23 มิ.ย.นักบุญยอห์น พิชเชอร์ และ...
-
Upload
scholastica-kamsonbkk -
Category
Documents
-
view
216 -
download
3
description
Transcript of 23 มิ.ย.นักบุญยอห์น พิชเชอร์ และ...
นักบญุยอหน์ พิชเชอร์
(พระสงัฆราชและมรณสักข)ี
นักบุญยอห์น ฟิชเชอร์ เกิดที่เมือง
ยอร์คเชียร์ในประเทศอังกฤษ เป็น
นักศึกษาก่อน แล้วมาเป็นอาจารย์
แ ล ะ ที่ สุ ด ก็ เ ป็ น อ ธิ ก า ร บ ดี ข อ ง
มหาวิทยาลัยแคมบริดจ์
ท่านเป็นคนที่มีความรู้สูง เป็นนัก
มนุษยนิยม (Humanist) ท่านได้รับ
การแต่งต้ังให้เป็นสังฆราชของเมือง
โรเชสเตอร์
ความมีใจร้อนรนในเรื่องการอภิบาล
สัตบุรุษ ท่านเป็นผู้ที่มีความเช่ือที่ไม่
หวั่นไหว ซึ่งเราสามารถเห็นได้จาก
งานเขียนต่าง ๆที่ท่านได้เขียนขึ้นต่อสู้
กับพวกเฮเรติกในสมัยของท่าน
นักบญุโทมสั โมร์
(มรณสกัข)ี
นั ก บุ ญ โ ท มั ส โ ม ร์ เ กิ ด ที่ ก รุ ง
ลอนดอน และได้รับปริญญาเอกจาก
มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ได้ เป็น
อาจารย์สอนกฎหมาย ได้เป็นสมาชิก
รัฐสภา และได้มีต าแหน่งส าคัญใน
กิจการสาธารณะของประเทศอังกฤษ
ต่อมาท่านได้กลายเป็นนายกรัฐมนตรี
ใ นสมั ย ข อ ง กษั ต ริ ย์ เ ฮ น รี่ ที่ 8
เช่นเดียวกับนักบุญ ยอห์น ฟิชเชอร์
ท่ าน ได้ ใ ช้ ป ากกาของท่ าน เ ขี ยน
หนังสือต่อสู้กับพวกเฮเรติกซึ่งก าลัง
คุกคามพระศาสนจักรอยู่
ท่านเป็นคนที่มีนิสัยดี น่ารักใจดี และ
กล้ าหาญ รั กบ้ านแล ะรั กธรรม
ประเพณีต่างๆท่านเป็นคนตรงไม่ยอม
อ่อนข้อหรือประนีประนอมกับสิ่งที่ไม่
ถูกต้อง
นักบุญทั้งสองไม่ยอมสนับสนุนเรื่อง
ก า รหย่ า ข องกษั ต ริ ย์ แ ล ะ ก า รที่
พระองค์จะตั้งตัวเองขึ้นเป็นหัวหน้า
ของพระศาสนจักรในประเทศอังกฤษ
พระสังฆราชนักบุญ ยอห์น ฟิชเชอร์
ได้คัดค้านกษัตริย์ ในเรื่องนี้ ส่วน
รัฐบุรุษนักบุญ โทมัส โมร์ ถึงกับได้
ยอมสละต าแหน่งนายกรัฐมนตรี
เมื่อกษัตริย์ เฮนรี่ ได้แยกตัวเอาพระ
ศาสนจักรของประเทศอังกฤษออกจาก
พระศาสนจักรที่กรุงโรม ท่านทั้งก็ถูก
จับขังไว้ในหอคอยของกรุงลอนดอน
ท่านเป็นพยานยืนยันถึงความเช่ือจนถึง
ที่สุด และถูกตัดศีรษะเป็นมรณสักขี
เขาเล่ากันว่าเซอร์โทมัส โมร์ แม้
ก าลังจะต้องตายเป็นมรณสักขีก็ยัง
มีอารมณ์ขันแบบชาวอังกฤษอยู่
ท่านได้หยอกล้อเล่นกับเพชฌฆาต
จนกระทั่งถึงวินาทีสุดท้าย นี่แหละ
เป็นลีลาของบรรดาอัครธรรมทูต
ซึ่งกลับมาจากสภาสูงของพวกยิว
พลางโลดเต้นยินดี
“พวก เ ข า รู้ สึ ก เ ป็ น เ กี ย ร ติ แ ล ะ มี
ความสุขในการที่ ได้ทนสบประมาท
เพราะรักพระเยซูคริสตเจ้า” (กจ 5:41)
และที่จริงความโลดเต้นยินดีนี้น่าจะ
เป็นลักษณะพิเศษส าหรับกลุ่มคริสต
ชนที่ได้มาร่วมกันถวายมิสซา
เพราะในมิสซานี้ที่พระจิตเจ้าทรง
บันดาลให้เราเป็นยัญบูชานิรันดร์อัน
สบพระทัยพระบิดาเจ้า และเราเองก็
ได้รับการเลี้ยงดูด้วยปัง ด้วยจิตใจ
ที่ร่าเริงยินดีและซื่อๆ (กจ 2:46)
ค าภาวนาทลูขอและขอ้ปฏบิตัิ
1. ขอให้บรรดานายชุมพาบาลและ
นั กการ เมื องที่ เ ป็ นคริสตชน
อย่าได้ยอมท าการประนีประนอม
กับสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
2. ขอให้ทุกคนได้คืนสิ่งที่ เป็นของ
กษัตริย์ให้แก่กษัตริย์ และคืนส่ิงที่
เป็นของพระเจ้าให้แก่พระเจ้า
3. ขอให้การทนทุกข์ยากล าบากจง
เป็นความภูมิใจและท่อธารแห่ง
ความช่ืนชมยินดีของเรา