของสํานักงานไปตั้งในทองที่ใหมตามมาตรา 8 แหง พ.ร.ฎ. คาเชาบาน

ขาราชการ พ .ศ . 2547 ถาทองที่ ใหมอยู ใกล เคียงกับทองที่ตั้ งสํานักงานเดิมตามหลักเกณฑที่กระทรวงการคลังกําหนด ดังตอไปนี้ จะไมเกิดสิทธิ เบิกคาเชาบาน (ขอ 24)

10.1 การยายที่ตั้งสํานักงานจากกรุงเทพมหานครไปจังหวัดใกลเคียง ตองเปนเขตทองที่ ใกลเคียงหรือติดตอกับกรุงเทพมหานครและมีรถยนตโดยสารขององคการขนสงมวลชนกรุงเทพใหบริการ ตามบัญชีรายช่ือทองที่ใกลเคียงทาย ดังนี้

ทองท่ีใกลเคียงของกรงุเทพฯเมื่อยายสํานกังานไปไมทําใหเกิดสิทธิ มีดังนี ้ จังหวัดนนทบุรี

(1) อําเภอเมืองนนทบุรี (2) อําเภอบางกรวย (3) อําเภอบางบัวทอง (4) อําเภอบางใหญ (5) อําเภอปากเกรด็

จังหวัดปทุมธาน ี(1) อําเภอเมืองปทุมธานี (2) อําเภอคลองหลวง (3) อําเภอธัญบุรี (4) อําเภอลําลูกกา

จังหวัดสมุทรปราการ (1) อําเภอเมืองสมทุรปราการ (2) อําเภอบางบอ (3) อําเภอบางพล ี(4) อําเภอพระประแดง (5) อําเภอพระสมทุรเจดีย

จังหวดัสมุทรสาคร (1) อําเภอเมืองสมทุรสาคร

จังหวดันครปฐม (1) อําเภอพุทธมณฑล

10.2 การยายที่ตั้งสํานักงานภายในจังหวัดเดียวกันหรือระหวางจังหวัด ตองเปนเขตทองที่ ติดตอกันและมีขนสงสาธารณะประจําทางใหบริการ

15

บทที่ 3 ขั้นตอนการเบิกคาเชาบานการเบิกคาเชาบานขาราชการ

3. สวนราชการแตงตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการใชสิทธิเบิกคาเชาบาน

4. คณะกรรมการตรวจสอบฯและรายงานผลการตรวจสอบ

5. ขาราชการผูใชสิทธิเบิกคาเชาบานยื่นแบบขอเบิกคาเชาบาน (แบบ 6006)

6. เจาหนาท่ีหนวยงานเบิกจายคาเชาบาน ตรวจสอบความถูกตองของหลักฐาน

1. ขาราชการผูใชสิทธิเบิกคาเชาบานยื่นแบบขอรับคาเชาบาน (แบบ6005) พรอมเอกสารที่เก่ียวของตอผูบังคับบัญชา

2. ผูมีอํานาจลงนามรับรองการมีสทิธิไดรับ

7. ผูมีอํานาจอนมัุต ิเบิกจายเงิน

8. เจาหนาท่ีการเงิน

เบิกจายเงินคาเชาบานใหขาราชการ

รับรอง

ไมรับรอง

ไมอนุมัติ

อนุมัติ

16

ขั้นตอนการเบิกคาเชาบานและหลักฐานที่ใชประกอบการเบิกคาเชาบานของขาราชการ

1. ขาราชการผูใชสิทธิเบิกคาเชาบานยื่นแบบขอรับคาเชาบาน (แบบ 6005) พรอมเอกสารที่เกี่ยวของตอผูบังคับบัญชา

โดยขาราชการผูมีสิทธิเบิกคาเชาบานยื่นแบบขอรับคาเชาบาน (แบบ 6005) พรอมเอกสารที่เกี่ยวของตอผูมีอํานาจรับรองสิทธิขอรับคาเชาบาน ณ สํานักงานที่ขาราชการผูนั้นปฏิบัติราชการ

ตัวอยางแบบขอรับคาเชาบาน(แบบ 6005 )

17

ในการขอรับคาเชาบานใหขาราชการผูขอเบิกคาเชาบานจัดสงขอมูลดังตอไปนี้ใหผูมีอํานาจ

รับรองการมีสิทธิ พรอมกับยื่นแบบ 6005 1.1 รายงานขอมูลรายละเอยีดประกอบการเชาบาน ไดแก

(1) ขอมูลประวัติการรับราชการตั้งแตเร่ิมรับราชการ การโอน การยาย (กรณี ยายเกิดจากการรองขอของตนเองหรือไม)

(2) ขอมูลการมีเคหสถานของขาราชการและคูสมรสทุกแหงในทองที่ที่รับราชการ (3) ขอมูลดานอาชีพและสถานที่ทํางานของคูสมรสของขาราชการและตองแจงดวยวา

หนวยงานนั้นไดใหสิทธิการเบิกคาเชาบานหรือจัดบานพักใหกับคูสมรสในทองที่ที่รับราชการหรือไม (4) ขอมูลการมีเคหสถานของบิดา มารดาของคูสมรสและของขาราชการ รวมทั้งบุตร

ที่ยังไมบรรลุนิติภาวะทุกแหงในทองที่ที่รับราชการ (5) ขอมูลสถานการณมีชีวิตของบิดา มารดาของคูสมรสและขาราชการซึ่งหากภายหลัง

มีกรณีเสียชีวิตหรือหายสาบสูญใหแจงวัน/เดือน/ปที่เสียชีวิตหรือสาบสูญดวย

1.2 เอกสารประกอบการพจิารณาการขอเบิกคาเชาบาน มีดังนี้ กรณีเชาบาน (1) แบบขอรับคาเชาบาน (แบบ 6005) (2) สัญญาเชาบานติดอากรแสตมปใหเรียบรอย (3) หลักฐานของผูใหเชาบาน ไดแก หลักฐานแสดงกรรมสิทธิ์ของเจาของบาน

สําเนาบัตรประจําตัวประชาชนของผูใหเชา , สําเนาทะเบียนบานของผูใหเชา (4) สําเนา กพ. 7 (5) สําเนาบัตรประจําตวัขาราชการของผูเชา (6) สําเนาทะเบยีนบานของผูเชา (7) ผังบานที่เชา โดยแสดงสวนพื้นที่ที่เชา

กรณี เชาซื้อ/กูเงินซื้อบาน/กูเงินสรางบาน (1) แบบขอรับคาเชาบาน (แบบ 6005) (2) สัญญาเชาซื้อที่ดินและอาคารตามแบบของสถาบันการเงิน (3) สําเนา กพ.7 (4) สํานาบัตรประจําตัวขาราชการ (5) สําเนาทะเบยีนสมรส (ถามี) (6) สําเนาทะเบยีนบานเชาซื้อทีเ่ขาพักอาศัย (7) แผนที่แสดงทีต่ั้งบาน

18

กรณี ผอนชาํระกูเงินเพื่อซ้ือบานพรอมท่ีดิน (1) แบบขอรับคาเชาบาน (แบบ 6005) (2) สัญญาซื้อขายบาน/บานพรอมที่ดิน (3) สําเนาบัตรประจําตวัผูเสียภาษีของผูขายบาน (4) สัญญากูยืมเงนิกับสถาบันการเงิน (5) สัญญาจํานอง (6) โฉนดที่ดิน (7) สําเนาทะเบยีนบานเชาซื้อทีเ่ขาพักอาศัย (8) สําเนา กพ.7 (9) สํานาบัตรประจําตัวขาราชการ (10) สําเนาทะเบยีนสมรสของขาราชการ (ถามี) (11) แผนที่แสดงทีต่ั้งบาน (12) หากวงเงินในสัญญาซื้อขายต่ํากวาสัญญาเงินกู ตองแนบหลักฐานที่สถาบันการเงิน

รับรองวา หากมีการเงินกูตามวงเงินในสัญญาดังกลาว จะตองผอนชําระรายเดือนเปนจาํนวนเทาใด หรือ กรณีเปลี่ยนแปลงสัญญา ไมวากรณใีด ๆ ใหแนบสัญญาฉบับกอนหนาดวย

กรณี กูเงินซื้อท่ีดินและจางปลูกสรางบาน (1) แบบขอรับคาเชาบาน (แบบ 6005) โดยผูรับรองการมีสิทธิลงนามรับรองแลว

พรอม แบบรายงานตรวจสอบคําขอรับคาเชาบาน (2) ใบอนุญาตใหกอสรางอาคาร (3) หลักฐานการใหหมายเลขประจําบาน (4) สัญญาจางปลูกสรางบานและสําเนาบัตรประจาํตวัผูเสยีภาษีอากรของผูรับจาง (5) สําเนาโฉนดทีด่ิน หรือ น.ส. 3 ก (6) สัญญากูเงินและจํานองกับสถาบันการเงิน (7) สําเนาทะเบยีนบานของบานที่ผอนชําระเงินกู (8) สําเนา กพ.7 (9) สํานาบัตรประจําตัวขาราชการ (10) สําเนาทะเบยีนสมรส (ถามี) (11) แผนที่แสดงทีต่ั้งบาน

19

(12) หากวงเงินในสัญญาซื้อขายต่ํากวาสัญญาเงินกู ตองแนบหลักฐานที่สถาบันการเงนิ

รับรองวา หากมีการเงินกูตามวงเงินในสัญญาดังกลาว จะตองผอนชําระรายเดือนเปนจํานวนเทาใด หรือ กรณีเปลี่ยนแปลงสัญญา ไมวากรณีใด ๆ ใหแนบสัญญาฉบับกอนหนาดวย

หมายเหตุ จดัทําแบบ 6005 และเอกสารประกอบการเบิกคาเชาบาน จํานวน 2 ชุด สําหรับใหหนวยงานเบิกจายเงิน 1 ชุด และขาราชการผูใชสิทธิเบิกคาเชาบาน 1 ชุด

2. ผูมีอํานาจลงนามรับรองการใชสิทธิการขอเบิกคาเชาบานของขาราชการ (ตามขอ 8 )

ผูมีอํานาจลงนามรับรองการใชสิทธิ ฯ มีดังนี้

2.1 ราชการสวนกลาง (1) เลขานุการรัฐมนตรี (2) เลขานุการกรม (3) หัวหนาสวนราชการตั้งแตระดับกองหรือเทียบเทาขึ้นไป

2.2 ราชการสวนกลางที่มีสํานักงานอยูในสวนภูมิภาค (1) หัวหนาสํานักงานซึ่งดํารงตําแหนงไมต่ํากวา

- ประเภททัว่ไป ระดับชํานาญงานขึ้นไป

- ประเภทวิชาการ ระดับชํานาญการขึ้นไป

2.3 ราชการสวนกลางแตสํานักงานอยูในภมิูภาค (1) หัวหนาสวนราชการประจําจังหวดั (2) หัวหนาสวนราชการประจําอําเภอ

2.4 สวนราชการสังกัดกระทรวงกลาโหมหรือสํานักงานตํารวจแหงชาต ิ(1) ใหผูบังคับบัญชาที่มียศตั้งแตพันตรี นาวาตรี นาวาอากาศตรี หรือ พันตํารวจตรีขึ้นไป

หมายเหต ุ 1) ใหผูบังคับบญัชาเหนือขึ้นไปอยางนองหนึ่งระดับหรือหนึ่งชั้นยศ เปนผูรับรองสิทธิของบุคคลตาม 2.1-2.4

2) ใหขาราชการดังตอไปนี้เปนผูรับรองสิทธิของตนเองได - ขาราชการประเภททัว่ไป ระดับอาวุโสขึน้ไป - ขาราชการประเภทวิชาการ ระดับชํานาญการพิเศษขึ้นไป - ขาราชการประเภทอํานวยการ

20

- ขาราชการทหารที่มียศยศตั้งแตพันเอก นาวาเอก นาวาอากาศเอก หรือพันตํารวจเอกขึ้นไป

เมื่อผูมีอํานาจรับรองการใชสิทธิการขอเบิกคาเชาบานขาราชการไดตรวจสอบแบบ 6005 และ เอกสารประกอบการพจิารณาแลวเห็นวาผูขอเบิกคาเชาบานเปนผูมสิีทธิเบิกคาเชาบานจริงตามมาตรา 7 แหงพระราชกฤษฎีกาการเบกิคาเชาบาน พ.ศ.2547 และทีแ่กไขเพิม่เติม ก็จะลงนามรบัรองในแบบ 6005 สวนที่ 2 ดังตัวอยางขางลางนี ้ และหากเห็นวาผูขอเบิกไมมีสิทธิไดรับคาเชาบานหรือหลักฐานไมครบถวน ก็จะยงัไมรับรองโดยสงคืนใหผูขอเบิกคาเชาบานดําเนนิการแกไขกอน

ตัวอยางแบบขอรับคาเชาบาน(แบบ 6005 ) สวนที่ 2

3. การแตงตัง้คณะกรรมการตรวจสอบขอเท็จจริงการใชสิทธิเบิกคาเชาบานขาราชการ เมื่อมีการรับรองสิทธิขอรับคาเชาบานแลวใหเสนอตอผูมีอํานาจอนุมตัิการเบิกคาเชาบาน

เพื่อลงนามแตงตั้งขาราชการจํานวนไมนอยกวา 3 คน เปนคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบขอเท็จจริงการใชสิทธิเบิกคาเชาบานขาราชการ โดยผูมีอํานาจแตงตั้งคณะกรรมการตรวจสอบขอเท็จจริงการใชสิทธิเบิกคาเชาบานขาราชการ มีดังนี้

สวนที่ ๒ การรับรอง

21

3.1 ราชการสวนกลาง

(1) หวัหนาสวนราชการระดับกรม หรือ ผูที่ไดรับมอบหมายไมต่ํากวา - ประเภททัว่ไป ระดับอาวุโสขึ้นไป - ประเภทวิชาการ ระดับชํานาญการขึ้นไป - ประเภทอํานวยการ - ประเภทบริหาร - ขาราชการทหารที่มียศตั้งแตพันโท นาวาโท นาวาอากาศโท หรือขาราชการ

ตํารวจที่มียศพนัตํารวจโทขึน้ไป 3.2 ราชการสวนกลางที่มีสํานักงานอยูในสวนภูมิภาค

(1) หวัหนาสวนราชการระดับกรม (2) หัวหนาสํานักงานที่เปนผูเบิกเงินจากคลังซึ่งไดรับมอบหมายจากหัวหนาสวนราชการ

3.3 ราชการสวนกลางแตสํานักงานอยูในภมิูภาค (1) หัวหนาสวนราชการซึ่งเปนผูเบิกเงินจากคลังเปนผูอนุมัติของขาราชการในหนวยงาน (2) ผูวาราชการจังหวัดเปนผูอนุมัติหวัหนาสวนราชการในจังหวัด (3) นายอําเภอหรือปลัดอําเภอผูเปนหัวหนากิ่งอําเภอที่เบิกเงินจากสํานักงานคลังจังหวัด ณ อําเภอ เปนผูอนุมัตใิหหวัหนาสวนราชการประจําอําเภอหรือกิ่งอําเภอ

4. สาระสําคัญการตรวจสอบขอเท็จจริงการใชสิทธิเบิกคาเชาบานขาราชการ

คณะกรรมการตรวจสอบขอเท็จจริงการใชสิทธิเบิกคาเชาบานขาราชการ รายงานผลการตรวจสอบฯ ตามแบบรายงานการตรวจสอบการขอรับคาเชาบาน

สาระสําคัญของการตรวจสอบ กรณี

4.1 เชาบาน - เปนผูมีสิทธิเบิกคาเชาบาน - เชาบานผูอ่ืนและพักอาศัยอยูจริง - ระยะเวลาเริ่มตนของการเชาบานและการเขาพักอาศัยจริงในบาน - ความเหมาะสมของอัตราคาเชาบานเมื่อเปรยีบเทียบกับสภาพบาน

22

4.2 เชาซื้อ/ผอนชําระเงินกูฯ

- สัญญาเชาซื้อบาน/สัญญาเงินกูเพื่อชําระราคาบาน วาเปนการทําสัญญาระหวาง ผูขอเบิกคาเชาบานกับผูใหเชาซื้อ/สถาบันการเงินหรือไม และระบุวันเริ่มตนและสิ้นสุดของสัญญา ตลอดจนจํานวนเงินที่เชาซื้อหรือวงเงินกู จํานวนเงินที่ผอนชําระรายเดือน

- ช่ือผูกูเงินตามสัญญากูเงินตรงกับชื่อผูมีกรรมสิทธิ์ในบานหรือไม - วงเงินตามสัญญากูเทากับราคาบานที่ซ้ือหรือไม โดยใหเบิกไดเทากับจาํนวนเงินที่

ธนาคารคํานวณให ทั้งนี้จะตองไมเกินจํานวนเงินตามสทิธิ - วันเริ่มตนการเขาพักอาศัยจริงในบาน

เมื่อคณะกรรมการตรวจสอบขอเท็จจริงฯ ตรวจสอบขอมูลเสร็จเรียบรอยแลว เห็นวา ผูขอเบิก คาเชาบานมีการเชาบาน/เชาซื่อ/ผอนชําระเงินกูเพื่อซ้ือบาน พักอาศัยอยูจริง คณะกรรมการ ฯ ทั้ง 3 คน ก็จะกรอกขอมูลเพื่อรับรองในแบบรายงานการตรวจสอบการขอรับคาเชาบานขางลางนี้

ตัวอยางแบบรายงานผลการตรวจสอบการขอรับคาเชาบาน

23

5. การยื่นแบบขอเบิกเงินคาเชาบาน (แบบ 6006)

ตัวอยางแบบขอเบิกเงินคาเชาบาน (แบบ 6006)

24

เมื่อไดรับอนุมัติใหเบิกคาเชาบานในแบบ 6005 แลว ใหผูขอเบิกคาเชาบานสงแบบขอเบิก

คาเชาบาน (แบบ 6006) พรอมกับเอกสารดังตอไปนี้ ใหหนวยงานที่ทําหนาที่เบิกจายเงินคาเชาบาน 5.1 ใบเสร็จรับเงินคาเชาบาน สําหรับกรณีเบิกคาเชา 5.2 ใบเสร็จรับเงินของสถาบันการเงินทีก่ระทรวงการคลังรับรอง สําหรับกรณีเชาซื้อหรือ

ผอนชําระเงินกู 6. การตรวจสอบความถูกตองของแบบขอเบิกเงินคาเชาบาน (แบบ 6006)

เจาหนาที่ของหนวยงานที่ทาํหนาที่เบกิจายคาเชาบานขาราชการตรวจสอบความถูกตอง ครบถวน ของแบบ 6006 และหลักฐานประกอบการเบกิจาย ไดแก

6.1 ใบเสร็จรับเงิน โดยพิจารณาความครบถวน ถูกตอง ของขอมูลในแบบขอเบิกเงนิคา เชาบาน (6006) และใบเสร็จรับเงินคาเชาบาน หรือใบเสร็จการผอนชําระเงินกูใหเปนไปตามแบบที่ กระทรวงการคลังกําหนด

6.2 เอกสารตามที่ไดรับการอนุมัติในขั้นตอนที่ 1-5 (เฉพาะการขอใชสิทธิเบิกจาย คาเชาบานครั้งแรก)

เมื่อเจาหนาที่ผูรับผิดชอบตรวจสอบเสร็จแลวเสนอผูมีอํานาจอนุมัตใิหเบกิคาเชาบานตอไป

ขอควรรูในการเบิกคาเชาบาน - สถานที่เบิกจายเงินคาเชาบาน ใหเบกิทางสํานักเบิกเงนิเดือน จากงบดําเนินงาน - การจายคาเชาบานไมถือเปนคาใชจายคางเบิกขามป สามารถนํามาเบกิเงินในปปจจุบนั

ได เมื่อไดรับแบบขอเบิกคาเชาบาน(แบบ 6006) พรอมหลักฐานการชําระคาเชาบาน

7. ผูมีอํานาจอนุมัติใหเบิกคาเชาบานในแบบขอเบิกเงินคาเชาบาน (แบบ 6006)

เมื่อเจาหนาที่ของหนวยงานเบิกจายเงินคาเชาบาน ไดตรวจสอบความถูกตองของแบบ 6006 และเอกสารประกอบการเบิกคาเชาบานแลว จะเสนอเรื่องใหผูมีอํานาจอนุมัติเบิกคาเชาบานลงนามอนุมัติใน แบบ 6006 โดยผูมีอํานาจอนุมัติเบิกจายคาเชาบานจะเปนบุคคลคนเดียวกับผูมีอํานาจแตงตั้งคณะกรรมการตรวจสอบขอเท็จจริงฯ ตามขอ 3

25

ตัวอยางแบบขอเบิกเงินคาเชาบาน (แบบ 6006)

8. การ ดําเนินการเบิกจายเงินคาเชาบานใหขาราชการ

หลังจากที่ผูมีอํานาจอนุมัติไดลงนามในแบบ 6006 แลว เจาหนาที่ ฯ จะดําเนินการ เบิกจายเงินคาเชาบานใหกับผูขอเบิกคาเชาบานตอไป

สําหรับในเดือนตอไป ผูขอเบิกคาเชาบานสงเพียงแบบ 6006 และหลักฐานใบเสร็จรับเงิน คาเชาบาน/คาเชาซื้อ/คาผอนชําระเงินกูเพื่อชําระเงิน ใหแกหนวยงานที่ทําหนาที่เบิกจายเงินคาเชาบานเทานั้น

26

บทที่ 4

ถาม-ตอบ ปญหาการเบิกคาเชาบานของขาราชการ

ถาม แดงบรรจุเขารับราชการครั้งแรกที่จังหวัดกรุงเทพฯ ตอมามีคําสั่งใหไปปฏิบัติราชการที่จังหวัดปทุมธานี ไดใชสิทธิเบิกคาผอนชําระเงินกูเพื่อซ้ือบานที่จังหวัดปทุมธานี ตอมามีคําสั่งใหยายกลับไปปฏิบัติราชการที่จังหวัดกรุงเทพ ฯ แดงยังจะใชสิทธิเบิกคาผอนชําระเงินกูเพื่อซ้ือบานที่จังหวัดปทุมธานีตอไดหรือไม

ตอบ แดงสามารถนําคาผอนชําระเงินกูที่จังหวัดปทมุธานีมาใชสิทธิเบิกคาเชาบานตอที่จังหวดักรุงเทพ ตาม พ.ร.ฎ. คาเชาบานขาราชการ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2550 มาตรา 7

ถาม แดง บรรจุคร้ังแรกในจังหวัดนนทบุรี ไดซ้ือบานที่จังหวัดนนทบุรี และผอนชําระคาเงินกูกับ

ธนาคาร ตอมา แดงไดรับคําสั่งใหยายไปปฏิบัติราชการที่จังหวัดนครนายก แดงจะนําคาผอนชําระเงินที่ของจังหวัดนนทบุรีไปเบิกเปนคาเชาบานที่จังหวัดนครนายกไดหรือไม หากจังหวัดนครนายกไมมีบานพักราชการใหพักอาศัย

ตอบ แดง ไมสามารถนําหลักฐานการผอนชําระเงินกูเพื่อซ้ือบานที่จังหวัดนนทบุรีไปเบิกที่จังหวัดนครนายกได เนื่องจากแดง ไมมีสิทธิเบิกคาเชาบานที่จังหวัดนนทบุรีมากอน แตแดงมีสิทธิที่จะเชาบานเพื่อพักอาศัยอยูที่จังหวัดนครนายก เนื่องจากเปนทองที่ที่เกิดสิทธิเบิกคาเชาบานแลว ตาม มาตรา 7 แหง พ.ร.ฎ. คาเชาบานขาราชการ พ.ศ.2547

ถาม ขาราชการที่บรรจุใหมมีคําสั่งใหไปบรรจุตางจังหวัด หากทางสํานักงานไมมีบานพักใหอยูอาศัย ตองไปเชาบานอยูจะเบิกคาเชาบานไดหรือไม

ตอบ เบิกไมได เพราะการบรรจุเขารับราชการครั้งแรกยังไมมีสิทธิเบกิคาเชาบาน ตาม พ.ร.ฎ. คาเชาบานขาราชการ พ.ศ.2547 มาตรา 7

27

ถาม แดงมีสิทธิเบิกคาเชาบาน โดยไดผอนชําระเงนิกูกับธนาคาร ตอมาไดรับคําสั่งใหยายไปตาง

ทองที่ แดงมสิีทธินําคาเชาซื้อหลังเดิมไปเบิกในสถานทีท่ํางานใหมหรือไม

ตอบ แดงมีสิทธิเปนผูมีสิทธิเบิกคาเชาบาน ตามมาตรา 7 แหง พ.ร.ฎ.การเบิกคาเชาบาน พ.ศ.2547 นําคาผอนชําระเงินกูไปเบิกเปนคาเชาบานได เนื่องจากเคยใชสิทธิเบิกคาผอนชําระเงินกูในทองที่เดิมมากอน และเปนผูมีสิทธิเบิกในทองที่ใหม ซ่ึงเปนไปตามหลักเกณฑที่กระทรวง การคลังกําหนด ดังนี ้

1. ทางราชการไมไดจัดทีพ่ักให 2. ไมมีบานของตนเองหรือคูสมรส 3. ไมไดเปนการขอยายตามคํารองขอของตนเอง

ถาม แดงและขาวเปนขาราชการทั้งคู ไดซ้ือบานรวมกันในทองที่ที่มีสิทธิเบิกคาเชาบาน ตอมา

แตงงานกัน แดงและขาวจะมีสิทธิเบิกคาเชาบานอยางไร ตอบ ขณะที่ยังไมแตงงานกัน แดงและขาวมกีรรมสิทธิ์ในบานตามสัดสวน คือ คนละครึ่งตาม

พ.ร.ฎ. คาเชาบานขาราชการ พ.ศ.2547 มาตรา 17 ตอมาแมแตงงานกันแลวก็ไมทาํใหสิทธิในการเบิกคาเชาบานของแตละคนเพิ่มขึ้น เนือ่งจากกฎหมายกําหนดใหสามีหรือภรรยาเปนผูใชสิทธิไดเพียงคนเดียว ดังนัน้ ไมวาฝายสามีหรือภรรยาจะเปนผูใชสิทธ ิก็สามารถใชสิทธิเบิกคาเชาบานไดคร่ึงหนึ่ง ตาม พ.ร.ฎ. คาเชาบานขาราชการ พ.ศ.2547 มาตรา 10 วรรคแรก

ถาม แดงเปนขาราชการ มีสิทธิเบิกคาเชาบาน จึงไดซ้ือบานโดยนําคาผอนชําระเงินกูกับธนาคารมา

เบิกคาเชาบาน ตอมาบานที่ซ้ือถูกทางการเวนคืนทีด่ิน แดงจึงไปเชาบานใหมอยูจริง แดงสามารถเบิกคาเชาบานไดหรือไม

ตอบ เนื่องจาก กรณีการเวนคืนที่ดิน ทางราชการไดใหเงินชดเชยและคาทดแทนแลว แดงจึงไมมีสิทธิเบิกคาเชาบานไดอีก ตาม พ.ร.ฎ. คาเชาบานขาราชการ พ.ศ.2547 มาตรา 17(1)

28

ถาม แดงซื้อบานหลังที่สองในทองที่เดียวกับบานหลังแรก แดงจะทําใหเสียสิทธิเบิกคาเชาบาน หลังแรก หรือไม

ตอบ ไมเสียสิทธิ เพราะทางราชการกําหนดใหเบกิไดเฉพาะบานหลังแรกเทานั้น บานหลังที่สองไมสามารถนํามาเบิกเปนคาเชาบานได ยกเวน มีเหตภุัยพิบตัิเกิดขึ้นกับบานหลังแรกจึงจะสามารถนําบานหลังทีส่องมาเบกิคาเชาบานแทนได ตาม พ.ร.ฎ.คาเชาบานขาราชการ พ.ศ. 2547 มาตรา 17 (1)

ถาม แดงมีสิทธิเบิกคาเชาบาน และไดซ้ือบานรวมกับดํา ราคา 600,000 บาท ในทองที่ที่ปฏิบัติ

ราชการ แดงสามารถนําคาผอนชําระเงนิกูดังกลาวไปเบิกคาเชาบานไดหรือไม หากเบิกไดจะไดจํานวนเทาใด

ตอบ แดงมีสิทธินําคาผอนชําระเงินกูมาใชสิทธิเบิกคาเชาบานไดตามสัดสวนกรรมสิทธิ์ คือ 300,000 บาท(คนละครึง่) ซ่ึงเปนไปตาม พ.ร.ฎ. คาเชาบานขาราชการ พ.ศ.2547 มาตรา 17(2) และสามารถนําเงินจํานวนนีไ้ปใชสิทธิเบิกคาเชาบานกับทางราชการได ในแตละเดือนไมเกินอัตราเดือนละที่กระทรวงการคลังกําหนด

ถาม ป 2547 แดงอยูจังหวัด เอ เบิกคาเชาบานประเภทผอนชําระเงินกูกับสถาบันการเงิน ป 2550

ไดยายไปอยูจังหวัด บี และไดเบิกคาเชาบานที่จังหวัด บี เนื่องจากไดเชาอยูจริง และตอมาป 2553 แดงไดยายกลับมาอยูที่จังหวัด เอ ใหม โดยยังผอนชําระเงินกูคาบานไมหมด แดงสามารถนําคาผอนชําระเงินกูมาเบิกเปนคาเชาบานตอไดหรือไม

ตอบ แดงสามารถนําคาผอนชําระเงนิกูมาเบิกเปนคาเชาบานได ตาม พ.ร.ฎ. คาเชาบานขาราชการ พ.ศ.2547 มาตรา 15,18

ถาม แดงมีสิทธิเบิกคาเชาบาน เดือนละ 4,000 บาท จึงไดเชาอพารเมนทอยูในราคา 4,000 บาทโดยในใบเสร็จรับเงินคาเชาบาน มีรายการคาเชาบาน จํานวน 3,000 บาท และคาเชาเฟอรนิเจอร จํานวน 1,000 บาท แดงจะสามารถนําใบเสร็จรับเงินดังกลาวมาเบิกกับทางราชการไดจํานวนเทาใด

29

ตอบ แดง สามารถนําใบเสร็จฯดังกลาวมาเบิกคาเชาบานไดเพียงเดือนละ 3,000 บาทเทานั้น สําหรับ

คาเชาเฟอรนิเจอรไมสามารถนํามาเบิกเปนคาเชาบานได

ถาม แดงเปนผูมีสิทธิเบิกคาเชาบาน ไดกูเงนิสรางบานในทองที่ทีป่ฏิบัติราชการ จํานวน 1,000,000

บาท ปรากฏวาเงินที่กูในครั้งแรกไมพอสรางบานจึงไดกูเงินเพิ่มอีก 500,000 บาท แดงสามารถนําสัญญาเงินกูจํานวนเทาใดมาใชสิทธิเบิกคาเชาบาน

ตอบ แดงสามารถนําสัญญาเงินกูทั้งสองสัญญา เปนเงิน 1,500,000 บาท มาใชสิทธิเบิกคาเชาบานได แตหากภายหลังกอสรางบานเสร็จแลวยังมีการกูเงินเพิ่มอีก สวนที่กูเพิ่มหลังจากกอสรางบานเสร็จแลวไมสามารถนํามาใชสิทธิเบิกคาเชาบานได

ถาม แดงมีสิทธิเบิกคาเชาบานเดือนละ 3,000 บาท ไดกูเงินกับธนาคาร วงเงิน 1,200,000 บาท เพื่อ

ซ้ือบานราคา 1,000,000 บาท ซ่ึงสูงกวาราคาบาน โดยธนาคารกําหนดใหผอนชําระเดือนละ 10,000 บาท แดงจะมีสิทธิเบิกคาเชาบานไดเทาใด

ตอบ แดงมีสิทธินําสัญญาเงินกูดังกลาวมาเบิกคาเชาบานไดเพียง 1,000,000 บาท โดยใหธนาคารออกหนังสือรับรองคาผอนชําระเงินกูเปนรายเดือนใหเปนหลักฐานประกอบการขอเบิกคาเชาบานดวย ซ่ึงเปนไปตาม พ.ร.ฎ. คาเชาบานขาราชการ พ.ศ.2547 มาตรา 17

สําหรับวิธีการคํานวณเงินที่สามารถนํามาเบิกรายเดือน ใชสูตรดังนี้ ราคาบาน X อัตราผอนชําระเงนิกูรายเดือน

จํานวนเงินที่สามารถนาํมาเบิกรายเดือน = จํานวนเงินกูทัง้หมด

= 1,000,000 x 10,000 = 8,334 บาท 1,200,000

ดังนั้น แดงจะมีสิทธินําคาผอนชําระเงินกูรายเดือนมาใชสิทธิเบิกคาเชาบานไดจํานวนไมเกินเดือนละ 8,334 บาท แตสวนราชการจะเบิกจายเงินคาเชาบานใหแดงในแตละเดือนตามอัตราที่กระทรวง การคลังกําหนด ซ่ึงในที่นี้คือเดือนละ 3,000 บาท

30

ถาม แดงมีสิทธิเบิกคาเชาบาน ไดกูเงนิจากธนาคารเอ วงเงิน 600,000 บาท ผอนชําระเดือนละ 6,000

บาท ระยะเวลา 20 ป โดยไดใชสิทธิเบิกเชาบานมาตลอดเปนเวลา 5 ป มีหนี้คงเหลือ 400,000 บาท จึงเปลี่ยนจากธนาคารเอ เปนธนาคารบี แทน โดยกูเงินใหมในวงเงิน 750,000 บาท ระยะเวลา 20 ป แดงสามารถเบิกคาเชาบานไดในวงเงนิ 400,000 บาท หรือ 750,000 บาท

ตอบ ตามระเบียบกระทรวงการคลังวาดวยการเบิกคาเชาบานขาราชการ พ.ศ.2549 ขอ 23 กําหนดวา “ในกรณีทีม่ีการขยายวงเงินกูหรือขยายระยะเวลาการผอนชําระเงินกูเพื่อชําระราคาบาน ใหนําหลักฐานการผอนชําระมาเบกิคาเชาบานได ตามจํานวนเงินกู และระยะเวลาการผอนชําระที่เหลืออยูของสัญญาเงินกูฉบับแรกที่ไดยื่นไวและไดรับอนุมัติใหเบิกคาเชาบานตามสิทธิแลว เทานั้น” ดังนั้น แดงสามารถเบิกคาเชาบานประเภทคาผอนชําระเงินกูไดอีกเพียง 400,000 บาท ในระยะเวลาทีเ่หลืออยู 15 ป ตามสัญญาฉบับแรกเทานัน้ โดยแดงตองนําหลักฐานการผอนชําระเงินกูและระยะเวลาการผอนชําระที่เหลืออยูของสัญญาเงินกูฉบับแรก มายืน่ขอเบิกคาเชาบานตามแบบ 6005 ดวย

ถาม แดงเปนผูมีสิทธิเบิกคาเชาบาน เมื่อไดรับคําสั่งใหไปปฏิบัติงานตางทองที่ จะตองทําอยางไรบาง

ตอบ แดงตองพิจารณาวาตนเองเขาขอหามตามมาตรา 7 แหง พ.ร.ฎ. คาเชาบานขาราชการ หรือไม หากไมเขาขอหาม แดงตองดําเนินการตามระเบียบกระทรวงการคลังวาดวยการเบิกจายเงินคาเชาบาน พ.ศ. 2549 ขอ 15 ที่กําหนดใหขาราชการผูมีสิทธิไดรับคาเชาบาน ยื่นแบบ 6005ใหม ในกรณ ี

1.โอนยายหรือเปลี่ยนสํานักเบิกเงินเดือน 2. ไปประจําสาํนักงานตางทองที่โดยไมเปลี่ยนสํานักเบกิเงินเดือน 3. เปลี่ยนแปลงสัญญาเชาบาน เชาซื้อ หรือสัญญาเงินกูเพือ่ชําระคาบาน

31

บทที่ 5 บทสรุป

คาเชาบาน เปนคาตอบแทนซึ่งทางราชการจายใหกับขาราชการ ที่ไดรับความเดือดรอนในเรื่องที่อยูอาศัยเพราะทางราชการเปนเหตุ เนื่องจากไดรับคําสั่งใหไปปฏิบัติราชการเปนการประจําใน ตางทองที่ และไมมีที่อยูอาศัยของตนเองหรือของสามี/ภรรยาที่พอจะอาศัยอยูไดในทองที่นั้น โดยขาราชการผูเบิกตองเชาและอาศัยอยูจริงจึงจะมีสิทธินําหลักฐานการเชาบานมาเบิกคาเชาบานจากทางราชการไดไมเกินอัตราที่กระทรวงการคลังกําหนด

การเบกิคาเชาบาน ขาราชการสามารถใชสิทธิเบิกไดทั้งในลักษณะคาเชาบานพัก คาเชาซื้อ

คาผอนชําระเงินกู ซ่ึงการเบิกในแตลักษณะกฎหมายจะกําหนดใหมีเงื่อนไขหรือองคประกอบในการดําเนินการไมเหมือนกนั มีขั้นตอนการดําเนินการหลายขั้นตอน และใชเอกสารประกอบการขออนุมัติเบิก คาเชาบานจํานวนมาก ทาํใหยากตอการเขาใจและเกดิความสับสนในขั้นตอนดําเนินการขอเบิกคาเชาบาน การมีคูมือในการปฏิบัติงานจะชวยสรางความมั่นใจใหขาราชการผูขอเบิกคาเชาบานใชเปนแนวทางดําเนินการเบิกคาเชาบาน และชวยใหขาราชการสามารถดําเนินการเบกิคาเชาบานได รวดเร็ว ถูกตอง เปนไปตามระเบียบคาเชาบานของทางราชการ

บรรณานกุรม

• กระทรวงการคลัง , พระราชกฤษฎีกาคาเชาบานขาราชการ พ.ศ. 2547

• กระทรวงการคลัง , พระราชกฤษฎกีาคาเชาบานขาราชการ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2550

• กระทรวงการคลัง , พระราชกฤษฎกีาคาเชาบานขาราชการ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2552

• กระทรวงการคลัง , ระเบียบกระทรวงการคลังวาดวยการเบิกจายเงินคาเชาบาน พ.ศ. 2549

• กระทรวงการคลัง , ระเบียบกระทรวงการคลังวาดวยการเบิกจายเงินคาเชาบาน (ฉบบัที ่2)

พ.ศ. 2552

32

ภาคผนวก

ผนวก ก

พระราชกฤษฎีกาคาเชาบานขาราชการ พ.ศ. 2547 และที่แกไขเพิม่เติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2550

(ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2552

(สําเนา) พระราชกฤษฎีกา

คาเชาบานขาราชการ พ.ศ. ๒๕๔๗

------------------------------------- ภูมิพลอดุลยเดช ปร.

ใหไว ณ วันที ่๑๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๗ เปนปที่ ๕๙ ในรัชกาลปจจบุัน

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมีพระบรมราชโองการโปรดเกลาฯ ใหประกาศวา โดยที่เปนการสมควรปรับปรุงพระราชกฤษฎีกาวาดวยคาเชาบานขาราชการ อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๒๒๑ ของรัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๓(๑) (๒) และ (๖) แหงพระราชบัญญัติการกําหนดหลักเกณฑเกี่ยวกับการจายเงิน บางประเภทตามงบประมาณรายจาย พ.ศ. ๒๕๑๘ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกลาฯ ใหตราพระราชกฤษฎีกา ข้ึนไว ดังตอไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกวา “พระราชกฤษฎีกาคาเชาบานขาราชการพ.ศ. ๒๕๔๗” มาตรา ๒ พระราชกฤษฎีกานี้ ใหใชบังคับต้ังแตวันถัดจากวันประกาศใน ราชกิจจานุเบกษาเปนตนไป มาตรา ๓ ใหยกเลกิ (๑) พระราชกฤษฎีกาคาเชาบานขาราชการ พ.ศ. ๒๕๒๗ (๒) พระราชกฤษฎีกาคาเชาบานขาราชการ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๒ (๓) พระราชกฤษฎีกาคาเชาบานขาราชการ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๓๓ (๔) พระราชกฤษฎีกาคาเชาบานขาราชการ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๓๕ (๕) พระราชกฤษฎีกาคาเชาบานขาราชการ (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๓๙ (๖) พระราชกฤษฎีกาคาเชาบานขาราชการ (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๕๔๑ (๗) พระราชกฤษฎีกาคาเชาบานขาราชการ (ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๔๑ (๘) พระราชกฤษฎีกาคาเชาบานขาราชการ (ฉบับที่ ๘) พ.ศ. ๒๕๔๕

/มาตรา ๔ .... 33

- ๒ - มาตรา ๔ ในพระราชกฤษฎีกานี ้ “ขาราชการ” หมายความวา ขาราชการพลเรือนตามกฎหมายวาดวยระเบียบขาราชการพลเรือน ขาราชการฝายตุลาการศาลยุติธรรมตามกฎหมายวาดวยระเบียบขาราชการฝายตุลาการศาลยุติธรรม ขาราชการฝายอัยการตามกฎหมายวาดวยระเบียบขาราชการฝายอัยการ ขาราชการ พลเรือนในมหาวิทยาลัยตามกฎหมายวาดวยระเบียบขาราชการพลเรือนในมหาวิทยาลัย ขาราชการฝายรัฐสภาตามกฎหมายวาดวยระเบียบขาราชการฝายรัฐสภา ขาราชการตํารวจ ตามกฎหมายวาดวยตํารวจแหงชาติ ขาราชการทหารตามกฎหมายวาดวยระเบียบขาราชการทหารและขาราชการครูตามกฎหมายวาดวยระเบียบขาราชการครู “เงินเดือน” หมายความวา เงินเดือนสุทธิที่ขาราชการไดรับ ทั้งนี้ เมื่อหักเงินเบิกลดเนื่องจากการปรับชั้นเงินเดือนออกแลว และรวมกับเงินเพิ่มพิเศษรายเดือนสําหรับคาวิชาหรือเงินเพิ่มการเลื่อนฐานะ หรือสําหรับประจําตําแหนงที่ตองฝาอันตรายเปนปกติหรือสําหรับการสูรบ “สถาบันการเงิน” หมายความวา สถาบันการเงิน รัฐวิสาหกิจ หรือสหกรณที่ดําเนินกิจการเกี่ยวกับการเคหะ ทั้งนี้ ตามที่กระทรวงการคลังกําหนด และกองทุนบําเหน็จบํานาญขาราชการ ตามกฎหมายวาดวยกองทุนบําเหน็จบํานาญขาราชการ “ทองที่” หมายความวา กรุงเทพมหานคร อําเภอ กิ่งอําเภอ หรือทองที่ของอําเภอหรือกิ่งอําเภอที่กระทรวงการคลังประกาศกําหนดใหเปนทองที่เดียวกันตามมาตรา ๕ “ทองที่ที่เร่ิมรับราชการครั้งแรก” หมายความวา ทองที่ที่ไดรับการบรรจุและแตงตั้ง ใหปฏิบัติราชการ หรือมีคําสั่งใหไปปฏิบัติราชการ และไดมีการรายงานตัวเพื่อปฏิบัติราชการตาม พระราชกฤษฎีกานี้เปนครั้งแรก “ทองที่ที่กลับเขารับราชการใหม” หมายความวา ทองที่ที่กลับเขารับราชการเปนขาราชการตามพระราชกฤษฎีกานี้ “ภัยพิบัติ” หมายความวา ภัยธรรมชาติหรือความเสียหายอยางใด ๆ ซึ่งเกิดขึ้นโดยที่ ผูซึ่งไดรับความเสียหายนั้นไมมีสวนที่จะตองรวมรับผิดดวย มาตรา ๕ ใหกระทรวงการคลังมีอํานาจประกาศกําหนดใหอําเภอหรือกิ่งอําเภอหลายทองที่รวมกันเปนทองที่เดียวกันได มาตรา ๖ การจายเงินงบประมาณรายจายเปนเงินคาเชาบานขาราชการ ให เปนไปตามหลักเกณฑและอัตราตามพระราชกฤษฎีกานี้ การเบิกจายใหเปนไปตามหลักเกณฑและวิธีการทีก่ระทรวงการคลังกําหนด

/มาตรา ๗ .... 34

- ๓ - มาตรา ๗ ขาราชการผูใดไดรับคําสั่งใหเดินทางไปประจําสํานักงานในตางทองที่มีสิทธิไดรับคาเชาบานขาราชการเทาที่ตองจายจริงตามที่สมควรแกสภาพแหงบาน แตอยางสูงไมเกินจํานวนเงินที่กําหนดไวตามบัญชีอัตราคาเชาบานขาราชการทายพระราชกฤษฎีกานี้ ทั้งนี้ เวนแตผูนั้น (๑) ทางราชการไดจัดที่พักอาศัยใหอยูแลว (๒) มีเคหสถานอันเปนกรรมสิทธิ์ของตนเองหรือคูสมรสในทองที ่ที ่ไปประจําสํานักงานใหม โดยไมมีหนี้คางชําระกับสถาบันการเงิน (๓) ไดรับคําสั่งใหเดินทางไปประจําสํานักงานใหมในทองที ่ที ่เริ ่มรับราชการ คร้ังแรกหรือทองที่ที่กลับเขารับราชการใหม (๔) ไดรับคําสั่งใหเดินทางไปประจําสํานักงานใหมในตางทองที่ตามคํารองขอ ของตนเอง ขาราชการผูใดไดรับเงินเดือนไมตรงกับที่กําหนดในบัญชีอัตราคาเชาบานขาราชการทายพระราชกฤษฎีกานี้ ใหไดรับคาเชาบานขาราชการตามสวนของเงินเดือนโดยคํานวณตามวิธีการ ที่กระทรวงการคลังกําหนด มาตรา ๘ ขาราชการผูใดตองไปปฏิบัติราชการประจําสํานักงานในตางทองที่เนื่องจากสํานักงานที่ปฏิบัติราชการประจําอยูเดิมไดยายสถานที่ทําการไปตั้งในทองที่ใหมมีสิทธิไดรับคาเชาบานขาราชการตามพระราชกฤษฎีกานี้เชนเดียวกับขาราชการซึ่งไดรับคําสั่งใหเดินทางไปประจําสํานักงานในตางทองที่ตามมาตรา ๗ เวนแตทองที่ใหมที่สํานักงานไดยายไปนั้นอยูใกลเคียงกับทองที่ที่ตั้งสํานักงานเดิมตามหลักเกณฑที่กระทรวงการคลังกําหนด มาตรา ๙ ขาราชการผูใดรับราชการหรือไดรับคําสั่งใหไปรับราชการในทองที่ใด และไมมีสิทธิไดรับคาเชาบานขาราชการเพราะเหตุที่มีเคหสถานอันเปนกรรมสิทธิ์ของตนเองหรือ คูสมรสตามมาตรา ๗(๒) แมวากรรมสิทธิ์ในเคหสถานไดโอนไปดวยเหตุใด ก็ไมทําใหเกิดสิทธิ ที่จะไดรับคาเชาบานขาราชการในระหวางรับราชการในทองที่นั้น เวนแตเคหสถานนั้นถูกทําลายหรือเสียหายเนื่องจากภัยพิบัติจนไมสามารถพักอาศัยอยูได มาตรา ๑๐ ถาขาราชการและคูสมรสรับราชการในทองที่เดียวกันและตางก็มีสิทธิไดรับคาเชาบานขาราชการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ใหเบิกจายไดเฉพาะคนใดคนหนึ่ง ขาราชการผูใดมีสิทธิไดรับคาเชาบานขาราชการตามพระราชกฤษฎีกานี้และมีคูสมรสเปนขาราชการกรุงเทพมหานคร พนักงานสวนทองถิ่น หรือพนักงานหรือลูกจางของรัฐวิสาหกิจตามกฎหมาย

/วาดวย .... 35

- ๔ - วาดวยวิธีการงบประมาณ หรือพนักงานหรือเจาหนาที่องคกรอิสระตามรัฐธรรมนูญ หรือองคการมหาชน ถาคูสมรสของผูนั้นไดใชสิทธิเบิกคาเชาบานหรือขาราชการผูนั้นไดอยูในที่พักอาศัยที่ ทางราชการจัดใหแกคูสมรสในทองที่เดียวกัน ขาราชการผูนั้นไมมีสิทธิเบิกคาเชาบานขาราชการตามพระราชกฤษฎีกานี้ มาตรา ๑๑ ขาราชการซึ่งมีสิทธิไดรับคาเชาบานขาราชการอยูแลวภายหลังไดรับเงินเดือนเพิ่มข้ึน ใหมีสิทธิไดรับคาเชาบานขาราชการเทาที่ตองจายจริงตามที่สมควรแกสภาพแหงบานแตอยางสูงไมเกินจํานวนเงินที่กําหนดไวตามบัญชีอัตราคาเชาบานขาราชการทายพระราชกฤษฎีกานี้ ถาเงินเดือนที่ไดรับเพิ่มข้ึนไมตรงกับที่กําหนดในบัญชีอัตราคาเชาบานขาราชการดังกลาว ใหไดรับ คาเชาบานขาราชการตามสวนของเงินเดือนโดยคํานวณตามวิธีการที่กระทรวงการคลังกําหนด มาตรา ๑๒ การลดหรืองดเบิกจายเงินเดือนแกขาราชการผูใด เนื่องจากการถูกตัดเงินเดือนหรือการลาโดยไมมีสิทธิไดรับเงินเดือน ไมกระทบตอสิทธิของผูนั้นที่จะไดรับคาเชาบานขาราชการตามพระราชกฤษฎีกานี้ และใหผูนั้นมีสิทธิไดรับคาเชาบานขาราชการเสมือนหนึ่งไมมีการลดหรืองดเบิกจายเงินเดือนเชนวานั้น เวนแตเปนการลาติดตามคูสมรสซึ่งยายไปรับราชการ ในตางประเทศ มาตรา ๑๓ ขาราชการผูใดซึ่งมีสิทธิไดรับคาเชาบานขาราชการถูกสั่งพักราชการหรือถูกสั่งใหออกจากราชการไวกอน หรือมีกรณีอ่ืนใดอันเปนเหตุใหถูกงดเบิกจายเงินเดือนใหงดเบิกจายคาเชาบานขาราชการ เมื่อกรณีถึงที่สุด ถาปรากฏวาผูนั้นมีสิทธิไดรับเงินเดือนในระหวางกรณีเชนวานั้นสําหรับเดือนใด ใหมีสิทธิไดรับคาเชาบานขาราชการสําหรับเดือนนั้นตามพระราชกฤษฎีกานี้ มาตรา ๑๔ ใหขาราชการมี สิทธิได รับเงินคาเชาบานขาราชการตั้ งแตวันที่ขาราชการผูนั้นไดเชาอยูจริง แตไมกอนวันที่รายงานตัวเพื่อเขารับหนาที่ และใหส้ินสุดในวันที่ ขาดจากอัตราเงินเดือนหรือวันที่อยูในขายหมดสิทธิไดรับคาเชาบานขาราชการตามพระราชกฤษฎีกานี้ถาผูซึ่งไดรับแตงตั้งใหไปรับราชการในทองที่อ่ืนไมสามารถออกเดินทางไปไดในวันที่สงมอบหนาที่ ใหมีสิทธิไดรับคาเชาบานขาราชการตอไปอีกไมเกินสิบวันนับแตวันสงมอบหนาที่ เวนแตมีความจําเปนจะตองอยูตอไปอีก ใหเบิกคาเชาบานขาราชการตอไปไดเทาที่จําเปนโดยไดรับการอนุมัติจากผูออกคําสั่งแตงตั้ง มาตรา ๑๕ ในกรณีที่ขาราชการซึ่งไดรับคาเชาบานขาราชการอยูแลวในทองที่หนึ่งและตอมาไดรับแตงตั้งใหไปรับราชการในทองที่ อ่ืนซึ่งตนมีสิทธิไดรับคาเชาบานขาราชการตาม พระราชกฤษฎีกานี้ ใหขาราชการผูนั้นมีสิทธินําหลักฐานการชําระคาเชาบานในทองที่เดิมมาเบิกคาเชาบาน

/ขาราชการ .... 36

- ๕ - ขาราชการในทองที่ใหมได ถาคูสมรสหรือบุตรซึ่งอยูในอุปการะของขาราชการผูนั้นไมอาจติดตามขาราชการผูนั้นไปได และมีความจําเปนตองอาศัยอยูในบานในทองที่เดิมตอไป มาตรา ๑๖ ขาราชการซึ่งรับราชการประจําในตางประเทศ ถาจําเปนตองเชาบานใหเบิกคาเชาบานขาราชการไดตามหลักเกณฑและอัตราที่กระทรวงการคลังกําหนด มาตรา ๑๗ ในกรณีที่ขาราชการซึ่ งมี สิทธิได รับคาเชาบานขาราชการตาม พระราชกฤษฎีกานี้ ไดเชาซื้อหรือผอนชําระเงินกูเพื่อชําระราคาบานที่คางชําระอยูในทองที่ที่ไปประจําสํานักงานใหม เพื่อใชเปนที่อยูอาศัยและไดอาศัยอยูจริงในบานนั้น ใหขาราชการผูนั้นมีสิทธินําหลักฐานการชําระคาเชาซื้อหรือคาผอนชําระเงินกูดังกลาวมาเบิกคาเชาบานขาราชการไดไมเกินจํานวนเงินที่กําหนดไวตามบัญชีอัตราคาเชาบานขาราชการทายพระราชกฤษฎีกานี้ ตามเงื่อนไขดังตอไปนี้ (๑) ตนเอง หรือคูสมรส ไดทําการผอนชําระคาเชาซื้อหรือผอนชําระเงินกูเพือ่ชาํระราคาบานในทองที่นั้น จะเบิกจายไดเฉพาะบานหลังแรกเทานั้น เวนแตบานหลังที่เคยใชสิทธิถูกทําลายหรือเสียหายเนื่องจากภัยพิบัติจนไมสามารถพักอาศัยอยูได (๒) หากเชาซื้อหรือกูเงินเพื่อชําระราคาบานรวมกับบุคคลอื่นซึ่งไมใชคูสมรส และมีกรรมสิทธิ์รวมกับบุคคลอื่นในบานนั้น จะเบิกจายคาเชาซื้อหรือคาผอนชําระเงินกูไดตามสัดสวนแหงกรรมสิทธิ์สําหรับบานหลังดังกลาว (๓) จะตองเปนการผอนชําระคาเชาซื้อหรือผอนชําระเงินกูเพื่อชําระราคาบานกับสถาบันการเงิน และสัญญาเชาซื้อหรือสัญญาเงินกูจะตองเปนไปตามหลักเกณฑและวิธีการ ที่กระทรวงการคลังกําหนด (๔) จะตองไมเคยใชสิทธินําหลักฐานการชําระคาเชาซื้อหรือคาผอนชําระเงินกูสําหรับบานหลังหนึ่งหลังใดในทองที่นั้นมาแลว เวนแตเปนกรณีที่ไดรับแตงตั้งใหกลับไปรับราชการ ในทองที่ที่เคยใชสิทธินั้นอีก และเปนการใชสิทธินําหลักฐานการชําระคาเชาซื้อหรือคาผอนชําระเงินกูตามที่ไดเคยใชสิทธิมาแลว หรือขณะที่ยายมารับราชการในทองที่นั้นบานที่เคยใชสิทธิไดโอนกรรมสิทธิ์ไปแลว (๕) หากเงินกูเพื่อชําระราคาบานสูงกวาราคาบาน ใหนําคาผอนชําระเงินกูมาเบิกคาเชาบานขาราชการได โดยใหคํานวณตามหลักเกณฑและวิธีการที่กระทรวงการคลังกําหนด ใหนําบทบัญญัติมาตรา ๙ ถึงมาตรา ๑๔ มาใชบังคับกับการเชาซื้อหรือการผอนชําระเงินกูเพื่อชําระราคาบานโดยอนุโลม

/มาตรา ๑๘ .... 37

- ๖ - มาตรา ๑๘ ขาราชการซึ่งไดใชสิทธินําหลักฐานการชําระคาเชาซื้อหรือคาผอนชําระเงินกูเพื่อชําระราคาบานมาเบิกคาเชาบานขาราชการตามมาตรา ๑๗ และตอมาไดรับแตงตั้งใหไป รับราชการในทองที่อ่ืนซึ่งตนมีสิทธิไดรับคาเชาบานขาราชการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ใหขาราชการผูนั้น มีสิทธินําหลักฐานการชําระคาเชาซื้อหรือคาผอนชําระเงินกูเพื่อชําระราคาบานในทองที่เดิมมาเบิก คาเชาบานขาราชการในทองที่ใหมได มาตรา ๑๙ สิทธิที่จะเบิกคาเชาบานขาราชการตามพระราชกฤษฎีกาวาดวยระเบียบคาเชาบานขาราชการ พุทธศักราช ๒๔๘๓ ซึ่งมาตรา ๑๘ และมาตรา ๑๙ แหงพระราชกฤษฎีกาคาเชาบานขาราชการ พ.ศ. ๒๕๒๗ กําหนดใหมีอยูตอไปนั้น ใหยังคงมีอยูตอไปจนกวาจะหมดสิทธิตามพระราชกฤษฎีกาวาดวยระเบียบคาเชาบานขาราชการพุทธศักราช ๒๔๘๓ มาตรา ๒๐ สิทธิที ่จะเบิกคาเชาบานขาราชการของขาราชการซึ ่งไดรับคําสั ่ง ใหเดินทางไปประจําสํานักงานใหมตามคํารองขอของตนเองตามพระราชกฤษฎีกาคาเชาบานขาราชการ พ.ศ. ๒๕๒๗ ซึ่งมีอยูกอนวันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใชบังคับ ใหยังคงมีอยูตอไปจนกวา จะหมดสิทธิตามพระราชกฤษฎีกาคาเชาบานขาราชการ พ.ศ. ๒๕๒๗ มาตรา ๒๑ ใหรัฐมนตรีวาการกระทรวงการคลังรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี ้ ผูรับสนองพระบรมราชโองการ

พันตํารวจโท ทักษิณ ชนิวตัร

นายกรัฐมนตรี หมายเหตุ : - เหตุผลในการประกาศใชพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ โดยที่พระราชกฤษฎีกาวาดวยคาเชาบานขาราชการ ที่ใชบังคับอยูในปจจุบันมีบทบัญญัติบางประการที่ไมชัดเจนทําใหเกิดปญหาในการตีความและการวินิจฉัยสิทธิ การไดรับคาเชาบานขาราชการ อีกทั้งเพื่อเปนการบรรเทาความเดือดรอนดานที่อยูอาศัยของขาราชการ จึงสมควรปรับปรุงหลักเกณฑและเงื่อนไขในการเบิกคาเชาบาน คาเชาซื้อ และคาผอนชําระเงินกูเพื่อชําระราคาบาน ใหเหมาะสมยิ่งขึ้น นอกจากนี้ เนื่องจากไดมีการปรับปรุงบัญชีอัตราเงินเดือนและเงินประจําตําแหนงขาราชการตุลาการทายพระราชบัญญัติระเบียบขาราชการฝายตุลาการศาลยุติธรรม พ.ศ. ๒๕๔๓ และบัญชีอัตราเงินเดือนและ เงินประจําตําแหนงขาราชการอัยการทายพระราชบัญญัติเงินเดือนและเงินประจําตําแหนงขาราชการอัยการ พ.ศ. ๒๕๔๔ จึงตองปรับปรุงบัญชีอัตราคาเชาบานขาราชการใหสอดคลองกับบัญชีอัตราเงินเดือนและเงินประจําดังกลาว จึงจําเปนตองตราพระราชกฤษฎีกานี ้

38

หนา ๘๐ เลม ๑๒๔ ตอนที ่ ๘๙ ก ราชกิจจานุเบกษา ๑๐ ธันวาคม ๒๕๕๐

พระราชกฤษฎีกา คาเชาบานขาราชการ (ฉบับที่ ๒)

พ.ศ. ๒๕๕๐

ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ใหไว ณ วันที่ ๙ ธนัวาคม พ.ศ. ๒๕๕๐

เปนปที่ ๖๒ ในรัชกาลปจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกลา ฯ

ใหประกาศวา โดยที่เปนการสมควรแกไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกาวาดวยคาเชาบานขาราชการ อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๓

(๑) (๒) และ (๖) แหงพระราชบัญญัติการกําหนดหลักเกณฑเกี่ยวกับการจายเงินบางประเภท ตามงบประมาณรายจาย พ.ศ. ๒๕๑๘ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกลา ฯ ใหตราพระราชกฤษฎีกาข้ึนไว ดังตอไปนี้

มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกวา “พระราชกฤษฎีกาคาเชาบานขาราชการ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๐”

มาตรา ๒ พระราชกฤษฎีกานี้ใหใชบังคับต้ังแตวันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเปนตนไป

มาตรา ๓ ใหยกเลิกความในมาตรา ๗ แหงพระราชกฤษฎีกาคาเชาบานขาราชการ พ.ศ. ๒๕๔๗ และใหใชความตอไปนี้แทน

หนา ๘๑ เลม ๑๒๔ ตอนที ่ ๘๙ ก ราชกิจจานุเบกษา ๑๐ ธันวาคม ๒๕๕๐

“มาตรา ๗ ขาราชการผูใดไดรับคําส่ังใหเดินทางไปประจําสํานักงานในตางทองที่มีสิทธิไดรับคาเชาบานขาราชการเทาที่ตองจายจริงตามที่สมควรแกสภาพแหงบาน แตอยางสูงไมเกินจํานวนเงิน ที่กําหนดไวตามบัญชีอัตราคาเชาบานขาราชการทายพระราชกฤษฎีกานี้ ทั้งนี้ เวนแตผูนั้น

(๑) ทางราชการไดจัดที่พักอาศัยใหอยูแลว (๒) มีเคหสถานอันเปนกรรมสิทธิ์ของตนเองหรือคูสมรสในทองที่ที่ไปประจําสํานักงานใหม

โดยไมมีหนี้คางชําระกับสถาบันการเงิน (๓) ไดรับคําส่ังใหเดินทางไปประจําสํานักงานใหมในตางทองที่ตามคํารองขอของตนเอง ความในวรรคหนึ่ง ใหใชบังคับแกขาราชการผูไดรับคําส่ังใหเดินทางไปประจําสํานักงาน

ในตางทองที่ที่เปนทองที่ที่เร่ิมรับราชการครั้งแรกหรือทองที่ที่กลับเขารับราชการใหมดวย ขาราชการผูใดได รับเงินเดือนไมตรงกับที่ กําหนดในบัญชีอัตราคาเชาบานขาราชการ

ทายพระราชกฤษฎีกานี้ ใหไดรับคาเชาบานขาราชการตามสวนของเงินเดือนโดยคํานวณตามวิธีการ ที่กระทรวงการคลังกําหนด”

มาตรา ๔ ใหยกเลิกบัญชีอัตราคาเชาบานขาราชการหมายเลข ๑ สําหรับขาราชการพลเรือน ขาราชการพลเรือนในมหาวิทยาลัย ขาราชการฝายรัฐสภา ขาราชการครู ขาราชการศาลยุติธรรม และขาราชการธุรการตามกฎหมายวาดวยระเบียบขาราชการฝายอัยการ ทายพระราชกฤษฎีกาคาเชาบานขาราชการ พ.ศ. ๒๕๔๗ และใหใชบัญชีอัตราคาเชาบานขาราชการหมายเลข ๑ สําหรับขาราชการ พลเรือน ขาราชการพลเรือนในมหาวิทยาลัย ขาราชการฝายรัฐสภา ขาราชการศาลยุติธรรม และขาราชการธุรการตามกฎหมายวาดวยระเบียบขาราชการฝายอัยการ ทายพระราชกฤษฎีกานี้แทน

มาตรา ๕ ใหเพิ่มบัญชีอัตราคาเชาบานขาราชการหมายเลข ๖ สําหรับขาราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา ทายพระราชกฤษฎีกานี้เปนบัญชีอัตราคาเชาบานขาราชการ

มาตรา ๖ บัญชีอัตราคาเชาบานขาราชการหมายเลข ๖ สําหรับขาราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ทายพระราชกฤษฎีกานี้ ใหมีผลใชบังคับแกขาราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่ไดรับเงินเดือนตามพระราชบัญญัติเงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจําตําแหนงขาราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๗ ต้ังแตวันที่ ๒๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๗ ซ่ึงไดเบิกเงินคาเชาบานตามบัญชีอัตราคาเชาบานขาราชการหมายเลข ๑ สําหรับขาราชการพลเรือน ขาราชการพลเรือน ในมหาวิทยาลัย ขาราชการฝายรัฐสภา ขาราชการครู ขาราชการศาลยุติธรรม และขาราชการธุรการ

หนา ๘๒ เลม ๑๒๔ ตอนที ่ ๘๙ ก ราชกิจจานุเบกษา ๑๐ ธันวาคม ๒๕๕๐

ตามกฎหมายวาดวยระเบียบขาราชการฝายอัยการ ทายพระราชกฤษฎีกาคาเชาบานขาราชการ พ.ศ. ๒๕๔๗ ไปกอนวันที่พระราชกฤษฎีกานี้มีผลใชบังคับ

ในกรณีที่มีเงินสวนตางของอัตราคาเชาบานตามบัญชีอัตราคาเชาบานขาราชการหมายเลข ๖ สําหรับขาราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตามพระราชกฤษฎีกาคาเชาบานขาราชการ พ.ศ. ๒๕๔๗ ซ่ึงแกไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกานี้ กับบัญชีอัตราคาเชาบาน ขาราชการหมายเลข ๑ สําหรับขาราชการพลเรือน ขาราชการพลเรือนในมหาวิทยาลัย ขาราชการฝายรัฐสภา ขาราชการครู ขาราชการศาลยุติธรรม และขาราชการธุรการตามกฎหมายวาดวยระเบียบขาราชการฝายอัยการ ทายพระราชกฤษฎีกาคาเชาบานขาราชการ พ.ศ. ๒๕๔๗ ใหมีสิทธิไดรับเงินสวนตางของอัตราคาเชาบานที่ยังไมไดรับนั้น

มาตรา ๗ สิทธิของขาราชการผูที่ไดรับคําส่ังใหเดินทางไปประจําสํานักงานในทองที่ที่เร่ิมรับราชการครั้งแรกหรือทองที่ที่กลับเขารับราชการใหม ใหเร่ิมมีสิทธิการไดรับคาเชาบานขาราชการ เมื่อไดรับคําส่ังใหเดินทางไปประจําสํานักงานในตางทองที่ต้ังแตวันที่พระราชกฤษฎีกานี้มีผลใชบังคับ

มาตรา ๘ ใหรัฐมนตรีวาการกระทรวงการคลังรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้

ผูรับสนองพระบรมราชโองการ พลเอก สุรยุทธ จุลานนท

นายกรัฐมนตรี

บัญชีอตัราคาเชาบานขาราชการ บัญชีอตัราคาเชาบานขาราชการหมายเลข ๑ สําหรับขาราชการพลเรอืน ขาราชการพลเรือนในมหาวิทยาลัย ขาราชการฝายรัฐสภา ขาราชการศาลยตุิธรรม และขาราชการธุรการตามกฎหมายวาดวยระเบียบขาราชการฝายอัยการ

ตําแหนงระดับ ๑ ตําแหนงระดับ ๒ ตําแหนงระดับ ๓ ตําแหนงระดับ ๔ ตําแหนงระดับ ๕

ขั้นเงนิเดอืน คาเชาบาน ไมเกนิ

เดือนละ/บาท

ขั้นเงนิเดอืน

คาเชาบาน ไมเกนิ

เดือนละ/บาท

ขั้นเงนิเดอืน

คาเชาบาน ไมเกนิ

เดือนละ/บาท

ขั้นเงนิเดอืน

คาเชาบาน ไมเกนิ

เดือนละ/บาท

ขั้นเงนิเดอืน

คาเชาบาน ไมเกนิ

เดือนละ/บาท ขั้นที่ ๑–๔.๕ ๘๐๐ ขั้นที่ ๑–๕.๕ ๑,๐๐๐ ขั้นที่ ๑–๕.๕ ๑,๒๕๐ ขั้นที่ ๑–๕.๕ ๑,๖๐๐ ขั้นที่ ๑–๕.๕ ๑,๙๕๐ ขั้นที่ ๕–๑๐.๕ ๑,๐๐๐ ขั้นที่ ๖–๑๐.๕ ๑,๒๕๐ ขั้นที่ ๖–๑๐.๕ ๑,๖๐๐ ขั้นที่ ๖–๑๐.๕ ๑,๙๕๐ ขั้นที่ ๖–๑๐.๕ ๒,๔๐๐ ขั้นที่ ๑๑ ขึ้นไป ๑,๒๕๐ ขั้นที่ ๑๑ ขึ้นไป ๑,๕๐๐ ขั้นที่ ๑๑ ขึ้นไป ๑,๙๕๐ ขั้นที่ ๑๑ ขึ้นไป ๒,๓๐๐ ขั้นที่ ๑๑ ขึ้นไป ๓,๐๐๐

ตําแหนงระดับ ๖ ตําแหนงระดับ ๗ ตําแหนงระดับ ๘ ตําแหนงระดับ ๙ ตําแหนงระดับ ๑๐ ขึ้นไป

ขั้นเงนิเดอืน คาเชาบาน ไมเกนิ

เดือนละ/บาท

ขั้นเงนิเดอืน

คาเชาบาน ไมเกนิ

เดือนละ/บาท

ขั้นเงนิเดอืน

คาเชาบาน ไมเกนิ

เดือนละ/บาท

ขั้นเงนิเดอืน

คาเชาบาน ไมเกนิ

เดือนละ/บาท

คาเชาบาน ไมเกนิ

เดือนละ/บาท ขั้นที่ ๑–๕.๕ ๒,๔๐๐ ขั้นที่ ๑–๑๐.๕ ๓,๐๐๐ ขั้นที่ ๑–๕.๕ ๓,๐๐๐ ขั้นที่ ๑–๕.๕ ๓,๕๐๐ ขั้นที่ ๖ ขึ้นไป ๓,๐๐๐ ขั้นที่ ๑๑ ขึ้นไป ๓,๕๐๐ ขั้นที่ ๖–๑๐.๕ ๓,๕๐๐ ขั้นที่ ๖ ขึ้นไป ๔,๐๐๐ ขั้นที่ ๑๑ ขึ้นไป ๔,๐๐๐

๔,๐๐๐

บัญชีอัตราคาเชาบานขาราชการหมายเลข ๖ สําหรับขาราชการครแูละบุคลากรทางการศกึษา

ครูผูชวย ตําแหนงระดบั คศ. ๑ ตําแหนงระดบั คศ. ๒

เงินเดือน คาเชาบานไมเกิน เดือนละ/บาท

เงินเดือน คาเชาบานไมเกิน เดือนละ/บาท

เงินเดือน คาเชาบานไมเกิน เดือนละ/บาท

ลําดับเงินเดือนที่ต่ํากวาขั้นต่ําของอันดับนับจากเงินเดือนนอยไปหามาก

ลําดับที ่

๑-๒ ๑,๒๕๐ ลําดับเงินเดือนที่ต่ํากวาขั้นต่ําของอันดับนับจากเงินเดือนนอยไปหามาก

ลําดับที ่

๑-๒ ๑,๒๕๐ ลําดับเงินเดือนที่ต่ํากวาขั้นต่ําของอันดับนับจากเงินเดือนนอยไปหามาก

ลําดับที ่

๑-๘ ๒,๔๐๐

ลําดับเงินเดือนที่ต่ํากวาขั้นต่ําของอันดับนับจากเงินเดือนนอยไปหามาก

ลําดับที ่

๓-๔ ๑,๖๐๐ ลําดับเงินเดือนที่ต่ํากวาขั้นต่ําของอันดับนับจากเงินเดือนนอยไปหามาก

ลําดับที ่

๓-๑๐ ๑,๖๐๐ ขั้นที่ ๑-๑๐.๕ ๓,๐๐๐

ขั้นที ่ ๑-๔.๕ ๑,๖๐๐ ลําดับเงินเดือนที่ต่ํากวาขั้นต่ําของอันดับนับจากเงินเดือนนอยไปหามาก

ลําดับที ่

๑๑-๑๖ ๑,๙๕๐ ขั้นที่ ๑๑-๒๐ ๓,๕๐๐

ขั้นที ่ ๕-๘.๕ ๑,๙๕๐ ขั้นที่ ๑-๑.๕ ๑,๙๕๐ ขั้นที ่ ๙-๑๒.๕ ๒,๔๐๐ ขั้นที่ ๒-๖.๕ ๒,๔๐๐ ขั้นที ่ ๑๓ ขึ้นไป ๓,๐๐๐ ขั้นที่ ๗-๒๑ ๓,๐๐๐

ตําแหนงระดบั คศ. ๓ ตําแหนงระดบั คศ. ๔ ตําแหนงระดบั คศ. ๕

เงินเดือน คาเชาบานไมเกิน เดือนละ/บาท

เงินเดือน คาเชาบานไมเกิน เดือนละ/บาท

คาเชาบานไมเกินเดือนละ/บาท

ลําดับเงินเดือนที่ต่ํากวาขั้นต่ําของอันดับนับจากเงินเดือนนอยไปหามาก

ลําดับที ่

๑-๘ ๒,๔๐๐ ขั้นที่ ๑-๕.๕ ๓,๕๐๐ ๔,๐๐๐

ลําดับเงินเดือนที่ต่ํากวาขั้นต่ําของอันดับนับจากเงินเดือนนอยไปหามาก

ลําดับที ่

๙-๑๖ ๓,๐๐๐ ขั้นที่ ๖-๒๐ ๔,๐๐๐

ขั้นที่ ๑-๕.๕ ๓,๐๐๐ ขั้นที ่ ๖-๑๐.๕ ๓,๕๐๐ ขั้นที ่ ๑๑-๒๔ ๔,๐๐๐

หนา ๘๓ เลม ๑๒๔ ตอนที ่ ๘๙ ก ราชกิจจานุเบกษา ๑๐ ธันวาคม ๒๕๕๐

หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใชพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ โดยที่พระราชกฤษฎีกาคาเชาบานขาราชการ พ.ศ. ๒๕๔๗ ยังคงมีขอยกเวนท่ีขาราชการจะไมไดรับคาเชาบาน หากเปนกรณีท่ีไดรับคําส่ังใหเดินทางไปรับราชการ ในทองท่ีท่ีเริ่มรับราชการครั้งแรกหรือทองท่ีท่ีกลับเขารับราชการใหม สมควรปรับปรุงสิทธิการไดรับคาเชาบานใหสอดคลองกับสภาพสังคมปจจุบันมากยิ่งขึ้น รวมทั้งมีความจําเปนท่ีตองกําหนดใหมีบัญชีอัตราคาเชาบานสําหรับขาราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ไดเปล่ียนแปลงระบบตําแหนงใหม เพ่ือใหมีสิทธิไดรับคาเชาบานในอัตราที่ถูกตองและเปนธรรม จึงจําเปนตองตราพระราชกฤษฎีกานี้

หนา ๑๐ เลม ๑๒๖ ตอนที ่ ๙๔ ก ราชกิจจานุเบกษา ๑๘ ธันวาคม ๒๕๕๒

พระราชกฤษฎีกา คาเชาบานขาราชการ (ฉบับที่ ๓)

พ.ศ. ๒๕๕๒

ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ใหไว ณ วันที่ ๘ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๒

เปนปที่ ๖๔ ในรัชกาลปจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกลา ฯ

ใหประกาศวา โดยที่เปนการสมควรแกไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกาวาดวยคาเชาบานขาราชการ อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๓

แหงพระราชบัญญัติการกําหนดหลักเกณฑเกี่ยวกับการจายเงินบางประเภทตามงบประมาณรายจาย พ.ศ. ๒๕๑๘ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกลา ฯ ใหตราพระราชกฤษฎีกาข้ึนไว ดังตอไปนี้

มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกวา “พระราชกฤษฎีกาคาเชาบานขาราชการ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๒”

มาตรา ๒ พระราชกฤษฎีกานี้ใหใชบังคับต้ังแตวันที่ ๑๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ เปนตนไป มาตรา ๓ ใหยกเลิกบัญชีอัตราคาเชาบานขาราชการหมายเลข ๑ สําหรับขาราชการพลเรือน

ขาราชการพลเรือนในมหาวิทยาลัย ขาราชการฝายรัฐสภา ขาราชการศาลยุติธรรม และขาราชการธุรการตามกฎหมายวาดวยระเบียบขาราชการฝายอัยการ ทายพระราชกฤษฎีกาคาเชาบานขาราชการ พ.ศ. ๒๕๔๗

หนา ๑๑ เลม ๑๒๖ ตอนที ่ ๙๔ ก ราชกิจจานุเบกษา ๑๘ ธันวาคม ๒๕๕๒

ซ่ึงแกไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกาคาเชาบานขาราชการ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๐ และใหใชบัญชีอัตราคาเชาบานขาราชการหมายเลข ๑ สําหรับขาราชการพลเรือนในมหาวิทยาลัย ขาราชการฝายรัฐสภา ขาราชการศาลยุติธรรม และขาราชการธุรการตามกฎหมายวาดวยระเบียบขาราชการฝายอัยการ ทายพระราชกฤษฎีกานี้แทน

มาตรา ๔ ใหเพิ่มบัญชอีัตราคาเชาบานขาราชการหมายเลข ๗ สําหรับขาราชการพลเรือน ทายพระราชกฤษฎีกานี้เปนบัญชีอัตราคาเชาบานขาราชการ

ผูรับสนองพระบรมราชโองการ

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี

บัญชีอัตราคาเชาบานขาราชการ บัญชีอัตราคาเชาบานขาราชการหมายเลข ๑

สําหรับขาราชการพลเรือนในมหาวิทยาลัย ขาราชการฝายรัฐสภา ขาราชการศาลยุติธรรม และขาราชการธุรการตามกฎหมายวาดวยระเบียบขาราชการฝายอัยการ

ตําแหนงระดับ ๑ ตําแหนงระดับ ๒ ตําแหนงระดับ ๓ ตําแหนงระดับ ๔ ตําแหนงระดับ ๕

ขั้นเงินเดือน คาเชาบานไมเกินเดือนละ/บาท

ขั้นเงินเดือน คาเชาบานไมเกินเดือนละ/บาท

ขั้นเงินเดือน คาเชาบานไมเกินเดือนละ/บาท

ขั้นเงินเดือน คาเชาบานไมเกินเดือนละ/บาท

ขั้นเงินเดือน คาเชาบานไมเกินเดือนละ/บาท

ขั้นที่ ๑-๔.๕ ขั้นที่ ๕-๑๐.๕ ขั้นที่ ๑๑ ขึ้นไป

๘๐๐ ๑,๐๐๐ ๑,๒๕๐

ขั้นที่ ๑-๕.๕ ขั้นที่ ๖-๑๐.๕ ขั้นที่ ๑๑ ขึ้นไป

๑,๐๐๐๑,๒๕๐ ๑,๕๐๐

ขั้นที่ ๑-๕.๕ ขั้นที่ ๖-๑๐.๕ ขั้นที่ ๑๑ ขึ้นไป

๑,๒๕๐ ๑,๖๐๐ ๑,๙๕๐

ขั้นที่ ๑-๕.๕ ขั้นที่ ๖-๑๐.๕ ขั้นที่ ๑๑ ขึ้นไป

๑,๖๐๐๑,๙๕๐ ๒,๓๐๐

ขั้นที่ ๑-๕.๕ ขั้นที่ ๖-๑๐.๕ ขั้นที่ ๑๑ ขึ้นไป

๑,๙๕๐ ๒,๔๐๐ ๓,๐๐๐

ตําแหนงระดับ ๖ ตําแหนงระดับ ๗ ตําแหนงระดับ ๘ ตําแหนงระดับ ๙ ตําแหนงระดับ ๑๐ ขึ้นไป

ขั้นเงินเดือน คาเชาบานไมเกินเดือนละ/บาท

ขั้นเงินเดือน คาเชาบานไมเกินเดือนละ/บาท

ขั้นเงินเดือน คาเชาบานไมเกินเดือนละ/บาท

ขั้นเงินเดือน คาเชาบานไมเกินเดือนละ/บาท

คาเชาบานไมเกิน เดือนละ/บาท

ขั้นที่ ๑-๕.๕ ขั้นที่ ๖ ขึ้นไป

๒,๔๐๐๓,๐๐๐

ขั้นที่ ๑-๑๐.๕ ขั้นที่ ๑๑ ขึ้นไป

๓,๐๐๐๓,๕๐๐

ขั้นที่ ๑-๕.๕ ขั้นที่ ๖-๑๐.๕ ขั้นที่ ๑๑ ขึ้นไป

๓,๐๐๐ ๓,๕๐๐ ๔,๐๐๐

ขั้นที่ ๑-๕.๕ ขั้นที่ ๖ ขึ้นไป

๓,๕๐๐๔,๐๐๐

๔,๐๐๐

บัญชีอัตราคาเชาบานขาราชการหมายเลข ๗

สําหรับขาราชการพลเรือน

ตําแหนงประเภทบริหาร เงินเดือน/บาท คาเชาบานไมเกินเดือนละ/บาท ระดับตน ตั้งแต ๒๓,๒๓๐ แตไมถึง ๒๙,๙๐๐ ๓,๕๐๐

ตั้งแต ๒๙,๙๐๐ ขึ้นไป ๔,๐๐๐ระดับสูง - ๔,๐๐๐

ตําแหนงประเภทอํานวยการ เงินเดือน/บาท คาเชาบานไมเกินเดือนละ/บาท ระดับตน ตั้งแต ๑๘,๙๑๐ แตไมถึง ๒๔,๓๑๐ ๓,๐๐๐

ตั้งแต ๒๔,๓๑๐ แตไมถึง ๒๙,๘๐๐ ๓,๕๐๐ ตั้งแต ๒๙,๘๐๐ ขึ้นไป ๔,๐๐๐

ระดับสูง ตั้งแต ๒๓,๒๓๐ แตไมถึง ๒๙,๙๐๐ ๓,๕๐๐ ตั้งแต ๒๙,๙๐๐ ขึ้นไป ๔,๐๐๐

๒

ตําแหนงประเภทวิชาการ เงินเดือน/บาท คาเชาบานไมเกินเดือนละ/บาท ระดับปฏิบัติการ ตั้งแต ๖,๘๐๐ แตไมถึง ๘,๓๒๐ ๑,๒๕๐

ตั้งแต ๘,๓๒๐ แตไมถึง ๑๐,๑๙๐ ๑,๖๐๐ ตั้งแต ๑๐,๑๙๐ แตไมถึง ๑๓,๑๐๐ ๑,๙๕๐ ตั้งแต ๑๓,๑๐๐ แตไมถึง ๑๖,๐๗๐ ๒,๔๐๐ ตั้งแต ๑๖,๐๗๐ ขึ้นไป ๓,๐๐๐

ระดับชํานาญการ ตั้งแต ๑๒,๕๓๐ แตไมถึง ๑๕,๔๑๐ ๒,๔๐๐ ตั้งแต ๑๕,๔๑๐ แตไมถึง ๒๔,๒๕๐ ๓,๐๐๐ ตั้งแต ๒๔,๒๕๐ ขึ้นไป ๓,๕๐๐

ระดับชํานาญการพิเศษ ตั้งแต ๑๘,๙๑๐ แตไมถึง ๒๔,๓๑๐ ๓,๐๐๐ ตั้งแต ๒๔,๓๑๐ แตไมถึง ๒๙,๘๐๐ ๓,๕๐๐ ตั้งแต ๒๙,๘๐๐ ขึ้นไป ๔,๐๐๐

ระดับเชี่ยวชาญ ตั้งแต ๒๓,๒๓๐ แตไมถึง ๒๙,๙๐๐ ๓,๕๐๐ ตั้งแต ๒๙,๙๐๐ ขึ้นไป ๔,๐๐๐

ระดับทรงคุณวุฒิ - ๔,๐๐๐

๓

ตําแหนงประเภททั่วไป เงินเดือน/บาท คาเชาบานไมเกินเดือนละ/บาท

ระดับปฏิบัติงาน ตั้งแต ๔,๖๓๐ แตไมถึง ๕,๕๓๐ ๘๐๐ ตั้งแต ๕,๕๓๐ แตไมถึง ๖,๘๐๐ ๑,๐๐๐ ตั้งแต ๖,๘๐๐ แตไมถึง ๘,๓๒๐ ๑,๒๕๐ ตั้งแต ๘,๓๒๐ แตไมถึง ๑๐,๖๔๐ ๑,๖๐๐ ตั้งแต ๑๐,๖๔๐ แตไมถึง ๑๓,๑๐๐ ๑,๙๕๐ ตั้งแต ๑๓,๑๐๐ ขึ้นไป ๒,๓๐๐

ระดับชํานาญงาน ตั้งแต ๑๐,๑๙๐ แตไมถึง ๑๒,๕๓๐ ๑,๙๕๐ ตั้งแต ๑๒,๕๓๐ แตไมถึง ๑๖,๐๗๐ ๒,๔๐๐ ตั้งแต ๑๖,๐๗๐ ขึ้นไป ๓,๐๐๐

ระดับอาวุโส ตั้งแต ๑๕,๔๑๐ แตไมถึง ๒๔,๒๕๐ ๓,๐๐๐ ตั้งแต ๒๔,๒๕๐ แตไมถึง ๒๙,๘๐๐ ๓,๕๐๐ ตั้งแต ๒๙,๘๐๐ ขึ้นไป ๔,๐๐๐

ระดับทักษะพิเศษ - ๔,๐๐๐

หนา ๑๒ เลม ๑๒๖ ตอนที ่ ๙๔ ก ราชกิจจานุเบกษา ๑๘ ธันวาคม ๒๕๕๒

หมายเหต ุ :- เหตุผลในการประกาศใชพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากไดมีการใชบังคับพระราชบัญญัติระเบียบขาราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๕๑ ซ่ึงมีผลเปนการปรับปรุงระบบตําแหนงขาราชการพลเรือนโดยยกเลิกระดับตําแหนงของขาราชการพลเรือนท่ีไดใชมาแตเดิม และปรับปรุงการกําหนดตําแหนงและการใหไดรับเงินเดือนและเงินประจําตําแหนงของขาราชการพลเรือน สมควรปรับปรุงบัญชีอัตราคาเชาบานขาราชการ ทายพระราชกฤษฎีกาวาดวยคาเชาบานขาราชการ ใหสอดคลองกับการกําหนดตําแหนงและอัตราเงินเดือน ตามบัญชีเงินเดือนขั้นต่ําขั้นสูงของขาราชการพลเรือนสามัญทายพระราชบัญญัติดังกลาว โดยนําอัตรา คาเชาบานขาราชการสําหรับขาราชการพลเรือนมากําหนดแยกตางหากไวเปนอีกบัญชีหนึ่ง จึงจําเปนตองตรา พระราชกฤษฎีกานี้

ผนวก ข

ระเบียบกระทรวงการคลังวาดวยการเบกิจายเงิน คาเชาบาน พ.ศ. 2549 และที่แกไขเพิ่มเติม

(ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2552

ระเบียบกระทรวงการคลัง

วาดวยหลักเกณฑและวิธีการเกี่ยวกับการเบิกจายเงินคาเชาบานขาราชการ พ.ศ. ๒๕๔๙ __________________

โดยที่ไดมีการประกาศใชบังคับพระราชกฤษฎีกาคาเชาบานขาราชการ พ.ศ. ๒๕๔๗ ซ่ึงมีผลเปน การยกเลิกพระราชกฤษฎีกาคาเชาบานขาราชการ พ.ศ. ๒๕๒๗ และฉบบัที่แกไขเพิ่มเติม สมควรกําหนดหลักเกณฑและวิธีการเกี่ยวกบัการเบิกจายเงินคาเชาบานขาราชการขึ้นใหม

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๔ มาตรา ๖ วรรคสอง มาตรา ๗ วรรคสอง มาตรา ๘ มาตรา ๑๑ และมาตรา ๑๗ (๓) และ (๕) แหงพระราชกฤษฎีกาคาเชาบานขาราชการ พ.ศ. ๒๕๔๗ กระทรวงการคลัง จึงออกระเบยีบไว ดังตอไปนี้

ขอ ๑ ระเบียบนี้เรียกวา “ระเบียบกระทรวงการคลังวาดวยหลักเกณฑและวิธีการเกีย่วกับการเบิกจายเงินคาเชาบานขาราชการ พ.ศ. ๒๕๔๙”

ขอ ๒ ระเบียบนี้ใหใชบังคับตั้งแตวนัถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเปนตนไป ขอ ๓ บรรดาระเบียบ ประกาศ คําสั่ง และหลักเกณฑอ่ืนใดที่เกีย่วกับคาเชาบานขาราชการในสวนที่

กําหนดไวแลวในระเบยีบนี้ หรือซ่ึงขัดหรือแยงกับระเบยีบนี้ ใหใชระเบียบนี้แทน ขอ ๔ ในกรณทีี่สวนราชการไมสามารถปฏิบัติตามที่กําหนดไวในขอ ๘ ขอ ๙ ขอ ๑๐ และขอ ๑๗

หรือมีความจําเปนตองปฏิบัตินอกเหนือจากขอกําหนดดงักลาว ใหปลัดกระทรวง หวัหนาสวนราชการที่ขึ้นตรงตอนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรี หรือหัวหนาสวนราชการที่ไมสังกัดสํานักนายกรัฐมนตรี กระทรวงหรือทบวง แลวแตกรณี เปนผูวินจิฉัย ทั้งนี้ โดยคํานึงถึงความประหยดัและประโยชนของราชการเปนสําคัญ แลวแจงใหปลัดกระทรวงการคลังทราบดวย

นอกเหนือจากที่กําหนดไวในวรรคหนึ่ง ใหสวนราชการหารือหรือขอทําความตกลงกับกระทรวงการคลัง

ขอ ๕ บรรดาแบบพิมพที่ใชเกี่ยวกับการเบกิจายเงินคาเชาบาน ใหเปนไปตามแบบทายระเบยีบนี้ หรือตามที่กรมบัญชีกลางกําหนดในกรณทีี่ไมไดกําหนดไวในระเบียบนี้

ขอ ๖ ใหขาราชการผูมีสิทธิไดรับคาเชาบานยื่นคําขอรับคาเชาบานตามแบบขอรับคาเชาบาน (แบบ ๖๐๐๕) ทายระเบยีบนี้ ณ สํานักงานทีข่าราชการผูนั้นปฏิบัติราชการ เวนแตระเบียบนี้จะกําหนดไว เปนอยางอื่น

ขอ ๗ การยื่นแบบ ๖๐๐๕ ใหยื่นตอผูรับรองการมีสิทธิตามขอ ๘ พรอมดวยสัญญาเชาบาน สัญญา เชาซื้อ หรือสัญญาเงินกูเพื่อชําระราคาบานและหลักฐานอื่นที่เกีย่วของ

/ในกรณีการยืน่…..

53

ในกรณีการยืน่หลักฐานทีเ่ปนสัญญาเงินกูเพื่อชําระราคาบาน ตองแนบสัญญาซื้อขายบาน สัญญาซื้อขายบานพรอมที่ดนิ หรือสัญญาจางปลูกสรางบาน แลวแตกรณี เปนหลักฐานประกอบดวย และหากวงเงินในสัญญาดังกลาวต่ํากวาสัญญาเงินกู ขาราชการผูใชสิทธิตองยื่นหลักฐานทีส่ถาบันการเงนิรับรอง วา หากมีการกูเงินตามวงเงินในสัญญาดังกลาว จะตองมกีารผอนชําระรายเดือนเปนจํานวนเทาใด

ขอ ๘ ใหบุคคลดังตอไปนี้ เปนผูรับรองการมีสิทธิไดรับคาเชาบานของขาราชการในสังกัดใน แบบ ๖๐๐๕

(๑) สวนราชการในราชการบริหารสวนกลาง ใหเลขานกุารรัฐมนตรี เลขานุการกรม หรือหัวหนาสวนราชการตั้งแตระดับกองหรือเทียบเทาขึ้นไป เปนผูรับรอง

สวนราชการในราชการบริหารสวนกลางทีม่ีสํานักงานอยูในภูมภิาคหรอืแยกตางหากจากกระทรวง ทบวง กรม ใหหัวหนาสํานกังานซึ่งดํารงตําแหนงไมต่ํากวาระดับ ๖ หรือเทียบเทา เปนผูรับรอง

(๒) สวนราชการในราชการบริหารสวนภูมิภาค ใหหวัหนาสวนราชการประจําจังหวัด หรือหัวหนาสวนราชการประจําอําเภอ แลวแตกรณี เปนผูรับรอง

(๓) สวนราชการในสังกัดกระทรวงกลาโหมหรือสํานักงานตํารวจแหงชาติ ใหผูบังคับบัญชาที่มียศตั้งแตพนัตรี นาวาตรี นาวาอากาศตรี หรือพันตํารวจตรขีึ้นไป เปนผูรับรอง

ใหผูบังคับบัญชาเหนือขึ้นไปอยางนอยหนึ่งระดับหรือหนึง่ชั้นยศ เปนผูรับรองการมีสิทธิของบุคคลตาม (๑) (๒) และ (๓) ซ่ึงมิไดดํารงตําแหนงตามที่กําหนดไวในวรรคสาม

ใหขาราชการผูดํารงตําแหนงตั้งแตระดับ ๘ ขึ้นไปหรือเทียบเทา ขาราชการทหารที่มียศพันเอก นาวาเอก นาวาอากาศเอก หรือขาราชการตํารวจที่มียศพันตํารวจเอกขึ้นไป เปนผูรับรองการมีสิทธิของตนเอง

ขอ ๙ เมื่อมีการรับรองสิทธิขอรับคาเชาบานแลว ใหผูมอํีานาจอนุมัตกิารเบิกคาเชาบานตามขอ ๑๐ แตงตั้งขาราชการจํานวนไมนอยกวาสามคนเปนคณะกรรมการ เพื่อตรวจสอบขอเท็จจริงและรายละเอียด ดังตอไปนี ้

(๑) กรณีเชาบาน ใหตรวจสอบวาไดเชาบานและพกัอาศยัอยูจริง ระยะเวลาเริ่มตนของการเชาบานและการเขาพักอาศัย ตลอดจนความเหมาะสมของอัตราคาเชาบานเมื่อเปรียบเทยีบกับสภาพแหงบาน

(๒) กรณีเชาซือ้บานหรือกูเงินเพื่อชําระราคาบาน ใหตรวจสอบสัญญาเชาซื้อบานหรือสัญญาเงินกูเพื่อชําระราคาบาน วงเงนิเชาซื้อหรือวงเงินกู เอกสารหลักฐานอื่นที่เกี่ยวของ และวนัเริ่มตนการเขาพักอาศัยอยูจริงในบาน

เมื่อคณะกรรมการตรวจสอบขอเท็จจริงและรายละเอยีดครบถวนแลว ใหจัดทํารายงานการตรวจสอบการขอรับคาเชาบานตามแบบทายระเบยีบนี้ เสนอตอผูมีอํานาจอนุมัตกิารเบิกคาเชาบาน ขาราชการตามขอ ๑๐ เพื่อพิจารณาอนุมตัิการเบิกจายตอไป

/ขอ ๑๐ การอนุมัติ

54

ขอ ๑๐ การอนุมัติใหเบิกคาเชาบานในแบบ ๖๐๐๕ ใหเปนอํานาจของบุคคล ดังตอไปนี้ (๑) สวนราชการในราชการบริหารสวนกลาง ใหเปนอํานาจของหวัหนาสวนราชการระดับ

กรมหรือผูที่หวัหนาสวนราชการระดับกรมมอบหมายซึง่ดํารงตําแหนงไมต่ํากวาระดับ ๗ หรือเทยีบเทา หรือผูที่มียศตัง้แตพันโท นาวาโท นาวาอากาศโท หรือพนัตํารวจโทขึน้ไป

สวนราชการในราชการบรหิารสวนกลางทีม่ีสํานักงานอยูในสวนภูมภิาคหรือแยกตางหาก จากกระทรวง ทบวง กรม หวัหนาสวนราชการระดับกรมจะมอบหมายใหหัวหนาสํานักงานซึ่งเปนผูเบิกเงินจากคลัง เปนผูอนุมัติสําหรับหนวยงานนั้นก็ได

(๒) สวนราชการในราชการบริหารสวนภูมิภาค ใหหัวหนาสวนราชการซึ่งเปนผูเบิกเงิน จากคลังเปนผูอนุมัติ เวนแตเปนการเบิกคาเชาบานของหัวหนาสวนราชการนั้น ใหผูวาราชการจงัหวดัเปน ผูอนุมัติ

สําหรับคาเชาบานของหัวหนาสวนราชการประจําอําเภอหรือกิ่งอําเภอ ที่เบิกเงินจากสํานักงานคลังจังหวดั ณ อําเภอ ใหนายอําเภอหรือปลัดอาํเภอผูเปนหัวหนาประจํากิ่งอําเภอเปนผูอนุมัติ

ขอ ๑๑ ขาราชการซึ่งไดรับอนุมัติใหเบิกคาเชาบานตามสิทธิแลว ใหยื่นขอเบิกเงินคาเชาบานประจาํเดือนตามแบบขอเบิกเงินคาเชาบาน (แบบ ๖๐๐๖) ทายระเบียบนี้ พรอมหลักฐานการชําระเงิน ณ สํานักงานที่ขาราชการผูนั้นปฏิบัติราชการ

ใหบุคคลตามขอ ๑๐ เปนผูมีอํานาจอนุมัตกิารเบิกจายเงนิคาเชาบานตามวรรคหนึ่ง ขอ ๑๒ คาเชาบานถือเปนรายจายที่เกิดขึน้เมื่อสวนราชการไดรับแบบ ๖๐๐๖ และใหเบิกจายจาก

งบประมาณรายจายประจําปงบประมาณทีไ่ดรับแบบดังกลาว ขอ ๑๓ สัญญาเชาบาน สัญญาเชาซื้อ หรือสัญญาเงินกูเพื่อชําระราคาบาน ตามขอ ๗ ใหเปนไปตาม

หลักเกณฑและวิธีการ หรืออยางนอยตองมีสาระสําคัญ ดังตอไปนี ้(๑) สัญญาเชาบาน ตองระบวุัน เดือน ป ที่ทําสัญญา ช่ือคูสัญญา สถานที่เชา วันเริ่มตนแหง

สัญญาเชา ระยะเวลาการเชา วันสิ้นสุดสัญญาเชา และอัตราคาเชาตอเดอืน (๒) สัญญาเชาซื้อหรือสัญญาเงินกูเพื่อชําระราคาบาน ใหใชตามแบบสัญญาของสถาบัน

การเงินได โดยตองระบุช่ือคูสัญญา สถานที่เชาซื้อหรือสถานที่กูเงิน วันเริ่มตนแหสัญญา ระยะเวลาการชําระคาเชาซื้อหรือการผอนชําระเงินกู วันสิ้นสุดสัญญา จํานวนวงเงนิที่เชาซื้อหรือวงเงินกู และจํานวนเงนิที่ตองผอนชําระรายเดือน

ขอ ๑๔ การทําสัญญาเชาซื้อหรือสัญญาเงินกูเพื่อชําระราคาบานของขาราชการผูมีสิทธิไดรับคาเชา บาน ตองทํากบัสถาบันการเงิน ดังตอไปนี้

(๑) ธนาคารพาณิชยตามกฎหมายวาดวยธนาคารพาณิชย (๒) รัฐวิสาหกจิที่มีวัตถุประสงคเพื่อดําเนนิกิจการเกี่ยวกับการเคหะ หรือดําเนินธุรกิจ

เกี่ยวกับการใหกูยืมเงินเพื่อเชาซื้อบานหรือผอนชําระราคาบาน / (๓) สหกรณ.......

55

(๓) สหกรณที่จดทะเบียนตามกฎหมายวาดวยสหกรณและมีวัตถุประสงคเพื่อดําเนนิกิจการเกี่ยวกบัการเคหะ

(๔) กองทุนบาํเหน็จบํานาญขาราชการตามกฎหมายวาดวยกองทุนบําเหน็จบํานาญขาราชการ

(๕) ธนาคารอสิลามแหงประเทศไทยตามกฎหมายวาดวยธนาคารอิสลามแหงประเทศไทย (๖) บริษัทบรหิารสินทรัพยตามพระราชกาํหนดบริษัทบริหารสินทรัพย พ.ศ. ๒๕๔๑ ซ่ึง

ดําเนินกิจการรับซื้อหรือรับโอนสินทรัพยดอยคุณภาพของสถาบันการเงินตาม (๑) (๗) นิติบุคคลที่มีวัตถุประสงคและดําเนินกิจการเกี่ยวกบัการเคหะ หรือการใหเชาซื้อบาน

หรือใหกูยืมเพือ่ชําระราคาบาน ขอ ๑๕ ใหขาราชการผูมีสิทธิไดรับคาเชาบานยื่นแบบ ๖๐๐๕ ฉบับใหม ในกรณีดังตอไปนี ้

(๑) โอนยายโดยเปลี่ยนสังกดัหรือเปลี่ยนสํานักเบิกเงนิเดือน (๒) ไดรับคําสั่งใหเดินทางไปประจําสาํนักงานในตางทองที่โดยไมเปลี่ยนสํานักเบิก

เงินเดือน (๓) เปลี่ยนแปลงสัญญาเชาบาน สัญญาเชาซื้อบาน หรือสัญญาเงินกูเพื่อชําระราคาบาน

ในกรณีนําหลักฐานการชําระคาเชาซื้อหรือคาผอนชําระเงินกูเพื่อชําระราคาบานใน ทองที่เดิมมาเบิกตอเนื่องในทองที่ใหม ใหคณะกรรมการที่ไดรับการแตงตั้งตามขอ ๙ วรรคหนึ่ง ตรวจสอบหลักฐานที่นํามาเบิกคาเชาบานในชวงเวลาที่รับราชการในทองที่เดิมและระยะเวลาที่ไดรับอนุมัติใหเบิกจาย คาเชาบาน แลวดําเนินการตอไปตามขอ ๙ วรรคสอง ขอ ๑๐ และขอ ๑๑

ขอ ๑๖ การรับรองสิทธิและการอนุมัติเบิกจายเงินคาเชาบานของขาราชการตามขอ ๑๕ (๒) ใหถือปฏิบัติ ดังนี ้

(๑) ใหบุคคลตามขอ ๘ ประจาํสํานักงานที่ผูใชสิทธิไปปฏิบัติราชการเปนผูรับรองสิทธิ ในแบบ ๖๐๐๕

(๒) ใหบุคคลตามขอ ๑๐ ประจําสํานักงานที่เบิกเงินเดือนของผูใชสิทธิเปนผูมีอํานาจอนุมัติในแบบ ๖๐๐๕ และแบบ ๖๐๐๖

ขอ ๑๗ ขาราชการผูมีสิทธิเบิกคาเชาบานในอัตราที่เพิ่มขึน้ เนื่องจากไดรับเงินเดือนหรือเล่ือน ตําแหนงสูงขึ้น ใหยื่นหลักฐานที่เกีย่วของเพื่อประกอบการเบิกจายโดยไมตองยื่นแบบ ๖๐๐๕ ใหม

ขอ ๑๘ ขาราชการผูมีสิทธิไดรับคาเชาบานซึ่งไดยื่นแบบ ๖๐๐๕ ไวแลว แตยังไมไดรับอนุมัติ ตอมาไดรับคําสั่งใหเดินทางไปประจําสํานักงานใหมในสังกัดเดิม ไมวาอยูในทองที่เดียวกนัหรือตางทองที่ หรือไดรับคําสั่งใหเดินทางไปประจําสํานักงานใหมโดยไมเปลี่ยนสํานักเบกิเงินเดือน ใหยืน่แบบ ๖๐๐๕ และแบบ ๖๐๐๖ พรอมทั้งหลักฐานการชําระคาเชาบาน คาเชาซื้อ หรือคาผอนชําระเงินกูในชวงเวลาทีต่นมีสิทธิ ณ สํานักงานเดิม ที่สํานักงานใหม

/ในกรณีที่ขาราชการ……

56

ในกรณีที่ขาราชการผูมีสิทธิไดรับคาเชาบานไดรับคําสั่งตามวรรคหนึ่ง หากไดรับอนุมัติใน

แบบ ๖๐๐๕ ไวแลว แตยังไมไดยื่นแบบ ๖๐๐๖ หรือยื่นไวแลวแตยังไมไดรับอนุมัติ ใหยื่นแบบ ๖๐๐๖ ใหม พรอมทั้งหลักฐานตามวรรคหนึ่งที่สํานักงานใหม สําหรับแบบ ๖๐๐๕ ที่ไดรับอนุมัติแลว ใหสํานักงานเดิมจัดสงใหสํานักงานใหมโดยเร็ว

ขอ ๑๙ ขาราชการผูมีสิทธิไดรับคาเชาบานไดรับคําสั่งใหโอนไปรับราชการประจําสํานักงานใหมโดยเปลี่ยนสังกัด แตยังไมไดยื่นขอรับคาเชาบานหรือยังไมไดยื่นขอเบกิเงินคาเชาบานในชวงเวลาที่ตนมีสิทธิ ณ สํานักงานเดิม ใหยื่นแบบ ๖๐๐๕ และแบบ ๖๐๐๖ ที่สํานักงานเดิม

ขอ ๒๐ การยืน่ขอรับคาเชาบานหรือขอเบกิคาเชาบานของขาราชการผูมีสิทธิไดรับคาเชาบานซึ่ง ถึงแกกรรม หรือเกษียณอายรุาชการ หรือลาออกจากราชการไปกอนยืน่คําขอ ใหดําเนินการดังนี ้

(๑) กรณีถึงแกกรรม ใหทายาทของขาราชการผูนั้นยื่นคําขอ ณ สํานักงานที่รับราชการ คร้ังสุดทาย

(๒) กรณีเกษยีณอายุราชการหรือลาออกจากราชการ ใหขาราชการผูนั้นยื่นคําขอ ณ หนวยงานผูเบกิบํานาญ หรือสํานักงานที่รับราชการครั้งสุดทาย แลวแตกรณ ี

ขอ ๒๑ ภายใตบังคับขอ ๑๓ และขอ ๑๔ ขาราชการผูมีสิทธิไดรับคาเชาบาน แตคูสมรสไดเชาบาน เชาซื้อบาน หรือกูเงินเพื่อชําระราคาบานในระหวางสมรสและปรากฏชื่อคูสมรสแตเพียงผูเดียวในสัญญาเชาบาน สัญญาเชาซื้อ สัญญาเงินกูเพื่อชําระราคาบาน สัญญาซื้อขายที่ดินหรือบานพรอมที่ดิน สัญญาจางปลูกสรางบาน โฉนดที่ดิน หรือหลักฐานการชําระเงิน ใหขาราชการผูนั้นนําหลักฐานดังกลาวมาประกอบ การเบิกจายคาเชาบานจากทางราชการได นับแตวันที่มีสิทธิไดรับคาเชาบาน

ขอ ๒๒ ในกรณีที่ศาลมีคําพพิากษาถึงที่สุดใหขาราชการผูใดมีสิทธิไดรับคาเชาบาน ใหขาราชการผูนั้นนําหลักฐานการชําระเงนิและสําเนาคาํพิพากษาดงักลาวมาเปนหลักฐานประกอบการยื่นแบบ ๖๐๐๕ และแบบ ๖๐๐๖ โดยไมตองมีการแตงตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบขอเท็จจริงตามขอ ๙

ขอ ๒๓ ในกรณีที่มีการขยายวงเงินกูหรือขยายระยะเวลาการผอนชําระเงินกูเพื่อชําระราคาบาน ใหนําหลักฐานการผอนชําระมาเบิกคาเชาบานไดตามจํานวนเงินกูและระยะเวลาการผอนชําระที่เหลืออยูของสัญญาเงินกูฉบับแรกที่ไดยื่นไวและไดรับอนุมัติใหเบิกคาเชาบานตามสิทธิแลวเทานั้น

ความในวรรคหนึ่งไมใชบังคบักับการเปลี่ยนแปลงขอกําหนดในสัญญาเงินกูเพื่อชําระ ราคาบานที่คางชําระอยูเนื่องจากสถาบันการเงินเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ย ทั้งนี้ ตองมิใชเหตจุากผูกู

ขอ ๒๔ การยายสถานที่ทําการของสํานกังานไปตั้งในทองที่ใหมตามมาตรา ๘ แหงพระราชกฤษฎกีา คาเชาบานขาราชการ พ.ศ. ๒๕๔๗ ใหทองที่ใหมที่อยูใกลเคียงกับทองที่ตั้งสํานักงานเดิมเปนไปตามหลักเกณฑดังตอไปนี้

/(๑) การยายทีต่ั้ง……..

57

(๑) การยายที่ตั้งสํานักงานจากกรุงเทพมหานครไปจังหวดัใกลเคียง ตองเปนเขตทองที่ใกลเคียงหรือติดตอกับกรุงเทพมหานครและมรีถยนตโดยสารขององคการขนสงมวลชนกรุงเทพใหบริการ ตามบัญชีรายช่ือทองที่ใกลเคียงทายระเบยีบนี ้

(๒) การยายทีต่ั้งสํานักงานภายในจังหวัดเดียวกันหรือระหวางจังหวัด ตองเปนเขตทองที่ติดตอกันและมีขนสงสาธารณะประจําทางใหบริการ

ขอ ๒๕ ขาราชการผูมีสิทธิไดรับคาเชาบาน ใหเบิกจายคาเชาบานไดตามอัตราเงินเดือนสุทธิแตถา อัตราเงินเดือนสุทธิขั้นใดไมตรงกับอัตราเงินเดือนในบัญชีอัตราคาเชาบานตามพระราชกฤษฎีกาคาเชาบาน ขาราชการ พ.ศ. ๒๕๔๗ ใหเบิกในอัตราทีใ่กลเคียงแตไมเกินอัตราเงินเดือนสุทธิที่ไดรับ

ขอ ๒๖ ขาราชการผูมีสิทธิไดรับคาเชาบานซึ่งมีเงินเพิ่มพิเศษรายเดือนสําหรับคาวชิาหรือเงินเพิม่การเลื่อนฐานะหรือสําหรับประจําตําแหนงที่ตองฝาอันตรายเปนปกติหรือสําหรับการสูรบ ใหนําเงนิเพิ่ม ดังกลาวมารวมกับเงินเดือนสุทธิที่ไดรับ แลวเทียบกับอัตราเงินเดือนตามขั้นเงินเดือนในระดบัหรือช้ันยศที่ไดรับในปจจุบันหรือขั้นเงินเดือนใกลเคียงในระดับหรือช้ันยศเดียวกันหรือระดับหรือช้ันยศถัดไปตามลําดับ แลวใหไดรับคาเชาบานตามขั้นเงินเดือนนัน้

กรณีที่ตองเบิกลดเนื่องจากการปรับชั้นเงนิเดือน ใหนําเงินเดือนสุทธทิี่หักเบกิลดเนือ่งจากการปรบัช้ันเงินเดือนแลวเทียบกับอัตราเงินเดือนตามขั้นเงินเดือนในระดบัหรือช้ันยศที่ไดรับในปจจุบนัหรือขั้นเงิน เดือนใกลเคียงในระดบัหรือช้ันยศเดยีวกันหรือระดับหรือช้ันยศต่ําลงมาตามลําดับ แลวใหไดรับคาเชาบาน ตามขั้นเงินเดอืนนั้น กรณีที่หกัเบิกลดแลว เงินเดอืนสุทธิต่ํากวาอัตราเงินเดือนขั้นต่ําสุดตามบัญชีอัตราคาเชาบานแตละประเภท ใหไดรับคาเชาบานเทาที่จายจริงแตตองไมเกินเดือนละ ๘๐๐ บาท

ขอ ๒๗ บรรดาประกาศและคําสั่งกระทรวงการคลังเกี่ยวกับคาเชาบานที่ใชอยูกอนระเบียบนี้มีผลใชบังคับ ใหใชตอไปไดเทาที่ไมขัดหรือแยงกับระเบียบนี้

ขอ ๒๘ ใหปลัดกระทรวงการคลังรักษาการตามระเบียบนี้

ประกาศ ณ วนัที่ ๑๘ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๙

หมอมราชวงศ ปรีดิยาธร เทวกุล รัฐมนตรีวาการกระทรวงการคลัง ระเบียบ กค. วาดวยหลักเกณฑและวิธีการเกี่ยวกับการเบกิจายเงินคาเชาบานขาราชการ พ.ศ. ๒๕๔๙ ราชกิจจานุเบกษา เลม ๑๒๓ ตอนพิเศษ ๑๑๕ ง หนา ๑๓ วนัที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๔๙ มีผลใชบังคับตั้งแตวนัที่ ๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๙ เปนตนไป

58

บัญชีรายช่ือทองที่ใกลเคียง

กรณีกรุงเทพมหานครกับจังหวัดใกลเคียง

๑. จังหวัดนนทบุรี ๑.๑ อําเภอเมืองนนทบุรี ๑.๒ อําเภอบางกรวย ๑.๓ อําเภอบางบัวทอง ๑.๔ อําเภอบางใหญ ๑.๕ อําเภอปากเกร็ด

๒. จังหวัดปทมุธาน ี ๒.๑ อําเภอเมอืงปทุมธานี ๒.๒ อําเภอคลองหลวง ๒.๓ อําเภอธญับุรี ๒.๔ อําเภอลําลูกกา

๓. จังหวดัสมุทรปราการ ๓.๑ อําเภอเมอืงสมุทรปราการ ๓.๒ อําเภอบางบอ ๓.๓ อําเภอบางพลี ๓.๔ อําเภอพระประแดง ๓.๕ อําเภอพระสมุทรเจดยี

๔. จังหวัดสมทุรสาคร ๔.๑ อําเภอเมอืงสมุทรสาคร

๕. จังหวัดนครปฐม ๕.๑ อําเภอพุทธมณฑล

59

แบบขอรับคาเชาบาน (แบบ ๖๐๐๕) เลขที่….............../............. สวนที่ ๑ การขอรับคาเชาบาน เขียนที.่...................................................................................... วันที่..................................เดือน... ...................................................พ.ศ. ................................... ๑.ขาพเจา..................................................................ตําแหนง.................................................................................... ขอยื่นรับคาเชาบานตอ..............................................................................................................................(ผูอนุมัติ) ๒. ขาพเจา เร่ิมรับราชการและปฏิบตัิงานครั้งแรก กลับเขารับราชการและปฏิบัติงานในตําแหนง........... ทองที่ ตําบล/แขวง...........................................อําเภอ/เขต... ...………………... .จังหวดั……….……………..…... เงินเดือน................................................ บาท (..................................... ...) เมื่อวนัที่...............เดือน...... พ.ศ. .. .. .… ๓. บัดนี้ จังหวัด กรม กระทรวง ไดมีคําสั่งใหขาพเจารับราชการประจาํตําแหนง............................... เงินเดือน................................... บาท ทองที่ ตําบล/แขวง.. ......................................อําเภอ/เขต..................................จังหวดั....................................................โดยไดรายงานตวัเมื่อวนัที่ .........................เดือน................. พ.ศ. ………... ๔. ขาพเจาได เชาบานพักเพื่ออยูอาศัย เชาซื้อบานเพื่อที่อยูอาศัย บานเลขที่ ....................................................ซอย .......................................... .ถนน....................................................ตําบล/แขวง........................................................... อําเภอ/เขต... ............................จังหวด........................................ ตั้งแตวันที่................เดือน...........................พ.ศ. ....................ถึงวันที่.................. .เดือน... ..............พ.ศ. .................ตามสัญญาเชา/สัญญาเชาซื้อ ฉบับลงวันที่..................................... ...เดือน......................... ...พ.ศ.............................. ช่ือเจาของบาน/ผูใหเชาชวง/ผูใหเชาซื้อ ..................................................................................................................... เลขประจําตัวผูเสียภาษีอากร หรือ เลขประจําตัวบัตรประชาชน บานเลขที่.....................................................................ซอย......................................ถนน........................................ตําบล/แขวง..........................................................อําเภอ/เขต................................จังหวดั.........................................โทรศัพท..............................................................................ในอัตราเดือนละ....................................................บาท ๕. ขาพเจาได กูยืมเงนิเพื่อซ้ือบาน กูยืมเงนิเพื่อปลูกสรางบาน บานเลขที่........................................................................ซอย.......................................ถนน...................................อําเภอ/เขต.....................................................................จังหวัด.............................................. ๕.๑ ช่ือผูใหกู ...................................................................(สาขา )................................................................ ตั้งอยูที่.................................ซอย... ...…………………..... ถนน... ..............................ตําบล/แขวง..........................อําเภอ/เขต... .....................................................จังหวดั.......................................โทรศัพท......................................... จํานวน .......................................... บาท (..................................................................................................................) ชําระเงินกูเดือนละ................................... .บาท (... ......................... ..) ตั้งแตวันที่ ...... ... เดือน .............. พ.ศ. ......... ถึงวันที่ ............... ... เดือน ........... พ.ศ. .. ...... .. ตามสัญญากูยืมเงนิ ฉบับลงวันที่ ........... เดือน .............. พ.ศ. ........

- ๒ -

๕.๒ ช่ือผูขาย/ผูรับจางปลูกสรางบาน ................................................................................................................... เลขประจําตัวผูเสียภาษีอากร หรือ เลขประจําตัวบัตรประชาชน บานเลขที่...................................................ซอย.......................................... ถนน........................................................ อําเภอ/เขต..…………………….จังหวดั.....…………….... ตามสัญญาซื้อขาย/สัญญาจาง ฉบับลงวนัที่.................... เดือน....................................................................... พ.ศ. .............................. ขาพเจาจึงขออนุญาตเบิกคาเชาบานตามสิทธิที่พึงจะไดรับตามพระราชกฤษฎีกาคาเชาบานขาราชการตั้งแต วันที่...............................เดือน.............................. พ.ศ. ..................................... เปนตนไป และขอรับรองวาขาพเจา มีสิทธิไดรับคาเชาบานตามพระราชกฤษฎีกาคาเชาบานขาราชการ พ.ศ. ๒๕๔๗ ทกุประการ

(ลงชื่อ) ......................................................................... (………………………………………….......) สวนที่ ๒ การรับรอง

ขาพเจาไดตรวจสอบเอกสารตาง ๆ แลวเหน็วา ขาราชการผูนี้มีสิทธิไดรับคาเชาบานตามพระราชกฤษฎีกาค

าเชาบานขาราชการ พ.ศ. ๒๕๔๗

(ลงชื่อ) ..................................................................... (…………………………………………...) ตําแหนง ................................................................... วันที่................เดือน................ พ.ศ. ……. สวนที่ ๓ การอนุมัติ อนุมัติใหเบิกคาเชาบานไดตามสิทธิ ตั้งแตวันที่................................เดือน............ .............พ.ศ. ………………. (ลงชื่อ) ............................................................. (.........................................................) ตําแหนง .......................................................... วันที่.........เดือน.............. พ.ศ. ……..

แบบขอเบิกเงนิคาเชาบาน (แบบ ๖๐๐๖)

๑. การขอเบิกและการรับรอง ขาพเจา........................................................................ตําแหนง................................................................................... สังกัด....................................................................................... ๑. ขอยื่นเบกิเงนิคาเชาบาน ดังนี้ ๑.๑ ขาพเจาไดจายเงิน คาเชาบาน คาเชาซื้อ คาผอนชําระเงินกู ใหแก............................................................................ ประจําเดือน........................................................................... ตามใบเสร็จรับเงิน ........................ ฉบับ เปนจํานวน .................................. บาท (...................................................) ๑.๒ ขาพเจาไดรับเงินเดือน เดือนละ…...................................บาท (....................................................................) มีสิทธิไดรับคาเชาบานตามที่ไดรับอนุมติในแบบขอรับคาเชาบาน (แบบ ๖๐๐๕) เลขที่............................................ ไมเกินเดือนละ.....….....................................................บาท (...................................................................................) ๑.๓ ขาพเจาขอเบิกเงินคาเชาบานประจาํเดือน ...................................................................................................... รวม............ เดอืน เปนเงิน................................... บาท (............................................................................................) ๑.๔ พรอมนี้ขาพเจาไดแนบใบเสร็จรับเงิน จํานวน........................................... ..ฉบับ มาดวยแลว ๒. ขาพเจาขอรับรองวาขอความที่ใหไวขางตนเปนความจริงทุกประการ และขาพเจามีสิทธิไดรับเงินคาเชาบาน ตามพระราชกฤษฎีกาคาเชาบานขาราชการ พ.ศ. ๒๕๔๗ และไดดําเนินการถูกตองตามระเบียบทุกประการแลว (ลงชื่อ) ...................................................... ผูขอเบิก (………………………………....) ตําแหนง .......................................................... วันที่.....เดือน..................พ.ศ............ ๒. การอนุมัติ

อนุมัติใหเบิกจายเงินคาเชาบานไดตามสิทธิ ตั้งแตวันที่.......................... เดือน .................................. ... พ.ศ. .............................

(ลงชื่อ).............................................................. (…....................................................) ตําแหนง........................................................... วันที่ .........เดือน................ พ.ศ. ............ ๓. การรับเงิน

ไดรับเงินคาเชาบานจํานวน ... .………... …… .. บาท (........................................................) ไวถูกตองแลว (ลงชื่อ)....................................................................... ผูรับเงิน (...............................................................) วันที่............เดือน...................... พ.ศ. .............. (ลงชื่อ)....................................................................... ผูจายเงิน (...............................................................) วันที่............เดือน................... พ.ศ. ..............

แบบรายงานการตรวจสอบการขอรับคาเชาบาน

๑. ช่ือ-นามสกุล..…... ……………………………..... ตําแหนง................................................................................. สังกัด........................................................................................................................................ ๒. ไดเชาบาน เชาซื้อบาน เลขที่........................................ ซอย............................................................. ถนน........................................ตําบล/แขวง...........................................อําเภอ/เขต..................................................... จังหวดั.............................. ตามสัญญาลงวันที่.........................เดือน.................................พ.ศ. ................................. คาเชาบานหรอืคาเชาซื้อบานเดือนละ... .................................บาท (... ....................................................................) ๓. การกูยืมเงินเพื่อชําระราคาบาน ซ้ือ จางปลูกสรางบาน บานเลขที่......................................ซอย........................................................... .ถนน................................………… ตําบล/แขวง................................................อําเภอ/เขต.....................................จังหวดั.............................................. ทําสัญญาเงินกูกบั....………………………………………………………………………….………... จํานวน..............................................................................บาท (........................................................................... ..) ชําระเงินกูเดือนละ... .......................................................บาท (...............................................................................) ตามสัญญาลงวันที่................................เดือน.................................พ.ศ. .................................. ทําสัญญาซื้อบาน สัญญาจางปลูกสรางบาน กับ... ........................................................................................................................................................................... ราคา.............................................................................บาท (....................................................................................) ตามสัญญาลงวันที่...…...เดอืน...…………… ...พ.ศ. ……….…... บานตั้งอยูบนที่ดิน โฉนดที่ดิน เอกสารสิทธิอ่ืน (ระบุ)..................................................... เลขที่....................................................... เลขที่ดิน.............................................. ตําบล............................................ อําเภอ............................................................จังหวดั................................................ เปนกรรมสิทธิ์ของ......................................................................................................................................................

/การรับรองของ...

63

- ๒ -

การรับรองของคณะกรรมการ

ไดตรวจสอบขอเท็จจริงแลว ขอรับรองวา................................................................................................................... .……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

(ลงชื่อ) ...............................................................กรรมการ (...............................................................)

(ลงชื่อ) ...............................................................กรรมการ (...............................................................) (ลงชื่อ) ...............................................................กรรมการ (...............................................................) วันที่...................................................................

หมายเหตุ คณะกรรมการควรตรวจสอบขอเท็จจริงในแนวทางดังตอไปนี้ เพื่อสรุปความเหน็ตอผูอนุมัติการเบิกคาเชาบาน

๑. บุคคลที่ทํานิติกรรมตาง ๆ มีตัวตนหรือไม ๒. สําหรับกรณีบานเชาตองตรวจสอบใหทราบวาเปนกรรมสิทธิ์ของใครในกรณีที่ผูใหเชาไมใช เจาของบานตองตรวจสอบสัญญาเชาจากเจาของบานดวย

๓. สภาพของบานเหมาะสมกับราคาเชา เชาซื้อ หรือราคาซื้อขาย หรือไม ๔. ขนาดบานเหมาะสมกับจาํนวนคนในครอบครัวที่อาศัยรวมกนัอยูจริง เพียงใด ๕. ในกรณีที่เชาบาน จะตองตรวจสอบวามีความจําเปนตองเชาจริงหรือไม ๖. ตรวจสอบการเขาพักอาศยัอยูจริงในบาน ตั้งแตเมื่อใด ๗. อ่ืน ๆ ตามที่เห็นสมควร

64

หนา ๑ เลม ๑๒๖ ตอนพเิศษ ๑๘๐ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๖ ธนัวาคม ๒๕๕๒

ระเบียบกระทรวงการคลัง วาดวยหลักเกณฑและวิธีการเกี่ยวกับการเบิกจายเงินคาเชาบานขาราชการ (ฉบับที่ ๒)

พ.ศ. ๒๕๕๒

โดยที่เปนการสมควรปรับปรุงระเบียบกระทรวงการคลังวาดวยหลักเกณฑและวิธีการเกี่ยวกับการเบิกจายเงินคาเชาบานขาราชการ พ.ศ. ๒๕๔๙ เพื่อใหสอดคลองกับการปรับปรุงการกําหนดตําแหนงของขาราชการพลเรือนสามัญตามพระราชบัญญัติระเบียบขาราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๕๑ รวมทั้งกําหนดขั้นตอนและวิธีการเกี่ยวกับการเบิกจายเงินคาเชาบานขาราชการใหมีประสิทธิภาพและมีความเหมาะสมยิ่งข้ึน

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๖ วรรคสอง แหงพระราชกฤษฎีกาคาเชาบานขาราชการ พ.ศ. ๒๕๔๗ กระทรวงการคลังจึงออกระเบียบไว ดังตอไปนี้

ขอ ๑ ระเบียบนี้เรียกวา “ระเบียบกระทรวงการคลังวาดวยหลักเกณฑและวิธีการเกี่ยวกับการเบิกจายเงินคาเชาบานขาราชการ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๒”

ขอ ๒ ระเบียบนี้ใหใชบังคับต้ังแตวันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเปนตนไป ขอ ๓ ใหเพิ่มความตอไปนี้เปนวรรคสามของขอ ๗ ของระเบียบกระทรวงการคลังวาดวย

หลักเกณฑและวิธีการเกี่ยวกับการเบิกจายเงินคาเชาบานขาราชการ พ.ศ. ๒๕๔๙ “ใหขาราชการผูใชสิทธิจัดสงรายงานขอมูลของขาราชการในการขอรับคาเชาบานพรอม

การย่ืนแบบ ๖๐๐๕ และใหผูมีอํานาจรับรองการมีสิทธิตามขอ ๘ มีอํานาจพิจารณารับรายงานขอมูลขาราชการในการขอรับคาเชาบานที่ย่ืน โดยใหแจงรายละเอียดประกอบอยางนอยดังตอไปนี้

(๑) ขอมูลประวัติการรับราชการตั้งแตเร่ิมรับราชการ และการโอน ยาย ในกรณีเปนการยายใหชี้แจงขอมูลวาเกิดจากคํารองขอของตนเองหรือไม

(๒) ขอมูลการมีเคหสถานของขาราชการและคูสมรสทุกแหงในทองที่ที่รับราชการ (๓) ขอมูลดานอาชีพและสถานที่ทํางานของคูสมรสของขาราชการ และใหแจงวาหนวยงาน

แหงนั้นไดใหสิทธิเบิกคาเชาบาน หรือจัดบานพักใหกับคูสมรสในทองที่ที่รับราชการของขาราชการหรือไม

(๔) ขอมูลการมีเคหสถานของบิดา มารดา ของคูสมรสและของขาราชการ รวมทั้งบุตรที่ยังไมบรรลุนิติภาวะทุกแหงในทองที่ที่รับราชการ

หนา ๒ เลม ๑๒๖ ตอนพเิศษ ๑๘๐ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๖ ธนัวาคม ๒๕๕๒

(๕) ขอมูลสถานะการมีชีวิตอยูของบิดา มารดา ของคูสมรสและของขาราชการ หากในภายหลังมีกรณีที่บุคคลดังกลาวเสียชีวิตหรือสาบสูญ ใหแจงรายละเอียด วัน เดือน ป ที่เสียชีวิตหรือสาบสูญ”

ขอ ๔ ใหยกเลิกความในขอ ๘ ของระเบียบกระทรวงการคลังวาดวยหลักเกณฑและวิธีการเกี่ยวกับการเบิกจายเงินคาเชาบานขาราชการ พ.ศ. ๒๕๔๙ และใหใชความตอไปนี้แทน

“ขอ ๘ ใหบุคคลดังตอไปนี้ เปนผูรับรองการมีสิทธิไดรับคาเชาบานของขาราชการในสังกัด ในแบบ ๖๐๐๕

(๑) สวนราชการในราชการบริหารสวนกลาง ใหเลขานุการรัฐมนตรี เลขานุการกรม หรือหัวหนาสวนราชการต้ังแตระดับกองหรือเทียบเทาข้ึนไป เปนผูรับรอง

สวนราชการในราชการบริหารสวนกลางที่มีสํานักงานอยูในภูมิภาคหรือแยกตางหากจาก กระทรวง ทบวง กรม ใหหัวหนาสํานักงานซึ่งดํารงตําแหนงไมตํ่ากวาประเภททั่วไป ระดับชํานาญงาน ข้ึนไป ประเภทวิชาการ ระดับชํานาญการขึ้นไป หรือดํารงตําแหนงไมตํ่ากวาระดับ ๖ หรือเทียบเทา เปนผูรับรอง

(๒) สวนราชการในราชการบริหารสวนภูมิภาค ใหหัวหนาสวนราชการประจําจังหวัด หรือหัวหนาสวนราชการประจําอําเภอ แลวแตกรณี เปนผูรับรอง

(๓) สวนราชการในสังกัดกระทรวงกลาโหมหรือสํานักงานตํารวจแหงชาติ ใหผูบังคับบัญชาที่มียศต้ังแตพันตรี นาวาตรี นาวาอากาศตรี หรือพันตํารวจตรีข้ึนไป เปนผูรับรอง

ใหผูบังคับบัญชาเหนือข้ึนไปอยางนอยหนึ่งระดับหรือหนึ่งชั้นยศ เปนผูรับรองการมีสิทธิ ของบุคคลตาม (๑) (๒) และ (๓) ซ่ึงมิไดดํารงตําแหนงตามที่กําหนดไวในวรรคสาม

ใหขาราชการประเภททั่วไป ระดับอาวุโสข้ึนไป ประเภทวิชาการ ระดับชํานาญการพิเศษ ข้ึนไป ประเภทอํานวยการ ประเภทบริหาร หรือดํารงตําแหนงต้ังแตระดับ ๘ ข้ึนไป หรือเทียบเทา หรือขาราชการทหารที่มียศพันเอก นาวาเอก นาวาอากาศเอก หรือขาราชการตํารวจที่มียศพันตํารวจเอก ข้ึนไป เปนผูรับรองการมีสิทธิของตนเอง”

ขอ ๕ ใหยกเลิกความใน (๑) ของขอ ๑๐ ของระเบียบกระทรวงการคลังวาดวยหลักเกณฑ และวิธีการเกี่ยวกับการเบิกจายเงินคาเชาบานขาราชการ พ.ศ. ๒๕๔๙ และใหใชความตอไปนี้แทน

“(๑) สวนราชการในราชการบริหารสวนกลาง ใหเปนอํานาจของหัวหนาสวนราชการระดับกรม หรือผูที่หัวหนาสวนราชการระดับกรมมอบหมายซึ่งดํารงตําแหนงไมตํ่ากวาประเภททั่วไป ระดับอาวุโส ข้ึนไป ประเภทวิชาการ ระดับชํานาญการขึ้นไป ประเภทอํานวยการ ประเภทบริหาร หรือดํารงตําแหนง ไมตํ่ากวาระดับ ๗ หรือเทียบเทา หรือขาราชการทหารที่มียศต้ังแตพันโท นาวาโท นาวาอากาศโท หรือขาราชการตํารวจที่มียศพันตํารวจโทข้ึนไป”

หนา ๓ เลม ๑๒๖ ตอนพเิศษ ๑๘๐ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๖ ธนัวาคม ๒๕๕๒

ขอ ๖ ใหยกเลิกความในขอ ๑๖ ของระเบียบกระทรวงการคลังวาดวยหลักเกณฑ และวิธีการเกี่ยวกับการเบิกจายเงินคาเชาบานขาราชการ พ.ศ. ๒๕๔๙ และใหใชความตอไปนี้แทน

“ขอ ๑๖ การรับรองสิทธิ การอนุมัติเบิกจายเงินคาเชาบานและการแตงต้ังคณะกรรมการตรวจสอบการใชสิทธิเบิกคาเชาบานของขาราชการตามขอ ๑๕ (๒) ใหถือปฏิบัติ ดังนี้

(๑) ใหบุคคลตามขอ ๘ ประจําสํานักงานที่ผูใชสิทธิไปปฏิบัติราชการเปนผูรับรองสิทธิ ในแบบ ๖๐๐๕

(๒) ใหบุคคลตามขอ ๑๐ ประจําสํานักงานที่เบิกเงินเดือนของผูใชสิทธิเปนผูมีอํานาจอนุมัติในแบบ ๖๐๐๕ และแบบ ๖๐๐๖

(๓) ใหบุคคลตามขอ ๑๐ ประจําสํานักงานที่ผูใชสิทธิไปปฏิบัติราชการเปนผูมีอํานาจแตงต้ังคณะกรรมการตรวจสอบการใชสิทธิเบิกคาเชาบานขาราชการตามขอ ๙”

ขอ ๗ ใหยกเลิกความในวรรคแรกของขอ ๒๓ ของระเบียบกระทรวงการคลังวาดวยหลักเกณฑและวิธีการเกี่ยวกับการเบิกจายเงินคาเชาบานขาราชการ พ.ศ. ๒๕๔๙ และใหใชความตอไปนี้แทน

“ขอ ๒๓ ในกรณีที่มีการขยายวงเงินกูหรือขยายระยะเวลาการผอนชําระเงินกูเพื่อชําระราคาบานใหนําหลักฐานการผอนชําระมาเบิกคาเชาบานไดตามจํานวนเงินกูและระยะเวลาการผอนชําระ ที่เหลืออยูของสัญญาเงินกูฉบับแรกเทานั้น”

ขอ ๘ การ เบิกจ ายค า เช าบ านข าราชการที่ ได ย่ืนไวกอนวันที่ ระเบี ยบนี้ ใชบั ง คับ แตยังดําเนินการไมแลวเสร็จ ใหดําเนินการตอไปตามระเบียบเดิมจนกวาจะแลวเสร็จ

ขอ ๙ ใหปลัดกระทรวงการคลังรักษาการตามระเบียบนี้

ประกาศ ณ วันที่ ๑๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๒ กรณ จาติกวณิช

รัฐมนตรีวาการกระทรวงการคลัง