บัณฑิตแนะแนว - 210.1.60.79

บัณฑิตแนะแนว TOP ช้ัน ม.3 วิชาภาษาอังกฤษ 1

คํานํา หนังสือ ชุด TOP เปนหนังสือคูมือเตรียมสอบแนวใหม เหมาะสําหรับนักเรียนที่ตองการทบทวนเนื้อหาอยางละเอียด เพื่อผลการสอบที่ยอดเยี่ยม และสําหรับครูอาจารย เพื่อใชเปนคูมือประกอบการสอน ซึ่งไดจัดพมิพแยกวิชา-แยกชั้น ตามระดบัการศกึษาของนักเรยีน ดังนี้ - TOP ระดับประถมตน (ช้ัน ป.1, ป.2 และ ป.3) มีท้ังหมด 15 เลม (วิชาละ 1 เลม/ชั้น) โดยพมิพแยกเปนชั้นละ 5 วิชา คือ คณิตศาสตร, ภาษาไทย, สังคมศึกษา, วิทยาศาสตร และ ภาษาอังกฤษ - TOP ระดับประถมปลาย (ช้ัน ป.4, ป.5 และ ป.6) มีท้ังหมด 15 เลม (วิชาละ 1 เลม/ชั้น) โดยพมิพแยกเปนชั้นละ 5 วิชา คือ คณิตศาสตร, ภาษาไทย, สังคมศึกษา, วิทยาศาสตร และ ภาษาอังกฤษ - TOP ระดับมัธยมตน (ช้ัน ม.1, ม.2 และ ม.3) มีท้ังหมด 15 เลม (วิชาละ 1 เลม/ชั้น) โดยพมิพแยกเปนชั้นละ 5 วิชา คือ คณิตศาสตร, ภาษาไทย, สังคมศึกษา, วิทยาศาสตร และ ภาษาอังกฤษ - TOP ระดับมัธยมปลาย (ช้ัน ม.4, ม.5 และ ม.6) มีท้ังหมด 26 เลม (วิชาละ 1 เลม/ชั้น) โดยพมิพแยกเปนชั้นละ 9 วชิา คือ ภาษาไทย, ภาษาอังกฤษ, สังคมศึกษา, ฟสิกส, เคมี, ชีววิทยา, คณิตศาสตร 1, คณิตศาสตร 2 และ วิทยาศาสตรกายภาพชวีภาพ หนังสือ TOP เลมนี ้ สํานักงานบัณฑิตแนะแนว ไดมอบใหผูเขียนทําการปรบัปรุง, เพิม่เติม และแกไขความผิดพลาดตางๆ จากตนฉบบัเดิม ท้ังในสวนของการสรุปเนื้อหา, แบบฝกหัด และเฉลย เพื่อใหมีความสมบูรณตรงตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานของกระทรวงศึกษาธิการ จึงหวังเปนอยางยิ่งวาหนังสือน้ีจะอํานวยประโยชนแกนักเรียนและครูอาจารยมากพอควร และหากพบขอบกพรองประการใด โปรดแจงใหทางสํานักงานทราบดวย จกัเปนพระคุณยิ่ง

สํานักงานบัณฑิตแนะแนว

กองบรรณาธิการ : ไพจิตร ศุภพิมล สุตาภัทร ชัยชนะ ชัชชฎา รัตนจันทร รศพร ตั้งเหลาวัฒนชัย คอมพิวเตอร : เพยาว ชาวบานซอง สุจิตตา ไชยจันลา สาริกา โกยรัมย อระสา อุนทรพันธุ

ศิลปกรรม : บุญเลิศ จันทรนาค ธีรยุทธ พงษศิริรัตน ปรีดาวรรณ ชลชีพ เจาของ : สํานักงานบัณฑิตแนะแนว

เลขที่ 1033/4 ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม. 10400 โทรศัพท 02-2794808 และ 02-6195844 แฟกซ 02-6171820

พิมพท่ี : หางหุนสวนจํากัดรุงเรืองสาสนการพิมพ เลขที่ 195/6 หมู 5 ซอยพุทธบูชา 44 แขวงบางมด เขตทุงครุ กทม. 10140 โทรศัพท 02-8706301-3

สงวนลขิสิทธ์ิตามพระราชบัญญติั พ.ศ. 2537 : หามลอกเลียน คัดลอก จัดพิมพ หรือทําซ้ํา ไมวาสวนใดสวนหนึ่งของหนังสือเลมนี้กอนไดรับอนุญาตเปนลายลกัษณอักษร

TOP ชั้น ม.3 วิชาภาษาอังกฤษ

2 บัณฑิตแนะแนว TOP ช้ัน ม.3 วิชาภาษาอังกฤษ

สารบัญ

สาระและมาตรฐานการเรียนรูกลุมสาระการเรียนรูภาษาอังกฤษ ..................113 The uses of the tenses.........................................................................................116 Nouns and Expressions of Quantity.............................................................134 Pronouns ........................................................................................................................163 Direct and Indirect Objects................................................................................176 Adjective and Adverb.............................................................................................181 Agreement of Subjects and Verbs ................................................................104 Question-Tag ..............................................................................................................110 Connectors ...................................................................................................................118 Prepositions .................................................................................................................125 Conditional Sentences and Wish....................................................................135 Active & Passive Voice .........................................................................................147 Verbals.............................................................................................................................161 Direct and Indirect Speech ................................................................................181 เฉลย ...................................................................................................................................190

ซ.พหล

โยธิน 3

ไปสะพานควาย ถ.พหลโยธิน

ซ.พหล

โยธิน 1

ไปดินแ

ดงถ.ร

าชวิถี

ไปราชเทวีสนามเปา

สถานรีถไฟฟาซ.พหล

โยธิน 2

รพ.ราชวิถีรพ.พระมงกุฎ

BTS

รพ.พญาไท 2

TV สชีอง 5

สํานักงานบัณฑิตแนะแนว 1033/4 ถ.พหลโยธิน สามเสนใน พญาไท กทม. 10400

Website : www.bunditnaenaew.com แฟกซอัตโนมัต ิ02-6171820 และ 02-2796611 ฝายประชาสัมพันธ โทรศัพท 02-2794808 เปดทําการทุกวนั (จันทร-อาทิตย) เวลา 08.00-17.00 น.

ฝายประสานงานโรงเรียน-รานคา โทรศัพท 02-2794433 เฉพาะวันจันทร-วันศุกร เวลา 08.00-17.00 น.


สาระและมาตรฐานการเรียนรู ในหลักสูตรการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พ.ศ. 2544

กลุมสาระการเรียนรู ภาษาตางประเทศ

ชวงชั้นที่ 3 (ม.1-ม.3) สาระที่ 1 : ภาษาเพื่อการสื่อสาร มาตรฐาน ต 1.1 : เขาใจกระบวนการฟงและการอาน สามารถตีความเรื่องท่ีฟงและอานจากสื่อประเภทตางๆ และนําความรูมาใชอยางมีวิจารณญาณ มาตรฐาน ต 1.2 : มีทักษะในการสื่อสารทางภาษา แลกเปลี่ยนขอมูล ขาวสาร แสดงความรูสึกและความ คิดเห็นโดยใชเทคโนโลยีและการจัดการท่ีเหมาะสม เพ่ือการเรียนรูตลอดชีวิต มาตรฐาน ต 1.3 : เขาใจกระบวนการพูด การเขียน และส่ือสารขอมูล ความคิดรวบยอดและความคิดเห็น ในเรื่องตางๆ ไดอยางสรางสรรค มีประสิทธิภาพ และมีสุนทรียภาพ สาระที่ 2 : ภาษาและวัฒนธรรม มาตรฐาน ต 2.1 : เขาใจความสัมพันธระหวางภาษากับวัฒนธรรมของเจาของภาษา และนําไปใชไดอยาง เหมาะสมกับกาลเทศะ มาตรฐาน ต 2.2 : เขาใจความเหมือนและความแตกตางระหวางภาษาและวัฒนธรรมของเจาของภาษากับภาษา และวัฒนธรรมไทย และนํามาใชอยางมีวิจารณญาณ สาระที่ 3 : ภาษากับความสัมพันธกับกลุมสาระการเรียนรูอ่ืน มาตรฐาน ต 3.1 : ใชภาษาตางประเทศในการเชื่อมโยงความรูกับกลุมสาระการเรียนรูอื่น และเปนพ้ืนฐาน ในการพัฒนาและเปดโลกทัศนของตน


สาระที่ 4 : ภาษากับความสัมพันธกับชุมชนและโลก มาตรฐาน ต 4.1 : สามารถใชภาษาตางประเทศตามสถานการณตางๆ ท้ังในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม มาตรฐาน ต 4.2 : สามารถใชภาษาตางประเทศเปนเครื่องมือในการเรียนรู การศึกษาตอ การประกอบอาชีพ การสรางความรวมมือ และการอยูรวมกันในสังคม


สาระและมาตรฐานการเรียนรู หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. ๒๕๕๑

กลุมสาระการเรียนรู ภาษาตางประเทศ

สาระที่ ๑ : ภาษาเพื่อการสื่อสาร มาตรฐาน ต ๑.๑ : เขาใจและตีความเรื่องท่ีฟงและอานจากสื่อประเภทตางๆ และแสดงความคิดเห็นอยางมี

เหตุผล มาตรฐาน ต ๑.๒ : มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนขอมูลขาวสาร แสดงความรูสึก และความ

คิดเห็นอยางมีประสิทธิภาพ มาตรฐาน ต ๑.๓ : นําเสนอขอมูลขาวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องตางๆ โดยการพูดและ

การเขียน

สาระที่ ๒ : ภาษาและวัฒนธรรม มาตรฐาน ต ๒.๑ : เขาใจความสัมพันธระหวางภาษากับวัฒนธรรมของเจาของภาษา และนําไปใชไดอยาง

เหมาะสมกับกาลเทศะ มาตรฐาน ต ๒.๒ : เขาใจความเหมือนและความแตกตางระหวางภาษาและวัฒนธรรมของเจาของภาษากับภาษา

และวัฒนธรรมไทย และนํามาใชอยางถูกตองและเหมาะสม

สาระที่ ๓ : ภาษากับความสัมพันธกับกลุมสาระการเรียนรูอ่ืน มาตรฐาน ต ๓.๑ : ใชภาษาตางประเทศในการเชื่อมโยงความรูกับกลุมสาระการเรียนรูอื่น และเปนพ้ืนฐานใน

การพัฒนา แสวงหาความรู และเปดโลกทัศนของตน

สาระที่ ๔ : ภาษากับความสัมพันธกับชุมชนและโลก มาตรฐาน ต ๔.๑ : ใชภาษาตางประเทศในสถานการณตางๆ ท้ังในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม มาตรฐาน ต ๔.๒ : ใชภาษาตางประเทศเปนเครื่องมือพ้ืนฐานในการศึกษาตอ การประกอบอาชีพ และการ

แลกเปลี่ยนเรียนรูกับสังคมโลก


The uses of the tenses

Tense คือ รูปของคํากริยา (Verb) ท่ีเปล่ียนแปลงไปตามเวลาที่เกิดขึ้นของเหตุการณ โดยในภาษาอังกฤษจัดแบง Tense เปน 3 กลุม ดังนี้ 1. Present Tense 2. Past Tense 3. Future Tense และท้ัง 3 Tenses นี้ยังแบงยอยออกเปน 4 Tenses ดังแผนภูมิตอไปนี้ Present Simple Subject + V1 (-s, -es) + ... Present Progressive / Continuous Subject + is / am / are + V-ing + ... Present Tense → Present Perfect Subject + has / have + V3 + ... Present Perfect Progressive / Continuous Subject + has / have + been + V-ing + ...

บัณฑิตแนะแนว TOP ช้ัน ม.3 วิชาภาษาอังกฤษ 7 Past Simple Subject + V2 + ... Past Progressive / Continuous Subject + was / were + V-ing + ... Past Tense → Past Perfect Subject + had + V3 ... Past Perfect Progressive / Continuous Subject + had + been + V-ing + ... Future Simple Subject + will / shall + V1 หรือ Subject + is / am / are + going + to + V1 Future Progressive / Continuous Subject + will / shall + be + V-ing + ... Future Tense → Future Perfect Subject + will / shall + have + V3 + ... Future Perfect Progressive / Continuous Subject + will / shall + have + been + V-ing + ... ใหนักเรียนศึกษาแผนภูมิประกอบ เพ่ือความชัดเจนและการสรุปความคิดรวบยอด


แผนภมูิความคิดรวบยอดเกี่ยวกับ English Verb Tenses

THE SIMPLE FAMILY

THE PERFECT FAMILY

THE PROGRESSIVE FAMILY

THE PERFECT PROGRESSIVE FAMILY

PastSimple

PresentSimple

FutureSimple

Used for repeatedactions or general facts

1

PastPerfect

PresentPerfect

FuturePerfect

Used to show that an action has(had/will have) finished before adefinite time or a second action.

PastProgressive

PresentProgressive

FutureProgressive

Not usedfor short

dramationaction

Not used with abstractverds (verbs of thought,

emotion, possession,sense or auxiliaries)

Used for an action that is(was/will be) going on fora longer period of time, is

important and has abeginning and an end.

Past PerfectProgressive

Present PerfectProgressive

Future PerfectProgressive

Combinescharacteristions of the

Progressives andPerfects.

Used for a "long" action thathas (had/will have) finishedbefore a definite time or a

second action.

2

ENGL

ISH V

ERB T

ENSE

S

หมายเหตุ : ความหมายที่ 1 แสดงวาใชบอยประมาณ 80% ขึ้นไป ความหมายที่ 2 แสดงวาใชนอยกวา ความหมายที่ 1 โดยใชประมาณ 15%


1. The Simple Present Tense โครงสรางประโยค : Subject + V1 (ประธานเอกพจนบุรุษท่ี 3 คํากริยาเติม -s หรือ -es) Death comes to everyone sooner or later. Nurses look after patients in hospitals. การนําไปใช : Tense นี้มีการใชท่ีสําคัญดังนี้ 1. ใชแสดงเหตุการณคือ การกระทําท่ีเปนจริงโดยทั่วไป (general truths) หรือเปนจริงตามธรรมชาติ เชน The sun sets in the west. Water freezes at O°C. Honey is sweet. 2. ใชแสดงเหตุการณ หรือการกระทําท่ีเกิดขึ้นเปนประจํา (habitual actions) จนเปนนิสัย หรือเปนประเพณีท่ีปฏิบัติสืบตอกันมา และขอความที่เปนสุภาษิต เชน He drinks tea and coffee every morning. (เขาดื่มชาและกาแฟทุกๆ เชา) My watch keeps good time. (นาฬิกาของฉันเดินไดตรงอยู) Actions speak louder than words. (ทําดีกวาพูด) 3. ใชในประโยคอุทาน (exclamatory sentences) ท่ีขึ้นตนดวย Here และ There เชน Here comes the bus! There she goes! และยังใชในประโยคคําส่ัง (imperative) เชน Sit down. Open the window. Stop talking. 4. ใชกับเหตุการณ หรือการกระทําท่ีไดเตรียมการไวแลววาจะทําในอนาคต เชน (มีความหมายเปนอนาคต) We go Pattaya next week. They leave for London tomorrow. 5. กริยาในกลุมตางๆ ตอไปน้ีจะใชในรูป the simple present tense เสมอ Verbs of perception : see, hear, smell, notice, recognize Verbs of appearing : appear, look, seem Verbs of emotion : want, wish, desire, feel, like, hate, prefer, hope Verbs of thinking : think, suppose, believe, trust, remember, forget, know นอกจากนี้ยังมีคํากริยาอื่นๆ อีก เชน have (มี), own, belong, contain, consist เปนตน He loves his wife and children very much. This house belongs to us. We believe in his story.


คําและวลีท่ีเปนตัวแนะบอก Tense น้ี ไดแก always every + noun usually every month often every year sometimes every day frequently every Monday generally once a week naturally twice a month rarely on Fridays hardly once in a while seldom never

หลักการเติม -S ท่ีคํากริยา 1. คํากริยาท่ีลงทายดวย s, ss, sh, ch, o, x และ z ใหเติม -es เชน pass → passes push → pushes watch → watches go → goes fix → fixes quiz → quizzes 2. คํากริยาท่ีลงทายดวย y และหนา y เปนพยัญชนะใหเปล่ียน y เปน i แลวเติม -es ถาหนา y เปนสระใหเติม -s ไดเลย เชน cry → cries try → tries stay → stays 3. คํากริยาอื่นๆ นอกเหนือจากนี้เติม -s ไดเลย เชน walk → walks drink → drinks ใหนักเรียนศึกษาแผนภูมิท่ี 1 เพ่ือสรุปความคิดรวบยอดอีกครั้ง 2. The Present Progressive Tense โครงสรางประโยค : Subject + is / am / are + V -ing + ... I am reading a book. They are studying English now. He is watching television. การนําไปใช : Tense นี้มีการนําไปใชในลักษณะตอไปนี้ 1. ใชกับเหตุการณ หรือ การกระทําท่ีกําลังเกิดขึ้น ในขณะที่พูด (happening at the time of speaking) เชน Somsri is singing now. The boys are playing hockey. I am talking to my students at the moment.


บางครั้ง ในการใชลักษณะนี้จะมีคําบอกเวลา (adverb of time) ตอไปนี้กํากับดวย เชน now right now at present just now at the moment

2. ใชกับเหตุการณหรือการกระทําท่ีอยูในระหวางการดําเนินการ ซึ่งเกิดขึ้นมาแลว และในขณะที่พูดการกระทําน้ันก็ยังไมจบ แตในขณะที่พูดเหตุการณน้ันไมไดกําลังเกิดขึ้นก็ได (happening around the time of speaking) เชน Tom and Ann are talking and drinking in a Cafe. Tom says : I’m reading an interesting book at the moment. I’ll lend it to you when I’ve finished it. จากตัวอยางท่ีพบวา ทอมไมไดอานหนังสือในขณะที่พูดกับแอน แตตอนนี้เขากําลังอยูในชวงท่ีกําลังอานหนังสือ แตยังอานไมจบเลม นักเรียนลองพิจารณาจากประโยคตอไปนี้ Peter is learning French at the moment. Jack is building his own house. 3. ใชกับเหตุการณ หรือการกระทําท่ีเตรียมการ หรือวางแผนไวแลวท่ีจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล (near future) เชน I am going to the cinema tonight. My mother is arriving tomorrow. การใชลักษณะนี้จะมีคําแสดงเวลาที่แสดงอนาคตกํากับอยูดวย เชน tomorrow, next Sunday, next month, etc. 4. ใชกับเหตุการณหรือการกระทําท่ีอยูในสภาวะซึ่งกําลังเปลี่ยนแปลง (changing situation) เชน The world population is rising very fast. Is your English getting better? 5. กริยาลักษณะตอไปน้ี ไมใช the present progressive tense (ดูจากการใชขอ 5 ในเรื่อง simple present tense) เชน see remember smell believe recognize (จําได) trust (เชื่อ) refuse (ปฏิเสธ) seem desire suppose (คิด) hate expect (คาดหวัง) know mean (ต้ังใจ)


หลักการเติม -ing 1. คํากริยาชอง 1 ท่ีมีพยางคเดียว มีสระตัวเดียว ตัวสะกดตัวเดียวกอนเติม -ing ตองเพ่ิมตัวสะกดอีกหนึ่งตัวกอน เชน sit → sitting dig → digging swim → swimming rob → robbing run → running get → getting 2. คํากริยาชอง 1 ท่ีลงทายดวย -e กอนเติม -ing ตัด -e ออกกอน เชน take → taking write → writing live → living argue → arguing คํากริยาท่ีลงทายดวย -ee ใหเติม -ing ไดเลย เชน see → seeing (เห็น) agree → agreeing (เห็นดวย) free → freeing (ทําใหเปนอิสระ) 3. คํากริยาชอง 1 ท่ีลงทายดวย -ie ใหเปล่ียน -ie เปน y กอนเติม -ing เชน die → dying (ตาย, หมดส้ิน) lie → lying (นอน) tie → tying (ผูก) 4. คํากริยาชอง 1 ท่ีมี 2 พยางค ซ่ึงออกเสียงเนนหนักท่ีพยางคทายและพยางคทายมีสระตัวเดียว ตัวสะกดตัวเดียว ใหเพ่ิมตัวสะกดอีกตัวกอนเติม -ing เชน refer → referring occur → occurring หมายเหตุ : คํากริยาตอไปนี้สะกดได 2 แบบ คือ แบบอังกฤษ และแบบอเมริกัน

แบบอังกฤษ แบบอเมริกัน travelling quarrelling

traveling quarreling

ใหนักเรียนศึกษาแผนภูมิท่ี 2 เพ่ือสรุปความคิดรวบยอดอีกครั้ง


3. The Present Perfect Tense โครงสรางประโยค : Subject + has / have + V3 + ... Peter has lived in London for 20 years. I have taught English since 1990. การนําไปใช : tense นี้มีการนําไปใชท่ีสําคัญดังนี้ 1. ใชแสดงการกระทําท่ีเกิดขึ้นในอดีต และยังดําเนินตอเน่ืองมาจนถึงปจจุบัน และอาจจะดําเนินตอไปในอนาคต เชน I have known him for a long time. He has been ill since last week. We have lived here for ten years. การใชในลักษณะนี้ อาจจะมี คํา หรือกลุมคําตอไปนี้อยูดวย เชน since + จุดเริ่มตนของเหตุการณ for + ระยะเวลา so far (จนบัดนี้) up to now (จนกระทั่งบัดนี้) up to the present time (จนกระทั่งถึงปจจุบัน) 2. ใชกับเหตุการณหรือการกระทําท่ีเกิดขึ้นซ้ําๆ หลายครั้งในอดีต แตไมไดระบุเวลาวาเกิดขึ้นเมื่อใด เชน I have gone to see “Alien” several times. They have read this novel over and over. Our family has eaten at this restaurant many times. 3. ใชแสดงเหตุการณ หรือ การกระทําท่ีเกิดขึ้นในอดีต และเพิ่งจะจบลงไมนาน โดยจะมีคําเหลานี้ กํากับอยูดวย เชน already (เรียบรอยแลว), just (เพ่ิงจะ), finally (ในท่ีสุด), recently (เร็วๆ นี้), eventually (ในท่ีสุด), yet (ยัง) They have just gone out. He has already finished his homework. We haven’t done it yet. 4. ใชกับเหตุการณหรือการกระทําท่ีเกิดขึ้นและจบลงแลว แตยังมีผลของการกระทําน้ันหรือมีผลกระทบบางอยางในปจจุบัน เชน I have cut my finger. (ผลยังมีใหเห็นคือเลือดไหล หรือยังมีบาดแผล) Jack has turned on the radio. (ผลคือวิทยุยังเปดอยู) ใหนักเรียนศึกษาแผนภูมิท่ี 3 เพ่ือสรุปความคิดรวบยอดอีกครั้ง


4. The Present Perfect Progressive Tense โครงสรางประโยค : Subject + has / have + been + V-ing + ... Smith has been sleeping for five hours. They have been building this bridge for several months. การนําไปใช : ใชกับเหตุการณหรือการกระทําท่ีเกิดขึ้นในอดีตและยังตอเน่ืองไปในอนาคต เชน He has been reading the newspaper for an hour. She has been studying English for 15 years. ขอสังเกต : การใช tense นี้คลายกับ Present Perfect ตางกันตรงที่ tense นี้จะเนนความตอเนื่องของเหตุการณจากอดีตถึงปจจุบัน และตอเนื่องไปถึงอนาคต ดังนั้นคํากริยาท่ีใชใน tense นี้สวนใหญเปนกริยาท่ีแสดงการกระทําติดตอกันไดนานๆ เชน stay, live, work, learn, sleep, play, etc. สวนคํากริยา like, know, understand, act. ไมใช ใน tense นี้ ใหนักเรียนศึกษาแผนภูมิท่ี 4 เพ่ือสรุปความคิดรวบยอดอีกครั้ง 5. The Past Simple Tense โครงสรางประโยค : Subject + V2 + ... Mr. Edward died five months ago. I worked in a bank last year. การนําไปใช : tense นี้มีการใชในลักษณะตอไปนี้ 1. ใชกับเหตุการณ หรือการกระทําท่ีเกิดขึ้นและจบสิ้นแลวในอดีต เชน I lived in Africa from 1964 to 1982. We played tennis yesterday. I told you five minutes ago. 2. ใชแสดงนิสัยท่ีเคยทําในอดีต (past habit) แตปจจุบันไมไดทําแลว เชน They used to drink a lot. I gambled when I was young. 3. ใชแสดงเหตุการณ หรือการกระทําตางๆ ท่ีเกิดขึ้นตอเน่ืองกันในอดีตตามลําดับ เชน I entered the room, switched on the television, sat on the sofa and lit a pipe. คําแสดงเวลาที่ใชใน tense นี้ไดแก ago, yesterday, once, last week, last month, the other day (วันกอน) หรือประโยค (clause) ตอไปนี้ when he was young..., when he was ten... การเปลี่ยนกริยาชอง 1 เปนชอง 2 1. กริยาชอง 1 ท่ีลงทายดวย -y และหนา y เปนพยัญชนะ (consonants) เปล่ียน y เปน i แลวเติม –ed เชน marry → married try → tried rely → relied (ไวใจ, วางใจ) ถาหนา y เปนสระ (vowels) ใหเติม -ed ไดทันที เชน stay → stayed obey → obeyed enjoy → enjoyed

บัณฑิตแนะแนว TOP ช้ัน ม.3 วิชาภาษาอังกฤษ 15 2. กริยาชองท่ี 1 ท่ีมีพยางคเดียว มีสระตัวเดียว ตัวสะกดตัวเดียว ใหเพ่ิมตัวสะกดอีกหนึ่งตัวกอนเติม -ed เชน plan → planned stop → stopped beg → begged 3. กริยาชอง 1 ท่ีมี 2 พยางค และออกเสียงเนนหนักท่ีพยางคทาย พยางคทายมีสระตัวเดียว ตัวสะกด ตัวเดียว ตองเพ่ิมพยัญชนะทายอีก 1 ตัว กอนเติม -ed เชน refer → referred (อางถึง) permit → permitted (อนุญาต) occur → occurred (เกิดขึ้น) 4. กริยาชอง 1 ท่ีนอกเหนือจากนี้ใหเติม -d หรือ -ed ไดทันที เชน love → loved move → moved reach → reached end → ended 5. เปล่ียนรูปกริยาชอง 1 เมื่อเปนชอง 2 เชน run → ran come → came swim → swam bite → bit 6. กริยาชอง 1 และชอง 2 ใชรูปเดียวกัน เชน hit → hit cut → cut put → put shut → shut ใหนักเรียนศึกษาแผนภูมิท่ี 5 เพ่ือสรุปความคิดรวบยอดอีกครั้ง 6. The Past Progressive Tense โครงสรางประโยค : Subject + was / were + V-ing + ... Max was listening to the radio all evening. When I saw them, they were playing chess. การนําไปใช : tense นี้มีการนําไปใชลักษณะตอไปนี้ 1. ใชกับเหตุการณ 2 เหตุการณ ท่ีเกิดขึ้นไมพรอมกันในอดีต เหตุการณแรกกําลังดําเนินอยู เหตุการณท่ี 2 เกิดแทรกขึ้นมา เหตุการณแรกใช past progressive tense เหตุการณท่ี 2 ใช past simple tense Tom burnt his hand when he was cooking dinner. เหตุการณท่ี 2 เหตุการณท่ี 1 It was raining when I got up. เหตุการณท่ี 1 เหตุการณท่ี 2


2. ใชแสดงเหตุการณหรือการกระทําท่ีกําลังดําเนินอยู ณ จุดเวลาที่กําหนดไวในอดีตอยางแนนอน เชน This time last year I was living in Brazil. What were you doing at 11:30 last night? 3. ใชกับเหตุการณหรือการกระทํา 2 เหตุการณ ท่ีกําลังเกิดขึ้นพรอมกันในอดีต เชน My father was drinking while I was reading. We were sitting while he was standing. ใหนักเรียนศึกษาแผนภูมิท่ี 6 เพ่ือสรุปความคิดรวบยอดอีกครั้ง 7. The Past Perfect Tense โครงสรางประโยค : Subject + had + V3 + ... My friend arrived after I had waited for fifteen minutes. That man had killed the old woman before the policemen could save her. การนําไปใช : tense นี้มีการใชในลักษณะตอไปนี้ 1. ใชกับเหตุการณหรือการกระทํา 2 อยางท่ีเกิดขึ้นไมพรอมกันในอดีต โดยใช past perfect tense กับเหตุการณท่ีหน่ึงท่ีเกิดขึ้นและจบลงไปกอนแลวใช past simple tense กับเหตุการณท่ีสองท่ีเกิดตอมา เชน I had written the letter before he arrived. When we arrived, the others had all left. การใชลักษณะนี้มีคําเชื่อมเวลา before, after, as soon as เชื่อม 2 เหตุการณก็ไดเชน As soon as he’d seen the policeman, he began to get nervous. The teacher took my paper before I had finished the test. 2. ใชในประโยค Indirect Speech เชน Direct : He said, “I have finished my work.” Indirect : He said that he had finished his work. ใหนักเรียนศึกษาแผนภูมิท่ี 7 เพ่ือสรุปความคิดรวบยอดอีกครั้ง 8. The Past Perfect Progressive Tense โครงสรางประโยค : Subject + had + been + V-ing + ... He had been working very long. We’d not been waiting long. I found the key yesterday. I’d been looking for some time. การนําไปใช : ใชแสดงเหตุการณหรือการกระทําซึ่งเกิดขึ้นต้ังแตอดีต ตอเน่ืองมาถึงปจจุบัน และจะดําเนินตอเนื่องตอไปในอนาคต จะเห็นวามีวิธีการใชเชนเดียวกัน แตเปนการเนนวาเหตุการณท่ีเกิดขึ้นกอนมีความตอเนื่องอยางไมขาดตอนจนกระทั่งอีกเหตุการณหนึ่งเกิดขึ้น เชน He’d been playing tennis for hours before she arrived. How long had you been standing in front of the bank when you heard the alarm bell? ใหนักเรียนศึกษาแผนภูมิท่ี 8 เพ่ือสรุปความคิดรวบยอดอีกครั้ง


9. The Future Simple Tense โครงสรางประโยค : Subject + will / shall + V1 + ... Bill will travel to Rome tomorrow. We’ll probably go out this evening. การนําไปใช : Tense นี้มีการใชในลักษณะตอไปนี้ 1. ใชแสดงเหตุการณหรือการกระทําท่ีเกิดขึ้นในอนาคต เชน I will come to see you tomorrow. They will give you some money next month. การใชลักษณะนี้อาจจะมีคําบอกเวลาตอไปนี้ กํากับดวยก็ได เชน soon in two days tomorrow tonight next week (year, month...) in the future in a few minutes etc. 2. ใชแสดงเหตุการณหรือการกระทําในประโยคเงื่อนไข เชน If you leave at 08:30, you will arrive at 12:00. If it’s a fine day, we’ll be having a picnic. 3. การใช will และ be going to ใน future tense มีความแตกตางกันกลาวคือ ถาเปนการกระทําท่ีมีการตัดสินใจที่จะทําไวลวงหนาหรือมีการวางแผนไวแลวจะใช going to ไมใช will เชน My bicycle has a flat tyre. I’m going to repair it tomorrow. หรือมีสถานการณในปจจุบันนั้นบอกใหทราบวาจะมีเหตุการณเกิดขึ้นในอนาคตอันใกลอยางแนนอน (the present situation that shows what will happen in the future.) จะใช going to เทาน้ัน ไมใช will Look at those black clouds. It’s going to rain. ในท่ีนี้สถานการณในปจจุบันท่ีบอกก็คือ มีกอนเมฆดําจํานวนมาก ทําใหทราบวาฝนกําลังจะตกในไมชา ใหนักเรียนศึกษาแผนภูมิท่ี 9 เพ่ือสรุปความคิดรวบยอดอีกครั้ง


10. The Future Progressive Tense โครงสรางประโยค : Subject + will / shall + be + V-ing ... Tony will be having breakfast at six thirty tomorrow. We shall be studying English at ten o’clock tomorrow. การนําไปใช : tense นี้มีการใชในลักษณะตอนี้ 1. ใชกับเหตุการณท่ีจะกําลังเกิดขึ้นในอนาคต ตามเวลาที่ระบุไวอยางชัดเจน เชน I’ll be watching the match on television at 8:30 tonight. 2. ใชแสดงเหตุการณท่ีไดตัดสินใจวาจะทําอยางแนนอนโดยมีการวางแผนไวแลววาจะทําในอนาคต เชน I’ll be going to the supermarket. Can I get you anything? 3. ใชแสดงเหตุการณ 2 เหตุการณท่ีจะเกิดขึ้นไมพรอมกันในอนาคต เหตุการณท่ีเกิดขึ้นกอนใช Future Progressive Tense. เหตุการณท่ีเกิดขึ้นหลังใช Present Simple Tense. He will be having dinner when you arrive at his house tonight. ใหนักเรียนศึกษาแผนภูมิท่ี 10 เพ่ือสรุปความคิดรวบยอดอีกครั้ง 11. The Future Perfect Tense โครงสรางประโยค : Subject + will/shall + have + V3 + ... We’ll have finished our game of tennis by six o’clock. การนําไปใช : ใชกับเหตุการณหรือการกระทําซึ่งจะจบลงภายในเวลาที่กําหนดไวในอนาคต เชน I’ll have written my exercise by that time. Before you go to see her, she will have left the office. การใชในลักษณะนี้จะมีขอความแสดงกํากับอยูดวยไดแก by + เวลา เชน by that time by next week by tomorrow by then by eight o’ clock ใหนักเรียนศึกษาแผนภูมิท่ี 11 เพ่ือสรุปความคิดรวบยอดอีกครั้ง 12. The Future Perfect Progressive Tense โครงสรางประโยค : Subject + will / shall + have + been + V-ing + ... By next July we shall have been living here for five years. การนําไปใช : การใช Tense นี้จะเหมือนกับ future perfect tense แต tense นี้จะเนนใหเห็นความตอเนื่องของเหตุการณวาเมื่อถึงเวลานั้นในอนาคตการกระทํานั้นจะยังคงดําเนินตอไปอีก เชน When he gets his degree, he will have been studying at Oxford University for four years. ใหนักเรียนศึกษาแผนภูมิท่ี 12 เพ่ือสรุปความคิดรวบยอดอีกครั้ง


แผนภมูิท่ี 1 สรุปความคิดรวบยอดเกี่ยวกับ Present Simple Tense

RULES

present factsrepeated actions in

the present timetables

KEY WORDS

usually everyday ofteneveryweek

sometimesalways

Subject + 1 stform of verb

Don't forget the "s"with he, she and it.

Statement

FORMS

You work...We work...

They work...

I work...

He works...She works...

It works...

Question Helping verb do/does +subject + 1 st form of verb

Do I work...?

Does he work...?Do they work...?

Does it work...?

Do we work...?

Does she work...?

Do you work...?

Negative Subject + do/does +not + 1 st form of verb

He does not (doesn't) work...

We do not (don't) work...

She does not (doesn't) work...It does not (doesn't) work...

You do not (don't) work...

They do not (don't) work...

I do not (don't) work...

IMAGE

Past

Now

Future

PRES

ENT

SIMPL

E


แผนภมูิท่ี 2 สรุปความคิดรวบยอดเกี่ยวกับการใชรูปกริยา Present Progressive Tense

RULES

KEY WORDS

FORMS

IMAGE

Used for temporaryaction going on now We are having a meeting right now.

The action should beimportant enough to

comment on

The action musthave a beginning

and an end

this weeknow

today

at the momentpresently

Statement

Question

Negative

Subject + presentform of verb "to be"+ -ing form of verb

Present formof helping verb :

"to be" + subject +-ing form of verb

Subject + presentform of verb "to be"+ not + -ing form

of verb

I am working...You are working...

We are working...They are working...He is working...

It is working...She is working...

Am I working...?

Is he working...?Are they working...?

Is it working...?

Are we working...?

Is she working...?

Are you working...?

He is not (isn't) working...

We are not (aren't) working...

She is not (isn't) working...

It is not (isn't) working...

You are not (aren't) working...

They are not (aren't) working...

I am (I'm) not working...

Present Progressive

Past Simple Present Simple Future Simple

PRES

ENT

PROG

RESS

IVE

โปรดทราบ!

ตัวอย่างนี้จะโชว์เฉพาะหน้า 1-20 เท่านั้น หากจะขอดูหนังสือทั้งเล่ม ต้องติดต่อที่

บัณฑิตแนะแนว (โทรศัพท ์02-2794808) หรือ ที่ร้านจําหน่ายหนังสือชั้นนาํทั่วประเทศ

สํานักงานบัณฑิตแนะแนว 1033/4 ถ.พหลโยธิน สามเสนใน พญาไท กทม. 10400

เวลาทํางาน 08.00-17.00 น. Website : www.bunditnaenaew.com ฝ่ายประชาสัมพันธ์ เปิดทุกวนั (จันทร-์อาทิตย์) โทรศัพท ์02-2794808 แฟกซ ์02-6171820

บัณฑิตแนะแนว - 210.1.60.79

Documents

Transcript of บัณฑิตแนะแนว - 210.1.60.79