ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์ โรจนแสง

143
คคคคคคค คคคคคคค รรรรรรรรร รร รรรรรรรรร รร . . รรรรร รรรรรรร รรรรร รรรรรรร

description

ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์ โรจนแสง. ความรู้. ความรู้ (Knowledge) หมายถึง สิ่งที่อธิบายหรือพรรณนาเกี่ยวกับ ปรากฏการณ์ต่าง ๆ อย่างมีเหตุผล เพื่อทำความเข้าใจและทำนายปรากฏการณ์ นั้นๆ ความรู้ที่มีการจัดระบบแล้ว เรียกว่า องค์ความรู้ การแสวงหา - PowerPoint PPT Presentation

Transcript of ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์ โรจนแสง

Page 1: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

ความรู้��ความรู้��

รู้องศาสตรู้ ดรู้รู้องศาสตรู้ ดรู้..เชาว โรู้จนแสงเชาว โรู้จนแสง

Page 2: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

ความรู้�� ความรู้�� (Knowledge) หมายถึ�ง ส��งที่��อธิ�บายหรู้ อพรู้รู้ณนา

เกี่��ยวกี่$บปรู้ากี่ฏกี่ารู้ณ ต'าง ๆ อย'างม�เหต)ผล เพ �อที่,าความเข้�าใจและที่,านาย

ปรู้ากี่ฏกี่ารู้ณ น$0นๆ ความรู้��ที่��ม�กี่ารู้จ$ดรู้ะบบแล�ว เรู้�ยกี่ว'า องค ความรู้�� กี่ารู้แสวงหาความรู้��จากี่อด�ตถึ�งป1จจ)บ$นจ,าแนกี่เป2น 4 ย)ค ค อ ย)คโบรู้าณ ย)คอรู้�สโตเต�ล ย)คเบคอน และย)คป1จจ)บ$น องค ความรู้��เกี่��ยวกี่$บ

ปรู้ากี่ฏกี่ารู้ณ ต'าง ๆ ได�รู้$บกี่ารู้พ$ฒนาและถึ'ายที่อดจนกี่ลายเป2นศาสตรู้ ต'าง ๆ ศาสตรู้ ที่างกี่ารู้จ$ดกี่ารู้ เป2นองค ความรู้��ที่��อธิ�บายความพยายาม

ในกี่ารู้ด,าเน�นกี่ารู้รู้'วมกี่$น เพ �อกี่ารู้บรู้รู้ล)เป5าหมายที่��กี่,าหนดไว�

Page 3: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

มน)ษย โดยธิรู้รู้มชาต�ปรู้ารู้ถึนาที่��จะพ$ฒนาช�ว�ตและความเป2นอย�'ข้องตนเองให�ด�ย��งข้�0นภายใต�สภาพแวดล�อมที่��เป2นอย�'

มน)ษย แสวงหาความรู้�� กี่ารู้แสวงหาความรู้��ข้องมน)ษย ต$0งแต'อด�ตถึ�งป1จจ)บ$นจ,าแนกี่เป2น 4 ย)ค

ย)คที่�� 1 ย)คโบรู้าณ ได�ความรู้��โดยกี่ารู้พบโดยบ$งเอ�ญ ปที่$สถึานข้องส$งคมที่��ถึ อปฏ�บ$ต�จนเป2นข้นบธิรู้รู้มเน�ยมปรู้ะเพณ�

กี่ารู้สอบถึามจากี่ผ��เช��ยวชาญ กี่ารู้ยกี่ย'องผ��ม�ช �อเส�ยงหรู้ ออ,านาจเป2นปรู้าชญ แล�วม�ผ��สม$ครู้เป2นสาวกี่

กี่ารู้แสวงหาความรู้��จากี่ปรู้ะสบกี่ารู้ณ ส'วนต$วและกี่ารู้ลองผ�ดลองถึ�กี่

Page 4: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

ย)คที่�� 2 ย)คอรู้�สโตเต�ล (Aristotle) ได�รู้$บกี่ารู้ย'องย'องเป2นบ�ดาข้องว�ชา

ตรู้รู้กี่ศาสตรู้ เป2นผ��ค�นค�ดแสวงหาความรู้��โดยใช�เหต)ผล ที่��เรู้�ยกี่ว'าSyllogistic Reasoning หรู้ ออ)ปมาน (Deductive

Reasoning) องค ปรู้ะกี่อบหรู้ อข้$0นตอนกี่ารู้แสวงหาความรู้��ว�ธิ�น�0ม� 3 ปรู้ะกี่ารู้ 1. เหต)ใหญ' (Major premise) เป2นข้�อตกี่ลงที่��กี่,าหนดข้�0น 2. เหต)ย'อย (Minor premise) เป2นเหต)ผลเฉพาะกี่รู้ณ�ที่��

ต�องกี่ารู้ ที่รู้าบความจรู้�ง 3. ข้�อสรู้)ป (Conclusion) เป2นกี่ารู้ลงความเห:นจากี่กี่ารู้ พ�จารู้ณาความส$มพ$นธิ ข้องเหต)ใหญ'และเหต)ย'อย

Page 5: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

แบบข้องกี่ารู้หาเหต)ข้องอรู้�สโตเต�ล แบบข้องกี่ารู้หาเหต)ข้องอรู้�สโตเต�ล แบ'งเป2น แบ'งเป2น 44 แบบแบบ1. กี่ารู้หาเหต)ผลเฉพาะกี่ล)'ม (Categorical syllogism) เป2นว�ธิ�

กี่ารู้หาเหต)ผลที่��สามารู้ถึลงสรู้)ปในต$วเองได� เช'นเหต)ใหญ' : ที่)กี่คนเกี่�ดมาแล�วต�องตายเหต)ย'อย : นายสมานเกี่�ดเป2นคนข้�อสรู้)ป : นายสมานต�องตาย2. กี่ารู้หาเหต)ผลตามสมม)ต�ฐาน (Hypothetical Syllogism)

เป2นว�ธิ�กี่ารู้หาเหต)ผลที่��กี่,าหนดสถึานกี่ารู้ณ ข้�0น ม$กี่ม�ค,าว'า ถึ�า“ ....แล�วละกี่:......”

กี่ารู้หาเหต)ผลชน�ดน�0ข้�อสรู้)ปจะเป2นจรู้�งหรู้ อไม'แล�วแต'สภาพกี่ารู้ณ เพ�ยงแต'เป2นเหต)ผลที่��

ถึ�กี่ต�องตามหล$กี่ตรู้รู้กี่ศาสตรู้ เที่'าน$0น เช'น

Page 6: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

เหต)ใหญ' : ถึ�าอ)ณหภ�ม� 100 องสาเซลเซ�ยสน,0าจะเด อดเหต)ย'อย : อ)ณหภ�ม� 100 องศาเซลเซ�ยสข้�อสรู้)ป : น,0าเด อด3 . กี่ารู้หาเหต)ผลที่��ม�ที่างเล อกี่ (Alternative

Syllogism) เป2นว�ธิ�กี่ารู้หาเหต)ผลที่��กี่,าหนดสถึานกี่ารู้ณ ที่��เป2นที่างเล อกี่ ไม'อย'าง“

ใดกี่:อย'างหน��ง หรู้ อ”อย�'ในรู้�ปที่��เป2น อาจจะ อย'างใดอย'างหน��งกี่:ได� เช'น “ ”เหต)ใหญ': ข้�ารู้าชกี่ารู้ที่��รู้$บรู้าชกี่ารู้อาจจะได�รู้$บความ

พอใจจากี่เง�นเด อน หรู้ อเกี่�ยรู้ต�ยศเป2นส��งตอบแที่นกี่ารู้ที่,างาน

Page 7: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

เหต)ย'อย : ข้�ารู้าชกี่ารู้ที่��รู้$บรู้าชกี่ารู้ไม'ได�รู้$บความพอใจจากี่เง�นเด อนเป2น

ส��งตอบแที่นกี่ารู้ที่,างานข้�อสรู้)ป : ข้�ารู้าชกี่ารู้ที่��รู้$บรู้าชกี่ารู้อาจจะได�รู้$บความพอใจจากี่

เกี่�ยรู้ต�ยศ เป2นส��งตอบแที่นกี่ารู้ที่,างาน

4 . กี่ารู้หาเหต)ผลที่��ต'างออกี่ไป (Disjunctive Syllogism) เป2นว�ธิ�กี่ารู้หา

เหต)ผลที่��อาศ$ยกี่ารู้เช �อมโยงกี่$น โดยเหต)ย'อยเป2นต$วบอกี่กี่รู้ณ�บางส'วนใน

เหต)ใหญ' เช'นเหต)ใหญ' : อ)บ$ต�เหต)ที่างกี่ารู้จรู้าจรู้ส'วนใหญ'เกี่�ดจากี่ผ��ข้$บข้��

ม�นเมา เหต)ย'อย : นายปรู้ะเสรู้�ฐด �มส)รู้ากี่'อนข้$บรู้ถึข้�อสรู้)ป : นายปรู้ะเสรู้�ฐอาจไม'ปรู้ะสบอ)บ$ต�เหต)ที่างจรู้าจรู้

Page 8: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

ให้�การห้าความร� �ตามว ธี�ของอร สโตเต ลได้�ถู�กว พากษ์�ว จารณ์� โด้ยฟรานซิ ส

เบคอน ว$าม�จ%ด้อ$อนห้ร&อข�อบกพร$องไม$ช่$วยค�นพบความร� �ให้ม$ เพราะ

ข�อสร%ปที่�+ได้�จ,าก-ด้อย�$ในขอบเขตของเห้ต%ให้ญ่$ ข�อสร%ปจะม�ความเที่�+ยงตรง

เพ�ยงใด้ข/0นอย�$ก-บความเที่1จจร งของเห้ต%ให้ญ่$และเห้ต%ย$อย ถู�าข�อเที่1จจร งที่-0ง

สองน�0ขาด้ความเที่�+ยงตรง ก1อาจที่,าให้�ข�อสร%ปขาด้ความเที่�+ยงตรงได้�

Page 9: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

3 . ย)ค ฟรู้านซ�ส เบคอน ฟรู้านซ�ส เบคอน(Francis Bacon) ได�เสนอว�ธิ�กี่ารู้

หาความรู้�� เรู้�ยกี่ว'าว�ธิ�อน)มาน (Inductive Reasoning) ซ��งเป2นว�ธิ�ที่��อาศ$ยกี่ารู้

เกี่:บรู้วบรู้วมข้�อม�ลกี่'อนแล�วจ�งที่,ากี่ารู้ว�เครู้าะห ข้�อม�ลเหต)ย'อย ๆ เพ �อด�ความ

ส$มพ$นธิ รู้ะหว'างข้�อม�ลเหล'าน$0นในอ$นที่��จะสรู้)ปเหต)หรู้ อผลองค ปรู้ะกี่อบหรู้ อข้$0นตอนในกี่ารู้อน)มานแบ'งได�เป2น 3 ข้$0น1. กี่ารู้เกี่:บรู้วบรู้วมข้�อม�ลหรู้ อข้�อเที่:จจรู้�งเป2นรู้ายละเอ�ยดย'อย

ๆ กี่'อน2 . ว�เครู้าะห ข้�อม�ลเพ �อด�ความส$มพ$นธิ รู้ะหว'างข้�อเที่:จจรู้�งย'อย

เหล'าน$0น3 . สรู้)ปผล

Page 10: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

กี่ารู้แสวงหาความรู้��โดยว�ธิ�ข้องเบคอนม� 3 แบบ

1 . กี่ารู้อน)มานอย'างสมบ�รู้ณ (Perfect Induction) เป2นกี่ารู้เกี่:บรู้วบรู้วมข้�อม�ลที่)กี่ๆ หน'วยในหม�'ปรู้ะชากี่รู้ เพ �อด�รู้ายละเอ�ยดข้องหน'วยย'อยที่$0งหมดแล�วจ�งว�เครู้าะห ข้�อม�ล ต�ความและสรู้)ปผล

- ว�ธิ�กี่ารู้�0จะที่,าให�ได�ความรู้��จรู้�งที่��เช �อถึ อได�อย'างสมบ�รู้ณ แต'ในที่างปฏ�บ$ต�อาจที่,าไม'ได�เพรู้าะส�0นเปล องเวลา แรู้งงาน และค'าใช�จ'ายส�ง2 . กี่ารู้อน)มานที่��ไม'สมบ�รู้ณ (Imperfect Induction)

กี่ารู้อน)มานแบบน�0จะเล อกี่ตรู้วจสอบว�เครู้าะห ข้�อม�ลกี่$บกี่ล)'มต$วอย'างที่��เป2นต$วแที่นข้องปรู้ะชากี่รู้แล�วจ�งสรู้)ปหรู้ ออน)มานว'าปรู้ะชากี่รู้ที่$0งหมดม�ล$กี่ษณะเช่$นไร

Page 11: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

- ว�ธิ�น�0สะดวกี่ในกี่ารู้ปฏ�บ$ต�กี่ารู้เพรู้าะปรู้ะหย$ดแรู้งงาน เวลา และ

ค'าใช�จ'าย3 . กี่ารู้อน)มานแบบเบคอนเน�ยน (Baconian

Induction) เป2นกี่ารู้อน)มานที่��ไม'สมบ�รู้ณ ว�ธิ�หน��งซ��งเบคอนเสนอว'า ในกี่ารู้ตรู้วจสอบ

ข้�อม�ลควรู้แจงน$บหรู้ อศ�กี่ษารู้ายละเอ�ยดข้องข้�อม�ลเป2น 3 กี่รู้ณ�ค อ

1) พ�จารู้ณาส'วนที่��ม�ล$กี่ษณะเหม อนกี่$น 2 ) พ�จารู้ณาส'วนที่��ม�ล$กี่ษณะแตกี่ต'างกี่$น3 ) พ�จารู้ณาส'วนที่��ม�ความเปล��ยนแปรู้ไป

Page 12: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

4 . ย)คป1จจ)บ$น ในครู้�สต ศตวรู้รู้ษที่�� 19 ชารู้ ลส ดารู้ ว�น (Charles

Darwin) ได�เสนอว�ธิ�กี่ารู้ค�นหาความรู้��ที่��ผสมผสานว�ธิ�กี่ารู้ข้องอรู้�สโตเต�ล และ

เบคอนเข้�าด�วยกี่$นเรู้�ยกี่ว'า ว�ธิ�อ)ปมานและอน)มาน (Deductive Inductive Method)

ซ��งต'อมา จอห น ด�วอ� (John Duwey) ได�แกี่�ไข้ให�ช �อใหม'ว'า Reflective

Thinking เพรู้าะกี่รู้ะบวนกี่ารู้หาความรู้��แบบน�0ใช�ว�ธิ�ค�ดใครู้'ครู้าญอย'าง

รู้อบคอบซ��งเข้�ยนไว�ในหน$งส อ “How We Think” เม �อป> ค.ศ.1910 ได�

แบ'งข้$0นในกี่รู้ะบวนกี่ารู้แสวงหาความรู้��ไว�เป2น 5 ข้$0นค อ

Page 13: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

1 ) ปรู้ากี่ฏความย)'งยากี่เป2นป1ญหาเกี่�ดข้�0น 2 ) ข้$0นจ,ากี่$ดข้อบเข้ตและน�ยามความย)'งยากี่เพ �อให�ป1ญหา

กี่รู้ะจ'างช$ดข้�0น 3 ) ข้$0นเสนอแนะกี่ารู้แกี่�ป1ญหาหรู้ อต$0งสมม)ต�ฐาน4 ) ข้$0นอ)ปมานเหต)ผลข้องสมมต�ฐานที่��ต$0งข้�0น 5 ) ข้$0นกี่ารู้ที่ดสอบสมมต�ฐาน ข้$0นตอนน�0เป2นข้$0นตอนเด�ยวกี่$บ

ว�ธิ�กี่ารู้ที่างว�ที่ยาศาสตรู้ ค อเรู้��มต�นจากี่กี่ารู้รู้ะบ)ป1ญหาแล�วจ�งอ)ปมาน

เพ �อหาค,าตอบหรู้ อต$0งสมมต�ฐานข้�0น ต'อมากี่:ที่,ากี่ารู้รู้วบรู้วมข้�อม�ล ว�เครู้าะห

ข้�อม�ล และสรู้)ปผล

Page 14: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

ความรู้�� (Knowledg

e)- ความรู้�� (Knowledge) หมายถึ�ง ส��งที่��พรู้รู้ณนา

หรู้ ออธิ�บายเกี่��ยวกี่$บ ปรู้ากี่ฏกี่ารู้ณ ต'างๆ อย'างม�เหต)ผล เพ �อความเข้�าใจ

และที่,านาย ปรู้ากี่ฏกี่ารู้ณ

- ความรู้��ที่��ม�กี่ารู้จ$ดรู้ะเบ�ยบแล�ว เรู้�ยกี่ว'าองค ความรู้�� (Body of

Knowledge)- กี่ารู้จ$ดรู้ะบบองค ความรู้��ที่��ส,าค$ญ ค อกี่ารู้สรู้�างที่ฤษฎี�

Page 15: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

ในป1จจ)บ$นองค ความรู้�� สามารู้ถึจ,าแนกี่ได�เป2น 2 ปรู้ะเภที่ใหญ'ๆ ค อ1 . องค ความรู้��เกี่��ยวกี่$บปรู้ากี่ฏกี่ารู้ณ ธิรู้รู้มชาต� เรู้�ยกี่ว'าว�ที่ยาศาสตรู้

(Pure Science)2. องค ความรู้��เกี่��ยวกี่$บมน)ษย ที่��อย�'รู้วมกี่$นเป2นส$งคมเรู้�ยกี่ว'า ว�ที่ยาศาสตรู้

ส$งคม (Social Science) 3. กี่ารู้จ$ดกี่ารู้ธิ)รู้กี่�จ เป2นองค ความรู้��ที่างว�ที่ยาศาสตรู้ ส$งคมสาข้าว�ชา

หน��ง เน �องจากี่ธิ)รู้กี่�จเป2นหน'วยที่างส$งคมที่��ที่,าหน�าที่��ผล�ตส�นค�า และบรู้�กี่ารู้

ตอบสนองความต�องกี่ารู้ข้องมน)ษย เพ �อพ$ฒนาและยกี่รู้ะด$บค)ณภาพช�ว�ต

มน)ษย ให�ด�ข้�0น

Page 16: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

ศาสตรู้ โดยที่$�วไปม�ความม)'งหมายที่��จะที่,าความเข้�าใจสภาพข้องโลกี่รู้อบๆ

ต$วโดยม�กี่ารู้ด,าเน�นกี่�จกี่รู้รู้มที่��ส,าค$ญอย�' 3 ปรู้ะกี่ารู้ค อ 1. กี่ารู้พรู้รู้ณนา หรู้ ออธิ�บายปรู้ากี่ฏกี่ารู้ณ 2. กี่ารู้ค�นคว�าหากี่ฎีเกี่ณฑ์ แห'งความส$มพ$นธิ รู้ะหว'างส��งต'างๆ 3. กี่ารู้รู้วบรู้วมกี่,าหนดที่ฤษฎี�และกี่ฎีข้�0นเป2นหล$กี่ย�ด ศาสตรู้ ที่างกี่ารู้จ$ดกี่ารู้ ม�จ)ดม)'งหมาย ค อ

1) ศาสตรู้ ที่างกี่ารู้จ$ดกี่ารู้จะส$งเกี่ตและอธิ�บายถึ�งปรู้ากี่ฏกี่ารู้ณ ต'างๆ

ที่��เกี่�ดข้�0นในกี่ารู้บรู้�หารู้องค กี่ารู้ โดยเฉพาะภาครู้$ฐบาลตามเกี่ณฑ์ ที่��กี่,าหนด

ข้�0น เช'น กี่ารู้เข้�าออกี่จากี่งาน กี่ารู้ข้าดงาน

Page 17: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

2) ศาสตรู้ ที่างกี่ารู้จ$ดกี่ารู้จะค�นคว�าถึ�งรู้ะเบ�ยบกี่ฎีเกี่ณฑ์ จากี่ปรู้ากี่ฏกี่ารู้ณ ที่��เกี่�ดข้�0นปรู้ะจ,า เพ �อด�พฤต�กี่รู้รู้มแห'งความส$มพ$นธิ

ข้องส��งข้องหรู้ อเหต)กี่ารู้ณ ต'างๆ ว'าเกี่�ดข้�0นเป2นรู้ะเบ�ยบหรู้ อรู้ะบบอย'าง

ใดบ�างหรู้ อไม' เช'นกี่ารู้ศ�กี่ษาว'าส��งจ�งใจที่��เป2นต$วเง�นม�ความส$มพ$นธิ

กี่$บอ$ตรู้ากี่ารู้ข้าดงานหรู้ อไม'3 ) ศาสตรู้ ที่างกี่ารู้จ$ดกี่ารู้จะพยายามรู้วบรู้วมกี่ฎีเกี่ณฑ์ และ

รู้ะเบ�ยบข้องความส$มพ$นธิ ต'างๆ ที่��ได�ศ�กี่ษาค�นคว�าอย'างละเอ�ยดแจ'มช$ด

และเช �อม$�น ได�ต$0งกี่ฎีหรู้ อที่ฤษฎี�ต'างๆ ข้�0น เช'น ที่ฤษฎี�กี่ารู้จ�งใจ ที่ฤษฎี�

ภาวะผ��น,า

Page 18: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

แสวงหาความรู้��หรู้ อกี่รู้ะบวนกี่ารู้ว�จ$ยที่างกี่ารู้แสวงหาความรู้��หรู้ อกี่รู้ะบวนกี่ารู้ว�จ$ยที่างกี่ารู้จ$ดกี่ารู้เป2นในล$กี่ษณะเช'นเด�ยวกี่$บล$กี่ษณะข้องจ$ดกี่ารู้เป2นในล$กี่ษณะเช'นเด�ยวกี่$บล$กี่ษณะข้องศาสตรู้ ที่$�วไป ค อศาสตรู้ ที่$�วไป ค อ

1. ศาสตรู้ ม�ล$กี่ษณะที่��เป2นหล$กี่ความจรู้�งตามเหต)ผลหรู้ อเรู้�ยกี่ว'า ตรู้รู้กี่ว�ที่ยาศาสตรู้

จะต�องม�ล$กี่ษณะข้องกี่ารู้กี่รู้ะที่,าที่��ม�เหต)ผล (Rational) ม�ค,าอธิ�บายต'างๆ จะต�องเห:นจรู้�ง

หรู้ อม�ความรู้��ส�กี่ว'าเป2นจรู้�ง (Make sense) ค�นคว�าและแสวงหาความจรู้�งด�วยเหต)ผลม�

2 ว�ธิ�ค อ เหต)ผลเช�งอ)ปที่าน (Deduction logic) และเหต)ผลเช�งอน)มาน (Inductive logic)

1) กี่ารู้ให�เหต)ผลเช�งอ)ปมาน เป2นกี่ารู้ค�นคว�าแสวงหาความจรู้�งโดยเรู้��มต�นจากี่กี่ารู้ศ�กี่ษากี่ฎีหรู้ อที่ฤษฎี�ที่��ม�ผ��ค�นพบอย�'กี่'อนแล�ว แล�วน,าเอากี่ฎีหรู้ อที่ฤษฎี�น$0นไปใช�อธิ�บายเหต)กี่ารู้ณ เฉพาะอย'างที่��เกี่�ดข้�0นหรู้ อส$งเกี่ตพบ

2 ) กี่ารู้ให�เหต)ผลเช�งอน)มาน เป2นกี่ารู้ค�นคว�าแสวงหาความจรู้�งที่��เรู้��มต�นจากี่กี่ารู้ส$งเกี่ตปรู้ากี่ฏกี่ารู้ณ ที่��เกี่�ดข้�0นอย'างถึ��ถึ�วน แล�วรู้วบรู้วมข้�อม�ลที่��เกี่��ยวข้�องต$0งเป2นกี่ฎีหรู้ อที่ฤษฎี�ที่$�วไปแสดงถึ�งความส$มพ$นธิ รู้ะหว'างส��งข้อง หรู้ อเหต)กี่ารู้ณ ต'างๆ ที่��ส$งเกี่ตพบข้�0น

Page 19: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

2 . ศาสตรู้ ม�ล$กี่ษณะเช �อว'าเหต)กี่ารู้ณ หรู้ อพฤต�กี่รู้รู้มที่��เกี่�ดข้�0นจะต�องม�เหต)เป2น

ต$วกี่,าหนด ปรู้ากี่ฏกี่ารู้ณ ต'างๆ ที่��เกี่�ดข้�0นม�สาเหต)สามารู้ถึที่ดลอง ศ�กี่ษา และอธิ�บายให�เป2น

ที่��เข้�าใจอย'างม�เหต)ผลได� ว�ธิ�กี่ารู้ศ�กี่ษาว�จ$ยถึ�งความส$มพ$นธิ เช�งสาเหต)และผลเรู้�ยกี่ว'า

Causal Inferences หรู้ อ Causal Relationship ม)'งศ�กี่ษาให�รู้��แจ�งว'าอะไรู้เป2นต�นเหต)ให�

เกี่�ดผลหรู้ อปรู้ากี่ฏหารู้แต'ละอย'างข้�0น 3. ศาสตรู้ ค,าน�งถึ�งกี่ฎีเกี่ณฑ์ ที่��น,าไปใช�ได�กี่$บเหต)กี่ารู้ณ ที่$�วไป ศาสตรู้ หน��งๆ

พยายามที่��จะแสวงหาความรู้��เพ �ออธิ�บายหรู้ อที่,านายปรู้ากี่ฏกี่ารู้ณ ต'างๆ เป2นกี่ารู้ที่$�วไป

ไม'จ,ากี่$ดกี่าลเที่สะ จ�งที่,ากี่ารู้ศ�กี่ษาค�นคว�าเพ �อหากี่ฎีเกี่ณฑ์ ที่��จะใช�กี่$บพฤต�กี่รู้รู้มจ,านวน

มากี่หรู้ อใช�เป2นกี่ารู้ที่$�วไปได�

Page 20: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

4. ศาสตรู้ ม$กี่ค,าน�งถึ�งความสะดวกี่และง'ายต'อกี่ารู้เข้�าใจได� ในกี่ารู้อธิ�บาย

ปรู้ากี่ฏกี่ารู้ณ ใดปรู้ากี่ฏกี่ารู้ณ หน��ง ถึ�าใช�องค ปรู้ะกี่อบหรู้ อป1จจ$ย (Factors) น�อยต$ว

ที่��ส)ดที่��จะสามารู้ถึอธิ�บายสะดวกี่และง'ายต'อกี่ารู้เข้�าใจได� แต'ในที่างปฏ�บ$ต�แล�วกี่ารู้ใช�

ป1จจ$ยมากี่ต$วย��งที่,าให�กี่ารู้อธิ�บายม�ความถึ�กี่ต�องแม'นย,ามากี่ข้�0น กี่ารู้ว�จ$ยจะต�อง

ต$ดส�นใจต$0งแต'เรู้��มต�นว'าจะเล อกี่อะไรู้รู้ะหว'างความสะดวกี่ง'ายกี่$บความถึ�กี่ต�อง

แม'นย,าที่��จะได�รู้$บโดยที่$�วไปเน�นที่$0งสองอย'างว�ธิ�กี่ารู้ว�เครู้าะห ป1จจ$ย (factor Analysis) เป2น

เที่คน�คกี่ารู้ว�เครู้าะห ข้�อม�ลที่��น�ยมใช�ในกี่ารู้ศ�กี่ษาว�จ$ยเหต)กี่ารู้ณ ที่��ม�ต$วแปรู้หลายต$ว

Page 21: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

5 .ศาสตรู้ จะต�องจ,ากี่$ดข้อบเข้ตเหต)กี่ารู้ณ ที่��จะศ�กี่ษาอย'างแจ'มช$ด การศึ/กษ์าว จ-ย

แต$ละคร-0ง จะต�องจ,าก-ด้ขอบเขตเร&+องที่�+จะศึ/กษ์าให้�ร-ด้ก%มกะที่-ด้ร-ด้โด้ยขอบเขตและความ

พยายามของเร&+องที่�+จะศึ/กษ์าโด้ยเฉพาะเจาะจง การก,าห้นด้ขอบเขตให้�ช่-ด้เจนจะช่$วยให้�การที่ด้สอบและการว-ด้ความส-มพ-นธี�

ของต-วแปรห้ร&อป5จจ-ยต$างๆ ได้�ถู�กต�องย +งข/0น6 .ศาสตรู้ ต�องส,ารู้วจตรู้วจสอบโดยกี่ารู้ส$งเกี่ตได� กฎห้ร&อที่ฤษ์ฎ�ที่�+ก,าห้นด้

ข/0น จะห้าประโยช่น�ไม$ได้�ถู�าไม$สามารถูจะย&นย-นโด้ยข�อม�ลที่�+รวบรวมและส +งที่�+ส-งเกตได้�

การตรวจสอบจากการส-งเกตและการรวบรวมข�อม�ลเช่ งประจ-กษ์� (Empirical

verification) ผู้��ที่,าการว จ-ยจะต�องสามารถูก,าห้นด้สภาวะการณ์�ที่�+สามารถูแย�งว$ากฎห้ร&อ

ที่ฤษ์ฎ�น-0น ๆ ไม$ถู�กต�องได้�

Page 22: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

7 .ศาสตรู้ สามารู้ถึน,าความค�ดเห:นที่��แตกี่ต'างกี่$นแต'ละบ)คคลไปส�'ความเป2นจรู้�ง

รู้'วมกี่$น- ความแตกี่ต'างในความเช �อหรู้ อความค�ดเห:นข้องบ)คคลม$กี่จะเกี่�ดข้�0น

จากี่ป1ญหาเกี่��ยวกี่$บกี่รู้อบที่ฤษฎี�และกี่ารู้น�ยามที่��แตกี่ต'างกี่$น

- กี่ารู้กี่,าหนดต$วแปรู้และมาตรู้ว$ดที่��จะใช�ในกี่ารู้ว�จ$ย หากี่ม�กี่ารู้ใช�กี่รู้อบที่ฤษฎี�

และกี่ารู้น�ยาม ตลอดจนกี่,าหนดต$วแปรู้และมาตรู้ว$ดที่��ใช�เหม อนกี่$นที่)กี่ปรู้ะกี่ารู้แม�ผ��ว�จ$ยจะ

ม�ความเช �อหรู้ อความค�ดเห:นส'วนต$วครู้$0งแรู้กี่ที่��แตกี่ต'างกี่$น กี่ารู้ว�จ$ยต�องพบผลที่��เหม อนกี่$น

8.ศาสตรู้ เปCดโอกี่าสให�ม�กี่ารู้แกี่�ไข้ข้�อบกี่พรู้'องอย�'เสมอ - กี่ฎีหรู้ อที่ฤษฎี�ต'าง ๆ จ�งต�องม�กี่ารู้เปล��ยนแปลงแกี่�ไข้ให�เหมาะสมที่��จะ

ใช�กี่$บภาวะกี่ารู้ณ แวดล�อมอย�'เสมอ

- ศาสตรู้ ต'าง ๆ ไม'เพ�ยงแต'จะแสดวงหาความจรู้�งเพ �อความจรู้�ง แต'ค�นหาความ

จรู้�งที่��จะเป2นปรู้ะโยชน ต'อมน)ษยชาต�ในส$งคมเป2นส,าค$ญ

Page 23: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

ค,าว'า ที่ฤษฎี� ได�ม�กี่ารู้กี่,าหนดน�ยามแบ'งได�“ ”ค,าว'า ที่ฤษฎี� ได�ม�กี่ารู้กี่,าหนดน�ยามแบ'งได�“ ”เป2น เป2น 22 น$ย ค อน$ย ค อ

1 . ที่ฤษฎี�ในความหมายกี่ว�าง- Reynolds (1971:11) ที่ฤษฎี� หมายถึ�ง ข้�อความนามธิรู้รู้มซ��งพ�จารู้ณาเป2นส'วนหน��ง

ข้ององค ความรู้�� ซ��งจ$ดในรู้�ปข้องกี่ล)'มแห'งกี่ฎีในล$กี่ษณะความเป2นจรู้�งไม'ต�องพ�ส�จน หรู้ อ

ล$กี่ษณะกี่รู้ะบวนกี่ารู้สาเหต)และผล- Gibbs (1972:5) ที่ฤษฎี� ค อ กี่ล)'มข้องข้�อความที่��ม�ความส$มพ$นธิ ต'อกี่$นเช�งตรู้รู้กี่ะ ใน

ล$กี่ษณะข้องกี่ารู้สน$บสน)นเช�งปรู้ะจ$กี่ษ น�ยมเกี่��ยวกี่$บค)ณสมบ$ต�ข้องเหต)กี่ารู้ณ ข้องส��งต'างๆ

ที่��ไม'รู้��จ$กี่ที่ฤษฎี� ค อ กี่รู้อบความค�ดเกี่��ยวกี่$บกี่ารู้จ$ดองค ความรู้��ในล$กี่ษณะต$วแบบต'างๆ โดยม)'ง

เน�นความส,าค$ญความสอดคล�องข้องเน 0อหาสารู้ะภายในที่ฤษฎี�เป2นส,าค$ญ

Page 24: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

2. ที่ฤษฎี�ในความหมายเฉพาะเจาะจง - ที่ฤษฎี�ในความหมายเฉพาะเจาะจง หมายถึ�งกี่ล)'มข้องข้�อที่ฤษฎี� ซ��งเกี่��ยวข้�องส$มพ$นธิ สอดคล�องกี่$นอย'างเป2นรู้ะบบ โดยม�เป5าปรู้ะสงค หล$กี่

เพ �ออธิ�บายปรู้ากี่ฏกี่ารู้ณ ในรู้�ปล$กี่ษณะความส$มพ$นธิ เช�งสาเหต)และผล

รู้ะหว'างแนวค�ดส,าค$ญเกี่��ยวข้�องกี่$นที่$0งหมด และอาจม�เป5าปรู้ะสงค เพ �อกี่ารู้

พรู้รู้ณนา หรู้ อพยากี่รู้ณ ปรู้ากี่ฏกี่ารู้ณ น$0นๆ

- แนวค�ด หมายถึ�ง ส$ญล$กี่ษณ ในล$กี่ษณะนามธิรู้รู้มที่��ที่,าหน�าที่��จ$ดรู้ะบบ

ความค�ดและปรู้ะสบกี่ารู้ณ ให�ม�ล$กี่ษณะที่��สามารู้ถึส �อความหมายได�ไม'ว'าโดย

ที่างตรู้งหรู้ อที่างอ�อม

Page 25: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

แนวค�ดที่างกี่ารู้จ$ดกี่ารู้ เช'น ปรู้ะส�ที่ธิ�ภาพ ปรู้ะส�ที่ธิ�ผล ความเป2นเล�ศ

ความสามารู้ถึที่างกี่ารู้แข้'งข้$น ความรู้$บผ�ดชอบต'อส$งคม กี่ารู้กี่,าหนดน�ยามข้องแนวค�ดสามารู้ถึกี่รู้ะที่,าได� 2 ล$กี่ษณะค อ1 . กี่ารู้กี่,าหนดน�ยามตามพจนาน)กี่รู้ม เป2นกี่ารู้ให�ค,าจ,ากี่$ดความข้อง

แนวค�ดใดแนวค�ดหน��ง โดยกี่ารู้ใช�แนวค�ดอ �นๆ ที่��ม�ความหมายใกี่ล�เค�ยงกี่$น

เพ �อข้ยายความซ��งกี่$นและกี่$น2 . กี่ารู้กี่,าหนดน�ยามปฏ�บ$ต�กี่ารู้ เป2นกี่ารู้ให�ค,าจ,ากี่$ดความเพ �อเปล��ยนแปลง

แนวค�ด ให�ม�สถึานภาพเป2นต$วแปรู้ซ��งกี่,าหนดค'าหรู้ อว$ดค'าได�

Page 26: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

หล$กี่กี่ารู้(Principle) หมายถึ�ง กี่ล)'มข้องข้�อที่ฤษฎี� ซ��งได�ผ'านกี่ารู้ที่ดสอบ

เช�งปรู้ะจ$กี่ษ มาแล�วไม'จ,ากี่$ดครู้$0งและต'าง ได�รู้$บกี่ารู้สน$บสน)นข้�อม�ลอย'าง

กี่ว�างข้วางจนกี่'อให�เกี่�ดกี่ารู้ยอมรู้$บรู้'วมกี่$นอย'างเป2นเอกี่ฉ$นที่ จากี่น$กี่ว�ชากี่ารู้

ในสาข้าน$0นๆกี่ารู้ที่ดสอบเช�งปรู้ะจ$กี่ษ หมายถึ�ง กี่ารู้ที่ดสอบที่ฤษฎี�ด�วยข้�อม�ลที่��ได�

รู้$บกี่ารู้เกี่:บรู้วบรู้วมอย'างเป2นรู้ะบบ โดยอาศ$ยปรู้ะสาที่ส$มผ$สที่$0งห�าข้องมน)ษย ตลอดจนกี่ารู้ต�ความข้�อม�ล และกี่ารู้ที่,าความเข้�าใจเกี่��ยวกี่$บ

ปรู้ากี่ฏกี่ารู้ณ ที่��ม)'งศ�กี่ษา

Page 27: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

ที่ฤษฎี� ปรู้ะกี่อบด�วยองค ปรู้ะกี่อบ 4 ส'วน ค อ 1. กี่รู้อบอ�างอ�ง (frame of reference) หมายถึ�ง

กี่รู้อบที่��กี่,าหนดส,าหรู้$บกี่ารู้ศ�กี่ษาปรู้ากี่ฏกี่ารู้ณ หรู้ อกี่รู้อบที่��จ,ากี่$ดม�ต�ข้องกี่ารู้ศ�กี่ษาค�นคว�า 2. ฐานคต� (assumptions) หมายถึ�ง พ 0นฐานข้อง

แนวค�ดที่��เกี่��ยวข้�องกี่$บปรู้ากี่ฏกี่ารู้ณ ที่��ม)'งศ�กี่ษา 3. แนวค�ด (Concepts) หมายถึ�ง ส$ญล$กี่ษณ ในล$กี่ษณะ

นามธิรู้รู้มที่��ที่,าหน�าที่��จ$ดรู้ะบบความค�ดและปรู้ะสบกี่ารู้ณ ให�ม�ข้อบข้'ายที่��สามารู้ถึส �อความหมายได�

4 . ข้�อที่ฤษฎี� (theoretical propositions) หมายถึ�ง ข้�อความที่��แสดงความ

ส$มพ$นธิ รู้ะหว'างแนวค�ดต$0งแต'สองแนวข้�0นไป

Page 28: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

กี่ารู้จ$ดกี่ารู้ธิ)รู้กี่�จเป2นศาสตรู้ ที่างส$งคม (Social Science) ที่��

เป2นศาสตรู้ เฉพาะว�ชาช�พโดยที่$�วไปน�ยมจ,าแนกี่ตามหน�าที่��ที่างกี่ารู้

บรู้�หารู้ธิ)รู้กี่�จ (Business Function) จ,าแนกี่เป2น 4 ด�าน1. ที่ฤษฎี�กี่ารู้จ$ดกี่ารู้ที่$�วไปและกี่ารู้จ$ดกี่ารู้ด,าเน�นงาน2. ที่ฤษฎี�กี่ารู้จ$ดกี่ารู้กี่ารู้เง�น3 . ที่ฤษฎี�กี่ารู้จ$ดกี่ารู้กี่ารู้ตลาด4. ที่ฤษฎี�กี่ารู้จ$ดกี่ารู้ที่รู้$พยากี่รู้มน)ษย

Page 29: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

ป1จจ)บ$นสถึาบ$นกี่ารู้ศ�กี่ษาที่างด�านบรู้�หารู้ธิ)รู้กี่�จ ข้องปรู้ะเที่ศสหรู้$ฐ

อเมรู้�กี่าได�จ,าแนกี่องค ความรู้��ที่างบรู้�หารู้ธิ)รู้กี่�จ เป2น 12 ด�านค อ 1. กี่ารู้บ$ญช� 7 . สารู้สนเที่ศเที่ศที่างกี่ารู้จ$ดกี่ารู้

2. กี่ารู้จ$ดกี่ารู้ 8. กี่ารู้จ$ดกี่ารู้เช�งปฏ�บ$ต�กี่ารู้3 . กี่ารู้ปรู้ะกี่อบ 9. กี่ารู้จ$ดกี่ารู้โลจ�สต�กี่ส

และกี่ารู้ข้นส'ง4 . กี่ารู้เง�น 10. กี่ารู้จ$ดกี่ารู้ธิ)รู้กี่�จ

รู้ะหว'างปรู้ะเที่ศ5 . กี่ารู้ตลาด 11. กี่ารู้จ$ดกี่ารู้ธิ)รู้กี่�จ

อส$งหารู้�มที่รู้$พย 6. กี่ารู้จ$ดกี่ารู้ธิ)รู้กี่�จที่��ไม'ม)'งผลกี่,าไรู้ 12.กี่ารู้ ปรู้ะกี่$นภ$ย

Page 30: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

กี่ล)'มแนวค�ดและที่ฤษฎี�กี่ล)'มแนวค�ดและที่ฤษฎี�แบบคลาสส�กี่แบบคลาสส�กี่ในสม$ย 5,000 ป>กี่'อนครู้�สต ศ$กี่รู้าช พรู้ะกี่รู้�กี่แห'งว�หารู้ซ�เมอเรู้�ยน (Sumerian Temple)

ได�บ$นที่�กี่รู้ะบบภาษ�ที่��จ$ดเกี่:บส,าหรู้$บกี่ารู้ถึ อครู้องที่��ด�นและเง�นชาวอ�ย�ปต โบรู้าณได�สรู้�างพ�รู้ะม�ดโดยอาศ$ยหน�าที่��ที่างกี่ารู้จ$ดกี่ารู้ ได�แกี่' กี่ารู้วางแผน

กี่ารู้จ$ดองค กี่ารู้ และกี่ารู้ควบค)มในกี่ารู้ด,าเน�นโครู้งกี่ารู้ข้นาดใหญ' เพ �อกี่'อสรู้�าง

มหาพ�รู้ะม�ดต'อมาในสม$ยกี่ษ$ตรู้�ย ฮาม�รู้าบ� (Hammurabi) แห'งรู้าชอาณาจ$กี่รู้บาบ�โลเน�ยได�บ$ญญ$ต�

กี่ฎี 282 ข้�อที่��เรู้�ยกี่ว'า Code of Hammurabi เพ �อใช�เป2นหล$กี่ในกี่ารู้ปกี่ครู้องข้องปรู้ะเที่ศ

โบสถึ โรู้ม$นคาที่อล�กี่กี่:ม�แนวปฏ�บ$ต�ที่างกี่ารู้จ$ดกี่ารู้ส บต'อมายาวนาน ต$0งแต'สม$ยปรู้ะว$ต�ศาสตรู้

Page 31: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

แนวปฏิ บ-ต และกฏิเกณ์ฑ์�ในอด้�ตได้�ร-บการศึ/กษ์าค�นคว�าและพ-ฒนามาจนกลายเป>น

แนวค ด้ที่างการจ-ด้การที่�+ม�ประส ที่ธี ภาพและประส ที่ธี ผู้ลในย%คต$อมา

ห้ล-งการปฏิ ว-ต อ%ตสาห้กรรมในศึตวรรษ์ที่�+ 19 การผู้ล ตม�ขนาด้ให้ญ่$ข/0น

เจ�าของก จการไม$อาจควบค%มการได้�โญ่ล,าพ-ง การขยายต-วและความ

เจร ญ่เต บโตของอ%ตสาห้กรรมได้�ก$อให้�เก ด้ป5ญ่ห้าที่างการจ-ด้การ จนที่,าให้�

เก ด้การปฏิ ว-ต ที่างการจ-ด้การ

Page 32: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

น$กี่ค�ดรู้)'นแรู้กี่ที่��ได�บ)กี่เบ�กี่องค ความรู้��ที่างกี่ารู้จ$ดกี่ารู้ ได�แกี่' น$กี่อ)ตสาหกี่รู้รู้ม

ชาวอ$งกี่ฤษ โรู้เบ�รู้ ต โอเวน (Robert Owen ค.ศ.1771-1858) น$กี่คณ�ตศาสตรู้

ชาวอ$งกี่ฤษ ชารู้ ลส แบ:บเบจ (Charles Babbage ค.ศ.1798-1871) และว�ศวกี่รู้

ชาวอเมรู้�กี่$น เฮนรู้�� ที่าวน (Henry Towne ค.ศ . 1844-1924) ผลงานข้องน$กี่ค�ด

เหล'าน�0ได�ม�บที่บาที่ต'อกี่ารู้พ$ฒนาองค ความรู้��ที่างกี่ารู้จ$ดกี่ารู้ในปลายศตวรู้รู้ษที่�� 19 กี่ารู้ข้ยายต$วข้องอ)ตสาหกี่รู้รู้มและกี่ารู้จ$ดกี่ารู้เป2นไป

อย'างรู้วดเรู้:ว ม�กี่ารู้ใช�จ'ายเง�นที่)นและเวลาอย'างมากี่ในกี่ารู้ฝึFกี่อบรู้ม และพ$ฒนา

พน$กี่งานให�ม�ความรู้��เกี่��ยวกี่$บเครู้ �องจ$กี่รู้ และงาน

Page 33: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

น$กี่ว�ชากี่ารู้และน$กี่ปฏ�บ$ต�ในอ)ตสาหกี่รู้รู้มจ�งศ�กี่ษากี่ารู้เพ��มปรู้ะส�ที่ธิ�ภาพ

กี่ารู้ที่,างานในองค กี่ารู้โดยรู้วม กี่ารู้ศ�กี่ษาค�นคว�าได�พ$ฒนาจนกี่ลายเป2น

แนวค�ดและที่ฤษฎี�กี่ารู้จ$ดกี่ารู้แบบคลาสส�ค (Classical management

perspective) ซ��งถึ อได�ว'าเป2นกี่ล)'มแนวค�ด และที่ฤษฎี�ที่างกี่ารู้จ$ดกี่ารู้กี่ล)'มแรู้กี่

ซ��งแบ'งออกี่เป2น 2 สาข้าย'อยค อ1 . ที่ฤษฎี�กี่ารู้จ$ดกี่ารู้เช�งว�ที่ยาศาสตรู้ (Scientific Management Theory)2.ที่ฤษฎี�องค กี่ารู้ (Organization Theory)

Page 34: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

กี่ารู้จ$ดกี่ารู้เช�งว�ที่ยาศาสตรู้ (Scientific Management Theory) เป2นแนวค�ดที่างกี่ารู้จ$ดกี่ารู้ที่��ม)'งเน�นกี่ารู้ศ�กี่ษางานโดยใช�หล$กี่เหต)ผลด�วยว�ธิ�กี่ารู้ที่างว�ที่ยาศาสตรู้ เพ �อปรู้$บปรู้)งปรู้ะส�ที่ธิ�ภาพกี่ารู้ที่,างานข้องพน$กี่งานในองค กี่ารู้ น$กี่ค�ดที่��ส,าค$ญในส,าน$กี่น�0ได�แกี่' เฟรู้ดเดอรู้�ค ด$บบล�ว เที่เลอรู้ (Frederick W. Taylor)แฟรู้งค และล�เล�ยน กี่�ลเบรู้ ที่ (Frank and Lilian Gilbreth) เฮนรู้� แกี่นที่ (Henry Gantt) และฮารู้ รู้�งต$นอ�เมอรู้ ส$น (Harrington Emerson)

Page 35: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

1. เฟรู้ดเดอรู้�ค ด$บบล�ว เที่เลอรู้ (Frederick W. Taylor) และกี่ารู้จ$ด

กี่ารู้เช�งว�ที่ยาศาสตรู้ เฟรู้ดเดรู้�ค ด$บบล�ว เที่เลอรู้ (Frederick W. Taylor

ค.ศ . 1856-1915) ได�ศ�กี่ษาเพ �อหาว�ธิ�กี่ารู้ที่,างานที่��ด�ที่��ส)ด (One Best Way)

ด�านว�ธิ�กี่ารู้ศ�กี่ษาเวลาและกี่ารู้เคล �อนไหวในกี่ารู้ที่,างาน (Time and Motion

Study) ด�วยกี่ารู้ที่ดลองที่��โรู้งงานม�ดเวล โรู้งงานที่�� เบที่เลแฮมและที่��อ �นๆ จน

ค�นพบและกี่,าหนดมาตรู้ฐานข้องกี่ารู้ที่,างานในงานเฉพาะอย'างหลายงานข้องกี่รู้ะบวนกี่ารู้ผล�ตในโรู้งงานผล�ตเหล:กี่ ช'วยเพ��มผลผล�ตให�ส�งข้�0นได�

Page 36: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

เที่เลอรู้ ได�เสนอบที่บาที่ที่��ช$ดเจนข้องฝึGายจ$ดกี่ารู้ และพน$กี่งานในกี่รู้ะบวนกี่ารู้ที่างกี่ารู้จ$ดกี่ารู้ได�แกี่' กี่ารู้วางแผน กี่ารู้จ$ดองค กี่ารู้ กี่ารู้

ควบค)ม และว�ธิ�กี่ารู้ที่,างานเฉพาะอย'างได�ค�นพบหล$กี่เกี่ณฑ์ เกี่��ยวกี่$บกี่ารู้กี่,าหนดค)ณสมบ$ต�เฉพาะข้องว$ตถึ)ด�บ รู้ะบบกี่ารู้ควบค)มส�นค�าคงเหล อที่��ใช�ในกี่ารู้

ปรู้ะสานและควบค)มกี่ารู้จ$ดกี่ารู้ในองค กี่ารู้

เสนอรู้ะบบกี่ารู้จ'ายค'าตอบแที่นเป2นรู้ายช�0น (Price Rate Pay System)

ผลงานข้องเที่เลอรู้ ได�รู้$บกี่ารู้เผยแพรู้' ต�พ�มพ ผลงาน “Principles of Scientific Management” ซ��งเป2นผลงานที่��ที่,าให�เข้าได�รู้$บกี่ารู้

ยกี่ย'องเป2นบ�ดาข้องกี่ารู้จ$ดกี่ารู้จ$ดกี่ารู้เช�งว�ที่ยาศาสตรู้

Page 37: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

หล$กี่กี่ารู้ส,าค$ญข้องแนวค�ดกี่ารู้จ$ดกี่ารู้เช�งว�ที่ยาศาสตรู้ ข้องเที่เลอรู้

สรู้)ปได� ด$งน�01.ใช�หล$กี่ว�ธิ�ว�ที่ยาศาสตรู้ เพ �อแสวงหากี่ารู้ที่,างานที่��ด�ที่��ส)ด2. ยอมรู้$บความกี่ลมกี่ล นในกี่�จกี่รู้รู้มกี่ล)'มมากี่กี่ว'าความไม'ปลอดภ$ย3. ม)'งส�'ความรู้'วมม อข้องมน)ษย ในกี่ารู้ที่,างาน4. ที่,างานเพ �อผลผล�ตส�งส)ด5. พ$ฒนาพน$กี่งานที่)กี่คนให�ใช�ความสามารู้ถึส�งส)ด และสรู้�างความม$�นคง

ส�งส)ดให�บรู้�ษ$ที่

Page 38: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

2. แฟรู้งค และล�เล�ยน กี่�ลเบรู้ ที่ (Frank and Lilian Gilbreth) แนวค�ดเรู้ �อง

กี่ารู้ศ�กี่ษาความเคล �อนไหวในกี่ารู้ที่,างาน แฟรู้งค และล�เล�ยน กี่�ลเบรู้ ที่

(Frank and Lilian Gilbreth ค.ศ . 1886-1924) และล�เล�ยน กี่�ลเบรู้ ที่ (Lilian

Gilbreth ค.ศ . 1878-1972) แฟรู้งค และล�เล�ยน ได�รู้'วมกี่$นศ�กี่ษากี่ารู้เคล �อนไหวในกี่ารู้ที่,างานในโรู้งงาน

อ)ตสาหกี่รู้รู้มและหล$กี่กี่ารู้เคล �อนไหวในกี่ารู้ที่,างานศ�กี่ษาเวลาและกี่ารู้เคล �อน

ไหว (Time and Motion Study) ด�วยกี่ารู้ใช�กี่ล�องโที่รู้ที่$ศน จ$บภาพกี่ารู้เคล �อน

ไหวในกี่ารู้ที่,างานแล�วน,ามาศ�กี่ษาว�เครู้าะห กี่ารู้เคล �อนไหวที่��ด�ที่��ส)ด

Page 39: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

สองสาม�ภรู้รู้ยาสกี่)ล Gilbreth ได�ปรู้ะย)กี่ต แนวค�ดกี่ารู้จ$ดกี่ารู้เช�งว�ที่ยาศาสตรู้

ข้อง Taylor มาใช�และผนวกี่กี่$บความเข้�าใจในล$กี่ษณะบ)คล�กี่ภาพและความต�องกี่ารู้ข้อง

บ)คคลในกี่ารู้ที่,างาน3. เฮนรู้� แกี่นที่ (Henry Gantt) แนวค�ดเรู้ �องกี่ารู้จ'ายค'าตอบแที่นแบบจ�งใจ เฮนรู้� แกี่นที่

(Henry Gantt ค.ศ - .1961 1919) เป2นว�ศวกี่รู้เครู้ �องกี่ลที่��รู้'วมงานกี่$บ Taylor สรู้�างผลงาน

ต'าง ๆ มากี่มาย เข้าเช �อม$�นในแนวค�ดกี่ารู้จ$ดกี่ารู้เช�งว�ที่ยาศาสตรู้ เช'นเด�ยวกี่$บเที่เลอรู้ แกี่นที่ ได�ที่,างานเป2นที่��ปรู้�กี่ษาให�กี่$บบรู้�ษ$ที่ต'างๆ มากี่มาย ในกี่ารู้ค$ดเล อกี่พน$กี่งาน

ด�วยว�ธิ�ที่างว�ที่ยาศาสตรู้ และพ$ฒนากี่ารู้จ'ายค'าตอบแที่นแบบจ�งใจ (Pay Incentive) ด�วย

โบน$ส (Bonus)

Page 40: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

แกี่นที่ เน�นความต�องกี่ารู้และความสนใจที่$0งฝึGายบรู้�หารู้และฝึGายพน$กี่งาน กี่ารู้

รู้'วมม อกี่$นอย'างกี่ลมกี่ล นและกี่ารู้เห:นค)ณค'าในที่)กี่ป1ญหาข้องกี่ารู้จ$ดกี่ารู้ซ��งมน)ษย เป2น

ส'วนส,าค$ญที่��ส)ดผลงานข้องแกี่นที่ ค อ กี่รู้าฟกี่ารู้ควบค)มที่รู้$พยากี่รู้ที่างกี่ารู้จ$ดกี่ารู้ที่��เรู้�ยกี่ว'า

Gantt Chart ซ��งเป2นเที่คน�คที่างกี่ารู้ควบค)มที่��ใช�กี่$นแพรู้'หลายในป1จจ)บ$น 4. ฮารู้ รู้�งต$น อ�เมอรู้ ส$น (Harrington Emerson) และแนวค�ดเรู้ �อง

ปรู้ะส�ที่ธิ�ภาพข้ององค กี่ารู้ ฮารู้ รู้�งต$น อ�เมอรู้ ส$น (Harrington Emerson ค.ศ.1853-

1931) เป2นที่��ปรู้�กี่ษาที่างกี่ารู้จ$ดกี่ารู้ที่��ม�จ)ดเน�นกี่ารู้อน)รู้$กี่ษ ที่รู้$พยากี่รู้และข้จ$ดกี่ารู้ส�ญเปล'า โดย

อาศ$ยหล$กี่กี่ารู้เช�งว�ที่ยาศาสตรู้ และให�ความส,าค$ญกี่$บโครู้งสรู้�างและเป5าหมายข้อง

องค กี่ารู้ เข้าได�พ$ฒนาหล$กี่ปรู้ะส�ที่ธิ�ภาพ 12 ปรู้ะกี่ารู้ได�แกี่'

Page 41: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

หล$กี่ปรู้ะส�ที่ธิ�ภาพ หล$กี่ปรู้ะส�ที่ธิ�ภาพ 12 12 ปรู้ะกี่ารู้ ปรู้ะกี่ารู้ ข้อง ข้อง Emerson Emerson ได�แกี่'ได�แกี่'

1. กี่ารู้กี่,าหนดจ)ดหมายที่��ช$ดเจน (Clearly Defined Ideal)2. กี่ารู้ใช�สาม$ญส,าน�กี่ (Common Sense)

3. ค,าปรู้�กี่ษาแนะน,าที่��สามารู้ถึน,าไปปฏ�บ$ต�ได�ด� (Competent Counsel) 4. ว�น$ย (Discipline) 5. ความย)ต�ธิรู้รู้ม (Fair Deal) 6. ข้�อม�ลที่��เช �อถึ อได� ฉ$บไว ถึ�กี่ต�อง และแน'นอน (Reliable Immediate

Accurate and Permanent Records)

Page 42: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

7. แผนแสดงรู้ายละเอ�ยดในกี่ารู้ปฏ�บ$ต�กี่ารู้ (Dispatching)

8 . มาตรู้ฐานและตารู้างเวลา (Standards and Schedules)9. สภาพมาตรู้ฐาน (Standard Conditions)

1 0 . กี่ารู้ปฏ�บ$ต�กี่ารู้ที่��ม�มาตรู้ฐาน (Standards and Operations)

11. ค,าช�0แนะกี่ารู้ปฏ�บ$ต�ที่��เป2นมาตรู้ฐานและเป2นลายล$กี่ษณ อ$กี่ษรู้ (Written Standard Practice Instructions)

12. รู้างว$ลตอบแที่นที่��ม�ปรู้ะส�ที่ธิ�ภาพ (Efficiency Reward)

Page 43: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

ที่ฤษฎี�องค กี่ารู้แบบคลาสส�กี่

แนวค�ดและที่ฤษฎี�องค กี่ารู้ เป2นสาข้าแนวค�ดที่��สองในกี่ล)'มแนวค�ดและ

ที่ฤษฎี�กี่ารู้จ$ดกี่ารู้แบบคลาสส�กี่ ม�จ)ดเน�นในกี่ารู้เพ��มปรู้ะส�ที่ธิ�ภาพ และปรู้ะส�ที่ธิ�ผลข้ององค กี่ารู้โดยรู้วม น$กี่ว�ชากี่ารู้คนส,าค$ญได�แกี่'

1. อ$งรู้� ฟาโยล (Henri Fayol) และกี่ารู้จ$ดกี่ารู้เช�งบรู้�หารู้ อ$งรู้� ฟาโยล

(Henri Fayol ค.ศ -.1841 1925) เป2นว�ศวกี่รู้ชาวฝึรู้$�งเศส ผ��ซ��งพยายามพ$ฒนา

ว�ธิ�กี่ารู้จ$ดกี่ารู้เช�งรู้ะบบ กี่ารู้ศ�กี่ษาข้องฟาโยล เม �อเปรู้�ยบเที่�ยบกี่$บเที่เลอรู้ แตกี่ต'างกี่$นที่��

จ)ดสนใจ

Page 44: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

กี่ารู้จ$ดกี่ารู้ข้องฟาโยล อย�'ที่��น$กี่บรู้�หารู้รู้ะด$บส�ง ข้ณะที่��เที่เลอรู้ สนใจกี่ารู้บรู้�หารู้ในรู้ะด$บโรู้งงาน (Shop Level) ฟาโยล ตรู้วจสอบองค กี่ารู้

จากี่บนลงล'าง และเสนอหน�าที่��ที่างกี่ารู้จ$ดกี่ารู้ที่��สามารู้ถึใช�ได�เป2นสากี่ลส,าหรู้$บองค กี่ารู้ที่)กี่ปรู้ะเภที่

หน�าที่��ที่างกี่ารู้จ$ดกี่ารู้ปรู้ะกี่อบด�วยหน�าที่��ส,าค$ญ 5 ปรู้ะกี่ารู้ ได�แกี่' 1. กี่ารู้วางแผน(Planning) 2. กี่ารู้จ$ดกี่ารู้องค กี่ารู้ (Organizing)

3 . กี่ารู้บ$งค$บบ$ญชา (Commanding) 4 . กี่ารู้ปรู้ะสานงาน (Coordinating)

5 .กี่ารู้ควบค)ม (Controlling)

Page 45: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

ฟาโยล ย$งได�เสนอหล$กี่ที่$�วไปข้องกี่ารู้จ$ดกี่ารู้ (General Principles

of Management) 14 ข้�อ ส,าหรู้$บกี่ารู้จ$ดกี่ารู้ที่��ม�ปรู้ะส�ที่ธิ�ผล ได�แกี่'

1. กี่ารู้แบ'งงานกี่$นที่,า (Division of Work) 2. ม�อ,านาจหน�าที่��และความรู้$บผ�ดชอบ (Authority and

Responsibility) 3. ว�น$ย (Discipline)4 . เอกี่ภาพในกี่ารู้บ$งค$บบ$ญชา (Unity of Command)5 . เอกี่ภาพในกี่ารู้กี่,าหนดที่�ศที่างภารู้กี่�จ (Unity of Direction)6. ผลปรู้ะโยชน ส'วนต$วม�ความส,าค$ญเป2นรู้องผลปรู้ะโยชน ส'วนรู้วม

(Subordination of Individual to the General Interest)

Page 46: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

7. ค'าตอบแที่นและว�ธิ�กี่ารู้จ'ายค'าตอบแที่น (Remuneration and

Methods)8. กี่ารู้รู้วมอ,านาจ (Centralization)9. สายกี่ารู้บ$งค$บบ$ญชาตามล,าด$บช$0น

(Scalar Chain)10. ค,าส$�งที่��เป2นรู้ะเบ�ยบ (Order)11. หล$กี่ความเสมอภาค (Equity)12 . ความม$�นคงในงาน (Stability of

Tenure)13 . ความค�ดรู้�เรู้��ม (Initiative)

14. ความสาม$คค� (Esprit de Corps)

Page 47: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

ผลงานข้องฟาโยล เป2นที่��ยอมรู้$บกี่$นอย'างแพรู้'หลายและที่,าให�เข้าได�รู้$บยกี่ย'องเป2นบ�ดาข้องแนวค�ดกี่ารู้จ$ดกี่ารู้เช�งบรู้�หารู้ (The

AdministrativeManagement)

2. แมกี่ซ เวเบอรู้ (Max Weber) และที่ฤษฎี�รู้ะบบรู้าชกี่ารู้ แมกี่ซ เวเบอรู้ (Max Weber ค.ศ.1864-1920) เป2นน$กี่ส$งคมว�ที่ยา

ชาวเยอรู้ม$นที่,ากี่ารู้ศ�กี่ษาเกี่��ยวกี่$บโครู้งสรู้�างข้ององค กี่ารู้อย'างเป2นรู้ะบบในตอนต�น

ศตวรู้รู้ษที่�� 20

Page 48: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

จากี่กี่ารู้ศ�กี่ษากี่ารู้ที่,างานภายในองค กี่ารู้และโครู้งสรู้�างข้องส$งคมโดย

ส'วนรู้วมพบว'าองค กี่ารู้ข้นาดใหญ'ที่��ม�มากี่ข้�0นในส$งคม ได�แกี่' องค กี่ารู้ ธิ)รู้กี่�จ

ที่หารู้ รู้$ฐบาล กี่ารู้เม อง ซ��งกี่ารู้ด,าเน�นงานข้ององค กี่ารู้ข้นาดใหญ'แตกี่ต'าง

จากี่องค กี่ารู้ข้นาดเล:กี่เวเบอรู้ ได�เสนอแนวค�ดที่ฤษฎี�รู้ะบบรู้าชกี่ารู้ (Bureaucracy)

กี่ารู้ศ�กี่ษากี่ารู้ที่,างานในโครู้งสรู้�างข้ององค กี่ารู้ เวเบอรู้ พบว'าแห'งที่��มาข้องอ,านาจม� 3 แหล'งค อ

1. อ,านาจที่��เกี่�ดข้�0นจากี่จารู้�ตปรู้ะเพณ� 2.อ,านาจบารู้ม�ที่��เกี่�ดจากี่ล$กี่ษณะพ�เศษส'วนต$วข้องผ��น,า หรู้ อผ��

บรู้�หารู้ 3. อ,านาจตามกี่ฎีหมาย

Page 49: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

เวเบอรู้ ม�ความเห:นว'า อ,านาจที่างกี่ารู้จ$ดกี่ารู้ที่��ได�รู้$บกี่ารู้ยอมรู้$บและม�ความชอบธิรู้รู้ม ค ออ,านาจตามกี่ฎีหมายหรู้ อรู้ะเบ�ยบข้�อบ$งค$บ

ในองค กี่ารู้ ส'วนในด�านที่��เกี่��ยวกี่$บล$กี่ษณะโครู้งสรู้�างที่��เหมาะสมกี่$บ

องค กี่ารู้ข้นาดใหญ' เวเบอรู้ ได�เสนอที่ฤษฎี�รู้ะบบรู้าชกี่ารู้ ซ��งหมายถึ�งล$กี่ษณะด$งต'อไปน�0

1. เป2นกี่ารู้บรู้�หารู้งานที่��ด�ย�ดหล$กี่กี่ารู้จ$ดสายกี่ารู้บ$งค$บบ$ญชาตาม

รู้ะด$บช$0น 2. ม�กี่ารู้แบ'งงานกี่$นที่,าตามกี่ฎีเกี่ณฑ์ 3. กี่ฎีเกี่ณฑ์ ต�องเข้�ยนเป2นลายล$กี่ษณ อ$กี่ษรู้

4. กี่ารู้ปฏ�บ$ต�งานไม'ค,าน�งถึ�งต$วบ)คคล

Page 50: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

5. ผ��ปฏ�บ$ต�งานต�องค,าน�งถึ�งความม�เหต)ผล 6. ผ��ปฏ�บ$ต�งานต�องม�ความม$�นคงในกี่ารู้ที่,างาน 7. ผ��ปฏ�บ$ต�งานต�องปฏ�บ$ต�ตามกี่ฎีเกี่ณฑ์ อย'างเครู้'งรู้$ด 8. ม�กี่ารู้ย�ดหล$กี่ค)ณธิรู้รู้มและความรู้��ที่างเที่คน�คเป2นกี่ฎีเกี่ณฑ์

3 . เชสเตอรู้ บารู้ นารู้ ด (Chester Barnard) กี่$บที่ฤษฎี�รู้ะบบกี่ารู้จ$ดกี่ารู้เชสเตอรู้

บารู้ นารู้ ด (Chester Barnard ค.ศ -18861961. ) เข้�ยนหน$งส อช �อ The Function of

Executive (ค.ศ 1938 ) ซ��งช�0ให�เห:นว'าผ��บรู้�หารู้ม�บที่บาที่ส,าค$ญในกี่ารู้บ�รู้ณากี่ารู้รู้ะบบ

ความรู้'วมม อต'าง ข้องกี่ารู้ต�ดต'อส �อสารู้กี่ารู้จ$ดหา กี่ารู้จ$ดกี่ารู้ที่รู้$พยากี่รู้ และความ

ส$มพ$นธิ รู้ะหว'างบ)คคล เพ �อให�กี่ารู้ด,าเน�นกี่ารู้บรู้รู้ล)ว$ตถึ)ปรู้ะสงค ข้ององค กี่ารู้ที่��กี่,าหนด

ไว� แนวความค�ดข้องบารู้ นารู้ ด เรู้�ยกี่ว'า รู้ะบบกี่ารู้บรู้�หารู้ (Administrative

Systems)

Page 51: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

บารู้ นารู้ ด พ�จารู้ณาว'าองค กี่ารู้เป2นรู้ะบบข้องกี่ารู้รู้'วมม อรู้'วมใจกี่$นที่,างานข้องบ)คคลที่��อย�'ในองค กี่ารู้ บารู้ นารู้ ดเห:นว'า อ,านาจหน�าที่��ข้�0นอย�'กี่$บกี่ารู้ยอมรู้$บข้องผ��ใต�บ$งค$บ

บ$ญชามากี่กี่ว'ากี่ารู้กี่,าหนดหรู้ อส$�งกี่ารู้โดยผ��บรู้�หารู้ฝึGายเด�ยว

4 . ล�นด$ล เออรู้ ว�ค และล�เธิอรู้ กี่�ล�ค (Lyndall Urwick and Luther Gulick) กี่$บ

The Science of Administration ล�นด$ล เออรู้ ว�ค และล�เธิอรู้ กี่�ล�ค (Lyndall Urwick

ค.ศ -. 1891 1983) เป2นน$กี่ที่ฤษฎี�และที่��ปรู้�กี่ษาที่างกี่ารู้จ$ดกี่ารู้ ผ��ปรู้ะสมปรู้ะสานแนวค�ด

กี่ารู้จ$ดกี่ารู้เช�งว�ที่ยาศาสตรู้ และที่ฤษฎี�องค กี่ารู้เข้�าด�วยกี่$นล�เธิอรู้ กี่�ล�ค (Luther Gulick ค.ศ -1892 1970) เป2นคณะที่,างานที่��ปรู้�กี่ษา

ด�านกี่ารู้บรู้�หารู้ข้องปรู้ะธิานาธิ�บด�แฟรู้งคล�น อารู้ รู้�สเวล ช'วงที่ศวรู้รู้ษ 1930

Page 52: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

- เป2นผ��ที่��ม�ความสนใจที่างกี่ารู้เม องและกี่ารู้บรู้�หารู้ภาครู้$ฐ- เออรู้ ว�คและกี่�ล�คได�รู้'วมกี่$นเข้�ยนบที่ความซ��งต�พ�มพ ในป> ค.ศ .

1937 ช �อPapers on the Science of Administration ซ��งรู้วบรู้วมจากี่

บที่ความเกี่��ยวกี่$บที่ฤษฎี�องค กี่ารู้และกี่ารู้บรู้�หารู้ภาครู้$ฐ

กี่�ล�ค ได�จ,าแนกี่หน�าที่��ที่างกี่ารู้บรู้�หารู้ข้องผ��บรู้�หารู้รู้ะด$บส�ง (CEO, Chief

Executive Offices) เป2น 7 ปรู้ะกี่ารู้ ที่��รู้��จ$กี่กี่$นแพรู้'หลายในต$วแบบ POSDCORB ซ��ง

ปรู้ะกี่อบด�วยหน�าที่��ข้องกี่ารู้วางแผน (Planning) กี่ารู้จ$ดองค กี่ารู้ (Organizing) กี่ารู้จ$ด

คนเข้�าที่,างาน (Staffing) กี่ารู้ส$�งกี่ารู้ (Directing) กี่ารู้ปรู้ะสานงาน (Coordinating) กี่ารู้

รู้ายงาน (Reporting) และกี่ารู้ควบค)ม (Controlling)

Page 53: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

เออรู้ ว�ค ม�ความเช �อว'ากี่�จกี่รู้รู้มที่��จ,าเป2นในกี่ารู้ด,าเน�นงานให�

บรู้รู้ล)ว$ตถึ)ปรู้ะสงค ข้ององค กี่ารู้จะต�องถึ�กี่กี่,าหนดโดยกี่ล)'ม แล�วมอบ

หมายให�บ)คคลแต'ละคนรู้$บผ�ดชอบน,าไปปฏ�บ$ต� ไม'อาศ$ยความส$มพ$นธิ

ส'วนบ)คคล ผลงานข้องเออรู้ ว�ค เป2นกี่ารู้ส$งเครู้าะห แนวความค�ดข้อง

ฟาโยล และเวเบอรู้

Page 54: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

หล$กี่กี่ารู้จ$ดกี่ารู้ตามที่ฤษฎี�กี่ารู้จ$ดกี่ารู้หล$กี่กี่ารู้จ$ดกี่ารู้ตามที่ฤษฎี�กี่ารู้จ$ดกี่ารู้แบบคลาสส�กี่แบบคลาสส�กี่

ที่ฤษฎี�กี่ารู้จ$ดกี่ารู้แบบคลาสส�กี่ กี่ารู้จ$ดกี่ารู้แบบว�ที่ยาศาสตรู้ และที่ฤษฎี�องค กี่ารู้

ค อหล$กี่ปรู้ะส�ที่ธิ�ภาพ ผลงานข้องน$กี่ว�ชาในกี่ล)'มน�0ม�ว�ธิ�กี่ารู้ที่��จะให�ได�มาซ��งปรู้ะส�ที่ธิ�ภาพ

ต'างกี่$นไป ด$งน�0 1. กี่ล)'มแนวค�ดกี่ารู้จ$ดกี่ารู้เช�งว�ที่ยาศาสตรู้ เน�นปรู้ะส�ที่ธิ�ภาพกี่ารู้ผล�ตในรู้ะด$บปฏ�บ$ต�กี่ารู้ซ��งได�จากี่กี่ารู้ศ�กี่ษาว�ธิ�กี่ารู้ที่,างานที่��ด�ที่��ส)ด จากี่กี่ารู้ศ�กี่ษาเวลาและกี่ารู้

เคล �อนไหวในกี่ารู้ที่,างาน แล�วน,ามาใช�เป2นหล$กี่ในกี่ารู้ค$ดเล อกี่และฝึFกี่อบรู้มพน$กี่งาน รู้วม

ถึ�งกี่ารู้กี่,าหนดค'าตอบแที่นกี่ารู้ที่,างานเป2นรู้ายช�0นเพ �อจ�งใจให�พน$กี่งานเพ��มปรู้ะส�ที่ธิ�ภาพกี่ารู้

ผล�ตให�ส�งข้�0น

2. กี่ล)'มปรู้ะส�ที่ธิ�ภาพกี่ารู้จ$ดกี่ารู้เช�งรู้ะบบ โดยม)'งเน�นหน�าที่��ข้องผ��บรู้�หารู้ และกี่รู้ะบวนกี่ารู้บรู้�หารู้หล$กี่กี่ารู้ 14 ข้�อข้องอ$งรู้� ฟาโยล เป2นหล$กี่กี่ารู้ที่$�วไปที่��ได�รู้$บ

กี่ารู้ยอมรู้$บกี่$นอย'างกี่ว�างข้วาง

Page 55: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

3. กี่ล)'มแนวค�ดกี่ารู้จ$ดกี่ารู้เช�งที่ฤษฎี�องค กี่ารู้ เน�นปรู้ะส�ที่ธิ�ภาพ

ที่างกี่ารู้บรู้�หารู้ที่��เกี่�ดจากี่กี่ารู้จ$ดโครู้งสรู้�างองค กี่ารู้อย'างเป2นรู้ะบบ หล$กี่

กี่ารู้ที่ฤษฎี�รู้ะบบรู้าชกี่ารู้ เน�นกี่ารู้จ$ดสายกี่ารู้บ$งค$บบ$ญชาที่��ลดหล$�นกี่$น

ตามรู้ะด$บช$0น ข้องกี่ารู้รู้วมอ,านาจ และความเป2นที่างกี่ารู้ แนวค�ดและที่ฤษฎี�กี่ารู้จ$ดกี่ารู้แบบคลาสส�กี่ม�ข้�อจ,ากี่$ดที่��ม)'ง

เน�นกี่ารู้ที่,างานภายใต�สภาพแวดล�อมภายในองค กี่ารู้ที่��ควบค)มได� และกี่รู้ะบวนกี่ารู้ที่,างานแบบเครู้ �องจ$กี่รู้ซ��งให�ความส,าค$ญแกี่'ที่รู้$พยากี่รู้มน)ษย น�อย

Page 56: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

กี่ารู้เจรู้�ญเต�บโตที่,าให�องค กี่ารู้อย�'ภายใต�อ�ที่ธิ�พลข้องสภาพแวด

ล�อมภายนอกี่องค กี่ารู้เพ��มมากี่ข้�0น ปรู้ะกี่อบกี่$บป1ญหาเรู้ �องต�นที่)นแรู้ง

งานที่,าให�กี่ารู้จ�างแรู้งงานและกี่ารู้ฝึFกี่อบรู้มพน$กี่งานม�น�อยลง สภาพ

เหล'าน�0ได�กี่ลายเป2นเง �อนไข้ที่��ที่,าให�เกี่�ดความสนใจในแนวค�ดที่างกี่ารู้

บรู้�หารู้ที่��ม)'งเน�น ความส,าค$ญข้องที่รู้$พยากี่รู้มน)ษย ในองค กี่ารู้เพ��มมากี่

ข้�0น ซ��งเรู้�ยกี่ว'าที่ฤษฎี�กี่ารู้จ$ดกี่ารู้แบบน�โอคลาสส�กี่หรู้ อที่ฤษฎี�กี่ารู้จ$ด

กี่ารู้เช�งพฤต�กี่รู้รู้ม (Behavioral Management)

Page 57: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

แมรู้� ปารู้ คเกี่อรู้ ฟอลเลที่ที่ (Mary Follett ค.ศ -.1 8 6 8 1 9 3 3 )ม�ความ

ค�ดครู้อบคล)มเช �อมโยงที่ฤษฎี�กี่ารู้จ$ดกี่ารู้แบบคลาสส�กี่ และกี่ารู้จ$ดกี่ารู้แบบ

น�โอคลาสส�ค ฟอลเลที่ที่ ได�ใช�ภ�ม�หล$งที่างกี่ารู้ศ�กี่ษาในด�านจ�ตว�ที่ยา

รู้$ฐศาสตรู้ และกี่ารู้ที่,างานในรู้าชกี่ารู้พลเรู้ อน ที่,าความเข้�าใจเกี่��ยวกี่$บ

ปรู้ากี่ฏกี่ารู้ณ ความข้$ดแย�ง กี่ารู้ใช�อ,านาจ และอ,านาจหน�าที่�� กี่ารู้ควบค)ม และความ

รู้'วมม อม�ความเห:นว'ากี่ารู้จ$ดกี่ารู้เช�งว�ที่ยาศาสตรู้ ย$งม�ความจ,าเป2นส,าหรู้$บ

องค กี่ารู้ที่��ไม'สามารู้ถึแสวงหาที่รู้$พยากี่รู้ธิรู้รู้มชาต�ได�อย'างต'อเน �องตลอดไป

Page 58: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

องค กี่ารู้ที่��ม�กี่ารู้แข้'งข้$นส�งข้�0น ม�ความยากี่ล,าบากี่ในกี่ารู้แสวงหา

แรู้งงาน ตลอดจนความรู้$บผ�ดชอบในกี่ารู้ใช�ปรู้ะโยชน จากี่ที่รู้$พยากี่รู้ให�ม�

ปรู้ะส�ที่ธิ�ภาพส�งส)ด กี่ารู้จ$ดกี่ารู้เช�งว�ที่ยาศาสตรู้ ไม'สามารู้ถึแยกี่ข้าดความ

ส$มพ$นธิ ส'วนบ)คคล

แมรู้�� ปารู้ คเกี่อรู้ ได�เข้�ยนบที่ความที่��ช�0ให�เห:นถึ�งความส,าค$ญข้อง

ป1จจ$ยมน)ษย โดยเฉพาะในเรู้ �องกี่ารู้จ�งใจบ)คคล และกี่ล)'มในกี่ารู้เพ��ม

ปรู้ะส�ที่ธิ�ภาพและปรู้ะส�ที่ธิ�ผลกี่ารู้ที่,างานในองค กี่ารู้

Page 59: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

- ในต�นศตวรู้รู้ษที่�� 20 สภาพกี่ารู้เปล��ยนแปลงที่างส$งคมและเศรู้ษฐกี่�จอย'างต'อเน �อง ที่,าให�แนวค�ด และที่ฤษฎี�กี่ารู้บรู้�หารู้คลาสส�กี่ถึ�กี่โต�แย�งและเกี่�ดแรู้งกี่ดด$นให�ห$นมาม)'งสนใจบ)คคลแต'ละคน และ

พฤต�กี่รู้รู้มมน)ษย ในกี่ารู้ที่,างาน ข้ณะที่��แนวค�ดและที่ฤษฎี�กี่ารู้บรู้�หารู้ด$0งเด�มม)'งสนใจ

องค กี่ารู้ โดยส'วนรู้วม และความส$มพ$นธิ รู้ะหว'างผ��บ$งค$บบ$ญชากี่$บผ��ใต�

บ$งค$บ-บ$ญชา แนวค�ดกี่ารู้จ$ดกี่ารู้เช�งพฤต�กี่รู้รู้ม (Behavioral

Management ) ม)'งสนใจล$กี่ษณะและผลกี่รู้ะที่บข้องบ)คคลและกี่ล)'มในกี่ารู้ที่,างานในองค กี่ารู้

Page 60: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

แนวค�ดและที่ฤษฎี�ที่��ส,าค$ญข้องกี่ล)'มน�0 ได�แกี่' ที่ฤษฎี�จ�ตว�ที่ยาอ)ตสาหกี่รู้รู้มข้อง ฮ�วโกี่ ม$นสเตอรู้ เบอรู้ กี่ (Hugo Munsterberg)

และกี่ารู้ที่ดลองที่��เม องฮอรู้ ที่อรู้ น ข้องเอลต$น เมโย (Elton Mayo)

- ฮ�ว โกี่ ม$นสเตอรู้ เบอรู้ กี่ (Hugo Munsterberg) และที่ฤษฎี�

จ�ตว�ที่ยาอ)ตสาหกี่รู้รู้ม ฮ�ว โกี่ ม$นสเตอรู้ เบอรู้ กี่ (Hugo Munsterberg ค.ศ.

- 18631916 เป2นชาวเยอรู้ม$นที่��มาที่,างานเป2นศาสตรู้าจารู้ย ที่างจ�ตว�ที่ยาที่��

มหาว�ที่ยาล$ยฮารู้ วารู้ ด ได�อธิ�บายถึ�งกี่ารู้ที่,าความเข้�าใจจ�ตว�ที่ยาข้องบ)คคล

ซ��งสามารู้ถึน,ามาใช�ในสถึานกี่ารู้ณ ที่างกี่ารู้จ$ดกี่ารู้ ที่,าให�เพ��มปรู้ะส�ที่ธิ�ภาพ

กี่ารู้ที่,างานในอ)ตสาหกี่รู้รู้มส�งข้�0น

Page 61: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

กี่ารู้ปรู้ะย)กี่ต ใช�หล$กี่กี่ารู้ที่างจ�ตว�ที่ยาเป2นจ)ดสนใจที่��ด�ที่��ส)ดรู้'วมกี่$น

รู้ะหว'างผ��บรู้�หารู้และพน$กี่งานเข้าหว$งที่��จะลดเวลาที่,างาน เพ��มค'าจ�างและ

ค)ณภาพช�ว�ตกี่ารู้ที่,างาน- ม$นสเตอรู้ เบอรู้ กี่ ได�รู้$บกี่ารู้ยกี่ย'องเป2นบ�ดาข้องแนวค�ดและ

ที่ฤษฎี�จ�ตว�ที่ยาอ)ตสาหกี่รู้รู้ม (The father of Industrial) งานข้องเข้าได�

ถึ�กี่น,าไปศ�กี่ษาและพ$ฒนาอย'างแพรู้'หลายในช'วงที่ศวรู้รู้ษ 1920 โดย

น$กี่ว�ชากี่ารู้หลายที่'าน และม�อ�ที่ธิ�พลต'องานข้อง Elton Mayo

Page 62: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

2 . เอลต$น เมโย (Elton Mayo) กี่$บกี่ารู้ที่ดลองที่�� ฮอรู้ ที่อรู้ น เอลต$น

เมโย (Elton Mayo ค.ศ -18801949) เป2นศาสตรู้าจารู้ย ที่�� Wharton

School of Business มหาว�ที่ยาล$ยเพนซ�ลวาเน�ย เข้าได�รู้'วมกี่$บคณาจารู้ย อ�กี่ 2 ที่'าน ค อ เอฟ เจ โรู้ที่�ล เบอเกี่อรู้ (F.J

Roethlishberger) และว�ลเล�ยม เจ ด�คส$น (William J Dickson) แห'ง

มหาว�ที่ยาล$ยฮาวารู้ ดที่��โรู้งงานเวสเที่�รู้ น อ�เลคที่ล�ค ในเม องฮอรู้ ที่อรู้ นรู้$ฐซ�คาโกี่

กี่ารู้ที่ดลองที่��เม องฮอรู้ ที่อรู้ น ศ�กี่ษาถึ�งผลกี่รู้ะที่บที่างสภาพแวดล�อม

กี่ารู้ที่,างานที่��เปล��ยนแปลงต'อปรู้ะส�ที่ธิ�ภาพกี่ารู้ผล�ตข้องพน$กี่งาน

Page 63: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

กี่ารู้ศ�กี่ษาถึ�งผลกี่รู้ะที่บที่างสภาพแวดล�อมกี่ารู้ที่,างานที่��เปล��ยนแปลงต'อ

ปรู้ะส�ที่ธิ�ภาพกี่ารู้ผล�ตข้องพน$กี่งานได�ศ�กี่ษาถึ�งผลกี่รู้ะที่บข้องแสงสว'างในห�อง

ที่ดลองที่��ม�ต'อผลผล�ตข้องพน$กี่งานหญ�ง ซ��งที่,างานปรู้ะกี่อบอ)ปกี่รู้ณ โที่รู้ศ$พที่

เปรู้�ยบเที่�ยบรู้ะหว'างกี่ล)'มที่ดลองและกี่ล)'มควบค)ม พบว'าเม �อแสงสว'างเพ��มข้�0น

ผลผล�ตข้องพน$กี่งานหญ�งที่$0งสองกี่ล)'มเพ��มข้�0น เม �อที่ดลองลดรู้ะด$บแสงสว'าง กี่ล$บพบว'าผลผล�ตข้องพน$กี่งาน

หญ�งที่$0งสองกี่ล)'มกี่:ย$งคงเพ��มข้�0นอย'างน'าปรู้ะหลาดใจ พบว'า ผลผล�ตด$งกี่ล'าว

ย$งคงไม'ลดลงแม�ว'าแสงสว'างจะม�เพ�ยงรู้ะด$บแสงจ$นที่รู้ เที่'าน$0น

Page 64: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

น$กี่ว�จ$ยได�ที่ดลองป1จจ$ยสภาพแวดล�อมอ �นๆ ด�วยแต'กี่:ให�ผลที่,านองเด�ยวกี่$น ค อไม'อาจสรู้)ปถึ�งผลกี่รู้ะที่บข้องกี่ารู้เปล��ยนแปลงสภาพแวดล�อมกี่ารู้ที่,างานต'อปรู้ะส�ที่ธิ�ภาพกี่ารู้ผล�ตข้องพน$กี่งานได�

เมโย พบว'าม�ข้�อส$งเกี่ตบางปรู้ะกี่ารู้จากี่กี่ารู้ที่ดลองน�0 จ�งรู้'วมกี่$บน$กี่ว�จ$ยอ�กี่ 2 ที่'านด$งกี่ล'าว ที่,ากี่ารู้ที่ดลองช'วงป> ค.ศ - .1927 1193 เข้าได�ที่,ากี่ารู้ที่ดลอง

เกี่��ยวกี่$บรู้ะบบกี่ารู้จ'ายค'าตอบแที่น กี่ารู้บ$งค$บบ$ญชาและองค ปรู้ะกี่อบอ �น โดยควบค)มองค ปรู้ะกี่อบเหล'าน�0และน,ามาใช�กี่$บพน$กี่งานหญ�งกี่ล)'มที่ดลอง 5 คนในห�องที่ดสอบ (Test Room Study ) ภายใต�สภาพแวดล�อมที่��ควบค)ม พน$กี่งานหญ�งกี่ล)'มน�0จะ

ต�องที่,างานซ��งม�กี่ารู้ควบค)มโดยกี่ารู้ว$ดผลงานที่��ผล�ตได�ที่)กี่ครู้��งช$�วโมง พบว'าผลผล�ตเพ��มข้�0น โดยไม'ม�ความส$มพ$นธิ อย'างช$ดเจนกี่$บสภาพแวดล�อมที่างกี่ายภาพ

Page 65: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

แต'กี่$บพบว'าม�ป1จจ$ยอ �นที่��เข้�ามาเกี่��ยวข้�อง และอธิ�บายความส$มพ$นธิ กี่$บผลผล�ตได�ค อ กี่ารู้เปล��ยนแปลงช'วงเวลาพ$กี่ผ'อนกี่ารู้ที่,างานต'อว$นที่��ส$0นลง กี่ารู้ให�บรู้�กี่ารู้อาหารู้กี่ลางว$นและเครู้ �องด �มป1จจ$ยที่างส$งคมเหล'าน�0ส'งผลกี่รู้ะที่บต'อปรู้ะส�ที่ธิ�ภาพกี่ารู้ที่,างานที่��เพ��มข้�0นข้องพน$กี่งาน น$กี่ว�จ$ยเรู้�ยกี่กี่ารู้ค�นพบน�0ว'า Hawthrone Effect

แนวค�ดและกี่ารู้ที่ดลองที่��ฮอรู้ ที่อรู้ นน�0 น,าไปส�'กี่ารู้ใช�กี่ารู้จ$ดกี่ารู้เช�ง

พฤต�กี่รู้รู้ม ผ��บรู้�หารู้ที่��ปรู้ะสบความส,าเรู้:จ ต�องค,าน�งถึ�งความส,าค$ญข้องป1จจ$ยมน)ษย พฤต�กี่รู้รู้มกี่ารู้ที่,างานข้องมน)ษย เป2นส��งที่��ที่,าให�องค กี่ารู้ปรู้ะสบความส,าเรู้:จได�

Page 66: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

กี่ล)'มแนวค�ดและที่ฤษฎี�กี่ารู้จ$ดกี่ารู้เช�งกี่ล)'มแนวค�ดและที่ฤษฎี�กี่ารู้จ$ดกี่ารู้เช�งมน)ษย ส$มพ$นธิ ในองค กี่ารู้มน)ษย ส$มพ$นธิ ในองค กี่ารู้

ผลจากี่กี่ารู้ที่ดลองที่��เม องฮอรู้ ที่อรู้ นข้อง เมโยและคณะ ที่,าให�

แนวค�ด กี่ารู้จ$ดกี่ารู้ห$นมาม)'งเน�นป1จจ$ยมน)ษย ในกี่ารู้เพ��มปรู้ะส�ที่ธิ�ภาพ

ข้ององค กี่ารู้มากี่ข้�0น โดยพยายามที่��จะพ�จารู้ณาให�เกี่�ดความพ�งพอใจใน

กี่ารู้ที่,างานข้องพน$กี่งาน ควบค�'ไปกี่$บกี่ารู้บรู้รู้ล)ว$ตถึ)ปรู้ะสงค ข้อง

องค กี่ารู้ แนวค�ดด$งกี่ล'าวได�ที่,าให�เกี่�ดกี่ารู้เคล �อนไหวส�'แนวค�ดกี่ารู้ให�

ความส,าค$ญ กี่$บที่$กี่ษะที่างมน)ษย เพ��มเต�มจากี่ที่$กี่ษะที่างเที่คน�ค

Page 67: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

- อ$บรู้าฮ$ม เอช มาสโลว (Abraham H. Maslow )กี่$บที่ฤษฎี�ล,าด$บข้$0นข้อง

ความต�องกี่ารู้ อ$บรู้าฮ$ม เอช มาสโลว (Abraham H. Maslow ค.ศ - .1 9 0 8 1 9 7 0 ) ได�เสนอ

ที่ฤษฎี�เกี่��ยวกี่$บล,าด$บข้$0นความต�องกี่ารู้ข้องมน)ษย (Hierarchy of Needs Theory)

สารู้ะส,าค$ญข้องที่ฤษฎี�น$0นสรู้)ปได�ว'า มน)ษย เป2นส$ตว ที่��ม�ความต�องกี่ารู้ไม'ส�0นส)ด มาส โลว ได�แบ'งล,าด$บความต�องกี่ารู้ข้องมน)ษย เป2น 5 ข้$0น ต$0งแต'เรู้��ม

ต�นจนส�งส)ด ด$งน�0

1. ความต�องกี่ารู้ที่างกี่ายภาพ (Physiological Needs) เป2นความต�องกี่ารู้

ข้$0นพ 0นฐานที่��ด,าเน�นส,าหรู้$บกี่ารู้ด,ารู้งช�ว�ตมน)ษย 2. ความต�องกี่ารู้ความปลอดภ$ย (Safety Needs)

3 . ความต�องกี่ารู้ด�านส$งคม (Social Needs) 4. ความต�องกี่ารู้ยกี่ย'อง (Esteem Needs) 5. ความต�องกี่ารู้ปรู้ะสบความส,าเรู้:จในช�ว�ต (Self-Actualization

Needs)

Page 68: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

ผ��บรู้�หารู้ต�องค,าน�งถึ�งความต�องกี่ารู้ข้องมน)ษย เหล'าน�0 และต�อง

บรู้�หารู้จ$ดกี่ารู้ให�ม�กี่ารู้ตอบสนองความต�องกี่ารู้ข้องพน$กี่งานอย'าง

เหมาะสม จ�งจะที่,าให�พน$กี่งานม�ความพ�งพอใจในกี่ารู้ที่,างานและที่,าให�

องค กี่ารู้บรู้รู้ล)ว$ตถึ)ปรู้ะสงค ที่��กี่,าหนดไว�

Page 69: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

ด$กี่ลาส เอ:ม แมคเกี่รู้เกี่อรู้ (Douglas M. McGregor ) กี่$บที่ฤษฎี� X และ Y

ด$กี่ลาส เอ:ม แมคเกี่รู้เกี่อรู้ (Douglas M. McGregor ค.ศ - .1906 1964) ได�

ที่,ากี่ารู้ศ�กี่ษาหาแนวปฎี�บ$ต�ที่างกี่ารู้บรู้�หารู้โดยม)'งสนใจที่$ศนะที่างส$งคมศาตรู้

แมคเกี่รู้เกี่อรู้ ได�พ$ฒนาที่ฤษฎี�ที่ฤษฎี� X และที่ฤษฎี� Y เพ �ออธิ�บาย ล$กี่ษณะธิรู้รู้มชาต�

ข้องพน$กี่งาน 2 แบบที่��แตกี่ต'างกี่$นคนละข้$0ว โดยที่ฤษฎี� X เป2นแนวค�ดกี่ารู้บรู้�หารู้

แบบด$0งเด�ม มองว'าพน$กี่งานเกี่�ยจครู้�าน ไม'กี่รู้ะต อรู้ อรู้�น และพยายามหล�กี่เล��ยงงาน

Page 70: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

กี่ารู้บรู้�หารู้พน$กี่งานปรู้ะเภที่น�0ต�องอาศ$ยกี่ารู้ควบค)มที่��เค'รู้งครู้$ดที่ฤษฎี� Y เป2นแนวค�ดกี่ารู้บรู้�หารู้ที่��มองว'าพน$กี่งานม�ความรู้$บผ�ด

ชอบ และม�ความค�ดรู้�เรู้��มในกี่ารู้แกี่�ป1ญหากี่ารู้ที่,างาน ชอบที่,างาน ไม'

เบ �อหน'าย กี่ารู้บรู้�หารู้พน$กี่งานปรู้ะเภที่น�0ไม'ต�องกี่ารู้ควบค)ม หากี่แต'

ต�องเปCดโอกี่าสให�พน$กี่งานได�รู้$บมอบหมายให�ไปที่,าที่ฤษฎี� Y ข้องแมคเกี่รู้เกี่อรู้ น�0 สอดคล�องกี่$บความต�องกี่ารู้ในล,าด$บข้$0น ความ

ต�องกี่ารู้ปรู้ะสบความส,าเรู้:จในช�ว�ต (Self- Actualization

Needs)ข้อง มาสโลว

Page 71: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

ที่ฤษฎี�พฤต�กี่รู้รู้มองค กี่ารู้ที่��ส,าค$ญได�แกี่' ที่ฤษฎี�กี่ารู้พ$ฒนาองค กี่ารู้ข้อง

เค�รู้ที่ เล ว�น (Kurt Lewin ) กี่$บกี่ารู้พ$ฒนาองค กี่ารู้ ได�พ$ฒนาองค กี่ารู้จากี่กี่ารู้ศ�กี่ษา

กี่ล)'มที่,างานข้นาดเล:กี่ ที่,าให�ที่รู้าบถึ�งผลด�ข้องกี่ารู้เข้�าไปม�ส'วนรู้'วม กี่ล)'มและกี่ารู้เพ��ม

ปฏ�ส$มพ$นธิ รู้ะหว'างสมาช�กี่ข้องกี่ล)'ม เลว�น พบว'า กี่ารู้แกี่�ป1ญหาข้องกี่ล)'มโดยความรู้'วมม อข้องพน$กี่งาน

ที่$0งหมด ในกี่ล)'มและให�ที่)กี่คนม�โอกี่าสแสดงความค�ดเห:นอย'างม�อ�สรู้ะและกี่ารู้แกี่� ป1ญหาม�รู้ากี่ฐานอย�'บนความไว�ใจซ��งกี่$นและกี่$นน,าไปส�'กี่ารู้เปล��ยนแปลงที่��ด� ในองค กี่ารู้และม�ผลไปส�'กี่ารู้พ$ฒนาองค กี่ารู้(Organization

Development)

Page 72: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

รู้�ปแบบในกี่ารู้พ$ฒนาองค กี่ารู้ตามกี่ารู้ค�นพบข้อง เล ว�น แบ'งเป2น 3 ข้$0น ได�แกี่'

1. กี่ารู้คลายต$ว หมายถึ�ง ข้$0นกี่ารู้เตรู้�ยมกี่ารู้ให�องค กี่ารู้ม�ความพรู้�อมส,าหรู้$บ

กี่ารู้เปล��ยนแปลงหรู้ อเห:นได�ช$ดแล�วว'าม�ป1ญหาเกี่�ดข้�0นที่��ที่,าให�กี่ารู้เปล��ยนแปลงเป2นส��งที่��

หล�กี่เล��ยงไม'ได� 2 . กี่ารู้เปล��ยนแปลง หมายถึ�ง กี่ารู้เปล��ยนจากี่พฤต�กี่รู้รู้มเกี่'าไปส�'

พฤต�กี่รู้รู้มใหม'ที่��ได�เล อกี่แล�วและเช �อว'าจะช'วยให�ม�กี่ารู้แกี่�ป1ญหาข้ององค กี่ารู้ได�

3.กี่ารู้กี่ล$บคงต$วอย'างเด�ม หมายถึ�ง กี่ารู้พยายามเสรู้�มกี่�จกี่รู้รู้มต'างๆ เพ �อ

หล'อหลอมให�พฤต�กี่รู้รู้มใหม'ม�ความม$�นคงถึาวรู้ และเข้�ากี่$นได�กี่$บรู้ะบบพฤต�กี่รู้รู้มข้อง

องค กี่ารู้ รู้�ปแบบกี่ารู้พ$ฒนาองค กี่ารู้ตามแนวค�ดข้อง เล ว�น สามารู้ถึน,าไปปรู้ะย)กี่ต ใช�กี่$บองค กี่ารู้ที่)กี่ปรู้ะเภที่และกี่ารู้พ$ฒนาองค กี่ารู้เป2นเรู้ �องจ,าเป2นส,าหรู้$บกี่ารู้อย�'รู้อด

ข้ององค กี่ารู้ในสภาพแวดล�อมที่��เปล��ยนแปลงไป

Page 73: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

เฟรู้ด เดอ รู้�ด เฮอรู้ ซเบอรู้ กี่ (Frederick Herzberg ) กี่$บที่ฤษฎี�กี่ารู้

จ�งใจ เป2นน$กี่พฤต�กี่รู้รู้มศาสตรู้ ที่��พ$ฒนาที่ฤษฎี�กี่ารู้จ�งใจในกี่ารู้ที่,างาน

จ)ดม)'งหมายในกี่ารู้ศ�กี่ษาข้อง เฮอรู้ ซเบอรู้ กี่ ค อปรู้ะโยชน ในที่าง

อ)ตสาหกี่รู้รู้ม โดยกี่ารู้ศ�กี่ษาที่$ศนคต�เกี่��ยวกี่$บงานเพ �อให�ม�กี่ารู้เพ��มผลผล�ต

ลดกี่ารู้ข้าดงาน และสรู้�างความส$มพ$นธิ ที่��ด�ในกี่ารู้ที่,างาน และเพ �อปรู้ะโยชน โดยที่$�วไปส,าหรู้$บที่)กี่คน ความเข้�าใจเกี่��ยวกี่$บอ�ที่ธิ�พลต'างๆม�ส'วนช'วยในกี่ารู้

ปรู้$บปรู้)งข้ว$ญกี่,าล$งใจในกี่ารู้ที่,างานที่,าให�เกี่�ดความพ�งพอใจในงาน

Page 74: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

เฮอรู้ ซ เบอรู้ กี่ได�จ,าแนกี่ป1จจ$ยที่��ม�ผลกี่รู้ะที่บต'อกี่ารู้ที่,างานเป2น 2กี่ล)'มค อ

1. ป5จจ-ยจ�งใจ (Motivation Factors) หมายถึ�งป1จจ$ยที่��ที่,าให�เกี่�ดความ

พ�งพอใจในกี่ารู้ที่,างาน ได�แกี่' ความส,าเรู้:จ กี่ารู้ยอมรู้$บ ความรู้$บผ�ดชอบ ความ

กี่�าวหน�า และล$กี่ษณะที่��ด�ข้องงาน 2. ป1จจ$ยบ,ารู้)งรู้$กี่ษา (Hygiene of Maintenance) หมายถึ�ง

ป1จจ$ยที่��เกี่��ยวข้�องกี่$บล$กี่ษณะข้องกี่ารู้ที่,างาน เช'น ความส$มพ$นธิ รู้ะหว'างผ��บรู้�หารู้กี่$บ

พน$กี่งาน ความส$มพ$นธิ กี่$บเพ �อนรู้'วมงาน นโยบายกี่ารู้บรู้�หารู้ เที่คน�คกี่ารู้บ$งค$บ

บ$ญชาความม$�นคงในงาน และสภาพกี่ารู้ที่,างาน

Page 75: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

เฮอรู้ ซ เบอรู้ กี่ ได�พยายามแกี่�ไข้ป1ญหากี่ารู้จ�งใจโดยว�ธิ�กี่ารู้เพ��ม

ค)ณค'าข้องงานให�ส�งข้�0นเรู้�ยกี่ว'า Job Enrichment ซ��งม�ผลต'อกี่ารู้จ�งใจ

มากี่ข้�0นว�ธิ�กี่ารู้เพ��มค)ณค'าข้องงาน ได�แกี่' กี่ารู้ออกี่แบบให�งานม�อ�สรู้ะ

มากี่ข้�0น ม�ความรู้$บผ�ดชอบส�งข้�0น ม�ความกี่�าวหน�ามากี่ข้�0น และม�ความ

ส,าเรู้:จในงานมากี่ข้�0น

ว�ธิ�เพ��มค)ณค'าข้องงานแตกี่ต'างจากี่กี่ารู้ข้ยายงาน ( JobEnrichment ) ที่��ม�กี่ารู้เพ��มล$กี่ษณะเน 0อหาข้องงาน แต'ค'าข้องงาน

ย$งคงเด�มจ�งไม'สามารู้ถึจ�งใจได� แต'กี่:สามารู้ถึช'วยลดความน'าเบ �อหน'ายข้องงาน

ได�

Page 76: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

อ� แอนที่รู้�ส และ เค แบมฟรู้อ ที่ (E. L. Trist and K. W. Bamforth)กี่$บที่ฤษฎี�พล$งข้องกี่ล)'ม ได�ที่,ากี่ารู้ศ�กี่ษากี่ารู้ที่,างานข้องคนในกี่ล)'มข้นาดเล:กี่ในเหม องถึ'านห�นซ��งเด�มม�รู้ะบบกี่ารู้ที่,างานที่��ห$วหน�าสามารู้ถึเล อกี่ล�กี่น�องเอง เล อกี่คนที่��รู้��จ$กี่เข้�ามาที่,างานด�วยกี่$น กี่ารู้ที่,างานม�บรู้รู้ยากี่าศที่��จ�งใจให�ผลผล�ตส�งไม'ค'อยม�กี่ารู้ข้าดงาน แม�ว'าเที่คน�คกี่ารู้ที่,างานย$งไม'ที่$นสม$ย กี่ารู้ที่,างานม�ล$กี่ษณะช'วยกี่$นอย'างใกี่ล�ช�ด ไม'ได�แบ'งงานกี่$นที่,าตามความถึน$ดจ�งต�องพ�งพากี่$นตลอดเวลา กี่ารู้ศ�กี่ษาข้อง ที่รู้�ส และแบมฟรู้อ ที่ สรู้)ปได�ว'า องค ปรู้ะกี่อบที่างส$งคมม�ผลกี่รู้ะที่บอย'างล�กี่ซ�0งต'อข้ว$ญและกี่,าล$งใจข้องพน$กี่งาน และต�องพ�จารู้ณาว'าพล$งอ$นส,าค$ญใน

องค กี่ารู้พล$งข้องกี่ล)'มไม'เป2นที่างกี่ารู้ซ��งม�ล$กี่ษณะแนวที่างปฏ�บ$ต�ภายใต�กี่ล)'มข้องตนเองอาจไม'สอดคล�องกี่$บรู้ะเบ�ยบข้�อบ$งค$บข้ององค กี่ารู้ ผ��บรู้�หารู้ต�องค,าน�งถึ�งพล$งข้องกี่ล)'มในองค กี่ารู้ พยายามที่��จะที่,าให�พล$งข้องกี่ล)'มส'งเสรู้�มความม�ปรู้ะส�ที่ธิ�ผลข้ององค กี่ารู้ด�วย

Page 77: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

แนวค�ดและที่ฤษฎี�กี่ารู้จ$ดกี่ารู้แบบน�โคคลาสส�กี่ เป2นแนวค�ดและที่ฤษฎี�ที่��ม�จ)ดเน�นต'างจากี่แบบคลาสส�กี่ที่��เน�นเรู้ �องงาน มาส�'แนวค�ดที่��เน�นเรู้ �องคน โดยสามารู้ถึแบ'งได�เป2น 3 สาข้าย'อย ค อ พฤต�กี่รู้รู้ม มน)ษย

ส$มพ$นธิ ในองค กี่ารู้ และพฤต�กี่รู้รู้มองค กี่ารู้ ซ��งหล$กี่กี่ารู้จ$ดกี่ารู้ตามที่ฤษฎี�กี่ารู้

จ$ดกี่ารู้แบบน�โคคลาสส�กี่ ค อกี่ารู้เพ��มผล�ตภาพข้ององค กี่ารู้ โดยใช�ป1จจ$ยด�านที่รู้$พยากี่รู้มน)ษย ในองค กี่ารู้ น$กี่ว�จ$ยได�พยายามศ�กี่ษาค�นคว�าหาความส$มพ$นธิ ที่าง

พฤต�กี่รู้รู้มมน)ษย ในองค กี่ารู้โดยใช�หล$กี่ความรู้��ที่างว�ที่ยาศาสตรู้ (Scientific Knowledge ) หล$กี่จ�ตว�ที่ยา (Psychology) ส$งคมว�ที่ยา

(Sociology) และมน)ษย ว�ที่ยา (Anthropology ) เพ �อช'วยให�กี่ารู้บรู้�หารู้ม�ปรู้ะส�ที่ธิ�ผล

ย��งข้�0น

Page 78: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

แนวค�ดและที่ฤษฎี�พฤต�กี่รู้รู้มศาสตรู้ (Behavioral Science )เป2นกี่ล)'มแนวค�ด

ที่��เน�นกี่ารู้ใช�กี่ารู้ว�จ$ยที่างว�ที่ยาศาสตรู้ เกี่��ยวกี่$บพฤต�กี่รู้รู้มมน)ษย ในองค กี่ารู้ เพ �อเป2น

แนวปฏ�บ$ต�ในกี่ารู้เพ��มผล�ตภาพข้ององค กี่ารู้แนวค�ดและที่ฤษฎี�ในกี่ล)'มน�0พยายามหลอม รู้วมสหว�ที่ยากี่ารู้หลายๆ

ด�านเข้�าด�วยกี่$น เพ �อที่,าความเข้�าใจพฤต�กี่รู้รู้มมน)ษย ในองค กี่ารู้พบว'า กี่ารู้ศ�กี่ษา

พฤต�กี่รู้รู้มมน)ษย ไม'เหม อนกี่$บกี่ารู้ศ�กี่ษาที่างฟCส�กี่ส หรู้ อเคม�

แนวค�ดและที่ฤษฎี�พฤต�กี่รู้รู้มศาสตรู้ ที่,าให�เกี่�ดกี่ารู้ศ�กี่ษาพฤต�กี่รู้รู้มองค กี่ารู้

(Organization Behavior )ซ��งเป2นกี่ารู้ศ�กี่ษาถึ�งผลกี่รู้ะที่บที่��องค กี่ารู้ม�ต'อพน$กี่งาน

และผลกี่รู้ะที่บข้องพน$กี่งานและกี่ล)'มที่��ม�ต'อองค กี่ารู้

Page 79: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

แนวค ด้และที่ฤษ์ฎ�การจ-ด้การเช่ งปร มาณ์ เป>นการน,าคณ์ ตศึาสตร� สถู ต และสารสนเที่ศึมาใช่�ในการแก�ป5ญ่ห้าเพ&+อให้�การจ-ด้การม�ประส ที่ธี ภาพและ ประส ที่ธี ผู้ลเพ +มข/0น การจ-ด้การเช่ งปร มาณ์ประกอบด้�วยแนวค ด้ที่ฤษ์ฎ� 3 กล%$มย$อย ค&อศึาสตร�

ที่างการจ-ด้การ การจ-ด้การการด้,าเน นงาน และระบบสารสนเที่ศึที่างการจ-ด้การ ห้ล-กการจ-ด้การเช่ งปร มาณ์ เป>นการน,าต-วแบบที่างคณ์ ตศึาสตร� และสถู ต มาใช่�ต-ด้ส นที่างธี%รก จ เพ&+อให้�ได้�ผู้ลล-พธี�ที่�+ด้�ที่�+ส%ด้ห้ร&อเห้มาะสมที่�+ส%ด้ตามแต$สถูานการณ์�

กล%$มแนวค ด้และที่ฤษ์ฎ�ศึาสตร�ที่างการจ-ด้การเช่ งปร มาณ์ เก ด้ข/0นในช่$วงปลาย

ที่ศึวรรษ์ 1930 โด้ยอ-ล เฟรด้ พ� สโลน (Alfred P Sloan ) และโร เบ อร�ที่ อ� ว�ด้ (Robort

E.Wood ) แห้$งบร ษ์-ที่เซิ�ยร�โร บ-ค (Sears Roebuck ) ที่-0งสองได้�เสนอแนวปฏิ บ-ต ที่างการ

จ-ด้การซิ/+งอาศึ-ยห้ล-กการที่�+แน$นอนเช่ งปร มาณ์

Page 80: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

กี่ารู้จ$ดกี่ารู้เช�งปรู้�มาณ (Quantitative Management ) ค อแนวที่างกี่ารู้น,า

คณ�ตศาสตรู้ สถึ�ต� และสารู้สนเที่ศมาใช�ในกี่ารู้ต$ดส�นใจแกี่�ป1ญหาต'างๆ ที่างกี่ารู้บรู้�หารู้ กี่ารู้จ$ดกี่ารู้เช�งปรู้�มาณย$งได�ใช�หล$กี่เกี่ณฑ์ ที่��หลากี่หลายที่างคณ�ตศาสตรู้ สถึ�ต�ศาสตรู้ และสารู้สนเที่ศ มาใช�ในกี่ารู้แกี่�ป1ญหาหลายแง'หลายม)มซ��งที่,าให�กี่ารู้ต$ดส�นใจสามารู้ถึที่,าได�อย'างรู้วดเรู้:ว ถึ�กี่ต�องและแม'นย,า

กี่ารู้จ$ดกี่ารู้เช�งปรู้�มาณ (Quantitative Management )ปรู้ะกี่อบด�วย

แนวค�ดและที่ฤษฎี� 3 กี่ล)'มย'อย ค อ ศาสตรู้ ที่างกี่ารู้จ$ดกี่ารู้ (Management Science)

กี่ารู้จ$ดกี่ารู้ด,าเน�นงาน (Operations Management ) และระบบสารสนเที่ศึ

ที่างการจ-ด้การ (Management Information System)

Page 81: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

1. แนวค�ดและที่ฤษฎี�ข้องศาสตรู้ กี่ารู้จ$ดกี่ารู้ ศาสตรู้ กี่ารู้จ$ดกี่ารู้ (Management Science ) เป2น

แนวค�ดกี่ารู้จ$ดกี่ารู้เช�งปรู้�มาณซ��งปรู้ะย)กี่ต ใช�ต$วแบบที่างคณ�ตศาสตรู้ มาใช�ในกี่ารู้ต$ดส�นใจ

ที่างกี่ารู้ จ$ดกี่ารู้ ที่ฤษฎี�และต$วแบบข้องศาสตรู้ ที่างกี่ารู้จ$ดกี่ารู้ที่��น�ยมใช�ในกี่ารู้

บรู้�หารู้ ธิ)รู้กี่�จ ได�แกี่' 1 . ที่ฤษฎี�ความน'าจะเป2น (Probability

Theory) 2. ที่ฤษฎี�กี่ารู้ต$ดส�นใจภายใต�สภาพกี่ารู้ณ ต'างๆ ได�แกี่' สภาวะ

กี่ารู้ณ แน'นอน เส��ยง และไม'แน'นอน รู้วมถึ�งแข้นงกี่ารู้ต$ดส�นใจ

Page 82: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

3 . กี่ารู้โปรู้แกี่รู้มเช�งเส�นตรู้ง ( Liner Programming) 31 ว�ธิ�กี่ารู้ฟ (Graphical Programming) 32 ว�ธิ� ซ�ม เพล:กี่ช (Simplex Method) 33. ต$วแบบ ด�อ$ลและกี่ารู้ว�เครู้าะห กี่ารู้ไว (Dual

Model and Sensitivity Analysis) 4 . ต$วแบบกี่ารู้ข้นส'ง (Transportation

Model)5. PERT/CPM (Program Evaluation and Review Technique/Critical

Part Method) 6. ต$วแบบส�นค�าคงเหล อ (Inventory Model) 7 . ต$วแบบแถึวคอย (Queuing Model) 8 . ต$วแบบจ,าลองสถึานกี่ารู้ณ (Simulation

Model) 9 . ต$วแบบ มารู้ คอฟ (Markov Model) 10. ที่ฤษฎี�เกี่ม (Games Theory)

Page 83: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

2. แนวค�ดกี่ารู้จ$ดกี่ารู้ด,าเน�นงาน กี่ารู้จ$ดกี่ารู้ด,าเน�นงาน (Operations Management )

เป2นแนวค�ดกี่ารู้จ$ดกี่ารู้ ซ��งม)'งเน�นกี่ารู้ใช�เที่คน�คเช�งปรู้�มาณเพ �อปรู้$บปรู้)งผลผล�ต

และเพ��มปรู้ะส�ที่ธิ�ภาพกี่ารู้ผล�ตส�นค�าหรู้ อบรู้�กี่ารู้ องค กี่ารู้จ,านวนมากี่ โดยเฉพาะโรู้งงาน อ)ตสาหกี่รู้รู้ม หรู้ อผ��ปรู้ะกี่อบกี่ารู้ จะน,าเอาเที่คน�คเช�ง เช'น ต$วแบบกี่ารู้จ$ดกี่ารู้ส�นค�าคง

เหล อ และแบบจ,าลอง ข้'ายงาน PERT/CPM มาใช�ในกี่ารู้ต$ดส�นใจเกี่��ยวกี่$บ

กี่ารู้จ$ดจ,าหน'ายและกี่ารู้ผล�ต เที่คน�คเช�งปรู้�มาณช'วยในกี่ารู้วางแผนและ

ควบค)มกี่ารู้ผล�ต กี่ารู้จ$ดตารู้างกี่ารู้ผล�ตและกี่ารู้ควบค)มค)ณภาพ

Page 84: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

แนวค�ดกี่ารู้จ$ดกี่ารู้ด,าเน�นงาน เป2นแนวค�ดกี่ารู้จ$ดกี่ารู้ที่��ม)'งเน�นกี่ารู้ใช�

เที่คน�คเช�งปรู้�มาณเช'นเด�ยวกี่$บศาสตรู้ กี่ารู้จ$ดกี่ารู้ ( Management Science)

ต'างกี่$นตรู้งที่��กี่ล)'มแนวค�ดกี่ารู้จ$ดกี่ารู้ด,าเน�นงานม�ข้อบเข้ตเน�นที่��กี่ารู้ผล�ต

(Production ) และกี่ารู้ปฏ�บ$ต�กี่ารู้ (Operation ) ในโรู้งงาน อ)ตสาหกี่รู้รู้มและ

สถึานปรู้ะ กี่อบกี่าบกี่ารู้ผล�ต จ)ดม)'งหมายข้องกี่ล)'มแนวค�ดกี่ารู้จ$ดกี่ารู้

ด,าเน�นงานที่��กี่ารู้ เพ��มผลผล�ต (Productivity ) และปรู้ะส�ที่ธิ�ผล (Efficiency )

ในกี่ารู้ผล�ตส�นค�าและกี่ารู้บรู้�กี่ารู้

Page 85: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

กี่รู้ะบวนกี่ารู้จ$ดกี่ารู้กี่ารู้ผล�ต ปรู้ะกี่อบด�วยข้$0นตอนส,าค$ญ 3 ข้$0น ค อ

1. กี่ารู้วางแผนกี่ารู้ผล�ต 2 . กี่ารู้ด,าเน�นกี่ารู้ผล�ต 3. กี่ารู้ควบค)มกี่ารู้ผล�ต

แนวค�ดสารู้สนเที่ศที่างกี่ารู้จ$ดกี่ารู้รู้ะบบสารู้สนเที่ศที่างกี่ารู้จ$ดกี่ารู้ (Management Information System

MIS ) เป2นกี่รู้ะบวนกี่ารู้ในกี่ารู้เกี่:บรู้วบรู้วมข้�อม�ลน,ามาจ$ดรู้ะเบ�ยบ ว�เครู้าะห และแปรู้ความหมายเพ �อน,ามาใช�สน$บสน)นหน�าที่��ที่างกี่ารู้

จ$ดกี่ารู้กี่ารู้ตลาด

Page 86: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

องค ปรู้ะกี่อบข้องรู้ะบบสารู้สนเที่ศที่างกี่ารู้จ$ดกี่ารู้กี่ารู้ตลาด

องค ปรู้ะกี่อบพ 0นฐาน 3 ส'วน ได�แกี่' 1. ส'วนน,าเข้�า (Input)

2. ส'วนปรู้ะมวลผล (Processing) 3. ส'วนน,าออกี่ หรู้ อสารู้สนเที่ศที่��ได� (Output)

แนวค�ดและที่ฤษฎี�กี่ารู้จ$ดกี่ารู้เช�งปรู้�มาณ ปรู้ะกี่อบด�วย ศาสตรู้ กี่ารู้จ$ด

กี่ารู้ กี่ารู้จ$ดกี่ารู้ด,าเน�นงาน และสารู้สนเที่ศที่างกี่ารู้จ$ดกี่ารู้ ซ��งกี่'อให�เกี่�ด

หล$กี่กี่ารู้จ$ดกี่ารู้ที่��ส,าค$ญในแต'ละด�านด$งน�0

Page 87: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

1.ศาสตรู้ กี่ารู้จ$ดกี่ารู้ (Management Science ) ค อแนวกี่ารู้ศ�กี่ษากี่ารู้จ$ดกี่ารู้

ที่��ม)'งเน�นหน�าที่��ข้องผ��บรู้�หารู้ในเรู้ �องกี่ารู้ต$ดส�นใจ โดยใช�หล$กี่เช�งปรู้�มาณในกี่ารู้เล อกี่

ที่างเล อกี่ส,าหรู้$บกี่ารู้วางแผน ศาสตรู้ ที่างกี่ารู้จ$ดกี่ารู้เน�นกี่ารู้ปรู้ะย)กี่ต ต$วแบบที่างคณ�ตศาสตรู้ และสถึ�ต�มาใช�ในกี่ารู้ศ�กี่ษาสภาพกี่ารู้ที่,างาน เพ �อเพ��มปรู้ะส�ที่ธิ�ภาพผลผล�ต 2. แนวค�ดกี่ารู้จ$ดกี่ารู้ด,าเน�นงาน ม)'งเน�นกี่ารู้น,าหล$กี่กี่ารู้ข้องศาสตรู้

ที่างกี่ารู้จ$ดกี่ารู้มาใช�ในกี่ารู้ต$ดส�นใจด�านกี่ารู้จ$ดกี่ารู้ผล�ตและปฏ�บ$ต�กี่ารู้ล$กี่ษณะงานที่างกี่ารู้จ$ดกี่ารู้ที่��ม�สถึานกี่ารู้ณ แน'นอน จ�งสามารู้ถึปรู้ะย)กี่ต ใช�หล$กี่กี่ารู้ข้องศาสตรู้ กี่ารู้

จ$ดกี่ารู้มาต$ดส�นใจเพ �อหาค,าตอบที่��ด�ที่��ส)ดในกี่ารู้วางแผนกี่ารู้ด,าเน�นกี่ารู้ และกี่ารู้ควบค)ม

กี่ารู้ผล�ตและปฏ�บ$ต�กี่ารู้

Page 88: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

3. ส,าหรู้$บหล$กี่กี่ารู้ข้องรู้ะบบสารู้สนเที่ศที่างกี่ารู้จ$ดกี่ารู้ เป2นกี่ารู้

น,าแนวค�ดเช�งรู้ะบบมาใช�ในกี่ารู้จ$ดกี่ารู้ข้�อม�ล ใช�ในกี่ารู้ต$ดส�นใจที่างกี่ารู้

จ$ดกี่ารู้ให�ผ��บรู้�หารู้หรู้ อผ��ที่��เกี่��ยวข้�องสามรู้ถึเล อกี่ที่างเล อกี่ที่��เหมาะสม

ส,าหรู้$บองค กี่ารู้

Page 89: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

แนวค�ดและที่ฤษฎี�กี่ารู้จ$ดกี่ารู้เช�งปรู้�มาณ เป2นกี่ารู้น,าคณ�ตศาสตรู้

สถึ�ต� และสารู้สนเที่ศมาใช�ในกี่ารู้แกี่�ป1ญหาเพ �อให�กี่ารู้จ$ดกี่ารู้ม�ปรู้ะส�ที่ธิ�ภาพ

และปรู้ะส�ที่ธิ�ผลเพ��มข้�0นกี่ารู้จ$ดกี่ารู้เช�งปรู้�มาณปรู้ะกี่อบด�วยแนวค�ดที่ฤษฎี� 3 กี่ล)'ม

ย'อย ค อ ศาสตรู้ ที่างกี่ารู้จ$ดกี่ารู้ กี่ารู้จ$ดกี่ารู้ กี่ารู้ด,าเน�นงาน และรู้ะบบ

สารู้สนเที่ศที่างกี่ารู้จ$ดกี่ารู้ หล$กี่กี่ารู้จ$ดกี่ารู้เช�งปรู้�มาณ เป2นกี่ารู้น,าต$วแบบที่างคณ�ตศาสตรู้ และสถึ�ต�มาใช�ต$ดส�นใจที่างธิ)รู้กี่�จ เพ �อให�ได�ผลล$พธิ ที่��ด�

ที่��ส)ดหรู้ อเหมาะสมที่��ส)ดตามแต'สถึานกี่ารู้ณ

Page 90: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

แนวค�ดและที่ฤษฎี�กี่ารู้จ$ดกี่ารู้รู้'วมสม$ย เป2นกี่ารู้ผสมผสานแนวค�ด

ที่ฤษฎี�แบบ คลาสส�กี่ น�โอคลาสส�กี่ และกี่ารู้จ$ดกี่ารู้เช�งปรู้�มาณเข้�าด�วยกี่$น

ปรู้ะกี่อบด�วย 2 กี่ล)'มค อ กี่ล)'มแนวค�ดและที่ฤษฎี�เช�งรู้ะบบ และแนวค�ด

และที่ฤษฎี�ตามสถึานกี่ารู้ณ แนวค�ดและที่ฤษฎี�กี่ารู้บรู้�หารู้รู้'วมสม$ย

(Contemporary Management) แนวค�ดที่ฤษฎี�ในกี่ล)'มน�0 ได�แกี่' แนวค�ดและ

ที่ฤษฎี�เช�งสถึานกี่ารู้ณ (Contingency Theory)

Page 91: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

แนวค�ดและแนวค�ดและที่ฤษฎี�รู้ะบบที่ฤษฎี�รู้ะบบ

ที่ฤษฎี�รู้ะบบ เป2นแนวค�ดที่างกี่ารู้จ$ดกี่ารู้ที่��พ�จารู้ณาองค กี่ารู้ในฐานะที่��เป2นรู้ะบบ ค,าว'า รู้ะบบหมายถึ�ง องค ปรู้ะกี่อบย'อยช)ดหน��งที่��ม�ปฏ�ส$มพ$นธิ ต'อกี่$นและที่,าหน�าที่��เพ �อบรู้รู้ล)ว$ตถึ)ปรู้ะสงค รู้'วมกี่$น (Common Goals)รู้ะบบองค กี่ารู้ที่)กี่รู้ะบบจะด,าเน�นงานโดยอาศ$ยองค ปรู้ะกี่อบย'อย 4 ส'วน ได�แกี่'

1 . ป1จจ$ยน,าเข้�า (Inputs) หมายถึ�งที่รู้$พยากี่รู้ด�านกี่ายภาพ กี่ารู้เง�น

ที่รู้$พยากี่รู้มน)ษย และสารู้เที่ศซ��งน,ามาใช�เพ �อกี่ารู้ด,าเน�นงานข้ององค กี่ารู้ในกี่ารู้ผล�ตส�นค�าและบรู้�กี่ารู้

Page 92: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

2 . กี่รู้ะบวนกี่ารู้แปรู้สภาพ (Transformation Process) หมายถึ�ง

ว�ธิ�กี่ารู้ที่างกี่ารู้จ$ดกี่ารู้เที่คโนโลย�และกี่ารู้ด,าเน�นกี่ารู้ในกี่ารู้แปรู้สภาพป1จจ$ย

น,าเข้�าให�กี่ลายเป2นป1จจ$ยน,าออกี่ ซ��งได�แกี่' ส�นค�าและบรู้�กี่ารู้ 3. ป1จจ$ยออกี่ (Outputs) หมายถึ�ง ส�นค�าและบรู้�กี่ารู้ที่��เป2นผล

จากี่รู้ะบบกี่ารู้แปลงสภาพกี่,าไรู้หรู้ อข้าดที่)นจากี่กี่ารู้ด,าเน�นงาน

4. ข้�อม�ลป5อนกี่ล$บ (Feedback) หมายถึ�ง ข้�อม�ลข้'าวสารู้หรู้ อสารู้สนเที่ศที่��ม�ต'อป1จจ$ยน,าออกี่ ข้�อม�ลป5อนกี่ล$บจะถึ�กี่น,ามาใช�

ปรู้$บปรู้)งป1จจ$ยน,าเข้�า หรู้ อกี่รู้ะบวนกี่ารู้แปลงสภาพเพ �อที่,าให�ป1จจ$ยน,าออกี่อย�'

ในรู้ะด$บที่��ต�องกี่ารู้และม�ผลส,าเรู้:จ

Page 93: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

รู้ะบบปCดและรู้ะบบรู้ะบบปCดและรู้ะบบเปCดเปCดรู้ะบบปCด (Closed System) องค กี่ารู้จะไม'ม� ปฏ�ส$มพ$นธิ กี่$บส��ง

แวดล�อมภายนอกี่องค กี่ารู้ โดยองค กี่ารู้จะม�ความพอเพ�ยงในตนเอง (Self-

Sufficient) ไม'ต�องพ��งพ�งสภาพแวดล�อมภายนอกี่องค กี่ารู้รู้ะบบเปCด (Open System) หมายถึ�งองค กี่ารู้ที่��ม� ปฏ�ส$มพ$นธิ กี่$บ

ส��งแวดล�อมภายนอกี่องค กี่ารู้ องค กี่ารู้แที่บที่)กี่องค กี่ารู้ต'างเป2นรู้ะบบเปCด

แนวค�ดรู้ะบบเปCดเป2นเพ�ยงแนวค�ดในเช�งเปรู้�ยบเที่�ยบเที่'าน$0น เพรู้าะไม'ม�องค กี่ารู้ใดเป2นรู้ะบบเปCดอย'างแที่�จรู้�ง

Page 94: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

แนวค�ดและที่ฤษฎี�เช�งแนวค�ดและที่ฤษฎี�เช�งสถึานกี่ารู้ณ สถึานกี่ารู้ณ

แนวค�ดและที่ฤษฎี�เช�งแนวค�ดและที่ฤษฎี�เช�งสถึานกี่ารู้ณ สถึานกี่ารู้ณ

ที่ฤษฎี�กี่ารู้จ$ดกี่ารู้เช�งสถึานกี่ารู้ณ (Contingency Theory) เป2น

แนวค�ดที่างกี่ารู้จ$ดกี่ารู้ ม)'งเน�นกี่ารู้ปรู้$บพฤต�กี่รู้รู้มกี่ารู้บรู้�หารู้ให�เข้�ากี่$บ

ส��งแวดล�อมข้ององค กี่ารู้แต'ละแห'งและตามสถึานกี่ารู้ณ แนวค�ดและที่ฤษฎี�กี่ารู้บรู้�หารู้เช�งสถึานกี่ารู้ณ ต'างจากี่แนวค�ดและ

ที่ฤษฎี�แบบคลาสส�ค เน�นแสวงหาว�ธิ�กี่ารู้ที่,างานที่��ด�ที่��ส)ด น$กี่ที่ฤษฎี�ในกี่ล)'มกี่ารู้บรู้�หารู้แบบคลาสส�คเห:นว'ากี่ารู้จ$ดกี่ารู้เป2นหล$กี่สากี่ลหรู้ อเป2น

หล$กี่ที่$�วไปที่��สามารู้ถึปรู้ะย)กี่ต ใช�ได�กี่$บองค กี่ารู้ที่)กี่แห'ง โดยไม'ค,าน�งถึ�ง

ความแตกี่ต'างด�านสภาพแวดล�อมข้ององค กี่ารู้

Page 95: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

น$กี่ที่ฤษฎี�ในกี่ล)'มบรู้�หารู้ด$0งเด�มกี่:ม�ได�ม�ความปรู้ะสงค จะให�ที่ฤษฎี�ข้องเข้าเป2น

กี่ฎีเกี่ณฑ์ ที่��แน'นอนตายต$วช'วงที่ศวรู้รู้ษ - 19501960 ผลกี่ารู้ศ�กี่ษาว�จ$ยข้อง โจน

ว�ด วารู้ ด (Joan Woodward) พอล ลอ เรู้นซ (Pual Lawrence) เจ ลอรู้ สซ (Jay

Lorsch) และคนอ �นๆ ได�เปCดเผยให�เห:นว'าผ��บรู้�หารู้ที่,าหน�าที่��จ$ดกี่ารู้ในสภาพแวดล�อมเที่คโนโลย�และ

ป1จจ$ยอ �นๆ ที่��แตกี่ต'างกี่$น

กี่ล)'มแนวค�ดและที่ฤษฎี�เช�งสถึานกี่ารู้ณ ม�ได�ปฏ�เสธิแนวค�ดและที่ฤษฎี�กี่ารู้จ$ด

ในอด�ตมาใช�อย'างเหมาะสมกี่$บสถึานกี่ารู้ณ โดยพยายามที่��จะผสมผสาน แนวค�ดและ

ที่ฤษฎี�กี่ารู้จ$ดกี่ารู้แบบคลาสส�กี่ กี่ารู้จ$ดกี่ารู้เช�งพฤต�กี่รู้รู้ม กี่ารู้จ$ดกี่ารู้เช�งปรู้�มาณมาใช�

อย'างเหมาะสม

Page 96: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

โจน ว�ด วารู้ ด (Joan Woodward) กี่$บที่ฤษฎี�โครู้งสรู้�าง

โจน ว�ด วารู้ ด และคณะ ได�ศ�กี่ษาองค กี่ารู้ที่��ผล�ตส�นค�า จ,านวน 100 แห'ง

ในปรู้ะเที่ศอ$งกี่ฤษ พบว'าความส$มพ$นธิ รู้ะหว'างเที่คโนโลย�กี่$บโครู้ง-

สรู้�างและปรู้ะส�ที่ธิ�ผลข้ององค กี่ารู้ โดยช�0ให�เห:นว'าโครู้งสรู้�างองค กี่ารู้

เป2นส��งส,าค$ญต'อความส,าเรู้:จและปรู้ะส�ที่ธิ�ผลข้ององค กี่ารู้ เที่คโนโลย�

จะส'งผลกี่รู้ะที่บต'อโครู้งสรู้�างองค กี่ารู้โดยตรู้ง ถึ�าเที่คโนโลย�เปล��ยน

แปลงไปต�องปรู้$บโครู้งสรู้�างองค กี่ารู้ให�เข้�ากี่$นด�วย

Page 97: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

ว�ด วารู้ ด ได�แบ'งองค กี่ารู้ที่��ศ�กี่ษาตามปรู้ะเภที่เที่คโนโลย�เป2น 3 กี่ล)'ม

ค อ 1. เที่คโนโลย�ผล�ตเป2นช�0นตามค,าส$�งซ 0อข้องล�กี่ค�า (Unit

Technology) องค กี่ารู้แบบน�0ต�องกี่ารู้โครู้งสรู้�างแบบ Organic ที่��ปรู้$บต$วย ดหย)'นและ

อาศ$ยที่$กี่ษะข้องพน$กี่งานในรู้ะด$บส�ง

2 . เที่คโนโลย�ผล�ตจ,านวนมากี่ (Mass Production) องค กี่ารู้ต�องลงที่)น

เป2นจ,านวนมากี่ในกี่ารู้ซ 0อเครู้ �องจ$กี่รู้และอ)ปกี่รู้ณ กี่ารู้ผล�ต ในกี่ารู้ด,าเน�นการ

ผล�ตโครู้งสรู้�างองค กี่ารู้แบบเครู้ �องจ$กี่รู้ (Mechanistic) ม�กี่ารู้แบ'งงานกี่$นที่,า

เฉพาะด�าน

Page 98: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

3. เที่คโนโลย�ผล�ตแบบอ$ตโนม$ต� (Process of Automated Technology)

กี่ารู้ผล�ตแบบอ$ตโนม$ต�ต�องกี่ารู้โครู้งสรู้�างแบบม�ช�ว�ต (Organic) เพ �อให�ม�กี่ารู้ต�ดต'อ

ส �อสารู้ที่)กี่ที่�ศที่าง และม�ความส$มพ$นธิ กี่$บกี่ล)'มที่��ไม'เป2นที่างกี่ารู้ที่ฤษฎี�ข้องว�ด วารู้ ด ม�ข้�อด�ค อช�0ให�เห:นว'าไม'ม�แนวที่างกี่ารู้จ$ดโครู้งสรู้�าง

ที่��ด�ที่��ส)ดเพ�ยงแนวเด�ยว แต'ต�องม�กี่ารู้ผสมผสานกี่$นตามสถึานกี่ารู้ณ ที่��เป2นอย�'

Paul Lawrence และ Jay Lorsch กี่$บที่ฤษฎี�กี่ารู้ออกี่แบบโครู้งสรู้�างองค กี่ารู้

ตามสถึานกี่ารู้ณ กี่ารู้ศ�กี่ษาว�จ$ยข้อง ลอเรู้นซ และลอรู้ สซ เป2นที่��รู้��จ$กี่กี่$นอย'างแพรู้'

หลายว'าม�ส'วนช'วยเหล อต'อกี่ารู้พ$ฒนาแนวค�ดกี่ารู้จ$ดกี่ารู้เช�งสถึานกี่ารู้ณ เป2นอย'างมากี่

ที่$0งสองได�ช�0ว'าโครู้งสรู้�างองค กี่ารู้ม�ความส$มพ$นธิ กี่$บสภาพแวดล�อมองค กี่ารู้ที่��ม�สภาพแวดล�อมต'างกี่$นย'อมต�องกี่ารู้โครู้งสรู้�างข้ององค กี่ารู้

ที่��แตกี่ต'างกี่$น

Page 99: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

ป5จจ-ยที่�+ม�ผู้ลกระที่บต$อโครงสร�างขององค�การ ป5จจ-ยที่�+ม�ผู้ลกระที่บต$อโครงสร�างขององค�การ ได้�แก$ ได้�แก$

1 . ล$กี่ษณะข้องพน$กี่งาน 2. ปรู้ะเภที่ข้องงาน 3. ว�ธิ�กี่ารู้บรู้�หารู้ 4 . ล$กี่ษณะสภาพแวดล�อม

Page 100: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

ลอเรู้นซ และลอรู้ สซ ลอเรู้นซ และลอรู้ สซ สรู้)ปว'าสรู้)ปว'า 1. ถึ�าองค กี่ารู้อย�'ในสภาพแวดล�อมที่��ไม'แน'นอน องค กี่ารู้

จะม�กี่ารู้จ$ดโครู้งสรู้�างองค กี่ารู้ให�อย�'ในสภาพคล'องต$ว

2 . ถึ�าองค กี่ารู้อย�'ในสภาพแวดล�อมที่��ม�ความแน'นอน โครู้งสรู้�าง

ข้ององค กี่ารู้ที่��แน'นอนตายต$วจะม�ความเหมาะสม 3. ถึ�าต�องกี่ารู้ม�สภาพแวดล�อมภายนอกี่ที่��ม�ความแตกี่ต'าง

กี่$นมากี่ และสภาพแวดล�อมภายในที่��แตกี่ต'างกี่$นมากี่ด�วย จะต�องม�

กี่ลไกี่ข้องกี่ารู้ปรู้ะสานงานที่��ด�ภายในโครู้งสรู้�างองค กี่ารู้

Page 101: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

แนวค�ดและที่ฤษฎี�กี่ารู้จ$ดกี่ารู้เช�งสถึานกี่ารู้ณ อ �นที่��ม�กี่ารู้ผสมผสาน

แนวค�ดกี่ารู้จ$ดกี่ารู้ในอด�ต ที่��เป2นที่��รู้��จ$กี่กี่$นอย'างแพรู้'หลายม� 2ที่ฤษฎี�

ได�แกี่' ที่ฤษฎี� Z ข้องอ�ช� (Ouchi) และแนวที่างกี่ารู้ส�'ความเป2นเล�ศข้อง

ป>เตอรู้ และวอเตอรู้ แมน (Peters and Waterman)ว�ลเล�ยม จ� อ�ซ� (William G. Ouchi) และที่ฤษฎี� Z อ�ซ�ได�

ศ�กี่ษาแนวปฏ�บ$ต�ที่างกี่ารู้จ$ดกี่ารู้ในธิ)รู้กี่�จเรู้�ยกี่ว'า Theory A ม�ล$กี่ษณะ

เป2นกี่ารู้จ$ดกี่ารู้ที่��องค กี่ารู้ม)'งเน�นความรู้$บผ�ดชอบข้องบ)คคลแต'ละคน และกี่ารู้ต$ดส�นใจที่��พน$กี่งานไม'ม�ส'วนรู้'วม กี่ารู้จ�างงานม�ล$กี่ษณะเป2นกี่ารู้ว'าจ�างรู้ะยะส$0น

Page 102: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

กี่ารู้จ$ดกี่ารู้ข้องธิ)รู้กี่�จในปรู้ะเที่ศญ��ป)Gนที่��เรู้�ยกี่ว'า Theory J ซ��งม�

ล$กี่ษณะเป2นกี่ารู้จ�างงานตลอดช�ว�ต ม�ความรู้$บผ�ดชอบและกี่ารู้ต$ดส�นใจ

รู้'วมกี่$นซ��งเข้าได�ผสมผสานรู้�ปแบบที่างกี่ารู้จ$ดกี่ารู้ที่��แตกี่ต'างกี่$นข้อง

2 ปรู้ะเภที่น�0 มาเป2นล$กี่ษณะผสมที่��เรู้�ยกี่ว'า Theory Z โดยล$กี่ษณะที่าง

กี่ารู้บรู้�หารู้แบบ Theory Z เน�นที่��กี่ารู้จ�างงานตลอดช�ว�ต กี่ารู้ต$ดส�นใจ

รู้'วมกี่$น รู้$บผ�ดชอบข้องแต'ละบ)คคล

Page 103: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

โที่ม$ส เจ ป>เตอรู้ (Thomas J. Peters) และโรู้เบ�รู้ ต วอเตอรู้ แมน

(Robert H. Waterman) ได�ต�พ�มพ ผลงานข้องเข้าเรู้ �อง “In Search of

Excellence” โดยกี่ารู้ม)'งค�นคว�าว'าบรู้�ษ$ที่ที่��ปรู้ะสบผลส,าเรู้:จ ม�ล$กี่ษณะ

ที่างกี่ารู้จ$ดกี่ารู้ที่��ด�อย'างไรู้ ซ��งได�ค�นพบค)ณล$กี่ษณะที่��ด� 8ปรู้ะกี่ารู้ที่��ที่,า

ให�ธิ)รู้กี่�จเหล'าน�0ม�รู้ะด$บผลข้องกี่ารู้ปฏ�บ$ต�กี่ารู้ส�งเป2นที่��น'าพอใจ บรู้�ษ$ที่

เหล'าน�0ม)'งตอบสนองความพอใจข้องล�กี่ค�า

Page 104: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

ล-กษ์ณ์ะ ล-กษ์ณ์ะ 8 8 ประการของความเป>นเล ศึของประการของความเป>นเล ศึของการจ-ด้การ ได้�แก$การจ-ด้การ ได้�แก$

1. กี่ารู้ม)'งกี่ารู้กี่รู้ะที่,า (A bias for action) 2 . กี่ารู้ใกี่ล�ช�ดล�กี่ค�า (Close to the customer) 3 . ความเป2นอ�สรู้ะและศ�ลปะกี่ารู้เป2นผ��ปรู้ะกี่อบกี่ารู้ (Autonomy and

entrepreneurship)4. กี่ารู้เพ��มปรู้ะส�ที่ธิ�ภาพโดยคน (Productivity through

people) 5 . กี่ารู้จ$ดกี่ารู้ผล$กี่ด$นให�เกี่�ดค'าน�ยมในองค กี่ารู้ (Hand or value driven) 6 .กี่ารู้ด,าเน�นธิ)รู้กี่�จที่��ม�ความม)'งม$�น เช��ยวชาญ (Stick to the Knitting) 7 . โครู้งสรู้�างที่��เรู้�ยบง'ายและใช�พน$กี่งานน�อย (Structured Simple with Lean Staffs) 8 . กี่ารู้รู้��จ$กี่ผ'อนหน$กี่ผ'อนเบา (Loosely and Tightly)

Page 105: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

หล$กี่กี่ารู้จ$ดกี่ารู้รู้'วมสม$ยม�ล$กี่ษณะที่��หล$กี่กี่ารู้จ$ดกี่ารู้รู้'วมสม$ยม�ล$กี่ษณะที่��ส,าค$ญ ด$งน�0ส,าค$ญ ด$งน�0

1. กี่ารู้พ�จารู้ณาองค กี่ารู้ธิ)รู้กี่�จ ในฐานะที่��เป2นรู้ะบบเปCด ค อเป2นรู้ะบบที่��

ปฏ�ส$มพ$นธิ กี่$บสภาพแวดล�อม 2. โครู้งสรู้�างองค กี่ารู้สม$ยใหม' ภายใต�สภาวะแวดล�อมที่��สล$บซ�อน

และม�กี่ารู้เปล��ยนแปลงเพ��มข้�0นที่,าให�แนวค�ดกี่ารู้จ$ดโครู้งสรู้�างองค กี่ารู้ม)'ง

เน�นกี่ารู้บรู้�หารู้แบบม�ส'วนรู้'วม และกี่ารู้กี่รู้ะจายอ,านาจโครู้งสรู้�างองค กี่ารู้ที่��เหมาะสม ต�องตอบสนองต'อปรู้ะเภที่งาน พน$กี่งาน ว�ธิ�กี่ารู้จ$ดกี่ารู้และสภาพแวดล�อม โครู้งสรู้�างองค กี่ารู้ต�องม�ความย ดหย)'นคล'องต$ว ม�ที่$0ง

สายงานหล$กี่และสายงานที่��ปรู้�กี่ษา เพ �อตอบสนองที่$0งหน�าที่��หล$กี่และหน�าที่��สน$บสน)นที่��จ,าเป2นข้ององค กี่ารู้

Page 106: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

3. แนวค�ดกี่ารู้จ$ดกี่ารู้ที่��ม)'งความเป2นเล�ศ ด�วยกี่ารู้จ$ดกี่ารู้แบบผสมผสาน

ที่��ปรู้ะย)กี่ต รู้�ปแบบกี่ารู้จ$ดกี่ารู้ที่��หลากี่หลายมาใช�อย'างเหมาะสม เพ �อปรู้ะส�ที่ธิ�ภาพและปรู้ะส�ที่ธิ�ผลข้ององค กี่ารู้ กี่ารู้จ$ดกี่ารู้ที่��ม)'งความเป2นเล�ศเน�นกี่ารู้วางแผนรู้ะยะยาวโดยใช�ว�ส$ยที่$ศน ที่างกี่ารู้บรู้�หารู้ที่��เมาะสมจากี่

กี่ารู้ปรู้ะเม�นสภาพแวดล�อมข้ององค กี่ารู้ที่$0งภายนอกี่และภายใน กี่ารู้กี่,าหนด

กี่ลย)ที่ธิ ที่��เหมาะสม กี่ารู้สรู้�าง ว$ฒนธิรู้รู้มกี่ารู้ที่,างาน และกี่ารู้ปรู้$บต$วย ดหย)'น เป2นส,าค$ญ

Page 107: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

ที่ฤษฎี�องค กี่ารู้ที่ฤษฎี�องค กี่ารู้สม$ยใหม'สม$ยใหม' ที่ฤษฎี�องค กี่ารู้สม$ยใหม'เป2นที่ฤษฎี�ที่��พ$ฒนาข้�0นเพ �อเสรู้�มจ)ดด'อนและข้�อบกี่พรู้'องข้องที่ฤษฎี�องค กี่ารู้แบบด$0งเด�ม (Classical

Organizational Theory) และที่ฤษฎี�องค กี่ารู้ด$0งเด�มแบบใหม' (Neo ClassicalOrganizational) ที่ฤษฎี�ที่$0งสองที่ฤษฎี�ด$งกี่ล'าวม)'งเน�นล$กี่ษณะกี่ารู้บรู้�หารู้และปรู้ะส�ที่ธิ�ภาพภายในองค กี่ารู้เที่'าน$0น ซ��งพ�จารู้ณาองค กี่ารู้ในล$กี่ษณะแคบ

ไป และละเลยอ�ที่ธิ�พลข้องป1จจ$ยสภาพแวดล�อมภายนอกี่

ที่ฤษฎี�องค กี่ารู้สม$ยใหม'ม�ล$กี่ษณะ บ�รู้ณากี่ารู้ให�ความส,าค$ญกี่$บป1จจ$ยภายในและอ�ที่ธิ�พลข้องป1จจ$ยสภาพแวดล�อมภายนอกี่

Page 108: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

กี่ารู้ศ�กี่ษาองค กี่ารู้ควรู้เน�นกี่ารู้ว�เครู้าะห และส$งเครู้าะห ส��งต'างๆ เข้�า

ด�วยกี่$น และกี่ารู้ศ�กี่ษาองค กี่ารู้ที่��ด�ที่��ส)ดควรู้จะเป2นว�ธิ�กี่ารู้ศ�กี่ษาว�เครู้าะห

องค กี่ารู้ในเช�งรู้ะบบ (System Analysis) ซ��งปรู้ะกี่อบด�วยต$วแปรู้ต'าง

ที่$0งภายในและภายนอกี่องค กี่ารู้ ล�วนแล�วแต'ม�ผลกี่รู้ะที่บต'อโครู้งสรู้�างและ

กี่ารู้จ$ดองค กี่ารู้องค กี่ารู้ต�องม�กี่ารู้ปรู้$บต$ว (Adaptive) ตลอดเวลา

เพรู้าะต$วแปรู้ต'าง ๆ ม�ล$กี่ษณะเปล��ยนแปลง (dynamic) อย�'เสมอ

Page 109: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

ที่ฤษฎี�องค กี่ารู้สม$ยใหม'ม�ล$กี่ษณะเด'นที่��ที่,าให�ที่ฤษฎี�น�0ได�รู้$บกี่ารู้

ยอมรู้$บและเป2นปรู้ะโยชน อย'างมากี่ต'อกี่ารู้ศ�กี่ษาองค กี่ารู้ ค)ณล$กี่ษณะ

ได�แกี่' กี่ารู้ที่��ม�ที่ฤษฎี�รู้ะบบเป2นพ 0นฐานที่างแนวความค�ดและกี่ารู้ว�เครู้าะห

โดยอ�งอาศ$ยข้�อม�ลเช�งปรู้ะจ$กี่ษ ที่ฤษฎี�องค กี่ารู้สม$ยใหม'ได�ศ�กี่ษาปรู้ะเด:นป1ญหาและ

องค ปรู้ะกี่อบต'างๆ ที่��ที่ฤษฎี�องค กี่ารู้แบบด$0งเด�ม และที่ฤษฎี�องค กี่ารู้ด$0งเด�ม

แบบใหม'ไม'ได�ให�

Page 110: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

ความสนใจมากี่'อน ปรู้ะกี่อบด�วย 1. องค ปรู้ะกี่อบที่��ส,าค$ญ (Strategic Parts) ข้องรู้ะบบค อ

อะไรู้ 2 . กี่ารู้พ��งพาอาศ$ยซ��งกี่$นและกี่$นข้องส'วนส,าค$ญข้องรู้ะบบ (The

Nature of their Mutual dependency) เป2นอย'างไรู้3. กี่รู้ะบวนกี่ารู้ที่��เช �อมโยงส'วนส,าค$ญข้องรู้ะบบเข้�าด�วยกี่$นอย'างไรู้

4 . เป5าหมายส,าค$ญที่��รู้ะบบต�องกี่ารู้บรู้รู้ล)ค ออะไรู้ที่ฤษฎี�องค กี่ารู้สม$ยใหม' ข้าดองค ความรู้��ที่��เป2นเอกี่ภาพ กี่ล'าวค อ

น$กี่ว�ชากี่ารู้และน$กี่ว�จ$ยในกี่ล)'มที่ฤษฎี�องค กี่ารู้สม$ยใหม'แต'ละที่'านต'างม�ปรู้ะเด:นส,าค$ญที่��ต�องกี่ารู้ม)'งเน�นเฉพาะตน จ)ดรู้'วมกี่$นปรู้ะเด:นเด�ยวค อกี่ารู้ศ�กี่ษารู้ะบบโดยพ�จารู้ณาองค กี่ารู้ในองค รู้วมที่$0งหมด

Page 111: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

องค ปรู้ะกี่อบ ส,าค$ญในกี่ารู้ศ�กี่ษาว�เครู้าะห องค ปรู้ะกี่อบ ส,าค$ญในกี่ารู้ศ�กี่ษาว�เครู้าะห รู้ะบบรู้ะบบ ปรู้ะกี่อบด�วยปรู้ะกี่อบด�วย1. องค ปรู้ะกี่อบข้องรู้ะบบและกี่ารู้พ��งพาอาศ$ยกี่$นข้ององค ปรู้ะกี่อบ

เหล'าน$0น (The Parts of The System and Their Interdependency)

องค ปรู้ะกี่อบข้องรู้ะบบปรู้ะกี่ารู้แรู้กี่ค อ ป1จเจกี่บ)คคล (Individual) และ

บ)คล�กี่ภาพส'วนบ)คคล (An Individual’ Personality) บ)คล�กี่ภาพข้อง

แต'ละบ)คคลเป2นต$วข้$บด$น (Motive) และเป2นเจตคต� (Attitude) ที่��วาง

เง �อนไข้กี่รู้อบความคาดหว$ง (The range of Expectancies) ที่��แต'ละบ)คคล

หว$งที่��จะสมารู้ถึสนองความต�องกี่ารู้ด�วยกี่ารู้ม�ส'วนรู้'วมในรู้ะบบ

Page 112: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

องค ปรู้ะกี่อบปรู้ะกี่ารู้ที่��สองข้องรู้ะบบค อองค กี่ารู้รู้�ปน$ย (Formal

Organization) หมายถึ�งแบบแผนความเกี่��ยวข้�องส$มพ$นธิ ข้องงาน (The

Interrelated Pattern of Jobs) ซ��งปรู้ะกี่อบข้�0นเป2นโครู้งสรู้�างข้องรู้ะบบ

Argyrils ได�กี่ล'าวถึ�งความข้$ดแย�งโดยพ 0นฐานอ$นเป2นผลมาจากี่ข้�อกี่,าหนด

ข้องรู้ะบบ (The Demand made by the System) และโครู้งสรู้�างข้องบ)คล�กี่ภาพ

บ)คคลหน��ง ๆ ม�ความคาดหว$งในงานที่��ตนปฏ�บ$ต� ในที่างกี่ล$บกี่$นงานกี่:ม�

ข้�อกี่,าหนดถึ�งแบบแผนว'าบ)คคลต�องที่,าอะไรู้บ�าง ม�มาตรู้ฐานอย'างไรู้ในกี่ารู้ปฏ�บ$ต�งานหน��ง ๆ

Page 113: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

น$กี่ว�ชากี่ารู้ที่ฤษฎี�องค กี่ารู้สม$ยใหม'จ,านวนมากี่ให�ความสนใจกี่$บความไม'สอดคล�องกี่$นรู้ะหว'างความต�องกี่ารู้ข้ององค กี่ารู้กี่$บ

ความต�องกี่ารู้ข้องป1จเจกี่บ)คคล

องค ปรู้ะกี่อบข้องรู้ะบบปรู้ะกี่ารู้ที่��สามค อ องค กี่ารู้อรู้�ปน$ย (Informal Organization) ค อรู้�ปแบบความส$มพ$นธิ

รู้ะหว'างบ)คคลและกี่ล)'มแบบไม'เป2นที่างกี่ารู้ม�อย�'ตามธิรู้รู้มชาต�รู้�ปแบบ ปฏ�ส$มพ$นธิ น�0สามารู้ถึกี่ล'าวได�ว'าเป2นล$กี่ษณะกี่ารู้ปรู้$บแปลงกี่ารู้คาดหว$งซ��ง

กี่$นและกี่$น (The Mutual Modification of Expectancies)

Page 114: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

องค กี่ารู้อรู้�ปน$ยเกี่��ยวข้�องกี่$บข้�อกี่,าหนดที่��ม�ต'อมวลสมาช�กี่ ค อ

แบบแผน พฤต�กี่รู้รู้มที่��คาดหว$งจากี่บ)คคลที่��เป2นสมาช�กี่ และคาดหว$งข้อง

สมาช�กี่ที่��ได�รู้$บความพ�งพอใจในฐานะเป2นสมาช�กี่ภาพ ปฏ�ส$มพ$นธิ เช�ง

ความคาดหว$งที่$0งสองปรู้ะกี่ารู้กี่'อให�เกี่�ดกี่ารู้ปรู้$บเปล��ยนพฤต�กี่รู้รู้มข้อง

บ)คคลให�เป2นไปตามความต�องกี่ารู้ข้องกี่ล)'ม และบางครู้$0งพฤต�กี่รู้รู้มกี่ล)'ม

อาจต�องปรู้$บเปล��ยนตามบ)คล�กี่ภาพข้องบ)คคลและบรู้รู้ที่$ดฐานกี่ล)'ม

Page 115: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

องค ปรู้ะกี่อบปรู้ะกี่ารู้ที่��ส��ข้องรู้ะบบค อ กี่รู้ะบวนกี่ารู้หล'อหลอมให�เกี่�ดบ�รู้ณภาพ (The Fusion Process for Organization

Integrity) กี่รู้ะบวนกี่ารู้น�0น,าเสนอโดยน$กี่ว�ชากี่ารู้ในกี่ล)'มที่ฤษฎี�องค กี่ารู้สม$ยใหม'ช �อ Bakke ผ��ที่��กี่ล'าวถึ�งรู้ะบบความคาดหว$งที่��หลากี่หลายในองค กี่ารู้ (TheVarious Expectancy Systems in An Organization)

ซ��งหมายถึ�งแบบแผนที่างพฤต�กี่รู้รู้มที่��เกี่�ดจากี่ความต�องกี่ารู้ตามบที่บาที่ (Role

Demands) ที่��เกี่�ดจากี่องค กี่ารู้รู้�ปน$ยกี่$บองค กี่ารู้อรู้�ปน$ย และกี่ารู้รู้$บรู้��ในบที่บาที่ (Role Perceptions) กี่'อให�เกี่�ดกี่รู้ะบวนกี่ารู้ กี่รู้ะบวนกี่ารู้หล'อหลอม

(The Fusion Process) กี่รู้ะบวนกี่ารู้น�0เป2นพล$งที่��ปรู้ะสานองค ปรู้ะกี่อบแตกี่ต'างกี่$น

ให�เกี่�ดบ�รู้ณภาพในองค กี่ารู้ (Organization Integrity)

Page 116: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

องค ปรู้ะกี่อบปรู้ะกี่ารู้ที่��ห�าในกี่ารู้ว�เครู้าะห รู้ะบบค อ องค ปรู้ะกี่อบที่างกี่ายภาพ (Physical Setting) ได�แกี่' รู้ะบบข้องคนและ

เครู้ �องจ$กี่รู้(Complex Man-Machine Systems) กี่ล'าวว'ากี่ารู้ด,าเน�น

งานข้ององค กี่ารู้จะเกี่�ดปรู้ะส�ที่ธิ�ผลไม'ได� ถึ�าไม'ได�ค,าน�งล$กี่ษณะที่างกี่ายภาพ จ�ตว�ที่ยา

และส$งคมข้องบ)คคลในองค กี่ารู้ เครู้ �องจ$กี่รู้ และกี่ารู้กี่รู้ะบวนกี่ารู้ด,าเน�น

กี่ารู้ต�องออกี่แบบให�เหมาะสมและสอดคล�องกี่$บค)ณล$กี่ษณะที่างกี่ายภาพและ

ที่างจ�ตใจข้องบ)คลากี่รู้มากี่กี่ว'ากี่ารู้จ�างบ)คคลที่��เหมาะสมสอดคล�องกี่$บเครู้ �องจ$กี่รู้

Page 117: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

องค ปรู้ะกี่อบข้องรู้ะบบปรู้ะกี่อบด�วย ป1จเจกี่บ)คคล องค กี่ารู้รู้�ปน$ย องค กี่ารู้อรู้�ปน$ย สถึานภาพและบที่บาที่ และองค ปรู้ะกี่อบที่างกี่ายภาพอง ปรู้ะกี่อบเหล'าน�0ปรู้ะสานเกี่��ยวพ$นกี่$นเป2นรู้ะบบองค กี่ารู้ โดยม�กี่รู้ะบวนกี่ารู้เช �อมโยงองค ปรู้ะกี่อบเหล'าน�0เข้�าไว�ด�วยกี่$น

2. กี่รู้ะบวนกี่ารู้เช �อมโยงองค ปรู้ะกี่อบ (Linking Process) น$กี่ที่ฤษฎี�

องค กี่ารู้สม$ยใหม'อธิ�บายว'าองค ปรู้ะกี่อบต'าง ๆ ข้ององค กี่ารู้ม�ความเกี่��ยวข้�องส$มพ$นธิ

กี่$น เพรู้าะม�กี่รู้ะบวนกี่ารู้เช �อมโยงองค ปรู้ะกี่อบต'างๆ เข้�าไว�ด�วยกี่$น กี่รู้ะบวนกี่ารู้

เช �อมโยงปรู้ะกี่อบด�วย 2.1 กี่ารู้ส �อสารู้ (Communication) เป2นโครู้งข้'ายให�องค

ปรู้ะกี่อบต'าง ๆ เป2นอ$นหน��งอ$นเด�ยวกี่$น กี่ารู้ส �อสารู้ม�ได�เป2นเพ�ยงต$วกี่รู้ะต)�น (Stimuli) ให�

เกี่�ดกี่ารู้กี่รู้ะที่,าเที่'าน$0น แต'ย$งเป2นกี่ลไกี่ควบค)ม และปรู้ะสานเช �อมโยงศ�นย กี่ลางกี่ารู้

ต$ดส�นใจภายในรู้ะบบ

Page 118: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

2.2 ความสมด)ล (Balance) เป2นกี่รู้ะบวนกี่ารู้เช �อมโยงปรู้ะกี่ารู้หน��งที่��ช'วยให�

รู้ะบบเสถึ�ยรู้ (An Equilibrating Mechanism) ที่,าให�องค ปรู้ะกี่อบต'างๆ ที่��หลากี่หลาย

ข้องรู้ะบบปรู้ะสานส$มพ$นธิ อย'างกี่ลมกี่ล น ความสมด)ลปรู้ะกี่อบด�วยล$กี่ษณะ 2ปรู้ะกี่ารู้

ค อ กี่ลไกี่กี่��งอ$ตโนม$ต� (Quasi-Automatic) และนว$ตกี่รู้รู้ม (Innovative) รู้�ปแบบความ

สมด)ลที่$0งสองปรู้ะกี่ารู้ที่,าให�เกี่�ดบ�รู้ณภาพข้องรู้ะบบเม �อต�องเผช�ญกี่$บสภาวะความเปล��ยน

แปลงที่$0งจากี่ภายในและภายนอกี่กี่ลไกี่กี่��งอ$ตโนม$ต� (Quasi-Automatic) จะช'วยธิ,ารู้งรู้$กี่ษารู้ะบบให�อย�'ในสภาพ

ปกี่ต� (Homeostatic Properties of Systems) ข้ณะที่��นว$ตกี่รู้รู้ม (Innovative) ม�บที่บาที่

ในกี่ารู้สรู้�างความสมด)ลเพรู้าะความค�ดสรู้�างสรู้รู้ค ใหม'ที่,าให�รู้ะบบปรู้$บต$วเข้�ากี่$บกี่ารู้เปล��ยนแปลงภายนอกี่ได� โดยม�กี่ารู้รู้�เรู้��มโครู้งกี่ารู้ใหม' ๆ เพ �อรู้$กี่ษาให�รู้ะบบหรู้ อ

องค กี่ารู้ปรู้$บเข้�าส�'ความสมด)ลอ�กี่ครู้$0งเม �อป1จจ$ยสภาพแวดล�อมภายนอกี่เปล��ยนแปลงไป

Page 119: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

2.3 กี่ารู้ต$ดส�นใจ (Decisions) กี่ารู้ว�เครู้าะห กี่ารู้ต$ดส�นใจเป2นผลงานข้อง

March และ Simon ที่��กี่ล'าวไว�ในหน$งส �อช �อ Organizations น$กี่ว�ชากี่ารู้ที่$0งสองที่'าน

ได�แบ'งกี่ารู้ต$ดส�นใจเป2นสองปรู้ะเภที่ ค อ กี่ารู้ต$ดส�นใจที่��จะปฏ�บ$ต�งาน (Decisions to

Produce) กี่ารู้ต$ดส�นใจที่��จะม�ส'วนรู้'วมในองค กี่ารู้ (Decisions to Participate in the

System) กี่ารู้ต$ดส�นใจที่��จะปฏ�บ$ต�งานเป2นผลข้อง ปฏ�ส$มพ$นธิ รู้ะหว'างเจตคต�ข้องแต'

ละบ)คคลและความต�องกี่ารู้ข้ององค กี่ารู้ กี่ารู้ว�เครู้าะห เรู้ �องแรู้งจ�งใจได�กี่ลายเป2นปรู้ะเด:นส,าค$ญ กี่ารู้ต$ดส�นใจที่��จะม�ส'วนรู้'วมในองค กี่ารู้น,าไปส�'ปรู้ะเด:นความ

เกี่��ยวข้�องรู้ะหว'างรู้างว$ลหรู้ อผลตอบแที่นที่��องค กี่ารู้จะให�เปรู้�ยบเที่�ยบกี่$บส��งที่��องค กี่ารู้

ต�องกี่ารู้จากี่สมาช�กี่

Page 120: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

กี่ารู้ต$ดส�นใจม�ส'วนรู้'วมในองค กี่ารู้ม)'งพ�จารู้ณาเหต)ผลว'าที่,าไมบ)คคลหน��ง ๆ ต$ดส�นใจอย�'กี่$บองค กี่ารู้หรู้ อลาออกี่ March และ Simon ม�ความเห:นว'ากี่ารู้ต$ดส�น

ใจเป2นต$วแปรู้ภายในองค กี่ารู้ที่��ข้�0นอย�'กี่$บงาน (Jobs) ความคาดหว$งและแรู้งจ�งใจข้องแต'ละบ)คคล (Individual Expectations and Motivations) และ

โครู้งสรู้�างองค กี่ารู้ (Organizational Structure)

น$กี่ว�ชากี่ารู้กี่ล)'มที่ฤษฎี�องค กี่ารู้สม$ยใหม'ค อ Marschak มองกี่รู้ะบวนกี่ารู้ต$ดส�นใจในฐานะเป2นต$วแปรู้อ�สรู้ะ โดยม�ต$วแปรู้ตาม ค อความอย�'รู้อดข้ององค กี่ารู้

(The survival of the Organization) กี่รู้ะบวนกี่ารู้ต$ดส�นใจจ�งเป2นต$วกี่,าหนด

ความอย�'รู้อดข้ององค กี่ารู้ เป5าหมายข้ององค กี่ารู้ (The Goals of Organization) ค อ กี่ารู้

เจรู้�ญเต�บโต (Growth) ความม$�นคง (Stability) และ กี่ารู้ปฏ�ส$มพ$นธิ (Interaction)

โดยเป5าหมายต'างๆ สามารู้ถึปรู้ะย)กี่ต ใช�ได�กี่$บองค กี่ารู้ที่)กี่ปรู้ะเภที่

Page 121: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

ที่ฤษฎี�องค กี่ารู้สม$ยใหม'สนใจศ�กี่ษา:1 . องค ปรู้ะกี่อบย'อย (Parts) ซ��งหมายถึ�งกี่ารู้สนใจศ�กี่ษาป1จเจกี่

บ)คคล (Individuals) ที่��ปรู้ะกี่อบกี่$นข้�0นเป2นรู้ะบบ รู้วมถึ�งศ�กี่ษากี่ารู้

เคล �อนไหวข้องป1จเจกี่บ)คคลที่��เข้�าส�'รู้ะบบและออกี่จากี่รู้ะบบ 2 . กี่ารู้ปฏ�ส$มพ$นธิ ข้องบ)คคลกี่$บสภาพแวดล�อมข้องรู้ะบบ3 . กี่ารู้ปฏ�ส$มพ$นธิ รู้ะหว'างบ)คคลในรู้ะบบ 4 . ความเจรู้�ญเต�บโตและป1ญหาความม$�นคงข้องรู้ะบบ

Page 122: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

ล$กี่ษณะข้องที่ฤษฎี�ล$กี่ษณะข้องที่ฤษฎี�องค กี่ารู้สม$ยใหม'องค กี่ารู้สม$ยใหม'

Hicks ได�สรู้)ปล$กี่ษณะข้องที่ฤษฎี�องค กี่ารู้สม$ยใหม'ไว� 9 ปรู้ะกี่ารู้1 . เป2นแนวความค�ดเช�งรู้ะบบ (Systems Viewpoint) ค อ

พ�จารู้ณาองค กี่ารู้ในฐานะเป2นรู้ะบบ ๆ หน��ง 2 . ตรู้ะหน$กี่ว'าองค ปรู้ะกี่อบต'าง ๆ ข้ององค กี่ารู้ต�องม�กี่ารู้เปล��ยนแปลง

(Dynamics) อย�'เสมอ เพ �อให�สอดคล�องกี่$บสถึานกี่ารู้ณ หรู้ อสภาพ แวดล�อมภายนอกี่

3. องค กี่ารู้ม�หลายรู้ะด$บและหลากี่หลายม�ต� (Multilevel and Multidimensional) ค อองค กี่ารู้ม�หลายรู้ะด$บ ต$0งแต'รู้ะด$บที่�อง

ถึ��นจนถึ�ง รู้ะด$บนานาชาต�และม�หลากี่หลายม�ต�ที่$0งภายในองค กี่ารู้และภายนอกี่

องค กี่ารู้

Page 123: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

4. รู้ะบบจ�งใจม�หลากี่หลายว�ธิ� (Multimotivated) ค อสามารู้ถึจ�งใจได�หลายที่างที่$0งที่าง

เศรู้ษฐกี่�จ ที่างส$งคม และความส,าเรู้:จข้องงาน5 . ม�ความเป2นไปได�หลายที่าง (Probabilistic) ค อไม'ม�ความแน'นอนตายต$ว6 . เป2น สหว�ที่ยากี่ารู้ (Multidisciplinary) ปรู้ะย)กี่ต องค ความรู้��มาจากี่หลาย

สาข้าว�ชา เพ �อมาใช�อธิ�บายองค กี่ารู้ จ�งที่,าให�เกี่�ดม)มมองและแนวค�ดที่��ม�ต'อป1ญหาข้ององค กี่ารู้ที่�� แตกี่ต'างหลากี่หลายที่$ศนะ

7. เป2นกี่ารู้ศ�กี่ษาเช�งปรู้ะจ$กี่ษ หรู้ อเช�งพรู้รู้ณนา (Empirical or descriptive) ค อม)'ง

พ�ส�จน และตอบป1ญหาด�วยกี่ารู้ใช�หล$กี่ฐานที่��ช$ดแจ�งช$ดเจน ที่$0งย$งเป2นกี่ารู้อธิ�บายว'า ปรู้ากี่ฏกี่ารู้ณ ที่��เกี่�ดข้�0นจรู้�งเป2นอย'างไรู้ ม�ใช'เป2นกี่ารู้กี่ล'าวอธิ�บายในล$กี่ษณะว'าส��งที่��ด� ถึ�กี่ต�องควรู้เป2นอย'างไรู้ (Normative or Prescriptive)

Page 124: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

8. ปรู้ะกี่อบด�วยต$วแปรู้หรู้ อป1จจ$ยหลายป1จจ$ย (Multivariable) ค อม�

ที่$0งป1จจ$ยเช�งโครู้งสรู้�าง เช�งมน)ษย เช�งพฤต�กี่รู้รู้ม เช�งรู้ะบบ และ

อ �น ๆ 9 . ม�ความสามารู้ถึในกี่ารู้ปรู้$บต$วและเปล��ยนแปลงไปตามป1จจ$ยสภาพ

แวดล�อมที่��เปล��ยนแปลงไป (Adaptive or Situational) ค อพ�จารู้ณา

ว'าองค กี่ารู้เสม อนส��งม�ช�ว�ต ที่��สามารู้ถึปรู้$บต$วได�สอดคล�องกี่$บ สภาพกี่ารู้ณ ต'างๆ เพ �อให�สามรู้ถึด,ารู้งช�ว�ตอย�'ได�

Page 125: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

ที่ฤษฎี�องค กี่ารู้สม$ยใหม'พ�จารู้ณาว'าองค ปรู้ะกี่อบปรู้ะกี่อบด�วยองค ปรู้ะกี่อบที่$0งหมด (The Whole ) และองค ปรู้ะกี่อบย'อย

( Parts ) ที่��ปรู้ะกี่อบกี่$นข้�0นเป2นรู้ะบบ ที่ฤษฎี�น�0จ�งเช �อมโยงองค ปรู้ะกี่อบที่$�วไป และองค ปรู้ะกี่อบเฉพาะเข้�าด�วยกี่$นโดยใช�กี่รู้อบที่ฤษฎี�รู้ะบบที่$�วไปเป2นพ 0น

ฐาน ที่ฤษฎี�องค กี่ารู้สม$ยใหม'ปรู้ะกี่อบด�วยที่ฤษฎี�ส,าค$ญค อที่ฤษฎี�

รู้ะบบ ( The Systems Approach ) และที่ฤษฎี�กี่ารู้จ$ดกี่ารู้ตามสถึานกี่ารู้ณ

(Contingency Approach)

Page 126: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

กี่ารู้จ$ดกี่ารู้เช�งรู้ะบบ (The Systems Approach ) ม�ฐานคต�ว'า กี่ารู้

จ$ดกี่ารู้ที่��ม�ล$กี่ษณะต'อเน �องกี่$นและส$มพ$นธิ ซ��งกี่$นและกี่$น รู้วมที่$0งต�องพ��งพา

อาศ$ยซ��งกี่$นและกี่$นข้องหน'วยงานย'อยต'างๆกี่$บส'วนรู้วมที่$0งหมด ความ

ส,าเรู้:จในกี่ารู้จ$ดกี่ารู้ข้ององค กี่ารู้ข้�0นอย�'กี่$บกี่ารู้จ$ดกี่ารู้ข้องที่)กี่รู้ะบบม�ใช'

รู้ะบบหน��งรู้ะบบใด ความส,าเรู้:จในกี่ารู้จ$ดกี่ารู้ข้ององค กี่ารู้ถึ อว'าเป2นรู้ะบบ

รู้วม ( Total System ) ต�องอาศ$ยความส,าเรู้:จข้องรู้ะบบย'อยที่)กี่รู้ะบบ

เพรู้าะแต'ละรู้ะบบเกี่��ยวข้�องผ�กี่พ$นกี่$บรู้ะบบใหม'ค อ องค กี่ารู้

Page 127: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

รู้ะบบในสภาพที่��เป2นที่ฤษฎี� เรู้�ยกี่ว'า ที่ฤษฎี�รู้ะบบ ( Systems Theory ) เป2น

สาข้าว�ชาที่��เกี่�ดข้�0นช'วงปลายที่ศวรู้รู้ษที่�� 20 ที่ฤษฎี�รู้ะบบเป2นสาข้าว�ชาที่��พ$ฒนาข้�0นโดยอาศ$ยแนวความค�ด

หลายสาข้าโดยน,าแนวค�ดจากี่หลายสาข้าว�ชามาปรู้ะย)กี่ต ผสมผสานสรู้�างเป2นที่ฤษฎี�

รู้ะบบข้�0นมารู้ะบบ หมายถึ�งส'วนปรู้ะกี่อบต'างๆ ซ��งปรู้ะกี่อบกี่$นข้�0นมาเป2นหน��ง

เด�ยวม�ความส$มพ$นธิ กี่$นในที่างหน��งที่างใดรู้วมกี่ล)'มอย�'ด�วยกี่$น กี่รู้ะที่,ากี่ารู้เพ �อ

ความส,าเรู้:จตามที่��ต�องกี่ารู้ และกี่ารู้เคล �อนไหวในส'วนหน��งจะม�ปฏ�กี่�รู้�ยากี่รู้ะที่บต'อส'วนอ �นๆด�วย ส'วนปรู้ะกี่อบแต'ละส'วนกี่:เป2นรู้ะบบย'อยในต$ว ข้องม$นเอง

Page 128: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

ค)ณล$กี่ษณะข้องรู้ะบบปรู้ะกี่อบด�วย 1. ส'วนต'างๆข้องรู้ะบบจะอย�'ในสถึานะที่��เคล �อนไหวได� โดยเหต)

ที่��ส��งต'างๆ ที่��ม�อย�'ในโลกี่น�0 ไม'ว'าจะเป2นส��งที่��ม�อย�'ตามธิรู้รู้มชาต�หรู้ อส��งที่��มน)ษย

สรู้�างข้�0น แต'ละส��งต'างกี่:ม�ค)ณสมบ$ต�และกี่,าล$งความสามารู้ถึข้องม$น

2. กี่ารู้เคล �อนไหวหรู้ อแสดงออกี่ข้องส'วนต'างๆ จะม�ปฏ�กี่�รู้�ยากี่รู้ะที่บต'อกี่$น

เสมอ เม �อส��งต'างๆเหล'าน�0ม�ล$กี่ษณะรู้วมต$วอย�'ด�วยกี่$น กี่ารู้เคล �อนไหวหรู้ อกี่ารู้

แสดงออกี่ข้องแต'ละส'วน จ�งกี่'อให�เกี่�ดปฏ�กี่�รู้�ยากี่รู้ะที่บ และตอบโต�ซ��งกี่$นและ

กี่$น

Page 129: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

3. ในรู้ะบบหน��งๆ จะปรู้ะกี่อบด�วยรู้ะบบย'อยต'างๆ ( Subsystems ) และ

ภายในรู้ะบบย'อยอาจปรู้ะกี่อบด�วยรู้ะบบย'อยลงไปอ�กี่ได� 4. กี่ารู้เปล��ยนแปลงที่��เกี่�ดข้�0น ณ ส'วนใดส'วนหน��งข้องรู้ะบบ

ย'อมที่,าให�ม�ผลกี่รู้ะที่บที่��ต'อเน �องกี่$นเป2นล�กี่โซ' (Chain of Effects ) และ

จ,าเป2นต�องเปล��ยนแปลงหรู้ อปรู้$บปรู้)งส'วนอ �นข้องรู้ะบบด�วยความสมด)ล

กี่ารู้เปล��ยนแปลงข้องรู้ะบบย'อยอ$นใดอ$นหน��ง ย'อมสามารู้ถึที่,าให�กี่รู้ะที่บ

กี่รู้ะเที่ อนถึ�งรู้ะบบใหญ'ได�

Page 130: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

ว�ธิ�กี่ารู้ศ�กี่ษาองค กี่ารู้ในล$กี่ษณะรู้ะบบ อาจแยกี่พ�จารู้ณาได�เป2น 2 แนว

ที่าง ค อ กี่ารู้ศ�กี่ษาองค กี่ารู้ในล$กี่ษณะรู้ะบบปCด (Closed Systems Strategy)

และกี่ารู้ศ�กี่ษาองค กี่ารู้ในล$กี่ษณะรู้ะบบเปCด (Open Systems Strategy)

กี่ารู้ศ�กี่ษาองค กี่ารู้ในล$กี่ษณะรู้ะบบปCด เป2นกี่ารู้ศ�กี่ษาที่��ต$0งอย�'บนพ 0นฐาน

ข้องศาสตรู้ ที่างกี่ายภาพ ศ�กี่ษาถึ�งกี่ารู้ต$ดส�นใจที่��จะแกี่�ไข้ป1ญหาภายในต$ว

ข้องรู้ะบบเอง กี่ารู้แกี่�ไข้และกี่ารู้ต$ดส�นป1ญหาเป2นไปตามเหต)ผล ซ��งเหต)ผล

ด$งกี่ล'าวต$0งอย�'บนพ 0นฐานข้องกี่ฎีเกี่ณฑ์ และรู้ะเบ�ยบที่��กี่,าหนดไว�

Page 131: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

รู้ะบบเปCดม�ได�ค,าน�งแต'ด�านความส$มพ$นธิ กี่$บสภาพแวดล�อม แต'

รู้ะบบเปCดย$งค,าน�งถึ�งความส$มพ$นธิ รู้ะหว'างป1จจ$ยต'างๆ ที่��อย�'ภายในองค กี่ารู้

รู้ะบบเปCดปรู้$บต$วเองให�เข้�ากี่$บสภาพแวดล�อมตลอดเวลา โดยกี่ารู้เปล��ยน

แปลงโครู้งสรู้�าง และกี่รู้ะบวนกี่ารู้ข้องป1จจ$ยต'างๆ ภายในรู้ะบบเปCดจะม�

ล$กี่ษณะที่��ม�ความหมายกี่ว�างกี่ว'าและสมบ�รู้ณ กี่ว'ารู้ะบบปCดค)ณล$กี่ษณะข้องรู้ะบบเปCดจะข้ยายความสนใจไปถึ�งรู้ะบบ

ภายนอกี่รู้ะบบเปCดย$งคงถึ อว'าองค กี่ารู้ธิ)รู้กี่�จเป2นรู้ะบบๆหน��ง และองค กี่ารู้น�0

เองจะอย�'ภายในรู้ะบบ ซ��งเป2นสภาพแวดล�อมภายนอกี่องค กี่ารู้อ�กี่ที่�หน��ง

Page 132: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

รู้ะบบที่��อย�'ภายนอกี่องค กี่ารู้ค อ กี่�จกี่รู้รู้มข้องส��งต'าง ๆ ที่��อย�'ในรู้ะบบ

ข้องสภาพแวดล�อม (Environmental System) และม�ส'วนส$มพ$นธิ กี่$บรู้ะบบข้อง

องค กี่ารู้อย'างไม'ม�ที่างหล�กี่เล��ยงเหต)ข้องกี่ารู้น,าเอารู้ะบบสภาพแวดล�อมภายนอกี่มาส$มพ$นธิ กี่$บรู้ะบบ

ข้ององค กี่ารู้ กี่:เพรู้าะองค กี่ารู้เป2นรู้ะบบอ�สรู้ะหน��งที่��ต$0งข้�0นและจะม�ความเกี่��ยวพ$น

กี่$นอย�'เสมอกี่ารู้กี่รู้ะที่,าใด ๆ โดยองค กี่ารู้กี่:ย'อมสามารู้ถึส'งผลกี่รู้ะที่บต'อส'วนที่��อย�'

ภายนอกี่องค กี่ารู้หรู้ อรู้ะบบใหญ'ด�วยเสมอและหากี่สภาพแวดล�อมภายนอกี่

เปล��ยนแปลงไป กี่:ย'อมส'งต'อผลองค กี่ารู้ได�

Page 133: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

Kenneth E. Boulding ได�เสนอที่ฤษฎี�รู้ะบบที่$�วไป (General

System Theory) เพ �อเป2นกี่รู้อบที่$�วไปที่��ใช�ในกี่ารู้ศ�กี่ษารู้ะบบได�ที่)กี่รู้ะบบ

โดยแบ'งรู้ะบบได�เป2น 9 รู้ะด$บด$งน�0 1. โครู้งสรู้�างตายต$ว (The Static Structure) หรู้ อ

กี่รู้อบเค�าโครู้ง (Framework) เป2นรู้ะบบที่��ม�ความซ$บซ�อนน�อยที่��ส)ด ปรู้ะกี่อบ

ด�วยโครู้งสรู้�างที่��แน'นอนตายต$ว ได�แกี่' กี่ายว�ภาคข้องคนและส$ตว

(The Anatomy of System)

Page 134: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

2. รู้ะบบที่��เป2นพลว$ตรู้อย'างง'าย (The Simple Dynamic System)

เป2นรู้ะบบที่��เคล �อนไหวอย'างง'าย เช'น กี่ลไกี่นาฬิ�กี่า 3. รู้ะบบไซเบอรู้ เนต�กี่ (The Cybernetic System) เป2น

รู้ะบบที่��ด,าเน�นไปเพ �อรู้$กี่ษาด)ลยภาพสามารู้ถึควบค)มตนเองได� (A Process of

Self-Regulation)

4 . รู้ะบบเปCด (The Open System) เป2นรู้ะบบที่��สามารู้ถึด,ารู้งรู้$กี่ษา

ตนเองได� เช'น เซลข้องส��งม�ช�ว�ต 5. รู้ะบบปรู้ะสานกี่$นที่างพ$นธิ)กี่รู้รู้ม (The Genetic-

Societal System) เป2นล$กี่ษณะกี่ารู้แบ'งงานกี่$นที่,าข้องเซล

Page 135: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

6. รู้ะบบข้องส$ตว (Animal Systems) เป2นกี่ารู้เคล �อนไหวที่��แสดงออกี่

ที่างพฤต�กี่รู้รู้มเพ �อบรู้รู้ล)เป5าหมาย 7 . รู้ะบบมน)ษย (Human Systems) เป2นกี่ารู้แปล

ส$ญล$กี่ษณ และกี่ารู้ส �อสารู้แนวความค�ดต'าง ๆ

8. รู้ะบบส$งคม (Social Systems) เป2นรู้ะบบที่��แสดงถึ�งองค กี่ารู้ที่าง

ส$งคมข้องมน)ษย 9 . รู้ะบบกี่�าวพ�นโลกี่ (Transcendental Systems)

เป2นรู้ะบบสมบ�รู้ณ ส)ดยอด เช'น อาณาจ$กี่รู้พรู้ะเจ�า น�พพาน

Page 136: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

ส'วนปรู้ะกี่อบข้องส'วนปรู้ะกี่อบข้องรู้ะบบรู้ะบบ

ที่ฤษฎี�รู้ะบบ พ�จารู้ณาองค กี่ารู้ในฐานะเป2นรู้ะบบๆ หน��งที่��รู้วมข้องกี่�จกี่รู้รู้มต'าง ๆ ในกี่ารู้เรู้��มต�นให�รู้ะบบเรู้��มด,าเน�นกี่ารู้ องค กี่ารู้ต�อง

อาศ$ย ป1จจ$ยน,าเข้�า กี่รู้ะบวนกี่ารู้ ว�ธิ�กี่ารู้ ข้�อม�ลย�อนกี่ล$บ เพ �อกี่'อให�เกี่�ดผลงานตามจ)ดม)'งหมายที่��กี่,าหนดไว� องค กี่ารู้อย�'ที่'ามกี่ลางรู้ะบบอ �น

ๆ ข้องส$งคม อย�'ภายใต�อ�ที่ธิ�พลข้องส��งแวดล�อมม�ส'วนปรู้ะกี่อบ 5 ส'วนค อ

1. ป1จจ$ยน,าเข้�าส�'รู้ะบบ (Input) ค อที่รู้$พยากี่รู้ที่��ใช�ในกี่ารู้บรู้�หารู้งานข้อง

องค กี่ารู้ ได�แกี่' คน เง�นที่)น ว$สด) เที่คโนโลย� สารู้สนเที่ศ

Page 137: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

2 กี่รู้ะบวนกี่ารู้เปล��ยนป1จจ$ยน,าเข้�าให�เป2นผลล$พธิ (Transformation

Process) ค อ ว�ธิ�กี่ารู้ที่��น,าป1จจ$ยน,าเข้�าส�'รู้ะบบโดยด,าเน�นกี่ารู้เป2นข้$0นตอน

เพ �อให�ได�มาซ��งส��งที่��ออกี่จากี่รู้ะบบ กี่รู้ะบวนกี่ารู้ผล�ต กี่รู้ะบวนกี่ารู้จ$ดกี่ารู้

ซ��งแบ'งออกี่เป2นหลายข้$0นตอน เช'น กี่ารู้วางแผน กี่ารู้จ$ดกี่ารู้ที่รู้$พยากี่รู้

มน)ษย 3 . ส��งที่��ออกี่จากี่รู้ะบบ (Output) ค อเป5าหมายความต�องกี่ารู้

ข้ององค กี่ารู้อาจจะอย�'ในรู้�ปข้องผล�ตภ$ณฑ์ กี่ารู้บรู้�กี่ารู้ กี่,าไรู้ ความพ�งพอใจหรู้ อผลตอบแที่นต'างๆ

Page 138: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

4 . ข้�อม�ลย�อนกี่ล$บ (Feedback) เป2นข้�อม�ลที่��กี่ล$บมาส�'กี่รู้ะบวนกี่ารู้

เป2นต$วช'วยปรู้$บให�ส��งที่��ออกี่จากี่รู้ะบบได�มาตรู้ฐานเป2นที่��น'าพ�งพอใจ ข้�อม�ลต'างๆ ม�ความส$มพ$นธิ ต'อกี่$น จะถึ�กี่ส'งเข้�าย�อนกี่ล$บเข้�าส��รู้ะบบ

เพ �อกี่ารู้ปรู้$บปรู้)งส��งน,าเข้�าส�'รู้ะบบและกี่รู้ะบวนกี่ารู้ต'างๆ ให�สอดคล�อง

ต'อกี่$นอย'างม�ปรู้ะส�ที่ธิ�ผลและปรู้ะส�ที่ธิ�ภาพ ข้�อม�ลย�อนกี่ล$บ ที่,าให�รู้ะบบ

และกี่รู้ะบวนกี่ารู้ข้องกี่ารู้ด,าเน�นกี่ารู้เป2นไปอย'างม�ปรู้ะส�ที่ธิ�ภาพ และม�สมรู้รู้ถึภาพส�งตามที่��ต�องกี่ารู้ ช'วยให�ข้�อม�ลและแสดงกี่ารู้เปรู้�ยบ

เที่�ยบให�รู้��เห:นส��งที่��ได�ปฏ�บ$ต�เพ �อเป2นความรู้��ในกี่ารู้แกี่�ไข้หรู้ อรู้ะม$ดรู้ะว$งม�ให�ม�เหต)กี่ารู้ณ เกี่�ดข้�0นอ�กี่ และกี่ารู้ควบค)ม

Page 139: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

5. สภาพแวดล�อม (Environment) อาจแบ'งเป2นส��งแวดล�อมที่$�วไป

(General Environment) เป2นป1จจ$ยสภาพแวดล�อมที่��ไม'ได�ส'งผลกี่รู้ะที่บ

โดยตรู้งหรู้ อไม'ได�ส'งผลกี่รู้ะที่บต'อกี่ารู้ด,าเน�นกี่�จกี่รู้รู้มปรู้ะจ,าว$นข้อง องค กี่ารู้ ได�แกี่' ป1จจ$ยที่างเศรู้ษฐกี่�จ กี่ารู้เม อง ว$ฒนธิรู้รู้ม ส$งคม เที่คโนโลย� ส��งแวดล�อมที่��เกี่��ยวข้�องกี่$บงาน (Task Environment)

เป2นป1จจ$ย สภาพแวดล�อมที่��ส'งผลกี่รู้ะที่บโดยตรู้งหรู้ อส'งผลกี่รู้ะที่บต'อกี่ารู้ด,าเน�นกี่�จกี่รู้รู้มปรู้ะจ,าว$นข้ององค กี่ารู้ ได�แกี่' ล�กี่ค�า ค�'แข้'งข้$น ผ��จ$ดหาป1จจ$ยกี่ารู้ผล�ต (Suppliers) ตลาดแรู้งงาน (Labor Market)

Page 140: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

ปรู้ะโยชน ข้องว�ธิ�กี่ารู้แบบรู้ะบบ ว�ธิ�กี่ารู้แบบรู้ะบบช'วยให�ม�กี่รู้อบข้องกี่ารู้พ�จารู้ณาที่��รู้$ดกี่)ม และครู้อบคล)มถึ�งป1จจ$ยที่��เกี่��ยวข้�อง

ต'าง ๆ อย'างที่$�วถึ�ง แนวค�ดกี่ารู้จ$ดกี่ารู้ตามสถึานกี่ารู้ณ

Fred E. Fiedler ได�เสนอแนวความค�ดกี่ารู้จ$ดกี่ารู้ตามสถึานกี่ารู้ณ

(Situational Management Theory) หรู้ อที่ฤษฎี�อ)บ$ต�กี่ารู้ณ

(Contingency Theory) ในป> 1967 ซ��งถึ อเป2นที่ฤษฎี�กี่ารู้จ$ดกี่ารู้ที่��ข้�0นอย�'

กี่$บสภาพข้�อเที่:จจรู้�งด�วยแนวค�ดที่��ว'ากี่ารู้เล อกี่ที่างออกี่ที่��จะไปส�'กี่ารู้แกี่�ป1ญหาที่างกี่ารู้จ$ดกี่ารู้ว'าไม'ม�ว�ธิ�ใดที่��ด�ที่��ส)ด สถึานกี่ารู้ณ จะเป2นต$ว

กี่,าหนดว'าควรู้จะใช�กี่ารู้จ$ดกี่ารู้แบบใดในสภาวะกี่ารู้ณ น$0นๆ

Page 141: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

กี่ารู้บรู้�หารู้เช�งสถึานกี่ารู้ณ ถึ อว'ากี่ารู้บรู้�หารู้จะด�หรู้ อไม'ข้�0นอย�'กี่$บสถึานกี่ารู้ณ เป2นต$วกี่,าหนดกี่ารู้ต$ดส�นใจ และรู้�ปแบบกี่ารู้จ$ดกี่ารู้ที่��

เหมาะสม ผ��บรู้�หารู้ต�องพยายามว�เครู้าะห สถึานกี่ารู้ณ ให�ด�ที่��ส)ด โดยผสมผสาน

แนวค�ดรู้ะหว'างรู้ะบบปCดและรู้ะบบเปCด และยอมรู้$บหล$กี่กี่ารู้ข้องที่ฤษฎี�รู้ะบบว'าที่)กี่ส'วนข้องรู้ะบบจะต�องส$มพ$นธิ กี่$น และม�ผลกี่รู้ะที่บซ��งกี่$นและกี่$น

กี่ารู้บรู้�หารู้เช�งสถึานกี่ารู้ณ จะค,าน�งถึ�งส��งแวดล�อมและความต�องกี่ารู้ข้อง

บ)คคลในหน'วยงานเป2นหล$กี่มากี่กี่ว'าที่��จะแสวงหาว�ธิ�กี่ารู้อ$นด�เล�ศมาใช�ใน

กี่ารู้ที่,างาน

Page 142: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

ที่ฤษฎี�กี่ารู้บรู้�หารู้ตามสถึานกี่ารู้ณ Contingency Theory ม�ฐานคต�ว'าองค กี่ารู้ที่��เหมาะสมที่��ส)ดควรู้จะเป2นองค กี่ารู้ที่��ม�โครู้งสรู้�าง ม�รู้ะบบที่��สอดคล�อง

กี่$บสภาพแวดล�อมและสภาพความเป2นจรู้�ง เป2นที่ฤษฎี�ที่��ปฏ�เสธิแนวความค�ด ว�ธิ�

กี่ารู้ที่��ด�ที่��ส)ด (One Best Way) ข้อง Frederick Winslow Taylor

เปCดโอกี่าสให�สามรู้ถึรู้$บรู้��ถึ�งป1ญหาที่��ย) 'งยากี่ส$บสนต'างๆ ที่��ม$กี่จะม�อย�'ในองค กี่ารู้สม$ยใหม' ว�ธิ�กี่ารู้แกี่�ไข้ที่��ด� อาศ$ยกี่ารู้จ$ดแบบความส$มพ$นธิ เพ �อกี่ารู้

ว�เครู้าะห และสามารู้ถึด,าเน�นกี่ารู้กี่,าหนดโครู้งรู้�ปข้องเรู้ �องที่��จะว�เครู้าะห ภายในข้อบเข้ต

ข้องรู้ะบบย'อยต'าง ๆ ได�อย'างช$ดเจนที่,าให�เกี่�ดผลด�ในที่างปฏ�บ$ต�ตามสภาพที่��เป2นจรู้�งและถึ�กี่ต�องตามสถึานกี่ารู้ณ

Page 143: ความรู้ รองศาสตร์ ดร.เชาว์  โรจนแสง

ว�ธิ�กี่ารู้จ$ดกี่ารู้ตามสถึานกี่ารู้ณ เป2นว�ธิ�ที่��สามารู้ถึให�ค,าตอบที่��ส)ด ส,าหรู้$บที่)กี่สถึานกี่ารู้ณ หรู้ อที่)กี่เหต)กี่ารู้ณ

Stephen P. Robbins ได�ช�0ให�เห:นถึ�งจ)ดเด'นที่��เป2นข้�อด�ข้องว�ธิ�กี่ารู้จ$ดกี่ารู้

ตามสถึานกี่ารู้ณ ว'า ล$กี่ษณะที่��ตรู้งข้�ามกี่$บกี่ารู้มองเป2นรู้ะบบจะมองเห:นได�

เพ�ยงผ�วเผ�น กี่ารู้ใช�กี่รู้อบกี่ารู้ว�เครู้าะห ตามสถึานกี่ารู้ณ จะช'วยให�สามารู้ถึ

พ�จารู้ณาถึ�งป1จจ$ยผ$นแปรู้ที่$0งที่��ม�อย�'ภายในและภายนอกี่ ซ��งจะม�ผลต'อกี่ารู้

จ$ดกี่ารู้ข้องผ��บรู้�หารู้และต'อผลงานข้ององค กี่ารู้ ค)ณค'าข้องว�ธิ�กี่ารู้จ$ดกี่ารู้

ตามสถึานกี่ารู้ณ ที่��เสนอแนวที่างที่��ช$ดเจนให�กี่$บผ��บรู้�หารู้ จะเป2นปรู้ะโยชน อย'างมากี่